Skip to content
Home » [Update] Infinitive คืออะไร มีการใช้อย่างไร | one after another แปลว่า – NATAVIGUIDES

[Update] Infinitive คืออะไร มีการใช้อย่างไร | one after another แปลว่า – NATAVIGUIDES

one after another แปลว่า: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

ในบทความนี้ เราจะมาเรียนรู้เรื่อง infinitive กัน โดยชิววี่จะตอบข้อสงสัยของหลายๆคนว่า infinitive คืออะไร มีวิธีใช้ยังไง รวมไปถึงรายละเอียดการใช้ของ infinitive แต่ละแบบ ทั้ง infinitive with to และ without to

เอาล่ะ ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

Infinitive คืออะไร

Infinitive คือ verb ช่อง 1 (เช่น go, come, eat) ที่ใช้หลัง to หรือ verb อื่นๆ

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพเช่น

I want to stay home.
ฉันอยากอยู่บ้าน
(คำว่า stay เป็น infinitive)

I can swim.
ฉันว่ายน้ำเป็น
(คำว่า swim เป็น infinitive)

หรืออธิบายอีกแบบหนึ่งก็คือ ในภาษาอังกฤษจะมีเงื่อนไขว่า verb ที่ตามหลัง to, ตามหลัง modal verb (เช่น can, could, may, might) หรือตามหลัง verb ทั่วไปบางตัว จะต้องเป็น verb ช่อง 1 ซึ่งเราจะเรียก verb ช่อง 1 นี้ว่า infinitive นั่นเอง

รูปแบบของ infinitive

หลักๆแล้ว เราจะแบ่ง infinitive ได้เป็น 2 แบบ คือ

1. Infinitive with to (หรือ to-infinitive)

คือ infinitive ที่ตามหลัง to อย่างเช่น

We come to celebrate.
พวกเรามาเพื่อฉลอง

Anne called to ask me about math yesterday.
แอนโทรมาถามฉันเรื่องคณิตศาสตร์เมื่อวานนี้

2. Infinitive without to (หรือ zero infinitive)

คือ infinitive ที่ไม่ได้ตามหลัง to อย่างเช่น

Joe can dance very well.
โจสามารถเต้นได้เก่งมาก

My cat always makes me smile.
แมวของฉันมักจะทำให้ฉันยิ้มเสมอ

หลักการใช้ infinitive with to

Infinitive with to (หรือ to-infinitive) ซึ่งก็คือ infinitive ที่ตามหลัง to จะมีหลักการใช้ดังนี้

1. ใช้ infinitive with to ได้กับ verb บางตัวเท่านั้น

เราจะใช้ infinitive with to ได้หรือไม่ verb ข้างหน้าจะเป็นตัวกำหนด ซึ่งเราสามารถใช้ infinitive with to ได้กับ verb บางตัวเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น

I want to be a teacher.
ฉันอยากเป็นครู
(คำว่า want ใช้กับ infinitive with to ได้)

I enjoy swimming.
ฉันสนุกกับการว่ายน้ำ
(คำว่า enjoy ใช้กับ infinitive with to ไม่ได้ เราจะไม่ใช้ I enjoy to swim. แต่จะต้องใช้ verb รูป -ing หรือที่เรียกว่า gerund แทน)

ตัวอย่าง verb ที่ใช้กับ infinitive with to ได้

Verb ที่ใช้กับ to-infinitive ได้ความหมายตัวอย่างประโยคAdviseแนะนำMy father advised me to leave the company.
พ่อฉันได้แนะนำให้ฉันลาออกจากบริษัทAgreeตกลง, เห็นด้วยI agree to pay you 500 baht.
ฉันตกลงที่จะจ่ายเงินคุณ 500 บาทAimเล็ง, ตั้งเป้าMy kid aims to be a doctor.
ลูกฉันตั้งเป้าไว้ว่าจะเป็นหมอArrangeจัดเตรียม, จัดการBuyers can arrange to have their vehicles delivered to their homes.
ผู้ซื้อสามารถจัดการให้รถที่ซื้อถูกส่งไปที่บ้านได้Askถาม, ชวนTim asked me to go to the movies with him.
ทิมได้ชวนฉันไปดูหนังด้วยกันกับเขาBeginเริ่มThe prince begins to fall in love with the little mermaid.
เจ้าชายเริ่มตกหลุมรักในตัวนางเงือกน้อยChooseเลือกI choose to stay home.
ฉันเลือกที่จะอยู่บ้านClaimอ้าง, เรียกร้องHe claimed to be a police officer.
เขาอ้างว่าเป็นตำรวจContinueดำเนินต่อไปWe will continue to say what we believe.
พวกเราจะพูดในสิ่งที่พวกเราเชื่อต่อไปDecideตัดสินใจAnne decided to go to the gym.
แอนได้ตัดสินใจว่าจะไปยิมDemandต้องการ, เรียกร้องI demand to see the manager.
ฉันขอเจอผู้จัดการExpectคาดว่าThey didn’t expect to see me.
พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอฉันFailล้มเหลวMy friend failed to win the prize last year.
เพื่อนฉันล้มเหลวในการเอาชนะรางวัลเมื่อปีที่แล้วForgetลืมI forgot to lock my car.
ฉันลืมล็อครถHateเกลียดEveryone hates to wake up early in the morning.
ทุกคนเกลียดการตื่นเช้าHelpช่วยShe had helped to prepare the party.
เธอได้ช่วยเตรียมงานปาร์ตี้HopeหวังI hope to travel to France next year.
ฉันหวังว่าจะได้เดินทางไปประเทศฝรั่งเศสปีหน้าIntendตั้งใจMy family intends to go to Japan next month.
ครอบครัวของฉันตั้งใจว่าจะไปญี่ปุ่นในเดือนถัดไปInviteเชิญThey invited me to have dinner with them.
พวกเขาได้ชวนฉันไปกินอาหารมื้อเย็นด้วยกันLearnเรียนรู้Linda learned to dance when she was 8.
ลินดาได้เรียนเต้นเมื่อเธออายุ 8 ขวบLikeชอบMy cat likes to sit on my laptop.
แมวของฉันชอบมานั่งบนโน้ตบุ๊คLongปรารถนาJohn longs to see her again.
จอห์นปรารถนาที่จะได้เจอเธออีกครั้งLoveรักI love to dance.
ฉันรักที่จะเต้นManageจัดการAt least we managed to finish the project on time.
อย่างน้อยพวกเราก็จัดการโปรเจคให้เสร็จตรงเวลาได้Meanหมายความว่า, มุ่งหมายI didn’t mean to be late.
ฉันไม่ได้ตั้งใจจะมาสายนะNeedต้องการ, ต้องHe needs to be more careful.
เขาต้องระมัดระวังมากกว่านี้OfferเสนอMy uncle offered to take me to the zoo.
ลุงของฉันเสนอตัวว่าจะพาฉันไปสวนสัตว์PlanวางแผนThe thieves planned to rob the shop at midnight.
พวกโจรได้วางแผนจะปล้นร้านค้าตอนเที่ยงคืนPreferชอบมากกว่าSome people prefer to use Android phones.
บางคนชอบใช้มือถือแอนดรอย์มากกว่าPrepareเตรียมMany students are preparing to take the IELTS to study abroad.
นักเรียนหลายคนกำลังเตรียมตัวเพื่อที่จะสอบ IELTS เพื่อไปเรียนต่อต่างประเทศPretendเสแสร้ง, แกล้งทำHe pretended to forget what he had promised you.
เขาแกล้งลืมในสิ่งที่ได้สัญญากับคุณไปPromiseสัญญาI promise to do all I can to help.
ฉันสัญญาว่าจะทำทุกอย่างที่สามารถช่วยได้ProposeเสนอThe government proposes to change the environment policy.
รัฐบาลเสนอที่จะเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมRefuseปฏิเสธWe refuse to leave.
พวกเราปฏิเสธที่จะไปจากที่นี่RememberจำDid you remember to lock the door?
คุณได้ล็อคประตูรึเปล่าTellบอกMy teacher told me to be quiet.
ครูฉันบอกให้ฉันเงียบThreatenขู่Trump threatened to ban TikTok in the U.S.
ทรัมป์ได้ขู่ว่าจะแบนติ๊กต็อกในสหรัฐอเมริกาTryลอง, พยายามI am trying not to cry.
ฉันกำลังพยายามที่จะไม่ร้องไห้WantอยากAdam wants to be a teacher.
อดัมอยากเป็นครูWishปรารถนาI wish to speak to Mr. Fernandes, please.
ฉันขอคุยกับคุณเฟอร์นันเดสหน่อยได้มั้ยครับ/คะ

ทั้งนี้ verb เหล่านี้บางคำก็สามารถใช้ infinitive แบบมี to หรือไม่มีก็ได้ อย่างเช่นคำว่า help เราจะใช้ได้ทั้ง I helped to fix the radio. และ I helped fix the radio.

และ verb บางคำก็ใช้ได้กับทั้ง infinitive with to และ verb รูป -ing (gerund) เช่นคำว่า continue เราสามารถใช้ได้ทั้ง I continued to walk. และ I continued walking.

แต่ก็มี verb บางคำที่ถึงแม้จะใช้ได้กับทั้ง infinitive with to และ verb รูป -ing (gerund) แต่ความหมายที่ได้นั้นจะต่างกัน เช่นคำว่า stop

  • ถ้าเป็น I stopped smoking the cigarettes. จะแปลว่า ฉันหยุดสูบบุหรี่
  • แต่ถ้าเป็น I stopped to smoke the cigarettes. จะแปลว่า ฉันหยุดเพื่อที่จะสูบบุหรี่ (หยุดทำในสิ่งที่กำลังทำอยู่ เพื่อที่จะสูบบุหรี่)

2. ใช้ infinitive with to ตามหลัง noun หรือ pronoun

ในบางประโยค เราสามารถแทรก noun หรือ pronoun (คำสรรพนาม) เป็นกรรมไว้ระหว่าง verb และ infinitive with to ได้ ยกตัวอย่างเช่น

We need a place to stay.
พวกเราต้องการที่อาศัย

I don’t have anything to eat.
ฉันไม่มีอะไรกินเลย

3. ใช้ infinitive with to ตามหลัง adjective

เราสามารถใช้ infinitive with to ตามหลัง adjective ได้ด้วย โดยจะใช้โครงสร้าง “verb to be + adjective + infinitive with to” อย่างเช่น

It is good to talk to you.
มันก็ดีนะที่ได้คุยกับคุณ

I am happy to be with you
ฉันมีความสุขนะที่ได้อยู่กับคุณ

4. ใช้ infinitive with to กับ adverb

เรามักจะใช้ infinitive with to กับ adverb บางคำ อย่างเช่น too ซึ่ง too + adjective จะแปลว่า “…เกินไป” เช่น too heavy หนักเกินไป, too good ดีเกินไป

These books are too heavy to carry.
หนังสือเหล่านี้มันหนักเกินไปที่จะแบกได้

It is too expensive to live in London.
มันแพงเกินไปที่จะอยู่ในลอนดอน

หรือใช้กับ adverb คำว่า enough ซึ่งแปลว่า “มากพอ, เพียงพอ”

We have enough food to eat.
พวกเรามีอาหารเพียงพอที่จะกิน

My kid is old enough to find a job.
ลูกฉันอายุมากพอที่จะหางานได้แล้ว

5. ใช้ infinitive with to ตามหลัง question word

เราสามารถใช้ question word อย่างเช่น what, who, where, when, how กับ infinitive with to ได้ อย่างเช่น

I don’t know what to do.
ฉันไม่รู้ว่าต้องทำอะไร

Can you teach me how to cook?
คุณสอนวิธีทำอาหารให้ฉันหน่อยได้มั้ย

6. ใช้ infinitive with to ขึ้นต้นประโยค

เรายังสามารถใช้ infinitive with to ขึ้นต้นประโยคได้อีกด้วย โดยมักจะใช้ในการเล่นคำ หรือในภาษาทางการ อย่างเช่น

To love is to give.
การรักก็คือการให้

To be successful, you need ambition.
การจะประสบความสำเร็จได้ คุณต้องมีความทะเยอทะยาน

หลักการใช้ infinitive without to

Infinitive without to (หรือ zero infinitive) ซึ่งก็คือ infinitive ที่ไม่ได้ตามหลัง to จะมีหลักการใช้ดังนี้

1. ใช้ infinitive without to หลัง modal verb

Modal verb ก็อย่างเช่นคำว่า can, could, may, might, will, would, shall, should ซึ่งคำเหล่านี้จะต้องตามด้วย verb รูปปกติ ซึ่งก็คือ infinitive without to นั่นเอง อย่างเช่น

I will call you later.
ฉันจะโทรหาคุณในภายหลัง

You should finish your homework today.
คุณควรทำการบ้านให้เสร็จในวันนี้

2. ใช้ infinitive without to หลัง verb of perception

Verb of perception หรือคำกริยาที่เกี่ยวข้องกับการรับรู้ ก็อย่างเช่นคำว่า see, hear, feel, smell, taste ซึ่งคำเหล่านี้จะต้องใช้กับ infinitive without to อย่างเช่น

I saw him walk with Anne.
ฉันเห็นเขาเดินอยู่กับแอน

Jo heard the car honk.
โจได้ยินเสียงรถบีบแตร

3. ใช้ infinitive without to กับคำว่า make และ let

เราจะใช้ infinitive without to กับคำว่า make และ let อย่างเช่น

He made my kid cry.
เขาทำลูกฉันร้องไห้

My friends let me stay with them this week.
เพื่อนๆฉันให้ฉันอาศัยอยู่ด้วยในอาทิตย์นี้

4. ใช้ infinitive without to หลังคำว่า why

เราสามารถใช้ infinitive without to ตามหลังคำว่า why ซึ่งมักจะใช้ในภาษาพูด อย่างเช่น

Why ask me about Tim?
ทำไมถึงถามเรื่องทิมกับฉันล่ะ

Why look at me like that?
ทำไมมองฉันอย่างงั้นล่ะ

จบแล้วนะครับกับนิยามและการใช้ infinitive ทีนี้เพื่อนๆก็คงจะเข้าใจ และสามารถนำไปใช้ได้ถูกต้องมากขึ้นแล้วนะ

อย่าลืมนะครับ ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนรู้ ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next time

[Update] รู้จักกับ Fake News ทั้ง 7 รูปแบบ ที่เราเจอกันทุกวันบน Facebook, Twitter | one after another แปลว่า – NATAVIGUIDES

ทุกวันนี้ปัญหาบนโลกออนไลน์ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นวงกว้างในทุกประเทศ ทุกสังคม และทุกวัฒนธรรมก็คือข่าวปลอมหรือข่าวที่มีเนื้อหาบิดเบือน ชวนเข้าใจผิด หรือมีวัตถุประสงค์ไม่ดีบางอย่างที่จะชักจูงเราให้ทำหรือช่วยเผยแพร่ในสิ่งที่ไม่ดี บรรดา Social Network ต่าง ๆ ล้วนแต่ต้องปวดหัวและหาวิธีการมาจัดการ ทีมงาน RAiNMAKER เคยพูดถึง Fake News แล้วในหลาย ๆ บทความ เช่น ย้อนดูเครื่องมือที่ Facebook ออกแบบมาสู้ข่าวปลอม และแนวคิดการรู้ทันสื่อโซเชียล หรือธรรมชาติของโลกออนไลน์อย่างปรากฏการณ์ Echo Chamber

อะไรคือนิยามของ Fake News

Fake News นั้นถ้าให้แปลตรง ๆ เลยก็คือข่าวปลอม ข่าวลวง หรือข่าวที่ไม่ได้เป็นความจริง คำว่า Fake News นั้นเป็นคำใหม่ (Neologism) ดังนั้นความหมายของมันจึงแล้วแต่การนิยามของแต่ละคน คุณ Michael Radutzk โปรดิวเซอร์ของรายการ 60 Miniutes ได้เคยนิยาม Fake News ไว้ว่า “stories that are provably false, have enormous traction in the culture, and are consumed by millions of people” หรือ เรื่องราวที่ถูกพิสูจน์ได้ว่าไม่จริง และมีผลกระทบในระดับความเชื่อ และเข้าถึงคนหลักล้าน

สำหรับลักษณะของ Fake News นั้น คุณ Claire Wardle จาก First Draft News ซึ่งเป็นองค์กรที่ตั้งขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับข่าวปลอม ร่วมกับ Social Media และ Publisher อีกกว่า 30 ราย รวมถึง Facebook, Twitter, New York Times หรือ BuzzFeed ได้ ให้นิยาม 7 รูปแบบของข่าวปลอมไว้อย่างน่าสนใจ และเรียงตามความรุนแรง เธอได้ไอเดียจากการศึกษาข่าวปลอมบนโลกออนไลน์ในช่วงการเลือกตั้งปี 2016 ที่จุดประเด็นเรื่อง Fake News ขึ้นมา (เธอเคยเขียนบทความชื่อ 6 Types of Election Fake News ไว้ใน Columbia Journlaism Review )

ผู้เขียนแนะนำว่าระหว่างอ่านแต่ละประเภทให้ลองนึกถึงคอนเทนต์ในชีวิตประจำวันว่าคอนเทนต์ต่าง ๆ ที่เราเจอนั้นจัดอยู่ในแบบไหนบ้าง

1.Satire or Parody เสียดสีหรือตลก

เชื่อว่าหลายคนคงจะนึกออก เวลามีเพจตลก เพจล้อเลียน พระนพดล, ข่าวปด, The Doubble Standard ต่าง ๆ ที่ทุกคนก็จะดูรู้ว่าเป็นเพจที่ทำขึ้นมาเพื่อล้อเลียน ทำให้มีพิษมีภัยน้อยที่สุดเนื่องจากทางผู้จัดทำเองก็ ไม่ได้มีเจตนาในการสร้างความเข้าใจผิดหรือมีวัตถุประสงค์ต้องการให้คนมาเชื่อ

2.False connection โยงมั่ว

การโยงมั่วคือการที่สองสิ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลยแต่ถูกนำมากล่าวถึงในข่าวเดียวกันหรือทำให้มาเชื่อมโยงกัน คุณ Claire บอกว่าสิ่งนี้เกิดจาก Poor Journalism หรือความไม่รู้ไม่เข้าใจของคนเขียนข่าวหรือทำคอนเทนต์ หรือเกิดจากการพยายามหารายได้ ตัวอย่างของคอนเทนต์ที่เป็น False Connection ก็เช่น “น้ำมะนาวรักษาโรคมะเร็ง” หรือบทความที่ชอบขึ้นว่า “งานวิจัยเผย …” แล้วกลายเป็นว่าโยงไปขายของ หรือข่าวโลกแตกทั้งหลาย แต่อย่างไรก็ตาม False Connection จะยังไม่เป็นการหวังผลหรือชวนเชื่อในระดับสังคมวัฒนธรรมหรือการเมือง

3.Misleading ทำให้เข้าใจผิด

Misleading คือการเขียนข่าวหรือทำคอนเทนต์โดย จงใจให้เข้าใจผิด หรือการใช้คำอย่างนึงเพื่ออธิบายอีกอย่างนึง พอโดนจับได้ก็จะแถว่าก็เข้าใจผิดเองทั้ง ๆ ที่ตอนแรกคือหวังให้เขาเข้าใจผิดอยู่แล้ว Claire บอกว่าข่าวแบบนี้วัตถุประสงค์คือ ชวนเชื่อ หรือหวังผลทางการเมือง ตัวอย่างของคอนเทนต์ Misleading เราจะพบเห็นได้บ่อยกับพวกข่าวการเมือง

4.False Context ผิดที่ผิดทาง

กรณี False Context หรือ Quoting out of context คือการที่เอาสิ่งที่เกิดขึ้นจริง เช่น รูป, ข้อความ, คำพูด แต่เอามาใช้แล้วพูดถึงอีกเรื่องนึง Claire อธิบายความแตกต่างของ False Context กับ Misleading ว่า False Context อาจเกิดจาก Passion (ไม่ได้แปลว่าความหลงไหล แต่หมายถึงว่า การที่เรายึดติดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง) คอนเทนต์ที่เป็น False Context ก็เช่น การเอารูปภัยธรรมชาติในต่างประเทศมาแล้วเขียนบอกว่าเกิดขึ้นที่ประเทศไทย 

5.Impostor มโนที่มา

การมโนที่มาคือการรายงานข่าวแบบปกติ แล้วถ้าไม่ตรวจสอบดี ๆ ก็จะไม่รู้เลยว่าเป็น Fake News รูปแบบของมันคือการอ้างไปยังบุคคลหรือแหล่งข่าวเช่น คนนี้กล่าวไว้ว่า, นายกกล่าวไว้ว่า หรือ คนนู้นคนนี้เคยกล่าวไว้ว่า แต่จริง ๆ แล้วเป็นการที่คนทำคอนเทนต์หรือคนเขียนข่าวคิดหรือมโนขึ้นมาเอง Claire จัดให้ Imposter เป็นความรุนแรงระดับที่ 5 คือสร้างความเข้าใจผิดและความขัดแย้งในระดับวงกว้างได้

6.Manipulated ปลอม ตัดต่อ

การ Manipulated คือการปลอมหรือตัดต่อ ความรุนแรงของมันคือถ้าไม่สังเกตเราจะดูไม่ออก การตัดต่อนี้รวมถึงการตัดต่อภาพ, เสียง, วิดีโอ หรือแม้กระทั่งการเอา logo ของสำนักข่าวที่น่าเชื่อถือมาใส่ ตัวอย่างของ Manipulated Content ก็เช่น การตัดต่อสร้างเรื่อง ตัดแปะ

7.Fabricated มโนทุกอย่างเลย

การ Fabricated คือขั้นที่รุนแรงที่สุดของ Fake News ตัวอย่างของมันเช่นการปลอมมันทั้งเว็บ เช่น การปลอมเป็น ข่าวสด ปลอมเป็นไทยรัฐ หรือการปลอมเป็นบุคคล แล้วรายงานข่าว อันนี้ร้ายแรงมาก เนื่องจากคนก็จะเข้าใจว่าเป็นสำนักข่าวนั้นจริง ๆ และก็ไม่ได้เป็นการล้อเลียนหรือ Parody ด้วย ถ้าคนที่ไม่รู้ก็จะดูไม่ออกเลยว่าเป็นเว็บข่าวปลอม ในไทยก็เคยมีกรณีนี้เกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว ตรงนี้ก็ต้องอาศัยทุกคนช่วยกันตรวจสอบ

สำหรับกรณีของคุณ Claire เธอได้พบเจอปัญหาทั่งหมดนี้และสามารถแบ่งมันได้ชัดเจนที่สุดในช่วงการเลือกตั้ง ซึ่งในตอนนั้นโลกได้เห็นพลังของข่าวปลอมและการไม่รู้เท่าทันของคน รวมถึงการรู้ไม่เท่าทันต่อคนของ Social Media จะเห็นว่าแค่เลือกตั้งสหรัฐ 2016 งานเดียว สามารถสร้างความวุ่นวาย และเผยด้านลบ ของโลกออนไลน์ได้ทุกแง่จริง ๆ ตั้งแต่ Journalism ไปจนถึง Data Privicy

ดังนั้นช่วงนี้การเลือกตั้งไทยก็ใกล้เข้ามาเต็มที เราในฐานะทั้งคนที่เสพคอนเทนต์และผู้ทำคอนเทนต์ก็ต้องคอยช่วยกันสอดส่อง เพื่อไม่ให้บรรดา Fake News ทั้ง 7 รูปแบบนี้ มาสร้างความวุ่นวายในการเลือกตั้งหรือสร้างความแตกแยกให้กับคน เราอาจจะไม่สามารถไปกำจัดที่มาของมันได้ แต่การที่เรารู้เท่าทันนั้นก็ช่วยให้เราเตือนตัวเองและคนรอบข้างไม่ให้ตกเป็นเหยื่อได้

ผู้ร่วมก่อตั้งและบรรณาธิการบริหาร Spaceth.co ทีมงาน MacThai.com บล็อกเกอร์วิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ เทคโนโลยี สังคม การเมือง วัฒนธรรม การออกแบบ อยากให้โลกออนไลน์น่าอยู่ขึ้นด้วยการทำคอนเทนต์ดี ๆ สร้างสรรค์


Brielle Von Hugel cover – The one that got away (lyrics) 1hour


onehour theonethatgotaway cover

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

Brielle Von Hugel cover - The one that got away (lyrics) 1hour

Spawnbreezie \”After Another\” HQ


I do not own the rights nor do I claim a part of this song. I just want to spread good music, please support up and coming artists and buy their music. Taun records 2012©
https://itunes.apple.com/us/artist/spawnbreezie/id352237468

Spawnbreezie \

Spawnbreezie – After another


Lyrics for Spawnbreezie After Another
Verse 1
See I been caught up at the bar
Drinking away all my pain
I feel like I’ve lost it now
I feel I can’t even maintain
Got the weight of the world on my shoulders
Feel like everything keeps getting worse
Feels like the last couple of years I’ve been living
Living life with a curse
Chorus
Tell me how can I live happily with all this happening
I just can’t trust another
It happens after another
Tell me how can I live happily with all this happening
I just can’t trust another
It happens after another
Verse 2
Drinking all my troubles, my troubles and regrets
Wasting my time, somebody tell me what is next
Seems like the only thing to do is to follow
Follow my feelings, which is drowned at the bottom of a bottle
See, I’m a little drunk, I’m a little tipsy
Screaming at the top of my lungs, for some reason nobody can hear me
So here I stand all alone, with nowhere to call my home
Trying to hold it down, but somebody tell me how
Chorus
Tell me how can I live happily with all this happening
I just can’t trust another
It happens after another
Tell me how can I live happily with all this happening
I just can’t trust another
It happens after another
Verse 3
They say what don’t break a man, can only make him stronger
But I’ve done all i can, can you tell me how much longer
I continue to give my all, cause I have so much to lose
So they can give me pain, but can’t chase away my cool
Chorus
Tell me how can I live happily with all this happening
I just can’t trust another
It happens after another
Tell me how can I live happily with all this happening
I just can’t trust another
It happens after another
Official Skrypt sets the global trend for our Island Pacific Music Artists, so remember to subscribe and stay uptodate. We also provide additional online services which you can view by clicking on one of the additional links provided below.
Official Blog https://skrypt510.blogspot.com
Store https://skrypt510.blogspot.com/p/store.html
24/7 Chat https://skrypt510.blogspot.com/p/chat.html
Services at https://skrypt510.blogspot.com/p/services.html
Calendar https://skrypt510.blogspot.com/p/blogpage.html
News https://skrypt510.blogspot.com/p/news.html
Follow us on
Twitter https://twitter.com/OfficialSkrypt
Instagram https://www.instagram.com/OfficialSkrypt

Spawnbreezie  - After another

《進化果實~不知不覺踏上勝利的人生~》#7 (繁中字幕 | 日語原聲)【Ani-One】


被傳送到一個奇幻世界的主人公柊誠一偶然吃下了 “進化之實” 繼而有所變化!😳
旅程中更遇到了命運中的… 大猩猩?! 🦍💗
爆笑番《進化果實~不知不覺踏上勝利的人生~》登陸AniOne啦!🍌
⏰逢星期二16:00 (香港/台灣時間, UTC+8) 於AniOne 直播室後上架!
🌎播出地區:
孟加拉國、不丹、文萊、柬埔寨、斐濟、香港、印度、印度尼西亞、哈薩克斯坦、吉爾吉斯斯坦、老撾、新喀裡多尼亞、北馬里亞納群島、澳門、馬來西亞、馬爾代夫、馬紹爾群島、毛里求斯、密克羅尼西亞、蒙古、緬甸、瑙魯、尼泊爾 、巴基斯坦、帕勞、巴布亞新幾內亞、菲律賓、薩摩亞、新加坡、所羅門群島、斯里蘭卡、台灣、東帝汶、湯加、泰國、圖瓦盧、瓦努阿圖、越南
🔥VOD平台與播放地區 🔥
⭐台灣: 巴哈姆特, CATCHPLAY, 中華電信(MOD + Hami Video), friDay影音, KKTV, Line TV, myVideo
⭐新加坡: CATCHPLAY, meWATCH
⭐印尼: CATCHPLAY, Sushiroll
💥本節目之播映日期, 時間及地區均有機會不同,請以各平台最後公佈為準。
各平台保留隨時更改或取消任何內容的權利,恕不另行通知。
AniOne TheFruitofEvolution 進化果實 gorilla 猩猩 十月新番 October

《進化果實~不知不覺踏上勝利的人生~》#7 (繁中字幕 | 日語原聲)【Ani-One】

THE ONE THAT GOT AWAY – Brielle Von Hugel (KARAOKE VERSION)


This is from karaokeyTV version of \”THE ONE THAT GOT AWAY\”
Thank you for watching guys and hope you like this video
Note: You can use this instrumental for your covers just include credits and link of this video into your description and please do Subscribe! 😉 Thank you!
Song: THE ONE THAT GOT AWAY
Originally performed by: KATY PERRY
Cover by: Brielle Von Hugel
Instrumental Cover by: KaraokeyTV
Original Source: https://youtu.be/PGF8B3y_p64
Credits:
KATY PERRY
BRIELLE VON HUGEL
Background video;
https://youtu.be/JlKnTBgIswI
Subscribe to my channel:
https://www.youtube.com/channel/UCNbFgUCJj2Ls6LVzBbL8fqA
Facebook: https://www.facebook.com/rassellda.tinderella
Disclaimer!
No copyright is claimed and to the extent that material may appear
to be infringed, I assert that such alleged infringement
is permissible under fair use principles and U.S. copyright law.
If you believe material have been used in an unauthorized manner,
please contact the poster.
(Facebook: https://www.facebook.com/rassellda.tinderella)
karaokeyTV TheOneThatGotAway KatyPerry

THE ONE THAT GOT AWAY - Brielle Von Hugel (KARAOKE VERSION)

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ one after another แปลว่า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *