การใช้ apostrophe: คุณกำลังดูกระทู้
สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นป.6 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่อง การใช้ Possessive Pronoun ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจ้า
บทนำ
Possessive pronoun (เช่น mine, yours, hers) ถือเป็นหัวข้อหนึ่งในภาษาอังกฤษที่หลายคนมักจะสับสน นั่นก็เพราะมันมีความคล้ายคลึงกับ Possessive adjective (เช่น my, your, her)
ลองเปรียบเทียบประโยคเหล่านี้ดูนะคะ
A honeybee has two wings on each side of its body.
(ผึ้งตัวหนึ่งมีปีกสองข้างอยู่แต่ละข้างของตัวมัน)
This car is mine. The other one is yours.
(รถคันนี้เป็นของฉัน อีกคนเป็นของคุณ)
Her table is here. Yours is over there.
(โต๊ะของเธออยู่ที่นี่ ของคุณอยู่ตรงนั้น)
ความหมายของ Possessive pronoun
คำว่า possessive แปลว่า “ซึ่งเป็นเจ้าของ” ส่วนคำว่า pronoun นั้นแปลว่า “คำสรรพนาม” ซึ่งก็คือคำที่ใช้แทนคำนามเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของนั่นเองค่า Possessive pronoun นั้นๆ ได้แก่ mine, yours, his, hers, its, ours, theirs (จะไม่มีคำนามมาตามหลัง)
นักเรียนอาจจะเคยได้เรียนเรื่อง Possessive adjective มาบ้างแล้ว ตารางด้านล่างนี้แสดงรายละเอียดของทั้ง possessive adjective หรือ คำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของ
Possessive adjective
Possessive pronoun
ความหมาย
My
Mine
ของฉัน
Her
Hers
ของเธอ
Its
Its
ของมัน
Our
Ours
ของพวกเรา
Their
Theirs
ของพวกเขา, ของพวกมัน
Your
Yours
ของคุณ หรือ
ของพวกคุณ
His
His
ของเขา
ความต่างระหว่าง Possessive adjective และ Possessive pronoun
Possessive adjective ซึ่งก็คือ my, your, his, her, its, our, their ทำหน้าที่เป็นคำคุณศัพท์ ใช้ขยายคำนาม เวลาใช้จะต้องมีคำนามตามหลัง
ตัวอย่างประโยค เช่น
- ⚠ จุดที่มักผิดบ่อยๆ
✅ ถูก: Don’t judge a book by its cover.
แปลว่า อย่าตัดสินหนังสือจากหน้าปก
🔴 ผิด: Don’t judge a book by it’s cover.
แปลว่า อย่าตัดสินหนังสือจากมันคือหน้าปก
(ถ้าเราใส่ apostrophe ผิดที่ความหมายเปลี่ยนเลยนะคะ)
- อธิบายการใช้ apostrophe
“It’s VS Its “
It’s ย่อมาจาก It is และมี ‘(apostrophe) เพื่อช่วยในการย่อคำ
Its ที่ไม่มี apostrophe ก็คือหนึ่งในสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของค่ะ
ไปลุยกันต่อที่ตารางแสดงความแตกต่างในรูปแบบประโยคด้านล่างนะคะ
ลองเทียบกันชัดๆว่า มันใช้ยังไงกันแน่
ดังตัวอย่างต่อไปนี้
This is your bag./ This bag is yours.
นี่ คือกระเป๋าของคุณ/ กระเป๋าใบนี้ เป็นของคุณThese are his toys./ These toys are his.
นี่คือของเล่นของเขา / ของเล่นเหล่านี้เป็นของเขาThose are her clothes. / Those clothes are hers.
นั่นคือเสื้อผ้าของเธอ / เสื้อผ้าเหล่านั้นเป็นของเธอThat is our puppy./ That puppy is ours.
นั่นคือลูกสุนัขของเรา / ลูกสุนัขตัวนั้นเป็นของเราThis is their book./ This book is theirs.
นี่คือหนังสือของพวกเขา / หนังสือเล่มนี้เป็นของพวกเขาMy wallet is beautiful but I like yours.
กระเป๋าเงินของฉันสวย แต่ฉันชอบของคุณ
- ตัวอย่างประโยคสนทนา
Jane: Is that my dress?
เจน: นั่นชุดฉันเหรอ
Tiffany: No! It’s mine!
ทิฟฟานี่: ไม่ใช่ มันเป็นของฉัน
Possessive Adjectives + Noun
Possessive Pronouns
My
My body
Mine
These cars are mine.
รถเหล่านี้เป็นของฉัน
Your
Your book
Yours
This book is yours.
หนังสือเล่มนี้เป็นของคุณ
His
His house
*His
This bag is his.
กระเป๋าใบนี้เป็นของเขา
Her
Her school
Hers
That house is hers.
บ้านนั้นเป็นของเธอ
Our
Our home
Ours
This money is ours.
เงินนี้เป็นของเรา
Your
Your bag
Yours
These dresses are yours.
ชุดเหล่านี้เป็นของคุณ
Their
Their car
Theirs
These seats are theirs.
ที่นั่งเหล่านี้เป็นของพวกเขา
แบบฝึกหัด
คำสั่ง: จงเลือกเติมคำจากวงเล็บด้านหลังประโยคมมาเติมลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
- Tim had ____ hair cut. (his, hers)
- It was his fault, not _____ (their, theirs).
- Jane: Is that bag Mary’s?
Jessica: I think it’s ____.(her, hers)
- Tom: Is that Rosie and David’s car?
Daniel: Yes, it’s ____.(his, their, theirs)
- Is that umbrella ____ or mine (your, yours).
- He didn’t have an umbrella, so she gave him ____. (her, hers)
- I gave him my address and he gave me ____. (his, hers)
- A honeybee has two wings on each side of ____ body. (its, it’s, it)
- This hat is ____ (my, mine). The other one is ____ .(your, yours)
- _____ book is here. (Her, Hers) _____ is over there. (Your, Yours)
เฉลย:
- Tim had his hair cut.
(ทิมตัดผมแล้ว) - It was his fault, not theirs.
มันเป็นความผิดของเขา(ผู้ชาย) ไม่ใช่ของพวกเขา - Jane: Is that bag Mary’s?
(กระเป๋าใบนั้นเป็นของแมรี่เหรอ)
Jessica: I think it’s hers.
(ฉันคิดว่ามันเป็นของเธอ)
- Tom: Is that Rosie and David’s car?
(นั่นรถของโรซี่กับเดวิดเหรอ)
Daniel: Yes, it’s theirs.
(ใช่ มันเป็นของพวกเขา)
- Is that umbrella yours or mine?
(ร่มนั้นเป็นของคุณหรือของฉัน) - He didn’t have an umbrella, so she gave him hers.
(เขาไม่มีร่ม เธอจึงให้ร่มแก่เขา) - I gave him my address and he gave me his.
(ฉันให้ที่อยู่ของฉันแก่เขาและเขาก็ให้ที่อยู่ของเขาแก่ฉัน) - A honeybee has two wings on each side of its body.
(ผึ้งตัวหนึ่งมีปีกสองข้างอยู่แต่ละข้างของตัวมัน) - This hat is mine The other one is yours.
(หมวกนี้เป็นของฉัน อีกอันเป็นของคุณ) - Her book is here. Yours is over there.
(หนังสือของเธออยู่ที่นี่ ของคุณอยู่ตรงนั้น)
เป็นยังไงกันบ้างคะนักเรียน พอจะเข้าใจ การใช้ Possessive Pronoun ขึ้นมาบ้างมั้ยคะ อย่าลืมทบทวนบทเรียนกับวีดีโอด้านล่างนะคะ
คลิกปุ่มเพลย์แล้วไปเรียนให้สนุกและได้ความรู้กันจ้า
Have fun guys!
0
[NEW] การใช้ Possessive nouns คำนามแสดงความเป็นเจ้าของในภาษาอังกฤษ | การใช้ apostrophe – NATAVIGUIDES
*ในตารางของช่อง คำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของ Possessive adjective ถึงแม้จะไม่ใช่คำสรรพนาม แต่ครูจิ๊บใส่เข้ามาเพื่อให้พวกเราได้เทียบกับคำสรรพนามที่แสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive pronoun) เพื่อความเข้าใจที่มากขึ้น เรื่องคำสรรพนาม
เรามาดูคำสรรพนามในแต่ละประเภทอย่างละเอียดกันค่ะ
คำสรรพนามที่เป็นประธาน
มีคำว่า I, you, we, they, he, she, it ซึ่งหมายความว่าคำสรรพนามเหล่านี้จะต้องอยู่หน้าคำกริยาในประโยค เช่น
คำสรรพนาม บุรุษที่ 1 คำว่า I, we ซึ่งคำว่า we เป็นคำพหูพจน์ ที่รวม I หรือฉันเข้าไปด้วย
คำสรรพนาม บุรุษที่ 2 คำว่า you เป็นได้ทั้งรูปเอกพจน์และพหูพจน์
คำสรรพนาม บุรุษที่ 3 คำว่า they เป็นคำพหูพจน์ he, she, it เป็นเอกพจน์
- I thought that this handbag had been stolen.
- She regretted taking this job offer.
- My neighbor has a dog. It barks so loud at night.
คำสรรพนามที่เป็นกรรม
มีคำว่า me, you, us, them, him, her, it ซึ่งจะอยู่ตามหลังคำกริยาในประโยค เช่น
- Please don’t forget to wake me up tomorrow.
- The coach told them to work harder.
- The driver dropped her off at the office.
คำสรรพนามที่แสดงความเป็นเจ้าของ
(Possessive pronoun) เช่น his, hers, theirs, mine, ours, yours ซึ่งจะใช้แทนคำนามที่บอกความเป็นเจ้าของที่มีการกล่าวถึงไปแล้วซึ่งจะต่างจาก Possessive adjective เช่น my, your, our, their, his, her, its
- The police towed a car from the street. It was yours.
คำว่าyours สื่อถึงรถที่ถูกลากไปซึ่งเป็นของเธอหรือแทนคำว่า your car - Do you like the buns? They are mine.
คำว่า mine สื่อถึงขนมปังที่ถูกพูดถึง หรือแทนคำว่า my buns นั่นเอง - Whose notebook is this on my desk? Tony’s or Tina’s? I think it’s his.
คำว่า his สื่อถึงสมุดของโทนี่ หรือแทนคำว่า Tony’s notebook นั่นเอง
Reflexive
คือ คำสรรพนามที่ลงท้ายด้วย -self หรือ -selves ขึ้นอยู่กับจำนวนของประธานในประโยคโดยใช้เพื่อสะท้อนถึงประธานในประโยคที่เป็นผู้กระทำกริยาที่กล่าวถึงในประโยคนั้นเอง ประธานและกรรมจะเป็นคน หรือสิ่งเดียวกัน
คำกริยาเหล่านี้สามาถใช้ Reflexive ตามหลังเพื่อเป็นกรรมได้
– blame – introduce
– enjoy – satisfy
– kill – teach
– prepare – dress
เช่น
- I introduced myself to the group.
- Don’t blame yourself for this.
- The boy hurt himself while learning how to ride a bike.
- She drove by herself for the first time.
Possessive nouns คือ การทำคำนามให้อยู่ในรูปของการแสดงความเป็นเจ้าของ สามารถทำได้ 2 วิธีดังต่อไปนี้
1. การใช้ Apostrophe + s (‘s)
โดยนำ ‘s ไปใส่ที่ท้ายคำนามที่ต้องการแสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งคำนามเอกพจน์ (Singular Noun) และคำนามพหูพจน์ (Plural Noun) มีวิธีการใส่ ‘s แตกต่างกันดังนี้
คำนามเอกพจน์ (Singular Noun) สามารถใส่ ‘s ที่หลังคำนามนั้นได้ทันที เช่น a boy’s bike, a girl’s book, a student’s name
Ex. My girlfriend’s favorite food is salad.
(อาหารโปรดของแฟนสาวของผมคือสลัด)
Ex. This is Jenny’s car.
(นี่คือรถของเจนนี่)
Ex. Who’s bag is this?
(กระเป๋าใบนี้คือของใคร)
Ex. Where is Phravid’s watch?
(นาฬิกาของประวิตรอยู่ที่ไหน)
หมายเหตุ:
หากชื่อบุคคลที่เป็นเจ้าของสิ่งนั้นลงท้ายด้วย s สามารถใส่ ‘s หรือใส่เพียง ‘ (Apostrophe) ก็ได้ เช่น Mr. Jones’s car / Mr. Jones’ car, James’s book / James’ book
Ex. James’s house is very big. หรือ James’ house is very big.
(บ้านของเจมส์ใหญ่มาก)
หากมีผู้เป็นเจ้าของร่วมกันมากกว่าหนึ่ง จะใส่ ‘s ท้ายคำนามที่เป็นเจ้าของคนสุดท้าย เช่น John and Jan’s house, Tom and Tim’s car
Ex. John and Jan’s house is luxury.
(บ้านของจอห์นกับแจนหรูหรา)
Ex. Tom and Tim’s car is old.
(รถของทอมและทิมเก่า)
หากต่างคนต่างเป็นเจ้าของสิ่งของคนละชิ้น จะใส่ ‘s ท้ายคำนามที่เป็นเจ้าของทุกคน เช่น John’s and Jan’s houses , Tom’s and Tim’s cars
Ex. John’s and Jan’s houses are luxury.
(บ้านของจอห์นและบ้านของแจนต่างก็หรูหรา)
Ex. Tom’s and Tim’s cars are old.
(รถของทอมและรถของทิมต่างก็เก่า)
คำนามพหูพจน์ (Plural Noun) เนื่องคำนามพหูพจน์มีทั้งแบบที่เติม s กับคำนามพหูพจน์แบบผิดปกติ (Irregular Plural Noun) ที่เปลี่ยนรูป ซึ่งทั้งสองแบบนี้มีวิธีการใส่ ‘s ที่ต่างกันดังนี้
คำนามพหูพจน์ที่ลงท้ายด้วย s จะใส่ Apostrophe (‘) เพียงอย่างเดียวท้ายคำนามพหูพจน์นั้น เช่น The girls’ bags, sisters’ books
Ex. The players’ shirts are red.
(เสื้อของเหล่าผู้เล่นคือสีแดง)
Ex. Where are the dogs’ bones?
(กระดูกของพวกหมาอยู่ที่ไหน)
Ex. Fortunately, the girls’ toilet was open.
(โชคดีจัง ห้องน้ำของผู้หญิงเปิดอยู่)
คำนามพหูพจน์แบบผิดปกติ (Irregular Plural Noun) ที่เปลี่ยนรูปไปจากเอกพจน์ จะใส่ ‘s (Apostrophe + s) เสมอ เช่น men’s, women’s, children’s, people’s
Ex. The children’s toys are on the floor.
(ของเล่นของพวกเด็ก ๆ อยู่บนพื้น)
Ex. Some people’s names are hard to say.
(ชื่อของผู้คนบางคนนั้นเรียกยาก)
Personification Vs Apostrophe
Hi guys, welcome to my channel Grammar At 7. My name is Radha. Today I’m going to talk about two figures of speech: personification and apostrophe.
Personification:
Personification is a figure of speech in which inanimate or abstract objects are given human abilities. Personification can also be used to show inanimate or abstract things to be alive.
Examples:
Death lays his icy hands on kings. Here, death is personified and it’s given a human quality of laying his hands on kings.
Laughter caught her unguarded. Here, laughter is given a human quality of catching.
Lightning danced across the sky. Here, lightning is given
the human quality of dancing.
The food was calling me. Here, the food is given a human quality of calling.
My alarm clock yelled it to wake me. Here, the alarm clock is given the human quality of yelling.
Apostrophe:
Apostrophe is a special form of personification in which it really addresses the dead or who is not present all a personified object . Apostrophe should not be confused with the punctuation mark (‘) which is used to show possession or contractor word.
Examples:
Oh death, very sly strength! Oh grave where is thy victory! Here you are directly addressing death, which is not currently present here. In personification, you will be giving human qualities to death or inanimate objects. In Apostrophe, you are directly addressing those personified objects.
My dear bike please get me to work on time. Here, are your directly addressing the bike and talking to bike.
Twinkle twinkle little star how I wonder what you are! Again here you are directly talking to this star which is a personified object.
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่
The Apostrophe Song | Learn through music and rap with MC Grammar
Play this song and rap along to learn all about apostrophes. You will also discover the difference between possession and omission; how to create contractions (contracted / shortened words); and how to use an apostrophe to show when someone or something belongs to someone or something.
Follow the simple steps:
1. Play the song
2. Use the lyrics below or on the video to rap along
3. Learn!
For more free English lessons, subscribe to this channel: www.youtube.com/mcgrammartv
Age Range: 611yrs (Key Stage 1 and Key Stage 2)
Lyrics to rap along:
Intro:
Apostrophes: possess!
Apostrophes: omit!
Chorus:
This is my philosophy about apostrophes,
And the two ways to use them properly.
You can possess or omit.
But whatever you choose you’ve got to own it!
Verse:
Hey! What does omission mean?
And how does it connect to an apostrophe?
I’ll explain!
If you want to change two or more words into one,
You’ve got to take out some letters.
Now you’re doing great, but the mission isn’t finished until you replaced…
…What you’ve erased with an apostrophe filing that space.
You’ve made a new word and contraction’s its name!
Example:
You are a star!
Becomes:
You’re a star!’
Example 2:
I am your teacher.
Becomes:
I’m your teacher.
Get it?
Okay!
Verse 2:
Let’s continue this lesson
The next thing we are learning about is possession.
Hold up!
Can you tell me what that means please?
It means…
When you possess something, that means you own it.
And now that you’ve claimed it, you’ve got to show it!
Go again!
When you possess something, that means you own it.
And now that you’ve claimed it, you’ve got to show it!
Stop! Freeze! 3…2…1…GO!
Now mark your apostrophe after the owner, or owners,
To show your reader what they’re owning.
Example: MC Grammar’s voice teaching English will always be the kids’ choice!
Example 2: MC Grammar’s crew – will forever be the people’s favourite.
You know it’s true!
That was commentary. Yeah, there’s no stopping me!
Here comes the chorus.
Sing along with me!
Chorus:
This is my philosophy about apostrophes,
And the two ways to use them properly.
You can possess or omit.
But whatever you choose you’ve got to own it!
This is my philosophy about apostrophes,
And the two ways to use them properly.
You can possess or omit.
But whatever you choose you’ve got to own it!
Oh, and don’t forget to send YOUR grammar raps to [email protected].
Please make sure you ask your parent or guardian for their permission first.
Visit us on Facebook: www.facebook.com/mrmcgrammar Follow us on Twitter, TikTok and Instagram: @mrmcgrammar
Possessive Nouns การแสดงความเป็นเจ้าของของคำนาม
จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนรู้
ติดตาม Facebook และ Instagram : The Happy Time with Q
หากผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำขออภัยมานะที่นี้ด้วยค่ะ 😀
การใช้ Apostrophe ( ‘ ) อะพอสทรอฟี | Eng ลั่น [by We Mahidol]
Apostrophe (’) เครื่องหมายเล็ก ๆ ที่ไม่ใช่เรื่องเล็ก มักทำให้หลายคนสับสนในวิธีการใช้งานมาแล้วหลายครั้ง วันนี้พี่คะน้า รุ่นพี่วิทยาลัยนานาชาติ ม.มหิดล จะมาไขข้อสงสัยและสรุปหลักการใช้ Apostrophe (’) อย่างไรให้ถูกต้อง ถ้าใครอยากเป๊ะทักษะ Writing มาดูคลิปนี้ไปด้วยกันเลยYouTube : We Mahidol
Apostrophe Engลั่น WeMahidol Mahidol
Facebook : http://www.facebook.com/wemahidol
Instagram : https://www.instagram.com/wemahidol/
Twitter : https://twitter.com/wemahidol
TikTok : https://www.tiktok.com/@wemahidol
มหาวิทยาลัย มหิดล Mahidol University : https://www.mahidol.ac.th/th/
Website : https://channel.mahidol.ac.th/
How to use apostrophes in English
http://www.engvid.com Apostrophes are confusing! These small punctuation marks ‘ are often used incorrectly. People often make apostrophe mistakes in emails, and even on the signs of shops! (You would think that someone would notice before the sign was printed and put up!) Even if you are understood, mistakes in this area make your writing look unprofessional.
I’m telling you that using apostrophes is actually easy and straightforward in most of the situations you are ever likely to use them. In this English lesson, I explain the simple and essential uses of the apostrophe to show possession. Later, I tell you the advanced uses of the apostrophe. Watch this writing lesson, and you can be sure that you’re using apostrophes in the correct way. Essential viewing for any shopkeepers BEFORE they get their signs printed!
Take a quiz on apostrophes here: http://www.engvid.com/howtouseapostrophes/
TRANSCRIPT
Hello, I’m Jade. What we’re talking about today is how to use apostrophes. So, I know there’s going to be a few native speakers watching this video. It really is time to learn how to use apostrophes correctly. It’s not that hard. There are a few simple rules and we’re going to talk about them today. We’ll start with the easy stuff, and eventually we’ll get to the more advanced rules, but you’ll probably never need to use the more advanced rules. But anyway, we’ll get there in the second part of the lesson.
So what I want to start with is mentioning my school name. \”Haberdashers Askes Hatcham College\”. This is where I learnt how to use apostrophes. But at first, I cheated because I’ve got a really… Had a really long school name and I always remember needing to write this on exam papers. But I think when I… When I started the school, I probably didn’t know how to use apostrophes so I memorized where the apostrophes went. I didn’t understand why they went there, but I memorized them.
So the apostrophes were like this: \”Haberdashers’\” and \”Aske’s\”. I’m going to explain why. So what’s \”Haberdashers’\”? A \”haberdasher\” is an oldfashioned word for somebody who makes garments, makes clothes, and all together, they were… They were together in what’s called a trade guild. And this is quite an oldfashioned thing now; maybe doesn’t really exist so much, but they had some charitable objectives. And so they were a group of these haberdasher people and one of them was a man called \”Robert Aske,\” so this is somebody’s name; person. And \”Hatcham\” is a place in London, and \”College\” is quite a poshy name for a school. So you put all those words together and that’s my school.
But let’s talk about: why these apostrophes? So, the apostrophe is outside the \”s\” here because we’re talking about more than one haberdasher, that’s the rule; more than one thing, and possession the apostrophe goes on the outside. Why the apostrophe here? When the possession belongs… One thing belongs to one person, we put the apostrophe before the \”s\”. So the school belongs to Aske, Mr. Aske so that’s why the apostrophe is there. Maybe that’s confusing. Let’s break it down and look at the rules onebyone using apostrophes.
So, number one: possession. Another meaning of possession is when… When you lose your mind, you’re taken over by something. But the more… The meaning I’m talking about here is when something belongs to you; when you own something.
So here’s a man, here’s his car.
\”The man’s car is there.\”
This sentence means: the car belonging to the man. And to show possession, I put the apostrophe before the \”s\”. I’m talking about just one man, so the apostrophe goes before the \”s\”.
And same really in these other examples:
\”That’s George’s car.\”
Why..? Why one here? Well, here, we’re not talking about apostrophes and possessions, this is something else. That means: \”That is\”. That means something else. This is an apostrophe with possession. His name is George, it’s a car belonging to George. \”That’s George’s car.\” And to show something belongs to someone, when we’ve got a name, we put the apostrophe after their name and then we put the \”s\” there.
And we don’t… We can also do it with places. So we’ve got:
\”London’s best fish and chips.\”
The best fish and chips belonging to London, and again, we do apostrophe, \”s\”.
So when we’re talking about possession, that’s quite clear. It’s okay, yeah? But now we have an exception, and sometimes there’s a lot of confusion about this and sometimes people get quite annoyed. But what I am going to say is that there are two… There are two ways to show possession when the name ends with an \”s\”. So it’s preference really; some people prefer this way, some people prefer this way. All you need to do is just pick one and be standard, always… If you pick one, just use that way all the time. Don’t… Definitely don’t do it one way in an essay and then get a bit scared and do it a different way because you’ll be wrong then. You need to pick… You definitely need to pick a way.
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE
ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ การใช้ apostrophe