Skip to content
Home » [NEW] ประโยคสำหรับขอร้อง (Request) คำพูดสำคัญในภาษาอังกฤษ | เคย เป็น ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

[NEW] ประโยคสำหรับขอร้อง (Request) คำพูดสำคัญในภาษาอังกฤษ | เคย เป็น ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

เคย เป็น ภาษา อังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

การขอร้องให้คนอื่นทำอะไรหรือช่วยอะไรนั้น ควรพูดให้สุภาพเข้าไว้ มิฉะนั้นแล้วอาจจะได้รับการปฏิเสธได้โดยง่าย อย่างไรก็ตามการขอร้องมีหลายระดับ คือ ระดับธรรมดา สุภาพและสุภาพที่สุด หรือในเรื่องที่ยากง่ายต่างกัน ฉะนั้น จะขอร้องให้ทำหรือช่วยอะไรนั้น ควรใช้คำให้เหมาะสมกับระดับเหตุการณ์นั้นๆ ในการขอร้องใช้คำได้หลายวิธี หลายประโยค ในที่นี่อาจจำแนกประโยคต่างๆ ที่ใช้ในการขอร้องได้ดังต่อไปนี้
1. ประโยคคำสั่ง (Command) ประโยคคำสั่งเป็นประโยคที่ขึ้นต้น ด้วยคำกริยาไม่มีประธาน เช่น Sit down. นั่งลง Open the window. เปิดหน้าต่างด้วย Don’t disturb her. อย่ารบกวนเธอ ประโยคชนิดนี้สร้างเป็นการขอร้องโดยการเติม Please (โปรด กรุณา) เข้าไป อาจจะวางต้นประโยค หรือท้ายประโยคก็ได้ การขอร้องด้วยประโยคชนิดนี้ ถือเป็นการขอร้องโดยตรง นิยมใช้โดยทั่วไป โดยมีรูปประโยคดังนี้
Please…………..         กรุณา / โปรด……………..
…………………….please.
ตัวอย่าง
Please sit down.
กรุณานั่งลง
Open the window, please.
กรุณาเปิดหน้าต่างด้วย
Please don’t disturb her.
กรุณาอย่ารบกวนเธอ
Please give me your name.
กรุณาบอกชื่อคุณด้วย
Don’t park in front of the office, please.
กรุณาอย่าจอดรถหน้าสำนักงาน
Please get me a chair.
กรุณาหาเก้าอี้ให้ฉันสักตัวด้วย
2. ประโยคบอกเล่า (Statement) การขอร้องอาจจะใช้เป็นรูปประโยคบอกเล่าธรรมดาก็ได้ แม้จะถือว่าเป็นการแสดงความต้องการของผู้พูดเองขึ้นมาลอยๆ โดยใช้กริยาที่แสดงออกถึงความต้องการ คือ want หรือ would like โดยการเติม Please เข้าท้ายประโยค ใช้ would like เป็นการสุภาพกว่า มีรูปประโยคดังนี้
I want …………, please.
ฉันต้องการ………………..
I would like …………….., please.
ฉันต้องการ……………………………
ตัวอย่าง
I want some water, please.
ฉันต้องการนํ้าบ้าง
I want a pen, please.
ฉันต้องการปากกาด้ามหนึ่ง
I want some drinks, please.
ฉันต้องการเครื่องดื่มสักอย่าง
I would like a cup of coffee, please.
ฉันต้องการกาแฟสักถ้วย
I would like the red one, please.
ฉันต้องการอันสีแดง
เพื่อให้มีความหมายเป็นการขอร้องโดยตรง ในรูปประโยคบอกเล่า ใช้กริยา ask หรือ request (ขอร้อง) ได้เลย หรือแสดงความต้องการจะขอร้อง โดยนำด้วย want หรือ would like และตามด้วย infinitive ดังโครงสร้างต่อไปนี้
I ask you to
ฉันขอร้องคุณให้ช่วย
I request you to
ฉันขอร้องคุณให้ช่วย
I want to ask you to
ฉันต้องการขอร้องคุณช่วย
I want to request you to
ฉันต้องการที่จะขอร้องคุณให้ช่วย
ตัวอย่าง
I ask you to open the window.
ฉันขอร้องให้คุณช่วยเปิดหน้าต่าง
I ask you to help me with this.
ฉันขอร้องคุณช่วยทำสิ่งนี้ด้วย
I request you to post these letters for me.
ฉันขอร้องคุณช่วยส่ง จ.ม.เหล่านี้ให้ด้วย
I would like to ask you to call him for me.
ฉันอยากขอร้องคุณช่วยโทรศัพท์ไปหาเขาให้ด้วย
I want to ask you to find his address.
ฉันต้องการให้คุณหาที่อยู่ของเขาให้ด้วย
I want you to sit down.
ฉันอยากจะให้คุณนั่งลง
I would like you to get me a pen.
ฉันอยากขอร้องให้คุณหาปากกาให้สักด้ามด้วย
3. ประโยคคำถาม (Question) การใช้รูปประโยคคำถามในการ ขอร้องนั้น ถือเป็นการขอร้องโดยอ้อมเป็นการถามกลายๆ ว่า จะทำอย่างนั้น ได้ไหม เป็นการแสดงความเกรงใจในการขอร้องนั้นๆ ซึ่งนิยมใช้กันมาก รูปคำถามที่ใช้มากคือ Yes/No Question แต่อย่างไรก็ตาม คำถามประเภทอื่นก็ใช้ในการขอร้องได้เช่นกัน ประโยคคำถามต่างๆ ที่ใช้ในการขอร้องมีโครงสร้างดังนี้
Yes/No Question :     Can / Will you…….., please?
Could / Would you please……., (please)?
Could / Would you kindly………..?
Would you be so kind as to……..?
Do / Would you mind………?
Tag Question :         ………,will you?
………,won’t you?
Wh- Question :         What……., please?
Who………, please?
(ect.)
Indirect Question :     I wonder if you……
I wonder if you’d mind…….
การใช้ประโยคคำถามชนิดต่างๆ ในการขอร้องนั้น มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
-ประโยค Yes/No Question ใช้มากที่สุด เป็นทั้งการถามและ ขอร้องในตัวเสร็จว่าจะทำได้หรือไม่ จากโครงสร้างข้างบนนั้น มีตัวอย่าง ดังต่อไปนี้
Can you sit down, please?
กรุณานั่งลงได้ไหม
Will you make me a cup of coffee, please?
ชงกาแฟให้ฉันสักถ้วยได้ไหม
Could you please tell me the way to the airport?
คุณจะกรุณาบอกหนทางไปสนามบินให้ฉันหน่อยได้ไหม
Would you kindly lend me the book for two days?
คุณจะกรุณาให้ฉันยืมหนังสือเล่มนี้สักสองวันจะได้ไหม
Would you be so kind as to post these letters for me?
คุณจะกรุณาส่งจดหมายเหล่านี้ให้ฉันด้วยได้ไหม
Do you mind washing this glass?
คุณล้างแก้วนี้ด้วยได้ไหม
Would you mind closing the door?
คุณจะกรุณาปิดประตูหน่อยได้ไหม
Would you please translate this sentence for them?
คุณจะกรุณาแปลประโยคนี้ให้พวกเขาหน่อยได้ไหม
Can you help me with this exercise?
คุณช่วยฉันทำแบบฝึกหัดนี้ได้ไหม
Will you find the meaning of the word for me?
คุณจะหาความหมายคำนี้ให้ฉันหน่อยได้ไหม
Would you mind giving me her name?
คุณจะบอกชื่อเธอให้ฉันหน่อยได้ไหม
-ประโยค Tag Question ตามปกติใช้เฉพาะชนิดที่ท่อนแรกเป็นรูปคำสั่งเท่านั้น บางครั้งอาจจะถือว่ายังเป็นคำสั่งอยู่นั้นเอง แต่ในที่นี่จัดเป็นการขอร้องอีกระดับหนึ่งไม่ค่อยนิยมใช้กันมากนัก จากโครงสร้างข้างบนนั้น มีตัวอย่างดังต่อไปนี้
Come in, will you?
เข้ามาข้างใน ได้ไหม
Close the window, won’t you?
ปิดหน้าต่างด้วย ได้ไหม
Sit down, won’t you?
นั่งลงได้ไหม
Speak slowly, will you?
พูดช้าๆ ได้ไหม
ประโยคเช่นนี้ถือว่าเป็นคำสั่งโดยอ้อม ซึ่งมีความหมายสุภาพกว่า คำสั่งโดยตรง
-ประโยค Wh-Question เป็นรูปคำถามธรรมดา แล้วเติม please เข้าท้ายประโยค ถือว่าเป็นการขอร้องโดยอ้อมอีกแบบหนึ่ง เป็นการขอร้องระดับธรรมดา ดังตัวอย่างต่อไปนี้
What’s your name, please?
คุณชื่ออะไรครับ
Where are you from, please?
คุณมาจากไหนครับ
When were you born, please?
คุณเกิดเมื่อไรครับ
How old are you, please?
คุณอายุเท่าไรครับ
การขอร้องวิธีนี นิยมใช้กับเหตุการณ์หรือสถานการณไม่มากนัก
-ประโยค Indirect Question นิยมใช้ในการขอร้องเช่นกัน เป็น การขอร้องโดยอ้อมเช่นเดียวกับ Yes/No Question ที่จริงแล้วประโยคชนิดนี้ก็คือประโยคบอกเล่านั้นเอง กริยาที่นิยมใช้สำหรับประโยคชนิดนี้ ก็คือกริยาที่แสดงถึงความสงสัย ไม่แน่ใจ ได้แก่ wonder (สงสัย) ดังตัวอย่างประโยคต่อไปนี้
I wonder if you’d lend me the typewriter.
ไม่ทราบว่า คุณจะให้ฉันยืมเครื่องพิมพ์ดีดได้ไหม
I wonder if you could help me with this?
ไม่ทราบว่า คุณจะช่วยฉันทำสิ่งนี้ได้ไหม
I wonder if you would mind checking this work.
ไม่ทราบว่า คุณจะกรุณาตรวจงานนี้หน่อยได้ไหม
I wonder if you would mind explaining this sentence.
ไม่ทราบว่า คุณจะกรุณาอธิบายประโยคนี้หน่อยได้ไหม
ตอบรับ (Accepting) การตอบรับการขอร้อง คือสามารถกระทำได้ตามที่ขอร้องนั้น ใช้คำพูดได้หลายอย่างหลายระดับเช่นเดียวกับการขอร้องดังนี้
Yes, of course
ตกลง, ได้เลย, แน่นอน
Certainly
ตกลง, ได้เลย, แน่นอน
All right ตกลง
Not at all
ได้เลย, ไม่เป็นไร
O.K.
ตกลง, ได้เลย
Sure ได้เลย
With pleasure
ยินดี, ด้วยความยินดี
I’d be glad to
ด้วยความยินดี
No, of course not
ไม่เป็นไร, ไม่รังเกียจ
Certainly not
ไม่เป็นไร ไม่รังเกียจ
ตอบปฏิเสธ (Refusing) อาจใช้ได้หลายคำเช่นกัน ควรปฏิเสธอย่างสุภาพ และให้เหตุผลที่ไม่อาจสนองความต้องการตามที่ขอร้องได้ ดังนี้
I’m sorry…..
ขอโทษ……..
I’m afraid….
ฉันเกรงว่า……
I wish I could but……
ฉันอยากจะทำให้ แต่ว่า….
ตัวอย่าง
I’m sorry I don’t know.
ขอโทษด้วย, ฉันไม่ทราบ
I’m afraid I am not free at that time.
ฉันเข้าใจว่า ฉันคงไม่ว่างในเวลานั้น
I wish I could but I have to hurry back home.
อยากจะทำให้เหมือนกัน แต่ว่าฉันต้องรีบกลับบ้าน
ข้อสังเกต
-การใช้กริยารูปอดีต (past) คือ could, would ไม่มีความหมาย เป็นอดีต แต่แสดงถึงความสุภาพหรือเกรงใจว่า can และ will และใช้ would like สุภาพกว่า want
-การขอร้องรูปคำถาม Yes/No นั้นแตกต่างจากคำถามธรรมดา โดยเติม Please เข้าไปเพื่อแสดงการขอร้อง และตอบแตกต่างกัน โดยคำถามธรรมดาตอบ Yes/No แต่การขอร้องตอบ Yes, of course หรือ I’m sorry … ดังตัวอย่างต่อไปนี้

คำถาม

ขอร้อง

Can you open the window?

Yes, I can. / No, I can’t.

คุณสามารถเปิดหน้าต่างได้ไหม

เปิดได้ / เปิดไม่ได้

Can you open the window, please?

Yes, of course. / I’m sorry …

คุณจะกรุณาเปิดหน้าต่างหน่อยได้ไหม      

ได้เลย / ขอโทษ เพราะว่า …

Can you speak Thai?

Yes, I can. / No, I can’t

คุณพูดภาษาไทยได้ไหม

ได้ พูดได้ / เปล่า พูดไม่ได้

Can you speak Thai, please?

All right. / Sorry, I don’t knowThai.

คุณกรุณาพูดภาษาไทยได้ไหม

ตกลง / ขอโทษ ฉันไม่รู้ภาษาไทย

Will you come tomorrow?

Yes, I will. / No, I won’t.

พรุ่งนี้ คุณจะมาใช่ไหม

ใช่, ฉันจะมา / เปล่า, ฉันจะไม่มา

Will you come tomorrow, please?

Sure. / I’m afraid I can’t.

พรุ่งนี้คุณมาได้ไหม

มาได้ / ฉันเกรงว่า คงมาไม่ได้

-การขอร้องที่ใช้ Do / Would you mind + v-ing เมื่อตอบรับ ใช้รูปเป็นปฏิเสธ คือ Of course not / Certainly not ซึ่งความหมายจริงๆ
ของการขอร้องชนิดนี้ ก็คือ คุณจะรังเกียจไหมที่จะ….คำตอบ ก็คือ เปล่า, ไม่รังเกียจ
ตัวอย่าง
Do you mind opening the window?    No, of courses not.
คุณจะรังเกียจไหมที่จะเปิดหน้าต่าง    ไม่เลย ไม่รังเกียจ
Would you mind helping me with this?    Certainly not.
คุณจะรังเกียจไหมที่จะกรุณาช่วยฉันทำสิ่งนี้   ไม่, ไม่รังเกียจ
แบบฝึกหัด
จงสร้างข้อความต่อไปนี้ให้เป็นประโยคขอร้อง
1. Take a seat
2. Turn off the fan
3. Show how to use it
4. Clean the room
5. Tell the way to somewhere
6. Type the letter
7. Not to be late
8. Pronounce this word
9. Send the letter by post
10. Not smoke in the room
ตัวอย่าง
Take a seat, please.
I want you to take a seat.
I would like you to take a seat.
Can you take a seat, please?
Could you please take a seat?
Do you mind taking a seat?
Take a seat, won’t you?
I wonder if you would take a seat.
โครงสร้างประโยคสำหรับขอร้อง มีดังนี้
Please…………….
………………., please.
I want …………., please.
I would like ……………, please.
Can/Could you ………….., please?
Will/Would
Could/Would you kindly ……………?
Would you be so kind as to …………?
Do/Would you mind ……………?
…………, will you?
…………, won’t you?
What/Who/etc…………, please?
I wonder if you…………….
I wonder if you would mind……………..
ที่มา:ดร.สวาสดิ์  พรรณา    

(Visited 257,716 times, 16 visits today)

[Update] 25 คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่มีความหมายว่า โกหก – หลอกลวง – โกง | เคย เป็น ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

ไม่ได้มีเฉพาะในภาษาไทยเท่านั้น สำหรับคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับคำว่า “โกหก” โดยเฉพาะในภาษาอังกฤษนั้นมีคำศัพท์ที่เป็นทั้งคำนามและคำกริยาที่เป็นคำโกหกได้ เช่น Biggest Lies ที่แปลว่า โกหกคำโต, Canard ที่แปลว่า รายงานเท็จ, Pretend ที่แปลว่า เสแสร้ง, Deception ที่แปลว่า การหลอกลวง และ Fake ที่แปลว่า สร้างเรื่อง เป็นต้น

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่มีความหมายว่า โกหก – หลอกลวง – โกง

ดังนั้นในบทความนี้ แคมปัส-สตาร์ จะพาทุกคนไปเรียนรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีความหมายว่า “โกหก” กัน และจะถูกนำมาใช้ในประโยคแบบไหน มาดูกันได้เลย…

1. Bluff

Bluff (บลัฟ) แปลว่า การหลอกให้หลงกล

ตัวอย่างการใช้ : Is he going to jump or is he only bluffing? แปลว่า นี่เขากำลังจะโดดจริง ๆ หรือแค่หลอกให้หลงกลเฉย ๆ

2. Canard

Canard (แค นาร์ด) แปลว่า เรื่องเท็จ รายงานเท็จ

ตัวอย่างการใช้ : Look! It is a canard แปลว่า ดูสิ นี่มันรายงานเท็จนี่

3. Deceit

Deceit (ดิ ซีท) แปลว่า การหลอกลวง

ตัวอย่างการใช้ : Finally, his deceits were revealed แปลว่า ในที่สุดการหลอกลวงของเขาก็ถูกเปิดโปง

คำโกหกในภาษาอังกฤษ เขาพูดยังไง?

4. Deception

Deception (ดิ เซพ เชิ่น) แปลว่า การหลอกลวง ตบตา

ตัวอย่างการใช้ :  It wasn’t really magic – just some kind of clever visual deception แปลว่า ไม่ใช่เวทมนตร์อะไรหรอก มันก็แค่ภาพตบตาเจ๋ง ๆ

5. Distortion

Distortion (ดิส ทอร์ เชิ่น) แปลว่า การบิดเบือน

ตัวอย่างการใช้ : False retelling of events is an example of distortion แปลว่า การเล่าเรื่องแบบผิด ๆ เป็นตัวอย่างของการบิดเบือน

6. Equivocation

Equivocation (อิค ควิ เวอะ เค เชิ่น) แปลว่า การพูดกำกวม อ้อมค้อม

ตัวอย่างการใช้ : He answered openly without equivocation แปลว่า เขาตอบคำถามอย่างเปิดเผย ปราศจากการพูดกำกวม

7. Exaggeration

Exaggeration (อิ๊ค แซก เจอะ เร เชิ่น) แปลว่า การพูดเกินจริง

ตัวอย่างการใช้ : Honestly, without any exaggeration, the fish was three metres long แปลว่า นี่ไม่ได้พูดเกินจริงเลยนะ ตัวปลามันยาวตั้ง 3 เมตรจริง ๆ

8. Fable

Fable (เฟเบิ้ล) แปลว่า เรื่องโกหก เรื่องที่แต่งขึ้น

ตัวอย่างการใช้ : What you have said is just a fable แปลว่า ที่เธอพูดมามันเรื่องโกหกทั้งนั้น

9. Fabrication

Fabrication (แฟ บริ เค เชิ่น) แปลว่า การปลอมขึ้นมา

ตัวอย่างการใช้ : The whole story about how her stepson died was a fabrication แปลว่า เรื่องการตายทั้งหมดของลุกเลี้ยงเธอมันเป็นเรื่องปลอม

การใช้ Apology vs Apologise ต่างกันอย่างไร?

Link : seeme.me/ch/englishafternoonz/k77dRk?pl=EpPYVE

10. Fairy tale

Fairy tale (แฟรี่ เทล): เรื่องแหกตา เรื่องโกหก

ตัวอย่างการใช้ : He’s telling us another fairy tale about how great the software will be แปลว่า เขากำลังเล่าเรื่องแหกตาเกี่ยวกับความดีงามของซอฟต์แวร์ตัวนี้ให้เราฟัง

11. Fallacy

Fallacy (แฟล เลอะ ซี่) แปลว่า เรื่องหลอกลวง

ตัวอย่างการใช้ : It’s a common fallacy that women are worse drivers than men แปลว่า เรื่องหลอกลวงที่รู้กันดีคือผู้หญิงขับรถแย่กว่าผู้ชาย

12. Falsehood

Falsehood (ฟ้อลซ์ หูด) แปลว่า การโกหก

ตัวอย่างการใช้ : She doesn’t seem to understand the difference between truth and falsehood แปลว่า ดูเหมือนว่านางจะไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างความจริงกับการโกหกนะ

13. Falsify

Falsify (ฟ้อลซิไฟย์) แปลว่า ปลอมแปลง

ตัวอย่างการใช้ : The certificate had clearly been falsified แปลว่า ประกาศนียบัตรนี่ถูกปลอมแปลงชัด ๆ

14. Falsity

Falsity (ฟ้อลซิติ) แปลว่า เรื่องปลอม

ตัวอย่างการใช้ : Believe me, it’s not the falsity แปลว่า เชื่อฉันเถอะ มันไม่ใช่เรื่องปลอมนะ

15. Fib

Fib (ฟิบ) แปลว่า โกหกเล็ก ๆ น้อย ๆ

ตัวอย่างการใช้ : I can tell he’s fibbing because he’s smiling! แปลว่า ฉันบอกได้เลยว่าเขาโกหกอยู่ ก็เพราะเขากำลังยิ้มอยู่นั่นไงล่ะ!

คำโกหกในภาษาอังกฤษ เขาพูดยังไง?

16. Fiction

Fiction (ฟิค เชิ่น) แปลว่า เรื่องโกหก

When he’s telling you something, you never know what’s fact and what’s fiction แปลว่า ตอนที่เขากำลังเล่าเรื่องบางอย่าง เธอไม่เคยรู้เลยว่าอันไหนเรื่องจริงกันไหนโกหก

17. Half-truth

Half-truth (ฮ้าฟ ทรูท) แปลว่า เรื่องจริงบ้างไม่จริงบ้าง

ตัวอย่างการใช้ : I don’t care! half-truth is a whole lie แปลว่า ฉันไม่สนใจหรอก เรื่องจริงบ้างไม่จริงบ้างก็คือเรื่องโกหกนั่นแหละ

18. Humbug

Humbug (ฮัม บั๊ก) แปลว่า การหลอกลวง ต้มตุ๋ม

ตัวอย่างการใช้ : Don’t try and humbug me, tell me everything แปลว่า อย่าแม้แต่จะลองหลอกฉัน บอกฉันมาให้หมดเดี๋ยวนี้

19. Invention

Invention (อิน เว้น เชิ่น) แปลว่า การกุเรื่องขึ้น เรื่องที่กุขึ้น

ตัวอย่างการใช้ : Her story is a total invention แปลว่า เรื่องของเธอน่ะมันเป็นเรื่องที่กุขึ้นทั้งหมด

20. Jive

Jive (ไจ้ฟ์) แปลว่า หลอก เรื่องเหลวไหล

ตัวอย่างการใช้ : Quit jiving me and just tell me where you were! แปลว่า เลิกหลอกฉันได้แล้ว แค่บอกมาซะทีว่าเธออยู่ไหน!

21. Libel

Libel (ไล้ เบิ้ล) แปลว่า ใส่ร้ายป้ายสี

ตัวอย่างการใช้ : She threatened to sue that guy for libel แปลว่า เธอขู่ว่าจะฟ้องผู้ชายคนนั้นข้อหาใส่ร้ายเธอ

22. Mendacity

Mendacity (เมน แด ซิ ติ) แปลว่า การโกหก

ตัวอย่างการใช้ : You need to overcome this mendacity, or no one will ever believe anything you say แปลว่า คุณต้องเอาชนะการโกหกนี่ให้ได้ ไม่อย่างนั้นจะไม่มีใครเชื่อที่คุณพูดอีกเลย

23. Untruth

Untruth (อัน ทรู้ท) แปลว่า คำโกหก

ตัวอย่างการใช้ : Don’t told him an untruth แปลว่า อย่าโกหกเขาเชียว

24. Whopper

Whopper (ว้อพ เผอะ) แปลว่า การโกหกที่ร้ายแรง

ตัวอย่างการใช้ : He told us a real whopper แปลว่า เขาเล่าเรื่องโกหกคำโตให้เราฟังเลยล่ะ

25.  Liar

Liar (ไล อ่าร์) แปลว่า คนขี้โกหก

ตัวอย่างการใช้ : Don’t trust him, he is such a liar แปลว่า อย่าไปเชื่อเขา เขาเป็นคนขี้โกหก

ที่มา : www.dailyenglish.in.th

Written by : Toey


แหลก – Season Five [Lyric Video HD]


♬ Download on iTunes : http://smarturl.it/LaakSS5
♪ Digital download : 1232555

เพลง : แหลก
ศิลปิน : Season Five
คำร้อง/ทำนอง : Season Five
เรียบเรียง : เพิ่มศักดิ์ พิสิษฐ์สังฆการ

☞ แหลก เพลงช้าอารมณ์เศร้าเพลงแรกของ Season Five หากคุณเคยชินอยู่ความรักที่สร้างความสุขให้คุณอยู่เรื่อยมา ความรักที่คุณเชื่อว่ามั่นคงเหมือนกับก้อนหิน จนไม่คิดถึงวันที่อาจจะแตกสลาย ทั้งที่ความจริงก้อนหินก็อาจกลายเป็นเม็ดทรายได้ ความรักก็เช่นกันอาจจะแหลกลงในพริบตา โดยที่เราไม่ทันตั้งตัว
☞ ด้านสไตล์ดนตรีเป็นเพลงช้าที่เรียบเรียงโดยใช้เครื่องดนตรีน้อยชิ้น มีเปียโนเป็นเครื่องดนตรีหลัก เพิ่มอารมณ์เพลงด้วยอะคูสติกกีต้าร์ซึ่งได้ มือกีต้าร์ โอ วง Jetset’er เพื่อนร่วมค่ายเป็นผู้เล่นให้ในรูปแบบการเล่นที่ไม่ซ้ำกันตั้งแต่ต้นจนจบเพลง ทั้งการเล่นแบบ Picking เบาไปจนถึงการ Slap solo ที่ช่วยสื่อสารให้อารมณ์ในแต่ละท่อนชัดเจนขึ้น ผสมผสานกับเสียงกลองที่มีความเป็นวินเทจ และคงเสน่ห์การร้องประสานเสียงในแบบฉบับของ Season Five เพิ่มความพิเศษด้วยเทคนิคการร้องไล่แบบ Dynamic ทำให้เสียงประสานเหมือนกับการเล่น Keyboard โดยเสียงร้องหลักเน้นที่การถ่ายทอดอารมณ์ลึกซึ้ง จึงทำเพลงนี้มีมิติมากขึ้น
☞ นอกจากเนื้อหาเพลงที่เศร้าลึกในอารมณ์แล้ว เพลงแหลกยังเป็นเพลงแรกที่สมาชิกทุกคนภายในวงเป็นผู้แต่งเนื้อร้องและเรียบเรียงทำนองด้วยตัวเอง โดยมีที่ปรึกษาเป็นโปรดิวเซอร์มาฝีมืออย่าง เพิ่มศักดิ์ พิสิษฐ์สังฆการ (โอ๊บ วงไทม์)
\” …ขนาดก้อนหินยังแหลกเป็นเม็ดทราย นับประสาอะไรกับหัวใจ
เช่นเธอตอนนี้ที่เปลี่ยนจากฉันไป….ฉันกำลังจะเสียเธอใช่ไหม… \”

☞ Digital Download Season Five : 1232555
☞ Facebook Season Five : http://facebook.com/SeasonFiveBand
☞ Facebook Sanamluang Music : http://facebook.com/SanamluangPage
☞ YouTube Sanamluang Music Channel : http://www.youtube.com/Sanamluang
☞ Instagram : @Sanamluang_Music
☞ For more Information : http://www.SanamluangMusic.com

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

แหลก - Season Five [Lyric Video HD]

ชอบที่เธอเป็นเธอ – วงแทมมะริน [4K MusicVideo]


ฟังเพลงของวงแทมมะรินได้ที่ JOOX
https://open.joox.com/s/rd?k=myh4L
และ
iTunes Store \u0026 Apple Music : https://apple.co/3oXpfWZ
ํYoutubeMusic : https://music.youtube.com/watch?v=t_5ddzvmr6w\u0026feature=share
Spotify : https://spoti.fi/3BFtrhn
Tidal : https://bit.ly/3p1IFKk
Amazon Music : https://amzn.to/3n9k0kz
ชื่อเพลง ชอบที่เธอเป็นเธอ
ศิลปิน วงแทมมะริน
คำร้อง/ทำนอง พนัชกร แท่นประมูล
เรียบเรียง ศุภกาญจน์ พรหมเกิด
ติดต่องานแสดง 0847505241
งานโฆษณา , ริวิวสินค้า 0840678537
Facebook : วงแทมมะริน
เพลงใหม่ ชอบที่เธอเป็นเธอ วงแทมมะริน TMR

Mix \u0026 Mastered : อ.สัญญา อิทธิสัน
Vocal Recording : My Home studio
Bass Recording : ธงชัย ถาวรโชติ

Executive Producer : วุฒินนท์ รอดเนียม : เฉลิมพล มากละเอียด

: MUSIC VIDEO : BT Media Studio
: Editor : เฉลิมพล มากละเอียด
: Director : ศรัญญู เนียมหะ
: Assistant Video : นพรัตน์ เนียมหะ
Musician
Vocals : พนัชกร แท่นประมูล (นิล)
Guitar : ณัฐวุฒิ ศรีเอียด (ต้น)
Guitar : อรรถโกวิท แสงใส (ยิม)
Bass : สัตตะ ดำแก้ว (บาส)
Drum : ศรายุทธ ไพยรัตน์ (อาร์)

Special Thanks
COCO CAPE LANTA RESORT
KHAO YAI FARM \u0026 RESTAURENT
แสงจันทร์ เรดิโอ

เนื้อเพลง ชอบที่เธอเป็นเธอ
มีคนเคยบอกกับเธอหรือยังว่าเธอน่ารัก ว่าเธอสวยเกินใครทั้งหมดเลย ช่างถูกใจฉันเหลือเกิน
ช่างน่ามอง บอกได้ไหมบ้านอยู่หนแห่งใด
หรือว่าเจ้าเป็นดาวจากเมืองเหนือ หรืออีหล่าคำแพงแดนอีสาน
คนสวยของเมืองภาคกลาง หรือสาวงามของเมืองใต้
ยอมรับตรงๆเลยว่าชอบเธอคนนี้ ชอบที่เธอเป็นเธอ ชอบเวลาเธอยิ้ม
รู้ไหมเวลาที่เธอจ้องตา ฉันเขินจริงๆ เธอทำให้ใครคนนึงหลงรักเธอ
ขอถามตรงๆเลยขอจีบเธอได้ไหม ถ้าเธอไม่ว่าอะไร ก็ยิ้มให้กันสักนิดนึง
ได้โปรดอย่าเพิ่งมองผ่าน ไปสนคนอื่น เพราะใจทั้งใจของคนๆนี้มันยกให้เธอเป็นที่หนึ่ง
ชอบจริงๆเจ้าเอย รักจริงๆหล่าเอ้ย จะอู้จะอี้จะเว้าเช่นไร
ชอบจริงๆเธอเอ้ย รักจริงๆสาวเห้อ ต้องพูดพันพรือเธอจึงเข้าใจ
Solo
(ซ้ำ )
ชอบจริงๆเจ้าเอย รักจริงๆหล่าเอ้ย จะอู้จะอี้จะเว้าเช่นไร
ชอบจริงๆเธอเอ้ย รักจริงๆสาวเห้อ ต้องพูดพันพรือเธอจึงเข้าใจ
ชอบจริงๆเจ้าเอย รักจริงๆหล่าเอ้ย จะอู้จะอี้จะเว้าเช่นไร
ชอบจริงๆเธอเอ้ย รักจริงๆสาวเห้อ ต้องพูดพันพรือเธอจึงเข้าใจ

ชอบที่เธอเป็นเธอ - วงแทมมะริน [4K MusicVideo]

EP.15 | ฝึกคิดแปลไทยเป็นอังกฤษ ไม่ยากอย่างที่คิด ดูละครไทย ก็ฝึกได้! | Netflix English Room


ครบ จบทุกเรื่องภาษาอังกฤษ ดู Loukgolf’s Netflix English Room
เข้าสู่บทเรียนของการแปลไทยเป็นอังกฤษที่ทุกคนรอคอย คลาสนี้บอกเลยว่ามีประโยชน์มากกกกก เพราะหลายคนน่าจะเคยประสบปัญหากันไม่มากก็น้อย เวลาต้องแปลคำ วลีหรือประโยคไทยๆ ให้เป็นภาษาอังกฤษ เพราะจะแปลแบบไทยไปอังกฤษเลย มันก็จะดูห้วนๆ แปลกๆ และเจ้าของภาษาอาจจะเกาหัวใส่ได้
เพื่อให้เข้าใจธรรมชาติการแปลภาษาตรงกัน วันนี้พี่ลูกกอล์ฟ เลยมีตัวอย่างการแปลที่เวิร์คมากจากซีรีส์และละครไทยมาฝากกัน ให้ลองฝึกคิดแปลเป็นภาษาอังกฤษได้อย่างลื่นไหล เข้าใจ ไม่มีงง มาดูกันว่า การจะแปลประโยคที่มีอรรถรสแบบไทยๆ ให้เหมาะสมในบริบทภาษาอังกฤษมากที่สุด เค้าแปลกันยังไง แปลแบบไหนได้บ้าง เตรียมสมุด ปากกาให้พร้อมแล้วมาเข้าคลาสนี้ด้วยกันเลย
ติดตามคลาสเรียนสนุกๆ ของพี่ลูกกอล์ฟได้ใน Loukgolf’s Netflix English Room
ทุกวันอาทิตย์ 17.00 น. ทาง YouTube Netflix Thailand
NetflixEnglishRoom พี่ลูกกอล์ฟ
Netflix สอนภาษาอังกฤษ

EP.15 | ฝึกคิดแปลไทยเป็นอังกฤษ ไม่ยากอย่างที่คิด ดูละครไทย ก็ฝึกได้! | Netflix English Room

คิด(แต่ไม่)ถึง [Same Page?] – Tilly Birds |Official MV|


บางทีการที่ยังอยู่ แต่ไม่มีอะไรเหมือนเดิมแล้ว
มันก็เจ็บปวดไม่ต่างกับการหายไปเลย…
เพลง : คิด(แต่ไม่)ถึง [Same Page?]
ศิลปิน : Tilly Birds
Lyrics :
คิดอยู่ทุกวัน คิดอยู่ทุกคืน
คิดว่าสักวัน ตัวฉันคงถูกลืม
น้อยลงทุกวัน ที่เราคุยกัน
เพราะว่าอะไร เธอถึงได้เปลี่ยนไป
คิด(แต่ไม่)ถึง
คิด คิด (แต่ไม่) ถึงเธอ
คิด(แต่ไม่)ถึง
คิด คิด (แต่ไม่) ถึงเธอ
เธอรู้บ้างไหม ว่ามีใครทนทุกข์ทรมาน
อยากรู้เพียง
ว่าความคิดถึงของเธอกับฉัน
มันเท่ากันหรือเปล่า
ถามจริง ๆ ว่าใจเธอเปลี่ยนไปหรือเปล่า
ฉันไม่คิดไปเองใช่ไหม
ความคิดถึงที่ฉันได้เคยส่งไป
ส่งไปไม่เคยถึงเธอเลย
ยังนึกถึงวันนั้น วันที่เราหัวเราะกัน
ไม่เคยลืมรอยยิ้มเธอสักครั้ง
จำได้ไหม วันที่เราทะเลาะกัน
เธอยังอภัยให้ฉันอยู่ทุกครั้ง
ทุกความทรงจำยังทำให้ฉัน
คิด(แต่ไม่)ถึง
คิด คิด (แต่ไม่) ถึงเธอ
คิด(แต่ไม่)ถึง
คิด คิด (แต่ไม่) ถึงเธอ
เธอรู้บ้างไหม ว่ามีใครทนทุกข์ทรมาน
อยากรู้เพียง
ว่าความคิดถึงของเธอกับฉัน
มันเท่ากันหรือเปล่า
ถามจริง ๆ ว่าใจเธอเปลี่ยนไป หรือเปล่า
ฉันไม่คิดไปเองใช่ไหม
ความคิดถึงที่ฉันได้เคยส่งไป
ส่งไปได้เพียงในความทรงจำ
ที่มีเราเรื่อยมา
แค่นึกภาพตอนนั้น ฉันก็มีน้ำตา
รู้บ้างไหมว่าเจ็บแค่ไหน
ความคิดถึงที่ฉันได้เคยส่งไป
ส่งไปไม่เคยถึงเธอเลย
(คิดแต่ไม่ถึง คิด คิด แต่ไม่ถึงเธอ)
ส่งไปไม่เคยถึงเธอเลย
ถ้าเธอนั้นจะไม่กลับมา
อยากให้รู้ว่าทุกๆช่วงเวลา
ไม่เคยไม่คิดถึงเธอเลย
Tilly Birds
Vocals : อนุโรจน์ เกตุเลขา l Anuroth Ketlkekha ( IG : 2nd__4th )
Guitar : ณัฐดนัย ชูชาติ l Nutdanai Chuchat ( IG : billbilly01 )
Drums : ธุวานนท์ ตันติวัฒนวรกุล l Thuwanon Tantiwattanaworakul ( IG : milomono )
Music : Tilly Birds
Lyrics : อนุโรจน์ เกตุเลขา (เติร์ด)
Arranged by : ธุวานนท์ ตันติวัฒนวรกุล (ไมโล)
Produced by : ณัฐดนัย ชูชาติ (บิลลี่)
Samples Recorded at : ทรยศสตูดิโอ
Additional Singers : อานาปาน ปิ่นประดับ, รวิสรารัตน์ พิบูลภานุวัธน, ณพรัตน์ มั่นสินธร
Studio Engineered by : ยศทร บุญญธนาภิวัฒน์
Asst. Engineered by : ภาคิน วัฒนรุกข์
Vocals Recorded at : Axis Studio
Engineered by : กร มหาดำรงค์กุล
Vocals Edited by : กร มหาดำรงค์กุล
Mixed and Mastered by : Henry Watkins (Karma Sound Studios)
MV Credits:
Director Anuroth Ketlekha, SADUST STAYGOLD
First Assistant Director Sirada Tritruengtassana, Kunatan Limdoo
Second Assistant Director Nitchakarn Pakpairin
Producer Nutdanai Chuchat, Wissuta Suksawat
DOP Chatpol Buawan
Art Director PERDCHAKDEAW
Editor SADUST STAYGOLD, Chatpol Buawan
Colorist Jirayu Jangwattanapong
Acting Coach Sarun Kaensap
Makeup Vimvipa Chayangkura
Catering Napatsawan Mongkolsomboon \u0026 Team
Cast Chayapat Wiratyosin, Supawan Poolcharoen
Extras Irin Poontavee, Phurin Kasikun, Johnparot Wongthes, Natachanun Netikornwiwach, Poomtharit Intharit, Araya Laoprachaiwan
ดาวน์โหลดเพลงนี้ได้ที่ 1230321
คิดแต่ไม่ถึง TillyBirds GeneLab

คิด(แต่ไม่)ถึง [Same Page?] - Tilly Birds |Official MV|

คุณเคยไหม ภาษาอังกฤษว่าอย่างไร | Have you ever? ใช้อย่างไร | English Tips Ep.3


สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ OLEY JARUN Channel นะครับ
วันนี้เรามาฝึกภาษาอังกฤษกันครับ หัวข้อ Have you ever…?
โครงสร้างประโยค
Have + I/you/we/they + ever + Part Participle ( Verb ช่อง 3 )
Has + he/she/it + ever + Part Participle ( Verb ช่อง 3 )
เธอเคยขาดเรียนไหม ไม่ไปโรงเรียน (absent)
Have you ever absented from school?
Yes, l have absent from school sometimes.
No, l haven’t absent from school. l am a good student.
เธอเคยป่วยบ้างปะเนี๊ยะ Sick ป่วย เป็น Adj. ต้องมี Verb to be เข้ามาช่วย
Have you ever been sick?
Yes, l have been sick lately.
เธอเคยถูกด่าบ้างปะเนี๊ยะ เรียนร้อยขนาดนี้ Scold ด่า (Passive voice)
Have you ever been scolded?
No, I have never been scolded in my life.
เธอเคยตกหลุมรักใครไหม fall in love
Have you ever fallen in love with anyone?
Yes, l have. But l have never told them that l love them.
เธอเคยเมาเหล้าปะ get drunk หรือ drink ดื่ม
Have you ever got drunk/drunk?
Yes, l have. I always get drunk when I have a party with friends.
เธอเคยลองเมนูใหม่ร้านนี้ยัง อร่อยมากเธอ!! Try ลองชิม/ลองทาน
Have you ever tried a new menu this restaurant? It’s so yum.
No, I haven’t tried it yet.

เขาเคยส่งข้อความฝันดีมาหาเธอบ้างป่ะ text ส่งข้อความ
Has he ever texted you good night?
Yes, he has just texted me good night.
เธอเคยไปดูหนังคนเดียวไหม Go to see a movie/ see a movie
Have you ever gone to see a movie alone?
Have you ever seen a movie alone?
No, I have never gone to see a movie alone.

ติดตามช่องกด https://goo.gl/MSt11a

Facebook Fan page: https://www.facebook.com/SelfpracticeEnglish168939803891665/

คุณเคยไหม ภาษาอังกฤษว่าอย่างไร | Have you ever? ใช้อย่างไร | English Tips Ep.3

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆMAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ เคย เป็น ภาษา อังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *