ทํา เนีย บ ครู: คุณกำลังดูกระทู้
The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Published by พีระยา นาวิน , 2020-09-10 10:41:57
Table of Contents
คู่มือครู ภูมิศาสตร์ ม.1
-
1
–
50
-
51
–
100
-
101
–
150
-
151
–
162
Pages:
คู่มือครู ภูมิศาสตร์ ม.1
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขนั้ สอน ๓.๑) แหล่งพืชพรรณและสัตว์ป่ำ ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนียเป็นเกำะและ
หมเู่ กำะทอี่ ยหู่ ่ำงไกลจำกแผน่ ดนิ ใหญ ่ จึงมลี ักษณะพชื พรรณและสัตวป์ ระจำ� ถิ่นท่สี �ำคัญ ดงั น้ี
ขน้ั ท่ี 4 การวเิ คราะหแ์ ละแปลผลขอ้ มลู (ตอ ) (๑) พชื พรรณธรรมชำต ิ ออสเตรเลยี มปี ำ่ ฝนเขตรอ้ นและปำ่ ชำยเลนบรเิ วณ
ทำงเหนือ ป่ำเขตอบอุ่นทำงด้ำนตะวันออก ตะวันออกเฉียงใต้ และเกำะแทสเมเนีย พืชพรรณ
3. ครูใชคําถามเพ่ือใหนักเรียนวิเคราะหเพ่ิมเติม ท่ีส�ำคัญ ได้แก่ ยูคำลิปตัส พบได้ทั้งเขตอำกำศชุ่มชื้นและแห้งแล้ง อำเคเซีย พบท่ัวไปแม้ใน
ถึงแหลงพืชพรรณและสัตวปาของ ทวีป เขตแห้งแล้ง ส่วนรอบทะเลทรำยมีทุ่งหญ้ำเป็นบริเวณกว้ำง นิวซีแลนด์ ส่วนใหญ่เป็นป่ำไม ้
ออสเตรเลียและโอเชยี เนยี เชน เขตอบอุ่น ซ่งึ เปน็ ปำ่ ไม้ผลัดใบและป่ำสน บริเวณตะวนั ตกเฉียงใตข้ องเกำะเหนอื มปี ำ่ ดบิ ชนื้ หรอื
•ï ปาไมในทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย มี ปำ่ ฝน ในเขตท่รี ำบแคนเทอรเ์ บอรีของเกำะใตม้ ีทุง่ หญำ้ เขตอบอุ่น หมู่เกำะอื่น ๆ มปี ่ำไมน้ อ้ ยมำก
ลกั ษณะตามพืน้ ที่ตางๆ อยางไร เนอื่ งจำกสว่ นใหญเ่ ปน็ เกำะทมี่ เี นอื้ ทข่ี นำดเลก็ ในแถบมรสมุ มปี ำ่ ดบิ ชน้ื บรเิ วณชำยฝง่ั มปี ำ่ ชำยเลน
(แนวตอบ ปาไมในทวีปออสเตรเลียและ โดยเฉพำะประเทศปำปัวนวิ กินมี ปี ่ำดบิ ชื้นและป่ำชำยเลนขนึ้ อยหู่ นำแนน่ นอกจำกน้ ี บริเวณพ้ืนท่ี
โอเชียเนียมีปาฝนเขตรอนและปาชายเลน ชำยฝั่งมตี น้ มะพร้ำวข้นึ อยู่ทั่วไป
บริเวณทางเหนือ ปาเขตอบอุนทางดาน (๒) สตั วป์ ระจ�ำถิ่น ออสเตรเลยี เปน็ เกำะขนำดใหญท่ ่ีห่ำงไกลจำกแผ่นดิน
ตะวันออก ตะวันออกเฉียงใต และเกาะ ใปหำ่ ญดิง่ โทก1�ำ ในหก้มอีสมี ัต1ู วน์ปวิ รซะีแจล�ำถนิ่นดแ์ มตีสกตัตว่ำท์งจ่เี ปำกน็ ทสวัญปี ลอักนื่ ษ ณเชข์ น่ อ งจปิงรโจะ ้เทโคศอ ำคลือำ นตกุน่ กปีวำ ี กซเ่งึปเ็ดป ็นวนอกมขแนบำตด กสลนุ ำขัง
แทสเมเนยี นิวซแี ลนด สว นใหญเ ปนปา ไม บินไม่ได้ มีขำแข็งแรงส�ำหรับว่ิงหำกินในตอนกลำงคืน และมีนกอ่ืน ๆ อีกมำกกว่ำ ๒๕๐ ชนิด
เขตอบอุน และหมเู กาะอน่ื ๆ มปี า ไมนอย หมู่เกำะอ่ืน ๆ เป็นเกำะท่ีต้ังอยู่ห่ำงไกลจำกแผ่นดินใหญ่ ท�ำให้สัตว์มีวิวัฒนำกำรเฉพำะถิ่น
มาก เนอ่ื งจากเปน เกาะทม่ี ีเนื้อท่ีขนาดเล็ก) มีสัตว์บกน้อยมำก แต่มนี กหลำยชนดิ โดยเฉพำะนกทะเลทีม่ ถี น่ิ ทอี่ ยู่ในบริเวณน้ี
ï• ในทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย มีการใช ๓.๒) กำรใชป้ ระโยชนจ์ ำกปำ่ ไม้ ออสเตรเลยี มกี ำรใชย้ คู ำลปิ ตสั ในอตุ สำหกรรม
ประโยชนจากปาไมอยางไร กระดำษ ทงุ่ หญ้ำรอบทะเลทรำยส่วนใหญ่ใชป้ ระโยชน์ในด้ำนกำรเล้ยี งสัตว ์ โดยเฉพำะกำรเลี้ยงโค
(แนวตอบ ออสเตรเลียมกี ารใชย คู าลิปตสั ใน และแกะ ในนวิ ซแี ลนดป์ ำ่ ไมธ้ รรมชำตถิ กู ทำ� ลำย
อุตสาหกรรมกระดาษ บริเวณทุงหญารอบ ไปมำก ปำ่ ทมี่ อี ยใู่ นปจั จบุ นั คอื ปำ่ ทปี่ ลกู ขนึ้ ใหม ่
ทะเลทรายสว นใหญใ ชป ระโยชนใ นดา นการ สว่ นมำกเปน็ ป่ำไมเ้ น้ืออ่อน โดยกว่ำรอ้ ยละ ๗๐
เลย้ี งสตั ว นวิ ซแี ลนด สว นมากเปน ปา ทปี่ ลกู
ข้ึนใหม เปนไมเนื้อออน นิยมทําเปนไมอัด
กระดาษ หรือเฟอรน ิเจอร)
ของไม้ท่ีได้จำกกำรเพำะปลูกถูกส่งออกใน
รูปแบบของท่อนไม้ เศษไม้ ไม้ขนำดใหญ ่
เนื้อไม้ ไม้อัด แผ่นไม้ รวมถึงกระดำษ และ
อุตสำหกรรมขั้นสูงขึ้น เช่น เฟอร์นิเจอร์ ส่วน
ทงุ่ หญำ้ เขตอบอนุ่ ในบรเิ วณทรี่ ำบแคนเทอรเ์ บอรี
เปน็ หญำ้ ทไี่ มม่ คี ณุ ภำพ จงึ ตอ้ งปลกู หญำ้ ทเ่ี หมำะ
ก ำรปลกู ป่ำเพอ่ื กำรคำ้ ในประเทศนิวซีแลนด์ แก่กำรเลี้ยงสัตว์
86
นักเรียนควรรู กจิ กรรม ทาทาย
1 สนุ ขั ปา ดงิ โก สนุ ขั ปา ทพี่ บไดเ ฉพาะที่ออสเตรเลีย มรี ปู รา งหนา ตาคลาย ครูเพิ่มเติมขอมูลนกกีวีซึ่งเปนสัตวปาสําคัญที่เปนเอกลักษณ
สนุ ขั บา น สนั นษิ ฐานวา บรรพบรุ ษุ สบื เชอื้ สายมาจากสนุ ขั บา นของแถบอนิ โดนเี ซยี ของประเทศนวิ ซีแลนด เชน
ไดเ ขา มาอยูที่ออสเตรเลียเมื่อประมาณ 5,000 ปกอ น สุนขั ปา ดงิ โกมนี ิสยั ดุราย
และปราดเปรียวมาก ปจ จุบันตกอยูในสภาวะเสย่ี งตอ การสูญพนั ธุ นกกวี ี เปน นกจาํ พวกทไ่ี มม ปี ก จงึ บนิ ไม
2 นกอีมู นกท่ีบินไมได มีลักษณะคลายนกกระจอกเทศ มีถิ่นกําเนิดใน ได มีขนสนี ้าํ ตาลหรอื เทา ชาวเมารีตง้ั ช่อื กวี ี
ประเทศออสเตรเลีย เปน นกทส่ี ามารถว่งิ ไดเ รว็ มาก ประมาณ 50-6- กม./ชม. ตามเสยี งรอ งของมนั พบไดเ ฉพาะทป่ี ระเทศ
ขนมีสีน้าํ ตาลเขม ถึงดาํ ขนาดโตเต็มท่ีประมาณ 1.5 เมตร ตวั ผมู กั มีขนาดใหญ นิวซีแลนด ชอบอาศัยอยูตามปาชื้นหรือ
กวาตัวเมยี อาหารหลัก คือ ผลไม ลกู ไม และแมลง หนองนา้ํ มกั ทาํ รงั อยใู นโพรงดนิ หรอื โพรงไม
ออกหากนิ เวลากลางคนื อาหารหลกั คอื ไสเ ดอื น หนอน และแมลง
T90 จะออกไขฤดลู ะ 1 ฟอง จึงทาํ ใหจาํ นวนนกกวี เี พม่ิ ขึ้นชา
จากนั้นใหนักเรียนไปสืบคนสัตวชนิดอื่นของประเทศ
นิวซีแลนด โดยมีขอมูลเกี่ยวกับลักษณะทั่วไป ท่ีอยูอาศัยและ
อาหาร การแพรพนั ธแุ ละการอนรุ กั ษ บนั ทกึ สาระสาํ คัญนํามาเลา
ใหเพื่อนในชั้นเรยี นฟง
นาํ สอน สรุป ประเมนิ
4) แร่และแร่พลังงำน ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนียมีทรัพยำกรแร่ ท้ังบนบก ขน้ั สอน
และใต้ทะเลลึก รวมท้ังแก๊สธรรมชำติและน้�ำมนั ดิบ ในประเทศหมู่เกำะต่ำง ๆ กำรส�ำรวจเหมือง ขนั้ ที่ 4 การวเิ คราะหแ์ ละแปลผลขอ้ มลู (ตอ )
และแหลง่ แรไ่ ดส้ ร้ำงผลกระทบต่อสิง่ แวดล้อมเปน็ อยำ่ งมำก เนื่องจำกขำดกำรจดั กำรท่ีด ี
แผนทแ่ี สดงแหลงแรแ ละแรพ ลังงานทส่ี ำคญั ของทวปี ออสเตรเลยี และโอเชียเนย� 4. ครใู หน กั เรยี นวเิ คราะหแ ละเชอ่ื มโยงถงึ ลกั ษณะ
ทรัพยากรธรรมชาติประเภท “แรและแร
ปาปวนิวกนิ ี หมูเกาะโซโลมอน ม ห า ส มุ ท ร พลังงาน” จากแผนท่ีแสดงแหลงแรและแร
แ ป ซิ ฟ ก พลังงานท่ีสําคัญของทวีปออสเตรเลียและ
โอเชียเนีย จากหนงั สือเรยี นภมู ศิ าสตร ม.1
10 Sํ ทะเลตมิ อร 10 ํS
ขน้ั ท่ี 5 การสรปุ เพอื่ ตอบคาํ ถาม
ท ะ เ ล ค อ รั ล วานวู าตู ฟจี
1. นักเรียนและครูรวมกันสรุปความรู และตอบ
20 Sํ นิวแคลิโดเนยี เสนทรอปก ออฟแคปรคิ อรน 20 ํS คาํ ถามเชิงภูมิศาสตร
ออสเตรเลยี 2. ครูใหนักเรียนรวมกันทําใบงานที่ 3.3 เร่ือง
ทรัพยากรธรรมชาติของทวีปออสเตรเลียและ
โอเชยี เนยี เพอื่ ทดสอบความรู จากนั้นรว มกัน
ตรวจสอบความถูกตองของใบงาน
30 ํS 30 ํS ขนั้ สรปุ
แรพลังงาน ท ะ เ ล แ ท ส มั น 1. ครแู ละนักเรียนรวมกันสรุปความรู
2. ครใู หน กั เรยี นทาํ แบบฝก สมรรถนะฯ ภมู ศิ าสตร
40 Sํ แร ถา นหนิ ยูเรเน�ยม ปโตรเลียม นิวซีแลนด 40 ํS
ม.1 เรอื่ ง ลกั ษณะกายภาพของทวปี ออสเตรเลยี
ทองคำ เหลก็ นิกเกลิ มาตราสว น 1 : 52,000,000 และโอเชียเนีย
มทเงอนิ หงแาดงส มุ ท รดอะีบอลกุิ ูมนิเนเย� ดมี ย แมงกานส�
ฟอสฟอรสั N 0 500 1,000 กม.
110เพํEชรพลอย 120ตะํEกั�ว/สงั กะสี 130 Eํ 140 ํE 160 Eํ 170 ํE 180 Eํ 4แบบฝก ที่ ดูภาพ แลวตอบคาํ ถาม 5คะแนนเต็ม
3 (แนวตอบ)
4.๑) ออสเตรเลยี มที รพั ยำกรแรห่ ลำยชนดิ ตำมแนวชำยฝง่ั ทะเล แกส๊ ธรรมชำติ 12
และปโิ ตรเลยี มทำงตอนกลำงของประเทศ รวมถงึ แหลง่ แรอ่ กี หลำยชนดิ ทว่ั ทงั้ ภมู ภิ ำค ออสเตรเลยี
จงึ เปน็ ผูส้ ่งออกถ่ำนหินและอะลมู เิ นียมรำยใหญ่ของโลก เขตภมู ิอากาศแบบทะเลทราย เขตภูมิอากาศแถบศนู ยสตู ร เขตภมู อิ ากาศแบบเมดเิ ตอรเ รเนยี น
1. เขตภูมอิ ากาศแบบทะเลทราย แถบศูนยสตู ร และแบบเมดิเตอรเ รเนียนพบไดในบรเิ วณใดของ
ทวปี ออสเตรเลยี และโอเชียเนีย
4.๒) หมเู่ กำะเมลำนีเซีย มที รพั ยำกรแร่ เชน่ วำนูวำตมู ีแรแ่ มงกำนสี ทองแดง …………À….ÁÙ….ÍÔ….Ò…¡…Ò…È….á….º…..º….·….Ð…à..Å….·….Ã…Ò…Â…..:..µ…..Í…¹…..¡…Å….Ò…§…¤….Í‹ …¹…..ä..»….·….Ò…§…µ…..Ð…Ç…¹Ñ ….µ….¡….¢…Í….§…·….Ç…»Õ……á….¶….º….È….¹Ù….Â….Ê….µÙ ….Ã….:…µ….Í….¹….à..Ë….¹….Í×…. เฉฉบลบั ย
.¢…Í….§….»….Ò…»…..˜Ç…¹….Ç.Ô …¡….¹Ô ….áÕ….Å….Ð….Ë….Á….Ù‹à..¡….Ò…Ð….µ….‹Ò…§…..æ……á…..º….º….à..Á…..´….Ôà..µ….Í….Ã….à..Ã….à..¹….ÂÕ….¹……:…µ….Í….¹….ã…µ….Œ¢….Í…§….»….Ã….Ð…à..·…..È….Í….Í….Ê…à…µ….Ã….à..Å….ÕÂ……..
2. พชื พรรณในเขตเมดเิ ตอรเ รเนยี นเปน แบบใด และเขตเมดเิ ตอรเ รเนยี นมคี วามสาํ คญั ตอ ประเทศ
ออสเตรเลียอยางไร
ทองคำ� ซง่ึ กำรทำ� เหมอื งทองคำ� ได้ส่งผลกระทบตอ่ ส่ิงแวดล้อมเป็นอย่ำงมำก …………à..»…..¹š….¾…..ª× ..ã…º….à..Å….¡ç……Á….¼Õ….ÔÇ….Á….¹Ñ ……ä..´….ጅ..¡…‹..¾…..ª×…µ….Ã….Ð…¡….ÅÙ ….Ê…ÁŒ……Í….§…¹.‹Ø ……á….Å….Ð…Á….Ð…¡….Í….¡……â..´….Â….à…¢…µ….à..Á…..´….àÔ ..µ….Í….Ã…à…Ã…à..¹…..ÂÕ….¹….à..»…..¹š ….
.à..¢….µ….à..¾…..Ò…Ð…»….Å….¡Ù….¼….Å….ä..Á….·.Œ ….ÕÊè….Òí…¤….ÞÑ……¢…Í….§…Í….Í….Ê…à…µ….Ã….à..Å….ÂÕ ………………………………………………………………………………………………………………………
4.๓) หมเู่ กำะไมโครนเี ซยี มที รพั ยำกรแรไ่ มม่ ำกนกั พบสนิ แรฟ่ อสเฟต รวมถงึ 3. เพราะเหตุใดปา ไมใ นประเทศปาปว นวิ กินจี งึ เปน ปา ดิบชนื้ หรือปา ฝน
…………»…..Ò…»….ǘ…¹…..ÇÔ…¡….¹Ô….Õ..à..»….¹š…..»….Ã….Ð…à..·….È….·…..Õµè….§éÑ….Í…Â….ã‹Ù..¡….Å….àŒ..Ê….¹Œ….È…..¹Ù ….Â….Ê….µÙ ….Ã…..·…..Òí…ã..Ë….ÁŒ….Í.Õ …³Ø…..Ë…..À….ÁÙ ….ÊÔ….§Ù …á….Å….Ð…Á….½Õ….¹…..µ….¡….ª…Ø¡….µ….Å….Í….´….
.·….Ñ.§é …»….‚..¨….§Ö…·…..Òí …ã..Ë….¾Œ…..ª× …¾….Ã…Ã….³…..à..»…..¹š ….»….Ò†….´….ºÔ ….ª..×.¹é….Ë….Ã….×Í….»….Ò†…½…..¹……………………………………………………………………………………………………………….
4. ภูมอิ ากาศแบบทะเลทรายมลี กั ษณะเดน อยา งไร Geo Tips
…………Á….Õ.Í….س……Ë….À….Ù.Á….ÔÊ….Ù.§…á…..Å….Ð….»…..Ã…Ô.Á….Ò….³……½….¹…..µ…..èíÒ…….Í….Ò….¡….Ò…È…..¨….Ð….Ã….ŒÍ….¹…..á…..Å….Ð..
.á….Ë…..§Œ …á….Å….§Œ…..¾….º…..¾….ª×…ä..´….Œ.ã…¹….à..¢…µ…..â..Í….à..Í….«….ÊÔ …………………………………………………………………
แร่มีคำ่ ในทะเล เช่น ทองค�ำบริเวณชำยฝงั่ ทะเลของประเทศปำเลำและหมเู่ กำะมำร์แชลล์ 5. ประโยชนท่ีนักเรียนไดรับจากการเรียนรูเรื่องภูมิอากาศและ เขตภูมิอากาศแบบทะเลทราย
พชื พรรณธรรมชาติในทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี คอื อะไร มีประชาชนอาศัยอยูเบาบางมาก
…………·…..íÒ…ã…Ë….Œ·…..Ã….Ò…º…..Ê….À….Ò…¾…..À….ÙÁ….ÔÍ….Ò….¡….Ò…È….á…..Å….Ð…¾…..ת…»…..Ã…Ð….¨…í.Ò…¶….Ôè¹…..¢…Í….§….·….Ç….Õ»… สว นใหญอ าศยั อยตู ามเขตโอเอซสิ
.Í….Í….Ê…à…µ….Ã…à…Å…ÂÕ….á…..Å…Ð…â…Í…à…ª..ÕÂ….à..¹…..ÂÕ….ã..¹….á….µ…..Å‹….Ð…¾….¹×é….·…..Õ·è….ÕÁè….¤.Õ ….Ç…Ò…Á….á….µ…..¡…µ…..Ò‹…§…¡….¹Ñ… เนื่องจากมีน้ําเพียงพอตอการ
.á….Å….Ð…¹…..Òí…ä..»…..à..»….¹š…..¢…ÍŒ….Á….ÅÙ ….»….Ã….Ð…¡….Í…º…..¡….Ò…Ã…È….¡Ö….É…..Ò…Ë….Ã….×Í….¡….Ò…Ã…·…..Í‹ …§….à..·….ÕÂè….Ç….ä..´….Œ. ดาํ รงชีวิต
4.4) หมเู่ กำะโปลนิ เี ซยี มที รพั ยำกรแรท่ ส่ี ำ� คญั เชน่ นิวซีแลนด์มีสินแร่เหล็ก 37
เงิน ทองค�ำ ถำ่ นหิน แก๊สธรรมชำติ โดยมีกำรใช้ถ่ำนหนิ เปน็ แหลง่ เชื้อเพลิงเพื่อผลติ กระแสไฟฟำ้ ขนั้ ประเมนิ
และกำรผลติ กระแสไฟฟำ้ จำกพลังน�ำ้ นอกจำกน ี้ ยังพบแหลง่ น้ำ� มันใต้ทะเลของตองกำ
1. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม
8๗ การรว มกนั ทาํ งาน และการนาํ เสนอผลงาน
2. ครตู รวจสอบผลจากการทําใบงาน และ
แบบฝกสมรรถนะภูมศิ าสตร ม.1
กจิ กรรม ทา ทาย แนวทางการวัดและประเมินผล
ครูเพ่ิมเติมขอมูลเก่ียวกับแรบอกไซต อันเปนแรอะลูมิเนียม ครูสามารถวดั และประเมนิ ความเขาใจเนือ้ หา เร่ือง ลักษณะกายภาพของ
ประเภทหนง่ึ ทพ่ี บในทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี สามารถนาํ ไป ทวีปออสเตรเลียและโอเชยี เนยี ไดจ ากการตอบคําถาม การรวมกันทาํ งาน และ
ผสมกับแรธาตุตางๆ เชนทองแดง สงั กะสี แมกนเี ซียม แมงกานสี การนําเสนอผลงานหนาชั้นเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจาก
ซลิ กิ อน เปนตน ในปจ จบุ นั วัสดเุ กอื บทง้ั หมดมแี รอ ะลูมเิ นียมเปน แบบประเมินการนําเสนอผลงานที่แนบมาทายแผนการจัดการเรียนรูหนวยท่ี 3
โลหะผสม สามารถนาํ ไปใชในการสรางยานพาหนะ งานกอสราง เร่ือง ทวีปออสเตรเลยี และโอเชยี เนีย
เครอื่ งจักรกล ไฟฟา แมเ หล็ก อปุ กรณอเิ ล็กทรอนกิ สห รอื สนิ คา ที่
ตอ งการความคงทนมาก เปนตน แบบประเมินการนาเสนอผลงาน
จากน้ันครูใหนักเรียนไปศึกษาขอมูลเพ่ิมเติมเก่ียวกับแรและ คาช้แี จง : ให้ผู้สอนประเมินผลการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แลว้ ขีด ลงในช่องท่ี
แรพ ลงั งานทสี่ าํ คญั ชนดิ อน่ื ๆ ทพี่ บในบรเิ วณทวปี ออสเตรเลยี และ ตรงกบั ระดบั คะแนน
โอเชียเนยี แลวนาํ ขอมูลมานาํ เสนอในชน้ั เรยี น
ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1
32
1 ความถูกตอ้ งของเนือ้ หา
2 การลาดบั ข้นั ตอนของเร่ือง
3 วธิ กี ารนาเสนอผลงานอยา่ งสร้างสรรค์
4 การใช้เทคโนโลยใี นการนาเสนอ
5 การมสี ่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม
รวม
ลงชื่อ……………………………………………ผ้ปู ระเมิน
…………/……………../…………….
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ สมบรู ณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเปน็ สว่ นใหญ่
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางส่วน
เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
12 – 15 ดี T91
8 – 11 พอใช้
ตา่ กว่า 8 ปรบั ปรุง
นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขนั้ นาํ ๑.๖ ลักษณะประชากร
Geographic Inquiry Process พ.ศ. ๒๕๖๐ ทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี มจี ำ� นวนประชำกรประมำณ ๔๐ ลำ้ นคน เฉลย่ี
ควำมหนำแน่นของประชำกรประมำณ ๘๗ คนต่อตำรำงกิโลเมตร จัดเป็นทวีปท่ีมีควำม
1. ครูนําภาพคนเผาพ้ืนเมืองของประเทศ หนำแนน่ ของประชำกรนอ้ ยทส่ี ดุ ในโลก แตป่ ระชำกรมคี วำมหลำกหลำย เนอ่ื งจำกมที ง้ั ชำวพนื้ เมอื ง
ออสเตรเลยี นวิ ซแี ลนด มาใหน กั เรยี นวเิ คราะห และผู้ท่ีอพยพเข้ำมำตั้งถ่ินฐำนจำกประเทศต่ำง ๆ จึงมีควำมแตกต่ำงท้ังด้ำนภำษำ ควำมเชื่อ
ความแตกตางของประชากรดังกลาว ประเพณี และวัฒนธรรม
2. ครูอธิบายเพ่ิมเติมเก่ียวกับลักษณะของ ๑) กำรต้ังถ่ินฐำนและกำรกระจำยของประชำกร ทวีปออสเตรเลียมีควำม
ประชากรเผาดงั้ เดมิ และคนทอ่ี พยพเขา ไปอยู
ของทวีปออสเตรเลียและโอเชยี เนยี หนำแน่นของประชำกรน้อย เนื่องจำกสภำพภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นท่ีรำบสูงและทะเลทรำย
ซ่ึงผู้คนส่วนใหญ่นิยมต้ังถิน่ ฐำนบรเิ วณที่รำบชำยฝัง่ ทะเล
3. ครถู ามคําถามกระตนุ ความคิด เชน
•ï เพราะเหตใุ ดประชากรในทวปี ออสเตรเลยี จงึ แผนท่แี สดงการกระจายของประชากรในทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนย�
อาศัยอยูหนาแนนในแถบชายฝงทะเลดาน
ตะวนั ออก 0ํ 0ํ
(แนวตอบ เพราะบริเวณดังกลา วมภี มู ิอากาศ
เหมาะสม คือ อบอุนขนึ้ และสะดวกตอ การ 10 ํS ทะเลตมิ อร ปาปวนิวกินี หมูเกาะโซโลมอน ม ห า ส มุ ท ร
คมนาคมและการประกอบอาชีพคาขาย แ ป ซิ ฟ ก
และเปนศูนยก ลางทางเศรษฐกิจ) พอรตมอรสบี โฮนอี ารา
• เพราะเหตุใดสังคมและวัฒนธรรมในทวีป 10 Sํ
ออสเตรเลียและโอเชยี เนยี จงึ มีลักษณะแบบ
ผสมผสานของหลายวฒั นธรรม ท ะ เ ล ค อ รั ล วานูวาตู
(แนวตอบ เพราะมีประชากรจากดินแดน
ตา งๆ มาอาศยั อยู เชน ชาวยโุ รป ชาวเอเชยี พอรต วลิ า ฟจ ี
ชาวหมเู กาะ) นิวแคลิโดเนีย ซูวา
20 ํS เสนทรอปก ออฟแคปรคิ อรน 20 Sํ
ขนั้ สอน
ออสเตรเลีย
ขนั้ ท่ี 1 การตงั้ คาํ ถามเชงิ ภมู ศิ าสตร์
30 Sํ 30 ํS
1. นกั เรยี นแบงเปน กลุม กลุม ละ 4 คน แลวให
ศกึ ษาความรเู กย่ี วกบั ลกั ษณะประชากรในทวปี ค�ำอธิบำยสัญลักษณ์ แคนเบอรร า 40 Sํ
ออสเตรเลียและโอเชียเนีย จากหนังสือเรียน ท ะ เ ล แ ท ส มั น
ภูมศิ าสตร ม.1 ตามประเดน็ ตอไปนี้ เมืองหลวง
ï• การตง้ั ถ่ินฐานและการกระจายของ นิวซแี ลนด
ประชากร 40 Sํ ควำมหนำแน่นของประชำกร
ï• การเปลีย่ นแปลงโครงสรางทางประชากร เวลลงิ ตนั
(คน/ตร.กม.)
N มาตราสวน 1 : 52,000,000
น้อยกว่ำ 1 คน
1 – 5 คน 0 500 1,000 กม.
110 Eํ 1202Eํ66 – -1 2050 คคนน 130 ํE
101 – 500 คน 140 Eํ 150 ํE 160 Eํ 170 Eํ 180 Eํ
501 – 1,000 คน
มำกกว่ำ 1,000 คน
จำกแผนท่ีพบว่ำ ประชำกรมีกำรตั้งถ่ินฐำนอย่ำงหนำแน่นและเบำบำงตำมลักษณะ
ภมู ิประเทศ ภมู ิอำกำศ กำรคมนำคมขนสง่ ควำมเจรญิ ของเมือง และแหล่งงำน ดงั น้ี
88
ความรูบูรณาการอาเซียน ขอ สอบเนน การคดิ
ครใู หนกั เรียนศึกษาเก่ียวกับความรว มมืออาเซยี น +6 ซ่งึ เปน ความรว มมอื ปจจัยขอใดที่ทําใหชาวยุโรปอพยพเขามาอยูอาศัยในทวีป
ทางเศรษฐกจิ ระหวางประเทศสมาชกิ อาเซียน 10 ประเทศ รวมกับจีน ญี่ปุน ออสเตรเลยี จาํ นวนมาก
เกาหลใี ต อนิ เดยี และประเทศในทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี คอื ออสเตรเลยี
และนวิ ซีแลนด โดยใหบ ันทึกความรูลงในสมุดตามประเด็นการตัง้ ถิน่ ฐานของ 1. สภาพทางสงั คมดี
ประชากร 2. สภาพทางเศรษฐกจิ ดี
3. มภี มู อิ ากาศคลา ยคลงึ กบั ยโุ รป
4. มเี สถยี รภาพทางการเมอื งมนั่ คง
(วิเคราะหค ําตอบ ชาวยุโรปอพยพเขามาอยูในทวีปออสเตรเลีย
จํานวนมากบริเวณชายฝงดานตะวันออกเฉียงใตของรัฐนิวเซาทเวลส
รฐั วิกตอเรยี และเกาะแทสเมเนยี เนอื่ งจากลักษณะภูมิอากาศมีความ
คลา ยคลงึ กับประเทศในยโุ รป)
T92
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
การตง้ั ถนิ่ ฐานของประชากรในทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ขนั้ สอน
ออสเตรเลีย บริเวณที่มีกำรตั้งถ่ินฐำนของ นิวซีแลนด์ มีประชำกรต้งั ถิ่นฐำนกระจำยอยู่ทงั้ ขนั้ ที่ 1 การตงั้ คาํ ถามเชงิ ภมู ศิ าสตร์ (ตอ )
ประชำกรหนำแนน่ ไดแ้ ก ่ รฐั นวิ เซำทเ์ วลสม์ กี ำร เกำะเหนอื และเกำะใต ้ บรเิ วณทร่ี ำบและเนนิ เขำ
พัฒนำทำงอุตสำหกรรมมำกที่สุด รัฐวิกตอเรีย เตย้ี ประชำกรสว่ นใหญอ่ ำศยั อยู่ในเมอื งใหญถ่ งึ 2. ครูใหนักเรียนแตละกลุมชวยกันต้ังประเด็น
เปน็ เมอื งเศรษฐกจิ ขนำดใหญ ่ และรฐั แทสเมเนยี ร้อยละ ๘๖.๓ เชน่ เมืองโอกแลนด์มปี ระชำกร คําถามทางภมู ิศาสตร เพื่อคน หาคําตอบ เชน
มีควำมหนำแน่นประชำกรมำกในเขตเมือง อำศัยอยูจ่ ำ� นวนมำก เน่อื งจำกเปน็ เมืองทำ่ และ •ï เพราะเหตใุ ดทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี
ถึงร้อยละ ๘๙.๖ เน่ืองจำกพื้นที่มีควำมอุดม เป็นแหลง่ อตุ สำหกรรมสำ� คัญของประเทศ จึงมีความหนาแนนของประชากรนอยท่ีสุด
สมบรู ณแ์ ละมีภมู อิ ำกำศท่เี หมำะสม ในโลก
ï• การตั้งถิ่นฐานของประชากรในทวีป
เ มืองเมลเบิรน์ เมืองหลวงของรัฐวิกตอเรีย ก รุงเวลลงิ ตัน1 ประเทศนวิ ซแี ลนด์ เป็นศูนยก์ ลำง ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี มลี กั ษณะอยา งไร
เปน็ ศูนยก์ ลำงทำงกำรเงนิ มอี ตุ สำหกรรมรถยนต ์ •ï การเปลยี่ นแปลงโครงสรา งทางประชากรใน
อเิ ล็กทรอนกิ ส ์ และสง่ิ ทอ กำรเงนิ กำรค้ำ และกำรคมนำคมขนสง่ ของประเทศ ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนียแตกตางกัน
อยา งไร และเพราะเหตใุ ดจึงเปน เชน นัน้
ปำปวนิวกินี ประชำกรต้ังถ่ินฐำนกระจำยอยู่ หมู่เกำะอื่น ๆ มีกำรตั้งถ่ินฐำนในบริเวณท่ี
ท่ัวไป ประเทศนี้มีทรัพยำกรธรรมชำติอุดม สำมำรถทำ� กำรเพำะปลกู ประมง และเหมอื งแร่ ขน้ั ที่ 2 การรวบรวมขอ้ มลู
สมบูรณจ์ ำกทิวเขำสงู ปำ่ ดิบช้ืน และทรัพยำกร มีบำงประเทศประชำกรอำศัยอยู่ในเมือง เช่น
ทำงทะเล แต่มีประชำกรเพียงร้อยละ ๑๓ ที่ ฟีจี ตูวำลู หมู่เกำะมำร์แชลล์ โดยมีนำอูรูที่ 1. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวบรวมความรูที่ได
อำศยั อยตู่ ำมเมอื งสำ� คญั เชน่ กรงุ พอรต์ มอรส์ บ ี ประชำกรอำศยั อยู่ในเมืองท้ังหมด จากการศึกษามาอภิปรายสรุปประเด็นสําคัญ
และเมอื งลำเอ ของลักษณะประชากรในทวีปออสเตรเลียและ
โอเชยี เนีย
2. นักเรียนแตละกลุมเชื่อมโยงความรูท่ีไดจาก
การศึกษากับภาพประกอบที่เกี่ยวของกับการ
ต้ังถ่ินฐานของประชากรในทวีปออสเตรเลีย
และโอเชียเนีย จากหนังสือเรียนภูมิศาสตร
ม.1 เพิม่ เติม
กรงุ พอร์ตมอรส์ บ2 ี ประเทศปำปัวนิวกนิ ี มีอ่ำวจอดเรือ กรุงซูวำ ประเทศฟจี ี เป็นเมอื งท่ำทำงทะเลที่สำ� คญั ใน
มหำสมุทรแปซฟิ กิ ใต้
กำ� บังลมอย่ำงดี จึงเป็นศนู ย์กลำงกำรคำ้ ที่ส�ำคญั
89
ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู
เมืองใดในประเทศนวิ ซแี ลนดท เี่ ปน เมอื งใหญท ี่สุดและมีความ 1 เวลลิงตนั เมอื งหลวงของประเทศนวิ ซแี ลนด ตง้ั อยูทางตอนใตของเกาะเหนือที่
สาํ คัญในดา นใด อา วพอรต นโิ คลสนั บรเิ วณชอ งแคบคกุ เปน ศนู ยก ลางการเงนิ การคา และการคมนาคม
ขนสง ของประเทศ ไดร บั การสถาปนาเปน เมอื งหลวงตอ จากเมอื งโอกแลนด เมอื่ ป 1865
1. เมอื งเวลลิงตัน มีความสาํ คัญดา นอุตสาหกรรม 2 พอรตมอรสบี เมืองหลวงของประเทศปาปวนิวกินี ต้ังอยูบริเวณฝงตะวันออก
2. เมืองโอกแลนด มคี วามสําคัญดา นพาณิชยกรรม เฉยี งใตข องอา วปาปว มอี า วจอดเรอื กาํ บงั ลมอยา งดี เปน ศนู ยก ลางการคา กปั ตนั จอหน
3. เมอื งไครสตเชริ ช มีความสําคัญดา นเกษตรกรรม มอรส บี นกั เดนิ เรอื ชางอังกฤษไดสํารวจอาวจอดเรอื บรเิ วณนีใ้ น ค.ศ. 1873 ระหวา ง
4. เมืองแสตมปฟ อรด มคี วามสาํ คัญดานการทําปา ไม สงครามโลกครง้ั ที่ 2 เมืองนี้เคยเปนฐานทีต่ ัง้ ชองฝา ยสัมพันธมิตร
(วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เมืองโอกแลนดเ ปน เมอื งทาทใี่ หญ
ท่ีสุดของนิวซีแลนด ต้ังอยูบริเวณที่ราบตอนเหนือของเกาะเหนือ
มีความสําคญั ทางดา นพาณชิ ยกรรม)
T93
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขน้ั สอน ๒) กำรเปลยี่ นแปลงโครงสรำ้ งทำงประชำกร ประชำกรสว่ นใหญใ่ นทวปี ออสเตรเลยี
ขน้ั ท่ี 3 การจดั การขอ้ มลู และโอเชียเนียสืบเชื้อสำยมำจำกชำวยุโรปที่อพยพเข้ำมำต้ังถ่ินฐำนในทวีปออสเตรเลียต้ังแต่
คริสต์ศตวรรษที่ ๑๘ โดยหลังสงครำมโลกคร้ังที่ ๒ ถึง พ.ศ. ๒๕๔๓ มีผู้อพยพเข้ำมำอำศัยอยู่
1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลที่ตนไดจาก ในเครอื รฐั ออสเตรเลยี เพม่ิ มำกถงึ ๕.๙ ลำ้ นคน ประชำกรเกอื บ ๒ ใน ๗ คน ของเครอื รฐั ออสเตรเลยี
การรวบรวม มาอธิบายแลกเปล่ียนความรู เกิดในต่ำงประเทศ และระหว่ำง พ.ศ. ๒๕๔๘ – ๒๕๔๙ มีผู้ย้ำยถิ่นเข้ำมำมำกกว่ำ ๑๓๑,๐๐๐ คน
ระหวางกนั สว่ นใหญม่ ำจำกทวปี เอเชียและโอเชียเนยี
ประชำกรในทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี มกี ำรเปลยี่ นแปลงไมม่ ำก ใน พ.ศ. ๒๕๖๐
2. สมาชกิ ในกลมุ ชว ยกนั คดั เลอื กขอ มลู ทน่ี าํ เสนอ มีจ�ำนวนประมำณ ๔๐ ล้ำนคน มอี ัตรำเกดิ และอัตรำตำยแตกต่ำงกนั ดงั น้ี
เพอื่ ใหไดขอ มลู ทถ่ี กู ตอง
ภูมิภาค จ�านวนประชากร อตั ราเกดิ อตั ราตาย
(ลา้ นคน) (ต่อ ๑,๐๐๐ คน) (ต่อ ๑,๐๐๐ คน)
๑. เครอื รัฐออสเตรเลีย ๒๔.๕ ๑๓.๐ ๗.๐
๒. หมูเ่ กำะเมลำนเี ซีย ๑๐.๒ ๒๕.๕ ๖.๕
๓. หมู่เกำะไมโครนีเซีย ๐.๓ ๒๐.๐ ๖.๘
๔. หมเู่ กำะโปลนิ ีเซยี ๕.๑ ๒๒.๐ ๖.๘
ทม่ี ำ: www.prb.org (2017 World Population Data Sheet)
จำกตำรำงพบว่ำ เครอื รัฐออสเตรเลยี มีจำ� นวนประชำกรสงู ทส่ี ุด เพรำะเป็นแผ่นดิน
ขนำดใหญ่ มีกำรอพยพเข้ำมำตั้งถิ่นฐำนใหม่ของชำวอังกฤษและชนชำติอื่น ๆ เช่น นิวซีแลนด์
จีน อินเดีย โดยปจั จุบันมีจ�ำนวนประชำกรประมำณ ๒๔.๕ ล้ำนคน ส�ำนักงำนสถิติออสเตรเลียได ้
คำดกำรณว์ ำ่ จำ� นวนประชำกรจะเพมิ่ ขนึ้ ๒ เทำ่ ภำยในระยะเวลำ ๖๐ ป ี (พ.ศ. ๒๖๑๘) รฐั ทคี่ ำดวำ่
จ(พะ.มศีป. ๒ระ๕ช๖ำ๖ก)ร เดพิน่ิมแมดนำกอทอ่ีสสุเดต รคเือลีย รนัฐแเควพสเิททอิรล์นเอทอร์รสิทเตอรร1เี ลซียึ่ง เปข็นณทะตี่เด้ังีขยอวกงกันร ุงใแนคอนีกเ บ๑อ๔ร ร์ ปำ ีขเ้ำปงน็ หเขนต้ำ
ท่ีมีประชำกรน้อยจะมีจ�ำนวนประชำกรมำกกว่ำรัฐแทสเมเนีย ซึ่งเป็นเพียงรัฐเดียวที่คำดกำรณ์ว่ำ
จะมีจำ� นวนประชำกรลดลง
ส่วนดินแดนท่ีเป็นเกำะและหมู่เกำะต่ำง ๆ มีประชำกรไม่มำก เน่ืองจำกส่วนใหญ ่
มีเนื้อที่ขนำดเล็ก โดยภูมิภำคหมู่เกำะเมลำนีเซีย ประเทศที่มีจ�ำนวนประชำกรมำกท่ีสุด คือ
ปำปวั นิวกิน ี มีประชำกรประมำณ ๘.๓ ล้ำนคน รองลงมำ คอื ฟีจ ี และหม่เู กำะโซโลมอน ภมู ิภำค
หมู่เกำะไมโครนีเซีย เป็นภูมิภำคท่ีมีจ�ำนวนประชำกรน้อยที่สุด ประเทศที่มีประชำกรมำกที่สุด
คอื คิริบำตี มปี ระชำกรประมำณ ๐.๑ ลำ้ นคน รองลงมำ คอื ไมโครนเี ซยี และหมเู่ กำะมำรแ์ ชลล์
สว่ นภมู ภิ ำคหมเู่ กำะโปลนิ เี ซยี ประเทศทม่ี ปี ระชำกรมำกทสี่ ดุ คอื นวิ ซแี ลนด ์ มปี ระชำกรประมำณ
๔.๘ ลำ้ นคน รองลงมำ คือ ซำมวั และตองกำ ตำมล�ำดบั
90
นักเรียนควรรู กิจกรรม ทาทาย
1 ดินแดนออสเตรเลียนแคพิทอลเทรริทอรี (Australian Capital Territory) ครูอธิบายเพิ่มเติมวา ออสเตรเลียเคยมีนโยบายเก่ียวกับ
ดินแดนในประเทศออสเตรเลีย เดิมช่ือ เฟเดอรลั แคพิทอลเทรร ทิ อรี (Federal “ไวตอ อสเตรเลยี ” หรือออสเตรเลยี ขาว (White Australia Policy)
Capital Territory) ครอบคลมุ เน้อื ท่ีทัง้ ส้ิน 2,431 ตารางกโิ ลเมตร ประกอบไป ซง่ึ เปน นโยบายกดี กนั คนสผี วิ อน่ื อพยพเขา มาตง้ั ถน่ิ ฐานในประเทศ
ดว ยพ้นื ที่ 2 สวน สวนหน่งึ เปน ท่ตี ั้งของกรุงแคนเบอรรา และพน้ื ท่ีบรเิ วณโดย ออสเตรเลีย เนื่องจากมีผูคนเช้ือชาติตางๆ อพยพเขามาใน
รอบ อกี สวนหนึง่ อยทู ่อี าวเจอรว ิส อันเปน ดนิ แดนทีร่ ฐั บาลกลางใหค วามดูแลอยู ออสเตรเลียจาํ นวนมาก โดยเฉพาะภายหลังสงครามโลกครัง้ ท่ี 2
แตน โยบายน้ไี ดถกู ยกเลิกไปใน พ.ศ. 2516 จากนัน้ ครใู หนกั เรียน
ไปศกึ ษาขอ มลู เพมิ่ เตมิ เกย่ี วกบั การตงั้ ถนิ่ ฐานหรอื การเดนิ ทางเขา
ประเทศออสเตรเลยี วา มขี อ แมห รอื ขอ จาํ กดั อะไรบา ง แลว นาํ ขอ มลู
มาเลาในชน้ั เรยี น
T94
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ในด้ำนอัตรำเกิด1 แต่ละภูมิภำคมีอัตรำเกิดไม่เท่ำกัน เช่น ออสเตรเลีย มีอัตรำ ขนั้ สอน
เกิดน้อย ถึงแม้ว่ำภำครัฐจะมีนโยบำยให้เงินเพื่อส่งเสริมกำรมีบุตร แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้อัตรำเกิด
เพมิ่ ขน้ึ มำก อตั รำเกดิ สว่ นใหญเ่ กดิ จำกชำวตำ่ งชำตทิ อ่ี พยพเขำ้ มำอำศยั อยมู่ ำกขน้ึ สว่ นในหมเู่ กำะ ขนั้ ที่ 4 การวเิ คราะหแ์ ละแปลผลขอ้ มลู
ไมโครนเี ซยี มอี ตั รำเกดิ สงู เพรำะขำดกำรวำงแผนครอบครวั และตอ้ งกำรเพม่ิ จำ� นวนประชำกรเพอื่
ไว้เปน็ แรงงำนใในนดคำ้ รนออบัตครรำวั ตำย2 สำเหตุกำรตำยของประชำกรในออสเตรเลีย นอกจำกเสยี ชวี ติ ตำม 1. ครใู หส มาชกิ แตล ะกลมุ นาํ ขอ มลู ทกี่ ลมุ รวบรวม
ธรรมชำติแล้ว ยังเกิดจำกโรคภัยไข้เจ็บ เช่น โรคมะเร็ง โดยเฉพำะมะเร็งผิวหนัง ซึ่งออสเตรเลีย มาไดท าํ การวเิ คราะหร ว มกนั เพอื่ อธบิ ายคาํ ตอบ
เป็นประเทศหน่ึงที่มีผู้ป่วยโรคมะเร็งผิวหนังสูงท่ีสุดในโลก เนื่องจำกผู้คนนิยมอำบแดดในฤดูร้อน
ท่ีอำจมีอุณหภูมิสูงกว่ำ ๔๐ องศำเซลเซียส ท�ำให้ ในแต่ละปีมีผู้ป่วยเพิ่มจ�ำนวนมำกข้ึน ส่วนใน 2. สมาชิกแตละกลุมรวมกันทําการตรวจสอบ
หมเู่ กำะไมโครนเี ซยี อตั รำตำยสว่ นใหญเ่ กดิ จำกสขุ อนำมยั ท่ีไมด่ ขี องประชำกร โดยเฉพำะโรคอว้ น ความถกู ตอ งของขอ มลู
ซงึ่ ท�ำให้เกดิ โรคภยั อ่ืน ๆ ตำมมำ รวมถึงกำรลม้ ตำยจำกโรคระบำด
ขนั้ ที่ 5 การสรปุ เพอ่ื ตอบคาํ ถาม
ตารางแสดงร้อยละของประชากรวัยเดก็ วยั ทา� งาน และวยั ชรา
ของทวปี ออสเตรเลียและโอเชียเนีย 1. ครใู หน กั เรยี นแตล ะกลมุ นาํ เสนอขอ มลู จากการ
ศึกษาลักษณะประชากรของทวีปออสเตรเลีย
และโอเชียเนยี
2. ครูใหสมาชิกในแตละกลุมรวมกันสรุปสาระ
สําคัญเพื่อตอบคําถามเชิงภูมิศาสตร โดยครู
ชวยชีแ้ นะเพม่ิ เตมิ
ภมู ิภาค ประชากรวัยเดก็ ประชากร ประชากรวยั ชรา
วยั ทา� งาน
(วยั พ่งึ พงิ ) (วยั พึง่ พงิ )
๖๖.๔
๑. เครือรัฐออสเตรเลีย ๑๗.๘ ๖๒.๐ ๑๕.๗
๖๕.๗ ๔.๗
๒. หมู่เกำะเมลำนเี ซยี ๓๓.๓ ๖๒.๙ ๔.๓
๘.๒
๓. หมู่เกำะไมโครนีเซีย ๓๐.๐
๔. หมูเ่ กำะโปลินีเซีย ๒๘.๙
ที่มำ: The World Almanac and Book of Facts, 2017
จำกตำรำงพบวำ่ ประชำกรวยั เดก็ มจี ำ� นวนนอ้ ยทส่ี ดุ ในประเทศออสเตรเลยี เนอ่ื งจำกมี
อตั รำเกดิ ตำ�่ สว่ นหมเู่ กำะอน่ื ๆ มอี ตั รำเกดิ สงู จงึ ทำ� ใหม้ จี ำ� นวนประชำกรวยั เดก็ มำกกวำ่ รอ้ ยละ ๒๘
ซึ่งเป็นวัยพึ่งพิงที่ต้องให้กำรดูแล ส�ำหรับประชำกรวัยแรงงำนมีอัตรำร้อยละไม่แตกต่ำงกัน
แต่ประชำกรวัยชรำ พบว่ำ ออสเตรเลียมีจ�ำนวนมำกกว่ำหมู่เกำะอ่ืน ๆ ท้ังน้ี เพรำะประชำชน
มีระบบกำรศึกษำ กำรดูแลสุขภำพ และกำรแพทย์เจริญก้ำวหน้ำกว่ำบริเวณเกำะและหมู่เกำะ
ซ่ึงยังคงมีควำมเช่ือท้องถ่ินในกำรดูแลสุขภำพและเข้ำถึงกำรแพทย์สมัยใหม่น้อยกว่ำออสเตรเลีย
จึงทำ� ให้เสียชวี ติ ก่อนวัยชรำ
9๑
ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู
หากในอนาคตประเทศออสเตรเลียยงั คงมีอตั ราเกดิ ตํ่า จะสง 1 อัตราเกิด (birth rate) อัตราสวนระหวางคนเกดิ ในรอบปกบั จาํ นวนประชากร
ผลกระทบอยางไร ทัง้ หมดเม่อื กลางปเ ดียวกนั ณ ทใี่ ดท่ีหน่งึ โดยหาคา ตอ จาํ นวนประชากร 1,000 คน
2 อัตราตาย (mortality rate) อัตราสวนระหวางคนตายในรอบปกับจํานวน
(แนวตอบ อาจกอใหเกิดปญหา การขาดแคลนประชากรในวัย ประชากรท้ังหมดเม่ือกลางปเดียวกัน ณ ท่ีใดที่หนึ่ง โดยปกติจะนําเสนอในรูปของ
ทํางาน ประชากรในวัยชราจะมีเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนสงผลให จํานวนคนตายตอประชากร 1,000 คน จาํ แนกตามอายุ เพศ และชนชน้ั ในสังคม
ชุมชนมขี นาดเล็กลง เน่ืองจากมอี ัตราเกดิ ท่ีลดลง)
T95
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขน้ั สอน ๑.๗ ลักษณะสังคมและวฒั นธรรม
ขนั้ ที่ 1 การตง้ั คาํ ถามเชงิ ภมู ศิ าสตร์ ทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี มพี นื้ ทกี่ วำ้ งใหญ ่ มปี ระชำกรมำก และมคี วำมหลำกหลำยใน
ดำ้ นเชอ้ื ชำต ิ ภำษำ และศำสนำ ทำ� ใหม้ ลี กั ษณะทำงสงั คมและวฒั นธรรมแตกตำ่ งกนั ในแตล่ ะภมู ภิ ำค
1. ครูใหนักเรียนดูภาพกลุมเช้ือชาติหลักในทวีป
ออสเตรเลียและโอเชียเนีย จากหนังสือเรียน ๑) ลักษณะท่ัวไปทำงสังคมและวัฒนธรรม กำรศึกษำเก่ียวกับเชื้อชำติ ภำษำ
ภมู ิศาสตร ม.1 แลวรว มกันวเิ คราะหเ กีย่ วกับ
กลมุ เชอ้ื ชาตดิ ังกลาว และศำสนำ จะทำ� ใหเ้ ขำ้ ใจควำมแตกตำ่ งของสงั คมและวฒั นธรรมในทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี
๑.๑) เชอ้ื ชำต ิ ในทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี มปี ระชำกรถน่ิ เดมิ และผอู้ พยพ
2. ครกู ระตนุ ใหน กั เรยี นชว ยกนั ตงั้ ประเดน็ คาํ ถาม เข้ำไปอำศัย จงึ มีกลุ่มเชอื้ ชำติทห่ี ลำกหลำย ทำ� ใหล้ กั ษณะทำงสงั คมและวัฒนธรรม ภำษำ ศำสนำ
เชิงภูมิศาสตร เชน และธรรมเนยี มประเพณีแตกตำ่ งกนั กลุม่ เช้อื ชำติแบง่ เปน็ ๕ กลมุ่ ใหญ ่ ดังน้ี
•ï ลักษณะท่ัวไปทางสังคมและวัฒนธรรมใน
ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย มีความ กลมุ่ เช้ือชาติหลกั ในทวปี ออสเตรเลียและโอเชียเนยี ช ำวแอบอริจนิ ี
แตกตางกนั อยางไร กล่มุ ชนพ้นื เมืองแอบอรจิ ินี
• การผสมผสานทางดา นสงั คมและวฒั นธรรม มีผวิ สดี �ำหรอื ผวิ คลำ�้ สนี ำ้� ตำล ผมสีด�ำหยิก ปลำยจมกู กวำ้ ง จมกู แบน ใบหน้ำ
ดา นตา งๆ ของทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี รปู ไข ่ รมิ ฝปี ำกหนำ รปู รำ่ งสนั ทดั เตยี้ ถงึ สงู ปำนกลำง เปน็ ชนพนื้ เมอื งของ
เปนอยางไร ประเทศออสเตรเลยี
ขนั้ ที่ 2 การรวบรวมขอ้ มลู กลุ่มเมลำนีเซียน มรี ปู รำ่ งสงู ปำนกลำง ผวิ ด�ำ ผมด�ำหยิก จมูกค่อนข้ำงโด่ง อำศยั
อยู่ในหมูเ่ กำะทำงตะวันออกของเกำะนิวกินี
1. ครูใหนักเรียนกลุมเดิมรวมกันศึกษาความรู
เรอ่ื ง ลกั ษณะสงั คมและวฒั นธรรม จากหนงั สอื กลุ่มไมโครนเี ซยี น เปน็ กลุ่มเชอื้ ชำติผสมระหว่ำงชำวเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้กับ
เรยี นภมู ศิ าสตร ม.1 ตามประเดน็ ตอไปน้ี ชำวเมลำนีเซียน มีรูปร่ำงสูงปำนกลำง ผิวสีน�้ำตำล ผมด�ำหยักศก อำศัยอยู่ใน
•ï ลักษณะทัว่ ไปทางสงั คมและวฒั นธรรม หมู่เกำะในมหำสมุทรแปซฟิ กิ โดยอยูท่ ำงเหนอื ของกลุ่มเมลำนีเซยี น
•ï การเปลย่ี นแปลงทางสงั คมและวฒั นธรรม
กลมุ่ โปลนิ เี ซยี น มรี ปู รำ่ งคอ่ นขำ้ งใหญ ่ มผี วิ สเี ขม้ ปำนกลำง ผมสดี ำ� หยกั เปน็ คลนื่
ช ำวเมำรี
ไอปำศทยัำงอตยะู่ใวนนัหอมอเู่ กกำจะนทถำงึ งหตมะวเู่ กนั ำอะออกสี ขเตอองมร ์หเชำน่ส มชทุ ำรวแเมปำซร1ฟิ ี ซกิ ง่ึ ตเง้ัปแน็ ตกป่ ลรมุ่ ะเเชทอื้ศชนำวิ ตซดิ แี ง้ั ลเดนมิด์
ของประเทศนวิ ซแี ลนด์
กลมุ่ คอเคซอยด์
มีผวิ ขำวและรปู ร่ำงสูงใหญ่ ส่วนใหญส่ บื เช้ือสำยมำจำกชำวองั กฤษ
ท่ีอพยพมำต้ังถ่ินฐำนในระยะแรก ๆ ส่วนใหญ่อำศัยอยู่ในประเทศ
ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
ชำวผวิ ขำว
9๒
นักเรียนควรรู กิจกรรม ทาทาย
1 ชาวเมารี กลุมชาติพันธุพื้นเมืองของนิวซีแลนด เดินทางมาจากบริเวณ ครูเพิ่มเติมขอมูลทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนียวาเปน
เขตโปลนิ เี ซยี ตะวนั ออกโดยเรอื แคนนู กอ น ค.ศ. 1300 ตอ มากลายเปน ทรี่ จู กั กนั ดนิ แดนแหงพหวุ ฒั นธรรม คือ มีความหลากหลายทางวฒั นธรรม
ในนามชนเผาสายเลือดนักรบ ชาวเมารีมีประมาณ 8 แสนคน อาศัยอยูตาม มากท่สี ดุ แหง หน่ึงของโลก เนือ่ งจากมีผูคนเชือ้ ชาตติ างๆ อพยพ
ประเทศตางๆ โดยเฉพาะนิวซีแลนด ปจจุบันมีชาวเมารีไดเปนนักการเมือง เขามาต้ังถิ่นฐานจํานวนมาก โดยเฉพาะชาวยุโรป และมีชนพ้ืน
นักแสดง และนักกฬี าของนิวซีแลนดห ลายคน เมืองทอี่ าศยั อยดู งั้ เดมิ เชน ชาวแอบอริจนิ ี ชาวเมารี เปนตน
จากน้ันครูนําภาพเกี่ยวกับลักษณะสังคมและวัฒนธรรม
ของชาวตะวันตกกับชาวพื้นเมืองดั้งเดิมในทวีปออสเตรเลียและ
โอเชียเนียมาใหนักเรียนดู แลวใหนักเรียนเปรียบเทียบความ
แตกตาง
T96
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
๑.๒) ภำษำ ทวีปออสเตรเลยี และโอเชียเนยี มีทง้ั ภำษำพืน้ เมอื งและภำษำอนื่ ๆ ขน้ั สอน
ที่ใชต้ ำมกลมุ่ คนที่อพยพมำจำกดินแดนต่ำง ๆ แบ่งเป็น ๔ กลมุ่ ใหญ่ ดงั น้ี
บร(ิเ๑ว)ณ ภดำินษแำดแนอบนออรรจิ์เทินิรี เ์นปเน็ ทภรำ์รษิทำอพรี น้ื1ซเมึ่งอืเปงข็นอทงี่อชยำู่อวแำศอัยบขออรจิงินชำี พวแบอกบำรอใรชิจ้ใินนี ขนั้ ที่ 3 การจดั การขอ้ มลู
ประเทศออสเตรเลีย
ในปัจจุบัน 1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลท่ีตนไดจาก
(๒) ภำษำปำปวั เปน็ ภำษำพน้ื เมอื งของชำวปำปวั นวิ กนิ ี มกี ำรใชบ้ นเกำะ การรวบรวม มาอธิบายแลกเปล่ียนความรู
ปำปวั นิวกินี ระหวางกัน
(๓) ภำษำอินโด – ยูโรเปียน เป็นตระกูลภำษำของชำติตะวันตกที่เข้ำมำ
ปกครองดินแดนต่ำง ๆ เช่น ภำษำอังกฤษมีกำรใช้เป็นภำษำรำชกำรของประเทศออสเตรเลีย 2. ครใู หน กั เรยี นเชอื่ มโยงความรเู พม่ิ เตมิ เกย่ี วกบั
นรำวิ ชซกแี ำลรนขดอ ์ งแปลระะปเรทะศเทวำศนหูวมำเู่ตกู ำดะนิตำ่แงด ๆน เทฟอ่ี รยน ู่ใชน ์โเปคลรอืนิ จีเซกั รยี ภ2พองั กฤษ ภำษำฝรงั่ เศสมกี ำรใชเ้ ปน็ ภำษำ เรอื่ ง การนบั ถอื ศาสนาในทวปี ออสเตรเลยี และ
(๔) ภำษำมำลำโย – โปลนิ เี ซยี น เปน็ กลมุ่ ภำษำทใ่ี ช ้ในหมเู่ กำะในมหำสมทุ ร โอเชียเนีย ตามแผนภูมิสัดสวนการนับถือ
แปซิฟิก เช่น ภำษำตองกนั มีกำรใช ้ในประเทศตองกำ ภำษำฟีเจียนมีกำรใช้ ในประเทศฟีจี ภำษำ ศาสนาในทวปี ออสเตรเลยี และโอเชียเนีย จาก
เมำรเี ปน็ ภำษำของชนเผ่ำเมำรที ่อี ำศยั อยู่ในประเทศนวิ ซแี ลนด์ หนังสอื เรยี นภมู ิศาสตร ม.1
๑.๓) ศำสนำ ทวปี ออสเตรเลยี และโอเชียเนีย ประกอบไปด้วยชนพ้ืนเมอื ง และ
ผู้คนท่ีอพยพเข้ำมำจำกทวีปอ่ืน ๆ ชำวพื้นเมืองตำมหมู่เกำะต่ำง ๆ มีควำมเชื่อเป็นของตนเอง 3. ใหสมาชิกในกลุมชวยกันคัดเลือกขอมูลที่นํา
ศำสนำทีผ่ ู้คนนบั ถือ มีดงั นี้ เสนอเพือ่ ใหไ ดขอมูลทีถ่ กู ตอ ง
(๑) คริสต์ศำสนำ นับถือมำกในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และหมู่เกำะ
เมลำนเี ซยี ขน้ั ที่ 4 การวเิ คราะหแ์ ละแปลงผลขอ้ มลู
(๒) พระพทุ ธศำสนำและศำสนำอสิ ลำม นับถือโดยผู้ที่อพยพมำจำกทวีป
เอเชยี และตะวันออกกลำง แตละกลุมนําขอมูลท่ีรวบรวมมาไดทําการ
(๓) ศำสนำฮนิ ดู มีผู้นับถอื ศำสนำจำ� นวนนอ้ ย วิเคราะหรวมกันเพื่ออธิบายคําตอบและรวมกัน
ตรวจสอบความถกู ตอ งของขอ มลู
ขน้ั ท่ี 5 การสรปุ เพอ่ื ตอบคาํ ถาม
ครูและนักเรียนรวมกันสรุปลักษณะสังคมและ
วัฒนธรรมของทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย
รวมถึงรว มกันตอบคําถามเชงิ ภูมศิ าสตร
(๔) ควำมเชอ่ื อนื่ ๆ นบั ถอื โดยชำวแอบอรจิ นิ ชี นพน้ื เมอื งของออสเตรเลยี
สัดส่วนการนบั ถอื ศาสนาในทวีปออสเตรเลียและโอเชยี เนีย
๑.6ฮินด ู %
๑.9พุทธ % ๗๑.9คริสต์
๑.8อิสลำม % %
๒.9อืน่ ๆ % ๑9.9ไศมำ่นสับนถำอื
%
ทีม่ ำ: Yearbook of International Religious Demography 2017, หนำ้ 92
9๓
บูรณาการเชื่อมสาระ นักเรียนควรรู
เนอ้ื หาในสว นนี้สามารถเช่อื มโยงกบั กลุมสาระภาษาตา งประเทศ
โดยใหน กั เรยี นคน หาคาํ ศพั ทใ นกลมุ ภาษาทพี่ บในทวปี ออสเตรเลยี และ 1 ดนิ แดนนอรเ ทิรนเทรร ทิ อรี (Northern Territory) ดินแดนในสวนเหนอื สุดของ
โอเชยี เนยี แลว นาํ มาเทยี บกบั คาํ ศพั ทท มี่ คี วามหมายตรงกนั ในภาษาไทย ประเทศออสเตรเลยี โดยมีอาณาเขตทิศเหนอื จดทะเลตมิ อร ทะเลอาราฟูรา และอา ว
เพอื่ ความเขาใจในดานภาษามากย่งิ ขน้ึ คารเพนแทเรีย เมืองหลวงช่ือ ดารวิน สวนใหญของดินแดนเปนที่ราบสูง มีทุงหญา
สาํ หรบั เลีย้ งสัตวทางตอนเหนือ และทางตอนใตเ ปนทะเลทราย
2 ดนิ แดนเฟรนชโปลินีเซีย (French Polynesia) เปน ดินแดนของประเทศฝรั่งเศส
ตัง้ อยูในมหาสมุทรแปซฟิ ก ตอนใต ประกอบดว ยหมเู กาะมารเคซสั หมเู กาะโซไซเอตี
หมเู กาะแกมเบยี ร หมูเกาะออสตราล และกลมุ เกาะตูอาโมตู เมืองหลวงช่ือ ปาเปตี
โดยชาวยโุ รปไดค น พบในชว งครสิ ตศ ตวรรษที่ 16 – 18 ตอมาถกู ยึดครองเปน ดนิ แดน
ในอารักขาและอาณานิคมของฝร่งั เศสในชวงคริสตศตวรรษที่ 18 และตอ มาไดร บั การ
สถาปนาเปน จังหวดั โพน ทะเลของฝร่ังเศสในป ค.ศ. 1946
T97
นาํ สอน สรุป ประเมิน
ขน้ั สอน ๒) กำรเปลี่ยนแปลงทำงสังคมและวัฒนธรรม ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย
ขนั้ ท่ี 1 การตง้ั คาํ ถามเชงิ ภมู ศิ าสตร มีผู้คนจำกหลำกหลำยประเทศเข้ำมำอำศัยอยู่มำก ท�ำให้มีกำรผสมผสำนทำงด้ำนสังคมและ
วฒั นธรรมในดำ้ นตำ่ ง ๆ โดยมีกำรเปลีย่ นแปลงท่ีส�ำคัญ ดังน้ ี
ใหนักเรียนวิเคราะหโครงสรางประชากรจาก ๒.๑) กำรพัฒนำเปนสังคมเมือง ควำมเจริญทำงด้ำนเศรษฐกิจและเทคโนโลย ี
แผนภูมิพีระมิดประชากร และรวมกันตั้งคําถาม สง่ ผลใหเ้ มอื งตำ่ ง ๆ ในทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี เจรญิ เตบิ โตขนึ้ อยำ่ งรวดเรว็ โดยเฉพำะเมอื ง
เชิงภูมศิ าสตร ในประเทศออสเตรเลยี และนวิ ซแี ลนด ์ ทำ� ใหผ้ คู้ นมชี วี ติ ควำมเปน็ อยทู่ ท่ี นั สมยั และปรบั ตวั ตำมกำร
เปล่ียนแปลงของกระแสโลก
ขนั้ ท่ี 2 การรวบรวมขอ มลู สว่ นหมเู่ กำะอืน่ ๆ ในโอเชยี เนยี ประชำกรส่วนใหญย่ งั คงอำศยั อยบู่ รเิ วณแหลง่
เพำะปลูกและประมง แต่หลำยประเทศมีกำรพัฒนำด้ำนกำรท่องเที่ยว จึงท�ำให้คนพ้ืนเมือง
ค รู ใ ห นั ก เ รี ย น ท บ ท ว น แ ล ะ ส รุ ป ลั ก ษ ณ ะ เปิดกว้ำงทำงควำมคิด มีกำรใช้นวัตกรรมและส่ิงประดิษฐ์ใหม่ ๆ ส่งผลให้มีควำมเจริญก้ำวหน้ำ
ประชากร สังคม และวฒั นธรรม ทงั้ คณุ ภำพชวี ิตของประชำกร กำรศกึ ษำ และสำธำรณสุขมำกขึ้น
๒.๒) กำรยอมรับและกำรผสมผสำนทำงสงั คมและวัฒนธรรม ทวปี ออสเตรเลยี
ขนั้ ท่ี 3 การจดั การขอ มลู และโอเชียเนียมีเอกลักษณ์ทำงด้ำนสังคมและวัฒนธรรมท่ีเกิดจำกกำรผสมผสำนของวัฒนธรรม
หลำกหลำยเชอื้ ชำติ ทัง้ ชนเผ่ำพืน้ เมือง และผู้คนจำกประเทศต่ำง ๆ ที่อพยพเขำ้ มำ
ครใู หน กั เรยี นแตล ะกลมุ รว มกนั ทาํ ใบงานที่ 3.4 (๑) ประเทศออสเตรเลีย มีกำรผสมผสำนทำงวัฒนธรรมอังกฤษกับ
วฒั นธรรมของผคู้ นหลำกหลำยเชอ้ื ชำตทิ อี่ พยพเขำ้ มำอยอู่ ำศยั ทำ� ใหป้ จั จบุ นั ออสเตรเลยี เปน็ สงั คม
ขน้ั ที่ 4 การวเิ คราะหแ ละแปลผลขอ มลู หลำกวฒั นธรรม ซง่ึ ทกุ คนมสี ทิ ธิในกำรปฏบิ ตั ติ ำมควำมเชอื่ หรอื ประเพณตี ำมวฒั นธรรมของตนเอง
ภำยใต้กรอบของกฎหมำย
ครใู หผลัดกนั ตรวจความถกู ตอ ง
(๒) ประเทศนิวซีแลนด์ ปัจจุบันมี
ขนั้ ท่ี 5 การสรปุ เพอื่ ตอบคาํ ถาม กำรผสมผสำนทำงด้ำนวัฒนธรรมอังกฤษกับ
วฒั นธรรมแบบชนเผำ่ เมำร ี แมว้ ำ่ ชำวเมำรมี วี ถิ ี
นักเรียนและครรู วมกันสรปุ และตอบคําถาม ชีวติ แบบตะวันตกมำกขึ้น แตม่ ีกำรส่งเสรมิ กำร
เรียนรู้และสืบทอดวัฒนธรรมแบบชนเผ่ำให้
ขน้ั สรปุ คงอยู่ จนวัฒนธรรมของชำวเมำรีกลำยเป็น
เอกลักษณอ์ ยำ่ งหน่ึงของประเทศนวิ ซีแลนด์
ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ ความรู และทาํ แบบ
ฝก สมรรถนะฯ ภมู ิศาสตร ม.1 กำรแสดงทำงวฒั นธรรมของชนเผำ่ เมำรี
ขนั้ ประเมนิ (๓) หมูเกำะอ่ืน ๆ ปัจจุบันกำรคมนำคมมีควำมสะดวกมำกข้ึน จึงมี
นกั ทอ่ งเท่ียวเดนิ ทำงเขำ้ ไปยงั เกำะตำ่ ง ๆ ทำ� ให้วฒั นธรรมชนเผ่ำกลำยเป็นสิง่ ดึงดูดนักท่องเทีย่ ว
1. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม ให้มำสมั ผัสกับประสบกำรณแ์ ปลกใหม ่ เช่น อำหำรทอ้ งถ่นิ กำรเต้นสวมหน้ำกำก ทำ� ใหช้ ำวเกำะ
การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงาน ได้รบั วัฒนธรรมจำกต่ำงถนิ่ มำกขนึ้
หนาช้นั เรยี น 94
2. ครตู รวจสอบผลจากการทาํ ใบงาน และแบบฝก
สมรรถนะภมู ศิ าสตร ม.1
เกร็ดแนะครู กจิ กรรม ทาทาย
ครูอาจเสริมความรูเพ่ิมเติม โดยหาสารคดีเก่ียวกับสังคมและวัฒนธรรม ครูใหนักเรยี นศึกษาคน ควาถึงความเจริญในดานตา งๆ ของ
ของชนพ้ืนเมือง หรือชนเผา ในทวปี ออสเตรเลียและโอเชยี เนยี มาใหนกั เรียนชม ประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด และเมืองที่มีความเจริญ
แลวใหนักเรียนบันทกึ ความรู หรือมีประชากรอาศัยอยูหนาแนน รวมถึงเมืองท่ีมีคนอพยพจาก
ประเทศอน่ื มาอยมู าก โดยใหน กั เรยี นยกตวั อยา งเมอื งและตวั อยา ง
ความเจริญ ปจจัยสนับสนุนใหเมืองมีความเจริญ และปจจัยท่ี
มีอิทธิพลทําใหคนจากหลากหลายประเทศอพยพยายถิ่นมาอยู
จากนั้นบันทกึ สาระสําคัญนําสงครูผูสอน
T98
นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
๑.๘ ลกั ษณะเศรษฐกจิ ขนั้ นาํ
ทวีปออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี มีความแตกตางกันทางดานเศรษฐกิจ กลาวคือ ออสเตรเลยี Geographic inquiry Process
และนวิ ซแี ลนดเ ปน ประเทศทพ่ี ฒั นาแลว มคี วามเจรญิ กา วหนา ทางเศรษฐกจิ และเทคโนโลยที ดั เทยี ม
กับประเทศแถบยุโรปและอเมริกา รายไดหลักมาจากอุตสาหกรรมและเกษตรกรรมที่ทันสมัย ครูเลาขาวเก่ียวกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจของ
ไดผลผลติ สูง ซง่ึ แตกตา งจากประเทศที่เปน หมูเกาะที่มพี ื้นทเี่ พาะปลกู นอ ย เทคโนโลยียงั ไมเจรญิ ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย และใหนักเรียน
กาวหนา วเิ คราะหรว มกัน
๑) ลักษณะทั่วไปทางเศรษฐกิจของทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย ทวีป ขน้ั สอน
ออสเตรเลียมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูง สวนใหญอยูในออสเตรเลียและนิวซีแลนด สวนใน ขน้ั ที่ 1 การตงั้ คาํ ถามเชงิ ภมู ศิ าสตร์
หมูเกาะอ่ืน ๆ จะเปนสนิ คา ท่ีไดจากการเกษตรและประมงเปนหลกั
1. ครูใหนักเรียนยกตัวอยางทําเลท่ีต้ังกิจกรรม
๑.๑) เกษตรกรรม มีกิจกรรมทางการเกษตรที่มีความแตกตางกันตามสภาพ ทางเศรษฐกจิ และสงั คมท่ีสําคัญของทวีป โดย
ภมู ปิ ระเทศ ภูมอิ ากาศ และปจ จยั อืน่ ๆ ดังน้ี ใชแผนที่ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย จาก
น้ันรวมกันวิเคราะหการเปลี่ยนแปลงทาง
เศรษฐกจิ ทีส่ ําคัญ
เกษตรกรรมในทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนยี
ออสเตรเลีย พื้นท่ีสวนใหญเปนทะเลทราย นิวซีแลนด นิยมทําการเกษตรควบคูกับเลี้ยง
ไมเหมาะทําการเกษตร แตดวยเทคโนโลยีที่ สัตว เนื่องจากมีสภาพภูมิประเทศเปนท่ีราบ
ทนั สมยั ทาํ ใหอ อสเตรเลยี เปน ผผู ลติ และสง ออก ขนาดใหญ พืชท่ีนิยมปลูกสวนใหญเปนพืช
สินคาเกษตรรายใหญของโลก พืชที่นิยมปลูก อาหาร ไดแก ขา วสาลี ขาวโอต ขาวบารเ ลย
ไดแ ก ขาวสาลี ขาวโอต และผลไม มีปศุสัตวท่ี มันฝรง่ั และผลไม โดยสัตวเ ลีย้ งที่สําคัญ ไดแ ก
ใชเทคโนโลยที นั สมัย ไดแก ฟารมแกะ โคเนอ้ื แกะ โคเนอื้ และโคนม
และโคนม
เทคโนโลยที างการเกษตรของประเทศออสเตรเลยี การทําฟารมแกะของประเทศนวิ ซีแลนด
หมูเกาะปะการัง มีสภาพภูมิประเทศท่ีเกิดจาก
ปะการัง ไมเหมาะแกการทําการเกษตร มีการ
ทําประมงบริเวณชายฝง เพ่ือใชบริโภคใน
ภูมิภาค และมีการสงออกปลาทูนาแหลงใหญ
ของโลก
การทาํ ประมงบรเิ วณชายฝง ในหมูเกาะโอเชยี เนีย
๙๕
ขอสอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู
ประเทศออสเตรเลียและนวิ ซแี ลนดเ ปนประเทศทเี่ ลย้ี งสตั ว ครูอาจเสริมความรูเพิ่มเติม โดยหาสารคดีเกี่ยวกับเศรษฐกิจในทวีป
หลายชนิด เพราะมีปจ จัยใดสงเสริม ออสเตรเลียและโอเชยี เนีย มาใหนกั เรยี นชม แลวใหน กั เรยี นบนั ทกึ ความรู
1. มีอากาศเย็นสบาย
2. มีปาไมอดุ มสมบูรณ
3. มีฝนตกชกุ ตามฤดกู าล
4. มีทุง หญา อดุ มสมบูรณก วา งขวาง
(วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. ปจจัยท่ีมีสวนสงเสริมใหประเทศ
ออสเตรเลยี และนวิ ซแี ลนดเ หมาะสมกบั การเลย้ี งสตั ว คอื มแี หลง นาํ้
เพียงพอ มีทุงหญาอุดมสมบูรณกวางขวาง มีอากาศอบอุน มี
เทคโนโลยีสมยั ใหม มกี ารคดั เลอื กพนั ธุสตั ว เปนตน)
T99
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขนั้ สอน ๑.๒) อุตสำหกรรม เปน็ กจิ กรรมทำงเศรษฐกจิ ทีส่ รำ้ งรำยไดใ้ หก้ ับภูมิภำค โดย
มีควำมแตกต่ำงกันไปตำมทรัพยำกรที่มีอยู่ในพ้ืนที่ ได้แก่ ออสเตรเลียมีทรัพยำกรแร่ต่ำง ๆ เช่น
ขน้ั ที่ 1 การตง้ั คาํ ถามเชงิ ภมู ศิ าสตร์ (ตอ ) แร่เหลก็ อะลูมเิ นียม ถ่ำนหนิ แกส๊ ธรรมชำติ รวมถึงมีกำรเลี้ยงปศุสตั ว์จำ� นวนมำก เช่น โค แกะ
จึงมีอุตสำหกรรมส�ำคัญ ได้แก่ เหมืองแร่ กำรผลิตรถยนต์ เคมีภัณฑ์ และกำรแปรรูปผลผลิต
2. นักเรียนชวยกันตั้งประเด็นคําถามทาง ทำงกำรเกษตร เช่น กำรผลิตนม เนย กำรทอผ้ำและกำรฟอกหนัง นิวซีแลนด์มีอุตสำหกรรม
ภมู ิศาสตร เชน ท่ีเกิดจำกผลผลิตทำงกำรเกษตร และอุตสำหกรรมด้ำนพลังงำน เช่น ไฟฟ้ำพลังน�้ำ พลังงำน
ï• เพราะเหตุใดประเทศออสเตรเลียและ ควำมร้อนใต้พิภพ ส่วนหมู่เกำะอ่ืน ๆ ส่วนมำกเป็นอุตสำหกรรมกำรท่องเท่ียว เนื่องจำกมีสภำพ
นิวซีแลนดจึงกลาวไดวาเปนประเทศที่ ภมู ิประเทศเปน็ เกำะท่มี คี วำมสวยงำม และอุตสำหกรรมแปรรูปผลผลติ ทำงกำรเกษตร
พัฒนาแลว
๑.๓) พำณิชยกรรม สัดส่วนกำรค้ำและกำรบริกำรในทวีปออสเตรเลียและ
ขน้ั ที่ 2 การรวบรวมขอ้ มลู โอเชียเนีย ในภำพรวมมีสัดส่วนกำรน�ำเข้ำสินค้ำมำกกว่ำกำรส่งออกสินค้ำ ซึ่งมีควำมเกี่ยวเนื่อง
กบั ทรพั ยำกรทม่ี อี ยู่ในแตล่ ะพน้ื ท ี่ กำรสง่ ออกสนิ คำ้ และบรกิ ำรทสี่ งู ทส่ี ดุ ในภมู ภิ ำค คอื ออสเตรเลยี
1. นักเรียนแบงกลุมสืบคนเก่ียวกับลักษณะทั่วไป รองลงมำ ได้แก่ นิวซีแลนด์ ปำปัวนิวกินี ฟีจี และนำอูรู เนื่องจำกเป็นประเทศท่ีมีขนำดใหญ่
ทางเศรษฐกจิ ในทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี มีควำมเจริญก้ำวหน้ำทำงกำรเกษตร อตุ สำหกรรม เทคโนโลย ี และกำรทอ่ งเทย่ี ว ส่วนกำรน�ำเขำ้
สินคำ้ และบริกำรทส่ี งู ทสี่ ุดในภูมภิ ำค คือ ออสเตรเลยี รองลงมำ ไดแ้ ก่ นิวซแี ลนด์ ปำปวั นิวกิน ี
2. สมาชกิ แตล ะกลมุ นาํ ความรทู ไี่ ดจ ากการศกึ ษา ฟจี ี และหม่เู กำะโซโลมอน เนอื่ งจำกพน้ื ท่ีไมเ่ ออ้ื อ�ำนวยต่อกำรผลติ จงึ ตอ้ งนำ� เข้ำสนิ คำ้ และบรกิ ำร
คนความาอภิปรายรว มกัน เช่น เครื่องจกั ร ยำนยนต์ ปยุ๋ เคมี
ขน้ั ท่ี 3 การจดั การขอ้ มลู ตวั อย่างสินคา้ สง่ ออก – นา� เขา้ สา� คญั ของประเทศในทวปี ออสเตรเลียและโอเชียเนยี
1. สมาชิกแตละกลุมนําขอมูลท่ีตนไดจากการ ประเทศ สนิ คา้ ส่งออกส�าคญั สนิ ค้าน�าเข้าสา� คัญ
รวบรวม มาอธบิ ายแลกเปลีย่ นความรูระหวาง
กัน ออสเตรเลีย เหลก็ ถ่ำนหิน แก๊สธรรมชำติ นำ้� มนั ดิบ รถยนต ์ คอมพวิ เตอร ์
ทองคำ� ยำและเวชภัณฑ์
2. ครใู หน กั เรยี นเชอื่ มโยงความรเู กยี่ วกบั ตวั อยา ง
สินคาสงออก – นําเขา จากหนังสือเรียน นิวซีแลนด์ ผลติ ภณั ฑ์เนยและนม เน้ือสตั ว ์ ไม ้ ปโิ ตรเลียม เครื่องจกั ร ยำนพำหนะ
ภูมิศาสตร ม.1 และรวมกันคัดเลือกขอมูลที่ ปำปัวนวิ กนิ ี น�ำ้ มนั ดบิ เครอ่ื งจกั ร น�ำ้ ผงึ้ ผลไม้ เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้ำ สง่ิ ทอ พลำสตกิ
ถกู ตอ ง ทองคำ� นำ�้ มนั ดบิ ทองแดง ไม้ เครื่องจกั ร อำหำร เคมภี ัณฑ์
สินคำ้ เกษตร
ขน้ั ท่ี 4 การวเิ คราะหแ์ ละแปลผลขอ้ มลู
ฟจี ี นำ้� ตำล เสือ้ ผำ้ สำ� เร็จรปู ทองค�ำ ไม้ เคร่อื งจักร ปิโตรเลียม อำหำร
สมาชิกแตละกลุมนําขอมูลท่ีรวบรวมมา น้�ำมนั มะพรำ้ ว กำกนำ้� ตำล เคมภี ณั ฑ์
วิเคราะหรวมกันเพื่ออธิบายคําตอบพรอมท้ัง
ตรวจสอบความถูกตอ งของขอ มลู หมเู่ กำะโซโลมอน ไม้ ปลำ มะพร้ำวแหง้ น้ำ� มันปำล์ม อำหำร เคร่ืองจกั ร ปิโตรเลยี ม
โกโก้ เคมภี ณั ฑ์
ขน้ั ท่ี 5 การสรปุ เพอื่ ตอบคาํ ถาม
ที่มำ: http://aspa.mfa.go.th/aspa/th/information
ครูใหนักเรยี นทําใบงานที่ 3.5 เรอ่ื ง เศรษฐกิจ
ของทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนียและรวมกัน
สรปุ สาระสําคัญเพื่อตอบคําถามเชิงภมู ิศาสตร
96
สื่อ Digital ขอ สอบเนน การคดิ
ศกึ ษาคนควาขอ มูลเพิม่ เตมิ เกีย่ วกับเศรษฐกจิ ของทวีปออสเตรเลีย ประเทศใดในทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนียท่ีเปนประเทศที่มี
และโอเชียเนยี ไดท ่ี http://www.aussiecenter.org ความเจรญิ ทางเศรษฐกจิ เพราะเหตใุ ด
http://www.apecthai.org
(วเิ คราะหคําตอบ ประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด เนื่องจากมี
เศรษฐกิจท่ีดี จึงมีความเจริญกาวหนาและมีฐานะทางดานเศรษฐกิจ
ทัดเทียมกบั ประเทศในทวีปยโุ รปและอเมริกา ประชาชนมคี วามเปนอยู
ท่ดี )ี
T100
นาํ สอน สรปุ ประเมิน
๑.4) กำรคมนำคมขนส่ง ประเทศท่ีมีกำรพัฒนำทำงด้ำนคมนำคมมำก คือ ขน้ั สอน
ออสเตรเลยี และนิวซแี ลนด์ สว่ นประเทศหมู่เกำะอื่น ๆ มีสภำพภมู ิประเทศท่ีไม่เออ้ื อำ� นวย ท�ำให้
เสน้ ทำงคมนำคมไมด่ นี กั ขน้ั ที่ 1 การตง้ั คาํ ถามเชงิ ภมู ศิ าสตร
การคมนาคมขนสง่ ในทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ครูใหนักเรียนสืบคนเมืองศูนยกลางทาง
เศรษฐกจิ และสงั คมและตง้ั คาํ ถาม
ทำงถนนและทำงรถไฟ ประเทศออสเตรเลียมีโครงข่ำยถนนหนำแน่นทำงด้ำนตะวันออกและ
ตะวนั ออกเฉียงใต้ของประเทศ เนอื่ งจำกเป็นบรเิ วณท่ีมปี ระชำกรหนำแนน่ และมีเส้นทำงรถไฟจำก ขนั้ ท่ี 2 การรวบรวมขอ มลู
ฝั่งตะวันออกไปยังตะวันตกของประเทศ ประเทศนิวซีแลนด์ ถนนและทำงรถไฟส่วนใหญ่มีเฉพำะ
บรเิ วณชำยฝ่งั ทะเล เน่อื งจำกดนิ แดนภำยใน นักเรียนแบงกลุมสืบคนการเปลี่ยนแปลงทาง
มีภูมิประเทศเป็นภูเขำและท่สี ูง ส่วนประเทศ แผนทีแ่ สดงเสนทางคมนาคมสำคัญของทวีปออสเตรเลีย เศรษฐกิจ และอภิปรายรวมกัน
หมู่เกำะอ่นื ๆ มีเสน้ ทำงถนนนอ้ ย ส่วนใหญ่ มาตราสว น 1 : 80,000,000
N 0 400 800 กม. ขน้ั ท่ี 3 การจดั การขอ มลู
10 ํS ดารว ิน นกั เรียนใบงานท่ี 3.6
เปน็ ดนิ ลกู รัง และถนนรอบเกำะเลียบชำยฝง่ั ขน้ั ท่ี 4 การวเิ คราะหแ ละแปลผลขอ มลู
ทำงอำกำศ มีท่ำอำกำศยำนเช่ือมกำร 20 ํS นอรเทิรน ครูตรวจสอบการทาํ ใบงาน
เทรร ิทอรี
คมนำคมกบั ทวปี ตำ่ ง ๆ และมที ำ่ อำกำศยำน เวสเทิรนออสเตรเลีย ควนี สแลนด ขน้ั ท่ี 5 การสรปุ เพอ่ื ตอบคาํ ถาม
ขนำดเลก็ ในประเทศที่เป็นหมเู่ กำะ เซาทอ อสเตรเลีย บรสิ เบน ครแู ละนักเรยี นรวมกันสรปุ และตอบคาํ ถาม
30 Sํ ขนั้ สรปุ
ทำงน�้ำ มีท่ำเรือติดต่อกับทวีปยุโรป เอเชีย เพริ ท
นวิ เซาทเ วลส 1. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ ความรู และทาํ แบบ
ซิดนีย ฝก สมรรถนะฯ ภูมศิ าสตร ม.1
บแลริสะอเบเมน1ร ิกเำม ือไงดท้แ่ำกซ่ ิดเมนือีย2ง์ ทเม่ำเือพงิรท์ท่ำ เมเมลือเบงทิร์น่ำ แอดิเลด
วกิ ตอเเมรลียเบิรแน คนเบอรร า
เมอื งทำ่ โอกแลนด ์ และมที ำ่ เรอื ขนำดเลก็ ตำม คำอธิบายสัญลกั ษณ
เมอื งหลวง แทสเมเนีย
เมอื งสำคญั
ถนน โฮบารต
เกำะตำ่ ง ๆ 110 Eํ ทางรถไฟ120 ํE 130 Eํ 140 Eํ 150 Eํ 160 ํE
10แบบฝก ท่ี เลอื กเสน ทางการขนสง เพอ่ื หาแหลง เศรษฐกจิ 5 อยา ง แลว อธบิ าย 5คะแนนเตม็
ลักษณะเศรษฐกจิ ท่ลี ากผา น
๒) กำรเปลยี่ นแปลงทำงเศรษฐกิจ ทส่ี ำ� คัญ มีดังน้ี (แนวตอบ)
FINISH
๒.๑) กำรเจรญิ เตบิ โตทำงเศรษฐกจิ ออสเตรเลยี มกี ำรเจรญิ เตบิ โตทำงเศรษฐกจิ
อยำ่ งตอ่ เนอ่ื ง เปน็ ประเทศทพี่ ฒั นำนวตั กรรมและเทคโนโลยที นั สมยั รวมถงึ นกั ลงทนุ จำกหลำกหลำย FINSH คำอธิบายสัญลกั ษณ
ภูมภิ ำคเขำ้ มำลงทนุ ในประเทศเปน็ จ�ำนวนมำก กวม หมเู กาะมารแ ชลล ทอง กวี ี
๒.๒) กำรพฒั นำทำงดำ้ นนวตั กรรมและเทคโนโลย ี ออสเตรเลยี เปน็ ผนู้ ำ� ทำงดำ้ น
นวตั กรรมและเทคโนโลยที ีส่ �ำคญั ของโลก เช่น อินเทอรเ์ น็ตไรส้ ำย (Wi – Fi Internet) และแผนท่ี ปาเลา ไ ม โ ค ร น� เ ซี ย เหล็ก แกะ
กูเกลิ (Google Maps) นอกจำกน้ี ยังมีกำรสง่ เสรมิ และพัฒนำด้ำนเทคโนโลยีในทุก ๆ ด้ำน ฟอสเฟต โค
๒.๓) กำรปรบั นโยบำยทำงเศรษฐกจิ อยำ่ งตอ่ เนอ่ื ง กำรปรบั ปรงุ โครงสรำ้ งพน้ื ฐำน นาอรู ู แกส
กำรปรบั ระบบกำรจัดเกบ็ ภำษีสินค้ำและบรกิ ำร เพ่ือสรำ้ งควำมเข้มแข็งใหก้ ับระบบเศรษฐกิจ ปาปว นิวกนิ � ตวู าลู คิ ริ บ า ตี ปลาทนู า
๒.4) กำรวำงแผนอนุรักษ์ธรรมชำติและสิ่งแวดล้อม เนื่องจำกกำรท�ำปศุสัตว์ ออส เตรเลยี START โซโลมววอาานนนูวาตู ซามวั มะพรา ว ทองเทยี่ ว
ขนำดใหญ่ที่ปล่อยแก๊สมีเทน รวมถึงอุตสำหกรรมต่ำง ๆ ซึ่งเป็นสำเหตุของภำวะโลกร้อนได้ส่ง นิวแคลโิ ดเนยี� หมูเกาะคุก
ผลกระทบตอ่ เศรษฐกิจ จงึ มีควำมร่วมมอื เพ่ือรกั ษำสิ่งแวดลอ้ มอยำ่ งยัง่ ยนื
ฟจี ตองกา นอ� เู อ เ ฟ ร น ช โ ป ลิ น� เ ซี ย
9๗
นวิ ซีแลนด
FINSH เฉฉบลบั ย
FINISH
แหลง ที่ 1 …………………..â…¤….à..¹…..×Íé …..â…¤….¹….Á…………………….. แหลง ท่ี 2 àËÅç¡…………………………………………………………………….
.»…..Ã….Ð…à…·…..È…..Í….Í….Ê…..à..µ…..Ã….à…Å….ÕÂ…..Á….Õ.¾….é×¹…..·…..ÕèÊ…..‹Ç….¹…..ã…Ë….Þ……‹
.à..»…..š¹….·…..Ð…à..Å…..·….Ã….Ò…Â….á…..Å….Ð…·….Ø.‹§…Ë….Þ……ŒÒ……¨….Ö§…Á…..Õ¡….Ò…Ã….·….íÒ… .Í….Í….Ê….à…µ….Ã….à..Å….Õ.Â….Á….Õ·…..Ã…Ñ.¾….Â…..Ò…¡….Ã….á…..Ã…‹.¨…í.Ò…¹…..Ç…¹…..Á….Ò…¡….
.»….È…..ØÊ….ѵ….Ç….·….Õè..ã..ª…Œà…·….¤…..â..¹…..â..Å….Â….Õ·…..ѹ…..Ê….Á….ÑÂ…….·….í.Ò…ã..Ë…..Œä..´….Œ .¨….Ö§…Á….Õ.Í…Ø.µ….Ê….Ò….Ë….¡…..Ã…Ã….Á….à…Ë….Á….×.Í….§…á…..Ã…‹…â…´….Â….à…©….¾…..Ò…Ð…
.à..¹….×éÍ….á…..Å….Ð…¹….Á….·…..ÕèÁ….Õ¤….³Ø……À….Ò…¾……Ê….§‹…Í….Í….¡….ä..»…..·….ÑÇè….â..Å….¡….. .á…..Ã….‹à…Ë…..Å….ç¡……..«…èÖ.§….à..»…..š.¹…..Džѵ…..¶…..Ø´….Ô.º….Ë…..Å….Ñ.¡….Ê….í.Ò…Ë…..Ã…Ñ.º….
.Í….ص….Ê….Ò…Ë…..¡….Ã…Ã….Á….¼….Å….µÔ…..Ã…¶….Â….¹…..µ….…………………………………
แหลงที่ 3 ¡ÕÇÕ……………………………………………………………………. แหลงที่ 4 …………………á….Ë….Å….‹§….·….Í‹….§…à..·…..ÕÂè….Ç………………..
.¹….Ô.Ç…«….Õá…..Å….¹…..´…..Á….ÕÀ….Ù.Á….ÔÍ….Ò….¡….Ò…È…..á…..º….º…..ª..×.é¹…..À….Ò….¤….¾…..é×¹…. .¿…..¨‚ …ÁÕ…..ÅÕ ….¡Ñ ….É….³…..Ð….À….ÁÙ ….»Ô….Ã….Ð…à..·…..È….à..»…..¹š ….à..¡….Ò…Ð….À….àÙ ..¢…Ò…ä…¿….
.Ê….Á….Ø·…..Ã……Í….Õ¡….·…..Ñ駅Á…..Õ´….Ô¹….À….Ùà…¢…Ò…ä…¿…..·….ÕèÍ….Ø´…..Á….Ê….Á….º….Ù.Ã…³….. .á….Å…..Ð…à..¡…..Ò…Ð…»…..Ð…¡…..Ò…Ã…Ñ.§……¨….Ö§….Á….Õá…..Ë….Å….‹.§…·…..‹Í….§….à..·…..ÕèÂ….Ç…
.·….í.Ò…ã…Ë….Œ.Ê….Ò…Á…..Ò…Ã….¶…..»….Å….Ù.¡….¡….ÕÇ…Õ.¾….Ñ ¹…..¸….Ø´….Õá…..Å….Ð….à..»…..š¹…..·….Õè .¸…Ã….Ã…Á….ª…Ò…µ…..·Ô ….ÕÊè….Ç…Â….§…Ò…Á…..·….ѧ酺…..¹….à..¡….Ò…Ð…á….Å….Ð…ª…Ò…Â….½….§›˜…
.µ….ŒÍ….§…¡….Ò….Ã…¢…Í….§….µ….Å….Ò…´….â…Å….¡…………………………………………….
………………………………………………………………………………………………
แหลง ที่ 5 »ÅÒ·¹Ù Ò……………………………………………………………………. 43
.»….Ã….Ð…à…·…..È….¡….Å….Ò…§….Á….Ë…..Ò…Ê….Á….Ø·…..Ã….á….»…..«….Ô¿…..¡….Á….ÕÀ….Ù.Á….Ô»…..Ã…Ð….à..·…..È….·….Õ.èà..¡….Ô´…..¨…Ò….¡….»…..Ð…¡….Ò…Ã….ѧ……ä…Á….‹à…Ë….Á….Ò….Ð…á….¡…..‹¡….Ò…Ã….·….í.Ò…¡….Ò…Ã…
.à..¡….É…..µ….Ã……¨….Ö§…Á…..¡Õ ….Ò…Ã…·…..íÒ…»…..Ã…Ð…Á….§….º….Ã…Ô.à..Ç…³…..ª…Ò…Â….½…..˜›§……à..¾….è×Í….ã..ª…Œº…..Ã…Ôâ…À….¤….ã..¹…..À….ÁÙ ….ÔÀ….Ò…¤…….á….Å….Ð…Á…..¡Õ ….Ò…Ã…Ê….§‹…Í….Í….¡….»…..Å….Ò…·….Ù¹…..Ò..
áËÅ‹§ãËÞ¢‹ ͧâÅ¡…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ขนั้ ประเมนิ
1. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม
การรว มกันทาํ งาน และการนําเสนอผลงาน
2. ครูตรวจสอบผลจากการทาํ ใบงาน และ แบบ
ฝกสมรรถนะภมู ิศาสตร ม.1
ขอสอบเนน การคดิ แนวทางการวัดและประเมินผล
สภาพเศรษฐกจิ ทมี่ ีการเปล่ียนแปลงของทวีปออสเตรเลียและ ครสู ามารถวดั และประเมนิ ความเขา ใจเนอื้ หา เร่ือง ลกั ษณะเศรษฐกิจของ
โอเชียเนยี ในปจจบุ ันเกิดจากสาเหตุใดเปน สาํ คญั ทวปี ออสเตรเลียและโอเชยี เนยี ไดจ ากการตอบคําถาม การรว มกันทาํ งาน และ
การนําเสนอผลงานหนาชั้นเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจาก
(วิเคราะหคําตอบ ในปจจุบันทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย แบบประเมินการนําเสนอผลงานที่แนบมาทายแผนการจัดการเรียนรูหนวยท่ี 3
ประสบกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจเชนเดียวกับภูมิภา เรอ่ื ง ทวปี ออสเตรเลยี และโอเชียเนีย
คอ่นื ๆ ของโลก โดยความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติและ
ส่ิงแวดลอ มจากกิจกรรมตา งๆ ของมนษุ ย สง ผลใหเศรษฐกิจของ แบบประเมินการนาเสนอผลงาน
แตละประเทศในทวีปซึ่งพึ่งพาการเกษตรเปนหลักประสบปญหา
หลายประการ เชน ภยั แลง ในประเทศออสเตรเลยี จากปรากฏการณ คาชแ้ี จง : ใหผ้ ู้สอนประเมินผลการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แลว้ ขีด ลงในชอ่ งที่
เอลนีโญ สงผลใหฟ ารมปศสุ ตั วไ ดรับผลกระทบอยางรุนแรง จาก ตรงกบั ระดบั คะแนน
ภยั นํ้าทะเลเขา ทวมพ้ืนทใ่ี นประเทศที่เปนหมูเกาะขนาดเล็กตา งๆ
จากภาวะโลกรอน ทําใหข าดแคลนพนื้ ท่ีทําการเกษตร) ลาดับที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1
32
1 ความถกู ต้องของเนอ้ื หา
2 การลาดับข้นั ตอนของเรื่อง
3 วธิ ีการนาเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์
4 การใชเ้ ทคโนโลยีในการนาเสนอ
5 การมีส่วนร่วมของสมาชกิ ในกลุ่ม
รวม
ลงชื่อ……………………………………………ผปู้ ระเมิน
…………/……………../…………….
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินเป็นสว่ นใหญ่
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ บางสว่ น
เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ
12 – 15 ดี T101
8 – 11 พอใช้
ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรงุ
นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขน้ั นาํ ๒ ภมู ภิ าคของทวปี ออสเตรเลียและโอเชียเนยี
Geographic Inquiry Process ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนียล้วนเป็นประเทศเกำะและหมู่เกำะ มีเพียงออสเตรเลีย
นิวซแี ลนด ์ และปำปวั นิวกนิ เี ทำ่ น้ันทเ่ี ป็นเกำะขนำดใหญ่
1. ครูใหนักเรียนดูภาพประเทศออสเตรเลีย
ประเทศนิวซีแลนด และประเทศในหมูเกาะ ๒.๑ ภูมภิ าคแผ่นดินใหญท่ วปี ออสเตรเลยี
จากนัน้ สนทนารว มกัน
ออสเตรเลยี เปน็ ดนิ แดนเกำ่ แกท่ มี่ ชี นเผำ่ พน้ื เมอื งอำศยั อยมู่ ำกอ่ นทชี่ ำวตะวนั ตกจะเดนิ ทำง
2. ครถู ามคาํ ถามกระตนุ ความคดิ เชน เข้ำมำส�ำรวจ ซ่ึงเป็นจุดเริ่มต้นของกำรต้ังถ่ินฐำนของชนชำติต่ำง ๆ และควำมหลำกหลำยทำง
ï• ภูมิภาคหมูเกาะโอเชียเนียมีลักษณะพิเศษ วฒั นธรรมของออสเตรเลยี
อยา งไร
(แนวตอบ มีลักษณะพิเศษ คือ กําเนิดจาก ๑) ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศโดดเดน่ ประเทศออสเตรเลยี มอี ำณำเขตกวำ้ งขวำง ทำ� ให้
ภูเขาไฟใตส มุทรและปะการัง) มภี มู ิประเทศทีห่ ลำกหลำย โดยลักษณะภูมปิ ระเทศที่โดดเดน่ มีดังนี้
๑.๑) ประตมิ ำกรรมทะเลทรำย
ขนั้ สอน แผนท่ีแสดงภูมปิ ระเทศโดดเดนของทวีปออสเตรเลีย โบรำณ เสำหินปูนรูปร่ำงประหลำดท่ำมกลำง
ขน้ั ที่ 1 การตงั้ คาํ ถามเชงิ ภมู ศิ าสตร์ 10 Sํ ทะเลติมอร ทะเลอาราฟูรอาา ว 10Sํ ทะเลทรำยสเี หลอื งของออสเตรเลยี ซง่ึ บำงสว่ น
20 ํS คารเ พน ต ทะเลคอรัล เกิดขึ้นจำกเปลือกหอย เน่ืองจำกในอดีตพ้ืนท่ี
1. ครูใหนักเรียนดูแผนท่ีทวีปออสเตรเลียและ แทเรีย
โอเชยี เนีย เก ร แบรริเ ออรรีฟ 20 Sํ บริเวณนเ้ี คยเปน็ ทะเลมำกอ่ น
ม ห า ส มุ ท ร อิ น เ ดี ย
2. ครกู ระตนุ ใหน กั เรยี นชว ยกนั ตงั้ ประเดน็ คาํ ถาม อลู รู ู เสน ทรอปกออฟแคปรคิ อรน
เชงิ ภูมิศาสตร เชน
•ï วิถีชีวิตของประชากรบนแผนดินใหญและ อ อ ส เ ต ร เ ลี ย
ประเทศในหมูเกาะเหมือนกันหรือแตกตาง
กันอยางไร 30 ํS ประตมิ ากรรมทะเลทรายโบราณ น.ดารล งิ 30 Sํ
40412,,,ํS4200010000010000000 ํE น.เมอรรยี ทะเล
ขน้ั ที่ 2 การรวบรวมขอ้ มลู เกรตออสเตรเลยี นไบต แทสมัน
นกั เรยี นแบง กลุม สืบคน ขอ มูลเก่ียวกับภูมิภาค ระด(ับเมคตวารม) สูง มNาตร0าสว น4010 : 80,000,000 40 ํS
แผนดินใหญทวีปออสเตรเลีย จากหนังสือเรียน 800 กม.
ภมู ิศาสตร ม.1
120 Eํ 130 ํE 140 Eํ 150 ํE ประติมำกรรมทะเลทรำยโบรำณ
๑.๒) อูลูรู (Uluru) หรือแอร์สร็อก (Ayers Rock) ภูมิประเทศที่โดดเด่นของ
ออสเตรเลีย “อูลูรู” เป็นค�ำในภำษำของชำวแอบอริจินี แปลว่ำ สถำนที่พบปะ ตั้งอยู่กลำง
ทะเลทรำยในเขตพ้ืนที่อุทยำนแห่งชำติอูลูรู มีลักษณะเป็นเขำโดดหินทรำยใหญ่ที่สุดในโลก
มีลักษณะพิเศษ คือ สำมำรถเปล่ียนสีไปตำมกำรสะท้อนของแสงอำทิตย์ ได้แก่ สีทอง สีแดง
สีชมพู สที บั ทิมสแี ดงก�ำ่ และสมี ว่ ง ปจั จบุ ันเป็นสญั ลักษณส์ ำ� คัญของออสเตรเลยี และเป็นสถำนท่ี
ท่องเทย่ี วท่ดี งึ ดูดนกั ท่องเที่ยวจ�ำนวนมำก
อลู รู ู
98
บูรณาการเช่อื มสาระ
เนือ้ หาในสวนนสี้ ามารถเชือ่ มโยงกับกลมุ สาระวทิ ยาศาสตร โดย
ใหนักเรียนศึกษาคนควาถึงปรากฏการณการสะทอนของแสงอาทิตย
ของอูลูรู ในทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย ท่ีสามารถปรับเปล่ียนได
หลากหลายสี เพือ่ ความเขา ใจในภมู ิประเทศท่ีโดดเดน ของออสเตรเลยี
มากยงิ่ ขึน้
T102
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
๒) กำรคน้ พบทวปี ออสเตรเลยี ชำวยโุ รปชำตแิ รกทเ่ี ดนิ เรอื ขนั้ สอน
ไปขึ้นยงั บริเวณชำยฝ่งั ตะวนั ตกของคำบสมุทรยอร์ก ทวปี ออสเตรเลีย เมอ่ื
พ.ศ. ๒๑๔๙ คอื ชำวดตั ช ์ และไดส้ ำ� รวจชำยฝง่ั ตอนเหนอื และตะวนั ตก ขน้ั ท่ี 3 การจดั การขอ้ มลู
โดยต้ังชือ่ ดินแดนนวี้ ำ่ “นิวฮอลแลนด์” ตอ่ มำใน พ.ศ. ๒๓๑๓ กปั ตัน
เจมส์ คุก แห่งกองทัพเรืออังกฤษได้เดินทำงมำส�ำรวจและท�ำแผนท่ี 1. สมาชิกนําขอมูลท่ีตนไดจากการรวบรวม มา
ชำยฝั่งตะวันออกของออสเตรเลีย และประกำศให้เป็นดินแดนของ กปั ตนั เจมส ์ คุก อธิบายแลกเปลี่ยนความรูระหวางกันและชวย
กันคัดเลือกขอมูลที่นําเสนอเพ่ือใหไดขอมูลท่ี
อ งั กฤษ ตัง้ ชือ่ ๓ว่ำ) “ชนนวิ เเซผำ่ำทพ์เวื้นลเสม์”ือ ผงู้ตแ้งัอถบ่ินอฐรำิจนินในี ชท่ววงีปแอรกอเสปเต็นรนเกัลโียทมษีชแำลวะแผอ้อู บพอยรพิจินอ1ื่นี ( ๆAborigines) ถกู ตอ ง
เป็นชนเผ่ำด้ังเดิม ต้ังถ่ินฐำนอยู่แถบรัฐนิวเซำท์เวลส์ ลักษณะเด่น คือ มีผิวด�ำและผมหยิก
มีวัฒนธรรมชนเผ่ำเป็นของตนเอง เมื่ออังกฤษอพยพเข้ำมำตั้งถ่ินฐำนในออสเตรเลีย ท�ำให้ 2. ครูใหนักเรียนแตละกลุมใชภาพประกอบ
ชำวแอบอริจินีกลำยเป็นชนกลุ่มน้อย จนกระท่ังเม่ือ พ.ศ. ๒๕๕๖ รัฐบำลเครือรัฐออสเตรเลียได้ ท่ีเก่ียวของกับภูมิภาคแผนดินใหญทวีป
ผำ่ นกฎหมำยรบั รองชำวแอบอรจิ นิ เี ปน็ ชนพน้ื เมอื งกลมุ่ แรกทอี่ ำศยั อยู่ในทวปี ออสเตรเลยี ปจั จบุ นั ออสเตรเลีย จากหนงั สือเรยี นภมู ิศาสตร ม.1
อำศัยอยู่ในดินแดนนอร์เทิร์นเทร์รทิ อรเี ปน็ สว่ นใหญ่ แลวศกึ ษาความเชอ่ื มโยงของขอมลู รว มกัน
4) เมอื งลึกลับใต้ดินแหง่ ออสเตรเลยี เม่อื พ.ศ. ๒๔๕๘ มกี ำรขุดพบแร่โอพอล ขน้ั ท่ี 4 การวเิ คราะหแ์ ละแปลผลขอ้ มลู
ซง่ึ เปน็ แรร่ ตั นชำตชิ นดิ หนงึ่ ในตระกลู แรค่ วอตซ ์ ทเ่ี มอื งคเู บอรเ์ พด ี (Coober Pedy) แถบทะเลทรำย
ทำงตอนเหนอื ของรฐั เซำทอ์ อสเตรเลยี ในเวลำตอ่ มำมกี ำรปรบั พน้ื ทเ่ี จำะเปน็ อโุ มงคส์ ำ� หรบั ใชเ้ ปน็ สมาชิกแตละกลุมนําขอมูลที่รวบรวมไดมา
ทพ่ี กั อำศยั เพอ่ื หลบสภำพอำกำศรอ้ นจดั ในฤดรู อ้ น และตอ่ มำไดพ้ ฒั นำทพี่ กั อำศยั เปน็ รำ้ นขำยของ วิเคราะหรวมกันเพื่ออธิบายคําตอบพรอมทั้ง
กำสโิ น โบสถ ์ และอน่ื ๆ จนเปน็ แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วท่มี ีชอื่ เสยี งของออสเตรเลยี ตรวจสอบความถกู ตองของขอมลู
ชำวแอบอริจินี ขน้ั ที่ 5 การสรปุ เพอื่ ตอบคาํ ถาม
1. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั อภปิ รายสรปุ และรว มกนั
ตอบคาํ ถามเชงิ ภมู ศิ าสตร โดยมคี รเู ปน ผชู แี้ นะ
2. ครูใหนักเรียนรวมกันทําใบงานที่ 3.7 เร่ือง
ภูมิภาคแผนดินใหญทวีปออสเตรเลีย เพื่อ
ทดสอบความรทู ไี่ ดศึกษามา
เมืองลกึ ลบั ใตด้ ินแหง่ ออสเตรเลีย
99
ขอสอบเนน การคิด นักเรียนควรรู
ชาวแอบอรจิ นิ มี ีวิถชี วี ติ และความเปน อยูอยางไร 1 ชาวแอบอรจิ ินี ชาวพ้ืนเมืองด้งั เดิมของประเทศออสเตรเลีย ปจจบุ นั มอี ยู
(วิเคราะหคําตอบ ผูชายจะทําหนาท่ีลาสัตวมาเปนอาหาร แตใน ประมาณ 2% ของประชากรท่วั ประเทศ หรอื ราว 400,000 คน คําวา แอบอริจนิ ี
มาจากภาษาอังกฤษ หมายถึง ตน กําเนดิ แรกเร่ิม หรือพนื้ เมอื ง ตามหลักฐาน
ปจจุบันวิถีชีวิตมีการเปล่ียนแปลงไป เน่ืองจากความเจริญของเมือง ของโบราณคดีบงชี้วา ชาวแอบอริจนิ ีอพยพมาจากทวปี เอเชีย เม่ือราว 40,000
จึงทําใหกลายเปนคนสวนนอยและเปนพลเมืองชั้นสองของประเทศ มี – 70,000 ปมาแลว
สิทธิตางๆ นอยกวาคนผิวขาว ชาวแอบอริจินีสวนหน่ึงจึงหันมาแสดง
วัฒนธรรมตา งๆ ใหนักทองเทย่ี วชม)
T103
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขนั้ สอน ๒.๒ ภูมภิ าคหมูเ่ กาะโอเชยี เนีย
ขน้ั ท่ี 1 การตงั้ คาํ ถามเชงิ ภมู ศิ าสตร์ ประเทศตำ่ ง ๆ ในหมเู่ กำะโอเชยี เนยี มลี กั ษณะเปน็ เกำะและหมเู่ กำะอย ู่ในมหำสมทุ รแปซฟิ กิ
เปน็ เกำะท่มี ีลกั ษณะพิเศษ คือ กำ� เนิดจำกภูเขำไฟใต้สมทุ รและปะกำรัง
1. ครใู หน กั เรยี นดแู ผนผงั การเกดิ หมเู กาะปะการงั
วงแหวน จากหนังสือเรียนภมู ิศาสตร ๑) หมู่เกำะภูเขำไฟในโอเชียเนีย เกำะและหมู่เกำะในโอเชียเนียตั้งอยู่แถบ
2. ครกู ระตนุ ใหน กั เรยี นชว ยกนั ตงั้ ประเดน็ คาํ ถาม วงแหวนแห่งไฟ และเป็นพ้ืนท่ีของแนวร่องลึกก้นสมุทรท่ีแผ่นธรณีขนำดใหญ่ คือ แผ่นแปซิฟิก
เชิงภูมศิ าสตร เชน มุดลงใตแ้ ผน่ อนิ เดียและแผ่นออสเตรเลยี ท�ำให้แมกมำปะทขุ น้ึ มำเปน็ ภูเขำไฟใต้มหำสมุทร และ
ï• ภูมิภาคหมูเกาะโอเชียเนียมีลักษณะ เมือ่ พน้ ผวิ น้�ำทะเลจึงมีลักษณะเปน็ เกำะภูเขำไฟทว่ั ไป โดยบริเวณดังกลำ่ วมกั เกิดแผ่นดินไหวและ
ภูมิประเทศท่ีแตกตางจากลักษณะภูมิภาค ภเู ขำไฟปะทุ แตด่ นิ ภูเขำไฟมคี วำมอดุ มสมบูรณส์ งู จึงสง่ ผลดตี ่อกำรเพำะปลูก
แผนดินใหญท วปี ออสเตรเลยี อยา งไร
•ï ชนเผาพื้นเมืองเมารี ชนพื้นเมืองของ การเกดิ หมู่เกาะปะการงั วงแหวน แนวปะกำรัง
ประเทศนิวซีแลนด มีความเกี่ยวของกับ เจริญเติบโตขึน้
ชาวแอบอรจิ ินี ชนพ้ืนเมืองของออสเตรเลยี แนวปะกำรงั
หรือไม เพราะเหตุใด เจรญิ เติบโตข้ึน ๓
ขนั้ ที่ 2 การรวบรวมขอ้ มลู ลำกนู ลำกนู
1. ครูใหนักเรียนกลุมเดิม สืบคนขอมูลเก่ียวกับ ๑๒
ภูมิภาคหมูเกาะโอเชียเนีย จากหนังสือเรียน
ภมู ิศาสตร ม.1 ในประเดน็ ตอไปนี้ เกดิ กำรทรุด เกิดกำรทรุด เกิดกำรทรุด
•ï หมูเกาะภูเขาไฟในโอเชียเนีย พืดหินปะกำรัง แนวปะกำรัง เกำะปะกำรงั วงแหวน
•ï ชนเผาพ้นื เมืองเมารี (fringing reef) (barrier reef)
ï• หมเู กาะถูกนา้ํ ทะเลทวม (atoll)
2. ครูอาจใหนักเรียนทํากิจกรรม Geo – Activity ๒) ชนเผ่ำพืน้ เมืองเมำรี
จากหนังสือเรียนภูมิศาสตร ม.1 เพื่อสืบคน
ขอมูลเพมิ่ เติม เนชวิ อ้ื ซสแี ำลยนโดปม์ลชีินนีเซเผียำ่นเ1มทำ่ีอรำ ี(ศMัยaอoยriู่ใ)น เเปกน็ ำชะนเหพนนื้ ือเมแอลื งะ
เกำะใต ้ มลี กั ษณะเด่น คือ ผิวคล�้ำ ผมไมห่ ยิก
ชำวเมำร ี ชนพ้นื เมืองของประเทศนิวซแี ลนด์ มีวัฒนธรรมเป็นของตนเอง ใน พ.ศ. ๒๓๘๓
องั กฤษไดเ้ ขำ้ มำครอบครองดนิ แดนดงั กลำ่ ว โดย
ไดท้ ำ� สญั ญำไวตงั กกี บั ชำวเมำร ี แตก่ ย็ งั มคี วำม
ขดั แยง้ กนั จบลงดว้ ยควำมพำ่ ยแพข้ องชำวเมำร ี
จนปจั จบุ นั ควำมขดั แยง้ คอ่ ย ๆ จำงหำยไป
Aectoivity
สืบคน้ สภำพภูมิศำสตร์ของสถำนท่ีในหมู่เกำะโอเชยี เนียทส่ี นใจ ๑ แหง่ เขียนสรุปขอ้ มลู แลว้ นำ� มำ
แลกเปล่ยี นเรียนร้กู นั ในช้นั เรียน
๑00
นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคดิ
1 ชนพ้ืนเมืองเช้ือสายโปลินีเซียน ชนพ้ืนเมืองท่ีอาศัยอยูบริเวณหมูเกาะใน เพราะเหตุใดประเทศในภูมิภาคหมูเกาะโอเชียเนียจึงมักเกิด
มหาสมุทรแปซิฟกตอนกลาง อันเปนสวนหนึ่งของภูมิภาคหมูเกาะโอเชียเนีย แผน ดนิ ไหวและภเู ขาไฟปะททุ ร่ี นุ แรง
ประกอบดว ยประเทศนิวซแี ลนด หมูเกาะฮาวาย เกาะซามวั ดินแดนเฟรนช –
โปลนิ เี ซีย หมูเกาะคกุ เกาะฟนิกซ ประเทศตูวาลู ประเทศตองกา รวมถงึ เกาะ (แนวตอบ เพราะมพี นื้ ทอี่ ยบู รเิ วณรอยตอ ของแผน เปลอื กโลกทม่ี กี าร
อีสเตอร ชนพ้ืนเมืองเชื้อสายโปลินีเซียนอาจมีความเก่ียวดองกับชนชาติมลายู เคลือ่ นไหวจงึ ทาํ ใหเกิดเกิดแผน ดนิ ไหวและภเู ขาไฟปะททุ ่รี นุ แรง)
ภาษาทใี่ ชเ ปน ภาษาตระกลู ยอ ยในกลมุ ภาษาออสโตรนเี ชยี น ภาษาสาํ คญั ไดแ ก
ภาษาฮาวาย เมารี มารเ กซอง ซามวั ตองกา และตาฮีติ
T104
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
๓) หมเู่ กำะถกู นำ้� ทะเลทว่ ม หมเู่ กำะในโอเชยี เนยี ทเ่ี กดิ จำกหนิ พดื ปะกำรงั 1 ซง่ึ เปน็ ขนั้ สอน
บริเวณท่ีเคยเป็นทะเลมำก่อน มีควำมสูงจำกระดับทะเลปำนกลำงไม่มำก เม่ือเกิดภำวะโลกร้อน ขนั้ ที่ 3 การจดั การขอ้ มลู
ส่งผลให้ธำรน�้ำแข็งละลำยมำกขึ้น ระดับน�้ำทะเลจึงเพิ่มสูงขึ้น รวมท้ังหมู่เกำะต่ำง ๆ ที่ต้ังอยู่
ในเขตรอ้ นใกลเ้ สน้ ศนู ยส์ ตู ร จงึ ไดร้ บั อทิ ธพิ ลจำกลมคำ้ เกอื บตลอดเวลำ กระแสลมแรงสง่ ผลใหค้ ลนื่ 1. สมาชิกนําขอมูลท่ีตนไดมาจากการรวบรวม
กัดเซำะชำยฝั่งมำกขึ้น เช่น หมู่เกำะโซโลมอนมีระดับน้�ำทะเลสูงขึ้นรำว ๑๐ เซนติเมตรทุกป ี มาอธิบายแลกเปล่ียนความรูระหวางกันและ
ส่งผลให้หมู่เกำะบำงส่วนจมหำยไปในทะเล รวมท้ังหมู่เกำะอ่ืน ๆ เช่น ตูวำลู หมู่เกำะมำร์แชลล ์ ชวยกันคัดเลือกขอมูลที่นําเสนอเพื่อใหได
มคี วำมเสย่ี งทจ่ี ะจมอยใู่ ตน้ ำ�้ ทรพั ยำกรนำ�้ จดื และกำรเกษตรไดร้ บั ควำมเสยี หำย และเสยี่ งตอ่ กำรยำ้ ยถนิ่ ขอมูลที่ถกู ตอง
แผนทแ่ี สดงประเทศที่เปน เกาะขนาดเลก็ ในโอเชยี เนย� ที่เสยี่ งตอ การถูกนำ้ ทะเลทวม 40 ํN 2. ครใู หน กั เรยี นแตล ะกลมุ ดแู ผนทแ่ี สดงประเทศ
ทเ่ี ปน เกาะขนาดเลก็ ในโอเชยี เนยี ทเี่ สย่ี งตอ การ
40 ํN ถูกนํ้าทะเลทวม จากหนังสือเรียนภูมิศาสตร
ม.1 แลวจึงนาํ ขอมูลมาอภิปรายภายในกลมุ
30 ํN 30 Nํ
ขนั้ ท่ี 4 การวเิ คราะหแ์ ละแปลผลขอ้ มลู
มาจโู ร
สมาชิกแตละกลุมนําขอมูลที่รวบรวมมา
20 ํN เมเลเกโอก 20 ํN วิเคราะหรวมกันเพ่ืออธิบายคําตอบ พรอมทั้ง
ตรวจสอบความถูกตอ งของขอมูล
10 Nํ ปาลกี รี หมูเกาะมารแ ชลล 10 ํN
ขนั้ ท่ี 5 การสรปุ เพอ่ื ตอบคาํ ถาม
ปาเลา ไ ม โ ค ร นี เ ซี ย ตาระวา
1. ครแู ละนกั เรยี นอภิปรายสรุป และรว มกันตอบ
0ํ 0ํ คาํ ถามเชงิ ภูมิศาสตร โดยมคี รเู ปน ผชู ้ีแนะ
คิ ริ บ า ตี 2. นกั เรยี นรว มกนั ทาํ ใบงานที่ 3.8 เรอ่ื ง ลักษณะ
โซโลมอน ตวู าลู ทางกายภาพของภูมิภาคแผนดินใหญและ
ภมู ภิ าคหมูเกาะ เพอ่ื ทดสอบความรู
10 ํS 10 ํS
วาออี ากู
20 Sํ โฮนอ� ารา ฟจ ี 20 ํS
ซูวา
30 ํS 30 Sํ
40 ํS 40 Sํ
N มาตราสว น 1 : 80,000,000 กม.
0 1,000 2,000
120 Eํ 130 ํE 140 Eํ 150 Eํ 160 ํE 170 ํE 180 ํE 170 ํW 160 Wํ 150 Wํ
๑0๑
ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู
พธิ ีสารเกยี วโตเปนความรว มมอื ระหวางประเทศที่มงุ แกไ ข 1 หนิ พดื ปะการงั ซากปะการงั ทท่ี บั ถมกนั จนกลายเปน หนิ และมกี ารพอกพนู
ปญ หาอะไร รวมกันอยูเปนจํานวนมากขึ้นๆ และในบางคร้ังอาจมีการแผออกไปเปนบริเวณ
กวาง
1. การแกป ญ หาโลกรอ น
2. การอนรุ ักษพ น้ื ทช่ี ุมนา้ํ ของโลก
3. การแพรร ะบาดของโรคไขเ ลือดออก
4. การปราบปรามและทําลายยาเสพตดิ
(วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. พิธีสารเกียวโตหรือขอตกลงเกียวโต
เปน ความรว มมอื ระหวา งประเทศทม่ี งุ เนน แกป ญ หาโลกรอ น โดยประเทศ
ตางๆ ไดรว มลงนามเพือ่ ลดปรมิ าณการปลอยแกส เรอื นกระจก ซ่ึงเปน
สาเหตสุ าํ คญั ทที่ ําใหเกดิ ภาวะโลกรอ น)
T105
นาํ สอน สรุป ประเมนิ
ขนั้ สรปุ ๓สรปุ สาระสา� คญั
1. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเกี่ยวกับ หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี
ภูมิภาคของทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย
หรอื ใช PPT สรปุ สาระสําคัญของเน้ือหา ตาม ภมู ปิ ระเทศ
ประเดน็ ตอ ไปน้ี
•ï ภูมิภาคแผน ดนิ ใหญทวีปออสเตรเลยี • อ อสเตรเลยี มเี ทอื กเขำ ท่รี ำบสงู ทรี่ ำบ ทะเลทรำย และมแี นวพืดหินปะกำรังบรเิ วณชำยฝัง่
•ï ภมู ิภาคหมูเ กาะโอเชียเนยี • โ อเชยี เนีย มีลกั ษณะเปน็ เกำะและหม่เู กำะ เกำะภเู ขำไฟและหมู่เกำะปะกำรงั
2. นักเรียนนําขอมูลท่ีไดทั้งหมดมาทําช้ินงาน/ ภมู อิ ากาศ
ภาระท่ี 3 โดยจัดทําเปนคลิปวิดีโอนําเสนอ
เร่อื ง การทองเท่ยี วออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี • ออสเตรเลีย มภี ูมอิ ำกำศแถบศนู ย์สตู รและแบบอบอุน่ จงึ มี
พืชพรรณธรรมชำติหลำกหลำยตำมลกั ษณะภมู อิ ำกำศ
3. ครใู หน กั เรยี นทาํ แบบฝก สมรรถนะฯ ภมู ศิ าสตร • โ อเชยี เนยี เกำะและหมเู่ กำะทอี่ ยแู่ ถบเสน้ ศนู ยส์ ตู รมอี ำกำศรอ้ นชนื้
ม.1 เร่ือง ภูมิภาคแผนดินใหญและภูมิภาค สว่ นนวิ ซีแลนดเ์ ปน็ เกำะใหญ ่ มภี มู อิ ำกำศแบบอบอุ่น
หมเู กาะ
ทรพั ยากรธรรมชาติ
7แบบฝกที่ ดภู าพเมืองสาํ คัญทีก่ าํ หนดให แลววิเคราะหลกั ษณะการ 10คะแนนเต็ม
ต้ังถ่นิ ฐานของประชากร (แนวตอบ) • ออสเตรเลีย มีแร่ต่ำง ๆ เชน่ ถำ่ นหนิ โอพอล และ
1 มแี ก๊สธรรมชำติ
• โอเชียเนีย บริเวณหมู่เกำะต่ำง ๆ มีแร่ไม่มำกนัก
2 สว่ นนวิ ซแี ลนดม์ แี หลง่ แรต่ ำ่ ง ๆ เชน่ เหลก็ ถำ่ นหนิ
ทองค�ำ รวมท้ังปิโตรเลยี ม
กรงุ พอรต มอรส บี ประเทศปาปว นวิ กนิ ี กรงุ ซวู า ประเทศฟจ ี
ลกั ษณะทตี่ งั้ ..¡….Ã…§Ø…«….ÇÙ…Ò…à..»….¹š…..à..Á….Í×…§…Ë…..Å…Ç….§…á….Å….Ð…à..Á….Í×…§… ประชากร
ลักษณะท่ตี ้งั ..µ…..éѧ…Í….Â….Ù‹º…..¹….½….˜›§….µ….Ð….Džѹ….Í….Í….¡….à..©…..ÕÂ….§…ã..µ…..Œ .·….Ò‹…·…..Ò…§…·….Ð…à…Å…·…..ÕÊè….Òí…¤….ÞÑ…..á…..Ë….§‹ …Ë….¹….§Ö.è ..¡….Å….Ò…§…Á….Ë…..Ò…Ê….Á….·Ø….Ã… ทวปี
¢…Í….§…Í….‹Ò…Ç….»….Ò….»….˜Ç……Á….ÕÍ….‹Ò…Ç….¨….Í…´…..à..Ã…×Í….¡….íÒ…º…..ѧ…Å….Á….Í….Â….‹Ò….§…´….Õ .á….»….«….¿Ô….¡. …..à..»….¹š….á…..Ë….Å….§‹ …Í…µ.Ø ….Ê….Ò…Ë….¡….Ã…Ã….Á….¡…Ò…Ã….·….Í‹….§…à..·….Õ.Âè …Ç… • อ อสเตรเลยี ประชำกรมคี วำมหนำแนน่ นอ้ ย สว่ นใหญ่
¨….Ö§…à…»….š¹…..È….Ù¹…..Â….¡….Å….Ò….§…¡….Ò….Ã…¤…..ŒÒ…·…..ÕèÊ….íÒ…¤…..ÑÞ……..à…¹….×Íè….§….¨….Ò…¡…. .¢…Í….§…»….Ã….Ð…à..·….È……Á….ÊÕ….¶….Ò…¹…..È….¡Ö ….É….Ò…Ã….Ð…´….ºÑ….Ê….§Ù…Ë….Å….Ò…Â….á….Ë….§.‹ .. ออสเตรเลีย อำศัยอยู่ในเมือง มปี ระชำกรสงู วยั มำก
à..»…..š¹….à…Á….×Í….§…Ë…..Å….Ç…§….á….Å….Ð…à…Á….×Í….§…Ê….íÒ….¤….ÑÞ……¢…Í….§…»…..Ã…Ð….à..·…..È…. .»….Ã….Ð…ª…Ò…¡….Ã…¨….§Ö…Í….Ò…È….ÂÑ….Í….Â….Í‹Ù….Â….Ò‹ …§…Ë….¹…..Ò…á….¹….¹.‹ ……………………… และโอเชยี เนีย • โ อเชียเนีย ในหมู่เกำะต่ำง ๆ มีประชำกรกระจำย
»….Ã….Ð…ª…Ò…ª…¹…..¨…Ö§….à..¢…ŒÒ…Á….Ò….µ….é§Ñ…¶…..è¹Ô ….°….Ò…¹…..Á….Ò…¡……………………………. เบำบำง ส่วนใหญ่อำศัยอยู่ตำมเมืองส�ำคัญและ
แหล่งเกษตรกรรม มีประชำกรสูงวัยไม่มำก ส่วน
โฮนอ� ารา นิวซีแลนด์ ประชำกรอำศัยอยู่ในเมืองมำกกว่ำใน
ชนบท และมปี ระชำกรสงู วยั มำก
เฉฉบลับย พอรต มอรส บี ซวู า
พอรตวิลา
เพริ ท บริสเบน 4
3
แคนเบอรร า ซดิ นย� โอกแลนด
เมลเบริ น เวลลิงตนั
ไครสตเ ชิรช
เมอื งเมลเบริ น ประเทศออสเตรเลยี กรงุ เวลลงิ ตนั ประเทศนวิ ซแี ลนด
ลักษณะทตี่ ั้ง …à..Á….Å….à..º….Ô.Ã…¹…..µ….Ñ駅.Í….Â….Ù‹·….Ò…§….µ….Í….¹…..à..Ë….¹…..×Í…¢….Í….§… ลักษณะท่ีตง้ั …à..Ç….Å…Å….§Ô….µ….¹Ñ….à..»…..¹š….à..Á….Í×….§…Ë…..Å….Ç…§…
.Í….‹Ò…Ç….¾….Í….Ã….µ…..¿…..Å….Å….Ô»…….·…..íÒ…ã…Ë….Œ.à..Á….×Í….§….Á….ÕÍ….‹Ò…Ç….¨…Í….´…..à..Ã…×.Í….·….Ò….§… .¢…Í….§….»…..Ã….Ð…à…·…..È…….µ…..éѧ….Í….Â….Ù‹·…..Ò….§…ã…µ…..Œ¢….Í….§….à..¡….Ò….Ð…
.¸….Ã…Ã….Á….ª…Ò….µ….Ô·…..Õè´….Õ …·….Ñ.駅….ѧ….à..»…..š¹….È…..Ù¹….Â….¡…..Å….Ò…§…·…..Ò…§….¡….Ò…Ã….à..§…Ô.¹…. .à..Ë….¹…..Í× ……º….Ã…Ô.à..Ç…³…..ª…Í‹….§…á….¤….º…..¤….¡Ø……à..»…..¹š….à..Á….Í×….§…·…..Ò‹…
.á…..Å….Ð…Í….ص…..Ê….Ò….Ë….¡…..Ã…Ã….Á……..¤….Ç….Ò…Á…..à..¨….Ã…Ô.Þ……¢…Í….§….à..Á….×.Í….§…·…..íÒ….ã..Ë…..Œ .¢…¹…..Ò…´…..ã..Ë…..Þ……‹ã..ª….Œà..ª…×èÍ….Á…..Ã….Ð…Ë….Ç….‹Ò….§…à…¡….Ò…Ð….à..Ë…..¹….×Í….
.»….Ã….Ð…ª…Ò…¡….Ã….à..¢…ŒÒ….ä..»….µ…..§éÑ …¶….¹Ôè…..°….Ò…¹….Í….Â….‹Ò…§….Ë….¹….Ò….á….¹….¹‹………………….. .á….Å…..Ð…à…¡….Ò…Ð….ã..µ…..Œ…à…»…..š¹…..È….Ù¹…..Â…..¡….Å….Ò….§…¡….Ò….Ã….à..§…Ô.¹….
.¡….Ò…Ã…¤…..ŒÒ……á….Å….Ð…¡….Ò…Ã….¤….Á….¹…..Ò…¤….Á….¢….Í….§…»….Ã….Ð…à..·…..È….
.¨…§.Ö …Á….»Õ….Ã….Ð…ª…Ò…¡….Ã…Í….Ò…È….ÂÑ….Í….Â….à‹Ù..»…..¹š ….¨….Òí…¹….Ç….¹….Á….Ò…¡…..
40 (เกณฑการใหค ะแนน ใหขอละ 2.5 คะแนน)
ขนั้ ประเมนิ สงั คมและวฒั นธรรม
• ออสเตรเลีย มีวิถีชีวิตใกล้เคียงกับชำวยุโรป และมีกำรผสมผสำนทำง
1. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม วัฒนธรรมระหวำ่ งชนชำติต่ำง ๆ
การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงาน • โ อเชียเนีย ประชำกรในหมู่เกำะต่ำง ๆ มีวิถีชีวิตผูกพันกับธรรมชำติและ
หนา ช้ันเรยี น รกั ษำวฒั นธรรมของตนเอง สว่ นนวิ ซแี ลนดม์ วี ถิ ชี วี ติ ใกลเ้ คยี งกบั ชำวยโุ รป
เศรษฐกจิ
2. ครตู รวจสอบผลจากการทาํ ใบงานและแบบฝก • ออสเตรเลยี เปน็ ผผู้ ลติ และสง่ ออกสนิ คำ้ เกษตรรำยใหญ ่ อตุ สำหกรรมและเทคโนโลยมี คี วำมเจรญิ กำ้ วหนำ้
สมรรถนะภมู ศิ าสตร ม.1 • โ อเชียเนีย ในหมู่เกำะต่ำง ๆ เน้นกำรท�ำประมงชำยฝั่ง และอุตสำหกรรมกำรท่องเที่ยว ส่วนนิวซีแลนด์
เปน็ ภำคเกษตรกรรมขนำดใหญ ่ ภำคอตุ สำหกรรมเรม่ิ มบี ทบำท และกำรทอ่ งเทยี่ วเปน็ แหลง่ รำยไดส้ ำ� คญั
3. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียนหนวย ๑0๒
การเรียนรูที่ 3 เรื่อง ทวีปออสเตรเลียและ
โอเชยี เนีย
แนวทางการวัดและประเมินผล กิจกรรม 21st Century Skills
ครสู ามารถวดั และประเมนิ ความเขา ใจเนอื้ หา เรอื่ ง ภมู ภิ าคแผน ดนิ ใหญแ ละ ครูใหนักเรียนใชเครื่องมือทางภูมิศาสตรสืบคนขอมูลท่ี
ภมู ภิ าคหมเู กาะ ไดจ ากการตอบคาํ ถาม การรว มกนั ทาํ งาน และการนาํ เสนอผล เก่ียวของกับการทองเที่ยวภายในทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย
งานหนา ชน้ั เรยี น โดยศกึ ษาเกณฑก ารวดั และประเมนิ ผลจากแบบประเมนิ การนาํ จากนนั้ นาํ เสนอขอ มลู ดว ยการจดั ทาํ คลปิ วดิ โี อการทอ งเทยี่ วภายใน
เสนอผลงานทแี่ นบมาทา ยแผนการจดั การเรยี นรหู นว ยที่ 3 เรอื่ ง ทวปี ออสเตรเลยี ทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ตามรปู แบบความคดิ สรา งสรรคข อง
และโอเชยี เนีย นกั เรยี น
แบบประเมินการนาเสนอผลงาน
คาชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนประเมนิ ผลการนาเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการ แลว้ ขดี ลงในช่องท่ี
ตรงกับระดับคะแนน
ลาดับท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1
32
1 ความถูกต้องของเน้อื หา
2 การลาดบั ข้ันตอนของเรื่อง
3 วธิ ีการนาเสนอผลงานอย่างสรา้ งสรรค์
4 การใช้เทคโนโลยีในการนาเสนอ
5 การมีสว่ นร่วมของสมาชกิ ในกลมุ่
รวม
ลงชื่อ……………………………………………ผปู้ ระเมิน
…………/……………../…………….
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ สมบรู ณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นสว่ นใหญ่
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน
เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
12 – 15 ดี
T106 8 – 11 พอใช้
ตา่ กว่า 8 ปรับปรงุ
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
คา� ถามเน้นการคดิ เฉลย คาํ ถามเนน้ การคิด
๑. ลกั ษณะทำงกำยภำพของทวีปออสเตรเลียและโอเชยี เนียมขี อ้ ดแี ละข้อเสียอยำ่ งไร 1. ขอ ดี คอื บรเิ วณเขตแผนดินใหญ เปนที่ราบ
๒. ส ภำพภูมิประเทศของทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนียส่งผลต่อกิจกรรมทำงเศรษฐกิจของ ลุมแมนํ้าท่ีทําใหบริเวณดังกลาวมีความอุดม
สมบูรณ เปนเขตเกษตรกรรมท่ีสําคัญ เชน
ภูมภิ ำคอย่ำงไร เปน แหลงปลูกขา วสาลี อนั เปนพชื เศรษฐกจิ ที่
๓. ประชำกรในทวปี ออสเตรเลียและโอเชยี เนยี ปรับตวั เข้ำกบั สภำพแวดลอ้ มในภูมิภำคอย่ำงไร ทํารายไดสําคัญท่ีสุดของประเทศออสเตรเลีย
4. ปจั จยั ใดบำ้ งทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ กำรเปลยี่ นแปลงโครงสรำ้ งประชำกรของทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี เปน ตน
๕. ลกั ษณะสังคมและวัฒนธรรมของทวีปออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี แตกต่ำงกันอยำ่ งไร ïขอเสยี คอื บริเวณเกาะ หมูเกาะภเู ขาไฟ และ
เกาะปะการังวงแหวนมีลักษณะทางกายภาพ
กจิ กรรมพฒั นาทักษะ ที่เปนสวนยอย กอใหเกิดปญหาในดานการ
ปกครอง หรือการพัฒนาพนื้ ท่ี
๑. สมมติใหต้ นเองอยู่ในทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี โดยเลอื กพน้ื ทท่ี สี่ นใจ พรอ้ มบอกอำชพี
และกำรด�ำรงชวี ิตท่สี อดคลอ้ งกับพน้ื ท่ีน้ัน 2. ภูมิประเทศในเขตแผนดินใหญ ออสเตรเลีย
และนิวซีแลนด มีความเจริญกาวหนาทาง
๒. ศึกษำลักษณะทำงกำยภำพของประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ แล้วเปรียบเทียบควำม เศรษฐกจิ มีรายไดหลักจากอุตสาหกรรมและ
คล้ำยคลงึ หรอื แตกตำ่ งในแต่ละดำ้ น เกษตรกรรม สาํ หรบั ประเทศที่เปน หมูเกาะใน
เขตโอเชยี เนยี มพี นื้ ทที่ าํ การเพาะปลกู นอ ย จงึ
๓. เลือกสถำนท่ี วัฒนธรรม หรือสิ่งอันเป็นเอกลักษณ์ของทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย มรี ายไดห ลักมาจากการทองเที่ยว
แลว้ วเิ ครำะหเ์ หตุผลที่ท�ำใหส้ ิ่งนนั้ กลำยเป็นสัญลักษณข์ องทวปี
3. ผูคนสวนใหญนิยมตั้งถ่ินฐานบริเวณที่ราบ
๑0๓ ชายฝงทะเล อันเปนการปรับตัวใหเขากับ
สภาพแวดลอมในภูมิภาค ทัง้ ในดา นลักษณะ
ภมู ปิ ระเทศ ภมู อิ ากาศและการคมนาคมขนสง
โดยเฉพาะเมืองในประเทศออสเตรเลียและ
นิวซีแลนด ทําใหผูคนมีชีวิตความเปนอยูท่ี
ทนั สมยั และปรบั ตวั ตามการเปลย่ี นแปลงของ
โลก สว นหมเู กาะอน่ื ๆ ในโอเชยี เนยี ประชากร
ยงั คงอาศยั อยบู รเิ วณทมี่ สี ภาพแวดลอ มเหมาะ
แกก ารเพาะปลกู และทําการประมง
4. ï• ระบบการศึกษา
ï• ความเจริญกาวหนา ดานการแพทย
•ï ความเจริญทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี
5. เมอื งในประเทศออสเตรเลยี และนวิ ซแี ลนด มี
ลกั ษณะสงั คมสว นใหญเ ปน แบบพหวุ ฒั นธรรม
จากหลากหลายเช้ือชาติอพยพเขามา สวน
หมูเกาะอ่ืนๆ ในโอเชียเนียประชากรสวน
ใหญยังคงเปนชาวพื้นเมือง ที่มีประเพณีและ
วัฒนธรรมที่เปนเอกลักษณโดดเดนเปนของ
ตนเองอาศัยอยูบริเวณท่ีเหมาะแกการเพาะ
ปลูกและทาํ การประมง
เฉลย แนวทางประเมินกิจกรรมพฒั นาทกั ษะ
ประเมินความรอบรู
• ใชในการประเมินความรอบรูในหลักการพ้ืนฐาน กระบวนการความสัมพันธของข้ันตอนการปฏิบัติงาน รวมถึงทักษะการคิดในเรื่องตางๆ โดยทั่วไป
งานหรือชนิ้ งานใชเ วลาไมนาน งานสําหรับประเมนิ รปู แบบนีอ้ าจเปน คาํ ถามปลายเปด หรือผังมโนทศั นน ยิ มสาํ หรับประเมินผเู รียนรายบคุ คล
ประเมนิ ความสามารถ
• เชน ความคลอ งแคลว ในการใชเ ครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตร การแปลความหมายขอ มลู ทกั ษะการตดั สนิ ใจ ทกั ษะการแกป ญ หา งานหรอื ชนิ้ งานจะสะทอ น
ถึงทักษะและระดับความสามารถในการนําความรูไปใช อาจเปนการประเมินการเขียน ประเมินกระบวนการทํางานทางภูมิศาสตรตางๆ หรือการ
วเิ คราะหแ ละการแกปญ หา
ประเมนิ ทกั ษะ
• มเี ปา หมายหลายประการ ผเู รยี นไดแสดงทกั ษะ ความสามารถทางภมู ศิ าสตรตา งๆ ทซี่ ับซอนขนึ้ งานหรือช้ินงานมกั เปนโครงงานระยะยาว ซ่งึ ผูเรียน
ตอ งมกี ารนาํ เสนอผลการปฏิบตั ิงานตอผูเกีย่ วขอ งหรอื ตอสาธารณะ
สง่ิ ทต่ี องคาํ นงึ ถึงในการประเมนิ คอื จาํ นวนงานหรอื กจิ กรรมทผี่ เู รียนปฏิบัติ และผูประเมนิ ควรกําหนดรายการประเมิน และทักษะทีต่ อ งการประเมนิ ให
ชดั เจน
T107
Chapter Overview
แผนการจดั สื่อที่ใช้ จดุ ประสงค์ วธิ ีสอน ประเมิน ทักษะท่ีได้ คุณลกั ษณะ
การเรยี นรู้ อันพงึ ประสงค์
แผนฯ ที่ 1
ภยั พิบัติด้าน – หนังสือเรียน 1. วเิ คราะห์สาเหตกุ ารเกิด กระบวนการ – ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น – ก ารแปลความ – มีวินัย
สภาพอากาศ ภมู ิศาสตร์ ม.1 ภัยพิบัติและผลกระทบ ทางภูมิศาสตร์ – ต รวจการทำ� แบบฝกึ สมรรถนะ ขอ้ มลู ทาง – ใฝ่เรียนรู้
– แบบฝึกสมรรถนะ ของทวปี เอเชยี ทวปี (Geographic และการคิดภูมิศาสตร์ ม.1 ภูมิศาสตร์ – ม่งุ มั่นใน
3 และการคดิ ออสเตรเลียและ Inquiry – ตรวจใบงานที่ 4.1 – การคดิ เชงิ พ้ืนท่ี การท�ำงาน
ภูมิศาสตร์ ม.1 โอเชียเนียได้ (K) Process) – ประเมินการน�ำเสนอผลงาน
ชัว่ โมง – แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 2. อธิบายลกั ษณะทาง – สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน
– PowerPoint กายภาพของทวปี เอเชีย รายบุคคล
– ใบงานที่ 4.1 ทวปี ออสเตรเลียและ – ส ังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน
– เครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ โอเชียเนีย ท่สี ง่ ผลตอ่ กล่มุ
เชน่ แผนที่ เข็มทศิ การเกดิ ภัยพบิ ัติท่ี – ป ระเมนิ คุณลกั ษณะ
รปู ถา่ ยทางอากาศ แตกตา่ งกันได้ (K) อนั พงึ ประสงค์
ภาพถา่ ยดาวเทยี ม
T108
แผนการจัด สือ่ ที่ใช้ จดุ ประสงค์ วธิ สี อน ประเมิน ทักษะที่ได้ คณุ ลักษณะ
การเรียนรู้ อนั พงึ ประสงค์
แผนฯ ที่ 2
ธรณพี ิบัตภิ ยั – หนงั สอื เรียน 1. ว เิ คราะห์สาเหตุการเกิด กระบวนการ – ตรวจการท�ำแบบฝึก – การแปลความ – มีวินยั
และการจัดการ ภมู ศิ าสตร์ ม.1 ภยั พบิ ัตแิ ละผลกระทบ ทางภูมิศาสตร์ สมรรถนะและการคิด ขอ้ มูลทาง – ใฝ่เรยี นรู้
ภัยพิบตั ิทาง – แบบฝึกสมรรถนะ ของทวปี เอเชีย ทวีป (Geographic ภูมิศาสตร์ ม.1 ภมู ิศาสตร์ – มุง่ ม่นั ใน
ธรรมชาติ และการคดิ ออสเตรเลียและ Inquiry – ตรวจใบงานที่ 4.2 – การใช้เทคโนโลยี การทำ� งาน
ภูมิศาสตร์ ม.1 โอเชียเนียได้ (K) Process) – ประเมนิ การนำ� เสนอผลงาน – การคิดแบบ
3 – แบบทดสอบหลังเรยี น 2. ว เิ คราะหแ์ นวทางการ – สังเกตพฤติกรรมการทำ� งาน องค์รวม
– PowerPoint จดั การภัยพบิ ตั ใิ นทวีป รายบคุ คล – การคิดเชงิ พื้นท่ี
ชวั่ โมง – ใบงานท่ี 4.2 เอเชยี ทวีปออสเตรเลยี – สงั เกตพฤติกรรมการทำ� งาน – การใชส้ ถิติ
– เคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ และโอเชยี เนยี ได้ (K) กลุม่ พื้นฐาน
เชน่ แผนที่ เข็มทศิ – ประเมนิ คณุ ลกั ษณะ
รูปถ่ายทางอากาศ อนั พึงประสงค์
ภาพถ่ายดาวเทยี ม – ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน
T109
นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ
ขน้ั นาํ ๔หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ภัยพิบัติทางธรรมชาติในทวีปเอเชีย
ทวีปออสเตรเลยี และโอเชียเนยี
Geographic Inquiry Process ÀѾԺѵÔ
¢Í§·ÇÕ»àÍàªÕÂ
1. ครแู จง ชอื่ เรอ่ื งทจ่ี ะเรยี นรู ผลการเรยี นรู จากนนั้ ทวปี ออสเตรเลียและ
ใหน ักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน โอเชียเน�ยเกดิ จาก
สาเหตใุ ด สง ผลกระทบ
2. ครูนําคลิปวิดีโอภัยพิบัติทางธรรมชาติตางๆ อยางไรบา ง
มาใหนักเรียนดู ซึ่งมีทั้งสึนามิ แผนดินไหว
แผนดินถลม ภเู ขาไฟระเบดิ และไฟปา
3. ครถู ามคําถามกระตนุ ความคดิ โดยให
นกั เรียนรวมกันตอบคําถาม เชน
•ï ภัยพิบตั ทิ ่ีเกิดข้นึ สว นใหญมสี าเหตเุ กิดจาก
อะไร
(แนวตอบ เกดิ จากธรรมชาติ หรอื การกระทาํ
ของมนษุ ย)
ï• ภัยพิบตั ทิ เี่ กิดข้นึ สงผลกระทบอยางไร
(แนวตอบ สรา งความเสียหายตอชีวติ
ทรัพยส นิ และสง่ิ แวดลอ ม)
ภัยพิบัติทางธรรมชาติ เปนภัยท่ีสงผลกระทบตอมนุษย ตัวช้ีวดั ส ๕.๑ ม. ๑/๓
และความเปนอยู สามารถเกิดไดหลากหลายรูปแบบในแตละ ส ๕.๒ ม. ๑/๔
พื้นท่ี เราจึงตองมีความเขาใจและสามารถวิเคราะหสาเหตุ
และผลกระทบทเี่ กดิ ขนึ้ ในพน้ื ที่ เพอื่ หาวธิ จี ดั การภยั พบิ ตั อิ ยา ง สาระการเรียนรูแ กนกลาง
ย�ังยืน หากเรารูจักแนวทางการจัดการภัยพิบัติท่ีถูกตองแลว • สาเหตุการเกิดภยั พบิ ัติและ
จะทําใหเราเตรียมพรอมในการรับมือ เพื่อลดความเสี่ยงและ ผลกระทบในทวีปเอเชีย
ความสญู เสยี ทจ่ี ะเกิดจากภยั พบิ ตั ิได ทวีปออสเตรเลยี และโอเชยี เนย�
๑๐๔ • แนวทางการจดั การภัยพบิ ัติในทวีป
เอเชยี ทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนย�
ท่ยี ัง� ยืน
เกร็ดแนะครู
ครคู วรจดั การเรยี นรโู ดยเนน ทกั ษะกระบวนการ เพอื่ ใหน กั เรยี นเขา ใจถงึ สาเหตขุ องการเกดิ ภยั ธรรมชาตแิ ตล ะประเภท รจู กั แนวทางปอ งกนั ภยั ธรรมชาตแิ ละ
การระวังภัยที่เกิดข้ึนในประเทศไทย ทวปี เอเชยี ทวีปออสเตรเลียและโอเชยี เนยี โดยการจดั กิจกรรม ดังน้ี
• ครูยกตัวอยา งหรือใหนักเรียนดูภาพขาวเหตุการณภัยธรรมชาติ แลว ใหน ักเรียนรว มกนั วิเคราะหถ ึงสาเหตุ ผลกระทบ แนวทางการปอ งกนั ภยั และการ
ระวงั ภยั
• ครตู ั้งประเด็นเกย่ี วกับภัยธรรมชาติ แลวใหน ักเรยี นรวมอภปิ รายและแสดงความคิดเห็น
• ครูใหนกั เรียนสบื คนขอ มูลเกย่ี วกบั ภัยธรรมชาติจากแหลงขอ มูลตา งๆ เชน หนงั สอื พมิ พ เว็บไซต เปนตน
T110
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
๑ ความรทู ั่วไปเกีย่ วกบั ภยั พบิ ตั ิ ขนั้ สอน
ภัยพิบัติเป็นภัยท่ีเกิดข้ึนตามธรรมชาติหรือการกระท�าของมนุษย์ ซ่ึงสร้างความเสียหาย ขนั้ ที่ 1 การตงั้ คาํ ถามเชงิ ภมู ศิ าสตร์
ต่อชวี ติ ทรพั ยส์ นิ สงั คม เศรษฐกจิ ทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมอย่างกว้างขวาง ภยั พิบัติ
ทางธรรมชาติแบง่ ตามลักษณะการเกิดภยั ได ้ ๒ ประเภท ดงั นี้ 1. ครูใหนักเรียนดูแผนที่แสดงพื้นท่ีเส่ียงภัยพิบัติ
ทางธรรมชาตขิ องทวปี เอเชยี จากหนงั สอื เรยี น
๑) ภัยด้านสภาพอากาศ เกิดข้ึนตามฤดูกาลท้ังปและอาจมีสัญญาณการเกิด ภูมิศาสตร ม.1 แลว รวมกนั แสดงความคดิ เหน็
ตามประเดน็ เชน
ลว่ งหน้าระดบั หน่ึง มีระดบั ความรุนแรงและพื้นที่ต้ังแต่เลก็ นอ้ ยไปจนถงึ รุนแรงมาก เช่น วาตภยั ï• แผนท่ีดังกลา วสามารถอธบิ ายไดว า อยา งไร
อทุ กภยั ภยั แลง้ ไฟป่า (แนวตอบ เปนการแสดงพ้ืนที่เส่ียงภัยพิบัติ
ทางธรรมฃาติของทวีปเอเชีย โดยมีสีและ
๒) ธรณีพิบัติภัย เกิดจากลักษณะทางโครงสร้างและกระบวนการทางธรณีวิทยา สัญลักษณบงบอกเพื่อใหเขาใจไดงายวา
พื้นที่ตรงสวนนี้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ
เป็นภัยท่ีมักเกิดข้ึนแบบฉับพลัน ท�าให้การรับมือหรือเตรียมตัวเป็นไปได้ยาก เช่น แผ่นดินไหว อะไรบา ง เชน เปน พนื้ ทเ่ี กดิ ภเู ขาไฟทม่ี คี วาม
ภเู ขาไฟปะทุ สนึ ามิ แผน่ ดินถล่ม เส่ียงสนึ ามิ พน้ื ทเี่ สย่ี งแผนดินไหว เสนทาง
ของพายุ เปน ตน)
แผนทแ่ี สดงพื้นทีเ่ สยี่ งภยั พบิ ัตทิ างธรรมชาติของทวปี เอเชีย 30 ํN
เสน ทรอปก ออฟแคนเซอร 20 Nํ 2. ครูใหนักเรียนชวยกันตั้งประเด็นคําถามทาง
คำอธบิ ายสญั ลกั ษณ ภูมิศาสตรเก่ียวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติเพื่อ
10 Nํ คน หาคาํ ตอบ เชน
50 ํN ภูเขาไฟที่มีพลงั ï• พน้ื ทที่ อ่ี าศยั อยบู รเิ วณใดเสย่ี งตอ การเกดิ ภยั
เสนทางของพายุ พบิ ตั ทิ างธรรมชาตปิ ระเภทวาตภยั มากทส่ี ดุ
พืน้ ท่ีเสี่ยงสึนามิ เพราะเหตุใด
• ภาวะโลกรอ นมสี ว นทาํ ใหเ กดิ วาตภยั หรอื ไม
40 Nํ อยางไร
30 ํN
20 Nํ
10 ํN เสน ศนู ยสตู ร 0 ํ
10 Sํ
0ํ N มาตราสว น 1 : 83,000,000
0 1,000 2,000 กม.
พน้ื ทเ่ี สย่ี งแผน ดนิ ไหว พายโุ ซนรอ นและพายไุ ซโคลน
10 ํS แผนดนิ ไหวทีร่ ุนแรงมากท่ีสดุ ความเร็วลมเทา กบั หรอื มากกวา 210 กม./ชม. 20 ํS
แ4ผ0นEํ ดนิ ไหวท5ร่ี0นุ ํEแรงมาก 60 Eํ ค7ว0าEํมเร็วลม 18708Eํ – 209 กม90./ชEํ ม. 100 ํE 110 Eํ 120 Eํ 130 ํE 140 Eํ 150 Eํ
แผน ดนิ ไหวทรี่ ุนแรงนอย ความเรว็ ลม 154 – 177 กม./ชม.
แผน ดินไหวท่ีไมรนุ แรง ความเรว็ ลม 118 – 153 กม./ชม.
๑๐๕
กจิ กรรม สรางเสริม ความรูบูรณาการอาเซียน
ครูใหน ักเรียนแบงกลุม กลมุ ละเทาๆ กนั ไปหาขาวเกย่ี วกับ ครใู หน กั เรยี นในชนั้ ชว ยกนั จดั นทิ รรศการภยั ธรรมชาตขิ องประเทศสมาชกิ
ภยั ธรรมชาตทิ รี่ า ยแรงกลมุ ละ 1 ขา ว แลว นาํ มาเสนอหนา หอ งเรยี น อาเซียน และแนวทางการระวังภัย โดยมีขอมูล แผนภูมิ แผนผัง สถิติ และ
จากนั้นรวมอภิปรายถงึ สาเหตุและผลจากภยั ดังกลา ว ภาพประกอบ แลวนาํ ไปจดั นิทรรศการในพนื้ ทีท่ ี่จดั ไวใ ห
T111
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขนั้ สอน ๒ ภัยดานสภาพอากาศ
ขน้ั ท่ี 2 การรวบรวมขอ้ มลู ภัยด้านสภาพอากาศเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ เกิดจากปัจจัยทางด้านสภาพภูมิอากาศ
ลม พาย ุ อุณหภูม ิ ปริมาณฝน และความกดอากาศ
ครใู หน กั เรยี นศกึ ษาคน ควา ขอ มลู เรอื่ ง วาตภยั
จากหนงั สอื เรียนภูมศิ าสตร ม.1 ๒.๑ วาตภัย
ขน้ั ที่ 3 การจดั การขอ้ มลู วาตภยั หรอื พายลุ มแรง เปน็ ภยั ทเี่ กดิ จากพายหุ มนุ เขตรอ้ น พายฤุ ดรู อ้ น และลมงวง ซงึ่ ทา� ให้
เกิดความเสียหายแก่อาคารบ้านเรือน ส่ิงก่อสร้าง ส่ิงมีชีวิต และส่ิงแวดล้อม วาตภัยที่เกิดบ่อย
1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลท่ีตนไดจาก ในทวปี เอเชีย ทวีปออสเตรเลียและโอเชยี เนยี ท่สี รา้ งความเสยี หายรุนแรง คือ พายุหมนุ เขตร้อน
การรวบรวม มาอธิบายแลกเปลี่ยนความรู
ระหวางกนั สาเหตุ
2. สมาชกิ ในกลมุ ชว ยกนั คดั เลอื กขอ มลู ทนี่ าํ เสนอ พายหุ มนุ เขตรอ้ น เปน็ พายหุ มนุ ทเี่ กดิ เหนอื ทะเลหรอื มหาสมทุ รในเขตรอ้ น เกดิ จากนา�้ ทะเล
เพ่ือใหไ ดขอ มลู ทถี่ ูกตอ ง มีอณุ หภมู ิสงู มีความกดอากาศตา�่ ในบริเวณใกลล้ ะตจิ ดู ท่ ี ๕ – ๒๕ องศาเหนอื และใต้ ในเขตรอ้ น
พายเุ มฆจะก่อตวั และหมุนเข้าสแู่ ผ่นดิน และเกดิ เป็นพายฝุ นฟ้าคะนองร่วมกบั กระแสลมแรง
3. ครูใหนักเรียนดูแผนภาพแสดงชื่อเรียกพายุ
หมุนเขตรอน จากหนังสือเรียนภูมิศาสตร
ม.1 แลวรวมกนั เชือ่ มโยงขอ มูลเพิม่ เติม
นา�้ ระเหยข้ึนเป็นไอ เมฆก่อตวั เป็นแนวด่งิ จา� นวนมาก การหมุนรอบตวั เองของโลก
แลว้ ควบแน่นเปน็ เมฆ แล้วรวมตัวเป็นพายุ ท�าให้พายุหมนุ ตวั เปน็ รูปกงั หนั
๑๒ ๓
ระดับความรนุ แรงของพายุหมุนเขตรอ น
พายุไตฝ้ ุ่น1 พายุโซนรอ้ น2 พายดุ ีเปรสชนั 3
๑๑๘ กม./ชม. ขนึ้ ไป ๖๒ – ๑๑๗ กม./ชม.
๖๑ กม./ชม.
เฮอรร์ ิเคน เฮอร์ริเคน ไซโคลน ไตฝ้ ุ่น
มหาสมุทรแปซฟิ กิ มหาสมทุ ร มหาสมุทรอนิ เดีย มหาสมุทรแปซิฟิก
แอตแลนตกิ
ไซโคลน
๑๐๖ แผนภาพแสดงชื่อเรียกพายหุ มนุ เขตรอ้ นท่มี ีความเรว็ ลม ๑๑๘ กม./ชม. ขึ้นไปตามบรเิ วณทเี่ กดิ
นักเรียนควรรู บรู ณาการเชอ่ื มสาระ
ครสู ามารถนาํ เนอ้ื หาเรอื่ งวาตภยั ไปบรู ณาการเชอ่ื มโยงกบั กลมุ สาร
1 พายุไตฝุน พายุหมุนในเขตรอนเหนือมหาสมุทรแปซิฟกทางตะวันตก ะการเรียนรูวิทยาศาสตร วิชาวิทยาศาสตร เร่ืองลมและพายุ โดยให
มคี วามเร็วสูงสดุ ใกลศ ูนยก ลางพายตุ ัง้ แต 64 นอตข้นึ ไป คําวา typhoon อาจ นกั เรยี นรว มกนั อภิปรายการเกดิ พายตุ างๆ เชน
มาจากภาษาจีนกวางตงุ วา t’ai fung ซง่ึ แปลวา ลมแรงจัด หรอื มาจากคําใน
ภาษาอาหรบั วา tufan ซง่ึ แปลวา ควัน หรือมาจากภาษากรกี วา typhon ซ่ึง 1. พายุฝนฟาคะนอง มีลักษณะเปนลมพัดยอนไปมาหรือพัด
แปลวา ลมพายุหรอื ลมหมนุ เคลื่อนตัวไปในทิศทางเดียวกัน อาจเกิดจากพายุท่ีออนกําลังและลด
2 พายุโซนรอน พายุหมุนเขตรอนที่มีความเร็วลมสูงสุดใกลจุดศูนยกลาง ความรนุ แรงของลมลง หรอื เกดิ จากหยอ มความกดอากาศตา่ํ รอ งความ
ระหวา ง 34 – 47 นอต ทาํ ใหม ฝี นตกหนกั ลมแรง มคี วามรนุ แรงมากกวา พายุ กดอากาศตาํ่ อาจไมมีทศิ ทางทแี่ นนอน ทําใหเ กิดฝนตกและมีลมพดั
ดเี ปรสชัน
3 พายดุ เี ปรสชนั พายหุ มนุ ทม่ี กี าํ ลงั ออ น เกดิ ในเขตรอ น มคี วามเรว็ นอ ยกวา 2. พายุหมนุ เขตรอ น เปน ลมพายทุ พ่ี ัดเวยี นเขา หาศูนยกลางทีม่ ี
34 นอต มกี ลมุ เมฆทจ่ี บั ตวั กนั เปน กลมุ กอ น มกั มฝี นตกกระจายเปน บรเิ วณกวา ง ความกดอากาศตาํ่ กวา บรเิ วณรอบๆ มาก ลมทพี่ ดั เวยี นนม้ี คี วามเรว็ สงู
มากและมกี าํ ลงั แรง บางครงั้ กาํ ลงั ลมแรงสงู สดุ รอบศนู ยก ลางสงู ถงึ 200
T112 กม./ชม. เกิดเฉพาะมหาสมุทรทีอ่ ณุ หภมู ิผิวนํา้ ทะเลสงู กวา 26.5 องศา
เซลเซยี ส มชี อ่ื เรยี กแตกตา งกนั ไปตามบรเิ วณทเ่ี กดิ เชน พายเุ ฮอรร เิ คน
เกิดบริเวณทิศตะวันตกของมหาสมุทรแอตแลนติก พายุทอรนาโดเกิด
บรเิ วณอา วเมก็ ซโิ ก พายุไซโคลนเกดิ บรเิ วณมหาสมทุ รอินเดีย เปน ตน
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ตวั อย่าง เหตกุ ารณว์ าตภัยในประเทศฟล ปิ ปน ส์ ขนั้ สอน
สาเหต ุ : ขนั้ ท่ี 4 การวเิ คราะหแ์ ละแปลผลขอ้ มลู
เกดิ จากอทิ ธพิ ลของพายโุ ซนรอ้ นเทมบนิ (Tembin) 1. ครใู หส มาชกิ แตล ะกลมุ วเิ คราะหแ ละอภปิ ราย
มีความเร็วลมสูงสุด ๘๐ กิโลเมตรต่อช่ัวโมง รวมกันถึงประเด็นวา หากนักเรียนเปนผู
พัดผา่ นเกาะมนิ ดาเนา เคลอื่ นตวั ไปทางตะวนั ตก ประสบเหตุการณวาตภัย นกั เรยี นจะมีวิธีการ
และพัดข้ึนฝั่งอีกคร้ังที่เกาะปาลาวัน จากนั้นจะ ปฏบิ ัตติ น ปอ งกัน และระวังภัยอยางไร
เคลื่อนตัวต่อไปทางตะวันตก มุ่งสู่ตอนใต้ของ
หมเู่ กาะสแปรตลีย์ 2. นักเรียนรวมกันวิเคราะห แปลผลขอ มูล และ
ตรวจสอบความถูกตอ งของขอ มูล โดยครูเปน
พายุโซนร้อนเทมบินพัดถลมทางตอนใต้ของประเทศ ผลกระทบ : ผแู นะนําเพม่ิ เตมิ
ฟล ิปปนส ชวงปลายเดอื นธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
ท�าให้เกิดน้�าท่วมและดินถล่มในหลายพ้ืนท่ี มี ขนั้ ท่ี 5 การสรปุ เพอ่ื ตอบคาํ ถาม
ผเู้ สยี ชวี ิตกว่า ๒๐๐ คน สูญหายกวา่ ๑๕๐ คน
ขณะทป่ี ระชาชนอกี กวา่ ๗๐,๐๐๐ คน ตอ้ งอพยพ ครูใหสมาชิกในแตละกลุมรวมกันสรุปสาระ
ออกจากทอี่ ยอู่ าศยั สําคญั เพอ่ื ตอบคําถามเชงิ ภมู ิศาสตร
การปฏิบตั ติ น สัญญาณเตอื นภัย
๑. ข ณะเกดิ พายคุ วรอยใู่ นสถานทพ่ี กั ทแี่ ขง็ แรง ๑. อากาศรอ้ นอบอ้าวติดตอ่ กันหลายวัน
๒. ทอ้ งฟ้ามดื คร้มึ มเี มฆเพิ่มขนึ้ อยา่ งรวดเร็ว
และปลอดภัย ไม่ควรออกไปที ่โล่ง
๒. ป ดิ กั้นชอ่ งทางลมและช่องทางตา่ ง ๆ ท่ลี ม เกดิ ลมกระโชกแรง ฟ้าคะนอง และ
มีฝนตกหนกั
จะเข้าไปท�าให้เกิดความเสียหาย เม่ือลม
สงบแล้วตอ้ งรอดูสถานการณ์อย่างน้อย ๓
ชว่ั โมง หากพ้นระยะนี้แลว้ ไม่มีลมแรงเกดิ
ขนึ้ อกี จงึ จะวางใจวา่ พายไุ ดผ้ า่ นพน้ ไปแลว้
การปอ้ งกันและระวังภยั
๑. ต ิดตามข่าวพยากรณ์อากาศและประกาศ
คา� เตอื นจากหนว่ ยงานทเี่ ก่ยี วขอ้ ง
๒. ตดั กง่ิ ไม ้ โดยเฉพาะกงิ่ ขนาดใหญท่ อี่ าจเปน็
อนั ตราย
๓. ด แู ลโครงสรา้ งอาคารบา้ นเรอื นและสงิ่ กอ่ สรา้ ง การพยากรณ์อากาศ ช่วยให้ประชาชนรับทราบข้อมูล
ตา่ ง ๆ ใหม้ ่ันคงแขง็ แรง อากาศล่วงหน้า เพ่ือการปฏิบัติตนให้เหมาะกับอากาศ
ในชว่ งเวลาน้ัน ๆ
๑๐๗
กิจกรรม ทาทาย เกร็ดแนะครู
ครูเพ่ิมเติมขอมูลที่มาของการตั้งชื่อพายุหมุนเขตรอนท่ีกอ ครคู วรเสรมิ นักเรียน ถงึ ตวั อยางการพายุในพ้ืนทต่ี าง ๆ เพ่ิมเตมิ เชน
ตัวทางมหาสมุทรแปซิฟกดานตะวันตกตอนบนและทะเลจีนใตวา พายุวลิ ลี – วิลลี พายุหมุนทีเ่ กดิ บริเวณภาคตะวันตกเฉียงเหนือของออสเตรเลยี
จะมีชื่อเรียกตามรายชื่อ 14 ประเทศ/ดินแดน คือ กัมพูชา จีน สวนมากเกิดตอนปลายฤดูรอน กอใหเกิดฝนตกหนักและสรางความเสียหาย
เกาหลีเหนือ ฮองกง ญ่ีปุน ลาว มาเกา มาเลเซีย ไมโครนีเซีย อยา งมากบรเิ วณชายฝง
ฟลิปปนส เกาหลใี ต ไทย สหรัฐอเมรกิ า และเวียดนาม ท่ีไดเ สนอ
ตอองคการอุตุนยิ มวทิ ยาโลก เมือ่ พ.ศ. 2543 ประเทศละ 10 ชื่อ
รวมท้งั ส้ิน 140 ช่อื เชน ประเทศไทยมชี ่อื พายพุ ระพริ ุณ ประเทศ
ญีป่ นุ มชี อื่ พายวุ าชิ เปน ตน
จากน้นั ครูใหน ักเรยี นไปสบื คนขอ มูลเพ่ิมเตมิ เกย่ี วกับช่อื พายุ
ของแตละประเทศ และขอตกลงในการเรียกชื่อพายุเพื่อนําขอมูล
มาอภิปรายรว มกนั ในชัน้ เรียน
T113
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขนั้ สอน ๒.๒ อุทกภยั
ขน้ั ที่ 1 การตง้ั คาํ ถามเชงิ ภมู ศิ าสตร์ อทุ กภยั หรอื ภยั จากนา้� ทว่ ม เปน็ ภยั ทเ่ี กดิ จากการเออ่ ลน้ ของนา้� ในลา� ธาร ทรี่ าบตา�่ ทรี่ าบลมุ่
แม่น้�า และชายฝั่งทะเล โดยเกิดขึ้นหลังจากที่ฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง จนไม่สามารถระบายน้�า
1. ครูใหนักเรียนดูภาพตัวอยางการเกิดอุทกภัย ออกจากพน้ื ท่ีได้
และภัยแลง จากหนังสือเรียนภูมิศาสตร ม.1
แลวสอบถามความคดิ เหน็ จากนกั เรียน สาเหตุ
ฝนตกหนกั ตอ่ เนอ่ื งเปน็ เวลานาน จนไม่
2. ครูใหนักเรียนชวยกันต้ังประเด็นคําถามเชิง สามารถระบายนา�้ ออกจากพน้ื ท่ีไดท้ นั
ภูมิศาสตรเก่ียวกับอุทกภัย และภัยแลง เพื่อ
คน หาคําตอบ เชน การระบายน�้าไม่ดีหรือมีส่ิงกีดขวาง การละลายของหิมะส่งผล
•ï ปจจัยใดบางท่ีทําใหเกิดภัยพิบัติทาง ทางนา�้ เชน่ การสรา้ งบา้ นเรอื นขวางนา้� ใหน้ า้� ทะเลสงู ขนึ้ และเกดิ
ธรรมชาติประเภทอุทกภัย และภัยแลงใน ถนนไมม่ ที อ่ ระบายนา้� นา้� ทะเลหนนุ
ทวีปเอเชยี ทวปี ออสเตรเลยี และโอเชียเนยี
ï• ควรปอ งกนั ตนเองอยา งไรเพอ่ื ใหร อดพน จาก การตดั ไม้ท�าลายป่า ท�าใหไ้ ม่มี
ภยั พบิ ัติทางธรรมชาตปิ ระเภทอทุ กภัย และ ตน้ ไม้ชว่ ยดดู ซับนา้� ฝนไว้
ภัยแลง
ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศทเี่ สย่ี งตอ่ การเกดิ อทุ กภยั บรเิ วณปากแม่น�้า1
ขนั้ ที่ 2 การรวบรวมขอ้ มลู
บรเิ วณท่รี าบและเนินเขา พ้ืนทร่ี าบล่มุ ริมแม่นา้� และชายฝง เกิดจากน้า� ท่ีไหลมาจากที่สงู กว่า หรอื
ครูใหนักเรียนแบงกลุมออกเปน 4 กลุม เพื่อ เมอ่ื ฝนตกหนกั นา�้ จะไหลบา่ เกิดจากน้า� ล้นตลง่ิ เมือ่ เกิดนา�้ ทว่ ม อาจมนี า�้ ทะเลหนนุ ประกอบกบั ดนิ ทรดุ
สืบคนขอมูลเกี่ยวกับภัยดานสภาพอากาศ จาก จากภูเขาอย่างรวดเร็ว จะครอบคลมุ พ้นื ทีบ่ รเิ วณกวา้ ง จงึ ท�าใหเ้ กิดน้�าท่วมขงั ในที่ลมุ่
หนงั สอื เรยี นภมู ศิ าสตร ม.1 จากนนั้ จบั สลากเลอื ก และทว่ มเป็นเวลานาน
หวั ขอ เรื่องเพอื่ ศกึ ษา โดยมปี ระเด็นตอ ไปน้ี
ตัวอย่าง เหตกุ ารณอ์ ุทกภยั ในประเทศอินเดยี และปากีสถาน
ï• อทุ กภัย
•ï ภยั แลง
สาเหต ุ :
เกดิ จากฝนตกตอ่ เนอ่ื งในรฐั ปญั จาบของปากสี ถาน
แคว้นจัมมูและแคชเมียร์ของประเทศอินเดีย
นับเป็นอุทกภัยและแผ่นดินถล่มท่ีร้ายแรงที่สุด
ในรอบ ๒๐ ป
นํ้าทวมประเทศอินเดยี – ปากสี ถาน เมื่อเดือน ผลกระทบ :
กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๗
ทา� ใหเ้ กดิ นา้� ทว่ มและดนิ ถลม่ บา้ นเรอื นเสยี หาย
เป็นจา� นวนมาก มีผู้เสยี ชวี ิตมากกว่า ๔๐๐ ราย
โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ถูกกระแสน้�าไหลเช่ียว
พดั พาไป
๑๐๘
นักเรียนควรรู บรู ณาการเชอื่ มสาระ
ครูสามารถนําเนื้อหาเรื่องอุทกภัยไปบูรณาการเชื่อมโยงกับกลุม
1 ปากแมน า้ํ เปน บรเิ วณทแ่ี มน า้ํ มาบรรจบกบั ทะเล หรอื อาจเปน แมน า้ํ แตล ะ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร วชิ าวทิ ยาศาสตร เรอ่ื งการพยากรณอ ากาศ
สายไหลมาบรรจบกัน นอกจากน้ี ยังเปนบริเวณท่ีนํ้าจืดกับน้ําเค็มมาผสมกัน ผลกระทบท่เี กดิ จากการเปลย่ี นแปลงอุณหภมู ขิ องโลก โดยยกตัวอยา ง
เรียกวา น้ํากรอย ซ่ึงเกิดจากแมนํ้ามาบรรจบกับทะเล โดยบริเวณปากแมน้ําที่ การเกิดอุทกภัยคร้ังสําคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต และใช
บรรจบกับทะเลมักจะเปนแหลงนํา้ กรอย แผนที่แสดงแนวพดั ผานของลมมรสุมประกอบ แลว ใหนักเรยี นอธบิ าย
สาเหตุการเกิด ผลกระทบ และนาํ ขา วการพยากรณอ ากาศมาประกอบ
การอธิบาย จากนั้นครูอธิบายเกณฑการพยากรณอากาศใหนักเรียน
เขาใจ เมอ่ื นกั เรียนไดฟ ง การพยากรณอากาศจะไดเ ขาใจและวิเคราะห
สถานการณไ ด เพื่อการเตรยี มพรอ มในการระวงั ภยั
T114
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
การปฏิบัติตน สัญญาณเตอื นภยั ขนั้ สอน
๑. ตดั สะพานไฟและปดิ แกส หงุ ตม้ ใหเ้ รยี บรอ้ ย ๑. ม ีพายุฤดูรอ้ นหรอื พายหุ มนุ เขตรอ้ น ขน้ั ที่ 3 การจดั การขอ้ มลู
๒. อ ยู่ในอาคารท่ีแข็งแรงและท่ีสูงพ้นจากน้�า และฝนตกตดิ ตอ่ กนั หลายวัน
1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลท่ีไดจากการ
ทีท่ ว่ ม ๒. ร ะดับน�้าในแม่นา�้ ล�าธารหรอื ทางน�า้ รวบรวม มาอธิบายแลกเปลยี่ นความรูร ะหวาง
๓. ไม่ควรขับขยี่ านพาหนะฝ่ากระแสน้�าหลาก เพ่มิ สูงข้ึนอย่างรวดเรว็ กัน
๔. ไมล่ งเลน่ นา�้ หรอื วา่ ยนา้� เลน่ ในขณะนา้� ทว่ ม 2. จากนนั้ สมาชกิ ในกลมุ ชว ยกนั คดั เลอื กขอ มลู ที่
๖๕.. ตระดิ วตังาสมตั กวา์มรพี พษิ ยทากี่หรนณนี ์อ้า� าทกว่ ามศข นึ้แมละาปอฏยู่ใบิ นัตบิตา้ านมแคล�าะเหตลืองันคขาองกรมอตุ นุ ิยมวิทยา1 นําเสนอเพอ่ื ใหไ ดข อ มูลทถี่ ูกตอง
ขนั้ ที่ 4 การวเิ คราะหแ์ ละแปลผลขอ้ มลู
การปอ้ งกันและระวังภยั iepo
๑. ส รา้ งเสน้ ทางคมนาคมโดยคา� นงึ ถงึ มวลนา�้ 1. ครสู มุ นกั เรยี นใหย กตวั อยา งการปฏบิ ตั ติ น การ
บรเิ วณทรี่ าบนา�้ ทว่ มถงึ จะปอ้ งกนั อทุ กภยั ไดย้ าก ปอ งกนั และระวงั ภยั ในกรณีประสบเหตุการณ
ท่ีจะไหลผ่านไดส้ ะดวก ดงั นนั้ ประชาชนจงึ มกั สรา้ งบา้ นแบบใตถ้ นุ สงู เพอ่ื อุทกภัย เพ่ือเปนการแปลผลเชื่อมโยงขอมูล
๒. ใชท้ ด่ี นิ ใหเ้ หมาะตามกา� หนดของหนว่ ยงาน ใหส้ ามารถอยอู่ าศยั ไดแ้ มน้ า้� ทว่ มสงู อกี ทงั้ ยงั สรา้ งขน้ึ โดยครอู าจเพมิ่ เตมิ ขอ มลู Geo Tip จากหนงั สอื
ด้วยวัสดุที่ไม่เสียหายหากน้�าท่วมถึง เช่น ใช้ เรียนภมู ศิ าสตร ม.1 ใหก บั นกั เรียน
ท่ีเก่ยี วข้อง พ้นื คอนกรีตปูกระเบือ้ งแทนพ้ืนไม้ ตดิ ตง้ั ปลัก๊ ไฟ
๓. ไม่ตดั ไมท้ �าลายปา่ และสายไฟฟา้ ไวบ้ นผนงั สงู ออกแบบเพอื่ ปอ้ งกนั
๔. เตรยี มพืน้ ท่อี พยพของชมุ ชน ไม่ใหน้ า�้ ไหลเขา้ บา้ น เชน่ การสรา้ งกา� แพงกนั นา้�
๕. ใชเ้ ทคโนโลยภี มู สิ ารสนเทศในการวางแผน หรอื ขดุ บ่อพกั น�า้ รอบบ้าน
ปอ้ งกันและแก้ปัญหานา้� ท่วม
ตัวอย่าง การแกปญ หานาํ้ ท่วมของกรุงโตเกียว ประเทศญ่ีปุ่น
โครงการอุโมงคยกั ษ G – Cans เรมิ่ กอสร้างใน พ.ศ. กรุงโตเกียวเคยประสบปัญหาน�้าท่วม
๒๕๓๕ แล้วเสร็จใน พ.ศ. ๒๕๕๒ เพ่ือแก้ ไขปัญหา ครั้งใหญ่ เมือ่ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๓๔ สร้าง
นาํ้ ทว มในกรุงโตเกยี ว ความเสียหายและมีผู้เสียชีวิตจ�านวนมาก จึงมี
โครงการอุโมงค์ยักษ์ G – Cans เพ่ือแก้ปัญหา
น้�าท่วมอย่างยั่งยืน ระบบระบายน�้าเชื่อมโยง
กรุงโตเกียวกับเมืองคะซุกะเบะท่ีอยู่ใกล้เคียง
โดยมีถังเก็บน�้าขนาดยักษ์เชื่อมต่อกับอุโมงค์
ท่ีอยู่ลึกลงไปใต้ดิน มีเสาคอนกรีตขนาดยักษ์
เช่ือมต่อกับเครื่องระบายน้�า สามารถระบายน้�า
๒๐๐ ตัน/วินาที ลงสู่แม่น้�าเอโดะ เพ่ือป้องกัน
น�้าทว่ มกรงุ โตเกียว
๑๐๙
กจิ กรรม ทา ทาย นักเรียนควรรู
ครยู กตัวอยางเหตกุ ารณน ้ําทว ม เชน น้าํ ทวมคร้งั ใหญบ รเิ วณ 1 กรมอตุ นุ ยิ มวทิ ยา หนว ยงานของรฐั บาลทท่ี าํ หนา ทใี่ นการพยากรณอ ากาศ
กรงุ เทพฯ และจังหวัดอน่ื ๆ ในภาคกลาง เมื่อ พ.ศ. 2554 แลว ให รายงานปรากฏการณธรรมชาติตางๆ เชน แผนดินไหว ความสูงของคล่ืน
นกั เรียนวเิ คราะหใ นประเดน็ ตอไปน้ี รายงานพยากรณอากาศประจําวัน และพยากรณอากาศในชวงเวลาท่ีกําลังจะ
มาถงึ รวมทงั้ ออกประกาศเตอื นตา งๆ สามารถสบื คน ขอ มลู ทางเวบ็ ไซตข องกรม
• สาเหตุของนํ้าทวม อตุ ุนิยมวทิ ยา ไดท่ี http://www.tmd.go.th/index.php
• แนวทางปองกันและระวังภยั
เหตกุ ารณนา้ํ ทว มใน พ.ศ. 2554 เกดิ จากพายุหมุนเขตรอ น สื่อ Digital
เชน พายนุ กเตน พายเุ นสาด เปนตน ไดพ ัดเขาสคู าบสมทุ รอนิ โด
จีน จนทาํ ใหเกิดนํ้าทวม ประกอบกบั การตัดไมท าํ ลายปา สภาวะ ศกึ ษาคน ควา ขอ มูลเพิ่มเตมิ เกี่ยวกับขอ มลู อุทกภยั ของประเทศไทย ไดที่
โลกรอ นที่เปน ตัวเรง การเกิดภัยนํ้าทวม รวมท้ังการบริหารจัดการ http://ffllood.egov.go.th เว็บไซตศูนยรวมขอมลู อทุ กภยั ไทย
นํ้าท่ีไมไดมาตรฐาน และขาดการใหความรูและการเตือนภัยแก
ประชาชน ทําใหเกิดความเสียหายในวงกวาง แนวทางปองกัน T115
และระวังภยั เชน ติดตามขา วสาร การพยากรณอากาศจากกรม
อตุ ุนิยมวิทยา เพ่อื เตรียมพรอมในการระวังภยั การเกบ็ ส่ิงของข้ึน
ท่ีสูง เปนตน
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขนั้ สอน ๒.๓ ภัยแลง
ขน้ั ท่ี 4 การวเิ คราะหแ์ ละแปลผลขอ้ มลู (ตอ ) ภัยแล้งเป็นภัยที่เกิดในช่วงเวลาที่อากาศแห้งผิดปกติ ท�าให้ปริมาณฝนน้อยหรือฝนไม่ตก
ตอ้ งตามฤดกู าลเปน็ ระยะเวลานานกวา่ ปกต ิ และครอบคลมุ พน้ื ทบ่ี รเิ วณกวา้ ง สง่ ผลใหข้ าดแคลนนา้�
2. ครูใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหเพิ่มเติมใน ในการอุปโภค บริโภค และการทา� การเกษตร
ประเด็น เชน
ï• ความสัมพันธของภัยดานสภาพอากาศ สาเหตุ
ประเภทอทุ กภัยและภัยแลง
ï• หากทวีปเอเชียเกิดปญหาภัยแลงข้ันรุนแรง สาเหตุจากธรรมชาติ สาเหตจุ ากการกระทาํ ของมนุษย์
นกั เรยี นจะมวี ธิ กี ารแกไ ขเบอื้ งตน ไดอ ยา งไร
ป ร ิมากณาฝรนเปทล่ีนี่ย้อนยแกปว่าลปงกสตภิ าเพช่นอา กเอาลศนจี โาญก1 ๑. เก ราือรนทกา� ลระาจยกช2น้ั โอโซน สง่ ผลใหเ้ กดิ ปรากฏการณ์
ภาวะโลกร้อน ๒. จ า� นวนประชากรเพ่ิมขึน้ ท�าใหใ้ ช้น�า้ มากข้นึ
๓. การทา� ลายป่าตน้ น�้า ท�าใหไ้ ม่มตี น้ ไมค้ อย
ดดู ซบั น�า้
๔. การบรหิ ารจัดการน�้าท ่ีไม่มีประสทิ ธภิ าพ
เอลนโี ญ ๕. แหลง่ กักเก็บน้�ามีนอ้ ย
แหลง่ กักเก็บนา้� มนี อ้ ย การท�าลายปา่ ต้นน้า�
ตัวอยา่ ง เหตกุ ารณภ์ ยั แลงในประเทศอนิ เดยี
ภยั แลง้ ท่ปี ระเทศอนิ เดยี เม่ือ พ.ศ. ๒๕๕๙ สาเหตุ :
เกดิ จากมฝี นตกนอ้ ยตลอด ๓ ป ทา� ใหป้ รมิ าณนา้�
ในอา่ งเกบ็ นา�้ ๙๑ แหง่ ของอนิ เดยี ลดลงเหลอื เพยี ง
รอ้ ยละ ๒๙ ของศกั ยภาพการกกั เกบ็ ทง้ั หมด ถอื
เปน็ ภยั แลง้ ทม่ี คี วามรนุ แรงมากทส่ี ดุ ในรอบ ๔๐ ป
ผลกระทบ :
ท�าให้ผู้คนที่อาศัยอยู่พื้นท่ีภาคตะวันออกและ
ภาคใต้เสยี ชวี ติ กว่า ๑๖๐ คน ขณะทปี่ ระชาชน
มากกวา่ ๓๐๐ ลา้ นคน ไดร้ บั ผลกระทบจากการ
ขาดแคลนนา้� ปศสุ ตั วแ์ ละพชื ผลทางการเกษตร
ได้รับความเสียหายจ�านวนมาก
๑๑๐
นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ
ภัยแลงท่ีเกดิ ในประเทศไทยสว นใหญเกดิ จากปจ จยั ใดสําคญั
1 เอลนีโญ ปรากฏการณเกิดข้นึ เปนครงั้ คราว เมอื่ กระแสนาํ้ เย็นเปรูบรเิ วณ ทส่ี ดุ
ชายฝงตะวันตกของทวีปอเมริกาใต ถูกกระแสนํ้าอุนจากศูนยสูตรไหลเขา
มาแทนท่ี มีผลทําใหแพลงกตอนและปลาบริเวณน้ันลดนอยลง และเมื่อเกิด 1. ลมบกลมทะเลพัดเปล่ียนทศิ ทาง
ปรากฏการณน้ีขึ้น จะมีผลกระทบตอภูมิอากาศของบริเวณชายฝงใกลเคียง 2. ลมประจาํ ตะวันตกพดั ออ นกาํ ลงั ลง
สง ผลกระทบทาํ ใหบริเวณน้ันมีฝนตกลดนอ ยลง 3. ลมมรสมุ ตะวนั ตกเฉยี งใตพ ัดลงทะเล
2 ปรากฏการณเรือนกระจก ปรากฏการณธรรมชาติท่ีทําใหบรรยากาศของ 4. ลมมรสมุ ตะวันออกเฉียงเหนือนาํ ความหนาวเยน็ มา
โลกอบอนุ ขนึ้ เกดิ จากไอนา้ํ และแกส คารบ อนไดออกไซดท ม่ี อี ยใู นบรรยากาศโลก (วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 4. ภยั แลง ในประเทศไทยมีสาเหตุมา
ดดู ซมึ รังสีความรอ นทโ่ี ลกแผอ อกทุกความยาวคลนื่ ดว ยเหตุน้ีจงึ ทําใหอ ณุ หภมู ิ จากการพัดของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใตมีกําลังออนลง ทําให
ในโลกอบอุนกวาภายนอก แตในปจจุบัน นักวิชาการดานสิ่งแวดลอมเกรงวา ระยะเวลาการพดั ปกคลมุ พน้ื ทน่ี อ ยลง ประกอบกบั มลี มมรสมุ ตะวนั
อณุ หภมู ใิ นเมอื งใหญๆ และยา นอตุ สาหกรรมจะเพมิ่ สงู ขน้ึ เนอ่ื งจากปรากฏการณ ออกเฉียงเหนือนําความหนาวเย็นและความแหงแลงพัดลงมาเร็ว
เรอื นกระจก และมผี ลกระทบตอส่ิงแวดลอมของโลกโดยสวนรวม กวาปกติ จงึ ทําใหเ กิดภัยแลงขึน้ )
T116
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
การปฏิบตั ิตน สญั ญาณเตอื นภัย ขนั้ สอน
๑. วางแผนการใชน้ ้�าและใชอ้ ยา่ งประหยัด ๑. ฝนไม่ตกตอ้ งตามฤดูกาล ขน้ั ที่ 4 การวเิ คราะหแ์ ละแปลผลขอ้ มลู
๒. ห าแหลง่ นา�้ เชน่ ขดุ เจาะนา้� ใตด้ นิ ขดุ บอ่ นา้� ๒. น�า้ ในแหลง่ น้�าลดลงผิดปกติ
3. ครใู หน กั เรยี นดขู อ มลู จาก Geo Tip เพอ่ื ทาํ การ
ในครวั เรอื น แปลผลขอ มูลเพม่ิ เติม
๓. ลดการปลกู พืชใชน้ �้ามากในฤดแู ล้ง เชน่ การทา� นาคร้งั ท่สี อง
๔. ตดิ ตามขา่ วสารและปฏบิ ัติตามคา� แนะน�าจากหน่วยงานทีเ่ กยี่ วข้อง 4. ครใู หน กั เรยี นรว มกนั วเิ คราะหแ ละเสนอความ
คิดเห็นของขอมูลวามีความถูกตองหรือไม
การป้องกันและระวงั ภยั iepo โดยครูชวยชแี้ นะเพมิ่ เตมิ
๑. ไม่ตัดไม้ท�าลายป่า ประเทศไทยมีการผลิตน�้าจืดจากน้�าทะเล โดย ขนั้ ที่ 5 การสรปุ เพอ่ื ตอบคาํ ถาม
๒. สา� รวจและขดุ เจาะนา�้ ใตด้ นิ มาใช ้ ปัจจุบันมีการผลิตท่ีอ�าเภอเกาะสมุย จังหวัด
ครูใหสมาชิกในแตละกลุมรวมกันสรุปสาระ
สาํ คญั เพ่อื ตอบคาํ ถามเชิงภูมศิ าสตร
๓. สรา้ งแหลง่ กกั เกบ็ นา้� เชน่ บอ่ นา้� อา่ งเกบ็ นา�้ สุราษฎร์ธานี เกาะล้าน และอ�าเภอเกาะสีชัง
เข่ือน จังหวัดชลบุรี มีขนาดและก�าลังการผลิตท้ัง ๓
๔. น า� นา้� มาใชห้ มนุ เวยี นโดยผา่ นกระบวนการ เกาะรวมกัน ประมาณ ๑๐,๐๐๐ – ๒๐,๐๐๐
ลูกบาศก์เมตรต่อวนั
ปรบั ปรุงคุณภาพน้�า
๕. แปรสภาพน�้าทะเลเปน็ น�้าจืดโดยใชว้ ิธีการกลน่ั
๖๗.. ทใชา� เ้ ฝทนคเโทนียโลมยเพภี ่ือมู แสิ การ้ ไสขนปเัญทหศ1าแกสาดรงขแาหดลแง่ คนลา้� นผนวิ ดา้� จนิ ดื แ ละนา้� ใตด้ นิ เพอ่ื ปอ้ งกนั และเฝา้ ระวงั ภยั แลง้
ตัวอย่าง การแกปญ หาขาดแคลนนํา้ ของประเทศอสิ ราเอล
ประเทศอสิ ราเอลมกี ารใชเ้ ทคโนโลยี ในการกลน่ั นาํ้ จดื ประเทศอสิ ราเอลมพี นื้ ทส่ี ว่ นใหญแ่ หง้ แลง้
จากนาํ้ ทะเลมาใช้ เพื่อแก้ ไขปญั หาขาดแคลนน้าํ และเป็นทะเลทราย มีปริมาณฝนเฉล่ีย ๓๓
มลิ ลเิ มตร/ป จงึ ตอ้ งพง่ึ พงิ นา�้ ใตด้ นิ เปน็ สว่ นใหญ่
ใน พ.ศ. ๒๕๔๗ เคยประสบปญั หาขาดแคลนนา้�
จนต้องส่ังซื้อน้�าจากเพ่ือนบ้าน ทา� ใหม้ กี ารตง้ั
องค์กรจัดการน้�าโดยเฉพาะข้ึน และได้พัฒนา
เทคโนโลยวี ศิ วกรรมดา้ นการจดั การน้�าโดยอาศัย
ภมู ิประเทศทต่ี ิดทะเล ผนั นา้� จากทะเลมาแปลง
เป็นน้�าจืดใช้ภายในประเทศ ปัจจุบันผลิตน�้าใช้
เองถึงร้อยละ ๕๐ ทา� ให้มีน�้าใช้อย่างเพียงพอ
๑๑๑
กิจกรรม ทา ทาย นักเรียนควรรู
ครูใหนักเรียนสืบคนขอมูลเพ่ิมเติมถึงสถานการณภัยแลง 1 ภูมิสารสนเทศ ศาสตรสารสนเทศที่เนน บูรณาการของเทคโนโลยที างดาน
ในทวีปเอเชีย หรือทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย แลววิเคราะห การสาํ รวจ การทาํ แผนท่ี และการวเิ คราะหข อ มลู ทางพน้ื ทเ่ี ขา ดว ยกนั เพอ่ื ศกึ ษา
สถานการณการเกิดความเสียหาย ผลกระทบตอสิ่งแวดลอมและ เกย่ี วกบั โลก ไดแ ก เทคโนโลยรี ะบบกาํ หนดตาํ แหนง บนพน้ื โลก การรบั รจู ากระยะ
ประชากร แนวทางการปองกันและระวังภัย บันทึกสาระสําคัญ ไกล และระบบสารสนเทศภมู ิศาสตร
แลว นาํ มาอภิปรายในชนั้ เรียน
T117
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขน้ั สอน ๒.๔ ไฟปา่
ขน้ั ที่ 1 การตง้ั คาํ ถามเชงิ ภมู ศิ าสตร์ ไฟป่าเป็นภัยที่เกิดในฤดูร้อนและฤดูแล้งท่ีมีอุณหภูมิสูง อากาศแห้ง สภาพป่าที่แห้งแล้ง
ท�าใหต้ ิดไฟได้ง่ายและลุกลามเปน็ บริเวณกวา้ ง สง่ ผลกระทบต่อพชื และสตั ว ์ ท้ังน ี้ ควนั ไฟยังท�าให้
1. ครูใหนักเรียนดูภาพและแสดงความคิดเห็น เกดิ มลพิษในอากาศเป็นเวลานาน
เกี่ยวกับตัวอยางการเกิดไฟปา จากหนังสือ
เรยี นภมู ิศาสตร ม.1 สาเหตุ
2. ครูใหนักเรียนชวยกันตั้งประเด็นคําถามเชิง สาเหตจุ ากธรรมชาติ สาเหตุจากการกระทาํ ของมนษุ ย์
ภูมิศาสตร เพือ่ คน หาคําตอบ เชน
•ï ปจจัยใดบางที่ทําใหเกิดภัยพิบัติทาง ๑. ฟา้ ผา่ ในฤดูแลง้ ๑. การจุดไฟหาของป่า
ธรรมชาตปิ ระเภทไฟปาในทวีปเอเชยี ทวีป ๒. ก่งิ ไมเ้ สียดสกี นั ๒. การเผาไร่เพอ่ื ก�าจัดวชั พชื เพอื่ เตรียม
ออสเตรเลยี และโอเชียเนีย ๓. ภูเขาไฟปะท ุ เพาะปลกู
•ï เมอ่ื เกดิ ภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาตปิ ระเภทไฟปา ๔. ปฏกิ ิริยาเคม ีในดนิ ป่าพรุ ๓. การขดั แย้งผลประโยชน์
ควรปฏบิ ตั ติ นอยางไร
ชนดิ ของไฟปา่ ไฟเรอื นยอด เผาไหมเ้ รอื นยอดไมย้ อดหนง่ึ ไปสยู่ อดหนงึ่
ขน้ั ที่ 2 การรวบรวมขอ้ มลู มคี วามรุนแรงของไฟมาก
ครูใหนักเรียนรวมกันสืบคนขอมูลเก่ียวกับภัย ไฟผิวดนิ เผาไหมพ้ วกซากพชื และผลทร่ี ว่ งหล่นบน
ดา นสภาพอากาศประเภทไฟปา จากหนงั สอื เรยี น ผิวดิน มกี ารลุกลามของไฟตัง้ แตช่ ้าจนเร็วมาก
ภูมิศาสตร ม.1 หรืออาจใชการสืบคนขอมูลจาก
อนิ เทอรเน็ตเพ่ิมเติม ไฟใตด้ ิน เผาไหม้พวกอนิ ทรียวตั ถุสลายตัวแล้ว รวมถึงรากไม้ มีลกั ษณะ
เผาไหม้อย่างชา้ ๆ มคี วามรนุ แรงของไฟน้อย
ขนั้ ที่ 3 การจดั การขอ้ มลู
ตัวอยา่ ง เหตกุ ารณ์ ไฟป่าในประเทศออสเตรเลีย
1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลที่ไดจากการ
รวบรวม มาแลกเปลยี่ นความรรู ะหวา งกนั สาเหตุ :
2. จากนน้ั สมาชกิ ในกลมุ ชว ยกนั คดั เลอื กขอ มลู ที่ เกดิ จากคลนื่ ความรอ้ น ทา� ใหม้ อี ณุ หภมู สิ งู ถงึ ๔๖
นําเสนอเพอ่ื ใหไ ดขอมลู ทถ่ี ูกตอง องศาเซลเซยี ส จากสภาพอากาศแหง้ แลง้ มตี น้ ไม้
และใบไม้แห้งที่เป็นเช้ือเพลิงอย่างดี และมีลม
กระโชกแรง ท�าใหไ้ ฟยิง่ ลุกลามอยา่ งรวดเรว็
ไฟปาครัง้ ใหญในประเทศออสเตรเลยี ผลกระทบ :
เมอื่ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๖๐
ทา� ใหอ้ าคารบา้ นเรอื น โรงงานในรฐั วกิ ตอเรยี ทถี่ กู
ไฟไหม ้ พน้ื ทกี่ วา่ ๓,๐๐๐ ตารางกโิ ลเมตร กลาย
เปน็ เถา้ ถา่ น มผี เู้ สยี ชวี ติ มากกวา่ ๒๓๐ ราย และ
มีผู้ ไรท้ ี่อยอู่ าศัยกวา่ ๕,๐๐๐ คน
๑๑๒
เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคิด
ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ เกย่ี วกบั การปลกู ปา ทดแทน เพอ่ื ปอ งกนั ภยั แลง และไฟปา ไฟปา กอ ใหเ กดิ โรคในขอ ใดมากทสี่ ุด
วา พระบาทสมเดจ็ พระเจา อยหู วั ไดพ ระราชทานคาํ แนะนาํ การปลกู ปา ทดแทนใน 1. โรคภูมแิ พผวิ หนงั
พน้ื ทปี่ า ไมท ถ่ี กู บกุ รกุ และพนื้ ทป่ี า เสอื่ มโทรมวา “…ควรทดลองปลกู ตน ไมช นดิ โต 2. โรคปวดหวั เรอื้ รัง
เร็วคลุมแนวรองนํ้าเสยี กอ น เพอ่ื ทําใหค วามชมุ ชน้ื คอยๆ ทวีข้นึ แผข ยายออกไป 3. โรคหัวใจวายเฉียบพลัน
ทง้ั สองรอ งนา้ํ ซงึ่ จะทาํ ใหต นไมงอกงามและมีสวนชว ยปอ งกนั ไฟปา เพราะไฟ 4. โรคระบบทางเดินหายใจ
จะเกดิ งา ย หากปาขาดความชมุ ช้นื ในปต อ ไปก็ใหป ลูกตน ไมในพื้นท่ีถัดไป…” (วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. ไฟปา กอใหเ กิดโรคระบบทางเดิน
หายใจ ทม่ี สี าเหตมุ าจากหมอกควนั พษิ ทเี่ ขา สรู ะบบทางเดนิ หายใจ
มากกวา ปกติ เชน ควนั ไฟทเ่ี กดิ จากการเผาไหมท ไี่ มส มบรู ณ ทาํ ให
เกิดเขมาควันและแกสพิษตางๆ รวมทั้งฝุนละอองขนาดเล็กท่ี
สามารถเขา สรู ะบบทางเดินหายใจของคนได)
T118
นาํ นํา สอน สรปุ ประเมิน
การปฏบิ ัตติ น สญั ญาณเตอื นภัย ขนั้ สอน
๑. หากพบการจดุ ไฟขนาดเลก็ ตอ้ งรบี ชว่ ยกนั ๑. อากาศแห้งแลง้ ผิดปกติ
๒. เกดิ ภาวะโลกรอ้ น ขน้ั ท่ี 4 การวเิ คราะหแ์ ละแปลผลขอ้ มลู
ดบั ไฟทนั ที
๒. เมอื่ พบเห็นไฟไหมป้ า่ ต้องรีบแจง้ ครสู มุ นกั เรยี นใหย กตวั อยา งการปฏบิ ตั ติ น การ
หนว่ ยงานในพืน้ ที่ ปองกัน และระวังภัยเม่ือประสบเหตุการณไฟปา
๓. ท�าแนวกันไฟรอบชุมชน จากน้ันรวมกันวิเคราะหและเสนอความคิดเห็น
๔. หลกี เลย่ี งการเผาขยะ และการจดุ ไฟเผาปา่ โดยครชู แ้ี นะเพม่ิ เตมิ
การป้องกนั และระวงั ภยั ขนั้ ที่ 5 การสรปุ เพอื่ ตอบคาํ ถาม
๑. ประชาสมั พนั ธ์ ใหค้ วามร ู้ ติดตาม และแจง้ เตือนภัยแกป่ ระชาชนเก่ยี วกบั ไฟปา่
๒. ก�าจดั เชือ้ เพลงิ ในพ้ืนที่เส่ยี งเกดิ ไฟปา่ และเพิม่ ความชุ่มชน้ื ใหแ้ กพ่ นื้ ท่ี 1. ครใู หน กั เรยี นรว มกนั สรปุ สาระสาํ คญั เพอื่ ตอบ
๓. ปอ้ งปรามและบังคับใชก้ ฎหมายอยา่ งเคร่งครัด คาํ ถามเชิงภมู ศิ าสตร
๔. สง่ เสริมการมีสว่ นรว่ มของประชาชนในการแก ้ไขปัญหาไฟป่า
๕. จดั ระเบียบและควบคุมการเผาเศษพชื ในพื้นทเ่ี กษตรท่อี ยู่ตดิ เขตปา่ 2. นักเรียนทําใบงานท่ี 4.1 เร่ือง ภัยพิบัติที่เกิด
๖. เตรยี มความพรอ้ มในการดบั ไฟปา่ เชน่ จดั ตงั้ หนว่ ยงานเฝา้ ระวงั ไฟปา่ เตรยี มอปุ กรณด์ บั ไฟปา่ จากปจ จยั ดา นสภาพอากาศ และชว ยกนั เฉลย
คําตอบ
ตวั อย่าง การนําเทคโนโลยดี าวเทียมมาใชปอ้ งกันไฟป่าของประเทศไทย
ขน้ั สรปุ
ส�านักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและ
ภมู สิ ารสนเทศ (องคก์ ารมหาชน) หรอื GISTDA 1. ครูและนักเรียนตรวจสอบความถูกตองของ
ได้ ใช้ดาวเทียมเพ่ือติดตามจุดที่เกิดไฟป่าทั่ว คําตอบและใบงานท่ี 4.1 จากน้ันรวมกันสรุป
ประเทศ และได้พัฒนาระบบแผนที่ความเส่ียง ความรูเกี่ยวกับภัยพิบัติและภัยดานสภาพ
การเกิดไฟป่าอย่างต่อเน่ือง เพ่ือให้หน่วยงาน อากาศ หรอื ใช PPT สรปุ สาระสาํ คญั ของเนอ้ื หา
ในพน้ื ท ี่ใชป้ ระกอบการวางแผนการจดั การเชอื้ ไฟ
การจัดท�าแนวกนั ไฟ และการทา� ความเขา้ ใจกับ 2. ครใู หน กั เรยี นทาํ แบบฝก สมรรถนะฯ ภมู ศิ าสตร
ประชาชนในพ้นื ที่ ม.1
นอกจากนี้ ยังให้บริการแผนที่แบบ
ออนไลน์และข้อมูลความรู้เก่ียวกับไฟป่าและ ขน้ั ประเมนิ
หมอกควัน
1. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม
การรวมกนั ทาํ งาน และการนําเสนอผลงาน
2. ครตู รวจสอบผลจากการทาํ ใบงานและแบบฝก
สมรรถนะฯ ภูมศิ าสตร ม.1
พ้ืนทีส่ แี ดงเปนพื้นท่ี ไฟปาบรเิ วณภาคเหนอื
จากการวิเคราะหภ าพจากดาวเทียม
๑๑๓
กิจกรรม ทา ทาย แนวทางการวัดและประเมินผล
ครูใหนักเรียนสืบคนขอมูลเพ่ิมเติมถึงสถานการณไฟปาใน ครสู ามารถวดั และประเมนิ ความเขาใจเนอื้ หา เรอื่ ง ภัยพิบัตดิ านสภาพ
ภูมภิ าคเอเชียตะวันออกเฉียงใต หรือในประเทศออสเตรเลีย แลว อากาศ ไดจากการตอบคําถาม การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงานหนา
วิเคราะหสถานการณการเกิด ความเสียหาย ผลกระทบตอ ช้ันเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจากแบบประเมินการนําเสนอ
สง่ิ แวดลอ มและประชากร แนวทางการปอ งกนั และระวงั ภยั บนั ทกึ ผลงานทแี่ นบมาทา ยแผนการจดั การเรยี นรหู นว ยท่ี 4 เรอ่ื ง ภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาติ
สาระสาํ คัญ แลว นาํ มาอภิปรายในชัน้ เรียน ในทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนยี
แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน
คาชแ้ี จง : ให้ผู้สอนประเมนิ ผลการนาเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการ แล้วขดี ลงในชอ่ งที่
ตรงกบั ระดับคะแนน
ลาดบั ที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1
32
1 ความถกู ตอ้ งของเนื้อหา
2 การลาดบั ข้นั ตอนของเร่ือง
3 วธิ ีการนาเสนอผลงานอยา่ งสร้างสรรค์
4 การใช้เทคโนโลยใี นการนาเสนอ
5 การมีส่วนรว่ มของสมาชิกในกลมุ่
รวม
ลงชื่อ……………………………………………ผปู้ ระเมนิ
…………/……………../…………….
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ สมบรู ณ์ชัดเจน ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินเปน็ สว่ นใหญ่
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ บางสว่ น
เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
12 – 15 ดี T119
8 – 11 พอใช้
ต่ากวา่ 8 ปรับปรงุ
นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ
ขนั้ นาํ ๓ ธรณีพิบตั ิภยั
Geographic Inquiry Process ธรณพี บิ ตั ภิ ัยเปน็ ภัยธรรมชาตทิ เ่ี กดิ จากกระบวนการทางธรณวี ิทยา ทสี่ ง่ ผลกระทบต่อชวี ิต
และส่งิ แวดล้อม เชน่ แผน่ ดินไหว ภูเขาไฟปะท ุ สึนาม ิ แผน่ ดนิ ถลม่
1. ครูทบทวนความรูจากสิ่งท่ีไดเรียนมา โดยครู
อาจถามคําถาม เชน ๓.๑ แผน่ ดินไหว
•ï ภัยพบิ ัตทิ างธรรมชาติดา นสภาพอากาศมี
อะไรบา ง แผ่นดินไหว เปน็ ภัยทเี่ กดิ จากการเคลอ่ื นตัวของโครงสรา้ งทางธรณีวิทยา ทา� ให้เกดิ การส่ัน
(แนวตอบ ไดแ ก วาตภยั อทุ กภยั ภยั แลง และ สะเทอื นจนก่อให้เกดิ ความเสยี หายแก่ชวี ิตและบา้ นเรือน
ไฟปา)
สาเหตุ
2. ครูเกริ่นถึงธรณีพิบัติภัย เชน แผนดินไหว
ภเู ขาไฟปะทุ สนึ ามิ แผนดนิ ถลม ๑. การเคล่ือนตัวของรอยเล่ือนบรเิ วณเปลอื กโลก
๒. การสั่นสะเทอื นจากการปะทุของภเู ขาไฟ
3. ครใู หน กั เรยี นทเี่ คยเจอเหตกุ ารณธ รณพี บิ ตั ภิ ยั ๓. การทดลองระเบดิ ปรมาณูหรือการปะทขุ องระเบิดนิวเคลียร์
มาเลา ประสบการณท่เี กดิ ขึ้น
การเกดิ แผน่ ดินไหว ๑ ๒ ๓
ขน้ั สอน
แผน่ ดินไหวมกั เกิดจาก แผ่นธรณีเคลื่อนที่ แผ่นธรณีเคล่อื นที่ แผ่นดนิ เคลื่อนที่
ขน้ั ท่ี 1 การตง้ั คาํ ถามเชงิ ภมู ศิ าสตร์ การเคล่อื นตวั ของรอยเล่อื น แยกออกจากกัน เฉือนกนั เข้าหากนั
ของเปลือกโลก
1. ครใู หน กั เรยี นดขู า วเกย่ี วกบั ธรณพี บิ ตั ทิ เ่ี กดิ ขน้ึ
ในทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย สันเขาใตส้ มุทร
แลว แสดงความคิดเห็นรว มกนั
แนวรอยแตกของเปลือกโลก ภูเขาไฟ เปลือกโลกทวีป
2. ใหนักเรียนชวยกันต้ังประเด็นคําถามทาง ส่วนบนสดุ ของเนื้อโลก
ภูมศิ าสตร เชน แผน่ ดินไหวระดับตื้น
•ï เพราะเหตุใดทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลีย แผน่ ดินไหวระดบั ลึก
และโอเชยี เนียจงึ เกดิ ธรณีพบิ ตั ขิ ้นึ บอยครง้ั แผน่ ดนิ ไหวระดบั ปานกลาง
ขน้ั ท่ี 2 การรวบรวมขอ้ มลู แนววงแหวนแห่งไฟ บริเวณที่เกิดแผ่นดินไหวขึ้นบ่อยครั้งและรุนแรง
อยู่โดยรอบมหาสมุทรแปซิฟิก เรียกว่า วงแหวนแห่งไฟ
1. ครนู าํ โมเดลจาํ ลองแผน ดนิ ไหวมาสาธติ สาเหตุ ๑๑๔ (The Ring of Fire) ครอบคลมุ พน้ื ทตี่ ง้ั แตเ่ ทอื กเขาแอนดสี
การเกิดใหนกั เรียนดู ในทวีปอเมริกาใต้ ผ่านอเมริกากลาง เทือกเขาร็อกก ี
อะแลสกา หมู่เกาะญี่ปุ่น หมู่เกาะฟิลิปปิน หมู่เกาะ
2. ครใู หน กั เรยี นรว มกนั ศกึ ษาสาเหตกุ ารเกดิ แผน อินโดนีเซีย หมู่เกาะแปซิฟิกใต้ถึงประเทศนิวซีแลนด์
ดินไหวจากโมเดลท่ีครูนํามาใหดู และจาก มคี วามยาวประมาณ ๓,๒๐๐ กิโลเมตร
หนงั สอื เรยี นภมู ศิ าสตร ม.1 เพอ่ื นาํ มาอภปิ ราย
รว มกนั ในชัน้ เรยี น
เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคดิ
มาตราริกเตอร เปนมาตราสําหรับวัดขนาดของแผนดินไหว คิดคนโดย ขอ ใดมีความสมั พันธกนั
นายซี. เอฟ. ริกเตอร (C. F. Richter) นกั ธรณีแผน ดนิ ไหวของสถาบนั เทคโนโลยี 1. แผนดินไหว – ภยั แลง
แคลิฟอรเนยี สหรฐั อเมริกา แผนดินไหวมีคาตั้งแต 0 – 9 ริกเตอร มีขนาดความ 2. แผนดนิ ไหว – ภเู ขาไฟปะทุ
รุนแรง ดังนี้ 3. ภูเขาไฟปะทุ – แผน ดินถลม
4. พายุหมุนเขตรอ น – ปรากฏการณเ อลนโี ญ
1 – 2.9 เกดิ การสน่ั ไหวเลก็ นอ ย ผคู นเรม่ิ มคี วามรสู กึ ถงึ การสนั่ ไหว บางครงั้ (วิเคราะหค ําตอบ ตอบขอ 2. แผนดินไหวและภูเขาไฟปะทุมี
รูส กึ เวียนศีรษะ
ความสมั พนั ธก นั เนอื่ งจากภเู ขาไฟปะทเุ ปน ปจ จยั หนงึ่ ทกี่ อ ใหเ กดิ
3 – 3.9 เกดิ การสน่ั ไหวเลก็ นอ ย ผคู นทอี่ ยใู นอาคารรสู กึ เหมอื นรถไฟวง่ิ ผา น แผนดนิ ไหว สว นขอ 1, 3 และ 4 ไมมคี วามสมั พันธก นั )
4 – 4.9 เกิดการสั่นไหวปานกลาง ผูท่ีอาศัยอยูทั้งภายในอาคารและ
นอกอาคารรสู ึกถงึ การสน่ั สะเทือน วตั ถุหอยแขวนแกวง ไหว
5 – 5.9 เกิดการสั่นไหวรุนแรงเปนบริเวณกวาง เครื่องเรือนและวัตถุ
มกี ารเคล่อื นที่
6 – 6.9 เกิดการส่ันไหวรนุ แรงมาก อาคารเร่ิมเสยี หาย พงั ทลาย
7 – 9 เกดิ การสนั่ ไหวรา ยแรง อาคาร สงิ่ กอ สรา งเสยี หายมาก แผน ดนิ แยก
T120 วตั ถทุ ี่อยบู นพ้ืนถูกเหวย่ี งกระเดน็
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ตัวอย่าง เหตุการณ์แผน่ ดนิ ไหวในประเทศเนปาล ขนั้ สอน
สาเหต ุ : ขนั้ ท่ี 3 การจดั การขอ้ มลู
เกิดจากแผ่นเปลือกโลกอินเดียมุดตัวลงใต้ 1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลที่ตนไดจาก
แผ่นเปลือกโลกยูเรเชีย ท�าให้เกิดแผ่นดินไหว การรวบรวม มาอธิบายแลกเปล่ียนความรู
ขนาด ๗.๘ มีศูนย์กลางแผ่นดินไหวห่างจาก ระหวางกัน
กรุงกาฐมาณฑุไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ประมาณ ๘๐ กโิ ลเมตร 2. สมาชกิ ในกลมุ ชว ยกนั คดั เลอื กขอ มลู ทนี่ าํ เสนอ
เพ่ือใหไดขอมูลทีถ่ ูกตอง
แผนดินไหวทปี่ ระเทศเนปาล เมอื่ วนั ท่ี ๒๕ เมษายน ผลกระทบ :
พ.ศ. ๒๕๕๘ ขนั้ ท่ี 4 การวเิ คราะหแ์ ละแปลผลขอ้ มลู
ท �าให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า ๘,๐๐๐ คน ได้รับ
บาดเจ็บมากกว่า ๑๗,๘๐๐ คน และบ้านเรือน 1. สมาชิกแตละกลมุ นําขอ มลู ทีไ่ ดจ ากการศกึ ษา
เสยี หายเป็นจา� นวนมาก มาทําการวิเคราะห และรวมกันตรวจสอบ
ความถกู ตอ งของขอ มลู ครูชวยชแ้ี นะเพมิ่ เตมิ
การปฏิบตั ติ น พ สฤญั ตญิกรารมณขเอตงอืสัตนวภ1์ ัยเช่น นกพิราบป่าท่ีอยู่
๑. ห ากอย ่ใู นอาคารใหร้ บี มดุ ลงใต ้โตะ ทแ่ี ขง็ แรง ๑. ภายในรศั ม ี ๕๐ กม. จากศนู ยก์ ลางแผน่ ดนิ ไหว 2. ครูใหนักเรียนแตละกลุมศึกษาตัวอยางภาพ
เหตุการณแผนดินไหว จากหนังสือเรียน
หรอื อย่ใู นมมุ ตกึ จะบินหนีภายใน ๒๔ ช่ัวโมง กอ่ นเกดิ เหตุ ภมู ศิ าสตร ม.1 แลว อภปิ รายแสดงความคดิ เหน็
๒. หากอย ู่ใกลป้ ระตทู างออก ควรรบี ออกมาสู่ ๒. ปรากฏการณ์ท่ีผิดปกติของท้องฟ้า เช่น รว มกนั
มเี มฆรปู รา่ งประหลาด เกิดประกายแสง แตท่ ่ี
ท่ีโลง่ เพื่อปอ้ งกนั สิ่งของหล่นทบั พบบ่อยท่ีสดุ คอื “เมฆแผ่นดินไหว” 3. ครูต้ังคําถาม เชน คําถาม Geo Question
๓. ห ากอย่ ูใกล้ชายฝง่ั ทะเล ใหร้ ีบข้ึนท่ีสงู หา่ ง จากหนังสือเรียนภูมิศาสตร ม.1 แลวให
นกั เรยี นรว มกนั ระดมความคดิ เพอ่ื ตอบคาํ ถาม
จากชายฝั่ง เพราะอาจเกดิ คลืน่ สึนามไิ ด้
การปอ้ งกันและระวังภยั
๑. ห ากอยู่บริเวณจุดเสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหว
ควรจดั เตรยี มเครอื่ งอปุ โภค บรโิ ภค และยารกั ษาโรค
ไว ้ใหพ้ ร้อม
๒. เข้าร่วมฝึกซ้อมการอพยพหนีภัยของชุมชน
หรอื หน่วยงานทีอ่ ยู่ในพื้นทเี่ ส่ยี งภัย
๔๓.. ตตรดิ วตจาสมอขบา่ อวาสคาารรจบากา้ นหเนรว่อื ยนงแาลนะทส่ีเ่ิงกกี่ย่อวสขร้อา้ งงตา่ ง ๆ ใหม้ ัน่ คงแข็งแรง เคร่อื งวดั แผน่ ดินไหว
Q? euoestion
เพราะเหตใุ ดแผน่ ดนิ ไหวและภเู ขาไฟปะทจุ งึ มกั เกดิ ขน้ึ บรเิ วณเดยี วหรอื ใกลเ้ คยี งกนั ประเทศใดบา้ ง
ในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใตม้ คี วามเสย่ี งตอ่ การเกดิ ภยั พบิ ตั นิ ้ี และหากอย่ใู นพนื้ ทเี่ สยี่ งจะปฏบิ ตั ิ
ตนอย่างไร
๑๑๕
ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู
ถา เกิดแผน ดนิ ไหวแลวนกั เรียนยงั อยภู ายในตัวอาคาร โดยไม 1 พฤติกรรมของสัตว กอนการเกิดแผนดินไหวจะมีคล่ืนแมเหล็กไฟฟานัก
สามารถออกมาภายนอกได นกั เรียนจะปฏบิ ัติตนอยา งไร เพื่อ วทิ ยาศาสตรพ บวา สตั วบ างชนดิ จะไดร บั สญั ญาณกอ น จงึ มกี ารตน่ื ตวั เชน สนุ ขั
ปอ งกนั ตนเองจากภัยแผน ดินไหว ปลา นก กบ เปน ตน ซงึ่ นกั วทิ ยาศาสตรก าํ ลงั ศกึ ษาวจิ ยั เพอื่ ใชส ญั ชาตญาณจาก
สตั วเหลานี้มาเปนเครอื่ งมือเตอื นภัยอยา งหนงึ่ ใหแ กมนษุ ย
1. นอนราบกบั พื้นทีโ่ ลง
2. หลบลงใตโ ตะ ท่ีแขง็ แรง T121
3. โทรศพั ทใ หค นเขา มาชว ย
4. รีบกดลิฟตลงช้นั ลางอยา งรวดเรว็
(วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เม่ือเกิดแผนดินไหวถาอยูภายใน
อาคาร ขอควรปฏิบัติในการปองกันภัยทําได คือ หามใชลิฟต
เพราะไฟฟาอาจดับไดและควรมุดลงใตโตะท่ีแข็งแรง หากอยู
ภายนอกอาคารใหหลีกเล่ียงการอยูใกลเสาไฟฟา กําแพงและ
อาคารสูง หากอยูใกลชายฝงทะเลใหรีบขึ้นท่ีสูงท่ีหางจากชายฝง
เพราะอาจเกิดคล่ืนสึนามิได)
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขนั้ สอน ๓.๒ ภเู ขาไฟปะทุ
ขน้ั ท่ี 4 การวเิ คราะหแ์ ละแปลผลขอ้ มลู (ตอ ) ภูเขาไฟปะทเุ กิดจากการปะทุของหินหนืดหรือแมกมา (magma) หลอมเหลวและแกส จาก
ใตเ้ ปลอื กโลก ความรุนแรงของการปะทจุ ะขน้ึ อยกู่ บั แรงดนั ทป่ี ะทอุ อกมา และการปะทขุ องภเู ขาไฟ
4. ครูนําโมเดลจําลองภูเขาไฟปะทุมาสาธิต อาจทา� ใหเ้ กดิ แผน่ ดนิ ไหวหรอื สนึ ามิตามมาได้
สาเหตุการเกดิ ใหนกั เรยี นดเู พ่มิ เติม
สาเหตุ
5. ครูใหนักเรียนรวมกันศึกษาสาเหตุการเกิด
ภูเขาไฟปะทุจากโมเดลท่ีครูนํามาใหดู และ เกิดจากการเปล่ียนแปลงของเปลือกโลก โดยหินหนืดท่ีอยู่ ใต้เปลือกโลกเกิดการเคลื่อนตัว
จากหนังสือเรียนภูมิศาสตร ม.1 จากนั้นนํา ท�าให้มีแรงดัน โดยจะปะทุและแทรกขึ้นมาตามรอยแยกหรือปะทุออกมาจากปล่องภูเขาไฟ
ขอ มลู มาอภปิ รายรวมกัน ซงึ่ แนวรอยตอ่ ของเปลอื กโลกจะมโี อกาสเกดิ ภเู ขาไฟมากทสี่ ดุ เชน่ แนวภเู ขาไฟรอบ ๆ มหาสมทุ ร
แปซฟิ ิก หรอื วงแหวนแห่งไฟ
ขนั้ ที่ 5 การสรปุ เพอ่ื การตอบคาํ ถาม
สณั ฐานภเู ขาไฟ แกสต่าง ๆ
1. ครูใหนักเรียนรวมกันสรุปความรูที่ไดศึกษา
สาเหตุการเกิดแผนดินไหวและภูเขาไฟปะทุ หนิ หนดื แทรกตวั ปากปลอ่ งภูเขาไฟ
โดยครชู ว ยสรปุ และเสนอแนะเพมิ่ เตมิ จากนนั้ ลาวา
ครูถามคาํ ถามนกั เรยี นเพ่มิ เติม เชน
ï• แผน ดินไหวเกิดมาจากสาเหตุใด ลาวาหลาก
(แนวตอบ เกิดจากการเคลื่อนตัวของรอย
เล่ือนบริเวณเปลือกโลก การสั่นสะเทือน ธรณีภาค ชั้นหิน กระเปาะหนิ หนดื
จากการปะทุของภูเขาไฟ หรอื การปะทขุ อง หินหนืด
ระเบดิ นวิ เคลยี ร)
ประเภทของภเู ขาไฟ ภเู ขาไฟสงบ ภเู ขาไฟไม่มพี ลงั
ภเู ขาไฟท่ปี ะทุแล้วก็สงบอย ู่ ภเู ขาไฟทย่ี งั ไมเ่ คยปะทุอกี เลย
ภเู ขาไฟมพี ลัง เมอื่ มีพลงั เพม่ิ พูนขึ้นใหมม่ ากพอ หลงั จากเกดิ เป็นภเู ขาไฟแลว้
ภเู ขาไฟที่ยงั คกุ ร่นุ อยตู่ ลอดเวลา กอ็ าจจะปะทขุ ึ้นมาอกี ได้ เชน่ เช่น ภเู ขาไฟแอระแรต ในตุรกี
อาจปะทุเม่ือใดก็ได ้ เชน่ ภูเขาไฟฟจุ ิ ในญ่ปี ุ่น
ภเู ขาไฟมาโยน ในฟิลิปปนิ ส์
ภูเขาไฟมาโยน ประเทศฟิลิปปินส์ ภเู ขาไฟฟุจิ ประเทศญปี่ ุ่น ภูเขาไฟแอระแรต ประเทศตุรกี
๑๑๖
เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคดิ
ครูควรนําแผนท่ีแสดงเขตภูเขาไฟของโลกมาใหนักเรียนดูแลวอธิบายวา ภเู ขาไฟในขอ ใดจะมีความรนุ แรงมากที่สดุ หากเกิดการปะทุ
ปจ จบุ ันภูเขาไฟมพี ลงั ปรากฏอยู 3 แหลง คอื 1. ภเู ขาไฟฟุจิ ประเทศญ่ปี ุน
2. ภูเขาไฟกระโดง ประเทศไทย
1. บริเวณขอบของแผนทวีปท่ีเปลือกโลกภาคพ้ืนสมุทรเคลื่อนท่ีมุดแผน 3. ภเู ขาไฟเอตนา ประเทศอิตาลี
ภาคพน้ื ทวปี เชน ภเู ขาไฟในสหรฐั อเมรกิ า เอกวาดอร เปรู ชิลี หรอื 4. ภเู ขาไฟเซนตเฮเลน ประเทศสหรัฐอเมริกา
แผน ภาคพนื้ สมทุ รสอดมดุ ซง่ึ กนั และกนั เชน ภเู ขาไฟในญปี่ นุ ฟล ปิ ปน ส (วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 4. เน่ืองจากภูเขาไฟเซนตเฮเลน
อินโดนเี ซยี เปนตน
จัดเปนภูเขาไฟไมมีพลังซ่ึงนานๆ จะมีการปะทุสักคร้ังหนึ่ง แต
2. บริเวณแนวแยกกันของพ้ืนมหาสมุทร เชน ภูเขาไฟในไอซแลนด และ ถาปะทุแลวจะมีความรุนแรงมากท่ีสุด สวนภูเขาไฟฟุจิและ
บรเิ วณหุบเขาทีเ่ กิดตามแนวรอยเล่ือนบนภาคพื้นทวีป เชน ภเู ขาไฟใน ภูเขาไฟกระโดงจัดเปนภูเขาไฟสงบ ไมมีการปะทุในชวงเวลา
ซูดาน เอธโิ อเปย เปน ตน 5,000 ปที่ผานมาจึงถือวาเปนภูเขาไฟท่ีสงบแลว สําหรับภูเขาไฟ
เอตนาจัดเปนภูเขาไฟมีพลังสามารถที่จะปะทุไดตลอดเวลา
3. บรเิ วณจดุ รอ นทหี่ นิ หนดื พขุ นึ้ มาในสว นทเ่ี ปน เปลอื กโลก เชน ภเู ขาไฟใน ดังนนั้ การปะทจุ ึงรุนแรงไมเ ทา กบั ภเู ขาไฟไมมีพลัง)
หมูเกาะฮาวาย เปนตน
T122
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ตวั อย่าง เหตกุ ารณ์ภเู ขาไฟปะทใุ นประเทศอนิ โดนีเซยี ขนั้ สอน
สาเหตุ : ขนั้ ท่ี 5 การสรปุ เพอื่ ตอบคาํ ถาม (ตอ )
เกิดการปะทุของภูเขาไฟมากกว่า ๑๙ ครั้ง • บริเวณที่เกิดแผนดินไหวขึ้นบอยครง้ั บรเิ วณ
กอ่ นทจี่ ะมลี าวาทะลกั ออกจากปากปลอ่ งภเู ขาไฟ มหาสมุทรแปซฟิ กเรียกวาอะไร
ไหลมาตามทางลาดภเู ขา เปน็ ระยะทางประมาณ (แนวตอบ วงแหวนแหงไฟ (The ring or rfi e)
๔.๕ กโิ ลเมตร ควนั และเถา้ ถา่ นทพ่ี วยพงุ่ สู่ทอ้ งฟ้า ซ่งึ มคี วามยาวประมาณ 3,200 กิโลเมตร)
มีความสูงประมาณ ๔.๒ กิโลเมตร
•ï หากเกิดแผนดินไหวในบริเวณพ้ืนท่ีที่
ภูเขาไฟซินาบุงในประเทศอินโดนีเซียปะทุเม่ือเดือน ผลกระทบ : นักเรียนอยจู ะมีวิธกี ารปฏบิ ตั ิตนอยางไร
สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ (แนวตอบ 1. หากอยูในอาคารใหรีบมดุ ลงใต
ท�าให้บ้านเรือนและบริเวณใกล้เคียงได้รับผล โตะ ท่แี ขง็ แรง หรอื อยใู นมุมตึก 2. หากอยู
กระทบจากเถา้ ถา่ นทป่ี ลวิ ตกลงมาปกคลมุ รวมถงึ ใกลประตูทางออก ควรรีบออกมาอยูท่ีโลง
เกิดมลพษิ ทางอากาศ 3. หากอยใู กลช ายฝง ทะเล ใหร บี ขนึ้ ทสี่ งู หา ง
จากชายฝง )
การปฏบิ ัติตน สญั ญาณเตอื นภัย
๑. ใหร้ บี ออกจากพ้ืนทีเ่ สี่ยงภยั ภูเขาไฟปะทุ ๑. สนุ ขั หรือสตั ว์เลอื้ ยคลานบางชนิดจะตน่ื ตกใจ ï• ภูเขาไฟปะทเุ กดิ มาจากสาเหตุใด
๒. ใ สห่ นา้ กากกนั ฝนุ่ แวน่ ตา ชดุ แขนยาว และ ๒. ภูเขาไฟพน่ ควันและมแี กส มากขน้ึ (แนวตอบ เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของ
๓. ภูเขาไฟสัน่ สะเทือนและสง่ พลงั งานเสยี ง เปลือกโลก โดยหินหนืดท่ีอยูใตเปลือกโลก
รองเท้าทนทาน เพอ่ื ป้องกนั เถ้าภเู ขาไฟ เกิดการเคล่ือนตัว ทําใหมีแรงดัน โดยจะ
๓. เชื่อฟังและอพยพหนีตามค�าแนะน�าของ ออกมามากกวา่ ปกติ ปะทแุ ทรกขนึ้ มาตามรอยแยก หรอื ปะทอุ อก
มาจากปลองภูเขาไฟ)
หน่วยงานทเ่ี กีย่ วขอ้ งจนกว่าจะปลอดภัย
2. ครใู หน กั เรยี นดู Geo tip เกยี่ วกบั เรอื่ งภเู ขาไฟ
การป้องกันและระวังภยั iepo จากหนงั สอื เรยี นภมู ศิ าสตร ม.1 จากนน้ั ครชู ว ย
๑. ประชาสมั พนั ธ ์ใหป้ ระชาชนในบรเิ วณพนื้ ที่ อธบิ ายเพิ่มเติม
ภเู ขาไฟมพี ลังไดน้ านถงึ ๑ ลา้ นป และจะดับลง
เสยี่ งภยั รถู้ งึ อนั ตรายและการหลกี เลยี่ งภยั ในท่ีสุด บางครั้งภูเขาไฟจะดับเม่ือเกิดปะทุข้ึน 3. ครูใหสมาชิกในแตละกลุมรวมกันสรุปสาระ
๒. ติดตามข่าวและปฏิบัติตามค�าแนะน�าของ นักวิทยาศาสตร์เรียกภูเขาไฟที่ไม่เกิดการปะทุ สาํ คัญเพอื่ ตอบคําถามเชิงภมู ศิ าสตร
ข้นึ อกี แลว้ วา่ “ภเู ขาไฟดบั สนิท”
หนว่ ยงานท่เี ก่ียวขอ้ ง
๓. เ ฝา้ สงั เกตภูเขาไฟบางลกู เป็นพิเศษ และ
ตดิ ตงั้ ระบบเตือนภัยที่มปี ระสทิ ธิภาพ
๔. ซ อ้ มการอพยพหนีภยั ตามแนวเส้นทางท่ปี ลอดภยั
๕. สรา้ งอาคารเพื่อรองรบั ผูอ้ พยพให้เพียงพอ พร้อมทั้งการช่วยเหลอื ด้านต่าง ๆ
๖. เ ตรียมหน้ากากกันฝุ่น แวน่ ตา ชุดแขนยาว และรองเท้าทนทาน เพ่ือป้องกนั เถ้าภเู ขาไฟ
๑๑๗
ขอสอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู
ภูเขาไฟปะทเุ ปนภัยธรรมชาติทม่ี คี วามรนุ แรงและเกดิ ข้นึ บอย ครคู วรเสรมิ นกั เรยี นวา ประเทศไทยเคยมภี เู ขาไฟทป่ี ะทแุ ละเกดิ การระเบดิ
คร้ังในปจจุบนั มีหลักในการปอ งกันหรือแกไขอยา งไร มาแลว 8 แหง อยูที่ จ.บุรีรัมย 6 แหง ไดแ ก ภูเขาไฟหนิ พนมรุง ซ่ึงเปน ทีต่ ง้ั ของ
ปราสาทหนิ พนมรุง ภเู ขาไฟอังคาร ภเู ขาไฟหนิ หลบุ ภูเขาไฟกระโดง ภูเขาไฟ
(วเิ คราะหค าํ ตอบ ภเู ขาไฟปะทเุ ปน ภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาตทิ ร่ี นุ แรง ไบรบดั และภเู ขาไฟคอก สว นอกี 2 แหง ตง้ั อยทู ี่ จ.ลาํ ปาง ไดแ ก ภเู ขาไฟดอยผา
ซึ่งในปจ จุบนั ยังไมสามารถยบั ยง้ั แกไ ขได หลกั ในการปองกนั เมอ่ื ดอกจาํ ปาแดด และภเู ขาไฟดอยหนิ คอกผาฟู โดยภูเขาไฟทัง้ หมดดับสนิทหมด
อยูในพืน้ ท่เี สีย่ งประสบภัย คือ การปอ งกันอาคารบา นเรือนไมใ ห แลว
เสียหายจากแรงปะทุระเบิดและหินหนืดรอน เตรียมตัวใหพรอม
สําหรับการอพยพอยางเรงดวน รวมถึงการหม่ันติดตามขอมูล
ขาวสารจากหนวยงานที่เก่ียวของ ตลอดจนสังเกตการเตือนภัย
จากพฤตกิ รรมของสตั วตา งๆ ทม่ี สี ญั ชาตญาณในการหนีภัย)
T123
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขนั้ สอน ๓สึน.า๓ม1 เิ ปส็นึนคาลมน่ื ทิ ะเลขนาดใหญท่ ่ีเคลือ่ นตวั อย่างรวดเรว็ และมีพลงั มาก เมอ่ื อยู ่ในทะเลคลืน่
ขน้ั ที่ 1 การตงั้ คาํ ถามเชงิ ภมู ศิ าสตร
จะสงู ไมม่ าก แตจ่ ะเคลอ่ื นทดี่ ว้ ยความเรว็ สงู เมอื่ เคลอ่ื นเขา้ หาฝง่ั คลน่ื จะมคี วามสงู ไดถ้ งึ ๓๐ เมตร
1. ครูใหนักเรียนดูคลิปวิดีโอเก่ียวกับสึนามิที่เคย จงึ มพี ลงั ทา� ลายล้างอย่างมหาศาล
เกดิ ในประเทศไทยในป 2547 และแผน ดนิ ถลม
ในภาคใตป 2554 จากนนั้ ครถู ามคําถาม เชน สาเหตุ
•ï เหตกุ ารณจ ากคลิปวิดโี อดังกลา วมคี วาม
รนุ แรงหรอื ไม อยา งไร ๒๑.. อแุกผก่นาดบนิ าไตห2ตวกขในนาทดะใเหลญ่ ในทะเล ๔. ภูเขาไฟปะทบุ นเกาะหรอื ใต้ทะเล
(แนวตอบ มีความรุนแรงและสรางความ ๕. การทดลองระเบิดนวิ เคลยี ร์ ในทะเล
เสยี หายเปน อยา งมาก ทงั้ ในดา นการสญู เสยี ๓. แผน่ ดนิ ถล่มใตท้ ะเล ๖. การเคล่อื นตัวของเปลือกโลก/รอยเลือ่ น
ชีวิต สญู เสยี ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ ม และ
ทาํ ใหเศรษฐกจิ ตกตํ่า) การเกิดสนึ ามิ ๒ ความสูงของคลน่ื ท่ี ๓ เมื่อใกล้ฝง่ั ความยาวคลนื่
2. ครูใหนักเรียนชวยกันต้ังประเด็นคําถามทาง ๑ เมอื่ เกดิ แผ่นดินไหว จุดเร่มิ ตน้ ๑ – ๕ ม. และความเรว็ ลดลง แต่จะมี
ภมู ิศาสตรเพือ่ คนหาคาํ ตอบ เชน ความยาวคลืน่ ความสงู ได้มากถงึ ๓๐ ม.
•ï สนึ ามิและแผนดินถลม เกิดจากสาเหตทุ ี่ ใตท้ ะเล ทา� ใหน้ �า้ ทะเล ๑๐๐ – ๑,๐๐๐ กม.
คลายคลงึ กนั หรอื ไม อยางไร เคลอ่ื นตัว เพอ่ื ปรบั เคลือ่ นท่ีด้วยความเร็ว
•ï การตัดไมทาํ ลายปามีสวนสาํ คญั ทาํ ใหเ กิด สมดลุ ๗๐๐ – ๘๐๐ กม./ชม.
สึนามิและแผนดินถลม หรอื ไม อยางไร
•ï หากนักเรยี นอยูในพืน้ ทีก่ ําลงั เกดิ สนึ ามิหรือ ศูนย์กลางแผ่นดนิ ไหว
แผนดนิ ถลม จะมีวธิ กี ารปฏบิ ตั ติ นอยา งไร
ตัวอย่าง เหตกุ ารณส์ ึนามิในประเทศอินโดนเี ซยี
สาเหต ุ :
เกดิ จากแผน่ ดนิ ไหวในมหาสมทุ รอนิ เดยี ศนู ยก์ ลาง
อยนู่ อกชายฝง่ั ตะวนั ตกเฉยี งเหนอื ของเกาะสมุ าตรา
ประเทศอนิ โดนเี ซยี มขี นาด ๙.๓ ตามมาตรารกิ เตอร์
ประเทศอนิ โดนเี ซยี ไดร้ บั ความเสยี หายจากคลนื่ สนึ ามิ ผลกระทบ :
เม่อื วันที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๗
ทา� ใหพ้ นื้ ทช่ี ายฝง่ั ของประเทศตา่ ง ๆ ทอี่ ย ู่โดยรอบ
มหาสมุทรอินเดียได้รับความเสียหาย มีผู้เสียชีวิต
จากเหตุภัยพิบัติคร้ังนี้ ในประเทศต่าง ๆ มากกว่า
๒๐๐,๐๐๐ คน ประเทศท่ีได้รับความเสียหายมาก
ที่สุด คือ อินโดนีเซีย รองลงมา ได้แก่ ศรีลังกา
อนิ เดยี และไทย นอกจากน ้ี ยงั มผี บู้ าดเจบ็ สญู หาย
และบา้ นเรอื นถกู ทา� ลายจา� นวนมาก
๑๑๘
นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคดิ
1 สนึ ามิ มาจากคําในภาษาญ่ีปนุ วา Tsunami ซึ่งแปลวา คล่ืนอาวจอดเรือ เขตภยั ธรรมชาตบิ รเิ วณใดไมสอดคลอ งกัน
(harbour waves) ทงั้ นี้ เนอื่ งจากประเทศญปี่ นุ มกั ไดร บั ภยั จากคลน่ื สนึ ามบิ อ ยๆ 1. ภาคกลางของสหรฐั อเมรกิ า – พายทุ อรน าโด
โดยเฉพาะตามบรเิ วณอา วขนาดเลก็ ซง่ึ ใชเ ปนทจ่ี อดเรือ 2. ชายฝง ตะวันตกของทวปี อเมรกิ าใต – แผนดินไหว ภูเขาไฟ
2 อกุ กาบาต สะเกด็ ดาวชนดิ ทม่ี สี ว นประกอบเหมอื นหนิ อลั ตราเมฟก ทตี่ กลง ระเบิด
สพู นื้ โลกโดยไมถ กู เผาไหมไ ปหมดเสยี กอ นในชนั้ บรรยากาศ เชอ่ื กนั วา อกุ กาบาต 3. ภูมภิ าคเอเชียใตและชายฝงทะเลอันดามนั – พายไุ ซโคลน
เปนชน้ิ สว นของดาวเคราะหน อย และมสี วนประกอบคลา ยกับสว นประกอบของ 4. รอบชายฝงทะเลดํา – สึนามิ
โลกเมื่อแรกเกดิ (วเิ คราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 4. เนอ่ื งจากคลน่ื สนึ ามเิ ปน คลน่ื ทะเล
ขนาดใหญ มักเกิดจากการเคลอ่ื นตวั ของเปลือกโลกใตทะเลอยา ง
ฉับพลัน สวนใหญเกิดบริเวณขอบของมหาสมุทรแปซิฟก สวน
บริเวณรอบชายฝงทะเลดํามีความเส่ียงนอย เน่ืองจากเปนทะเล
ปดทีอ่ ยภู ายในภาคพ้ืนทวีป)
T124
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
การปฏิบตั ติ น สญั ญาณเตือนภัย ขน้ั สอน
๑. เ ม่ือได้ยินสัญญาณเตือนภัยหรือมองเห็น ๑. เกดิ แผ่นดินไหวทีร่ นุ แรงในทะเล ขนั้ ที่ 2 การรวบรวมขอ้ มลู
ระลอกคลนื่ กอ่ ตวั เปน็ กา� แพงขนาดใหญ ่ ให้ ๒. ร ะดบั นา้� ทะเลลดลงผดิ ปกติภายในเวลา
รีบออกจากบรเิ วณชายฝ่ังไปยงั ทส่ี งู ทันที 1. ครูใหนักเรียนแบงกลุมศึกษาเรื่องสึนามิและ
ไม่กน่ี าที แผน ดนิ ถลม จากหนงั สือเรียนภูมิศาสตร ม.1
หรือจากแหลงการเรียนรูอ่ืน เชน หองสมุด
๒. หากอยู่บนเรอื ท่จี อดอย่ทู ีท่ ่าเทียบเรือ ใหน้ �าเรอื ออกไปกลางทะเล เพราะคล่ืนกลางทะเลจะมี อนิ เทอรเน็ต เพ่อื เตรียมนํามาอภิปรายรว มกนั
ขนาดเล็กกว่าคลืน่ ทอี่ ย่ชู ายฝ่งั ในชั้นเรียน โดยมปี ระเด็นที่กาํ หนด ดังนี้
๓. ห ากอยูบ่ นเรือกลางทะเล อยา่ น�าเรือเทียบท่าจนกวา่ จะไดร้ บั แจง้ จากทางการว่าปลอดภยั •ï สาเหตกุ ารเกิดสนึ ามแิ ละแผน ดินถลม
๔. ก รณีเล่นนา้� อยู่ในทะเล ใหพ้ ยายามวา่ ยน้�าและมองหาสง่ิ ท่ียดึ เกาะได้ •ï การปฏิบตั ติ นทีถ่ กู ตอง
ï• การปอ งกนั และระวงั ภัย
๕. หลังเกิดคลื่นสนึ ามิ ควรรอประกาศจากทางการก่อนจงึ สามารถลงไปชายหาดได ้ เพราะคลน่ื
สนึ ามอิ าจเกิดขึ้นได้หลายระลอก
การป้องกันและระวงั ภัย
๑. ทา� เขือ่ น ก�าแพง เพอื่ ลดแรงปะทะของน้�าทะเลบรเิ วณเสี่ยงภยั
๒. ให้ความร้ปู ระชาชนเรอื่ งการปอ้ งกันและบรรเทาภยั จากสึนามิ
๓. หลกี เลยี่ งการกอ่ สรา้ งอาคารใกลช้ ายฝง่ั ทมี่ คี วามเสย่ี งภยั สนึ าม ิ
๔. ศึกษาเส้นทางการอพยพ และฝึกซ้อมการหนีภัย
๕. ต ิดตามขา่ วและการเตือนภยั ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การติดต้ังป้ายเตือนภัยและวิธีการ
อยา่ งใกล้ชดิ ปฏบิ ตั ติ น จะชว่ ยใหป้ ระชาชนปฏบิ ตั ิ
ตนไดอ้ ย่างถกู ต้องเมอื่ ประสบภัย
ตัวอย่าง ระบบเตือนภัยคล่นื สนึ ามิ ประเทศไทยได้ด�าเนินการจัดสร้างระบบ
เตือนภัยคล่ืนสึนามิท่ีมีฐานเก็บบันทึกข้อมูล
ทนุ ลอยสง สัญญาณผิวทะเล ใต้ทะเลลึก และทุ่นลอยส่งสัญญาณผิวทะเล
โดยใช้คอมพิวเตอร์จ�าลองรูปแบบ เพื่อท�านาย
แนวโน้มของการเกิดคลื่นสึนามิ และแจ้งให้
ศนู ยเ์ ตอื นภยั ตามชายฝง่ั ทะเลตา่ ง ๆ ทราบ เพอื่
ส่งสัญญาณเตือนภัยให้ประชาชนในท้องถิ่น
เตรยี มตวั อพยพหนภี ยั ไดท้ นั เวลา รวมทง้ั ตดิ ตง้ั
ระบบเตอื นภัยในทอ้ งถิ่น
๑๑๙
ขอสอบเนน การคดิ ส่ือ Digital
แนวทางการปองกันในระยะยาวขอ ใดท่ีสามารถชวยบรรเทา ศึกษาคน ควาขอมูลเพมิ่ เติมเกีย่ วกบั มาตรการปอ งกันภัยสึนามิ ไดท ่ี
ผลกระทบจากการเกดิ สึนามิไดดีทสี่ ดุ http://www.cmmet.tmd.go.th/seismo/tsu.php เวบ็ ไซตก รมอตุ นุ ยิ มวทิ ยา
1. การปลูกปา ชายเลน
2. การสรา งแนวกาํ แพงปองกนั คลน่ื
3. การสรา งศนู ยอพยพและศนู ยเ ตอื นภัย
4. การรือ้ ถอนสง่ิ ปลูกสรา งบรเิ วณชายหาด
(วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เน่ืองจากการปลูกปา ชายเลนหรอื
ตน ไมต ามแนวชายฝง จะสามารถชว ยลดความรนุ แรงและความเสยี
หายจากการซดั ของคลน่ื ไดเ ปน อยา งดี เพราะปา ชายเลนมพี นั ธไุ ม
ทมี่ รี ะบบรากโยงยดึ แขง็ แรงแนน หนา ซงึ่ ถอื เปน ตวั คาํ้ ยนั ทด่ี ที ช่ี ว ย
ลดแรงกระแทกจากคล่ืนสนึ าม)ิ
T125
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขน้ั สอน ๓.๔ แผ่นดินถล่ม
ขนั้ ที่ 3 การจดั การขอ้ มลู แผน่ ดนิ ถลม่ เปน็ การเคลอ่ื นทข่ี องดนิ หรอื หนิ ตามบรเิ วณพนื้ ทลี่ าดชนั ทเี่ ปน็ ภเู ขาหรอื เนนิ เขา
เนอ่ื งจากแรงดงึ ดูดโลก อาจเคลือ่ นหลุดออกมาหรือพงั ทลายลงมาก็ได้
1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลที่ตนไดจาก
การรวบรวม มาอธิบายแลกเปล่ียนความรู สาเหตุ
ระหวา งกัน
๑. ฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ท�าให้ดิน ๔. การตดั ไมท้ า� ลายปา่
2. ใหสมาชิกในกลุมชวยกันคัดเลือกขอมูลท่ีนํา และพืชไมส่ ามารถอุ้มน�้าไว้ ได้ ๕. การก่อสร้างสาธารณูปโภคตา่ ง ๆ
เสนอเพอื่ ใหไ ดข อมลู ท่ถี ูกตอง ๒. สภาพภมู ปิ ระเทศทเี่ ปน็ หบุ เขาและมคี วาม ๖. ก ารใชท้ ดี่ นิ ไมเ่ หมาะสม เชน่ การทา� เหมอื ง
ลาดชนั มาก การท�าการเกษตรในพ้ืนทลี่ าดชนั
ขนั้ ท่ี 4 การวเิ คราะหแ์ ละแปลผลขอ้ มลู ๓. การตัดถนนผ่านภเู ขา
รปู แบบของดินถลม่
สมาชิกแตล ะกลุมนําขอ มูลทไ่ี ดจ ากการศกึ ษา
มาทําการวิเคราะห ระหวางนน้ั ครอู าจใหน กั เรยี น ๑ ๑ หินแตกไหล
ใชโทรศพั ทเคล่อื นท่สี องดู QR Code เพ่ือขยาย
ความรูเกยี่ วกบั ภัยธรรมชาติ จากน้ันใหนักเรียน
รว มกันตรวจสอบความถกู ตอ ง
๒ ๕ ๒ ดนิ ถลม่ จากการสรา้ งถนน
๘ ๓ ตล่ิงพัง
๓ ๖๗ ๔ ดนิ ถลม่ ใตน้ า�้
๔ ๕ เศษตะกอนไหลเลอ่ื นตามทางนา�้
๖ ดนิ ถลม่
๗ หน้าผาผุกรอ่ น
๘ หินรว่ งหรอื หนิ หลน่
ตวั อยา่ ง เหตุการณ์แผ่นดนิ ถล่มในประเทศจีน
แผน ดนิ ถลม ในมณฑลเสฉวน ทางตะวันตกของ สาเหต ุ :
ประเทศจนี เม่ือเดือนมิถนุ ายน พ.ศ. ๒๕๖๐
เกดิ จากพายฝุ นฟา้ คะนองทเ่ี กดิ ขนึ้ ตอ่ เนอื่ ง สง่ ผล
๑๒๐ ให้ดินบางส่วนของภูเขาพังถล่มลงมากีดขวาง
เส้นทางแม่น�้าในพ้ืนที่ มีความยาวประมาณ
๒ กิโลเมตร และตัดขาดถนนสายหลักที่มี
ความยาวประมาณ ๑.๖ กิโลเมตร
ผลกระทบ :
ทา� ใหป้ ระชาชนอยา่ งนอ้ ย ๑๔๑ คน สญู หายจาก
เหตดุ นิ ถลม่ ทบั และบา้ นเรอื นเสยี หายจา� นวนมาก
ภยั ธรรมชาติ
สื่อ Digital ขอสอบเนน การคิด
ภมู ิภาคใดของประเทศไทยทมี่ ักเกิดปญ หาแผนดินถลม อยู
ศึกษาคนควาขอมลู เพ่มิ เติมเก่ยี วกบั แผนดินถลม ไดท่ี บอยครงั้
https://www.tmd.go.th, http://www.dmr.go.th
1. ภาคใต
T126 2. ภาคกลาง
3. ภาคตะวนั ตก
4. ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ
(วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 1. ปรากฏการณแผนดินถลมเกิด
บริเวณทมี่ ภี ูเขาลาดชนั มาก เม่อื มีฝนตกหนักตอ เนื่องกันเปนเวลา
นาน ดินและหินผุของภูเขาไมสามารถรับปริมาณน้ําฝนไวได จึง
ล่นื ไหลลงมาตามความสงู ชนั สรางความเสยี หายใหก บั พน้ื ทท่ี อ่ี ยู
ดานลาง ซ่ึงทางภาคใตของประเทศไทยมีภูเขาลักษณะดังกลาว
ประกอบกบั มฝี นตกเกอื บตลอดทงั้ ป จงึ ทาํ ใหเ กดิ แผน ดนิ ถลม บอ ย
ครั้ง)
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
การปฏบิ ตั ติ น สัญญาณเตือนภัย ขนั้ สอน
๑. รีบอพยพหรือหนีไปที่สูง และต้องรีบแจ้ง ๑. ฝนตกหนักมาก (มากกวา่ ๑๐๐ มลิ ลเิ มตร
ขน้ั ที่ 5 การสรปุ เพอ่ื ตอบคาํ ถาม
ใหร้ ู้ท่วั กันโดยเรว็ ต่อวัน)
๒. ถ ้าพลัดตกไปในกระแสน้�า หา้ มว่ายน�้าหนี ๒. ระดับน�้าในหว้ ยสูงข้นึ อย่างรวดเรว็ และ 1. ครูใหนักเรียนรวมกันสรุปความรูท่ีไดศึกษา
เรื่องสึนามิและแผนดินถลม โดยครูชวยสรุป
เป็นอันขาด เพราะจะโดนซากต้นไม้หรือ เปล่ยี นสเี ปน็ สดี ินของภเู ขา และเสนอแนะเพมิ่ เตมิ
กอ้ นหนิ ท่ีไหลมากบั โคลนกระแทกได้ ๓. ม ีเสยี งดงั ออ้ื อึงผดิ ปกตบิ นภเู ขาและลา� หว้ ย
๓. หาตน้ ไม ้ใหญท่ ่ีใกลท้ ส่ี ดุ เกาะเอาไว ้ แลว้ ปน 2. ครถู ามคาํ ถามนกั เรยี นเพม่ิ เตมิ เพอ่ื สรปุ ความรู
หนนี า้� ให้ได้ รวมกัน เชน
ï• สึนามิเกดิ มาจากสาเหตุใด
การป้องกันและระวังภยั (แนวตอบ เกิดจากแผนดินไหวขนาดใหญใ น
ทะเล แผน ดินถลม ใตท ะเล ภูเขาไฟปะทบุ น
๑. ศึกษาพนื้ ทท่ี ่อี าศยั ว่าเคยเกดิ แผน่ ดนิ ถล่มมากอ่ นหรอื ไม่ เกาะ หรอื ใตทะเล รวมไปถงึ การเคลื่อนตัว
๒๓.. จไมัดส่ทรา� ้าปงฏบิท้านินหเตรอือื นสภ่ิงกัย่อพสื้นรท้าเ่ีงสขย่ี วงาภงทยั างน้า� หรือใกล้ล�าห้วย1มากเกินไป ของเปลือกโลก)
ï• จะสังเกตไดอ ยา งไรวากําลงั จะเกิดสนึ ามิ
๔. ปลกู พืชเพ่ือชว่ ยยึดหน้าดินและดดู ซบั นา�้ (แนวตอบ ระดบั นา้ํ ทะเลลดลงผดิ ปกตภิ ายใน
๕. ติดตามขา่ วพยากรณ์อากาศและประกาศแจง้ เตอื นนา�้ ป่าไหลหลาก เวลาไมก น่ี าที และมองเหน็ ระลอกคลนื่ กอ ตวั
เปนกําแพงขนาดใหญ)
ตวั อย่าง วิธีปอ้ งกันการพงั ทลายของดนิ รมิ ฝง แมน่ า้ํ •ï แผน ดินถลมเกดิ มาจากสาเหตใุ ด
(แนวตอบ เกดิ จากฝนตกหนกั ตดิ ตอ กนั หลาย
ปัญหาการพังทลายของตล่ิงริมแม่น�้ามักเกิดจากน�้าหลากจากฝนตกหนักเป็นเวลานาน วัน การตัดไมทําลายปา การตัดถนนผาน
ท�าให้น�้าในแม่น้�าเพ่ิมข้ึนอย่างรวดเร็ว และก่อให้เกิดการพังทลายของดินบริเวณริมฝั่งแม่น�้าท่ีมี ภูเขา)
ความคดเคยี้ วและไมม่ พี ชื ปกคลมุ ตลง่ิ และการพงั ทลายของตลงิ่ รมิ แมน่ า้� ยงั สรา้ งความเสยี หายให้
แก่อาคารบ้านเรือนของประชาชนท่ีปลูกสร้างอยู่ ในบริเวณดังกล่าว ดังน้ัน จึงต้องหาวิธีในการ 3. นกั เรยี นทาํ ใบงานท่ี 4.2 เรอื่ ง ธรณพี บิ ตั ภิ ยั และ
รวมกันเฉลยคาํ ตอบ
ป้องกันการพังทลายของดิน ซ่ึงสามารถท�าได้
หลายวธิ ี เชน่
๑. การฝงั เสาเขม็ เพือ่ สร้างรวั้ ปอ้ งกัน
๒. การปลกู พชื ยนื ตน้ ทมี่ รี ากแกว้ แขง็ แรง
รมิ ฝง่ั แมน่ า�้
๓. การสรา้ งเขอื่ นปอ้ งกันตล่งิ
๔. การสร้างฝายชะลอน�้าเพ่ือเป็นแหล่ง
กักเกบ็ น้า� หากเกิดนา้� ปา่ ไหลหลาก
ร ่องน้�า2๕. การขดุ ลอกและขยายความกวา้ งของ
การสรา้ งเขื่อนปอ งกนั ตล่งิ ในประเทศจีน
๑๒๑
ขอ สอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู
ขอ ใดเปน โครงการในพระราชดาํ ริของพระบาทสมเดจ็ 1 ลําหว ย ลําน้าํ สายเลก็ ๆ ซ่งึ มีขนาดเลก็ กวา แมน ้ํา
พระเจา อยูห วั เพ่ือแกปญ หาดนิ ถลม 2 รอ งนา้ํ สวนทลี่ ึกที่สุดของลําธาร หรืออาว และชองแคบทก่ี ระแสและมวล
ของน้าํ สว นใหญไ หลผา น
1. โครงการแกมลิง
2. โครงการแกลงดนิ
3. โครงการฝายทดนาํ้
4. โครงการปลูกหญาแฝก
(วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะหญาแฝกเปนพืชท่ีมีระบบ
รากลึกแผกระจายลงไปในดินตรงๆ เปนแผงเหมือนกําแพง ซึ่ง
ชวยกรองตะกอนดินและรักษาหนาดินไดดี สวนโครงการแกมลิง
เพื่อแกปญหาอุทกภัย โครงการแกลงดินเพ่ือแกปญหาดินเปรี้ยว
และโครงการฝายทดนา้ํ เพอื่ การสง นาํ้ ไปชว ยเหลอื พนื้ ทเ่ี พาะปลกู )
T127
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขนั้ สอน ๔ การจดั การภัยพบิ ัติ
ขนั้ ที่ 1 การตงั้ คาํ ถามเชงิ ภมู ศิ าสตร์ ในการบรรเทาผลกระทบความเสียหายจากภัยพิบัติต่าง ๆ สิ่งส�าคัญท่ีสุด คือ การเตรียม
ตัวเองให้พร้อมก่อนที่ภัยจะมาถึงตัว และรู้ว่าจะต้องท�าอย่างไรบ้างเมื่อเหตุการณ์น้ันเกิดข้ึนแล้ว
1. ครใู หน กั เรยี นดวู ฏั จกั รการจดั การภยั พบิ ตั จิ าก และเกิดผลกระทบในทางรา้ ยแรงจนถงึ ขน้ั บาดเจบ็ สูญเสียชวี ิตและทรัพย์สนิ
หนังสือเรียนภูมิศาสตร ม.1 จากนั้นครูถาม
คําถาม เชน วฏั จกั รการจัดการภัยพิบัติ
•ï วัฏจกั รดังกลาวส่อื ถงึ อะไร ๒
(แนวตอบ เปนการแสดงใหเหน็ ถงึ ภยั พิบตั ิ
กระบวนการดาํ เนินการการจัดการภัย การเตรียม
พิบัติ) ความพร้อม กอ่ นเกดิ ภัย
2. ครูใหนักเรียนชวยกันตั้งประเด็นคําถามทาง กอ่ นเกิดภั ระหว่างเกดิ ภัย
ภมู ศิ าสตร เพอื่ คนหาคาํ ตอบ เชน ย ระหว่างเกิดภั
•ï การจดั การภัยพิบัตเิ พอ่ื ใหเ กดิ ประสิทธภิ าพ ภายหลงั เกิดภยั ย ๓
นั้นมีกระบวนการดําเนนิ การอยางไร ๑ การป้องกัน
• หากไมมกี ารจดั การภยั พบิ ัติจะสง ผล การจัดการ
อยางไร และบรรเทา ในภาวะฉกุ เฉิน
ผลกระทบ
ขน้ั ท่ี 2 การรวบรวมขอ้ มลู
๔ การฟื้นฟแู ละบูรณะ
ครูใหนักเรียนศึกษาเร่ือง การจัดการภัยพิบัติ
จากหนังสือเรียนภูมิศาสตร ม.1 เพ่ือเตรียมนํา แผนผงั วฏั จกั รการจัดการภัยพบิ ัติ
มาอภปิ รายรวมกนั ในช้นั เรยี น
การจดั การภยั พิบตั ิมกี ระบวนการด�าเนินการ แบง่ ออกเป็น ๓ ช่วง ดังน้ี
๑) ก่อนเกิดภัยพิบัติ เป็นช่วงเวลาของการเตรียมความพร้อม การป้องกันและ
บรรเทาสถานการณ์ความรุนแรงที่จะเกิดข้ึนในพื้นที่ให้ลดระดับความรุนแรงลงได้ โดยแบ่งเป็น
๒ ขัน้ ตอน ดงั นี้
๑.๑) การป้องกันและลดผลกระทบ โดยการประเมินความเส่ียงและความ
ล่อแหลมของสภาพพื้นท่ี เพื่อเตรียมการเฝ้าระวังและแนวทางการจัดการได้อย่างเหมาะสมต่อ
สถานการณ์
๑.๒) การเตรยี มพร้อมดา้ นทรัพยากร ไดแ้ ก่ งบประมาณ กา� ลังพล และความ
พร้อมต่อการเผชิญภัยของประชาชน เช่น การพยากรณ์ภัยพิบัติ การเตรียมความพร้อมรับมือ
เหตุฉุกเฉิน รวมถึงการตรวจสอบการแจ้งเตือน การอพยพ การให้ความรู้ และการฝึกอบรมแก่
ประชาชน
๑๒๒
เกร็ดแนะครู กิจกรรม ทา ทาย
ครอู ธิบายเพิ่มเตมิ เกี่ยวกบั ศนู ยเตือนภัยพิบตั แิ หง ชาติ กอตัง้ ข้นึ เมอื่ วันท่ี ครใู หน กั เรยี นไปหาขา วหรอื ขอ มลู เกยี่ วกบั การจดั การภยั พบิ ตั ิ
30 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 มีหนาทรี่ บั ผิดชอบระบบเตือนภยั ของประเทศไทย ในพน้ื ทที่ วปี เอเชยี ทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี จากแหลง ขอ มลู
ทง้ั การศึกษา วเิ คราะห วจิ ยั เก่ียวกับภยั พบิ ตั ิ ประสานขอมลู กบั หนวยงาน ตา งๆ มา 1 ตวั อยา ง เพอื่ นํามาเลา ใหเพือ่ นในช้ันฟง แลวรว มกัน
ในประเทศและตา งประเทศ เพอื่ ใชว เิ คราะหค วามรนุ แรงและประเมนิ สถานการณ วเิ คราะหขา วตามประเด็น ดงั น้ี
ความเสยี หายทีอ่ าจเกดิ ขึน้
• การปอ งกนั และบรรเทาผลกระทบ
•ï การเตรียมความพรอม
•ï การจัดการในภาวะฉุกเฉิน
ï• การฟนฟแู ละบรู ณะ
T128
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
๒) ระหวา่ งเกดิ ภยั พบิ ัต ิ เปน็ ขนั้ ตอนของการบรรเทาภยั พบิ ตั ทิ เ่ี กดิ ขนึ้ เพอื่ ลดระดบั ขนั้ สอน
ความรนุ แรงลงจนเขา้ ส่สู ภาวะปกต ิ เชน่ ขนั้ ท่ี 3 การจดั การขอ้ มลู
๒.๑) การแจง้ เตอื นภยั และการประเมนิ สถานการณ ์ เพอื่ ใหห้ นว่ ยงานปฏบิ ตั กิ าร
ในพ้ืนทีท่ �าการเฝา้ ระวัง ประเมนิ สถานการณ์ของสภาพปญั หา และเตรียมพร้อมอพยพประชาชน นกั เรียนทกุ คนนาํ ขอมลู ทไี่ ดศึกษามาอภปิ ราย
ให้ปลอดภยั แลกเปลี่ยนความรรู ะหวางกนั ในช้นั เรยี น
๒.๒) การต้ังศูนย์อ�านวยการเฉพาะกิจเมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้น เพ่ือเป็นศูนย์กลาง
ในการระดมทรพั ยากรและจัดการกับปัญหาตา่ ง ๆ ขนั้ ที่ 4 การวเิ คราะหแ์ ละแปลผลขอ้ มลู
๒.๓) การประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารในสภาวะฉุกเฉิน ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
ใหก้ ับส่วนราชการและประชาชนได้รบั รแู้ ละทา� ความเขา้ ใจกบั สถานการณ์ในทิศทางท่ถี ูกตอ้ ง 1. นักเรียนนําขอมูลท่ีรวบรวมมาไดทําการ
๒.๔) การคน้ หาและการกภู้ ยั โดยดา� เนนิ การจดั ตงั้ หนว่ ยเผชญิ สถานการณเ์ พอ่ื วเิ คราะหเพ่อื อธบิ ายคาํ ตอบ
ปฏิบัตกิ ารก้ภู ัย
๒.๕) การรกั ษาพยาบาลฉกุ เฉนิ เมอ่ื มผี ปู้ ระสบภยั โดยชดุ ปฏบิ ตั กิ ารปฐมพยาบาล 2. ครตู งั้ คาํ ถาม เชน คาํ ถาม H.O.T.S. จากหนงั สอื
จะต้องพร้อมในการท�าหน้าที่รักษาพยาบาลให้แก่ประชาชน เรียนภูมิศาสตร ม.1 แลวใหนักเรียนรวมกัน
๒.๖) การประสานความช่วยเหลือจากองค์กรการกุศล องค์กรปกครองส่วน ระดมความคิดในการตอบคําถาม
ทอ้ งถ่ิน หรือจากตา่ งประเทศ เพ่ือช่วยเหลือในดา้ นต่าง ๆ ได้อย่างทันทว่ งที
๓) หลังเกิดภัยพิบัติ เป็นการด�าเนินการเมื่อสถานการณ์ภัยพิบัติได้ยุติลง ซ่ึงมี
การด�าเนนิ การ ดงั นี้
๓.๑) การประเมนิ ความเสยี หาย เพือ่ วางแผนการซ่อมแซม เยียวยา และฟน้ื ฟู
พนื้ ท่ี
๓.๒) การฟน ฟูทางกายภาพของพื้นท่ี โดยเฉพาะโครงสร้างพน้ื ฐาน เชน่ ไฟฟา้
น�า้ สะอาดในการบริโภค โทรศพั ท์ ทีร่ ักษาพยาบาล
๓.๓) การฟนฟูทางด้านจิตใจ โดยการให้นักสังคมสงเคราะห์ และนักจิตวิทยา
เขา้ พูดคุยและเยยี วยาผู้ประสบภยั
๓.๔) การสรา้ งใหช้ มุ ชนฟน คนื จากภยั โดยการใหค้ วามร ู้ ความเขา้ ใจ และความ
พร้อมในการรับมือภยั พบิ ัติ
คาํ ถามทา ทายการคดิ ขน้ั สงู
นกั เรยี นสามารถนา� เครอื่ งมอื ทางภมู ศิ าสตรม์ าใชป้ ระโยชน ์ในการปอ้ งกนั เตอื นภยั หรอื
รบั มอื ภยั พบิ ตั ทิ เี่ กดิ ขน้ึ ไดอ้ ยา่ งไร และถา้ ม ีโอกาสไดร้ ว่ มจดั การภยั พบิ ตั ทิ เี่ กดิ ขนึ้ จะเสนอแนวทาง
การจัดการอย่างไร
๑๒๓
บรู ณาการเช่ือมสาระ ส่ือ Digital
ครูสามารถนําเน้ือหาเร่ือง การจัดการภัยพิบัติ ไปบูรณาการ
เชอื่ มโยงกบั กลมุ สาระการเรยี นรสู ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา โดยใหน กั เรยี น ศกึ ษาคน ควา ขอ มลู เพมิ่ เตมิ เกย่ี วกบั ภยั ธรรมชาตแิ ละการปอ งกนั ภยั ไดท ี่
รวมกันอภิปรายเกี่ยวกับการเตรียมความพรอมรับมือเหตุฉุกเฉิน การ http://www.ndwc.go.th เวบ็ ไซตศนู ยเ ตือนภยั พบิ ัตแิ หงชาติ
รกั ษาพยาบาล การฟน ฟจู ติ ใจ ตลอดจนเรอื่ งสาธารณสขุ ในดา นตา ง ๆ
T129
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขน้ั สอน Geo Knowledge
ขนั้ ที่ 5 การสรปุ เพอ่ื ตอบคาํ ถาม ภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาตแิ ละการจดั การภยั พบิ ตั ิในประเทศญปี่ นุ่
ประเทศญี่ปุ่นมีลักษณะภูมิประเทศเป็นหมู่เกาะ มีเกาะต่าง ๆ ประมาณ ๓,๐๐๐ เกาะ โดยมี
1. ครูใหนักเรียนรวมกันสรุปความรูท่ีไดศึกษา เกาะขนาดใหญ ่ ๔ เกาะ ไดแ้ ก ่ ฮกไกโด ฮนช ู ชโิ กะก ุ และควี ช ู จากลกั ษณะภมู ปิ ระเทศทล่ี อ้ มรอบดว้ ย
เรือ่ ง การจดั การภัยพบิ ตั ิ โดยครูชว ยสรปุ และ ทะเลทง้ั ๔ ดา้ น รวมถึงต้ังอยู่ ในเขตรอยต่อของเปลือกโลก จึงท�าให้เกิดแผ่นดินไหว สึนามิ และ
เสนอแนะเพิ่มเตมิ ภเู ขาไฟปะทรุ นุ แรงบอ่ ยครงั้ อกี ทงั้ ยงั เผชญิ กบั ภยั ธรรมชาตอิ น่ื ๆ อกี เชน่ วาตภยั อทุ กภยั แผน่ ดนิ
ถล่ม ซึ่งสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งระบบเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย
2. ครูใหนักเรียนจับคูกันแลวดูตัวอยางเรื่องภัย จนอาจกลา่ วไดว้ า่ ญป่ี นุ่ เปน็ ประเทศทเี่ สย่ี งภยั กบั ภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาตมิ ากทส่ี ดุ แหง่ หนงึ่ ของโลก
พิบัติทางธรรมชาติและการจัดการภัยพิบัติใน
ประเทศญี่ปุนจาก Geo Knowledge จาก ตารางแสดงภัยพิบัตทิ างธรรมชาตคิ ร้ังใหญ่ ๑๐ อันดับ
หนังสือเรียนภูมิศาสตร ม.1 จากน้ันรวมกัน ท่ีสรา้ งความเสียหายมากทีส่ ุดในญป่ี ุ่น ต้ังแต่ พ.ศ. ๒๔๘๘ – ๒๕๕๘
วิเคราะหปญหา สาเหตุ และแนวทางการ
จัดการเกิดภัยพิบัติ ลงในกระดาษ A4 แลวนาํ
สงครู
ล�าดบั ท ่ี พ.ศ. เหตกุ ารณ์ จ�านวนผ้เู สยี ชวี ิต/
สูญหาย
๑
๒๕๕๔ แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิในเขตโทโฮะกุของ ๒๑,๘๓๙
๒ เกาะฮนช ู (ขนาด ๙.๐)
๓ ๒๕๓๘ แผน่ ดนิ ไหวครงั้ ใหญฮ่ นั ชนิ – อะวะจ ิ(Hanshin – Awaji, ๖,๔๓๗
๔ ขนาด ๗.๓)
๕
๖ ๒๕๐๒ พายุไต้ฝนุ่ อิเสะ – วาน (Ise – wan) ๕,๐๙๘
๗
๘ ๒๔๙๑ แผน่ ดินไหวฟุกอุ ิ (Fukui, ขนาด ๗.๑) ๓,๗๖๙
๙
๑๐ ๒๔๘๘ พายุไตฝ้ ุ่นมะกุระซะกิ (Makurazaki) ๓,๗๕๖
๒๔๘๘ แผน่ ดนิ ไหวมกิ ะวะ (Mikawa, ขนาด ๖.๘) ๒,๓๐๖
๒๔๙๐ พายไุ ตฝ้ ุน่ แคเทอรีน (Catherine) ๑,๙๓๐
๒๔๙๗ พายไุ ตฝ้ ่นุ โทะยะมะรุ (Toyamaru) ๑,๗๖๑
๒๔๘๙ แผ่นดนิ ไหวนนั ไก (Nankai, ขนาด ๘.๐) ๑,๔๔๓
๒๔๙๖ ฝนตกหนกั ๑,๑๒๔
ท่มี า: http://www.bousai.go.jp/1info/pdf/saigaipamphlet_je.pdf, 2015
จากตาราง จะเหน็ ไดว้ า่ ภยั ธรรมชาตคิ รง้ั รา้ ยแรงทส่ี รา้ งความเสยี หายมากทส่ี ดุ คอื แผน่ ดนิ ไหว
และคลื่นยักษ์สึนามิในเขตโทโฮะกุของเกาะฮนชู เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ซึ่งธนาคารโลก
ไดป้ ระมาณการความเสยี หายไวร้ ะหว่าง ๑๒๒,๐๐๐ – ๒๓๕,๐๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่รฐั บาล
ญ่ปี ่นุ ประเมินวา่ อาจมีมลู ค่าสงู ถงึ ๓๐๙,๐๐๐ ล้านเหรยี ญสหรฐั
๑๒๔
เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคดิ
ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเคลื่อนท่ีของแผนเปลือกโลก วาเปลือกโลก วธิ กี ารใดเปน วธิ ีการสังเกตวาจะเกิดคลื่นสนึ ามิ
ประกอบไปดวยแผนเปลือกโลกหลายแผน ท้ังขนาดเล็กและขนาดใหญตอกัน (แนวตอบ การสังเกตกอนเกิดคล่ืนสึนามิ เชน เกิดแผน ดินไหว
แบงเปนแผนเปลือกโลกที่รองรับอยูใตทวีป และแผนเปลือกโลกท่ีรองรับอยูใต
มหาสมทุ ร แผน เปลอื กโลกสามารถเคลอ่ื นทไี่ ปมาไดอ ยา งชา ๆ เนอ่ื งจากลอยตวั โดยมีศูนยกลางนอกชายฝง การปะทุของภูเขาไฟใตมหาสมุทร
อยบู นหนิ หนดื ในชนั้ ของฐานธรณภี าค กระแสความรอ นของหนิ หนดื สง ผลใหแ ผน หรือบนเกาะกลางมหาสมุทร เกิดการเคล่ือนตัวของแผนเปลือก
เปลือกโลกท่ีอยูดานบนเคลื่อนที่ไปมาได โดยการเคล่ือนที่ของแผนเปลือกโลก โลก เปน ตน)
ทาํ ใหเ กดิ การเปลยี่ นแปลงขน้ึ บนพนื้ ผวิ โลก เชน แผน ดนิ ไหว หรอื สนึ ามิ เปน ตน
T130
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ตัวอยา่ ง เหตกุ ารณแ์ ผน่ ดนิ ไหวและคลน่ื ยกั ษส์ นึ ามิในประเทศญปี่ นุ่ พ.ศ. ๒๕๕๔ ขนั้ สอน
สาเหตุ ขน้ั ที่ 5 การสรปุ เพอ่ื ตอบคาํ ถาม
คลื่นสึนามิซัดเข้าชายฝั่งทะเลของเมืองมิยาโกะ เม่ือเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ เกิดการสั่น 3. ครถู ามนกั เรยี นเพม่ิ เตมิ เพอื่ สรปุ ความรรู ว มกนั
จงั หวดั อวิ ะเตะ เมอื่ วนั ท่ี ๑๑ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๕๔ โสดะยเทศือนู นยก์อลยา่างงแรผุนน่แดรงนิ จไาหกวแอผย่น่ใู นดมินหไาหสวม ขทุ นรแาดป ซ๘ฟิ .ก๙ิ 1 เชน
ห่างจากชายฝงั่ เกาะฮนชูประมาณ ๑๕๐ กโิ ลเมตร •ï การจัดการภัยพบิ ัติมกี ระบวนการดาํ เนนิ
เป็นผลท�าให้เกิดคล่ืนสึนามิซัดเข้าสู่ชายฝั่งเขต การกี่ขน้ั ตอน อะไรบาง
อวิ ะเตะ มยิ ะง ิ และฟุกุชมิ ะ ดว้ ยความสูงถงึ ๓๘.๙ (แนวตอบ 3 ขนั้ ตอน ไดแก กอ นเกิดภยั
เมตร โดยเฉพาะที่เมืองเซ็นไดในเขตมิยะงิ ซ่ึง ระหวางเกิดภัย และภายหลังเกิดภัย)
คล่ืนสึนามิได้พัดเข้าไปในแผ่นดินลึกถึง ๑๐ •ï นักเรียนคิดวา ข้ันตอนใดของการจดั การภัย
กิโลเมตร ภายหลังต่อมาศูนย์อุตุนิยมวิทยาของ พบิ ัตมิ คี วามสาํ คัญมากท่ีสุด เพราะเหตุใด
ญปี่ นุ่ ไดป้ รบั เพม่ิ ความรนุ แรงเหตแุ ผน่ ดนิ ไหว จาก (แนวตอบ ขนั้ ท่ี 1 คอื กอ นเกดิ ภยั พบิ ตั ิ เพราะ
๘.๙ เปน็ ๙.๐ ซง่ึ ถอื วา่ รนุ แรงทส่ี ดุ ในประวตั ศิ าสตร์ เปนการเตรียมความพรอมกอนท่ีจะเกิดภัย
การเกดิ แผ่นดินไหวของญ่ปี นุ่ พิบตั ิ เพ่ือปองกนั กอ นทีจ่ ะเกดิ ขนึ้ เชน การ
ใหค วามรู การฝกอบรม การตรวจสอบการ
แจง เตือน เปน ตน )
4. ครูใหสมาชิกในแตละกลุมชวยกันสรุปสาระ
สําคัญเพอื่ ตอบคาํ ถามเชิงภูมศิ าสตร
ผลกระทบ
๑. ท�าใหบ้ ้านเรอื นพงั พนิ าศ ประชาชนได้รับบาดเจบ็ ล้มตาย และสูญหายกันเป็นจา� นวนมาก
๒. ทา� ใหร้ ะบบเศรษฐกิจโดยภาพรวมเสียหาย คดิ เปน็ มูลค่ามากถึง ๑๖ – ๒๕ ล้านลา้ นเยน
๓. แรงสนั่ สะเทอื นในครงั้ นยี้ งั ทา� ใหโ้ รงไฟฟา้ นวิ เคลยี รฟ์ กุ ชุ มิ ะไดอชิ ิ เกดิ การรวั่ ไหลของกมั มนั ตรงั ส ี
ท�าให้ทางการของญ่ปี ่นุ ตอ้ งเรง่ อพยพผ้คู นในรัศม ี ๒๐ – ๓๐ กิโลเมตร ออกจากพน้ื ท่ี
การเตรียมการปอ้ งกนั ภัยพิบัติ
๑. ระบบแจง้ เตอื นภยั แผน่ ดนิ ไหวลว่ งหนา้ ทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพและรวดเรว็ ทา� ใหส้ ามารถชว่ ยรกั ษา
ชีวิตประชาชนไว้ ได้เป็นจา� นวนมาก
๒. ร ะบบแจ้งเตือนภัยสึนามิที่รวดเร็วและแม่นย�า ท�าให้เม่ือเกิดภัยพิบัติ ประชาชนส่วนใหญ่
สามารถอพยพข้ึนทสี่ งู หรืออาคารสูงทีอ่ ยู่ใกล้ชายฝง่ั ได้ทัน
๓. การปรับปรุงและก่อสรา้ งโครงสร้างพ้ืนฐาน เพอื่ ใหร้ องรับแผ่นดินไหวขนาดใหญ่และสึนามิ
๔. การเตรยี มพรอ้ มใหก้ บั ประชาชน โดยการสรา้ งความร ู้ ความเขา้ ใจ และกระตนุ้ ใหป้ ระชาชน
เกดิ ความตระหนกั ถึงภยั พิบัตทิ ่อี าจเกิดขึน้ ไดต้ ลอดเวลา
๑๒๕
กจิ กรรม ทา ทาย นักเรียนควรรู
ครใู หน กั เรยี นไปหาขา วหรอื ขอ มลู เกย่ี วกบั ภยั ธรรมชาตทิ สี่ รา ง 1 มหาสมทุ รแปซฟิ ก นา นนาํ้ ทอ่ี ยรู ะหวา งภาคตะวนั ออกของทวปี เอเชยี กลมุ
ความเสยี หายรา ยแรงแกโ ลก จากแหลง ขอ มลู ตา งๆ มา 1 ตวั อยา ง เกาะมลายู และภาคตะวันออกของทวปี ออสเตรเลีย กบั ภาคตะวนั ตกของทวีป
เพ่ือนํามาเลาใหเพื่อนในชั้นฟง โดยเนื้อหาขาวตองประกอบดวย อเมริกาเหนอื และภาคตะวันตกของทวีปอเมริกาใต แบงออกเปน 2 สว นใหญ
ประเดน็ สาํ คญั ดงั นี้ คอื สวนท่ีอยทู างเหนือของเสนศูนยส ูตร เรยี กวา มหาสมุทรแปซฟิ กตอนเหนอื
สว นทอ่ี ยทู างใตข องเสน ศนู ยส ตู ร เรยี กวา มหาสมทุ รแปซฟิ ก ตอนใต มเี นอ้ื ทรี่ วม
• สาเหตกุ ารเกิดภัยธรรมชาติ ท้ังหมดประมาณ 181,300,000 ตารางกิโลเมตร
• สถานที่เกิดภยั ธรรมชาติ
• การเตอื นภยั
• ความเสียหายจากภยั ธรรมชาติ
T131
นาํ สอน สรุป ประเมิน
ขน้ั สรปุ ๔สรปุ สาระสาํ คญั
1. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ ความรเู กยี่ วกบั ธรณี หนว่ ยการเรยี นรทู ่ี
พิบัติภัยและการจัดการภัยพิบัติ หรือใช PPT
สรปุ สาระสําคญั ของเนือ้ หา วาตภัย เกิดจากพายุลมแรง ท�าให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเรือน ส่ิงก่อสร้าง และผู้คน
2. ครใู หน กั เรยี นทาํ แบบฝก สมรรถนะฯ ภมู ศิ าสตร ควรตรวจสอบความแขง็ แรงของทอี่ ยอู่ าศยั เตรยี มอปุ กรณย์ งั ชพี ตดิ ตามคา� เตอื นสภาพอากาศ
ม.1 เรอ่ื ง ธรณพี บิ ตั ภิ ยั และการจดั การภยั พบิ ตั ิ
ทางธรรมชาติ เพอื่ เปน การทดสอบความรทู ไ่ี ด อทุ กภยั เกดิ จากนา�้ ทว่ ม การระบายนา้� ท ่ีไมม่ ปี ระสทิ ธภิ าพ
ศกึ ษามา
สง่ ผลใหน้ า�้ ทว่ มขงั เปน็ เวลานาน ควรตรวจสอบขอ้ มลู สถติ ิ
พฒั นสากูศตารวรครดิ ษท่ี 21 1. จากแผนท่ีมปี ระเทศใดที่ไมประสบภัยธรรมชาตบิ า งหรอื ไม (แนวตอบ) การเกดิ และการเตรียมรบั มอื หากอยู่ในพื้นทเ่ี ส่ียงภัย
แบบฝก ดูแผนทเ่ี สี่ยงภัยธรรมชาติแลวตอบคาํ ถามจากแผนท่ี …………·…..¡Ø ….»….Ã….Ð…à..·…..È….Ê….Ò…Á….Ò…Ã….¶….»…..Ã…Ð…Ê….º…..À….ÑÂ….¸…Ã….Ã…Á…..ª…Ò…µ….äÔ…´….Œ ……………………………………………………………………………………………………..
พน้ื ทเ่ี สี่ยงภัยธรรมชาติ
A 2. ระหวา งเขตรอนและเขตหนาว บริเวณใดที่มีโอกาสประสบภัยธรรมชาติไดม ากกวา
ࢵÌ͹…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
B
3. ในเขตพื้นที่หนาวเย็นมีโอกาสเกิดภัยธรรมชาติอื่นนอกเหนือจากที่ปรากฏในแผนที่หรือไม
C อะไรบาง
ÁÕ àª¹‹ ¾ÒÂØËÔÁÐ…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
4. บริเวณทเี่ ส่ียงภัยธรรมชาติหลายประเภทมากท่ีสุดคือบริเวณใด เพราะเหตใุ ด
…………Ë…..Á….Ù‹à…¡….Ò….Ð…Þ……Õè»….Ø.†¹……..à..¾…..Ã….Ò…Ð….µ….Ñ駅.Í….Â….Ù‹.º….Ã….Ôà…Ç…³……µ….Ð….Džѹ…..Í….Í….¡…..Ê….Ø´….¢….Í….§…á…..¼…..‹¹…..à..»…..Å….×Í….¡….â…Å….¡…..à..Í….à…ª..Õ.Â….·….Õ.èµ…..‹Í….¡….Ѻ….
.á….¼…..‹¹….à..»…..Å….Í× …¡….â…Å….¡….á….»…..«…¿Ô…..¡……·….íÒ….ã..Ë….ÁŒ…..ÀÕ ….àÙ ..¢…Ò…ä…¿….¨….Òí…¹…..Ç…¹…..Á….Ò…¡……à..Ê….ÕÂè….§…µ…..Í‹ ….¡…Ò….Ã…à..¡….´Ô…..á….¼….‹¹….´…..Ô¹….ä..Ë…..Ç…..Ê….¹Ö ….Ò…Á…..Ô .á…..Å….Ð..
.À….àÙ..¢….Ò…ä..¿…..»….Ð….·….Ø..Í….¡Õ ….·….Ñ駅.Â….§Ñ …Í….Â….µÙ‹….´Ô….¡….Ѻ…..Á….Ë….Ò…Ê….Á…..·….ÃØ….á….»…..«…¿Ô…..¡….¨….Ö§…à..Ê….ÂèÕ….§….µ….Í‹….¡….Ò…Ã….»….Ð…·…..Ð…¡….ºÑ….¾…..Ò…Â….ËØ….Á…..¹Ø ….à..¢…µ…..Ã….ŒÍ…¹….
5. บริเวณพ้ืนที่ A B และ C แมจะเส่ียงตอ ภัยธรรมชาตนิ อ ยมาก แตก ็เปน พ้ืนท่ีท่มี ีประชากร ภยั แลง เกดิ จากปรมิ าณฝนทนี่ อ้ ยกวา่
เบาบางเชน กัน เปน เพราะเหตใุ ด
…………Å….¡Ñ….É…..³…..Ð…À….ÁÙ….»Ô….Ã….Ð…à..·…..È….á….Å….Ð…À….ÁÙ….ÍÔ….Ò…¡….Ò…È……ä..Á….à.‹ ..Ë….Á….Ò…Ð…á…..¡…¡‹….Ò…Ã….Í….Â….Í‹Ù …Ò….È….ÂÑ …..¾…..¹é×….·…..Õè .A……à…»….¹š….·…..ÕÃè…Ò…º…..·….§‹Ø…¹…..Òíé …á….¢…§ç… ปกติ ทา� ให้เกิดความแห้งแล้ง ส่งผลให้
.à..¹…..×Íè ….§…¨….Ò…¡….Í….Â….Ù‹ .ã…¹….·…..ÕèÅ….Ð…µ…..Ô¨….Ù´….Ê….Ù§…à..»…..š¹….à…¢…Ò…Í….Ò…¡…..Ò…È….Ë….¹…..Ò…Ç….¾….×é¹….·…..Õè …B…….á….Å….Ð…….C…….à..»…..š¹…..·….Ð…à…Å….·….Ã….Ò…Â….¡….Ç….ŒÒ…§…ã…Ë….Þ…..‹ เกิดความขาดแคลนน้�า ควรวางแผน
.á….Ë…..Œ§…á….Å….§Œ…..Í….س…..Ë…..À….ÙÁ….¡Ô….Å….Ò…§…Ç….¹Ñ ….¡….Å….Ò…§….¤….¹× ….á…..µ….¡….µ…..‹Ò…§…¡….¹Ñ….Í….Â….Ò‹…§….Á….Ò…¡…………………………………………………………………………………. การใช้น้า� ให้มีประสทิ ธิภาพ
เฉฉบลบั ย เฉฉบลับย 6. เพราะเหตุใดบรเิ วณพ้นื ท่ี C ถึงไมเส่ียงตอการเกิดแผน ดินไหว
…………à..»…..¹š ….à..¢….µ….·…..ÕÃè …Ò….º….Ê….Ù§…Ë…..Ô¹….à..¡….‹Ò…..Á….¤Õ…..Ç…Ò…Á….Á….Ñè¹…..¤….§…á…..¢…§ç …á….Ã….§…á…..Å….ŒÇ…..á….Å….Ð…Á….ÕÃ….Í….Â….à..Å….èÍ× ….¹….¾…..Ò…´….¼….Ò‹ …¹…..¹….ÍŒ ….Â….Á….Ò…¡……….
7. บริเวณใดบา งท่ีไมเสีย่ งตอ การประสบภัยพายหุ มุนเขตรอน ภยั ดา นสภาพ
…………º….Ã….Ôà..Ç…³……à..Ê….¹Œ….È…..¹Ù ….Â….Ê….Ùµ…..Ã…..º….Ã….Ôà..Ç…³……ã..¹….á…..¼….‹¹….´….Ô¹…..ã..¹…..·….Ç….»Õ ……á….Å….Ð…¾…..é¹× ….·…..Õèà..¢…µ…..Ë….¹…..Ò…Ç………………………………………………….
8. ประเทศไทยสามารถประสบกบั ภัยธรรมชาติใดไดบ า ง
…………Ç…Ò….µ….À….ÑÂ……Í….·Ø….¡….À….ÑÂ……á…..¼….¹‹….´….¹Ô…..¶….Å….‹Á……á….¼…..¹‹ ….´….Ô¹…..ä..Ë….Ç…..ä…¿….»…..Ò†…..À….ÑÂ….á….Å….Œ§…..Ê….¹Ö…..Ò…Á….Ô………………………………………………………
9. นักเรยี นสามารถนําความรูท่ีไดจ ากแผนทนี่ ้ีไปใชป ระโยชนไดอ ยา งไร
…………á….¼…..¹….·…..Õè¹….é·Õ…..íÒ…ã..Ë…..Œ·….Ã….Ò…º….Ç….‹Ò……¾….é×¹…..·….Õè.ã…´….Á….Õ.â..Í….¡….Ò…Ê….à..¡….Ô´….À….ÑÂ….¸….Ã….Ã…Á….ª…Ò…µ…..ÔÍ….Ð…ä..Ã….º….ŒÒ…§……·…..íÒ…ã…Ë….Œà..¡….Ô´….¡….Ò….Ã…à..µ…..Ã…ÕÂ….Á….
.Ã…Ñ.º….Á….×Í….á….Å….Ð…»…..‡Í….§…¡….ѹ….à…¾….è×Í….Å….´….¼….Å….¡….Ã….Ð…·….º…..¨…Ò….¡….À….ÂÑ ….¸…Ã….Ã…Á…..ª..Ò….µ….Ô…………………………………………………………………………………………
10. ในอนาคตภยั ธรรมชาตจิ ะรนุ แรงและบอ ยครง้ั ขนึ้ หรอื ไม เพราะ
พน้ื ทเ่ี สย่ี งแผน ดนิ ไหว พายโุ ซนรอ นและพายไุ ซโคลน GeoSkills เหตใุ ด
• การสังเกต ………….á….¹….Ç….µ….Í….º….·…..Õè ..1….:….Ã…Ø.¹….á…..Ã….§…á…..Å….Ð…º…..‹Í….Â….¤…..Ã…Ñ駅.¢…Öé¹……..à..¹…..×Íè ….§….¨….Ò…¡….¡….Ò….Ã…
ภเู ขาไฟทอ่ี นั ตราย แผน ดนิ ไหวทร่ี นุ แรงมากทส่ี ดุ ความเรว็ ลมมากกวา 210 กม./ชม. • การแปลความขอ มูลทาง …………………………………………….à..»…..Å….ÕèÂ….¹….á…..»….Å….§…¢….Í…§….â..Å….¡….¨….Ò…¡….»…..˜¨…¨….ÑÂ….·…..ÕèÁ….¹….É.Ø ….Â….
ภมู ิศาสตร ໹š ¼ŒÙ¡Í‹………………………………………………………………………………………………………………………………………….
เสน ทางของพายุ แผน ดนิ ไหวทร่ี นุ แรงมาก ความเรว็ ลม 178-209 กม./ชม. • การคิดแบบองคร วม ………….á….¹….Ç…µ…..Í….º….·….Õ.è .2……:…ä..Á….Ë….ع….á…..Ã…§…á…..Å….Ð…º….Í‹….Â….¤….Ã….Ñ§é …¢…¹éÖ…….à…¹….Í×è….§…¨….Ò…¡….â..Å….¡….
…………………………………………….Á….¡Õ….Ò…Ã….à..»….Å….ÂèÕ….¹…..á….»….Å….§…Í….Â….µ‹Ù…..Å….Í…´….à…Ç…Å….Ò………………….
พน้ื ทเ่ี สย่ี งสนึ ามิ แผน ดนิ ไหวทร่ี นุ แรงนอ ย ความเรว็ ลม 154-177 กม./ชม.
แผน ดนิ ไหวท่ไี มร นุ แรง ความเรว็ ลม 118-153 กม./ชม.
57 58 อากาศ ไฟป่า เกิดจากอากาศแห้ง และอุณหภูมิสูง
ขนั้ ประเมนิ ภยั พิบัตทิ างย ทา� ใหเ้ กดิ ไฟปา่ ไดง้ า่ ยและลกุ ลามอยา่ งรวดเรว็
การควบคมุ ไฟปา่ เปน็ ไปไดย้ าก ควรระมดั ระวงั
1. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคําถาม ธรรมชาต ิ ในทวปี และติดตอ่ เจา้ หน้าท่หี ากเกดิ ไฟปา่
การรวมกันทํางาน และการนําเสนอผลงาน
หนา ช้ันเรียน เอเชยี ทวปี ออสเตรเลยี แผ่นดินไหว เกิดจากการ
และโอเชยี เนยี
2. ครตู รวจสอบผลจากการทาํ ใบงาน และแบบฝก ธรณพี บิ ัตภิ ั เคล่ือนท่ีของรอยต่อบริเวณ
สมรรถนะฯ ภมู ิศาสตร ม.1 เปลือกโลก ท�าให้เกิดการสั่นสะเทือนอย่าง
รนุ แรง ควรสงั เกตสัญญาณเตือนภยั ล่วงหนา้
3. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียนหนวย และศกึ ษาแนวทางปฏบิ ตั เิ มอ่ื เกดิ แผน่ ดนิ ไหว
การเรยี นรทู ่ี 4 เรอ่ื ง ภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาตขิ อง
ทวีปเอเชยี ทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนีย ภเู ขาไฟปะท ุ เกดิ จากการปะทขุ องหนิ หนดื และแกส
จากใต้เปลือกโลก ควรสังเกตสัญญาณเตือนภัยและ
วธิ ีการปฏบิ ัติตัวหากอยู่ในพนื้ ทเ่ี ส่ียงภยั
สนึ าม ิ เกดิ จากคลนื่ ทะเลขนาดยกั ษ ์ เคลอ่ื นทด่ี ว้ ยความเรว็ สงู
เขา้ หาชายฝง่ั ควรสงั เกตหากระดบั นา้� ทะเลลดลงอยา่ งรวดเรว็
ควรรบี ออกจากชายฝ่งั ให้เร็วท่ีสดุ
แผน่ ดนิ ถลม่ เกิดจากการเคลอื่ นท่ีของดนิ หรอื หินบริเวณพ้นื ทที่ ่ีมคี วามลาดชนั เน่อื งจากฝนตกหนัก
ดังนั้น ไม่ควรสร้างบา้ นเรือน ท�าการเกษตรบริเวณเชิงเขา หรอื เส้นทางน้�าธรรมชาติ
๑๒๖
แนวทางการวัดและประเมินผล กิจกรรม 21st Century Skills
ครูสามารถวัดและประเมินความเขาใจเนื้อหา เรื่อง ธรณีพิบัติและการ ครูใหนักเรียนใชเครื่องมือทางภูมิศาสตรสืบคนขอมูลท่ี
จดั การภยั พบิ ัตทิ างธรรมชาติ ไดจ ากการตอบคําถาม การรว มกันทํางาน และ เกย่ี วขอ งกบั ขา ว/เหตกุ ารณป จ จบุ นั ทเี่ กย่ี วกบั ภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาติ
การนําเสนอผลงานหนาชั้นเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจาก ท่ีเกิดขึ้นในทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย จากน้ันนํา
แบบประเมินการนําเสนอผลงานที่แนบมาทายแผนการจัดการเรียนรูหนวยที่ 4 เสนอขอ มลู ดว ยการจดั ทาํ แผน พบั นาํ เสนอผลกระทบและแนวทาง
เรื่อง ภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาตใิ นทวปี เอเชยี ทวปี ออสเตรเลียและโอเชยี เนีย ในการแกปญหาอันมีสาเหตุมาจากมนุษย ตามรูปแบบความคิด
สรางสรรคของนักเรยี น
แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน
คาช้ีแจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แลว้ ขดี ลงในช่องที่
ตรงกับระดับคะแนน
ลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1
32
1 ความถกู ตอ้ งของเน้อื หา
2 การลาดับขนั้ ตอนของเรื่อง
3 วธิ ีการนาเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์
4 การใช้เทคโนโลยีในการนาเสนอ
5 การมีส่วนรว่ มของสมาชกิ ในกลมุ่
รวม
ลงช่อื ……………………………………………ผู้ประเมิน
…………/……………../…………….
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ สมบรู ณ์ชัดเจน ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นสว่ นใหญ่
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน
เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
12 – 15 ดี
T132 8 – 11 พอใช้
ต่ากวา่ 8 ปรับปรุง
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
คาํ ถามเนนการคิด เฉลย คาํ ถามเนน้ การคิด
๑. เพราะเหตใุ ดจึงต้องเรียนรูเ้ รอ่ื งภัยพบิ ัตทิ างธรรมชาติและการรบั มอื ภยั พบิ ตั ิ 1. เพอื่ ความเขา ใจในสาเหตแุ ละผลกระทบทเี่ กดิ
๒. พน้ื ทท่ี นี่ กั เรยี นอาศยั อยเู่ สยี่ งเกดิ ภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาติใดมากทสี่ ดุ และมแี นวทางปอ้ งกนั และ ขึ้นในพื้นที่ เพ่ือหาแนวทางหรือวิธกี ารในการ
จัดการภัยพิบัติและเตรียมความพรอมในการ
รบั มือภยั พบิ ตั นิ ้นั อยา่ งไร รับมือ เพ่ือลดความเส่ียงและความสูญเสียท่ี
๓. ป จั จบุ นั ภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาตมิ คี วามเปลย่ี นแปลงและรนุ แรงมากนอ้ ยเพยี งใด จะเกดิ ขึน้ จากภัยพบิ ตั ไิ ด
๔. ภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาตสิ ง่ ผลกระทบตอ่ ชวี ติ และสง่ิ แวดลอ้ มทงั้ ทางตรงและทางออ้ ม หากนกั เรยี น
2. • บรเิ วณพ้ืนทล่ี าดเชงิ เขา เชน ในภาคเหนอื
มคี วามรเู้ รอื่ งการปอ้ งกนั และระวงั ภยั พบิ ตั แิ ลว้ จะสง่ ผลอยา่ งไร ของไทยอาจเส่ียงตอการเกิดแผนดินถลม
๕. หากเกดิ เหตกุ ารณอ์ ทุ กภยั หรอื วาตภยั ขน้ึ ในชมุ ชน นกั เรยี นจะสามารถทา� อะไรไดบ้ า้ ง เพอ่ื ชว่ ย นํ้าทวมหรือไฟปา มีแนวทางปองกัน เชน
ไมต ดั ไมท าํ ลายปา ใชท ด่ี นิ ใหเ หมาะสมหรอื
ใหต้ นเองและชมุ ชนเกดิ ความปลอดภยั มากขน้ึ หลีกเลี่ยงการเผาขยะ
กิจกรรมพฒั นาทกั ษะ • ในบริเวณพ้ืนที่ราบสูง เชน ในภาคตะวัน
ออกเฉียงเหนือของไทยอาจเสี่ยงตอการ
๑. จบั คกู่ นั สบื คน้ ขา่ วภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาตทิ เ่ี กดิ ขน้ึ ในทวปี เอเชยี ทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี เกดิ ภยั แลง หรอื วาตภัย มีแนวทางปอ งกัน
อภปิ รายรว่ มกนั เกย่ี วกบั สาเหต ุ บรเิ วณทเี่ กดิ ผลกระทบ รวมทง้ั แนวทางการจดั การภยั พบิ ตั ิ เชน ติดตามขาวพยากรณอากาศไมตัดไม
เขยี นผงั มโนทศั นส์ รปุ สาระสา� คญั ทําลายปา ใชน าํ้ ใหเ หมาะสม
๒. แบ่งกลุ่มเพ่ือแสดงบทบาทสมมติเก่ียวกับการรับมือภัยพิบัติทางธรรมชาติ กลุ่มละ ๑ ภัย ï• หากนักเรียนอยูในบริเวณพื้นที่ราบลุม
แต่ละกลุม่ ออกมาแสดงบทบาทสมมตทิ ี่หนา้ ชนั้ เรียน แลว้ ใหต้ วั แทนกล่มุ สรุปความรูท้ ไ่ี ดร้ บั ริมแมน้ํา เชน ในภาคกลางของไทยอาจ
เส่ียงตอการเกดิ นาํ้ ทวม มแี นวทางปอ งกัน
๓. วางแผนเสน้ ทางหลบภยั โดยวาดแผนทเ่ี สน้ ทางหลบภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาต ิ ทค่ี าดวา่ จะเกดิ ขน้ึ เชน ไมตัดไมท าํ ลายปา บรหิ ารจดั การน้ํา
ในชุมชนท่ีอาศัยอยู่ เพ่ือให้นักเรียน ครอบครัว และคนในชุมชน สามารถใช้หลบภัยเพื่อ อยา งเหมาะสม
ความปลอดภัย
3. ภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาตใิ นปจ จบุ นั มคี วามรนุ แรง
มากยงิ่ ข้ึน เนอื่ งจาก ปญหาภาวะโลกรอ น ท่ี
ทาํ ใหส ภาพภมู อิ ากาศมกี ารเปลย่ี นแปลงอยา ง
รวดเรว็ รวมถงึ อาจเปน ผลมาจากกจิ กรรมของ
มนษุ ยท ่ีเปลี่ยนแปลงไป
4. จะทําใหปรับตัวเขากับสภาพแวดลอมทาง
ธรรมชาตไิ ดเ นอื่ งจากมคี วามเขา ใจในภยั พบิ ตั ิ
รวมถึงสามารถเตรียมตัวในการปองกันและ
รับมอื กบั ความเส่ยี งจากภยั พบิ ตั ไิ ด
5. ตดิ ตามขา วพยากรณอ ากาศและบอกใหค นใน
ชมุ ชนอยใู นอาคารทแี่ ขง็ แรง ไมอ ยใู นพน้ื ทโี่ ลง
หรอื ลงเลน นาํ้ ในขณะทเี่ กดิ อทุ กภยั หรอื วาตภยั
๑๒๗
เฉลย แนวทางประเมินกิจกรรมพฒั นาทักษะ
ประเมินความรอบรู
• ใชในการประเมินความรอบรูในหลักการพ้ืนฐาน กระบวนการความสัมพันธของขั้นตอนการปฏิบัติงาน รวมถึงทักษะการคิดในเรื่องตางๆ โดยท่ัวไป
งานหรือช้นิ งานใชเ วลาไมน าน งานสําหรบั ประเมนิ รูปแบบนอ้ี าจเปนคําถามปลายเปด หรอื ผงั มโนทศั นนิยมสาํ หรับประเมินผเู รียนรายบคุ คล
ประเมนิ ความสามารถ
• เชน ความคลอ งแคลว ในการใชเ ครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตร การแปลความหมายขอ มลู ทกั ษะการตดั สนิ ใจ ทกั ษะการแกป ญ หา งานหรอื ชนิ้ งานจะสะทอ น
ถึงทักษะและระดับความสามารถในการนําความรูไปใช อาจเปนการประเมินการเขียน ประเมินกระบวนการทํางานทางภูมิศาสตรตางๆ หรือการ
วเิ คราะหและการแกปญ หา
ประเมินทักษะ
• มีเปา หมายหลายประการ ผเู รียนไดแ สดงทกั ษะ ความสามารถทางภูมิศาสตรต า งๆ ทีซ่ ับซอนขึน้ งานหรือช้นิ งานมกั เปนโครงงานระยะยาว ซ่งึ ผูเรยี น
ตอ งมีการนาํ เสนอผลการปฏิบัตงิ านตอ ผูเก่ียวของหรอื ตอสาธารณะ
สง่ิ ท่ีตอ งคาํ นึงถงึ ในการประเมิน คือ จาํ นวนงานหรือกิจกรรมท่ผี ูเรียนปฏิบัติ และผูประเมนิ ควรกําหนดรายการประเมิน และทักษะทตี่ อ งการประเมนิ ให
ชดั เจน
T133
Chapter Overview
แผนการจัด ส่อื ท่ีใช้ จดุ ประสงค์ วิธสี อน ประเมิน ทักษะท่ีได้ คุณลกั ษณะ
การเรียนรู้ อันพึงประสงค์
แผนฯ ที่ 1
ปัญหา – หนงั สือเรยี น 1. อ ธิบายสาเหตขุ องปญั ห กระบวนการ – ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น – การสงั เกต – มีวนิ ยั
ทรพั ยากร ภูมิศาสตร์ ม.1 ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ ทางภูมศิ าสตร์ – ตรวจการท�ำแบบฝกึ – การแปลความ – ใฝเ่ รียนรู้
ธรรมชาตแิ ละ – แบบฝึกสมรรถนะ สง่ิ แวดล้อมตา่ ง ๆ ได้ (Geographic สมรรถนะและการคดิ ขอ้ มูลทาง – มุง่ ม่นั ใน
สง่ิ แวดล้อม และการคดิ (K) Inquiry ภมู ศิ าสตร์ ม.1 ภูมิศาสตร์ การท�ำงาน
ภูมิศาสตร์ ม.1 2. ร ะบุปจั จยั ท่ีทำ� ให้แตล่ ะ Process) – ตรวจใบงานที่ 5.1 – การใช้เทคนิคและ
3 – แบบทดสอบก่อนเรียน ทวปี เกดิ ปญั หา – ประเมนิ การน�ำเสนอผลงาน เครือ่ งมือทาง
– PowerPoint ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ – สงั เกตพฤตกิ รรมการท�ำงาน ภมู ิศาสตร์
ชว่ั โมง – ใบงานที่ 5.1 สิง่ แวดลอ้ มท่ตี ่างกนั ได้ รายบุคคล – การคิดเชิงพนื้ ที่
– เครือ่ งมือทางภูมิศาสตร์ (K) – สงั เกตพฤตกิ รรมการท�ำงาน – การคิดแบบ
เช่น แผนท่ี เข็มทศิ กล่มุ องคร์ วม
รูปถา่ ยทางอากาศ – ประเมนิ คุณลักษณะ – การใช้เทคโนโลยี
ภาพถ่ายดาวเทียม อันพงึ ประสงค์
T134
แผนการจดั สือ่ ท่ีใช้ จดุ ประสงค์ วธิ สี อน ประเมิน ทักษะท่ีใช้ คุณลักษณะ
การเรยี นรู้ อนั พงึ ประสงค์
แผนฯ ที่ 2
การจดั การ – หนงั สอื เรียน 1. ร ะบุหลกั การและ กระบวนการ – ตรวจการท�ำแบบฝึก – การแปลความ – มวี นิ ยั
ทรพั ยากร ภมู ิศาสตร์ ม.1 แนวทางจัดการ ทางภูมศิ าสตร์ สมรรถนะและการคดิ ขอ้ มูลทาง – ใฝเ่ รยี นรู้
ธรรมชาตแิ ละ – แบบฝกึ สมรรถนะ ทรพั ยากรและ (Geographic ภมู ศิ าสตร์ ม.1 ภูมศิ าสตร์ – มงุ่ มนั่ ใน
สิง่ แวดลอ้ ม และการคิด สงิ่ แวดลอ้ มในทวีป Inquiry – ตรวจใบงานท่ี 5.2 – การใช้เทคโนโลยี การท�ำงาน
ภมู ศิ าสตร์ ม.1 เอเชีย ทวีปออสเตรเลีย Process) – ประเมินการน�ำเสนอผลงาน – การคิดแบบ
3 – แบบทดสอบหลงั เรียน และโอเชยี เนยี ได้ (K) – สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน องค์รวม
– PowerPoint 2. อ ธบิ ายความร่วมมือทาง รายบคุ คล – การคิดเชงิ พน้ื ที่
ชั่วโมง – ใบงานที่ 5.2 ส่งิ แวดลอ้ มระหวา่ ง – สังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน – การใช้สถติ ิ
– เครื่องมอื ทางภูมิศาสตร์ ประเทศได้ (K) กล่มุ พน้ื ฐาน
เช่น แผนท่ี เขม็ ทิศ 3. ว ิเคราะหแ์ นวทางการ – ประเมนิ คณุ ลักษณะ
รปู ถ่ายทางอากาศ จัดการทรพั ยากรและ อันพงึ ประสงค์
ภาพถ่ายดาวเทยี ม สง่ิ แวดล้อมในทวปี – ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน
เอเชีย ทวีปออสเตรเลีย
และโอเชียเนียได้อย่าง
ยั่งยืน (K)
T135
นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขน้ั นาํ ๕หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ปญ หาทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ ม
ในทวปี เอเชยี ทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี
Geographic Inquiry Process ¡ÒèѴ¡ÒÃ
·ÃѾÂÒ¡ÃáÅÐ
1. ครูแจงช่ือเรื่องที่จะเรียนรู และผลการเรียนรู ʧèÔ áÇ´ÅÍŒ Á
จากนน้ั นักเรียนทาํ แบบทดสอบกอนเรียน ในทวปี เอเชยี ทวปี ออสเตรเลยี
และโอเชยี เนย� อยา งยง�ั ยนื
2. ครูนําภาพ หรือคลิปวิดีโอปญหาทรัพยากร มแี นวทางอยา งไร
ธรรมชาติและส่ิงแวดลอมในทวีปเอเชีย ทวีป
ออสเตรเลียและโอเชียเนียมาใหนักเรียนดู
3. ครถู ามคาํ ถามกระตนุ ความคดิ โดยใหน กั เรยี น
รว มกันตอบคาํ ถาม เชน
ï• นักเรียนรูจักหรือเคยไดยินขาวปญหา
ทรัพยากรธรรมชาตใิ ดบาง
(แนวตอบ ปญหาทรัพยากรดิน ปญหา
ทรพั ยากรนาํ้ ปญ หาทรพั ยากรปา ไม ปญ หา
มลพษิ )
• ปญหาทรัพยากรธรรมชาติท่ีนักเรียนรูจัก
หรือเคยไดยนิ สงผลกระทบอยางไร
(แนวตอบ ปญหาทรัพยากรดินและปญหา
ทรพั ยากรนาํ้ ทาํ ใหม ปี ญ หาในการเพาะปลกู
ปญหาทรัพยากรปาไม ทําใหระบบนิเวศ
เสียหาย ปญหามลพิษทําใหเกิดผลเสียตอ
สขุ ภาพของประชากรในเมอื ง)
การเพิ�มขึ้นอยางรวดเร็วของจํานวนประชากรและความ ตวั ช้ีวดั ส ๕.๒ ม. ๑/๓, ม. ๑/๔
เจรญิ ทางดา นอตุ สาหกรรมในทวปี เอเชยี และออสเตรเลยี ทาํ ให สาระการเรยี นรูแ กนกลาง
ความตองการใชทรัพยากรธรรมชาติมีมากข้ึน เกิดปญหา • ประเด็นปญหาจากปฏิสัมพันธระหวาง
ความเสอื่ มโทรมและการขาดแคลนทรพั ยากรธรรมชาติ กอ ให สิ�งแวดลอมทางกายภาพกับมนุษยที่
เกิดปญหาส�ิงแวดลอมตามมา หลายประเทศไดตระหนักใน เกิดข้ึนในทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลีย
ปญหาน้� จึงไดกําหนดกฎระเบียบ สรางวินัยการใชทรัพยากร และโอเชียเนย�
อยา งประหยดั ใหเ กดิ ประโยชนส งู สดุ และมคี วามรว มมอื ระหวา ง • แนวทางการจัดการทรัพยากรและ
ประเทศเพอื่ การจัดการสงิ� แวดลอ มอยางยัง� ยนื สง�ิ แวดลอ มในทวปี เอเชยี ทวปี ออสเตรเลยี
๑๒๘ และโอเชียเนย� ทยี่ งั� ยืน
เกร็ดแนะครู
ครคู วรจดั กจิ กรรมโดยเนนความสามารถในการใชท ักษะ กระบวนการและความสามารถทางภูมศิ าสตร ประกอบการเรียนการสอนไดโดย
จัดกิจกรรม เชน
• ศกึ ษาประเดน็ ปญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ มในทวีปเอเชยี ทวีปออสเตรเลยี และโอเชียเนยี
ï• สบื คนความรวมมือระหวางประเทศเพื่อการจัดการสิง่ แวดลอมอยางยัง่ ยืน
ï• คนหาหรอื กาํ หนดแนวทางในการจดั การทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอมในทวปี เอเชีย ทวปี ออสเตรเลียและโอเชยี เนยี
T136
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
๑ ปญั หาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขน้ั สอน
ทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย ล้วนประสบกับปญหาทรัพยากรธรรมชาติและ ขน้ั ท่ี 1 การตงั้ คาํ ถามเชงิ ภมู ศิ าสตร์
สงิ่ แวดลอ้ มในหลาย ๆ ด้าน ซ่ึงแตล่ ะทวีปมีสาเหตแุ ละปจ จัยทที่ �าใหเ้ กิดปญหาแตกต่างกัน ดงั น้ี
1. นักเรียนดูภาพปญหาทรัพยากรธรรมชาติและ
๑.๑ ปญั หาทรัพยากรดิน ส่ิงแวดลอม จากหนังสือเรียนภูมิศาสตร ม.1
แลวรวมกันแสดงความคิดเห็นตามประเด็น
ทวปี เอเชยี ทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ดังนี้
ตา่ งมปี ญ หาทรพั ยากรดนิ บางพนื้ ทท่ี รพั ยากรดนิ •ï ปญ หาทเ่ี กดิ จากการมปี ฏสิ มั พนั ธร ะหวา งสงิ่
มจี า� กดั และในหลายพน้ื ทดี่ นิ มคี ณุ ภาพไมเ่ หมาะสม แวดลอมทางกายภาพกับมนุษยท่ีเกิดข้ึนใน
ในการใช้ประโยชน์ ใช้ที่ดินไม่เหมาะสมและไม่ ทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย
ยั่งยืน ท�าให้ดินสูญเสียความอุดมสมบูรณ์และ มีอะไรบา ง
ความหลากหลายทางชวี ภาพ (แนวตอบ ปญหาทรัพยากรดิน ปญหา
สภาพดินถกู นา�้ กัดเซาะและพังทลาย ทรัพยากรน้ํา ปญหาทรัพยากรปาไมและ
สัตวปา ปญหาทรัพยากรแรและพลังงาน
เอเชยี ออสเตรเลยี และโอเชียเนีย และปญหามลพษิ )
• เอเชยี กลาง ดนิ มสี ภาพกงึ่ ทะเลทราย ทา� ให้ • ออสเตรเลีย พื้นท่ีส่วนใหญ่เปนเขตแห้ง • ปญหาทรัพยากรดินสงผลกระทบอยางไร
บาง
การเพาะปลูกไมค่ อ่ ยได้ผล แล้งทุรกันดาร ปญหาดินที่พบ เช่น การ (แนวตอบ ดินสญู เสยี ความอดุ มสมบูรณและ
• เอเชยี ตะวนั ตกเฉยี งใต ้ ดนิ มสี ภาพแหง้ แลง้ กเซัดากะรช่อานยแฝลงะ กดาินรพเปังนทกลรายด1ข พองบดใินน พก้ืนาทรก่ีรัดัฐ ความหลากหลายทางชวี ภาพ บางกรณที าํ ให
นวิ เซาทเ์ วลส ์ รฐั วกิ ตอเรยี และรฐั แทสมาเนยี เพาะปลูกไมได บางกรณีเกิดการพังทลาย
เปนทะเลทราย ท�าการเพาะปลูกไม่ได้ จะ • หมเู่ กาะโอเชยี เนยี ดนิ มคี วามอดุ มสมบรู ณ์ ของหนาดิน บางกรณีทีความแหงแลงและ
ตอ้ งอาศยั การชลประทานในการเพาะปลกู จากการผุพังของหินภูเขาไฟ แต่มีพื้นที่ การเสือ่ มสภาพของหนาดนิ )
• เอเชยี ใต้ มกี ารทา� การเกษตรในปรมิ าณมาก น้อย ในขณะท่ีนิวซีแลนด์ต้องเผชิญ
ดนิ จงึ ถกู ใชง้ านอยา่ งตอ่ เนอื่ งจนขาดแรธ่ าตุ กับปญหาการพังทลายของดิน เน่ืองจาก 2. ครูใหนักเรียนชวยกันตั้งประเด็นคําถามทาง
• เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดินมีความอุดม สภาพภูมิประเทศท่ีเปนเนินเขา การท�า ภูมิศาสตรเ พอ่ื คน หาคาํ ตอบ เชน
สมบูรณ์ แต่มีการใช้ประโยชน์อย่างไม่ ฟารม์ และปศสุ ตั ว์ ï• ปจ จัยทท่ี ําใหทรพั ยากรดินในแตล ะทวปี มี
เหมาะสม ทา� ใหเ้ กดิ ปญ หาการปนเปอ นของ ปญ หาที่แตกตางกนั คอื อะไร
สารพษิ ดนิ เคม็ การพงั ทลายของหนา้ ดนิ ค วามแห้งแล้งและการเส่ือมสภาพของหน้าดิน •ï กิจกรรมของมนษุ ยกอ ใหเ กิดปญ หา
• เอเชียตะวันออก เปนพ้ืนท่ีท�าการเกษตร เปน ปญ หาทพี่ บไดท้ ว่ั ไปในทวปี เอเชยี และออสเตรเลยี ทรพั ยากรดินไดอยา งไร
เสชา� ่นค ญั พ ้นืมทปี ด่ีญ นิ หตาะกกาอรนชะลลม2า้ ใงนพจงันี ทลายของดนิ
1๒๙
กจิ กรรม ทา ทาย นักเรียนควรรู
ครูจัดกิจกรรมเสริมทักษะการคิดแกปญหาจากกรณีศึกษา 1 ดนิ เปน กรด หรอื ดนิ กรด ดนิ ทม่ี ปี รมิ าณไฮโดรเจนไอออนในสารละลายสงู
เรอ่ื ง ปญ หาทรัพยากรดนิ ที่พบในทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลยี และ กวาไฮดรอกซไี อออน โดยมีคาพเี อชตาํ่ กวา 6.6
โอเชยี เนีย โดยอธิบายวา สว นหนึ่งเกดิ จากการทําการเกษตรของ 2 ดินตะกอนลม เศษหิน ดิน แร และอินทรียวัตถุท่ีเกิดจากกระบวนการผุ
เกษตรกรที่ไมเหมาะสมครูใหนักเรียนคิดแกปญหา โดยถามวา สลายหรือพงั ทลาย และถูกลมพดั พามาสะสมกัน
นกั เรยี นมวี ธิ ีการแกป ญหาน้ีอยา งไร พรอมทั้งยกตัวอยา งประกอบ
T137
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขนั้ สอน ๑.๒ ปัญหาทรพั ยากรนํา้
ขนั้ ท่ี 2 การรวบรวมขอ้ มลู ทวปี เอเชยี ทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี
มีปญหาทรัพยากรน้�าท่ีแตกต่างกัน บางพ้ืนท่ี
ครูใหนักเรียนจับคูรวมกันศึกษาขอมูล จาก มีน้�าจืดไม่เพียงพอ บางพื้นที่มีปญหาน้�ามาก
หนงั สอื เรยี นภมู ศิ าสตร ม.1 เรอ่ื ง ปญ หาทรพั ยากร เกินไปจนเกิดปญหาน้�าท่วมและปญหาน�้าเสีย
ดิน และปญหาทรัพยากรน้ําในทวีปเอเชีย ทวีป โดยปญหาดังกล่าวเกิดจากความต้องการใช้น�้า
ออสเตรเลียและโอเชียเนีย โดยแบงเปนประเด็น ในกิจกรรมต่าง ๆ เพ่ิมสูงข้ึน การขาดแผนการ
สาเหตุของปญหา ปจจัยท่ีทําใหเกิดปญหา และ ใช้น้�าที่รัดกุมและเหมาะสม รวมท้ังแหล่งน้�ามี
ผลกระทบของปญ หา สภาพน�้าเน่าเสียจากการท้งิ ขยะมลู ฝอยลงแม่นา้� ลา� คลอง สภาพเส่ือมโทรม เนา่ เสยี และขาดคุณภาพ
ขน้ั ท่ี 3 การจดั การขอ้ มลู เอเชีย ออสเตรเลียและโอเชยี เนยี
1. สมาชิกแตละคนในกลุมนําขอมูลที่ไดจากการ • เอเชียกลาง นา้� มีการปนเปอ นสารเคมีจาก • ออสเตรเลีย มปี ญหาขาดแคลนน�า้ จดื เชน่
รวบรวม มาอธบิ ายแลกเปลีย่ นความรูระหวา ง การท�าเกษตรกรรม ขาดระบบชลประทาน ใน พ.ศ. ๒๕๔๕ – ๒๕๔๖ ประสบกับปญ หา
กนั ทม่ี ปี ระสิทธิภาพ แห้งแล้งรุนแรง จนมีการออกกฎให้ ใช้น้�า
อยา่ งเครง่ ครดั สง่ ผลใหน้ กั วจิ ยั ไดพ้ ฒั นาระบบ
2. สมาชกิ ในกลมุ ชว ยกนั คดั เลอื กขอ มลู ทนี่ าํ เสนอ • เอเชยี ตะวนั ตกเฉยี งใต้ มปี ญ หาขาดแคลน นา้� จดื จากนา�้ ทะเลทเ่ี ปน มติ รตอ่ สง่ิ แวดลอ้ ม
เพอ่ื ใหไ ดขอ มูลทถ่ี ูกตอง น้�าในการอุปโภคบริโภค เนื่องจากพื้นท่ี เพอ่ื บรรเทาปญ หานา�้ จดื ขาดแคลน
สว่ นใหญเ่ ปน ทะเลทราย
ขน้ั ท่ี 4 การวเิ คราะหแ์ ละแปลขอ้ มลู • หมเู่ กาะโอเชยี เนยี แมจ้ ะมปี รมิ าณฝนตกชกุ
• เอเชยี ใต ้ ปญ หานา้� เนา่ เสยี จากการไมม่ รี ะบบ แตไ่ มส่ ามารถสรา้ งแหลง่ กกั เกบ็ นา้� ไว ้ใช ้ใน
นกั เรยี นนาํ ขอ มลู ทไ่ี ดจ ากการศกึ ษามาทาํ การ จัดการน�้าท่ีดี ปญหาภัยแล้งเนื่องจาก ช่วงขาดแคลน เช่น ปรากฏการณ์ลานีญา
วเิ คราะหเ พอื่ นาํ มาอภปิ รายและรว มกนั ตรวจสอบ ฝนตกน้อย การท�าลายป่าไม้ น้�าท่วม ในประเทศตูวาลู ท�าให้ฝนขาดช่วงนาน
ความถกู ตอ งของขอมูล เนือ่ งจากพายหุ มุนเขตร้อน หลายเดือน จนรัฐบาลออสเตรเลียต้องให้
ความช่วยเหลือด้วยการซ่อมแซมโรงงาน
ขน้ั ท่ี 5 การสรปุ เพอื่ ตอบคาํ ถาม • เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต ้ มปี ญ หาขาดแคลน กรองนา้� ทะเล เพอ่ื ใหส้ ามารถกรองนา�้ ทะเล
น้�าจากการตัดไม้ท�าลายป่าและการสร้าง ใหเ้ ปน น้�าจืดใชอ้ ุปโภคบริโภคได้
1. ครูถามคําถามใหนักเรียนรวมกันตอบคําถาม เข่ือนบริเวณต้นน�้าของแม่น�้าโขงในจีน
เกี่ยวกับปญหาทรัพยากรดิน และปญหา ปญหาน�้าปนเปอนสารพิษจากโรงงานและ อทุ กภัยเปน ปญ หาทีส่ ง่ ผลกระทบต่อการด�าเนนิ ชวี ิต
ทรัพยากรน้ํา ในทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลีย การใช้สารเคมี ของประชาชนจ�านวนมาก
และโอเชียเนีย
• เอเชยี ตะวนั ออก มปี ญ หานา�้ เสยี จากโรงงาน
2. ครูใหสมาชิกในแตละกลุมรวมกันสรุปสาระ อตุ สาหกรรม นา้� ทว่ มจากพายหุ มนุ เขตรอ้ น
สําคัญเพื่อตอบคาํ ถามเชิงภมู ศิ าสตร
13๐
กิจกรรม สรา งเสรมิ
ครูใหนักเรียนเขียนแผนผังความคิดเกี่ยวกับแนวทางในการ
จดั การทรพั ยากรน้าํ ในทวีปเอเชยี ทวีปออสเตรเลียและโอเชยี เนีย
พรอมท้งั ยกตัวอยา ง และอภิปรายรว มกนั
T138
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
๑.๓ ปญั หาทรพั ยากรป่าไมแ้ ละสัตวป์ า่ ขน้ั สอน
ทรัพยากรป่าไม้มีประโยชน์ท้ังทางตรง ขน้ั ที่ 1 การตงั้ คาํ ถามเชงิ ภมู ศิ าสตร์
และทางออ้ มแกม่ นษุ ย ์ ชว่ ยควบคมุ ใหอ้ ากาศอยู่
ในสภาพปกติ รกั ษาต้นนา้� ลา� ธาร พันธุ์ไม ้ และ 1. นกั เรียนดภู าพปญหาทรัพยากรปา ไมและสตั ว
สัตว์ป่า เปนท่ีพักผ่อนหย่อนใจ ปจจุบันป่าไม้ ปา ปญหาทรัพยากรแรและพลังงาน จาก
ในทวปี เอเชีย ทวีปออสเตรเลยี และโอเชียเนีย หนังสือเรียนภูมิศาสตร ม.1 แลวใหนักเรียน
ลดลงอยา่ งรวดเรว็ โดยเฉพาะปา่ เขตรอ้ นทถี่ กู นา� ชวยกันบอกวา ประเทศไทยมปี ญหาอะไรบา ง
ไปใชเ้ พ่อื การเกษตร ทุง่ หญา้ เล้ยี งสัตว์ หรอื ใช้ (แนวตอบ ปญหาปาไมถูกทําลาย ปญหาปา
เพ่อื กิจกรรมอ่ืน ๆ ทา� ใหเ้ กิดพืน้ ท่ีปา่ เส่อื มโทรม สภาพปา่ ไม้ถูกทา� ลายเพ่ือใช้ ในกิจกรรมตา่ ง ๆ ไมลดนอยลง ปญหาสัตวปาสูญพันธุ ปญหา
ขาดแคลนพลังงาน)
เอเชยี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี
2. ครูใหนักเรียนรวมกันตั้งประเด็นคําถามทาง
• เอเชียกลาง ป่าไม้และสัตว์ป่ามีน้อย และ • ออสเตรเลยี มสี ภาพภมู ปิ ระเทศทแี่ หง้ แลง้ ภูมิศาสตรเก่ียวกับปญหาทรัพยากรปาไมสัตว
การใชส้ ารเคมปี รมิ าณมากในการเพาะปลกู ท�าให้เกิดไฟป่าอย่างรุนแรงเกือบทุกป ปา แรและพลงั งาน เพื่อคน หาคําตอบ เชน
ทา� ใหร้ ะบบนเิ วศของพชื และสตั วถ์ กู ทา� ลาย ส่งผลกระทบโดยตรงต่อพ้ืนที่ป่าท่ีลดลง •ï ปจจัยท่ีทําใหทรัพยากรปาไมและสัตวปา
• เอเชียตะวันตกเฉียงใต ้ พ้นื ที่สว่ นใหญ่เปน พืชพรรณไดร้ ับความเสียหาย สตั วป์ า่ ไดร้ บั ทรัพยากรแรและพลังงานในแตละทวีปมี
ทะเลทราย จึงมีสภาพภูมิอากาศแหง้ แลง้ บาดเจ็บหรือล้มตาย ไม่มีแหล่งอาศัยหรือ ปญหาท่แี ตกตางกนั คืออะไร
พชื และสตั วม์ นี อ้ ย อาหาร ทา� ใหส้ ญู เสียความหลากหลายและ • กิจกรรมของมนุษยกอใหเกิดปญหา
• เอเชียใต้ มกี ารรุกล้า� ป่าเพ่ือทา� การเกษตร ระบบนิเวศ ทรพั ยากรปา ไมแ ละสตั วป า ปญ หาทรพั ยากร
แรแ ละพลังงานไดอยา งไร
ทา� ใหป้ ่าไม้ลดลง และมกี ารล่าสัตว์ปา่ เพอ่ื • หมู่เกาะโปลินีเซีย หลายประเทศพื้นท่ี
การค้า ปา่ ไมล้ ดลงมาก นอกจากน ้ี มกี ารทา� ลายปา่
• เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต ้ มกี ารบกุ รกุ ปา่ เพอ่ื เพอ่ื การเกษตร ทา� ใหส้ ตั วป์ า่ หลายชนดิ และ
ท�าการเกษตร เช่น ปลูกยางพารา ปาล์ม พนั ธพ์ุ ชื หายาก เชน่ สน ปรง ถกู เผาจนเกอื บ
น�้ามัน ท�าอุตสาหกรรมป่าไม้ มีการล่า สญู พนั ธุ์ ส่วนนวิ ซีแลนดป์ ระสบกับปญหา
สตั วป์ ่าเพ่อื การคา้ การตัดไม้ท�าลายป่า ท�าให้เส่ียงต่อการ
• เอเชียตะวันออก นับต้ังแต่มีการปฏิรูป สญู พนั ธส์ุ ตั วป์ า่ และพชื ประจา� ถนิ่ บางชนดิ
เศรษฐกิจ จึงมีการตัดไม้เพ่ือน�ามาใช้
ประโยชน์ ทา� ให้ป่าไม้ลดลง ไฟป่าเปน สาเหตุส�าคญั ประการหนง่ึ ของการลดลง
ของพื้นทปี่ า่ ไม้
131
กจิ กรรม สรางเสริม ส่ือ Digital
ครจู ัดกิจกรรมสงเสริมส่ิงแวดลอ มในทอ งถิ่น โดยใหนกั เรยี น ศึกษาคนควาขอมูลเพ่ิมเติมเกี่ยวกับปญหาทรัพยากรปาไมและสัตวปา
ทํากิจกรรมปลูกตนไมในวันสําคัญทางศาสนาหรือวันเฉลิม ไดท ี่ www.greenpeace.org, http://www.dnp.go.th,
พระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว ร.9 จํานวน www.aussiecenter.org
คนละ 1 ตนท่บี า น วัด หรือโรงเรยี น ตามความเหมาะสม เพอื่
ปลูกจิตสํานึกใหนักเรียนมีสวนรวมในการอนุรักษธรรมชาติและ
สิ่งแวดลอ มอยางยั่งยนื
T139
-
1
–
50
-
51
–
100
-
101
–
150
-
151
–
162
Pages:
pdf (read online) Google classroom: The Ultimate 2020 Guide for Teachers and Students with the Latest Updates for an Effective Learning
ebook (download) Lesson Planner for Teachers 2018-2019: Weekly and Monthly Teacher Planner | Academic Year Lesson Plan and Record Book (July 2018 through June 2019)
[Update] แนะนำ 10 หนังที่ตัวเอกเป็นประธานาธิบดี | ทํา เนีย บ ครู – NATAVIGUIDES
SMP [SHOKUGAN MODELING PROJECT] ALTERNATIVE DESTINY EXKAISER
Go with me EXKAISER
บัวขาว แอโรบิค
ชมรมพ่อค้าแม่ค้าอำเภอกุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ตั้งชมรมคนรักสุขภาพขึ้น เมื่อปี 2547ถ่ายทำที่ เกาะกลางอ่างเลิงซิว เทศบาลเมืองบัวขาว เทคนิค ถ่ายภาพ ตัดต่อ โดย ครูสุริยันต์ อรัญวาส ครูชำนาญการพิเศษ เอกดนตรีศึกษา โรงเรียนบัวขาว อบจ.กาฬสินธุ์ 089 277 7795
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่
ย้อนเหตุวินาศกรรมเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในสหรัฐฯ
TNN24 พาย้อนไปดูภาพเหตุการณ์นาทีระทึก เมื่อเครื่องบิน 2 ลำ พุ่งชนอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ตึกระฟ้าคู่แฝด ในนครนิวยอร์ก ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมกว่า 3,000 คน นับเป็นเหตุวินาศกรรม ที่เลวร้ายที่สุด ภายในดินแดนสหรัฐอเมริกา
Don’t miss our English Program \”TNN Thailand News\”
With Varin Sachdev \u0026 Tin Chokamolkit 22.00 22.15 MonFri
TNN24 ออกอากาศทางทีวีช่อง 16
ชมสดได้ที่ http://www.tnnthailand.com/player.php
เกาะติดข่าวเด่นประจำวันได้ที่
http://www.tnnthailand.com
http://www.fb.com/TNN24
http://twitter.com/tnnthailand
https://www.instagram.com/tnnthailand/
สถานีข่าวโทรทัศน์ TNN24 เป็นสถานีข่าวที่ถือหลักการของการนำเสนอข่าวตรงประเด็น ทันทุกความจริง รวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ และเป็นกลาง โดยทีมข่าวมืออาชีพ
ออกแบบสร้างทำเนียบบุคลากรด้วย Photoshop CS6
ออกแบบสร้างทำเนียบบุคลากรด้วย Photoshop CS6 ,การใช้งานเบี่องต้น Photoshop
แอบฝัน รักเดียวใจเดียว – ชัวร์ ชะชะช่า (เต้นโดย กลุ่มพัฒนาสตรีเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์)
แอบฝัน รักเดียวใจเดียว ชัวร์ ชะชะช่า (เต้นโดย กลุ่มพัฒนาสตรีเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์)
4 กรกฎาคม 2562
Phnompenh Boy – จองบานเนียง (Jongbanniang) official MV
Artist : Phnompenh Boy
Lyrics : Sixnine , Nara Wazabi
Prod : By Lil Tong
Mix\u0026Mastering : By Neversole
ติดต่องานคอนเสิร์ต,อีเวนท์,สปอนเซอร์
Line Id : ngodngam2021
Tle : 0839487343
Fanpage Facebook : Huya
จองบานเนียง พนมเปญบอย
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN TO MAKE A WEBSITE
ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ทํา เนีย บ ครู