ตัวอย่างประโยค past simple tense 20 ประโยค: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
ประโยคเงื่อนไขจะถูกใช้เพื่อบอกให้ทราบว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว หรือจะมีสิ่งใดเกิดขึ้น หรือสิ่งใดที่เราปรารถนาอยากให้เกิดขึ้น ในภาษาอังกฤษ ประโยคเงื่อนไขส่วนใหญ่จะใช้คำว่า if และมักจะใช้ร่วมกับคำกริยาในอดีต เพื่อเป็นการอ้างอิงถึง “อดีตที่ไม่เป็นความจริง” และถึงแม้ว่าเราจะใช้คำกริยาในรูปอดีต แต่เรามักจะไม่ได้หมายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต ในภาษาอังกฤษมีประโยคเงื่อนไขอยู่ 5 แบบ แต่ไม่ว่าจะเป็นประโยคเงื่อนไขแบบใดก็ตาม ก็ล้วนแล้วแต่ใช้รูปประโยคที่มี if clause และ main clause เหมือนกัน ประโยคเงื่อนไขที่อยู่ในรูปของประโยคปฏิเสธจะใช้ unless แทน “if” ดูเพ่ิมเติมได้ใน การใช้ “unless”
ประเภทของประโยคเงื่อนไข
การใช้
tense ของคำกริยาใน If clause
tense ของคำกริยาใน Main clasue
0
ความจริงทั่วไป
Simple present
Simple present
แบบที่ 1
สิ่งที่เป็นเหตุเป็นผลกับซึ่งกันและกัน
Simple present
Simple future
แบบที่ 2
สิงที่ตรงกันข้ามกับความจริงในปัจจุบันหรือในอนาคต
Simple past
Present conditional หรือ Present continuous conditional
แบบที่ 3
สิ่งที่ตรงกันข้ามกับความจริงในอดีต
Past perfect
Perfect conditional
แบบผสม
สิ่งที่ไม่เป็นความจริงในอดีตและส่งผลต่อปัจจุบัน
Past perfect
Present conditional
ประโยคเงื่อนไขแบบ
ประโยคเงื่อนไขแบบ 0 จะใช้เพื่อบอกถึงสิ่งที่เป็นจริงและเป็นไปได้ โดยสิ่งเหล่านั้นเป็นจริงและเป็นไปได้เสมอหรืออย่างน้อยที่สุดก็ในขณะที่พูด ประโยคเงื่อนไขแบบ 0 มักจะถูกใช้เพื่อบอกให้ทราบถึงความจริงทั่วไป โดยทั้งใน main clause และ if clause จะใช้ simple present tense และโดยทั่วไปแล้วในประโยคเงื่อนไขแบบ 0 นี้สามารถใช้ “when” แทนคำว่า “if” ได้โดยที่ความหมายไม่เปลี่ยน
If clause
Main clause
If + simple present
simple present
If this thing happens
that thing happens.
If you heat ice
it melts.
If it rains
the grass gets wet.
ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 1
ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 1 จะใช้เพื่อบอกเวลา ณ. ปัจจุบันหรือในอนาคตที่สิ่งนั้นจะเกิดขึ้นจริง โดยพูดถึงสิ่งที่เป็นเหตุเป็นผลกันว่า หากสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น อีกสิ่งหนึ่งก็จะเกิดขึ้นตามมาด้วย ในประโยคเงื่อนไขแบบที่ 1 นี้ if clause จะใช้ simple present tense และ main clause จะใช้ simple future tense
If clause
Main clause
If + simple present
simple future
If this thing happens
that thing will happen.
If you don’t hurry
you will miss the train.
If it rains today
you will get wet.
ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 2
ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 2 จะใช้เพื่อบอกเวลา ณ. ปัจจุบันหรือเมื่อใดก็ได้ และสิ่งนั้นไม่เป็นความจริง ประโยคเงื่อนไขแบบนี้ไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานความจริง โดยพูดถึงเงื่อนไขที่สมมุติขึ้นมาและผลที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ในประโยคเงื่อนไขแบบที่ 2 นี้ if clause จะใช้ simple past tense และ main clause จะใช้ present conditional
If clause
Main clause
If + simple past
present conditional or present continuous conditional
If this thing happened
that thing would happen. (แต่ไม่แน่ใจว่า สิ่งนั้นจะเกิดขึ้นหรือไม่) OR
that thing would be happening.
If you went to bed earlier
you would not be so tired.
If it rained
you would get wet.
If I spoke Italian
I would be working in Italy.
อ่านเพิ่มเติมได้ใน วิธีการใช้ ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 2 เมื่อใช้ present conditional และ วิธีใช้ present continuous conditional ในประโยคเงื่อนไขแบบที่ 2
ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 3
ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 3 จะใช้เพื่อบอกเวลาในอดีตที่สิ่งนั้นตรงกันข้ามกับความจริง ใช้เพื่ออ้างถึงเงื่อนไขในอดีตที่ไม่เป็นความจริงและผลในอดีตที่อาจจะเป็นไปได้ ในประโยคเงื่อนไขแบบที่ 3 นี้ if clause จะใช้ past perfect tense และ main clause จะใช้ perfect conditional
If clause
Main clause
If + past perfect
perfect conditional หรือ perfect continuous conditional
If this thing had happened
that thing would have happened. (แต่ไม่มีสิ่งใดเป็นความจริง) OR
that thing would have been happening.
If you had studied harder
you would have passed the exam.
If it had rained
you would have gotten wet.
If I had accepted that promotion
I would have been working in Milan.
อ่านเพิ่มเติมได้ใน วิธีการใช้ ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 3 เมื่อใช้ perfect conditional tense และ วิธีการใช้ perfect continuous conditional ในประโยคเงื่อนไขแบบที่ 3
ประโยคเงื่อนไขแบบผสม
ประโยคเงื่อนไขแบบผสมจะใช้เพื่อบอกเวลาในอดีตและสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นยังคงเกิดต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ใช้เพื่ออ้างถึงเงื่อนไขในอดีตที่ไม่เป็นความจริงและผลในอดีตที่อาจจะเป็นไปได้ในปัจจุบัน ในประโยคเงื่อนไขแบบผสมนี้ if clause จะใช้ past perfect tense และ main clause จะใช้ present conditional
If clause
Main clause
If + past perfect หรือ simple past
present conditional หรือ perfect conditional
If this thing had happened
that thing would happen. (แต่สิ่งนั้นไม่ได้เกิดขึ้นก็เลยส่งผลให้สิ่งในปัจุบันไม่ได้เกิดขึ้น)
If I had worked harder at school
I would have a better job now.
If we had looked at the map
we wouldn’t be lost.
If you weren’t afraid of spiders
you would have picked it up and put it outside.
สรุปการใช้ if clause พร้อมตัวอย่างประโยค
If clause คืออะไร
If clause (มีชื่อเรียกอื่นว่า conditional sentences หรือ conditional clauses) คือรูปแบบประโยคที่ใช้บอกว่า ถ้ามีสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น (เงื่อนไข) อีกสิ่งก็จะเกิดขึ้นตาม (ผลลัพธ์)
การใช้ if clause เราจะต้องใช้คู่กับ main clause (ประโยคหลัก) โดยที่ if clause จะเป็นตัวบอกเงื่อนไข ซึ่งจะขึ้นต้นด้วย if ส่วน main clause จะเป็นตัวบอกผลลัพธ์ อย่างเช่น
If it rains, I will stay home.
ถ้าฝนตก ฉันจะอยู่บ้าน
จากตัวอย่างประโยคนี้
If clause ก็คือ If it rains (เงื่อนไข)
Main clause ก็คือ I will stay home. (ผลลัพธ์)
หลักการใช้ if clause
เรามาดูหลักการใช้ if clause ทั้งการใช้คอมม่า และการใช้ if clause ทั้ง 4 แบบกันเลย (บางที่อาจพูดถึงแค่ 3 แบบ โดยจะตัดแบบที่ 0 หรือที่เรียกว่า type 0 ออก)
ตำแหน่งกับการใช้คอมม่า
If clause และ main clause สามารถเขียนสลับที่กันได้ ซึ่งถ้าเราขึ้นต้นประโยคด้วย if clause เราจะต้องใช้คอมม่าคั่นระหว่าง if clause และ main clause
If you don’t hurry, you will be late for school.
ถ้าคุณไม่รีบ คุณจะไปโรงเรียนสาย
แต่ถ้าเราขึ้นต้นประโยคด้วย main clause เราจะไม่ต้องใช้คอมม่า
You will be late for school if you don’t hurry.
คุณจะไปโรงเรียนสายถ้าคุณไม่รีบ
การใช้ if clause แบบที่ 0
If clause แบบที่ 0 (เรียกอีกอย่างว่า the zero conditional หรือ type 0) เราจะใช้กับ
- สิ่งที่เป็นจริงเสมอ (ถ้าน้ำแข็งละลาย มันจะกลายเป็นน้ำ – ความจริงตามธรรมชาติ)
- สิ่งที่เราทำเป็นปกติ (ถ้าฉันไปชายหาด ฉันจะใช้ครีมกันแดด – ฉันใช้ครีมกันแดดเสมอ เมื่อฉันไปชายหาด)
โดยจะเป็นการพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นโดยทั่วไป ไม่ใช่เหตุการณ์เฉพาะ
If clause แบบที่ 0
If clause
Main clause
Tense ที่ใช้
Present simple
Present simple
ตัวอย่างประโยค
If ice melts,
ถ้าน้ำแข็งละลาย
it turns into water.
มันจะกลายเป็นน้ำ
If I go to the beach,
ถ้าฉันไปชายหาด
I use sunscreen.
ฉันจะใช้ครีมกันแดด
If you don’t exercise,
ถ้าคุณไม่ออกกำลังกาย
your muscle mass decreases.
มวลกล้ามเนื้อของคุณก็ลดลง
การใช้ if clause แบบที่ 0 เราสามารถใช้ when แทน if ได้ โดยที่ความหมายไม่เปลี่ยน อย่างเช่น If ice melts, it turns into water. -> When ice melts, it turns into water.
การใช้ if clause แบบที่ 1
If clause แบบที่ 1 (the first conditional) เราจะใช้กับเหตุการณ์สมมติที่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคต
ตัวอย่างเช่น ถ้าฝนตก ฉันจะอยู่บ้าน – มีความเป็นไปได้สูงว่าอนาคตฝนจะตก ซึ่งถ้าฝนตก ฉันก็จะอยู่บ้าน
If clause แบบที่ 1
If clause
Main clause
Tense ที่ใช้
Present simple
will/won’t + verb
ตัวอย่างประโยค
If it rains,
ถ้าฝนตก
I will stay home.
ฉันจะอยู่บ้าน
If you eat too much,
ถ้าคุณกินมากเกินไป
you will gain weight.
คุณจะน้ำหนักขึ้น
If the traffic is bad,
ถ้ารถติด
I won’t be there in time.
ฉันจะไปถึงที่นู่นไม่ทันเวลา
การใช้ if clause แบบที่ 2
If clause แบบที่ 2 (the second conditional) เราจะใช้กับเหตุการณ์สมมติในปัจจุบันหรืออนาคตที่มีโอกาสเป็นไปได้น้อย
ตัวอย่างเช่น ถ้าฉันถูกหวย ฉันจะเที่ยวรอบโลก – ถ้าฉันถูกหวยเป็นเหตุการณ์สมมติที่มีโอกาสเป็นไปได้น้อย แต่ถ้าฉันถูกหวยตอนนี้หรือในอนาคต ฉันก็จะไปเที่ยวรอบโลก
If clause แบบที่ 2
If clause
Main clause
Tense ที่ใช้
Past simple
would/wouldn’t + verb
ตัวอย่างประโยค
If I won the lottery,
ถ้าฉันถูกหวย
I would travel around the world.
ฉันจะเที่ยวรอบโลก
If I owned a cat,
ถ้าฉันมีแมว
I would name it Chewie.
ฉันจะตั้งชื่อมันว่าชิววี่
If I had a car,
ถ้าฉันมีรถ
I wouldn’t take the bus.
ฉันจะไม่ขึ้นรถเมล์
[Update] การใช้ active voice และ passive voice โครงสร้าง ตัวอย่าง แปล | ตัวอย่างประโยค past simple tense 20 ประโยค – NATAVIGUIDES
เรียนการใช้ Active and Passive Voice กับครูพี่โอเว่น
ในเนื้อหาบทเรียนนี้ผู้เรียนจะต้องมีความรู้พื้นฐานเรื่อง Tense มาก่อนก็มาเรียนแล้วสบายแน่ๆ เพราะผมจะสอน การใช้ Active and Passive ครบทุกอย่างเลย ไม่เชื่อมาลองดูกันครับ ลุย!
การใช้ Active and Passive กับครูพี่โอเว่น มี 2 แบบ
1. Active Voice คือ ประธานเป็นผู้กระทำเอง
2. Passive Voice คือ ประธานนั้นซึ่งถูกกระทำ
การเปลี่ยน Active and Passive กับครูพี่โอเว่น
1. เอากรรมของ Active มาเป็นประธานของประโยค Passive
2. เอาประธานของ Active มาเป็นกรรมของประโยค Passive โดยกรรมนี้ต้องอยู่หลัง by
3. ต้องเพิ่ม Verb to be ใน Passive
4. เปลี่ยน V. หลักเป็นช่อง V.3 ให้หมด
การใช้ Active and Passive ต้องดูจาก Tense นั้นมี 12 Tense ถ้าคุณแม่น 12 Tense คุณก็สามารถเข้าใจ Passive ได้อย่างแน่นอน วันนี้เราจะมาดูทั้ง การใช้ Active and Passive ลุย!
Present Tense
1. Present Simple Tense
Active = S +v.1
= Owen eats an apple.
Passive = S + v.to be (is am are) + v.3
= An apple is eaten by Owen.
2. Present Continuous Tense
Active = S + v.to be (is am are) + v.ing
= Owen is eating an apple.
Passaive = s + v.to be (is am are) + being + v.3
= An apple is being eaten by Owen.
3. Present Perfect Tense
Active = s + v.to have (have/has) + v.3
= Owen has eaten an apple.
Passive = s + v.to have (have/has) + been + v.3
= An apple has been eaten by Owen.
4. Present Perfect Continuous Tense
Active = s + v.to have (have/has) + been + v.ing
= Owen has been eating an apple.
Passive = s + v.to have (have/has) + been + being + v.3
=An apple has been being eaten by Owen.
Past Tense
1. Past Simple Tense
Active = S +v.2
= Owen ate an apple.
Passive = S + was, were + v.3
= An apple was eaten by Owen.
2. Past Continuous Tense
Active = S + was , were + v.ing
= Owen was eating an apple.
Passaive = s + was , were + being + v.3
= An apple was being eaten by Owen.
3. Past Perfect Tense
Active = s + had + v.3
= Owen had eaten an apple.
Passive = s + had + been + v.3
= An apple had been eaten by Owen.
4. Past Perfect Continuous Tense
Active = s + had + been + v.ing
= Owen had been eating an apple.
Passive = s + had + been + being + v.3
=An apple had been being eaten by Owen.
Future Tesne
1. Future Simple Tense
Active = S + will + v.1
= Owen will eat an apple.
Passive = S + will be + v.3
= An apple will be eaten by Owen.
2. Future Continuous Tense
Active = S + will be + v.ing
= Owen will be eating an apple.
Passaive = s + will be + being + v.3
= An apple will be being eaten by Owen.
3. Future Perfect Tense
Active = s + will + have + v.3
= Owen will have eaten an apple.
Passive = s + will + have + been + v.3
= An apple will have been eaten by Owen.
4. Future Perfect Continuous Tense
Active = s + will + have+ been + v.ing
= Owen will have been eating an apple.
Passive = s + will + have + been + being + v.3
=An apple will have been being eaten by Owen.
Past Simple and Past Continuous – English grammar tutorial video lesson
Past simple and past continuous grammar lesson. In this lesson I am going to show how to use and form both the past simple \u0026 the past continuous and how to keep them apart.
Take a look at these sentences:
I watched the telly last night.
I was watching the telly last night.
The first sentences contains a past simple, the second sentence is in the past continuous. In this lesson I’m going to show you how to form a past simple and how to form a past continuous and when to use past simple andwhen to use a past continuous and more important the difference between the two. First we are going to take a look at how to form these past tenses. As you might know in the English language we have regular and irregular verbs. And this this is important to remember when forming a past simple. To make a past simple for the regular verbs, we use the base form of the verb and add ‘ed.”
For example:
He worked late last night
www.englishgrammarspot.com
The irregular verbs have their own and unique past tense so you need to study those carefully.
I bought a new tshirt yesterday.
The infinitive form of the verb bought is to buy. With the past continuous
we do not need to worry about regular and irregular verbs. Because all verbs that take a past continous whether they’re regular or irregular, are formed by using was or were, the past tenses of the verb ‘to be’, and the base form of the verb and ‘ing.’
For example:
He was working last night
I was buying a tshirt, when I saw her yesterday.
Now let’s have a look at how to use a past simple and how to use a past continuous and how to keep them apart. we use a past simple for actvities that were finished in the past, we usually use a time frame:
He worked late last night.
Here last night is what we consider timeframe.
I bought a new Tshirt yesterday
Here yesterday is a timeframe. A past continuous is used for activities started and finished in the past, but we want emphasized duration: so we want to show the other person the other listener or reader that the action lasted for quite some time.
For example:
He was working all night so we want emphasize that it lasted the entire night. we also use past continuous form for an ongoing action in the past interrupted by a sudden event. For example:
I was buying a tshirt when I ran into her so I was doing something and then suddenly a
friend came up to me that’s when I ran into her. Please note that for the interruption we use a past simple so we often find a past continuous and a past simple in the same sentence with the past continuous showing us that it was a continuing activity and the past simple showing the interruption of that activity.
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม
Future Perfect Tense Examples
Learn how to use the future perfect tense in English with this fun and easytounderstand video.
When will we have finished that? Future Perfect Tense
When will we have finished that? Future Perfect Tense
The future perfect is a verb form or construction used to describe an event that is expected or planned to happen before a time of reference in the future. Let’s watch the following video to learn more about how to use future perfect tense.
Learn English and improve grammar, vocabulary and reading skills ➡️ https://www.youtube.com/playlist?list=PLtBFFyhEIC7lFhONPSYAryiaG4BpoyhbD ▶ Please subscribe to update new videos. ➡️ https://www.youtube.com/channel/UCXtMjo8xJqjEhS4A9KUY8GA?sub_confirmation=1 ─────────────────── ☞ Thanks for watching! ☞ Please share and like if you enjoyed the video 🙂 thanks so much ♥
learnenglishwithjessica englishspeakingpractice englishgrammar
What Have You Been Doing? – Present Perfect Continuous
Learn how to use Present Perfect Continuous through this story. There are many examples in the video that can help you understand this tense easily and use it correctly.
Văn Phạm 20: Cách Đặt Câu Hỏi: Are You? Do you?
Các bạn bấm nút \”ĐĂNG KÝ\” hoặc \”SUBSCRIBE\” màu đỏ dưới video, phía tay phải để dễ dàng nhận được các bài mới của anh Frank và TK nha!
Nhiều lần trong quá trình học, thế nào bạn cũng có lúc tự hỏi Are you hay Do you? Làm sao chúng ta biết câu hỏi này bắt đầu là Are you hay Do you? Bài hôm này sẽ giúp các bạn phân biệt rõ hơn nha!
Các bạn xem những bài văn phạm khác tại đây:
https://www.youtube.com/playlist?list=PLLx8_1BoESGF1wy1P8vhAjw6gdupa2TyE
Và xem các bài học khác của anh Frank và TK qua:
YouTube: Study English With Us
Facebook: Cùng Học Anh Ngữ Với Chúng Tôi
Website: StudyEnglishWithUs.com
Chúc các bạn học thật tốt nhé! Like và Share các video bài học giùm anh Frank và TK nha! Cám ơn các bạn!
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE
ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ ตัวอย่างประโยค past simple tense 20 ประโยค