time is up แปลว่า: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
ประโยคคําถามภาษาอังกฤษ – การสื่อสารเปรียบเสมือนการสนทนามีคำถาม-คำตอบ โต้ตอบกันอย่างต่อเนื่อง แต่เวลาที่เราสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ เราอาจจะตกอยู่ในสถาการณ์ที่ไม่สามารถต่อบทการสนทนาได้ เนื่องจากเราไม่รู้ว่าจะตั้งคำถามได้อย่างไร ซึ่งในความเป็นจริงแล้วประโยคคำถามเป็นเพียงประโยคง่าย ๆ แต่บางครั้งเราก็เผลอหลงลืมมัมไป หรือส่วนมากเรามักจะได้เจออยู่แค่ไม่กี่ประโยค พอเจอประโยคใหม่ ๆ ก็เกิดอาการตกใจจนไม่รู้จะตอบว่าอย่างไรก็มี วันนี้เราได้รวบรวมประโยคคำถามในภาษาอังกฤษว่ามีอะไรบ้าง เพื่อที่เราจะได้เข้าใจและตอบคำถามได้อย่างถูกต้อง
รูปแบบของประโยคคำถามนั้น มีได้หลายรูปแบบ ซึ่งประโยคคำถาม เป็นประโยคที่เราใช้ถามในสิ่งที่เราอยากรู้ โดยในภาษาอังกฤษประโยคคำถามจะถูกแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่
1. Yes-No question
2. Wh-question
3. Question tag
ประโยคคำถามในภาษาอังกฤษ
เป็นส่วนไวยากรณ์ที่สำคัญมาก
1. ประโยคคําถามภาษาอังกฤษ _ Yes/No question
Yes/No Question เป็นประโยคคำถามที่ใช้ในการถามคำถาม ที่ต้องการคำตอบ Yes หรือ No (ใช่หรือไม่ใช่) ซึ่งเรามักพบได้บ่อยและมีประโยชน์มากในการสนทนาในชีวิตประจำวัน ประโยคคำถามรูปแบบนี้ ถ้าเปรียบเทียบกับภาษาไทย ก็คือคำถามที่ถามว่า ใช่หรือไม่ ใช่ไหม เป็นต้น โดยทั่วไปแยกย่อยออกเป็น 3 รูปแบบ ดังต่อไปนี้
1.1. ประโยคขึ้นต้นคำถามด้วย Verb to be
เราจะมีโครงสร้างประโยค:
ประโยคบอกเล่า: S (Subject) + to be ( am/is/are/was/were) + N (Noun)/ ADJ (Adjective)/ Prep (Preposition) …
=> ประโยคคำถาม: To be + S + N/ADJ/Prep…?
ตัวอย่างคำถาม
- ประโยคบอกเล่า : This man is handsome.
=> ประโยคคำถาม : Is this man handsome ? (แปลว่า: ผู้ชายคนนี้หล่อไหม?) - ประโยคบอกเล่า : They are your friends.
=> ประโยคคำถาม : Are they your friends? ( แปลว่า : พวกเขาเป็นเพื่อนของคุณหรือเปล่า) - ประโยคบอกเล่า : Your house is far from here.
=> ประโยคคำถาม : Is your house far from here? (แปลว่า : บ้านของคุณอยู่ไกลหรือเปล่า)
ข้อสังเกต
– การขึ้นต้นคำถามด้วย Verb to be จะเปลี่ยนจากประโยคบอกเล่าทั่วไปที่มี Verb to be อยู่ในประโยคนั้น ๆ
– ประโยคภาษาอังกฤษเหล่านี้ถ้าพูดเป็นประโยคบอกเล่า Verb to be จะอยู่หลังประธาน
– การออกเสียงมักจะลงท้ายประโยคด้วยเสียงสูง
1.2. ประโยคขึ้นต้นคำถามด้วย Verb to do
เราจะมีโครงสร้างประโยค:
ประโยคบอกเล่า: S (Subject) + V (Verb) + O (Objective)
=> ประโยคคำถาม: Verb to do (Do/Does/Did/Have…) + S (Subject) + V (Verb) + O (Objective)?
ตัวอย่างคำถาม
- ประโยคบอกเล่า : You need my help.
=> ประโยคคำถาม : Do you need my help ? (แปลว่า คุณต้องการให้ผมช่วยเหลือไหม ?) - ประโยคบอกเล่า : She gets up early.
=> ประโยคคำถาม : Does she get up early ? (แปลว่า เธอเป็นคนตื่นเช้าไหม ? - ประโยคบอกเล่า : He comes late.
=> ประโยคคำถาม : Does he come late ? (ตัด S ที่กริยาแท้ออกด้วย) (แปลว่า เขามาสายไหม?)
ข้อสังเกต
– การขึ้นต้นคำถามด้วย Do หรือ Does คือการตั้งประโยคคำถามโดยการเปลี่ยนมาจากประโยคบอกเล่าที่ไม่มีตัวช่วยอื่น ๆ อยู่ในประโยคนั้น ๆ
– Do เป็น Verb ช่วย ที่จะใช้กับประธานที่เป็นพหูพจน์เช่น I, You, We, They
– Does เป็น Verb ช่วยที่จะใช้กับประธานที่เป็นเอกพจน์ เช่น He, She, It, และเมื่อ Does มานำหน้าประโยคคำถามกริยาแท้จะต้องตัด S ออกด้วย
– การออกเสียงมักจะลงท้ายประโยคด้วยเสียงสูง
1.3. ประโยคขึ้นต้นคำถามด้วยกริยาช่วยตัวอื่น ๆ (Can, May, Will, Could)
เราจะมีโครงสร้างประโยค:
ประโยคบอกเล่า: S (Subject) + กริยาช่วย + V (Verb) + O (Objective)
=> ประโยคคำถาม: กริยาช่วย + S (Subject) + V (Verb) + O (Objective)?
ตัวอย่างคำถาม
- ประโยคคำถาม : Can you help me, please ? (แปลว่า คุณช่วยผมหน่อยได้ไหมครับ ?)
- ประโยคคำถาม : May I talk with Ploy, please ? (แปลว่า ขอพูดกับคุณพลอยหน่อยนะครับ ?)
- ประโยคคำถาม : Will you come back ? (แปลว่า คุณจะกลับมาไหมครับ ?)
- ประโยคคำถาม : Could you please tell me your name ? (แปลว่า คุณช่วยกรุณาบอกชื่อของคุณหน่อยได้ไหมครับ ?)
ข้อสังเกต
– ในกรณีที่ประโยคมีกริยาช่วย เช่น Can, May, Will, Could เป็นต้น เราจะเอากริยาช่วยเหล่านี้ มาวางไว้หน้าประโยค เราจะนำกริยาช่วย มาวางไว้หน้าประธาน จากนั้นจึงเรียงประโยคไปตามปกติ
– การออกเสียงมักจะลงท้ายประโยคด้วยเสียงสูง
2. ประโยคคําถามภาษาอังกฤษ _ Wh – question
Wh – question คือ ประโยคคำถาม ที่ไม่ต้องการคำตอบว่า Yes หรือ No แต่ต้องการเป็นรายละเอียด เวลาออกเสียง ท้ายประโยคไม่ต้องออกเสียงที่สูงขึ้น
Wh-Question จะประกอบด้วย Question Words หมายถึง คำที่ใช้ขึ้นต้นประโยค เพื่อทำให้ประโยคนั้นเป็นคำถาม ซึ่งต้องการให้ผู้ตอบได้ตอบโดยใช้ข้อมูล หรือข้อเท็จจริง ประโยคคำถามส่วนใหญ่จะขึ้นต้นด้วย ” W ” และ ” H ” คำที่ใช้ในการตั้งคำถามมีอยู่หลายคำ เช่น who, whom, whose, which, what, when, where, why, how long, how often, how many, how much, how far, ให้จำไว้ว่า Question Word เหล่านี้ ไม่ได้ ตอบว่า yes หรือ no
วิธีใช้
ประโยคคำถาม
Wh Question แบบง่ายๆ
คําถามชนิดนี้ขึ้นต้นประโยคด้วยคำที่เป็นคําถาม (question words) แล้วตามด้วยกริยา ซึ่งมีหลักการใช้เช่นเดียวกับคําถาม yes/no ที่ได้กล่าวมาแล้ว ยกเว้นคําถามที่ใช้เป็นประธาน (subject) และส่วนสมบูรณ์ (complement) คําถามต่าง ๆ มีดังนี้
Wh- QuestionsความหมายWhoใครWhomใครWhoseของใครWhatอะไร Which อันไหน คนไหนWhy ทําไมWhereที่ไหน When เมื่อไรHow อย่างไร
คําเหลานี้ใช้ถามโดยที่ผู้ถามไม่มีข้อมูลอะไรเลย แต่อยากจะได้คําตอบมาแทนคํานั้น ๆ ที่ใช้ถาม
ลักษณะโครงสร้างสําคัญของคําถามชนิดนี้ก็คือ การวางคําเหล่านี้ไว้ต้นประโยค
ซึ่งจะได้กล่าวถึงในรายละเอียดเป็นลําดับไป
*** ประโยคคําถามภาษาอังกฤษ – Who: ใคร
โครงสร้างของประโยค Who + verb + object ?ตัวอย่างคำถามโครงสร้างประโยคคำถามโครงสร้างประโยคคำตอบA : Who is your teacher ?B : Mrs. Wanpen is my teacher.A : Who is doing the cooking ?B : My mother is doing the cooking.A : Who are these boys ?B : Boonchu and Kasem.A : Who sings this song ?B : Nara sings this song.
*** ประโยคคําถามภาษาอังกฤษ – What: อะไร
โครงสร้างประโยคคำถาม ที่ 1 ใช้ What ถามถึงอาชีพต่าง ๆ
โครงสร้างประโยคคำถาม1. What + (is/are) + subject ?
2. What + (do/does) + subject+ do ?ตัวอย่างโครงสร้างประโยคคำถามโครงสร้างประโยคคำตอบA : What is your father ?B : He is a farmer.A : What are you ?B : I am a student.A : What is Ms.Paweena ?B : She is a English teacher.A : What does Manop do ?B : He is a policeman.
ใช้ What ถามชื่อบุคคล
โครงสร้างประโยคคำถามWhat + (is/are) + (your/his/her) + name ?ตัวอย่างโครงสร้างประโยคคำถามโครงสร้างประโยคคำตอบA : What is your name ?B : My name is Paweena.A : What is his name ?B : His name is Manop.A : What are their names ?B : Their names are Pee and Dee.
ใช้ What ในการถามถึงสัญชาติ
โครงสร้างประโยคคำถามWhat + (is/are) + (your/his/her/their) + nationality ?ตัวอย่างA : What is your
nationality
?B : I am Thai.A : What is his nationality ?B : He is Thai.A : What is her nationality ?B : She is Thai.A : What is their nationality ?B : They are Japanese.
ใช้ What ถามเกี่ยวกับสิ่งของ
โครงสร้างประโยคคำถามWhat + (is/are) + (this/that/those/these) ?ตัวอย่างโครงสร้างประโยคคำถามโครงสร้างประโยคคำตอบA : What is this ?B : It is my pen.A : What is that ?B : It is a book.A : What are these ?B : They are new computers.
ประโยคคําถามภาษาอังกฤษ: ใช้ What ถามเกี่ยวกับเวลา
โครงสร้างประโยคคำถาม1. What + time + is + it ?
2. What + is + the time ?ตัวอย่างโครงสร้างประโยคคำถามโครงสร้างประโยคคำตอบA : What time is it ?B : It is seven o’clock.A : What is the time ?B : It is ten – five.
ใช้ What ถามเกี่ยวกับสิ่งของที่ชอบ
โครงสร้างประโยคคำถามWhat + noun(s) + (do/does) + subject + verb ?ตัวอย่างโครงสร้างประโยคคำถามโครงสร้างประโยคคำตอบA : What colour do you like ?B : I like red.A : What Thai food does Jim like ?B : He likes Tom Yum Koong.A : What is your favourite fruit ?B : I like bananas.
ใช้ What ถามที่อยู่ ถาม email
โครงสร้างประโยคคำถามWhat + is + (your/his/her) + (address/ e-mail address ?ตัวอย่างโครงสร้างประโยคคำถามโครงสร้างประโยคคำตอบA : What is your address ?B : It is 10 Sukhumvit Road, Bangkok.A : What is Malee’s address?B : It is 10 Moo 4, Tambol Naimuang, Amphoe Muang, Surin (32000).A : What is your email address ?B : It is [email protected]
ใช้ What ถามหมายเลขโทรศัพท์
โครงสร้างประโยคคำถามWhat + is + (your/his/her) + telephone number ?ตัวอย่างโครงสร้างประโยคคำถามโครงสร้างประโยคคำตอบA : What is your telephone number ?B : It is 044-512282.A : What is his telephone number ?B : It is 088-0981256.
ใช้ What ถามวัน วันที่ เดือน
โครงสร้างประโยคคำถามโครงสร้างประโยคคำตอบA : What day is today ?B : It is Sunday.A : What day is it ?B : It is Wednesday.A : What is the date ?B : It is 18th July.A : What is the date today ?B : It is 18th July.
*** ประโยคคําถามภาษาอังกฤษ – Where ที่ไหน
ประโยคคําถามภาษาอังกฤษ – โครงสร้างที่ 1
โครงสร้างประโยคคำถาม1. Where + (is/are/am) + subject ?
2. Where + do/does + subject + verb ?ตัวอย่างโครงสร้างประโยคคำถามโครงสร้างประโยคคำตอบA : Where is Muang Surin School ?B : It is in Surin.A : Where are the students ?B : They are in the classroom.A : Where are you going ?B : I’m going to school.A : Where do you live ?B : I live in Thailand.
*** When เมื่อไร
โครงสร้างประโยคคำถามWhen + (กริยาช่วย) + subject + กริยาอื่น.?ตัวอย่างโครงสร้างประโยคคำถามโครงสร้างประโยคคำตอบA : When is your birthday ?B : It is in July.
B : It is in Summer.
B : It is on 21st July.A : When is the meeting ?B : It is on Monday morning.A : When are you coming here ?B : I am coming here next month.A : When do they go to school ?B : They go to school at 6.30.
*** ประโยคคําถามภาษาอังกฤษ – Why ทำไม
โครงสร้างประโยคคำถาม1. Why + (is/are) + noun/pronoun + adjective ?
2. Why + do/does + subject + verb + object ?ตัวอย่างโครงสร้างประโยคคำถามโครงสร้างประโยคคำตอบA : Why are you late ?B : I am late because the traffic is very heavy.A : Why is he sad ?B : He is sad because his mother is sick.A : Why do you like Lisa ?B : I like her because she is beautiful.A : Why did you go to the bookshop ?B : I went there to buy a book.
*** ประโยคคําถามภาษาอังกฤษ – How อย่างไร
ประโยคคําถามภาษาอังกฤษ – ใช้ How ถามเกี่ยวกับวิธีการ
โครงสร้างประโยคคำถามHow + do/does + subject + verb ?ตัวอย่างโครงสร้างประโยคคำถามโครงสร้างประโยคคำตอบA : How do you go to school ?B : I go to school by bus/on foot.A : How does Tata Young sing ?B : She sings beautifully.A : How do Jim and Jane run ?B : They run slowly.
ใช้ How ตามด้วยคำ adjective ใช้ถามอายุ ความสูง น้ำหนัก ความยาว ระยะทาง
โครงสร้างประโยคคำถามHow + adjective + verb to be + subject ?ตัวอย่างโครงสร้างประโยคคำถามโครงสร้างประโยคคำตอบถามอายุ
A : How old are you?
A : How old is Jim?
A : How old are those babies?
B : I am 18 years old.
B : He is 18 years old.
B : They are 7 months old.ความสูง
A : How tall are you?
A : How tall is your mother?
B : I am 1 m and 60 cm. tall.
B : She is 156 cm.น้ำหนัก
A : How heavy is Suchada ?A : How heavy are you ?
B : She is 70 kilos.
B : I am 45 kilos.ความยาว A : How long is a ruler ?B : It is 12 inches long.ระยะทาง A : How far is it from here to Suchai ?B : It is about 24 km.
ประโยคคําถามภาษาอังกฤษ – ใช้ How ถามเกี่ยวกับสุขภาพ
โครงสร้างประโยคคำถามHow + is/are + subject ?ตัวอย่างโครงสร้างประโยคคำถามโครงสร้างประโยคคำตอบA : How are you ?B : I am very well.A : How is your wife ?B : She is fine.A: How have you been?B : I’m so so
ประโยคคําถามภาษาอังกฤษ – How ใช้กับ many เพื่อถามว่าบุคคลนั้นมีสมาชิก มีสัตว์เลี้ยงหรือสิ่งของต่าง ๆ มีจำนวนเท่าใด
โครงสร้างประโยคคำถามHow many + nouns + do/does + subject + verb ?ตัวอย่างโครงสร้างประโยคคำถามโครงสร้างประโยคคำตอบA : How many sisters do you have ?B : I have one sister.A : How many apples does your mom buy?B : She buys four apples.
How ใช้กับ many เพื่อถามจำนวนคน สิ่งของ หรือสัตว์ว่ามีจำนวนเท่าใด
โครงสร้างประโยคคำถามHow many nouns + are there + complement ?ตัวอย่างโครงสร้างประโยคคำถามโครงสร้างประโยคคำตอบA : How many students are there in this class ?B : There are 34 students.A : How many people are there in your family ?B : There are 9 in my family.
How ใช้กับ much เพื่อถามจำนวนสิ่งของที่นับไม่ได้
โครงสร้างประโยคคำถามHow much + uncountable noun + do/does + subject + verb ?ตัวอย่างโครงสร้างประโยคคำถามโครงสร้างประโยคคำตอบA : How much coffee do you drink a day ?B : I drink only one cup a day.A : How much money does she have ?B : She has a lot of money.
3. ประโยคคําถามภาษาอังกฤษ _ Tag Question
ประโยคคำถาม Question tags ใช้ยังไง?
มีประโยคชนิดหนึ่งที่มีส่วนท้ายหรือส่วนหางเป็นรูปคำถาม เรียกว่า Tag question หรือ Question tag คำถามประเภทนี้จึงประกอบด้วยประโยคสองส่วน คือส่วนต้นเป็นประโยคธรรมดา ส่วนท้ายเป็นประโยคคำถาม ซึ่งเป็นรูปคำถามแบบ Yes/No Question คำถามชนิดนี้นิยมใช้ในการพูดคุยสนทนา โดยเฉพาะในการใช้ประโยคยาวๆ จะทำให้ไม่สับสน อาจกล่าวได้ว่า คำถามชนิดนี้เป็นการแสดงความรู้สึกหรือความเข้าใจของตนเองก่อนแล้วจึงขมวดเป็นการถามทีหลัง ว่าเป็นอย่างที่พูดมาข้างต้นหรือเปล่า ลักษณะสำคัญของ โครงสร้างคำถามชนิดนี้ก็คือ ท่อนต้นเป็นประโยคบอกเล่าหรือปฏิเสธ ท่อนหลังเป็นคำถามแบบ Yes/No Question แต่ใช้สรรพนาม (pronoun) ของประธานในท่อนต้นมาเป็นประธานในท่อนคำถาม หลักการสร้างประโยค Question tag จะมีดังต่อไปนี้
- ถ้าประโยคที่มาข้างหน้าเป็นประโยคบอกเล่า ต้องใช้ question tag เป็นรูปปฏิเสธ
– You eat a lot of oranges, don’t you?
– You will have the exam next month, won’t you?
– She came here yesterday , didn’t she?
- ถ้าประโยคที่มาข้างหน้าเป็นประโยคปฏิเสธ ต้องใช้ question tag เป็นรูปบอกเล่า
– She doesn’t want todisturb
you, does she?
– They haven’t turned it off, have they?
ประโยคคําถามภาษาอังกฤษ
- ถ้าประโยคข้างหน้ามี verb to have
(a) เมื่อ have แปลว่า “มี” จะใช้ tag ว่า haven’t หรือ don’t ก็ได้
– She has a lot of teddy bears, hasn’t she?
– Sam and Smith have only one child, don’t they? (แบบ American)
(b) เมื่อ have แปลอย่างอื่น ที่ไม่ได้แปลว่า “มี” ให้ใช้ verb to do มาช่วย
– We have breakfast at six o’clock, don’t we?
– I had his letter last week, didn’t I?
_ John had his hair cut by the best hairstylist in town, didn’t he?
(c) question tag ของ “have to” (=จำเป็นต้อง) ใช้ verb to do มาช่วย
– You often have to go to the dentist’s, don’t you?
- ในประโยค tag ที่เป็นรูปปฏิเสธ ต้องใช้ รูปย่อเสมอ
– We shall go skiing, shan’t we?
– He will come to my birthday party, won’t he?
- Question tag ของ I am คือ aren’t I (เนื่องจาก am not ไม่มีรูปย่อ)
– I am late for school for 30 minutes, aren’t I ?
- Question tag ของกริยาช่วย can, could, may, might, will, shall,
ought to
, should, V. be, etc. จะใช้กริยาช่วยเหล่านี้เป็น question tag ได้
– She can speak English it well, can’t she?
– You ought to study hard, oughtn’t you?
ประโยคคําถามภาษาอังกฤษ
- คำว่า “need” (ต้องการ) และ “dare” (กล้า) มีวิธีใช้ 2 แบบ คือ
(a) ใช้เป็นกริยาแท้ tag ก็จะใช้ verb to do มาช่วย
– He needs to go there alone, doesn’t he?
– She does not need any help, does she?
– We don’t dare to tell a lie, do we?
(ข้อสังเกต ถ้า “need” “dare” ใช้เป็นกริยาแท้ จะตามหลังด้วย to +V1 โดยที่กริยา need / dare สามารถผันตามประธานได้ หรืออาจตามด้วย noun ก็ได้ )
(b) ใช้เป็นกริยาช่วย tag จะใช้ need / dare เป็นกริยาช่วยใน tag
– She needn’t come on Sunday, need she?
– You dare not go out alone at night, dare you?
( ข้อสังเกต ถ้า need / dare เป็นกริยาช่วย จะตามหลังด้วย V1 )
- question tag ของ used to (เคย) คือ didn’t หรือ usedn’t ( เก่ามากหรือล้าสมัย )
– She used to be his secretary, didn’t she (usedn’t she)?
- ประธานที่ใช้ใน tag ต้องเป็น pronoun เสมอ
– Vinai went to Chiang Mai yesterday, didn’t he?
– The children are playing in the garden, aren’t they?
- tag ของ would like (=ต้องการ) ใช้ wouldn’t
– We’d like to go now, wouldn’t we?
- tag ของ would rather (= อยากจะ) ใช้ wouldn’t
– You’d rather stay at home, wouldn’t you?
– We would rather not go there, would we?
- tag ของ had better ใช้ hadn’t
– You’d better finish your homework , hadn’t you?
– She had better not go out alone, had she?
ยังมีต่อ…
- ประโยคคำสั่ง หรือ ขอร้อง (
Imperative
, order, request) จะกลายเป็นประโยคสุภาพ ด้วยการเติม question tag ว่า will you หรือ won’t you?
– Open your book, will you?
– Stop talking, will you?
– Go out, will you?
หากต้องการแสดงคำขอให้ใช้ “will“:
– Take these things away, will you?
– Let us go to the movies, will you?
หากต้องการแสดงคำเชิญให้ใช้ “won’t“:
– Drink some juice, won’t you?
– Take a seat, won’t you?
- ถ้าประโยคข้างหน้ามีประธานเป็น There is , There are , There was, There were (=มี) question tag ใช้ verb to be นั้น ๆ + there
– There is a purse in my bag, isn’t there?
– ตัวอย่าง: There are many flowers in the garden, aren’t there?
– There was an accident last night, wasn’t there?
- Question Tag ของ That is.., This is คือ isn’t it ? หรือ is it?
– This is my book, isn’t it?
– That is not your bag, is it?
- Question Tag ของ These are, Those are ใช้ aren’t they? หรือ are they?
– These are your exercise books, aren’t they?
– Those are not our balls, are they?
และ…
- คำต่อไปนี้คือ few, little, never, rarely, scarcely, hardly, seldom, neither, none, no one, nobody, nothing มีความหมายกึ่งปฏิเสธและปฏิเสธ เพราะฉะนั้น tag จะเป็นการบอกเล่า
– Few students knew the answers to this question, did they?
– Little progress has gradually been made, has it?
– He never comes to the office early, does he?
– That vacancy is hardly suitable for Chatichai, is it?
– We have seldom seen such largewatermelons
, have we?
– I scarcely know who he is, do I?
– Nothing was done on time, was it?
– We saw no one we knew in that ceremony, did we?
– None of the boys liked that song, did they?
– You rarely go to the cinema to enjoy a film alone, do you?
- ประโยคที่ใช้ประธาน one ใน tag จะใช้ one เช่น
– One wants to be rich, doesn’t one?
- ถ้าประธานเป็น everyone, everybody, everything, no one, nobody, anybody, neither ในส่วน tag ให้ใช้ they เช่น
– Everyone likes eating ice cream, don’t they?
– Nobody knows the answer to this exercise, do they?
– Neither of the boys complained about that noise, did they?
– None of the workmen arrived at the work site on time, did they?
- ถ้าเป็นประโยคซับซ้อน ให้ใช้กริยาใน main clause เป็นหลัก ยกเว้น ถ้าใน main clause หมายถึง ตัวเองหรือบุรุษที่ 1 เช่น
– He said he would come to my graduation day, did he?
– If he said it under oath , it must be true, mustn’t it?
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับบทความที่ผมได้รวบรวมประโยคคำถามและหลักการจำง่าย ๆ ในภาษาอังกฤษ ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน เห็นไหมครับว่าภาษาอังกฤษนั้นไม่ยากอย่างที่คิด และอย่าลืมติดตาม Eng Breaking เพื่อติดตามข่าวสาร สาระความรู้และเคล็ดลับดี ๆ ที่ช่วยในการฝึกฝนและเรียนรู้ภาษาอังกฤษกันด้วยนะครับ ผมเชื่อเลยนะครับว่าคนที่จะสำเร็จคนต่อไปต้องเป็นคุณแน่นอน
ความคิดเห็น 635 รายการ
[Update] สำนวนภาษาอังกฤษ (Idioms) มีมากถึง 125 คำ ตั้งแต่ A-Z แบบละเอียด | time is up แปลว่า – NATAVIGUIDES
สำนวนภาษาอังกฤษ (Idioms) มีมากถึง 125 คำ ตั้งแต่ A-Z แบบละเอียด กับ ครูพี่โอเว่น
สำนวนภาษาอัวกฤษ หมวดตัวอักษร A
1. All are not thieves that dogs bark at.
แปลว่า :อย่าตัดสินคนด้วยน่าตา
2. All cats love fish but fear to wet their paws.
แปลว่า : ห่วงหน้าพะวงหลัง
3. All good things come to an end.
แปลว่า : งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกลา
4. All his geese are swans.
แปลว่า : คนที่มองโลกในแง่ดี
5. All his swans are geese.
แปลว่า :ความหวังพังทลาย
6.All is fish that comes to his net.
แปลว่า :อ้อยเข้าปากช้าง
7. All is not gold that glitters.
แปลว่า : ข้างนอกสุขใส ข้างในเป็นโพรง
8. All lay loads on a willing horse.
แปลว่า :ม้าดีคนขี่บ่อย
9. All roads lead to Rome.
แปลว่า : ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม (วิธีการต่างกันแต่เป้าหมายเหมือนเดิม)
10. All things are difficult before they are easy.
แปลว่า :สรรพสิ่งยากที่การเริ่มต้น
11. All things are easy that are done willingly.
แปลว่า :ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น
12. All time is no time when it is past.
แปลว่า :เวลาไม่อาจหวนคืน
13. All work and no play makes Jack a dull boy.
แปลว่า : เอาแต่เรียนอย่างเดียวเด็กจะโง่ได้
14. All’s well that ends well.
แปลว่า : เมื่อทุกอย่างดีผลลัพธ์ก็ออกมาดี
15. An eye for an eye , and a tooth for a tooth.
แปลว่า :ตาต่อตา ฟันต่อฟัน
สำนวนภาษาอังกฤษ หมวดตัวอักษร B
16. Being on sea, sail; being on land, settle.
แปลว่า :ใช้ชีวิตให้มีความสุขกับสภาพการณ์นั้น ๆ
17. Believe not all that you see nor half what you hear.
แปลว่า : ฟังหูไว้หู
18. Better an egg today than a hen tomorrow.
แปลว่า : สิบเบี้ยใกล้มือ ยี้สิบเบี้ยไกลมือ
19. Better an empty purse than an empty head.
แปลว่า : มีกระเป๋าสตางค์ที่ว่างเปล่า ดีกว่ามีสมองที่ว่างเปล่า
20. Better be alone than in bad company.
แปลว่า : มีเพื่อนเลวไม่มีเสียดีกว่า
21. Better be poor than wicked.
แปลว่า : ยอมเป็นคนจนดีกว่าเป็นคนเลว
22. Better be the head of a dog than the tail of a lion.
แปลว่า : เป็นหัวสุนัข ดีกว่าหางสิงโต
23. Better be the head of an ass than tail of a horse
แปลว่า : เป็นหัวสุนัข ดีกว่าหางสิงโต
24. Better late than never.
แปลว่า : มาช้าดีกว่าไม่มา
25. Better master one than engage with ten.
แปลว่า : สิบรู้ไม่สู้หนึ่งชำนาญ
สำนวนภาษาอังกฤษ หมวดตัวอักษร C
26. Cast pearls before swine.
แปลว่า : สีซอให้ควายฟัง , ตักน้ำรดหัวตอ
27. Catch not at the shadow and lose the substance.
แปลว่า : โลภมากลาภหาย
28. Cats hide their claws .
แปลว่า : เสือซ่อนเล็บ
29. Claw me and I’ll claw thee.
แปลว่า : น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า
30. Coming events cast their shadows before.
แปลว่า : เรือที่กำลังจะเกิดขึ้นย่อมมีเค้าลาง
สำนวนภาษาอังกฤษ หมวดตัวอักษร D
31. Don’t teach your grandmother to suck eggs.
แปลว่า :อย่าสอนจระเข้ให้ว่ายน้ำ
32. Don’t trouble trouble until trouble troubles you.
แปลว่า :อย่าแกว่งเท้าหาเสี้ยน
33. Don’t wash your dirty linen in public.
แปลว่า :ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า
34. Don’t the i and cross the t.
แปลว่า :เข้าตามตรอก ออกตามประตู
35. Doubt is the key of knowledge.
แปลว่า :ความสงสัยเป็นกุญแจของความรู้
สำนวนภาษาอังกฤษ หมวดตัวอักษร E
36.Each to his own.
แปลว่า : ลางเนื้อชอบลางยา
37.Eagles catch no flies.
แปลว่า :มหาบุรุษไม่ใส่ใจกับเรื่องเล็กน้อย
38. Early start makes easy stages.
แปลว่า :การเริ่มต้นเป็นหลักประกันของความสำเร็จ
39. Easier said than done.
แปลว่า :พูดง่ายทำยาก
40. East or west, home is best.
แปลว่า :บ้านคือวิมานของเรา
สำนวนภาษาอังกฤษ หมวดตัวอักษร F
41. Fine words butter no parsnips.
แปลว่า : น้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาตาย
42. Fine words dress ill deeds.
แปลว่า :ปากปราศัยน้ำใจเชือดคอ , ปากหวานก้นเปรี้ยว
43. Fire a cannon at sparrow.
แปลว่า :ขี่ช้างจับตั๊กแตน
44. Fire and water have no mercy.
แปลว่า :น้ำ ( ท่วม ) และไฟ ( ไหม้ ) ไม่เคยปราณี
45. First catch your hare, then cook him.
แปลว่า :อย่าชิงสุกก่อนห่าม ( ค่อย ๆ ทำไป )
สำนวนภาษาอังกฤษ หมวดตัวอักษร G
46. Gossiping and lying go together.
แปลว่า :การนินทามักควบคู่ไปกับการโกหก
47. Govern your thoughts when alone, and your tongue when in company.
แปลว่า :อยู่คนเดียวระวังความคิด อยู่กับคนอื่นระวังคำพูด
48. Grasp all, lose all.
แปลว่า :โลภมากลาภหาย
49. Great fish eat up little fish.
แปลว่า :ปลาใหญ่กินปลาเล็ก
50. Great mind think alike.
แปลว่า :ผู้มีสติปัญญาสูงจะมีความคิดเหมือน ๆ กัน
สำนวนภาษาอังกฤษ หมวดตัวอักษร H
51. Hoist your sail when the wind is fair.
แปลว่า :น้ำขึ้นให้รีบตัก
52. Hold fast when you have it.
แปลว่า :น้ำขึ้นให้รีบตัก
53. Homer sometimes nods.
แปลว่า :สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง
54. Honesty is the best policy.
แปลว่า :ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน
55. Hope for the best, but prepare for the worst.
แปลว่า : หวังในสิ่งที่ดีที่สุด และเตรียมพร้อมกับสิ่งที่เลวร้ายที่สุด
สำนวนภาษาอังกฤษ หมวดตัวอักษร I
56. It is easier to know how to do a thing than to do it.
แปลว่า :รู้ว่าทำอย่างไรนั่นง่าย แต่ลงมือทำนั่นยาก
57. It is easier to pull down than build
แปลว่า :การรื้อถอนง่ายกว่าการสร้างขึ้นมา
58. It is easy to learn something about everything, but difficult to learn
everything about anything.
แปลว่า : มันง่ายที่จะเรียนรู้บางอย่างของทุกอย่าง แต่มันยากที่จะเรียนรู้ทุกอย่างของบางอย่าง
59. It is easy to open a shop but hard to keep it always open.
แปลว่า :สร้างขึ้นมานั้นง่าย แต่จะรักษาให้คงอยู่ต่อไปนั้นยาก
60. It is good to learn at another man’s cost.
แปลว่า : นำความผิดพลาดของผู้อื่นมาเป็นบทเรียน
สำนวนภาษาอังกฤษ หมวดตัวอักษร J
61. Joy shared with others are more enjoyed.
แปลว่า : แบ่งปันความสุข ยิ่งมีความสุข
62. Judge not a book by its cover.
แปลว่า :อย่าตัดสินคนด้วยหน้าตา
สำนวนภาษาอังกฤษ หมวดตัวอักษร K
63.Keep a thing seven years and you will find a use for it.
แปลว่า :เก็บของไว้เจ็ดปี แล้วจะรู้ว่ามันมีประโยชน์
64. Keep something for a rainy day.
แปลว่า :กินน้ำเผื่อแล้ง
65. Keep your mouth shut and your ears open.
แปลว่า :ปิดปากให้สนิทแล้วเปิดหูให้กว้าง
66. Kill the goose that laid the golden egg.
แปลว่า :โลภมากลาภหาย
67. Kill two birds with one stone.
แปลว่า :ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
68. Kindness always begets kindness.
แปลว่า :ทำดีได้ดี
69 Knowledge is a treasure, but practice is the key to it.
แปลว่า :ความรู้คือขุมทรัพย์ แต่การปฏิบัติคือกุญแจสู่ขุมทรัพย์นั้น
70. Knowledge is power.
แปลว่า :ความรู้คือพลัง
สำนวนภาษาอังกฤษ หมวดตัวอักษร L
71. Like attracts like.
แปลว่า : กาเข้าฝูงกา หงส์เข้าฝูงหงส์
72. Like father, like son.
แปลว่า :เชื้อไม่ทิ้งแถว , ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น
73. Like knows like.
แปลว่า :คนพวกเดียวกันจึงจะรู้จักพวกเดียวกัน
74. Like tree , like fruit.
แปลว่า :ต้นไม้เช่นใด ก็ให้ผลเช่นนั้น
75. Little strokes fell great oaks.
แปลว่า :ฝนทั่งให้เป็นเข็ม
สำนวนภาษาอังกฤษ หมวดตัวอักษร M
76. Money makes the mare go.
แปลว่า :มีเงินหรือจะไร้ของ มีทองหรือจะไร้แหวน
77. Money makes the world go round.
แปลว่า :มีเงินหรือจะไร้ของ มีทองหรือจะไร้แหวน
78. Money talks.
แปลว่า :มีเงินหรือจะไร้ของ มีทองหรือจะไร้แหวน
79. Most things have two handles.
แปลว่า :เหรียญมีสองด้าน
80. Murder will out.
แปลว่า :น้ำลดตอผุด
สำนวนภาษาอังกฤษ หมวดตัวอักษร N
81. No sweet without some sweat.
แปลว่า :อยากได้ก็ต้องลงทุนลงแรง
82. Nothing brave, nothing have.
แปลว่า :ไม่เข้าถ้ำลูกเสือ ไยจะได้ลูกเสือ
83. Nothing comes from nothing.
แปลว่า :มีควันย่อมมีไฟ
84. Nothing is difficult to the man who will try.
แปลว่า :ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น
85. Nothing to be without pains but poverty.
แปลว่า :ไม่มีอะไรไม่ต้องลงแรงแล้วได้มาเว้นแต่ความยากจน
สำนวนภาษาอังกฤษ หมวดตัวอักษร O
86. One good turn deserves another.
แปลว่า :ทำดีได้ดี
87. One hour today is worth two tomorrow.
แปลว่า :น้ำขึ้นให้รีบตัก
88. One man’s wine is another man’s poison.
แปลว่า :ลางเนื้อชอบลางยา
89. One may as well be hanged for a sheep as a lamb.
แปลว่า :พอลงมือทำก็ทำโดยไม่ยั้งมือ
90. One scabbed sheep will mar the whole flock.
แปลว่า :ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง
สำนวนภาษาอังกฤษ หมวดตัวอักษร P
91.Paint the lily.
แปลว่า :ทำเกินความจำเป็นอย่างเปล่าประโยชน์
92. Pardoning the bad is injuring the good.
แปลว่า :การให้อภัยคนเลวเท่ากับการทำร้ายคนดี
93. Penny wise, pound foolish.
แปลว่า :ถี่ลอดตาช้าง ห่างลอดตาเล็น เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย
94. People who live in glass house shouldn’t throw stones.
แปลว่า :ตัวเองมีข้อผิดพลาด ก็อย่าไปต่อว่าคนอื่น
95. Play ducks and drakes with one’s money.
แปลว่า :ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
สำนวนภาษาอังกฤษ หมวดตัวอักษร Q
96.Quality is better than quantity.
แปลว่า :คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ
สำนวนภาษาอังกฤษ หมวดตัวอักษร R
97.Rain before seven; fine before eleven.
แปลว่า :ฟ้าหลังฝน
98. Rats desert a sinking ship.
แปลว่า :ไม้ล้มเงาหาย
99. Reputation is often got without merit and lost without crime.
แปลว่า :ชื่อเสียง บางครั้งไม่ได้ทำความดีก็ได้มา ไม่ได้ทำความชั่วก็เสียไป
สำนวนภาษาอังกฤษ หมวดตัวอักษร S
100. Speech shows what a man is.
แปลว่า :สำเนียงส่อภาษา กริยาส่อสกุล
101. Start out off with a bang and end with a whimper.
แปลว่า :ละเลงขนมครกด้วยปาก
102. Still water runs deep.
แปลว่า :น้ำนิ่งไหลลึก
103. Study sickness while you are well.
แปลว่า :จงเตรียมพร้อมแม้ในยามสงบ
104. Success belongs to the persevering.
แปลว่า :ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั้น
สำนวนภาษาอังกฤษ หมวดตัวอักษร T
105. Time tries all.
แปลว่า :เวลาจะพิสูจน์ทุกสิ่งทุกอย่างเอง
106. To save time is to lengthen life.
แปลว่า :ประหยัดเวลาก็คือการยืดอายุ
107. To talk to a brick wall.
แปลว่า :ตักน้ำรดตอ , สีสอให้ควายฟัง
108. Too much water drowned the miller.
แปลว่า :มากเกินไปก็กลายเป็นผลเสีย
109. Two heads are better than one.
แปลว่า :สองหัวดีกว่าหัวเดียว
110. Two of a trade can never agree.
แปลว่า :คนที่มีอาชีพอย่างเดียวกันมักไม่ลงลอยกัน
111. Two wrongs don’t make a right.
แปลว่า :ความผิดสองหนไม่อาจทำให้เป็นความถูกต้องได้
สำนวนภาษาอังกฤษ หมวดตัวอักษร U
112.Until all is over one’s ambition never dies.
แปลว่า :ความทะเยอทะยานมีไม่สิ้นสุด
113. Use a book as a bee does flowers.
แปลว่า :จงอ่านหนังสือให้เหมือนผึ้งดูดเกสรดอกไม้
114. Undertake no more than you can perform.
แปลว่า :นกน้อยทำรังแต่พอตัว
115. Union is strength.
แปลว่า :สามัคคีคือพลัง
สำนวนภาษาอังกฤษ หมวดตัวอักษร V
116.Venture a small fish to catch a great one.
แปลว่า :เอากุ้งฝอยไปตกปลากระพง
117. virtue is a jewel of great price.
แปลว่า :คุณธรรมเป็นอัญมณีที่ประเมินค่าไม่ได้
สำนวนภาษาอังกฤษ หมวดตัวอักษร W
118. Well begun is half done.
แปลว่า :เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
119. What is sauce for the goose is sauce for gander.
แปลว่า :ให้ความเสมอภาคเท่าเทียมกัน
120. What’s done by night appears by day.
แปลว่า :ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิดไม่มิด
121. When in Rome, do as Romans do.
แปลว่า :เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม
122. when love puts in, friendship is gone.
แปลว่า :เมื่อความรักเข้ามา มิตรภาพก็จางหาย
สำนวนภาษาอังกฤษ หมวดตัวอักษร Y
123.You cannot see the wood for the trees, but onlookers see the whole game.
แปลว่า :คนข้างสนามมองเกมส์ได้ชัดกว่า
124. You cannot sell the cow and sup the milk.
แปลว่า :จับปลาสองมือ
สำนวนภาษาอังกฤษ หมวดตัวอักษร Z
125.Zeal without knowledge is fire without light.
แปลว่า :ความกระตือรือร้นที่ปราศจากความรู้ ก็เหมือนไฟที่ปรศจากแสง
Avicii – The Nights
Stream “The Nights” by Avicii: https://Avicii.lnk.to/The_Nights
Listen to Avicii: https://Avicii.lnk.to/Channel
Lyrics
Hey, once upon a younger year
When all our shadows disappeared
The animals inside came out to play
Hey, when face to face with all our fears
Learned our lessons through the tears
Made memories we knew would never fade
One day my father—he told me,
\”Son, don’t let it slip away\”
He took me in his arms, I heard him say,
\”When you get older
Your wild life will live for younger days
Think of me if ever you’re afraid.\”
He said, \”One day you’ll leave this world behind
So live a life you will remember.\”
My father told me when I was just a child
These are the nights that never die
My father told me
When thunder clouds start pouring down
Light a fire they can’t put out
Carve your name into those shinning stars
He said, \”Go venture far beyond the shores.
Don’t forsake this life of yours.
I’ll guide you home no matter where you are.\”
One day my father—he told me,
\”Son, don’t let it slip away.\”
When I was just a kid I heard him say,
\”When you get older
Your wild life will live for younger days
Think of me if ever you’re afraid.\”
He said, \”One day you’ll leave this world behind
So live a life you will remember.\”
My father told me when I was just a child
These are the nights that never die
My father told me
These are the nights that never die
My father told me
Avicii TheNights
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม
4 Non Blondes – What’s Up (Official Music Video)
CELEBRATING ONE BILLION VIEWS!! REMASTERED IN HD!
Listen to the Best Of 4 Non Blondes here: http://playlists.udiscovermusic.com/p…
Stream more from 4 Non Blondes: https://4NonBlondes.lnk.to/Essentials
Follow 4 Non Blondes \u0026 Linda Perry
https://www.facebook.com/4nonblondes/
https://twitter.com/reallindaperry
Music video by 4 Non Blondes performing What’s Up. (C) 1992 Interscope Records
4NonBlones WhatsUp Remastered BillionViewsClub
Bruno Mars – The Lazy Song (Official Music Video)
The official music video for Bruno Mars’ \”The Lazy Song\” from the album ‘DooWops and Hooligans”.
Stream: https://apple.co/38qBTEU
Directed by Bruno Mars and Cameron Duddy
Choreographed and Performed by Poreotics: http://poreotics.com
Comic Chimp Mask used by permission of Easter Unlimited, Inc. / FunWorld Div. All Rights Reserved. Copyright 2009.
🔔 Subscribe for the latest official music videos, live performances, lyric videos, official audio, and more: https://Atlantic.lnk.to/BMsubscribe
Watch All Of Bruno Mars’ Official Music Videos ➤ https://bit.ly/2U7I3mi
See Bruno Mars on tour! Visit http://brunomars.com/tour for dates and more info.
Get Bruno Mars merchandise! https://brunom.rs/brunomarsstore
Follow Bruno Mars:
http://www.brunomars.com
http://www.instagram.com/brunomars
http://www.twitter.com/brunomars
http://www.facebook.com/brunomars
LYRICS
Today I don’t feel like doing anything
I just wanna lay in my bed
Don’t feel like picking up my phone
So leave a message at the tone
‘Cause today I swear I’m not doing anything.
Uh!
I’m gonna kick my feet up
Then stare at the fan
Turn the TV on, throw my hand in my pants
Nobody’s gonna tell me I can’t
I’ll be lounging on the couch,
Just chillin’ in my snuggie
Click to MTV, so they can teach me how to dougie
‘Cause in my castle I’m the freaking man
Oh, yes I said it
I said it
I said it ’cause I can
Today I don’t feel like doing anything
I just wanna lay in my bed
Don’t feel like picking up my phone
So leave a message at the tone
‘Cause today I swear I’m not doing anything
Nothing at all!
Ooh, hoo, ooh, hoo, ooh, oohooh
Nothing at all
Ooh, hoo, ooh, hoo, ooh, oohooh
Tomorrow I’ll wake up, do some P90X
Meet a really nice girl, have some really nice sex
And she’s gonna scream out: ‘This is Great’ (Oh my God, this is great)
Yeah
I might mess around, get my college degree
I bet my old man will be so proud of me
But sorry pops, you’ll just have to wait
Haha
Oh, yes I said it
I said it
I said it ’cause I can
Today I don’t feel like doing anything
I just wanna lay in my bed
Don’t feel like picking up my phone
So leave a message at the tone
‘Cause today I swear I’m not doing anything
No, I ain’t gonna comb my hair
‘Cause I ain’t going anywhere
No, no, no, no, no, no, no, no, no
I’ll just strut in my birthday suit
And let everything hang loose
Yeah, yeah, yeah, yeah, yeah, yeah, yeah, yeah, yeah, yeah
Ooh
Today I don’t feel like doing anything
I just wanna lay in my bed
Don’t feel like picking up my phone
So leave a message at the tone
‘Cause today I swear I’m not doing anything
Nothing at all
Nothing at all
Nothing at all
The official YouTube channel of Atlantic Records artist Bruno Mars.
11x GRAMMY Award winner and 27x GRAMMY Award nominee Bruno Mars is a celebrated singer, songwriter, producer, and musician with iconic hits like \”The Lazy Song\”, \”That’s What I Like\”, \”Just The Way You Are\”, \”24K Magic\”, \”Locked Out Of Heaven\”, and \”When I Was Your Man\”. His legendary body of work also includes blockbuster albums such as DooWops \u0026 Hooligans, Unorthodox Jukebox, and 24K Magic, as well as eradefining collaborations like \”Uptown Funk\” with Mark Ronson, \”Finesse\” with Cardi B, and \”Nothin’ On You\” with B.o.B. Forever classic, yet supremely innovative, Bruno continues to redefine music, style, and popular culture, pushing the boundaries of pop, R\u0026B, funk, soul, hiphop, and dance, and remains as influential as ever.
BrunoMars TheLazySong DooWopsandHooligans OfficialMusicVideo AtlanticRecords
ใครสนใจเข้ากลุ่มแจกซิก ฟังให้จบ
ถ้ากำลังมองหากลุ่มซิกแม่นๆ หรือหาตัวช่วยให้เทรดสบายขึ้นอยู่….
เรียนรู้เพิ่มเติมได้ตามช่องทางเหล่านี้นะครับ
❤️YouTube
http://bit.ly/uptrendth
💙 Facebook
http://fb.me/uptrendth
❇️ กลุ่มไลน์ Price Action Traders
https://bit.ly/uptrendline
📒 หนังสือ “13 เทคนิคเทรด Forex แบบมือโปร”
https://youtu.be/6WdovChLIjA
📘 เรียนแอ้ดว้านซ์ “Pocket Price Action”
https://youtu.be/RR9atAcJEWk
🦬 เปิดบัญชีเทรดกับ XM
http://bit.ly/opennewxm
Take your time แปลว่า? สำนวนคำว่า Time ที่ใช้บ่อย | Tina Academy Ep.89
♡ดูรายละเอียดหนังสือภาษาอังกฤษ https://www.tinaacademy.com/books
♡ ติดต่อซื้อหนังสือ Line ID: @linetina (มี @ ด้วย)
♡ รายละเอียดคอร์สสอนภาษา https://www.tinaacademy.com
♡ Subscribe จะได้ไม่พลาดคลิปทุกๆสัปดาห์
https://www.youtube.com/tinathanchannel/
♡ Instagram: https://www.instagram.com/tinathanchannel
♡ Facebook: https://www.facebook.com/tinathanchannel
♡ Line ID: @linetina https://line.me/R/ti/p/%40hxr4999x
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE
ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ time is up แปลว่า