he แปล-ว่า: คุณกำลังดูกระทู้
Pronoun เป็นหัวข้อหนึ่งในภาษาอังกฤษที่สำคัญมาก เพราะเป็นสิ่งที่ใช้บ่อยและเป็นพื้นฐานในการเรียนแกรมม่าเรื่องอื่นๆ
ในบทความนี้ ชิววี่จะมาอธิบายเกี่ยวกับ pronoun ว่ามันคืออะไร มีการใช้อย่างไร และมีตัวอย่างประโยคอะไรบ้าง ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย
Table of Contents
Pronoun คืออะไร
Pronoun (คำสรรพนาม) คือคำที่ใช้แทนคำนาม เพื่อความสะดวกและความกระชับในการใช้ภาษา อย่างเช่นคำว่า I, you, he, she, it, we, they, everyone, someone เป็นต้น
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพเช่น
John is my friend. He lives in the same town with me.
จอห์นเป็นเพื่อนฉัน เขาอาศัยอยู่ในเมืองเดียวกันกับฉัน
สังเกตว่า เราจะไม่ใช้ John ซ้ำในประโยคที่ 2 แต่จะเปลี่ยนไปใช้ he แทน คำว่า he ในที่นี้ก็คือ pronoun ซึ่งเป็นคำที่ใช้แทนคำนาม John นั่นเอง
ในภาษาอังกฤษ เมื่อเรากล่าวซ้ำถึงคำนามใด หรือเมื่อเรากล่าวถึงสิ่งที่ทั้งผู้พูดและผู้ฟังรู้กันอยู่แล้วว่าหมายถึงสิ่งไหน เราจะเปลี่ยนไปใช้ pronoun แทน
ตัวอย่างคำ pronoun มีอะไรบ้าง
Pronoun พื้นฐาน 7 ตัว
Pronoun พื้นฐานจะมีอยู่ 7 ตัวคือ I, you, he, she, it, we, they โดยทั้ง 7 ตัวนี้จะมีความพิเศษตรงที่ว่ามันมีหลายรูป เราจะต้องเลือกใช้รูปให้ตรงกับหน้าที่ในประโยค
Pronoun
ทำหน้าที่
เป็นประธานPronoun
ทำหน้าที่
เป็นกรรมPronoun
แสดงความเป็นเจ้าของPronoun สะท้อนIMeMineMyselfYouYouYoursYourself/YourselvesHeHimHisHimselfSheHerHersHerselfItItItsItselfWeUsOursOurselvesTheyThemTheirsThemselves
สำหรับ pronoun พื้นฐาน 7 ตัวนี้ ถ้าใช้เป็นประธานในประโยค เราจะต้องใช้รูปประธาน ซึ่งก็คือ I, you, he, she, it, we, they
She called me yesterday.
เธอโทรหาฉันเมื่อวาน
ถ้าใช้เป็นกรรม (ผู้ถูกกระทำ) ในประโยค เราจะต้องใช้รูปกรรม ซึ่งก็คือ me, you, him, her, it, us, them
I called her yesterday.
ฉันโทรหาเธอเมื่อวาน
ถ้าใช้บอกความเป็นเจ้าของ เราจะต้องใช้รูปแสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งก็คือ mine, yours, his, hers, its, ours, theirs
This bag is hers.
กระเป๋าใบนี้เป็นของเธอ
ถ้าประธานและกรรมเป็นบุคคลหรือสิ่งเดียวกัน การใช้ pronoun เป็นกรรม เราจะต้องใช้รูปสะท้อน ซึ่งก็คือ myself, yourself, yourselves, himself, herself, itself, ourselves, themselves
She can take care of herself.
เธอสามารถดูแลตัวเองได้
Pronoun ชนิดอื่นๆ
นอกจาก pronoun พื้นฐานเหล่านี้แล้ว ยังมี pronoun ชนิดอื่นๆอีก อย่างเช่น
Interrogative pronoun (คำสรรพนามที่ใช้ในคำถาม) เช่น what, which, who, whom, whose
Indefinite pronoun (คำสรรพนามที่ไม่ชี้เฉพาะ) เช่น everybody, everyone, everything, somebody, someone, something, some, anybody, anyone, anything, any, nobody, no one, nothing, neither, none
Relative pronoun (คำสรรพนามที่ใช้เชื่อมประโยคหรือขยายคำนาม/คำสรรพนาม) เช่น who, whom, whose, which, that, where, when, why
Pronoun เหล่านี้แต่ละตัวก็จะมีวิธีการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป เราควรเรียนรู้วิธีการใช้เสียก่อน เพื่อที่จะได้นำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง
คำสรรพนามบุรุษที่ 1, 2, 3
เราสามารถแบ่งประเภท pronoun เป็นสรรพนามบุรุษต่างๆได้ 3 ประเภท คือ
สรรพนามบุรุษที่ 1 (first-person pronouns) คือคำสรรพนามที่ใช้แทนผู้พูด อย่างเช่นคำว่า
I – ฉัน
We – พวกเรา
สรรพนามบุรุษที่ 2 (second-person pronouns) คือคำสรรพนามที่ใช้แทนผู้ฟัง อย่างเช่นคำว่า
You – คุณ, พวกคุณ
สรรพนามบุรุษที่ 3 (third-person pronouns) คือคำสรรพนามที่ใช้แทนบุคคลอื่น (ผู้ที่อยู่นอกวงสนทนา) อย่างเช่นคำว่า
He – เขา
She – เธอ
It – มัน
They – พวกเขา
คำบุรุษสรรพนามกับแกรมม่า
ในภาษาอังกฤษ การใช้คำสรรพนามบุรุษที่ 3 ที่เป็นเอกพจน์ (มีจำนวนหนึ่งหน่วย) อย่างเช่น he, she, it เราจะต้องใช้คำกริยารูปเอกพจน์ เมื่อใช้คำกริยาช่อง 1 (เช่น is, does, has, คำกริยาที่เติม s/es)
She eats spicy food regularly.
เธอกินอาหารเผ็ดเป็นประจำ
It is cute.
มันน่ารักจัง
แต่ถ้าเป็นคำสรรพนามพหูพจน์ หรือคำสรรพนามบุรุษอื่น เราจะต้องใช้คำกริยารูปพหูพจน์ (เช่น are, do, have, คำกริยาที่ไม่เติม s/es)
I eat spicy food regularly.
ฉันกินอาหารเผ็ดเป็นประจำ
You are cute.
คุณน่ารักจัง
ตัวอย่าง pronoun ในประโยค
เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น เรามาดูตัวอย่างประโยคการใช้ pronoun พื้นฐานทั้ง 7 ตัวกัน
1. I
I แปลว่า “ฉัน, ผม, ดิฉัน” ใช้เป็นประธานในประโยค
I want to be a lawyer.
ฉันอยากเป็นทนาย
ถ้าใช้เป็นกรรม เราจะใช้ me
My mom want me to be a lawyer.
แม่อยากให้ฉันเป็นทนาย
ถ้าใช้กับ “สิ่งที่เป็นของฉัน” เราจะใช้ mine
This pen is mine.
ปากกาด้ามนี้เป็นของฉัน
ถ้าทั้งประธานและกรรมคือ “ฉัน” เราจะใช้กรรมเป็น myself
I believe in myself.
ฉันเชื่อในตัวฉันเอง
2. You
You แปลว่า “คุณ, พวกคุณ” ใช้เป็นประธานในประโยค
You are a good student.
คุณเป็นนักเรียนที่ดี
You are good students.
พวกคุณเป็นนักเรียนที่ดี
การใช้เป็นกรรม เราจะใช้รูปเดียวกับประธาน เพราะคำว่า you มีรูปประธานและรูปกรรมเหมือนกัน
I don’t want you to be sad.
ฉันไม่อยากให้คุณเสียใจ
ถ้าใช้กับ “สิ่งที่เป็นของคุณ/พวกคุณ” เราจะใช้ yours
My umbrella is broken. Can I borrow yours?
ร่มฉันพัง ขอฉันยืมของคุณได้มั้ย
ถ้าทั้งประธานและกรรมคือ “คุณ/พวกคุณ” เราจะใช้กรรมเป็น yourself/yourselves
You should be proud of yourself.
คุณควรภูมิใจในตัวเอง
3. He
He แปลว่า “เขา” (ใช้กับบุคคลอื่นที่เป็นเพศชาย) ใช้เป็นประธานในประโยค
Tim lives together with me. He is my roommate.
ทิมอาศัยอยู่ด้วยกันกับฉัน เขาเป็นรูมเมทของฉัน
ถ้าใช้เป็นกรรม เราจะใช้ him
Tim is my roommate. I live together with him.
ทิมเป็นรูมเมทของฉัน ฉันอาศัยอยู่ด้วยกันกับเขา
ถ้าใช้กับ “สิ่งที่เป็นของเขา” เราจะใช้ his
The black bag is mine, and the green one is his.
กระเป๋าใบสีดำเป็นของฉัน และใบสีเขียวเป็นของเขา
ถ้าทั้งประธานและกรรมคือ “เขา” เราจะใช้กรรมเป็น himself
He called himself a clever man.
เขาเรียกตัวเองว่าคนฉลาด
4. She
She แปลว่า “เธอ” (ใช้กับบุคคลอื่นที่เป็นเพศหญิง) ใช้เป็นประธานในประโยค
She told me her secret.
เธอบอกความลับของเธอแก่ฉัน
ถ้าใช้เป็นกรรม เราจะใช้ her
I told her my secret.
ฉันบอกความลับของฉันแก่เธอ
ถ้าใช้กับ “สิ่งที่เป็นของเธอ” เราจะใช้ hers
This book isn’t hers.
หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่ของเธอ
ถ้าทั้งประธานและกรรมคือ “เธอ” เราจะใช้กรรมเป็น herself
She looks at herself in the mirror every morning.
เธอมองตัวเองในกระจกทุกเช้า
5. It
It แปลว่า “มัน” (ใช้กับสัตว์หรือสิ่งที่ไม่มีชีวิต) ใช้เป็นประธานในประโยค
This book is amazing. It was written by my uncle.
หนังสือเล่มนี้เยี่ยมมาก มันถูกเขียนโดยคุณลุงของฉันเอง
การใช้เป็นกรรม เราจะใช้รูปเดียวกับประธาน เพราะคำว่า it มีรูปประธานและรูปกรรมเหมือนกัน
This book is amazing. I just bought it yesterday.
หนังสือเล่มนี้เยี่ยมมาก ฉันเพิ่งซื้อมันมาเมื่อวาน
คำว่า it แม้จะมีรูปสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของเป็น its แต่เราจะไม่นิยมใช้กัน ถ้าจะใช้ ให้เราเลี่ยงไปใช้คำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของแทน ซึ่งจะเขียนว่า its เหมือนกัน แต่เวลาใช้ต้องมีคำนามตามหลัง
This milk is past its expiration date.
นมอันนี้เลยวันหมดอายุแล้ว
(Its ในที่นี้เป็นคำคุณศัพท์ เวลาใช้ต้องมีคำนามตามหลัง เราจะไม่นิยมใช้คำว่า its เป็นคำสรรพนาม)
ถ้าทั้งประธานและกรรมคือ “มัน” เราจะใช้กรรมเป็น itself
The cat is licking itself.
แมวกำลังเลียตัวมันเอง
6. We
We แปลว่า “พวกเรา” ใช้เป็นประธานในประโยค
We have been married for nearly three years.
พวกเราแต่งงานกันเกือบ 3 ปีแล้ว
ถ้าใช้เป็นกรรม เราจะใช้ us
The teacher told us to be quiet.
ครูบอกให้พวกเราเงียบ
ถ้าใช้กับ “สิ่งที่เป็นของพวกเรา” เราจะใช้ ours
This land is ours.
ดินแดนแห่งนี้เป็นของพวกเรา
ถ้าทั้งประธานและกรรมคือ “พวกเรา” เราจะใช้กรรมเป็น ourselves
We have rights to protect ourselves.
พวกเรามีสิทธิที่จะป้องกันตัวเอง
7. They
They แปลว่า “พวกเขา” ใช้เป็นประธานในประโยค
They went on a trip to France last week.
พวกเขาไปเที่ยวฝรั่งเศสเมื่อสัปดาห์ก่อน
ถ้าใช้เป็นกรรม เราจะใช้ them
I had lunch with them yesterday.
ฉันกินข้าวเที่ยงกับพวกเขาเมื่อวาน
ถ้าใช้กับ “สิ่งที่เป็นของพวกเขา” เราจะใช้ theirs
This land isn’t theirs.
ดินแดนแห่งนี้ไม่ใช่ของพวกเขา
ถ้าทั้งประธานและกรรมคือ “พวกเรา” เราจะใช้กรรมเป็น themselves
Many children have to look after themselves.
เด็กหลายๆคนต้องดูแลตัวเอง
เป็นยังไงบ้างครับกับ pronoun ในภาษาอังกฤษ ทีนี้เพื่อนๆก็คงจะรู้จักและพอจะใช้ pronoun กันเป็นแล้ว ถ้ายังไงก็อย่าลืมหมั่นทบทวนและฝึกใช้บ่อยๆด้วยนะ
อย่าลืมนะครับ ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนรู้ ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next time
[NEW] 25 คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่มีความหมายว่า โกหก – หลอกลวง – โกง | he แปล-ว่า – NATAVIGUIDES
ไม่ได้มีเฉพาะในภาษาไทยเท่านั้น สำหรับคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับคำว่า “โกหก” โดยเฉพาะในภาษาอังกฤษนั้นมีคำศัพท์ที่เป็นทั้งคำนามและคำกริยาที่เป็นคำโกหกได้ เช่น Biggest Lies ที่แปลว่า โกหกคำโต, Canard ที่แปลว่า รายงานเท็จ, Pretend ที่แปลว่า เสแสร้ง, Deception ที่แปลว่า การหลอกลวง และ Fake ที่แปลว่า สร้างเรื่อง เป็นต้น
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่มีความหมายว่า โกหก – หลอกลวง – โกง
ดังนั้นในบทความนี้ แคมปัส-สตาร์ จะพาทุกคนไปเรียนรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีความหมายว่า “โกหก” กัน และจะถูกนำมาใช้ในประโยคแบบไหน มาดูกันได้เลย…
1. Bluff
Bluff (บลัฟ) แปลว่า การหลอกให้หลงกล
ตัวอย่างการใช้ : Is he going to jump or is he only bluffing? แปลว่า นี่เขากำลังจะโดดจริง ๆ หรือแค่หลอกให้หลงกลเฉย ๆ
2. Canard
Canard (แค นาร์ด) แปลว่า เรื่องเท็จ รายงานเท็จ
ตัวอย่างการใช้ : Look! It is a canard แปลว่า ดูสิ นี่มันรายงานเท็จนี่
3. Deceit
Deceit (ดิ ซีท) แปลว่า การหลอกลวง
ตัวอย่างการใช้ : Finally, his deceits were revealed แปลว่า ในที่สุดการหลอกลวงของเขาก็ถูกเปิดโปง
4. Deception
Deception (ดิ เซพ เชิ่น) แปลว่า การหลอกลวง ตบตา
ตัวอย่างการใช้ : It wasn’t really magic – just some kind of clever visual deception แปลว่า ไม่ใช่เวทมนตร์อะไรหรอก มันก็แค่ภาพตบตาเจ๋ง ๆ
5. Distortion
Distortion (ดิส ทอร์ เชิ่น) แปลว่า การบิดเบือน
ตัวอย่างการใช้ : False retelling of events is an example of distortion แปลว่า การเล่าเรื่องแบบผิด ๆ เป็นตัวอย่างของการบิดเบือน
6. Equivocation
Equivocation (อิค ควิ เวอะ เค เชิ่น) แปลว่า การพูดกำกวม อ้อมค้อม
ตัวอย่างการใช้ : He answered openly without equivocation แปลว่า เขาตอบคำถามอย่างเปิดเผย ปราศจากการพูดกำกวม
7. Exaggeration
Exaggeration (อิ๊ค แซก เจอะ เร เชิ่น) แปลว่า การพูดเกินจริง
ตัวอย่างการใช้ : Honestly, without any exaggeration, the fish was three metres long แปลว่า นี่ไม่ได้พูดเกินจริงเลยนะ ตัวปลามันยาวตั้ง 3 เมตรจริง ๆ
8. Fable
Fable (เฟเบิ้ล) แปลว่า เรื่องโกหก เรื่องที่แต่งขึ้น
ตัวอย่างการใช้ : What you have said is just a fable แปลว่า ที่เธอพูดมามันเรื่องโกหกทั้งนั้น
9. Fabrication
Fabrication (แฟ บริ เค เชิ่น) แปลว่า การปลอมขึ้นมา
ตัวอย่างการใช้ : The whole story about how her stepson died was a fabrication แปลว่า เรื่องการตายทั้งหมดของลุกเลี้ยงเธอมันเป็นเรื่องปลอม
การใช้ Apology vs Apologise ต่างกันอย่างไร?
Link : seeme.me/ch/englishafternoonz/k77dRk?pl=EpPYVE
10. Fairy tale
Fairy tale (แฟรี่ เทล): เรื่องแหกตา เรื่องโกหก
ตัวอย่างการใช้ : He’s telling us another fairy tale about how great the software will be แปลว่า เขากำลังเล่าเรื่องแหกตาเกี่ยวกับความดีงามของซอฟต์แวร์ตัวนี้ให้เราฟัง
11. Fallacy
Fallacy (แฟล เลอะ ซี่) แปลว่า เรื่องหลอกลวง
ตัวอย่างการใช้ : It’s a common fallacy that women are worse drivers than men แปลว่า เรื่องหลอกลวงที่รู้กันดีคือผู้หญิงขับรถแย่กว่าผู้ชาย
12. Falsehood
Falsehood (ฟ้อลซ์ หูด) แปลว่า การโกหก
ตัวอย่างการใช้ : She doesn’t seem to understand the difference between truth and falsehood แปลว่า ดูเหมือนว่านางจะไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างความจริงกับการโกหกนะ
13. Falsify
Falsify (ฟ้อลซิไฟย์) แปลว่า ปลอมแปลง
ตัวอย่างการใช้ : The certificate had clearly been falsified แปลว่า ประกาศนียบัตรนี่ถูกปลอมแปลงชัด ๆ
14. Falsity
Falsity (ฟ้อลซิติ) แปลว่า เรื่องปลอม
ตัวอย่างการใช้ : Believe me, it’s not the falsity แปลว่า เชื่อฉันเถอะ มันไม่ใช่เรื่องปลอมนะ
15. Fib
Fib (ฟิบ) แปลว่า โกหกเล็ก ๆ น้อย ๆ
ตัวอย่างการใช้ : I can tell he’s fibbing because he’s smiling! แปลว่า ฉันบอกได้เลยว่าเขาโกหกอยู่ ก็เพราะเขากำลังยิ้มอยู่นั่นไงล่ะ!
16. Fiction
Fiction (ฟิค เชิ่น) แปลว่า เรื่องโกหก
When he’s telling you something, you never know what’s fact and what’s fiction แปลว่า ตอนที่เขากำลังเล่าเรื่องบางอย่าง เธอไม่เคยรู้เลยว่าอันไหนเรื่องจริงกันไหนโกหก
17. Half-truth
Half-truth (ฮ้าฟ ทรูท) แปลว่า เรื่องจริงบ้างไม่จริงบ้าง
ตัวอย่างการใช้ : I don’t care! half-truth is a whole lie แปลว่า ฉันไม่สนใจหรอก เรื่องจริงบ้างไม่จริงบ้างก็คือเรื่องโกหกนั่นแหละ
18. Humbug
Humbug (ฮัม บั๊ก) แปลว่า การหลอกลวง ต้มตุ๋ม
ตัวอย่างการใช้ : Don’t try and humbug me, tell me everything แปลว่า อย่าแม้แต่จะลองหลอกฉัน บอกฉันมาให้หมดเดี๋ยวนี้
19. Invention
Invention (อิน เว้น เชิ่น) แปลว่า การกุเรื่องขึ้น เรื่องที่กุขึ้น
ตัวอย่างการใช้ : Her story is a total invention แปลว่า เรื่องของเธอน่ะมันเป็นเรื่องที่กุขึ้นทั้งหมด
20. Jive
Jive (ไจ้ฟ์) แปลว่า หลอก เรื่องเหลวไหล
ตัวอย่างการใช้ : Quit jiving me and just tell me where you were! แปลว่า เลิกหลอกฉันได้แล้ว แค่บอกมาซะทีว่าเธออยู่ไหน!
21. Libel
Libel (ไล้ เบิ้ล) แปลว่า ใส่ร้ายป้ายสี
ตัวอย่างการใช้ : She threatened to sue that guy for libel แปลว่า เธอขู่ว่าจะฟ้องผู้ชายคนนั้นข้อหาใส่ร้ายเธอ
22. Mendacity
Mendacity (เมน แด ซิ ติ) แปลว่า การโกหก
ตัวอย่างการใช้ : You need to overcome this mendacity, or no one will ever believe anything you say แปลว่า คุณต้องเอาชนะการโกหกนี่ให้ได้ ไม่อย่างนั้นจะไม่มีใครเชื่อที่คุณพูดอีกเลย
23. Untruth
Untruth (อัน ทรู้ท) แปลว่า คำโกหก
ตัวอย่างการใช้ : Don’t told him an untruth แปลว่า อย่าโกหกเขาเชียว
24. Whopper
Whopper (ว้อพ เผอะ) แปลว่า การโกหกที่ร้ายแรง
ตัวอย่างการใช้ : He told us a real whopper แปลว่า เขาเล่าเรื่องโกหกคำโตให้เราฟังเลยล่ะ
25. Liar
Liar (ไล อ่าร์) แปลว่า คนขี้โกหก
ตัวอย่างการใช้ : Don’t trust him, he is such a liar แปลว่า อย่าไปเชื่อเขา เขาเป็นคนขี้โกหก
ที่มา : www.dailyenglish.in.th
Written by : Toey
Nhảy DANCE mừng hạnh phúc Văn Tuyền 💝 Kiều Linh Tại phiêng nèn Quỳnh Nhai
Nhảy Dance mừng hạnh phúc Văn Tuyền 💝 Kiều Linh Tại phiêng nèn Quỳnh Nhai
NhaymunghanhphucvantuyenkieulinhKhatvongvungcao
Đám cưới trẻ kiều linh văn Tuyền tại bản phiêng nèn Quỳnh Nhai nhảy rất sôi động
Chúc các bạn xem vi deo vui vẻ và hãy đăng ký kênh ủng hộ cho mình nhé vì nó là miễn phí xin cảm ơn
Kênh mình là kênh trải nghiệm các chương trình văn hoá văn nghệ đời sống ẩm thực
✅Tất cả các vi deo trong kênh đã được đăng ký bản quyền
🚫cấm sao lưu sao chép reup dưới mọi hình thức khi chủ sở hữu chưa cho phép tái sử dụng
©Bản quyền thuộc khát vọng vùng cao
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่
วิธีการใช้ I, You, We, They, He, She, It แบบเข้าใจง่าย | BONUS THE BOSS
ประธาน ภาษาอังกฤษง่ายๆ วิธีการใช้ประธานของโยค ภาษาอังกฤษพื้นฐาน I You We They He She It
สรรพนามที่ทำหน้าที่เป็นประธานของประโยคมีทั้งหมด 7 ตัว
1. I ใช้แทน ตัวเราเอง (แปลว่า ฉัน, ผม)
2. You ใช้แทน บุคคลที่ 2 ที่เรากำลังสนทนาด้วย (แปลว่า คุณ, เธอ)
3. He ใช้แทน บุคคลที่ 3 ที่เรากำลังพูดถึง (แปลว่า เขาผู้ชาย)
4. She ใช้แทน บุคคลที่ 3 ที่เรากำลังพูดถึง (แปลว่า เขาผู้หญิง)
5. It เป็นสรรพนามบุรุษที่ 3 (ใช้แทน สัตว์, สิ่งของ, สถานที่) ที่มีจำนวนเพียงหนึ่งเดียว (เป็นเอกพจน์)
6. We ใช้แทน บุคคลที่อยู่รวมกันเป็นกลุ่มหลายคน โดยมีเราอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย (เป็นพหูพจน์)
7. They ใช้แทน บุคคลที่อยู่รวมกันเป็นกลุ่มหลายคน แต่เราไม่ได้อยู่ในกลุ่มนั้น (เป็นพหูพจน์) ใช้ได้ทั้งคน, สัตว์, สิ่งของ และสถานที่
is am are
งานอนิเมชั่น 2D MV is am are
ผลิตโดย Mushroom TV ที่มี น้านิต ภัทรจารีย์ อัยศิริ (สโมสรผึ้งน้อย) เป็นหัวเรือใหญ่ในตอนนั้น
เนื้อร้องและทำนอง โดยน้านิต เป็นคนแต่ง เพลงออกมาน่ารักและสดใส สมกับเป็นลงานของน้านิตครับ
ส่วนดนตรี น่าจะเป็นคุณ พีรสันติ จวบสมัย เป็นคนเรียบเรียงครับ
Animator \u0026 Editor สฤกษ์ชัย กางธนทรัพย์
1L Chuyển A – Chim Sẻ biến BIBI thành CHÚ HỀ khi ăn CÚ LỪA CỰC TO | AoE Highlights
“Chim Sẻ Đi Nắng Official” là kênh Youtube chuyên phát lại các trận đấu trực tiếp của Chim Sẻ Đi Nắng.
Ngoài ra còn kênh: Chim Sẻ Đi Nắng Video (https://www.youtube.com/channel/UCaAGSoGPXGtk8szSfzXCmQ)
Sẽ phát lại đầy đủ tất cả các kèo đấu hàng ngày của Chim Sẻ Đi Nắng!
Xem AOE thả ga free data 3G trên kênh chính thức của SBS với cú pháp:
CS gửi 9062 (gói ngày, 3.000VND/ngày)
CS30 gửi 9062 (gói tháng, 35.000/tháng)
Ủng hộ clan SBS tại:myclip.vn/live/5991/11
► Nội dung video thuộc bản quyền của Chim Sẻ Đi Nắng Studio.
Tham gia cùng cộng đồng Fan của Chim Sẻ Đi Nắng,các bạn vui lòng truy cập:
►FanPage CSDN: https://www.facebook.com/chimsedinangFanpage
►Facebook cá nhân CSDN : https://www.facebook.com/188fl
►Tham gia group CSDN tại : https://bit.ly/csdn_fanclub
►Kênh TikTok chính thức của CSDN : https://www.tiktok.com/@chimsedinang16
►Instagram chính thức của CSDN : https://www.instagram.com/chimsedinan…
►Liên hệ hợp tác
Mobile/Zalo: 096.9376.210
Email: [email protected]
chimsedinang aoe moi nhat 2020 aoe csdn aoehighlight chimse deche sieupham chimsedinangstudio teamaoesbs dechemoi keoaoemoinhat chimsemoinhat trandauaoemoinhat aoe2021 deche2021 aoede aoe2
The Wall Song ร้องข้ามกำแพง | EP.62 | พั้นช์ วรกาญจน์,ติ๊ก ชิโร่,ขนมจีน กุลมาศ | 11 พ.ย. 64 FULL EP
พบกับรายการ The Wall Song ร้องข้ามกำแพง
ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 20.05 น.
ทาง ช่องเวิร์คพอยท์ หมายเลข 23
=========================================
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/workpoint
Website: https://www.workpointtv.com
Instagram: https://www.instagram.com/workpoint
TikTok: https://vt.tiktok.com/ZS9GDwTY
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่MAKE MONEY ONLINE
ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ he แปล-ว่า