Skip to content
Home » [Update] Pronoun หรือ คําสรรพนาม คืออะไร พร้อมตัวอย่างประโยค | himself แปลว่า – NATAVIGUIDES

[Update] Pronoun หรือ คําสรรพนาม คืออะไร พร้อมตัวอย่างประโยค | himself แปลว่า – NATAVIGUIDES

himself แปลว่า: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

ในบทความนี้ เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับ pronoun คืออะไร พร้อมตัวอย่างประโยค และชนิตต่างๆ ของ คําสรรพนามถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

Pronoun คืออะไร ??

Pronoun (คำสรรพนาม) คือคำที่ใช้แทนคำนาม เพื่อความสะดวกและความกระชับในการใช้ภาษา อย่างเช่นคำว่า I, you, he, she, it, we, they, everyone, someone เป็นต้น ในภาษาอังกฤษ เมื่อเรากล่าวซ้ำถึงคำนามใด หรือเมื่อเรากล่าวถึงสิ่งที่ทั้งผู้พูดและผู้ฟังรู้กันอยู่แล้วว่าหมายถึงสิ่งไหน เราจะเปลี่ยนไปใช้ pronoun แทน

Pronoun พื้นฐาน 7 ตัวคือ I, you, he, she, it, we, they โดยทั้ง 7 ตัวนี้จะมีความพิเศษตรงที่ว่ามันมีหลายรูป เราจะต้องเลือกใช้รูปให้ตรงกับหน้าที่ในประโยค

ตัวอย่างประโยคการใช้สรรพนาม
*I: I am a teacher. แปลว่า ฉันเป็นครู
*You: You are the teacher. แปลว่า คุณเป็นครู
*She: She is the teacher. แปลว่า หล่อนเป็นครู ใช้ She ทำหน้าที่เป็นประธาน วางไว้หน้าสุดของประโยค ตามด้วยคำกริยา
*It: It’s your turn แปลว่า มันถึงคราวของคุณแล้ว หรือ ถึงตาคุณแล้ว
*We:   We come from Thailand. แปลว่า พวกเรามาจากประเทศไทย 
*They: They have two kids  แปลว่า พวกเขา มี ลูก สองคน  สรรพนาม They/เดย์ ทำหน้าที่เป็นประธานของประโยควางไว้หน้าคำกริยา

ตัวอย่างความหมายของคําสรรพนามในภาษาอังกฤษ

Pronoun มีอะไรบ้าง??

คําสรรพนาม หรือ Pronoun มี 7 ชนิด ประกอบด้วย

  1. บุรุษสรรพนาม(Personal pronouns)
  2. สรรพนามแสดงตนเอง (Reflexive pronouns)
  3. สรรพนามบ่งชี้  (Demonstrative pronouns)
  4. สรรพนามเจ้าของ(Possessive pronoun)
  5. สรรพนามที่ใช้เชื่อมประโยค (Relative pronouns)
  6. สรรพนามไม่เจาะจง (Indefinite pronouns)
  7. และ Intensive pronouns

รายละเอียดวิธีการใช้งานของคําสรรพนาม แต่ละชนิดดังต่อไปนี้

1. Personal Pronouns

หรือบุรุษสรรพนาม คือ สรรพนามที่ใช้แทนบุคคล ปกติจะได้แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ สรรพนามบุรุษที่ 1 หรือเรียกได้ว่า The first person ที่จะอยู่ในรูปแบบของ I (ฉัน, ข้าพเจ้า), We (พวกเรา→หลายคน) สองคือ สรรพนามบุรุษที่ 2 หรือได้เรียกว่า The second person ที่อยู่ในรูปแบบของ You (คุณ, พวกคุณ→หลายคน) ประเภคที่สามคือ สรรพนามบุรุษที่ 3 หรือได้เรียกว่า The third person ที่อยู่ในรูปแบบของ He (เขา→ผู้ชาย), She (เธอ,หล่อน→ผู้หญิง), It (มัน), They (พวกเขา→หลายคน)

เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น เรื่องของ Personal Pronouns สามารถสรุปสั้นๆในตารางข้างล่างนี้

Personal
pronoun ที่เป็นประธานPersonal
pronoun ที่เป็นกรรมความหมายรายละเอียดการใช้IMeผม, ฉัน, ดิฉันใช้แทนตัวผู้พูดYouYouคุณ, พวกคุณใช้แทนตัวคู่สนทนา ใช้ได้ทั้งคู่สนทนาคนเดียวและหลายคนHeHimเขาใช้แทนบุคคลอื่นที่เป็นเพศชายSheHerเธอใช้แทนบุคคลอื่นที่เป็นเพศหญิงItItมันใช้แทนสัตว์ สิ่งของ สิ่งที่เป็นนามธรรมWeUsพวกเราใช้แทนกลุ่มของผู้พูดTheyThemพวกเขา, พวกมันใช้แทนกลุ่มบุคคลอื่น กลุ่มสัตว์ กลุ่มสิ่งของ กลุ่มของสิ่งที่เป็นนามธรรม

2. Reflexive pronoun

ได้แก่ myself, yourself, yourselves, himself, herself, itself, ourselves, themselves ที่ใช้เพื่อแทนประธานในประโยคหรือวลีเดียวกัน เข้าใจได้ง่ายคือคำว่า reflexive แปลว่า “สะท้อน” ส่วนคำว่า pronoun นั้นแปลว่า “คำสรรพนาม”

Reflexive pronoun นี้สามารถใช้ในกรณี
1.ใช้เมื่อประธานและกรรมเป็นบุคคลหรือสิ่งเดียวกัน
2. ใช้ “by + reflexive pronoun” เพื่อสื่อความหมายว่า “คนเดียว”
ตัวอย่างเช่น I did all the housework by myself  แปลว่า ฉันทำงานบ้านทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว
3. ใช้เพื่อเน้น เราสามารถใช้ reflexive pronoun เพื่อเน้นว่าใครบางคนได้ทำสิ่งใดด้วยตัวเขาเอง
4. ใช้เพื่อความสุภาพ บางครั้งเราอาจใช้ reflexive pronoun แทน pronoun ที่เป็นกรรม เพื่อให้สุภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น We are grateful for the support of people like yourself แปลว่า พวกเรารู้สึกยินดีกับการสนับสนุนของผู้คนอย่างคุณ

เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น เรื่องของ Reflexive pronoun สามารถสรุปสั้นๆในตารางข้างล่างนี้

Subject pronounความหมายReflexive pronounความหมายIฉันMyselfตนเอง, ฉันเองYou (เอกพจน์)คุณYourself (เอกพจน์)คุณเองHeเขาHimselfเขาเองSheเธอHerselfเธอเองItมันItselfมันเองWeพวกเราOurselvesพวกเราเองTheyพวกเขาThemselvesพวกเขาเอง

3. Demonstrative pronouns

คือ สรรพนามชี้เฉพาะ หมายถึง สรรพนามที่ใช้แทนคำนาม (Noun) เพื่อแสดงการชี้เฉพาะเจาะจงว่าเป็นสิ่งไหน อันไหน หรือว่าคนไหน โดย Demonstrative Pronoun สามารถเป็นได้ทั้งประธานและกรรมของประโยค โดยคำสรรพนามในกลุ่มนี้ที่ผู้เรียนภาษาอังกฤษมักจะพบเห็นบ่อยๆ มี 4 ตัว ได้แก่ this that these those ซึ่งมีการใช้ง่ายๆ ดังต่อไปนี้

Demonstrative pronounความหมายเอกพจน์/พหูพจน์ระยะห่างจากผู้พูดThisนี่เอกพจน์ใกล้Thatนั่นเอกพจน์ไกลTheseนี่
พวกนี้
เหล่านี้พหูพจน์ใกล้Thoseนั่น
พวกนั้น
เหล่านั้นพหูพจน์ไกล

ยกตัวอย่างเช่น
This is my pen. แปลว่า นี่คือปากกาของฉัน
Those are my pens. แปลว่า พวกนั้นคือปากกาของฉัน

4. Possessive pronoun

คือคำสรรพนามที่แสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งหลักๆได้แก่ mine, yours, his, hers, its, ours, theirs  possessive pronoun  ทำหน้าที่เป็นคำสรรพนาม เวลาใช้ไม่ต้องมีคำนามตามหลัง
เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น เรื่องของ Possessive pronoun สามารถสรุปสั้นๆในตารางข้างล่างนี้

Possessive adjectivePossessive pronounความหมายความหมายรายละเอียดการใช้MyMineของฉันใช้กับสิ่งที่เป็นของตัวผู้พูดYourYourของคุณ, ของพวกคุณใช้กับสิ่งที่เป็นของตัวคู่สนทนา ใช้ได้ทั้งคู่สนทนาคนเดียวและหลายคนHisHisของเขาใช้กับสิ่งที่เป็นของบุคคลอื่นที่เป็นเพศชายHerHerของเธอ
ใช้กับสิ่งที่เป็นของบุคคลอื่นที่เป็นเพศหญิงItsItsของมันใช้กับสิ่งที่เป็นของสัตว์หรือสิ่งของOurOurของพวกเราใช้กับสิ่งที่เป็นของกลุ่มผู้พูดTheirTheirของพวกเขา, ของพวกมันใช้กับสิ่งที่เป็นของกลุ่มบุคคลอื่น กลุ่มสัตว์ หรือกลุ่มสิ่งของ

ยกตัวอย่างเช่น
These books are mine. แปลว่า หนังสือพวกนี้เป็นของฉัน
My shoes are more dirty than yours.แปลว่า รองเท้าของฉันสกปรกกว่าของคุณ

เรียนรู้วิธีการใช้ Pronoun หรือคําสรรพนามในภาษาอังกฤษ

5. Relative pronouns

ได้แก่คำว่า who, whom, whose, which, that, where, when, why
who : ใช้กับคน (อาจใช้กับสัตว์เลี้ยงด้วย) whom: ใช้กับคน (ที่ทำหน้าที่เป็นกรรม มักใช้ในภาษาที่เป็นทางการ) whose: ใช้กับคน สัตว์ สิ่งของ (เกี่ยวกับความเป็นเจ้าของ) which: ใช้กับสัตว์และสิ่งของ that:ใช้กับคน สัตว์ สิ่งของ (มักใช้ในภาษาที่ไม่เป็นทางการ) where: ใช้กับสถานที่ when: ใช้กับเวลา why: ใช้กับเหตุผล Relative pronouns  นี้จะเป็นคำสรรพนามที่ใช้เชื่อมประโยคและให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งใดๆ

ตัวอย่างประโยค:
This is Anne, whom you met at the seminar last week. แปลว่านี่คือแอน คนที่คุณเจอที่งานสัมมนาเมื่อสัปดาห์ก่อน
This is the same bag that my mom has. แปลว่า นี่เป็นกระเป๋าใบเดียวกันกับที่แม่ฉันมีเลย
Do you recognise the girl who sat next to me in cinema yesterday ? แปลว่า คุณจำผู้หญิงที่นั่งข้างฉันในโรงหนังเมื่อวานนี้ได้ไหม?
Did she take my computer which I put on the table ? แปลว่า เธอเอาคอมพิวเตอร์ของฉันที่วางไว้บนโต๊ะหรือเปล่า
I love the kinds of flower that smell gentle. แปลว่า ฉันชอบดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมเบาๆ

6. Indefinite pronouns

Indefinite แปลว่า “ไม่เจาะจง” ส่วน pronoun แปลว่า “คำสรรพนาม” ซึ่งก็คือคำที่ใช้แทนคำนามนั่นเองคือคำสรรพนามที่ไม่ได้ระบุเจาะจงว่าเป็นคนไหน สิ่งไหน หรือสถานที่ไหน อย่างเช่น anybody, anyone, anything, anywhere, everybody, somebody, both, all, none เป็นต้น
วิธีการใช้งานของ Indefinite pronouns Indefinite ขึ้นอยู่กับสภานณการและยกตัวอย่างให้เห็นภำพง่ายๆ คือ ถ้าจะใช้กล่าวรวมทั้งหมด: Everyone/everybody is checking their phones. แปลว่า ทุกคนกำลังเช็คโทรศัพท์ของตัวเอง
– ใช้กล่าวถึงแค่บางสิ่ง: Someone/somebody is waiting for you. แปลว่า มีใครบางคนรอคุณอยู่
– ใช้สื่อว่าสิ่งใดก็ได้: Anyone/anybody is welcome.แปลว่า ไม่ว่าจะเป็นใครก็ยินดีต้อนรับ
– ใช้บอกว่าไม่มี: Nobody want to be lonely.แปลว่า ไม่มีใครอยากโดดเดี่ยว

7.Intensive pronouns

คำสรรพนามที่ใช้เมื่อประธานและกรรม เป็นคนเดียวกัน หรือสิ่งเดียวกัน ได้แก่ myself, yourself, himself, herself, itself, ourselves, yourselves, themselves ( รูป –self /-selves ของคำสรรพนามที่ใช้แทนบุคคล)

Pronoun ชนิดอื่นๆ

นอกจาก pronoun พื้นฐานเหล่านี้แล้ว ยังมี pronoun ชนิดอื่นๆอีก อย่างเช่น คำสรรพนามที่ใช้ในคำถาม, คำสรรพนามที่ไม่ชี้เฉพาะ, คำสรรพนามที่ใช้เชื่อมประโยคหรือขยายคำนาม/คำสรรพนาม Pronoun เหล่านี้แต่ละตัวก็จะมีวิธีการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป เราควรเรียนรู้วิธีการใช้เสียก่อน เพื่อที่จะได้นำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง

–  Interrogative pronoun (คำสรรพนามที่ใช้ในคำถาม) เช่น what, which, who, whom, whose
–  Indefinite pronoun (คำสรรพนามที่ไม่ชี้เฉพาะ) เช่น everybody, everyone, everything, somebody, someone, something, some, anybody, anyone, anything, any, nobody, no one, nothing, neither, none
–  Relative pronoun (คำสรรพนามที่ใช้เชื่อมประโยคหรือขยายคำนาม/คำสรรพนาม) เช่น who, whom, whose, which, that, where, when, why

ในข้อสอบต่างๆ คุณอาจจะเจอคำถามเกี่ยวกับวิธีการใช้ Pronoun แล้ววิธีที่ช่วยคุณได้คะแนนเต็มสำหรับหัวข้อนั้นก็คือต้องใช้เวลาทำแบบฝึกหัดให้เยอะขึ้น ทำข้อไหนต้องสามารถอธิบายทำไมคุณถึงจะเลือกคำตอบนั้น มันจะช่วยคุณเข้าใจลึกๆ เกี่ยวกับไวยากรณ์ภาษาอังกฤษและมีความรู้ได้แนน

ว่าอย่างไรคะกับบทความรวบรวม A-Z ความรู้เกี่ยวกับ Pronoun คืออะไร พร้อมตัวอย่างประโยคและวิธีการใช้งานของ Pronoun นี่เป็นส่วนเนื้อหาที่สำคัญเป็นอย่างมากเมื่อพูดถึงไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ดังนั้นผู้เรียนอย่ามองข้ามส่วนเนื้อหานี้นะคะ เรียนไปแล้วต้องเอามาใช้งานจริงด้วยการทำแบบฝึกหัดหรือตั้งประโยคด้วย จะช่วยให้คุณจำได้นานขึ้นและมีความรู้แน่นขึ้นนะคะ

[Update] Pronoun คืออะไร พร้อมตัวอย่างประโยค | himself แปลว่า – NATAVIGUIDES

Pronoun เป็นหัวข้อหนึ่งในภาษาอังกฤษที่สำคัญมาก เพราะเป็นสิ่งที่ใช้บ่อยและเป็นพื้นฐานในการเรียนแกรมม่าเรื่องอื่นๆ

ในบทความนี้ ชิววี่จะมาอธิบายเกี่ยวกับ pronoun ว่ามันคืออะไร มีการใช้อย่างไร และมีตัวอย่างประโยคอะไรบ้าง ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

Pronoun คืออะไร

Pronoun (คำสรรพนาม) คือคำที่ใช้แทนคำนาม เพื่อความสะดวกและความกระชับในการใช้ภาษา อย่างเช่นคำว่า I, you, he, she, it, we, they, everyone, someone เป็นต้น

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพเช่น

John is my friend. He lives in the same town with me.
จอห์นเป็นเพื่อนฉัน เขาอาศัยอยู่ในเมืองเดียวกันกับฉัน

สังเกตว่า เราจะไม่ใช้ John ซ้ำในประโยคที่ 2 แต่จะเปลี่ยนไปใช้ he แทน คำว่า he ในที่นี้ก็คือ pronoun ซึ่งเป็นคำที่ใช้แทนคำนาม John นั่นเอง

ในภาษาอังกฤษ เมื่อเรากล่าวซ้ำถึงคำนามใด หรือเมื่อเรากล่าวถึงสิ่งที่ทั้งผู้พูดและผู้ฟังรู้กันอยู่แล้วว่าหมายถึงสิ่งไหน เราจะเปลี่ยนไปใช้ pronoun แทน

ตัวอย่างคำ pronoun มีอะไรบ้าง

Pronoun พื้นฐาน 7 ตัว

Pronoun พื้นฐานจะมีอยู่ 7 ตัวคือ I, you, he, she, it, we, they โดยทั้ง 7 ตัวนี้จะมีความพิเศษตรงที่ว่ามันมีหลายรูป เราจะต้องเลือกใช้รูปให้ตรงกับหน้าที่ในประโยค

Pronoun
ทำหน้าที่
เป็นประธานPronoun
ทำหน้าที่
เป็นกรรมPronoun
แสดงความเป็นเจ้าของPronoun สะท้อนIMeMineMyselfYouYouYoursYourself/YourselvesHeHimHisHimselfSheHerHersHerselfItItItsItselfWeUsOursOurselvesTheyThemTheirsThemselves

สำหรับ pronoun พื้นฐาน 7 ตัวนี้ ถ้าใช้เป็นประธานในประโยค เราจะต้องใช้รูปประธาน ซึ่งก็คือ I, you, he, she, it, we, they

She called me yesterday.
เธอโทรหาฉันเมื่อวาน

ถ้าใช้เป็นกรรม (ผู้ถูกกระทำ) ในประโยค เราจะต้องใช้รูปกรรม ซึ่งก็คือ me, you, him, her, it, us, them

I called her yesterday.
ฉันโทรหาเธอเมื่อวาน

ถ้าใช้บอกความเป็นเจ้าของ เราจะต้องใช้รูปแสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งก็คือ mine, yours, his, hers, its, ours, theirs

This bag is hers.
กระเป๋าใบนี้เป็นของเธอ

ถ้าประธานและกรรมเป็นบุคคลหรือสิ่งเดียวกัน การใช้ pronoun เป็นกรรม เราจะต้องใช้รูปสะท้อน ซึ่งก็คือ myself, yourself, yourselves, himself, herself, itself, ourselves, themselves

She can take care of herself.
เธอสามารถดูแลตัวเองได้

Pronoun ชนิดอื่นๆ

นอกจาก pronoun พื้นฐานเหล่านี้แล้ว ยังมี pronoun ชนิดอื่นๆอีก อย่างเช่น

Interrogative pronoun (คำสรรพนามที่ใช้ในคำถาม) เช่น what, which, who, whom, whose

Indefinite pronoun (คำสรรพนามที่ไม่ชี้เฉพาะ) เช่น everybody, everyone, everything, somebody, someone, something, some, anybody, anyone, anything, any, nobody, no one, nothing, neither, none

Relative pronoun (คำสรรพนามที่ใช้เชื่อมประโยคหรือขยายคำนาม/คำสรรพนาม) เช่น who, whom, whose, which, that, where, when, why

Pronoun เหล่านี้แต่ละตัวก็จะมีวิธีการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป เราควรเรียนรู้วิธีการใช้เสียก่อน เพื่อที่จะได้นำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง

คำสรรพนามบุรุษที่ 1, 2, 3

เราสามารถแบ่งประเภท pronoun เป็นสรรพนามบุรุษต่างๆได้ 3 ประเภท คือ

สรรพนามบุรุษที่ 1 (first-person pronouns) คือคำสรรพนามที่ใช้แทนผู้พูด อย่างเช่นคำว่า

I – ฉัน
We – พวกเรา

สรรพนามบุรุษที่ 2 (second-person pronouns) คือคำสรรพนามที่ใช้แทนผู้ฟัง อย่างเช่นคำว่า

You – คุณ, พวกคุณ

สรรพนามบุรุษที่ 3 (third-person pronouns) คือคำสรรพนามที่ใช้แทนบุคคลอื่น (ผู้ที่อยู่นอกวงสนทนา) อย่างเช่นคำว่า

He – เขา
She – เธอ
It – มัน
They – พวกเขา

คำบุรุษสรรพนามกับแกรมม่า

ในภาษาอังกฤษ การใช้คำสรรพนามบุรุษที่ 3 ที่เป็นเอกพจน์ (มีจำนวนหนึ่งหน่วย) อย่างเช่น he, she, it เราจะต้องใช้คำกริยารูปเอกพจน์ เมื่อใช้คำกริยาช่อง 1 (เช่น is, does, has, คำกริยาที่เติม s/es)

She eats spicy food regularly.
เธอกินอาหารเผ็ดเป็นประจำ

It is cute.
มันน่ารักจัง

แต่ถ้าเป็นคำสรรพนามพหูพจน์ หรือคำสรรพนามบุรุษอื่น เราจะต้องใช้คำกริยารูปพหูพจน์ (เช่น are, do, have, คำกริยาที่ไม่เติม s/es)

I eat spicy food regularly.
ฉันกินอาหารเผ็ดเป็นประจำ

You are cute.
คุณน่ารักจัง

ตัวอย่าง pronoun ในประโยค

เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น เรามาดูตัวอย่างประโยคการใช้ pronoun พื้นฐานทั้ง 7 ตัวกัน

1. I

I แปลว่า “ฉัน, ผม, ดิฉัน” ใช้เป็นประธานในประโยค

I want to be a lawyer.
ฉันอยากเป็นทนาย

ถ้าใช้เป็นกรรม เราจะใช้ me

My mom want me to be a lawyer.
แม่อยากให้ฉันเป็นทนาย

ถ้าใช้กับ “สิ่งที่เป็นของฉัน” เราจะใช้ mine

This pen is mine.
ปากกาด้ามนี้เป็นของฉัน

ถ้าทั้งประธานและกรรมคือ “ฉัน” เราจะใช้กรรมเป็น myself

I believe in myself.
ฉันเชื่อในตัวฉันเอง

2. You

You แปลว่า “คุณ, พวกคุณ” ใช้เป็นประธานในประโยค

You are a good student.
คุณเป็นนักเรียนที่ดี

You are good students.
พวกคุณเป็นนักเรียนที่ดี

การใช้เป็นกรรม เราจะใช้รูปเดียวกับประธาน เพราะคำว่า you มีรูปประธานและรูปกรรมเหมือนกัน

I don’t want you to be sad.
ฉันไม่อยากให้คุณเสียใจ

ถ้าใช้กับ “สิ่งที่เป็นของคุณ/พวกคุณ” เราจะใช้ yours

My umbrella is broken. Can I borrow yours?
ร่มฉันพัง ขอฉันยืมของคุณได้มั้ย

ถ้าทั้งประธานและกรรมคือ “คุณ/พวกคุณ” เราจะใช้กรรมเป็น yourself/yourselves

You should be proud of yourself.
คุณควรภูมิใจในตัวเอง

3. He

He แปลว่า “เขา” (ใช้กับบุคคลอื่นที่เป็นเพศชาย) ใช้เป็นประธานในประโยค

Tim lives together with me. He is my roommate.
ทิมอาศัยอยู่ด้วยกันกับฉัน เขาเป็นรูมเมทของฉัน

ถ้าใช้เป็นกรรม เราจะใช้ him

Tim is my roommate. I live together with him.
ทิมเป็นรูมเมทของฉัน ฉันอาศัยอยู่ด้วยกันกับเขา

ถ้าใช้กับ “สิ่งที่เป็นของเขา” เราจะใช้ his

The black bag is mine, and the green one is his.
กระเป๋าใบสีดำเป็นของฉัน และใบสีเขียวเป็นของเขา

ถ้าทั้งประธานและกรรมคือ “เขา” เราจะใช้กรรมเป็น himself

He called himself a clever man.
เขาเรียกตัวเองว่าคนฉลาด

4. She

She แปลว่า “เธอ” (ใช้กับบุคคลอื่นที่เป็นเพศหญิง) ใช้เป็นประธานในประโยค

She told me her secret.
เธอบอกความลับของเธอแก่ฉัน

ถ้าใช้เป็นกรรม เราจะใช้ her

I told her my secret.
ฉันบอกความลับของฉันแก่เธอ

ถ้าใช้กับ “สิ่งที่เป็นของเธอ” เราจะใช้ hers

This book isn’t hers.
หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่ของเธอ

ถ้าทั้งประธานและกรรมคือ “เธอ” เราจะใช้กรรมเป็น herself

She looks at herself in the mirror every morning.
เธอมองตัวเองในกระจกทุกเช้า

5. It

It แปลว่า “มัน” (ใช้กับสัตว์หรือสิ่งที่ไม่มีชีวิต) ใช้เป็นประธานในประโยค

This book is amazing. It was written by my uncle.
หนังสือเล่มนี้เยี่ยมมาก มันถูกเขียนโดยคุณลุงของฉันเอง

การใช้เป็นกรรม เราจะใช้รูปเดียวกับประธาน เพราะคำว่า it มีรูปประธานและรูปกรรมเหมือนกัน

This book is amazing. I just bought it yesterday.
หนังสือเล่มนี้เยี่ยมมาก ฉันเพิ่งซื้อมันมาเมื่อวาน

คำว่า it แม้จะมีรูปสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของเป็น its แต่เราจะไม่นิยมใช้กัน ถ้าจะใช้ ให้เราเลี่ยงไปใช้คำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของแทน ซึ่งจะเขียนว่า its เหมือนกัน แต่เวลาใช้ต้องมีคำนามตามหลัง

This milk is past its expiration date.
นมอันนี้เลยวันหมดอายุแล้ว
(Its ในที่นี้เป็นคำคุณศัพท์ เวลาใช้ต้องมีคำนามตามหลัง เราจะไม่นิยมใช้คำว่า its เป็นคำสรรพนาม)

ถ้าทั้งประธานและกรรมคือ “มัน” เราจะใช้กรรมเป็น itself

The cat is licking itself.
แมวกำลังเลียตัวมันเอง

6. We

We แปลว่า “พวกเรา” ใช้เป็นประธานในประโยค

We have been married for nearly three years.
พวกเราแต่งงานกันเกือบ 3 ปีแล้ว

ถ้าใช้เป็นกรรม เราจะใช้ us

The teacher told us to be quiet.
ครูบอกให้พวกเราเงียบ

ถ้าใช้กับ “สิ่งที่เป็นของพวกเรา” เราจะใช้ ours

This land is ours.
ดินแดนแห่งนี้เป็นของพวกเรา

ถ้าทั้งประธานและกรรมคือ “พวกเรา” เราจะใช้กรรมเป็น ourselves

We have rights to protect ourselves.
พวกเรามีสิทธิที่จะป้องกันตัวเอง

7. They

They แปลว่า “พวกเขา” ใช้เป็นประธานในประโยค

They went on a trip to France last week.
พวกเขาไปเที่ยวฝรั่งเศสเมื่อสัปดาห์ก่อน

ถ้าใช้เป็นกรรม เราจะใช้ them

I had lunch with them yesterday.
ฉันกินข้าวเที่ยงกับพวกเขาเมื่อวาน

ถ้าใช้กับ “สิ่งที่เป็นของพวกเขา” เราจะใช้ theirs

This land isn’t theirs.
ดินแดนแห่งนี้ไม่ใช่ของพวกเขา

ถ้าทั้งประธานและกรรมคือ “พวกเรา” เราจะใช้กรรมเป็น themselves

Many children have to look after themselves.
เด็กหลายๆคนต้องดูแลตัวเอง

เป็นยังไงบ้างครับกับ pronoun ในภาษาอังกฤษ ทีนี้เพื่อนๆก็คงจะรู้จักและพอจะใช้ pronoun กันเป็นแล้ว ถ้ายังไงก็อย่าลืมหมั่นทบทวนและฝึกใช้บ่อยๆด้วยนะ

อย่าลืมนะครับ ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนรู้ ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next time


DoodleBob Joins the Battle! 🥊 SpongeBob SquareOff


Which sea creature reigns supreme in Bikini Bottom? Let’s see how SpongeBob fares in battle with classic foes like DoodleBob and more in the latest entry of our \”If SpongeBob was a fighting arcade game\” series. Check out part 1 of SpongeBob SquareOff: https://at.nick.com/SpongeBobSquareOff
►► Subscribe for More: https://at.nick.com/SpongeBobSubscribe
►► Watch More from SpongeBob SquarePants: https://at.nick.com/NewSpongeBobVideos
►► Nickelodeon on YouTube: https://at.nick.com/Nick
►► NickRewind on YouTube: https://at.nick.com/NickRewind
►► What’s On TV? : https://at.nick.com/TVSchedule
Catch More SpongeBob SquarePants on Nick!
SpongeBobSquareOff SpongeBob
GET MORE SPONGEBOB:
Like SpongeBob: https://at.nick.com/SpongeBobFacebook
Follow SpongeBob: https://at.nick.com/SpongeBobTwitter
SpongeBob Instagram: https://at.nick.com/SpongeBobIG
Like Nick: https://at.nick.com/Facebook
Follow Nick: https://at.nick.com/Twitter
Nick Instagram: https://at.nick.com/NickIG
Nick Snapchat: https://at.nick.com/NickSnapchat
Like NickRewind: https://at.nick.com/NickRewindFacebook
Follow NickRewind: https://at.nick.com/NickRewindTwitter
NickRewind Instagram: https://at.nick.com/NickRewindIG
Visit the Official Site: https://at.nick.com/Official
Get the App: https://at.nick.com/App
The SpongeBob Official Channel is the best place to see Nickelodeon’s SpongeBob SquarePants on YouTube! Come follow the adventures of the world’s most lovable sponge and his trusty sidekick, Patrick Star! On this channel, you’ll find all the SpongeBob SquarePants classics you know and love, plus BRAND NEW content featuring the whole Bikini Bottom gang including Sandy Cheeks, Mr. Krabs, and everyone’s favorite grumpy neighbor, Squidward Q. Tentacles! But wait… there’s more! Tune in every week for series like SpongeBob IRL, 5 Minute Episodes, and exclusive looks at new episodes! So there’s only one question left: “Ahhhhrrrrrr ya ready, kids?”

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

DoodleBob Joins the Battle! 🥊 SpongeBob SquareOff

Pronouns : ep 1 Pronoun คือ คำสรรพนาม แล้วมันคืออะไรนะ


จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนรู้
ติดตาม Facebook และ Instagram : The Happy Time with Q
หากผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำขออภัยมานะที่นี้ด้วยค่ะ 😀

Pronouns : ep 1 Pronoun คือ คำสรรพนาม แล้วมันคืออะไรนะ

𝗞𝗻𝗼𝘄 𝘁𝗵𝗲 𝗳𝗮𝗰𝘁 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗦𝗮𝗺𝗱𝗲𝗰𝗵 𝗽𝘂𝘁 𝗵𝗶𝗺𝘀𝗲𝗹𝗳 𝗶𝗻 𝘁𝗵𝗲 𝗺𝗼𝗻𝗲𝘆


ព័ត៌មានសង្គមព័ត៌មានប្រចាំថ្ងៃព័ត៌មានទាន់ហេតុការណ៍Covid_19
សួស្ដីប្រិយមិត្តអ្នកដែលនិយមតាមដានស្ដាប់ព័ត៌មានសង្គមប្រចាំថ្ងៃ [channel ,One_RFA_Khនិងជួយសម្រួលដល់ពុកមែ៉បងប្អូនឲ្យងាយទទួលបានព័ត៌មានយ៉ាងឆាប់រហ័សនិងទាន់ហេតុការណ៍ជាពិសេសបញ្ហាផ្សេងៗដែលតែងតែកើតមានឡើងក្នុងសង្គមរៀងរាល់ពេលនិងជារៀងរាល់ថ្ងៃ។

សូមពុកមែ៉បងប្អូនជួយចុច like , subscribe and share ដើម្បីទទួលដំណឹងនិងព័ត៌មានថ្មីៗមុនគេសូមអរគុណ។

𝗞𝗻𝗼𝘄 𝘁𝗵𝗲 𝗳𝗮𝗰𝘁 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗦𝗮𝗺𝗱𝗲𝗰𝗵 𝗽𝘂𝘁 𝗵𝗶𝗺𝘀𝗲𝗹𝗳 𝗶𝗻 𝘁𝗵𝗲 𝗺𝗼𝗻𝗲𝘆

How Videogames Make The Ultimate Sacrifice


Check out GiantGrantGames: https://www.youtube.com/channel/UCdHKiETyuMbV6a86GRKMWA
Support the channel on Patreon!: https://www.patreon.com/ArchitectofGames
Follow me on twitter!: https://twitter.com/Thefearalcarrot
Sacrifice as a concept has been a part of human culture since the very beginning and as the concept has evolved and changed, it’s taken on a variety of forms: Personal, emotional, financial… as well as a few rather more grizzly varieties. But through our culture’s long relationship with sacrifice, they’ve always been seen as emotional, dramatic and memorable moments that define a story… so why can’t the same be said for videogames?
Despite getting a lot of mileage out of the aesthetic of sacrifice, very few videogames have managed to create ones as satisfying as the literary and cinematic greats. Videogame sacrifices almost always end up as unsatisfying, arbitrary distractions that feel bad to engage with but why? The Architect is going to find out, even if it means venturing into spooky woodland cabins, more than one type of dystopic future and the worst, most poorly thought out bowels of the Fallout universe.
You Saw:
Fallout 3 2008
Left 4 Dead 2 2009
XCOM: UFO Defence 1997
Xenoblade 2 2017
Teardown Early Access
The Iron Giant 1999
Romeo And Juliet 2013
Star Wars: Return of the Jedi 1983
Star Wars: Rise of Skywalker 2019
Dark Devotion 2018
The Elder Scrolls 5: Skyrim seemingly every year lmao
Far Cry 3 2012
Fable 2 2008
Magic Arena 2018
Warhammer Total War 2 2017
Fire Emblem Warriors 2017
Fire Emblem Fates 2015
Fire Emblem Radiant Dawn 2007
Fire Emblem 3 Houses 2020
Halo: Reach 2010
Inscryption 2021
Resident Evil 4 2005
Dark Souls 3 2016
The Binding of Issac: Rebirth 2014
Darkest Dungeon 2016
Unrailed 2020
Outer Wilds 2019
Hellblade: Senua’s Sacrifice 2017
Pathologic 2 2019
LISA: The Painful 2014
Unsighted 2021
Mass Effect 2 2012
Mass Effect Remastered 2021
The Hex 2018
Xenoblade Chronicles DE 2020
Nier Automata 2017
Pokemon Emerald 2004
Rolled Out Early Access

How Videogames Make The Ultimate Sacrifice

myself กับ by myself ใช้ต่างกันยังไง? (reflexive pronoun)


Vanilla English EP.148 myself กับ by myself ใช้ต่างกันยังไง? (reflexive pronoun)
ชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์ และอย่าลืม subscribe กดกระดิ่งเป็นกำลังใจให้กี๋ด้วยนะค้าาาา แล้วเจอกันคลิปต่อๆไป เย้ๆ เจอกันค่าาาาา
LINE: https://lin.ee/A5RQK7z
Apple Podcast: Vanillaenglishchannel
SoundCloud: https://soundcloud.com/vanillaenglish357145867
Facebook: https://www.facebook.com/vanillaenglishchannel
Instagram: https://www.instagram.com/vanillaenglishchannel
Twitter: https://twitter.com/ChannelVanilla
Vanilla English Channel มาพร้อมกับสาระน่ารู้เกี่ยวกับภาษาอังกฤษ เรียนอังกฤษแบบชิลๆหนุกๆ กลมกล่อมหอมหวานเหมือนวานิลลาไปกับกี๋ ผู้ใช้ภาษาอังกฤษ รับความรู้ภาษาอังกฤษ และถ่ายทอดภาษาอังกฤษมานานกว่า 20 ปี
CAMERA: PANASONIC LUMIX GH5
LENS: PANASONIC LUMIX G 1235 f2.8
EDITING PROGRAMME: Davinci Resolve \u0026 Final Cut Pro X

myself กับ by myself ใช้ต่างกันยังไง? (reflexive pronoun)

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ himself แปลว่า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *