Skip to content
Home » [NEW] Adverb ฉบับสมบูรณ์และเข้าใจง่าย ไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารอื่น ๆ | extremely แปล – NATAVIGUIDES

[NEW] Adverb ฉบับสมบูรณ์และเข้าใจง่าย ไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารอื่น ๆ | extremely แปล – NATAVIGUIDES

extremely แปล: คุณกำลังดูกระทู้

บทความนี้จะตอบคำถามของคุณเกี่ยวกับ Adverb หรือ กริยาวิเศษณ์ คืออะไร พร้อมอธิบายหลักการใช้ Adverb ละเอียดแจ่มแจ้งสุดๆ ที่ต้องไม่พลาด

Adverb คืออะไร?

Adverb หรือ กริยาวิเศษณ์คือคำที่ขยายคำกริยา และคำคุณศัพท์ ที่มีลักษณะคล้ายๆ กับคำวิเศษณ์ในภาษาไทย แต่ในภาษาอังกฤษนั้น คำวิเศษณ์จะเป็น กริยาวิเศษณ์ เท่านั้นไม่มีการแยกย่อยได้เยอะแยะเหมือนภาษาไทยบ้านเราเลยรับรองว่าเรียนได้ง่ายๆ จำได้นาน ไม่ยากนะคะ

โดยปกติแล้วคำกริยาวิเศษณ์ แบ่งออกได้ 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ

1. Simple Adverbs = คำกริยาวิเศษณ์ทั่วไป
2. Interrogative Adverbs = คำกริยาวิเศษณ์คำถาม
3. Relative(Conjunction) Adverbs = คำกริยาวิเศษณ์เชื่อมประโยค Simple Adverb คือ กริยาวิเศษณ์ที่ใช้ขยายกริยา ขยาย รายละเอียดจะมีดังต่อไปนี้

เรียนรู้ Adverb หรือ กริยาวิเศษณ์ ในภาษาอังกฤษ

Adverb ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่สำคุญต้องไม่พลาด

ตำแหน่งของ Adverb ที่มักเจอในข้อสอบ TOEIC

1. หน้า V. = [S + Adv + V] 
ยกตัวอย่างเช่น
Jim suddenly realized that he forgot to bring the financial report.

2. ระหว่าง V. = [S + V + Adv + V]
ยกตัวอย่างเช่น 
– will surely finish (Future Simple)
– had greatly improved (Past Perfect)

3. หลัง V. = [S + V + Adv]
ยกตัวอย่างเช่น
Employment levels are unlikely to rise significantly before the end of next year.

4. หลัง O. = [S + V + O + Adv]
ยกตัวอย่างเช่น
 She reads quickly.
 She reads (the contract) quickly.

5. หน้า Adj. = [Adv + Adj + N]
ยกตัวอย่างเช่น
Ben is an extremely responsible employee.

6. ระหว่าง BE กับ Adj. = [BE + Adv + Adj]
ยกตัวอย่างเช่น
Online sales are relatively easy to track.

7. หน้า Adv. = [V + Adv + Adv]
ยกตัวอย่างเช่น
Helen screamed extremely loudly when she fell down the stairs.

8. ใน Passive = [S + V + V.3 + Adv]
ยกตัวอย่างเช่น
The product should be checked thoroughly before being sent.

9. ใน To-Infinitive = [To + Adv + V.infinitive]
ยกตัวอย่างเช่น
Rita planned to quickly finish the task by tomorrow.

หน้าที่ของกริยาวิเศษณ์คืออะไร?

1. ขยายคำกริยา

บอกให้รู้ว่า ทำที่ไหน ทำเมื่อไหร่ ทำอย่างไร ทำบ่อยแค่ไหน  เช่น

  • He came here yesterday. เขา มา ที่นี่ เมื่อวานนี้
    here เป็น adverb บอกให้รู้ว่า มา ที่ไหน
    yesterday เป็น adverb บอกให้รู้ว่า มา เมื่อไหร่
  • He walks slowly. เขา เดิน อย่างช้าๆ
    slowly เป็น  adverb บอกให้รู้ว่า เดิน อย่างไร
  • He always walk to school. เขา เดิน ไปโรงเรียน เสมอ
    always เป็น  adverb บอกให้รู้ว่า เดิน บ่อยแค่ไหน

2. ขยายคำคุณศัพท์ และขยายกริยาวิเศษณ์เอง

บอกให้รู้ว่าอยู่ใน ระดับไหน หรือเน้นย้ำว่าแค่ไหน เช่น

  • The fire is very hot. ไฟ ร้อน มาก
    hot เแปลว่า ร้อน เป็นคำคุณศัพท์ขยาย fire
    ส่วน very เป็น Adverb ขยายคำว่า hot บอกให้รู้ว่า ร้อนแค่ไหน
  • I like it very much. ผม ชอบ มัน มาก มาก
    much เแปลว่า มาก เป็นคำกริยาวิเศษณ์   
    ส่วน very ก็เป็น Adverb ขยายคำว่า much บอกให้รู้ว่า มากแค่ไหน

เรียนรู้ กริยาวิเศษณ์ ในภาษาอังกฤษ

หน้าที่ของ Adverb ในภาษาอังกฤษ

ประเภทของคำกริยาวิเศษณ์ (Kinds of Adverb)

Simple adverb แบ่งเป็นหมวดเล็ก ๆ ได้ 6 หมวด คือ

1. Adverb of Time

คือ กริยาวิเศษณ์บอกเวลาใช้บอกการกระทำว่า “เกิดขึ้นเมื่อไหร หรือ เกิดขึ้นหรือยัง” คำกริยาวิเศษณ์ที่มักจะเจอบ่อยได้แก่

กริยาวิเศษณ์บอกเวลา (Adverb of Time)ความหมายNow /nau/ตอนนี้So far /səu faː/จนบัดนี้Yesterday /ˈjestədi/เมื่อวานToday /təˈdei/วันนี้Tomorrow /təˈmorəu/พรุ่งนี้Already /oːlˈredi/แล้วLately  /ˈleɪt.li/ไม่นานมานี้During /ˈdjuəriŋ/ในช่วงFinally  /ˈfaɪ.nəl.i/ท้ายทีสุดEarly /ˈəːli/แต่เช้าJust /dʒast/เพิ่งจะRecently  /ˈriː.sənt.li/ไม่นานมานี้Still /stil/ยังคงAfter /ˈaːftə/หลัง

ยกตัวอย่างเช่น:
I saw him yesterday. แปลว่า ฉันเห็นเขาเมื่อวาน เราจะเห็นว่าในคำถามมีคำภามเกี่ยวกับเรื่องเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และได้คำตอบคือ เมื่อวาน
I will go shopping tomorrow. แปลว่า  ฉัน จะ ไป ชอปปิ้ง พรุ่งนี้ ก็เช่นกับตัวอย่างที่หนึ่งนะคะ ในคำถามมีคำถามเกี่ยวกับเรื่องเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และได้คำตอบคือ พรุ่งนี้
I’ve already done my home work. แปลว่า  ฉันทำการบ้านของฉันแล้ว เราจะเห็นได้ว่า เรื่องเกิดขึ้นหรือยัง ตอบ เกิดแล้ว
I haven’t done my homework yet.  แปลว่า  ฉันยังไม่ได้ทำการบ้าน ของฉันแล้ว เราจะเห็นได้ว่า เรื่องเกิดขึ้นหรือยัง ตอบ ยัง

ว่ายังไงบ้างคะ ง่ายๆ เลยใช่ไหมคะกับวิธีการใช้ กริยาวิเศษณ์บอกเวลา Adverb of Time ต่อไปนี้จะเป็นวิธีการใช้งานและตัวอย่างประโยคเกี่ยวกับ Adverb of Place นะคะ

2. Adverb of Place

กริยาวิเศษณ์บอกสถานที่  ใช้บอกการกระทำว่า “เกิดขึ้นที่ไหน”  คำกริยาวิเศษณ์ที่มักจะเจอบ่อยได้แก่

กริยาวิเศษณ์บอกสถานที่ (Adverb of Place)ความหมายHere /hiə/ที่นี่There /ðeə, ðə/ที่นั่นBehind /biˈhaind/ข้างหลังNear /niə/ใกล้Far /faː/ไกลAway /əˈwei/ห่างBack /bӕk/กลับNowhere /ˈnəuweə/ไม่มีที่ใดEverywhere /ˈev.ri.weər/ทุกที่Above /əˈbav/เหนือBelow /bəˈləu/ใต้Into /ˈintu/ไปในInside /inˈsaid/ข้างในOutside /ˈautsaid/ข้างนอกOut /aut/นอกIn /in/ใน

ยกตัวอย่างเช่น:
Please come here. แปลว่า กรุณามาที่นี่ ในนั้นคำถามคือที่ไหน ได้คำตอบคือ ที่นี่
Go there please. แปลว่ากรุณาไปที่นั่น คำถามคือ ที่ไหน ได้คำตอบ ที่นี่
Please come inside. แปลว่ากรุณา มา ข้างใน คำถามคือ ที่ไหนได้คำตอบ ข้างไน

3. Adverb of Frequency

คือกริยาวิเศษณ์บอกความถี่ห่าง ใช้บอกการกระทำว่า “เกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน” คำกริยาวิเศษณ์ที่มักจะเจอบ่อยได้แก่

กริยาวิเศษณ์บอกความถี่ห่าง  (Adverb of Frequency)ความหมายAlways /ˈoːlweiz/เสมอUsually  /ˈjuː.ʒu.ə.li/โดยปกติOften /ˈofn/บ่อยๆNormally  /ˈnɔː.mə.li/ เป็นปกติOccasionally  /əˈkeɪ.ʒən.əl.i/เป็นบางโอกาสSometimes  /ˈsʌm.taɪmz/บางครั้งRarely  /ˈreə.li/มักจะไม่Never /ˈnevə/ไม่เคยDaily /ˈdeili/ทุกวันWeekly  /ˈwiː.kli/ทุกเดือนMonthly  /ˈmʌn.θli/ทุกเดือนYearly  /ˈjɪə.li/ทุกปี

ยกตัวอย่างเช่น:
He always runs in the morning. แปลว่า เขาวิ่งตอนเช้าเสมอ ในนั้นคำถามคือ บ่อยแค่ไหน ได้คำตอบคือ เสมอ
The bill is paid monthly. แปลว่า บิลถูกจ่ายทุกเดือน ในนั้นคำถามคือ
บ่อยแค่ไหน ได้คำตอบคือ ทุกเดือน
I sometimes read grammar books. แปลว่า บางครั้งผมอ่านหนังสือไวยากรณ์
ในนั้นคำถามคือ บ่อยแค่ไหน ได้คำตอบคือ บางครั้ง

กริยาวิเศษณ์ความถี่จะบอกเราว่าเกิดอะไรขึ้นบ่อยเพียงใด

วิธีใช้ “adverbs of frequency”

4. Adverb of Manner

คือกริยาวิเศษณ์บอกอาการ  ใช้บอกการกระทำว่า “เกิดขึ้นอย่างไร” คำกริยาวิเศษณ์ที่มักจะเจอบ่อยได้แก่

กริยาวิเศษณ์บอกอาการ (Adverb of Manner)ความหมายFast /faːst/อย่างเร็วQuickly /ˈkwɪk.li/อย่างเร็วBeautifully  /ˈbjuː.tɪ.fəl.i/อย่างสวยงาม, อย่างไพเราะCarefully  /ˈkeə.fəl.i/อย่างระมัดระวังWell /wel/อย่างดีNeatly  /ˈniːt.li/อย่างประณีตSlowly  /ˈsləʊ.li/อย่างช้Calmly  /ˈkɑːm.li/ อย่างสุขุมPolitely /pəˈlaɪt.li/อย่างสุภาพKindly /ˈkaɪnd.li/อย่างมีเมตตาBadly  /ˈbæd.li/อย่างแย่Quietly  /ˈkwaɪət.li/ อย่างเงียบๆ

ยกตัวอย่างเช่น:
He runs very  fast. แปลว่า เขาวิ่งอย่างเร็วมาก ในนั้นคำถามคือ อย่างไร ตอบ อย่างเร็ว
She sings beautifully.  แปลว่า หล่อน ร้องเพลง อย่างไพเราะ ในนั้นคำถามคืออย่างไร ตอบ อย่างไพเราะ
We speak louldly. แปลว่า พวกเรา พูด อย่างดัง ในนั้นคำถามคืออย่างไร ตอบ อย่างดัง
They cry quietly. แปลว่า พวกเขา ร้องให้  อย่างเงียบๆ ในนั้นคำถามคือ อย่างไร ตอบ อย่างเงียบ

5. Adverb of Quantity

คือ กริยาวิเศษณ์บอกปริมาณมากน้อย คำกริยาวิเศษณ์ที่มักจะเจอบ่อยได้แก่

กริยาวิเศษณ์บอกปริมาณมากน้อย (Adverb of Quantity)ความหมายMany /ˈmeni/มากมายVery /ˈveri/มากToo /tuː/เกินไปQuite /kwait/ค่อนข้างRather /ˈraːθə/ค่อนข้างNearly /ˈnɪə.li/เกือบAlmost /ˈoːlməust/เกือบEnough /iˈnaf/พอExtremely  /ɪkˈstriːm.li/อย่างยิ่งCompletely  /kəmˈpliːt.li/ อย่างสมบูรณ์

ยกตัวอย่างเช่น:
He has too much money to give me. แปลว่า เขามีเงินมากเหลือเกินที่จะให้ผม ในนั้น too เป็น Adverb ไปขยาย much จึงวางไว้หน้า much
I had almost finished my meal when he came in. แปลว่า ผมเกือบจะทานอาหารเสร็จแล้ว เมื่อเอาเข้ามาข้างใน ในนั้น almost เป็น Adverb ไปขยายกริยา finished
He walked very quickly to school yesterday. แปลว่า เขาเดินเร็วมากไปโรงเรียนเมื่อวานนี้ ในนั้น Very เป็น Adverb ไปขยายคำกิริยาวิเศษณ์ คือ Quickly

6. Adverb of Affirmation or Negation

คือ กริยาวิเศษณ์บอกการรับหรือปฏิเสธ คำกริยาวิเศษณ์ที่มักจะเจอบ่อยได้แก่

กริยาวิเศษณ์บอกการรับหรือปฏิเสธ (Adverb of Affirmation or Negation)ความหมายYes /jes/ใช่No /nəu/ไม่Not /not/ไม่not at allไม่ใช่เลยSurely   /ˈʃɔː.li/แน่นอนCertainly /ˈsɜː.tən.li/ แน่นอนPerhaps /pəˈhaps/บางทีProbably  /ˈprɒb.ə.bli/ อาจIndeed /inˈdiːd/แน่นอนDefinitely  /ˈdef.ɪ.nət.li/อย่างแน่นอนObviously /ˈɒb.vi.əs.li/เห็นได้ชัด

ยกตัวอย่างเช่น:
He did not come here. แปลว่า เขายังไม่มาที่นี่เลย
Surely you are mistaken. แปลว่า แน่นอนคุณเป็นฝ่ายผิด
Perhaps she will tell you the truth. แปลว่า บางทีหล่อนจะบอกความจริงให้คุณทราบ
It is, indeed, a hard case.แปลว่า มันเป็นเรื่องที่ยากจริงๆ

Interrogative Adverb  กริยาวิเศษณ์คำถาม

Interrogative Adverb  แบ่งเป็นหมวดเล็ก ๆ ได้ 6 หมวด คือ

1. บอกเวลา (Time) แปลว่า “กริยาวิเศษณ์ถามเวลา” หมายถึง คำกริยาวิเศษณ์ที่นำมาขยายกริยา เพื่อถามถึงเวลาว่า “นานเท่าไร” หรือ “เมื่อไร”

Interrogative Adverb กริยาวิเศษณ์ บอกเวลาความหมายWhenเมื่อไรHow longนานเท่าไรHow soonนานไหม

ยกตัวอย่างเช่น:
When will he come here again? Next Year . แปลว่า เมื่อไหร่เขาจะมาที่นี่อีก? ปีหน้า
How long have you been here? For five years . แปลว่า คุณได้มาอยู่ที่นี่นานเท่าไรแล้ว? เป็นเวลา 5 ปีแล้ว

2.  บอกสถานที่ (Place) กริยาวิเศษณ์ถามสถานที่ หมายถึง คำกริยาวิเศษณ์ที่นำมาใช้ขยายกริยา เพื่อถามสถานที่ เท่าที่ปรากฏเห็นและใช้กันบ่อยก็ได้แก่ where ที่ไหนและจะวางไว้ต้นประโยคเสมอ
ยกตัวอย่างเช่น:
Where does he live? แปลว่า เ ขาอยู่ที่ไหน?
He lives in Bangkok. แปลว่า  เขาอยู่ในกรุงเทพฯ

3. บอกจำนวน (Frequency ) กริยาวิเศษณ์ถามถึงความถี่หรือจำนวนครั้ง หมายถึงคำหรือกลุ่มคำที่ไปขยายกริยาถามถึงระยะเวลาหรือจำนวนครั้ง และตำแหน่งวางจะอยู่ต้นประโยคเสมอ ได้แก่ คำต่อไปนี้ คือ How often
ยกตัวอย่างเช่น:
How often does she come here? แปลว่า หล่อนมาที่นี่บ่อยไหม? (หมายถึงกี่ครั้ง)
How many books has he? Ten. แปลว่า เขามีหนังสือมากเท่าไร? 10 เล่ม

4. บอกกริยาอาการ (Manner) กริยาวิเศษณ์ถามถึงกริยาอาการ หมายถึงคำที่ไปขยายกริยา เพื่อถามถึงอาการของการกระทำหรือพฤติกรรมนั้น ๆ ว่า เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ได้แก่คำว่า How อย่างไร และตำแหน่งอาจจะอยู่ต้นประโยคเสมอ
ยกตัวอย่างเช่น:
How do you do this? แปลว่า คุณทำสิ่งนี้ได้อย่างไร
How does she come here? แปลว่า หล่อนมาที่นี่ได้อย่างไร

5. บอกปริมาณ (Adverb of Quantity) กริยาวิเศษณ์ถามถึงปริมาณหรือความมากน้อย หมายถึงคำหรือกลุ่มคำที่ไปขยายกิริยาในประโยค เพื่อถามถึงจำนวนหรือปริมาณของสิ่งนั้น ได้แก่คำว่า How much มากเท่าไร How far ไกลเท่าไร และก็เช่นกันตำแหน่งก็อยู่ต้นประโยคเสมอ 
ยกตัวอย่างเช่น:
How much do you pay? แปลว่า คุณจ่ายมากเท่าไร
How much is it? แปลว่า ราคาเท่าไร?

6. บอกเหตุผล (Reason)
กริยาวิเศษณ์ถามถึงเหตุผล หมายถึง คำที่ไปขยายกริยาเพื่อถามถึงเหตุผลของการกระทำอันนั้น ๆ ว่าเป็นอย่างไร ได้แก่ Why ทำไม และวิธีใช้วางไว้ต้นประโยคอีกด้วย
ยกตัวอย่างเช่น:
Why do they go to Hong Kong every day? แปลว่า ทำไมพวกเขาจึงไปฮ่องกงทุก ๆ วัน?
Why doesn’t she love you? แปลว่า ทำไมหล่อนจึงไม่รักคุณ?

Conjunctive Adverb  กริยาวิเศษณ์ที่ใช้เป็นคำเชื่อม 

Conjunctive Adverb แบ่งออกเป็นชนิดย่อย ๆ ได้ 6 ชนิด คือ

1. Conjunctive Adverb of Time เป็นสันธานวิเศษณ์ บอกเวลา หมายถึงคำที่ไปทำหน้าที่เชื่อมประโยคและขยายกริยาเพื่อบอกเวลา ได้แก่ when เมื่อไร
ยกตัวอย่างเช่น: 
Can you tell me when he will arrive here? แปลว่า คุณบอกผมได้ไหมว่าเมื่อไรเขาจะมาถึงที่นี่

2. Conjunctive Adverb of Place  สันธานวิเศษณ์ บอกสถานที่ หมายถึง คำที่ไปทำหน้าที่เชื่อมประโยค และขยายกริยาเพื่อบอกสถานที่ ได้แก่คำว่า where ที่ไหน ที่ ที่
ยกตัวอย่างเช่น:
This is where is stayed last year. แปลว่า นี้คือสถานที่ที่ผมมาพักอยู่เมื่อปีกลายนี้

3. Conjunctive Adverb of Frequency สันธานวิเศษณ์ บอกความถี่ หมายถึง คำที่ไปทำหน้าที่เชื่อมประโยค และขยายกริยาเพื่อบอกความถี่หรือจำนวนครั้ง ได้แก่คำว่า How often บ่อยไหม กี่ครั้ง 
ยกตัวอย่างเช่น:
I asked him how often he had gone there. แปลว่า ผมถามเขาว่า เขาไปที่นั้นบ่อยไหม

4. Conjunctive Adverb of Manner สันธานวิเศษณ์ บอกกิริยาอาการ หมายถึงคำที่ไปทำหน้าที่ทั้งเชื่อมประโยคและขยายกริยาเพื่อบอกอาการของพฤติกรรม หรือการกระทำอันนั้น ๆ ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ได้แก่ How อย่างไร 
ยกตัวอย่างเช่น:
My father knows how I shot the tiger แปลว่า คุณพ่อของผมรู้ดีว่า ผมยิงเสือตัวนี้ได้อย่างไร

5. Conjunctive Adverb of Reason สันธานวิเศษณ์ บอกปริมาณ หมายถึงคำที่ไปทำหน้าที่เชื่อมประโยค และขยายกริยาเพื่อบอกปริมาณมากน้อยได้แก่ คำว่า How long นานเท่าไร How far ไกลเท่าไร 
ยกตัวอย่างเช่น:
No one knows how long she will live with him. แปลว่า ไม่มีใครทราบหรอกว่า หล่อนจะอยู่กับเขานานเท่าไร

6. Conjunctive Adverb of Time สันธานวิเศษณ์ บอกเหตุผล หมายถึงคำที่ไปทำหน้าที่เชื่อมประโยคหน้าหลังให้กลมกลืนกัน และขยายกริยาในประโยค
ยกตัวอย่างเช่น:
Panya did not know why she cried. แปลว่า ปัญญาไม่ทราบเลยว่า ทำไมหล่อนจึงร้องไห้

ความผิดพลาดที่มักจะเจอบ่อยเมื่อใช้ Adverb

สับสนในการใช้ Adjective กับ Adverb วิธีการจดจำก็คือ

Adj. = Adjective  คำคุณศัพท์ หรือคำวิเศษณ์ ใช้สำหรับขยายคำนาม
Adv. = Adverb  คำกริยาวิเศษณ์ ใช้สำหรับขยายคำกริยา หรือคำคุณศัพท์
คำ adjective ส่วนมากทำให้กลายเป็น adverb โดยการเติม –ly ต่อท้าย แต่ก็ไม่เสมอไป

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ ดังนี้
[slow] (adj.) / [slowly] (adv.) ช้า / อย่างช้า

  • He is a slow walker. เขาเป็นคนเดินที่ช้า
    [slow] เป็น adj. เพราะขยาย walker (n.)
  • He’s a person who walks slowly. เขาเป็นคนเดินช้า
    [slowly] เป็น adv. เพราะขยาย walks (v.)

กลุ่มกริยาวิเศษณ์ที่มีความหมายเหมือนกัน

  1. โดยสิ้นเชิง: totally, entirely.
  2. อีกต่อไป: anymore.
  3. ค่อนข้าง: quite, rather, pretty.
  4. ดังนี้: thus
  5. เลย: at all.
  6. แทบจะไม่: seldom, hardly, rarely, barely, scarcely.
  7. ระมัดระวัง: carefully, cautiously, thoroughly, meticulously, elaborately
  8. รวดเร็วทันใจ: immediately, promptly, urgently, quickly, swiftly, rapidly.
  9. อย่างเพียงพอ: adequately, sufficiently
  10. ค่อนข้างมาก: relatively, quite
  11. มาก/ที่สุด: highly, extremely, very, really
  12. สมบูรณ์: fully (+verb), absolutely (+adj), completely (+adj), extensively (+ verb/adj)
  13. ทันใดนั้นไม่คาดคิด: dramatically, suddenly, unexpectedly
  14. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง: Especially, specifically
  15. เร็ว หรือทันที: shortly, soon, right after/before, briefly
  16. ปัจจุบัน: currently, recently, lately, already, still
  17. บ้าฃที่: occasionally, sometimes
  18. ขั้นตอนแรก: firstly, initially, primarily, originally
  19. โดยปกติ/สม่ำเสมอ: frequently, regularly, usually, often, consistently
  20. อย่างแน่นอน: surely, definitely, absolutely, by all means.

ตัวอย่างประโยค

  • Surely I will come back.แปลว่า ฉันจะกลับมาแน่นอน
  • You will win definitely. แปลว่า คุณจะต้องชนะแน่นอน
  • It’s absolutely possible. แปลว่า มันเป็นไปได้แน่นอน
  • If you want to use the telephone,by all means do. แปลว่า ถ้าคุณอยากใช้โทรศัพท์แน่นอนคุณใช้ได้

สรูปว่าอย่างไรคะคุณ ฉบับ Adverb หรือ กริยาวิเศษณ์ สมบูรณ์นี้หวังว่าจะมีประโยคต่อคุณ การจดจำ Adverb นี้ไม่ยากเลยค่ะ เราสามารถเขียนมาเป็นประโยคเพื่อจำได้ง่ายขึ้น อย่าลืมติดตามเราเพื่อแชร์กันประสบการณ์เรียนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ

[NEW] 20 คำแสลงไทยที่น่าสนใจ !! | extremely แปล – NATAVIGUIDES

ยี่สิบคำแสลงไทยที่น่าสนใจ

ต่อไปนี้เป็นคำแสลงไทยทั้งโบราณและร่วมสมัยที่ผมได้รวบรวมมาจากการอ่านพันธ์ทิพย์หรือได้ยินได้ฟังมาจากแหล่งอื่นนะครับ ต้องขอบอกว่าบางคำอาจจะไม่คุ้นหูคุ้นตาเราและบางคำค่อนข้างคลุมเคลือ ผมจึงต้องอาศัยการตีความเอาเอง และแปลเป็นภาษาอังกฤษอีกที ผิดพลาดประการใดก็ช่วยกันคิดช่วยกันท้วงติงจะเป็นพระคุณอย่างยิ่งนะครับ คำต่อไปนี้ไม่ได้เรียงตามอักษรอย่างไรก็ตามบางคำเช่น”เกรียน” “ได้ใจ” หรือ”เมาท์”ผมได้เขียนในบทความก่อนหน้านี้คือ “คำว่า “เกรียน” ภาษาอังกฤษเค้าว่าอะไร ?” เชิญไปหาอ่านได้เลยครับ

1. แอ๊บแบ๊ว แปลได้ว่าไร้เดียงสา น่ารัก เกินเหตุ ผมเคยให้คำแปลเป็นภาษาอังกฤษว่าเป็น hyperinnocent คำว่า hyper หมายถึง มากเกินไป แต่อีกแง่มุมหนึ่งอาจจะหมายถึง เส้แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไร ภาษาอังกฤษน่าจะเป็น pretend to be innocent หรือ naive ก็ได้นะครับ คำว่า naive หมายถึงไร้เดียงสา แต่ถ้าแอ๊บแบ๊วเป็นกริยาท่าทางหรือทำท่าทางและนิสัยเหมือนเด็ก นั่นคือ to act childishly

2.โคตร ๆ แปลได้ว่า “มาก” ภาษาอังกฤษก็คือ very หรือถ้าจะให้ดูเข้มข้นกว่านั้นน่าจะเป็น extremely หรือสุดยอด อันนี้ก็เหมือนกับคำว่า “เขี้ยว” ที่แปลว่ายาก คือ difficult หรือเจนจัด คือ sophisticated ก็ได้

3.ติงต๊อง คำแสลงโบราณ ไม่น่าจะหมายถึงโง่หรือปัญญาอ่อน เพราะบริบทของคำค่อนข้างจะน่ารัก ไม่รุนแรงเท่าไรนัก ภาษาอังกฤษน่าจะเป็น weird หรือ nut แปลว่าเพี้ยน ๆ

4.ติดเรท อันนี้เป็นคำแสลงที่ใช้ในกระทู้ของห้องสวนลุม พันธ์ทิพย์น่าจะเลียนแบบมาจากภาษาของหนังคือ x-rated แปลเป็นภาษาอังกฤษแบบตรงกว่านั้นคือ about sex หรือ sex-related topic

5.xxx เป็นตัวอักษรโรมันที่แปลว่า”โป๊” หรือ “เกี่ยวกับเรื่องเพศ”เป็นคำคุณศัพท์ และคนไทยเอาไปใช้ในกระทู้พันธ์ทิพย์เป็นคำกิริยาคือ to have sex หรือ have intercourse with เหมือนกับคำว่า “อึ้บ”

6. ขำๆ แปลว่า ตลก เฮฮา ไม่จริงจัง ภาษาอังกฤษน่าจะเป็น just for fun หรือ casual (คำคุณศัพท์)

7สับ แปลว่าโจมตี ว่ากล่าวในเรื่องไม่ดี ภาษาอังกฤษน่าจะเป็น criticize หรือ attack หรือ scold ที่แปลว่าด่า

8.เผางาน แปลว่า ทำงานแบบลวก ๆ เพื่อให้มันเสร็จไป น่าจะเป็น to finish the urgent work roughly /carelessly

9.แอ๊บแมน เป็นคำแสลงของกระเทย แปลว่าคนที่เป็นเกย์แต่พรางตัวเอง ภาษาอังกฤษคือ closeted

10.ควาย เป็นคำด่า ซึ่งผมไม่รู้เหมือนกันว่าคนไทยนิยมใช้ตั้งแต่เมื่อไรแต่น่าจะเป็นคำแสลง เช่น “ควาย” สำหรับฝรั่งจะใช้คำว่า Idiot , stupid และ numbskull (กระโหลกชา) และคนไทยยังใช้ว่า “มุขควายๆ ” หรือมุขตลกแบบโง่ๆ ดังนั้นจึงน่าจะป็น the silly gag (gag แปลว่ามุข)

11.แฮ๊บ แปลว่าแอบขโมยของเล็กๆ น้อยๆ เช่นนั่งกินข้าวในโรงแรมก็แอบเอาซ้อมหรือช้อมใส่กระเป๋าเป็นคำน่ารักที่ใช้เพื่อให้พฤติกรรมดูดีกว่าเดิมสักหน่อย ภาษาอังกฤษเขาใช้คำว่า steal ทั้งนั้นแต่ถ้าเป็นขโมยของในห้างสรรพสินค้าเค้าใช้คำว่า shoplifting

12.เด็กแวนท์ /เด็กแว้นต์/เด็กแว้นซ์ ใช้กับพวกที่ชอบขี่มอเตอร์ไซด์รวมกลุ่มกันเพื่อแข่งบนถนนตอนดึกๆ ใครชนะก็เอาเด็กสาวที่นั่งซ้อนท้ายของอีกฝ่ายมาร่วมหลับนอนด้วย คำว่า แวนท์ (หรืออะไรสักอย่างนี่แหละ) เป็นเสียงบิดของมอเตอร์ไซด์ แต่ตอนนี้เค้าก็นิยมใช้กับวัยรุ่นกลุ่มอื่นด้วย ดังนั้นภาษาอังกฤษน่าจะเป็น reckless youth หรือพวกเด็กวัยรุ่นบ้าระห่ำไม่คิดถึงอนาคตของตัวเอง มาดูอีกทีก็น่าจะเหมือนกับคำว่า เด็กเกรียน คือเด็กกวนเท้า หรือ troublesome /annoying kid คือเด็กที่ชอบสร้างปัญหาหรือกวน ๆ

13.ชิลล์ ๆ สันนิฐานว่าคำนี้น่ามาจากคำว่า chill out แปลว่าสบาย ๆ ทำให้ผ่อนคลาย แต่คนไทยชอบบอกว่า “มันเป็นเรื่องชิลล์ ๆ ” ความหมายน่าจะเป็น “It is a piece of cake”แปลว่า “เรื่องหมู ๆ”หรือ trifle ซึ่งแปลว่า “เรื่องขี้ประติ๋ว” นอกจากนี้ยังเจอในโฆษณา(แหกตาประชาชน)เช่นคำว่า ราคาชิลล์ ๆ ก็คือ cheap price

14.เอ๋อ คือ กริยาที่แปลว่า นิ่ง งงงัน สับสน ภาษาอังกฤษที่ตรงที่สุดน่าจะเป็น dumbfounded หรือ dumbfolded เป็นคำคุณศัพท์ นอกยังสามารถใช้คำว่า confused แปลว่าสับสน งงงวย หรือ surprise คือตกตะลึงด้วยก็ได้

15.ตีส คำนี้ย่อมาจากคำว่า artist แปลว่าศิลปิน ใช้กับคำว่า “อารมณ์”หรือ”อุปนิสัย”ก็ได้ อารมณ์ติสก็คืออารมณ์อ่อนไหวง่าย ชอบเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ไม่ค่อยมีความสม่ำเสมอในการทำงานคือถ้ามีอารมณ์ก็ลุยงานแบบไม่หลับไม่นอน แต่ถ้าไม่มีอารมณ์ก็นอนกระดิกเท้าเฉย นั่นคือ sensitive and temperamental ในหลายครั้งเราอาจจะรวมไปถึงนิสัยที่ชอบพูดถึงเรื่องซับซ้อนเช่น ศิลปะ ปรัชญา หรือเรื่องโรแมนติก สายลม แสงแดด ความสวยงามของบทกวี บุคคลที่มีนิสัยเช่นนี้เราจะเรียกว่า bohemian style

16.เด็กซิ่ว และเด็กเปอร์ คำว่าซิ่วกร่อนมาจาก fossil หรือซากสัตว์โบราณใช้กับนักศึกษาที่เคยเรียนมหาวิทยาลัยอื่นแล้วมาสอบใหม่ นั่นคือ The student who used to study in other university/faculty. และคำว่าเปอร์กร่อนมาจากว่า super หมายถึงนักศึกษาที่ใช้เวลาเรียนมากกว่าที่มหาวิทยาลัยกำหนด นั่นคือ The student who has studied in more than required time.

17.เด็กแนว ขอแปลจากวิกกีพิเดียไทยเลยก็แล้วกันนะครับว่า”เป็นลักษณะของกลุ่มสังคมวัยรุ่นในวัฒนธรรมสมัยนิยม โดยกล่าวว่า เด็กสมัยใหม่ที่ไม่ตามแฟชั่น ไม่ตามใคร มีหัวคิดเป็นของตัวเอง ลักษณะการแต่งตัวแปลกใหม่เป็นจุดเด่น ” และผมก็ขอไม่ลงทุนโดยการยกมาจาก wikipedia ภาษาอังกฤษอีกทีคือ hipster (ซึ่งเป็นที่มาของคำแสลงที่ไม่ค่อยนิยมคือเด็กฮิป) ก็คือ an individual who avoids and often explicitly rejects whatever is seen as mainstream or corporate in nature, instead embracing alternative forms of expression.

18.จีบ คำนี้ไม่ได้หมายถึงการเกี้ยวพาราสีของหนุ่มสาวเพียงอย่างเดียวหากปัจจุบันยังหมายถึงการขอร้องหรือเกลี่ยกล่อมให้ใครบางคนมาร่วมงานด้วยคำนี้น่าจะเป็น persuade หรือ urge

19.แป๊ก คำแสลงโบราณที่ผมได้ยินมาตั้งแต่เด็ก มักจะใช้กับเรื่องของราชการเช่น เงินเดือนแป๊ก คือเงินเดือนไม่ขึ้น ภาษาอังกฤษคือ His salary is not raised anymore.หรือ ข้าราชการคนนั้นถูกแป๊กให้ไปอยู่ที่อื่น นั่นคือ He is transferred to the place which is inferior to the former. นั่นคือเขาถูกย้ายให้ไปอยู่ที่อื่นซึ่งด้อยกว่าที่เก่า

20. เบนโล มาจากเหตุการณ์ของนางเอกสาวที่ท้องแล้วโกหกว่าตัวเองไม่ท้องโดยบอกว่าที่อวบอัดเพราะกินเบนโล สื่อมวลชนโดยเฉพาะสายบันเทิงจึงใช้คำนี้กับดาราสาวที่ดูน่าสงสัยว่าจะท้องเพราะเปล่งปลั่งเป็นพิเศษแต่ทำเป็นเฉย ภาษาอังกฤษที่น่าจะแปลได้อย่างครอบคลุมคือ

She’s pregnant ,but keeps it secret by lying.

อย่างไรก็ตามในอนาคตเราน่าจะคำนี้กับนักการเมืองทุกคนรวมไปถึงผู้ที่ถูกเรียกว่าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งหลายที่ชอบโกหกประชาชนกันวันละห้าร้อยครั้ง ผู้”เบนโล” หรือโกหกหน้าด้านๆ ยิ่งกว่า ดาราสาวคนนั้นห้าร้อยเท่า

55555555++


J.Geco – Chicken Song


NEW 2021! Chicken Soooocks! ⬇️
https://www.youtube.com/watch?v=jvpdV0GI25E\u0026ab_channel=J.Geco
📷 Instagram https://www.instagram.com/jgeco_official/
🎥 Chicken Song Miniseries https://www.youtube.com/playlist?list=PLoO8l0BJX3hG3NkdJJOZvT5tg8RmFLesh
💿 Music
1) On Spotify https://goo.gl/dNKAeK
2) On iTunes https://goo.gl/fKvRUJ
3) On Google Music https://goo.gl/z8cNwt
🐔🐔🐔🐔 Stay Tuned for new content in 2021 o.o 🐔🐔🐔🐔

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

J.Geco - Chicken Song

$ilkMoney – My Potna Dem (Lyrics)


🔊 $ilkMoney My Potna Dem (Lyrics)
Listen to \”My Potna Dem\” on Spotify:
https://open.spotify.com/track/7uWdDOhI3wydISWM1AXN0M?si=508b234646764647
⚡ InvertOG Spotify Playlist:
https://open.spotify.com/playlist/11vit4GPK2VHY7GsiQVqom
Follow $ilkMoney:
https://twitter.com/GirlsDemSugarMG
https://www.instagram.com/silkbooty/

$ilkMoney - My Potna Dem (Lyrics)

[THAISUB] i die first // LANY ☔️


⛔️ ในคลิปพิมผิดนิดนึงนะคะ “อยู่ให้แน่ใจว่าผมตายก่อน” 🥺
🌷🦋
i die first l LANY https://youtu.be/cllP6Voh70
LANY’s channel https://youtube.com/c/thisisLANY
ถ้าแปลผิดพลาดต้องขออภัยด้วยนะคะ ଘ(੭ˊᵕˋ)੭🧃 คอมเมนท์บอกกันได้นะ🥺
Thank you for watching💗🍦🎨🎠 ᐧ༚̮ᐧ ☼ ♡̶˚ ⸝⸝⸝
อยากให้แปลเพลงไหนบอกได้น้า ถ้าแปลได้ เราทำให้ค้าบ🧚🏻‍♂️

🥐🥛🍪

🔆nosedive แปลว่า การตกลงแบบทิ้งดิ่ง พุ่งหัวลง ตกฮวบอย่างรวดเร็ว หรือการที่เครื่องบินตกแบบเอาหัวลง
ในเพลงเราเลยแปลว่า ขับรถให้ตกเหวไปเลย นะคะ
🔆add up แปลว่า มีเหตุผล
เช่น That story she told us doesn’t add up at all.
เรื่องที่เธอเล่ามันไม่มีเหตุผลเลยอ่ะ / เรื่องที่เธอเล่ามันทะแม่งๆนะ ไม่น่าจะเป็นเรื่องจริงอ่ะ
ในเนื้อเพลง
It’ll never add up to a life with out ya.
ชีวิตของผมไม่มีทางมีเหตุผลเลยถ้าไม่มีคุณ

[THAISUB] i die first // LANY ☔️

The Broken Heart Club -​Gnash​ [ThaiSub/แปลเพลง]


The Broken Heart club
Original By Gnash
https://www.youtube.com/watch?v=gANYssb7mC8

Novocaine หรือ ยาโนโวเคน เป็นยาชาประเภทหนึ่งเป็นยาชาที่นิยมใช้กันบ่อย มีราคาถูก ออกฤทธิ์เร็ว
Amnesia หรือ ภาวะเสียความจำ
dying to หรือ dying to do something แปลว่า ต้องการหรือยากมากๆ ให้ตายอย่างไรก็ต้องทำให้ได้
misery loves company เป็นวลีที่หมายถึงคนที่กำลังมีทุกข์จะรู้สึกสบายใจขึ้นถ้าได้ระบายความอัดอั้นตันใจกับเพื่อนร่วมชะตากรรมคนอื่นๆ

ถ้าทางเราแปลผิดพลาดตรงไหนสามารถคอมเมนท์ติชมได้ตามสะดวกเลยนะคะ
ขอบคุณที่รับชมค่า

The Broken Heart Club -​Gnash​ [ThaiSub/แปลเพลง]

Couple Fashion On The Street #3 | Pii Vines


Couple Fashion On The Street 3 | Pii Vines
Pii Vines là kênh tổng hợp những cặp đôi thời trang trên đường phố, cùng những tình huống dở khóc, dở cười, thú vị và hài hước trên phố đi bộ của các bạn trẻ Trai xinh Gái đẹp tik tok Trung Quốc
Video mang tính chất giải trí, nếu thấy Hay hãy chia sẻ cho các bạn khác cùng xem Chúc mọi người xem video vui vẻ…!
Đừng quên nhấn Like👍, Đăng Ký Kênh✅ Và bật chuông thông báo 🔔để nhận thêm những video mới nhất hấp dẫn từ Pii Vines nhé
✅ Follow Me (Facebook): https://www.facebook.com/PiiVines
✅ Subcribe To Channel (Youtube): https://www.youtube.com/channel/UCna5PZdhF_q1xqBZWr6n5kg
✅ Gmail : [email protected]
Edit by Pii Vines
Nguồn tổng hợp : 抖音短视频 (Video ngắn của Douyin)
douyin, tiktok, piivines

Couple Fashion On The Street #3 | Pii Vines

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่MAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ extremely แปล

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *