การเรียง adj: คุณกำลังดูกระทู้
ADJECTIVES
adjective ออกเสียง แอ็ดจิกทิฟวฺ
*adjective คือ คำคุณศัพท์ ใช้เพื่อขยายหรือให้รายละเอียดเพิ่มเกี่ยวกับคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ ฯลฯ
หลักการใช้
1. ตำแหน่งของคุณศัพท์
ภายในประโยค คำคุณศัพท์มีตำแหน่งการวางได้ 3 จุดคือ
(1) คุณศัพท์ขยายนาม ในกรณีนี้คำคุณศัพท์วางไว้หน้าคำนาม แสดงว่าเป็นคำขยายคำนามนั่นเอง เช่น
adjective noun
a young reporter
an old professor
the funniest game
this narrow canal
his fierce dog
คุณศัพท์ขยายคำนามอาจจะมีมากกว่า 1 คำก็ได้ เช่น
Adjectives noun
a thin young reporter
a handsome old professor
this very narrow canal
ตัวอย่าง
“What happened to you last night ?”
เกิดอะไรขึ้นกับคุณเมื่อคืน
“I was bitten by a fierce dog.”
นมถูกสุนัขที่ดุร้ายกัด
“Whom did you talk to yesterday ?”
คุณคุยกับใครเมื่อวานนี้
“I talked to a thin young reporter.”
ผมคุยกับนักข่าวหนุ่มร่างผอม
2. คุณศัพท์อยู่หลังกริยา BE .ในกรณีนี้หน้าคุณศัพท์จะมี Verb to be เรียกหน้าที่ของคุณศัพท์แบบนี้ได้ว่า complement ซึ่งเป็นการบรรยายลักษณะของประธานของประโยค
ตัวอย่าง
“What’s your sister like?”
น้องสาวของคุณมีรูปร่างลักษณะอน่างไร
“She’s tall and slim.”
หล่อนรูปร่างสูงและเอวบางร่างน้อย
“Is she beautiful?”
หล่อนสวยหรือเปล่า
“No, but she’s clever.”
ไม่ แต่หล่อนฉลาด
“Is she married?”
หล่อนแต่งงานแล้วยัง
“No, she’s single.”
ยัง หล่อนเป็นโสด
3. คุณศัพท์อยู่หลัง LINKING VERBS ได้แก่ become, look, seem, feel, appear, stay, get (=become), sound, taste, remain
ตัวอย่าง
Our friends seem ready to help.
เพื่อนของเราดูเหมือนว่าพร้อมจะให้การช่วยเหลือ
The weather will stay fine for a few days.
อากาศจะยังคงแจ่มใสต่อไปอีก 2 – 3 วัน
He looks unhappy whenever he has to study.
เขาดูไม่มีความสุขเมื่อใดก็ตามที่เขาต้องเรียน
Bread is becoming expensive in this town.
ขนมปังกำลังมีราคาแพงขึ้นในเมืองนี้
This mango tastes sour.
มะม่วงผลนี้รสชาติเปรี้ยว
He still remains popular.
เขายังคงเป็นที่รู้จักของผู้คน
2. ตำแหน่งอื่นของคำคุณศัพท์
นอกจากตำแหน่งตามปกติของคำคุณศัพท์ตามที่กล่าวมาในข้อ 1 แล้ว ยังมีบางกรณีที่คำคุณศัพท์วางในตำแหน่งที่ต่างไปจากกฎเกณฑ์ข้างบนคือ
1. คุณศัพท์อยู่ท้าย the
ลักษณะนี้พบได้ไนคำคุณศัพท์ที่ใช้เพื่อหมายถืงระดับขึ้นของคน (a class of people) เช่น
the young คนหนุ่มสาว
the rich คนร่ำรวย
the old คนชรา
the employed คนที่ได้รับการว่าจ้าง
the unemployed คนที่ไม่ได้รับการว่าจ้าง, คนว่างงาน
the privileged คนที่ได้สิทธิพิเศษ
the poor คนยากจน
the blind คนตาบอด
the dumb คนใบ้
the Japanese คนญี่ปุ่น
the English คนอังกฤษ
ตัวอย่าง
The rich should help the poor.
คนรวยควรจะช่วยเหลือคนจน
The young should look after the old.
คนหนุ่มสาวควรจะดูแลคนชรา
The employed are happier than the unemployed.
คนที่ได้รับการว่าจ้างมีความสุขกว่าคนที่ไม่ได้รับการว่าจ้าง
The English have a lot to learn from the Japanese.
คนอังกฤษต้องเรียนรู้อีกมากจากคนญี่ปุ่น
2. คุณศัพท์อยู่ท้ายกรรมของประโยค
คุณศัพท์ที่ใช้ในกรณีนี้จะอยู่ท้ายกรรม (object) ของประโยค เรียกว่า object complement คำกริยาที่เกี่ยวข้องกับหลักเกณฑ์ข้อนี้ด้แก่ get, keep, make, find, paint, set, turn, wish, like
ตัวอย่าง
I like my coffee black.
ผมซอบกาแฟดำ
Don’t get your clothes dirty.
อย่าทำให้เสื้อผ้าของคุณสกปรก
My sister keeps her room tidy.
น้องสาวรักษาห้องของเธอเป็นระเบียบเรียบร้อย
They set the prisoners free.
พวกเขาปลดปล่อยนักโทษเป็นอิสระ
The cold weather turned the leaves red.
อากาศหนาวทำให้ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดง
He wished himself dead.
เขาอยากตาย
We painted the door white.
พวกเราทาสีประตูเป็นสีขาว
I found the box empty.
ผมพบกล่องว่างเปล่า
3. คุณศัพท์อยู่ท้ายนามหรือสรรพนามที่มันขยาย
สรรพนาม (pronouns) ที่ใช้ในกรณีนี้ได้จะต้องเป็น indefinite pronouns นั่นคือ สรรพนามที่ลงท้ายด้วย -body, -one, -thing
ตัวอย่าง
The chairman asked the people present at the meeting to express their views.
= The chairman asked the people who were present at the meeting to express their views.
ประธานได้ขอร้องให้ผู้เข้าประชุมแสดงความคิดเห็น
The boys involved in the fight were sent away to another
school.
=The boys who were involved in the fight were sent away to another school.
เด็กนักเรียนชายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตีกันถูกส่งไปเรียนโรงเรียนอื่น Mary hopes to marry someone rich.
=Mary hopes to marry someone who is rich.
แมรี่หวังที่จะแต่งงานกับคนที่ร่ำรวย
Did you buy anything nice at the store?
=Did you buy anything which is nice at the store?
คุณซื้อสิ่งสวยๆ งามๆ ที่ร้านบ้างหรือเปล่า
3. ลำดับของคุณศัพท์
ท่านผู้อ่านอาจจะถามว่า ถ้าหากมีคุณศัพท์ที่ให้ข้อมูลต่างๆ นานาหลายคำ จะเรียงลำดับคุณศัพท์เหล่านี้ไว้หน้าคำนามอย่างไรจึงจะถูกต้อง อาทิ
คุณศัพท์บอก
ทัศนะความเห็น (opinion) เช่น beautiful, ugly
ขนาด (size) เช่น big, large, small
รูปร่าง (shape) เช่น thin, fat, slender
สี (colour) เช่น black, white, red
อายุ (age) เช่น old, new, ancient
จุดกำเนิด (origin) เช่น French, Siamese, English
จุดประสงค์ (purpose) เช่น shopping, running, jogging
วัสดุ (material) เช่น silk, plastic, wooden
คำตอบ คือ ให้เรียงคุณศัพท์เหล่านี้ไว้หน้าคำนามดังนี้
opinion —> size —> age —> shape —> colour—> origin —> material —> purpose —> NOUN
ตัวอย่าง
A tall Thai medical worker went abroad yesterday by Thai Airways.
นักการแพทย์ชาวไทยร่างสูงคนหนึ่งได้เดินทางไปต่างประเทศเมื่อวานนี้ โดยสายการบินไทย
“Do you see my old brown Persian horse ?”
“No, I don’t.”
คุณเห็นม้าพันธุ์เปอร์เซียสีนํ้าตาลตัวแก่ๆ ของผมไหม
ไม่เห็นเลยครับ
Come and see my small brown Japanese car.
มาดูรถยนต์ญี่ปุ่นสีน้ำตาลคันเล็กของผมสิ
4. มีคำคุณศัพท์บางคำ อาทิ asleep, alone, awake, afraid, ill, well คำคุณศัพท์เหล่านี้วางไว้หลังคำกริยา ไม่วางไว้หน้าคำนาม ซึ่งขัดกับการใช้คุณศัพท์ดังกล่าวมาเบื้องต้น คือ Adjective + Noun ฉะนั้นโครงสร้างประโยคที่มีคุณศัพท์ที่เอ่ยมาทั้ง 6 คำนี้ จึงต้องเป็น
VERB + ADJECTIVE
(โครงสร้างนี้บังคับใช้เฉพาะกับคำคุณศัพท์ทั้ง 6 คำในข้อ 4 เท่านั้น)
ตัวอย่าง He is asleep. เขานอนหลับ
X He is an asleep man.
We are alone. เราอยู่กันตามลำพัง
X We are alone people.
These animals are alive. สัตว์เหล่านี้ยังมีชีวิตอยู่
X They are alive animals.
หากจะนำเอาคำเหล่านี้มาวางไว้หน้าคำนาม (Adjective + Noun) จะต้องเปลี่ยนรูปคำเหล่านี้ใหม่กล่าวคือ ใช้
sleeping แทน asleep living แทน alive
frightened แทน afraid sick แทน ill
healthy แทน well
ตัวอย่าง Do you see that sleeping man?
คุณเห็นผู้ชายคนที่กำลังหลับนั่นไหม
Sick children cannot go to school.
เด็กที่ป่วยไม่สามารถไปโรงเรียนได้
Healthy people are happy.
คนที่สุขภาพดีมีความสุข
Easily frightened animals die young.
สัตว์ที่ขี้กลัวง่ายตายเร็ว
Living animals are fighting for survival.
สัตว์ที่มีชีวิตต่อสู้เพื่อความอยู่รอด
5. กรณีของหน่วยวัด
ในกรณีของหน่วยวัด (units of measurement) คำคุณศัพท์ผสม (compound adjectives คอมพาวดฺ แอ็ดเจ็กทิฟสฺ) ที่เป็นหน่วยวัดเหล่านี้ มักวางไว้หน้าคำนาม ได้แก่
อายุ (age) เช่น a three-year-old building (อาคารอายุ 3 ปี)
ปริมาตร (volume) เช่น a two-litre car (รถยนต์จุน้ำมัน 2 ลิตร)
ความยาว (length) เช่น a twelve-inch ruler (ไม้บรรทัดความยาว 12 นิ้ว)
ราคา (price) เช่น a fifty-baht shirt (เสื้อเชิ้ต ราคา 50 บาท)
น้ำหนัก (weight) เช่น a five-kilo bag (ถุงบรรจุ 5 กิโล)
พื้นที่ (area) เช่น a twenty-rai farm (ฟาร์ม เนื้อที่ 20 ไร่)
ระยะเวลา (duration) เช่น a four-hour meeting (การประชุม ที่ใช้เวลา 4 ชั่วโมง)
ความลึก (depth) เช่น a six-foot hole (หลุมลึก 6 ฟุต)
เวลา (time) เช่น a five-hour walk
(การเดินที่ใช้เวลา 5 ชั่วโมง)
ระยะทาง (distance) เช่น a twenty-kilometre run (การวิ่งระยะทาง 20 กิโลเมตร)
ตัวอย่าง
She’s a seventyTyear-old woman. (1)
=The woman is seventy years old. (2)
หญิงคนนี้อายุ 70 ปี
It is a twelve-inch ruler.
=The ruler is twelve inches long.
ไม้บรรทัดยาว 12 นิ้ว
6. รูปของคำคุณศัพท์
การสังเกตว่าคำนั้นๆ จะเป็นคำคุณศัพท์หรือไม่ ให้คำนึงถึงหลักเกณฑ์ดังนี้
1. คำคุณศัพท์จำนวนมากสังเกตได้จากส่วนประกอบท้ายคำ (suffixes)
ได้แก่
Suffixes
Adjectives
-al
actual
physical
แท้จริง
ทางกายภาพ
Final
special
ท้ายสุด
พิเศษ
-ent
ancient
urgent
โบราณ
ด่วน
frequent
excellent
บ่อย
ดีเลิศ
-ous
famous
various
มีชื่อเสียง
หลายหลาย
serious
conscious
เคร่งเครียด
รู้สึกตัว
-ic
basic
electric
พื้นฐาน
ทางไฟฟ้า
atomic
heroic
ด้านอะตอม
เป็นวีรบุรุษ
-y
angry
hungry
โกรธ
หิว
dirty
funny
สกปรก
น่าขัน
-ive
active
attractive
กระฉับกระเฉง
มีเสน่ห์
expensive
sensitive
แพง
รู้สึกไว
-ed
excited
related
ตื่นเต้น
เกี่ยวพัน
limited
confused
จำกัด
สับสน
-ble
possible
sensible
เป็นไปได้
มีเหตุผล
probable
enjoyable
อาจเป็นได้
น่าสนุก
-ful
beautiful
skillful
สวย
ชำนาญการ
careful
faithful
ระมัดระวัง
ซื่อสัตย์
-an
American
Russian
เป็นอเมริกัน
เป็นรัสเซีย
human
German
เป็นมนุษย์
เป็นเยอรมัน
-ing
amusing
surprising
น่าขบขัน
น่าประหลาดใจ
willing
disappointing
เต็มอกเต็มใจ
น่าผิดหวัง
-less
careless
harmless
ประมาท
ไม่มีอันตราย
childless
senseless
ไม่มีบุตร
สมองทึบ
-ar
popular
familiar
เป็นที่นิยมรักใคร่
คุ้นเคย
regular
particular
สม่ำเสมอ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
-like
childlike
ladylike
เหมือนเด็ก
อย่างสุภาพสตรี
womanlike
flowerlike
เหมือนผู้หญิง
เหมือนดอกไม้
-ish
childish
sheepish
ราวกับเด็ก
ขี้อาย
foolish
snobbish
โง่
วางโอ่ยะโส
(2) คำคุณศัพท์บางคำไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ในข้อ (1) โดยมากมักเป็นคำพยางค์เดียว ได้แก่
large ใหญ่
small เล็ก
old ชรา
young หนุ่มสาว
old เก่า
new ใหม่
long ยาว
short สั้น
hard แข็ง
soft อ่อน
rich รวย
poor จน
hot ร้อน
cold หนาว
black สีดำ
white สีขาว
good ดี
bad เลว
(3) คำนามที่เติมส่วนประกอบท้ายคำด้วย -ly ถือว่าเป็นคำคุณศัพท์ ได้แก่
นาม คุณศัพท์
brother brotherly เป็นพี่น้อง
court courtly ประจบประแจงเอาใจ
earth earthly แห่งโลก
coward cowardly อย่างขลาดเขลา
father fatherly อย่างบิดา
friend friendly อย่างมิตร
heaven heavenly จากฟากฟ้า, จากสวรรค์
king kingly อย่างราชา
man manly อย่างลูกผู้ชาย
master masterly อย่างหลักแหลม
mother motherly อย่างมารดา
neighbor neighborly อย่างเพื่อนบ้าน
saint saintly ใจเมตตาแบบนักบุญ
scholar scholarly อย่างรอบรู้
woman womanly เหมือนผู้หญิง
world worldly แห่งโลก
knight knightly แบบขุนนางหรืออัศวิน
leisure leisurely อย่างสบายๆ
prince princely ราวกับเจ้านาย
queen queenly ราวกับราชินี
(4) คำต่อไปนี้ทำหน้าที่ได้ทั้งคำคุณศัพท์และคำวิเศษณ์ ได้แก่
fast เร็ว (adj.) อย่างเร็ว (adv.)
half ครึ่ง (adj., adv.)
hard ยาก, แข็ง, หนัก, ขยัน (adj.) อย่างหนัก (adv.)
late สาย (adj, adv.)
straight ตรง (adj., adv.)
ตัวอย่าง
(คำเน้นตัวหน้าเป็น adjective ส่วนตัวหลังเป็น adverb)
The plane made a fast trip because it went fast.
เครื่องบินเดินทางได้เร็วเพราะมันบินอย่างเร็ว
You get only half credit for a half-finished test.
คุณได้คะแนนเพียงครึ่งหนึ่งสำหรับการสอบที่สำเร็จเพียงครึ่งเดียว
A hard worker works hard.
คนงานที่ขยันทำงานอย่างหนัก
A late student arrives late.
นักเรียนที่มาเรียนสายก็มาถึงสาย
A straight path goes straight to its end.
เส้นทางตรงพุ่งตรงไปยังปลายทาง
หมายเหตุ คำว่า hardly และ lately เป็นคำวิเศษณ์ มีความหมายต่างไปจาก hard และ late ที่ยกมาข้างต้น กล่าวคือ hardly = แทบจะไม่, lately = เมื่อเร็วๆ นี้
ตัวอย่าง
If you study hard, you will learn.
But if you hardly study, you will not learn.
ถ้าคุณขยันเรียน คุณก็จะเรียนรู้
แต่ถ้าคุณไม่ยอมเรียน คุณก็จะไม่เรียนรู้
Laura often comes to class late.
She has moved here lately.
ลอร่ามาเข้าชั้นเรียนสาย
หล่อนได้ย้ายมาอยู่ที่นี่เมื่อเร็วๆ นี้
(5) คำว่า near เป็นได้ทั้งคำคุณศัพท์ และคำวิเศษณ์ และยังเป็นคำบุพบทด้วย แปลว่า “ใกล้” ส่วน nearly เป็นคำวิเศษณ์ แปลว่า “เกือบจะ” (almost)
ตัวอย่าง
John is a near neighbor of mine. He lives near me.
จอห์นเป็นเพื่อนบ้านข้างเคียงของผม เขาพักอาศัยอยู่ใกล้ผม
Mr.Brown nearly died of pneumonia.
นายบราวน์เกือบจะตายด้วยโรคปอดบวม
ที่มา:รองศาสตราจารย์ทณุ เตียวรัตนกุล
(Visited 53,980 times, 1 visits today)
[NEW] หลักการใช้ Adjective ฉบับเข้าใจง่าย | การเรียง adj – NATAVIGUIDES
หลายคนที่ตั้งใจเข้ามาอ่านในหัวข้อนี้ (บางคนอาจจะหลงเข้ามาก็แล้วแต่) น่าจะรู้จักคำนาม (Noun) กันอยู่แล้ว แต่หากใครที่ยังงงๆอยู่ว่า Noun คืออะไร มีทำไม ไม่มีได้ไหม ลองกลับไปอ่านที่หัวข้อของคำนามก่อนนะครับ
เพราะว่าในหัวข้อนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของ คำคุณศัพท์ (Adjective) ซึ่งไอ้เจ้า Adjective เนี่ย มีหน้าที่ในการขยาย Noun หรือ สรรพนาม (Pronoun) เพื่อให้รายละเอียดให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นครับ
ตามหลักการแล้ว Adjective จะแบ่งออกได้เป็น 11 ประเภท
1. Descriptive Adjective (คุณศัพท์บอกลักษณะ) คือ คำที่ใช้บอกลักษณะของ Noun นั้น
- The rich man’s toys.
ของเล่นของคนรวย ( rich ไปขยาย man มีความหมายได้ว่าคนรวย)
- You are a good student.
เธอเป็นนักเรียนที่ดีนะ (good ไปขยาย student ว่าเธอเป็นนักเรียนแบบไหน)
- I have dark skin.
ฉันมีสีผิวที่คล้ำ (dark ไปขยาย skin ว่าผิวมีสีอะไร)
- Happy meal.
มื้ออาหารที่สุขสำราญ (happy ไปขยาย meal ว่ามื้ออาหารเป็นอย่างไร)
- His death made me feel sorry.
การเสียชีวิตของเขาทำให้ฉัน(มีความรู้สึกที่)รู้สึกผิด (sorry ไปขยาย me ว่าฉันรู้สึกผิด นอกจาก sorry จะแปลว่าเสียใจแล้วยังสามารถแปลได้ว่า ที่รู้สึกผิดได้อีกด้วย)
- This is a red bag.
นี่คือกระเป๋าสีแดง (red ไปขยาย bag ว่ากระเป๋าสีอะไร)
2. Proper Adjective (คุณศัพท์บอกสัญชาติ) คือ คำที่ใช้บอกสัญชาติของ Noun นั้น
- Do you learn Italian language?
คุณเรียนภาษาอิตาเลี่ยนไหม? (Italian ขยาย language)
- Are you Thai?
คุณเป็นคนไทยหรือเปล่า? (Thai ขยาย you)
** สังเกตดู Proper Adjective เมื่อนำมาใช้จะขึ้นต้นด้วยอักษรพิมพ์ใหญ่เสมอ
3. Quantitative Adjective (คุณศัพท์บอกปริมาณ) คือ คำที่ใช้บอกปริมาณของ Noun นั้น ว่ามีจำนวนแค่ไหน มากหรือน้อย
- How much is it?
มันราคา(มาก)เท่าไร? (much ขยาย it จากประโยคเป็นการถามราคาส่วนใหญ่จะนิยมถามด้วย How much?)
- The little white rabbit.
กระต่ายสีขาวตัวน้อย (ประโยคนี้มี Adjective อยู่สองที่ด้วยกัน นั่นคือ little และ white ซึ่งทั้งสองต่างก็ขยาย rabbit)
- ‘Cause all of me loves all of you. (ท่อนหนึ่งจากเพลง All of me ของ John Legend
เพราะทั้งหมดของ(ใจ)ฉัน รักทั้งหมดที่เป็นเธอ (all ขยาย me และ you ด้วยเช่นกัน)
4. Numeral Adjective (คุณศัพท์บอกจำนวนแน่นอน) คือ คำที่ใช้บอกจำนวนที่แน่นอนของ Noun นั้น (อาจแบ่งได้เป็นการบอกจำนวน การบอกลำดับ และการบอกจำนวนเท่า)
- There are seven days in a week.
มี 7 วันในหนึ่งสัปดาห์ (seven ขยาย days)
- Tom is the second son of his family.
ทอมเป็นบุตรคนที่สองครอบครัวของเขา (second ขยาย son)
- The hand has five fingers.
มือมี 5 นิ้ว (five ขยาย fingers)
5. Demonstrative Adjective (คุณศัพท์ชี้เฉพาะ) คือ คำที่ใช้ชี้เฉพาะของ Noun นั้น
- This year
ปีนี้ (This ขยาย year เพื่อบอกว่าปีนี้นะ ไม่ใช่ปีอื่น)
- Those shoes are too expensive.
รองเท้าคู่นั้นราคาแพง (Those ขยาย shoes เพราะรองเท้าไม่ได้แพงทุกคู่)
- That cat is so adorable.
แมวตัวนั้นน่ารัก (That ขยาย cat)
** this (นี้), that (นั้น) สองคำนี้ใช้กับนามเอกพจน์
these (นี้) ,those (นั้น) สองคำนี้ใช้กับนามพหูพจน์
6. Interrogative Adjective (คุณศัพท์บอกคำถาม) คือ คำที่ใช้เพื่อให้ Noun นั้นเป็นคำถาม
- Where are you going?
คุณกำลังจะไปไหนหรอ? (Where ขยาย you เพื่อให้เป็นประโยคคำถาม ถ้าไม่ใช่ประโยคทำถามเราจะใช้ You are going แปลว่าคุณกำลังจะไป)
- How many boys are there in the class?
มีเด็กผู้ชายกี่คนในห้องนี้? (How ขยาย boys เพื่อทำให้เป็นประโยคคำถามและใช้กับ many เป็น How many เพื่อถามถึงจำนวน ประโยคตัวอย่างในข้อนี้มี Adjective หลายประเภทเลยครับ ลองหาดูนะครับว่ามีประเภทไหนบ้าง)
- What is your plan?
คุณมีแผนอะไรบ้าง? (What ขยาย your plan)
** ส่วนมาก Interrogative Adjective จะหมายถึงคำที่ใช้ขึ้นต้นคำถามต่าง พวก WH Question เช่น what, where, why, whose, where, why, how, which
7. Possessive Adjective (คุณศัพท์บอกเจ้าของ) คือ คำที่ใช้บอกความเป็นเจ้าของ ของ Noun นั้น
- This is my pen.
นี่คือปากกาของฉัน (my ขยาย pen บอกเพื่อให้รู้ว่าปากกาเป็นของใคร เป็นการแสดงความเป็นเจ้าของของปากกา)
- I like your hair.
ฉันชอบผมของเธอ (your ขยาย hair เพื่อบอกให้รู้ว่าชอบผมของใคร)
- We have sold our house.
พวกเราขายบ้านของพวกเราแล้ว (our ขยาย house เพื่อให้รู้ว่าขายบ้านใคร)
** อย่าสับสนกับเรื่อง Possessive Pronoun นะครับ จำไว้ว่า Possessive Pronoun สามารถใช้แทน noun ได้เลย แต่ Possessive Adjective ต้องมี noun หรือ pronoun ในประโยคด้วย
8. Distributive Adjective (คุณศัพท์แบ่งแยก) คือ คำที่ใช้กับ Noun เพื่อแยก Noun ออกจากกัน
- Each girl in our class is well-versed in music.
เด็กหญิงแต่ละคนในห้องของพวกเรารอบรู้ในเรื่องของดนตรี (Each ขยาย girl ให้เห็นภาพว่าแต่ละคน)
- Either side is a narrow lane.
ไม่ข้างใดก็ข้างหนึ่งเป็นซอยแคบ (Either ขยาย side โดยแบ่งคำว่า side ออกเป็นสองฝั่ง)
9. Emphasizing Adjective (คุณศัพท์เน้นความ) คือ คำที่ใช้เน้นให้ Noun ฟังดูมีน้ำหนักมากขึ้น
- I saw all this with my own eyes.
ฉันเห็นทั้งหมดมาด้วยตาของฉันเลยแหละ (own ขยาย eyes เป็นการเน้นให้เห็นว่า กับตาของฉันเลยนะ แหม ฟังดูละคงต้องเชื่อเลยทีเดียว)
- He is a very good guy.
เขาเป็นคนดีมากๆ (very ขยาย good guy เพื่อขยายว่าเค้าดีมากๆ ดีจริงๆนะ ดี๊ดี)
10. Exclamatory Adjective (คุณศัพท์บอกอุทาน) คือ คำที่ใช้ขยาย Noun เพื่อให้เป็นคำอุทาน
- What a surprise!
เฮ้ยยย อะไรอ้ะ!!/ เซอร์ไพรส์จัง (เอา what มาขยาย surprise ฟังดูเป็นคำอุทานขึ้นมาเลยเนอะ)
- It’s amazing!
น่าประหลาดใจจังเลย (amazing ขยาย it แต่อาจจะใช้กับอะไรดีเลิศก็ได้นะครับ เช่น เพื่อนบอกว่า “แกๆชั้นได้รางวัลตุ๊กตาทองแดง สาขาดาราวิ่งผ่านกล้องยอดเยี่ยม” แล้วเราจะบอกว่า ดีจังเลยยอดเยี่ยม เราสามารถบอกได้ว่า “It’s amazing!” ครับ)
11. Relative Adjective (คุณศัพท์สัมพันธ์) คือ คำที่ทำหน้าที่คล้ายคำเชื่อม หรือ conjunction แต่ในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่ขยาย Noun ตัวหลังด้วย
- This is the house that Jack built.
นี่คือบ้านที่แจ็คสร้าง ( that ทำหน้าที่เชื่อมประโยค 1) นี่คือบ้าน และ 2) แจ็คสร้าง โดยthat ไปขยาย แจ็ค ว่าเขาสร้างอะไร นั่นคือเขาสร้างบ้าน)
โดยทั่วไปตำแหน่งของ Adjective จะสามารถวางในประโยคได้ด้วยกัน 2 ตำแหน่ง คือ
- วางไว้หน้าคำนามเพื่อขยายคำนามนั้นโดยตรง หรืออาจวางหลังนาม แต่นามนั้นจะต้องทำหน้าที่เป็นกรรมเท่านั้น เช่น That was a good
- วางไว้หลัง Verb to be เช่น It is lovely.
ถ้าพูดถึงในเรื่องของการสอบแล้ว ผมว่าอาจจะจำเป็นสำหรับที่ต้องมาจำว่า Adjective มีกี่ประเภท แต่ละประเภทเรียกว่าอะไร หมายความว่าอย่างไร แต่สำหรับเรื่องของการนำไปใช้แล้วผมว่าแค่เราทราบว่าคำๆนั้นมีเป็น Adjective แล้วเวลาจะเอาไปสื่อสารเราจะเอาไปใช้อย่างไร หรือวางตรงไหนของประโยคได้บ้าง ผมว่าส่วนนั้นสำคัญกว่าครับ
วิชาภาษาอังกฤษ ชั้น ม.4 เรื่อง การเรียงคำคุณศัพท์ (Adjective order)
สำหรับนักเรียนชั้น ป.5 ม.6 ทุกคนที่ต้องการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และคณิตศาสตร์
นักเรียนสามารถทำแบบฝึกหัด และทำแบบทดสอบได้จาก เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันของเรา
Web: https://nockacademy.com/learn/
iOS: https://apple.co/2SKdksn
Android: http://bit.ly/2REzb7w
●สำหรับผู้ปกครองท่านใดที่สนใจ●
http://nockacademy.com
●สำหรับโรงเรียนใดที่สนใจ●
https://nockacademy.com/forschool/
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม
ภาษาอังกฤษเรื่อง Order of Adjectives วิธีจำการเรียง adjectives ที่ง่ายที่สุด โดยใช้เพลง
มาร้องเพลง Order of Adjectives กัน
Well there are…
opinion
size
age
shape
weight
color
origin
material
v.ing
noun
========
Phonics Charts ชาร์ทโฟนิกส์
👉ประหยัดเวลา ลูกเรียนโฟนิกส์ง่ายขึ้น
รวบเสียงโฟนิกส์ 44 เสียง สุดคุ้ม!
🔻 ราคาพิเศษเพียง 239 บาท
✅ คลิกเลย http://bit.ly/2LJCV6D
111 ประโยคอังกฤษสั้นๆ เพื่อผู้เริ่มหัดสนทนา
ติดตาม Facebook Fanpage ครูเชอรี่ English Bright
https://www.facebook.com/cherry.englishbright
English focus : เทคนิคเรียงลำดับ adjective [eng24]
มี adjective 7 คำ ขยาย noun คำเดียว ต้องทำยังไง ‘ครูหญิง ดร.วรกมล มีเพียร’ มีประโยคช่วยจำมาฝาก
The WorkShop : Barista / Coffee shop owner เจ้าของร้านกาแฟ ตอนที่ 1 https://www.youtube.com/watch?v=Vp0gFBY9kEw
The WorkShop : Barista / Coffee shop owner เจ้าของร้านกาแฟ ตอนที่ 2 https://www.youtube.com/watch?v=_EQBqSALZxk
The WorkShop : Barista / Coffee shop owner เจ้าของร้านกาแฟ ตอนที่ 3 https://www.youtube.com/watch?v=uVhsyOurla4
The WorkShop : Barista / Coffee shop owner เจ้าของร้านกาแฟ ตอนที่ 4 https://www.youtube.com/watch?v=Pa9s0GtKi9U
eng24 โครงการวิจัยและพัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ โดยใช้เทคโนโลยีการศึกษาทางไกลและสื่อการเรียนรู้ออนไลน์
Website : http://www.eng24.ac.th
Facebook : http://www.facebook.com/eng24byobec
Line@ เพิ่มเพื่อนโดยพิมพ์คำว่า @eng24
Keyword : English, Englishfocus, TheWorkshop,barista, บาริสต้า, เจ้าของร้านกาแฟ, กาแฟ, coffee shop, coffee,ตำแหน่งadjectiveในประโยค,adjective
08_การเรียงลำดับจำนวน (2) (คณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 บทที่ 1)
วีดิทัศน์นี้จัดทำขึ้นภายใต้โครงการ Project 14 ของ สสวท. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://proj14.ipst.ac.th/
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่MAKE MONEY ONLINE
ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ การเรียง adj