ตัวอย่างประโยค past perfect continuous: คุณกำลังดูกระทู้
Table of Content
- Tense คืออะไร
- โครงสร้าง tense ทั้ง 12 เป็นอย่างไร แตกต่างกันอย่างไร
- หลักการใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ใช้ต่างกันอย่างไร
- ตัวอย่างประโยคของเทนส์ทั้งหมด เพิ่มเติมเสริมความเข้าใจ
Tense คืออะไร
ความหมายของ Tense คือ รูปแบบของประโยคที่มีคำกริยา แสดงระบุเวลากำกับการกระทำในขณะที่พูด
นี่คือความหมายคร่าวๆนะครับ ถ้าย่นย่อกันจริงๆในการเรียนหลักภาษาแล้ว Tense คือ กาล (เวลา)
โครงสร้างของ 12 Tense และหลักการใช้
ว่ากันไปแล้ว Tense ใหญ่ๆแค่ 3 เท่านั้นเอง แต่แยกย่อยออกอีก 4 จึงรวมกันได้ 12 tense
- Present Tense (ปัจจุบันกาล) กล่าวถึงเรื่องราวในปัจจุบัน
- Past Tense (อดีตกาล)กล่าวถึงเรื่องราวในอดีต
- Future Tense (อนาคตกาล)กล่าวถึงเรื่องราวในอนาคต
PRESENT TENSE
บอกเล่าเรื่องราวในปัจจุบัน
Present Simple Tense
โครงสร้าง: S. + V.1(s/es)
หลักการใช้:
- บอกเล่าข้อเท็จจริงทั่วไป ของคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ …
ตัวอย่างประโยค:
- I eat rice everyday. ฉันกินข้าวทุกวัน
- A dog has four leg. สุนัขมีสี่ขา
- Bangkok is the capital city of Thailand. กรุงเทพเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย
- My class statrs at 9.00 ชั่วโมงเรียนของฉันเริ่มเวลา 9 นาฬิกา
Present Continuous Tense
Tense นี้อีกชื่อหนึ่งคือ Present Progressive Tense
โครงสร้าง: S. + is, am, are + Ving
หลักการใช้:
- บอกเล่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้
- บอกเล่าเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดในอนาคตแน่ๆ
ตัวอย่างประโยค:
- I am eating rice now. ฉันกำลังกินข้าวอยู่ตอนนี้
- A dog is walking. สุนัขกำลังเดิน
- I’m going to London next week. ฉันกำลังจะไปลอนดอนสัปดาห์หน้า
- We are visiting our granddad tomorrow. พวกเรากำลังจะไปเยี่ยมปู่พรุ่งนี้
Present Perfect Tense
โครงสร้าง: S. + has, have + V3
หลักการใช้:
- บอกเล่าเหตุการณ์ที่ดำเนินเสร็จแล้ว
- บอกเล่าเหตุการณ์ที่ดำเนินมาได้ในระยะเวลาหนึ่งจนถึงปัจจุบัน
ตัวอย่างประโยค:
- I have eaten rice. ผมกินข้าวแล้ว (กินเสร็จแล้ว)
- She has finished her homework. หล่อนทำการบ้านเสร็จแล้ว
- I have eaten rice for 20 minutes. ผมกินข้าวมาแล้ว 20 นาที
- He has lived here since 2000. เขาอาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่ปี 2000
Present Perfect Continuous Tense
โครงสร้าง: S. + has, have +been+ Ving
หลักการใช้:
- บอกเล่าเหตุการณ์ที่ดำเนินมาได้ในระยะเวลาหนึ่งจนถึงปัจจุบันคล้าย present perfect tense แต่เป็นการเน้นย้ำว่าทำอย่างต่อเนื่อง
ตัวอย่างประโยค:
- I have been playing foootball since 8 o’clock. ฉันเล่นฟุตบอล (อย่างต่อเนื่อง) ตั้งแต่ 8 โมง
- She has been walking for 30 munites. หล่อนเดิน (อย่างต่อเนื่อง) เป็นเวลา 30 นาที
- Toon has been running for 4 hours. ตูนวิ่ง (อย่างต่อเนื่อง) เป็นเวลา 4 ชั่วโมง)
- He has been working here since 1999 . เขาทำงานที่นี่ (อย่างต่อเนื่อง)ตั้งแต่ปี 1999 (ไม่เคยย้ายไปไหน)
PAST TENSE
บอกเล่าเรื่องราวในอดีต
Past Simple Tense
โครงสร้าง: S. + V2
หลักการใช้:
- บอกเล่าเหตุการณ์ในอดีต ที่เกิดขึ้น ณ จุดเวลาใดเวลาหนึ่ง
ตัวอย่างประโยค:
- I went to school yesterday. ฉันไปโรงเรียนเมื่อวานนี้
- I ate bananas last week. ฉันกินกล้วยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
- My dad washed his car last Sunday. พ่อของผมล้างรถของเขาเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว
- She watched this movie last year. หล่อนดูหนังเรื่องนี้ปีที่แล้ว
- Sam visited his parents five years ago. แซมไปเยี่ยมพ่อแม่ของเขาเมื่อห้าปีที่แล้ว
Past Continuous Tense
โครงสร้าง: S. + was, were + Ving
หลักการใช้:
- บอกเล่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีต แล้วมีอีกเหตุการณ์หนึ่งแทรกขึ้นมา
ตัวอย่างประโยค:
- I saw a big elephant while I was walking to school . ฉันเห็นช้างตัวหนึ่งขณะที่ฉันกำลังเดินไปโรงเรียน
- We were eating dinner when dad came home. พวกเรากำลังกินข้าวเย็นอยู่ ตอนที่พ่อมาถึงบ้าน
- The light went out when they were watching TV. ไฟดับตอนที่พวกเขากำลังดูทีวีอยู่
- She was taking a bath when I called her. หล่อนกำลังอาบน้ำอยู่ ตอนที่ผมโทรหาหล่อน
- Sam was driving home when it started to rain. แซมกำลังขับรถกลับบ้าน ตอนที่ฝนเริ่มตก
Past Perfect Tense
โครงสร้าง: S. + had + V3
หลักการใช้:
- บอกเล่าเหตุการณ์ที่สิ้นสุดแล้วในอดีต ก่อนจะมีอีกเหตุการณ์ตามมา
ตัวอย่างประโยค:
- I had eaten a pizza before I went to bed.ฉันได้กินพิซซ่า ก่อนที่ฉันเข้านอน (กินก่อน )
- John called me after I had left. จอห์นโทรหาฉัน หลังจากที่ฉันได้ออกจากบ้านแล้ว
- All people had gone home when we reached the cinema. คนได้กลับบ้านหมดแล้ว เมือเราไปถึงโรงหนัง
- They had had dinner before they did homework. พวกเขาได้เขากินข้าว ก่อนพวกเขาทำการบ้าน
- The train had left when we got to the station. รถไฟออกไปแล้ว ตอนที่เราไปถึงสถานี
Past Perfect Tense
โครงสร้าง: S. + had + been + ฺฺ Ving
หลักการใช้:
- บอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต และดำเนินมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง เน้นการบอกเวลามากกว่าการกระทำ
ตัวอย่างประโยค:
- I had been waiting for the train for three hours before it arrived. ฉันได้รอคอยรถไฟเป็นเวลา(ตั้ง) 3 ชั่วโมง (นะ) ก่อนที่มันจะมาถึง
- We had been walking for one hour when we saw that bird.
พวกเราได้เดิน (ตั้ง) 1 ชั่วโมง (แน่ะ) ตอนที่พวกเราเห็นนกตัวนั้น - They had been playing football for four hours when it started to rain.
พวกเขาได้เล่นฟุตบอล (ตั้ง) 4 ชั่วโมง ก่อนที่ฝนเริ่มตก (วันนี้เล่นได้นาน ปกติไม่เกินชั่วโมงก็ตกแล้ว)
FUTURE TENSE
บอกเล่าเรื่องราวในอนาคต
Future Simple Tense
โครงสร้าง: S. + will + ฺฺ V1
หลักการใช้:
- บอกเล่า คาดการณ์เหตุการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ตัวอย่างประโยค:
- I will go to school tomorrow. ฉันจะไปโรงเรียนพรุ่งนี้ (คิดว่าต้องไป เดี๋ยวหมดสิทธิ์สอบ)
- I will watch Chin Jang this evening. ฉันจะดูชินจังเย็นนี้ (เพื่อนบอกว่าสนุก จะลองดูหน่อย)
- You will eat papaya salad tonight. คุณจะกินส้มตำคืนนี้ (คุณเคยบอกไว้ ว่าจะกินคืนนี้)
- He will clean the car next week. เขาจะล้างรถสัปดาห์หน้า (เขาบอกมา ว่าจะล้าง)
- She will buy a bike next month. หล่อนจะซื้อจักรยานเดือนหน้า (หล่อนว่าเดินไปเรียนแล้วเหนี่อย)
Future Continuous Tense
โครงสร้าง: S. + will + ฺฺ be + Ving
หลักการใช้:
- บอกเล่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในอนาคต
ตัวอย่างประโยค:
- I will be reading books at 8 o’clock tomorrow. ฉันจะกำลังอ่านหนังสือเวลา 8 นาฬิกา วันพรุ่งนี้
- At nine o’clock tomorrow, we will be working on farm.พรุ่งนี้เวลา 9 นาฬิกา พวกเราจะกำลังทำงานในฟาร์ม
- At six oclock, we will be eating dinner with our granddad. เวลา 6 นาฬิกา พวกเราจะกำลังกินข้าวกับปู่ของพวกเรา
- She will be waiting when you arrive. หล่อนจะกำลังรอคอย เมื่อคุณมาถึง
Future Perfect Tense
โครงสร้าง: S. + will + ฺฺ have + V3
หลักการใช้:
- บอกเล่าเหตุการณ์ที่สิ้นสุดแล้วในอนาคต
ตัวอย่างประโยค:
- I will have eaten breakfast at 8 o’clock tomorrow. ฉันจะกินข้าวเช้าเรียบร้อยแล้ว เวลา 8 นาฬิกา วันพรุ่งนี้
- Tomorrow morning, we will have finished our project. พรุ่งนี้เช้า พวกเราจะดำเนินโครงการของพวกเราเสร็จแล้ว
- She will have gone when you arrive. หล่อน(คง)จะไปแล้ว เมื่อคุณมาถึง
- I will have cleaned the floor when my mom gets home. ฉัน(คง)จะทำความสะอาดพื้นเรียบร้อยแล้ว ตอนที่แม่มาถึง
Future Perfect Continuous Tense
โครงสร้าง: S. + will + ฺฺ have + been + Ving
หลักการใช้:
- บอกเล่าเหตุการณ์ที่ดำเนิมมาได้ระยะเวลาหนึ่งในอนาคต ก่อนมีอีกเหตุการณ์หนึ่งแทรกเข้ามา
ตัวอย่างประโยค
- I will have been eating breakfast for 30 minutes at 8 o’clock tomorrow.
ฉันจะได้กำลังกินข้าวเช้าเป็นเวลา 30 นาทีแล้ว ณ เวลา 8 นาฬิกา วันพรุ่งนี้ - At 10 o’clock tomorrow, we will have been working on farm for two hours.
เวลา 10 นาฬิกาพรุ่งนี้ พวกเราจะได้กำลังทำงานในฟาร์ม เป็นเวลา 2 ชั่วโมงแล้ว - You will have been waiting for two hours when the plane arrives.
คุณจะได้กำลังรอ เป็นเวลาสองชั่วโมง เมื่อเครื่องบินมาถึ’
ที่มา : https://xn--12cl9ca5a0ai1ad0bea0clb11a0e.com/%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89-12-tense-%E0%B8%89%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%AD/
[Update] Tense – กาล (เวลา) | ตัวอย่างประโยค past perfect continuous – NATAVIGUIDES
Post on 16 / 02 / 20
2.8K viewed
Tense คือ รูปแบบของประโยคที่มีคำกริยา แสดงระบุเวลากำกับการกระทำในขณะที่พูดหรือเรียกสั้น ๆ ในการเรียนหลักภาษาว่า Tense คือ กาล (เวลา) และเรื่อง tense มีความสำคัญอย่างมาก โดยเห็นได้บ่อยๆ คือการนำไปใช้ควบคู่กับเรื่อง กริยา 3 ช่อง
โครงสร้างของ 12 Tense และหลักการใช้
Tense ใหญ่ๆจริงๆมีแค่ 3 Tense เท่านั้นเอง แต่แยกย่อยออกอีก 4 จึงรวมกันได้ 12 tense
- Present Tense (ปัจจุบันกาล) กล่าวถึงเรื่องราวในปัจจุบัน
- Past Tense (อดีตกาล)กล่าวถึงเรื่องราวในอดีต
- Future Tense (อนาคตกาล)กล่าวถึงเรื่องราวในอนาคต
1. Present Tense
1.1 Present Simple Tense
โครงสร้าง: S. + V.1(s/es)
หลักการใช้: บอกเล่าข้อเท็จจริงทั่วไป ของคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ …
ตัวอย่างประโยค:
- I eat rice everyday. ฉันกินข้าวทุกวัน
- A dog has four leg. สุนัขมีสี่ขา
- Bangkok is the capital city of Thailand. กรุงเทพเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย
- My class statrs at 9.00 ชั่วโมงเรียนของฉันเริ่มเวลา 9 นาฬิกา
1.2 Present Continuous Tense
Tense นี้อีกชื่อหนึ่งคือ Present Progressive Tense
โครงสร้าง: S. + is, am, are + Ving
หลักการใช้:
- บอกเล่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้
- บอกเล่าเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดในอนาคตแน่ๆ
ตัวอย่างประโยค:
- I am eating rice now. ฉันกำลังกินข้าวอยู่ตอนนี้
- A dog is walking. สุนัขกำลังเดิน
- I’m going to London next week. ฉันกำลังจะไปลอนดอนสัปดาห์หน้า
- We are visiting our granddad tomorrow. พวกเรากำลังจะไปเยี่ยมปู่พรุ่งนี้
1.3 Present Perfect Tense
โครงสร้าง: S. + has, have + V3
หลักการใช้:
- บอกเล่าเหตุการณ์ที่ดำเนินเสร็จแล้ว
- บอกเล่าเหตุการณ์ที่ดำเนินมาได้ในระยะเวลาหนึ่งจนถึงปัจจุบัน
ตัวอย่างประโยค:
- I have eaten rice. ผมกินข้าวแล้ว (กินเสร็จแล้ว)
- She has finished her homework. หล่อนทำการบ้านเสร็จแล้ว
- I have eaten rice for 20 minutes. ผมกินข้าวมาแล้ว 20 นาที
- He has lived here since 2000. เขาอาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่ปี 2000
1.4 Present Perfect Continuous Tense
โครงสร้าง: S. + has, have +been+ Ving
หลักการใช้: บอกเล่าเหตุการณ์ที่ดำเนินมาได้ในระยะเวลาหนึ่งจนถึงปัจจุบันคล้าย present perfect tense แต่เป็นการเน้นย้ำว่าทำอย่างต่อเนื่อง
ตัวอย่างประโยค:
- I have been playing foootball since ฉันเล่นฟุตบอล (อย่างต่อเนื่อง) ตั้งแต่ 8 โมง
- She has been walking for 30 munites. หล่อนวิ่ง (อย่างต่อเนื่อง) เป็นเวลา 30 นาที
- Toon has been running for 4 hours. ตูนวิ่ง (อย่างต่อเนื่อง) เป็นเวลา 4 ชั่วโมง)
- He has been working here since 1999 . เขาทำงานที่นี่ (อย่างต่อเนื่อง)ตั้งแต่ปี 1999 (ไม่เคยย้ายไปไหน)
2. Past Tense
2.1 Past Simple Tense
โครงสร้าง: S. + V2
หลักการใช้: บอกเล่าเหตุการณ์ในอดีต ที่เกิดขึ้น ณ จุดเวลาใดเวลาหนึ่ง
ตัวอย่างประโยค:
- I went to school yesterday. ฉันไปโรงเรียนเมื่อวานนี้
- I ate bananas last week. ฉันกินกล้วยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
- My dad washed his car last Sunday. พ่อของผมล้างรถของเขาเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว
- She watched this movie last year. หล่อนดูหนังเรื่องนี้ปีที่แล้ว
- Sam visited his parents five years ago. แซมไปเยี่ยมพ่อแม่ของเขาเมื่อห้าปีที่แล้ว
2.2 Past Continuous Tense
โครงสร้าง: S. + was, were + Ving
หลักการใช้: บอกเล่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีต แล้วมีอีกเหตุการณ์หนึ่งแทรกขึ้นมา
ตัวอย่างประโยค:
- I saw a big elephant while I was waling to school . ฉันเห็นช้างตัวหนึ่งขณะที่ฉันกำลังเดินไปโรงเรียน
- We were eating dinner when dad came home. พวกเรากำลังกินข้าวเย็นอยู่ ตอนที่พ่อมาถึงบ้าน
- The light went out when they were watching TV. ไฟดับตอนที่พวกเขากำลังดูทีวีอยู่
- She was taking a bath when I called her. หล่อนกำลังอาบน้ำอยู่ ตอนที่ผมโทรหาหล่อน
- Sam was driving home when it stated to rain. แซมกำลังขับรถกลับบ้าน ตอนที่ฝนเริมตก
2.3 Past Perfect Tense
โครงสร้าง: S. + had + V3
หลักการใช้: บอกเล่าเหตุการณ์ที่สิ้นสุดแล้วในอดีต ก่อนจะมีอีกเหตุการณ์ตามมา
ตัวอย่างประโยค:
- I had eaten a pizza before I went to bed.ฉันได้กินพิซซ่า ก่อนที่ฉันเข้านอน (กินก่อน )
- John called me after I had left. จอห์นโทรหาฉัน หลังจากที่ฉันได้ออกจากบ้านแล้ว
- All people had gone home when we reached the cinema. คนได้กลับบ้านหมดแล้ว เมือเราไปถึงโรงหนัง
- They had had dinner before they did homework. พวกเขาได้เขากินข้าว ก่อนพวกเขาทำการบ้าน
- The train had left when we got to the station. รถไฟออกไปแล้ว ตอนที่เราไปถึงสถานี
2.4 Past Perfect Continuous Tense
โครงสร้าง: S. + had + been + V3
หลักการใช้: บอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต และดำเนินมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง เน้นการบอกเวลามากกว่าการกระทำ
ตัวอย่างประโยค:
- I had been waiting for the train for three hours before it arrived. ฉันได้รอคอยรถไฟเป็นเวลา(ตั้ง) 3 ชั่วโมง (นะ) ก่อนที่มันจะมาถึง
- We had been walking for one hour when we saw that bird.
พวกเราได้เดิน (ตั้ง) 1 ชั่วโมง (แน่ะ) ตอนที่พวกเราเห็นนกตัวนั้น - They had been playing football for four hours when it started to rain.
พวกเขาได้เล่นฟุตบอล (ตั้ง) 4 ชั่วโมง ก่อนที่ฝนเริ่มตก (วันนี้เล่นได้นาน ปกติไม่เกินชั่วโมงก็ตกแล้ว)
3 Future Tense
3.1 Future Simple Tense
โครงสร้าง: S. + will + V1
หลักการใช้: บอกเล่า คาดการณ์เหตุการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ตัวอย่างประโยค:
- I will go to school tomorrow. ฉันจะไปโรงเรียนพรุ่งนี้ (คิดว่าต้องไป เดี๋ยวหมดสิทธิ์สอบ)
- I will watch Chin Jang this evening. ฉันจะดูชินจังเย็นนี้ (เพื่อนบอกว่าสนุก จะลองดูหน่อย)
- You will eat papaya salad tonight. คุณจะกินส้มตำคืนนี้ (รู้สึกอยากๆ กะจะตำกินสักหน่อย)
- He will clean the car next week. เขาจะล้างรถสัปดาห์หน้า (เขาบอกมา ว่าจะล้าง)
- She will buy a bike next month. หล่อนจะซื้อจักรยานเดือนหน้า (หล่อนว่าเดือนไปเรียนแล้วเหนี่อย)
3.2 Future Continuous Tense
โครงสร้าง: S. + will + be + Ving
หลักการใช้: บอกเล่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในอนาคต
ตัวอย่างประโยค:
- I will be reading books at 8 o’clock tomorrow. ฉันจะกำลังอ่านหนังสือเวลา 8 นาฬิกา วันพรุ่งนี้
- At nine o’clock tomorrow, we will be working on farm.พรุ่งนี้เวลา 9 นาฬิกา พวกเราจะกำลังทำงานในฟาร์ม
- At six oclock, we will be eating dinner with our granddad. เวลา 6 นาฬิกา พวกเราจะกำลังกินข้าวกับปู่ของพวกเรา
- She will be waiting when you arrive. หล่อนจะกำลังรอคอย เมื่อคุณมาถึง
3.3 Future Perfect Tense
โครงสร้าง: S. + will + have + V3
หลักการใช้: บอกเล่าเหตุการณ์ที่สิ้นสุดแล้วในอนาคต
ตัวอย่างประโยค:
- I will have eaten breakfast at 8 o’clock tomorrow. ฉันจะกินข้าวเช้าเรียบร้อยแล้ว เวลา 8 นาฬิกา วันพรุ่งนี้
- Tomorrow morning, we will have finished our project. พรุ่งนี้เช้า พวกเราจะดำเนินโครงการของพวกเราเสร็จแล้ว
- She will have gone when you arrive. หล่อน(คง)จะไปแล้ว เมื่อคุณมาถึง
- I will have cleaned the floor when my mom gets home. ฉัน(คง)จะทำความสะอาดพื้นเรียบร้อยแล้ว ตอนที่แม่มาถึง
3.4 Future Perfect Continuous Tense
โครงสร้าง: S. + will + have + been + V3
หลักการใช้: บอกเล่าเหตุการณ์ที่ดำเนิมมาได้ระยะเวลาหนึ่งในอนาคต ก่อนมีอีกเหตุการณ์หนึ่งแทรกเข้ามา
ตัวอย่างประโยค
- I will have been eating breakfast for 30 minutes at 8 o’clock tomorrow.
ฉันจะได้กำลังกินข้าวเช้าเป็นเวลา 30 นาทีแล้ว ณ เวลา 8 นาฬิกา วันพรุ่งนี้ - At 10 o’clock tomorrow, we will have been working on farm for two hours.
เวลา 10 นาฬิกาพรุ่งนี้ พวกเราจะได้กำลังทำงานในฟาร์ม เป็นเวลา 2 ชั่วโมงแล้ว - You will have been waiting for two hours when the plane arrives.
คุณจะได้กำลังรอ เป็นเวลาสองชั่วโมง กว่าเครื่องบินจะมา
หลักการใช้ Present continuous Tense ฉบับเข้าใจง่าย
รียนคอร์สออนไลน์: http://www.learningtreeuk.com
ติดตามทางเฟสบุ๊ค: http://www.facebook.com/learninguk
ติดต่อสอบถาม: https://line.me/R/ti/p/%40ttw7272u
และไลน์ของครูพิม pimolwan1984
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่
My School Day – Classroom Language and Conversation
Learn English vocabulary, expressions and questions used in school.
How to Use FUTURE PERFECT, FUTURE PERFECT CONTINUOUS, and FUTURE CONTINUOUS in English
In this live lesson you will learn how to use the \”Future Perfect\”, \”Future Perfect Continuous\”, and \”Future Continuous\” in English.
// MOST POPULAR PRONUNCIATION VIDEOS
Improve your Pronunciation: https://youtu.be/qynfT0DZPx4
The Alphabet: https://youtu.be/lMb7IF356OE
Can vs. Can’t: https://youtu.be/IzjX0ghVSgg
The Consonants: https://youtu.be/nI9BL4AB5Y0
The Vowels: https://youtu.be/jORgKrANiMw
Pronounce \”Clothes\”: https://youtu.be/FLXknxPOBZw
Pronounce \”ed\” Endings: https://youtu.be/VfCzDdgIQ68
The Yorkshire Accent: https://youtu.be/vB7HCwmHTk
// SUBSCRIBE FOR WEEKLY VIDEOS
https://www.youtube.com/pronunciationwithemma?sub_confirmation=1
// PDF VERSION OF TODAY’S LESSON
http://bit.ly/2kIMaXr
// FREE PHONEMIC CHART
http://bit.ly/pronunciationwithemmachart
// FOLLOW ME ON SOCIAL MEDIA
Kofi Donations: https://www.kofi.com/pronunciationwithemma
Website: http://pronunciationwithemma.com
Instagram: https://www.instagram.com/pronunciationwithemma
Facebook: https://www.facebook.com/pronunciationwithemma
Twitter: https://www.facebook.com/prowithemma
I teach using just one of many accents in the world. Please only learn it if you like it and if you are interested in learning it. I do not believe there is one “correct” accent or manner of pronunciation and I fully encourage EFL/ESL learners to expose themselves to as many varieties of English around the world to become accustomed to the beautiful variations of this world language. I focus mostly on teaching “Modern RP” (I may just say “RP” in my older videos, but to clarify, I do specifically mean “Modern RP”), however, you will hear a lovely little Yorkshire twang to my accent from time to time too. Please LOVE and BE PROUD of your accent. After all, it is part of your identity and makes you unique. 💚
Past Perfect Tense
Learn how to use correctly the past perfect tense in this video. You’re going to see several situations where we need to use this tense. Words like already, when, after, before, never can indicate that Past Perfect could be used.
Ep 15 Tense : เจาะลึก Past Perfect Continuous Tense ( S + had been +V.ing )
Past Perfect Continuous Tense ( S + had been + V.ing)
Past = อดีต
Perfect = เชื่อม 2 ช่วงเวลา
Continuous = บอกว่าเป็นเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ ต่อเนื่องอยู่
Past Perfect Continuous จะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต ดำเนินเรื่อยมาจนถึง ช่วงที่เราสนใจ แต่ก็ยังอยู่ในอดีตอยู่
เช่น I had been eating pizza. ฉันกินพิซซ่าอยู่มาสักพักนึงแล้ว (ในอดีต)
มักใช้กับเหตุการณ์ที่มีการมาแทรกเป็นเหตุการณ์ที่ 2 เช่น
She had been cooking for 10 minutes when the phone rang. เขากำลังทำอาหารอยู่เป็นเวลา 10 นาทีแล้ว ตอนที่ มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา
เหตุการณ์ที่ 1 : She had been cooking for 10 minutes
เหตุการณ์ที่ 2 : the phone rang ( Past Simple)
ทั้ง2 เหตุการณ์ เกิดขึ้นในอดีต
จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนรู้
ติดตาม Facebook และ Instagram : The Happy Time with Q
หากผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำขออภัยมานะที่นี้ด้วยค่ะ 😀
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE
ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ตัวอย่างประโยค past perfect continuous