การเปรียบเทียบสิ่งของ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
สำหรับผู้เรียนทานใดที่กำลังสงสัยเกี่ยวกับวิธีการใช้ประโยคเปรียบเทียบในภาษาอังกฤษ หรือ Comparative ต้องอ่านบทความนี้ให้จบนะคะเราจะแนะนำรายละเอียด A-Z เกี่ยวกับส่วนเนิ้อหานี้ในบทความเดียว เพราะเป็นส่วนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย
ประโยคเปรียบเทียบในภาษาอังกฤษ
ในไวยาการณ์ภาษาอังกฤษประโยคเปรียบเทียบได้เอามาใช้งานบ่อยมาก นอกจากความหมายคือการเปรียบเทียบทั่วไป มันยังมีอีกความหมายหนึ่งคือเมื่อคุณอยากมุงเน้นอะไรในประโยคก็สามารถใช้ประโยคเปรียบเทียบนี้ได้เลยนะคะ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ คือ She is as beautiful as Anna, but you know what, my wife is even more beautiful than Anna.
ดังนั้นเพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารของตัวเองคุณต้องไม่พลาดกับส่วนไวยากรณ์ที่สำคัญคือ Comparative ประโยคเปรียบเทียบที่ประกอบด้วยสามแบบหลักๆ คือ การเปรียบเทียบขั้นปกติ ( Positive Degree) การเปรียบเทียบขั้นกว่า ( Comparative Degree) และ การเปรียบเทียบขั้นสูงสุด ( Superlative Degree)
- การเปรียบเทียบขั้นปกติ ( Positive Degree ) ใช้เปรียบเทียบความเท่าเทียมกัน ไม่เท่าเทียมกัน เช่น long, short, small , big , fast, slow เป็นต้น
- การเปรียบเทียบขั้นกว่า ( Comparative Degree ) ใช้เปรียบเทียบกับนาม 2 จำนวน เช่น longer, shorter, smaller, bigger , faster, slower เป็นต้น
- การเปรียบเทียบขั้นสูงสุด ( Superlative Degree ) ใช้เปรียบเทียบกับนามที่มีจำนวนตั้งแต่ 3 ขึ้นไป เช่น longest, shortest, smallest, biggest เป็นต้น
ไม่ว่าจะเป็นการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อพูดหรือเขียน เราก็มักจะได้เปรียบเทียบระหว่าง 2 สิ่งอยู่บ่อยๆ เพื่อทำให้ผู้ที่เราสื่อสารด้วยเห็นภาพในสิ่งที่เราพูดอย่างชัดเจน ดังนั้นวันนี้ English Breaking จะแนะนำให้คุณ A-Z เกี่ยวกับ Comparative พร้อมตัวอย่างประโยค และแบบฝึกหัดที่ดี ดังนี้
1 – การเปรียบเทียบขั้นปกติ (Positive Degree) ในภาษาอังกฤษ
การเปรียบเทียบขั้นปกติ (Positive Degree) ในภาษาอังกฤษมีโครงสร้างแบบนี้
S + V + as + (adj/ adv) + as
รูปแบบ as+ คุณศัพท์ขั้นปกติ (positive degree) + as แสดงความ เท่าเทียมกัน ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจนดังนี้
- I’m as good in Maths as in science. แปลว่า ฉันเก่งคณิตศาสตร์พอ ๆ กับวิทยาศาสตร์
- Harry sings as beautifully as a singer. แปลว่า แฮร์รี่ร้องเพลงได้ไพเราะกับนักร้อง
- Her car runs as fast as a race car. แปลว่า รถของเธอวิ่งเร็วเหมือนรถแข่ง
- This picture is as colorful as the one I have ever seen. แปลว่า ภาพนี้มีสีสันสดใสที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็น
- This pencil is as long as that one. แปลว่า ดินสอแท่งนี้ยาวเท่าๆกับแท่งนั้น
นอกจากนั้นคุณอาจจะเจอการเปรียบเทียบขั้นปกติอยู่หลายรูปแบบ มีตัวเชื่อมหลายรูปแบบดังต่อไปนี้
รูปแบบ as + much หรือ many + นาม + as แสดงความเท่าเทียมกัน
เช่น
– I have as much money as you. แปลว่า ฉันมีเงินมากเท่าๆกับคุณ
– I have as many books as you. แปลว่า ฉันมีหนังสือมากเท่าๆกับคุณ
รูปแบบ the same +นาม + as แสดงความเท่าเทียมกัน
เช่น
– Malee is the same age as Ladda. แปลว่า มาลีมีอายุเท่ากับลัดดา
แต่ถ้าประธานเป็นพหูพจน์ ให้ตัด as แปลว่า ออกได้เลย เช่น
– Malee and Ladda are the same age. แปลว่า มาลีและลัดดาอายุเท่ากัน
รูปแบบ Verb to be + like แปลว่าเหมือนกัน เป็นคำเชื่อมแสดงความเท่าเทียมกัน
แต่ถ้าประธานเป็น พหูพจน์ ให้ใช้ verb to be + alike
เช่น
– She is like her father. แปลว่า เธอเหมือนกับพ่อของเธอ
– Your car and mine are alike. แปลว่า รถยนต์ของคุณและของฉันเหมือนกัน
รูปแบบ verb to be + similar to + นาม, แปลว่า เหมือนกัน คล้ายกัน เป็นคำเชื่อมแสดงความเท่าเทียมกัน
เช่น
– Your bag is similar to mine. แปลว่า ถุงของเธอคล้ายกับถุงของฉัน
ถ้าในกรณีต้องการเปรียบเทียบความไม่เท่ากันมีรูปแบบดังนี้
not so + คุณศัพท์ขั้นปกติ + as หรือ not as + คุณศัพท์ขั้นปกติ + as
เช่น
– This road is not so long as that one. แปลว่า ถนนเส้นนี้ไม่ยาวเท่าเส้นนั้น หรือ
not as + much/many + นาม + as
เช่น
– I don’t have so much money as you. แปลว่า ฉันไม่มีเงินมากเท่าคุณ หรือ.
2 – การเปรียบเทียบขั้นกว่า (Comparative Degree)
เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นความมากกว่าหรือน้อยกว่าของ 2 สิ่ง ไม่ว่าจะเป็นในแง่ใดก็ตาม โดยมีโครงสร้างประโยคแบบง่ายๆ
ในการเปรียบเทียบแบบมากกว่าคือ การเปรียบเทียบที่สูงกว่า แสดงในรูป คุณศัพท์ขั้นกว่า + than
S + V + (Adj/Adv) + “-er” + than
เช่น
- Jennie’s grades are higher than her sister’s. แปลว่า ผลการเรียนของเจนนี่สูงกว่าน้องสาวของเธอ
- Today is colder than yesterday.แปลว่า วันนี้อากาศหนาวกว่าเมื่อวาน
- My girlfriend came later than me. แปลว่า แฟนของฉันมาช้ากว่าฉัน
- Lindy is shorter than her younger sister. แปลว่า ลินดี้เตี้ยกว่าน้องสาว
- My ruler is longer than yours. แปลว่า ไม้บรรทัดของฉันยาวกว่าของคุณ
- This road is longer than that one. แปลว่า ถนนเส้นนี้ยาวกว่าเส้นนั้น แปลว่า
- You are taller than me. หรือ You are taller than I am. แปลว่า เธอสูงกว่าฉัน
การเปรียบเทียบที่ต่ำกว่ากัน แสดงในรูป less + positive degree + than
เราจะใช้ ‘less’ เพื่อพูดถึงบางสิ่งหรือบางอย่างที่อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า
เช่น
- Walking is less tiring than running. แปลว่า การเดินเหนื่อยน้อยกว่าการวิ่ง
- Australia is less populated than China. แปลว่า ออสเตรเลียมีประชากรน้อยกว่าจีน
- Hamburgers are less healthy than vegetables.แปลว่า แฮมเบอร์เกอร์มีประโยชน์ต่อร่างกายน้อยกว่าผัก
- Malee is less careful than Somchai. แปลว่า มาลีเป็นคนที่รอบคอบน้อยกว่าสมชาย
- It is less hot today than it was yesterday. แปลว่า วันนี้อากาศร้อนกว่าเมื่อวานนี้
เมื่อนำคุณศัพท์ขั้นกว่ามาใช้เปรียบเทียบกับคำนาม ( noun ) ด้วยกัน ให้ใช้รูปแบบดังนี้
- fewer + นามพหูพจน์นับได้ + than = น้อยกว่า
- less + นามนับไม่ได้ + than = น้อยกว่า
- more + นามพหูพจน์นับได้, นามนับไม่ได้ + than = มากกว่า เช่น
เช่น
- There are fewer students in this room than in that room. แปลว่า มีนักเรียนในห้องนี้น้อยกว่าในห้องนั้น
- I spent less money than you. แปลว่า ฉันใช้จ่ายเงินน้อยกว่าคุณ
- There are more students in this room than in that room. แปลว่า มีนักเรียนในห้องนี้ มากกว่าในห้องนั้น
- My mother have more money than my father. แปลว่า แม่ของฉันมีเงินมากกว่าพ่อ
3 – การเปรียบเทียบขั้นสูงสุด (Superlative Degree)
การเปรียบเทียบขั้นสูงสุด ( Superlative Degree ) รูปแบบมีดังนี้ the + คุณศัพท์ขั้นสูงสุด + นาม
S + V + the + Adj/Adv + -est
เราจะสามารถใช้การเปรีบเทียบขั้นสูงกว่าในกรณีเปรียบเทียบสิ่งของตั้งแต่ 3 สิ่งขึ้นไป หรือในหมวดหมู่เดียวกันทั้งหมด ว่าสิ่งนั้นดีหรือมากที่สุดแล้ว มีโครงสร้างประโยคง่ายๆ วิธีการเปรียบเทียบ คือ เติม est หลังคำ adjective หรือ คำ adverb ขั้นธรรมดา เช่น และเติม most หน้าคำ adjective หรือ คำ adverb ขั้นธรรมดา
เช่น
- My brother is the tallest in our family. แปลว่า พี่ชายของฉันสูงที่สุดในครอบครัวของเรา
- Sunday is the coldest day of the month so far.แปลว่า วันอาทิตย์เป็นวันที่หนาวที่สุดในรอบเดือน
- He runs the fastest in my city.แปลว่า เขาวิ่งเร็วที่สุดในเมืองของฉัน
- Linda is the youngest person in my office. แปลว่า ลินดาเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดในสำนักงานของฉัน
- My house is the highest one in my neighborhood.แปลว่า บ้านของฉันเป็นบ้านที่สูงที่สุดในละแวกของฉัน
- What is the longest river in the world? แปลว่า แม่น้ำอะไรยาวที่สุดในโลก
- My eldest son is 16 years old. แปลว่า ลูกชายคนโตของฉันอายุ 16 ปี
- Jane is my best friend. แปลว่า เจนเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน
หมายเหตุ: ถ้ามี possessive adjective อยู่หน้าคุณศัพท์ขั้นสูงสุดแล้ว ไม่ต้องใช้ the
S + V + the + most + Adj/Adv
เช่น
- Lisa is the most careful person I ever have known. แปลว่า ลิซ่าเป็นคนที่ระวังตัวมากที่สุดเท่าที่ฉันเคยรู้จัก
- Of all the students, she does the most quickly. แปลว่า ในบรรดานักเรียนทั้งหมดเธอทำได้เร็วที่สุด
- This is the most difficult case we have ever encountered. แปลว่า นี่เป็นกรณีที่ยากที่สุดที่เราเคยพบมา
- Linda is the most intelligent student in my class.แปลว่า ลินดาเป็นนักเรียนที่ฉลาดที่สุดในชั้นเรียนของฉัน
หมายเหตุ: สามารถเติม “very” ก่อนประเด็นที่คุณจะเอาเปรียบเทียบเพื่อเน้นความแตกต่างหรือความโดดเด่น
เช่นในประโยค
- Here is the very latest news about the accident แปลว่า นี่คือข่าวล่าสุดเกี่ยวกับอุบัติเหตุ
> เราใช้คำว่า very latest เพื่อเน้นความฮิตของข่าวนั้น
หลักการสร้างคำ adjective และคำ adverb ขั้นกว่าและขั้นสุด
4.1 – คำพยางค์เดียว ลงท้ายด้วยพยัญชนะ 2 ตัว หรือลงท้ายด้วยพยัญชนะตัวเดียวมีสระ 2 ตัว ให้เติม er และ est ได้ เช่น
คำศัพท์ภาษาอังกฤษเพิ่ม -erเพิ่ม -est ความหมายsoft softersoftest นุ่มlonglonger longest ยาวdeep deeper deepest ลึกclear clearer clearest ชัดเจน , แจ่มใสfair fairer fairest ยุติธรรมgreat greater greatest ยิ่งใหญ่sweet sweeter sweetest หวานquick quickerquickest เร็ว
4.2 – คำพยางค์เดียว มีสระเดียว มีตัวสะกดเดียว ให้เพิ่มตัวสะกดอีกตัวก่อนเติม er และ est เช่น
คำศัพท์ภาษาอังกฤษเพิ่ม -erเพิ่ม -est ความหมายwetwetterwettestเปียกthinthinnerthinnestผอมfatfatterfattestอ้วนbigbiggerbiggestใหญ่hothotterhottestร้อน
4.3 – คำ adjective หรือ adverb ที่ลงท้าย e ให้เติม r หรือ est ในขั้นกว่าและขั้นสุดตามลำดับ เช่น
คำศัพท์ภาษาอังกฤษเพิ่ม -erเพิ่ม -est ความหมายwisewiserwisestฉลาดLargeLargerLargestใหญ่ กว้างbravebraverbravestกล้าหาญsafesafersafestปลอดภัย
4.4 – คำ adjective หรือ adverb ที่ลงท้ายด้วย y และหน้า y เป็นพยัญชนะ เปลี่ยน y เป็น I และเติม er หรือ est เช่น
คำศัพท์ภาษาอังกฤษเพิ่ม -erเพิ่ม -est ความหมายdrydrierdriestแห้งgreygreyergreyestสีเทา
4.5 – คำสองพยางค์ที่ลงท้ายด้วย er , le และ ow ให้เติม er และ est เช่น
คำศัพท์ภาษาอังกฤษเพิ่ม -erเพิ่ม -est ความหมายclevercleverercleverestฉลาดshallowshallowershallowestตื้นNarowNarowerNarrowestแคบbitterbiitererbitterestขมขื่น
4.6 – คำสองพยางค์ ลงเสียงหนัก (stressed) พยางค์หลังให้เติม er และ est เช่น
คำศัพท์ภาษาอังกฤษเพิ่ม -erเพิ่ม -est ความหมายpolitepoliterpolitestสุภาพprettyprettierprettiestสวย
sincere
sincerersincerestจริงใจ
4.7 – คำบางคำใช้ได้ทั้ง 2 แบบ คือ เติม er , est หรือ more , most
คำศัพท์ภาษาอังกฤษเพิ่ม -erเพิ่ม -est ความหมายquietquieterquietestเงียบ More quietMost quiet Cheerfulcheerfulercheerfulestร่าเริง More cheerfulMost cheerful
4.8 – คำที่ต้องเติม more most คือ คำมากกว่า 2 พยางค์ หรือคำสองพยางค์ที่ลงเสียงหนัก (stressed) พยางค์แรก
คำศัพท์ภาษาอังกฤษเพิ่ม -erเพิ่ม -est ความหมายhopefulMore hopefulMost hopefulมีความหวังlearnedMore learnedMost learned คงแก่เรียนCharmingMore charmingMost charmingมีเสน่ห์
4.9 – คำที่เปลี่ยนรูป
คำศัพท์ภาษาอังกฤษเพิ่ม -erเพิ่ม -est ความหมายGood (well)BetterbestดีBad (badly)worseworstเลวMuch (many)Moremostมากlittlelessleastน้อยfarFarther (further)Farthest (furthest)ไกล
5 – วิธีเปลี่ยน Adjective ให้เป็น Comparative Adjective
เมื่อคุณอยากเปลี่ยนนำคำคุณศัพท์ (adj.) มาเปลี่ยนให้เป็นคำคุณศัพท์เปรียบเทียบขั้นกว่า (comparative adj.) คุณควรจดไว้หลักการเปลี่ยนใช้ได้ในสามกรณีดังต่อไปนี้
กรณีที่1. adj. + -er
ที่มักจะเจอบ่อยก็คือคำคุณศัพท์ที่มีความยาว 1-2 พยางค์ เช่น bigger (ใหญ่กว่า), smaller (เล็กกว่า) เป็นต้น ส่วนถ้าคำคุณศัพท์ลงท้ายด้วย y จะต้องตัด y ออกแล้วเติม -er เข้าไป ตัวอย่างเช่น easy => easier (ง่ายกว่า)
กรณีที่ 2. more + adj.
เมื่อคุณใช้คำคุณศัพท์ที่มีความยาว 3 พยางย์ขึ้นไป เช่น more beautiful (สวยกว่าmore difficult (ยากกว่า) เป็นต้น แต่ในบ้างกรณีก็อาจจะเจอคำคุณศัพท์ที่ยาวไม่ถึง 3 พยางค์เหมือนกัน เช่น more honest (ซื่อสัตย์กว่า), more handsome (หล่อเหลากว่า) เป็นต้น
6 – การเปลี่ยน Adjective เป็น Superlative Adjective
ก็ไม่ยากสำหรับหลักการเปลี่ยนจาก Adjective เป็น Superlative Adjective จะมีสามกรณีหลักๆ ดังนี้
กรณีที่ 1. the + adj. + -est
ใช้กับคำคุณศัพท์ที่มีความยาว 1-2 พยางค์ เช่น the greatest (ยิ่งใหญ่ที่สุด), the tallest (สูงที่สุด) เป็นต้น หากในกรณีคำคุณศัพท์ลงท้ายด้วย y จะต้องตัด y ออกแล้วเติม -est เข้าไป อย่างเช่น pretty => the prettiest (น่ารัก เป็นต้น
กรณีที่ 2. the + most + adj.
ใช้กับคำคุณศัพท์ที่มีความยาว 3 พยางย์ขึ้นไป เช่น the most expensive (แพงที่สุด), the most important (สำคัญที่สุด) เป็นต้น แต่บางที่เราก็จะเจอคำคุณศัพท์ที่ยาวไม่ถึง 3 พยางค์เหมือนกัน เช่น the most honest (ซื่อสัตย์ที่สุด), the most handsome (หล่อเหลาที่สุด) เป็นต้น
กรณีที่ 3. เปลี่ยนรูปแบบพิเศษ
กรณีที่สามคือพิเศษที่สุดเพราะจะมีการเปลี่ยนรูปไปโดยสิ้นเชิง ซึ่งต้องอาศัยวิธีการท่องจำ เพื่อเห็นภาพง่ายเราดูตัวอย่างคำนี้นะคะ good => the best (ดีที่สุด), bad => the worst (แย่ที่สุด) เป็นต้น
7 – แบบฝึกหัสเกี่ยวกับ Comparative
เพื่อได้รับความรู้เกี่ยวกับ Comparative แล้วเราลองมาทำแบบฝึกหัสกันดูว่า เราเข้าใจมากน้อยขนาดไหนนะคะ พร้อมแล้วลองเลยค่ะ อย่าพึ่งดูเฉลยนะคะ หลังจากที่คุณมีคำตอบของตัวเองแล้วสามารถเทียบกับข้อเฉลยท้ายบทนะคะ
แบบฝึกหัสที่ 1: เลือกคำศัพท์ที่ถูกต้องเพื่อทำให้ประโยคสมบูรณ์และเข้าใจง่ายที่สุด
1. Mom’s watch is … than mine. (expensive)
2. She lives in a really … villa. (beautiful)
3. She is the … tennis player of Australia. (good)
4. This luggage is … than mine. (heavy)
5. He runs … than his sister. (fast)
6. Layla is … than Henry but Sophia is the … (tall/tall)
7. Kai reads … books than Daniel but Tom reads the … (many/many)
8. France is as … as London. (beautiful)
9. My brother is three years … than me. (young)
10. This was the … movie I have ever seen. (bad)
11. I speak France … now than two years ago. (fluent)
12. Could you write…? (clear)
13. Cameroon can run … than John. (fast)
14. Our team played … of all. (bad)
15. He worked … than ever before. (hard)
เฉลย
1. more expensive
2. beautiful
3. best
4. heavier
5. faster
6. taller/tallest
7. more/most
8. beautiful9. younger
10. worst
11. more fluently
12. more clearly
13. faster
14. worst
15. harder
แบบฝึกหัสที่ 2: เรียงประโยคเปีรยบเทียบให้ถูกต้อง
1. Julia/ tall/ her friend.
2. A banana/ not sweet/ an apple.
3. A fish/ not big/ a elephant.
4. This dress/ pretty/ that one.
5. the weather/ not hot/ yesterday’s.
6. A rose/ beautiful/ a weed.
7. A cat/ intelligent/ a chicken.
8. Hung/ friendly/ Minh.
เฉลย
1. Julia is as tall as her friend. แปลว่า จูเลียสูงเท่ากับเพื่อนของเธอ
2. A banana is not as sweet as an apple. แปลว่า กล้วยไม่หวานเหมือนแอปเปิ้ล
3. A fish is not as big as a elephant. แปลว่า ปลาตัวไม่ใหญ่เท่าช้าง
4. This dress is as pretty as that one. แปลว่า ชุดนี้สวยพอ ๆ กับชุดนั้น
5. The weather is not as hot as yesterday’s. แปลว่า อากาศไม่ร้อนอบอ้าวเหมือนเมื่อวาน
6. A rose is more beautiful than a weed. แปลว่า กุหลาบสวยกว่าวัชพืช
7. A cat is more intelligent than a chicken. แปลว่า แมวฉลาดกว่าไก่
8. Hung is more friendly than Minh. แปลว่า ฮุงเป็นมิตรกว่ามิน
ห์ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะ
สำหรับประโยคเปรียบเทียบในภาษาอังกฤษ Comparative จำได้สามประเภทของ Comparative คือ การเปรียบเทียบขั้นปกติ (Positive Degree) การเปรียบเทียบขั้นกว่า (Comparative Degree) และ การเปรียบเทียบขั้นสูงสุด (Superlative Degree) เพียงแค่นี้เราก็สามารถใช้ภาษาอังกฤษเพื่อเปรียบเทียบสิ่งต่างๆ
ได้อย่างง่ายดายแล้ว อย่าลืมติดตาม English Breaking ของเราเพื่อแชร์ความรู้ดีๆ และประสบการณ์ในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษกันนะคะ
[Update] วิธีเปรียบเทียบข้อมูล 2 ตาราง ว่ามีรายการไหนตรงกัน ไม่ตรงกัน? | การเปรียบเทียบสิ่งของ – NATAVIGUIDES
สำหรับเรื่องการเปรียบเทียบข้อมูล 2 ตารางนี้ เป็นอีกเรื่องที่มีคนถามมาเยอะ แต่ในความเป็นจริงหลักการไม่มีอะไรไปกว่าการใช้สูตรกลุ่มพวก lookup ในการตรวจสอบแค่นั้นเอง
และเพื่อให้มันเจ๋งยิ่งขึ้น ผมจะแสดงวิธีที่ 2 วิธีเลยละกัน นั่นคือ 1. ใช้สูตร 2. ใช้ Power Query
ก่อนอื่น สมมติว่าผมมีข้อมูลดังนี้
วิธีการใช้สูตรในการเปรียบเทียบข้อมูล
Q1: คนไหนมีชื่ออยู่ทั้ง 2 ตาราง?
หากเราอยากรู้ว่าคนไหนบ้างที่มีชื่ออยู่ใน 2 ตาราง เราจะทำยังไง?
แนวคิดในการเปรียบเทียบข้อมูลก็คือ เราจะหาชื่อในตาราง Math ทีละตัว โดยเอาแต่ละตัววิ่งหาในตาราง Excel ว่าเจอรึเปล่า? ถ้ามันเจอ ก็แปลงว่าตัวนั้นอยู่ทั้ง 2 ตาราง จริงมะ?
ดังนั้นเราจะเขียนสูตรใน D4 เพื่อเอาคะแนนในอีกตารางได้ว่า
=VLOOKUP(B4,G:H,2,FALSE)
ปล. สูตรข้างบนเป็นฉบับคนขี้เกียจ ซึ่งเลือกทั้งคอลัมน์เลย เพื่อนๆ อาจเลือกเฉพาะที่มีข้อมูลก็ได้นะครับ แต่ต้องกดปุ่ม F4 เพื่อ lock table_array ให้อยู่กับที่ด้วยนะ
หาเราอยากให้นับเป็น 0 กับ 1 ว่าเจอหรือไม่? ก็ใช้พวก ISERROR มาดักก็ได้ ถ้าไม่เจอมันจะ Error ก็คือ 0 ถ้าไม่ Error ก็คือ 1 ดังนั้นผมใส่สูตรใน E4 ว่า
=--NOT(ISERROR(D4))
โดยที่ — คือการแปลงค่า TRUE/FALSE ให้เป็น 1 กับ 0 นั่นเอง (จะใช้วิธี *1 ก็ได้)
จริงๆ แค่นี้ก็จบเลย เราไม่จำเป็นต้องไปทำที่อีกตารางนึงแล้ว เพราะคำตอบก็จะเหมือนกัน แต่ถ้าทำก็สามารถใส่สูตรใน I4 เป็นดังนี้
=--NOT(ISERROR(MATCH(G4,B:B,0)))
คราวนี้ผมลองใช้ฟังก์ชัน MATCH บ้าง และรวบสูตรทีเดียวเลย เพราะ MATCH จะทำได้แค่หาเจอรึเปล่า? เอาคะแนนกลับมาไม่ได้ ยกเว้นจะใช้ INDEX ช่วย
สรุปแล้วตัวที่เจอในทั้ง 2 ตาราง ก็คือ B,E,I นั่นเอง (จะทำฝั่งไหนก็คำตอบเหมือนกัน)
ถ้าอยากได้แต่รายการที่เจอทั้งคู่ ก็ใช้วิธี Filter เอาเลข 1 ออกมาจะง่ายที่สุด
ถ้าจะเขียนสูตรก็จะยากกว่ามาก เช่น ใน B17 เขียนว่า
=SMALL(IF(E:E=1,ROW(E:E)),A17) แล้วกด Ctrl+Shift+Enter
เพื่อใช้ว่าแถวที่เจอ Excel =1 อยู่แถวไหนบ้าง เป็นลำดับ 1,2,3…
จากนั้นค่อยใช้ INDEX ถึงค่าที่ต้องการกลับมา เช่น C17 เขียนว่า
=INDEX(B:B,B17)
ซึ่งบางคนยังไม่มีพื้นฐานการเขียนสูตรที่ดีพอ หากให้อธิบายโดยละเอียดคงต้องไว้บทความอื่นๆ
ดังนั้นในบทความนี้ผมจะยังไม่ใช้วิธีเขียนสูตรในการแสดงเฉพาะผลลัพธ์ที่อยากได้นะครับ เพราะมันยากเกินไป ต้องอธิบายหลายเรื่องเลย เช่น Array Formula กว่าจะเข้าใจได้ (แต่เดี๋ยวเราจะแสดงวิธี Power Query ซึ่งเข้าใจง่ายกับคนทั่วไปมากกว่า)
Q2: คนไหนบ้างมีชื่อในตาราง Math แต่ไม่อยู่ใน Excel
อันนี้ก็ง่ายมากเพราะว่าเราก็แค่ไปที่ตาราง Math แล้ว Filter เลือกตัวที่เจอExcel เป็น 0 แค่นั้นเอง
Q3: คนไหนบ้างมีชื่อในตาราง Excel แต่ไม่อยู่ใน Math
อันนี้ก็ง่ายมากเพราะว่าเราก็แค่ไปที่ตาราง Excel แล้ว Filter เลือกตัวที่เจอMath เป็น 0 แค่นั้นเอง
Q4: คนไหนบ้างที่มีชื่อในตารางใดตารางหนึ่ง แต่ไม่ได้อยู่ทั้งสองตาราง
อันนี้เราก็สามารถ Copy ข้อมูลที่ Filter แล้วใน Q3 กับ Q4 มาต่อกันเท่านั้นเอง (ไม่ต้อง REmove Duplicates ด้วย เพราะชื่อก็จะไม่ซ้ำกันอยู่แล้ว จริงมะ?)
ปัญหาของการที่ต้อง Manual Copy
จะเห็นว่าวิธีการใช้สูตร Lookup หาผลลัพธ์ หากอยากจะคัดกรองให้เหลือแค่สิ่งที่ต้องการ ก็ต้องมานั่ง Filter ข้อมูลแล้ว Copy Paste ออกมาซะก่อน ซึ่งวิธีนี้อาจจะเหมาะกับการทำงาน Adhoc ครั้งเดียวจบ
แต่ถ้าเป็นงานที่ต้องทำแบบนี้ประจำๆ แบบงาน Routine การที่ต้องมานั่ง Filter Copy Paste ใหม่ทุกครั้ง ก็จะเสียเวลาและมีโอกาสผิดพลาดเกิดขึ้นมาได้
ดังนั้นเดี๋ยวผมจะแสดงวิธีการใช้ Power Query จัดการเรื่องนี้ ซึ่งเราจะไม่ต้องมานั่ง Copy Paste ข้อมูลอีกต่อไป และก็ไม่เข้าใจยากเท่ากับการเขียนสูตรด้วย (แต่จะมีขั้นตอนในการกดปุ่มเยอะ ถ้ายังไม่คุ้นอาจจะรู้สึกว่ามันเยอะ แต่ตอนทำจริงมันเร็วนะ)
วิธีการใช้ Power Query ในการเปรียบเทียบข้อมูล
ก่อนอื่น ผมขอแปลงข้อมูลของเราเป็น Table ก่อน เพื่อความสะดวกในหลายๆ อย่าง (ถ้าจะไม่แปลงก็ต้องตั้งชื่อให้กับ Range ก่อนเอาเข้า Power Query คล้ายๆ แบบนี้)
โดยผมตั้งชื่อเป็น tblMath กับ tblExcel (ตั้งชื่อที่ละตารางนะ)
จากนั้นก็เอาแต่ละตารางเข้า PowerQuery
จากนั้นกด Close & Load to…
เลือกแบบ Connection Only เพื่อให้อ้างอิงข้อมูลตารางนั้นๆได้ โดยที่ยังไม่เอาผลลัพธ์ออกมาจริงๆ
ทำให้ครบทั้งสองตาราง จะมี List ของ Query ที่ทำไว้อยู่ด้านขวา
คราวนี้เราจะเริ่มทำผลลัพธ์แล้วล่ะ
Q1: คนไหนมีชื่ออยู่ทั้ง 2 ตาราง?
คลิ๊กขวาที่ Query tblMath แล้วเลือก Merge
จากนั้นเลือกว่าจะ Merge กับ tblExcel โดยให้เลือกคอลัมน์ที่เป็นตัวเชื่อมด้วย นั่นก็คือ ชื่อ
โดยให้เลือกวิธี Join Kind (วิธีการ Join) ซึ่งถ้าเป็น Version ใหม่ๆ ที่อัปเดทแล้วจะมีวิธีการ Join เยอะแยะเลย และตัวที่เราจะใช้คือ Inner Join ซึ่งแปลว่าต้องเจอในทั้ง 2 ตาราง (ถ้าใครเป็น version เก่า ไม่มี Dropdown ให้เลือก น่าจะมีให้ติ๊ก only matching row ก็ติ๊กไปครับ)
ผลลัพธ์จะออกมาเป็นคำว่า Table ก่อน ซึ่งเราสามารถกด Expand เอาค่าข้างในออกมาก็ได้ แต่ไม่จำเป็น เพราะจริงๆ เราได้รายการที่เจอทั้ง 2 ตารางแล้ว
เราสามารถลบคอลัมน์อื่น ให้เหลือแค่ชื่ออย่างเดียวก็จบเลย
แต่ถ้าอยากได้คะแนน Excel ออกมาด้วย ก็กดปุ่ม Expand มุมขวาบน แล้วเลือกว่าจะเอาคอลัมน์อะไรจากอีกตารางบ้าง?
พอ ok ก็จะได้ผลลัพธ์เลย
จากนั้นเราตั้งชื่อ Query ด้านขวานิดนึงเพื่อความเรียบร้อย
แล้วกด Close & Load to… ออกมาเป็น Table ในตำแหน่งที่ต้องการได้
พอกด ok ก็จะได้ผลัพธ์เลย
อันนี้จริงๆ ดูเหมือนมีหลาย Step แต่พอกดในการทำงานจริงมันจะเร็วมากนะครับ ต้องลองๆ
Q2: คนไหนบ้างมีชื่อในตาราง Math แต่ไม่อยู่ใน Excel
อันนี้เราทำเหมือน Q1 เลย แต่ว่าเปลี่ยนการ JoinKind ตอน Merge เป็น Left Anti Join ซึ่งแปลว่ามีในตารางแรก แต่ไม่มีในตารางที่สอง
ถ้าใครไม่มี Left Anti ให้เลือก สามารถแก้สูตรจาก Query ใน Q1 จาก JoinKind.Inner ให้เป็น JoinKind.LeftAnti ได้เลย จะได้ผลเหมือนกัน (ตัวพิมพ์เล็กพิมพ์ใหญ่ให้เป๊ะนะ)
ปล. ใน Power Query Editor ของใครไม่มีช่อง Formula bar ขึ้นมาให้ไปติ๊กใน View -> Formula Bar
ซึ่งข้อนี้ผมตั้งชื่อ Query ว่า Q2-OnlyinMath
Q3: คนไหนบ้างมีชื่อในตาราง Excel แต่ไม่อยู่ใน Math
อันนี้ทำได้ 2 แบบ คือ เราทำเหมือน Q2 เลย แต่ให้คลิ๊กขวา Merge ที่ตาราง tblExcel เพื่อให้ tblExcel เป็นตารางหลักแทน
หรือจะทำแบบ Q2 แล้วให้ tblMath เป็นตารางหลักเหมือนเดิม แล้วเปลี่ยน JoinKind เป็น Right Anti ซึ่งแปลว่ามีในตารางที่สองแต่ไม่มีในตารางแรก
ซึ่งเดี๋ยวผมจะแสดงวิธีหลังให้ดู จะได้เห็นตัวอย่างเยอะๆ หลายๆ แบบ
ตอนแรกมันจะขึ้น null เพราะไม่มีในตาราง Math ไง
ให้เราลบคอลัมน์ชื่อกับคะแนนทิ้งไป เพราะไม่ใช้
จากนั้นกด expand table ออกมาให้หมด แต่คราวนี้เราไม่เอาชื่อตารางเป็น prefixแล้ว
จะได้ผลลัพธ์แบบนี้
ซึ่งข้อนี้ผมตั้งชื่อ Query ว่า Q3-OnlyinExcel
Q4: คนไหนบ้างที่มีชื่อในตารางใดตารางหนึ่ง แต่ไม่ได้อยู่ทั้งสองตาราง
ข้อนี้จริงๆ แล้วเราสามารถเอา Q2 กับ Q3 มาต่อตูดกันได้เลย (เรียกว่า Append)
โดยที่คลิ๊กขวาที่ Q2-OnlyinMath แล้วเลือก Append
แล้วก็เลือกว่า Append กับ Q3-OnlyinExcel
จากนั้นเราก็ได้ผลลัพมาเลย!
แต่ถ้าเราอยากบอกด้วยว่าแต่ละบรรทัดมาจากตารางไหน ผมแนะนำให้ไปเพิ่มชื่อตารางเป็นอีกคอลัมน์นึงใน Q2-OnlyinMath และ Q3-OnlyinExcel ซะก่อน ดังนี้
กลับเข้าไป Edit ใน Q2-OnlyinMath ดังนี้ แล้วกด Close & Load
ทำแบบเดียวกันกับ Q3-OnlyinExcel แล้วกด Close & Load
จากนั้นกลับมา Append อีกทีนึง ก็จะมีคอลัมน์ SourceTable โผล่มาละ
และนี่ก็คือภาพรวมผลลัพธ์ทั้งหมด
ข้อมูลเปลี่ยนก็กด Refresh ได้เลย
ซึ่งความดีงามของ Power Query ก็คือ ถ้าข้อมูลต้นทางเปลี่ยนไป เราจะ Refresh ได้เลย
เช่น ผมไปเพิ่ม N 88 ในตารางแรก
แค่ผมไปที่ Data -> Refresh All เท่านั้นจบเลย
Tips : ถ้าคลิ๊กขวา Refresh ที่ตารางผลลัพธ์ มันจะแก้แค่ตารางนั้นอันเดียว ถ้าจะแก้ทุกอันพร้อมกันให้กด Refresh All แบบนี้แหละ
ผลลัพธ์ทุกตารางจะเปลี่ยนไปทันที
เรียงผลลัพธ์ให้สวยงาม
สังเกตว่าตาราง Q4 ยังไม่ได้กด Sort ตามชื่อ (Append มันจะยังไม่ sort) ถ้าจะ sort ก็เข้าไปแก้ใน Q4 แล้วกด Sort ก็จบเลย
พอกด close & load ผลของ Q4 ก็จะมีการเรียงตามชื่อเลย จบ
แถม Q5 : List รายชื่อทั้งหมดเลย แล้วแสดงคะแนนของแต่ละวิชา
หากต้องการ List รายชื่อทั้งหมดจากทั้ง 2 ตาราง เราสามารถทำได้ 2 แบบ คือ
- ใช้การ Merge แบบ Full Outer Join
- Append ข้อมูลก่อนใช้ Left Join 2 ที
Q5.1 : ใช้การ Merge แบบ Full Outer Join
โดยคลิ๊กขวาที่ tblMath แล้วเลือก Merge แบบ Full Outer Join
จะได้ผลลัพธ์ดังนี้
จากนั้นกด Expand ออกมาแบบเอาทุกอย่างเลย
จะได้ผลลัพธ์แบบนี้ ซึ่งจะได้ทุกแถวของทั้ง 2 ตารางมาเลย
จากนั้นเราจะสร้างคอลัมน์ใหม่ โดยเลือกอะไรก็ได้คอลัมน์เดียวก่อน แล้วไปที่แถบ Add Column-> Conditional Column โดยเอาชื่อมารวมกันดังนี้ (ถ้าช่องนั้นว่างให้เอาอีกช่อง ไม่งั้นก็เอาช่องเดิม)
ปล. ใครที่ไม่มี Conditional Column ให้ Add Custom Column แล้วใส่สูตร if เอาเองว่า
if [ชื่อ] = null then [tblExcel.ชื่อ] else [ชื่อ]
จะได้ผลัพธ์แบบนี้เหมือนกัน
จากคลิ๊กคอลัมน์ ชื่อCombine กด Ctrl ค้างไว้แล้วคลิ๊ก คะแนน กับ tblExcel.คะแนน แล้วกดคลิ๊กขวา Remove Other Column
จะได้ผลัพธ์เหลือเฉพาะตัวที่ต้องการเลย
จากนั้น จะ sort หรือเปลี่ยนชื่อคอลัมน์อะไรก็ตามใจนะ เช่น
Q5.1 : Append ข้อมูลก่อนใช้ Left Join 2 ที
อีกวิธีนึงคือเราเอา tblMath กับ Excel Append กันก่อน
จะได้แบบนี้ ซึ่งให้เราลบคอลัมน์คะแนนออกไปก่อน
จากนั้นกด Home -> Remove Rows -> Remove Duplicates เพื่อกำจัดตัวซ้ำ
จากนั้น Merge กับตารางคะแนนแต่ละอันแบบ Left Outer (ยึดฝั่งซ้าย หรือฝั่งบนเป็นหลัก)
อันนี้ Merge กับ tblExcel ก่อน (อะไรก่อนก็ได้)
ต่อไป Merge กับ tblMath
จะได้แบบนี้
จากนั้นกด Expand คะแนนแต่ละอันออกมา
ทำครบทั้ง 2 ตารางก็จะได้แบบนี้เลย
กด Sort ชื่อซะหน่อยก็จบเลย
Close & Load to… Table ออกมาก็ได้ผลเหมือนกันแหละ
จบแล้ววว
และนี่ก็คือ 2 วิธี ในการเทียบข้อมูล 2 ตาราง ว่ามีรายการไหนตรงกัน ไม่ตรงกัน มันยาวมากๆ เลย (มีใครอ่านจบบ้าง comment บอกหน่อยนะ 555)
ใครลองแล้วได้ผลลัพธ์เป็นยังไง ทำได้ไม่ได้ยังไง? Comment บอกได้เลยนะครับ
การเปรียบเทียบขนาดรูปร่าง ระดับชั้นอนุบาล
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่
การเปรียบเทียบขนาดสัตว์ (วาฬไม่ได้ตัวใหญ่ที่สุด!)
ทุกคนรู้ว่าวาฬสีน้ำเงินเป็นสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่…จริงเหรอ ที่จริงแล้วนักวิทยาศาสตร์ค้นพบบางสิ่งที่ใหญ่กว่านอกชายฝั่งออสเตรเลีย พวกเขาศึกษาความยาวทั้งหมดไม่ได้ แต่เชื่อว่ายาวได้ถึง 118 ม.และแล้วยักษ์ใหญ่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ล่ะ ไดโนเสาร์ที่ตัวใหญ่ที่สุดที่รู้จักกันตัวใหญ่กว่าวาฬสีน้ำเงินขนาดใหญ่หรือเปล่า หรือคุณเคยได้ยินเกี่ยวกับหมึกยักษ์บ้างไหม พวกมันมีหัวใจ 3 ดวงและดวงตาของมันใหญ่เท่ากับลูกบอลชายหาด
เอาล่ะ คุณรู้อะไรเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่ตัวเล็กที่สุดในโลกบ้าง สัตว์บางชนิดมีขนาดเล็กจนคุณแทบจะมองไม่เห็นพวกมันในป่า! ตัวอย่างเช่น กิกิกิฮูน่า นี่คือแมลงบินที่ตัวเล็กที่สุดที่เป็นที่รู้จัก ชื่อของมันหมายถึง “เล็กจิ๋ว” และมองเห็นได้ด้วยกล้องจุลทรรศน์เท่านั้น เรามาดูกันว่าสัตว์ที่ตัวใหญ่ที่สุดในโลกเทียบกับยักษ์ใหญ่ตัวอื่น ๆ จะเป็นยังไงบ้างและมาดูกันว่าสัตว์ที่ตัวเล็กที่สุดในโลกคืออะไร!
ชีวิตสดใส
กดติดตามช่องชีวิตสดใส https://bit.ly/3dDWYg2
เพลงของ Epidemic Sound https://www.epidemicsound.com/
ของในสต๊อก (รูปภาพ, วิดีโอ และอื่นๆ):
https://www.depositphotos.com
https://www.shutterstock.com
https://www.eastnews.ru
สรุปการเปรียบเทียบขั้นเท่า ขั้นกว่า ขั้นสูงสุด
แกรมมาร์เรื่อง Comparison การเปรียบเทียบ adjective กับ adverb แบบ comparative superlative
จะใช้ as..as หรือ er / est หรือ more /most
ลองทำแบบฝึกหัดสั้นๆ ในคลิป
[ฝาก Like + Subscribe 🤍]
👇
IG : bewbamtv
FB : bewbamtv
www.bewbamtv.com
bewbamtv
บิวแบมทีวี
แจกฟรี! คู่มือเอาตัวรอดในวิชาภาษาอังกฤษ📍📍📍 FREE English Grammar Notes by BewBamTV🔖https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1458861710939595\u0026id=100004473400806🔖
Star Size Comparison 2
Dear world,
Let´s talk about time.
When I uploaded my first YouTube video 7 years ago, I would have never thought that it would get that much attention. Had lots of discussions, met new people, continued to make videos about things that intrigued me. Or tried out effects.
I enjoyed it a lot, and I still read every comment that pops up. And they keep coming in. It is a hobby that I am very glad about having started. And I am humbled by the attention.
Well, as time went by I found less time to work on videos, struggled with other things in life, and wondered if I would ever find the time again.
But I always knew one thing:
I owe you something. All the time people were are asking about a sequel to starsize comparison. And yes, I promised once.
I keep my promises. So, whenever I found time over the last year I spent it on that. Here it is.
I hope you like it. I tried to do it in a bit different way. Curious for the feedback. I know I will be hardly able to beat the choice of music from the first part, but let me say, Vangelis Alpha is a piece that is very dear to my heart, I always had this in mind.
Still looking for contact to musicians.
I do not know what the future brings, but I hope we will hear from each other. Enjoy.
morn1415 Social Media:
https://www.patreon.com/morn1415
https://twitter.com/morn1415
https://www.facebook.com/morn1415/
https://www.instagram.com/morn1415/
การเปรียบเทียบสิ่งของ
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆMAKE MONEY ONLINE
ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ การเปรียบเทียบสิ่งของ