Skip to content
Home » [NEW] หลักการใช้ have got และ has got | would have แปลว่า – NATAVIGUIDES

[NEW] หลักการใช้ have got และ has got | would have แปลว่า – NATAVIGUIDES

would have แปลว่า: คุณกำลังดูกระทู้

คำว่า have got และ has got เป็นคำที่พบเจอได้บ่อยในภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะในภาษาพูด ซึ่งหลายคนก็มักจะสับสนว่ามันเป็นรูป present perfect tense ของคำว่า get หรือเปล่า หรือมันมีความหมายอื่นที่เราอาจจะยังไม่รู้

เพื่อคลายข้อสงสัย ในบทความนี้ ชิววี่ก็ได้เรียบเรียงเนื้อหาเกี่ยวกับคำว่า have got และ has got มาให้เพื่อนๆได้เรียนรู้กัน ถ้าพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

Have got และ has got แปลว่าอะไร

Have got และ has got มีความหมายเหมือนกับ have และ has ที่แปลว่า “มี” แต่จะถือเป็นภาษาที่ไม่เป็นทางการ และเราไม่สามารถใช้ have/has got แทน have/has ได้ในบางกรณี

การใช้และตัวอย่างประโยค

เราสามารถใช้ have/has got แทน have/has ได้ใน 4 กรณีหลักๆ

1. ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ (possession)

ใช้แสดงความเป็นเจ้าของสิ่งของต่างๆ (เช่น รถ บ้าน ปากกา) หรือสิ่งที่เป็นนามธรรม (เช่น ไอเดีย แรงบันดาลใจ เวลา)

I have a new idea.
I have got a new idea.
ฉันมีไอเดียใหม่

John has a big house.
John has got a big house.
จอห์นมีบ้านหลังใหญ่

We don’t have any free time.
We haven’t got any free time.
พวกเราไม่มีเวลาว่าง

Do you have red shoes?
Have you got red shoes?
คุณมีรองเท้าสีแดงมั้ย

2. ใช้แสดงความสัมพันธ์ (relationship)

ใช้แสดงความสัมพันธ์ เช่น การบอกว่ามีแฟน มีญาติพี่น้อง มีเพื่อน

I have two older brothers.
I have got two older brothers.
ฉันมีพี่ชายสองคน

Joe has a new girlfriend.
Joe has got a new girlfriend.
โจมีแฟนใหม่

She doesn’t have any friend.
She hasn’t got any friend.
เธอไม่มีเพื่อนเลย

How many sisters do you have?
How many sisters have you got?
คุณมีพี่สาวน้องสาวกี่คน

3. ใช้แสดงคุณลักษณะ (characteristic)

ใช้แสดงคุณลักษณะ เช่น ลักษณะทางกายภาพ ปริมาณสารอาหาร

All of them have black hair.
All of them have got black hair.
พวกเขาทุกคนมีผมสีดำ

This slice of pizza has 300 calories.
This slice of pizza has got 300 calories.

My sister does’t have blue eyes like me.
My sister hasn’t got blue eyes like me.
พี่/น้องสาวของฉันไม่ได้มีตาสีฟ้าเหมือนฉัน

Does your grandma have white hair.
Has your grandma got white hair.
คุณยายของคุณมีผมสีขาวหรือเปล่า

4. ใช้กับความเจ็บป่วย (illness)

ใช้แสดงถึงการมีโรค ความเจ็บป่วย ความผิดปกติ

I have a headache.
I have got a headache.
ฉันปวดหัว

My son has a fever.
My son has got a fever.
ลูกชายของฉันมีไข้

She doesn’t have any symptom.
She hasn’t got any symptom.
เธอไม่ได้มีอาการใดๆ

Do you have a sore throat?
Have you got a sore throat?
คุณมีอาการเจ็บคอหรือเปล่า

เราจะไม่ใช้ have/has got นอกเหนือจากกรณีที่กล่าวมา เช่น การใช้กับการกระทำ (action)

เราจะใช้ I usually have a talk with him on Monday.
แต่จะไม่ใช้ I usually have got a talk with him on Monday.
ฉันมักจะพูดคุยกับเขาในวันจันทร์

รายละเอียดอื่นๆที่ควรรู้

เราจะไม่ใช้ have/has got ในความหมายนี้กับ tense อื่นนอกเหนือจาก present simple tense

เราจะใช้ I have got
แต่จะไม่ใช้ I had got… หรือ I am having got… หรือ I have had got…

เราสามารถเขียนคำว่า have/has ใน have/has got โดยใช้รูปย่อได้ แต่เราจะไม่ใช้รูปย่อ ถ้าเราใช้ have/has เดี่ยวๆ

เราจะใช้ I’ve got a car.
แต่จะไม่ใช้ I’ve a car.

เราจะใช้ She’s got fair skin.
แต่จะไม่ใช้ She’s fair skin.

Have/has got ใน present perfect tense

คำว่า have/has got ที่ได้อธิบายมาในบทความนี้ จะมีความหมายและการใช้เหมือนกับคำว่า have/has ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับคำว่า get ที่แปลว่า “ได้รับ” แต่อย่างใด

แต่คำว่า have/has got ยังสามารถถูกใช้เป็น present perfect tense ของคำว่า get ได้อีกด้วย โดยเฉพาะใน British English (American English จะนิยมใช้ gotten เป็น verb ช่อง 3 ของ get ในขณะที่ British English จะนิยมใช้ got มากกว่า) ยกตัวอย่างเช่น

I have got a ticket from Tim.
ฉันเพิ่งได้รับตั๋วจากทิม (ไม่ใช่ฉันมีตั๋วจากทิม)

เป็นยังไงบ้างครับกับคำว่า have got และ has got ทีนี้เพื่อนๆก็คงจะเข้าใจและสามารถนำไปใช้ได้ถูกต้องมากขึ้นแล้วนะครับ

อย่าลืมนะครับ ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนรู้ ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next time

[NEW] ตกลงว่า Have you breakfast ? ถูกหรือผิดกันแน่ – เพจวันนี้ชั้นติ่งอะไร | would have แปลว่า – NATAVIGUIDES

เร็ว ๆ นี้มีดราม่าตำหนิคุณครูภาษาอังกฤษชั้นประถมปลาย จากการสอนออนไลน์และผ่านโทรทัศน์โดยส่วนกลาง หัวข้อที่พูดถึงกันมาก คือไวยากรณ์และการออกอักขระ ที่ผิดอย่างร้ายแรง

ทว่า

ในหลาย ๆ หัวข้อที่ถกเถียงกัน มีประโยคหนึ่งที่กลายเป็นดราม่า เพราะฝ่ายหนึ่งก่นด่าว่าครูผิดพูดออกมาได้อย่างไร ขณะอีกฝ่ายให้ความรู้เพิ่มว่า แท้จริงแล้วประโยคนี้สามารถใช้ได้ เพียงไม่เป็นที่นิยมใช้ สองฝ่ายต่างถกเถียงกันไปต่าง ๆ นานา

เรื่องนี้กลายเป็นหัวข้อน่าสนใจมาก ๆ และหากมองข้ามเรื่องดราม่า นี่จะกลายเป็นโอกาสที่ทำให้เราได้ทบทวนภาษากันอย่างจริงจังเลยค่ะ

เราไปทบทวนภาษาพร้อม ๆ กันนะคะ กับประโยคสุดฮิตในนาทีนี้

Have you breakfast ?

“แฮฟ ยู เบรคฟาส”

ในช่วงเริ่มชั้นเรียน คุณครูถามเด็ก ๆ ว่า “แฮฟ ยู เบรคฟาส” ซึ่งเป็นประโยคคำถาม และอาจเขียนเป็นภาษาอังกฤษได้ 2 แบบ ได้แก่

เพื่อความเข้าใจ เราจะปรับกลับมาเป็นประโยคบอกเล่าก่อน ซึ่งก็เขียนได้ 2 แบบ แต่มีความหมายแตกต่างกัน 3 อย่าง ได้แก่

You have breakfast.  คุณ “กิน” อาหารเช้า

You have breakfast. คุณ “มี” อาหารเช้า (เช่นว่า พกอาหารเช้ามาด้วย)

You have breakfasted. คุณ “ได้รับประทานอาหารเช้า” ไปแล้ว

จะเห็นได้ว่า have ทำหน้าที่แตกต่างกันในแต่ละประโยค ประโยคที่แปลว่า “กิน” have เป็นกริยาที่ออกอาการทำ ทำออกมาเป็นรูปเป็นร่างจริง ๆ คือกินก็กิน เช่นเดียวกับวิ่งก็วิ่ง นอนก็นอน 

ในขณะประโยคที่สอง have แปลว่า “มี” ซึ่งกริยาเช่นนี้ ไม่ได้ออกอาการทำ แต่บอกสภาพว่าฉันมีอะไร เช่นเดียวกับฉันสวยมั้ย ฉันเป็นใครในที่นี้ สิ่งนี้เรียกว่า Dynamic และ Static Verb ตามลำดับ

ในขณะที่ประโยคสุดท้าย กริยาที่แท้จริงคือ breakfasted ซึ่งแปลว่า “รับประทานอาหารเช้า” ถือเป็นคำเก่าแต่เก๋ ยังใช้อยู่ในหมู่ผู้ดีมีสกุลในปัจจุบัน ส่วน have ทำหน้าที่เป็นเพียงกริยาช่วยเท่านั้น ช่วยทำให้มันเป็นประโยคที่ได้จบไปแล้ว (Present Perfect Tense)

ไม่ต้องตกใจค่ะ เราไม่ได้มาสอนไวยากรณ์ แต่อยากจะเล่าถึงความซับซ้อนของภาษาอังกฤษ ที่ชวนงุนงงสงสัย

โดยสรุป have ไม่ใช่กริยาทั่วไป แต่เป็นกริยาที่มีการใช้ได้หลายแบบ หลายจุด และพิเศษสุดตรงที่ทำหน้าที่เป็นกริยาหลายชนิดคาบเกี่ยวกัน

ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษในปัจจุบัน กำหนดให้เมื่อต้องการแต่งประโยคคำถาม เราสามารถนำกริยาบอกสภาพและกริยาช่วย ย้ายมาวางไว้ด้านหน้าประโยคได้ แต่ไม่สามารถทำเช่นนี้กับกริยาออกอาการได้

นั่นแปลว่า

Have you breakfast (หรือ breakfasted) ? 

จะถูกต้องเมื่อแปลว่า คุณ “มี” ข้าวเช้าไหม หรือคุณ “รับประทานอาหารเช้า” ไปแล้วหรือยัง ซึ่งตรงกับประโยคที่ 2 และ 3 นั่นเอง

แต่จากบริบท คุณครูน่าจะหมายถึง Have you breakfast ? ที่แปลว่า คุณ “กิน” อาหารเช้าไปแล้วหรือยังมากกว่า ซึ่งกรณีนี้ควรจะผิดตามหลักนิยมปัจจุบันค่ะ

ทว่า

กูรูภาษาหลายท่านยังยืนยันว่าถูกต้อง และเมื่อลองสืบค้นเพิ่มเติม เราจะพบว่านี่เป็นปัญหาของคนทั้งโลกด้วยเช่นกัน !!!

ประมาณ 2 ปีก่อน เคยมีการถกเถียงอย่างกว้างขวางในหลายเว็บไซต์ ว่า Had you lunch? (กินอาหารเที่ยงหรือยัง) Have you dinner? (กินอาหารเย็นหรือยัง) ถูกต้องหรือไม่กันแน่ (แต่ไม่ยักมี breakfast)

คำตอบค่อนข้างแตกต่างจากในไทยค่ะ

หลายเว็บไซต์มีนักภาษาศาสตร์ที่ยืนยันตัวตนมาตอบข้อซักถามให้ ปรากฏว่า Have you dinner ? นั้นถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ค่ะ

เพียงแต่ว่านี่เป็นรูปแบบภาษาอังกฤษ ที่ได้รับอิทธิพลจากรากภาษาแถบเยอรมันปัจจุบัน ทำให้ Have you breakfast ? ที่แปลว่าคุณกินอาหารเช้าหรือยัง ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์กระทั่งก่อน 1950s โดยประมาณ

แต่หลายท่านก็บอกว่า มันก็ยังไม่ถือว่าผิดนะคะ เพียงแต่ไม่ควรสอนให้ใช้อีกต่อไปแล้วนั่นเอง

แล้วถ้าอยากถามว่า “กินอาหารเช้ามาหรือยัง” อย่างถูกต้อง เราควรถามอย่างไร

หากลองเสิร์ชหาในอินเทอร์เน็ตประเทศไทยวันนี้ ซึ่งยังมีดราม่าเรื่องนี้ประปราย เราจะพบสองประโยคที่คนนิยมใช้กันค่ะ ได้แก่

Did you have breakfast ?

Have you had breakfast ?

ซึ่งต่างก็แปลว่า “คุณกินอาหารเช้าไปแล้วหรือยัง” ทั้งคู่

อย่างไรก็ตาม ภาษาอังกฤษต่างจากภาษาไทยมาก เพราะการเรียงประโยค มีนัยยะถึงเวลาและลักษณะการกระทำว่าเป็นเช่นไร

Did you have breakfast ? เป็นการเรียงประโยคและใช้คำช่วยแบบสิ่งที่เกิดในอดีต (Past Tense) นั่นคือคนถาม ต้องถามในเวลาที่เลยอาหารเช้าไปแล้ว แต่จะสายมากหรือบ่ายคล้อยอันนี้บอกไม่ได้ 

ในขณะที่ Have you had breakfast ? เป็นการเรียงประโยคและใช้คำแบบสิ่งที่เพิ่งเกิดและจบไป (Present Perfect Tense) ดังนั้นคนถามต้องถามช่วยสาย หรือเพิ่งผ่านเวลาอาหารเช้าไปไม่นานนั่นเอง

แผนภาพเพื่อความเข้าใจ

นั่นคือถ้าเราเกิดเจอหน้าเพื่อนตอนบ่าย แล้วอยากถามว่ากินข้าวเช้าหรือยัง เราต้องถามว่า Did you have breakfast ? (ถามเรื่องในอดีต) หรือ Had you had breakfast? (คล้าย Have you had… แต่ผัน have เป็น had บ่งว่าเกิดในอดีต) เพราะเวลาที่สมควรเกิดการกินอาหารเช้า ได้ผ่านไปแล้วนั่นเองค่ะ 

แต่หากถามอาหารกลางวัน ก็ต้องถามว่า Have you had lunch ? เพราะนี่คือตอนเที่ยงวันนั่นเอง

ทั้งนี้อีกประโยคที่คนนิยมตอบกันในอินเทอร์เน็ต แต่ผิด ได้แก่ Do you have breakfast ? เพราะนี่คือประโยคแบบสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำ (Present Tense) ทำให้ประโยคแปลว่า คุณกินข้าวเช้า (เป็นประจำ) ไหม ซึ่งผิดไปจากความหมายที่ต้องการสื่อ

เรียกได้ว่าซับซ้อนซ่อนเงื่อนจริง ๆ ค่ะ

แต่ก่อนจะจบบทความไป มีประโยคต้องสงสัยที่เห็นหลายคนถามกันในดราม่า

Have you finished your breakfast ?

Did you finish your breakfast ?

แตกต่างจากการถามปกติอย่างไร

จุดสำคัญที่สุดคือ finish ซึ่งแปลว่า เสร็จ จบ เพราะงั้นเขาไม่ได้ถามว่าเรากินข้าวเช้าหรือยัง แต่ “รู้อยู่แล้วว่าเราเริ่มกินไปแล้ว” แต่ไม่รู้ว่าเสร็จหรือยัง

สองประโยคต่างกันเล็กน้อยตรงที่ Have you finished your breakfast ? ออกจะปกติ ไปจนถึงตกใจเล็กน้อย เช่น เราเห็นเพื่อนกินข้าวแกงอยู่โรงอาหาร ครู่เดียวเจอหน้าห้องน้ำ เลยถามว่ากินเสร็จแล้วเหรอ หรือมาเข้าห้องน้ำเฉย ๆ แล้วไปกินต่อ

ส่วน Did you finish your breakfast ? ออกแนวตกใจมาก ถามย้ำว่าเสร็จแล้วจริง ๆ เหรอเนี่ย เช่น เราเห็นเพื่อนซื้อของกินเยอะมากประหนึ่งมาปาร์ตี้ แต่แวบเดียวของหายหมด เลยตกใจว่านี่เธอกินหมดแล้วจริง ๆ เหรอเนี่ย เยอะไปมั้ย !

โดยสรุป ภาษาเป็นเรื่องที่ง่ายแต่ซับซ้อน มีกฏเกณฑ์แต่ก็มีการพัฒนาตามระยะเวลาที่ผ่านไป วันนี้ถูกพรุ่งนี้อาจผิด ที่คิดว่าผิดแท้จริงอาจถูกก็เป็นได้ อย่าว่าแต่ภาษาอังกฤษ ขนาดภาษาไทยเมื่อใช้อย่างจริงจังยังนับว่ายากเลย

ส่วนตัวเราคิดว่าคุณครูมีจุดต้องพัฒนาหลายจุด แต่ก็ดูทุ่มเทและรักการสอนมาก เป็นคนที่พวกเราควรชี้จุดบกพร่อง แต่ไม่ควรไปล้อเลียน

ที่ควรตำหนิอย่างจริงจัง คงเป็นกระทรวงมากกว่า ที่ปล่อยเนื้อหาออกมาโดยไม่มีระบบทบทวนได้อย่างไร การเรียนออนไลน์หรือผ่านโทรทัศน์ โดยมีเนื้อหาจากส่วนกลาง แม้เป็นข้อจำกัด แต่ก็เป็นโอกาสพัฒนาเช่นกัน

เราควรใช้โอกาสนี้ มากกว่าปัดให้ผ่าน ๆ ไป 

อ้างอิง

painintheenglish

Quora (searched term: had/have you dinner, had/have you lunch, had/have you breakfast)

ติดตามบทความใหม่ ๆ จากเพจวันนี้ชั้นติ่งอะไรได้ทุกวันอังคารที่ 2 และ 4 ของทุกเดือน บน LINE TODAY และหากสามารถอ่านบทความอื่น ๆ ได้ที่เพจวันนี้ชั้นติ่งอะไร 


PAST MODALS: could have | may have | might have | must have | should have | would have – GRAMMAR


Modal Verbs | past modals | could have | may have | might have | must have | should have | would have
Hi Everyone!
In today’s video, we are going to look at PAST MODALS. I know there can be some confusion between ‘could have | may have | might have | must have’ should have | would have’, so in today’s lesson, I am going to explain the difference stepbystep.
I’ll also help you PRONOUNCE these structures in a very natural way.
If you SUBSCRIBE to my channel and turn on those NOTIFICATIONS, you’ll never miss a lesson.
Would you like to SUPPORT my channel? https://kofi.com/arnel
INSTAGRAM: https://www.instagram.com/arnelseverydayenglish/
FACEBOOK: https://www.facebook.com/ArnelsEverydayEnglish/
I hope this lesson is helpful! Thank you very much for watching 😊
Arnel

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

PAST MODALS: could have | may have | might have | must have | should have | would have - GRAMMAR

Rod Stewart – Have You Ever Seen The Rain (Official Video)


Rod Stewart’s official live video for ‘Have You Ever Seen The Rain’. Click to listen to Rod Stewart on Spotify: http://smarturl.it/RSSpot?IQid=RSSTR
As featured on Still The Same… Great Rock Classics Of Our Time. Click to buy the track or album via iTunes: http://smarturl.it/RSRCiTunes?IQid=RSSTR
Google Play: http://smarturl.it/RSSTRPlay?IQid=RSSTR
Amazon: http://smarturl.it/RSRCAm?IQid=RSSTR
More Great Classic Rock videos here: http://smarturl.it/ClassicRocks?IQid=…
More from Rod Stewart
Fooled Around And Fell In Love: https://youtu.be/Z4RmgDa5_dI
It’s Over: https://youtu.be/MAE35c5WRXY
Forever Young: https://youtu.be/PGznEXXWdoo
Follow Rod Stewart
Website: http://www.rodstewart.com/
Facebook: https://www.facebook.com/rodstewart
Twitter: https://twitter.com/rodstewart
Subscribe to Rod Stewart on YouTube: http://smarturl.it/ROSSub?IQid=RSSTR

Lyrics:
Someone told me long ago
There’s a calm before the storm,
I know,
It’s been comin’ for some time.
When it’s over, so they say,
It’ll rain a sunny day,
I know,
Shinin’ down like water.
I want to know, have you ever seen the rain?
I want to know, have you ever seen the rain
Comin’ down on a sunny day?\”

Rod Stewart - Have You Ever Seen The Rain (Official Video)

Các loại câu điều kiện tổng quát [Ngữ pháp tiếng Anh cơ bản – Các loại câu #8]


Tổng hợp toàn bộ bí kíp tự học không thể bỏ qua Tìm hiểu ngay bộ sách tự học Elight dày công biên soạn: https://bit.ly/3eEvSHH
Luyện tập thêm các bài tập về [Ngữ pháp tiếng Anh cơ bản Các loại câu điều kiện] có giảng viên chữa tại đây: http://elight.edu.vn/khoanguphaptoandien/?utm_source=Youtube\u0026utm_medium=description\u0026utm_campaign=cacloaicaudieukientongquat

• Học tại trung tâm: http://tienganh.elight.edu.vn/
Xem thêm danh sách video bài học theo chủ đề
Học tiếng Anh đơn giản và dễ hiều cùng Elight với với playlist tiếng Anh. Xem ngay tại đây tại đây:
1. Lộ trình học tiếng Anh người mới bắt đầu và mất gốc: https://goo.gl/S2z8Id
2. Phát âm tiếng Anh chuẩn như người bản xứ: https://goo.gl/O94uHk
3. Ngữ pháp cơ bản cho người mới bắt đầu và mất gốc: https://goo.gl/axyGCL
4. Tiếng Anhh giao tiếp cơ bản cho người mới bắt đầu: https://goo.gl/FpFvXW
5. Từ vựng tiếng Anh theo chủ đề thông dụng: https://goo.gl/mRwVd4
6. Luyện nghe tiếng Anh giao tiếp: https://goo.gl/q92BZh
Mỗi ngày xem 35 video học tiếng anh của elight, kết hợp với khóa học tiếng Anh toàn diện của Elight, tiếng Anh của bạn sẽ cải thiện nhanh chóng.

Subscribe để nhận thông báo video mới
Để không bỏ lỡ các video bài học thú vị. Subscribe elight ngay tại link này nhé https://www.youtube.com/channel/UCjsIuhbtDQny5lv4B2b2VOg?sub_confirmation=1

Các loại câu điều kiện tổng quát
https://youtu.be/6ML5wo5TOyc
Sau nhiều bài học về ngữ pháp với Elight các bạn đã thấy khả năng ngữ pháp của mình có hiệu quả nên không nhỉ. Hãy dành chút thời gian để theo dõi cập nhập những bài học mới nhất của Elight nhé
Bài học ngày hôm nay của chúng ta sẽ nói đến Các loại câu điều kiện tổng quát. Các bạn đã sẵn sàng để học chưa nào ! Chúng ta bắt đầu học nhé
Các loại câu điều kiện là một phần kiến thức rất quan trọng trong đề thi tốt nghiệp THPT, cùng ôn lại với Elight nhé:
Trong video này, cô Trang sẽ giúp các bạn tìm hiểu về Định nghĩa, cấu trúc và cách dùng của Câu Điều Kiện nhé !
I/ Định nghĩa
Câu điều kiện dùng để nêu lên 1 giả thiết về 1 sự việc, mà sự việc đó chỉ có thể xảy ra khi điều kiện được nói đến xảy ra. ( Nếu . . . thì … )
Vd: Nếu cậu thích tớ thì tớ cũng thích cậu
Câu điều kiệ gồm 2 phần: Mệnh đề điều kiện, mệnh đề chính
Mệnh đề điều kiện lúc nào cũng bắt đầu với “If” , và mênh đề chính là mệnh đề không có “If”.
E.g: If it rains, I will stay at home.
Nếu như trời mưa thì tôi sẽ ở nhà.
Nếu muốn đảo mệnh đề chính lên trước , ta sẽ không cần dấu phẩy nữa “,” .
 I will stay at home if it rains.
II/ Phân loại và cấu trúc câu điều kiện
Câu điều kiện có 4 loại cơ bản:
Loại 0 : Điều kiện hiển nhiên ( If + HTĐ , và mệnh đề chính cũng là thì HTĐ )
If + S + V (s,es), S + V(s, es)
Loại 1 : Có thể xảy ra ở hiện tại hoặc tương lai ( If + HTĐ, mện đề chính sử dụng thì TLĐ hoặc các động từ khiếm khuyết như là Can/Should )
If + S + V(s, es), S + Can/ Should/Will … + V
Loại 2 : Không có thực ở hiện tại ( If + QKĐ , mệnh đề chính sử dụng Would/Could + V nguyên thể )
If + S + Vp / Ved , S + Would/Could/Should + V
+ Chú ý : Cái gì không có thật, cái gì trái ngược thì khi làm chúng, chúng ta phải lùi đi 1 thì . Mà không có thật ở hiện tại, lùi đi 1 thì, thì chắc chắn là quá khứ.
Tương tự: HTĐ QKĐ
Loại 3 : Không có thực ở quá khứ
( If + QKHT , mệnh đề chính dử dụng Would/ Should …+ have + Vpp/Ved )
If + S + Had + Vpp / Ved , S + Would/ Should .. + have + Vpp/ Ved
+ Chú ý lùi thì : QKĐ  QKHT
Kết nối với Elight
Youtube ELight Vip members Group: https://www.facebook.com/groups/1820362404886076/
Website: http://elight.edu.vn/?utm_source=Youtube\u0026utm_medium=description\u0026utm_campaign=cacloaicaudieukientongquat
Facebook: https://www.facebook.com/Elight.LearningEnglish/
Page cộng đồng tiếng Anh: https://www.facebook.com/HocTiengAnhMoiNgayElight/
Link FB cá nhân cô Kiều Trang: https://www.facebook.com/kieu.trang.1042
hoctienganh tienganh tienganhgiaotiep
nguphaptienganhco ban

Các loại câu điều kiện tổng quát [Ngữ pháp tiếng Anh cơ bản - Các loại câu #8]

could’ve should’ve would’ve แปลว่าอะไร | ติว Tuesday


could’ve should’ve would’ve แปลว่าอะไร | ติว Tuesday by เรียนเหอะ อยากสอน
วันนี้ครูอายจะมาสอนคำว่า could’ve should’ve would’ve แปลว่าอะไร
could’ve ย่อมาจาก could have
would’ve ย่อมาจาก would have
should’ve ย่อมาจาก should have
เจอกันกับ ติว Tuesday ทุกวันอังคาร
และ พักกลางวัน ทุกวันศุกร์นะคะ
เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองฟรี กับครูอาย เรียนเหอะ อยากสอน ได้ที่ไหนบ้าง?
▸ Youtube : https://www.youtube.com/เรียนเหอะอยากสอน
▸ Facebook : https://www.facebook.com/reanher
▸ Instagram : https://www.instagram.com/reanher.ig
กดที่นี่เพื่อ Subscribe ช่องนี้กันได้นะคะ ^^
https://www.youtube.com/channel/UCRX0VwKduaOHqlGeIdeOAUg?sub_confirmation=1
ติดต่อสปอนเซอร์
▸ Email : [email protected]
ครูอาย สอนภาษาอังกฤษ เรียนเหอะอยากสอน

could've should've would've แปลว่าอะไร | ติว Tuesday

Right Here Waiting — 30th Anniversary of Repeat Offender


Official Website http://www.richardmarx.com
Become a Facebook Fan http://on.fb.me/RichardMarxFB
Follow on Twitter http://bit.ly/RichardMarxTW
Follow on Instagram http://www.instagram.com/therichardmarx
Stream the new album \”Limitless\” now https://richardmarx.lnk.to/LimitlessID
Listen to the new single “Another One Down” here: https://richardmarx.lnk.to/AnotherOneDownID

Right Here Waiting — 30th Anniversary of Repeat Offender

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่MAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ would have แปลว่า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *