Skip to content
Home » [Update] Part of speech คืออะไร สรุป parts of speech อย่างละเอียดเข้าใจง่ายสุด | part of speech มี กี่ ประเภท อะไร บ้าง – NATAVIGUIDES

[Update] Part of speech คืออะไร สรุป parts of speech อย่างละเอียดเข้าใจง่ายสุด | part of speech มี กี่ ประเภท อะไร บ้าง – NATAVIGUIDES

part of speech มี กี่ ประเภท อะไร บ้าง: คุณกำลังดูกระทู้

Part of speech คืออะไร สรุป parts of speech อย่างละเอียดเข้าใจง่ายสุด

Part of speech คืออะไร สรุป parts of speech อย่างละเอียดเข้าใจง่ายสุด

     Part of speech คือ อะไร มีกี่ประเภท และมีหน้าที่ทำอะไรในหลักแกรมม่า : สรุป part of speech ให้เห็นภาพก่อนคร่าวๆนะครับว่า มันคือส่วนของคำพูด หมายความว่าประโยคในภาษาอังกฤษที่เราสื่อออกไปนั้น จะประกอบไปด้วยชนิดของคำ หรือประเภทของคําต่างๆนั่นเอง

♥ เนื้อหา Part of Speech

  • Part of speech คืออะไร
  • Part of speech หน้าที่คืออะไร
  • Part of speech มีกีชนิดหรือกี่ประเภท
  • Part of speech ที่ต้องเรียนรู้พลาดไม่ได้

♦ Part of Speech คืออะไร

  • Part อ่านว่า พ๊าท แปลว่า ส่วน, ชิ้นส่วน
  • of ออฟ แปลว่า ของ
  • Speech คือ คำพูด

ตามหลักแกรมม่าแล้ว Part of Speech ภาษาอังกฤษ แปลว่า “ส่วนของคำพูด” แต่ความหมายจริงๆของมันคือ ประเภทของคำหรือชนิดของคำนะครับ ก่อนจะสรุปว่า Part of speech คืออะไร  ลองมาอ่านประโยค part of speech ง่ายๆเหล่านี้ก่อน

→ My 

name

 is 

Tom

. ชื่อของผมคือทอม (นาม)

→ 

I

 am American. ผมคือคนอเมริกัน(สรรพนาม)

→ I’m 

tall

 and 

slim

. ผมตัวสูงและเพรียว(คุณศัพท์)

→ I can 

play

 tennis. ผมเล่นเทนนิสเป็น (กริยา)

→ And I can run 

fast

. และผมสามารถวิ่งได้เร็ว (กริยาวิเศษณ์)

→ I love Thailand 

and

 Thai people. ผมรักประเทศไทยและคนไทย(สันธาน)

→ It’s hot 

in

 April. มันร้อนในเดือนเมษายน (บุรพบท)

→ 

Well

!! I must go now. Bye. อ้อ ผมต้องไปเดี๋ยวนี้ (อุทาน)

เห็นตัวแดงๆหนาๆไหมครับ นั่นคือคำชนิดต่างๆครับผม ดังนั้นสรุปได้ว่า part of speech คือ คำประเภทต่างๆ ซึ่งมีด้วยกัน 8 ชนิด

 ◊ Part of Speech เขียนอย่างไรให้ถูก

เนื่องจากการเรียนหลักแกรมม่า ทุกคนจะต้องรู้จักคำว่า  part of speech เป็นด่านแรก แต่หลายคนยังเขียนไม่ค่อยถูกกัน บ้างก็เขียนว่า path of speech แปลว่า “หนทางของคำพูด” บ้างก็เขียนว่า past of speech แปลว่า “อดีตของคำพูด” บ้างก็เขียน part of speed แปลว่า “ส่วนของความเร็ว” บางคนหนักกว่าเขียนว่า past of speed แปลว่า “อดีตของความเร็ว”

ส่วนคำว่า parts of speech เมื่อเราจะสื่อความหมายว่ามันมีถึง 8 อันนะ นั่นคือ  The eight parts of speech คือ คำพูดทั้ง 8 ชนิด

♦ Part of speech หน้าที่คืออะไร

เนื่องจากเรารู้ความหมายแล้วว่า part of speech คือคำทั้ง 8 ชนิด ดังนั้นหน้าที่ของมันหลักๆก็คือการรวมตัวกันเป็นวลี หรือประโยคเพื่อใช้ในการสื่อสารดังตัวอย่างเนื้อหาด้านบน ซึ่งคำแต่ะละประเภทก็มีหน้าที่ Functions แตกต่างกันกันออกไปเช่น noun ทำหน้าที่เป็นประธานและกรรมของประโยค verb ทำหน้าที่บ่งบอกการกระทำของประธาน preposition ทำหน้าที่เชื่อมคำ เป็นต้น

การจะเรียนรู้เรื่อง part of speech อย่างละเอียด ไม่ใช่เรื่องที่จะเรียนวันเดียวให้เข้าใจได้ทั้งหมด เพราะมีทั้งเรื่องหลักๆ และรายละเอียดหยุมหยิมมากมาย ดังนั้นค่อยๆเรียนรู้ทำความเข้าใจไปทีละอย่างนะครับ

♦ Part of speech มีกีชนิดหรือกี่ประเภท

อย่างที่เกริ่นนำไปแล้วว่า part of speech มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 8 ชนิด ได้แก่

1. Noun (คำนาม) คือคำที่ใช้แทนคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ (รวมถึง ชื่อของคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่)

  • คน เช่น boy girl man student doctor king father/ John Sam Ted Tom
  • สัตว์ เช่น dog cat bird tiger / Simba Kitty
  • สิ่งของ เช่น TV radio fan car soap / Sony Samsung Lux
  • สถานที่ เช่น market bank city country / London Thailand England

2. Pronoun (สรรพนาม) คือ คำที่ใช้แทนคำนามด้านบน เช่น I me/ you/ he him/ she her/it/ this /that

3. Adjective (คุณศัพท์) คือคำที่ใช้บอกลักษณะของคำนาม เช่น tall short small big

4. Verb (กริยา) คือคำที่ใช้แสดงการกระทำ เช่น go come run walk

5. Adverb (กริยาวิเศษณ์) คือคำที่ใช้อธิบายการกระทำว่าทำอย่างไร ที่ไหน เมื่อไหร่ เช่น fast slowly here there today yesterday

6. Conjunction (คำสันธาน) คือคำที่ใช้เชื่อมคำ วลี หรือประโยค เช่น and but or so

7. Preposition (คำบุรพบท) คือคำที่ใช้แสดงความสัมพันธ์ของคำ เช่น in on at by from

8. Interjection (คำอุทาน) คือคำที่ใช้แสดงอารมณ์ตื่นเต้น ดีใจ เสียใจ เช่น wow eh um

♦ Part of speech ที่ต้องเรียนรู้พลาดไม่ได้

  • หัวข้อรองคือ 5 6 7 8 เพราะไม่มีอะไรซับซ้อน คล้ายภาษาไทยเลย
  • 4 ข้อแรกต้องศึกษาให้ละเอียดแจ่มแจ้งหน่อย เพราะกฎเกณฑ์ต่างจากภาษาไทยค่อนข้างมากทีเดียว ซึ่งหัวข้อที่ควรศึกษามีรายละเอียดดังนี้

1. คำนาม

  • นามทั่วไป กับนามเฉพาะ  (เรียนผ่านแล้วผ่านเลย ไม่สำคัญเท่าไหร่)
  • นามเอกพจน์ พหูพจน์ (เรียนให้เข้าใจ จำให้ได้) เพราะ
    – การเปลี่ยนเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์มีหลายแบบ ขึ้นอยู่กับว่าคำนั้นมีพยัญชนะตัวใดลงท้าย เช่น s, sh, ch, x, o, y, f เป็นต้น
    – นามพหูพจน์บางตัวไม่เปลี่ยนรูปเลย ไม่ว่าเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์ เช่น deer sheep fish
    – นามบางตัวลงท้ายด้วย s ซึ่งน่าจะเป็นพหูพจน์ แต่กลับเป็นเอกพจน์เฉยเลย เช่น news, physics
    – นามบางตัวเปลี่ยนสระภายในเพื่อแสดงความเป็นพหูพจน์ เช่น men children
    – และอื่นๆ อีก

2. สรรพนาม

  •  บุรุษสรรพนาม (Personal pronoun) สรรพนามที่คนไทยสับสนเพราะมี 2 ประเภท แยกชัดเจนว่าตัวไหนเป็นประธาน ตัวไหนเป็นกรรม

3. คุณศัพท์

  • แปลงร่างได้ สามแบบ คือ ขั้นปกติ ขั้นกว่า ขั้นสูงสุด และมีหลักเกณฑ์แยกย่อยไปอีกว่าทำยังไงให้ถูกต้องตามหลักภาษา

4. กริยา

  • สุดยอดของหัวใจวายากรณ์ สุดยอดแห่งความยาก (สำหรับนักเรียนส่วนใหญ่ เพราะขี้เกียจอ่าน ขี้เกี่ยจจำ ขี้เกียจทบทวน)
  • กริยาหนึ่งตัวแปลงร่างได้หลากหลายเช่น  go goes going went gone ทั้งหมดที่เห็นนี้แปลว่า ไป แต่ไปคนละแบบ ขึ้นอยู่กับว่าเอาไปใช้ Tense อะไร
  • กริยาแต่ละ Tense มีหน้าตาไม่เหมือนกันเลย หรือมีเหมือนกันบ้าง

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ต้องเรียนให้เข้าใจ เพราะเป็นหัวใจของหลักภาษาอังกฤษอย่างแท้จริง

[NEW] สรุปหลักการใช้ Article มีกี่ประเภท อะไรบ้าง | part of speech มี กี่ ประเภท อะไร บ้าง – NATAVIGUIDES

สรุปหลักการใช้ Article มีกี่ประเภท อะไรบ้าง

Articles
แบ่งออกเป็นสองชนิด ได้แก่ Indefinite Articles คือ a/an ใช้นำหน้าคำนามที่ไม่เจาะจง และ Definite Articles ได้แก่ the ใช้นำหน้าคำนามที่ต้องการเจาะจง

การใช้ Indefinite Article: a/ an

a ใช้นำหน้าคำนามเอกพจน์นับได้ ที่ออกเสียงแรกเป็นเสียงพยัญชนะ
เช่น a lamp, a door, a house, a bag, a tometo, a uniform, a car

an ใช้นำหน้าคำนามเอกพจน์นับได้ ที่ออกเสียงแรกเป็นเสียงสระ (a,e,i,o,u)
เช่น an apple, an hour, an orange, an umbrella, an ice-cream

ใช้นำหน้าคำนามเอกพจน์นับได้ (Countable Noun)
มีความหมายทั่วไปไม่เจาะจง และถูกกล่างถึงเป็นครั้งแรก
เช่น An elephant and a mouse. และเมื่อคำนามตัวนั้นมีการกล่าวถึงซ้ำในครั้งต่อไป จะใช้”the”นำหน้า
เช่น Yesterdey I met a girl near my school. The girl wanted to communicate with me.

มีความหมายว่า หนึ่ง หมายถึง คนหรือสิ่งของเพียงอย่างเดียว
เช่น I would like an orange and two lemons please.
จะใช้ a/an นำหน้าคำนามที่เป็นสำนวนเกี่ยวกับการใช้นับจำนวน
เช่น a hundred, a thousand
จะใช้ one เพื่อเน้น(emphasis) หรือ แสดงการขัดแย้ง(contrast) กับจำนวนอื่น
เช่น I don’t know one person who likes eating elephant meat.

ใช้นำหน้าอาชีพต่างๆ
เช่น I am a student.

ใช้บอกสัญชาติหรือศาสนา
เช่น I am a Catholic

การใช้ Definite Article: The

ใช้นำหน้าคำนามที่มีเพียงสิ่งเดียวในโลก
เช่น the sun, the moon,the world

ใช้นำคำนำหน้าที่มีส่วนขยาย
เข่น The man in this car is my uncle.

ใช้นำหน้าชื่อแม่น้ำ ทะเล หมู่เกาะ ประเทศที่เป็นสาธารณรัฐ เทือกเขา ทะเลทราย มหาสมุทร คลอง ทิศต่างๆ
เช่น the Black Sea, tha Bahamas

ใช้นำหน้าคำที่มี of ประกอบ
เช่น the Tower of London

ใช้นำหน้าเครื่องดนตรีและการเต้นรำ
เช่น the piano, the guitar

ใช้นำหน้าตำแหน่งที่สำคัญ
เช่น the King, the Queen

ใช้นำหน้าชื่อโรงหนัง โรงละคร โรงแรม พิพิธภัณฑ์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร และเรือ
เช่น the Prado

ใช้ นำหน้าทศวรรษหรือจำนวนปี

ใช้นำหน้าคำคุณศัพท์ขั้นสูงสุด(Superlative Degree)
เช่น the tallest student.

ใช้นำหน้าเลขนับจำนวนที่ หรือ ลำดับที่
เช่น the first time, the second floor

ใช้ the + adjective/v3 หมายถึง คนจำพวกนั้นๆ
เช่น the young, the injured

ใช้ the + same
เช่น We live in the same street.

ใช้นำหน้าคำต่อไปนี้
: beach, cinema, country(side), ground, jungle, radio, sea, seaside, theater, station, shop, pub, library

ใช้นำหน้าการอ้างอิงหรือเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์
เช่น the first World war

ห้ามมี Article นำหน้าคำนามต่อไปนี้

ชื่อคน, คำเรียกสมาชิกในครอบครัว, อาชีพ
เช่น John, Sam, uncle, doctor

ชื่อมื้ออาหาร
เช่น breakfast, lunch, meal ถ้ามื้ออาหารมี adjective มาขยายข้างหน้าจะต้องใส่ a/an ข้างหน้า เช่น a big meal

ไม่ใช้กับชื่อทะเลสาบ ภูเขา เกาะ
เช่น Long Island

ไม่ใช้กับชื่อภาษา ชื่อวิชา
เช่น English, maths

ไม่ใช้กับชื่อวัน, เดือน
เช่น Monday, January

ไม่ใช้กับเทศกาล, ฤดู
เช่น Cristmas, summer

ไม่ใช้กับชื่อเมือง, รัฐ, ประเทศ, ถนน, สถานี, สนามบิน, โรงเรียน, วิทยาลัย, มหาวิทยาลัย
เช่น Bangkok, Thailand, Victoria station
แต่ประเทศต่อไปนี้ต้องมี the นำหน้า : the United States of America, the United Kingdom, the United Arab Emirates, the Netherlands, the Philippines

ไม่ใช้กับชื่อทวีป
เช่น Asia, Europe

ไม่ใช้กับคำนามนับไม่ได้, คำนามพหูพจน์, คำนามไม่มีตัวตน, คำนามที่บอกวัสดุ
เช่น rice, milk, tigers, wood, intelligent, light, sound, sugar

ไม่ใช้ในสำนวนเกี่ยวกับ bed, home, work ต่อไปนี้ไม่ใช้ the
go to bed, in bed, finish work, start work, go home,at home, at work

คำนามต่อไปนี้ ในความหมายปกติไม่ใช้ the แต่ถ้าใช้ในความหมายอื่นจะใช้ the ได้แก่ bed, church, court, prison, hospital, market, class, school, college, university
เช่น go to bed แปลว่า ไปนอน , go to the bed แปลว่า ไปที่เตียง

ไม่ใช้ article ตามหลัง kind of, sort of, type of, make of, brand of, variety of, species of
เช่น the brand of shoes.

ไม่ใช้กับคำกริยาที่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้ง คัดเลือก คือ appoint, choose, elect, select หรือ make ให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งได้ดำรงตำแหน่งนั้นตำแหน่งเดียว ไม่ต้องใช้ Article นำหน้าตำแหน่งนั้น
เช่น John was appointed as manager.

ไม่ใช้กับชื่อกีฬาทุกชนิด
เช่น basketball, golf, tennis

ไม่ใช้กับพาหนะทุกชนิดที่ใช้ในการเดินทาง
เช่น by car, by bicycle, by water ยกเว้น on food, at sea, on horseback, on buffalo

อ่านต่อ คลิก >> การใช้ a an the


คำทั้ง 8 ประเภทในภาษาอังกฤษ (Parts of Speech) ที่คนเรียนภาษาอังกฤษต้องรู้


ตามไปเรียนภาษาอังกฤษกับครูหวานต่อที่
Facebook: https://www.facebook.com/kruwhanenglishonair
Instagram: https://www.instagram.com/english_kruwhan

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

คำทั้ง 8 ประเภทในภาษาอังกฤษ (Parts of Speech) ที่คนเรียนภาษาอังกฤษต้องรู้

Parts of Speech in English Grammar: Definition and Useful Examples


Parts of Speech in English!
Learn parts of speech (nouns, articles, verbs, pronouns, adjectives, adverbs, conjunctions, prepositions and interjection): https://7esl.com/partsofspeech/

WATCH MORE:
★ Grammar: https://goo.gl/7n226T
★ Vocabulary: https://goo.gl/E5Ty4T
★ Expressions: https://goo.gl/JBpgCF
★ Phrasal Verbs: https://goo.gl/Ux3fip
★ Idioms: https://goo.gl/y7wNjN
★ Conversations: https://goo.gl/pmdpQT
★ English Writing: https://goo.gl/46gmY7
★ IELTS: https://goo.gl/Tg2U4v
★ TOEFL: https://goo.gl/8Zwvic
★ British vs. American English: https://goo.gl/VHa5W8
★ Pronunciation: https://goo.gl/P4eR39
★ Business English: https://goo.gl/r7jqtB

OUR SOCIAL MEDIA:
Pinterest: https://www.pinterest.com/7english/
Facebook: https://www.fb.com/7ESLLearningEnglish/

For more videos and lessons visit:
https://7esl.com/

Parts of Speech in English Grammar: Definition and Useful Examples

สรุปParts of Speech อย่างง่ายๆ


เรียนภาษาอังกฤษชนิดของคำ Parts of Speechไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเรียนออนไลน์

สรุปParts of Speech อย่างง่ายๆ

Part of speech คืออะไร ภาษาอังกฤษพื้นฐานที่ทุกคนควรรู้ สรุปอย่างละเอียดเข้าใจง่าย


Part of speech เป็นแกรมม่าภาษาอังกฤษพื้นฐานที่ควรรู้ เพราะมันจะทำให้เราเข้าใจและใช้คำภาษาอังกฤษได้ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น วันนี้เราจะมาเรียนกัน
สรุป parts of speech อย่างละเอียดเข้าใจง่ายสุด

Part of speech คืออะไร ภาษาอังกฤษพื้นฐานที่ทุกคนควรรู้ สรุปอย่างละเอียดเข้าใจง่าย

ติว TOEIC Grammar : ตำแหน่งการใช้ Adjective


✿ ถ้าพื้นฐานน้อย แนะนำหาคอร์สติวดีกว่าค่ะ! ✿
👉 สมัครคอร์ส KruDew ติว New TOEIC 2020 (ทดลองติวฟรี!) ➡️ https://bit.ly/2wR4Gmu

Adjective คืออะไร? ใช้ยังไง? ครูดิวสรุปการใช้ Adjective ทั้ง 3 ตำแหน่งมาให้แล้วค่ะ

✿ คอร์ส KruDew ติว TOEIC มีอะไรให้บ้าง? ✿
✅Grammar ที่ใช้สอบ TOEIC ให้ครบ เริ่มสอนจากพื้นฐาน เรียนได้ทุกคนแน่นอน
✅เทคนิคช่วยจำต่างๆ จำง่าย เอาไปใช้กับข้อสอบได้จริงๆ
✅เก็งศัพท์ TOEIC ออกข้อสอบบ่อยๆ ให้ครบ ไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งรวบรวมเอง
✅ อัพเดทข้อสอบ New TOEIC ล่าสุด ครบ 200 ข้อ
✅สามารถสอบถามข้อหรือจุดที่สงสัยได้ตลอด
✅การันตี 750+ (ถ้าสอบแล้วไม่ถึง สามารถทวนคอร์สได้ฟรี)
📣 ถ้าไม่อยากพลาดคลิปดีๆแบบนี้ อย่าลืมกด ❤️ Subscribe ❤️กันนะคะ

ติว TOEIC Grammar  : ตำแหน่งการใช้ Adjective

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ part of speech มี กี่ ประเภท อะไร บ้าง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *