[Update] 13 อันดับทีม esports ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก โดยมีมูลค่ารวมกว่า 1 แสนกว่าล้านบาท | ชื่อ จริง ที่ นิยม ตั้ง มาก ที่สุด – NATAVIGUIDES

แปลและเรียบเรียง: มัชฌิมา โพธาราม

 

     สำหรับพวกเราหลายคน สิ่งที่ใกล้เคียงกับการแข่งขันเกมมากที่สุดคือ Grand Prix Circuit ของเกม Mario Kart ใน Nintendo ’64 การเล่นกับเพื่อนๆ มักจะเป็นปรากฏการณ์ที่น่าตื่นเต้น และถ้าคุณเล่น Yoshi หรือ Toad ไม่ผ่าน ก็เหมือนการประกาศว่าแพ้ตั้งแต่ต้นเลย เว้นแต่คุณจะวิ่งอย่างมีกลยุทธ์เพื่อรักษาสายฟ้าเอาไว้ใช้บนสะพาน (กลยุทธ์ง่ายๆ แต่การันตีผลได้จริง)

     เกมมาไกลมากตั้งแต่ยุครุ่งเรืองของ Bowser Castle และ Yoshi Valley ที่มีกราฟิกยิ่งใหญ่ขึ้น มีความสามารถในการสื่อสารกับผู้เล่นคนอื่นๆ ที่กำลังออนไลน์และด้วยภาพเอฟเฟกต์พิเศษๆ ที่เบลอเส้นแบ่งระหว่างโลกแห่งความเป็นจริงและกระบวนจินตภาพคอมพิวเตอร์ มันเกินจริง แต่นักเล่นเกมรุ่นต่อๆ มามีความกระตือรือร้นกันมากขึ้น ตอนนี้ไม่เพียงแต่ Esports จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากผู้เล่นที่ทำเงินอย่างจริงจัง แต่พวกเขายังสามารถเสนอข้อตกลงกับสปอนเซอร์อย่าง Nike และแบรนด์กีฬาสำคัญอื่นๆ ได้ด้วย

     การแข่งขันเล่นวิดีโอเกมกำลังรุ่งเรืองเฟื่องฟูมาก แม่กระทั่งในตลาดที่ไม่มีการแข่งขันก็มีการฟื้นตัวขึ้น ด้วยบริษัทผลิตเกมต่างมุ่นมั่นที่จะปล่อยวิดีโอเกมที่พิสูจน์แล้วว่าน่าสนใจในตลาดที่ค่อนข้างอิ่มตัว ไม่น่าแปลกใจเลยที่ตอนนี้ทางออกที่ดีที่สุดของพวกเขาคือฐานแฟนคลับที่มีมาก่อน นั่นคือการเข้าถึงนักแสดงที่มีชื่อเสียงอย่าง Keanu Reeves ได้กำหนดให้แสดงเป็นตัวละครหลักใน Cyberpunk 2077 ที่จะมาถึง แต่ในขณะนั้นเราอาจได้เห็นแฟนๆ หลั่งไหลเข้าหาคอนโซลเกมเพราะความคาดหวังและผิดหวังของทั้งครอบครัวและวงสังคม ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในโลกของ Esport เดิมพันสูงมาก

     ในทุกวันนี้เรามีการแข่งขันเล่นวิดีโอเกมในรูปแบบ Esport ที่แตกต่างออกไปทั้งลีกและทีม โดยเป็นการเผชิญหน้าในเกมเดียวกันที่นักเล่นเกมมือสมัครเล่นชื่นชอบอย่าง Fortnite, League of Legends, Counter-Strike, Call of Duty, และ Overwatch

     เมื่อเราพูดถึงคำว่า ‘เกมเมอร์’ มักจะมีภาพของวัยรุ่นสันโดษที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องนอนมืดๆ แต่วงการ Esports ท้าทายและลบล้างภาพจำแบบนั้นทั้งหมด ในปีนี้ Qudos Bank Arena จัดให้มีการแข่งขัน Esports ที่ได้เห็นสถานที่จัดงานชัดเจน ซึ่งเป็นสนามกีฬาในร่มที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย และขายหมดเกลี้ยงไปแล้ว รายงานจาก Newzoo กล่าวว่า ผู้คนจำนวน 454 ล้านคนทั่วโลกดู Esport ตัวเลขที่คาดว่าจะมีการก้าวกระโดดขึ้นอีก 190 ล้านในอีกสามปีข้างหน้า และคุณจะเข้าใจขนาดของธุรกิจองค์กรนี้ได้ดีขึ้น

     ในรายงานล่าสุดของ Forbes ระบุว่ารายรับทั่วโลกของ Esports “จะสูงถึง $ 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้เพิ่มขึ้นจาก 27% ในปี 2018 โดยอเมริกาเหนือมีสัดส่วนถึง 40% ” นอกจากนี้ตามรายงานยังระบุอีกว่า มี 13 บริษัทที่อยู่ภายในสนามกีฬา Esport ที่มีมูลค่ามากกว่า $100 ล้านเหรียญสหรัฐ และการประเมินค่าเฉลี่ยอยู่ที่ $217 ล้านเหรียญสหรัฐ

     สำหรับแฟนตัวยงของ Esports ทีมต่างๆ ที่ถูกจัดอันดับโดย Forbes นั้นเป็นทีมที่เราคุ้นเคย และ 13 ทีมที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก มีมูลค่ารวมถึง 4.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ

     และต่อไปนี้คือ 13 ทีม Esport ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ตามการจัดอันดับจาก Forbes

 

12. Misfits Gaming และ OverActive Media (เป็น 2 ทีมที่ครองอันดับ 12 ร่วมกัน ) – 175 ล้านเหรียญสหรัฐ (5,300 ล้านกว่าบาท)

     ลีกแฟรนไชส์-ทีม Misfits Gaming: LEC – Misfits Gaming, OWL – Florida Mayhem และ CDL – Florida Mutineers

     ทีมที่ไม่ใช่แฟรนไชส์: Fortnite, Marvel vs. Capcom, Clash Royale

     ลีกแฟรนไชส์-ทีม OverActive Media: League of Legends European Championship (LEC) – Splyce, Overwatch (OWL) – Toronto Defiant และ Call of Duty (CDL) – Toronto Ultra

     ทีมที่ไม่ใช่แฟรนไชส์ OverActive Media: Fortnite, Smite และ StarCraft II

________________________________________________

11. NRG Esports – 218.9 ล้านเหรียญสหรัฐ (6,600 ล้านกว่าบาท)

     ลีกแฟรนไชส์-ทีม: Team(s): OWL – San Francisco Shock และ  CDL – Chicago Huntsmen

     ทีมที่ไม่ใช่แฟรนไชส์: Fortnite, Rocket League, Clash Royale, Smash, Apex, Gears of War และ Dragon Ball Fighterz

________________________________________________

10. 100 Thieves – 233.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (7,000 ล้านกว่าบาท)

     ลีกแฟรนไชส์-ทีม: League of Legends Championship Series (LCS) – 100 Thieves

     ทีมที่ไม่ใช่แฟรนไชส์: Counter Strike และ Fortnite 

________________________________________________

 9. G2 Esports – 240.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (7,200 ล้านกว่าบาท)

     ลีกแฟรนไชส์-ทีม: LEC-G2

     ทีมที่ไม่ใช่แฟรนไชส์: CS:GO, Rainbow Six, Rocket League, PUBG, Apex, Fortnite, Hearthstone และ Sim Racing

________________________________________________

8. Envy Gaming – 248 ล้านเหรียญสหรัฐ (7,500 ล้านกว่าบาท)

     ลีกแฟรนไชส์-ทีม: OWL – Dallas Fuel และ CDL – Dallas Empire

     ทีมที่ไม่ใช่แฟรนไชส์: Overwatch Contenders, CS:GO, Fortnite, PUBG, Paladins และ Super Smash Bros

 

________________________________________________

 7.Fnatic – 255.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (7,700 ล้านกว่าบาท)

     ลีกแฟรนไชส์-ทีม: LEC – Fnatic

     ทีมที่ไม่ใช่แฟรนไชส์: CS:GO, Dota 2, Fortnite, Rainbow Six, Apex, Clash Royale, Rules of Survival และ Street Fighter V

________________________________________________

6. Gen.G – 270 ล้านเหรียญสหรัฐ (8,100 ล้านกว่าบาท)

     ลีกแฟรนไชส์-ทีม: League of Legends Champions Korea-Gen.G, OWL – Seoul Dynasty, NBA 2KL – Shanghai

     ทีมที่ไม่ใช่แฟรนไชส์: Overwatch Contenders, Fortnite (Team Bumble), PUBG, Apex Legends และ Clash Royale

 

________________________________________________

 5.Immortals Gaming Club – 306.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (9,200 ล้านกว่าบาท)

     ลีกแฟรนไชส์-ทีม: LCS – Immortals, OWL – Los Angeles Valiant และ CDL – OpTic Gaming Los Angeles

     ทีมที่ไม่ใช่แฟรนไชส์: Clash Royale (Immortals), CS:GO (MIBR) และ Rainbow Six (MIBR)

________________________________________________

4. FaZe Clan – 350.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (10,600 ล้านกว่าบาท)

     ลีกแฟรนไชส์-ทีม: ไม่มี

     ทีมที่ไม่ใช่แฟรนไชส์: CS:GO, PUBG, Call of Duty, Fortnite, Rainbow Six Siege และ FIFA 

________________________________________________

3. Team Liquid – 467 ล้านเหรียญสหรัฐ (14,000 ล้านกว่าบาท)

     ลีกแฟรนไชส์-ทีม: LCS – Team Liquid

     ทีมที่ไม่ใช่แฟรนไชส์: CS:GO, Dota 2, StarCraft2, Fortnite, Rainbow Six Siege, Clash Royale, PUBG, Apex, Hearthstone, Smash Melee, Smash Ultimate, Street Fighter V, Tekken, Quake และ Team Fight Tactics 

________________________________________________

1. Cloud9 และ Team SoloMid (เป็น 2 ทีมที่ครองอันดับ 1 ร่วมกัน) – 583.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (17,600 ล้านกว่าบาท)

     ลีกแฟรนไชส์-ทีม Cloud9: LCS – Cloud9, Overwatch – London Spitfire

     ทีมที่ไม่ใช่แฟรนไชส์ของ Cloud9: CS:GO, Fortnite, Hearthstone, PUBG, Rainbow Six, Rocket League, Super Smash Bros, Teamfight Tactics และ WoW

     ลีกแฟรนไชส์-ทีม Team SoloMid: LCS – Team Solomid

     ทีมที่ไม่ใช่แฟรนไชส์ของ Team SoloMid: League of Legends Academy, PUBG, Fortnite, Hearthstone, Smash, Overwatch, Rocket League, Apex Legends, Magic: The Gathering, Rainbow Six Siege และ Teamfight Tactics 

10.C++

   C++ คือ  ภาษา C programming language รุ่นใหม่ เป็นภาษาในการเขียนโปรแกรม  ถูกพัฒนาโดย Dr.Bjarne Stroustrup ซึ่งเป็นนักวิจัยอยู่ทีห้องปฏิบัติการ Bell Labs ประเทศสหรัฐอเมริกาในระหว่างปี พ.ศ. 2525-2528 ภาษา C++ เกิดจากแนวคิดในการเพิ่มประสิทธิภาพภาษา CC โดยได้นำความสามารถของ ภาษา C มาพัฒนา ให้เป็นโปรแกรมภาษาที่มีความเป็น Object Oriented Programming (โปรแกรมเชิงวัตถุ) และนี้เองคือที่มาของภาษา  C++ จากการพัฒนานี้ทำให้ทุกสิ่งที่ภาษา C ทำได้ ภาษา C++ ก็จะสามารถทำได้ แต่สิ่งที่ภาษา C++ ทำได้ ภาษา C อาจจะทำไม่ได้

9.ภาษาพีเอชพี PHP

   พีเอชพี PHP คือ ภาษาคอมพิวเตอร์ในลักษณะเซิร์ฟเวอร์-ไซด์ สคริปต์ โดยลิขสิทธิ์อยู่ในลักษณะโอเพนซอร์ส ภาษาพีเอชพีใช้สำหรับจัดทำเว็บไซต์ และแสดงผลออกมาในรูปแบบ HTML โดยมีรากฐานโครงสร้างคำสั่งมาจากภาษา ภาษาซี ภาษาจาวาและ ภาษาเพิร์ล ซึ่ง ภาษาพีเอชพี นั้นง่ายต่อการเรียนรู้ ซึ่งเป้าหมายหลักของภาษานี้ คือให้นักพัฒนาเว็บไซต์สามารถเขียน เว็บเพจ ที่มีการตอบโต้ได้อย่างรวดเร็ว ภาษาพีเอชพี ในชื่อภาษาอังกฤษว่า PHP ซึ่งใช้เป็นคำย่อแบบกล่าวซ้ำ จากคำว่า PHP Hypertext Preprocessor หรือชื่อเดิม Personal Home Page

8.ภาษาซีชาร์ป C#

  ภาษาซีชาร์ป (C♯ Programming Language) เป็นภาษาโปรแกรมแบบหลายโมเดล ที่ใช้ระบบชนิดข้อมูลแบบรัดกุม (strong typing) และสนับสนุนการเขียนโปรแกรมเชิงคำสั่ง การเขียนโปรแกรมเชิงประกาศ การเขียนโปรแกรมเชิงฟังก์ชัน การเขียนโปรแกรมเชิงกระบวนการ การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ(แบบคลาส) และการเขียนโปรแกรมเชิงส่วนประกอบ พัฒนาเริ่มแรกโดยบริษัทไมโครซอฟท์เพื่อทำงานบนดอตเน็ตเฟรมเวิร์ก โดยมีแอนเดอร์ เฮลส์เบิร์ก (Anders Hejlsberg) เป็นหัวหน้าโครงการ และมีรากฐานมาจากภาษาซีพลัสพลัสและภาษาอื่นๆ (โดยเฉพาะภาษาเดลไฟและจาวา) โดยมีจุดมุ่งหมายให้เป็นภาษาสมัยใหม่ที่ไม่ซับซ้อน ใช้งานได้ทั่วไป (general-purpose) และเป็นเชิงวัตถุเป็นหลัก

7.ภาษาไพทอน Python

   ภาษาไพทอน (Python programming language) เป็นภาษาระดับสูง เนื่องจากไพทอนเป็นภาษาสคริปต์ ทำให้ใช้เวลาในการเขียนและคอมไพล์ไม่มาก ทำให้เหมาะกับงานด้านการดูแลระบบ (System administration) เป็นอย่างยิ่ง มีการสนับสนุนภาษาไพทอนโดยเป็นส่วนหนึ่งของระบบปฏิบัติการยูนิกซ์, ลินุกซ์ และสามารถติดตั้งให้ทำงานเป็นภาษาสคริปต์ของวินโดวส์ ผ่านระบบ en:Windows Script Host ได้อีกด้วย

6. Shell script

   ผู้ที่ใช้งาน Unix หรือ Linux คงจะบอกว่าไม่รู้ว่า Shell script คืออะไร ก็คงไม่ได้ เพราะ Shell Script คือ การทำงานในแบบ Command-line interopreter ผ่าน Shell ทำงานได้เปรียบเสมือนภาษา program ชนิดหนึ่ง สำหรับผู้ที่ยังไม่ทราบว่าคำสั่ง command-line มีอะไรบ้างสามารถหาอ่านได้ที่นี่  คำสั่ง Unix – Linux Command พื้นฐาน Shell Script ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานได้รวมเร็วมากยิ่งขึ้น โดยการรวมเอาคำสั่งและเงื่อนไขที่ผู้ใช้ต้องการใส่ลงใน file และทำการ execute file นั้นเพื่อรอผลลัพธ์ที่ได้ในรูปแบบ text ส่วนมากใช้งานเพื่อให้ทำงานบนระบบอัตโนมัติตามเวลาที่เราต้องการ สำหรับบน Window หรือ DOS เราจะเรียกสิ่งนี้ว่า batch file ซึ่งก็คือการเอาชุดคำสั่งมาทำเป็น file เช่นเดียวกับ shell script และรันผ่าน cmd.exe

5.ภาษาจาวา Java

   ภาษาจาวา Java programming language เป็นภาษาโปรแกรมเชิงวัตถุ Object Oriented Programming พัฒนาโดย เจมส์ กอสลิง และวิศวกรคนอื่นๆ ที่ ซัน ไมโครซิสเต็มส์ ภาษาจาวาถูกพัฒนาขึ้นในปี พ.ศ. 2534(ค.ศ. 1991) โดยเป็นส่วนหนึ่งของ โครงการกรีน (the Green Project) และสำเร็จออกสู่สาธารณะในปี พ.ศ. 2538 (ค.ศ. 1995) ซึ่งภาษานี้มีจุดประสงค์เพื่อใช้แทนภาษาซีพลัสพลัส (C++) โดยรูปแบบที่เพิ่มเติมขึ้นคล้ายกับภาษาอ็อบเจกต์ทีฟซี (Objective-C) แต่เดิมภาษานี้เรียกว่า ภาษาโอ๊ก (Oak) ซึ่งตั้งชื่อตามต้นโอ๊กใกล้ที่ทำงานของ เจมส์ กอสลิง แต่ว่ามีปัญหาทางลิขสิทธิ์ จึงเปลี่ยนไปใช้ชื่อ “จาวา” ซึ่งเป็นชื่อกาแฟแทน

4. SQL

    SQL มาจากคำว่า  Structured Query Language  เป็นภาษามาตรฐานในการเข้าถึง ฐานข้อมูล เราสามารถใช้งานภาษา SQL ได้จากโปรแกรมต่างๆ ที่ต้องทำการกับระบบฐานข้อมูล เช่น ใช้ SQL ในการทำการดึงข้อมูล (Retrieve Data) จากฐานข้อมูล และมันเป็นมาตรฐานกลางที่ใช้ในระบบฐานข้อมูลต่างๆ โดยเป็นมาตรฐานของ ANSI (American National Standard Institute) เราจะใช้ SQL ในการ ใช้ในการสืบค้นข้อมูลในฐานข้อมูล , ใส่ข้อมูลเพิ่มเข้าไปยังฐานข้อมูล , ปรับปรุงข้อมูลในฐานข้อมูล เป็นต้น โดยแม้ว่า SQL เป็นมาตรฐานแต่ก็ยังมีหลาย เวอร์ชั่น ซึ่งก็จะมีความแตกต่างกันออกไป ในแต่ละผลิตภัณฑ์อีกด้วย แต่โครงสร้างหลักในการ SELECT, INSERT INTO, UPDATE หรือ DELETE ก็จะมีโครงสร้างเดียวกัน

3. CSS

    CSS ย่อมาจาก Cascading Style Sheets แคสเคดดิงสไตล์ชีตส์ เป็นภาษาสไตล์ชีตใช้ในการจัดรูปแบบของเอกสารที่เขียนในภาษามาร์กอัป CSS เป็นภาษาที่สำคัญตัวหนึ่งในการเขียนเว็บเพจ ซึ่งเขียนในภาษา HTMLและ XHTML แต่ก็ยังสามารถประยุกต์ใช้กับใน XML ซึ่งรวมถึง SVG และ XULด้วย มาตรฐาน CSS นั้น สร้างโดยกลุ่ม World Wide Web Consortium (W3C) แคสเคดดิงสไตล์ชีตส์ มักเรียกโดยย่อว่า สไตล์ชีต แต่ความจริงแล้วคำนี้อาจหมายถึงภาษาสไตล์ชีตอื่นก็ได้ ปัจจุบัน CSS แบ่งเป็น 4 รุ่น ได้แก่ CSS 1 ยอมรับเป็นมาตรฐาน ธันวาคม ค.ศ. 1996 , CSS 2 เริ่มร่าง ค.ศ. 1997 ยอมรับเป็นมาตรฐาน พฤษภาคม ค.ศ. 1998 , CSS 3 เริ่มร่าง ค.ศ. 1998 ยอมรับเป็นมาตรฐาน พฤศจิกายน ค.ศ. 2011 , CSS 4 เริ่มร่าง 29 กันยายน ค.ศ. 2009 ปัจจุบันยังไม่มีเว็บเบราว์เซอร์ที่รองรับ CSS 4

2. HTML เอชทีเอ็มแอล

   เอชทีเอ็มแอล HTML ย่อมาจาก Hypertext Markup Language เป็นภาษามาร์กอัปหลักในปัจจุบันที่ใช้ในการสร้างเว็บเพจ หรือข้อมูลอื่นที่เรียกดูผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์ ซึ่งตัวโค้ดจะแสดงโครงสร้างของข้อมูล ในการแสดง หัวข้อ ลิงก์ ย่อหน้า รายการ รวมถึงการสร้างแบบฟอร์ม เชื่อมโยงภาพหรือวิดีโอด้วย โครงสร้างของโค้ดเอชทีเอ็มแอลจะอยู่ในลักษณะภายในวงเล็บสามเหลี่ยม เอชทีเอ็มแอลเริ่มพัฒนาโดย ทิม เบอร์เนอรส์ ลี (Tim Berners Lee) สำหรับภาษา SGML ในปัจจุบัน HTML เป็นมาตรฐานหนึ่งของ ISO ซึ่งจัดการโดย World Wide Web Consortium (W3C) ในปัจจุบัน ทาง W3C ผลักดัน รูปแบบของ HTML แบบใหม่ ที่เรียกว่า XHTML ซึ่งเป็นลักษณะของโครงสร้าง XML แบบหนึ่งที่มีหลักเกณฑ์ในการกำหนดโครงสร้างของโปรแกรมที่มีรูปแบบที่มาตรฐานกว่า มาทดแทนใช้ HTML รุ่น 4.01 ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ขณะที่ HTML รุ่น 5 ยังคงยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา โดยได้มีการออกดราฟต์มาเสนอเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2551 HTML ยังคงเป็นรูปแบบไฟล์อย่างหนึ่ง สำหรับ .html และ สำหรับ .htm ที่ใช้ในระบบปฏิบัติการที่รองรับ รูปแบบนามสกุล 3 ตัวอักษร

1. JavaScript

   JavaScript คือ ภาษาคอมพิวเตอร์สำหรับการเขียนโปรแกรมบนระบบอินเทอร์เน็ต ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง Java JavaScript เป็น ภาษาสคริปต์เชิงวัตถุ (ที่เรียกกันว่า “สคริปต์” (script) ซึ่งในการสร้างและพัฒนาเว็บไซต์ (ใช่ร่วมกับ HTML) เพื่อให้เว็บไซต์ของเราดูมีการเคลื่อนไหว สามารถตอบสนองผู้ใช้งานได้มากขึ้น ซึ่งมีวิธีการทำงานในลักษณะ “แปลความและดำเนินงานไปทีละคำสั่ง” (interpret) หรือเรียกว่า อ็อบเจ็กโอเรียลเต็ด (Object Oriented Programming) ที่มีเป้าหมายในการ ออกแบบและพัฒนาโปรแกรมในระบบอินเทอร์เน็ต สำหรับผู้เขียนด้วยภาษา HTML สามารถทำงานข้ามแพลตฟอร์มได้ โดยทำงานร่วมกับ ภาษา HTML และภาษา Java ได้ทั้งทางฝั่งไคลเอนต์ (Client) และ ทางฝั่งเซิร์ฟเวอร์ (Server) 

   JavaScript ถูกพัฒนาขึ้นโดย เน็ตสเคปคอมมิวนิเคชันส์ (Netscape Communications Corporation) โดยใช้ชื่อว่า Live Script ออกมาพร้อมกับ Netscape Navigator2.0 เพื่อใช้สร้างเว็บเพจโดยติดต่อกับเซิร์ฟเวอร์แบบ Live Wire ต่อมาเน็ตสเคปจึงได้ร่วมมือกับ บริษัทซันไมโครซิสเต็มส์ปรับปรุงระบบของบราวเซอร์เพื่อให้สามารถติดต่อใช้งานกับภาษาจาวาได้ และได้ปรับปรุง LiveScript ใหม่เมื่อ ปี 2538 แล้วตั้งชื่อใหม่ว่า JavaScript JavaScript สามารถทำให้ การสร้างเว็บเพจ มีลูกเล่น ต่าง ๆ มากมาย และยังสามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ได้อย่างทันที เช่น การใช้เมาส์คลิก หรือ การกรอกข้อความในฟอร์ม เป็นต้น 

ที่มา itnewsafrica