Skip to content
Home » [Update] จำศัพท์ง่ายๆ ด้วย Prefix | irregular แปลว่า – NATAVIGUIDES

[Update] จำศัพท์ง่ายๆ ด้วย Prefix | irregular แปลว่า – NATAVIGUIDES

irregular แปลว่า: คุณกำลังดูกระทู้

วันนี้เรามีบทความดีๆจากเว็บบล็อกหนึ่งมาฝากกันครับ  เป็นข้อมูลที่น่าสนใจมากๆ ขอขอบพระคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ ^^

[Dis-] = Not
ไม่ว่าจะคำไหนๆ เจอ dis- ใส่เข้าไป
ความหมายตรงข้ามทันที !

dis + like = dislike (v.)
คำนี้พอรวมกันแล้วก็คือ “ไม่ชอบ” นั่นเองครับ
*(อย่าสับสนคำนี้กับคำว่า unlike นะครับ เพราะคำว่า unlike จะแปลว่า 
ต่างกัน หรือ ไม่เหมือนกัน เพราะ like คำนี้เป็น preposition ครับ)

dis + agree = disagree (v.)
ไม่เห็นด้วย เชอะ!

dis + able = disable (v.)
แปลว่า ทำให้สูญเสียความสามารถบางอย่าง หรือยกเลิก หยุดทำ
คำนี้ถ้าทำเป็น adj. จะเขียนว่า “disabled” ซึ่งจะ
หมายถึงผู้พิการครับ (ex. disabled people / the disabled)

dis + advantage = disadvantage (n.)
แปลว่าข้อเสียครับ ตรงข้ามกับ advantage (ข้อดี)

dis + appear = disappear (v.)
หายแว๊บไปแล้ว (ไม่ปรากฏ)

prefix ตัวนี้มันร้ายครับ มันผันตัวเองไปเป็น noun (ex) เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่จะแปลว่า อดีตคนรัก (ที่เคยแต่งงานแล้ว) หรือแฟนเก่าได้ทันที! ใช้แบบไม่เป็นทางการเท่าไหร่ (ex. Last year at Paris, I saw my ex. – -”)

ex-husband / ex -wife (n.) เมื่อใส่ ex- ไปแล้ว กลายเป็นอดีตสามี หรืออดีตภรรยา ไปเลยครับ

[Ex-] = Former อดีตที่แสนหอมหวาน โฮ่ๆๆ

dis + arm =(v.)คำนี้ไม่ได้แปลว่า ไม่มีแขนนะครับ ฮ่าๆๆ คำว่า arm นั้นนอกจากแปลว่าแขนแล้ว เมื่อมันอยู่ในรูปพหูพจน์ตลอดกาลอย่าง arms จะแปลว่า อาวุธ ได้ด้วยครับให้นึกถึงคำว่า armory (n.) ซึ่งหมายถึง อาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารครับdisarm เลยแปลได้ว่า ปลดอาวุธ หรือว่า เลิกใช้อาวุธ ครับdis + figure =(v.)ปกติแล้ว figure (n.) แปลว่า หุ่น รูปร่าง ลักษณะ ประมาณนี้ครับคำนี้เมื่อรวมร่างกับ dis- แล้วเลยแปลว่า ทำให้ผิดรูปร่างอย่างเช่น คนที่ประสบอุบัติเหตุ หรือวัตถุที่ได้รับความเสียหาย(ex. Because of the last-year accident, his arm has been disfigured.)dis + grace =(n./v.)grace คือ ดูดี สง่างาม เมื่อเจอกับ dis- ความหมายจะไปในเชิงว่า ทำให้เสื่อมเสียจะคล้ายๆกับคำว่า dishonor (ทำให้เสื่อมเสียเกียรติยศ = honor),discredit (ทำให้สูญเสียความน่าเชื่อถือ = credit / credibility) คำนี้คนไทยใช้บ่อยครับและ disrepute (ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง = repute / reputation)

พอใส่ extra- ไปป๊าป แปลว่า ไม่ธรรมดา โดดเด่น
เหมือนกับคำว่า exceptional, remarkable (adj.) เลยล่ะครับคำนี้เป็นคำนึงในภาษาอังกฤษที่ผมชอบเป็นการส่วนตัวมากๆ นอกจากรูปร่างหน้าตา
ของมันแล้ว เวลาออกเสียงเราจะอ่านว่า “อิกซ์-ตร๊อ-ดิ-แน-หริ” ไม่ได้ออกว่า เอ็กซ์ตร้า..

แม๊ะ มันแนวจริงอะไรจริง!

in + accessible = inaccessible (adj.) access (v.) คือ “เข้าถึง” ครับ accessible (adj.) เป็นรูปคำคุณศัพท์ของเจ้าตัวนี้ เจอพี่ in- มาอยู่ข้างหน้า เลยแปลว่า “เข้าไม่ถึง” หรือ “ไม่สามารถเข้าถึงได้” ว๊า แย่จัง..

im + possible = impossible (adj.) โอ้วว คำนี้ยอดฮิตเลยนะเนี่ย possible = เป็นไปได้ครับ impossible ก็ เป็นไปไม่ได้น่ะสิ (ดึม ดึม ดือ ดื๊อ ดึม ดึม) เปิดเพลงประกอบ Mission Impossible 😛

ไอ้หนู: เบาะแบะๆ บลาๆๆ งุงิๆ
ยาย: So illiterate… (งอน แล้วเดินไปตำหมากหลังบ้าน อย่างไม่แคร์สื่อ)literate (adj.) มาจาก literacy (n.) ครับ หลายๆครั้งจะมีการทำสถิติสำรวจ
literacy rate ตามประเทศต่างๆ ซึ่งก็คือ อัตราการอ่านออกเขียนได้ของประชากรในประเทศนั้นๆ
พอใส่ il- เข้าไปก็เลยแปลว่า อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ซะเลย[ir-] 

ยาย: ไอ้หนู โตป่านนี้แล้ว ทำไมยังอ่านไม่ออก เขียนหนังสือก็ไม่ได้ ห๊ะ!ไอ้หนู: เบาะแบะๆ บลาๆๆ งุงิๆยาย: So illiterate… (งอน แล้วเดินไปตำหมากหลังบ้าน อย่างไม่แคร์สื่อ)literate (adj.) มาจาก literacy (n.) ครับ หลายๆครั้งจะมีการทำสถิติสำรวจliteracy rate ตามประเทศต่างๆ ซึ่งก็คือ อัตราการอ่านออกเขียนได้ของประชากรในประเทศนั้นๆพอใส่ il- เข้าไปก็เลยแปลว่า อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ซะเลย

ir + regular = irregular (adj.)
regular แปลว่า ปกติ สม่ำเสมอ ครับ พอใส่ prfix ตัวนี้เข้าไปก็เลยแปลว่า ผิดปกติ

ถ้าใครจำ Verb ในภาษาอังกฤษได้ว่า verb จะสามารถแบ่งเป็น
กลุ่มปกติ (เพราะเติม -ed) กับกลุ่มไม่ปกติ (เพราะเปลี่ยนรูป)

1. regular verbs: walk walked walked / study studied studied
2. irregular verbs: go went gone / drink drank drunk

ir + rensponsible = irresponsible (adj.)
responsible เฉยๆ แปลว่า รับผิดชอบครับ irresponsible ก็คือ ขาดความรับผิดชอบ

ir + relevant = irrelevant (adj.)
ถ้าใครรู้จักคำว่า relate (v.) ก็น่าจะเดาคำนี้ได้นะครับ relate แปลว่าเกี่ยวข้อง
คำว่า relative (n.) แปลว่า ญาติๆของเรา (คนที่เกี่ยวของกับเรา)
relevant (adj.) ก็แปลว่า เกี่ยวข้อง ครับ
งานนี้ irrelevant ใครไม่เกี่ยวก็ถอยปายยย…

. . .

[sub-] อยู่ข้างล่างโน๊นนน

submarine (n.)
คำนี้มาจาก marine (adj.) แปลว่า เกี่ยวกับทะเล
submarine ก็เลยเป็น เรือดำน้ำครับ

subway (n.)
way คือ เส้นทาง ทางเดิน ใช่มั้ยครับ
subway ก็ลงไปอยู่ใต้ทางเดิน –> รถไฟใต้ดิน นั่นเอง
(ในอังกฤษจะเรียกรถไฟใต้ดินว่า The underground ครับ)

sub-standard (adj.)
ต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่ผ่านนะเนี่ยยยย Frown

subtitles (n.)
title คือหัวข้อเรื่อง ใส่ sub- เข้าไปก็เลยกลายเป็น คำบรรยายที่อยู่ด้านล่าง
ในภาพยนตร์ต่างประเทศต่างๆครับ
(ใครอยากเก่งภาษา ต้องเปิด soundtrack: English กับ Subtitles: English นะครับ อิๆ)

submerge (v.)
คำนี้ไม่ต้องแยกอีกเช่นกัน มันมาด้วยกันครับ
แต่มี prefix sub- แฝงอยู่ เลยให้ความหมายไปในเชิง under, below ครับ
คำนี้เลยแปลว่า จมน้ำ อยู่ใต้น้ำ ด้วยประการฉะนี้

. . .

[re-] อีกทีได้ป๊ะ ?!?

re + view = review (n./v.)
view = มุมมอง review ก็ประมาณ มองดูอีกครั้ง
แปลว่า ทบทวน หรือ ตรวจสอบ บางอย่าง ครับ

re + assure = reassure (v.)
คำว่า assure (v.) เอง มาจาก sure ครับ แปลว่า ทำให้มั่นใจ
นี่ถ้ายังไม่มั่นใจอีก สงสัยต้อง reassure ซ้ำอีกครั้ง

re + birth = rebirth (n.)
อืมม.. คำนี้ไม่ได้แปลว่า เกิดใหม่ นะครับ ฮาา
มันจะแปลว่า อะไรที่เปลี่ยนใหม่ ทำใหม่ ดีขึ้น ราวกับได้เกิดใหม่ปานนั้น

re + chargeable = rechargeable (adj.)
มาจาก charge ที่แปลว่า ชาร์จ (แบต) นั่นแหละครับ
charge + able เป็น suffix (ซึ่งผมจะพูดถึงในตอนหน้าครับ) กลายเป็น adj.
แปลได้ว่า สามารถนำไปชาร์จได้
พอใส่ prefix re- เข้าไปอีก ยิ่งเมพครับ คือชาร์จได้เรื่อยๆ
(ex. Do you have any rechargeable battery?) 

re + define = redefine (v.)
define คือ ให้ความหมาย ให้คำนิยามครับ มาจาก definition (n.)
เพราะฉะนั้น การ redefine บางอย่าง คือการให้คำจำกัดความใหม่
อาจจะใช้กับอะไรที่มันเดิมๆ น่าเบื่อๆ แล้วเราเอามาทำใหม่ให้ดูน่าสนใจขึ้น

re + produce = reproduce (v.)
produce แน่นอนครับ แปลว่า ผลิต reproduce ก็เลยมีความหมายไปในเชิงที่ว่า
ทำซ้ำ ทำสำเนาเพิ่มขึ้น

. . .

[inter-] ระหว่างเธอกับฉัน ><

inter + national = international (adj.)
คำนี้คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีครับ
national มาจาก nation (n.) แปลว่า ชาติ ใช่ไหมครับ
international ก็คือ ระหว่างประเทศ / นานาชาติ

(เพราะฉะนั้น international school, program, หรืออะไรก็ตาม
ก็หมายถึงต้องมีประเทศอื่นๆมาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งก็จะใช้
ภาษาอังกฤษ เป็นภาษากลางในการติดต่อสื่อสารครับ)

inter + active = interactive (adj.)
อะไรก็ตามที่ active ก็คือ ตื่นตัว ทีนี้ คนเดียวไม่พอสิครับ มันต้องแบ่งๆกัน
interactive ก็เลยหมายถึง มีการสื่อสารกันสองทาง
อย่างเช่นโปรแกรมบางอย่าง ที่เราสามารถป้อนคำสั่งต่างๆเข้าไป และตอบสนอง
กับโปรแกรมนั้นได้ครับ

interview (n./v.)
เราใช้กันบ่อยมากๆครับ คำนี้มี prefix inter- แฝงตัวอยู่
การสัมภาษณ์ก็คือ การพูดคุย”ระหว่าง”คนสองคน (ขึ้นไป) ครับ

intermediate (n./adj.)
การแบ่งผู้เรียนออกเป็นระดับต่างๆ ก็มักจะใช้คำนี้ครับ
intermediate คือคนที่อยู่ระดับกลางๆ
คืออยู่ ระหว่าง beginner กับ advanced นั่นเอง

. . .

[pre-] มาก่อน ได้ก่อน

pre + caution = precaution (n.)
ใครเคยเจอป้าย แล้วเขียนว่า caution หรือ warning มั้ยครับ
ทั้งสองคำหมายถึง การระมัดระวัง คำเตือน (ถึงอันตรายต่างๆ)
precaution ก็คือ การป้องกันไว้ก่อน (ดีกว่ามาแก้ภายหลัง) win เลยคำนี้

predecessor (n.)
คำนี้มี prefix pre- แอบอยู่ ให้ความหมายว่า ผู้ที่มาก่อน หรือมีอยู่ก่อนแล้ว
คู่แฝดของมันคือ *forerunner ครับ ความหมายเหมือนกันเลย

*prefix [fore-] ก็ให้ความหมายว่า “ก่อน” เหมือนกันครับ
อย่าง foretell –> fore + tell หรือ foresee –> fore + see แปลว่า ทำนาย
(เห็นก่อน บอกก่อน ฮ่าๆ แต่ถูกหรือเปล่านี่ อันนี้ ตัวใครตัวมันนะคร้าบบ)

pre + determiner = predeterminer (n.)
เข้าเรื่องไวยากรณ์นิดนึงครับ ในภาษาอังกฤษ เราจะมี determiner(s) คำนำหน้านามต่างๆ
อย่างเช่น articles: a, an, the นี่ก็ใช่ครับ หรือ demonstratives: this, that, these, those
นี่ก็ด้วย เพราะฉะนั้น predeterminer คือคำที่มันมาแรงมากกกก
มันมา”ก่อน” คำนำหน้านามอีก ตัวอย่าง คำว่า “all” คำนี้

(ex. All the time he keeps annoying me!)

predict (v.) / predictable (adj.) / prediction (n.)
คำนี้รากเดิมคือคำว่า dict แปลว่าพูดครับ ปัจจุบันมีคำว่า
dictate (v.) = เขียนตามที่พูด
dictation (n.) = การเขียนตามคำบอก
predict  บอกก่อนล่วงหน้า เลยแปลได้ว่า = ทำนายทายทัก นั่นเองครับ
(ญาติๆของคำนี้ผมก็ยกตัวอย่างไปข้างบนแล้ว คือ foretell กับ foresee นะจ๊ะ) ^^

pre + historic = prehistoric (adj.)
pre + history = prehistory (n.)
สองคำนี้ต่างกันนิดเดียวครับ คำแรก prehistoric จะใช้ขยายสิ่งของ/คนหรืออะไร
ก็ตามที่เกิด “ก่อน” ประวัติศาสตร์ครับ
ส่วน prehistory คือช่วงเวลาก่อนจะมีประวัติศาสตร์เกิดขึ้น

(ex. During prehistory, this prehistoric temple was partially destroyed.
ในช่วงยุคก่อนประวัติศาสตร์ วัดที่สร้างก่อนยุคประวัติศาสตร์แห่งนี้ได้ถูกทำลายไปบางส่วน)

. . .

[un-] ปฏิเสธตัวแม่!!

[Update] กริยา3ช่อง irregular verb ภาษาอังกฤษAbcdeมีคำแปล | irregular แปลว่า – NATAVIGUIDES

กริยา3ช่อง irregular verbs ภาษาอังกฤษพร้อมคำแปลหมวด ABCDE นี้มีคำศัพท์ที่ใช้เป็นประจำเช่น eat ate eaten

เวลาเราเรียนภาษาอังกฤษ นอกจากคำศัพท์ที่ท่องๆกันโดยทั่วไปไม่ว่าจะเป็น Noun Verb Adverb Adjective สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมากอีกเรื่องหนึ่งคือกริยา 3 ช่อง ที่ควรรู้ไว้บ้างเนื่องจากต้องใช้ในการ พูด หรือเขียน เพื่อสื่อสารให้เป็นไปตามหลักของแกรมม่าที่ชวนปวดหัวสำหรับคนที่กำลังเริ่มเรียนภาษาอังกฤษกันนะคะ

เช่น  go = ไป(กริยา 3 ช่องคือ verb 1: go/ verb 2: went /verb 3: gone ) คำง่ายๆที่เราคุ้นเคยนี้หากเราไม่เรียนรู้กริยา 3 ช่องไว้บ้าง เวลาที่เราจะสื่อสารเรื่องราวที่แตกต่างกันไปตามสถานการณ์ให้ถูกต้องตามหลักแกรมม่าก็คงไม่ได้

เช่น เราอยากสื่อสารว่า เราไปโรงเรียน ในสถานการณ์ต่างๆ เรารู้คำศัพท์ว่า go แปลว่าไป (go/went/gone)  แต่เวลาจะสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษที่ต้องใส่โครงสร้างของแกรมม่าเพื่อให้เข้าใจว่าเราต้องการสื่อสารหมายถึงสถานการณ์แบบไหนเช่น จะไปพรุ่งนี้ ไปเป็นประจำ ไปมาแล้วเมื่อวานตอน 7 โมงเช้า หรือ เมื่อวานไป ก่อนที่น้องสาวจะตื่น

  1. I will go to school tomorrow.
  2. I go to school every day.
  3. I went to school yesterday at 7 a.m
  4. I had gone to school before my sister woke up.

พอจะนึกภาพออกบ้างแล้วใช่ไหมคะว่า กริยา3 ช่องมีความสำคัญอย่างไร ถ้าใครอยากเก่งภาษาอังกฤษก็ต้องขยันท่องกริยา3 ช่องกันนะคะ

ตัวอย่างกริยา 3 ช่อง (หากดูตารางบนมือถือให้ดูแบบแนวนอน)

กริยาช่อง 1 (Base form)

กริยาช่อง 2 (Past tense)

กริยาช่อง3 (Past Participle )

ความหมาย

go

went

gone

ไป

drink

drank

drunk

ดื่ม

sing

sang

sung

ร้องเพลง

กริยาสามช่องภาษาอังกฤษ แบบ Irregular verb คือกริยาที่ไม่ได้อยู่ในรูปปกติจะเปลี่ยนรูปคำไปตามประธานหรือ tense ที่แต่งประโยค  เช่น I am, You are, He is, they are เมื่อเปลี่ยน tense ก็เปลี่ยนรูป was, were, been หรือ I eat, I ate, I have eaten ส่วน Regular verb นั้นเมื่อเปลี่ยน tense ก็จะเติม -ed ต่อท้ายคำกริยา เช่น He allows, He allowed, he has allowed เป็นต้น ดังนั้นสิ่งที่ยากคือเราควรพยายามท่องจำคำศัพท์ที่เปลี่ยนรูปอย่าง irregular verb จำคำที่พบได้บ่อย ๆ ก่อน จากนั้นค่อยเพิ่มคำตามประสบการณ์การใช้คำศัพท์ของแต่ละบุคคล ซึ่งมีอยู่ประมาณ 600 กว่าคำ ส่วนนอกเหนือจากคำที่เราท่องจำก็สามารถคาดเดาได้ว่าเป็นกริยาแบบ Regular verb เมื่อเปลี่ยน tense ก็ให้เติม -ed ต่อท้ายคำกริยา ซึ่งบางคำอาจมีได้สองแบบตามความนิยมและแตกต่างกันในส่วนของอังกฤษแบบ American English และ British English ซึ่งก็ต้องค่อยๆสะสมความรู้ไปเรื่อย ๆอย่างท้อถอยค่ะ

ฝึกท่องศัพท์กริยาสามช่องแบ่งเป็นหมวดอักษรเพื่อช่วยให้จำได้ง่ายขึ้นและเมื่อท่องจำครบแล้วให้ลองทดสอบความจำว่าเราจำได้แม่นยำหรือไม่ จำได้กี่คำโดยสามารถเข้าไปลองทดสอบความจำของตนเองได้ที่นี่ค่ะ ฝึกจำกริยา3ช่องirregular verbs250คำใน25วัน

คำศัพท์กริยา 3 ช่องภาษาอังกฤษ หมวด ABCDE SET 49 คำ

A SET/2คำ

1= arise |  arose |  arisen
[เกิดขึ้น ลุกขึ้น สูงขึ้น]

2= awake |   awoke  | awakened หรือ
awake |  awakened  |awakened
[กระตุ้น ตื่น]

B SET/24คำ

3= backslide |  backslid  | backslidden หรือ
backslide |  backslid |backslid
[ถอยกลับ เสื่อม]

4= be  | was, were  | been
 [เป็น อยู่ คือ]

5= Bear |  bore  | born  หรือ
Bear  | bore  |  borne
[ทน พยุง]

6= Beat|   beat|   beaten  หรือ
Beat|  beat  |  beat
[ตี ทำให้พ่ายแพ้]

7= become | became | become
[กลายเป็น]

8= begin   |    began |  begun
[เริ่ม ขึ้นต้น เกิดขึ้น]

9= bend |  bent  |  bent
[ทำให้โค้ง หันเห]

10= bet |  bet |  bet  หรือ
bet  |  betted  | betted
[พนัน]

11= bid (farewell) |  bid |  bidden หรือ
bid (farewell) |  bade   |  bidden
[กล่าว บอก (อำลา)]

12= bid (offer amount)|  bid  | bid
[ให้ราคา ประมูล]

13= bind |  bound |  bound
[ผูก เย็บเล่ม มัด]

14= bite |   bit |  bitten
[กัด แมลงต่อย]

15= bleed  |  bled  | bled
[เลือดออก]

16= blow |  blew |  blown
[พัด เป่า]

17= break  |  broke |  broken
[ทำลาย ละเมิด แตก]

18= breed |  bred |  bred
[แพร่พันธุ์ ฟักไข่]

19= bring |  brought  | brought
[พามา ไปเอามา]

20= broadcast  | broadcast  |broadcast  หรือ
broadcast|broadcasted |  broadcasted
[กระจาย เผยแพร่]

21= browbeat  | browbeat  | browbeaten หรือ
Browbeat   |browbeat   |browbeat
[ข่มขู่ รังแก]

22= build |  built |  built
[สร้าง]

23= burn  | burnt   |burnt หรือ
burn  | burned |  burned
[ไหม้ แผดเผา]

24= burst |  burst |  burst
[ระเบิด ลั่น]

25= bust |  bust |  bust หรือ
bust  | busted |  busted
 [ทำพังเสียหาย จับกุม]

26= buy  | bought |  bought
[บาย ซื้อ]

C SET/ 10 คำ

27= cast |cast |cast
[เลือกคนแสดง ขว้าง]
28=catch |caught| caught
[จับ ดึงดูด]
29= choose| chose |chosen
[เลือก]
30= cling |clung |clung
[ยึด ติดกับ]
31= clothe |clothed |clothed หรือ
clothe |clad |clad
[แต่งตัว]
32=come| came |come
[เกิดขึ้น มาถึง กลายเป็น]
33=cost| cost| cost
[คำณวณเงิน มีราคาแพง มีมูลค่า]
34=creep |crept| crept
[คลาน เคลื่อนที่อย่างช้าๆ]
35=crossbreed |crossbred |crossbred
[ผสมข้ามพันธุ์]
36=cut |cut |cut
[ตัด]

D SET/ 11คำ
37= daydream |daydreamed |daydreamed หรือ
Daydream | daydreamt |daydreamt
[ฝันกลางวัน]
38= do| did |done
[ทำ]
39= dig| dug |dug
[ขุด]
40= disprove | disproved |disproved หรือ
disprove | disproved | disproven
[พิสูจน์หักล้าง]
41= drive | drove | driven
[ตีลูกกอล์ฟให้ไกลออกไป ออกแรง บังคับ]
42= dive | dove | driven
[ดำน้ำลึก scuba]
43= drive | drove | driven
[ขับรถ ]
44= drink | drank | drunk
[ดื่ม]
45= draw | drew | drawn
[วาด ดึงดูดความสนใจ ลาก ดึง]
46= dream | dreamed | dreamed หรือ
dream| dreamt | dreamt
[ฝัน]
47= dwell | dwelt | dwelt หรือ
dwell | dwelled| dwelled
[อาศัยอยู่ คำนึงถึง]
48= deal | dealt| dealt [จัดการ ดำเนินการ ทำตาม]

E SET/1คำ
49= eat | ate | eaten
[กิน]

ทดสอบความจำตนเอง กริยา3ช่องirregular verbs300คำ ใน30วันได้ที่นี่

*อ่านหมวดคำศัพท์อื่นโดยคลิ๊กลิ้งค์ด้านล่างจาก tags : “กริยา3ช่องอังกฤษ”

หากต้องการเพิ่มคำศัพท์ กริยาสามช่องแบบเติม-ed หรือ regular verb และดิกชันนารี่ภาษาอังกฤษลองหาซื้อได้จากร้านหนังสือออนไลน์ของนายอินทร์ได้ค่ะ

หมวดคำบางส่วนกำลังดำเนินการ…โปรดติดตามต่อไป

info: dictionary.cambridge, englishpage, longdo, longman dicttionary, thefreedictionary


Common Irregular Verbs | Definition \u0026 Examples


This video explores the types of irregular verbs.
We hope you enjoyed this video! If you have any questions please ask in the comments.
Please like subscribe and share your comments with us!\r
Be sure to follow us on Instagram for daily tips and tricks in learning English: https://www.instagram.com/ilearneasyenglish

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

Common Irregular Verbs | Definition \u0026 Examples

K PSY LATER ใช้ก่อนผ่อนทีหลังสมัครอย่างไร


กสิกรไทยกสิกรไทยซึ่งต้องสมัครผ่าน app k plus นะคะ โดยต้องอัพเดท app k plus เป็นเวอร์ชั่น 5.15 สำหรับมือถือ android นะคะ
ท่านใดที่อัพเดทไม่ได้นะคะให้เปิดที่ googleและพิมพ์ว่าอัพเดท k plusเวอร์ชั่น 5.15
ไปลองดูวิธีการสมัครนะคะฝากกดไลค์กดแชร์กดติดตามด้วยนะคะ

K PSY LATER ใช้ก่อนผ่อนทีหลังสมัครอย่างไร

ภาษาอังกฤษป.5 Irregular Verbs กริยา 3 ช่อง (คำกริยาที่ผันไม่ปกติ)


ภาษาอังกฤษป.5 Irregular Verbs กริยา 3 ช่อง (คำกริยาที่ผันไม่ปกติ)

Irregular Verbs


คลิปวิดีีโอนี้เพื่อการเรียนการสอนในช่วงโรคระบาดโควิท ไม่จัดทำเพื่อแสวงหากำไร หรือรายได้แต่อย่างใด

Irregular Verbs

English Irregular Past Tense Verbs – Vol. 1


This video tests your knowledge of some common irregular past tense verbs in English. Can you name the past form before it appears? The video is also helpful to teach the meaning of the verb since it is shown in context. Play the video more than once to help you practice.
For more English practice on the computer, visit www.verbninja.com

English Irregular Past Tense Verbs - Vol. 1

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN TO MAKE A WEBSITE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ irregular แปลว่า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *