ไปคุยกับเขาก่อน: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
THE REAL: คุยกับ THE DUANG นักวาดตัวจริง กับความสุข 100% บนเส้นทางใหม่ในโลก NFT
By: NTman October 7, 2021
ทุกวันนี้ เรื่องราวของเทคโนโลยีบล็อกเชน, เหรียญคริปโตต่าง ๆ นา ๆ ได้เริ่มเข้ามามีบทบาทกับชีวิตผู้คนทั่วไปมากขึ้น รวมไปถึงการซื้อขายผลงานศิลปะในรูปแบบของ NFT (Non-Fungible Token) ที่ก่อให้เกิดศิลปินหน้าใหม่ขึ้นมากมาย ด้วยความเปิดกว้างของตลาด ที่ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร จะสร้างงานแนวไหน ใช้เทคนิคอะไรยากง่ายไม่เกี่ยง ขอแค่เหล่านักสะสม หรือนักลงทุนถูกใจก็มีสิทธิ์ปล่อยผลงานออกไปในราคางาม
และท่ามกลางศิลปินจำนวนมากที่เริ่มเข้ามาชิมลางกับการสร้างงาน NFT หนึ่งในนั้นยังมีชายที่ชื่อว่า ‘วีระชัย ดวงพลา’ หรือที่หลายคนรู้จักกันดีในนาม ‘THE DUANG (เดอะ ดวง)’ นักวาดการ์ตูนชาวไทย ที่มีฝีไม้ลายมือไม่ธรรมดา กับผลงานการ์ตูนรวมเล่มฮิต ๆ และงานวาดภาพประกอบเจ๋ง ๆ มากมาย อีกทั้งยังเคยคว้ารางวัลใหญ่อย่าง Silver Award จากเวทีประกวดรางวัลการ์ตูนนานาชาติ ที่ประเทศญี่ปุ่น มาแล้ว
แต่อะไรที่ทำให้ผู้ชายคนนี้หันมาตัดสินใจก้าวเข้าสู่โลก NFT แม้จะต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่อีกครั้งในตลาดซึ่งชื่อเสียงที่สั่งสมมาในโลกจริง ไม่อาจการันตีว่างานของคุณจะขายได้ วันนี้เรามาพบคำตอบเหล่านั้นจากปากของ ‘THE DUANG – วีระชัย ดวงพลา’ ไปพร้อมกัน
ก่อนจะเป็น THE DUANG
ก่อนจะไปถึงเรื่องราวจุดเริ่มต้นในวงการ NFT ไหน ๆ ก็มีโอกาสได้พูดคุยกับ THE DUANG แล้ว เราจึงขอให้เขาเล่าย้อนไปถึงเส้นทางก่อนจะเป็น THE DUANG นักวาดฝีมือดีที่ใครหลายคนต่างชื่นชอบผลงงาน และยกให้เขาเป็นแรงบันดาลใจในทุกวันนี้
“จริง ๆ ผมเริ่มวาดมาตั้งแต่ 3 ขวบเลย วาดนู่นนี่ไปเรื่อย พอเรียนชั้นประถมก็เริ่มชอบวาดการ์ตูนให้เพื่อนอ่าน ตั้งแต่ประถม มัธยม เขียนให้อ่านตลอด จนมีการ์ตูนรวมเล่มของตัวเองวางขายจริงจังเล่มแรกประมาณปี 2005 ครับ ก็ใช้เวลานานอยู่ครับ
แต่ระหว่างทางมันดีตรงที่สิ่งนี้มันเป็นความชอบของเราด้วยแหละ เลยไม่เหมือนว่าเราจะต้องตั้งใจฝึกมัน เราอยากวาด อยากเขียนอะไร เราก็วาดไปเรื่อย ๆ สิ่งที่โชคดีอย่างนึงก็คือมีคุณพ่อ (เรืองศักดิ์ ดวงพลา) เป็นนักวาดการ์ตูนอยู่แล้วครับ เขาเขียนการ์ตูนผีเล่มละบาท พวกนิยายภาพอะครับ มีอะไรก็ถามเขา เขาก็ช่วยสอน
จนมาถึงจุดที่เราบอกพ่อว่าจะเป็นนักเขียนการ์ตูน พ่อเขาก็ไม่อยากให้เป็น เขาบอกว่ามันน่าจะดูแลตัวเองยาก ช่วงนั้นมันเป็นแบบนั้นจริง ๆ เมื่อก่อนน่ะ แต่ว่าเขาไม่ห้าม เขาก็แนะนำที่ส่งว่าให้ไปตรงนี้ ก็จะมีเพื่อนพ่อที่เขาเป็นนักเขียนการ์ตูน ตอนนั้นมันมีหนังสือที่มันมาคู่กับขายหัวเราะก็คือ ตลาดตลก แล้วเพื่อนพ่อเขาก็พาไปส่ง ก็คืออยู่ในซอยเดียวกับสำนักพิมพ์แหละ ก็แค่เดินเข้าไปเสนองาน
ตอนนั้นอายุ 13 ได้เงินมา 1,000 บาทถ้วนเลยอะ เรารู้สึกว่าโคตรดีใจ แล้วรู้สึกว่าเนี่ยแหละอาชีพ ประมาณนั้น ทำไปด้วยเรียนไปด้วย แต่ก็รู้สึกว่าเขียนการ์ตูนแก๊กมันไม่ใช่ทาง จนช่วงปี 2005 มีโอกาสได้มาวาดการ์ตูนรวมเล่มของตัวเองชื่อว่า Shockolate เป็นการ์ตูนสั้นแนวตลกร้ายแบบที่เราชอบ มี 16-17 เรื่องในหนึ่งเล่ม ถือเป็นการ์ตูนเล่มแรกที่แจ้งเกิดเลย”
NFT เริ่มต้นจากความงง
“เราได้ยินมาช่วงนึงแล้วว่ามันคือการขายภาพดิจิทัล เราเข้าใจอยู่แค่นั้น แล้วในหัวก็คิดแต่ว่า บ้ารึเปล่า ใครมันจะไปซื้อภาพดิจิทัลในราคาแบบนี้วะ มันเป็นไปได้เหรอวะ ก็งงอยู่ 3 เดือน แล้วบังเอิญช่วงนั้น เราติดโควิดพอดีแล้วก็กักตัวอยู่ ก็เลยหาอะไรทำดีกว่า กลายเป็นว่าลอง NFT ละกัน ไม่ลองก็ไม่รู้ ก็เริ่มศึกษาแล้วก็ลงมือ
จะมีงง ๆ บ้างตอนลงงานครั้งแรก พวกการเปิดกระเป๋า Metamask การสมัครแอคเคาท์ต่าง ๆ รวมไปถึงเรื่องค่า GAS, การ Mint งาน ซึ่งฟังดูเหมือนจะยุ่งยาก แต่จริง ๆ มันไม่ได้ยากขนาดนั้น ใน Google มีลงขั้นตอนไว้ค่อนข้างละเอียด เราก็ทำตามนั้น แล้วก็มีปรึกษาพี่ ๆ เพื่อน ๆ บ้าง
เริ่มต้นขายงานจริง ๆ ที่แรกลงใน Opensea ก็คัดงานจากคอลเลกชันเก่าที่เราชอบ ๆ มาลง แล้วก็พยายามหา Invite จาก Foundation มาด้วย ช่วงแรก ๆ นะ”
THE DUANG เล่าให้ฟังถึงช่วงไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ ที่ตัวเขาได้เริ่มต้นก้าวเข้าสู่โลกใบใหม่ ในตลาด NFT ที่ช่างกว้างใหญ่ แม้จะยังมีอะไรหลายอย่างที่เขายังไม่เข้าใจ และยังกังขาในชิ้นงานที่เห็นผ่านตามากมายว่ามันขายได้ราคาขนาดนี้เลยหรอ
ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้นคงไม่มีอะไรจะให้คำตอบได้ดีไปกว่าการลงมือทำเอง ที่นอกจากจะช่วยคลายความข้องใจ มันยังถือเป็นโอกาสครั้งใหม่ในการขยายขอบเขตผลงานของเขาในพื้นที่ที่ยังไม่เคยไปถึง
นับหนึ่งใหม่ ไม่เคยง่าย
หลังจากตัดสินใจลองเริ่มต้นสร้างงาน NFT ให้หายสงสัย อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสใหม่ให้กับชีวิต กลับกลายเป็นว่าพื้นที่นี้ไม่ใช่เรื่องหมู ๆ สำหรับใคร แม้เขาคนนั้นจะเป็น THE DUANG ผู้ที่มากไปด้วชื่อเสียง ผลงาน และมีรางวัลการันตีมาแล้วก็ตาม
“การเข้าวงการ NFT เหมือนเริ่มต้นใหม่เลยครับ เพราะว่าตอนแรกก็คิดแค่ว่าเราพอขายหนังสือได้บ้าง พอจะมีคนรู้จักบ้างมันน่าจะไม่ยากมั้ง ปรากฏว่ายากครับ อย่างที่บอก พอลงคอลเลกชันพวกนั้นไป บางคนไม่ได้อ่านการ์ตูนเรา เขาก็จะงงว่าคืออะไร ก็ขายออกแค่หนึ่งตัว – สองตัว มันไม่ใช่การลงแล้วขายหมดอย่างงั้นอะ ก็เลยรู้สึกว่ามันยังไม่ใช่นะ เหมือนมันขาดอะไรวะ คิดไม่ออก นั่นแหละครับ
คือเราลงไปประมาณ 5 หรือ 6 คอลเลกชันได้ แถมตอนนั้นยังได้ Invite จาก Foundation ด้วย ก็คาดหวังไอ้ Foundation นี่โคตร ๆ เลย แล้วเราก็ลงงานที่เราคิดว่ามัน Premium มาก ๆ ลงไป โอเค ลงไปภาพแรกขายได้ แต่ภาพที่สองที่สามเงียบ ก็เงียบมาจนถึงทุกวันนี้
ทุกวันนี้เนี่ยในนั้นมีประมาณสิบกว่าภาพมั้ง แล้วก็เงียบมายาว ๆ ตลอด 3-4 เดือนมานี้ ไอจังหวะที่เงียบ ผมเริ่มรู้สึกแล้วว่าแบบมันต้องทำยังไงวะ คือเก็บมาคิดจริง ๆ เลยครับว่ามันเพราะอะไร ทำไมนะ”
แม้จะเริ่มต้นด้วยความหวังที่ว่าผลงานที่ผ่านมา น่าจะพอทำให้งาน NFT มีลู่ทางในการขายได้ไม่ยากเย็นมากมายนัก แต่ผลที่ได้กลับไม่เป็นอย่างที่คาด ทำเอา THE DUANG ของเราเกิดอาการเฟลไปไม่ใช่น้อย จนถึงกับต้องกลับมานั่งทบทวนว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“คือพยายามทำจิตใจให้แข็งแกร่งอยู่นะช่วงแรก แต่ว่ามันก็จะมีแบบ ทำไมวะ ก็นั่งคิดนอนคิดจนนอนไม่หลับ เพราะอะไร เพราะอะไรอยู่อย่างนั้น คือพอลงงานไปแล้วมันเงียบนานเป็นอาทิตย์ มันก็ได้แต่สงสัยว่าเพราะอะไรอยู่อย่างนั้นอะ
เราก็ไปดูงานของคนอื่นที่ขายได้ ก็จะเจอพวกงานมีม หรืองานที่แบบ เฮ้ย ขายได้จริงดิ ก็งงมาก แบบเฮ้ยมันบ้าไปแล้ว ใช่ปะเนี่ย คือก็ไม่เข้าใจอยู่ดีช่วงแรก ไม่ว่าภาพไหนจะขายได้แบบหลักแสน หลักล้าน ก็ยังไม่เข้าใจอะ ไม่ได้อิจฉานะ แต่เราอยากเข้าใจว่าตกลง Collector เขาสนใจกันอะไรกันแน่ เพราะถ้าย้อนกลับไปในโลกจริงปกติ ภาพที่มันจะราคาเท่านี้ได้บางทีมันต้องแบบ ต้องอลังหน่อย พอมันเป็นภาพแบบนี้เราก็คิดว่ามันเป็นไปได้เหรอ
พอผ่านเวลาไปสักพักแล้ว เราก็ค่อย ๆ เข้าใจว่าแต่ละงานมันก็มีที่มาที่ไปอยู่นะ มันมีเหตุผลของมันอยู่ในแต่ละภาพ ไม่ใช่แค่หน้าตา หรือเทคนิคที่ใช้ ก็เริ่มเข้าใจว่า NFT มันคือศิลปะส่วนหนึ่ง การลงทุนส่วนหนึ่ง
แต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้คำตอบชัดเจนนะ สุดท้ายก็เลยตัดปัญหาทุกอย่างทิ้งไปเลยแล้วเอาตัวเองนี่แหละ ยังไงก็ต้องเป็นตัวเองเหมือนเดิม มีช่วงนึงคิดอยากจะทำงานตามกระแส คือเรารู้ว่าอันไหนมันคือกระแส ถ้าทำแบบนั้นคนก็จะสนใจ แต่ในใจนึงก็คิดว่าถ้าทำแบบนั้น ความสุขมันก็จะหายไปเปล่าวะ ต่อให้ขายได้มันก็จะรู้สึกตะขิดตะขวงใจว่ามันไม่ใช่งานที่เราอยากทำนี่หว่า เหมือนทำเอาเงินอะ มันก็จะไม่ได้ความสุขไง ถ้างั้นเรายืนหยัดในจุดยืนและเป็นตัวเองนี่แหละ ดีแล้ว
จากนั้นก็เลยกลับไปนั่งอ่านการ์ตูนเก่า ๆ ของตัวเอง ดูว่าเราถนัดงานแบบไหน แล้วมันมีตัวละครนึงที่ผมพยามยามดันมันอยู่แล้วก็คือ Blackboy ที่เป็นตัวละครใส่หน้ากากเป็น Messenger ส่งของ ซึ่งเรื่องของมันเนี่ยมีเหตุทำให้ต้องพัวพันกับอาชญากรอยู่ตลอด เราก็มานั่งคิดว่าเราจะทำออกมาในรูปแบบไหนดี
แล้วปรากฏว่าวันนั้นผมก็ไล่ค้นโฟลเดอร์งานไป แล้วมันมีตัวละครตัวนึง มันคือตัวละครเมื่อประมาณ 5 ปีก่อน ที่อยู่ในมุมหันข้างพอดี ซึ่งมันจะเป็นตัวละครแรกใน Gangster All Star คอลเลกชันหนึ่ง แล้วผมก็ เห้ย เข้าท่านะเนี่ยมุมนี้ รู้สึกได้เลย ถ้าทำออกมาเยอะ ๆ ตอนนั้นไม่คิดว่ามันจะขายได้เลยนะ แค่คิดว่าทำออกมาเยอะ ๆ แม่งเท่แน่นอน ต้องเท่เลย เพราะถนัดวาดแนวแก๊งมาก ก็เลยเริ่มทำดู”
GANGSTER ALL STAR
หนทางที่ใช่ในโลก NFT
“พอตัดสินใจได้ว่าจะไปทางไหน เราก็เริ่มลุยทันที่ ตอนนั้น Roadmap ก็ยังไม่ชัดเจนมาก ยังหลวม ๆ อยู่ แต่ก็บอกว่าคอลเลกชันแรกจะมีกี่ตัว แล้วก็จำนวนแรงก์เท่าไหร่ ๆ นั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่มาของ Gangster All Star
ซึ่ง Gangster All Star เนี่ย ความรู้สึกมันเหมือนทำให้คนที่ชอบสะสมการ์ดตัวละครนั่นแหละครับ ระหว่างตอนที่ทำคอลเลกชันหนึ่งไปแล้วมันขายหมด เราเลยรู้สึกว่า เออเนี่ยมาถูกทางละ แต่ปัญหาคือ เราจะทำยังไงให้มันยังแข็งแรงอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ
เราก็เลยวางแผน ใช้เวลาวางแผนไปเดือนกว่า เพื่อที่จะทำคอลเลกชันสองเตรียมไว้ล่วงหน้า คือเรารู้สึกว่า 50 ตัวละครมันต่อยอดได้ยังไง ก็เลยเอามันเป็นหัวหน้าแก๊งนี่แหละ แล้วแต่ละแก๊งมันก็ควรมีโลโก้มันถึงจะเท่ ก็เลยเสียเวลาเป็นเดือนเพื่อออกแบบโลโก้พวกนี้ให้ครบ 50 อัน แล้วพอมันครบ ทุกอย่างต่อจากนี้มันจะง่ายหมดเลย เพราะมันเริ่มเป็นกลุ่มเป็นก้อนชัดเจน
แล้วก็เลยคิดลูกเล่นเรื่องใครถืองานคอลเลกชันหนึ่งอยู่สามารถเข้าแก๊งได้ ควรจะมีตัวละครเป็นตัวคุณเองนะที่อยู่ในแก๊งนั้น เลือกแก๊งได้เลย แต่ถ้าใครไม่ได้ถืองานแต่อยากเข้าแก๊ง ก็ต้องจ่ายเพื่อที่จะเข้าแก๊งแล้วแต่ละแก๊งก็จะมีระดับ ซึ่งคนแม่งยอมจ่ายจริง ๆ ผมก็ตกใจเหมือนกัน ตอนนี้มี 30 Member แล้วครับจากทั้งหมด 90 Member ที่เปิดให้เลือก
สมมติว่าคนนี้ถืองานเราอยู่ในคอลเลกชันหนึ่ง เราก็ให้สิทธิ์เขาเลือกแก๊งจาก 50 แก๊งได้เลย แต่ว่างานที่เขาถืออยู่มันมีมูลค่าเท่าไหร่ เราก็จะแบ่งไว้เลยว่าถ้าถือราคานี้ถึงราคานี้ได้ 1 ดาวนะ อันนี้ได้ 2 ดาวนะ หรือแบบบางคนถือเกิน 1 Ethereum ก็จะได้ 3 ดาวถึง 4 ดาว ให้เลือก ก็จะมีการแบ่งอยู่ แต่ไม่ว่าใครจะเข้าแก๊งไหน เขาก็ดูแฮปปี้กันหมด เพราะเขาจะได้มีตัวละครของตัวเองแล้วก็ได้มีรายชื่ออยู่ในแก๊งนั้นด้วย แล้วก็มีบัตรเชิญส่งให้อย่างเป็นทางการ
แล้วสุดท้ายก็จะเอาคาแรกเตอร์ทั้งหมดไปวาดการ์ตูนลงในซีรีส์ Blackboy นี่อยู่ดี ตั้งใจว่าคงจะออกเป็นเล่ม เล่มละแก๊งเลยเพื่อเล่าสตอรี่ของแต่ละแก๊ง เพราะเราค่อนข้างให้ความสำคัญกับทุกแก๊งที่ออกมา และล่าสุดจะมีเพลงประกอบ ของ Gangster All Star กำลังอยู่ในช่วงทำเพลงอยู่ เรฟมันก็มาจากหนังเรื่อง High&Low พยายามจะให้ดนตรีไปในทางนั้น ซึ่งเราได้มือกีตาร์ระดับประเทศมาทำให้อยู่ ใบ้ให้ว่าเป็นศิลปินวงร็อกชื่อดัง อักษรย่อชื่อวงคือตัว S ครับ (หัวเราะ)
แล้วทีนี้พอมีเพลงผมก็จะทำเอ็มวี ซึ่งเอ็มวีนี้ก็ไม่ได้ทำขาย ทำเพื่อโปรโมต ก็อาจจะ Animated นิดหน่อย แบบโชว์แก๊งให้มันเท่ ๆ คือช่วงขั้นตอนนี้มันเป็นขั้นตอนบิ้วคนเป็นระยะ ๆ ให้คนอิน พยายามทำให้เหมือนเราแม่งมีแก๊งอยู่จริงเลยว่ะในอีกโลกนึง พอคนอินมาก ๆ ผมถึงจะปล่อยคอลเลกชันสาม ซึ่งน่าจะเป็นการจบคอลเลกชันสองแล้วปล่อยสามทันที มันจะเป็นโปรเจ็กต์แบบ Generate ครับ แบบ 7,700 ตัว คือผมกะทำงานในแบบ Quality สูงอะ ที่ไม่เป็นแบบภาพง่าย ๆ กะทำให้มันยาก ๆ ไปเลยแล้วก็กำลังดูองค์ประกอบอยู่ว่าจะใช้อันไหนที่เท่ ๆ ดี”
THE DUANG เล่าให้ฟังแบบหมดเปลือกถึง Roadmap ที่โคตรจริงจัง และเต็มไปด้วยพลังแห่งจินตนาการ หลังจากใช้เวลาหาตัวตนในโลกใหม่อย่าง NFT จนได้ข้อสรุปว่าจะเดินหน้าปั้นคอลเลกชัน Gangster All Star โดยไม่สนอะไรนอกจากความชอบของตัวเองล้วน ๆ
และสุดท้ายด้วย Roadmap ที่มีเรื่องราวให้ติดตามไปไกลกว่าภาพวาด และให้ผู้ถืองานได้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวนี้ ทำให้คอลเลกชัน Gangster All Star Vol.1 ทั้ง 50 ตัว Sold out ไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย
ซึ่งมูลค่าของคอลเลกชันนี้ (รวมงานพิเศษอีก 9 ตัว) นับจากข้อมูลล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่บทความ มี Volume Trade อยู่ที่ 29.5 ETH เรียกได้ว่าชื่นมื่นทั้ง Creator, Collector และ Investor กันถ้วนหน้า ในขณะที่ Gangster All Star Vol.2 (Gangster All Star Universe) ก็กำลังทยอย Drop ออกมาด้วยการตอบรับที่อุ่นหนาฝาคั่งไม่แพ้กัน
NFT ในมุมมองของ THE DUANG
“ต้องบอกว่ามันเป็นความสุข 100% ของการทำงานเลยดีกว่า”
นี่คือคำแรกที่เอ่ยจากปากของ THE DUANG หลังจากที่ถามถึงมุมมองความรู้สึกที่เขามีต่อการมาของ NFT
“ทั้งชีวิตที่ทำงานมา ต่อให้เป็นงานการ์ตูนก็ตาม มันก็จะมีโจทย์บ้าง นาน ๆ ทีจะมีโจทย์ที่เราตั้งเอง พอมันมีโจทย์จากลูกค้าเนี่ย มันก็ต้องมีการปรับปรุงแก้ไขระหว่างทาง ไม่ว่าจะเป็นงานการ์ตูนหรืองานภาพประกอบ ซึ่งมันไม่ใช่งานที่ออกมาจากตัวเรา 100%
แรกเริ่มถ้าเขาให้เราเป็นคนคิดไอเดีย เราจะคิด ซึ่งตอนนั้นมันยัง 100% อยู่ แต่ว่าพอมันออกไปแล้ว ถูกแก้ไข มันก็จะไม่ 100% ละ มันจะสุขไม่สุด มันจะสุขมากก็ต่อเมื่อมันถูกแก้น้อย ความสุขมันจะลดลงตอนที่ถูกแก้งานไปเรื่อยๆ พอมาเป็น NFT เนี่ย มันไม่มีการแก้งานแล้วอะ ถ้างานออกไปแล้ว Collector เขาชอบ มันก็คือจบแล้ว
แต่ถ้าถามว่างาน NFT เนี่ยมันหนักไหม บอกเลยว่าหนักนะ (หัวเราะ) แต่มันหนักเพราะสนุก อย่างเรามันสนุกจนไม่อยากนอน หัวมันคิดนู่นคิดนี่ หัวมันอยากทำ อยากทำ ๆ ๆ แต่พอเป็นงานหลักผมนอนเยอะนะ แบบว่าทำแล้วก็เบื่อ เบื่อคือเบื่อเลยอะ ไม่อยากแตะ ไปเล่นเกม ดูหนัง แต่พอเป็น NFT มันแบบ เราไม่อยากทำอย่างอื่น อยากทำงาน ก็สนุกดีครับ”
นอกจากมุมมองที่มีต่อ NFT แบบส่วนตัว THE DAUNG ยังเปิดเผยถึงมุมมองที่เขามีต่อ NFT กับวงการศิลปะในไทยให้เราฟังว่า
“เราว่า NFTมันเป็นโอกาสที่โคตรดี ไม่น่าจะมีอะไรดีกว่านี้อีกแล้วในตอนนี้ สำหรับนักวาดที่อยากจะวาดรูปทุกคน เหมือนเมื่อก่อนถ้าถามว่าจะขายงานที่ไหนยังไง คงพูดได้แค่ว่าโพสต์ลงเฟซสิ
แต่ถ้าทุกวันนี้นักวาดหน้าใหม่ที่อยากจะทำงานแล้วไปโพสต์ขายงาน ก็จะแนะนำว่าให้ไปขายใน NFT นี่แหละ เราว่าทุกคนมันเท่ากันในโลก NFT บางคนในโลกจริงอาจจะไม่ได้มีชื่อเสียงเลยก็ได้ แต่พอเข้ามาโลก NFT เขากลายเป็นเทพขึ้นมา แบบว่าขายงานได้ทุกวัน มีอย่างนั้นเยอะแยะเต็มไปหมด
และเรารู้สึกว่า NFT มันร่นระยะเวลาได้เยอะมากจริง ๆ ในการที่คนจะให้คนเห็นงานเราทั่วโลกซึ่งมันเป็นจุดที่ทำให้คนเปลี่ยนชีวิตไปได้เลยก็มีนะ ผมรู้สึกว่าทุกคนสามารถตั้งตั้วได้จากตรงนี้ แล้วก็ทำให้เห็นอนาคตได้ชัดเจนมากขึ้นด้วยซ้ำ”
คำแนะนำจาก THE DUANG
ในช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ แน่นอนว่าเราไม่ลืมที่จะขอคำแนะนำจาก THE DUANG ให้กับชาว UNLOCKMEN ที่กำลังสนใจจะชิมลางสร้างงาน NFT กับเขาบ้าง ในฐานะผู้ที่เคยเริ่มต้นใหม่ ลองผิดลองถูกในโลก NFT จนค้นพบแนวทางที่เป็นตัวเองอีกครั้ง โดยผู้ชายคนนี้ได้ฝากแนวคิดเอาไว้ว่า
“สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจกับการเข้ามาใน NFT ผมมั่นใจว่าแรก ๆ เข้ามาคือ Opensea แน่นอน ก็ต้องลองไปศึกษาการเปิดแอคเคาท์ การสร้างกระเป๋าเงินดิจิทัล รวมถึงเรื่องความปลอดภัยต่าง ๆ ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วมันไม่ยาก มีวิธีการให้ศึกษาเต็มไปหมด
แต่สิ่งที่สำคัญที่ทำให้งานเราเป็นที่สนใจ น่าสะสม น่าลงทุน ไม่ว่าจะเป็นงานภาพวาด ภาพถ่าย วิดีโอ งานเพลง หรืออะไรก็ตามที่จะลงขายเป็น NFT มันคือการคิดคอลเลกชันครับ มันไม่ใช่แค่การทำแค่คอลเลกชันนี้ 10 รูปแล้วจบแล้วย้ายคอลเลกชันมันไม่ใช่แค่นั้น สิ่งที่ต้องทำคือการวางแผน อย่างเราก็วางไว้เลยว่าว่าคอลเลกชันนี้จะมีตัวละครกี่ตัว แล้วสตอรี่มันเป็นยังไง คือทำยังไงก็ได้ให้คนที่มาซื้องานเห็นว่างานนี้มันน่าลงทุน
ต้องบอกสำหรับคนที่จะเข้ามาคือ เรามองมันเป็นศิลปะส่วนนึงนะครับ แต่เรามองในแง่ของคนที่จะมาลงทุนกับเราด้วย เพราะว่าถ้าเขามาซื้อรูปเราแล้วเขาเอาไปขายต่อ และถ้ามันขายได้ เขาก็จะกลับมาซื้อใหม่ ซึ่งมันเป็นงานที่น่าลงทุน ให้เราคิดเผื่อว่างานเรามันน่าลงทุนไหม ไม่ใช่แค่ทำออกมาแล้วขายได้แล้วจบเลย อันนั้นมันไม่ใช่เป้าจริง ๆ เป้าหมายจริง ๆมันคือการขาย Second sale ครับ แล้วการที่มี Second sale ที่แข็งแรงอะ ทำให้คอลเลกชันขึ้นตามไปด้วย
ดังนั้น สำหรับคนที่อยากเข้ามา เราอยากให้คิด Roadmap ไว้ให้ชัดเจน ว่าเราจะให้อะไรกับนักลงทุนบ้าง แต่ที่สำคัญจริง ๆ คืออย่าไปเครียดกับตรงนั้นมากจนเราไม่สนุกนะ แม้จะต้องคิดเผื่อการสะสม การทำให้นักลงทุนสนใจ แต่ยังไงอันดับแรก ต้องสร้างงานด้วยการเอาความสนุกของเรามาตั้งไว้ก่อนเลย แล้วค่อยแปลงความสนุกนั้นเป็นคอลเลกชันที่น่าสะสมครับ ประมาณนี้
ส่วนใครที่อยากติดตามงานของเรา ช่วงนี้ถ้าใครติดตามเฟซบุ๊กก็จะเห็นเราโพสต์แต่พวก Gangster นี่แหละ ส่วนถ้าใครไม่ได้เข้ามาเล่น NFT แค่เข้ามาดูงานเฉย ๆ ก็ได้ เพราะว่ามันสามารถที่จะสนุกไปด้วยได้ ดูภาพ ดูความเคลื่อนไหว เพราะมันมีความเคลื่อนไหวทุกอาทิตย์ แล้วเราจะรู้สตอรี่ ที่มันมาเรื่อย ๆ และสุดท้ายแล้ว Gangster All Star ของผมมันจะกลายไปเป็น Comics อย่างที่เล่าให้ฟัง ใครที่กำลังรออ่านแต่ไม่ได้เป็น Collector ใน NFT ก็รอเก็บหนังสือก็ได้ครับ ระหว่างนี้ก็ดูงานพวกนี้ไปเรื่อย ๆ ก่อน”
ติดตามผลงานของ THE DUANG ได้ที่
Facebook: TheDuang
Twitter: aroundtheduang
Opensea: THEDUANG
Foundation: @aroundtheduang
Photographer: Krittapas Suttikittibut
[Update] 6 เทคนิคเจรจาต่อรอง สำหรับคนทำคอนเทนต์ ไว้ไปคุยงานกับลูกค้า ทำยังไงให้ลูกค้าเห็นค่า | ไปคุยกับเขาก่อน – NATAVIGUIDES
ก่อนหน้านี้ในบทความเรื่อง 6 ทักษะที่คนทำคอนเทนต์ควรมีในปี 2020 เราได้พูดถึงเรื่องการมองในมุมของธุรกิจ ตลาดของตัวเอง เล่นเกมและต่อรองเป็น ว่าเป็นหนึ่งในทักษะที่คนทำคอนเทนต์ต้องมี แม้ว่าจริง ๆ แล้วหน้าที่ของเราก็คือการทำคอนเทนต์ พูดคุยกับคนดู แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราก็ต้องกินต้องใช้ หรือแม้จะไม่ใช่เรื่องเงิน แต่เราก็ต้องเรียกร้องบางสิ่งอยู่ดี และการเรียกร้องแน่นอนว่าต้องมีข้อแลกเปลี่ยน
คนทำคอนเทนต์หลายคนออกไปคุยกับลูกค้าครั้งแรกอาจจะกล้า ๆ กลัว ๆ ไม่รู้ว่าเขาจะอินกับเราไหม จะขายงานได้หรือเปล่า วันนี้ทีมงานมีเทคนิคการเจรจาต่อรองเพื่อให้เราได้ในสิ่งที่เราต้องการ โดยเขาเห็นคุณค่าของเราที่จะยอมเอาสิ่งใดสิ่งหนึ่ง (อาจจะเป็นเงินหรือไม่ก็ตาม) เพื่อแลกกับเรา
1. บอกได้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ต้องการอะไร ในประโยคสั้น ๆ
บางคนเวลาเจอหน้าลูกค้าไล่ยาวมาเต็ม ประวัติ สถิติ สำมะโนครัว มากมาย ซึ่งในตอนแรกผู้เขียนก็เป็นแบบนี้ จนเลิกเมื่อเจอลูกค้าถามว่า “จะให้พี่ทำอะไร” เพราะพูดออกมาเยอะมาก จนไม่รู้ว่าสรุปจะให้อะไร จะขอเงิน จะขอให้ช่วยทำอะไร ซึ่งถ้าเราสามารถเล่าว่าเราต้องการอะไรในประโยคสั้น ๆ ได้ใจความ เริ่มต้นจาก เราต้องการอะไร ทำไมเราต้องการ แล้วทำไมต้องเป็นเขา เขาทำแล้วเขาจะได้อะไร แค่นี้จบ หลังจากที่ลองใช้พบว่า คุยรู้เรื่องมากขึ้น ไม่ต้องร่ายอะไรยาว เพราะไม่ว่าจะประวัติ สถิติ อะไร มันเป็น Sub ข้อมูลย่อยของคำถามทั้งหมดในนี้ อันไหนไม่จำเป็นต้องรู้ก็ไม่ต้องรู้ก็ได้ หรือเรารู้สึกว่า ข้อมูลอะไรที่เตรียมไป จะตอบคำถามอะไรได้ค่อนหยิบขึ้นมาเล่า
2. รู้ว่าเขาต้องการอะไร ทำการบ้านไปก่อน หาจุดที่ตรงกัน แล้วเล่าสถานการณ์
ก่อนจะไปคุยกับใคร หาข้อมูลไปก่อน สมมติไปคุยกับแบรนด์ ลองเอาชื่อแบรนด์ หรือชื่อเอเจนซีไป Search Google ก่อน เขาเคยทำอะไร มีโครงการอะไร เน้นทำอะไรแนวไหน ซึ่งถ้าเรารู้ประโยชน์ก็คือ 1.เราสามารถยกตัวอย่างสิ่งที่ลูกค้าเคยทำก่อนได้ 2. ลูกค้าจะรู้สึกว่าเราเตรียมข้อมูลมาดี ซึ่งก็จะไปตอบคำถามในข้อแรกว่า ทำไมต้องเป็นเขา (ทำไมลูกค้าต้องซื้องานชิ้นนี้ หรือช่วยเรา)
ในบทความเรื่อง เคล็ดลับ ทำ Advertorial ยังไงให้ Happy กันทั้งตัวเรา, แบรนด์ และ คนอ่าน เราเคยแชร์วิธีการมอง 3 ตัวละคร สำคัญได้แก่ คนอ่าน ลูกค้า และตัวเรา ซึ่งสมมติว่าสิ่งที่เราเอาไปขาย ไม่ใช่ Advertorial แต่เราก็สามารถมองโมเดลนี้ได้เช่นกัน ด้วยการหาจุดตัด แล้วเล่าให้ฟังว่าสถานการณ์หลังจากทำงานตัวนี้ไปแล้ว หรือเขาทำแบบนี้ให้เราแล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น
3. คุณค่าไม่ได้มีแค่ Reach, Like, Engagement แต่ต้องรู้จัก Conversion, Sale Driven, Positioning
หลายคนเวลาไปคุยกับแบรนด์หรือเอเจนซี ชอบพูดแต่เรื่อง Reach, Like, Followers ซึ่ง Value แบบนั้น เอาจริงก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่เป็น Value ที่มี Value น้อยมาก ๆ และอาจจะวัด ROI ให้งานของเรามีค่าต่ำสุดก็ได้ และยิ่งไปเจอแบรนด์ที่ไม่สนใจ และสมัยนี้แบรนด์ไม่ได้มองแค่ยอดอีกต่อไป เราจะเอาอะไรไปคุยเพื่อให้เขาเห็นคุณค่ามากกว่าแค่ Reach เช่น
- Conversion เราจะ “เปลี่ยน” อะไรคนอ่าน และการเปลี่ยนมีค่าต่อทางแบรนด์มากแค่ไหน เช่น เปลี่ยนให้คนที่มีภาพจำติดลบกับสินค้าตัวนี้ มามีภาพเป็นด้านบวก (แล้วก็ต้องตอบให้ได้ว่า วันอย่างไร ปริมาณมากแค่ไหน) หรือ เปลี่ยนจากคนที่ถ่ายภาพไม่เป็น มาให้ถ่ายภาพแบบนี่ได้ และเมื่อคนกลุ่มนี้ถ่ายภาพแบบนี่ได้ ยอดขายก็จะสูงขึ้นเพราะเป็นที่นิยม
- เข้าใจว่า Sale Driven อาจจะไม่ได้แปลว่า เราจะต้องขายของให้กับแบรนด์ (เวลาเจอลูกค้าบอกว่า ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี เราเน้นยอดขาย หลายคนอาจจะกลัวว่าเขาจะไม่ซื้อ แต่จริง ๆ เราต้องเล่า Conversion ให้ได้)
- Position ก็เป็นส่วนสำคัญ เช่น เราจะพาเขาจากจุดไหนไปจุดไหน ถ้าเล่าตรงนี้ได้ เราจะทำให้ลูกค้าหรือคนที่เราไปต่อรองด้วยเห็นภาพมากขึ้น ทำกราฟมาให้ดูว่าเขาจะเปลี่ยนจากตรงไหนไปตรงไหน อาจจะไม่ต้องเรื่องใหญ่ แต่เป็นเรื่องเล็ก ๆ ก็ได้ ที่ ROI สมเหตุสมผล
และที่สำคัญก็คือ เตรียมตอบคำถามให้ได้ว่า ทำไมเราถึงต้องเป็นคนทำงานนี้ อะไรที่ทำให้คนอื่นทำไม่ได้ สิ่งหนึ่งที่ต้องทำการบ้านก่อนไปคุยกับใครก็คือ ตอบให้ได้ว่าทำไมต้องเป็นเราเท่านั้นที่สามารถให้สิ่งนี้กับเขาได้ ซึ่งถ้าตอบได้จะช่วยให้การต่อรองมีหลักฐานขึ้นมาก
4. เอา Rhetoric นั่นแหละ ไปใช้กับทุกคน
ใครที่ไม่รู้ว่าคืออะไรให้ย้อนกลับไปอ่าน ย้อนดูตำรา Rhetoric บทเรียนการสร้างคอนเทนต์ให้ถูกใจ ที่มีมาแต่ยุคกรีก ซึ่งเอาจริง ๆ ทุกข้อที่สังเคราะห์ให้มาอยู่ในบทความนี้ ก็มีแนวคิดมาจาก Rhetoric นั่นแหละ แต่ถ้าจะให้ยกตัวอย่างออกมาให้เห็นภาพ ทั้ง ๆ ข้อเลยก็คือ
- บอกได้ว่าตัวเองทำไมถึงน่าเชื่อถือ และสามารถทำงานนี้ให้สำเร็จได้ (Ethos)
- เข้าใจว่าลูกค้าอยากได้อะไร มีปัญหาอะไร คาดหวังอะไร (Pathos)
- กลไกล วิธีการ กระบวนการ ในการทำงานนั้นมีความสมเหตุสมผล (Logos)
ซึ่งทั้งสามอย่างนี้ ก็น่าจะอธิบายได้แล้วว่าเราจะทำอย่างไรให้การต่อรองของเรามีน้ำหนัก ไม่ใช่แค่เข้าใจเขา ไม่ใช่แค่มีสถิติที่ดี หรือมีหลักการที่ล้ำมาก ๆ แต่ทั้งสามอย่างต้องประกอบเข้าด้วยกัน
5. ถ้าลูกค้าเหมือนจะไม่เห็นด้วย ใช้คำถามด้านบวก อย่าถามว่าทำไม
แน่นอนว่าบางทีลูกค้า หรือคนที่เราคุยด้วยก็อาจจะไม่ได้เห็นด้วยกับเราทุกอย่าง บางทีอาจจะไม่ได้พูดอะไร แต่ก็ไม่ได้ตอบรับ วิธีการคือให้เราใช้คำถามแนว ๆ ว่า “อะไรที่ยังทำให้พี่ลังเล” หรือ “ที่เล่ามามีตรงไหนที่อยากให้เล่าเพิ่ม” อย่าพยายามใช้คำถามว่า “ทำไม” เพราะจะทำให้เกิดคำต่อไปก็คือ “พี่ว่า … ตามด้วยสิ่งที่อาจจะไม่ได้ตรงกับใจเขาหรือตรงกับสิ่งที่ทำให้เขาพอใจ”
6. มีข้อสรุปทุกครั้งที่คุย ปิดการขาย หรือหาข้อสรุปให้เร็วที่สุด จากนั้นไม่ต้องพูดเยอะ
และสุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ การปิดดีล ปิดการขาย ปิดอะไรก็แล้วแต่ ถ้าสมมติว่าปิดได้แล้ว ก็อย่าพูดเยอะ หรืออย่าทำอะไรให้เขาเปลี่ยนใจ หรือถ้ายังไม่ได้ก็พยายามหา Next Step เช่น เดี๋ยวจะส่งข้อมูลในส่วนนี้เพิ่ม แล้วขอวันที่จะให้คำตอบ ภายในวันไหน เพื่อให้ไม่เป็นช่วงเปิด
อีกอย่างนึงคือหลัง Meeting แนะนำว่าให้ทำอีเมลส่งไป สรุปว่า เราดีลอะไรกัน เพื่อเตือนความจำ และบอกว่าต่อไปใครต้องเป็นฝ่ายทำอะไร อัพเดทวันไหน
เป็น 6 เทคนิคที่อยากจะแชร์ให้คนทำคอนเทนต์ที่อาจจะต้องการความมั่นใจเพื่อไปคุยกับลูกค้า หรือเพื่อไปต่อรองผลประโยชน์อะไรบางอย่าง ไม่ต้องไปกลัว เพราะสุดท้ายผลก็มีแค่ได้หรือไม่ได้อยู่ดี (ฮา) แต่อย่าลืมว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ตามการทำพวกนี้เหมือนกับการที่เรา Unlock ด่านไปเรื่อย ๆ แม้จะยังไม่สำเร็จในทีแรก แต่ถ้าเรามีกรอบการคิดที่ดี ก็จะทำให้เราได้เห็นอะไรในมุมใหม่ ๆ ขึ้นเป็นข้อมูลที่เราต้องเก็บเพื่อไปปรับปรุงเกมหน้าให้ดีขึ้น
เรียบเรียงโดย ทีมงาน RAiNMAKER
Nutn0n
ผู้ร่วมก่อตั้งและบรรณาธิการบริหาร Spaceth.co ทีมงาน MacThai.com บล็อกเกอร์วิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ เทคโนโลยี สังคม การเมือง วัฒนธรรม การออกแบบ อยากให้โลกออนไลน์น่าอยู่ขึ้นด้วยการทำคอนเทนต์ดี ๆ สร้างสรรค์
URBOYTJ – ถามคำ (QUESTION?) – OFFICIAL VISUALIZER
Produced By URBOYTJ
Arranged By Jirayut Phaloprakarn
Composed By Jirayut Phaloprakarn, Narongsak Sribandasakwatcharakorn, Achariya Dulyapaiboon
Written By Jirayut Phaloprakarn, Achariya Dulyapaiboon
Piano \u0026 String by Janpat Montrelerdrasme
Guitar by Chonlatas Chansiricharoengul
Chorus by Achariya Dulyapaiboon
Mixed by TJ Routon
Mastered By Randy Merrill
HOOK
ถ้าเธอไม่ได้รักกับเขา เราจะได้รักกันไหม
เป็นคำถามที่ยังข้องใจ
เธอไม่รักเพราะมีเขา หรือว่าฉันไม่ใช่
เรื่องเดียวที่อยากรู้
PRE
แต่มันก็คงจะสายถ้าจะให้ฉันพูดออกไป
ก็เธอหนะมีเขาฉันก็ควรที่จะเข้าใจ
ก็แบบว่ามันยังคิดอยู่ อยากให้เธอลองคิดดู
ก็เผื่อว่าวันพรุ่งนี้เธอจะเปลี่ยนใจ
ตอนนี้คงทำได้เพียงแค่รอและมันก็คงต้องยอมก่อน
ก็แล้วจะให้ฉันทำยังไง
ก็แบบว่าถ้าเธอเหงาขึ้นมาเวลาที่ไม่มีใคร
ให้ฉันไปหาเธอได้ไหม
VERSE 1
ถ้าเกิดว่ามีความลับที่ฉันยังไม่อยากจะบอก
ถ้าเกิดว่ามีคำถามที่ไม่อยากได้ยินคำตอบ
ถ้าเกิดว่าไม่มีเค้า เธอจะมองฉันดูกระจอกไหม
ก็แบบว่าเอาจริงๆ ไม่อยากจะได้ยินคำปลอบใจ
ละถามว่ารักเธอไหม ฉันก็คงจะตอบว่ามากแหละ
แต่ถามว่าเกลียดเธอไหม บางทีมันก็ตอบยากแหละ
ก็แบบว่ามันไม่ทราบเลยที่จริงเธอคิดอะไรอยู่
บางทีก็ให้ความหวัง ชอบมาเล่นอะไรก็ไม่รู้
HOOK
ถ้าเธอไม่ได้รักกับเขา เราจะได้รักกันไหม
เป็นคำถามที่ยังข้องใจ
เธอไม่รักเพราะมีเขา หรือว่าฉันไม่ใช่
เรื่องเดียวที่อยากรู้
ถ้าเธอไม่ได้รักกับเขา เธอจะมองฉันบ้างไหม
ถ้าหากเราไม่เจอช้าไป
ถ้าหากไม่ใช่เขา จะเป็นฉันได้ไหม
หรือความจริงไม่ว่ายังไง
เธอก็ไม่รักฉันอยู่ดี
VERSE 2
ที่ทักไปหาทุกวัน จะให้ฉันทำยังไงได้หละ
ถ้าเกิดว่าไม่มีเขาอะไรอะไรมันคงจะง่ายนะ
ก็แบบว่า ตอบได้มะ ว่าเป็นที่ฉันหรือเขา
ตอนนี้มันค้างคา ก็แบบว่าฉันไม่อยากจะเดาเลย
บางทีเธออยู่กับเค้าก็คิดว่าทำไมไม่ใช่เราวะ
ที่จริงก็รู้คำตอบ แต่ความจริงแล้วมันก็เศร้านะ
ช่างแม่งไม่อยากจะเล่าละ โซดาผสมกับเหล้านะ
ถ้าเกิดคืนนี้ฉันเมา โทรไปหาเธอไม่ต้องเดานะ
เธอคงจะอยู่กับเค้าอะ
HOOK
ถ้าเธอไม่ได้รักกับเขา เราจะได้รักกันไหม
เป็นคำถามที่ยังข้องใจ
เธอไม่รักเพราะมีเขา หรือว่าฉันไม่ใช่
เรื่องเดียวที่อยากรู้
ถ้าเธอไม่ได้รักกับเขา เธอจะมองฉันบ้างไหม
ถ้าหากเราไม่เจอช้าไป
ถ้าหากไม่ใช่เขา จะเป็นฉันได้ไหม
หรือความจริงไม่ว่ายังไง
เธอก็ไม่รักฉันอยู่ดี
PRE
แต่มันก็คงจะสายถ้าจะให้ฉันพูดออกไป
ก็เธอหนะมีเขาฉันก็ควรที่จะเข้าใจ
ก็แบบว่ามันยังคิดอยู่ อยากให้เธอลองคิดดู
ก็เผื่อว่าวันพรุ่งนี้เธอจะเปลี่ยนใจ
ตอนนี้คงทำได้เพียงแค่รอและมันก็คงต้องยอมก่อน
ก็แล้วจะให้ฉันทำยังไง
ก็แบบว่าถ้าเธอเหงาขึ้นมาเวลาที่ไม่มีใคร
ให้ฉันไปหาเธอได้ไหม
URBOYTJ ถามคำ QUESTION
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่
มีแฟนแล้ว – OAT PRAMOTE ft. URBOYTJ [Official MV]
เพลง มีแฟนแล้ว
ศิลปิน : Oat Pramote feat. UrboyTJ
เนื้อร้อง : UrboyTJ
ทำนอง : UrboyTJ
เรียบเรียง : UrboyTJ
โปรดิวเซอร์ : UrboyTJ
Lyric Director : UrboyTJ
Vocal Director : UrboyTJ
Guide / Background Vocals : UrboyTJ, Oat Pramote
Guitar : Four 25 Hours
Additional Instrument : UrboyTJ
UnknownAreaTeam : DodgeVader , Chonlatas , UrboyTJ , March , Khanom TPop
Mixed\u0026Mastered : UrboyTJ
Music Production : UnknownArea
เธอก็มีคนของเธอ เราก็อยากจะมีเธอ
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอคิดยังไง
เธอก็มีคนของเธอ เราก็อยากจะมีเธอ
แต่จะบอกรักกันมันคงเร็วเกินไป
อยากให้เธอไปคุย เธอไปคุยกับเค้าก่อน
แล้วค่อยวนกลับมาว่าจะเอายังไง
เธอก็มีคนของเธอ เราก็อยากจะมีเธอ
แต่ถ้าเธอว่าดีเราค่อยเจอกันใหม่
ฉันอาจดูไม่ดีเท่าไหร่
แต่เธอเป็นคนที่น่าสนใจ
ฉันสนใจในเธอ
แล้วเธอจะรู้บ้างเปล่า
ถึงเธอจะมีแฟนแล้วไง
ฉันเองก็ไม่ได้สนใจ
ก็ฉันนั้นชอบเธออยู่
I am here for you ไม่มาเพื่อเค้า
เธอก็มีคนของเธอ เราก็อยากจะมีเธอ
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอคิดยังไง
เธอก็มีคนของเธอ เราก็อยากจะมีเธอ
แต่จะบอกรักกันมันคงเร็วเกินไป
อยากให้เธอไปคุย เธอไปคุยกับเค้าก่อน
แล้วค่อยวนกลับมาว่าจะเอายังไง
เธอก็มีคนของเธอ เราก็อยากจะมีเธอ
แต่ถ้าเธอว่าดีเราค่อยเจอกันใหม่
ตอนนี้เธอจะทำอะไร
ตอนนี้อยู่คนเดียวใช่ไหม
ให้ฉันคุยด้วยได้เปล่า
ตอนนี้กำลังเหงา จะไปหาได้ไหม Hey
แฟนผมน่ะตายละ บอกเลยว่าแฟนผมน่ะตายละ
So you and me สนใจ บอกคุณได้เลยตอนนี้ผมก็ได้นะ
ละคุณจะเอามะ ละคุณจะเอามะ
ให้ลองไปคิดดีๆ ละค่อยโทรกลับมานะ
รู้ว่าเธอน่ะมีแฟนแล้วไง แล้วบอกเธอรึปล่าวว่าเราน่ะสนใจ
ถึงไงเธอมากับเพื่อนจะเป็นสิบเป็นร้อย แต่หัวใจของเราก็อยู่ที่เธอคนเดียว
และอยู่ที่เธอคนเดียว ละไม่มีใครมาเกี่ยว
มองเธอมันจนเพลิน แทบจะไม่อยากเดินไปเยี่ยว
เราผู้ชายไม่อันตราย ลวดลายไม่มากมาย รอยสักก็เต็มตัว แม่เธอไม่ว่าใช่ไหม
ละเธอน่ะคิดยังไง ห๊ะ เธอน่ะคิดยังไง
เธอมีเค้าอยู่แล้วก็ได้แต่ช่างมันไป
ละวันไหนเธอว่างๆ เราค่อยมาเจอกันใหม่
ตีสองตีสามค่อยโทรมานัดกัน aight?
เธอมีแฟนอยู่แล้ว เรามีแฟนอยู่แล้ว
I don’t really give a damn about that aight?
We can meet somewhere tonight?
ได้ไหม เอาไง จัดไป okay ?
เธอก็มีคนของเธอ เราก็อยากจะมีเธอ
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอคิดยังไง
เธอก็มีคนของเธอ เราก็อยากจะมีเธอ
แต่จะบอกรักกันมันคงเร็วเกินไป
อยากให้เธอไปคุย เธอไปคุยกับเค้าก่อน
แล้วค่อยวนกลับมาว่าจะเอายังไง
เธอก็มีคนของเธอ เราก็อยากจะมีเธอ
แต่ถ้าเธอว่าดีเราค่อยเจอกันใหม่เพลง มีแฟนแล้ว
ศิลปิน ปราโมทย์ ปาทาน Ft. UrboyTJ
เนื้อร้อง UrboyTJ (จิรายุทธ ผโลประการ)
ทำนอง UrboyTJ (จิรายุทธ ผโลประการ)
เรียบเรียง UrboyTJ (จิรายุทธ ผมโลประการ)
เธอก็มีคนของเธอ เราก็อยากจะมีเธอ
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอคิดยังไง
เธอก็มีคนของเธอ เราก็อยากจะมีเธอ
แต่จะบอกรักกันมันคงเร็วเกินไป
อยากให้เธอไปคุย เธอไปคุยกับเค้าก่อน
แล้วค่อยวนกลับมาว่าจะเอายังไง
เธอก็มีคนของเธอ เราก็อยากจะมีเธอ
แต่ถ้าเธอว่าดีเราค่อยเจอกันใหม่
ฉันอาจดูไม่ดีเท่าไหร่
แต่เธอเป็นคนที่น่าสนใจ
ฉันสนใจในเธอ
แล้วเธอจะรู้บ้างเปล่า
ถึงเธอจะมีแฟนแล้วไง
ฉันเองก็ไม่ได้สนใจ
ก็ฉันนั้นชอบเธออยู่
I am here for you ไม่มาเพื่อเค้า
เธอก็มีคนของเธอ เราก็อยากจะมีเธอ
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอคิดยังไง
เธอก็มีคนของเธอ เราก็อยากจะมีเธอ
แต่จะบอกรักกันมันคงเร็วเกินไป
อยากให้เธอไปคุย เธอไปคุยกับเค้าก่อน
แล้วค่อยวนกลับมาว่าจะเอายังไง
เธอก็มีคนของเธอ เราก็อยากจะมีเธอ
แต่ถ้าเธอว่าดีเราค่อยเจอกันใหม่
ตอนนี้เธอจะทำอะไร
ตอนนี้อยู่คนเดียวใช่ไหม
ให้ฉันคุยด้วยได้เปล่า
ตอนนี้กำลังเหงา จะไปหาได้ไหม Hey
แฟนผมน่ะตายละ บอกเลยว่าแฟนผมน่ะตายละ
So you and me สนใจ บอกคุณได้เลยตอนนี้ผมก็ได้นะ
ละคุณจะเอามะ ละคุณจะเอามะ
ให้ลองไปคิดดีๆ ละค่อยโทรกลับมานะ
รู้ว่าเธอน่ะมีแฟนแล้วไง แล้วบอกเธอรึปล่าวว่าเราน่ะสนใจ
ถึงไงเธอมากับเพื่อนจะเป็นสิบเป็นร้อย แต่หัวใจของเราก็อยู่ที่เธอคนเดียว
และอยู่ที่เธอคนเดียว ละไม่มีใครมาเกี่ยว
มองเธอมันจนเพลิน แทบจะไม่อยากเดินไปเยี่ยว
เราผู้ชายไม่อันตราย ลวดลายไม่มากมาย รอยสักก็เต็มตัว แม่เธอไม่ว่าใช่ไหม
ละเธอน่ะคิดยังไง ห๊ะ เธอน่ะคิดยังไง
เธอมีเค้าอยู่แล้วก็ได้แต่ช่างมันไป
ละวันไหนเธอว่างๆ เราค่อยมาเจอกันใหม่
ตีสองตีสามค่อยโทรมานัดกัน aight?
เธอมีแฟนอยู่แล้ว เรามีแฟนอยู่แล้ว
I don’t really give a damn about that aight?
We can meet somewhere tonight?
ได้ไหม เอาไง จัดไป okay ?
เธอก็มีคนของเธอ เราก็อยากจะมีเธอ
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอคิดยังไง
เธอก็มีคนของเธอ เราก็อยากจะมีเธอ
แต่จะบอกรักกันมันคงเร็วเกินไป
อยากให้เธอไปคุย เธอไปคุยกับเค้าก่อน
แล้วค่อยวนกลับมาว่าจะเอายังไง
เธอก็มีคนของเธอ เราก็อยากจะมีเธอ
แต่ถ้าเธอว่าดีเราค่อยเจอกันใหม่
MORE INFO.
www.facebook.com/whitemusicrecord
www.facebook.com/Pramote.Pathan
IG @Whitemusicrecord
IG @Oatpramote
UrboyTJ : วายร้าย ( Villain ) Ft. SD Thaitanium – Official MV
UrboyTJ : วายร้าย ( Villain ) Ft. SD Thaitanium Official MV
Produced by UrboyTJ
Arranged by UrboyTJ
Composed by UrboyTJ
Lyrics by UrboyTJ
Guitar by Chonlatas \u0026 Lewandof_Ski
Fanpage urboytj
Instagram urboytj
Work Contact
[email protected]
0855554764 K.Oang
Lyrics
Verse 1
คุณหนะนางเอก
ผมหนะตัวร้าย
ตอนจบ คุณก็รู้ ผมก็ต้องตาย
กลับตัวกลับใจมันก็คงไม่ทัน
ถ้าผมเป็นคนดี หนังเรื่องนี้ก็คงไม่มันเดะ
เอาเดะ
ยอมตายเพื่อคุณ ทำไงได้ ผมก็ได้แค่นี้อะเดะ
เนี้ยอะเดะ
Spiderman กับ mary jane ก็ต้องอยู่ด้วยกันอะเดะ
Pre Hook
เธอมีโลกของเธอ ฉันมีโลกของฉัน
คงจะไม่มีวันที่เราจะได้รักกัน
นิยายขายดี ก็ต้องมีวายร้าย
และฉันก็รู้ดี
Hook
ฉันมันแค่วายร้าย เป็นได้ก็แค่นั้น
จะสู้จะรักแค่ไหนก็คงต้องแพ้ต้องเจ็บใจไปทุกครั้ง
ยอมเป็นวายร้ายแค่เพียงได้มองหน้าเธอ
สุดท้ายฉันก็ต้องตาย
ก็มันเป็นแค่นิยาย จบแล้วสำหรับวายร้ายอย่างฉัน
Verse 2
ผมคือ Darth Vader คุณคือ Skywalker
ผมคือ Stormtrooper คุณคือ Rebelion
เส้นทางของเราไม่มีวันมาประจบกัน
เหมือนกับสายน้ำที่ไม่มีวันย้อนกลับมาหากันอีก
Okay ตัวร้ายกับนางเอก Baby
ผมเลวและผมก็เกเร
Anyway we’re in different world girl
Pre Hook, Hook.
SD rap
โอย กูหนะโครตวายร้ายละจะโทษใครได้
But u ชอบ my style gangster
ไม่ต้องทาย อุยตาย look into my eyes
ตาแดง smoking j till I die
Baby don’t cry ถ้าผมหนะใจร้าย
U and I จบกันไม่ดีมันน่าเสียดาย
Let me hit u one more time make u smile
จำได้ไหม used to be mine
ก็เนี่ยคือใคร sunny day ไง เธอก็บาย
เอากันง่ายๆ โอย กูจะตาย
ก็เพราะอะไรอะ
Hook.
จะกลับไปดีกับเขาก็บอก – SERIOUS BACON [ Official MV ]
อยู่ข้างเธอได้แค่ชั่วคราวเมื่อเธอเศร้าใจ เพราะรู้อยู่แล้วว่า “เธอดีกับเขาเมื่อไหร่ ฉันก็ต้องไปอยู่ดี…”
“ เพลงนี้เป็นโทนสีอีกเฉดนึงในหมวดเพลงเศร้าของ SERIOUS BACON เล่าผ่านมุมมองของคนที่รู้ว่า ตัวเองเป็นได้แค่ที่พักใจชั่วคราว พอเธอกลับไปดีกับเขา ก็หมดเวลาของเราแล้ว แต่ก็ยังพร้อมจะอยู่ตรงนี้ ให้เธอแวะมาพักใจตลอดอยู่ดี ถ้าใครกำลังรู้สึกแบบนี้ หวังว่าจะใช้เพลงนี้แทนใจได้ และหวังว่าทุกคนจะชอบเพลงนี้น้า ” SERIOUS BACON
_____________________________________
Single : จะกลับไปดีกับเขาก็บอก
Artist : SERIOUS BACON
Label : BOXX MUSIC
Executive Supervisor : Vudtinun Bhirombhakdi
Executive Producer : Chodchapak Pholthanachod
Produced : Chodchapak Pholthanachod
Lyrics : Pemika Jiranaraks
Melody : Pemika Jiranaraks
Arrange : Songmuang Chaiyariti
Musician : Songmuang Chaiyariti
Mixed \u0026 Mastering : Danuphop Kamol
อีกครั้งที่ได้เป็นที่ปรึกษา
เวลาที่เธอทะเลาะกับเขา
คราวนี้เขาไปมองใครหรือเปล่า
หรือมีอะไรที่คิดมากไป
ก็ฉันเป็นคนคอยถาม
จนมันจำเรื่องของเธอกับเขาได้จนขึ้นใจ
แต่เธออยากเล่าอะไรอีกไหม
คอยอยู่ข้างเธอ ในวันที่เขาทำตัวไม่ดี
แล้วเธอก็กลับไปทุกที คราวนี้คงไม่ต่างกัน
จะกลับไปดีกับเขาก็แค่บอก
รู้ตัวตลอด อีกเดี๋ยวก็คงต้องไป
คนอย่างเราทำได้แค่คอยปลอบ
รับฟังตลอด อย่าไปเผลอคิดไกล
เป็นคนสำคัญเมื่อเธอไม่มีเขา
แค่เพียงชั่วคราวเมื่อเธอเศร้าใจ
เธอดีกับเขาเมื่อไหร่ ฉันก็ต้องไปอยู่ดี
กี่ครั้งที่เขาทำตัวใจร้าย
แต่เธอคงให้อภัยใช่ไหม
ต่อให้ต้องเสียน้ำตาเท่าไหร่
แต่เดี๋ยวเธอก็กลับไป
( , )
( ) (จะกลับไปดีกับเขา.. ก็แค่บอกกันมา)
เธอดีกับเขาเมื่อไหร่ ฉันก็ต้องไป..
_____________________________________
AVAILABLE FOR DOWNLOAD : 492 222 328
✭ iTunes \u0026 Apple : Music https://music.apple.com/th/album/1575896856
✭ Spotify : https://open.spotify.com/album/5kEtuZ1KxY8xJRFZ25Xn4H
✭ JOOX : https://www.joox.com/th/album/GFOwXhxdFqLDnFQK1HN2iQ==
✭ TIDAL : https://tidal.com/browse/track/190666050
✭ LINE Melody จะกลับไปดีกับเขาก็บอก Verse : https://melody.line.me/melody/32554?utm_source=copyshare\u0026utm_medium=sharebutton
✭ LINE Melody จะกลับไปดีกับเขาก็บอก Hook : https://melody.line.me/melody/32555?utm_source=copyshare\u0026utm_medium=sharebutton
_____________________________________
ติดตามผลงานของ \”SERIOUS BACON\” ได้ทาง
https://www.facebook.com/boxxmusicofficial
https://www.facebook.com/Seriousbaconband
instagram : boxxmusicofficial
instagram : seriousbaconband
twitter : seriousbaconnn
▶ ติดต่องานจ้าง (โทร) : 062 4949 583, 02 241 4472 ต่อ 6514
▶ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ (โทร) : นัท 083 039 6975
▶ Marketing Campaign (โทร) : แต้ม 081 580 5270
▶ ต้องการ cover เพลงนี้ ส่ง EMail มาได้ที่
: [email protected]
จะกลับไปดีกับเขาก็บอก SERIOUSBACON BOXXMUSIC
ทักก่อนทิ้งก่อน – POTAE 【OFFICIAL MV】
ติดต่องานแสดง ได้ที่ 0892902833 คุณพีท
สามารถติดตามศิลปินได้่ที่
แฟนเพจ Color room https://www.facebook.com/Amarit.Studi…
เพลง ทักก่อนทิ้งก่อน
ศิลปิน POTAE
คำร้อง/ทำนอง พีท โมเดล
เรียบเรียง เป้ วงฟิน / พีท โมเดล
เนื้อเพลง ทักก่อนทิ้งก่อน POTAE COLOR_ROOM
Intro. GmAm /Dm / GmC /F
F. C.
เพิ่งเข้าใจวันนี้ ว่าทำไม ไม่เปิดตัวฉัน
Dm. C
ทำไมไม่ให้สถานะกัน บอกเพียงว่าคบๆไป
F. C.
สักวันก็จะได้รู้ สักวันจะได้เจ้าใจ
Dm. C
วันนี้รู้แล้ว ทำไม เหตุผลที่เป็นแบบนั้น
Bb. Am. Dm
ก็เพราะว่าเธอมีใครอีกคนเก็บซ่อนในใจอยู่
Gm. Bb. C
และวันนี้ที่ฉันรู้ ก็คือวันที่เธอ ไม่เอาฉัน
F. Am. Dm
เธอทักฉันมาก่อน ในวันนั้นเธอเริ่มเกมก่อน
C. Bb. Am. Gm. C
เธอมาบอกรักให้ฉันใจอ่อน จนฉันรักเธอหมดหัวใจ
F. Am. Dm
แล้วเธอก็ตีจาก ไม่ตอบแชท ไม่ยอมรับสาย
C. Bb. Am
เธอก็เปิดตัวกับเขาคนใหม่
Gm. C. F
หลอกให้รอ ให้เสียใจ สุดท้ายฉันก็ไม่ใช่ เธอไม่เอา
Solo. Bb /Am/GmC/F/ BbBbm/AmDm / GmBb/C
📲 ดาวน์โหลดเพลง \”ทักก่อนทิ้งก่อน \” โทร 49227249 ได้ทั้งริงโทน เต็มเพลง และเสียงรอสาย
♫ มีให้โหลดเป็นเสียงเรียกเข้า เสียงรอสาย ผ่านการโทรทางไลน์แล้ว ในไลน์เมโลดี้
► https://melody.line.me/melody/31797
🎧 รับฟังได้แล้วทาง Music Streaming
Youtube Music ► https://music.youtube.com/watch?v=9oBlRoaQVQY
Spotify ► https://open.spotify.com/track/4J2MsLAzEdG9ErTOByTtjj
JOOX ► https://www.joox.com/th/album/_UYQq61fZ1NI3Gg5JCJgjQ==
Apple Music ► https://music.apple.com/th/album/1571166519
Tidal Music ► https://listen.tidal.com/album/187076167/track/187076168
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE
ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ไปคุยกับเขาก่อน