Skip to content
Home » [Update] พื้นฐานภาษาอังกฤษ-Pronoun   (คำสรรพนาม) | คํานําหน้าชื่อ ภาษาอังกฤษ เรียกว่า – NATAVIGUIDES

[Update] พื้นฐานภาษาอังกฤษ-Pronoun   (คำสรรพนาม) | คํานําหน้าชื่อ ภาษาอังกฤษ เรียกว่า – NATAVIGUIDES

คํานําหน้าชื่อ ภาษาอังกฤษ เรียกว่า: คุณกำลังดูกระทู้

Pronoun   (คำสรรพนาม)    คือคำที่มีไว้สำหรับ(พูด,เขียน)แทนชื่อของคน,สัตว์,สิ่งของ,และสถานที่เพื่อป้องกันมิให้กล่าวชื่อนั้นซ้ำๆซากๆ ซึ่งเป็นการฟังไม่ไพเราะ

Pronoun   มีอยู่ 8 ชนิดด้วยกันคือ

  1. Personal Pronoun บุรุษสรรพนาม
  2. Possessive  Pronoun  สามีสรรพนาม
  3. Definite   Pronoun  นิยมสรรพนาม
  4. Indefinite  Pronoun  อนิยมสรรพนาม
  5. Interrogative  Pronoun   ปฤจฉาสรรพนาม
  6. Relative  Pronoun  ประพันธ์สรรพนาม
  7. Reflexive  Pronoun  สรรพนามสะท้อนหรือเน้น
  8. Distributive Pronoun  วิภาคสรรพนาม
  9. 1. Personal Pronounบุรุษสรรพนาม คือสรรพนามที่ใช้แทนชื่อของผู้พูด, ผู้ฟัง, และผู้ที่ถูกกล่าวถึง  ซึ่งมีอยู่ 2  พจน์  3  บุรุษ คือ

 

 

เอกพจน์

พหูพจน์

บุรุษที่     1

I

we

บุรุษที่     2

you

you

บุรุษที่     3

he,   she,    it

the

 

 

Personal   Pronoun   แบ่งได้  5  รูป คือ

รูปที่  1

รูปที่ 2

รูปที่ 3

รูปที่  4

รูปที่ 5

I

Me

My

mine

myself

We

us

Our

ours

ourselves

You

you

Your

yours

yourself

He

him

his

his

himself

she

her

Her

hers

herself

It

It

its

its

itself

they

them

there

theirs

themselves

 

  1. Possessive Pronoun สามีสรรพนาม   คือสรรพนามที่ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งก็คือบุรุษสรรพนามรูปที่  4  นั่นเอง  เวลาใช้ไม่ต้องมีนามตามหลัง  มีหน้าที่ 3 อย่างคือ

2.1     เป็นประธานของกิริยาในประโยค  เช่น Your   book  is green,  mine is red.

2.2     เป็นส่วนสมบูรณ์ของกิริยา   เช่น  this  pencil is mine, that one is your.

2.3     ใช้เรียงตามหลังบุรพบท(คำเชื่อมคำ) เพื่อเน้นความเป็นเจ้าของให้ชัดเจนขึ้นได้เช่น  A   friend  of  yours  was  killed  last  night.    

  1. 3.  Definite Pronounนิยมสรรพนาม  คือสรรพนามที่ชี้เฉพาะและใช้แทนนามได้ ที่นิยมใช้แพร่หลายมีอยู่ 6 ตัวคือ  (รวมทั้ง which ด้วย)

                    this,   that,   one      3   ตัวนี้ใช้แทนนามที่เป็นเอกพจน์.

                   These,    those,  ones   3    ตัวนี้ใช้แทนนามที่เป็นพหูพจน์.

*นิยมสรรพนามนี้ ทำหน้าที่เป็นประธานหรือกรรมของกิริยาในประโยคได้ตามแต่ จะ ใช้งาน.

  1. 4.   Indefinite pronounอนิยมสรรพนาม คือสรรพนามที่ใช้แทนนามได้ทั่วไป ไม่เฉพาะเจาะจงว่าแทนคนนั้นคนนี้โดยตรง  (ตรงข้ามกับ Definite Pronoun)  ได้แก่คำว่า  some,  any,  all,  someone,  somebody,  anybody,  few,  everyone,  many,  nobody,   everybody,  other……etc.

*ข้อสังเกต ทั้งนิยมสรรพนามและอนิยมสรรพนาม  ถ้าใช้โดยมีคำนามอื่นตามหลังจะกลายเป็นคำคุณศัพท์ไป  แต่ถ้าใช้โดยไม่มีคำนามอื่นตามหลังจึงจะเป็นนิยมสรรพนามหรืออนิยมสรรพนาม.

  1.  5. Interrogative pronounปฤจฉาสรรพนาม  คือสรรพนามที่ใช้เป็นคำถาม  และต้องไม่มีนามตามหลังด้วยจึงจะเรียกว่าเป็นปฤจฉาสรรพนาม  ได้แก่    Who  ,  whom,  whose  ,  what,  which     ซึ่งมีวิธีใช้ดังนี้.
  • Who   (ใคร)   ใช้ถามถึงบุคคลและเป็นประธานของกิริยาในประโยคได้ บางครั้งก็เป็นกรรมได้ เช่น.   Who   is  standing   there  ? ใครกำลังยืนอยู่ที่นั่น?.
  • Whom (ใคร)  ใช้ถามถึงบุคคลและเป็นกรรมของกิริยาหรือบุรพบท  (บางครั้งใช้ Who แทน).เช่น Whom  do  you  love ?  คุณรักใคร ?.
  • Whose (ของใคร)  ใช้ถามถึงเจ้าของ  และต้องเป็นบุคคลเท่านั้น เช่น.  Whose  is  the  car ?  รถคันนี้เป็นของใคร
  • What (อะไร)   ใช้ถามถึงสิ่งของเป็นได้ทั้งประธานและกรรม  เช่น:-

                       –  ถ้าเป็นประธานต้องไม่ใช้กริยาอะไรมาช่วยทั้งสิ้น เช่น What  delayed  you ?  

                          อะไรทำให้คุณล่าช้า.

–  ถ้าเป็นกรรมต้องมีกริยาช่วยตัวอื่นมาร่วมด้วย และวางไว้หลัง What เช่น What  

    do you want ?

  • Which  (สิ่งไหน อันไหน)  ใช้ถามถึงสัตว์, สิ่งของ, เป็นได้ทั้งประธานและกรรม เช่น  ถ้าเป็นประธานไม่ต้องใช้กริยาอื่นมาช่วย  Which  is  the  best?  อันไหนดีที่สุด ?.(อนึ่งปฤจฉาสรรพนาม Whose ,which,  what นี้  ถ้าใช้โดยมีนามอื่นตามหลังก็เป็นคุณศัพท์ไป   ถ้าไม่มีนามอื่นตามหลังจึงจะเป็นปฤจฉาสรรพนาม)   
  1. 6. Relative  Pronounประพันธ์สรรพนาม  คือสรรพนามที่ใช้แทนที่อยู่ข้างหน้า และในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เชื่อมประโยค ซึ่งอาจเป็นประธานของประโยคหลังได้ด้วย  ได้แก่ Who,  Whom,   Whose, Which,  Where,  what,  when, why,  that .
  • Who  (ผู้ซึ่ง)  ใช้แทนนามที่เป็นบุคคลและบุคคลนั้นจะต้องเป็นผู้กระทำด้วย เช่น The  man  who  came  here  last  week  is  my  cousin.  ชายผู้ซึ่งมาที่นี่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นลูกพี่ลูกน้องของฉัน.
  • Whom (ผู้ซึ่ง)  ใช้แทนนามที่เป็นบุคคลและบุคคลนั้นต้องเป็นผู้ถูกกระทำด้วย เช่น The  boy  whom  you  saw  yesterday  is  my  brother. เด็กชายผู้ซึ่งคุณพบเมื่อวานนี้เป็นน้องชายของผม.
  • Whose(ผู้ซึ่ง…..ของเขา)   ใช้แทนนามที่เป็นบุคคลเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของนามที่ตามหลัง ดังนั้นเมื่อมี Whose ก็ต้องมีนามตามหลัง Whose เสมอ  เช่น  The  girl  whose  father  is  a  teacher  goes  to  school  every  day.   เด็กหญิงผู้ซึ่งพ่อของเขาเป็นครูนั้นไปโรงเรียนทุกวัน.(เป็นคำแสดง ความ เป็นเจ้าของ Father).
  • Which  (ที่,ซึ่ง)  ใช้แทนนามที่เป็นสัตว์ สิ่งของ เป็นได้ทั้งประธานและกรรม   The  animal            which  has  wing  is  a  bird.  สัตว์ที่มีปีกนั้นคือนก(เป็นประธานของอนุประโยค  has  wings) The  kitten  which  I  gave  to  my  aunt  is  very  naughty.  ลูกแมวซึ่งฉันให้แก่คุณป้าของฉันไปนั้นซุกซนมาก.(เป็นกรรมของกริยา  gave  ในอนุประโยค  I gave  to  my  aunt).
  • Where (อันเป็นที่)  ใช้แทนนามที่เป็นสถานที่ เป็นได้ทั้งประธานและกรรม เช่น  The  night  club is  the  place  where  is  not  suitable  for children. ไนท์คลับเป็นสถานที่ที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กๆ(เป็นประธานของอนุประโยค is  not  suitable  for  children )  The  hotel  is  the  place  where  I  like  best .  โรงแรมเป็นสถานที่ที่ผมชอบมากที่สุด.(เป็นกรรมของ like).
  • What (อะไร,สิ่งที่)  ใช้แทนนามที่เป็นสิ่งของ นามที่ What ไปแทนทำหน้าที่เป็นประพันธ์สรรพนามนั้นไม่ต้องปรากฏให้เห็นอยู่ข่างหน้าเหมือนประพันธ์สรรพนามตัวอื่น ทั้งนี้เพราะถูกละไว้ในฐานะที่เข้าใจแล้ว เช่น I  know  what  is  in  the  box.  ฉันรู้ว่าอะไรอยู่ในกล่องใบนี้.
  • When (เมื่อ,ที่)  ใช้แทนนามที่เกี่ยวกับเวลา ,วัน,  เดือน,ปี  เช่น  Sunday  is  the  day  when  we  don’t  work.  วันอาทิตย์คือวันที่เราไม่ทำงาน.
  • Why (ทำไม)   ใช้แทนนามที่เป็นเหตุผล  (ส่วนมากใช้แทน reason ) เช่น This  is  the  reason  why  I  go  to  Hong  Kong. นี้คือเหตุผลที่ว่า ทำไมผมจึงไปฮ่องกง. 
  • That  (ที่,ซึ่ง)   ใช้แทนคน, สัตว์, สิ่งของ, และสถานที่ได้ แต่ต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ 4  ประการอย่างใดอย่างหนึ่ง  อันได้แก่  :-
  1.  เป็นนามที่มีคุณสมบัติสูงสุดมาขยายอยู่ข้างหลัง เช่น  He is the tallest  man  that  I   have  ever seen. เขาเป็นคนสูงที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา.   
  2. เป็นนามที่มีเลขจำนวนนับที่มาขยายอยู่ข้างหน้า  เช่น China  is  the  first  country  that  I am  going  to  visit. จีนเป็นประเทศแรกที่ข้าพเจ้าจะไปเที่ยว.
  3. เป็นนามที่มีคุณศัพท์บอกปริมาณมาขยายอยู่ข้างหน้า เช่น She has much money  that  she  give  me.  หล่อนมีเงินอยู่มากที่หล่อนจะให้ผม. 
  4.  เป็นสรรพนามผสมต่อไปนี้ตัวใดตัวหนึ่งปรากฏอยู่แล้ว คือsomeone,  somebody,  something,  anyone,  anything,  anybody,  anyone,  everything,  no  one,  nothing,  etc.  เช่น    There  is  nothing that  I can  do  for  you.   ไม่มีอะไรที่ผมจะช่วยคุณได้.
  5. 7.  Reflexive   Pronounสรรพนามสะท้อนหรือเน้น  ได้แก่บุรุษสรรพนามที่ 5  นั่นเอง  อันได้แก่   myself,  yourself,  ……. Themselves.   เวลาใช้มีวิธีใช้  4  อย่างคือ  :-
  6. เรียงไว้หลังประธาน  เมื่อต้องการเน้นว่าประธานเป็นผู้กระทำกิจนั้นด้วยตนเอง เช่น  I   myself  study  English.   ผมเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง.
  7. เรียงไว้หลังกริยา เมื่อบอกว่าผลการกระทำนั้นเกิดจากผู้กระทำเองเช่น   I  will  punish  myself  if  I do  mistakes  ผมจะลงโทษตัวเอง  หากผมทำผิด. 
  8. เรียงไว้หลังกรรม  เมื่อต้องการเน้นกรรมนั้นเช่น   I   spoke   to  the  President   himself .  ผมได้พูดกับตัวท่านประธานาธิบดีเอง.
  9. เรียงไว้หลังบุรพบท by วางไว้สุดประโยคทุกครั้งไป เมื่อต้องการแสดงว่าประธานผู้นั้นกระทำกิจนั้นโดยลำพังคนเดียว เช่น   Pranee makes her dress by herself.
  10. 8.  Distributive   Pronounวิภาคสรรพนาม   คือสรรพนามที่ใช้แทนคำนามในการแบ่งหรือจำแนกออกเป็นครึ่งหนึ่ง, สิ่งหนึ่ง, หรือตัวหนึ่ง  วิภาคสรรพนามที่นิยมใช้กันมากคือ

each   แต่ละ,  either   คนใดคนหนึ่ง,   neither  ไม่ใช่ทั้งสอง  หรือไม่ใช่ทั้งสอง  เช่น

  There  are  ten  boy each   has  one  hundred  bath.   มีเด็กอยู่ 10  คน  แต่ละคนมีเงินอยู่คนละ  100  บาท.

*   ข้อสังเกต   วิภาคสรรพนามถ้าใช้ลอยๆเป็นสรรพนาม  แต่ถ้าใช้โดยมีนามอื่นตามหลังจะเป็นคุณศัพท์     

                      

Article

                 Article   คือ คำที่ใช้นำหน้านาม    คือคำนามในภาษาอังกฤษทุกตัว เวลาพูด-เขียนจะต้องมี Article นำหน้าทั้งสิ้น(ยกเว้นบางตัวที่จะกล่าวต่อไป) 

                   Article  มีอยู่ 2 ชนิดคือ

  1. Indefinite Article คือคำนำหน้านามแล้วมีความหมายทั่วไป  อันได้แก่  A  , An.
  2. Definite Article คือคำนำหน้านามแล้วมีความหมายชี้เฉพาะ  ได้แก่  The .

                                 

หลักทั่วไปของการใช้   A

                  คือเมื่อ  A  นำหน้านามใดนามนั้นต้องมีลักษณะครบ  4  ประการ อันได้แก่

  1. เป็นนามเอกพจน์
  2. เป็นนามนับได้
  3. เป็นนามที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ
  4. เป็นนามที่มีความหมายทั่วไป เช่นa book, a man, a bus, a pen

*  ข้อยกเว้น  ห้ามใช้  A นำหน้า  คือนามบางตัวที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ  แต่อ่านออกเสียงสระที่อยู่ถัดไป  นามตัวนั้นให้ใช้  AN  นำหน้าแทน  (มี   H  เท่านั้น)

หลักทั่วไปของการใช้  AN

     คือเมื่อ  AN  นำหน้านามใด  นามนั้นจะต้องมีลักษณะครบ 4  ประการ คือ

  1. เป็นนามเอกพจน์
  2. เป็นนามนับได้
  3. เป็นนามที่ขึ้นต้นด้วยสระ คือ   A ,  E ,  I ,  O ,  U.
  4. เป็นนามที่มีความหมายทั่วไป

               *  ข้อยกเว้น   ห้ามใช้   AN  นำหน้าคือ  นามบางตัวที่ขึ้นต้นด้วยสระ  แต่อ่านออกเสียงเป็นพยัญชนะ”ย”  นามตัวนั้นให้ใช้  A  นำหน้าแทน  (มี   U  และ  E  เท่านั้น).

           นามต่อไปนี้ห้ามใช้ทั้ง A  และ AN  นำหน้าเด็ดขาด

  1. นามที่นับไม่ได้ทุกชนิด
  2. นามพหูพจน์ทุกชนิด

                      

หลักทั่วไปของการใช้  THE

          คำว่า The แปลว่า นั้น,นี้ คือเป็นการชี้เฉพาะถึงสิ่งที่รู้กันอยู่แล้ว   ซึ่ง The ใช้นำหน้านามได้ทุกชนิด ทุกประเภท  นั่นคือ

  1. เป็นนามเอกพจน์   ก็ใช้  The  นำหน้าได้
  2. เป็นนามพหูพจน์   ก็ใช้  The  นำหน้าได้
  3. เป็นนามที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ  ก็ใช้  The  นำหน้าได้
  4. เป็นนามที่ขึ้นต้นด้วยสระ    ก็ใช้  The  นำหน้าได้ (แต่ให้อ่านว่า ดิ )
  5. เป็นนามที่นับได้  ก็ใช้  The  นำหน้าได้
  6. เป็นนามที่นับไม่ได้  ก็ใช้  The  นำหน้าได้
  7. แต่นามที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จะต้องมีความหมายชี้เฉพาะเจาะจงเท่านั้น เช่น.

            The water in the bottle is very poor. น้ำที่อยู่ในขวดนี้เย็นมาก.

            นามต่อไปนี้ห้ามใช้ the  นำหน้า

  1. นามที่กล่าวขึ้นมาลอยๆ
  2. นามที่ระบุไว้ในหัวข้อว่าห้ามใช้  the  นำหน้า (ซึ่งมีข้อห้ามมากมายแต่จะไม่กล่าวถึง เช่น อาการนาม,ชื่อเฉพาะของคน,ชื่อถนน ,ชื่อวัน, เดือน, ปี, ลัทธิ,ศาสนา เป็นต้นซึ่ง ห้ามใช้ ทั้ง a, an,และthe นำหน้า)

     * อนึ่งแม้ลักษณะของประโยคจะไม่มีคำบ่งชี้เฉพาะเอาไว้  แต่ถ้านามนั้นเป็นที่รู้จักกันดีระหว่างผู้พูดและผู้ฟัง  ก็ให้ใช้ the  นำหน้าได้ เช่น

When you go out, don’t forget to close a door. เมื่อคุณออกไปข้างนอก อย่าลืมปิดประตู(บานไหนก็ได้)นะ.

When you go out, don’t forget to close the door. เมื่อคุณไปข้างนอก อย่าลืมปิดประตู(บานนั้น)นะ.

การใช้  a, an, the แบบระคน

–       ถ้านามนั้นไม่มีบุรพบทวลีหรืออนุประโยคมาขยายอยู่ข้างหลังให้ใช้    a,  an   ทันที เช่น

A boy like to see monkey. เด็กชอบดูลิง.

–       ถ้านามนั้นมีบุรพบทวลีหรืออนุประโยคมา ขยายอยู่ข้างหลัง ให้ใช้    the   ทันที เช่น

The man in this room is our teacher. ผู้ชายที่อยู่ในห้องนี้เป็นครูของเรา.

           * มีหลักพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ  นามใดก็ตามที่เป็นเอกพจน์นับได้  ที่กล่าวขึ้นมาลอยๆ ให้เติม a  , an  ทันที  แต่ถ้านามนั้นถูกยกขึ้นมากล่าวอีกเป็นครั้งที่   2  ให้เติม   the   ทันทีเช่น

   A black cat, the cat is fat. แมวตัวหนึ่งสีดำ แมวตัวนั้นอ้วน

*   อนึ่งยังมีรายละเอียดมากมายเกี่ยวกับคำนามบางตัวว่านามตัวใดใช้เฉพาะ a, an และนามตัวใดใช้เฉพาะ the   ซึ่งเป็นคำนามพิเศษ แต่ในที่นี้จะไม่กล่าวถึง

 

[NEW] คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ยศต่างๆ ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ และตำรวจ | คํานําหน้าชื่อ ภาษาอังกฤษ เรียกว่า – NATAVIGUIDES

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ยศต่างๆ ทหารบก ทหารเรือ และทหารอากาศ ว่าที่ร้อยตรี = Acting Sub Lt. ว่าที่ร้อยโท = Acting Lt. ว่าที่ร้อยเอก = Acting Capt. ว่าที่พันตรี = Acting Maj. Lt. ย่อมาจาก Lieutenant

การจำตำแหน่ง ยศต่างๆ ของทหาร นั้น อาจจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับคนที่ทำงานหรืออยู่กับสายงานนี้ แต่สำหรับคนทั่วไปนั้นอาจจะมีคำศัพท์หลายคำที่ย่อแล้วก็อาจสับสนเบาๆ นอกจากนั้นยังมีในหมวดยศต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษเสริมเข้ามาอีก เอาคำย่อมาฝากสำหรับคนที่สนใจค่ะ

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ยศต่างๆ

ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ และตำรวจ

ยศทหารบก – Royal Thai Army Ranks

ยศทหารภาษาไทย : ตัวย่อ (ยศทหารภาษาอังกฤษ) = ตัวย่อ

จอมพล : – (Field Marshal) = –

พลเอก : พล.อ. (General) = Gen.
พลโท : พล.ท. (Lieutenant General) = Lt.Gen.
พลตรี : พล.ต. (Major General) = Maj.Gen.
พันเอก : พ.อ. (Colonel) = Col.
พันโท : พ.ท. (Lieutenant Colonel) = Lt.Col.
พันตรี : พ.ต. (Major) = Maj.

ร้อยเอก : ร.อ. (Captain) = Capt.
ร้อยโท : ร.ท. (Lieutenant) = Lt.
ร้อยตรี : ร.ต. (Sub Lieutenant) = SubLt.

จ่าสิบเอก : จ.ส.อ. (Sergeant Major First Class) = SM1
จ่าสิบโท : จ.ส.ท. (Sergeant Major Second Class) = SM2
จ่าสิบตรี : จ.ส.ต. (Sergeant Major Third Class) = SM3

สิบเอก : ส.อ. (Sergeant) = Sgt.
สิบโท : ส.ท. (Corporal) = Cpl.
สิบตรี : ส.ต. (Private First Class) = Pfc.

พลทหาร : พลฯ (Private) = Pvt.

นักเรียนนายร้อย : นนร. (Army Cadet) = –
นักเรียนนายสิบ : – (Army Non-Commissioned Officer Student) = –
นักศึกษาวิชาทหาร = Reserve Officer Training Cops Student (ROTCS)

ยศทหารเรือ – Royal Thai Navy Ranks

ยศทหารภาษาไทย – ตัวย่อ – ยศทหารภาษาอังกฤษ = ตัวย่อ

จอมพลเรือ – (Admiral of the Fleet) –

พลเรือเอก พล.ร.อ. (Admiral) = Adm.
พลเรือโท พล.ร.ท. (Vice Admiral) = VAdm.
พลเรือตรี พล.ร.ต. (Rear Admiral) = RAdm.

นาวาเอก น.อ.(ชื่อ)ร.น. (Captain) = Capt.
นาวาโท น.ท.(ชื่อ)ร.น. (Commander) = Cdr.
นาวาตรี น.ต.(ชื่อ)ร.น. (Lieutenant Commander) = LCdr.

เรือเอก ร.อ.(ชื่อ)ร.น. (Lieutenant) = Lt.
เรือโท ร.ท.(ชื่อ)ร.น. (Lieutenant Junior Grade) = Lt.JG.
เรือตรี ร.ต.(ชื่อ)ร.น. (Sub Lieutenant) = SubLt.

พันจ่าเอก พ.จ.อ. (Chief Petty Officer First Class) = CPO1
พันจ่าโท พ.จ.ท. (Chief Petty Officer Second Class) = CPO2
พันจ่าตรี พ.จ.ต. (Chief Petty Officer Third Class) = CPO3

จ่าเอก จ.อ. (Petty Officer First Class) = PO1
จ่าโท จ.ท. (Petty Officer Second Class) = PO2
จ่าตรี จ.ต. (Petty Officer Third Class) = PO3

พลทหาร พลฯ (Seaman) –
นักเรียนทหารเรือ นนร. (Naval Cadet) –
นักเรียนจ่าทหารเรือ – (Naval Rating Student) –

ยศทหารอากาศ – Royal Thai Air Force Ranks

ยศทหารภาษาไทย ตัวย่อ ยศทหารภาษาอังกฤษ = ตัวย่อ

จอมพลอากาศ – Marshal of the Royal Thai Air Force –

พลอากาศเอก พล.อ.อ. Air Chief Marshal = ACM
พลอากาศโท พล.อ.ท. Air Marshal = AM
พลอากาศตรี พล.อ.ต. Air Vice Marshal = AVM

นาวาอากาศเอก น.อ. Group Captain = Gp.Capt.
นาวาอากาศโท น.ท. Wing Commander = Wg.Cdr.
นาวาอากาศตรี น.ต. Squadron Leader = Sqn.Ldr.

เรืออากาศเอก ร.อ. Flight Lieutenant = Flt.Lt.
เรืออากาศโท ร.ท. Flying Officer = Flg.Off.
เรืออากาศตรี ร.ต. Pilot Officer = Plt.Off.

พันจ่าอากาศเอก พ.อ.อ. Flight Sergeant First Class = FS1
พันจ่าอากาศโท พ.อ.ท. Flight Sergeant Second Class = FS2
พันจ่าอากาศตรี พ.อ.ต. Flight Sergeant Third Class = FS3

จ่าอากาศเอก จ.อ. Sergeant = Sgt.
จ่าอากาศโท จ.ท. Corporal = Cpl.
จ่าอากาศตรี จ.ต. Leading Aircraftman = LAC

พลทหาร พลฯ Airman = Amn.
นักเรียนนายเรืออากาศ นนอ. Air Cadet = A/cdt.
นักเรียนจ่าอากาศ นจอ. Air Technical Student –

ยศต่างๆ ของ ตำรวจ

พลตำรวจเอก พล.ต.อ. Police General = POL.GEN.
พลตำรวจโท พล.ต.ท. Police Lieutenant General = POL.LT.GEN.
พลตำรวจตรี พล.ต.ต. Police Major General = POL.MAJ.GEN.
พลตำรวจจัตวา พล.ต.จ. Police Brigadier General = POL.BRIG.GEN. –

พันตำรวจเอก (พิเศษ) พ.ต.อ. (พิเศษ) Police Senior Colonel = POL.SR.COL. –
พันตำรวจเอก พ.ต.อ. Police Colonel = POL.COL.
พันตำรวจโท พ.ต.ท. Police Lieutenant Colonel = POL.LT.COL.
พันตำรวจตรี พ.ต.ต. Police Major = POL.MAJ.

ร้อยตำรวจเอก ร.ต.อ. Police Captain = POL.CAPT.
ร้อยตำรวจโท ร.ต.ท. Police Lieutenant = POL.LT.
ร้อยตำรวจตรี ร.ต.ต. Police Sub-Lieutenant = POL.SUB.LT.

ดาบตำรวจ ด.ต. Police Senior Sergeant Major = POL.SEN.SGT.MAJ.
จ่าสิบตำรวจ จ.ส.ต. Police Sergeant Major = POL.SGT.MAJ.
สิบตำรวจเอก ส.ต.อ. Police Sergeant = POL.SGT.
สิบตำรวจโท ส.ต.ท. Police Corporal = POL.CPL.
สิบตำรวจตรี ส.ต.ต. Police Lance Corporal = POL.L หรือ C
พลตำรวจ พลฯ Policeman Constable หรือ Police Private = POL.CONST.

นักเรียนนายร้อยตำรวจ นรต. Police Cadet = Pol.Cdt.
นักเรียนนายสิบตำรวจ นสต. — —
นักเรียนดุริยางค์ตำรวจ นดต. Police Music Student = Pms.
นักเรียนพยาบาลตำรวจ นพต. Police Nurse Student –

ชื่อยศ ว่าที่… ภาษาอังกฤษ

ว่าที่ร้อยตรี = Acting Sub Lt.
ว่าที่ร้อยโท = Acting Lt.
ว่าที่ร้อยเอก = Acting Capt.
ว่าที่พันตรี = Acting Maj.

Lt. ย่อมาจาก Lieutenant
Capt. ย่อมาจาก Captain
Maj. ย่อมาจาก Major

ความรู้เกี่ยวกับ ยศทหารและตำรวจไทย

ยศทหารและตำรวจไทย ตามแบบชาติตะวันตก เริ่มกำหนดให้มียศทหารและตำรวจไทยขึ้นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นยุคที่มีการปรับปรุง และจัดระบบระเบียบการบริหารราชการแผ่นดินใหม่ ตามแบบยุโรปในทุกด้าน โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แยกยศและบรรดาศักดิ์ออกจากกันอย่างเด็ดขาด และโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติสำหรับลำดับยศนายทหารบกขึ้น ในปี พ.ศ. 2431 กำหนดให้มียศทหารบกตามลำดับชั้นแบบอารยประเทศ ต่อมาเมื่อจัดระเบียบฝ่ายทหารบกเรียบร้อยแล้วจึงให้จัดระเบียบยศทหารเรือ โดยอนุโลมตามแบบกองทัพเรือต่างประเทศเป็นลำดับถัดมา

ที่มา : คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้ในการแปล www.consular.go.th , กองบัญชาการกองทัพไทย , ยศทหารและตำรวจไทย , ภาพจาก By Sodacan

บทความแนะนำ


#How to address people วิธีการใช้คำนำหน้าชื่อเป็นภาษาอังกฤษ #9


Address people (แอด เดรส พี เพิ่ล )= คำนำหน้าชื่อ , คำนำหน้านาม
Sir (เซ่อร์)= ท่าน , คุณผู้ชาย
ตัวอย่าง Jay : Excuse me sir! Do you know what time is it?
(เจย์: อิ่ก คิวซ์ มี เซอร์! ดู ยู โหน๋ว วอท ทาม อี๊ท อิท?)
เจ: ขออภัยครับ คุณรู้ไหม ตอนนี้เวลากี่โมงแล้ว.

Dav : It’s 6 p.m. (อิทสึ ซิกส์ พี เอ็ม)
เดฟ : มันเป็นเวลาหกโมงเย็นแล้ว
Miss (Ms) อ่านว่า มิส แปลว่า นางสาว (ใช้สำหรับผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว)
Mister (Mr) อ่านว่า มิสเตอร์ แปลว่า นาย (ใช้เรียกผู้ชาย)
Missis (Mrs) อ่านว่า มิสซิส แปลว่า นาง (ใช้สำหรับผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว) ตัวอย่าง Ms. : Excuse me Mr.Bond.
Mr. : Yes
Ms.: You have a meeting with Mr.and Mrs.Smith at2 p.m.
Mr. : Thank you Ms. Laxi for reminding me.
Ms. : No problem Sir.

คำเรียกใช้คำนำหน้านามอื่นๆ เช่น
Ma’am อ่านว่า แหม่ม ใช้เรียกแทนความหมายว่า คุณผู้หญิง
Madam อ่านว่า มาดาม ใช้เรียกผู้หญิงสูงอายุแปลว่าคุณผู้หญิงเช่นกัน
Professor อ่านว่า โปรเฟสเซ่อะ แปลว่า ศาสตราจารย์
Doctor อ่านว่า ด๊อกเถ่อะ แปลว่า คุณหมอ
Lady อ่านว่า เลดี้ แปลว่า สุภาพสตรี
Gentleman อ่านว่า เจนเทิ่ลแมน แปลว่า สุภาพบุรุษ
๑๑เรียนภาษาอังกฤษฟรีกับเราที่ www.Goblackboard.com 🙂 ๑๑
Learn how to speak English FREE with us at :
http://www.goblackboard.com
http://www.fackboock.com/goblackboard

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

#How to address people วิธีการใช้คำนำหน้าชื่อเป็นภาษาอังกฤษ #9

Now You C-Amy EP.47 I ซีมี่บุก! ฟาร์ม “น้ำ รพีภัทร”เพื่อนรักที่คิดถึง


น้ำ รพีภัทร IG: namrapeepatekpankul

=================================
ติดต่องาน
📱 0926324542
☎️ 028332210
💬 https://m.me/BangpoonCampus
📧 [email protected]

Now You C-Amy EP.47 I ซีมี่บุก! ฟาร์ม “น้ำ รพีภัทร”เพื่อนรักที่คิดถึง

Mr. / Mrs. / Ms. / Miss ใช้ต่างกันยังไง? | SPEAK English with PRANG


คำนำหน้าชื่อ ในภาษาอังกฤษ อย่าง Mr. / Ms. / Mrs. / Miss 🤦‍♀ ที่ผ่านมาจำสลับกันหรือเปล่า!!? 🤷‍♂ มาดูกันว่ามันคืออะไร ใช้ต่างกันยังไงนะ??
V
🧔 \”Mr.\”
อ่านว่า มิสเตอร์
: คำนำหน้า \”ผู้ชาย\” (นาย)

👧 \”Miss\”
อ่านว่า มิส
: คำนำหน้า \”ผู้หญิงที่ยังไม่แต่งงาน\” (นางสาว)

👩‍🦰 \”Ms.\”
อ่านว่า มิส (ลงท้ายเสียงเป็น z)
: คำนำหน้า \”ผู้หญิง\” ที่ไม่ระบุว่าแต่งงานหรือยังไม่แต่งงาน (นางสาว/นาง)

👰 \”Mrs.\”
อ่านว่า มิสซิส
: คำนำหน้า \”ผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว\” (นาง)

V
…ดูเทคนิคการใช้และตัวอย่าง ในคลิปเล้ยย!
_______________________
SPEAK English with PRANG ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับปราง 👄
\”ติดตามช่องทางต่างๆ\”
Facebook: https://web.facebook.com/speakenglish.prang
Instagram: speakenglish_prang
.
คำนำหน้าชื่อ ms mr mrs miss นาง นาย นางสาว คุณ พูดภาษาอังกฤษ เรียนภาษาอังกฤษ สอนภาษาอังกฤษ ติวเตอร์ภาษาอังกฤษ สนทนาภาษาอังกฤษ SpeakEngish Prang ปราง

Mr. / Mrs. / Ms. / Miss ใช้ต่างกันยังไง? | SPEAK English with PRANG

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ 500 คำ พื้นฐาน ในชีวิตประจำวัน สำหรับเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ ฝึกฟัง ฝึกพูด ด้วยตัวเอง


💖 ถ้าอยากให้กำลังใจ มาสมัครสมาชิกกันนะครับ 💖
กดตรงนี้ 👉 https://www.youtube.com/channel/UCaiwEWHCdfCi23EYN1bWXBQ/join
คำศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐาน 500 คำ พร้อมคำอ่าน คำแปล สำหรับฝึกฟัง ฝึกพูด ท่องศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เหมาะกับผู้เริ่มเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง กดเพื่อไปยังคำศัพท์หมวดต่างๆ ดังนี้
0:00 คำศัพท์ภาษาอังกฤษ พื้นฐาน 500 คำ ในชีวิตประจำวัน
0:45 คำศัพท์ ในชั้นเรียน ห้องเรียน
8:32 คำศัพท์วัน เดือน ปี และการพูดถึงวันต่างๆ
13:36 คำศัพท์ สีต่างๆ
16:22 คำศัพท์ข้าวของเครื่องใช้
19:09 คำศัพท์สิ่งของในห้องนอน
21:52 คำศัพท์ของใช้ในห้องน้ำ
24:10 คำศัพท์เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องแต่งกาย
31:19 คำศัพท์ครอบครัว
36:41 คำศัพท์ที่ใช้บรรยายลักษณะของคน
43:30 คำศัพท์ร่างกาย
48:54 คำศัพท์พูดถึงอาการบาดเจ็บ
52:49 คำศัพท์สำหรับบอกตำแหน่งที่ตั้ง ทิศทาง
ซึ่งเป็นคำศัพท์ภาษาอังกฤษน่ารู้ ที่ควรรู้ สามารถเปิดฟังก่อนนอน หรือเปิดฟังเพื่อเป็นการเรียนภาษาอังกฤษขณะนอนหลับได้ เปิดฟังขณะอยู่บนรถหรือกำลังขับรถได้ เป็นการท่องศัพท์ เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษแบบธรรมชาติ จำคำศัพท์ได้ดี
วิดีโอ ฝึกพูด 100 ประโยคพื้นฐานภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
https://youtu.be/lv9kTysYoIw
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ฟรี! คลิก: https://www.tonamorn.com/
แจกศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐาน 1,000 คลิก: https://www.tonamorn.com/vocabulary
สอน การแต่งประโยคภาษาอังกฤษ
https://www.tonamorn.com/learnenglish/writesentences/
เรียนภาษาอังกฤษ จากภาพสวยๆ บนอินสตาแกรม
https://instagram.com/ajtonamorn

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ 500 คำ พื้นฐาน ในชีวิตประจำวัน สำหรับเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ ฝึกฟัง ฝึกพูด ด้วยตัวเอง

ชื่อ นามสกุล Excel การรวม ชื่อ นามสกุล คนละคอลัมน์ Excel ทำได้ไง


ชื่อ นามสกุล Excel การรวม ชื่อ นามสกุล คนละคอลัมน์ Excel ทำได้ไง เป็นวิดีโอที่จะมาแนะนำ วิธีรวม ชื่อ นามสกุล Excel หรือ การรวม ชื่อ นามสกุล คนละคอลัมน์ Excel ทำได้แบบง่าย ท่านเองก็ทำได้

ชื่อ นามสกุล Excel   การรวม ชื่อ นามสกุล คนละคอลัมน์ Excel ทำได้ไง

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่MAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ คํานําหน้าชื่อ ภาษาอังกฤษ เรียกว่า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *