Skip to content
Home » [Update] Adjective คืออะไร พร้อมวิธีการใช้งาน A-Z | คำ ศัพท์ adjective – NATAVIGUIDES

[Update] Adjective คืออะไร พร้อมวิธีการใช้งาน A-Z | คำ ศัพท์ adjective – NATAVIGUIDES

คำ ศัพท์ adjective: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

Adjective คืออะไร – adjective หรือคำคุณศัพท์มีหน้าที่ขยายความหมายคำนาม ให้เราเห็นภาพ เข้าใจละเอียดคำนามนั้นๆ มากขึ้น เป็นคำที่ใช้บ่อยมากในประโยคต่างๆ วันนี้เราจะมาเเนะนำประเภคของ adjective พร้อมวิธีการใช้งานด้วยกันดังต่อไปนี้

Table of Contents

คําคุณศัพท์ adjective คืออะไร ??

ในประโยคต่างๆ เราจะเห็นหน้าที่ของ adjective หรือคำคุณศัพท์คือขยายความหมายให้คำนาม

  • เช่นในภาษาไทยเราก็มีคำนามเช่น คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ เพื่อบอกให้รูว่ามีลักษณะเป็นเช่นไร เช่น สูง ต่ำ ดำ ขาว เป็นต้น ในภาษาอังกฤษ adjective ก็มีหน้าที่เช่นกัน
  • ยกตัวอย่างเช่น เด็กผู้ชาย ตัวเล็ก เราจะพูดภาษาอังกฤษว่า  The boy is small ในนั้น small จะเป็นคำคุณศัพท์ ส่วน boy เป็นคำนามในประโยคนี้
  • เช่นอยากบอกว่า แมว มีสีดำและขาว เราจะพูดภาษาอังกฤษว่า A cat is black and white ในนั้น black  กับ white เป็นคำคุณศัพท์เกี่ยวกับสีเพื่อจะอธิบายเพิ่มเติมให้สำหรับคำนาม cat  นั้น

ตำแหน่งของคำคุณศัพท์

ปกติเเล้วคุณจะเห็นว่า adjective บรรจุอยู่สามตำแหน่งหลักๆดังนี้

  1. วางหน้าคำนาม
  2. หลัง Verb to be
  3. หลัง Linking verb

เเล้วในเเต่ละตำแหน่งนั้น  adjective ได้ใช้งานอย่างไร รายละเอียดจะมีดังนี้

1. Adjective วางหน้าคำนาม:

เป็นวิธีการพูดเเบบธรรมชาติ ให้ไม่ซ้ำกัน ดูจากประโยคตัวอย่างภาษาอังกฤษนี้จะได้เข้าใจง่ายขึ้น

เช่น
— The black dog is running. เเปลว่า หมา สีดำ กำลังวิ่ง
— The beautiful girl is in the room. เเปลว่า สาว สวย อยู่ ใน ห้อง
— I can’t see the green bird. เเปลว่า ฉัน ไม่สามารถ มองเห็น นก สีเขียว

2. Adjective ตามหลัง Verb to be:

คือ Adjective  จะได้วางไว้หลัง verb to be (be, is, am, are, was, were, been) 

เช่น
— It will be good for you. เเปลว่า มัน จ ะดี สำหรับ คุณ
— The girl is lovely. เเปลว่า  เด็กหญิง น่ารัก
— She was happy yesterday. เเปลว่า เมื่อวาน หล่อน มีความสุข

3. Adjective ตามหลัง Linking verb:

หมายถึง Adjective วางไว้หลัง Linking verb (กริยาเชื่อม)

เช่น
— You look good today. เเปลว่า วันนี้ คุณ ดู ดี
— That sounds nice. เเปลว่า นั่น ฟังดู ดีจัง
— I feel sorry for that boy. เเปลว่า ฉัน รู้สึก สงสาร เด็ก คนนั้น

ไม่ได้ยากใช่ไหมคะกับวิธีการใช้ Adjective เเละการวางตำแหน่งของคำคุณศัพท์ในประโยค มัจะเป็นไวยากรณ์ภาษาอังกฤษส่วนหนึ่งที่เราควรจดไว้ เพราะในคำพูดคุยสื่อสารทั่วไปมักจะใช้กันบ่อยมาก 

เมื่อคุณอยากชมใครคนหนึ่งหรืออยากเเสดงความคิดเห็นของตัวเองในเรื่องใดเรื่องหนึ่งการที่เราใช้  Adjective  จะช่วยคุณพูดได้ง่าย เเละคำพูดฟังราบรืนมากขึ้น

ระดับของ Adjective

คุณรู้ไหมว่า Adjective แบ่งออกเป็น 3 ระดับด้วยกัน คือ

  • A positive adjective หรือคุณศัพท์ขั้นปกติ/ ขั้นเท่ากัน
  • Comparative Adjective หรือ คุณศัพท์ขั้นกว่า
  • Superlative adjective หรือ คำคุณศัพท์ขั้นที่สุด

เพื่อขยายความหมายเเละลักษณะให้สำหรับคำนามให้อย่างเหมาะสมเพราะบ้างที่เราจะใช้ Adjective เพื่อเทียบระกว่างสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพื่อมีการเน้นย่้ำหรือบ้างที่เราใช้ Adjective เพื่อไม่เปรียบเทียบกับใครที่ไหน เป็นต้น คือขึ้นอยู่กับเป้าหมายในคำพูดของเรา เราจะใช้ ระดับของ Adjective ให้อย่างเหมาะสมนะคะ

ยกตัวอย่างกับ A positive adjective

หรือคุณศัพท์ขั้นปกติ/ ขั้นเท่ากัน ให้คุณเห็นภาพชัดขึ้นเช่น A cat is big. เเปลว่า แมวตัวหนึ่ง ใหญ่, A man is tall.  เเปลว่า ชายคนหนึ่ง ตัวสูง ้เราจะเห็นว่าในสองประโยคนั้นเราตั้งใจใช้คำคุณศัพท์บรรยายสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยไม่เปรียบเทียบกับใครที่ไหน 

ยกตัวอย่างกับ Comparative Adjective

หรือ คุณศัพท์ขั้นกว่า เช่น A man is taller than a woman. ผู้ชาย สูงกว่า ผู้หญิง เราจะเห็นเลยว่าคนพูดอยากเน้นย่้ำเรื่องผู้ชายคนนั้น สูงกว่าผู้หญิงคนนั้น ในนั้นคำว่า สูง “taller”เป็น การเปรียบเทียบสิ่งสองสิ่ง ว่าสิ่งไหนสูงกว่ากัน 

ยกตัวอย่างกับ  Superlative adjective

หรือ คำคุณศัพท์ขั้นที่สุด เป็นการใช้ Adjective เพื่อการเปรียบเทียบตั้งแต่สามขึ้นไป แล้วปรากฏว่า มีสิ่งหนึ่งที่ สูง ต่ำ สั้น ยาว เล็ก ใหญ่….กว่าเพื่อนเลย เช่น Somchai is the tallest man in class. สมชายตัวสูงที่สุดให้ห้อง (เฉพาะห้องนี้นะครับ) เราจะเห็นว่าคนพูดอยากเน้นย้ำเรื่องความสูงระกว่างหลายคนในห้องเรียนนั้น เเละนำนามคือ คุณ Somchai เป็นคนที่สูงสุดเเล้ว

คุณสามารถลองตั้งประโยคที่มีใช้ Adjective  ในทั้งสาม ระดับขั้นปกติ, ขั้นกว่า, ขั้นที่สุด เพื่อคุ้นกับวิธีการใช้งาน ใช้ได้คล่องมากขึ้นะคะ

Adjective คือคำที่ปรับเปลี่ยนคำนาม

ชนิดของ Adjective     

คุณสงสัยไหมว่าปกติเเล้ว Adjective ได้เเบ่งเป็นชนิดอะไรบ้าง ??? จริิงๆ เเล้วเรามีถึง 11 ชนิด Adjective ที่เราควรทราบเพื่อเเยกให้ออกเเละเอามาใช้งานได้ถูกต้องดังนี้     

Adjective ในภาษาอังกฤษแบ่งออกเป็น 11 ชนิด คือ       

  1. Descriptive Adjective (คุณศัพท์บอกลักษณะ)        
  2. Proper Adjective (คุณศัพท์บอกสัญชาติ)         
  3. Quantitative Adjective (คุณศัพท์บอกปริมาณ)         
  4. Numeral Adjective (คุณศัพท์บอกจำนวนแน่นอน)         
  5. Demonstrative Adjective (คุณศัพท์ชี้เฉพาะ)         
  6. Interrogative Adjective (คุณศัพท์บอกคำถาม)         
  7. Possessive Adjective (คุณศัพท์บอกเจ้าของ)         
  8. Distributive Adjective (คุณศัพท์แบ่งแยก)         
  9. Emphasizing Adjective (คุณศัพท์เน้นความ)         
  10. Exclamatory Adjective (คุณศัพท์บอกอุทาน)         
  11. Relative Adjective (คุณศัพท์สัมพันธ์)

ขอยกตัวอย่างประโยคสั้นๆ ในเเต่ละชนติของ Adjective ให้คุณได้เห็นภาพง่ายขึ้นเช่น

1. Descriptive Adjective 

คือ “คำคุณศัพท์บอกลักษณะ” ที่เจอบ่อยประกอบด้วย: good, bad, tall, shot, black, fat, thin, fat, thin, clever, foolish, poor, rich, brave, cowardly, pretty, angry, happy, sorry, etc.

  • ตัวอย่างเช่น 
    A clever pupil can answer the difficult problem. เเปลว่า นักเรียนที่ฉลาดสามารถตอบปัญหายากได้ ในประโยคนี้คำ Adjective ที่บอกลักษณะคือคำว่า “clever” (ฉลาด)

2. Proper Adjective 

คือ “คุณศัพท์บอกสัญชาติ” หรือ Proper noun  (เป็นนามเฉพาะ)

  • นั่นเอง เช่น
    Thailand  คือ  Proper noun เเละ  Thai คือ Proper Adjective  (เป็นคุณศัพท์บอกสัญชาติ) คำแปล คือ  ไทย, คนไทย
  • หรืออีกตัวอย่างเช่น The English language is used by every nation. เเปลว่า ภาษาอังกฤษใช้ในทุกประเทศ ในนั้น  English เป็นคำคุณศัพท์บอกสัญชาติ

3. Quantitative Adjective

คือ “คำคุณศัพท์บอกปริมาณ” ได้แก่ much, many, little, some, any, enough, half, great, all, whole, sufficient, etc.    

  • Linda did not give any money to her younger brother. เเปลว่า 
    ลินดาไม่ได้ให้เงินแก่น้องชายของหล่อน ในนั้นคำว่า any เป็นคำคุณศัพท์บอกปริมาณ

4. Numeral Adjective

คือ “คำคุณศัพท์บอกจำนวนแน่นอน” แบ่งเป็นชื่อย่อยได้ 3 ชนิด คือ

  • 4.1 Cardinal Adjectives ได้แก่  one, two, three, four, five, six, seven, etc. 
  • 4.2 Ordinal Adjectives คือ “คำคุณศัพท์ที่ใช้ขยายนามเพื่อบอกลำดับที่ของนามนั้นๆ ได้แก่ first, second, third, fifth, sixth, seventh, etc.  
  • 4.3 Multiplicative Adjectives คือ “คุณศัพท์บอกจำนวนทวีของนาม” ได้แก่ double, triple, fourfold   

First, Second, Third and so on are also ordinal adjectives

5. Demonstrative adjective

คือ คุณศัพท์ชี้เฉพาะหรือนิยมคุณศัพท์ ได้แก่ this, that (ใช้กับนามเอกพจน์), these, those (ใช้กับนามพหูพจน์) such, same     

  • เช่น I invited that man to come in. เเปลว่า ฉันได้เชิญผู้ชายคนนั้นให้เข้ามาข้างใน ในนั้นคำว่า that เป็นคุณศัพท์ชี้เฉพาะวางไว้หน้านาม

6. Interrogative adjective

คือ คุณศัพท์บอกคําถามได้แก่ what, which, whose 

  • เช่น Whose shoes are these? เเปลว่า รองเท้านี้เป็นของใคร ในนั้น whose เป็นคุณศัพท์บอกคําถามอยู่หน้าประโยค

7. Possessive adjective

คือ คุณศัพท์บอกเจ้าของได้แก่ my, our, your, his, her, its และ their

  • เช่น: This is my table. เเปลว่า นี่คือโต๊ะของฉัน
    ในนั้น my เป็นคุณศัพท์บอกเจ้าของวางไว้หน้านาม 

8. Distributive

คือ คุณศัพท์แบ่งแยก ได้แก่ each(แต่ละ), every(ทุกๆ), either(ไม่อันใดก็อันหนึ่ง), neither(ไม่ทั้งสอง)

  • เช่น Every soldier is punctually in his place. เเปลว่า ทหารทุกคนเข้าประจําที่ของตัวตรงเวลาดี ในนั้น every เป็นคุณศัพท์แบ่งแยกมาขยายนาม

9. Emphasizing Adjective 

คือ คุณศัพท์เน้นความได้แก่ own(เอง),very(ที่แปลว่า นั้น,นั้นเอง,นั้นจริงๆ)

  • เช่น He is the very man who stole my wrist watch last night.เเปลว่า เขาคือชายผู้ซึ่งได้ขโมยนาฬิกาข้อมือของฉันไปเมื่อคืนนี้ ในนั้น very เป็นคุณศัพท์เน้นความขยายนามที่ตามหลังให้มีนําหนักขึ้น

10. Exclamatory Adjective 

คือ คุณศัพท์บอกอุทานได้แก่ what เช่น

  • What an idea it is! เเปลว่า มันเป็นความคิดอะไรกันหนอ! 

11. Relative Adjective 

คือ คุณศัพท์สัมพันธ์ ได้แก่ what(อะไรก็ได้),whichever(อันไหนก็ได้) 

เช่น He will read what book he wishes. เเปลว่า แซมจะอ่านหนังสืออะไรก็ได้ที่เขาปราถนา (จะอ่าน) ในนั้นคำว่า what ป็นคุณศัพท์สัมพันธ์ ไปขยายนามที่ตามหลัง และในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เชื่อมประโยคหน้าและประโยคหลังให้กลมกลืนกันอีกด้วย

ใน 11 ชนิดของ Adjective นั้นมี 7 ชนิดที่ใช้บ่อยมาก ควรจดจำไว้ได้เเก่ Descriptive, Quantitative, Demonstrative, Possessive,  Interrogative,  Distributive, Articles ต้องไม่พลาดนะคะ

Adjectives describe nouns or pronouns

คำคุณศัพท์ที่ใช้บ่อย 70 คำ พร้อมคำอ่าน คำแปล

1absentแอ๊บเซินทขาด (เรียน, งาน)2afraidอะเฟรดกลัว3backแบ๊คหลัง4badแบดเลว5beautifulบิ๊วทิฟุลสวย6betterเบ็ทเทอะดีกว่า7bigบิกใหญ่8blackแบล็คดำ9boringบ๊อริงน่าเบื่อ10brightไบร๊ทสว่าง, ฉลาด11broadบรอดกว้าง12brokenโบร๊เคินแตก13cloudyคล๊าวดิมีเมฆมาก14coldโคลดหนาว15coolคูลเย็น16crazyเคร๊สิบ้าคลั่ง17curlyเค๊อลิหยิก18gentleเจ็นเทิลอ่อนโยน19gladแกลดดีใจ20goodกุดดี21grayเกรสีเทา22greatเกรทเยี่ยม23happyแฮ๊พพิมีความสุข24hardฮาดแข็ง, ยาก25easyอี๊สิง่าย26emptyเอ็มทิว่างเปล่า27excellentเอ็กซะเลินทยอดเยี่ยม28excitedอิกไซ๊เท็ดตื่นเต้น29expensiveอิกซเป็นซิฝแพง30famousเฟ็เมิสมีชื่อเสียง31fastฟาสทเร็ว32fatแฟ็ทอ้วน33faultฟ๊อลทเท็จ34finalไฟ๊เนิลสุดท้าย35fineไฟนดี36firstเฟิสทลำดับแรก37freeฟรีอิสระ, เปล่า38freshเฟร็ชสดชื่น39friendlyเฟร็นลิเป็นมิตร40fullฟุลเต็ม41funnyฟั๊นนิตลก

and more…

42noisyน๊อยสิมีเสียงดัง43oldโอลดแก่44perfectเพ๊อเฟ็คทสมบูรณ์แบบ45poorพอจน46prettyพริททิสวย47quickควิกเร็ว48quietไคว๊เยิทเงียบ49largeลาจกว้าง50lastลาสทสุดท้าย, ..ทีแล้ว51lateเลทสาย52lazyเล๊สิขี้เกียจ53leftเล็ฟทซ้าย54lightไลทสว่าง55littleลิ๊ทเทิลเล็ก56longลองยาว57looseลูสหลวม58loudลาดเสียงดัง59lowโลต่ำ60luckyลัคคิโชคดี61sadแซดเศร้า62safeเซฟปลอดภัย63shortชอทสั้น64slowสโลช้า65smallสมอลเล็ก66tallทอลสูง67thickธิคหนา68thinธินบาง, ผอม69tightไททแน่น70tinyไท๊นิเล็ก

ว่ายังไงบ้างคะคุณ กับบทความ Adjective คืออะไร พร้อมวิธีการใช้งาน A-Z หวังว่าคุณจะได้เห็นประโยชน์ของบทความนี้และอย่าลืมแชร์ให้เพื่อนๆ ได้ทราบด้วยเพื่อเรียนรู้ไปซึ่งกันละกัน ช่วยการเรียนภาษาอังกฤษได้สนุกและมีคุณภาพที่ดีที่สุดนะคะ

[NEW] Adjectives (คำคุณศัพท์) กับ ชนิดของคุณศัพท์ | คำ ศัพท์ adjective – NATAVIGUIDES

โดยทั่วไปแบ่งออกได้

8

ชนิดคือ


1. Proper adjective


5. Demonstrative adjective


2. Descriptive adjective


6. Distributive adjective


3. Quantitative adjective


7. Possessive adjective


4. Numeral adjective


8. Interrogative adjective

1. Proper adjective (

คุณศัพท์แสดงสัญชาติ
)

เป็นคำคุณศัพท์ที่ขยายนามเพื่อบอกสัญชาติ
มีรูปเปลี่ยนแปลงมาจาก

Proper noun

และต้องขึ้นต้นด้วยตัวใหญ่เสมอ
เช่น


Proper noun


Proper Adjective

China =

ประเทศจีน

Chinese =

แห่งประเทศจีน

,

ชาวจีน

France =

ประเทศฝรั่งเศส

French =

แห่งประเทศฝรั่งเศส

,

ชาวฝรั่งเศส

Italy =

ประเทศอิตาลี

Italian =

แห่งประเทศอิตาลี

,

ชาวอิตาลี

เช่นประโยค

We learn the

French


literature every Monday.

เราเรียนวรรณคดีฝรั่งเศสทุกวันจันทร์

I like

Chinese

food.

ฉันชอบอาหารจีน


Proper adjective

จะมีวิธีการเขียนไม่เหมือนกันดังนี้


1.1 Proper adjective

ที่ลงท้ายด้วย –

ese

เช่น


Proper

noun


proper

adjective


proper

noun


proper

adjective


Burma


Burmese


Lebanon


Lebanese


Bhutan


Bhutanese


Nepal


Nepalese


China


Chinese


Portugal


Portuguese


Congo


Congolese


Taiwan


Taiwanese


Japan


Japanese


Vietnam


Vietnamese


1.2 Proper adjective

ที่ลงท้ายด้วย

-an


Proper

noun


proper

adjective


proper

noun


proper

adjective


Algeria


Algerian


Libya


Libyan


Angola


Angolan


Malaysia


Malaysian


Argentina

Argentinean

หรือ

Argentinian


Mexico


Mexican


Australia


Australian


Morocco


Moroccan


Belgium


Belgian


Mozambique


Mozambican


Brazil


Brazilian


Nicaragua


Nicaraguan


Canada


Canadian


Niger


Nigerian


Cuba


Cuban


Norway


Norwegian


Egypt


Egyptian


Panama


Panamanian


Fiji


Fijian


Paraguay


Paraguayan


Germany


German


Peru


Peruvian


Ghana


Ghanaian


Rhodesia


Rhodesian


Haiti


Haitian


Romania


Romanian


Honduras


Honduran


Russia


Russian


Indonesia


Indonesian


Singapore


Singaporean


Iran


Iranian


Syria


Syrian


Italy


Italian


Tahiti


Tahitian


Jordan


Jordanian


Tibet


Tibetan


Laos


Laotian


Zaire


Zairean,Zairian


1.3

คำ

Proper adjective

ที่ลงท้ายด้วย

– i


Proper noun


proper adjective


proper noun


proper adjective


Bahrain


Bahraini


Oman


Omani


Iraq


Iraqi


Pakistan


Pakistani


Israel


Israeli


Yemen


Yemeni


Kuwait


Kuwaiti


1.4

คำพิเศษ


Proper

noun


proper

adjective


proper

noun


proper

adjective


Thailand


Thai


Malaya


Malay


Greece


Greek


Sri Lanka


Ceylonese


Afghanistan


Afghan


1.5

ประเทศซึ่งคำคุณศัพท์

กับคำที่เรียกคนของประเทศนั้นไม่เหมือนกัน


Proper Noun


Proper adjective


person


Botswana

Setswana (

ภาษา)

Motswana (

เอกพจน์

)

Batswana(

พหูพจน์

)


Cyprus


Cyprian


Cypriot


Czechoslovakia


Czech


Czechoslovakian


Denmark


Danish


Dane


Finland


Finnish


Finn


Holland ( The Netherlands)


Dutch


Hollander


Iceland


Icelandic


Icelander


Ireland


Irish


Irishman


Luxemburg


Luxemburg


Luxemburger


Mongolia


Mongolian


Mongol


New Zealand


New Zealand


New Zealander


The Philippines


Philippine

Filipina (

หญิง

)

Filipino (

ชาย

)


Poland


Polish


Pole


Somalia


Somalian


Somali


Spain


Spanish


Spaniard


Sweden


Swedish


Swede


Turkey


Turkish


Turk


Yugoslavia


Yugoslavian


Yugoslav


2. Descriptive Adjective (

คุณศัพท์แสดงคุณสมบัติ

)

เป็นคำคุณศัพท์บอกลักษณะ
คือจะไปขยายนามเพื่อบอกให้รู้ว่า

นามนั้นมีลักษณะ คุณสมบัติ
หรือความพิเศษอย่างไร เป็นชนิดที่ใช้มากที่สุด เช่น


large


fat


big


huge


heavy


light


thin


small


cheap


expensive


brave


coward


white


dark


tall


handsome

ตัวอย่าง
เช่น

a dark, tall and handsome man, an expensive car


3. Quantitative Adjective (

คุณศัพท์แสดงปริมาณที่นับไม่ได้
)

เป็นคำคุณศัพท์บอกปริมาณ
คือไปขยายนามที่นับไม่ได้ (

uncountable
noun )

เพื่อบอกให้ทราบปริมาณของสิ่งนั้น
ว่ามีมากหรือน้อย แต่ไม่บอก จำนวนแน่นอน

เช่น


much


any


half


enough


little


all


whole


some


great


sufficient

ตัวอย่างเช่น

We needed

some


money.

เราต้องการเงินจำนวนหนึ่ง

He showed

great

patience.

เขาแสดงให้เห็นว่ามีความอดทนสูง


4. Numeral Adjective

เป็นคำคุณศัพท์ที่บอกจำนวนมากน้อยของนามที่นับได้
(

countable noun )

หรือบอกลำดับก่อนหลัง
(

order )

ของคำนาม แบ่งเป็น

2

พวก

1.

บอกจำนวนที่แน่นอน

(

Definite
Numeral )

อาจจะแบ่งออกได้เป็น

3

ชนิด

(1)

บอกจำนวนนับ

(

Cardinal) one, two, three, four ………..

(2)

บอกลำดับที่

(

Ordinal ) first, second, third…………….

(3)

บอกจำนวนเท่า

(

Multiplicative ) single, double, triple……………

2.

บอกจำนวนที่ไม่แน่นอน

(

Indefinite
Numeral )

เช่น

many

no

few

some

several

any

all

enough


5. Demonstrative Adjective

เป็นคำคุณศัพท์ชี้เฉพาะคำนาม

ซึ่งระบุเจาะจงไปโดยชัดแจ้งว่าเป็นคำนามอันไหน
สิ่งไหน หรือคนใด แบ่งเป็น

2

ชนิด

1. Definite Demonstrative

ชี้เฉพาะโดยชัดแจ้ง

ได้แก่

the

this

these

that

those

such

the same

the other

2. Indefinite Demonstrative

ชี้ให้เห็นอย่างกว้าง

ได้แก่

a

one

such

any other

an

a certain

some

other

any

certain

another


6. Distributive Adjective

เป็นคำคุณศัพท์ซึ่งไปขยายคำนามเพื่อแยกคำนามนั้นๆออกจากกัน
เช่น

each

แต่ละ ใช้สำหรับ

2

สิ่งหรือมากกว่าขึ้นไป

every

ทุกๆ ใช้เฉพาะนามที่มากกว่า

2

สิ่งขึ้นไป

either

อันใดอันหนึ่งใน

2

สิ่ง

neither

ไม่ใช่ทั้ง

2

สิ่ง


7. Possessive Adjective

เป็นคำคุณศัพท์ประกอบหน้านามเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ
เช่น

my , your, his , her, its, their our


8. Interrogative Adjective

เป็นคำคุณศัพท์ขยายคำนามเพื่อแสดงคำถาม
เช่น

what which whose


หมายเหตุ

คำคุณศัพท์เหล่านี้จะต้องมีคำนามตามหลังเพราะหากไม่มีคำนามตามหลัง

จะกลายเป็นสรรพนาม (

pronoun )

ไม่ใช่คุณศัพท์ เช่น


Pronoun


Adjective


What

did you see ?


What

book did you read?

Adjectives

Formation (

การทำให้เป็นคำคุณศัพท์ )

คำคุณศัพท์นอกจากเป็นด้วยตัวของมันเองแล้ว

ยังสามารถนำชนิดของคำอื่นมาทำให้เป็นคำคุณศัพท์ได้ด้วย
เช่น

1.

คำคุณศัพท์ที่มาจากคำนามโดยการเติม

Suffix

ท้ายคำเช่น

คำนาม


คำคุณศัพท์


education

การศึกษา


educational

เกี่ยวกับการศึกษา


gold

ทอง


golden

ทำด้วยทอง


fool

ความโง่


foolish

อย่างโง่ๆ


care

ระมัดระวัง


careless

ไม่ระมัดระวัง


friend

เพื่อน


friendly

เป็นเพื่อน


danger

อันตราย


dangerous

เป็นอันตราย


trouble

ยุ่งยาก


troublesome

ความยุ่งยาก


dust

ฝุ่น


dusty

เต็มไปด้วยฝุ่น

2.

คำคุณศัพท์ที่มาจากคำกริยา

(

Verb)

โดยการเติม

suffix

ท้ายคำ

เช่น

คำกริยา


คำคุณศัพท์


talk

พูด


talkative

ช่างพูด


sleep

หลับ


sleepy

ง่วงนอน


differ

แตกต่าง


different

ความแตกต่าง


accept

ยอมรับ


acceptable

เป็นที่ยอมรับได้


wash

ซัก


washable

ซักได้


คำคุณศัพท์ ป 2 Adjective P 2


นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

คำคุณศัพท์ ป 2 Adjective P 2

250 คำคุณศัพท์ที่ใช้บ่อยที่สุด | คำศัพท์พื้นฐาน | เรียนง่ายภาษาอังกฤษ


รวมคำศัพท์คุณศัพท์หรือ adj 250 คำที่ใช้บ่อยที่สุด

250 คำคุณศัพท์ที่ใช้บ่อยที่สุด | คำศัพท์พื้นฐาน | เรียนง่ายภาษาอังกฤษ

Adjectives 100 คำที่ใช้บ่อยที่สุด


เรียนคอร์สออนไลน์: http://www.learningtreeuk.com
ติดตามทางเฟสบุ๊ค: http://www.facebook.com/learninguk
ติดต่อสอบถาม: https://line.me/R/ti/p/%40ttw7272u
และไลน์ของครูพิม pimolwan1984

Adjectives 100 คำที่ใช้บ่อยที่สุด

50 คำคุณศัพท์ (Adjective) ที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน คำศัพท์ภาษาอังกฤษง่ายๆ ที่ควรรู้จัก


มาเรียนรู้คำคุณศัพท์พื้นฐานที่ควรเรียนรู้ 50 คำ พร้อมคำอ่าน ความหมาย คำแปล
สนใจเรียนไวยากรณ์และแกรมม่าภาษาอังกฤษพื้นฐานแบบฟรีๆ สามารถกดติดตามเราได้ที่:
Youtube: https://bit.ly/3dldu4m
Twitter: http://bit.ly/2Yt2lqH
Blog: https://goo.gl/JthDFX
Facebook: http://bit.ly/2CIaLBa
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ท่องศัพท์ภาษาอังกฤษ

50 คำคุณศัพท์ (Adjective) ที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน คำศัพท์ภาษาอังกฤษง่ายๆ ที่ควรรู้จัก

วิธีคำคุณศัพท์ Adjective ง๊ายง่าย จำไปใช้ได้เลย | Tina Academy Ep.204


♡ดูตัวอย่างหนังสือของติน่า https://www.tinaacademy.com/books
♡ติดต่อซื้อหนังสือ @linetina (มี @ ด้วย)
♡ Subscribe จะได้ไม่พลาดคลิปทุกๆสัปดาห์
https://www.youtube.com/tinathanchannel/
♡ Instagram: https://www.instagram.com/tinathanchannel
♡ Facebook: https://www.facebook.com/tinathanchannel
♡ Line ID: @linetina https://line.me/R/ti/p/%40hxr4999x

วิธีคำคุณศัพท์ Adjective ง๊ายง่าย จำไปใช้ได้เลย | Tina Academy Ep.204

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่MAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ คำ ศัพท์ adjective

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *