Skip to content
Home » [Update] Active Voice กับ Passive Voice คืออะไร ใช้อย่างไร ประธานทำ ถูกกระทำ | ประโยค passive – NATAVIGUIDES

[Update] Active Voice กับ Passive Voice คืออะไร ใช้อย่างไร ประธานทำ ถูกกระทำ | ประโยค passive – NATAVIGUIDES

ประโยค passive: คุณกำลังดูกระทู้

ผู้เรียนภาษาอังกฤษส่วนใหญ่ คงสงสัยว่า “voice” ของประโยค คืออะไร และแตกต่างกันอย่างไร เราลองมาดูกันครับว่าในภาษาอังกฤษ เขาแบ่ง “voice” กันอย่างไร ซึ่งหลักๆ แล้ว มีแค่ 2 แบบเองครับ ไม่ยากเกินไปหรอกครับ มาดูกันเลย

Active Voice คือ ประโยคที่ประธานเป็นผู้กระทำกริยาโดยตรง โดยมีกรรมมารับหรือไม่มีกรรมมารับประโยคก็ได้

Passive Voice คือ ประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ รูปแบบโครงสร้างของ Passive Voice คือ Verb to be + V.3

การเปลี่ยนประโยคบอกเล่า Active Voice เป็น Passive Voice

  1. ให้เอากรรมของประโยค Active Voice มาเป็นประธานในประโยค Passive Voice ถ้าเป็นคำนามไม่ต้องเปลี่ยนรูป แต่ถ้าคำสรรพนามให้เป็นเปลี่ยนเป็นรูปกรรม
  1. ให้เปลี่ยน Verb to be อยู่ใน Tense เดียวกับกริยาหลักของประโยค Active Voice และผันตามประธานในประโยค Passive Voice
  1. กริยาหลักในประโยค Active Voice ควรเปลี่ยนเป็นกริยาช่องที่ 3
  1. ต่อด้วย by + ประธานในประโยค Active Voice ที่เปลี่ยนรูปกรรม ถ้าเป็นคำนามให้คงรูปเดิม แต่คำสรรพนามให้เปลี่ยนเป็นรูปกรรมก่อน

ตัวอย่างเช่น

– กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Present Simple ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น is , am , are

เช่น She drinks milk.

Milk is drunk by her.

– กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Present Continuous ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น (is,am,are) + being

เช่น She is eating oranges.

Oranges are being eaten by her.

– กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Present Perfect ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น (has,have) + been

เช่น He has written these letters.

These letters have been written by him.

– กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Past Simple ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น was, were เช่น

Milk was drunk by her.

– กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Past Continouns ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น (was,were) + being

เช่น She was eating oranges.

Oranges were being eaten by her.

– กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Past Perfect ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น had been เช่น

He had written these letters.

These letters had been written by him.

– กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Future Simple ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น (will,shall) + be เช่น

She will do her homework.

Her homework will be doneby her.

– กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Future Continuous ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น

(will,shall) + be + being เช่น

She will be sending a letter.

A letter will be being sent by her.

– กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Future Perfect ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น (will,shall) + have + been

เช่น They will have cleaned this room this weekend.

This room will have been cleaned by them this weekend.

การเปลี่ยนประโยคคำถาม Active Voice เป็น Passive Voice

ถ้าประโยคขึ้นต้นด้วย Helping Verb

  1. เปลี่ยนประโยคคำถามเป็นประโยคบอกเล่า
  2. เปลี่ยนประโยคบอกเล่าจาก Active Voice เป็นประโยค Passive Voice
  3. เปลี่ยนประโยคบอกเล่า Passive Voice เป็นประโยคคำถาม โดยใช้ Helping Verb ขึ้นต้นประโยคและตามด้วยประธาน กริยา และส่วนอื่นๆ ต่อไป

ตัวอย่างเช่น

Does she buy this book ?

ขั้น 1   She buys this book.

ขั้น 2   This book is bought by her.

ขั้น 3   Is this book bought by her ? (Passive Voice)

ถ้าประโยคคำถามขึ้นต้นด้วย Question Word

  1. ให้เปลี่ยนประโยคคำถามเป็นประโยคบอกเล่า
  2. ให้เปลี่ยนประโยคบอกเล่า Active Voice เป็นประโยค Passive Voice
  3. ให้เปลี่ยนประโยคบอกเล่า Passive Voice เป็นประโยคคำถาม โดยใช้ Question Word เป็นคำขึ้นต้นประโยคและตามด้วย helping verb ประธาน กริยาและส่วนอื่น ๆ ต่อไป ยกเว้น คำว่า Who ในประโยค Active Voice ให้เปลี่ยนเป็น By whom ในประโยค Passive Voice

เช่น   Who sees her ?

ขั้น 1.  Who sees her.

ขั้น 2.  She is seen by whom.

ขั้น 3.  By whom is she seen?

Which car do you buy?

ขั้น 1.  You buy which car.

ขั้น 2, 3  Which car is bought by you ?

Verbs Expressing Emotion หมายถึง กริยาที่แสดงความรู้สึก เช่น interest , amuse , bore , please , frighten , excite , tire , astonish , surprise , disappoint , etc. ลักษณะการใช้กริยาเหล่านี้ คือ

  1. ใช้เป็น Verb ในรูป Active Voice (Subj + V + obj) แปลว่า ทำให้   เช่น

This car interests me. แปลว่า รถคันนี้ทำให้ฉันสนใจ

  1. ใช้ใน present participle (V-ing) แปลว่า น่า เมื่อมีความรู้สึกอย่างใดอย่างหนึ่งต่อบุคคลหรือสิ่งใด ให้เติม -ing หลัง Verb นั้น

เช่น John is boring . แปลว่า จอห์นเป็นคนน่าเบื่อ

This book is interesting . แปลว่า หนังสือเล่มนี้น่าสนใจ

  1. ใช้เป็น Adj หรือในรูป Passive Voice เรียก Past participle adjective คือ adj ที่มาจาก past participle (Subj + Verb to be +past participle adj + prep) แปลว่า รู้สึก เมื่อบุคคลใดมีความรู้สึกอย่างไรต่อบุคคลอื่นหรือสิ่งอื่น เติม ed หลัง Verb และมี preposition ตาม เช่น

John is bored with her.
แปลว่า จอห์น เบื่อเธอ

She is interested in this book .
แปลว่า เธอ สนใจในหนังสือเล่มนี้

อ่านต่อ คลิก >> โครงสร้างประโยค passive voice ทั้ง 12 tense พร้อมตัวอย่าง

[NEW] การใช้ Passive Voice และ Active Voice ในรูปปัจจุบัน | ประโยค passive – NATAVIGUIDES

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.1 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดูการใช้ Passive Voice และ Active Voice ในรูปปัจจุบัน กัน ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันโลดเด้อ

 

ความแตกต่างของ Passive Voice VS Active Voice

 

Passive voice + Active Voice (2)

 

 

Passive Voice คือประโยคที่เน้นกรรม เน้นว่าใครถูกทำ 

Active Voice คือประโยคที่เน้นประธาน เน้นว่าใครทำอะไร

Active voice

 

Passive voice + Active Voice(1)

 

ความหมาย

คือ ประโยคที่ประธานเป็นผู้กระทำกริยา  เช่น

Dr. James vaccinates a boy.
หมอเจมส์ฉีดวัคซีนให้เด็กหนุ่ม

Daniel and Jonathan often bike to school.
แดเนียลกับโจนาธานมักขี่จักรยานไปโรงเรียน


Jessica and Jennifer buy second-handed shoes.
เจสสิกาและเจนนิเฟอร์ซื้อรองเท้ามือสอง

 

  1. เปลี่ยนกรรม ของประโยค Active ไปเป็นประธานของประโยค Passive
  2. ผัน V. to be ตามประธาน ในบทนี้เราจะเน้นที่ เวลาในรูปปัจจุบัน  ตามโครงสร้าง S + V. to be  (is, am, are) S. = I, you, we, they ใช้ “are”/
    S. = He, She, It ใช้ “is”/ S. = I ใช้กับ “am”
  3.  เปลี่ยน คำกริยาแท้ ให้เป็น Past Participle (V.3) อันนี้ต้องไปท่องกริยา3 ช่อง เพิ่มเติมจร้า
  4. นำประธานของ Active ไปเป็นกรรมของ Passive โดยวางไว้หลัง by เพื่อเน้นผู้กระทำ แต่เรา

    สามารถละไว้ได้

ตัวอย่าง
Active: A chef slashes salmons into pieces.
แปล เชฟแล่ปลาแซลมอนเป็นชิ้นๆ

Passive: Salmons are slashed into pieces.
แปล แซลมอนถูกแล่เป็นชิ้นๆ

 

ถ้าในประโยคมีกรรมสองตัวคือ กรรมตรง (Direct Object) เป็นสิ่งของ และ กรรมรอง (Indirect Object) เป็นคน เมื่อเปลี่ยนเป็นประโยค Passive มักนำกรรมรอง (คน) มาเป็นประธาน แต่ถ้าจะนำกรรมตรง (สิ่งของ) มาเป็นประธานจะต้องใส่ to ที่หน้ากรรมรอง (คน) ท่องว่า
กรรมตรงของ ต้อง (กรรม)รองคน”

ตาราง: Active Voice VS Passive Voice

 

Passive voice + Active Voice (4)

 

Passive voice เป็นเรื่องที่เจอบ่อยมากทั้งในชีวิตประจำวันและในข้อสอบในส่วนของ Error และเติมคำก็มักนำมาออกเยอะมากๆ ถ้าเราจำโครงสร้างประโยค Passive Voice ได้ และนำมาใช้อย่างถูกต้องก็จะทำให้ภาษาอังกฤษของเราปังมากๆจร้า

Tense and Voice

Structure

 Present simple
  Active
  S + V1 (-s, -es)

  Passive
  S +  is/am/are + V.3

 Present continuous
  Active
  S + V. to be + V.ing

  Passive
  S + is/am/are + being + V.3

  Present perfect
  Active
  S + have/has + V.3

  Passive
  S + have/has+ been + V.3

  Present perfect continuous
  Active
  S + have/has + been + V.ing

  Passive
  S + have/has + been + being + V.3

  Past simple
  Active
  S + V.2

  Passive
  S + was/were + V.3

  Past continuous
  Active
  S + was/were + V.ing

  Passive
  S + was/were + being + V.3

  Past perfect
  Active
  S + had + V.3

  Passive
  S + had + been + V.3

  Past perfect continuous
  Active
  S + had + been + V.ing

  Passive
  S + had + been + being + V.3

  Future simple
  Active
  S + will +V. Infinitive

  Passive
  S + will + be + V.3

  Future continuous
  Active
  S + will + be + V.ing

  Passive
  S + will + be + being + V.3

  Future perfect
  Active
  S + will + have + V.3

  Passive
  S + will + have been + V.3

  Future perfect continuous
  Active
  S + will have + been + V.ing

  Passive
  S + will have + been + being + V.3

Passive Voice

 

Passive voice + Active Voice (6)

 

Passive Voice (แพ็ซซิฝ ว็อยซ) หมายถึงประโยคที่เน้นกรรม โดยการนำโครงสร้างผู้ถูกกระทำขึ้นต้นประโยค และหากว่าต้องการเน้นผู้กระทำให้เติม  “by + ผู้กระทำ” ท้ายประโยค แต่ว่าเราสามารถละ by ไว้ได้น๊า

หลักการใช้ Passive Voice

 

  1. เน้นไปที่ผู้รับผลของการกระทำนั้นๆ ก็คือประธานของประโยคนั่นเอง เช่น

Active: Joey washes the dishes.
โจอี้ล้างจาน

VS 

Passivce: The dishes are washed by Joey.

จานถูกล้างโดยโจอี้

 

  1. ไม่เน้นผู้กระทำเพราะไม่รู้ว่าผู้กระทำคือใคร

Active: Someone delivers a Papaya Salad to the customers.

ใครบางคนส่งส้มตำให้ลูกค้า

VS

Passive: A Papaya Salad is delivered to the customers.

ส้มตำถูกส่งลูกค้า
***จะเห็นได้ว่า ไม่รู้ว่าใครเป็นคนส่งเพราะว่าประธานเดิมของประโยค คือ  “Someone”

3. เน้นผู้กระทำด้วยการเติม by + ชื่อผู้กระทำ เช่น

Active: Tommy cooks a homemade pizza.
ทอมมี่ทำพิซซ่าโฮมเมด

VS

Passive: A homemade pizza is cooked by Tommy.
พิซซ่าโฮมเมดถูกทำโดยทอมมี่

 

ทริคดีๆ:

นอกจากนี้เราสามารถใช้  “Passive voice” ในการเขียนแบบวิชาการทางการหรืองานเขียนทางด้านวิทยาศาสตร์
ซึ่งพบได้ในบทความ หนังสือพิมพ์ วิจัย และผลงานทางด้านวิชาการเป็นส่วนใหญ่ ครูขอยกตัวอย่างเช่น

There have been more confirmed cases of COVID-19 with 68,219 deaths, are reported to WHO.

แปล: WHO ได้รับรายงานผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น เสียชีวิต 68,219 ราย
***ประธาน “cases” กริยา “are” กริยาช่อง3 “reported”

 

Passive Modals

Passive voice + Active Voice (7)

 

ตัวอย่างการใช้ Passive voice กับ โครงสร้าง “Modal verb + be +V.3”

Daniel wants to be massaged.
แดเนียลอยากนวด

Tom may be called for a shift.
ทอมอาจถูกเรียกให้เข้ากะ

 

เป็นยังไงกันบ้างคะ พอจะเข้าใจ เรื่อง การใช้ Passive voice และ Active voice” มากขึ้นมามั้ยเอ่ย ถ้าเกิดว่านักเรียนยังมีข้อสงสัยสามารถทบทวนบทเรียนเพิ่มเติมได้ที่วีดีโอด้านล่างเลยนะคะ  และที่สำคัญเมื่อเราใช้รูปแบบปัจจุบัน V. to be จะต้องเป็น is, am, are เท่านั้นน๊า

กดปุ่มเพลย์เพื่อทบทวนบทเรียนกันโลดจร้า

Take care guys!

ดูแลตัวเองด้วยน๊า

0


Ep 1/2 Active Voice VS Passive Voice คืออะไร ต่างกันยังไง ทำไมต้องใช้ Passive voice


Active Voice และ Passive Voice เป็นเรื่องของโครงสร้างประโยคที่แตกต่างกัน
Active Voice : S + V + O เช่น I eat pizza. ฉันกินพิซซ่า
Passive Voice : O + V + S เช่น Pizza is eaten by me พิซซ่าถูกกินโดยฉัน
ทำไมเราต้องใช้ passive voice :
เน้นผู้ถูกกระทำ มากกว่า ผู้กระทำ
ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้กระทำ
มีความชัดเจนว่า ผู้กระทำ คือใคร จึงไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึงผู้กระทำ
จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนรู้
ติดตาม Facebook และ Instagram : The Happy Time with Q
หากผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำขออภัยมานะที่นี้ด้วยค่ะ 😀

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

Ep 1/2 Active Voice VS Passive Voice คืออะไร ต่างกันยังไง ทำไมต้องใช้ Passive voice

Reported Speech


Reported Speech or Indirect speech is the exact meaning of what someone said, but not their exact words. We use reporting verbs like say, tell, ask, admit, promise, explain, announce, invite, etc.

Reported Speech

หลักการเปลี่ยนประโยค active voices เป็น passive voices ในแต่ละ tenses l ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษพื้นฐาน


คลิปนี้ทุกคนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีเปลี่ยนประโยค active voices ให้เป็น passive voices โดยแยกเป็นราย tenses พร้อมทั้งยกตัวอย่างประกอบ การเปลี่ยนประโยค active voices เป็น passive voices ไม่สามารถทำได้ทุก tenses น่ะครับ

สนใจเรียนไวยากรณ์และแกรมม่าภาษาอังกฤษพื้นฐานแบบฟรีๆ สามารถกดติดตามเราได้ที่:
Youtube: https://bit.ly/3dldu4m
Twitter: http://bit.ly/2Yt2lqH
Blog: https://goo.gl/JthDFX
Facebook: http://bit.ly/2CIaLBa
ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ แกรมม่าภาษาอังกฤษ

หลักการเปลี่ยนประโยค active voices เป็น passive voices ในแต่ละ tenses l ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษพื้นฐาน

Learn English Grammar: What’s the difference between ACTIVE \u0026 PASSIVE?


What are the active and passive voices in English? We use the active voice in a sentence when the subject performs a verb. For example: “Jim wrote a letter”. We use the passive voice when the subject is acted on by the verb. For example: “The letter was delivered by the postman”. Now, when should you use which voice? That is the question! In this English grammar lesson, I will teach you about using the active and passive voices. I will explain in more detail the difference between the two and give you lots of examples to solidify your understanding. I will also show you how to change a sentence from active to passive, or passive to active. You will learn some reasons why you might choose one or the other. This will help you in everyday speaking, as well as in writing, making your English more varied and interesting. Don’t forget to do the quiz after watching! https://www.engvid.com/learnenglishgrammaractivepassive/

Learn English Grammar: What’s the difference between ACTIVE \u0026 PASSIVE?

#ภาษาอังกฤษ เข้าใจ Passive Voice ได้ภายใน 4 นาที! 🔥🔥


เข้าใจ Passive Voice ภายใน 4 นาที! 🔥🔥
Passive Voice คืออะไร?
มันคือรูปที่ประธานถูกกระทำเช่น
👉🏼 ฉันโดนตี
👉🏼 หมาถูกรถชน
👉🏼 เขาถูกทำร้าย
โครงสร้างของมันคือ subject + v.to be + v.3
เช่น
👉🏼 He was punished. เขาถูกลงโทษ ✅
👉🏼 They were asked to clean the room. พวกเขาถูกขอร้องให้ทำความสะอาดห้อง ✅
บางกรณีอาจจะมี by + คนทำกริยานั้นๆ
แต่ถ้าประโยคไหนไม่มี by + คนทำกริยา แปลว่า ประโยคนั้นไม่เน้น ‘คนทำ’ แต่เขาจะเน้น ‘กรรมที่โดนกระทำ’

ตามไปเรียนภาษาอังกฤษกับครูหวานต่อที่
https://www.facebook.com/kruwhanenglishonair
https://www.instagram.com/english_kruwhan

#ภาษาอังกฤษ เข้าใจ Passive Voice ได้ภายใน 4 นาที! 🔥🔥

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ ประโยค passive

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *