เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภาษาอังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้
เนื้อหาเรื่อง การใช้ประโยคอธิบายเหตุการณ์ในอดีต
(Past simple tense)
Past Simple Tense คือประโยคที่ใช้อธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว และจบลงแล้ว ขอให้สังเกตความแตกต่างระหว่างประโยคที่ที่ใช้อธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปัจจุบันกับประโยคที่ใช้อธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นและจบลงแล้ว ในอดีต
ประโยค present tense : I get up at 6.30 am. everyday.
(ฉันตื่นนอนเวลาหกโมงครึ่งทุกวัน)
ประโยค past tense : I got up at 8.00 am. yesterday.
(เมื่อวานนี้ ฉันตื่นนอนแปดโมงเช้า)
จากประโยคสองประโยคข้างบน จะเห็นว่า มีความแตกต่างกันสองส่วนคือ
ประโยค
Present tense
Past tense
คำกริยา
get
got
คำที่บอกเวลา
everyday
yesterday
โครงสร้าง S + V2 +ส่วนขยาย
I
went out last night.
We
cooked yesterday.
He/she it
moved out two weeks ago
You
worked late last week.
They
left the day before yesterday.
คำหรือวลีที่ใช้ใน past tense
คำบอกเวลา เช่น
yesterday (เมื่อวานนี้) the day before yesterday (เมื่อวานซืนนี้)
last week (หรือคำอื่นๆที่ ใช้ last นำหน้า เช่น last year, last month, etc.)
four weeks ago (หรือคำอื่นๆที่ ใช้ ago ลงท้าย เช่น ten years ago, two
hours ago, etc.)
คำเหล่านี้มักจะวางไว้ท้ายประโยค หรืออาจ วางไว้หน้าประโยคก็ได้ เช่น
I washed my car two weeks ago.หรือ Two weeks ago,I washed my car .
(ฉันล้างรถเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว)
She went to Korea last month. หรือ Last month, She went to Korea.
(หล่อนไปเกาหลีเมื่อเดือนที่แล้ว)
หลักการใช้
1. ใช้อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต และสิ้นสุดแล้ว มี คำหรือวลีที่
บอกเวลาในอดีตกำกับด้วย เช่น
I saw you yesterday. (ฉันเห็นคุณเมื่อวานนี้) ประธาน – I กริยา – saw คำหรือวลีที่ บอกเวลา – yesterday.
He worked in Paris last year. (เขาทำงานที่ปารีสเมื่อปีที่แล้ว) ประธาน – He กริยา – worked คำหรือวลีที่ บอกเวลา – last year
2. ใช้อธิบายเหตุการณ์หนึ่งซึ่งกระทำเป็นประจำในอดีต แต่บัดนี้ไม่ได้ทำอีก เช่น
When I was young, I walked to school everyday.
(เมื่อฉันยังยังเด็ก ฉันเดินไปโรงเรียนทุกวัน) ปัจจุบันนี้เขาไม่ได้เดินไปโรงเรียนแล้ว When I was young – เป็นข้อความที่บอกเวลาในอดีต ข้อความนี้เรียกว่า dependent clause ซึ่งเป็นประโยคที่ไม่สมบูรณ์ในตัวเองต้องพึ่งพาประโยคอื่น จึงจะมีความหมายสมบูรณ์ ไม่สามารถใช้เพียงลำพังได้ คำกริยาที่ใช้ในข้อความนี้ ต้องอยู่ในรูปของ อดีต (“was” เป็น รูป อดีต ของ “is”) ส่วน ประโยคหลัก “I walked to school everyday” – I ทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค walked to (เดินไปยัง) เป็นกริยาที่บอกการกระทำในอดีต school (โรงเรียน) ทำหน้าที่เป็นกรรม everyday (ทุกวันในอดีต) ทราบจากข้อความที่บอกว่า When I was young.
การกระทำที่เกิดขึ้นในอดีต คือในเวลาที่ล่วงเลยมาแล้ว โดยปกติเราจะพบ Adverbs of Time ที่บอกเวลาอดีตกำกับไว้เสมอ เช่น
yesterday (เมื่อวานนี้) this morning (เมื่อเช้านี้) the day before yesterday (เมื่อวานซืนนี้)
คำที่ขึ้นต้นด้วย “last” เช่น last night ( เมื่อคืนที่แล้ว) last week (สัปดาห์ที่แล้ว) last month (เดือนที่แล้ว) last Saturday (วันเสาร์ที่แล้ว) last January (เดือนมกราคมที่แล้ว)
คำที่ลงท้ายด้วย “ago” เช่น a month ago (เมื่อเดือนที่ผ่านมาแล้ว) two years ago (สองเดือนที่ผ่านมาแล้ว) five hours ago (ห้าชั่วโมงที่ผ่านมาแล้ว) six weeks ago (หกสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว) a moment ago (เมื่อสักครู่นี้) เวลาซึ่งเป็นปี ค.ศ. ในอดีต ขึ้นต้นด้วย “in” เช่น in 1999
รูปประโยคบอกเล่า (Affirmative Sentence)
ประธาน + กริยาช่องที่ 2 (โดยการเปลี่ยนรูป หรือ เติม ed)
Present Simple
Past Simple
He plays football every day
He played football yesterday.
I walk to work every day.
I walked to work ten years ago.
She washes her clothes herself every day.
She washed her clothes herself last year.
หลักการเติม ed ที่คำกริยา
1. กริยาที่ลงท้ายด้วย e ให้เติม d ได้เลย เช่น
love – loved = รัก move – moved= เคลื่อน
hope – hoped = หวัง
2. กริยาที่ลงท้าย ด้วย y และหน้า y เป็นพยัญชนะ ให้เปลี่ยน y เป็น I แล้วเติม ed เช่น
cry – cried = ร้องไห้ try – tried = พยายาม
marry – married = แต่งงาน
ข้อยกเว้น ถ้าหน้า y เป็นสระ ให้เติม ed ได้เลย เช่น
play – played = เล่น stay – stayed = พัก , อาศัย
enjoy – enjoyed = สนุก obey – obeyed = เชื่อฟัง
3. กริยาที่มีพยางค์เดียว มีสระตัวเดียว และลงท้ายด้วยพยัญชนะที่เป็นตัวสะกดตัวเดียวให้เพิ่มพยัญชนะที่ลงท้ายอีก 1 ตัว แล้วเติม ed เช่น
plan – planned = วางแผน stop – stopped = หยุด
beg – begged = ขอร้อง
4. กริยาที่มี 2 พยางค์ แต่ลงเสียงหนักพยางค์หลัง และพยางค์หลังนั้น มีสระตัวเดียว และลงท้ายด้วยพยัญชนะที่เป็นตัวสะกดตัวเดียว ให้เพิ่มพยัญชนะที่ลงท้ายอีก 1 ตัว แล้วเติม ed เช่น
concur – concurred = ตกลง, เห็นด้วย occur – occurred = เกิดขึ้น
refer – referred = อ้างถึง permit – permitted = อนุญาต
ถ้าออกเสียงหนักที่พยางค์แรก ไม่ต้องเติมพยัญชนะตัวสุดท้ายเข้ามา เช่น
cover – covered = ปกคลุม open – opened = เปิด
5. นอกจากกฏที่กล่าวมาแล้วข้างต้น เมื่อต้องการให้เป็นช่อง 2 ให้เติม ed ได้เลย เช่น
walk – walked = เดิน start – started = เริ่ม
worked – worked = ทำงาน
ประโยคคำถาม (Interrogative)
1. ประโยคที่มีกริยา verb to be ( was, were ) เมื่อต้องการเปลี่ยนประโยคประเภทนี้ให้เป็น คำถาม ให้ย้าย verb to beมาวางไว้หน้า แล้วใส่เครื่องหมาย “?” ท้ายประโยค เช่น
ประโยคบอกเล่า
ประโยคคำถาม
He was at school yesterday.
Was he at school yesterday?
They were at home yesterday.
Were they were at home yesterday ?
2. ประโยคประเภทอื่นๆที่ไม่อยู่ในกฎข้อ 1 เมื่อต้องการทำเป็น past tense ให้ใช้กริยา “Did” มาช่วย และเมื่อใช้กริยา “Did” มาช่วยแล้ว กริยาเดิมในประโยคคำถามต้องเปลี่ยนรูปให้เป็นกริยาช่องที่ 1 ด้วย
Did + ประธาน + กริยารูปเดิม+ ส่วนขยาย
ประโยคบอกเล่า
ประโยคคำถาม
He walked to work yesterday.
Did he walk to work yesterday?
They worked late last night.
Did they work late last night?
Rob did the exercise last week.
Did Rob do the exercise last week?
สำหรับตัวอย่างในประโยคสุดท้าย คำกริยา “ did ” เป็นกิริยาช่วย ในการเปลี่ยนประโยคให้เป็น past tense นั้น ไม่มีคำแปล แต่ “ did ” ซึ่ง เป็นกริยาแท้ในประโยคบอกเล่า มีความหมายว่า “ ทำ ” เมื่อใช้ “ did ” มาช่วยแล้ว ” “ did ” ซึ่ง เป็นกริยาแท้ต้องเปลี่ยนกลับไปเป็น “ do”
ประโยคปฏิเสธ (Negative)
สำหรับประโยคแบบที่ 1 ให้เติม “not” หลังกริยาได้เลย เช่น
ประโยคบอกเล่า
ประโยคปฏิเสธ
He was at work yesterday.
He was not at work yesterday.
They were at the party last night.
They were not at the party last night.
ในประโยคปฏิเสธ, was not หรือ were not สามารถเขียนแบบย่อได้
was not เขียนย่อได้ เป็น wasn’t were not เขียนย่อได้ เป็น weren’t
ส่วนประโยคแบบที่ 2 ให้ใช้กริยา “ did ” เข้ามาช่วย แล้วเติม “not” ท้ายคำว่า “ did ” (หรือใช้รูปย่อ : didn’t ก็ได้)
ประธาน + didn’t + กริยารูปเดิม+ ส่วนขยาย
ประโยคบอกเล่า
ประโยคปฏิเสธ
ประโยคคำถาม
He walked to work yesterday.
He didn’t walk to work yesterday.
Did he walk to work yesterday?
They worked late last night.
They didn’t work late last night.
Did they work late last night?
[Update] 12 English tense ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ | เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES
English Tense
Tense คือรูปแบบ (หรือโครงสร้าง) ของกริยา ที่แสดงให้เราทราบว่า การกระทำหรือเหตุการณ์นั้นๆเกิดขึ้นเมื่อใดซึ่งเรื่อง tense นี้เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าเราใช้ tense ไม่ถูก เราก็จะสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ เพราะในประโยคภาษาอังกฤษนั้นจะอยู่ในรูปของ tense เสมอ ซึ่งต่างกับภาษาไทยที่เราจะมีข้อความบอกว่าเกิดขึ้นเมื่อใดมาช่วยเสมอ แต่ภาษาอังกฤษจะใช้รูป tense นี้มาเป็นตัวบอก ดังนี้การศึกษาเรื่อง tense จึงเป็นเรื่องจำเป็น
Tense ในภาษาอังกฤษนี้จะแบ่ง ออกเป็น 3 tense ใหญ่ๆ คือ
1. Present tense ปัจจุบัน
2. Past tense อดีตกาล
3. Future tense อนาคตกาล
ในแต่ละ tense ยังแยกย่อยได้ tense ละ 4 คือ
1 . Simple tense ธรรมดา (ง่ายๆตรงๆไม่ซับซ้อน)
2. Continuous tense กำลังกระทำอยู่ (กำลังเกิดอยู่)
3. Perfect tense สมบูรณ์ (ทำเรียบร้อยแล้ว)
4. Perfect continuous tense สมบูรณ์กำลังกระทำ (ทำเรียบร้อยแล้วและกำลังดำเนินอยู่ด้วย)
โครงสร้างของ Tense ทั้ง 12 ได้แก่
Present Tense
[Present]
[1.1] S + Verb 1 + ……(บอกความจริงที่เกิดขึ้นง่ายๆ ตรงๆไม่ซับซ้อน)
[1.2] S + is, am, are + Verb 1 ing + …(บอกว่าเดี๋ยวนี้กำลังเกิดอะไรอยู่)
[1.3] S + has, have + Verb 3 + ….(บอกว่าได้ทำมาแล้วจนถึงปัจจุบัน)
[1.4] S + has, have + been + Verb 1 ing + …(บอกว่าได้ทำมาแล้วและกำลังทำต่อไปอีก)
Past Tense
[Past]
[2.1] S + Verb 2 + …..(บอกเรื่องที่เคยเกิดมาแล้วในอดีต)
[2.2] S + was, were + Verb 1 +…(บอกเรื่องที่กำลังทำอยู่ในอดีต)
[2.2] S + was, were + Verb 1 +…(บอกเรื่องที่กำลังทำอยู่ในอดีต)
2.3] S + had + verb 3 + …(บอกเรื่องที่ทำมาแล้วในอดีตในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง)
[2.4] S + had + been + verb 1 ing + …(บอกเรื่องที่ทำมาแล้วอย่างต่อเนื่องไม่หยุด)
Future Tense
[Future]
[3.1] S + will, shall + verb 1 +….(บอก เรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต)
[3.2] S + will, shall + be + Verb 1 ing + ….(บอกว่าอนาคตนั้นๆกำลังทำอะไร อยู่)
[3.3] S + will,shall + have + Verb 3 +…(บอกเรื่องที่จะเกิดหรือสำเร็จ ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง)
[3.4] S + will,shall + have + been + verb 1 ing +.. ..(บอกเรื่องที่จะทำอย่างต่อเนื่องในเวลาใด – เวลาหนึ่งในอนาคตและจะทำต่อไปเรื่อยข้างหน้า)
หลักการใช้แต่ละ Tense มีดังนี้
[2.4] S + had + been + verb 1 ing + …(บอกเรื่องที่ทำมาแล้วอย่างต่อเนื่องไม่หยุด)[3.1] S + will, shall + verb 1 +….(บอก เรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต) [3.2] S + will, shall + be + Verb 1 ing + ….(บอกว่าอนาคตนั้นๆกำลังทำอะไร อยู่) [3.3] S + will,shall + have + Verb 3 +…(บอกเรื่องที่จะเกิดหรือสำเร็จ ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง) [3.4] S + will,shall + have + been + verb 1 ing +.. ..(บอกเรื่องที่จะทำอย่างต่อเนื่องในเวลาใด – เวลาหนึ่งในอนาคตและจะทำต่อไปเรื่อยข้างหน้า)
[1.1] Present simple tense เช่น He walks เขาเดิน
1. ใช้กับ เหตุการที่เกิดขึ้นตามความจริงของธรรมชาติ และคำสุภาษิตคำ พังเพย
2. ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นความจริงในขณะที่พูด (ก่อนหรือหลังจะไม่จริงก็ตาม)
3. ใช้กับกริยาที่ทำนานไม่ได้ เช่น รัก, เข้าใจ, รู้ เป็นต้น
4. ใช้กับการกระทำที่คิดว่าจะเกหิดขึ้นในอนาคตอันใกล้(จะมีคำวิเศษณ์บอกอนาคตร่วมด้วย)
5. ใช้ในการเล่าสรุปเรื่องต่างๆในอดีต เช่นนิยาย นิทาน
6. ใช้ในประโยคเงื่อนไขในอนาคต ที่ต้นประโยคจะขึ้นต้น ด้วยคำว่า If (ถ้า), unless (เว้นเสียแต่ว่า), as soon as (เมื่อ,ขณะที่), till (จนกระทั่ง) , whenever (เมื่อไรก็ ตาม), while (ขณะที่) เป็นต้น
7. ใช้กับเรื่องที่กระทำอย่างสม่ำเสมอ และมีคำวิเศษณ์บอกเวลาที่สม่ำเสมอร่วมอยู่ด้วย เช่น always (เสมอๆ), often (บ่อยๆ), every day (ทุกๆวัน) เป็นต้น
8. ใช้ในประโยคที่คล้อยตามที่เป็น [1.1] ประโยคตามต้องใช้ [1.1] ด้วยเสมอ
[1.2] Present continuous tense เช่น He is walking เขากำลังเดิน
1. ใช้ในเหตุการณ์ที่กำลังกระทำอยู่ในขณะที่พูด(ใช้ now ร่วมด้วยก็ได้ โดยใส่ไว้ต้น ประโยค, หลังกริยา หรือสุดประโยคก็ ได้)
2. ใช้ในเหตุการณ์ที่กำลังกระทำอยู่ในระยะเวลาอันยาวนาน เช่น ในวันนี้ ,ในปีนี้
3. ใช้กับเหตุการณ์ที่ผู้พูดมั่นใจว่าจะต้องเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ เช่น เร็วๆนี้, พรุ่งนี้
*หมายเหตุ กริยาที่ทำนานไม่ได้ เช่น รัก ,เข้าใจ, รู้, ชอบ จะนำมาแต่งใน Tense นี้ไม่ได้
[1.3] Present perfect tense เช่น He has walk เขาได้เดินแล้ว
1. ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต และต่อเนื่องมาจนถึง ปัจจุบัน และจะมีคำว่า Since (ตั้งแต่) และ for (เป็นเวลา) มาใช้ร่วมด้วยเสมอ
2. ใช้กับเหตุการณ์ที่ได้เคยทำมาแล้วในอดีต (จะกี่ครั้งก็ได้ หรือจะทำอีกใน ปัจจุบัน หรือจะทำในอนาคต ก็ได้)และจะมีคำ ว่า ever (เคย) , never (ไม่เคย) มาใช้ร่วมด้วย
3. ใช้กับเหตุการณ์ที่จบลงแล้วแต่ผู้พูดยังประทับใจอยู่ (ถ้าไม่ประทับใจก็ใช้ Tense
4. ใช้กับ เหตุการที่เพิ่งจบไปแล้วไม่นาน(ไม่ได้ประทับใจอยู่) ซึ่งจะมีคำเหล่านี้มาใช้ร่วมด้วยเสมอ คือ Just (เพิ่งจะ), already (เรียบร้อยแล้ว), yet (ยัง), finally (ในที่สุด) เป็นต้น
[1.4] Present perfect continuous tense เช่น He has been walking เขาได้กำลังเดินแล้ว
* มีหลักการใช้เหมือน [1.3] ทุกประการ เพียงแต่ว่าเน้นว่าจะทำต่อไปในอนาคตด้วย ซึ่ง [1.3] นั้นไม่เน้นว่าได้กระทำอย่างต่อเนื่องหรือไม่ ส่วน [1.4] นี้เน้นว่ากระทำมาอย่างต่อเนื่องและจะกระทำต่อไปในอนาคตอีกด้วย.
[2.1] Past simple tense เช่น He walked เขาเดิน แล้ว
1. ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงแล้วในอดีต มิได้ต่อเนื่องมาถึงขณะ ที่พูด และมักมีคำต่อไปนี้มาร่วมด้วยเสมอในประโยค เช่น Yesterday, year เป็นต้น
2. ใช้กับเหตุการณ์ที่ทำเป็นประจำในอดีตที่ผ่านมาในครั้งนั้นๆ ซึ่งต้องมีคำวิเศษณ์บอกความถี่ (เช่น Always, every day ) กับคำวิเศษณ์ บอกเวลา (เช่น yesterday, last month ) 2 อย่างมาร่วมอยู่ด้วยเสมอ
3. ใช้กับเหตุการณ์ที่ได้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต แต่ปัจจุบันไม่ได้เกิด อยู่ หรือไม่ได้เป็นดั่งในอดีตนั้นแล้ว ซึ่งจะมีคำว่า ago นี้ร่วมอยู่ด้วย
4. ใช้ในประโยคที่คล้อยตามที่เป็น [2.1] ประโยคคล้อยตามก็ต้อง เป็น [2.1] ด้วย
[2.2] Past continuous tense เช่น He was walking เขากำลังเดินแล้ว
1. ใช้กับเหตุการณ์ 2 อย่างที่เกิดขึ้นไม่พร้อมกัน { 2.2 นี้ไม่นิยมใช้ตามลำพัง – ถ้าเกิดก่อนใช้ 2.2 – ถ้าเกิดทีหลังใช้ 2.1}
2. ใช้กับเหตุการณ์ที่ ไดกระทำติดต่อกันตลอดเวลาที่ได้ระบุไว้ในประโยค ซึ่งจะมีคำบอกเวลาร่วมอยู่ด้วยในประโยค เช่น all day yesterday etc.
3. ใช้กับเหตุการณ์ 2 อย่างที่กำลังทำในเวลาเดียวกัน(ใช้เฉพาะกริยาที่ทำได้นานเท่านั้น หากเป็นกริยาที่ทำนานไม่ได้ก็ใช้หลักข้อ 1 ) ถ้าแต่งด้วย 2.1 กับ 2.2 จะดูจืดชืดเช่น He was cleaning the house while I was cooking breakfast.
[2.3] Past perfect tense เช่น He had walk เขาได้เดินแล้ว
1. ใช้กับ เหตุการณ์ 2 อย่างที่เกิดขึ้นไม่พร้อมกันในอดีต มีหลักการใช้ดังนี้
เกิดก่อนใช้ 2.3 เกิดทีหลังใช้ 2.1
2. ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำอันเดียวก็ได้ในอดีต แต่ต้องระบุชั่วโมงและวันให้แน่ชัดไว้ในทุกประโยคด้วยทุกครั้ง เช่น She had breakfast at eight o’ clock yesterday.
[2.4] past perfect continuous tense เช่น He had been walking
มีหลักการใช้เหมือนกับ 2.3 ทุกกรณี เพียงแต่ tense นี้ ต้องการย้ำถึงความต่อเนื่องของการกระทำที่ 1 ว่าได้กระทำต่อเนื่องไปจนถึงการกระทำที่ 2 โดยมิได้หยุด เช่น When we arrive at the meeting , the lecturer had been speaking for an hour . เมื่อพวกเราไปถึงที่ ประชุม ผู้บรรยายได้พูดมาแล้ว เป็นเวลา 1 ชั่วโมง
[3.1] Future simple tense เช่น He will walk เขาจะเดิน
ใช้กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งจะมีคำว่า tomorrow, to night, next week, next month เป็นต้น มาร่วมอยู่ด้วย.
- Shall ใช้กับ I we
Will ใช้กับบุรุษที่ 2 และนามทั่วๆไป
Will, shall จะใช้สลับกันในกรณีที่จะให้คำมั่นสัญญา, ข่มขู่บังคับ, ตกลงใจแน่วแน่
Will, shall ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติหรือจงใจก็ได้
Be going to (จะ) ใช้กับความจงใจของมนุษย์ เท่านั้น ห้ามใช้กับเหตุการณ์ของธรรมชาติและนิยมใช้ใน ประโยคเงื่อนไข
[3.2] Future continuous tense เช่น He will be walking เขากำลังจะเดิน
1. ใช้ในการบอกกล่าวว่าในอนาคตนั้นกำลังทำอะไรอยู่ (ต้องกำหนดเวลาแน่นอน ด้วยเสมอ)
2. ใช้กับเหตุการณ์ 2 อย่างที่จะเกิดขึ้นไม่พร้อมกันในอนาคต มีกลักการใช้ดังนี้
– เกิดก่อนใช้ 3.2 S + will be, shall be + Verb 1 ing
– เกิดทีหลังใช้ 1.1 S + Verb 1
[3.3] Future prefect tens เช่น He will have walked เขาจะได้เดินแล้ว
- ใช้กับเหตุการณ์ที่จะ เกิดขึ้นหรือสำเร็จลงในเวลาใดเวลาหนึ่งในอนาคต โดยจะมีคำว่า by นำหน้ากลุ่มคำที่บอกเวลา ด้วย เช่น by tomorrow , by next week เป็นต้น
2.ใช้กับเหตุการณ์ 2 อย่างที่จะเกิดขึ้นไม่พร้อมกันในอนาคต มีหลักดังนี้
- เกิดก่อนใช้ 3.3 S + will, shall + have + Verb 3
- เกิด ที่หลังใช้ 1.1 S + Verb 1
[3.4] Future prefect continuous tense เช่น He will have been walking เขาจะได้กำลังเดินแล้ว
ใช้เหมือน 3.3 ต่างกันเพียงแต่ว่า 3.4 นี้เน้นถึงการกระทำที่ 1 ได้ทำต่อเนื่องมาจนถึงการกระทำที่ 2 และจะกระทำต่อไปในอนาคต อีกด้วย Tense นี้ไม่ค่อยนิยมใช้บ่อย นัก โดยเฉพาะกริยาที่ทำนาน ไม่ได้ อย่านำมาแต่งใน Tense นี้เด็ดขาด
ที่มา:
marujo2524.igetweb.com
Like this:
Like
Loading…
Related
บ๊อบรถไฟ | สัตว์ ABC | เรียนรู้ชื่อสัตว์ | เพลงตัวอักษร | Phonics Songs | Bob The Train | Animal ABC
เข้าร่วมกับบ๊อบในการผจญภัยใหม่ของเขา! ดู ชม และเดินทางไปกับบ๊อบเมื่อเขาเจอเพื่อนใหม่! วิดีโอนี้จะสอนเด็กเล็กๆ เพลง ABC และเน้นความศึกษาเรื่องสัตว์ในวิถีสนุก
Visit our website http://www.uspstudios.co/ for more Children’s Nursery Rhymes \u0026 Kids Videos
============================================
Music and Lyrics: Copyright USP Studios™
Video: Copyright USP Studios™
============================================
KIDS FIRST Kids Videos \u0026 Nursery Rhymes | Free App Download: http://m.onelink.me/1e8f6c16
Bob The Train App Download Now https://goo.gl/6euK1b
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่
Past Simple Tense ง่ายๆ – สอนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี
Past Simple Tense ง่ายๆ สอนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี
เรียนภาษาอังกฤษกับเคท
Past Simple Tense ใช้ตอนที่เราพูดถึงเหตุการณ์ในอดีตนะคะ
เช่น เมื่อวานนี้ ปีที่แล้ว มีรูปแบบประโยคก็คือ ประธาน + กริยาช่อง 2 (S + V.2)
เรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมคลิ๊ก
Will กับ would ใชัยังไง
คลิ๊ก : https://www.youtube.com/edit?o=U\u0026video_id=GqgSnT50v0I
In On At ใช้ยังไง
คล๊ก : https://www.youtube.com/watch?v=Ru4IscO8BI
ประโยคภาษาอังกฤษ เพื่อผู้เริ่มสนทนา
คลิ๊ก: https://www.youtube.com/watch?v=VkdEzzWz_Ss
Day 14 แต่งประโยคพูดถึงอนาคต | ภาษาอังกฤษพื้นฐาน | Future tense | เรียนง่ายภาษาอังกฤษ
คลิปนี้จะพูดถึงโครงสร้างประโยคเหตุการณ์ในอนาคตหรือ Future Tense แล้วก็จะทบทวนทั้ง 5 แทนที่เรียนไปแล้วสำหรับโครงสร้างในภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยที่สุด 5 โครงสร้าง
ด่วน 🔴สด ปฏิรูปเท่ากับล้มล้าง ปทุมวัน ลุงยุ้ย พาทัวร์
ตอนนี้ สื่อโดนกีดกันเป็นอย่างมาก เจ้จึงสร้างช่องคนไลฟ์สดในพื้นที่ จำนวนมาก ฝากสนับสนุนนักข่าวไลฟ์สดลงพื้นที่ ตลอด24 ชั่วโมง ถ้าไม่มีนักข่าวตัวเล็กตัวน้อยเราคงพลาดเหตุการณ์สำคัญ รอช่องใหญ่ๆมาทำข่าว คงไม่ทันนะคะ และต่อยอดโรงบุญ ประชาร่วมใจ ผ่านช่อง กะเทยแม่ลูกอ่อน ทำและซื้อข้าวน้ำ แจกประชาชน ได้ที่ กสิกร 8632124172 ชื่อ สถิตย์
คำเลิศ จ้า ภาษา อังกฤษ satit camlert จ้า สำหรับคนที่โอนจากต่างประเทศ โทร 0831171333 เป็นพร้อมเพย์ ชื่อ จงจิต
กรุณาอย่าโอน เข้าบัญชีส่วนตัวคนไลฟ์สดทุกท่าน เพื่อป้องกันการโดนโจมตี เพราะโรงบุญของเรา ทำรายรับรายจ่าย ตลอด เจ้าค่ะ
ฝากกดติดตาม ช่องสำรองด้วยจ้ะ
ช่องที่ 1 กะเทยแม่ลูกอ่อน กดติดตามที่ https://www.youtube.com/channel/UCzAPXPscU3eSoD8U3UT0T5w/
ช่องที่ 2 อีเล็กนิวส์ กดติดตาม https://www.youtube.com/channel/UCQsgc0xHCVC31sp3tkZ7MA/
ช่องที่ 3 ช่องสำรอง กดติดตามที่ https://www.youtube.com/channel/UCk29ANMSEhCC8KdcyV8EUPw/
ช่องที่ 4 แป้ง ช่อง ปากหมา หาความจริง กดติดตามที่ https://www.youtube.com/channel/UCc0OYEU5EKIklkaQdSsLPQ/
ช่องที่ 5 แหลมสิงห์ กดติดตามที่ https://www.youtube.com/channel/UCgpkjlIb3Wc36wUIPGV5azA/
ช่องที่ 6 ผู้ชายละอ่อน เจ้ชัย กดติดตามที่ https://www.youtube.com/channel/UC2oPrQ1XcqYPW02dF0c7Qqg/
ช่องที่ 7 สหายเต้ย กดติดตามที่ https://www.youtube.com/channel/UCPHer3NzZKaDuXpibHDBCGA/
ช่องที่ 8 อีดอก กดติดตามที่ https://www.youtube.com/channel/UCiN_GDBkjdxi9rTi4x2WCxg/
ช่องที่ 9 โอเด็ดจัง ยาคูซ่า กดติดตามที่ https://www.youtube.com/channel/UCjAt4AFaOP_teS_pFqBnhAw/
ช่องที่ 10 ปุยเถื่อน กดติดตามที่ https://www.youtube.com/channel/UCH0j7Km8jHAdX2kEfKM4vA/
ช่องที่ 11 ซุนR17 กดติดตามที่ https://www.youtube.com/channel/UCr__V90rbP4DMzs0woKqfGw/
ช่องที่ 12 เฮียตั้มพันไม้ กดติดตามที่ https://www.youtube.com/channel/UCrVmbbEaATNCeN6JDeVoAsA/
ช่องที่ 13 กัปตัลแจ็ค ติดตามที่ https://www.youtube.com/channel/UCZlNpbuHIPYHEVokSoeUjug/
ช่องที่ 14 ลุงยุ้ยพาทัวร์ ติดตามที่ https://www.youtube.com/channel/UC7YVKtVyWaY4VqTWy1JWLg/
ช่องที่ 15 ป็อกกี้ กดตามที่ https://www.youtube.com/channel/UCxsHtxzCOjQj3quaOZ_7IwQ/
ช่องที่ 16 สามารถ กดติดตามที่ https://www.youtube.com/channel/UC0DN92b9dKaWjhgz72WF8aw/
ช่องที่ 17 ตัอม บารมี กดติดตามที่ https://www.youtube.com/channel/UCCQz58DNOkloVEuyB517tXA/
ช่องที่ 18 เอ็กโซ กดติดตามที่ https://www.youtube.com/channel/UCC4YzpDg2iPbFaz44nthgBA/
ช่องที่ 19 วินรก007 ติดตามที่ https://www.youtube.com/channel/UC39HcxycuF4lDyVnKpE91aQ/
ช่องที่ 20 ลุงสักเสื้อแดง กดติดตามที่ https://www.youtube.com/channel/UCOaz_csbM0Wpmq3nEU8Qo9g/
ติ๊กต็อก https://vt.tiktok.com/ZSe1GNyvt/
แฟนเพจ https://www.facebook.com/watch/live/?v=852737818709907\u0026ref=notif\u0026notif_id=1632388413943150\u0026notif_t=live_video_explicit
สนับสนุนนักข่าวไลฟ์สดลงพื้นที่ ตลอด24 ชั่วโมง ถ้าไม่มีนักข่าวตัวเล็กตัวน้อยเราคงพลาดเหตุการณ์สำคัญ รอช่องใหญ่ๆมาทำข่าว คงไม่ทันนะคะ และต่อยอดโรงบุญ ประชาร่วมใจ ผ่านช่อง กะเทยแม่ลูกอ่อน ทำและซื้อข้าวน้ำ แจกประชาชน ได้ที่ กสิกร 8632124172 ชื่อ สถิตย์
คำเลิศ จ้า ภาษา อังกฤษ satit camlert จ้า สำหรับคนที่โอนจากต่างประเทศ
หรือสนับสนุน ช่องเพียงวันละ1บาท ตกเดือนละ30 บาทจ้ะ สมัครเป็นสมาชิกของช่องนี้เพื่อเข้าถึงสิทธิพิเศษต่างๆ
https://www.youtube.com/channel/UCzAP…
โอนแล้วแจ้งสลิปในไลน์จ้า https://line.me/R/ti/p/%40qth4447t
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ เรื่องสัตว์ต่างๆ l พร้อมรูปและคำอ่าน l คำศัพท์ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
วีดีโอสอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับสัตว์ต่างๆ มาพร้อมกับรูปสัตว์ คำอ่าน คำแปล เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับสัตว์ต่างๆ เรียนรู้คำศัพท์ต่างๆ
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่MAKE MONEY ONLINE
ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภาษาอังกฤษ