Skip to content
Home » [Update] Pronouns ( คำสรรพนาม ) | pronoun มีอะไรบ้าง – NATAVIGUIDES

[Update] Pronouns ( คำสรรพนาม ) | pronoun มีอะไรบ้าง – NATAVIGUIDES

pronoun มีอะไรบ้าง: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

Pronouns ( คำสรรพนาม )

✎ โพสต์เมื่อวันที่ : 4 ม.ค. 2551 เปิดอ่าน : 137,263 ครั้ง

Advertisement

☰แชร์เลย >

 


เพิ่มเพื่อน
Pronouns  ( คำสรรพนาม )

Advertisement

Pronouns  ( คำสรรพนาม )
Types (ชนิดของคำสรรพนาม)

Pronoun ( คำสรรพนาม )  คือคำที่ใช้แทนคำนามหรือคำเสมอนาม ( nouns- equivalent ) เพื่อหลีกเลี่ยงการกล่าวถึงซ้ำซาก หรือแทนสิ่งที่รู้กันอยู่แล้วระหว่างผู้พูด ผู้ฟัง   หรือแทนสิ่งของที่ยังไม่รู้ หรือไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร   คำสรรพนาม  (pronouns ) แยกออกเป็น  7 ชนิด คือ

  • Personal Pronoun ( บุรุษสรรพนาม )  เช่น I, you, we, he , she ,it, they
  • Possessive Pronoun ( สรรพนามเจ้าของ ) เช่น mine, yours, his, hers, its,theirs, ours
  • Reflexive Pronouns ( สรรพนามตนเอง ) เป็นคำที่มี – self ลงท้าย  เช่น myself, yourself,ourselves
  • Definite Pronoun ( หรือ Demonstrative Pronouns สรรพนามเจาะจง )  เช่น  this, that, these, those, one, such, the same
  • Indefinite Pronoun ( สรรพนามไม่เจาะจง ) เช่น  all, some, any, somebody, something, someone
  • Interrogative Pronoun ( สรรพนามคำถาม ) เช่น Who, Which, What
  • Relative pronoun ( สรรพนามเชื่อมความ ) เช่น  who, which, that

1.Personal Pronouns ( บุรุษสรรพนาม )  คือสรรพนามที่ใช้แทนบุคคลหรือสิ่งของในการพูดสนทนา มี 3 บุรุษคือ

บุรุษที่ 1
ได้แก่ตัวผู้พูด
I, we

บุรุษที่ 2
ได้แก่ผู้ฟัง  
you

บุรุษที่ 3
ได้แก่ผู้ ที่พูดถึง สิ่งที่พูดถึง
 he, she. it , they

รูปที่สัมพันธ์กันของคำสรรพนาม

รูปประธาน 

รูปกรรม

Possessive Form

Reflexive Pronoun

Adjective

Pronoun

 I

 me

my

 mine

 myself

we

us

our

ours

ourselves

you

you

your

yours

yourself

he

him

his

his

himself

she

her

her

hers

herself

it

it

its

its

itself

they

them

their

theirs

themselves

เช่น
I saw a boy on the bus. He seemed to recognize me.
ฉันเจอเด็กคนหนึ่งบนรถประจำทาง เขาดูเหมือนจะจำฉันได้  ( He ในประโยคที่สองแทน a boy และ me แทน I  ในประโยคที่หนึ่ง )
My friend and her brother like to swim. They swim whenever they can.
เพื่อนฉันและน้องชายของเธอชอบว่ายน้ำ พวกเขาไปว่ายน้ำทุกครั้งที่มีโอกาส (  they ในประโยคที่สอง แทน My friend และ her brother ในประโยคที่ 1 )

การใช้ Personal Pronouns ที่ทำหน้าที่เป็นประธานและเป็นกรรมมีหลักดังนี้
Personal Pronoun ที่ตามหลังคำกริยาหรือตามหลังบุพบท ( preposition ) ต้องใช้ในรูปกรรม เช่น

Please tell him what you want.   โปรดบอกเขาถึงสิ่งที่คุณต้องการ  ( ตามหลังดำกริยา tell )
Mr. Wilson talked with him about the project.   
คุณวิลสัน พูดกับเขาเกี่ยวกับโครงการ ( ตามหลังบุพบท with )

หมายเหตุ        ถ้ากริยาเป็น verb to be สรรพนามที่ตามหลังจะใช้เป็นประธานหรือเป็นกรรม ให้พิจารณาดูว่า สรรพนามใน ประโยคนั้นอยู่ในรูปผู้กระทำ หรือ ผู้ถูกกระทำ เช่น

It was she who came here yesterday.
เธอคนนึ้ ที่มาเมื่อวานนี้  ( ใช้ she เพราะเป็นผู้กระทำ )
It was her whom you met at the party last night.
เธอคนนี้ที่คุณพบที่งานเลี้ยงเมื่อคืนนี้ (ใช้ her เพราะเป็นกรรมของ   you met )

2. Possessive Pronouns ( สรรพนามเจ้าของ )  คือสรรพนามที่ใช้แทนคำนามเมื่อแสดงความเป็นเจ้าของ ได้แก่คำต่อไปนี้
      mine,ours, yours, his, hers,its,theirs 

The smallest gift is mine. ของขวัญชิ้นที่เล็กที่สุดเป็นของฉัน
This is yours. อันนี้ของคุณ
His is on the kitchen counter. ของเขาอยู่บนเคาน์เตอร์ในครัว
Theirs will be delivered tomorrow. ของพวกเขาจะเอามาส่งพรุ่งนี้
Ours is the green one on the table . ของพวกเราคืออันสีเขียวที่อยู่บนโต๊ะ

possessive pronouns มึความหมายเหมือน    possessive adjectives แต่หลักการใช้ต่างกัน

This is my book.
นี่คือหนังสือของฉัน ( my ในประโยคนี้เป็น possessive adjective ขยาย book )
This book is mine.
หนังสือนี้เป็นของฉัน (  mine ในประโยคนี้เป็น possessive pronoun  ทำหน้าที่เป็นส่วนสมบูรณ์ ( complement)  ของคำกริยา is )

3. Reflexive Pronouns ( สรรพนามตนเอง ) คือสรรพนามที่แสดงตนเอง แสดงการเน้น ย้ำให้เห็นชัดเจน มักเรียกว่า -self form of pronoun  ได้แก่
    myself. yourself, yourselves, himself, herself, ourselves. themselves, itself  มีหลักการใช้ดังนี้

  • ใช้เพื่อเน้นประธานให้เห็นว่าเป็นผู้กระทำการนั้นๆ ให้วางไว้หลังประธานนั้น  ถ้าต้องการเน้นกรรม (object ) ให้วางหลังกรรม เช่น

    She

    herself doesn’t think  she’ll get the job.

    The film

    itself wasn’t very good but I like the music.
    I spoke to

    Mr.Wilson

    himself.

  • วางหลังคำกริยา เมื่อกริยาของประโยคเป็นกริยาที่ทำต่อตัวประธานเอง
    They

    blamed

    themselves for the accident.
    พวกเขาตำหนิตนเองในอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ( ตามหลังกริยา blamed )
    You

    are

    not yourself today.
    วันนี้คุณไม่เป็นตัวของคุณเอง ( ตามหลังกริยา are )
    I don’t want you to pay for me. I’ll

    pay

    for myself.
    ฉันไม่อยากให้คุณเป็นคนจ่ายเงินให้ ฉันจะจ่ายของฉันเอง
    Julia had a great holiday. She enjoyed herself very much.
    จูเลียมีวันหยุดที่ดี เธอสนุกมาก
    George cut himself while he was shaving this morning.
    จอร์จทำมีดบาดตัวเองขณะทีโกนหนวดเมื่อเช้านี้

หมายเหตุ  ปกติ จะใช้  wash/shave/dress โดยไม่มี myself

  • เมื่อต้องการจะเน้นว่า ประธานเป็นผู้ทำกิจกรรมนั้นเอง
    Who repaired your bicycle for you? Nobody, I repaired it myself.
    ใครซ่อมรถจักรยานให้คุณ. ไม่มีใครทำให้ฉันซ่อมเอง
    I’m not going to do it for you. You can do it yourself.
    ฉันจะไม่ทำ( อะไรสักอย่างที่รู้กันอยู่ ) ให้นะ คุณต้องทำเอง

    By myself หมายถึงคนเดียว มีความหมายเหมือน  on my own  เช่นเดียวกับคำต่อไปนี้

    on ( my/your/his/ her/ its/our/their ) own     มีความหมายเหมือนกับ
    by ( myself/yourself ( singular) /himself/ herself/ itself/ ourselves/ yourselves(plural)/ themselves )
    เช่น 
    I like living on my own/by myself. ฉันชอบใช้ชีวิตอยู่คนเ้ดียว
    Did you go on holiday on your own/by yourself? เธอไปเที่ยววันหยุดคนเดียวหรือเปล่า
    Learner drivers are not  allowed to drive on their own/ by themselves.
    ผู้ที่เรียนขับรถไม่ได้รับอนุญาตให้ขับรถด้วยตัวเองคนเดียว
    Jack was sitting on his own/by himself in a corner of the cafe.
    แจ๊คนั่งอยู่คนเดียวทีีมุมห้องในคาเฟ

Advertisement

4. Definite Pronouns หรือ Demonstrative Pronouns  คือสรรพนามที่บ่งชี้ชัดเจนว่าใช้แทนสิ่งใด เช่น
 this, that, these, those, one, ones, such, the same, the former, the latter

That is incredible!    นั่นเหลือเชื่อจริงๆ  (อ้างถึงสิ่งที่เห็น)
I will never forget this.   ฉันจะไม่ลืมเรื่องนี้เลย (อ้างถึงประสบการณ์เมื่อเร็วๆนี้)
Such is my belief.  นั่นเป็นสิ่งที่ฉันเชื่อ (อ้างถึงสิ่งที่ได้อธิบายไปก่อนหน้านี้ )
Grace and Jane ar good girls. The former is more beautiful than the latter.
  เกรซและเจนเป็นเด็กดีทั้งคู่ แต่คนแรก (เกรซ)จะสวยกว่าคนหลัง (เจน)

5.Indefinite Pronouns ( สรรพนามไม่เจาะจง ) หมายถึงสรรพนามที่ใช้แทนนามได้ทั่วไป มิได้ชี้เฉพาะเจาะจงว่าแทนคนนั้น คนนี้ เช่น

everyone
everybody
everything
some
each

someone
somebody
all
any
many

anyone
anybody
anything
either
neither

no one
nobody
nothing
none
one

more
most
enough
few
fewer

little
several
more
much
less

Everybody loves somebody. คนทุกคนย่อมมีความรักกับใครสักคน
Is there anyone here by the name of Smith? มีใครที่นีชื่อสมิธบ้าง
One should always look both ways before crossing the street. ใครก็ตามควรจะมองทั้งสองด้านก่อนข้ามถนน
Nobody will believe him. จะไม่มีใครเชื่อเขา
Little is expected. มีการคาดหวังไว้น้อยมาก

We, you, they ซึ่งปกติเป็น personal pronoun จะนำมาใช้เป็น indefinite pronoun เมื่อไม่เจาะจง  โดยมากใช้ในคำบรรยาย คำปราศัย เช่น

We should prepare ourselves to deal with any emergency. เรา ( โดยทั่วไป) ควรจะเตรียมพร้อมไว้เสมอสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉิน)
You sometimes don’t know what to say in such a situation. บางครั้งพวกคุณก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรในสถานการณ์เช่นนั้น.

6. Interrogative Pronouns ( สรรพนามคำถาม )  เป็นสรรพนามที่แทนนามสำหรับคำถาม ได้แก่  Who, Whom, What, Which  และ Whoever, Whomever,Whatever,Whichever   เช่น

Who want to see the dentist first? ใครอยากจะเข้าไปหาหมอฟันเป็นคนแรก? ( who ในที่นี้เป็นประธาน )
Whom do you think we should invite? เธอคิดว่าเราควรจะัเชิญใคร? (  whom ในที่นี้เป็นกรรม – object )
To whom do to wish to speak ? เธออยากจะพูดกับใคร? (  whom ในที่นี้เป็นกรรม – object )
What did she say?  เธอพูดว่าอะไรนะ? (  what เป็นกรรมของกริยา say )
Which is your cat ? แมวของเธอตัวไหน? ( which เป็นประธาน )
Which of these languages do you speak fluently? ภาษาไหนในบรรดาภาษาเหล่านี้ที่คุณพูดได้คล่อง? ( which เป็นกรรมของ speak )

หมายเหตุ   which และ  what  สามารถใช้เป็น  interrogative adjective   และ who, whom , which  สามารถใช้เป็น relative pronoun  ได้

7. Relative Pronouns ( สรรพนามเชื่อมความ ) คือสรรพนามที่ใช้แทนคำนามที่กล่าวมาแล้วในประโยคข้างหน้า   และพร้อมกันนั้นก็ทำหน้าที่เชื่อมประโยคทั้งสอง ให้เป็นประโยคเดียวกัน   เช่นคำต่อไปนี้  who, whom, which whose ,what, that , และ indefinite relative pronouns เช่น whoever, whomever,whichever, whatever

Children who (that) play with fire are in great danger of harm.
The book that she wrote was the best-seller
He’s the man whose car was stolen last week.
She will tell you what you need to know.
The coach will select whomever he pleases.
Whoever cross this line will win the race.
You may eat whatever you  like at this restaurant.

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >> Pronouns ( คำสรรพนาม ) Pronouns(คำสรรพนาม)

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡


Adjective ตำแหน่งของคุณศัพท์ ( Position )
เปิดอ่าน 383,195 ครั้ง
เจาะเทคนิค “ฝึกภาษาอังกฤษ” ทำเองได้ ไม่ยากเลย
เปิดอ่าน 13,854 ครั้ง
Verb Tenses Continuous/Non-continuous Verbs
เปิดอ่าน 15,387 ครั้ง
ความถี่และความบ่อย(ภาษาอังกฤษ)
เปิดอ่าน 204,206 ครั้ง
เทคนิคภาษาอังกฤษ
เปิดอ่าน 23,458 ครั้ง
3 แหล่งเรียนรู้เด็ดให้เก่งภาษาอังกฤษขั้นเทพ
เปิดอ่าน 23,623 ครั้ง

Advertisement

[Update] Pronoun (คำสรรพนาม) ภาษาอังกฤษ ม.ปลาย | pronoun มีอะไรบ้าง – NATAVIGUIDES

Pronoun (คำสรรพนาม)

Pronoun อ่านว่า โพร’เนานฺ หมายถึง คำสรรพนาม ก็คือคำที่ใช้แทนคำนาม (Noun) และทำหน้าที่เช่นเดียวกับคำนามในภาษาอังกฤษ

คำสรรพนามในภาษาอังกฤษประเภทต่างๆ มีอะไรบ้าง, ตัวอย่างประโยค

Pronoun  (คำสรรพนาม) แบ่งออกเป็น 5 ประเภท

ก่อนอื่น เรามาดูตารางสรุปรูปแบบของ Pronoun หรือคำสรรพนามในภาษาอังกฤษกันก่อนครับ

รูปประธาน
รูปกรรม
รูปแสดงความเป็นเจ้าของ
รูปความเป็นเจ้าของ
รูป self-form

I
me
my
mine
myself

You
you
your
yours
yourself

We
us
our
ours
ourselves

They
them
their
theirs
themselves

He
him
his
his
himself

She
her
her
hers
herself

It
it
its
(its)
itself

ข้อควรรู้
การใช้ Pronoun คำว่า you เป็นได้ทั้ง pronoun (คำสรรพนาม) เอกพจน์และ pronoun พหูพจน์ (คุณ 1 คน หรือ พวกคุณหลายคน)

1. Personal Pronouns << คลิกอ่านเพิ่ม
Personal Pronouns หมายถึง คำสรรพนามที่ใช้แทนนามบุรุษที่ 1 (ผู้พูด)  นามบุรุษที่ 2 (ผู้ฟัง)  นามบุรุษที่ 3 (ผู้ที่ถูกกล่าวถึง อาจเป็นคน สัตว์ และสิ่งของ)

Personal Pronouns  แบ่งได้ 2 รูป  คือ
1. Personal Pronouns  รูปประธาน หมายถึง คำสรรพนามที่ใช้เป็นประธาน ได้แก่  I, You, We, They, He, She, It  เป็นต้น

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
We are students.
= พวกเราเป็นนักเรียน
He is a teacher.
= เขา (ผู้ชาย) เป็นครู

2. Personal Pronouns รูปกรรม  หมายถึง คำสรรพนามที่ใช้เป็นกรรมของประโยค

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
She asks me to teach her homework.
= หล่อนขอให้ฉันสอนการบ้านให้
She asks him to teach her homework.
= หล่อนขอให้เขาสอนการบ้านให้

หลักการใช้ Personal Pronouns

1. หลัง than , as….as  จะใช้รูปประธานหรือรูปกรรม  ต้องดูความหมายของประโยค  ถ้ามี verb ตามมาใช้รูปประธาน  ถ้าเป็นกรรมของ verb ที่อยู่ข้างหน้าใช้รูปกรรม เช่น

รูปประธาน (ไม่นิยมใช้)
He is smarter than she is.
He is as smart as she is.

รูปกรรม
He likes you more than me.
He likes you as much as me.

2. หลังกิริยาที่บอกสภาพ ได้แก่ be , seem , look , like , appear มักจะใช้รูปกรรม เช่น
His father looks like him.

3. หลัง between …and …., let, except ใช้ในรูปกรรม เช่น
Let us go out.
There are some problems between you and me.

การใช้  He , She , It
1. เพศชายและไม่บ่งเพศ ใช้ He
2. He, She นอกจากใช้แทนคนแล้วยังใช้แทนสัตว์เลี้ยงได้
3. She อาจใช้แทนสิ่งไม่มีชีวิตได้เมื่อกล่าวถึงคุณสมบัติหรือความรู้สึก เช่น เรือ, รถไฟ, เครื่องบิน
4. She ใช้แทนประเทศในแง่ของหน่วยหนึ่งทางการเมืองและวัฒนธรรม
5. It ใช้กับสัตว์และเด็กเล็กที่ไม่ทราบเพศหรือไม่คำนึงถึงเพศ

2. Possessive Pronouns << คลิกอ่านเพิ่ม
Possessive Pronouns  หมายถึง คำสรรพนามที่แสดงความเป็นเจ้าของ  เช่น his , hers , theirs , mine , ours , yours

หลักการใช้ Possessive Pronouns

1. ใช้เป็นประธานของกิริยาหรือเป็นกรรมของกิริยา หรือของบุพบท
Her car is red, but yours is blue.  (yours แทน your car)

ย้อนดูที่ตารางด้านบน สำหรับรูปแสดงความเป็นเจ้าของ ต้องตามด้วยคำนาม แต่รูปความเป็นเจ้าของ ไม่ต้องมีคำนามตามมา (เนื่องจากรู้กันอยู่แล้ว) ลองดูตัวอย่าง 2 ประโยคนี้

He is my boyfriend.
= เขาเป็นแฟน(ชาย)ของฉัน
He is mine.
= เขาเป็นของฉัน

2. ใช้หลัง of  หมายถึง หนึ่งในบรรดา (คน , ตัว , สิ่ง , อัน) ทั้งหลายเหล่านี้
John is a teacher of  mine.  (mine แทน my teacher)

3. Reflexive and Emphasizing Pronouns
Reflexive and Emphasizing Pronouns หมายถึง Pronouns ที่ลงท้ายด้วย self  และ selves   โดยทำหน้าที่แตกต่างกัน

เอกพจน์                  พหูพจน์
himself                        themselves
herself                         themselves
itself                            themselves
myself                         ourselves
yourself                       yourselves
oneself                              –

หลักการใช้ Reflexive Pronouns และ Emphasizing Pronouns

1. Reflexive Pronouns ใช้เป็นกรรมของประโยค เมื่อการกระทำนั้นสะท้อนถึงประธานหรือผู้พูดเป็นผู้รับการกระทำนั้นเอง  ประธานและกรรมจะเป็นคน หรือสิ่งเดียวกัน
I saw myself in the mirror.

2. ใช้เน้นประธาน  ซึ่งจะอยู่หลังประธานหรือท้ายประโยค
I go to school by myself.

อ่านต่อแบบละเอียด คลิก >> Reflexive Pronoun

4. Indefinite Pronouns
Indefinite Pronouns  คือ คำสรรพนามที่ไม่ชี้เฉพาะเจาะจงว่าเป็นใคร สิ่งใดหรืออันใด  จะมีทั้งเอกพจน์และพหูพจน์

1. Indefinite Pronouns แบบเอกพจน์  ได้แก่
a person    anybody    one              someone       anyone
each          either         neither        everybody     everyone
another      anything    something   the other       nothing
much         everything   nobody      no one          somebody

หมายเหตุ – การใช้ one….another , one… the other

1.1. ถ้าหมายความว่า “ไม่…ใดก็…หนึ่ง” หรือ “อีกหนึ่ง” ใช้ one คู่กับ another  ได้
1.2. ถ้ามีเพียงสองจำนวน หรือ สองส่วนเท่านั้น   ใช้ one คู่กับ the other ได้
เช่น Mary buys two bicycles, one for her daughter , and the other for her son.

2. Indefinite Pronouns  แบบพหูพจน์  ใช้คำสรรพนามรูปพหูพจน์  กิริยาจะเป็นพหูพจน์ด้วย
เช่น  both , few, many several.

5. Relative Pronouns
Relative Pronouns  คือ สรรพนามที่ใช้แทนคำนามที่อยู่ข้างหน้า  โดยทำหน้าที่เชื่อม clauses เข้าด้วยกัน
เช่น who , whom , whose , which , that , as

Relative Pronouns  แบ่งตามหน้าที่ได้ดังนี้

1. Personal  (คน) ได้แก่

–  who  ใช้แทนคำนามที่ทำหน้าที่เป็นประธานทั้งเอกพจน์และพหูพจน์
A student who pays attention in the class gets a good grade.
People who live in Bangkok cope with the traffic problem.

– whom ใช้แทนคำนามที่ทำหน้าที่เป็นกรรมทั้งเอกพจน์และพหูพจน์
The teacher whom I met yesterday is your uncle.

–  whose  ใช้แทนคำนามที่ทำหน้าที่แสดงความเป็นเจ้าของ
This woman whose purse was lost  is going to  see the police.

2. Non-Personal (สัตว์, สิ่งของ) ได้แก่

– which  ใช้แทนคำนามที่ทำหน้าที่เป็นประธานและกรรม
The gift which I bought yesterday is so expensive.

ในกรณีที่ which เป็น กรรมของ preposition จะต้องเอาpreposition มาไว้ข้างหน้า which ด้วย
This is the house in which Mary lives.
This is the thesis to which John refer.

หากเป็นการใช้ เกี่ยวกับสถานที่ in which , to which เช่น
This is the house in which Mary lives. เป็น
This is the house where Mary lives.


ติว TOEIC ครูดิว : Relative Pronouns ที่ออกสอบ TOEIC บ่อยที่สุด !!!!


✿ ถ้าพื้นฐานน้อย แนะนำหาคอร์สติวดีกว่าค่ะ! ✿
👉 สมัครคอร์ส KruDew ติว New TOEIC 2020 (ทดลองติวฟรี!) ➡️ https://bit.ly/2wR4Gmu
✿ คอร์ส KruDew ติว TOEIC มีอะไรให้บ้าง? ✿
✅Grammar ที่ใช้สอบ TOEIC ให้ครบ เริ่มสอนจากพื้นฐาน เรียนได้ทุกคนแน่นอน
✅เทคนิคช่วยจำต่างๆ จำง่าย เอาไปใช้กับข้อสอบได้จริงๆ
✅เก็งศัพท์ TOEIC ออกข้อสอบบ่อยๆ ให้ครบ ไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งรวบรวมเอง
✅ อัพเดทข้อสอบ New TOEIC ล่าสุด ครบ 200 ข้อ
✅สามารถสอบถามข้อหรือจุดที่สงสัยได้ตลอด
✅การันตี 750+ (ถ้าสอบแล้วไม่ถึง สามารถทวนคอร์สได้ฟรี)
📣 ถ้าไม่อยากพลาดคลิปดีๆแบบนี้ อย่าลืมกด ❤️ Subscribe ❤️กันนะคะ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

ติว TOEIC ครูดิว : Relative Pronouns ที่ออกสอบ TOEIC บ่อยที่สุด !!!!

Pronoun อย่างง่าย/การใช้ Subject Pronoun


Pronoun อย่างง่าย/การใช้ Subject Pronoun

Pronouns Part 1: Subject Pronoun | Subject Pronouns | English For Kids | Mind Blooming


Pronouns: What are pronouns? (Subject Pronouns)
What are Pronouns? Learn how we can replace the subject of a sentence with the right pronoun.

For the \”Adjectives Series\” click the link below 🙂
https://www.youtube.com/playlist?list=PLGIhw0VkiENvmnKo_3u5rucTFEMOk5pMa
For the \”Verbs Series\” click the link below 🙂
https://www.youtube.com/playlist?list=PLGIhw0VkiENsDhCj1ZBll06x08Mf9wheA
For the \”Noun Series\” click the link below 🙂
https://www.youtube.com/playlist?list=PLGIhw0VkiENstmZafbmlTCXI7EIjZpuz

Pronouns Part 1: Subject Pronoun | Subject Pronouns | English For Kids | Mind Blooming

is am are


งานอนิเมชั่น 2D MV is am are
ผลิตโดย Mushroom TV ที่มี น้านิต ภัทรจารีย์ อัยศิริ (สโมสรผึ้งน้อย) เป็นหัวเรือใหญ่ในตอนนั้น
เนื้อร้องและทำนอง โดยน้านิต เป็นคนแต่ง เพลงออกมาน่ารักและสดใส สมกับเป็นลงานของน้านิตครับ
ส่วนดนตรี น่าจะเป็นคุณ พีรสันติ จวบสมัย เป็นคนเรียบเรียงครับ
Animator \u0026 Editor สฤกษ์ชัย กางธนทรัพย์

is am are

ติว TOEIC : Pronoun คืออะไร? เทคนิคการใช้โดยครูดิว


✿ ถ้าพื้นฐานน้อย แนะนำหาคอร์สติวดีกว่าค่ะ! ✿
👉 สมัครคอร์ส KruDew ติว New TOEIC 2020 (ทดลองติวฟรี!) ➡️ https://bit.ly/2wR4Gmu
✿ คอร์ส KruDew ติว TOEIC มีอะไรให้บ้าง? ✿
✅Grammar ที่ใช้สอบ TOEIC ให้ครบ เริ่มสอนจากพื้นฐาน เรียนได้ทุกคนแน่นอน
✅เทคนิคช่วยจำต่างๆ จำง่าย เอาไปใช้กับข้อสอบได้จริงๆ
✅เก็งศัพท์ TOEIC ออกข้อสอบบ่อยๆ ให้ครบ ไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งรวบรวมเอง
✅ อัพเดทข้อสอบ New TOEIC ล่าสุด ครบ 200 ข้อ
✅สามารถสอบถามข้อหรือจุดที่สงสัยได้ตลอด
✅การันตี 750+ (ถ้าสอบแล้วไม่ถึง สามารถทวนคอร์สได้ฟรี)
📣 ถ้าไม่อยากพลาดคลิปดีๆแบบนี้ อย่าลืมกด ❤️ Subscribe ❤️กันนะคะ

ติว TOEIC : Pronoun คืออะไร? เทคนิคการใช้โดยครูดิว

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ pronoun มีอะไรบ้าง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *