กริยา 3 ช่อง ของ read: คุณกำลังดูกระทู้
สวัสดีครับ นักศึกษาทุกคน
สำหรับโพสท์นี้ ผมตั้งหัวข้อว่า “กริยาในภาษาอังกฤษสามารถกระจายได้เป็น 6 รูป หรือ 6 ช่อง ซึ่งการกำหนดแบบนี้ ผมเป็นคนตั้งขึ้นมาเอง เป็น V
1
ถึง V
6
เวลาสอนนักศึกษา นักศึกษาก็บอกว่า เคยได้ยินแต่กริยา 3 ช่อง เรื่องกริยา 6 ช่อง เพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรกในชีวิต เมื่อได้มาติวกับผม เท่าที่ผมได้อ่านตำราไวยากรณ์ภาษาอังกฤษฝรั่งมาจำนวนมาก ก็ไม่เคยมีเห็นใครสรุปออกมาเป็นแบบนี้ ส่วนใหญ่จะอธิบายแยกกัน เพราะฉะนั้น เรื่องกริยา 6 ช่อง ผมจึงเป็นคนแรกของโลก(หรือเปล่า) ที่กำหนดขึ้นมา(โม้แล้วครับอันนี้)
สำหรับคนที่มีความรู้ด้านไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ เรื่องการกระจายกริยานั้น เราเรียกว่า Conjugation ซึ่งอยู่ในส่วนของเรื่อง Inflection จะพบว่า ไม่ว่าคุณจะเรียน Grammar ระดับไหน กริยานั้นจะเปลี่ยนหรือผันได้ไม่เกิน 6 รูปนี้ ครับ
ตารางกริยา 6 ช่องนี้ ผมจะใช้เพียงแผ่นเดียว ในการสอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Tenses ทั้ง 24, โครงสร้าง Clause ทุกรูปแบบ เช่น Conditional Clauses, Subjunctive Clauses ฯลฯ ซึ่งนักศึกษาจะได้เรียนแบบเข้าใจ ไม่ใช่ท่องจำแต่สูตรโครงสร้างเยอะแยะไปหมด และไม่เข้าใจอีกด้วยว่าสูตรที่ท่องนั้น มีความหมายอย่างไร การเข้าใจเรื่องโครงสร้างของกริยา จะทำให้เราสามารถเข้าใจถึงความหมายในการแปลประโยคภาษาอังกฤษได้ถูกต้อง เนื่องจากโครงสร้างภาษาอังกฤษนั้นแตกต่างจากภาษาไทยโดยสิ้นเชิง
นักศึกษาจะนำกริยา 6 ช่องนี้ ไปใช้ในกรณีไหน อย่างไร ผมจะอธิบายเพียงเบื้องต้น เพราะถ้าอธิบายหมด มันจะเยอะ เนื่องจากรูปกริยาทั้งหมดนี้ มันจะไปเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น พวก Clause, Phrase แต่ละชนิด การลดรูปของ Clause เป็นต้น
(ขอย้ำนะครับว่า เรื่องกริยา 6 ช่องนั้น ยังไม่เกี่ยวกับ Tense เพราะเรื่อง Tense นั้น เราจะพูดถึง เราจะนำกริยาทั้ง 6 ช่อง มาสร้างเป็น Tense ต่าง ๆ ได้อย่างไร)
โปรดอ่านต่อคำอธิบายท้ายตารางนี้นะครับ
มาทำความรู้จักกริยาในภาษาอังกฤษมีทั้งหมด 6 ช่อง
Verb
Base Form(V1)
Infinitive(V2)
Present Simple(V3)
Past Simple(V4)
Present Participle(V5)
Past Participle(V6)
1
be
to be
is,am
are
was
were
being
been
2
do
to do
does
do
did
doing
done
3
have
to have
has
have
had
having
had
4
work
to work
works
work
work
ed
working
work
ed
5
look
to look
looks
look
look
ed
looking
look
ed
6
go
to go
goes
go
went
going
gone
7
give
to give
gives
give
gave
giving
given
8
come
to come
comes
come
came
coming
come
9
tell
to tell
tells
tell
told
telling
told
10
find
to find
finds
find
found
finding
found
11
set
to set
sets
set
set
setting
set
12
read
to read
reads
read
read
reading
read
13
will
–
will
would
–
–
14
shall
–
shall
should
–
–
15
can
–
can
could
–
–
16
may
–
may
might
–
–
17
must
–
must
must
–
–
คำอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับกริยา 6 ช่อง
1. กริยาช่อง Base Form Verb คืออะไร
Base Form Verb ผมหมายถึง รูปเดิมของกริยาที่ยังไม่ผัน ตำราฝรั่งบางเล่มบอกว่า มันคือ กริยาตัวแรกที่อยู่ในพจนานุกรม ซึ่งมันก็จริง บางคนก็บอกว่า มันเรียก Bare Infinitive บางตำราเรียก Zero Infinitive บางตำราเรียก Infinitive without “to” (คำนี้ผมเคยเห็นอาจารย์คนไทยใช้เรียกกันบ่อย) บางตำราเรียก Base Form Verb ซึ่งคำนี้ผมชอบมากที่สุด ซึ่งแปลว่า กริยาที่เป็นรูปพื้นฐาน โดยผมตั้งชื่อให้เป็น
V
1
เป็นกริยาช่องแรก
แล้วถามว่า Base Form Verb ใช้ในกรณีไหนได้บ้าง ยกตัวอย่าง เราเคยได้อ่านในโครงสร้างของ Future Simple Tense ประกอบด้วย S(ประธาน) + will + V
1
เช่น
– I will go.
✔
– I will gone.
✖
ตัวอย่างประโยค
– Does she want a ride?
– She doesn’t want a ride.
เราจะเห็นว่า กริยา want ไม่ผันตามประธาน และต้องเป็นรูปของ Base Form Verb
เป็นต้น เอาพอเข้าใจนะครับในระดับนี้
2. กริยาช่อง Infinitive คือ อะไร
กริยารูป Infinitive :
V
2
คือ แค่เรานำ to + V
1
ซึ่งใช้ได้หลายกรณี ครับ เช่น สามารถเปลี่ยนคำกริยา เป็นคำนาม เช่น To err is human. (การกระทำผิดพลาดเป็นมนุษย์) คำว่า err เป็นกริยา แปลว่า ทำผิด เมื่อเป็น to err จะแปลว่า การกระทำผิด เป็นต้น นอกจากนี้ รูป Infinitive สามารถเปลี่ยนคำกริยาเป็น คำคุณศัพท์(Adjective) หรือสามารถเปลี่ยนคำกริยาเป็นกริยาวิเศษณ์(Adverb)ได้ ครับ
3. กริยาช่อง Present Simple คือ อะไร
สำหรับช่องนี้ ผมตั้งชื่อว่าเป็น
V
3
ถือว่า มีความสำคัญมาก เพราะจะต้องนำกริยาช่องนี้ ไปสร้างประโยคในรูปปัจจุบัน ได้หลายโครงสร้าง จะสังเกตเห็นว่า กริยาในรูป Present Simple จะแบ่งออกเป็น 2 พวก ยกตัวอย่าง กริยา work
สำหรับ works ใช้สำหรับ ประธาน He, She, It และนามเอกพจน์(บุรุษที่ 3)
สำหรับ work ใช้สำหรับ ประธาน I, We, You, They และนามพหูพจน์(บุรุษที่ 3)
นอกจากนี้ กริยา
V
3
ของผม โดยเฉพาะกริยา 3 ตัวแรกนั้น ซึ่งเป็นกริยาช่วย สามารถนำไปใช้ในการสร้าง Tense และประโยคต่าง ๆ ที่อยู่ในรูปของ Present Tenses
4. กริยาช่อง Past Simple คือ อะไร
สำหรับช่องนี้ ผมตั้งชื่อว่าเป็น
V
4
ถือว่า มีความสำคัญมากพอ ๆ กับ
V
3
การใช้งานก็คล้าย ๆ กับ
V
3
เพียงแต่เป็นรูปอดีต นั่นเองครับ
5. กริยาช่อง Present Participle คือ อะไร
สำหรับช่องนี้ ผมตั้งชื่อว่าเป็น V
5
สำหรับกริยาช่องนี้เกิดจาก การนำ V
1
+ – ing สามารถนำไปใช้ในกรณีดังต่อไปนี้
1. เมื่อต้องการเปลี่ยนคำกริยา ให้เป็นคำนาม หรือ เรียกว่า Gerunds เช่น
– Swimming is my favorite sport. (การว่ายน้ำเป็นกีฬาโปรดของฉัน)
Swimming กลายเป็นคำนาม ที่สร้างจากกริยา swim
2. เมื่อต้องการเปลี่ยนคำกริยา ให้เป็นคำคุณศัพท์ เช่น
– She soothed the crying baby. (หล่อนปลอบเด็กซึ่งกำลังร้องให้)
crying กลายเป็นคำคุณศัพท์ ที่สร้างจากกริยา cry
3. เมื่อต้องการสร้าง Tense ต่าง ๆ ที่อยู่ในรูป Continuous เช่น
– He is running. (เขากำลังวิ่ง)
is running เป็นโครงสร้างของ Present Continuous Tense เพื่อระบุเหตุการณ์ว่ากำลังกระทำ
6. กริยาช่อง Past Participle คือ อะไร
สำหรับช่องนี้ ผมตั้งชื่อว่าเป็น V
6
สามารถนำไปใช้ในกรณีไหนได้บ้าง เช่น
1. เมื่อต้องการเปลี่ยนคำกริยา ให้เป็นคำคุณศัพท์ เช่น
– I picked up the broken bottle.(ฉันได้หยิบขวดที่แตก)
– I picked up thebottle.(ฉันได้หยิบขวดที่แตก)
broken กลายเป็นคำคุณศัพท์ ที่สร้างจากกริยา break
2. เมื่อต้องการสร้าง Tense ทุกโครงสร้างที่อยู่ในรูปของ Passive Voice (ประธานถูกกระทำ) เช่น
– The concert was attended by many young people. (การแสดงได้รับความสนใจจากคนหนุ่มสาวจำนวนมาก)
attended เป็นกริยารูป Past Participle นะครับ
ไม่ใช่
เป็นรูปของ Past Simple เพียงแต่มันมีรูปเหมือนกัน
3. เมื่อต้องการสร้าง Tense ในรูปของ Perfect Tense เช่น
– He has taken the dog to the park. (เป็นโครงสร้าง Present Perfect Tense)
– I had expected to be married by this morning.(เป็นโครงสร้าง Past Perfect Tense)
เรียบเรียงโดย
- ติวเตอร์แบงค์
- สถาบันติว PERFECT ซ.รามคำแหง 43/1
- สถาบันติว THE BEST CENTER ซ.รามคำแหง 43/1
- ติวเตอร์ประจำวิชา ENG, ENS, CEN2101, CEN2102, APR2101
- ติดต่อติวเตอร์ โทร. 081-7269394
เอกสารอ้างอิง
- Brinton, Laurel J. & Donna M. Brinton. 2010. The linguistic structure of Modern English, 2nd edn. Amsterdam: John Benjamins Publishing Company.
- Hopper, Paul J. 1999. A short course in grammar. New York: W. W. Norton & Company.
- Huddleston, Rodney. 1984. Introduction to the grammar of English. Cambridge: Cambridge University Press.
- Peter Huring. 2016. Complete English Grammar Rules – Examples, Exceptions & Everything You Need to Master Proper Grammar by Farlex International.
ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเพียงแค่บางส่วนของกริยาทั้ง 6 รูป สำหรับรายละเอียดแบบพิศดาร ให้ไปอ่านในหัวข้อ ที่ผมลงไว้ในส่วนที่เป็น Grammar เฉพาะเรื่อง หากมีเวลาว่างผมจะมาเพิ่มเติมให้ในภายหลังเกี่ยวกับตารางกริยาทั้ง 6 ช่อง นี่ยังไม่ได้พูดถึงกริยา ตัวที่ 13-17 ที่เป็น Modal Verbs เนื่องจากเริ่มปวดตาแล้ว จึงทิ้งไว้ประมาณนี้ก่อน สวัสดีครับ
สำหรับโพสท์นี้ ผมตั้งหัวข้อว่าซึ่งการกำหนดแบบนี้ ผมเป็นคนตั้งขึ้นมาเอง เป็นเวลาสอนนักศึกษา นักศึกษาก็บอกว่า เคยได้ยินแต่กริยา 3 ช่อง เรื่องกริยา 6 ช่อง เพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรกในชีวิต เมื่อได้มาติวกับผม เท่าที่ผมได้อ่านตำราไวยากรณ์ภาษาอังกฤษฝรั่งมาจำนวนมาก ก็ไม่เคยมีเห็นใครสรุปออกมาเป็นแบบนี้ ส่วนใหญ่จะอธิบายแยกกัน เพราะฉะนั้น เรื่องกริยา 6 ช่องที่กำหนดขึ้นมา(โม้แล้วครับอันนี้)สำหรับคนที่มีความรู้ด้านไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ เรื่องการกระจายกริยานั้น เราเรียกว่าซึ่งอยู่ในส่วนของเรื่องจะพบว่า ไม่ว่าคุณจะเรียน Grammar ระดับไหน กริยานั้นจะเปลี่ยนหรือผันได้ไม่เกิน 6 รูปนี้ ครับตารางกริยา 6 ช่องนี้ ผมจะใช้เพียงแผ่นเดียว ในการสอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Tenses ทั้ง 24, โครงสร้าง Clause ทุกรูปแบบ เช่นฯลฯ ซึ่งนักศึกษาจะได้เรียนแบบเข้าใจ ไม่ใช่ท่องจำแต่สูตรโครงสร้างเยอะแยะไปหมด และไม่เข้าใจอีกด้วยว่าสูตรที่ท่องนั้น มีความหมายอย่างไร การเข้าใจเรื่องโครงสร้างของกริยา จะทำให้เราสามารถเนื่องจากโครงสร้างภาษาอังกฤษนั้นแตกต่างจากภาษาไทยโดยสิ้นเชิงนักศึกษาจะนำกริยา 6 ช่องนี้ ไปใช้ในกรณีไหน อย่างไร ผมจะอธิบายเพียงเบื้องต้น เพราะถ้าอธิบายหมด มันจะเยอะ เนื่องจากรูปกริยาทั้งหมดนี้ มันจะไปเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น พวก Clause, Phrase แต่ละชนิด การลดรูปของ Clause เป็นต้นโปรดอ่านต่อคำอธิบายท้ายตารางนี้นะครับผมหมายถึงตำราฝรั่งบางเล่มบอกว่า มันคือ กริยาตัวแรกที่อยู่ในพจนานุกรม ซึ่งมันก็จริง บางคนก็บอกว่า มันเรียกบางตำราเรียกบางตำราเรียก(คำนี้ผมเคยเห็นอาจารย์คนไทยใช้เรียกกันบ่อย) บางตำราเรียกซึ่งคำนี้ผมชอบมากที่สุด ซึ่งแปลว่าโดยผมตั้งชื่อให้เป็นเป็นกริยาช่องแรกแล้วถามว่า Base Form Verb ใช้ในกรณีไหนได้บ้าง ยกตัวอย่าง เราเคยได้อ่านในโครงสร้างของ Future Simple Tense ประกอบด้วย S(ประธาน) + will + Vเช่น- I will- I will- Does shea ride?- She doesn’ta ride.เราจะเห็นว่า กริยา want ไม่ผันตามประธาน และต้องเป็นรูปของเป็นต้น เอาพอเข้าใจนะครับในระดับนี้กริยารูป Infinitive :คือ แค่เรานำ to + Vซึ่งใช้ได้หลายกรณี ครับ เช่นเช่น To err is human. (การกระทำผิดพลาดเป็นมนุษย์) คำว่า err เป็นกริยา แปลว่า ทำผิด เมื่อเป็น to err จะแปลว่า การกระทำผิด เป็นต้น นอกจากนี้ รูป Infinitiveครับสำหรับช่องนี้ ผมตั้งชื่อว่าเป็นถือว่า มีความสำคัญมาก เพราะจะต้องนำกริยาช่องนี้ ไปสร้างประโยคในรูปปัจจุบัน ได้หลายโครงสร้าง จะสังเกตเห็นว่า กริยาในรูป Present Simple จะแบ่งออกเป็น 2 พวก ยกตัวอย่าง กริยา workสำหรับ works ใช้สำหรับสำหรับ work ใช้สำหรับนอกจากนี้ กริยาของผม โดยเฉพาะกริยา 3 ตัวแรกนั้น ซึ่งเป็นกริยาช่วย สามารถนำไปใช้ในการสร้าง Tense และประโยคต่าง ๆ ที่อยู่ในรูปของ Present Tenses
[Update] ความหมายของ กริยา 3 ช่อง | กริยา 3 ช่อง ของ read – NATAVIGUIDES
กริยา 3 ช่อง
กริยา 3 ช่อง คือ คำกริยาในภาษาอังกฤษที่ได้แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ เพื่อใช้ในการบ่งบอกถึงเหตุการณ์ต่างๆในแต่ละช่วงเวลาที่เกิดขึ้น
เรียกอีกอย่างหนึ่งก็คือ คำที่ใช้แสดงถึงอาการ เหตุการณ์ ของช่วงเวลาที่เกิดขึ้น เป็นคำพูดที่แสดงถึงการกระทำของประธานในประโยคนั้นๆ หรือ กลุ่มคำที่ทำหน้าที่เป็นตัวช่วยคำกริยา เพราะว่าถ้าในประโยคขาดคำกริยา ก็จะทำให้ประโยคนั้นไม่สมบูรณ์ ความหมายอาจผิดเพี้ยนไป รวมถึงไม่สามารถทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็น อดีต ปัจจุบัน หรือ อนาคตได้เลย เพราะว่าประโยคที่ไม่สมบูรณ์
คำกริยา แบ่งออกเป็น 3 ช่อง คือ
1.
สหกรรมกริยา (Transitive Verb) คือ คำกริยาที่จำเป็นต้องมีกรรมมารองรับ ถ้าหากเกิดไม่มีคำอื่นเข้ามา ความหมายจะไม่สมบูรณ์ เช่น The girl is playing a computer game at home. หมายความว่า เด็กผู้หญิงเล่นเกมคอมพิวเตอร์ที่บ้าน คำว่า “playing” เป็นคำกริยา บ่งบอกให้ทราบว่าในขณะนี้ กำลังเล่นเกมอยู่ ส่วนคำว่า “game computer” เป็นตัวกรรม หรือตัวทำหน้าที่รองรับคำกริยาให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เพราะถ้าหากใช้คำว่า Playing อย่างเดียว จะไม่รู้ว่า กำลังเล่นอะไรอยู่ เป็นต้น
2.
อกรรมกริยา (Intransitive Verb) คือ คำกริยาที่ไม่จำเป็นต้องมีตัวกรรม เพราะว่ามันความหมายจะสมบูรณ์อยู่แล้ว เช่น The boy runs in the forest. ประโยคไม่ต้องมีตัวกรรม ก็ทำให้ประโยคสมบูรณ์ เพราะคำว่า “run” แปลว่า วิ่ง ความหมายจึงสมบูรณ์ครบถ้วน โดยที่ไม่ต้องมีตัวมาเติมเต็ม ซึ่งเรียกว่า อกรรมกริยา
3.
กริยาช่วย (Helping Verb หรือ Auxiliary Verb) คือ กริยาที่มีหน้าที่ช่วยกริยาด้วยกันเอง และยังทำให้ตัวของตัวเองมีความหมายสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
ช่วงเวลาของ กริยา 3 ช่อง
กริยา 3 ช่อง เป็น คำกริยาในภาษาอังกฤษ ที่ได้มีการแบ่งออกเป็น 3 ช่อง เพื่อใช้บ่งบอกถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในแต่ละช่วงเวลานั้นๆ
กริยาช่องที่ 1 คือ ปัจจุบัน หรือ Base Form
กริยาช่องที่ 2 คือ อดีต หรือ Simple Past Tense
กริยาช่องที่ 3 คือคำกริยาที่ใช้ใน perfect tense ทุกชนิด และ passive voice. หรือ Past Participle
หลักการแบ่งกลุ่ม IRREGULAR VERBS (กริยาอปกติ)
ในภาษาอังกฤษจะมีการแบ่ง กริยา 3 ช่อง (irregular verbs) ออกเป็น 5 กลุ่มหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
1.
All 3 forms are similar – กริยาทั้ง 3 ช่อง เหมือนกัน
2.
Infinitive and Simple Past are similar – กริยาช่องที่ 1 และ ช่อง 2 เหมือนกัน (ต่างกันที่ช่อง 3)
3.
Infinitive and past participle are similar – กริยาช่องที่ 1 และ ช่อง 3 เหมือนกัน (ต่างกันตรงช่องที่ 2
4.
Simple Past and past participle are similar – กริยาช่องที่ 2 และ ช่อง 3 เหมือนกัน (ต่างจากช่องที่ 1)
5.
All 3 forms are different – กริยาทั้ง 3 ช่อง ไม่เหมือนกัน
Spelling Bee Practice -+ PDF – Level A- Easy Words -Easy English Lesson
You can download the PDF file from here:
http://www.burhanpeynirci.com/pdfs/listening_tests/level%20A/011/spelling%20bee%20practice%20YouTube%20Burhan%20Peynirci.pdf
Easy English Lesson Series This is a spelling bee practice video. You can practice studying for spelling bee competitions starting with easy words at A level.
I am a teacher of English at a highly appreciated school and doing the job I love. Could you please subscribe to my channel for support? Thanks in advance.
INDEX OF SKILLS (ListeningReading Watching WritingSpeaking)
LISTENING / Level A: https://youtu.be/MOijwxQvsfc?list=PLPA3mn3c0LvDibX0JZT_1PmsV4E_U1CZe
LISTENING / Level B: https://youtu.be/3m3sOhtdkkI?list=PLPA3mn3c0LvCZvVTeFFRrKnBsSVBNQvm
PRONUNCIATION: https://youtu.be/k2G5t0S55Pg?list=PLPA3mn3c0LvCltK7XHJQM8wHTZSQKArkp
READING / Level A: https://youtu.be/jyDLF5DESA?list=PLPA3mn3c0LvCywqc064zIn__ntoXHwbT5
READING / Level B: https://youtu.be/YJYwQxjrKz4?list=PLPA3mn3c0LvDfGGzAwULtjCTiIqEFYH5A
READING / Level C: https://youtu.be/IcByiD6dEWw?list=PLPA3mn3c0LvB3cMzCN5uqMAz0LEfScKUi
SCHOOL SONGS: https://youtu.be/UIAJoY_ueOE?list=PLPA3mn3c0LvDBIkVkaqQ2f4Do65K1wzA
SPEAKING: https://youtu.be/WR4xrDmsnU?list=PLPA3mn3c0LvAxp7UFMGUvl21W4QFiS08p
WATCHING / Level A: https://youtu.be/VwPRjOU0lbE?list=PLPA3mn3c0LvD6vMPECumADnwDTG6WjqBy
WATCHING / Level B: https://youtu.be/KZXfAbN0QcM?list=PLPA3mn3c0LvCEohXZqgtIVNmrSEVw0Hl6
VOCABULARY / Level A: https://youtu.be/9ZelbpCd95U?list=PLPA3mn3c0LvA4wBXNwOSdPIlynApqSdGp
VOCABULARY / Level B: https://youtu.be/Fz5Ljxztkik?list=PLPA3mn3c0LvCxYiIZNDZ4AUa0eHvWgeV8
VOCABULARY / Level C: https://youtu.be/srOZigWIvUQ?list=PLPA3mn3c0LvDssIrkXf3etNuUIdrDlGEB
WRITING / Level AB: https://youtu.be/1Z1Q8fAOclw?list=PLPA3mn3c0LvCA8w76FDkSzl_JCmeQ1lo
INDEX OF ONLY GRAMMAR EXERCISES:
amisare : https://youtu.be/TJe9YlxDkpg?list=PLPA3mn3c0LvAJUIz5shvc7uh5EvyL6E8j
aanthe: https://youtu.be/CvUovAi9eQU?list=PLPA3mn3c0LvAWO3doyXt9pJjmpweIIOrk
CanCan’t: https://youtu.be/ZR3L64YJawg?list=PLPA3mn3c0LvC_CgmxjmjiGs9Q2iR8fE8H
Comparatives Superlatives (goodbetter best): https://youtu.be/PD9k0KXmIHI?list=PLPA3mn3c0LvDy8BXiBkPaX9CnbMHTxJp
Countable Uncountables: https://youtu.be/2nSIPl9xHM?list=PLPA3mn3c0LvDX4yNv9tLTQY6QxChSflng
Gerunds Infinitives (ingto..): https://youtu.be/xLsODIzAfcI?list=PLPA3mn3c0LvDaZb8XVjbhQ0K0TYFvI64b
Conditionals (if): https://youtu.be/xJX1RsI3H1g?list=PLPA3mn3c0LvCqOBtIdkZhP4lk70bTbaGc
How much How many: https://youtu.be/uFH3hukwycs?list=PLPA3mn3c0LvDPAQ7b6HUKHdQ_vfS63kV
Personal Pronouns (I you we they …) : https://youtu.be/OMzfakpnSBw?list=PLPA3mn3c0LvCuIwCsKhMv2eHJgOctLzkj
Must Mustn’t: https://youtu.be/Y8pHGxtCYqQ?list=PLPA3mn3c0LvAi9yOBGNZCRmIBfRue7b5
MyYourHisHer …: https://youtu.be/C1tu_5wSY?list=PLPA3mn3c0LvADy_jBrpqGQqA1sCb0uDJa
MyselfYourselfHimself …: https://youtu.be/V8tjczMyzeY?list=PLPA3mn3c0LvCU87nNSJ3o5hFDnFgOERrH
Numbers: https://youtu.be/iv64tlQmB2A?list=PLPA3mn3c0LvD9W4Eise8pIScqyGJZGLR
Phrasal Verbs (look afterlook into): https://youtu.be/rz9jPUtuR4Q?list=PLPA3mn3c0LvCWXeWrQjvGrkYcvlIuZ1eN
Prepositions (INONAT … / level A): https://youtu.be/FT2m4KNP0Y?list=PLPA3mn3c0LvAmZiIFSrrnbPHJNEqjfKPh
Prepositions (IN ON AT… – Level B(: : https://youtu.be/Tsl4cLvU6_Y?list=PLPA3mn3c0LvDahgKbmb8W2XLSVLePfTXM
Passive (was doneis being done …) : https://youtu.be/vuMmpLqgCus?list=PLPA3mn3c0LvCLk0VDDKuUESXcNk74tdm
Relatives (whowhichthat): https://youtu.be/mQLPxvQLg7c?list=PLPA3mn3c0LvAEyZFOgCjnYBzRlYQ8F5en
Since For: https://youtu.be/m3p8mrdH2GI?list=PLPA3mn3c0LvAy1Hy7bQzcdJhYOGz67Wht
Singular Plurals (boyboys): https://youtu.be/jpmg3FcJEw0?list=PLPA3mn3c0LvBbk5WhASEEJXMN40BHpRL
Some Any: https://youtu.be/fQiocR7RjTc?list=PLPA3mn3c0LvDCHvDL5S_Iux202xbk2eY
So Such: https://youtu.be/zMlmuoh_Cpc?list=PLPA3mn3c0LvBI7V8xMfLfz1aeyQMuwieR
SomebodySomethingAnybodyAnything …: https://youtu.be/g95WFsIfS40?list=PLPA3mn3c0LvDux18YfBTRuX8O5scDPFW
Tenses (Simple): https://youtu.be/TsUf7wDzBsg?list=PLPA3mn3c0LvBbVuN8DgikBUwicZ65Hspy
Tenses: (Continuous): https://youtu.be/k9ukLTPfDXA?list=PLPA3mn3c0LvAbYntnYRoSGlIesKWdkXCG
Tenses (All mixed): https://youtu.be/J4gemTCJaWg?list=PLPA3mn3c0LvCVOqCl28Qc5VjEnVZ6meA
Test your grammar: https://youtu.be/G9_Hc6LQsA0?list=PLPA3mn3c0LvBd4MEEvMwXAwLspLs_9DVx
This That these those: https://www.youtube.com/watch?v=EvxLXtGWlK0\u0026list=PLPA3mn3c0LvCEqPpg8E581KFgSHdm9Xej
Used To: https://youtu.be/szbvRzIr9eU?list=PLPA3mn3c0LvBiqVJY83KPBvbn0zV12Je0
What time is it?: https://youtu.be/IABUhw2m4rg?list=PLPA3mn3c0LvBdRe0dEZ1fphpzev7QW5wY
Mixed Grammar Topics: https://youtu.be/hzv30TesiUo?list=PLPA3mn3c0LvDzIcPWypZJB6Q38JnOGHpP
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่
Kids vocabulary – [NEW] Action Verbs – Action Words – Learn English for kids
http://www.youtube.com/user/EnglishSingsing9
Kids vocabulary [NEW] Action Verbs Action Words Learn English for kids English educational video
This \”Kids Vocabulary\” category has been grouped thematically.
We hope you enjoy studying with our channel videos.
Have fun and subscribe to our channel. Then, you can find some more various English educational animation videos.
★ Subscribe us on YouTube: http://goo.gl/gDa963
Title: Action Verbs
clap
You can clap.
You can clap like a seal.
clap clap
climb
You can climb.
You can climb like a monkey.
climb climb
dance
You can dance.
You can dance like a bear.
dance dance
fly
You can fly.
You can fly like a butterfly.
fly fly
hop
You can hop.
You can hop like a rabbit.
hop hop
jump
You can jump.
You can jump like a kangaroo.
jump jump
run
You can run.
You can run like a cheetah.
run run
stand
You can stand.
You can stand like a flamingo.
stand stand
stomp
You can stomp.
You can stomp like an elephant.
stomp stomp
swim
You can swim.
You can swim like a fish.
swim swim
waddle
You can waddle.
You can waddle like a duck.
waddle waddle
walk
You can walk.
You can walk like a cat.
walk walk
Thanks for checking out the \”English Singsing\”.
© Amanta Inc.
Common Irregular Verbs กริยา 3 ช่อง 60 คำที่ใช้บ่อย
This is a list of 60 most common irregular verbs. I will read the base form, the simple past, the past participle, and the meaning of the verb.
กริยา 3 ช่องที่ใช้บ่อยจำนวน 60 คำที่ควรรู้ เหมาะสำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและบุคคลทั่วไปที่สนใจ มาฝึกท่องกันนะคะ
Thank you for watching our video!
Please share and like if you enjoyed it.
กริยา 3 ช่อง
การออกเสียงกริยา 3 ช่อง หนังสือ New World ม 3 หน้า 109 จำนวน 180 คำ
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE
ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ กริยา 3 ช่อง ของ read