Skip to content
Home » [Update] 25 วลีภาษาอังกฤษ ได้ใช้จริงแน่ พร้อมวิธีใช้และประโยคตัวอย่าง | เข้ากับคนอื่นได้ง่าย ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

[Update] 25 วลีภาษาอังกฤษ ได้ใช้จริงแน่ พร้อมวิธีใช้และประโยคตัวอย่าง | เข้ากับคนอื่นได้ง่าย ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

เข้ากับคนอื่นได้ง่าย ภาษาอังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้

วลีภาษาอังกฤษ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ คนที่อยากเก่งภาษาอังกฤษห้ามพลาด!

ไม่ว่าคุณจะกำลังเรียนภาษาอังกฤษผ่านอะไรอยู่ ถ้าตอนนี้ยังไม่มีคอร์สดี ๆ เอาไว้ฝึกสนทนาภาษาอังกฤษที่บ้าน ก็เข้าไปหาคอร์สที่เหมาะกับตัวเองได้เลยค่ะ

เบญได้รวบรวมเอาไว้ให้แล้ว ในโพสต์นี้ พร้อมราคา และรายละเอียดอื่น ๆ จ้า

วลีภาษาอังกฤษที่เบญเอามาฝากวันนี้ เป็นวลีที่คุณจะได้ยินบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นในหนังฝรั่ง เพลงฝรั่ง หรือแม้แต่ตอนที่คุยกับเพื่อนฝรั่งค่ะ

ยังไงอย่าลืมบันทึกเก็บไว้ฝึกพูดวลีนี้บ่อย ๆ จะได้ช่วยให้การสนทนาภาษาอังกฤษของเราดูเหมือนเจ้าของภาษามากขึ้น และลื่นไหลมากขึ้นด้วยค่ะ

เบญรวมทั้งคำแปลไทย วิธีใช้ และตัวอย่างประโยคไว้ให้ พร้อมแล้วไปเริ่มเรียนวลีพวกนี้ด้วยกันเลยจ้า…

Table of Contents

1. Have a good day.

ขอให้มีวันที่ดี เป็นสิ่งที่คนพูดบ่อย ๆ เวลาที่จบบทสนทนา หรือว่าเป็นการอวยพรให้คนนั้น ก่อนที่เค้าจะไปไหน หรือก่อนที่เราจะแยกกันค่ะ

และถ้าอยากรู้ว่าต้องเติมคำสุดท้ายเป็นอะไร ก็สามารถดูได้จากบทสนทนาที่เราคุยกันค่ะ ว่าเค้ากำลังจะไปทำอะไรต่อ หรือถ้าไม่รู้จริง ๆ ก็แค่ใช้ day หรือจะเป็นช่วงเวลาก็ได้ เช่น

Have a good morning. ขอให้มีช่วงเช้าที่ดีนะ

Have a good sleep. ขอให้นอนหลับสบายนะ

Have a good breakfast. ขอให้กินอาหารเช้าให้อร่อยนะ

และเราก็สามารถเปลี่ยนคำว่า good เป็นอย่างอื่นได้อีกด้วยค่ะ เช่น

Have a great time at work. ขอให้มีช่วงเวลาที่ดีที่ทำงานนะ

Have a wonderful evening. ขอให้มีช่วงเย็นดีที่นะ

Have a fun trip. ขอให้สนุกกับทริปนี้

2. What’s the matter?

เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ใช้เป็นคำถาม เมื่อมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น และอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

3. Are you happy now?

พอใจคุณหรือยัง เป็นคำพูดที่ไม่ได้ต้องการคำตอบ แต่เป็นเหมือนการประชด ในเหตุการณ์ที่อีกคนนึงได้สิ่งที่เค้าต้องการ แต่ว่าเราอาจจะไม่ได้ดีใจกับเค้า หรือว่าไม่ได้ส่งผลดีกับเราค่ะ

4. It’s way too much

มันมากเกินไป พูดถึงสิ่งที่นับได้ ซึ่งเอาไว้ใช้พูดถึงบางอย่างที่เกินไป เช่น

It’s way too slow. มันช้าเกินไป

It’s way too many. มันมีเยอะเกินไป (พูดถึงสิ่งที่นับได้)

It’s way too sweet. มันหวานเกินไป

It’s way too expensive. มันแพงเกินไป

และสามารถใช้คำนามอื่น ๆ ที่เรากำลังพูดถึงอยู่ไว้แทนคำว่า It ได้ด้วยค่ะ แต่อย่าลืมใส่ is หรือ ‘s ตามด้วย

ถ้าเป็นคำนามเอกพจน์ หรือ He, She, ชื่อ 1 คน และใช้ are หรือ ‘re สำหรับคำนามพหูพจน์ หรือ You, We, They, ชื่อมากกว่า 1 คน เช่น

This dog is way too cute. หมาตัวนี้มันน่ารักเกินไปแล้ว

He’s way too tall. เขาตัวสูงเกินไป

your mum is way too nice to me. แม่ของคุณดีกับฉันมากเกินไปแล้ว

5. It’s freezing!

หนาวมากเลย / หนาวจนจะแข็งแล้ว ใช้เพื่อเพิ่มความดราม่าให้กับประโยคค่ะ

6. That’s too bad

ก็ช่วยไม่ได้สินะ เป็นการพูดในอารมณ์ประมาณว่าเราไม่แคร์กับสิ่งที่เกิดขึ้น คล้าย ๆ กับ I don’t care

7. I’ll be right back

เดี๋ยวมานะ ใช้ได้กับทั้งตอนที่เราคุยกันอยู่ต่อหน้า และเราต้องไปเข้าห้องน้ำ ไปเอาของ และจะกลับมาใหม่ หรือว่าเวลาที่แชทคุยกันอยู่ก็ได้ค่ะ

8. That’s so not fair

นั่นมันโค-ตะ-ระไม่แฟร์เลยนะ / นั่นมันไม่ยุติธรรมมาก ๆ จริง ๆ ประโยคนี้ไม่ได้เป็นประโยคที่เป็นคำหยาบหรืออะไรนะคะ เบญแค่แปลให้เหมือนกับเวลาที่คนไทยใช้จริง ๆ

เอาไว้ใช้ในสถานการณ์ที่บางอย่างเกินขึ้นกับเรา หรือคนที่เราคุยด้วย และมันไม่ควรจะเกิดขึ้นกับเราเลย หรือใครให้เราทำสิ่งที่ไม่อยากทำ

จะได้ยินประโยคนี้บ่อย ๆ ในหนังวัยรุ่นค่ะ และเติมคำว่า for you, for me หรือผู้ถูกกระทำอื่น ๆ ได้ค่ะ เช่น

That’s so not fair for you! นั่นมันไม่ยุติธรรมกับเธอเลยนะ

It’s so not fair for me! มันไม่ยุติธรรมมาก ๆ เลยกับฉัน

9. That’s it / That’s all

แค่นี้แหละ / จบแล้ว ใช้บอกเมื่อเราเล่าอะไรบางอย่าง และมันก็จบแล้ว เพื่อให้คนรู้ว่าเราเล่าจบแล้ว เช่น

Is that all you want to say? สิ่งที่เธออยากบอกมีแค่นี้หรอ

That’s all I want to say to you. สิ่งที่ฉันอยากบอกคุณก็มีแค่นี้แหละ

I like to eat steaks and burgers and that’s it. ฉันชอบกินสเต็ก เบอร์เกอร์ แค่นั้นแหละ

10. Take a chance / Give it a go

ลองดูสักตั้งสิ / ลองดูสักครั้ง พูดถึงให้เราลองทำ หรือลองอะไรบางอย่างที่เราอาจจะไม่เคยทำมาก่อน และก็ไม่รู้ว่าเราจะชอบ หรือมันจะเสี่ยงมั้ย เช่น

I don’t know if I will like this food but I’ll give it a go. ฉันไม่รู้ว่าฉันจะชอบอาหารนี้มั้ย แต่ว่าฉันจะลองกินดูสักตั้ง

He’s so nice, So I’ll take a chance on him. เค้าเป็นคนดีมากเลย ฉันเลยว่าจะลองคบกับเค้าดูสักครั้ง

11. Come again?

อันนี้ไม่ได้แปลว่า มาอีกมั้ย นะคะ 5555 แต่แปลว่า อะไรนะ / พูดอีกรอบได้มั้ย เป็นอีกวลีที่เราในฐานะคนที่เพิ่งเรียนภาษาอังกฤษ น่าจะได้ใช้บ่อยค่ะ

ความหมายคล้าย ๆ กับ again please ขอให้คนที่เราคุยด้วยพูดทวนอีกรอบ

12. This is nonsense

นี่มันไร้สาระ / นี่มันเหลวไหล / นี่มันไม่มีเหตุผลเลย พูดถึงในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และเป็นเรื่องที่เราไม่เข้าใจว่าเกิดขึ้นได้ยังไง หรืออาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลย

และสามารถใช้อีกคำนึงได้ คือ It doesn’t make any sense มีความหมายเหมือนกันเลยค่ะ เปลี่ยน It เป็นอย่างอื่นได้ค่ะ เช่น

You don’t make any sense. คุณนี่ไม่มีเหตุผลเลย

That film doesn’t make any sense. หนังเรื่องนั้นไร้สาระมากเลย

13. Let me check / Let me see

ขอดูก่อน / ขอเช็คหน่อย ส่วนใหญ่จะใช้ในสถานการณ์ที่คุณไม่แน่ใจ เลยต้องขอเช็คก่อน หรือขอดูก่อน ว่าคุณจะทำสิ่งนั้น หรือสิ่งนี้ได้มั้ย เช่น

Let me check my message. ขอเช็คข้อความของฉันหน่อยนะ

Let me see if I can come to your party tonight. ขอดูก่อนนะว่าฉันจะไปงานปาร์ตี้ได้มั้ยคืนนี้

14. I’m so happy for you

ฉันดีใจกับคุณด้วยนะ เป็นสิ่งที่คนใช้กันเวลาที่อยากจะแสดงความยินดี เมื่อมีเรื่องดี ๆ หรือข่าวดี เกิดขึ้นกับคนที่เรารู้จัก หรือกำลังคุยด้วยค่ะ หรืออาจจะใช้หลังจากพูดความว่า Congratulations ก็ได้

15. Things happen

อะไรก็เกิดขึ้นได้ / เรื่องแบบนี้เกิดกับใครก็ได้ ใช้พูดเมื่อเราอยากให้กำลังใจ คนที่เพิ่งเจอเรื่องร้าย ๆ มา เพื่อบอกเค้าว่า สิ่งนี้อาจจะเกิดกับใครก็ได้นะ มันเกิดขึ้นประจำอยู่แล้ว

I know you just lost your money but things happen. ฉันรู้ว่าเธอเพิ่งทำเงินหาย แต่เรื่องแบบนี้เกิดกับใครก็ได้นะ

ถ้าคุณอยากอ่านประโยคเกี่ยวกับการให้กำลังใจภาษาอังกฤษ หรือบอกว่าสู้ ๆ ภาษาอังกฤษพูดได้ยังไงบ้าง ก็คลิกที่ลิงค์ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า

ประโยคภาษาอังกฤษ ให้กำลังใจคนรอบข้างและตัวเอง คลิกเลย >>

16. Lucky you!

คุณนี่โชคดีจังเลย เป็นเหมือนคำแสดงความยินดีแบบไม่เป็นทางการค่ะ เมื่อคนที่เรารู้จักได้ข่าวดี หรือมีเรื่องดี ๆ เกิดกับเค้า ก็สามารถใช้วลีนี้ได้เลยค่ะ

17. It doesn’t matter

มันไม่สำคัญหรอก เราจะได้ใช้วลีนี้ ก็ตอนที่เราอาจจะออกไอเดีย หรืออยากทำอะไรสักอย่าง แต่ว่าคนอื่นอาจจะไม่ได้เห็นตามนั้น หรือทำให้ไม่ได้

และเราก็ใช้คำนี้บอกไปได้ค่ะ จะอารมณ์คล้าย ๆ ไม่เป็นไร ที่เราใช้บ่อย ๆ นี่เอง

18. Did you get that?

คุณเข้าใจมั้ย จริง ๆ ถ้าพูดถึงสิ่งของ จะแปลว่าคุณได้รับมันมั้ย ก็ได้ค่ะ แต่ว่าในที่นี้เบญอยากมาบอกว่าจริง ๆ แล้วก็แปลว่าคุณเข้าใจมั้ย หลังจากที่เราพูดไป หรืออธิบายไป ได้เหมือนกันค่ะ เช่น

Did you get what I just said? คุณเข้าใจในสิ่งที่ฉันเพิ่งพูดไปมั้ย

Sorry, I didn’t get that. โทษที ฉันไม่เข้าใจเลย

Did you get what I’m trying to do? คุณเข้าใจสิ่งที่ฉันพยายามทำอยู่มั้ย

19. After you!

เชิญคุณก่อนเลย ส่วนใหญ่จะได้ยินวลีนี้จากผู้ชายใจแมน ๆ หรือสุภาพบุรุษจากในหนังที่เปิดประตูให้เรา และบอกให้เราเดินเข้าไปก่อนค่ะ ซึ่งชีวิตจริงไม่รู้ว่าจะได้ยินบ่อยขนาดไหนนะคะ 555

20. I’m afraid so

ฉันเกรงว่าจะเป็นแบบนั้น เป็นวลีตอบรับว่าเราเห็นด้วยค่ะ คิดว่าเค้าจะควรทำแบบนั้น หรืออะไรก็ตามที่เค้าถามมา แต่ส่วนใหญ่จะเป็นในเรื่องที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หรือว่าในเรื่องที่คนที่ถามไม่อยากทำค่ะ เช่น

A: Do you think I have to attend this long meeting? คุณคิดว่าฉันต้องเข้าร่วมประชุมยาวๆนี้มั้ย
B: I’m afraid so. ฉันเกรงว่าจะเป็นแบบนั้น

21. Say hi to him for me

ฝากทักทายเค้าด้วยนะ เป็นสิ่งที่ดีที่จะพูดเหมือนเราคุยกับใครสักคน และเราอาจจะรู้จักครอบครัวของเค้า แฟนของเค้า หรือเพื่อนของเค้า และฝากไปทักทายค่ะ อาจจะใช้วลีนี้ก่อนจบการสนทนาก็ได้

หรือว่าเราจะเปลี่ยนจาก hi เป็น hello ก็ได้ค่ะ และเราอยากฝากคำทักทายไปให้ใคร ก็ใส่ชื่อ หรือคำสรรพนาม (แบบกรรม) ลงไปได้เลย เช่น

I have to go now but please say hi to Mary for me. ฉันต้องไปแล้วแต่ช่วยทักทายแมรี่เผื่อฉันด้วยนะ

Hope Jinny is well. Make sure you say hi to her for me. หวังว่าจินนี่จะสบายดีนะ อย่าลืมทักทายเค้าเผื่อฉันด้วยนะ

Say hi to your cat for me. ฝากทักทายแมวของเธอเผื่อฉันด้วยนะ (ทาสแมวแน่นอน)

22. I don’t mind

ฉันไม่ถือสา / ฉันไม่รังเกียจ / ฉันไม่ว่าอะไร วลีนี้ เป็นอีกวลีนึงที่จะหมายถึงไม่เป็นไร ไม่เรื่องมาก ไม่มีปัญหา ประมาณนั้นค่ะ

ใส่เข้าไปในประโยค เพื่อให้คนฟังรู้ว่าเราไม่ปัญหาเลยกับมันเลย เช่น

I don’t mind sharing my food with him. ฉันไม่รังเกียจเลยที่จะแบ่งกันกินกับเธอ

He doesn’t mind swimming. เค้าไม่ว่าอะไรที่จะได้ว่ายน้ำ

Hope you don’t mind. หวังว่าคุณจะไม่ถือสานะ

23. First of all

ก่อนอื่นเลย / อย่างแรกเลยนะ ใช้เป็นการเกริ่นนำก่อนที่เราจำพูดอะไร ซึ่งจะเป็นวลีที่ใช้ได้ทั้งแบบทางการ และแบบทั่วไปเลยค่ะ เช่น

First of all, I would like to thank you all for coming. ก่อนอื่นเลย ฉันอยากที่จะขอบคุณทุกมาร่วมในครั้งนี้

แต่ก็สามารถแปลว่าข้อที่ 1 ได้เหมือนกัน หรืออย่างแรกค่ะ เช่น

First of all, I want a house with 3 bedrooms. Second of all, I want a house with 2 bathrooms. อย่างแรกเลยนะ ฉันอยากได้บ้านที่มีห้องนอน 2 ห้อง และอย่างที่สอง ฉันอยากได้บ้านที่มีห้องน้ำ 2 ห้อง

24. On the other hand

ในทางกลับกัน / ในอีกแง่นึง / อีกใจนึง เป็นการใช้เพื่อเปรียบเทียบ 2 สิ่งด้วยกันค่ะ หรือในอีกมุมมองนึงที่อาจจะขัดกับสิ่งแรกที่พูดไป เช่น

I’d like to eat out, but on the other hand, I should be saving money. ฉันอยากที่จะออกไปกินข้าวนอกบ้าน แต่ในทางกลับกันฉันควรจะเก็บเงิน

On one hand, I’d like a job which pays more, but on the other hand, I enjoy the work I’m doing at the moment. ใจนึงฉันก็อยากจะทำงานที่ได้เงินเยอะกว่านี้ แต่อีกใจนึงฉันก็ชอบงานที่ฉันกำลังอยู่ตอนนี้

25. No doubt

ไม่ต้องสงสัยเลย ใช้พูดถึงบางอย่างที่ชัดเจน และเห็นได้ชัดโดยไม่ต้องเดา เช่น

No doubt you would like a drink. เธอต้องอยากดื่มแน่ ไม่ต้องสงสัยเลย

There is no doubt that he is guilty. ไม่ต้องสงสัยเลย เค้าเป็นคนผิดแน่นอน

อันนี้เบญทำขึ้นมาเผื่อว่าคุณจะอยากบันทึกไว้อ่าน หรือฝึกจำบนโทรศัพท์กันนะคะ

ที่สำคัญอย่าลืมนะคะว่า เราจะเก่งภาษาอังกฤษได้ ไม่ใช่เพราะแค่จำวลีแค่ 25 คำนี้ แต่ว่าเราต้องฝึกพูด-ฟัง-ใช้ อย่างต่อเนื่อง

และถ้ายังไม่มีคอร์สภาษาอังกฤษไว้ฝึกพูดภาษาอังกฤษ อย่าลืมเข้าไปเลือกดูคอร์สที่เบญเอามาฝากนะคะ

ดูคอร์สฝึกพูดภาษาอังกฤษกับครูฝรั่งแบบตัวต่อตัว ในราคาถูก >>

ถ้ามีวลีไหนอีกที่คุณได้ยินบ่อย อย่าลืมมาแบ่งปันกันไว้ในคอมเม้นข้างล่างบ้างนะคะ 🙂

[NEW] รวมวลีภาษาอังกฤษสั้นๆ ที่นำไปใช้ตอบคำถามสัมภาษณ์งาน ได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น!! | เข้ากับคนอื่นได้ง่าย ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

ในการสัมภาษณ์งานนอกจากจะเตรียมใจแล้ว เราก็ต้องเตรียมตัวในการตอบคำถามให้พร้อมอยู่เสมอ เพราะการที่เราจะได้งานนี้หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับคำตอบที่เราตอบออกไป ยิ่งเป็นการสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษยิ่งต้องเตรียมพร้อมในเรื่องของภาษาให้ดี

วันนี้เราก็มีวลีภาษาอังกฤษเด็ดๆ ที่จะช่วยให้คุณผ่านสัมภาษณ์ได้อย่างฉลุยมานำเสนอกัน ลองมาเรียนรู้ และนำไปใช้กันได้เลยค่ะ

 

 

วลีง่ายๆ ที่ใช้แนะนำตัวเอง

-My name’s… (ฉันชื่อ…)

-I was born and raised in… (ฉันเกิด และเติบโตใน…)

-I live in… (ฉันอาศัยอยู่ที่…)

-I attended the university of… (ฉันเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย…)

-I’ve just graduated from… (ฉันจบการศึกษาจาก…)

-I’ve worked for … year as… (ฉันมีประสบการณ์การทำงานกับ…เป็นระยะเเวลา…)

-I’ve worked for various firms including… (ฉันมีประสบการณืการทำงานในหลากหลายสาขาได้แก่…)

-I enjoy playing… (ฉันชอบเล่น…)

 

วลีที่ใช้อธิบายทักษะ และความสามารถที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน

-I perform well under pressure. (ฉันทำงานได้ดีภายใต้ความกดดัน)

-I developed some important skills. (ฉันมีทักษะในการทำงาน)

-I’m use to working in a busy environment. (ฉันมีประสบการณ์ทำงานในสภาพแวดล้อมที่ยุ่งเหยิง)

-I have very good people skills. (ฉันเก่งเรื่องการติดต่อสื่อสารกับผู้คน)

-I’m a very organized person. (ฉันเก่งเรื่องการจัดการ)

-I manage my time well by planning out… (ฉันจัดการเวลาได้ดีโดยการ…)

-I’m working at dealing with change. (ฉันปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงได้ดี)

-I work well under working pressure. (ฉันทำงานภายใต้สภาวะกดดันได้ดี)

 

วลีที่ใช้อธิบายว่าทำไมคุณถึงอยากทำงานนี้

-I want to take one more responsibility. (ฉันอยากพัฒนาตนเองโดยการทำงานนี้)

-Because it is line with my qualifications. (เพราะงานนี้สอดคล้องกับคุณสมบัติของฉัน)

-I want to further my career in… (ฉันต้องการทำงานต่อไปในตำแหน่ง…)

-I am impressed by the quality of your products/services. (ฉันประทับใจในคุณภาพของสินค้า/บริการของบริษัทนี้เป็นอย่างมาก)

 

วลีที่ใช้บรรยายจุดแข็งของตัวคุณเอง

-I’ve always been a great team player. (ฉันทำงานเป็นทีมได้ดี)

-I am an excellent communicator. (ฉันมีทักษะในเรื่องการติดต่อสื่อสารกับผู้คน)

-I am a trouble shooter. (ฉันสามารถแก้ปัญหาในสถานการณ์ต่างๆ ได้ )

-I’m good at multitasking. (ฉันสามารถทำงานได้หลายอย่าง)

-I’m good at resolving problem solutions. (ฉันเก่งเรื่องการแก้ไขปัญหา)

-I’m self-motivated. (ฉันเป็นคนกระตือรือร้น)

-I have very good organizational and time management skills. (ฉันเก่งเรื่องการจัดการงาน และมีทักษะในการจัดการเรื่องเวลา)

 

ที่มา:  eslbuzz

ร่วมแสดงความคิดเห็น…


5 เคล็ดลับคุยยังไงให้สนุก (ฉบับคนคุยไม่เก่ง)


คลิปนี้เป็นคลิปที่ศึกษาและแกะรอย
วิธีการพูดบนเวทีของคุณ โน๊ต อุดม แต้พานิช
จนได้ออกมาเป็นเทคนิค 5 ข้อ
ที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

5 เคล็ดลับคุยยังไงให้สนุก (ฉบับคนคุยไม่เก่ง)

สมัคร Gmail ง่ายๆ


สมัคร Gmail

สมัคร Gmail ง่ายๆ

เธอมันแค่ทางผ่าน ภาษาอังกฤษว่าอย่างไร ??? #KnowItAll


สอบถามเรื่องคอร์สได้ที่ไลน์ @ajarnadam หรือโทร 02 612 9300
รายละเอียดคอร์ส http://www.ajarnadam.tv/
FB: http://www.facebook.com/AjarnAdamBradshaw
IG: https://www.instagram.com/ajarnadam
Twitter: http://twitter.com/AjarnAdam
ภาษาอังกฤษ อาจารย์อดัม KnowItAll

เธอมันแค่ทางผ่าน ภาษาอังกฤษว่าอย่างไร ??? #KnowItAll

ถ้าคุณทำแบบนี้ได้ในปี 2020 ภาษาอังกฤษของคุณจะไม่อยู่ที่เดิมแน่นอน!


อยากฝึกพูดภาษาอังกฤษตัวต่อตัว หรือเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบบุฟเฟ่ต์
สมัครได้เลย ​https://www.unfoxenglish.com/
สอบถามแอดไลน์ ​https://lin.ee/5uEdKb7h
Website: https://www.unfoxenglish.com
Facebook: https://www.facebook.com/unfoxenglish
Instagram: https://www.instagram.com/lactawarakorn
ติดต่องาน
Email: [email protected]
สมัครเรียน
Line: https://lin.ee/5uEdKb7h

ถ้าคุณทำแบบนี้ได้ในปี 2020 ภาษาอังกฤษของคุณจะไม่อยู่ที่เดิมแน่นอน!

EP.579 มา แผ่เมตตา | ให้ถูกต้องกัน | โดยพระอาจารย์สมภพ โชติปัญโญ


พระอาจารย์สมภพ เทศนาธรรม แผ่เมตตา

EP.579 มา แผ่เมตตา | ให้ถูกต้องกัน | โดยพระอาจารย์สมภพ โชติปัญโญ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ เข้ากับคนอื่นได้ง่าย ภาษาอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *