Skip to content
Home » [Update] 60 ประโยคบอกรักภาษาอังกฤษ อัปเดตล่าสุดไม่ซ้ำใคร เอาไปตั้งแคปชั่นบอกรักได้เลย ! | ไม่เพียงเท่านั้น ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

[Update] 60 ประโยคบอกรักภาษาอังกฤษ อัปเดตล่าสุดไม่ซ้ำใคร เอาไปตั้งแคปชั่นบอกรักได้เลย ! | ไม่เพียงเท่านั้น ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

ไม่เพียงเท่านั้น ภาษาอังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

  1. I fancy you = ชอบเธอชะมัด

  2. I love you 3000 = รักเธอเป็นตันตัน 

  3. I love you like a fat kids loves Bubble Milk Tea = ชอบเธอเหมือนเด็กอ้วนชอบชานม 

  4. You are my dream come true = เธอคือความฝันที่เป็นจริงของฉัน

  5. I heart you = เธอได้ใจฉันจัง  

  6. You remind me I’m in love = เธอทำให้ฉันรักเป็น

  7. You make love feel so very easy = เธอทำให้ความรักเป็นเรื่องน่ารักเรียบง่าย

  8. You’re the prize in my eyes = เห็นเธอทีไร ฉันเหมือนไปชนะรางวัลอะไรมา

  9. You’re a universe inside = เธอคือโลกทั้งใบของฉัน  

  10. I see forever in you = ฉันเห็นคำว่าตลอดไปในตัวเธอ 

  11. You got me feeling diamond rich = เธอทำให้ฉันรู้สึกสวยและรวยมาก

  12. You give me butterflies = เธอทำให้ฉันรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อมาบินอยู่ในท้อง 

  13. I will always choose you = ฉันจะเลือกเธอเสมอ 

  14. Loving you felt like everything I thought heaven would be = การที่ได้รักคุณมันคือความรู้สึกเดียวกับตอนที่จินตนาการว่าสวรรค์นั้นเป็นเช่นไร

  15. You got me at hello = เธอได้ใจฉันตั้งแต่ทักแล้ว 

  16. You leave me speechless = เธอทำให้ฉันพูดไม่ออก 

  17. You are my favorite song = เธอคือเพลงโปรดของฉัน 

  18. My heaven is you = เธอคือสวรรค์บนดินของฉัน 

  19. I bloom just for you = ฉันสดใสได้เพราะเธอ  

  20. I am happy just to see you happy = ความสุขของฉันคือการเห็นเธอมีความสุข 

  21. I’m smitten with you = ฉันตกหลุมรักเธอจนโงหัวแทบไม่ขึ้น 

  22. You got me good = ฉันรู้สึกดีเวลาอยู่กับเธอ 

  23. You are cheese to my pizza = เธอคือชีสบนพิซซ่าของฉัน

  24. You are one in a million = เธอคือหนึ่งในล้าน 

  25. You complete me = เธอเติมเต็มชีวิตฉัน 

  26. I love because of you = เพราะเธอฉันถึงรู้สึกรัก 

  27. You make my heart warm and happy = หัวใจฉันทั้งมีความสุขและอบอุ่นก็เพราะเธอ

  28. You’re the light of my life = เธอคือแสงสว่างในชีวิตฉัน 

  29. You are the only one on my mind = เธอคือคนเดียวที่อยู่ในใจฉัน 

  30. I love you more than any word can say = ฉันรักเธอมากจนไม่มีคำไหนจะอธิบายได้

  31. You make everything feel possible = เธอทำให้ทุกอย่างดูเป็นไปได้หมด 

  32. You are the person I want to spend my life with = เธอคือคนเดียวที่ฉันอยากใช้ชีวิตด้วย 

  33. As long as I have you in my life, I’ll be okay = ตราบใดที่ฉันมีเธออยู่, ฉันจะไม่เป็นไร

  34. I will always be here for you = ฉันจะอยู่ตรงนี้เพื่อเธอเสมอ 

  35. You are incredible = เธอมันมหัศจรรย์ที่สุด 

  36. You mean so much to me = เธอมีความหมายกับฉันมาก 

  37. I’ve got a crush on you = ฉันตกหลุมรักเธออย่างจังเลย 

  38. I’m out of breath for you = เพราะเธอ ฉันถึงหายใจไม่ค่อยทั่วท้อง 

  39. You are my sunshine = เธอคือดวงอาทิตย์ที่สดใสของฉัน 

  40. I’m lost without you = ฉันเสียหลักแน่ถ้าไม่มีเธอ 

  41. You make my heart skip a bit = เธอทำให้ใจฉันหยุดเต้น 

  42. You rock my world = เธอทำให้โลกของฉันสดใส 

  43. I’m all about you = ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อเธอ 

  44. You turn me inside out = เธอรู้จักฉันดีที่สุด 

  45. I love you to the moon and back = ฉันรักเธอเท่าสุดขอบจักรวาล 

  46. I just want you by my side always = ฉันอยากให้เธออยู่ข้างฉันเสมอไป

  47. You make life worth living = เธอทำให้ชีวิตฉันน่าอยู่ 

  48. You make me a better person = เธอทำให้ฉันเป็นคนที่ดีขึ้น 

  49. I want you, and only you = ฉันต้องการแค่เธอเท่านั้น 

  50. I fell in love with you over and over again = ฉันรักเธอ รักเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า 

  51. You are the only one on my mind = เธอเพียงคนเดียวที่เข้ามาวิ่งในใจฉัน 

  52. Life is not worth living without you = ชีวิตที่ไม่มีเธอ คือชีวิตที่ไม่ได้ใช้ 

  53. I’m crazy about you = ฉันคลั่งไคล้เธอสุดๆ 

  54. I’ve got feelings for you = ฉันรู้สึกดีกับเธอ 

  55. I adore you = ฉันเทิดทูนบูชาเธอ 

  56. I’m head over heels for you = ฉันตกหลุมรักเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า 

  57. I’m drawn to you. = ฉันชอบเธอเข้าแล้วล่ะ 

  58. You’re my everything. = เธอคือทุกอย่างของฉัน 

  59. You’re my other half. = เธอคือครึ่งหนึ่งที่ฉันตามหา 

  60. I cherish you above anything else in my life. สิ่งที่ฉันรักที่สุดในชีวิตของฉันคือเธอ

Table of Contents

[NEW] I major in English : รวม 8 เรื่องที่ “เด็กเอกอังกฤษ” เท่านั้นถึงจะเข้าใจ! | ไม่เพียงเท่านั้น ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

     สวัสดีครับน้องๆ ชาว

Dek-D

แถวนี้มีใครอยากเรียนต่อเอกภาษาอังกฤษบ้างมั้ยครับ? วันนี้

พี่วุฒิ

และ

English Issues

ได้รวบรวม 8 เรื่องที่เด็กเอกอิ๊งต้องเจอแน่นอน ว่าแต่พวกเราเรียนแค่ไปภาษาไปวันๆ อย่างที่หลายคนคิดหรือเปล่า? และมีเรื่องอะไรที่ยังไม่รู้อีกบ้าง? มาหาคำตอบในบทความนี้เลยครับ    

 

1. ด่านแรกวัดใจ ต้องได้เกรด A อิ๊งมอ 

 

     พอย่างก้าวเข้าเป็นเด็กปี 1 เอกภาษาอังกฤษ ในหัวของทั่วไปอาจจะคิดว่าเด็กเอกอิ๊งต้องเทพราวกับเจ้าของภาษามาแน่ๆ หรือบางคนอาจจะคิดว่า เด็กเอกอิ๊งต้องเป็นคนหัวอินเตอร์ สายฝอ และยิ่งพอมาเรียนวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน (Fundamental English) หรือที่หลายๆ ที่เรียกว่า

‘อิ๊งมอ’

ซึ่งเป็นวิชาที่เด็กปี 1 ทุกคนจะต้องเรียน และส่วนใหญ่แล้ววิชานี้จะเรียนในคลาสรวมกับหลายๆ คณะ แน่นอนว่าทั้งตัวอาจารย์และเพื่อนร่วมคลาสก็ต่างคาดหวังและพุ่งเป้าสายตามาที่เด็กเอกอังกฤษ ประมาณว่าคะแนนของพวกเธอต้องได้ท็อปของคลาสนะ หรือที่เจอบ่อยๆ (และเชื่อว่าเด็กเอกอิ๊งจะต้องเจอ) คือ ถ้าเด็กเอกอิ๊งไม่ได้เกรด A วิชานี้ ก็ไม่รู้จะพูดยังไงละ ถ้าทำไม่ได้ หลายคนอาจจะรู้สึกผิดหวังในตัวเรา แม้ว่าความจริงแล้วเราอาจจะไม่ต้องเก็บมาใส่ใจก็ได้ แต่เชื่อว่าหลายคนอาจจะรู้สึกอยู่ดี เพราะชื่อของเอกภาษาอังกฤษมันค้ำคออยู่ แต่สุดท้ายแล้ว เราเองอยากบอกคนอื่นเหมือนกันว่า คนเรียนเอกภาษาอังกฤษไม่ได้เก่งไปทุกคนจ้า ถ้าเป๊ะแล้วจะมาเรียนทำไมล่ะ T___T

 

2. เห็นคนเขียนผิดแล้วหงุดหงิดง่าย

 

Cr. Pixabay

 

     ข้อนี้ตอนแรกพี่คิดว่าเป็นที่ตัวพี่คนเดียวซะอีก แต่หลังจากลองถามเพื่อนๆ หลายคนที่เรียนเอกอังกฤษเหมือนกันก็รู้เลยว่าไม่ใช่แค่พี่คนเดียวแล้วล่ะ ที่จะหงุดหงิดเวลาเห็นคนเขียนคำง่ายๆ ผิด เช่น I is, He are, หรือการใช้ a, an ,the ผิด เห็นแบบนี้บ่อยๆ บอกเลยลมออกหูครับ 55555 ยิ่งช่วงปีแรกๆ ที่เรากำลังเรียนไวยากรณ์พื้นฐาน หรือเรียนเรื่องการเขียน เด็กเอกอิ๊งจะเจออาจารย์เคี่ยวเรื่องหลักภาษาอย่างเข้มข้น จี้ทุกจุดไม่ว่าจะเป็นจุดเล็กจุดน้อย และการที่เราถูกสอนมาแบบนี้ หลายคนอาจจะซึมซับจากอาจารย์มาแบบไม่รู้ตัวเหมือนกันครับ (พี่คนนึงแหละ)  จึงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าจะเห็นเด็กเอกอิ๊งเวลาอ่านอะไรก็ตาม มักจะจับผิดแกรมมาร์ จับผิดตัวสะกด ดูเหมือนเป็นคนคิดเล็กคิดน้อย แต่มันจำเป็นต้องทำแบบนั้นจริงๆ ครับ เพราะบางที แค่การเติม -s หรือ การใช้ a กับ the ผิด ก็ทำให้ความหมายเปลี่ยนได้มากมายเลยนะ 

 

3. เด็กเอกอิ๊งเรียนระบบร่างกาย?

 

     เห็นภาพด้านบนแล้ว น้องๆ อาจจะรู้สึกตกใจว่าทำไมเอกภาษาอังกฤษต้องมาเรียนเรื่องระบบอวัยวะในช่องปากด้วย ตอนแรกพี่เคยงงเหมือนกันครับ แต่พอได้เรียนแล้วก็เข้าใจเลย อย่างภาพด้านบนมาจากวิชา

English Phonetics and Phonology (สัทศาสตร์และสรวิทยาภาษาอังกฤษ)

เห็นชื่อแบบนี้อาจจะยังไม่เก๊ท งั้นอธิบายคร่าวๆ ได้ว่า เป็นวิชาที่เรียนเกี่ยวกับเสียงและระบบเสียงในภาษาอังกฤษ โดยรวมเรื่องสระ เสียงพยัญชนะ อวัยวะที่ใช้ในการออกเสียง คำเทียบคู่ หน่วยเสียง หน่วยเสียงย่อย กฎการเปลี่ยนแปลงเสียง โครงสร้างพยางค์ การลงเสียงหนักเบา และทำนองเสียง เป็นต้น
 

     ย้อนไปสมัยตอนพี่เรียน (กี่ปีแล้วอย่าไปพูดถึงเลยนะครับ 555) อาจารย์จะให้วาดพวกภาพอวัยวะในช่องปาก เป็นการจำลองเรื่องการออกเสียง เช่น ถ้าจะออกเสียงแบบนี้ ลิ้นจะไปแตะตรงบริเวณไหนของปาก พออาจารย์ให้โจทย์มา เราก็ต้องบรรเลงจิตวิญญานศิลปินอันเต็มเปี่ยม วาดรูปลิ้นไปแตะบริเวณปุ่มเหงือกบ้าง เพดานปากบ้าง แถมยังต้องวาดหลอดลม เส้นเสียง และหลอดอาหารอีกด้วยนะ เราต้องมโนตามไปว่าถ้าออกเสียงแบบนี้ หลอดลมจะขยายหรือเปล่า เป็นต้น เป็นการเรียนที่ต้องปฏิบัติตามและใช้จินตนาการไปในตัวด้วย บันเทิงมากครับ ฮ่าๆ (ปล.ความจริงแล้ว ไม่ใช่แค่เอกอิ๊งเท่านั้นหรอกนะครับ เอกภาษาอื่นๆ ก็ต้องเรียนเหมือนกัน บางทีอาจจะวาดเยอะกว่าด้วยซ้ำ)  

 

4. มองผ่านๆ นึกว่าเรียนพันธะเคมี

 

      วาดรูประบบอวัยวะในช่องปากจนคนเข้าใจผิดว่าเรียนเอกชีวะไปแล้ว มาเจอข้อนี้ มองเผินๆ หลายคนอาจจะคิดว่าเราเรียนเอกเคมีก็ได้ อย่างภาพด้านบน นี่ไม่ใช่แผนผังพันธะเคมีนะครับ แต่นี่เป็นแผนผังต้นไม้แสดงถึงโครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษ ที่เราพบได้ในวิชา 

English Morphology and Syntax (วจีพากษ์และวากยสัมพันธ์ภาษาอังกฤษ)

วิชานี้เรียกว่าเป็นตัวปราบเซียนเลยก็ว่าได้ จริงๆ มันอาจจะไม่ได้ยากมากถึงขั้นอยากกัดลิ้นตายหรอกนะครับ แต่รายละเอียดยิบย่อยมันเยอะมากกกก เรียนจบแล้วเป็นคนคิดมากเลยแหละ 5555

      เพราะอย่างวิชานี้ จะเป็นการเรียนที่เน้นไปที่การศึกษาโครงสร้างของคำ วลีและประโยคในภาษาอังกฤษ โดยรวมเรื่องแก่นคำ ส่วนเติม หน้าคำ ส่วนเติมท้ายคำ หน่วยคำ หน่วยคำย่อย และยังมีเรื่องโครงสร้างวลี โครงสร้างประโยคและทฤษฎีต่างๆ อีกด้วย เรียกว่าวิเคราะห์กันหัวกระเจิงแน่นอน ถ้าจะให้อธิบายวันนี้คงไม่จบแน่นอน แต่เอาเป็นว่า ใครอยากเรียนเอกภาษาอังกฤษต้องเตรียมใจให้พร้อมเลยครับ อาจจะศึกษามาล่วงหน้าก่อนเรียนก็ได้ พอเรียนจริงจะได้ตั้งตัวทัน (เอกภาษาอื่นด้วยนะ เจอเหมือนกันจ้า)  

 

5. เทพซูสเรียนแล้วทรุด

 

      มาถึงวิชา

Mythology หรือ เทพปกรณัมปรัมปรา

กันบ้าง เชื่อว่าหลายคนพอได้บอกใครต่อใครว่าเรียนเกี่ยวกับเทพเจ้ากรีก พวกเค้าจะต้องอิจฉาเด็กเอกอิ๊งแน่นอน โดยเฉพาะกับใครที่ชอบเรื่องเทพเจ้า หรือเรื่องแฟนตาซีนี่เข้าทางมากกก แต่ช้าก่อนครับ มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอกเด้อ จะว่าไปแล้วเรื่องที่เรียนมันสนุกก็จริง แต่รายละเอียดมันก็เยอะเหมือนกัน แถมมีบทวิเคราะห์เยอะด้วย และยิ่งคำศัพท์ในตำนานเทพเจ้ากรีกบางคำ เป็นคำศัพท์โบราณ ก็ยิ่งสร้างความฉงนไม่น้อยเลยล่ะ T___T
 
      แต่โดยส่วนตัวพี่ชอบวิชานี้นะครับ แม้เกรดที่ได้จะไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ (ขำแห้ง) เพราะเรื่องเทพเจ้ากรีกเนี่ย ถือว่าเป็นพื้นฐานในการเรียนภาษาอังกฤษเลยล่ะ ทั้งเรื่องรากศัพท์หลายๆ คำที่มาจากชื่อเทพเจ้า ตำนานความเชื่อต่างๆ ที่ไปโผล่ในวรรณกรรมที่เราต้องรู้จัก เรียกว่ามันอยู่รอบตัวเราเลยครับ ถ้าใครอินๆ สามารถเก็บได้ทุกรายละเอียด แล้วนำไปต่อยอดกับการเรียนวิชาอื่นๆ ไม่ใช่แค่เฉพาะกับภาษาอังกฤษนะครับ มันสามารถประยุกต์ได้ทุกศาสตร์เลย แล้วเราจะรู้เลยว่าพวกเรื่องความเชื่อเกี่ยวกับเทพเจ้า มันซึมซับเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของมนุษย์จริงๆ        

 

6. เรียนพระคัมภีร์ไบเบิล

 

Cr. Pixabay

 

      อย่างที่บอกไปในข้อที่แล้วว่าเรื่องความเชื่อนั้นมีอิทธิพลต่อภาษามากๆ เช่นเดียวกันกับภาษาอังกฤษที่ได้รับอิทธิพลมาจากศาสนาตะวันตกเต็มๆ ดังนั้น ถึงแม้เราจะนับถือศาสนาอื่น แต่พอมาเรียนภาษาอังกฤษ เราควรที่ต้องรู้เรื่องศาสนาเหล่านี้เอาไว้ อย่างในการเรียนวิชา

Western Religions (ศาสนาตะวันตก)

อารมณ์จะคล้ายๆ ตอนเราเรียนศาสนาพุทธเลยครับ ต้องจำว่าพระพุทธเจ้าทำอะไรบ้าง ประวัติพระพุทธเจ้า เป็นต้น พอมาเรียนวิชานี้ น้องๆ จะได้เรียนพระคัมภีร์ไบเบิลสำหรับเด็ก (The Children’s Bible) ก็จะเริ่มตั้งแต่อดัมกับเอวา ณ สวนเอเดน แล้วค่อยๆ ไล่สเต็ปความสับสนมึนงงให้เราไปเรื่อยๆ โดยส่วนตัวพี่คิดว่า วิชานี้ยากเหมือนกันครับ เพราะต้องจำเยอะมาก แล้วชื่อไม่ค้นหูเลยแหละ 55555 แต่พอเรียนแล้วมีประโยชน์มากเลยนะ สามารถนำไปต่อยอด ประยุกต์กับการอ่านวรรณกรรมและสื่อสมัยใหม่ได้เพียบเลย 

 

7. เรียนกลอนต้องรู้จัก ‘ดอกแดฟโฟดิล’ 

 

Cr. Pixabay

 

     สำหรับเด็กเอกอิ๊ง อีกวิชาสำคัญที่พวกเราต้องเรียนคือ

‘Introduction to English Poetry หรือ วรรณกรรมร้อยกรองอังกฤษเบื้องต้น’

ซึ่งชื่อวิชาก็บอกอยู่แล้ว ว่าเรียนเกี่ยวกับเรื่องกลอน บทร้อยกรองมีกี่แบบ ก็ต้องเรียนรู้หมด รวมถึงศึกษาองค์ประกอบพื้นฐานของกวีนิพนธ์ภาษาอังกฤษ รวมถึงสัมผัส จังหวะ รูปแบบของบทรูปแบบการลงเสียงหนักเบา จำนวนจังหวะ และการใช้ภาษาภาพพจน์ ศึกษารูปแบบการแต่งกวีนิพนธ์ที่สำคัญ พูดง่ายๆ คือ ตอนเด็กเราเคยเรียนกลอนภาษาไทยแบบไหน พอมาเรียนเอกภาษาอังกฤษ เราก็จะต้องเรียนเหมือนกันทุกองค์ประกอบเลยครับ 
 

      และสำหรับกลอนที่พูดชื่อปุ๊บ เด็กเอกอิ๊งจะต้องรู้จักแน่นอนก็คือ ‘I Wandered Lonely As A Cloud’ หรือที่เราคุ้นหูกันในนาม กลอน ‘Daffodils’ (ดอกแดฟโฟดิล หรือ ดอกดารารัตน์) ซึ่งเป็นบทประพันธ์ของ William Wordsworth กวีคนสำคัญของยุคโรแมนติก ถ้าถามว่าทำไมเด็กเอกอิ๊งถึงฝังใจกับกลอนนี้ คงจะเป็นเพราะว่าด้วยรูปแบบของกลอนที่มีความคลาสสิกและสามารถตีความได้หลากหลายความหมาย ถ้าอ่านเผินๆ อาจจะคิดว่าเป็นกลอนที่บรรยายความสวยงามของดอกแดฟโฟดิลแค่เพียงอย่างเดียว แต่ถ้าอ่านแบบตีความจริงๆ จะรู้ว่ากวีเค้าแต่งเพื่อแสดงความหว่าเว้ของตัวเองด้วย อธิบายแค่นี้คงยังไม่เห็นภาพ ลองดูคลิปด้านล่าง แล้วจินตนาการตามไปนะครับ แล้วจะเข้าใจว่าทำไมดอกแดฟโฟดิลถึงเป็นสัญลักษณ์ของความหวัง 🙂 
 

Clip

 

8. American Dream คือสิ่งที่ต้องรู้

 

Cr. Pixabay

 

      การเรียนเอกภาษาอังกฤษ ไม่ได้แปลว่าเราจะต้องเรียนแค่ประวัติศาสตร์ฝั่งอังกฤษแค่อย่างเดียวนะครับ เด็กเอกอิ๊งจะต้องเรียนรู้ฝั่งของประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย เพราะอย่างที่เรารู้กันว่า อเมริกานั้นมีอิทธิพลต่อคนทั่วโลกจริงๆ ส่วนเรื่องที่เราเรียนจะเป็นวรรณกรรม (American Literature) และร้อยแก้วของกวีชาวอเมริกัน (Prose) ซึ่งจุดโฟกัสของการเรียนวิชานี้ก็เพื่อศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การก่อตั้งประเทศ คติความเชื่อ ความคิดแบบคนอเมริกัน พอเรารู้เรื่องพวกนี้แล้ว เราจะเข้าถึงวัฒนธรรมและภาษาของประเทศนี้มากขึ้น 
 

      เมื่อพูดถึงอเมริกาแล้ว เชื่อว่าหลายคนจะต้องนึกถึง

‘American Dream (ความฝันของอเมริกันชน)’

แน่นอน ตอนสมัยพี่เรียนเนี่ย คติเรื่องความฝันของคนอเมริกันจะต้องโผล่ในวรรณกรรมแทบจะทุกเรื่องเลย น้องๆ บางคนอาจจะยังไม่รู้จักว่า American Dream คืออะไร พี่จะสรุปสั้นๆ ดังนี้ 
 

– American Dream คือความเชื่อของชาวอเมริกัน โดยเฉพาะเรื่องของการทำงานหนัก ความกล้าหาญ ความไร้ชนชั้นวรรณะทางสังคม ความเท่าเทียมกันในทุกเรื่อง รวมไปถึงการได้รับการยอมรับตัวตน ไม่ว่าเราจะเป็นคนมาจากชาติไหนก็ตาม  

– ความคิดนี้มีมาตั้งแต่ก่อตั้งอเมริกาเลยครับ เพราะว่าที่นี่เป็นประเทศที่รวมคนจากหลายๆ ที่มาอยู่ด้วยกัน เป็นประเทศที่เกิดมาใหม่เพียง 200 ปี เท่านั้น คนส่วนใหญ่จึงมีความคิดอยากประสบความสำเร็จ มีชีวิตที่ดีขึ้นหลังจากมาอยู่ที่นี่ อเมริกาจึงเปรียบเหมือนดินแดนแห่งความฝันและความหวัง 

 

 

   รู้จักเอกอังกฤษกันไปพอหอมปากหอมคอ เป็นไงบ้างครับ? เหมือนกับที่น้องๆ คิดไว้หรือเปล่า? ที่พี่ยกมานี่เป็นแค่น้ำจิ้มนะครับ พอไปเรียนจริงยังมีอะไรที่ต้องรู้อีกเยอะเลย ไม่ว่าจะเป็นวิชาบังคับหรือวิชาเลือก ล้วนมีประโยชน์ทั้งนั้น ยิ่งเรียนก็ยิ่งทำให้เปิดโลกมากขึ้น พี่หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับน้องๆ ที่อยากเรียนเอกภาษาอังกฤษนะครับ 🙂  


มีคนเวียดนามบางคนชอบเมืองไทย!! คุณคิดอย่างไร ถ้าให้เปรียบเทียบกันระหว่าง เวียดนาม vs ไทย ?


มีคนเวียดนามบางคนชอบเมืองไทย!! คุณคิดอย่างไร ถ้าให้เปรียบเทียบกันระหว่าง เวียดนาม vs ไทย ?
How is Vietnam compared to Thailand? | TopMent Thailand
คอมเม้นเวียดนาม คอมเม้นต่างชาติ TopMent Thailand ไทย เวียดนาม ท่องเที่ยว
ที่มา : https://bit.ly/2YsgwkA
แปลและเรียบเรียง : TopMent Thailand

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

มีคนเวียดนามบางคนชอบเมืองไทย!! คุณคิดอย่างไร ถ้าให้เปรียบเทียบกันระหว่าง เวียดนาม vs ไทย ?

เพียงสบตา Ost.บุพเพสันนิวาส | ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ | Official MV


Digital Download 4933066
เพลง เพียงสบตา (เพลงประกอบละครบุพเพสันนิวาส)
ศิลปิน ลีเดีย ศรัณย์รัชต์
คำร้อง ณรงค์วิทย์ เตชะธนะวัฒน์
ทำนอง/เรียบเรียง Banana Boat
เพราะดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ “เพียงสบตา” ก็ทำให้รู้ว่าใครคนนั้นคิดอย่างไรกับเรา อีกหนึ่งเพลงรักแสนหวาน ประกอบละคร “บุพเพสันนิวาส” ขับร้องโดย “ลีเดีย ศรัณย์รัชต์” ที่ห่างหายจากการร้องเพลงประกอบละครช่อง 3 ไปนานถึง 3 ปี ตั้งแต่เพลงประกอบละคร เพื่อนรักเพื่อนริษยา ไม่ว่าจะเป็นเพลงเศษใจ และเพลงอยากได้เอาไป กลับมาในครั้งนี้ถือว่าแตกต่างจากเดิมเพราะลีเดียต้องดีไซน์การร้องผสมผสานความเป็นไทยเดิมลงไปในเพลงด้วย

iTunes, Apple Music: https://apple.co/2o9g1GJ
Qikplay: http://bit.ly/2C7MKVB
ฟังเพลงอัลบั้ม นี้ผ่าน JOOX Music, TrueID Music
JOOX Music: http://bit.ly/2CudKKF
TrueID Music: http://bit.ly/2o9sfza
FB : http://www.facebook.com/ChandelierMusicLabel และ http://www.facebook.com/ch3soundtrack
IG : @chandelier_music และ @ Ch3Thailand Music
Youtube : Ch3Thailand Music WWW.เพลงละครช่อง3.com
เคยได้ยินได้ฟัง บอกให้ฉันเข้าใจ ยามเมื่อจะรักใคร ให้จ้องตาคู่นั้น
จะรับรู้เรื่องราว ความจริงใจให้กัน จะรักจริงรักมั่น มองที่ตาข้างใน
ต่อให้เธอเป็นใครต่างกันเท่าไหร่ แค่เพียงมีใจรักกัน
ฉันสัมผัสรักของเธอได้จากสายตา
เพียงสบตาเท่านั้น หัวใจฉันก็อบอุ่นใจ
เพียงสบตาเธอนั้น ฉันก็รู้ทันใด ว่าเธอคือใครคนนั้นที่ฉันรอ
ให้ความรักของเรา ผูกพันใจสองใจ
ยามต้องไกลแสนไกล นึกถึงตาคู่นั้น
(ซ้ำ ///)

เพียงสบตา Ost.บุพเพสันนิวาส | ลีเดีย ศรัณย์รัชต์  | Official MV

\”not only…, but also…\” (ไม่เพียง…แต่ก็ยัง…) ใช้อย่างไร


เว็ปอดัม: http://www.ajarnadam.com
FBของอดัม: http://www.facebook.com/AjarnAdamBradshaw
FBของซู่ชิง: http://www.facebook.com/jitsupachin
Twitter: http://twitter.com/AjarnAdam
Twitter ซูชิง: http://twitter.com/Sue_Ching

\

ไม่พอเพียง : Silly Fools [Official MV]


\”Download on iTunes : http://bit.ly/1lFG0dF
ฟังที่ Deezer : http://bit.ly/1ohQ0O8
ติดตามข่าว ภาพประทับใจ จากศิลปิน RS ที่คุณชื่นชอบ
RS RETRO 3399 Fanpage : https://www.facebook.com/RSretro3399
ที่สุดของวงร็อกยอดนิยมฝีมือฉกาจ ที่ต้องบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์วงการเพลงไทย เดอะวัน (The One) เป็นชื่ออัลบั้มเพลงชุดที่หกของวงดนตรี ซิลลี่ ฟูลส์ วางแผงเมื่อปี พ.ศ. 2551 ชุดนี้มีการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งนักร้องนำ เป็น \”\”เบน\”\” เบนจามิน จุง ทัฟฟ์เนล ลูกครึ่งเกาหลีอเมริกัน ที่มีเสียงแหบกังวานอันเป็นเอกลักษณ์ เข้ามาทำงานแทน โดยอัลบั้มนี้จะพิเศษตรงที่ ทุกเพลงจะมีการนำดนตรีไปใส่เนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษด้วย เพลงฮิตในอัลบั้มนี้ได้แก่เพลง โง่ เราเป็นคนเลือกเอง รั้งรอ และเหนื่อยแล้ว

ไม่พอเพียง
รีบกันจนเดินชนกันเอง
เร่งกันจนมันลืมว่าอ่อนล้า
ไม่มีใครพอใจตัวเอง
ไม่เคยมีเวลาจะมองฟ้า
แข่งขัน กดดัน ไม่มีใครในสายตา
สับสน วุ่นวาย ตะเกียกตะกายให้ได้มา
ทำไมชีวิตต้องเป็นแบบนี้ ทำไมต้องได้ต้องดีกว่าเขา
มีเท่านี้ไม่พอก็โกยเข้า ต้องเหยียบต้องแทงใครเขาเอาเลยอย่าช้า
มีชีวิตเพื่อการไขว่คว้า ยิ่งชนะยิ่งดียิ่งมีค่า
โลกเรามันมีปัญหาที่คำว่าพอ
วิ่งกันจนไปชนกันตาย
ไม่มีความจริงใจหรอกลืมซะ
ไม่ต้องแคร์ว่าใครจะตาย
ให้ตัวเองได้ไปอยู่บนฟ้า
(ซ้ำ / )
ทำไมชีวิตต้องเป็นแบบนี้ ทำไมต้องได้ต้องดีกว่าเขา
มีเท่านี้ไม่พอก็โกยเข้า ต้องเหยียบต้องแทงใครเขาเอาเลยอย่าช้า
มีชีวิตเพื่อการไขว่คว้า ยิ่งชนะยิ่งดียิ่งมีค่า
โลกเรามันมีปัญหาที่คนแบบนี้
คนที่คิดแค่การไขว่คว้า ยิ่งชนะยิ่งดียิ่งมีค่า
โลกเรามันมีปัญหาที่คำว่าพอ
โลกคงไม่มีปัญหาถ้ารู้จักพอ

\”
โตมากับอาร์เอส ซิลลี่ฟูลส์ SillyFools ไม่พอเพียง

ไม่พอเพียง : Silly Fools [Official MV]

อยากรู้…แต่ไม่อยากถาม – Calories Blah Blah【OFFICIAL MV】


Digital Download : 123 1008957 3
iTunes Download : https://goo.gl/T63gZ3
KKBOX :http://kkbox.fm/Mc1KPb
เพลง : อยากรู้…แต่ไม่อยากถาม
ศิลปิน : Calories Blah Blah
คำร้อง : วิวัฒน์ ฉัตรธีรภาพ
ทำนอง : อพิสิษฎ์ ณ ตะกั่วทุ่ง
เรียบเรียง : กรรณศิริ อาญาเมือง
อัพเดทผลงานศิลปินที่คุณชื่นชอบได้ที่
https://www.facebook.com/gmmgrammyofficial?fref=nf
http://www.youtube.com/user/gmmgrammyofficial
https://plus.google.com/+GmmgrammyofficialBlogspot2014/posts
http://www.gmmgrammyofficial.blogspot…

อยากรู้...แต่ไม่อยากถาม - Calories Blah Blah【OFFICIAL MV】

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆMAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ไม่เพียงเท่านั้น ภาษาอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *