Skip to content
Home » [Update] Sentence (ประโยค) | affirmative sentence คือ – NATAVIGUIDES

[Update] Sentence (ประโยค) | affirmative sentence คือ – NATAVIGUIDES

affirmative sentence คือ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

     เวลาอ่าหนังสือภาษาอังกฤษไม่ว่าจะเป็นหนังสือเรียน หนังสือพิมพ์ เรื่องสั้น นิยายต่างๆ จะพบว่าประโยคอ่านแล้วเข้าใจง่าย แต่บางประโยคก็ยาวจนเข้าใจยาก และบางประโยคเหมือนจะเข้าใจความหมายแต่ก็ไม่สามารถแยกว่า ส่วนไหนเป็นประธาน กริยา และกรรมได้ เนื่องจากความซับซ้อนของประโยคที่ทุกๆ ภาษามีเหมือนกัน ในภาษาไทยจะประกอบไปด้วยประโยคหลายประเภท เช่นเดียวกันกับภาษาอังกฤษ แต่ถ้าลองศึกษาแล้วจะพบว่าไม่ยากอย่างที่คิด

  

Pretest

1.ประโยคที่มารวมกัน โดยไม่ใช้คำเชื่อมพวก and, but, so หรือ or

 

A.  ?            Complex sentence

B.  ?            Compound sentence

C.  ?            phrase

D.  ?            Simple sentence

2.ประโยค Simple sentence มารวมกัน โดยใช้คำเชื่อมพวก and, but, so หรือ or

 

A.  ?            Simple sentence

B.  ?            Complex sentence

C.  ?            clauses

D.  ?            Compound sentence

3.After doing what I could, I calmly awaited the result.

What is “doing what I could” ?

 

A.  ?            sentence

B.  ?            phrase

C.  ?            Gerund

D.  ?            clause

4.Compound sentence คือ อะไร

 

A.  ?            ประโยค Simple sentence มารวมกัน โดยใช้คำเชื่อม relative pronoun

B.  ?            ประโยค Simple sentence มารวมกัน โดยไม่มีคำเชื่อม

C.  ?            ประโยค Simple sentence มารวมกัน โดยใช้คำเชื่อม when, while

D.  ?            ประโยค Simple sentence มารวมกัน โดยใช้เครื่องหมาย semicolon (;)

5.I would not marry you although you were the last man on earth.

What kind of these ?

 

A.  ?            compound sentence

B.  ?            simple sentence

C.  ?            clause

D.  ?            complex sentence

6.He goes to work when her sister is still sleeping.

What is “when her sister is still sleeping” ?

 

A.  ?            phrase

B.  ?            word

C.  ?            sentence

D.  ?            clause

7.Swimming in the lake is fun

What is “Swimming in the lake” ?

 

A.  ?            Complex sentence

B.  ?            Compound sentence

C.  ?            Simple sentence

D.  ?            phrase

8.Where is the new movie being shown ?

 

A.  ?            clause

B.  ?            phrase

C.  ?            word

D.  ?            sentence

9.Simple sentence คือ อะไร

 

A.  ?            ประโยค 2 ประโยคมารวมกัน

B.  ?            ประโยคเพียงประโยคเดียว

C.  ?            ประโยคที่ซับซ้อน

D.  ?            ประโยคแบบง่ายๆ

10.Notwithstanding the bad weather, they arrived on time.

What is “Notwithstanding the bad weather” ?

 

A.  ?            clause

B.  ?            phrase

C.  ?            participle

D.  ?            sentence

 

ประเภทของประโยค

            แบ่งออกเป็นกลุ่มเพื่อง่ายต่อกรวิเคราะห์ประโยค โดยหลักๆ แล้วในภาษาอังกฤษมี อยู่ 3 ประเภท

                    ♦ Simple Sentence (ประโยคความเดียว)

                    ♦ Compound Sentence (ประโยคความรวม)

                    ♦ Complex Sentence (ประโยคความซ้อน)

                    ♦ Compound-Complex Sentence (ประโยคความผสม)

 

1. Simple Sentence(ประโยคความเดียว)

        Simple sentence คือกลุ่มคำที่รวมกันเป็นประโยคที่เรียกว่า Indipendent Clause หมายถึง ประโยคที่มีกริยาเพียงตัวเดียว และเมื่อแปลแล้วจะได้ใจความสมบูรณ์ เช่น

            ¤ Monica plays tennis. ( โมนิก้าเล่นเทนนิส )

               ประโยคนี้มีประธาน 1 ตัว กริยา 1 ตัว และกรรม 1 ตัว เหมือนที่พบทั่วๆไป ซึ่งสังเกตได้ว่า เมื่อแปลแล้วมีใจความสมบูรณ์ ไม่รุ้สึกว่าขาดอะไรไป

            ¤The tourists and their gide are having luch at the Japanese restaurat. ( นักท่องเที่ยวและมัคคุเทศก์ของพวกเขากำลังทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารญี่น )

               ประโยคนี้ยาวกว่าประโยคแรกและเป็น Simple Sentence ซึ่งสังเกตได้จากกริยาว่ามีเพียงตัวเดียวคือ  ส่วนประธานเป็นพหูพจน์คือ มีทั้งนักท่องเที่ยวและมัคคุเทศน์ ส่วนกลุ่มคำที่เหลือเป็นกรรมกับส่วนขยายที่ทำให้ประโยคมีรายละเอียดมากเท่านั้น

              โครงสร้าประโยคมีดังนี้

 

               ตัวอย่างประโยค

                               

The students are happy. นักเรียนเหล่านั้นมีความสุข (ประธาน + กริยา + ส่วนเติมเต็ม)
                                 Sujin bought the clothes. สุจินซื้อเสื้อหลายตัว (ประธาน + กริยา + กรรม)
                                 She is reading. หล่อนกำลังอ่านหนังสือ (ภาคประธาน + ภาคแสดง)
                                 Linda opens the store. ลินดาเปิดห้องเก็บของ (ภาคประธาน + กริยา + กรรมตรง)
                                 I like his idea. ฉันชอบความคิดของเขา (ภาคประธาน + กริยา + กรรมตรง)
                                 The company is big and famous. บริษัทใหญ่และมีชื่อเสียง (ภาคประธาน + กริยา + ส่วนเติมเต็มขยายประธาน)

       สรุปได้ว่า ประโยคความเดียวจะต้องประกอบด้วย 1 ประธาน 1 กริยา นั่นเอง ในส่วนของกรรม ส่วนเติมเต็ม และส่วนขยายอื่นๆนั้นผู้เขียนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ตามความเหมาะสมของแต่ละโอกาส

นอกจากนั้นแล้ว   Simple  Sentence  (ประโยคความเดียว หรือเอกัตถประโยค)  ยังสามารถแบ่งเป็น

ประโยคย่อยๆ ได้อีก 6 รูปแบบ ดังนี้คือ

  1. ประโยคบอกเล่า  ( Affirmative  Sentence)

  2. ประโยคปฏิเสธ ( Negative  Sentence )

  3. ประโยคคำถาม ( Interrogative  Sentence )

  4. ประโยคคำถามเชิงปฏิเสธ (Negative  Question  Sentence)

  5. ประโยคข้อร้องหรือบังคับ ( Imperative Sentence)

  6. ประโยคอุทาน (Exclamation  Sentence)

 

อธิบายเป็นลำดับไปดังนี้

1.ประโยคบอกเล่า  ( Affirmative  Sentence)  ได้แก่  ประโยคที่มีเนื้อความบอกเล่าตามธรรมดา 

ไม่อยู่ในรูปคำถาม  ปฏิเสธ  อุทาน  หรือ ขอร้องและบังคับ 

  ตัวอย่างเช่น

            – I  am  studying  at  a  university  in  Nakornratchasima  province.

            ผมกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา

            – Wat  Isaan  is  located  in  Nakornratchasima  city.

วัดอิสานตั้งอยู่ในตัวเมืองนครราชสีมา

ฯลฯ

2.ประโยคปฏิเสธ ( Negative  Sentence ) ได้แก่  ประโยคที่มีเนื้อความปฏิเสธ

 ตัวอย่างเช่น

– The  Pali  language  is  not  difficult  for  monks.

ภาษาบาลีเป็นภาษาที่ไม่ยากสำหรับพระ

– Thailand  is  not  the  largest  country  in  the  world.

ประเทศไทยไม่ได้เป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ฯลฯ

3.ประโยคคำถาม ( Interrogative  Sentence ) ได้แก่  ประโยคที่มีเนื้อความเป็นคำถาม  เพื่อ

ต้องการทราบคำตอบ  

ตัวอย่างเช่น

            – Are  you  a  monk ?

            ท่านเป็นพระหรือ ?

            – What  is  Buddhism?

            พระพุทธศาสนาคืออะไร?

ฯลฯ

4.ประโยคคำถามเชิงปฏิเสธ (Negative  Question  Sentence) ได้แก่ประโยคที่มีเนื้อความเชิง

ปฏิเสธ    ตัวอย่างเช่น

            – Does  not  she  believe  in  you?

            หล่อนไม่เชื่อคุณหรือ?

            –  Why  do  not  you  do  that  again?

            ทำไมคุณถึงไม่ทำมันอีกครั้ง?

ฯลฯ

5.ประโยคข้อร้องหรือบังคับ ( Imperative Sentence)  ได้แก่  ประโยคที่มีเนื้อความขอร้องหรือ

บังคับให้กระทำ 

ตัวอย่างเช่น

5.1    ประโยคที่มีเนื้อความขอร้อง  เช่น

– I  beg  your  pardon.

ผมขอโทษ

– You  should  follow  my  words.

ท่านควรทำตามคำพูดของผม

5.2    ประโยคที่มีเนื้อความบังคับ  เช่น

– Do  as  my  suggestion.

จงทำตามคำแนะนำของผม

– Open  the  door  now.

            จงเปิดประตูเดี๋ยวนี้

6.ประโยคอุทาน (Exclamation  Sentence) ได้แก่  ประโยคที่มีเนื้อความเปล่ง

อุทานขึ้น  มีทั้ง  ตกใจ  ปะหลาดใจ   เศร้าใจ  ดีใจ  เป็นต้น

   ตัวอย่างเช่น

            How  nice  she  is !

            หล่อนช่างดูดีจริงๆ !

            What  the  hottest  month  it  is!

            มันช่างเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดอะไรเช่นนี้ !

 

                      

2. Compound Sentence (ประโยคความรวม)

       Compound Sentence คือประโยคจากการรวมประโยคเดี่ยวโดยใช้คำเชื่อม ( Coordinator ) ซึ่งประโยคย่อยแต่ละประโยคที่รวมกันนั้น มีศักดิ์ทางไวยกรณ์เท่าเทียมกัน เป็นอิสระจากกัน

 

      Compound   Sentence  แปลว่า  ประโยคความรวมหรืออเนกัตถประโยค  หมายถึง  ประโยคที่มีข้อความ  2  ข้อความมารวมกัน  พูดง่าย ๆ คือ  ประโยคความเดียว 2 ประโยคมารวมกัน แล้วเชื่อมด้วย  co-ordinate  conjunction (ตัวเชื่อมประสาน)  ได้แก่ and, or, but, so, still, yet, etc.  และ  conjunctive  adverb (คำวิเศษณ์เชื่อม) ได้แก่  however, meanwhile, therefore, otherwise, thus, etc.

                      

 

                       ลักษณะโครงสร้างของประโยค

 

 

 

 

 

       

 

 

 

Coordinator ได้แก่
   (1) punctuation
   (2) conjunctive adverb
   (3) coordinate conjunction

1. การเชื่อมประโยคด้วยเครื่องหมายวรรคตอน ( punctuation )
   ประโยคที่เชื่อมด้วย punctuation เป็น Compound Sentence เสมอ เครื่องหมายที่ใช้ได้แก่

   semicolon ( ; )
   colon ( : )
   dash ( – )
   comma ( , )

 การใช้ semicolon ( ; ) เชื่อมประโยค

การใช้ semicolon ก็เช่นเดียวกันกับการขึ้นต้นประโยคใหม่ เพียงแต่ผู้เขียนยังไม่ต้องการขึ้นต้นประโยคใหม่ เพราะใจความยังต่อเนื่องคาบเกี่ยวกันอยู่ และอาจใช้ period ( . ) แทน semicolon เพื่อขึ้นประโยคใหม่เลยก็ได้ เช่น

  John was sick; hedidn’t go to school.
  = John was sick. He didn’t go to school.

 การใช้ colon (:) และ dash ( – ) เชื่อมประโยค

ใช้ colon และ dash เมื่อประโยคหลังมีผลโดยตรงมาจากประโยคข้างหน้า เช่นในประโยคตัวอย่างข้างบน ถ้า John ไม่ได้ไปโรงเรียนมีผลมาจากการที่เข้าไม่สบาย ก็อาจใช้ colon หรือ dash แทนได้ เช่น

  John was sick: he didn’t go to school.
  =John was sick – he didn’t go to school.
  =John was sick; he didn’t go to school.
  =John was sick. He didn’t go to school.

 การใช้ comma ( , ) เชื่อมประโยค

   อาจใช้ comma เชื่อมประโยคได้ ในกรณีที่เป็นประโยคซึ่งกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ต่อเนื่อง หรือคาบเกี่ยวกัน แทนที่จะขึ้นต้นด้วยประโยคใหม่ซึ่งจะทำให้ขาดความต่อเนื่อง เช่น

   I looked round. Tom was reading, Linda was writing, John was sleeping.
ประโยคนี้ถ้าใช้ period แทน comma ก็จะได้ความหมายเดียวกัน เพียงแต่ขาดความรู้สึกต่อเนื่องเท่านั้น

 

 

3.Complex Sentence (ประโยคความซ้อน)

 

      Complex Sentence (ประโยคความซ้อน)

คือ ประโยคความซ้อนหรือประโยคที่เกิดจากประโยค 2 ประโยค แต่ 2 ประโยค มีความสำคัญไม่เท่ากัน

                      อนุประโยคหลักเรียก Main Clause หรือ  Principal Clause

                      อนุประโยครองเรียก Subordinate Clause ยกตัวอย่างเช่น

                      John is talking with the man who ants to meet your father.

                      John is talking with the man เป็นประโยคหลัก

                      Who wants to meet your father เป็นประโยครอง

      

        การรวมประโยคให้เป็น Complex Sentence คือ ประโยค Simple Sentence มารวมกัน โดยใช้คำเชื่อมที่ไม่ใช่กลุ่มคำของ and, but, or, so เช่น when, while, until, as soon as, …

                       1. Main clause (Indepent clause) คือ ประโยคที่อยู่ลำพัง โดยมีความหมายครบถ้วนในตัวเองได้

                      2. Subordinate clause (Dependent clause) คือ ปรพโยคที่อยู่ลำพังแล้วความหมายจะไม่ครบถ้วน ปกติแล้ว Subordinate clause มักเป็นประโยคที่อยู่หลัง/กับคำเชื่อมต่างๆ  ทำหน้าที่เหมือน adverb, adjective, noun ซึ่งเรียกว่าประโยค adverb clasue, adjective clause หรือ noun clause   

 

                      เช่น => He is very lazy.   This is certain.

                                       เขาขี้เกียจมาก              นี้เป็นสิ่งที่แน่นอน

                     รวมแล้ว: It is certain that he is very lazy.

                                        เป็นสิ่งที่แน่นอนที่ว่าเขาเป็นคนเกียจคร้านมาก

      

                            =>This is the postman.   

                                        นี้คือบุรุษไปรษณีย์                               

                                  The postman brings us letter every day.

                                         บุรุษไปรษณีย์นำจดหมายมาส่งให้เราทุกวัน

                       รวมแล้ว: This is the postman, who brings us letter every day.

                                           นี้คือบุรุษไปรษณีย์ผู้ซึ้งนำจดหมายมาให้เราทุกวัน

 

4. Compound – complex sentence

           ใน Compound Complex Sentence จะต้องมี Main Clause มากกว่า 1 และจะต้องมี Subordinate Clause ตั้งแต่ 1 Clause ขึ้นไป คือประโยคที่มีตั้งแต่สอง independent clauses ขึ้นไป และมี dependent clauses ตั้งแต่หนึ่ง clause ขึ้นไป กล่าวง่าย ๆ คือมีทั้งประโยค compound และ complex ปนกันอยู่

   – Venerable  Kitti  can  not  remember  whose  book  it  is, so  he  asks  his  friend.
       ท่านกิตติไม่สามารถจำว่าหนังสือนี้เป็นของใครได้ ดังนั้นเขาจึงถามเพื่อนของเขา
  – Venerable  Manop  does  not  understand  what  teacher  explains, yet  he  writes  it  down  in  his  note  book.
       ท่านมานพไม่เข้าใจในสิ่งที่ครูกำลังอธิบาย ถึงกระนั้นก็ตามเขาก็ได้จดมันไว้ในสมุดจดบันทึกของเขา

 

 

P

rost test

1.ประโยคที่มารวมกัน โดยไม่ใช้คำเชื่อมพวก and, but, so หรือ or

 

A.  ?            Complex sentence

B.  ?            Compound sentence

C.  ?            phrase

D.  ?            Simple sentence

2.ประโยค Simple sentence มารวมกัน โดยใช้คำเชื่อมพวก and, but, so หรือ or

 

A.  ?            Simple sentence

B.  ?            Complex sentence

C.  ?            clauses

D.  ?            Compound sentence

3.After doing what I could, I calmly awaited the result.

What is “doing what I could” ?

 

A.  ?            sentence

B.  ?            phrase

C.  ?            Gerund

D.  ?            clause

4.Compound sentence คือ อะไร

 

A.  ?            ประโยค Simple sentence มารวมกัน โดยใช้คำเชื่อม relative pronoun

B.  ?            ประโยค Simple sentence มารวมกัน โดยไม่มีคำเชื่อม

C.  ?            ประโยค Simple sentence มารวมกัน โดยใช้คำเชื่อม when, while

D.  ?            ประโยค Simple sentence มารวมกัน โดยใช้เครื่องหมาย semicolon (;)

5.I would not marry you although you were the last man on earth.

What kind of these ?

 

A.  ?            compound sentence

B.  ?            simple sentence

C.  ?            clause

D.  ?            complex sentence

6.He goes to work when her sister is still sleeping.

What is “when her sister is still sleeping” ?

 

A.  ?            phrase

B.  ?            word

C.  ?            sentence

D.  ?            clause

7.Swimming in the lake is fun

What is “Swimming in the lake” ?

 

A.  ?            Complex sentence

B.  ?            Compound sentence

C.  ?            Simple sentence

D.  ?            phrase

8.Where is the new movie being shown ?

 

A.  ?            clause

B.  ?            phrase

C.  ?            word

D.  ?            sentence

9.Simple sentence คือ อะไร

 

A.  ?            ประโยค 2 ประโยคมารวมกัน

B.  ?            ประโยคเพียงประโยคเดียว

C.  ?            ประโยคที่ซับซ้อน

D.  ?            ประโยคแบบง่ายๆ

10.Notwithstanding the bad weather, they arrived on time.

What is “Notwithstanding the bad weather” ?

 

A.  ?            clause

B.  ?            phrase

C.  ?            participle

D.  ?            sentence

 

Identify each of the following sentences as simple, compound, complex or compound-complex.

 

  • Mary is clever and diligent.

  • The little girl wants to go home now.

  • Please tell me which car is yours.

  • Though John is poor, he is happy.

  • The old lady who visited us last week is my grandmother.

  • My sister works, but I play.

  • You can go to the library now or next week.

  • The man, who bought your house, is my manager.

  • Tom had lost his fountain pen which his father gave it to him yesterday, so he couldn’t face with him again.

  • I can’t remember what my boss said, but I will ask him.

  • Edward handled the gardening, and Anne took care of the cooking.

  • I have black hair, but my sister has brown hair.

  • After I had gone to bed, my husband watched television for a while.

  • The house where Shakespeare was born burned down last year, but many tourists still visit that town.

  • Last year Bill went to New York for an international conference on global warming, but he didn’t have time to visit his cousins in Boston.

  •  

     

     

     

    Reference

    http://www.tz-nu.com/index.php?mo=5&qid=224363

    http://uman.spaces.live.com/blog/cns!463CE8902B40E19B!396.entry

    http://lmsonline.nrru.ac.th/board/index.php?topic=253.0

    e-book.ram.edu/e-book/t/TE500(51)/TE500-9.pdf –

    http://blog.eduzones.com/yimyim/3354

    http://pioneer.chula.ac.th/~rantikar/Grammar.html

    http://www.skn.ac.th/skl/skn422/gramma/t1.htm

    http://www.kw.ac.th/pitak/k3_online/compound1.html

    http://elearning.spu.ac.th/allcontent/eng412/eng412/Lesson%201.htm

    http://school.obec.go.th/thongnian/st_page/compound_s.htm

    อิสรีย์ แจ่มขำ และ ดุจเดือนกลั่นคูวัน. ไวยากรณ์อังกฤษฉบับสมบูรณ์2. พิมพ์ครั้งที่1. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์เอ็มไอเอส, 2551.

     

    Share this:

    Like this:

    Like

    Loading…

    [NEW] interrogative sentence (หลักการสร้างประโยคคำถาม) | affirmative sentence คือ – NATAVIGUIDES

    interrogative sentence (หลักการสร้างประโยคคำถาม)

    ประโยคคำถามในภาษาอังกฤษมีโครงสร้างที่ไม่เหมือนประโยคบอกเล่า ดังนั้นเวลาจะพูดหรือจะเขียนแต่ละทีต้องมานั่งนึกว่าอะไรมาก่อนมาหลัง ประธาน กริยา กรรม วางยังไง ประโยคคำถามในภาษาอังกฤษมี 2 ประเภท คือ

    1. Yes/No Question
    2. Wh-Question

    1. Yes/No Question – เหตุใดจึงเรียกว่าเป็นคำถามแบบ yes/no question? ก็เพราะมันเป็นคำถามแบบที่ต้องตอบว่า yes หรือ no   หลักการง่ายๆในการสร้างประโยคคำถามแบบนี้คือ เอากริยาช่วย (Helping verb) มาขึ้นต้นประโยค ไม่ว่าในประโยคนั้นจะมีกริยาช่วยอะไรเอามันมาไว้ข้างหน้าประโยคก่อนเลย แล้วที่เหลือก็เรียงประธานและกริยาแท้ตามลำดับ จบท้ายด้วย question mark (?)

                        กริยาช่วย + ประธาน + กริยาแท้……..?

    หลักการนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับทุก Tense เช่น Continuous tense ก็จะมี Verb to be เป็นกริยาช่วย

    • Is mom cooking dinner?    (present continuous tense)
    • Are you wearing sunglasses? (present continuous tense)
    • Was she working when you came?         (past continuous tense)

    หรือ perfect tense ก็จะมี verb to have เป็นกริยาช่วย

    • Have you ever been to Korea?     (Present perfect tense)
    • Had she called you before she left for Tokyo?   (Past perfect tense)

    แต่สำหรับ simple tense นั้น ในประโยคบอกเล่าจะไม่ปรากฏกริยาช่วยใดๆ แล้วจะหากริยาช่วยได้จากที่ไหน? Tense นี้มีความพิเศษหน่อยคือจะเอา Verb to do เข้ามาช่วย ฉะนั้นเวลาตั้งเป็นคำถามก็ต้องเอา verb to do (do, does, did) ขึ้นต้น ถ้าเป็น present tense ก็ใช้ do, does แต่ถ้าเป็น past tense ก็ใช้ did เช่น

    • Do they take writing course this semester?
    • Does she work as an assistant of Prof. Harisson?
    • Did he go with you last night?

    คำถามแบบ Yes/No question แน่นอนว่า เวลาตอบก็ต้องตอบ yes หรือ no เช่น

    • Have they broken the window?
    • Yes, they have. (ย่อมาจาก Yes, they have broken the window.)
    • No, they haven’t. (ย่อมาจาก No, they haven’t broken the window.)

    หรือในบางประโยคที่ตอง No ก็อาจจะพูดประโยคที่ถูกต้องไปเลยก็ได้ เช่น

    • Are you Matt?         No, I’m Martin.

    ** หลักการง่ายๆในการตอบแบบสั้นคือ ให้ตอบ Yes หรือ No แล้วตามด้วยสรรพนามที่แทนประธานในประโยคคำถาม แล้วตามด้วยกริยาช่วยและถ้าคำตอบเป็น No ก็เติม not ไปที่หลังกริยาช่วย เช่น

    • Are the students wearing the scout uniform?
    • Yes, they are. / No, they aren’t.
    • Does she like eating spaghetti?
    • Yes, she does. / No, she doesn’t.

    2. Wh-quesiton – คือคำถามที่ขึ้นต้นด้วย Wh-question words (What, When, Where, Why, Whose, Who, Which และ ตระกูล How เช่น How old, How long, How much, How many, etc.) ประโยคคำถามแบบ Wh-question นี้ จะเป็นการถามเพื่อขอข้อมูล

    โครงสร้างประโยคก็เหมือน Yes/No question เพียงแต่วาง Wh-question ไว้ข้างหน้าสุด หน้ากริยาช่วย แล้วตามด้วยประธานและกริยาหลัก ตามลำดับ

                        Wh-question + กริยาช่วย + ประธาน + กริยาแท้….?

    ตัวอย่างประโยคคำถามแบบนี้คือ

    • Where does your brother work?
    • What have you done these days?
    • How long will you stay here?
    • What movie were you watching last night when I called?

    มีข้อควรระวังและข้อเสนอแนะอยู่สองสามข้อในการสร้างประโยคคำถามคือ ประโยคคำถามที่มี do/does/did เป็นกริยาช่วยนั้น กริยาแท้ที่ตามมาในประโยคจะต้องเป็นรูป base form คือรูปธรรมดา ไม่ผัน ไม่เติม s/es และอีกข้อหนึ่งคือ Wh-question words ใดที่ต้องมีนามตามมาด้วย เช่นในความหมายว่า หนังสืออะไร หนังสือของใคร หนังสือเล่มไหน ให้วางนามต่อท้าย Wh-question words นั้นได้เลย เช่น what book, whose book, which book แล้วค่อยตามด้วยโครงสร้างที่เหลือ เช่น

    • What book are you reading?
      คุณกำลังอ่านหนังสืออะไร


    VEERB TO BE Positive and negative sentences – Easy English Lesson


    Verb to be positive and negative sentences Easy English Lesson

    I am a teacher of English at a highly appreciated school and doing the job I love.
    Could you please subscribe to my channel for support?
    Thanks in advance.
    INDEX OF ONLY GRAMMAR EXERCISES:
    amisare : https://youtu.be/TJe9YlxDkpg?list=PLPA3mn3c0LvAJUIz5shvc7uh5EvyL6E8j
    aanthe: https://youtu.be/CvUovAi9eQU?list=PLPA3mn3c0LvAWO3doyXt9pJjmpweIIOrk
    CanCan’t: https://youtu.be/ZR3L64YJawg?list=PLPA3mn3c0LvC_CgmxjmjiGs9Q2iR8fE8H
    Comparatives Superlatives (goodbetter best): https://youtu.be/PD9k0KXmIHI?list=PLPA3mn3c0LvDy8BXiBkPaX9CnbMHTxJp
    Countable Uncountables: https://youtu.be/2nSIPl9xHM?list=PLPA3mn3c0LvDX4yNv9tLTQY6QxChSflng
    Gerunds Infinitives (ingto..): https://youtu.be/xLsODIzAfcI?list=PLPA3mn3c0LvDaZb8XVjbhQ0K0TYFvI64b
    Conditionals (if): https://youtu.be/xJX1RsI3H1g?list=PLPA3mn3c0LvCqOBtIdkZhP4lk70bTbaGc
    How much How many: https://youtu.be/uFH3hukwycs?list=PLPA3mn3c0LvDPAQ7b6HUKHdQ_vfS63kV
    Personal Pronouns (I you we they …) : https://youtu.be/OMzfakpnSBw?list=PLPA3mn3c0LvCuIwCsKhMv2eHJgOctLzkj
    Must Mustn’t: https://youtu.be/Y8pHGxtCYqQ?list=PLPA3mn3c0LvAi9yOBGNZCRmIBfRue7b5
    MyYourHisHer …: https://youtu.be/C1tu_5wSY?list=PLPA3mn3c0LvADy_jBrpqGQqA1sCb0uDJa
    MyselfYourselfHimself …: https://youtu.be/V8tjczMyzeY?list=PLPA3mn3c0LvCU87nNSJ3o5hFDnFgOERrH
    Numbers: https://youtu.be/iv64tlQmB2A?list=PLPA3mn3c0LvD9W4Eise8pIScqyGJZGLR
    Phrasal Verbs (look afterlook into): https://youtu.be/rz9jPUtuR4Q?list=PLPA3mn3c0LvCWXeWrQjvGrkYcvlIuZ1eN
    Prepositions (INONAT … / level A): https://youtu.be/FT2m4KNP0Y?list=PLPA3mn3c0LvAmZiIFSrrnbPHJNEqjfKPh
    Prepositions (IN ON AT… – Level B(: : https://youtu.be/Tsl4cLvU6_Y?list=PLPA3mn3c0LvDahgKbmb8W2XLSVLePfTXM
    Passive (was doneis being done …) : https://youtu.be/vuMmpLqgCus?list=PLPA3mn3c0LvCLk0VDDKuUESXcNk74tdm
    Relatives (whowhichthat): https://youtu.be/mQLPxvQLg7c?list=PLPA3mn3c0LvAEyZFOgCjnYBzRlYQ8F5en
    Since For: https://youtu.be/m3p8mrdH2GI?list=PLPA3mn3c0LvAy1Hy7bQzcdJhYOGz67Wht
    Singular Plurals (boyboys): https://youtu.be/jpmg3FcJEw0?list=PLPA3mn3c0LvBbk5WhASEEJXMN40BHpRL
    Some Any: https://youtu.be/fQiocR7RjTc?list=PLPA3mn3c0LvDCHvDL5S_Iux202xbk2eY
    So Such: https://youtu.be/zMlmuoh_Cpc?list=PLPA3mn3c0LvBI7V8xMfLfz1aeyQMuwieR
    SomebodySomethingAnybodyAnything …: https://youtu.be/g95WFsIfS40?list=PLPA3mn3c0LvDux18YfBTRuX8O5scDPFW
    Tenses (Simple): https://youtu.be/TsUf7wDzBsg?list=PLPA3mn3c0LvBbVuN8DgikBUwicZ65Hspy
    Tenses: (Continuous): https://youtu.be/k9ukLTPfDXA?list=PLPA3mn3c0LvAbYntnYRoSGlIesKWdkXCG
    Tenses (All mixed): https://youtu.be/J4gemTCJaWg?list=PLPA3mn3c0LvCVOqCl28Qc5VjEnVZ6meA
    Test your grammar: https://youtu.be/G9_Hc6LQsA0?list=PLPA3mn3c0LvBd4MEEvMwXAwLspLs_9DVx
    Used To: https://youtu.be/szbvRzIr9eU?list=PLPA3mn3c0LvBiqVJY83KPBvbn0zV12Je0
    What time is it?: https://youtu.be/IABUhw2m4rg?list=PLPA3mn3c0LvBdRe0dEZ1fphpzev7QW5wY
    Mixed Grammar Topics: https://youtu.be/hzv30TesiUo?list=PLPA3mn3c0LvDzIcPWypZJB6Q38JnOGHpP
    INDEX OF SKILLS (ListeningReading Watching WritingSpeaking)
    LISTENING / Level A: https://youtu.be/MOijwxQvsfc?list=PLPA3mn3c0LvDibX0JZT_1PmsV4E_U1CZe
    LISTENING / Level B: https://youtu.be/3m3sOhtdkkI?list=PLPA3mn3c0LvCZvVTeFFRrKnBsSVBNQvm
    PRONUNCIATION: https://youtu.be/k2G5t0S55Pg?list=PLPA3mn3c0LvCltK7XHJQM8wHTZSQKArkp
    READING / Level A: https://youtu.be/jyDLF5DESA?list=PLPA3mn3c0LvCywqc064zIn__ntoXHwbT5
    READING / Level B: https://youtu.be/YJYwQxjrKz4?list=PLPA3mn3c0LvDfGGzAwULtjCTiIqEFYH5A
    READING / Level C: https://youtu.be/IcByiD6dEWw?list=PLPA3mn3c0LvB3cMzCN5uqMAz0LEfScKUi
    SCHOOL SONGS: https://youtu.be/UIAJoY_ueOE?list=PLPA3mn3c0LvDBIkVkaqQ2f4Do65K1wzA
    SPEAKING: https://youtu.be/WR4xrDmsnU?list=PLPA3mn3c0LvAxp7UFMGUvl21W4QFiS08p
    WATCHING / Level A: https://youtu.be/VwPRjOU0lbE?list=PLPA3mn3c0LvD6vMPECumADnwDTG6WjqBy
    WATCHING / Level B: https://youtu.be/KZXfAbN0QcM?list=PLPA3mn3c0LvCEohXZqgtIVNmrSEVw0Hl6
    VOCABULARY / Level A: https://youtu.be/9ZelbpCd95U?list=PLPA3mn3c0LvA4wBXNwOSdPIlynApqSdGp
    VOCABULARY / Level B: https://youtu.be/Fz5Ljxztkik?list=PLPA3mn3c0LvCxYiIZNDZ4AUa0eHvWgeV8
    VOCABULARY / Level C: https://youtu.be/srOZigWIvUQ?list=PLPA3mn3c0LvDssIrkXf3etNuUIdrDlGEB
    WRITING / Level AB: https://youtu.be/1Z1Q8fAOclw?list=PLPA3mn3c0LvCA8w76FDkSzl_JCmeQ1lo

    นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

    VEERB TO BE Positive and negative sentences - Easy English Lesson

    ติว TOEIC Grammar : Subject-Verb Agreement คืออะไร? จำยังไงไม่ให้ลืม!


    ✿ ติวสอบ TOEIC® เริ่มจากพื้นฐาน เทคนิคแกรมม่า แนวข้อสอบ TOEIC® ล่าสุด! ✿
    👉 ทดลองติวฟรี! ➡️ https://bit.ly/2wR4Gmu
    แกรมม่า TOEIC เรื่อง SubjectVerb Agreement นี้ หลายคนสับสนมาก จะเติม หรือไม่เติม s ดี?
    คลิปนี้ครูดิวมีคำตอบ พร้อมเทคนิคจำง่ายๆ มาให้ค่าาา (เต้นตามครูดิวไปด้วยนะคะ ^^)
    ✿ คอร์สครูดิว ติวสอบ TOEIC® มีอะไรให้บ้าง? ✿
    ✅ติวเทคนิคสอบ TOEIC® รวม Grammar ที่ใช้สอบ ครบถ้วน สอนจากพื้นฐาน เรียนได้ทุกคนแน่นอน
    ✅เก็งศัพท์สอบ TOEIC® ออกข้อสอบบ่อย ๆ ให้ครบ ไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งรวบรวมเอง
    ✅ ติวข้อสอบ TOEIC® ล่าสุด ทั้ง Reading และ Listening
    ✅สามารถสอบถามข้อหรือจุดที่สงสัยได้ตลอด
    ✅การันตี 750+ (ถ้าสอบแล้วไม่ถึง สามารถทวนคอร์สได้ฟรี)
    📣 ถ้าไม่อยากพลาดคลิปดีๆแบบนี้ อย่าลืมกด ❤️ Subscribe ❤️กันนะคะ

    ติว TOEIC Grammar : Subject-Verb Agreement คืออะไร? จำยังไงไม่ให้ลืม!

    Affirmative Sentence | Transformation of Sentences | Make it Affirmative | with Examples |


    Transformation of sentence
    Negative to Affirmative…. watch full video….
    Negative Sentence | Transformation of Sentences | Make it Negative |
    https://youtu.be/HTBk1BVV2o
    Tenses in English Grammar with Examples | Present Tense | Simple Present | Present Conti. | Part 1
    https://youtu.be/rValmXxLD7M
    Tenses | English Grammar with Examples | Past Tense | Simple Past | Past Conti | Past Perfect Part2
    https://youtu.be/s0CMWHBmW7U
    Tenses with Examples | Future Tense | Simple Future | Future Conti | Future Perfect | Part3
    https://youtu.be/NgHVqixyotg
    We all know that tenses are really very important for English Grammar. so here they are…….just go through full video…..
    like======== share====== subscribe
    Thank you for watching…..
    keep supporting….
    MakeitAffirmative
    KindsofSentences

    Affirmative Sentence | Transformation of Sentences | Make it Affirmative | with Examples |

    L-37।। Present perfect tense।। Affirmative sentence@Shakti Knowledge Point


    Affirmative sentence Present perfect tense
    @Shakti Knowledge Point
    ____________________________________________
    You can also watch following video
    Future continuous (double interrogative)
    https://youtu.be/OdrsKhMM3c
    ____________________________________________
    Notice writing format and trick to draft notice
    https://youtu.be/JrvmgpUQdro
    ____________________________________________
    सभी tense की सहायक क्रियाएं (Helping verbs)
    https://youtu.be/IvZPnad2IJ
    ____________________________________________
    verb के form याद करने की ट्रिक
    https://youtu.be/qCghjhdSmc
    ___________________________________________
    Transformation of tense part1
    https://youtu.be/0XkiaH0aKzQ
    ____________________________________________
    Transformation of sentences part2
    https://youtu.be/xeqbMnCOknU
    ____________________________________________
    transformation of tense part3
    https://youtu.be/tSVKEBQfppE
    ____________________________________________
    transformation of tense part4
    https://youtu.be/hrGkNHy9crE
    OTHER VIDEOS OF TENSE
    Future continuous (interrogative negative)
    https://youtu.be/X2zCDXhchUM
    ____________________________________________
    future continuous (interrogative)
    https://youtu.be/QH8XTONRN0k
    ____________________________________________
    future continuous (negative sentence)
    https://youtu.be/q6V41IeI3YU
    ____________________________________________
    future continuous (affirmative sentence)
    https://youtu.be/Lb5cuEux0sE
    ____________________________________________
    past continuous (interrogative sentence)
    https://youtu.be/LOEv3Ph3ZWk
    ____________________________________________
    past continuous (negative sentence)
    https://youtu.be/e0ezaxeTnNA
    ____________________________________________
    Past continuous (affirmative)
    https://youtu.be/MV0rW0VPZQk
    ____________________________________________
    Present continuous (Double interrogative)
    https://youtu.be/h4ywGrLvsdM
    ____________________________________________
    Present continuous (interrogative negative)
    https://youtu.be/ryKgSEORzM
    ____________________________________________
    Present continuous (Interrogative negative)
    https://youtu.be/ryKgSEORzM
    ____________________________________________
    Present continuous (Negative sentence)
    https://youtu.be/Dr83k0xKbf4
    ____________________________________________
    Present continuous tense( Affirmative)
    https://youtu.be/Jz9Jdqe8a3o
    ____________________________________________
    Use of SOME and ANY
    https://youtu.be/SmL5hNdIlm8
    ____________________________________________
    Much और Many के प्रयोग में अंतर
    https://youtu.be/7fkQ5G91cmo
    ____________________________________________
    Future indefinite tense (affirmative)
    https://youtu.be/Cj9XNfi6bFc
    ____________________________________________
    Future indefinite tense (Negative sentence)
    https://youtu.be/k1yNydUyaiM
    ____________________________________________
    Future indefinite tense (interrogative sentence)
    https://youtu.be/BgNGEkrsspM
    ____________________________________________
    Future indefinite tense (interrogative negative)
    https://youtu.be/JHz21Mg82
    ____________________________________________
    past indefinite tense (affirmative sentence)
    https://youtu.be/D00JsSe1QWo
    ____________________________________________
    past indefinite tense (Negative sentence)
    https://youtu.be/I2ezd86wyPc
    ____________________________________________
    past indefinite tense ( interrogative sentence)
    https://youtu.be/jAqAJXhkPag
    ____________________________________________

    past indefinite tense (Interrogative negative)
    https://youtu.be/SWC68YM2ER0
    ____________________________________________
    past indefinite tense (double interrogative)
    https://youtu.be/XWr22Q7Oe7U
    ____________________________________________
    Tense and it’s types
    https://youtu.be/Yq_e1wwnRfc
    ____________________________________________
    Learn present Indefinite tense (affirmative \u0026 negative)
    https://youtu.be/zLZtRnS2oBU
    ____________________________________________
    Present Indefinite Interrogative sentence link
    https://youtu.be/3LAwkVWYPjg
    ____________________________________________
    interrogative negative sentence in present indefinite tense
    https://youtu.be/9C_TDRjfyf4
    ____________________________________________
    Present indefinite special Interrogative sentence
    https://youtu.be/5x0Dolc1tpg
    ____________________________________________
    If you like the video, please like and share this video at least 2 friends or your youngers so they also got benefit from here.
    and if you have any suggestion and query regarding the topics or channel, don’t hesitate to comment.

    tense_in_hindi
    special_interrogative_future_continuous
    future_continuous_tense_in_hindi
    special_interrogative_sentence

    L-37।। Present perfect tense।। Affirmative sentence@Shakti Knowledge Point

    Transformation of Affirmative Sentences into Negative sentences (English Grammar)#EnglishForLearners


    Transformation of Sentence :How to change a Negative into Affirmative Sentence : English Grammar
    https://youtu.be/juCBfmP3WNw
    For PDF File:
    https://englishforlearner.com/transformationofsentence/
    Transformation of Affirmative Sentences into Negative sentences ( English Grammar)EnglishForLearners
    https://youtu.be/UHBkuIL91k0
    How to change Affirmative Sentence Into Negative Sentence Without changing Meaning English Grammar
    https://youtu.be/jR1wNZ_xhhk
    For More Information Visit My Website :
    https://englishforlearner.com
    My Educational Mobile App :
    https://play.google.com/store/apps/details?id=com.englishlearning.activity
    My Facebook Page :
    https://www.facebook.com/bhalerao963/
    My Instagram page :
    https://www.instagram.com/ravindra1bhalerao/
    My Twitter Page:
    https://twitter.com/bhalera963

    Transformation of Affirmative Sentences into Negative sentences (English Grammar)#EnglishForLearners

    นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

    ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ affirmative sentence คือ

    Leave a Reply

    Your email address will not be published. Required fields are marked *