Skip to content
Home » [Update] Byrd & Heart: ในวันที่อีโก้หมดไป อัตตาที่ลดลง และความเป็นเพื่อนที่ยังคงอยู่ตลอดกาล | เพลง แฟน ที่ ไม่ ได้ เรื่อง – NATAVIGUIDES

[Update] Byrd & Heart: ในวันที่อีโก้หมดไป อัตตาที่ลดลง และความเป็นเพื่อนที่ยังคงอยู่ตลอดกาล | เพลง แฟน ที่ ไม่ ได้ เรื่อง – NATAVIGUIDES

เพลง แฟน ที่ ไม่ ได้ เรื่อง: คุณกำลังดูกระทู้

Table of Contents

Highlights

  • เบิร์ดกะฮาร์ทมาเจอกันได้โดยการชักชวนของ สืบศักดิ์ คลังมนตรี อดีตมือเบสวงมัมมี่ ญาติห่างๆ กับเบิร์ด ซึ่งเขาประทับใจในการเล่นเปียโนที่วัดไทยในลอสแอนเจลิสของฮาร์ท จึงพาทั้งคู่มารู้จักกัน และก็กลายเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่วันนั้น
  • เดโม 3 เพลงแรกของเบิร์ดกะฮาร์ท คือเพลง อาลัยเธอ, ลืม และ Susan Joan ซึ่งสร้างความความแปลกใหม่ในยุคนั้น (แม้กระทั่งในยุคนี้) ด้วยซาวนด์ดนตรีแบบอินเตอร์ เสียงร้องที่ยานคางแหกขนบของนักร้องในยุคนั้น และฐานแฟนเพลงที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมายทั้งๆ ที่อัลบั้มแรกนั้นยังไมได้รับการบันทึกเสียง
  • ทุกคืนวันอาทิตย์ เบิร์ดกะฮาร์ทจะเล่นและร้องเพลงให้ฟังผ่านการไลฟ์จากเฟซบุ๊ก Byrd & Heart หรือใครอยากนั่งฟังแบบใกล้ชิด ก็สามารถดูกำหนดการและสำรองที่นั่งกับทางเพจได้เลย

เมื่อเวลาเปลี่ยนผ่าน หลายอย่างในชีวิตก็เปลี่ยนไป วงดนตรีที่เคยโด่งดังเป็นขวัญใจมหาชนก็ค่อยๆ เสื่อมความนิยม และแยกย้ายกันไปตามทางของตัวเอง เหลือไว้แค่ความทรงจำให้รำลึกถึงวันชื่นคืนสุขในวันวาน แต่ก็มีอีกหลายวงที่กลายเป็นตำนาน และได้รับความนิยมจากแฟนเพลงมาถึงวันนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ

เบิร์ดกะฮาร์ท

วงดูโอของ

‘เบิร์ด’ – กุลพงศ์ บุนนาค

และ

‘ฮาร์ท’ – สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล

สองหนุ่มคนไทยที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลจากอเมริกา มาสร้างปรากฎการณ์ที่สำคัญให้กับวงการเพลงไทยในยุค 80s เป็นต้นแบบให้กับนักดนตรีอีกมากมาย และเป็นบิดาแห่งวงการเพลงอินดี้ไทยก็ว่าได้ 

 

ก่อนอื่นขอถามแทนหลายๆ คนที่อาจจะรู้จักเบิร์ดกะฮาร์ทในช่วงหลัง ว่าพวกคุณนั้นมาคบหาและทำวงดูโอนี้ได้อย่างไร

        ฮาร์ท : เบิร์ดกะฮาร์ทเข้ามาในวงการเพลงเพราะเราเป็นเพื่อนกัน ไม่ใช่เพราะว่าบริษัทเพลงจับมาคู่กัน เราเล่นดนตรีด้วยกัน เบิร์ดเป็นคนแต่งเพลง ผมไม่เคยคิดที่จะทำเพลงเลย ผมคิดเพียงแค่ว่าจะเล่นดนตรี เล่นกีตาร์ เล่นเปียโนอย่างไรให้เหมือนต้นฉบับที่สุด เพื่อที่จะได้รับคำชื่นชมจากคนฟัง เบิร์ดมาเปลี่ยนความคิดของผมด้วยการแต่งเพลงให้ผมฟังหนึ่งเพลง จากนั้นผมก็รู้สึกอิจฉาเพื่อน แกเก่งดนตรีสู้ฉันไม่ได้ แต่แกแต่งเพลงได้ แถมเพราะด้วย ผมก็เลยแต่งบ้าง เลยกลายเป็น 2 นักร้อง 2 นักดนตรี ที่มีเพลงของตัวเอง ตอนหลังเบิร์ดก็ไปซื้อเทปเพลงของดิ อินโนเซ้นท์ กับวงคีรีบูน จากตลาดของคนไทยในลอสแอนเจลิส แล้วมาเปิดให้ผมฟัง ถามว่าผมทำอย่างนี้บ้างได้ไหม ออกเทปกันไหม ด้วยความที่ไม่อยากเสียฟอร์ม ก็ตอบไปว่า ได้สิ ง่ายจะตาย ทั้งๆ ที่ตอนนั้นตัวเองไม่ได้มีความรู้อะไรเกี่ยวกับการทำเพลงเลย

        เราแต่งเพลงได้ 3 เพลง และมีความทะเยอทะยานอยากเป็นนักร้องออกเทป เราคิดเอาเองว่าในปี 2528 ช่วงปิดเทอม เราจะกลับไปประเทศไทย และนำเพลงที่เราทำไว้ไปเสนอค่ายเพลง นั่นคือค่ายเพลงไนท์สปอตโปรดักชั่น ซึ่งเรารู้จักกับพี่อ๋อยที่เคยทำงานเป็นดีเจอยู่ที่นั้น ซึ่งพี่อ๋อยก็เป็นคนสนับสนุนและจะแนะนำกับทางไนท์สปอตโปรดักชัน เมื่อเรากลับไปประเทศไทย

พวกคุณได้เผื่อใจให้กับความล้มเหลวไว้บ้างไหม

        เบิร์ด : ไม่เลย (หัวเราะลั่น)

        ฮาร์ท : ตอนนั้นเราสองคนเป็นคนที่หลงตัวเองมาก เราคิดว่าเราหล่อ เล่นดนตรีก็ดี เบิร์ดก็ร้องเพลงเพราะ แถมยังแต่งเพลงได้อีก จะมีใครที่ครบได้ขนาดนี้ ตอนนั้นเราคิดว่าไม่มีใครในโลกนี้หรอกที่จะปฏิเสธเรา

       เบิร์ด : ต้องเข้าใจว่าพอเราเริ่มมีเพลงของตัวเองแล้ว เราก็เริ่มเล่นให้เพื่อนฟัง ทุกคนบอกว่าเพลงอะไรเพราะดี เราจึงมั่นใจว่าจะเอาเดโมไปเสนอให้กับทางค่ายเพลงไนท์สปอตโปรดักชั่น ซึ่งเขาเริ่มต้นธุรกิจด้วยการเป็นตัวแทนของค่ายเพลงฝรั่ง เป็นบริษัทที่จัดคอนเสิร์ตนำเข้านักร้องจากต่างประเทศ ดังนั้น เขาจะมีความหัวนอกสูงมาก และเขาก็กำลังเริ่มทำเพลงกับศิลปินไทย โดยศิลปินไทยในสังกัดขาวตอนนั้นคือ ปานศักดิ์ รังสิพราหมณกุล, ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ ฯลฯ

        ฮาร์ท : ตอนนั้นเราคาดหวังว่าเมื่อเอาเดโมไปเสนอเขา เขาก็จะโอบกอด แล้วเชิญเราเดินบนพรมแดง เข้าไปอยู่ในห้องรอเซ็นสัญญา คิดแค่นั้นจริงๆ

        เบิร์ด : เรากำลังจะเป็นซูเปอร์สตาร์ (หัวเราะ)

        ฮาร์ท : เมื่อเราไปถึงที่บริษัท เราก็มาติดต่อตามคอนแท็กต์ที่เรามี เราก็ไปพบกับพี่ที่ชื่อพี่สาว ซึ่งเป็นดีเจในตอนนั้น พวกเราก็แนะนำตัว ผมชื่อเบิร์ด เพื่อนผมชื่อฮาร์ท พี่เขาก็รับเดโมของพวกเราไว้แล้วบอกว่าจะเอาไปเสนอให้ ซึ่งเรากำลังจะลากลับกัน แล้วบังเอิญ คุณไชยยงค์ นนทสุต เจ้านายของพี่สาวเดินลงมาจากชั้นบนพอดี พี่ก็เลยบอกว่าคุณไชยยงค์มาพอดี นี่น้องเบิร์ดกับน้องฮาร์ทมาสวัสดี มาฝากผลงาน พี่เขาก็ทำหน้าเหลอหลา และเขาก็คงว่างพอดี ก็เลยพาเราทั้งคู่ลัดคิวเอาเทปไปเปิดฟังด้วยกัน ข้อดีคือเทปของเราไม่ต้องไปกองรวมกับคนอื่น ตอนนั้นพวกเรามั่นใจในตัวเองมาก เพลงแรกที่เปิดให้ฟังก็คือเพลง อาลัยเธอ คุณไชยยงค์ฟังไปได้ท่อนเดียวก็ถามว่ามีอีกหรือเปล่า เราก็บอกว่ามีครับ แล้วก็กดกรอเทปไปเพลงที่ 2 คือเพลง ลืม ซึ่งเพลงร้องไปได้นิดหนึ่ง ยังไม่ถึงท่องที่ร้องว่า… เจ้าเอยเลย คุณไชยยงค์ก็ถามหาเพลงต่อไป เราก็กรอไปที่เพลง Susan Joan ในใจตอนนั้นเรายิ้มแล้วว่าเขาคงชอบมากถึงขอฟังเพลงของเราทุกเพลง แต่ในใจของเขาคงคิดว่าเพลงอะไรวะ เชยฉิบหายเลยมั้ง (หัวเราะ)

        เบิร์ด : เขาบอกว่า น้องสองคนไม่ต้องเสียใจนะที่เราจะไม่ได้ร่วมงานกัน แต่ในเมื่อมาแล้วเนี่ย อย่างน้อยที่สุดพี่จะเอาเพลงของพวกเราไปเปิดออกรายการวิทยุ ตอนสองทุ่มครึ่งถึงเที่ยงคืน ชื่อรายการ โลกสวยด้วยเพลง แกตัดบทกับเราเร็วมาก ตอนนั้นเราก็เข้าใจว่าเราได้รับการยอมรับแล้ว เราก็บอกว่าขอบคุณมากครับ 

        ฮาร์ท : ตอนนั้นเราคิดกันเองว่าเขายอมรับผลงานของเราถึงขนาดจะเอาไปเล่นออกอากาศให้ แต่จริงๆ แล้วคือเขาปฏิเสธเรา แค่ตบหลังปลอบใจว่าจริงๆ แล้วผลงานของพวกเอ็งน่ะห่วย แต่ถึงจะห่วยยังไงก็ไม่ต้องเสียใจ พี่จะเอาผลงานของน้องไปเปิดออกอากาศ อย่างน้อยน้องกลับไปอเมริกา จะได้ไปบอกเพื่อนๆ ด้วยว่าผลงานกูถึงแม้จะไม่เข้าสู่รอบสุดท้าย แต่อย่างน้อยก็ได้เปิดออกอากาศ

        เบิร์ด : แค่การเอาเทปมาเสนอในยุคสมัยนั้น ต้องเข้าใจว่าเป็นเรื่องแปลกของประเทศไทย ที่อยู่ๆ มีเด็กสองคน มาจากไหนก็ไม่รู้ ทำเพลงมาแล้วเอามาเสนอ ซึ่งค่ายเพลงในตอนนั้นเขาไม่ได้ทำกันแบบนี้ 

        ฮาร์ท :  สมัยนั้นค่ายเพลงเวลาจะหาศิลปินเขาจะไปตามคาเฟ่ ไปตามร้านเบเกอรี ร้านไอศกรีม แล้วก็นั่งฟัง ถ้าชอบก็ถึงจะเรียกมาคุย เรื่องนี้ผมฟังจากวงฟรุตตี้ กับวงคีรีบูนเล่าให้ฟัง หรือไม่ก็ชวนพระเอกหรือนางเอกที่มีแฟนติดตามเยอะมาร้องเพลง

        เบิร์ด : การที่ใครสักคนจะเดินเข้าไปเหมือนในหนัง เอาเทปไปให้แล้วก็ได้ทำเพลงมันไม่มีหรอก ชีวิตของเราไม่ได้เหมือนหนังเรื่อง  That Thing You Do แบบนั้น 

แต่ที่อเมริกาในตอนนั้นเขาก็สามารถทำแบบที่คุณทั้งสองคนทำได้ใช่ไหม

        ฮาร์ท : วงการเพลงอเมริกาเขาไปไกลแล้ว ผมเชื่อว่าศิลปินสามารถนำเสนอผลงานได้ทุกรูปแบบ จะมีทั้งเอาเทปไปฝากไว้ เล่นในบาร์แล้วถูกชวนมาออกเทป หรือคุณหน้าตาดีมากมาทำเพลงกัน 

        เบิร์ด : มีทั้งการไปเอาเพลงให้ดีเจในเมืองไหนสักเมืองเปิดก็มี มีทุกรูปแบบ แต่ส่วนมากแล้วคนที่จะได้โอกาสไปทำเพลงก็ต้องมีแมวมองหรือผู้จัดการ ต้องมีเส้นสายบอกว่าเอามา ฉันรู้จักกับคนนั้นคนนี้ เดี๋ยวฉันส่งไปให้เขาฟัง ดังนั้น วิธีการแบบนี้ในเมืองไทยยังไม่มีใครเคยทำ เขาถึงบอกกันว่าเบิร์ดกะฮาร์ทเป็นวงอินดี้ยุคแรกของเมืองไทย เราทำเพลงของเราเอง ไม่มีใครมาบอกว่าต้องทำยังไง เราไม่ได้ทำเพลงตามอุตสาหกรรมที่เป็นอยู่ตอนนั้น 

 

แต่เพลงของคุณก็กลับไปถูกใจคนฟังคนได้ออกเทปใช่ไหม

        เบิร์ด : รายการ โลกสวยด้วยเพลง ทุกๆ ครั้งที่มีการขอเพลง เพลงนั้นจะได้ 2 คะแนน แต่ละวันก็จะมีศิลปินประจำวันที่ได้คะแนน พอสิ้นเดือนก็จะมีศิลปินประจำเดือน ไนท์สปอตในตอนนั้นเขาก็จะมีแฟนที่เป็นกลุ่มของเขาอยู่ เดือนนั้นกำลังเป็นเดือนที่โปรโมตอัลบั้มของพี่เอก ธเนศ ชุด แดนศิวิไลซ์ แต่เขาก็ยังเปิดเพลงของเราด้วย 

        ฮาร์ท : ถ้าในเดือนนั้น ศิลปินคนไหนมีการโทร.มาขอเพลงมากที่สุด ก็จะถูกเชิญมาออกในรายการ ซึ่งหลังจากวันนั้นที่เราเดินออกมาจากไนท์สปอต ผ่านไปประมาณ 2 อาทิตย์ ก็มีญาติโทร.มาบอกว่าได้ยินเพลงของเราถูกเปิดออกอากาศ ซึ่งตอนนั้นเราไม่ได้เขียนข้อมูลอะไรของพวกเราลงไปเลย มีแค่เทป และดีเจก็ทำได้แค่บอกว่าเป็นเพลงจากเด็กสองคนที่มาจากอเมริกา คุณลองฟังละกัน จากนั้นทางไนท์สปอตก็โทร.มาหาผมที่บ้าน ว่าช่วยเขียนชื่อเพลงแต่ละเพลงให้หน่อย แล้วใครแต่ง และขอชื่อของคุณทั้งสองคนด้วย วันนั้นผมก็เอากระดาษมาเขียนชื่อตัวเอง ชื่อเบิร์ด ประวัติโดยย่อ แล้วก็ส่งแฟกซ์ไปให้เขา หลังจากนั้นไม่นานชื่อเบิร์ดกะฮาร์ทก็ออกมาจากปากของดีเจ เพราะเขาเรียกตามชื่อที่เราเขียนลงไป เราไม่ได้มีชื่อวงตั้งแต่แรก

เดี๋ยวนะ คุณทำเพลงจนถึงขั้นเดินทางมาเสนอกับค่ายเพลงแล้ว แต่ยังไม่มีชื่อวงเหรอ

        เบิร์ด :  ชื่อวงเรามี แต่เขาไม่ได้ถามไง (หัวเราะ) ตอนนั้นเรามีชื่อวงว่า No Manners (หัวเราะ) คือตอนนั้นเราก็ไม่รู้หรอกว่าเพลงของเราจะมีคนฟังไหม แต่พอรู้ว่ามีคนขอเพลงเรา เราก็พยายามโทร.เข้าไปขอเพลงบ้างเพื่อให้ตัวเองมีคะแนนเพิ่มขึ้น (หัวเราะ) แต่โทร.ไม่เคยติดเลย แต่ถึงแม้เราจะโทร.ไม่ติด ก็มีคนโทร.เข้ามาขอเพลงเรา และในบางคืนเราก็ได้เป็นศิลปินประจำวันนั้น 

        ฮาร์ท  : พอต่อมาคนฟังรู้ว่าเราคือเด็กวัยรุ่นที่มาจากอเมริกา ร้องเพลงเสียงยานๆ เขาก็อยากรู้ว่าเราสองคนหน้าตาเป็นอย่างไร 

        เบิร์ด : เลยเป็นเหมือนการตลาดที่สุดยอดมาก เพลงเริ่มติดหูคนฟัง ตัวคนร้องก็ชื่อเบิร์ดกะฮาร์ท ดูเป็นฝรั่ง มันลงตัวกันพอดีหมด 

        ฮาร์ท : สรุปว่าเพลงของเราดังเพราะคนฟังชอบจริงๆ ไม่ได้มาจากการโปรโมตของค่ายเพลง คนขอเพลงพวกเราเยอะมากจนขนาดที่ว่าเดือนนั้นแทนที่เขาจะเชิญคุณเอก ธเนศ มาพูดคุยในรายการ มาเป็นศิลปินประจำเดือน เขากลับเลือกศิลปินโนเนมอย่างเบิร์ดกะฮาร์ท ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ทางไนท์สปอตแปลกใจมาก และหลังจากที่เราออกรายการของ คุณวินิจ เลิศรัตนชัย พวกเราก็โด่งดังเพิ่มขึ้นอีก เพราะแฟนรายการวิทยุได้ฟังการพูดคุยของเราแบบเต็มๆ เป็นครั้งแรก ได้รู้ว่าเราเรียนอยู่อเมริกา ร้องเพลงเองแต่งเพลงเอง และเล่นสดในรายการให้ฟัง ก็ยิ่งทำให้ไนท์สปอตหันมาสนใจเรา และก่อนที่พวกเราจะกลับอเมริกา เขาก็จัดคอนเสิร์ตใหญ่ที่หอประชุมธรรมศาสตร์ โดยมีศิลปินตั้งแต่เบอร์ 1  ถึงเบอร์ 4 ของไนท์สปอต ทุกคนมาในคอนเสิร์ตนั้น และเขาก็ให้เบิร์ดกะฮาร์ทไปออกด้วย เพื่อที่จะดูกระแสว่าเบิร์ดกะฮาร์ทนอกจากจะร้องเพลงได้ ทำเพลงเองได้ แล้วเวลาต้องแสดงจริงสามารถทำได้ไหม และวันนั้นเบิร์ดกะฮาร์ทก็สร้างปรากฏการณ์ให้ไนท์สปอตไม่สามารถปฏิเสธพวกเราได้ ในขณะที่เบิร์ดกะฮาร์ทร้องเพลงทั้ง 3 เพลง และเพลงพิเศษ 1 เพลง ในขณะที่เราอ้าปากร้องเพลง คนทั้งฮอลล์กว่าสี่พันคนร้องตามเราได้หมด นับเป็นศิลปินวงเดียวของวันนั้นที่คนทั้งฮออล์ร้องตามได้ทุกเพลง ทั้งๆ ที่เบิร์ดกะฮาร์ทวันนั้นไม่มีวงดนตรีแบ็กอัพเลย มีแค่กีตาร์ตัวเดียว และความตลกของเราคือ ตอนนั้นเราเข้าใจว่าการที่คนทั้งฮอลล์ร้องเพลงตามเราได้นั่นคือเรื่องปกติ กับนักดนตรีคนอื่นเขาก็คงร้องตามแบบนี้เหมือนกัน (หัวเราะ)

        เบิร์ด : เราแม่งดังแล้วสาส… ส (หัวเราะ)

แสดงว่าหลังจากคอนเสิร์ตนั้นพวกคุณก็ได้รับการเซ็นสัญญาทำเทปสมใจแล้ว

        ฮาร์ท : คุณลองคิดดูสิ ว่าวันที่เราเอาเทปไปให้เขาฟังที่บริษัท ถ้าวันนั้นพวกเราไปเร็วกว่านั้นสักครึ่งชั่วโมง ชีวิตของเราอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้ วันนี้เบิร์ดก็คงเป็นพนักงานเสิร์ฟพิซซ่า ไม่ได้เป็นนักร้องก็ได้ (หัวเราะ) หลังจากประชุมกันเรียบร้อยเขาก็ถามว่าเราจะอยู่เมืองไทยต่อเพื่อทำเทปได้ไหม เดี๋ยวเขาจะพาคนเก่งมาช่วยทำ ผมกับเบิร์ดก็บอกว่าคงไม่ได้ เพราะว่าเราต้องกลับไปแล้ว แต่ทางบริษัทก็อยากจะอัดเทปอย่างเร็วที่สุด เขาก็เลยตกลงว่าอัลบั้มของเบิร์ดกะฮาร์ทจะไปอัดกันที่อเมริกา ก็วางแผนกันว่าจะอัดตอนช่วงเดือนตุลาคม มีเวลาให้เตรียมตัวประมาณ 2 เดือน จากนั้นเราก็บินกลับอเมริกาแล้วก็ไปหาห้องอัด ซึ่งเราก็ได้ห้องอัดเสียงที่เคยอัดเทปให้กับศิลปินอย่าง ชรัส เฟื่องอารมย์ และ มาลีวัลย์ เจมีน่า มาแล้ว สุดท้ายเราก็ทำเพลงจนเสร็จครบหนึ่งอัลบั้ม นำออกมาวางขายในตลาด ซึ่งเรื่องนี้เราดีใจมากที่ได้ทำเพลงเอง เพราะถ้าเรายังอยู่ที่ประเทศไทย เขาก็จะส่งโปรดิวเซอร์เก่งๆ มาทำเพลงให้เรา การร้องเพลงของเราก็อาจจะต้องถูกปรับเปลี่ยน เราจะอยู่ภายใต้ของการหล่อหลอมไม่ต่างกับนักร้องคนอื่นๆ ในวงการ ซาวนด์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกีตาร์ เสียงกลอง เปียโน ถ้าเล่นโดยนักดนตรีชาวไทย ความแตกต่างในเพลงอาจจะไม่มี ก็คงจะเหมือนผลงานเพลงของคนอื่นๆ ทั่วไป ด้วยปัจจัยที่เราต้องกลับอเมริกาแล้วและเราต้องอัดเสียงกันที่อเมริกา ทำให้เราสามารถทำเพลงโดยที่ไม่มีใครมาคุม เราสามารถทำเพลงที่เราคิดว่าดีที่สุดแล้ว 

        เบิร์ด : มองในอีกมุม ถ้าเป็นในแง่ของการตลาด เราคิดว่าเราเพิ่งเล่นคอนเสิร์ตไป มีคนดูมาดูสี่พันกว่าคน แล้วนักร้องหายตัวไป เพลงก็ยังถูกเปิดออกอากาศอยู่ ตัวศิลปินไปเรียนต่อเมืองนอกแล้ว ฟังแล้วเท่มากเลย จนกระทั่งพวกเรากลับมา วันแรกที่ผมลงจากเครื่องบิน เหมือนกับเราเป็นศิลปินเกาหลีในตอนนี้เลย คนมารอรับผมเป็นพันที่สนามบินดอนเมือง 

        ฮาร์ท : เพราะตอนนั้นระบบมันเริ่มทำงานแล้ว มีการส่งข่าวพีอาร์ตลอด เบิร์ดกะฮาร์ทเข้าห้องอัดแล้ว ตอนนี้พวกเขาทำเพลงเสร็จแล้ว เดือนธันวาคมนี้เบิร์ดจะกลับมาประเทศไทย ซึ่งเปิดเป็นคนแรกที่กลับมาก่อน ในขณะที่ผมยังทำเพลงขั้นตอนสุดท้ายอยู่ ใจของเบิร์ดไม่อยู่ในโรงเรียนแล้ว อยากมาเมืองไทยอย่างเดียว 

        เบิร์ด : ความนิยมมันเพิ่มขึ้นหลังจากคนสี่พันคน ตอนนั้นคงเพิ่มขึ้นมาเป็นหมื่นคนแล้ว แล้วที่พวกเรากลับมาก็จะอยู่แค่ 3 อาทิตย์ ปล่อยเพลงอัลบั้ม ห่างไกล ออกไปทั้งชุด หมดเวลากลับ เพลงดังแต่ศิลปินอยู่ไหน เบิร์ดกะฮาร์ทเป็นศิลปินที่คนไม่สามารถเดินไปหาเจอได้ง่ายๆ ตามสยามเซ็นเตอร์ 

         ฮาร์ท : ตอนกลับมาเราก็เดินสายโปรโมตเพลง อัดเทปรายการโทรทัศน์ ถ่ายมิวสิกวิดีโอ แล้วก็อัดเทปถ่ายรายการวนไปทั้งอาทิตย์ พอจะออนแอร์ ก็ถึงเวลาที่เบิร์ดกะฮาร์ท ต้องกลับไปแล้ว ดังนั้น อาทิตย์แรกของเดือนมกราคม ในปี  2529 เบิร์ดกะฮาร์ทอยู่อเมริกาแล้ว ในขณะที่รายการอื่นๆ กำลังทยอยออกผลงานของเรา และเพลงก็ดังด้วย 

        เบิร์ด : อัลบั้ม ห่างไกล จึงกลายเป็นชุดที่คนรู้จักเยอะที่สุด ในอัลบั้มมี 10 เพลง คนก็รู้จักทั้ง 10 เพลง ไม่ว่าจะเป็นเพลง ลืม, ไม่ลืม, เพ้อ หรือ Susan Joan ถ้าคุณได้ชมคอนเสิร์ตทุกวันอาทิตย์ของเรา ก็จะเห็นว่าคนขอแต่เพลงจากอัลบั้มแรกกันฉ่ำๆ เลย เพราะว่าอัลบั้มนี้เป็นเพลงที่ทุกคนฟังแล้วก็ฟังอีก ฟังกันทั้งชุดรู้จักกันทุกเพลง นี่คือที่มาที่ไปของความสำเร็จของเบิร์ดกะฮาร์ท

 

 

ตอนนั้นเบิร์ดกะฮาร์ทมีอัลบั้มออกมาสามชุด คือ ห่างไกล, ด้วยใจรักจริง และ จากกันมานาน แต่ทำไมเหมือนว่าอัลบั้มที่สองกลับหายไปจากความทรงจำของแฟนเพลง

        ฮาร์ท : อัลบั้ม ห่างไกล ออกปี 2528 อัลบั้มที่สอง ออกปี 2529 แต่อัลบั้มที่สองเราต้องรีบทำ เลยไม่ประสบความสำเร็จเท่าอัลบั้มแรก หลายคนลืม หลายคนไม่รู้จักอัลบั้มที่สอง อัลบั้ม ด้วยใจรักจริง แทบไม่เป็นที่สนใจเลย ส่วนหนึ่งเพราะว่าเรารีบทำ อีกส่วนคือเราตั้งใจทำเกินไป เราลืมไปว่าสิ่งที่เราทำชุดแรก มันมีบางอย่างที่ถูกใจคนฟัง ผมกลับมองว่าอัลบั้มแรกมีความผิดพลาดเยอะ เลยพยายามที่จะแก้ไขความผิดพลาดด้วยการทำอัลบั้มต่อมาให้ดี ซึ่งความเห็นเราคิดว่ามันดี แต่สุดท้ายแล้วมันไม่ดี มันโอเวอร์ โปรดิวซ์มากเกินไปจนคนที่เป็นแฟนเพลงเบิร์ดกะฮาร์ทพอฟังชุดสองแล้วเขารู้สึกผิดหวัง รู้สึกว่ามันไม่เหมือนชุดแรก นี่คือความผิดพลาดที่ได้เรียนรู้ เราก็เลยมาแก้ไขความผิดพลาดของอัลบั้มที่สอง ในอัลบั้ม จากกันมานาน ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดี แม้จะไม่เท่าชุดแรก แต่ก็ยังมีเพลงอมตะคลาสสิกที่ทุกวันนี้คนก็ยังขอให้เราเล่นให้ฟัง แต่ชุดแรกถือว่าเป็นชุดที่เปรี้ยงปร้างที่สุด

        ย้อนกลับไปตอนที่อัลบั้มสองไม่ประสบความสำเร็จ เบิร์ดกะฮาร์ทก็เงียบไปประมาณห้าปี ซึ่งช่วงนั้นเบิร์ดก็ไปทำวง System 4 ซึ่งก็ได้รับความนิยมระดับหนึ่ง จากนั้นเราทั้งคู่ก็คุยกันว่าอยากทำเบิร์ดกะฮาร์ทต่อ เลยรวบรวมเพลง รวบรวมประสบการณ์ รวบรวมบทเรียนที่ผ่านมา โดยมี พอล เภกะนันทน์ นักดนตรีรุ่นพี่ มาเป็นโคโปรดิวเซอร์ บันทึกเสียงและมิกซ์เสียงกันที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา และได้ออกจำหน่ายกับคีตา เรคคอร์ดส มีเพลงดังอยู่หลักๆ 2 เพลง คือเพลง ฝน กับเพลง รอรัก อัลบั้มนี้เป็นผลงานที่เราภูมิใจ เพราะว่าเพลงของเบิร์ดกะฮาร์ทโตขึ้น ความรู้ความเข้าใจในการทำเพลงของเราดีขึ้น ชุดแรกเรามั่ว แล้วกลับรู้สึกว่าไม่ดีด้วย แต่ความจริงมันดี เพราะยุคแรกๆ เราไม่สามารถบอกได้ว่าแบบไหนดีไม่ดี ในขณะที่ชุดสอง เราคิดว่าดี กลับไม่ดี คราวนี้เราเลยรู้แล้วว่า อ๋อ  เพลงที่ดีมันต้องอย่างนี้นี่เอง

เพลงอมตะคลาสสิกที่ว่าล้วนแล้วแต่เป็นเพลงเหงาๆ เศร้าๆ ทั้งนั้นเลย

         ฮาร์ท : ผมเข้าใจว่าคงมาจากการฟังเพลงของตัวเอง เพลงเหล่านี้ผมแต่งมาจากประสบการณ์จริงบ้างบางส่วน แต่หลักๆ พวกเราจะได้รับอิทธิพลจากเพลงไทยตอนเด็กๆ จากวงดิอิมพอสซิเบิ้ล และเพลงของพวกเขาจะเป็นเพลงโรแมนติก เบิร์ดกะฮาร์ทจึงไม่มีเพลงโจ๊ะๆ และส่วนใหญ่จะเป็นเพลงช้า เพราะเราชอบเพลงช้าๆ ซึ้งๆ  

        เบิร์ด : หลายคนจะบอกว่าเบิร์ดกะฮาร์ทเป็นนักดนตรีอินดี้ยุคแรก และนักดนตรีอินดี้ในยุคต่อมาอย่าง  P.O.P,  BlackHead, ETC. หรือ Moderndog ต่างโตขึ้นมาด้วยการฟังสองคนนี้ เขารู้ว่าพวกเราทำเพลงโดยไม่มีค่ายเพลงมาทำให้ แต่งเพลงกันเอง ร้องกันเอง อย่าง ปู แบล็กเฮด ก็บอกผมว่า สมัยก่อนเขาก็เอาเพลง Susan Joan ไปแกะและร้องประกวด ซึ่งการทำเพลงเองของเราถูกฝังไว้ในตัวนักดนตรีต่อๆ มา จนตอนนี้ใครก็ทำเพลงเองได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งค่ายเพลงกันแล้ว 

        ฮาร์ท : เรื่องตลกของ ปู แบล็กเฮด คือเขาชอบเพลง Susan Joan ชอบมากจนสามารถแกะและเล่นออกมาได้ดี และเขาก็ไม่เคยคิดว่าเพลงนี้จะถูกปล่อยออกมาเป็นทางการ คงเป็นเพลงเดโมที่ฟังกันในวงแคบๆ เขาก็เลยเอาเพลงนี้ไปเล่นและส่งประกวด แล้วก็บอกว่าผมแต่งเพลงนี้เอง พอเบิร์ดกะฮาร์ทได้ออกเทป เขาก็เลยเขินๆ และกลายเป็นเรื่องตลกที่เขาเล่าให้เราฟัง

วงดนตรีหลายวงที่อัลบั้มแรกทำเพลงแบบมวยวัด ไม่มีแบบแผน แต่กลับโด่งดังมาก พอชุดต่อๆ มาก็แผ่วปลาย คุณคิดว่าเพราะอะไรที่ทำให้เขาไม่สามารถรักษาความสดใหม่แบบชุดแรกได้ 

        ฮาร์ท : ถ้าให้พี่แนะนำนักดนตรีรุ่นหลังๆ ถ้าสมมติน้องคนไหนก็ตามที่ประสบความสำเร็จอย่างไม่คาดฝันกับชุดแรก คุณต้องทิ้งทุกอย่างในชีวิตไปเลย สมมติว่าตอนนั้นจะกำลังศึกษาอยู่เป็นนักเรียนเตรียมแพทย์ ให้หยุดเลย ทิ้งทุกอย่าง แล้วลุยต่อ 

ทิ้งเพื่อจะมาล้มในอัลบั้มต่อมาแบบที่เบิร์ดกะฮาร์ทเจออย่างนั้นเหรอ 

        ฮาร์ท : ถ้าผมสามารถย้อนกลับไปทำอัลบั้มที่สองได้ ผมจะนั่งเฉยๆ แล้วก็ขอรับเพลงจากคนอื่น สิ่งที่เบิร์ดกะฮาร์ทขาดในตอนนั้น คือเราสองคนขาดทักษะด้านการแต่งเพลง ไม่มีใครที่จะสามารถแต่งเพลงด้วย ร้องไปด้วย เล่นดนตรีด้วยได้ตลอด ต้องมีบางอย่างที่จะต้องช่วยกัน อย่างพลพล ผมว่าเขาเก่งมาก พอเขาดังชุดแรกปุ๊บ เขาจะมีทีมเลย มีคนแต่งเพลง แล้วพลพลก็เลือก เพลงนี้ชอบ เพลงนี้ไม่เอา เพลงนี้เอาไว้ก่อน แล้วก็มาทำชุดสองพลพลก็ร้อง หรือพี่ปั่น (ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว) ก็เหมือนกัน พอได้เพลงฮิตปุ๊บ เขาก็จะมีทีมแต่งเพลง ดังนั้น สำหรับเบิร์ดกะฮาร์ท ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะเลิกเรียน เรื่องปริญญาพักไว้ก่อน อีกสิบปีค่อยกลับมาเรียนก็ได้ และผมจะตั้งบริษัทเลย เป็นเบิร์ดกะฮาร์ทคอร์เปอเรชันอะไรก็ว่าไป รับสมัครทีมงาน คนแต่งเพลง ครูเพลงคนไหน มีเพลงดีๆ ส่งเข้ามาเลย ถ้าเราเลือกเพลงไหน คุณก็จะได้ค่าตอบแทน เราก็แต่งเพลงควบคู่ไปด้วย แต่มันก็เป็นความคิดของคนที่พบตัวเองหลังจากที่ลอตเตอรี่มันออกไปแล้ว

         เบิร์ด : ตอนนั้นเราเพิ่งอายุ 21 ปี พอเราประสบความสำเร็จในอัลบั้มชุดที่หนึ่ง เราก็กลับไปเรียนต่อ เพราะเราคิดว่าจะเป็นนักร้องไปตลอดชีวิตได้เหรอ เราจำบทสัมภาษณ์ของ จอห์น เลนนอน ที่บอกว่า ตัวเขาตอนวัยรุ่น จินตนาการไม่ออกว่าถ้าถึงตอนที่ตัวเองอายุสี่สิบแล้ว เขาจะร้องเพลง She Loves You แล้วเป็นอย่างไร 

        ฮาร์ท : นี่คือมุมมองของเด็กอายุยี่สิบสอง ที่มองคนอายุสี่สิบว่าแก่มาก แต่ตอนนี้กลายเป็นคุณกำลังคุยกับคนที่อายุ 55-56 ปี ที่มองว่าคนอายุ 22-40 ปีนั้นยังหนุ่มอยู่ (หัวเราะ) ดังนั้น สิ่งที่ จอห์น เลนนอน พูดก็ไม่ผิด แต่เขาไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เขากับเพื่อนๆ อีกสามคนทำไว้เป็นสิ่งที่โคตรมหัศจรรย์ ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้

        เบิร์ด : ดังนั้น พวกเราเลยไม่ได้คิดว่าต้องทุ่มเททิ้งทุกอย่าง เพราะเรามีอย่างอื่นต้องทำ พ่อแม่ก็บอกว่ายังไงเราก็ต้องเรียนให้จบ และเราก็คิดในตอนนั้นว่าถ้าร้องเพลงไปเรื่อยๆ แล้วเราจะเป็นยังไง

        ฮาร์ท : ซึ่งตอนนั้นเบิร์ดกะฮาร์ทก็เป็นแค่เด็กสองคนที่อายุยี่สิบต้นๆ ใครจะไปรู้ว่าเพลง ลืม อีกสามปีต่อมาคนยังร้องยังฟังกันอยู่ และมันจะกลายมาเป็นเพลงอมตะที่ยังร้องกันอยู่ถึงวันนี้ได้ยังไง ดังนั้น ในตอนนั้นถ้าใครจะมาบอกว่าทิ้งเถอะ หยุดเรียนไปก่อน แล้วคุณมาร้องเพลงอย่างเดียว แต่ไม่มีใครการันตีได้ว่ามันจะรอดไง

        เบิร์ด : พวกเราไม่ได้โด่งดังขนาดนั้น ยิ่งที่เมืองนอกด้วยแล้วไม่มีใครรู้จักเราเลย และในความเป็นจริงแล้ว มีวงดนตรีน้อยมากที่จะสามารถประสบความสำเร็จได้ทุกอัลบั้มแบบ The Beatles 

         ฮาร์ท : The Beatles เขาน่าทึ่งมาก คุณอาจจะบอกว่า เอลวิส เพรสลีย์ ก็ดัง ใช่ แต่เขามีทีม เขาแค่ร้องเพลง และรักษารูปร่างหน้าตาให้หล่อ แต่ The Beatles เป็นเด็กที่หน้าตาใช้ได้ ไม่ถึงกับหล่อ แต่เขามีความคิดสร้างสรรค์ มีความสามารถ ไม่หยุดนิ่ง เพลงของเขาค่อยๆ เปลี่ยนไปจนกระทั่งถึงตอนแยกวง เพลงของพวกเขาพัฒนาจนต้องยกนิ้วให้เลยว่า ‘อัจฉริยะ’ จริงๆ

        เบิร์ด : นักดนตรีในปัจจุบันไม่ว่าจะเมืองนอกหรือเมืองไทย จึงมาจากพื้นฐานการฟัง The Beatles กันหมด เพราะมีน้อยคนมากที่จะสามารถทำแบบนั้นได้ ที่คิดออกตอนนี้ก็มีวงบีจีส์ ควีน หรือ เอลตัน จอห์น ที่เก่งมากๆ 

        ฮาร์ท : ถ้าเป็นนักดนตรีในบ้านเรา ผมว่าวงดนตรีที่มีฝีมือตอนนี้คือ ETC. วงนี้แต่งเพลงเอง เล่นเพลงเอง ทำกันเอง มีคุณภาพและเสน่ห์ แฟนเพลงก็ยังติดตามอยู่เสมอ ไม่แผ่ว วงที่ต้นดีแต่แผ่วปลายมีเยอะ ซึ่งเบิร์ดกะฮาร์ทก็เป็นหนึ่งในวงที่ปลายแผ่วด้วย

 

เบิร์ดกะฮาร์ทจะกลับมาเร่งเครื่องได้ไหม

        ฮาร์ท : ด้วยวัยตอนนี้ เราอายุ 55 ปี หลายอย่างจึงไม่เหมือนตอนเราตอนอายุ 25 ปี เมื่อก่อนเล่นกีตาร์วนไปวนมาสองคอร์ด ดีไม่ดีได้เพลงมาหนึ่งเพลง แต่ตอนนี้เรากลับเฉยๆ กับสองคอร์ดนี้ หลายอย่างที่เมื่อก่อนคิดว่าเล่นเพลงประมาณนี้แล้วเพราะจังเลย แต่ตอนนี้กลับเฉยๆ เพราะพอเราโตขึ้น เราเปลี่ยนไป เราได้เจอกับเหตุการณ์มากมาย ตอนเป็นวัยรุ่นผมอกหัก ผมร้องไห้ฟูมฟายจะเป็นจะตาย แต่ตอนนี้ถ้าอกหัก ความรู้สึกก็เป็นอีกแบบ มันกร้านขึ้น ความอ่อนไหวกับความรู้สึกน้อยลง ซึ่งการทำเพลงต้องใช้อารมณ์ อย่าง พอล ไซมอน ตอนนี้เขาก็จะอายุ 80 ปีแล้ว สมัยหนุ่มๆ เขาแต่งเพลงเพราะมาก มีเพลงอมตะอย่าง Sounds of Silence แต่ตอนนี้เราไม่ได้ยินเพลงใหม่ๆ ของเขาอีกเลย เขาหยุดแต่งเพลงไปเลยหรือเปล่าก็ไม่รู้

แต่คุณก็ยังไม่หยุดแต่งเพลง แสดงว่าเบิร์ดกะฮาร์ทก็อาจจะมีผลงานใหม่ๆ ออกมา

        ฮาร์ท : แค่ความไพเราะมันไม่เหมือนตอนหนุ่มๆ ไม่จับใจเหมือนตอนนั้น แต่มันอาจจะจับใจคนฟังก็ได้ ส่วนอัลบั้มใหม่นั้นก็คิดอยู่ตลอด แต่ก็ยังไม่ได้ลงมือทำสักที ถ้าตอนนี้เบิร์ดกะฮาร์ทจะออกอัลบั้ม เราจะมีเพลงอย่างน้อย 10 เพลงแล้วแน่ๆ แค่ตอนนี้เรายังไม่มีความมุ่งมั่นที่จะทำ เบิร์ดกะฮาร์ทมีเพลงแล้ว แต่ความอยากทำยังไม่มี ส่วนการไลฟ์ แสดงดนตรีทุกวันอาทิตย์นั้นมันง่าย  แค่ดีดกีตาร์แล้วเล่น แต่การทำเพลงมันมีอะไรมากกว่านั้น ต้องใช้เวลา

คุณดูแลความสัมพันธ์ต่อกันอย่างไรให้เป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกันมานานแสนนาน เคยทะเลาะกันเพราะอีโก้บ้างไหม

        ฮาร์ท : มีบ้างในอดีต แต่น้อยมากๆ

        เบิร์ด : สุดท้ายแล้ว สิ่งที่มันดึงคนสองคนก็คือเพลง ไม่ว่าจะห่างกันยังไงมันก็จะกลับมา เพราะในตอนนั้นผมไม่ได้เป็นคนเก่งดนตรี ฮาร์ทเขาจะเป็นโปรดิวเซอร์ แต่บางทีตอนทำงานก็มีติดนะว่าทำไมเพลงเหมือนจะช้าไปหน่อย แต่ผมก็ปล่อยให้เขาทำต่อไปให้เขาตัดสินใจว่าเพลงนี้จะช้าหรือจะเร็วจะมีจังหวะแบบไหน ในแง่ดนตรี เราจึงไม่ค่อยมีอีโก้ แต่ถ้าในความเป็นเด็กหนุ่ม อารมณ์ตอนนั้นมีอยู่แล้ว แต่สุดท้ายแล้วความเป็นเพื่อน คนเราถ้าจะเป็นเพื่อนที่จะคบกันยาวๆ สาเหตุไม่ได้มาจากความประเสริฐเลิศเลอของทั้งคู่หรอก แต่เป็นความเริ่มเข้าใจซึ่งกันและกันในจุดบอดของกัน ยอมรับ ให้อภัยกันได้ บางเรื่องเราไม่พูด เก็บไว้ดีกว่า พูดไปเดี๋ยวเขาน้อยใจ มันคือความประคับประคองกันไป 

        ฮาร์ท : ซึ่งบางอย่างผมพลาดก็มี เราก็บอกเขาว่า เรื่องนี้ผมพลาดนะ ขอโทษจริงๆ นายเตือนเราแล้วนะ แต่เรายังทำ แต่เบิร์ดเขาก็ไม่ได้มาตอกย้ำนะว่าเห็นไหม กูบอกมึงแล้วยังทำอีก อะไรแบบนี้ (หัวเราะ)

เคยเดือดถึงระดับจะวางมวยกันเลยไหม 

        ฮาร์ท : ไม่มี  เมื่อก่อนเนี่ยสมัยที่ผมยังมีอัตตา มีอีโก้เรื่องดนตรี เบิร์ดเขาก็จะเชื่อผม ให้ผมเป็นผู้นำ เพลงนี้ร้องคีย์นี้นะ จังหวะแบบนี้ เบิร์ดเขาก็จะโอเค ถ้าในแง่ของดนตรี ศิลปะ ความสร้างสรรค์ เบิร์ดจะใท้เราเต็มที่เลย แต่วันนี้ผมไม่มีอีโก้เหล่านั้นแล้ว ณ วันนี้ จึงมีแต่เรื่องของการจัดการหรือจัดงานอย่างไร จะจัดคอนเสิร์ตแบบไหน ทำยังไงให้คนไม่ลืมเรา ซึ่งเรื่องนี้ผมจะยกให้เบิร์ดเลย ให้ทีมของเบิร์ดทำทั้งหมด เรารู้ว่าตัวเองควรทำอะไร เราจึงไม่มีเรื่องให้ต้องทะเลาะกัน 

        เบิร์ด : ผมเป็นคนไม่ได้มีความมั่นใจในตัวเองมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ที่ได้มาเป็นนักร้องเพราะตกกะไดพลอยโจนล้วนๆ 

        ฮาร์ท : คอนเสิร์ตแรกของพวกเราเมื่อปี 2528 ผมยังคิดเลยว่าถ้าตัวเองเป็นลมล้มลงไปจะไม่ประหลาดใจเลย วันนั้นเราถูกเรียกให้ไปหอประชุมธรรมศาสตร์ เราก็แต่งตัว เราเดินไปเดินมาเป็นชั่วโมง รอถึงคิวที่จะได้เล่น พวกเราประหม่ากันมาก ตอนที่อยู่อยู่ด้านหลังเวที อยู่หลังม่าน รอเขาประกาศให้ออกไป ผมยังพูดกับเบิร์ดเลยว่า กูจะเป็นลมแล้วว่ะ เบิร์ด (หัวเราะ) มันสั่นขนาดนั้นเลยจริงๆ 

        เบิร์ด : เมื่อก่อนผมจะเป็นคนพูดเบาๆ จ๋อยๆ ไม่ได้เป็นคนมั่นใจในตัวเอง ในเวทีวันนั้นผมจำได้เลยว่าเราประหม่า ตอนเล่นดนตรี ผมยืนข้างหน้า ฮาร์ทมีกีตาร์ และเราก็ต้องพูดใส่ไมค์ ต้องพูดทักทายคนดู สวัสดีครับ สบายดีไหม สถานการณ์ทำให้เราต้องกล้า

 

บทเรียนจากอดีตถึงปัจจุบัน ผ่านมุมมองในวันที่เป็นวัยรุ่นถึงวันที่เติบโตของคุณเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง

         เบิร์ด : การมองอะไรตอนเด็กๆ กับมองตอนนี้ตอนโตแล้ว มันก็ไม่ง่ายจริงๆ ดังนั้นผมจึงบอกกับลูกสาวทั้งสามคนของผมที่กำลังเป็นวัยรุ่น ซึ่งหลายอย่างที่เราเตือนเขาก็ฟัง แต่ก็มีอีกหลายอย่างที่เขาต้องไปลองด้วยตัวเอง หลายเรื่องที่โลกนี้มีความน่าท้าทาย และเมื่อเรามองกลับไป เราก็จะเข้าใจเขาว่า เขาต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะ เราไม่ได้มองว่าชีวิตมันน่ากลัวนะ แต่มันคือความสนุก เราจึงไม่ห้ามเขาว่า ‘อย่า’ นะ  แต่เราแค่เตือนเขา เรื่องเพลงก็เหมือนกัน กับคนฟังเพลงถ้าเราไปบอกว่าเพลงนี้อย่าไปฟังนะ อย่าทำแบบนั้นแบบนี้นะ ก็คงไม่ได้  ผมเป็นคนทำเพลงเหมือนกัน ตอนนั้นก็ไม่ได้มีคนมาบอกให้เราทำแบบนั้นแบบนี้ แต่เพลงของเบิร์ดกะฮาร์ทมาจากเราสองคน คนที่ฟังเขาก็ต้องเข้าใจในความเป็นตัวของเบิร์ดกะฮาร์ท

คุณคิดว่าเพลงของเบิร์ดกะฮาร์ทในวันนี้ทำงานกับคนฟังในด้านไหน

        เบิร์ด : เพลงของพวกผมเป็นเพลงรัก เราไม่ได้เป็นแนวเพลงเพื่อชีวิต เพลงเราจะใสๆ เป็นเพลงจีบสาว ณ วันนี้ เพลงทุกเพลงของเบิร์ดกะฮาร์ท คนฟังเพลงนั้นไม่ได้นึกถึงพวกเรา แต่คนจะนึกถึงว่าในตอนนั้นเขาทำอะไรอยู่ ณ ตรงไหน ในตอนนั้นตอนที่ฟังเพลงนั้นๆ มีเหตุการณ์อะไรกับเขา เพลงได้ทำหน้าที่ของมันในด้านนี้แล้ว เช่น เพลง ไม่ลืม เมื่อผมร้องว่า ‘ท้องฟ้าวันนี้เงียบเหงา…’ ผมก็ไม่ได้รู้สึกเงียบเหงาอีกแล้ว แต่เมื่อผมร้องและคนได้ฟัง เขาก็อาจจะกำลังนึกวัยของตัวเองในตอนนั้น ความรู้สึกของชีวิตในช่วงนั้น หรือคนที่ฟังเพลง ฝน ตอนที่ฟังเขาก็ไม่ได้รู้สึกเศร้าเหลือเกินอะไรหรอก แต่เขารู้สึกถึงห้วงอารมณ์ในตอนนั้น นึกถึงวันเก่าๆ พูดเรื่องนี้แล้วก็อยากร้องเพลง Yesterday ของ The Beatles (หัวเราะ) Yesterday all my troubles seemed so far away… 

 

Special Thanks:

โรงแรม Conrad Bangkok 

– www.hiltonhotels.com/th_TH/thailand/conrad-bangkok

– www.facebook.com/conradbangkokhotel

[NEW] ร้องไห้หนักมาก! 12 บทเพลงแต่งจากเรื่องจริงไม่อิงนิยาย | เพลง แฟน ที่ ไม่ ได้ เรื่อง – NATAVIGUIDES

          น้องๆ ชาว Dek-D ทราบไหมคะว่าเพลงฮิตที่ทำให้พวกเราอินจนบ่อน้ำตาแตกกันอยู่ทุกวันนี้ มีหลายเพลงเลยล่ะที่สร้างจากเรื่องจริง! วันนี้พี่แอนนี่เลยรวบรวมเพลงสุดซึ้งที่ผู้แต่งได้รับแรงบันดาลมาจากเรื่องจริงของตัวเองหรือคนใกล้ตัวมาฝากกันค่ะ ไม่รอช้า ไปดูกันเลยดีกว่าจ้า

See You Again – Wiz Khalifa feat. Charlie Puth 

(ภาพจาก MV See You Again – Wiz Khalifa feat. Charlie Puth )

          ไม่ใช่แค่ Fast and Furious 7 เท่านั้นที่โด่งดังไปทั่วโลก ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังพาเพลง See You Again ของ Wiz Khalifa feat. Charlie Puth ขึ้นอันดับ 1 ชาร์ตบิลบอร์ดอีกด้วย! เพลงนี้แต่งขึ้นมาเพื่อระลึกถึง Paul Walker นักแสดงนำของเรื่องที่จากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนตร์นั่นเอง โดย Charlie Puth หนึ่งในผู้แต่งและร้องเพลงนี้บอกว่าเขาใช้เวลาเขียนเพลงเพียง 10 นาทีเท่านั้น! เพราะเคยมีประสบการณ์ที่ต้องสูญเสียเพื่อนจากอุบัติเหตุแบบนี้เหมือนกันค่ะ เรียกได้ว่าเพลงนี้ถูกถ่ายทอดออกมาจากความรู้สึกที่แท้จริง และเรียกน้ำตาได้จากคนทั่วโลกเลยล่ะ
 

Walk Away – Dia Frampton

( ภาพจาก www.facebook.com/DiaFramps )

          มาต่อกันที่ Walk Away จาก Dia Frampton พี่แอนนี่เชื่อว่าเพลงนี้คงผ่านหูใครหลายๆ คนมาแล้วล่ะ เพลงฟังสบายๆ แต่เนื้อเพลงและที่มาไม่ได้น่ารักตามไปด้วยเลย โดยสร้างมาจากเรื่องจริงของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกพ่อและเพื่อนพ่อข่มขืนอย่างโหดร้าย! สาว Dia ฟังแล้วอยากที่จะล้างแค้นให้เธอ จึงแต่งเพลงนี้ขึ้นมาจากจินตนาการที่ให้เด็กผู้หญิงอยู่ในชุดพร้อมบู๊ แล้วกลับไปถล่มชายพวกนั้นอย่างบ้าระห่ำเหมือนใน MISSION IMPOSSIBLE เจ๋งไปเลย! แต่เอาเข้าจริงพอรู้ที่มาแล้วก็สะเทือนใจอยู่ไม่น้อยเลยนะ 

ซ่อนหา – Tattoo Colour

( ภาพจาก MV ซ่อนหา – Tattoo Colour )

          ซ่อนหา จากวง Tattoo Colour แค่ฟังเพลงอย่างเดียว อาจนึกว่าเป็นเพลงตามหาความรักปกติแต่เมื่อพี่แอนนี่ได้ดู MV และรู้ที่มาของเพลงนี้แล้วถึงกับเศร้า เพราะเพลงนี้แต่งขึ้นมาจากเค้าโครงเรื่องจริง ของชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งตามหาภรรยาที่ถูกคลื่นยักษ์สึนามิพลัดพรากไปอย่างไม่มีวันกลับ สิ่งที่เขาทำได้คือการลงพื้นที่ดำน้ำค้นหาร่างของภรรยาด้วยตัวเอง! ขอนับถือใจของชายคนนี้เลยค่ะ โดย Tattoo Colour ได้นำเกมซ่อนหาที่ใครๆ ก็เคยเล่นมาเป็นตัวแทนของเพลงนี้ล่ะ อารมณ์แบบว่าไม่ว่านานแค่ไหนฉันจะต้องตามหาเธอให้เจอ! ซึ้งมากอ่ะ

แด่เธอที่รัก – Klear

( ภาพจาก MV แด่เธอที่รัก – Klear )

          หลายคนถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่! กับแด่เธอที่รัก จากวง Klear ความรักที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในรูปแบบคนรักเสมอไป เพราะสิ่งที่ล้ำค่ากว่านั้นคือพ่อแม่ของเราค่ะ เพลงนี้แต่งจากเรื่องจริงของครอบครัว แพท นักร้องนำ ที่สูญเสียคุณพ่อไปอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว จากโรคร้ายที่ต้องต่อสู้มาตลอด 5ปี โดยที่ไม่บอกใครเพราะไม่อยากให้ทุกคนในบ้านต้องทุกข์ใจ เพลงนี้ถือได้ว่าเป็นการระลึกถึงคุณพ่อและยังช่วยเตือนสติให้เราหันมาใส่ใจกับสมาชิกในครอบครัวมากขึ้น ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ยังไงก็ตามพี่แอนนี่ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ

นาที – ว่าน ธนกฤต

( ภาพจาก MV นาที – ว่าน ธนกฤต )

          นาที จาก ว่าน ธนกฤต เป็นเพลงที่พูดถึงกันเยอะมากในช่วงนั้นเพราะเป็นการนำเสนอเรื่องราวความรักของคนเพศเดียวกัน พี่แอนนี่จำได้ว่าตอนนั้นแค่ฟังเพลงก็เศร้าแล้วอ่ะ พอไปหา MV ดู โอ้โห! สะเทือนใจหนักกว่าเดิม โดยหนุ่มว่านได้ออกมาบอกเองเลยว่าเนื้อหาเพลงไม่ได้คิดไปเองนะจ๊ะ ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงของรุ่นพี่ที่สนิทคนหนึ่ง และนำมาถ่ายทอดในมุมของความรัก กับมิตรภาพตั้งแต่สมัยเด็กๆ จนถึงวันที่ฝ่ายหนึ่งได้จากโลกนี้ไป ส่วนชื่อเพลงนาที เหมือนเป็นการตอกย้ำว่า ถ้ารู้สึกดีกับใครให้รีบบอกนะ ก่อนที่จะไม่มีโอกาสนั้นอีกเลย เป็นอีกเพลงที่ดูกี่ทีก็อินนะคะเนี่ย

คนไม่มีเวลา – ว่าน ธนกฤต

( ภาพจาก MV คนไม่มีเวลา – ว่าน ธนกฤต )

          มาต่อกันอีกเพลงของว่านที่ทำเอาคนฟังน้ำตาท่วมจออีกครั้ง อย่างคนไม่มีเวลา แหม คนนี้มาพร้อมเพลงดีมีคุณภาพตลอด เพลงนี้สร้างมาจากเรื่องจริงของพี่มืดและพี่บี ที่เป็นแฟนคลับของหนุ่มว่าน พี่บีป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองแตกอย่างกระทันหันและไม่รู้สึกตัวอยู่หลายเดือน พี่มืดจึงต้องเข้มแข็งให้ได้เพื่อตัวเองและดูแลพี่บีด้วย ทุกวันนี้พี่มืดยังรอคอยอย่างมีความหวังว่าสักวันพี่บีจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม คือแค่เล่าอาจจะไม่อินเท่าไหร่ พี่แอนนี่แนะนำให้น้องๆ ชาว Dek-D ดู MV ตามไปด้วย จะรู้เลยว่าพลังของรักแท้อยู่เหนือกาลเวลาและทำได้ทุกอย่างจริงๆ ค่ะ

รักกันเมื่อยังหายใจ – เคลิ้ม

( ภาพจาก MV รักกันเมื่อยังหายใจ – เคลิ้ม )

          แค่ชื่อเพลงก็ดราม่าแล้วอ่ะ รักกันเมื่อยังหายใจ ของวงเคลิ้ม ที่หยิบยกเรื่องจริงสุดสะเทือนใจของคุณโอและคุณภัทรที่มักจะใช้อารมณ์เหนือเหตุผล จนมาเจอเรื่องราวโหดร้ายจากอุบัติเหตุที่ทำให้ฝ่ายหญิงต้องสูญเสียแขนและขาซ้ายไป เหตุการณ์นี้ทำให้ทั้งคู่เข้าใจความหมายของความรักมากขึ้นและดูแลกันมาโดยตลอด เพลงนี้ถือได้ว่าเป็นการเตือนสติให้ทุกคนใส่ใจคนรัก ที่รวมไปถึงคนในครอบครัวด้วยนะคะ เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าในวันพรุ่งนี้คนที่เรารักจะยังอยู่เคียงข้างเราอีกหรือเปล่า เพราะฉะนั้นทำวันนี้ให้ดีที่สุดเนอะ

รักแท้ดูแลไม่ได้ – Potato

( ภาพจาก MV รักแท้ดูแลไม่ได้ – Potato )

          เพลงฮิตที่ผ่านไปกี่ปีหลายคนก็ยังร้องได้และร้องไห้ตลอด กับรักแท้ดูแลไม่ได้ จากวง Potato ใครจะไปรู้ล่ะคะว่าเพลงนี้ก็สร้างมาจากเรื่องจริงเหมือนกันนะ! โดย “ฟองเบียร์” นักแต่งเพลงชื่อดังเพิ่งออกมาเฉลยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ว่าเป็นเรื่องจากเจ้าตัวเองแหละ ที่บังเอิญไปเจอแฟนเก่าในร้านอาหารแห่งหนึ่ง พูดคุยไปมาทำให้หวนนึกถึงเรื่องราวอดีตที่ไม่สามารถย้อนกลับไปได้อีกแล้ว ฟองเบียร์จึงหยิบกีตาร์ขึ้นมาแล้วร้องท่อนฮุกทันที เจอแบบนี้เข้าไปเป็นใครก็เก็บน้ำตาไว้ไม่อยู่หรอกจริงไหม

เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย – อ๊อฟ ปองศักดิ์

( ภาพจาก MV เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย – อ๊อฟ ปองศักดิ์)

          เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย เพลงที่สร้างจากชีวิตจริงของ อ๊อฟ ปองศักดิ์ กับความรักจอมปลอม ที่แสดงให้เห็นว่าความรักไม่ได้มีแค่ความสุขหอมหวานเสมอไปนะ บางทีสิ่งที่เรามั่นใจว่ามันคือความรักอาจจะเป็นเรื่องที่อีกฝ่ายสร้างขึ้นมาก็เป็นได้ ยิ่งกว่านิยายสมชื่อเลยอ่ะ นอกจากเพลงจะเพราะแล้ว ใน MV นักร้องเสียงดีคนนี้ยังมาเล่นเอง เจ็บ(ใจ) เองเลย และได้พี่ฉอด Club Friday มาถามจี้ใจดำ จนเจ้าตัวร้องไห้หนักมาก ขนาดไม่ได้เจอกับตัวนะเนี่ย ดูแล้วบีบเค้นหัวใจสุดๆ 

รักไม่ช่วยอะไร – นัท มีเรีย

( ภาพจาก MV รักไม่ช่วยอะไร – นัท มีเรีย )

          เป็นเพลงที่มีกระแสดังมาก กับรักไม่ช่วยอะไร จาก นัท มีเรีย ที่ถึงแม้ว่าจะไม่มีการออกมาฟันธงจากเจ้าตัวว่าสร้างจากเรื่องจริงของชีวิตแต่งงาน แต่ดูจากเนื้อเพลงและสาวนัทที่ถึงขั้นร้องไห้ระหว่างการถ่ายทำ MV แล้ว เรียกได้ว่าอินเนอร์มาเต็มมาก ทำเอาคนฟังพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเศร้าและอินสุดๆ แถมในช่วงนั้นยังมีข่าวนัทเพิ่งแยกทางกับ เต๋า สมชาย พอดี๊ พอดีอีกด้วย เอาเป็นว่ารู้กันเนอะ

          เศร้ากันมากไปแล้ว! มาเปลี่ยนบรรยากาศกันบ้างดีกว่ากับเพลงที่อาจจะไม่ถึงขั้นร้องห่มร้องไห้ แต่ก็ซึ้งไม่แพ้กันเลย เพราะเป็นเพลงที่ตั้งใจแต่งให้คนที่รักนั่นเอง ว่าแล้วมาดูกันต่อเลยจ้า

คู่ชีวิต – Cocktail 

( ภาพจาก MV คู่ชีวิต – Cocktail )

          เพลงรักสุดซึ้ง คู่ชีวิต จาก Cocktail ถ่ายทอดมุมมองของความรักที่มั่นคง แม้จะมีอุปสรรคใดๆ เข้ามาก็ตาม ซึ่งพี่โอม นักร้องนำตั้งใจแต่งและร้องเพลงนี้เซอร์ไพรส์พี่เพ็ญ ภรรยาสุดน่ารักในงานแต่งงานของทั้งคู่ล่ะ เพื่อเป็นการเน้นย้ำไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จากนี้ไปจะขออยู่เคียงข้างเธอเพียงคนเดียว (เขินมาก) ส่วน MV เพลงนี้เพิ่งปล่อยเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเอง ไปถ่ายทำกันที่ทะเลระยองนู้น โดยพี่โอมได้ควงพี่เพ็ญ มาร่วมเล่นในตอนท้ายด้วยนะ ทำเอาแถวนั้นกลายเป็นทะเลหวานไปเลยล่ะค่ะ นี่สิ คู่ชีวิตของจริง!

ลูกอม – วัชราวลี

( ภาพจาก www.facebook.com/whatcharawalee.fanpage )

          ปิดท้ายด้วยเพลงน่ารักกุ๊กกิ๊ก แต่ถ้ามีคนร้องให้ฟังคงมีน้ำตาซึมกันบ้างล่ะ กับลูกอม จาก วัชราวลี แต่งให้เพื่อนของสมาชิกในวงที่จะนำไปร้องเซอร์ไพรส์เจ้าสาวในวันแต่งงานเช่นกัน โดยร่วมกันแต่งและอัดเพลงนี้เสร็จภายใน 1 วันเท่านั้น! แต่ตอนแรกยังไม่มีชื่อเพลงนะ พอเพลงนี้ถูกเผยแพร่ในโซเชียลเน็ตเวิร์คแล้วฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมือง เลยถึงเวลาแล้วล่ะที่จะต้องตั้งชื่อ เลยมาจบที่ชื่อเพลงลูกอม จากชื่อเล่นและ วงวัชราวลี ชื่อจริงของเจ้าสาวนั่นเองค่ะ ประทับใจมากอ่ะ อยากมีแบบนี้บ้างต้องทำยังไงเนี่ย!

          เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับเพลงที่สร้างมาจากเรื่องจริง หาทิชชู่มาซับน้ำตากันแทบไม่ทันเลยใช่ไหมล่ะ ว่าแต่น้องๆ ชาว Dek-D ประทับใจกับเรื่องราวของเพลงไหนมากที่สุดเอ่ย? หรือใครที่เคยเจอเหตุการณ์แบบในเพลงก็มาแชร์กันได้นะ ไม่ว่าเรื่องจะแย่มากแค่ไหน พี่แอนนี่ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ 

ที่มา
www.americansongwriter.com
www.mtv.com
www.genie-records.com
www.atimemedia.com
news.gmember.com
diaframpton.blogspot.com
www.genie-records.com/features
musicblog.gmember.com
www.facebook.com/fongbeerwerecords
Music Video ซ่อนหา – Tattoo Colour
Music Video คนไม่มีเวลา – ว่าน ธนกฤต
Music Video รักกันเมื่อยังหายใจ – เคลิ้ม

 


BEST THING – Used pea [ เนื้อเพลง ] อยากจะบอกว่าฉันเป็นเเฟนที่ไม่ได้เรื่องเลย


เพลงต้นฉบับ https://youtu.be/VLb_3RRDKRs

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

BEST THING - Used pea [ เนื้อเพลง ] อยากจะบอกว่าฉันเป็นเเฟนที่ไม่ได้เรื่องเลย

เพลงเอก ซีซั่น 2 | EP.04 | 13 พ.ย. 64 Full EP


“เพลงเอกซีซั่น2” รายการเพลงที่ให้คุณผู้ชมดื่มด่ำไปกับทุกบทเพลงเพราะ ผสมกับความสุนทรีทางอารมณ์ที่พร้อมจะก้าวข้ามผ่านในทุกช่วงเวลาแห่งความคิดถึงไปพร้อมกัน กับทุกแนวเพลง
ทุกวันเสาร์ เวลา 20.05 น. ทางช่องเวิร์คพอยท์
🚩 เพลงเอกซีซั่น2 ทุกวันเสาร์ เวลา 20.05 น.
เพลงเอก Workpoint23
เพลงเอกBestSongContest
คุณพระช่วยออร์เคสตรา
=========================================
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/workpoint
Website: https://www.workpointtv.com
Instagram: https://www.instagram.com/workpoint
TikTok: https://vt.tiktok.com/ZS9GDwTY

เพลงเอก ซีซั่น 2 | EP.04 | 13 พ.ย. 64 Full EP

เด็ดดวง (THE BEST) – บุ๊ค ศุภกาญจน์ [OFFICIAL MV] #วงBook


ฝากติดตามผลงาน ค่ายเพลง บังเอิญ มิวสิค ช่อง Youtube บังเอิญ มิวสิค บึงกาฬ
🛎 กด Subscribe : https://bit.ly/2OTOjdn​​
Facebook : https://www.facebook.com/a.pisit.grap…
เฟส บุ๊ค ศุภกาญจน์ https://www.facebook.co/cherry.baa.3​​
ติดต่องาน โทร. : 082 126 1623 (ต.โต้ง ผู้จัดการ)
เพลง เด็ดดวง (THE BEST)
ศิลปิน​ : บุ๊ค ศุภกาญจน์
คำร้อง​ / ทำนอง​ : บุ๊ค ศุภกาญจน์
เรียบเรียง​ : ไก่ กีต้าร์​ ,บุ๊ค ศุภกาญจน์ ,วงBook
MIXMASTER​ ไก่ กีต้าร์
ลายดนตรี
กลอง/ รณยุทธ ไกยวงศ์ (เอ็กซ์ต้าร์)
เบส/ ปฏิภาน ทวยแก้ว (เดอะหมู)
กีต้าร์/พิณ จักรกฤษ บุญสิทธิ์ (แซมมี่)
…….
เนื้อเพลง
อย่าล้อเล่นได้ไหม ที่เธอยังไม่มีแฟน
สวยกว่านางสาวไทย เด็ดดวงอย่างกับมิสแกรนด์
น่ารักขนาดนี้ทำไมยังไม่มีแฟน
ก็คุณคือ the best ทำไมถึงยังขาดแคลน
ที่บอกแฟนไม่มีหรือว่าแฟนเธอนั้นยังไม่มา
เมื่อคืนผมฝันเห็นคุณเต็มในลูกกะตา
ฝันว่าคุณเป็นต้นไม้ ผมเป็นคนสวนธรรมดา
เมื่อไหร่ที่ต้นไม้ยั่วยวน คนสวนก็ต้องฟัน
ดูเธอช่างน่ารัก ไม่ได้ล้อเล่นพูดจริงๆนะ
เอาตรงๆอย่าโกรธนะ
ไม่ได้เจตนาแค่สงสัย
ที่เธอไม่มีแฟนหรือแฟนเธอไม่มา
ได้โปรดอย่ามองตาเดี๋ยวมันจะบานปลาย
ใจคอไม่ค่อยดีหัวใจมันจะวาย
เธอเดินมาทางซ้ายที่ เก้านาฬิกา
ไม่เอานะคนดีอย่าทำแบบนี้เลย
เด็ดดวงแม่คุณเอ๋ยอย่าข่มขืนด้วยสายตา
ไม่เอานะคนดีเดี๋ยวแฟนเธอจะมา
ยังพอมีเวลาจะทำอะไรก็รีบทำ
หรือเธอเป็นแม่มดที่มีเวทย์มนต์ฉันใด
ปล่อยพลังใส่ผู้คน หลงมนต์สะกดอยู่เรื่อยไป
เมื่อไหร่คุณต้องการ ตัวผมก็พร้อมจะไป
แต่อย่าบอกให้ใครรู้ ให้เป็นความลับก็พอ
ดูเธอช่างน่ารัก ไม่ได้ล้อเล่นพูดจริงๆนะ
เอาตรงๆอย่าโกรธนะ
ไม่ได้เจตนาแค่สงสัย
ที่เธอไม่มีแฟนหรือแฟนเธอไม่มา
ได้โปรดอย่ามองตาเดี๋ยวมันจะบานปลาย
ใจคอไม่ค่อยดีหัวใจมันจะวาย
เธอเดินมาทางซ้ายที่ เก้านาฬิกา
ไม่เอานะคนดีอย่าทำแบบนี้เลย
เด็ดดวงแม่คุณเอ๋ยอย่าข่มขืนด้วยสายตา
ไม่เอานะคนดีเดี๋ยวแฟนเธอจะมา
ยังพอมีเวลาจะทำอะไรก็รีบทำ
ได้โปรดอย่าทำเป็นเล่นตัวเกินไป
ถ้าเธอมีแฟนแล้วฉันคงเสียใจ
มันคงจะไม่ดีถ้าปล่อยเธอไป กับใครคนนั้น
ที่เธอไม่มีแฟนหรือแฟนเธอไม่มา
ได้โปรดอย่ามองตาเดี๋ยวมันจะบานปลาย
ใจคอไม่ค่อยดีหัวใจมันจะวาย
เธอเดินมาทางซ้ายที่ เก้านาฬิกา
ไม่เอานะคนดีอย่าทำแบบนี้เลย
เด็ดดวงแม่คุณเอ๋ยอย่าข่มขืนด้วยสายตา
ไม่เอานะคนดีเดี๋ยวแฟนเธอจะมา
ยังพอมีเวลาจะทำอะไรก็รีบทำ
จะทำอะไรก็รีบทำ
เด็ดดวง บุ๊คศุภกาญจน์ วงBook

เด็ดดวง (THE BEST) - บุ๊ค ศุภกาญจน์ [OFFICIAL MV] #วงBook

ILLSLICK – Best thing (Official Music VDO)


2013 Bang Baht Productions

ILLSLICK - Best thing (Official Music VDO)

คนรักที่ไม่ได้เรื่องของเธอ – PLAYGROUND [OFFICIAL MV]


เพลง : คนรักที่ไม่ได้เรื่องของเธอ
ศิลปิน : PLAYGROUND
Executive Supervisor : วุฒินันต์ ภิรมย์ภักดี
Executive Producer : ปฏิเวธ อุทัยเฉลิม
เนื้อร้อง : กฤษติกร พรสาธิต
ทำนอง : กฤษติกร พรสาธิต
เรียบเรียง : ตุลย์ เหมือนสร้อย
โปรดิวเซอร์ : PLAYGROUND
_____________________________________

ลืมฉันหรือยัง
คนรักที่ไม่ได้เรื่องของเธอ
โชคร้ายนะที่เธอต้องมาเจอกับคนอย่างฉัน
แค่รู้ว่าวันนี้เธอสบายดีไหม
ฉันก็เหมือนเดิม
ยังรักใครใหม่ไม่ลงสักที
ยังชอบทำตัวงี่เง่าแบบนี้
เลิกไปตั้งนานแล้ว
ยัง move on เป็นวงกลมเหมือนเดิมอยู่เลย
ชีวิตใหม่ของเธอมันโอเคหรือเปล่า
ส่วนชีวิตฉันมันก็ยังจมอยู่กับเรื่องของเรา
ฉันรู้ว่าควรตัดใจและลืมเรื่องเก่า
แต่ฉันมันไม่ได้ความ
มันก็ยังทำไม่ไหว
ขอโทษที่ฉันวันนี้มันยังดีพอไม่ได้
ฉันรู้ว่าควรจะทำให้ง่าย
เลิกไปทำตัววุ่นวาย
แต่สุดท้ายยังทำได้เพียงแค่ไม่ลืมเธอ
เธอเบื่อไหมทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่องของเธอ
แต่ฉันดันบ้าบออยู่เสมอ
ยังมีแต่เธอทั้งใจ
จบไปแล้วแต่ฉันยังฝืนเหมือนไม่ยอมไป
อย่าโกรธฉันเลยนะที่ฉันทำลงไป
เพราะฉันคิดถึงเธอเหลือเกิน
ชีวิตใหม่ของเธอมันโอเคหรือเปล่า
ส่วนชีวิตฉันมันก็ยังจมอยู่กับเรื่องของเรา
ฉันรู้ว่าควรตัดใจและลืมเรื่องเก่า
แต่ฉันมันไม่ได้ความ
มันก็ยังทำไม่ไหว
ขอโทษที่ฉันวันนี้มันยังดีพอไม่ได้
ฉันรู้ว่าควรจะทำให้ง่าย
เลิกไปทำตัววุ่นวาย
แต่สุดท้ายยังทำได้เพียงแค่ไม่ลืมเธอ
เธอเบื่อไหมทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่องของเธอ
แต่ฉันดันบ้าบออยู่เสมอ
ยังมีแต่เธอทั้งใจ
จบไปแล้วแต่ฉันยังฝืนเหมือนไม่ยอมไป
อย่าโกรธฉันเลยนะที่ฉันทำลงไป
เพราะฉันคิดถึงเธอเหมือนเกิน
ลืมฉันหรือยัง
คนรักที่ไม่ได้เรื่องของเธอ
_____________________________________
ติดต่องานจ้าง : 0624949583
Digital Download 492 222 230
ติดตามผลงานเพิ่มเติม
https://www.facebook.com/merecordslabel
https://www.facebook.com/ilikeplayground
https://www.instagram.com/merecordslabel
https://www.instagram.com/playgroundfamily
https://twitter.com/merecordslabel
สร้างรายได้จากการ Cover เพลงนี้ติดต่อ [email protected]
คนรักที่ไม่ได้เรื่องของเธอ PLAYGROUND เพลงใหม่ล่าสุด merecordslabel muzikmove

คนรักที่ไม่ได้เรื่องของเธอ - PLAYGROUND [OFFICIAL MV]

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ เพลง แฟน ที่ ไม่ ได้ เรื่อง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *