Skip to content
Home » [Update] 125 ประโยคปฏิเสธ ภาษาอังกฤษ เรียง A-Y แทนคำว่า No เอาไปใช้โก้โก้กัน | เรียง ประโยค ภาษา อังกฤษ ให้ ถูก ต้อง – NATAVIGUIDES

[Update] 125 ประโยคปฏิเสธ ภาษาอังกฤษ เรียง A-Y แทนคำว่า No เอาไปใช้โก้โก้กัน | เรียง ประโยค ภาษา อังกฤษ ให้ ถูก ต้อง – NATAVIGUIDES

เรียง ประโยค ภาษา อังกฤษ ให้ ถูก ต้อง: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

Table of Contents

ใครๆก็ไม่ชอบถูกปฏิเสธใช่ไหมครับ

แต่บางครั้งเมื่อคุณจำเป็นต้องแสดงจุดยืน มันคงจะดีกว่าที่จะสามารถนำภาษาหรือประโยคที่สะท้อนถึงอารมณ์ในตอนนั้นมาตอบ แทนคำว่า No เพราะบางครั้งคุณและคู่สนทนาต้องการรายละเอียดมากกว่าแค่คำว่า No ใช่ไหมครับ

การปฏิเสธใครนั้นเป็นเรื่องที่ยาก แต่ที่ยากยิ่งกว่าคือการที่คุณเรียนรู้ที่จะปฏิเสธให้เป็น!

เชื่อไหมครับ คนไทยส่วนใหญ่มีนิสัยขี้เกรงใจ และไม่กล้าที่จะปฏิเสธ แต่ที่ยากไปหว่านั้นสำหรับคุณคนไทยคือ ไม่รู้ว่าจะสรรหาคำไหนมาบอกว่าไม่ แทนคำว่า No เพราะแม้กระทั่งคำว่า No ในหลายกรณีนั้นก็ช่างสั้นห้วนจนเกินไป ยิ่งคนไทยอย่างพวกเรายิ่งรู้สึกรับไม่ได้ เพราะมันดูไม่รักษาน้ำใจกันเอาซะเลย

ถ้าไม่เชื่อลองดูตัวอย่าง เวลาคุณหญิงไทยบอกปฏิเสธเวลาแฟนขอมีอะไรด้วยกันนะครับ 18+ 555

สถานการณ์ : สองต่อสอง อากาศดี เริ่มพลบค่ำ ผู้ชายเริ่มใกล้ชิด อะไรก็เป็นใจ แล้วถ้าเป็นคุณจะพูดปฏิเสธอย่างไร?

A:แม่ใส่กุญแจล๊อคไว้

B:เราเป็นประจำเดือน วันนี้เราปวดท้องมากเลย

C:ถ้าพี่รักหนูจริง ต้องแต่งงานกับหนูก่อนนะ หนูจะเก็บซิงไว้ให้พี่

D:ปวดหัวจี๊ดเลย โอ๊ยไมเกรนแน่ๆ

E:เราเป็น เอดส์อะ จะทำใส่ถุงก่อนนะ

F:ไม่…จบป่ะ

ก็ขำๆนะครับ

วันนี้ทางทีมงานอิงฟินิตี้ จึงสรรหาการบอกปฏิเสธเป็นภาษาอังกฤษให้

เพื่อช่วยให้คนไทยสามารถ ปฏิเสธได้อย่างนุ่มนวล และที่สำคัญตรงกับทุกอารมณ์ที่คุณต้องการจะสื่อ ในทุกๆสถานการณ์

คุณสามารถเรียนรู้ภาษาอังกฤษแบบง่ายๆ ไสตล์ Engfinity กับพวกเรา ที่นี่

125 ประโยคปฏิเสธ ภาษาอังกฤษ เรียง A-Y ไว้เป็น ways to say No

1    Another time might work. ประโยคปฎิเสธ ภาษาอังกฤษ ที่เลื่อนเวลาออกไปเหมือนคนไทยบอกว่า ไว้คราวหน้าละกันเนอะ

2    Apologies, but I can’t make it. ขอโทษนะแต่ฉันทำไม่ได้หรอก แล้วส่งแววตาสุดเสียใจให้ไป

3    Are you able to better that offer? คุณมีข้อเสนอที่ดีกว่านี้มั้ยละ ธุรกิจโคตรๆ

4    Ask me in a year. ขออีกทีอีกปีละกันก็คล้ายๆเลื่อนออกไปนะครับ

5    Bandwidth is low, so I won’t be able to make it work. ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหใายเลขทีท่านเรียก ประมาณนี้

6    Bye now. บายยยย คนไทยสมัยนี้ชอบพูดจะตาย

7    Can I get back to you on that?

8    catch me!

9    Darn! Not able to fit it in.

10    Ew.

11    fat chance อันนี้จะแนวประชดนะครับ ว่าไม่ ไม่ได้แปลว่า โอกาสเยอะ

12    for foul nor fair

13    go fish มาจากการเล่นเกมส์ไพ่ของชาวต่างชาติ ตอนเด็กๆก้เคยเล่นตอนนี้จำไม่ได้แล้วครับ

14    Heck no.

15    Here goes…

16    I believe I wouldn’t fit the bill, sorry.

17    I can’t make it work.

18    I could. And I did.

19    I cry, but decline.

20    I don’t have an iota of bandwidth left in my brain.

21    I have something else. Sorry.

22    I know someone that might be a fit for that. I’ll email you their information. อันนี้ก็เจ็บนะครับ

23    I only say yes to very select opportunities, and unfortunately this doesn’t meet my criteria.

24    I wish I could make it work.

25    I wish I had all the time in the world.

26    I wish I were able to.

27    I wish there were two of me!

28    I won’t be able to dedicate the time I need to it.

29    I won’t be able to help.

30    I’d love to — but can’t.

เดี๋ยวทยอยลงเพิ่มให้นะครับ ถ้ารอไม่ไหวลองอ่านบทความพัฒนาภาษาอังกฤษ เจ๋งๆรอไปก่อนนะครับ

กระทู้พัฒนาภาษาที่น่าสนใจ ในนี้มีกระทู้ Pantip pick ด้วยนะเอออ ให้ทายว่าอันไหน สุดแสนภูมิใจ เอิ้กๆ

125 ประโยคปฏิเสธ ภาษาอังกฤษ เรียง A-Y ไสตล์ชิวๆ

31    I’ll need to bow out. คนละอย่างกับ blow job นะครับคุณ

32    I’m at the end of my rope right now so have to take a raincheck.

33    I’m booked into something else.

34    I’m flattered you considered me, but unfortunately I’ll have to pass this time.

35    I’m going to have to exert my NO muscle on this one.

36    I’m head-down right now on a project, so won’t be able to.

37    I’m honored, but can’t.

38    I’m in a season of NO.

39    I’m learning to limit my commitments.

40    I’m not able to make it this week/month/year.

41    I’m not able to make that time.

42    I’m not able to set aside the time needed.

43    I’m not sure I’m the best for it.

44    I’m not taking on anything else right now.

45    I’m not taking on new things.

46    I’m not the girl for you on this one.

47    I’m slammed.

48    I’m taking some time.

49    I’m trying to cut back.

50    I’ve got too much on my plate right now.

51    Ick.

52    If only I could!

53    If only I had a clone!

54    If only it worked.

55    If only.

56    I’m not the person you’re looking for.

57    I’m really buckling down on my priorities right now, so I can’t.

58    I’m RESTing right now.

59    In another life. ชาติหน้าตอนบ่ายๆ หรือสายๆก็ได้นะน้อง 5555

60    It doesn’t sound like the right fit.

61    It just won’t fit right now.

62    It sounds like you’re looking for something I’m not able to give right now.

63    It’s not a good idea for me. ไม่ใช่ไอเดียที่ดีมั้งครับ

64    It’s a Wednesday. I have a “No on Wednesday” policy.

65    It’s not feasible for me to take this on.

66    It’s that time of the year when I must say no.

67    Look! Squirrel!

68    Maybe another time.

69    My advisors won’t agree to it.

70    My body double can.

71    My body says yes, but my heart says No.

72    My word of the year is REST, so I can’t fit another thing in.

73    N to the O.

74    nah

75    nay

76    negative ประโยคปฏิเสธ ภาษาอังกฤษ แบบทหารโคตรๆ เคยดูในหนังแบบต้องตอบเข้มๆนิดนึง

77    nix มาจาก nitch ซึ่งแปลว่า nothing

78    nixie / nixy / nixey

79    no

80    no fear

81    No say I.

82    no siree

83    No thank you, but it sounds lovely.

84    No thanks, I have another commitment.

85    No thanks, I won’t be able to make it.

86    no way

87    no way, José

88    No, I’d rather you didn’t, but thanks anyway

89    No, sorry, that’s not really my thing

90    NoNoNoNoNoNo.

91    Nope.

92    not a cat (in hell)’s chance

93    not for all the tea in China

94    not for Joe

95    not in a million years

96    not likely

97    Not now.

98    not on your life

99    not on your Nelly

100    not on your tintype

101    Not possible.

102    Not this time.

103    out of the question

104    Perhaps next season when things clear up.

105    pigs might fly หมูมันไม่บิน หมูไม่มีปีก หรอกครับคุณ สะท้อนถึงความเป็นไปไม่ได้

106    pigs have wings

107    pigs don’t fly

108    Rats! Would’ve loved to.

109    Regrettably, I’m not able to.

110    Sadly I have something else.

111    Sorry, no can do.

112    Sounds great, but I can’t commit.

113    Thank you for thinking of me. Unfortunately it’s just not a match.

114    Thank you so much for asking. Can you keep me on your list for next year?

115    Thanks for thinking of me, but I can’t.

116    Thanks, but no thanks.

117    The demands would be too much for me.

118    thumbs down สัญลักษณ์พื้นฐานของการปฏิเสธ หรือไม่ยอมรับ

119    uh-uh

120    under no circumstances

121    Unfortunately not.

122    Unfortunately, it’s not a good time.

123    veto รากศัพท์ภาษาลาตินแต่ใช้บ่อยในภาษอังกฤษ

124    What’s the compensation?

125    You’re so kind to think of me, but I can’t.

เป็นอย่างไรบ้างครับ สำหรับสารพันตัวอย่าง ประโยคปฏิเสธ ภาษาอังกฤษ 125 คำที่ทางทีม Engfinity เตรียมไว้ให้

คร่าวๆสำหรับการใช้งานคือ ยิ่งเป็นคำปฏิเสธที่สั้น ยิ่งต้องใช้กับคนสนิท หรือยิ่งสั้นความเป็นทางการจะน้อยลงนั่นเอง และถ้าเราสังเกตดูประโยคยาวๆส่วนใหญ่จะพยายามปฏิเสธแบบอ้อมๆนิดนึง

สมัยนี้แล้วคุณๆที่เป็นผู้หญิงก็อาจอยากลุ้นซื้อตั๋วโกอินเตอร์เจอแฟนฝรั่งกันบ้างใช่ไหมละ แต่บางครั้งเรื่องวัฒนธรรมย่อมสำคัญ เอาอย่างง่ายๆ การจูบฝรั่งถือเป็นเรื่องธรรมดา อาจเป็นการทักทายทั่วไป คุณหญิงไทยใจงามหลายคนคงเก็บจูบแรกไว้ให้สุดที่รักพรหมลิขิตของคุณใช่ไหมละครับ เพราะฉะนั้น คุณจงฝึก ประโยคปฎิเสธ ภาษาอังกฤษ ไว้ให้ดี เพราะเมื่อถึงคราวเหมาะสม จะได้ไม่ปฏิเสธบ้าง อิอิ

สำหรับคุณหนุ่มๆที่อ่าน ทีมงานเรามีโบนัสสุดเสี่ยวแถมให้ เผื่อเอาไปใช้เล่นๆ

[NEW] หลักการใช้คอมม่า (Comma) ในภาษาอังกฤษ | เรียง ประโยค ภาษา อังกฤษ ให้ ถูก ต้อง – NATAVIGUIDES

คอมม่า (,) เป็นเครื่องหมายวรรคตอนที่ใช้บ่อยในภาษาอังกฤษ แต่ถึงแม้จะถูกใช้บ่อย หลายๆคนก็ยังคงสับสนอยู่ดี ว่าเราควรใช้คอมม่าตอนไหนและต้องใช้อย่างไรบ้าง

สำหรับคนที่สงสัย ในบทความนี้ ชิววี่ก็ได้เรียบเรียงเนื้อหาการใช้คอมม่าในภาษาอังกฤษ มาให้เพื่อนๆได้เรียนรู้กันได้อย่างง่ายๆแล้ว ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

คอมม่าคืออะไร

คอมม่า (comma) เป็นเครื่องหมายวรรคตอนในภาษาอังกฤษ ทำหน้าที่แยกคำ วลี หรือประโยค เพื่อให้ผู้อ่านสามารถอ่านจับใจความได้ง่ายและถูกต้องมากขึ้น

ถ้าเปรียบเทียบคอมม่ากับเครื่องหมายจุด (.) ที่ใช้ปิดท้ายประโยค หรือที่เรียกว่า period เครื่องหมายทั้ง 2 ตัวนี้จะเป็นตัวบอกการเว้นจังหวะในการอ่านและพูดเหมือนกัน แต่เครื่องหมายคอมม่าจะเป็นตัวบอกจังหวะการเว้นที่สั้นกว่า

หลักการใช้คอมม่า

ใครที่มีข้อสงสัยว่าเราต้องใช้คอมม่าในกรณีไหนและต้องใช้ยังไงบ้าง ก็ไปดูหลักการใช้คอมม่าทั้ง 11 ข้อกันเลย

1. ใช้คอมม่าหน้าคำเชื่อมที่เชื่อม independent clause

Independent clause (ประโยคใจความสมบูรณ์) คือประโยคที่มีทั้งประธานและคำกริยา ตัวประโยคจะมีใจความสมบูรณ์ในตัวมันเอง เช่น

I am a student. (ฉันเป็นนักเรียน) – ถือเป็น independent clause เพราะมีทั้งประธานและคำกริยา
Feel good (รู้สึกดี) – ไม่ใช่ independent clause เพราะไม่มีประธาน
Big black cat (แมวสีดำตัวใหญ่) – ไม่ใช่ independent clause เพราะไม่มีคำกริยา

ส่วนคำเชื่อมในที่นี้จะต้องเป็น coordinating conjunction ซึ่งก็คือคำเชื่อมที่ให้น้ำหนักกับ 2 สิ่งที่ถูกเชื่อมเท่าๆกัน โดยอาจใช้เชื่อมคำ วลี หรือประโยคก็ได้ coordinating conjunction มีทั้งหมด 7 ตัวคือ for, and, nor, but, or, yet, so (เมื่อนำอักษรแรกมาต่อกันจะได้เป็น FANBOYS ใช้ช่วยให้ท่องจำได้ง่ายขึ้น)

หากเราเชื่อม independent clause 2 ประโยคด้วย coordinating conjunction เราจะต้องใช้คอมม่าหน้า coordinating conjunction

โครงสร้างการใช้

independent clause + , + coordinating conjunction + independent clause

ตัวอย่างประโยค

He didn’t speak to anyone, and nobody spoke to him.
เขาไม่ได้พูดกับใคร และก็ไม่มีใครพูดกับเขา

I wanted to stay home, but my wife wanted to go shopping.
ฉันอยากอยู่บ้าน แต่ภรรยาของฉันอยากไปช้อปปิ้ง

เราจะไม่ใช้คอมม่า ถ้าข้างหน้าหรือข้างหลัง coordinating conjunction ไม่ใช่ independent clause

She brushed her teeth and washed her face.
เธอแปรงฟันและล้างหน้า
(washed her face ไม่ใช่ independent clause)

I am not a writer but an editor.
ฉันไม่ใช่นักเขียน แต่เป็นบรรณาธิการ
(an editor ไม่ใช่ independent clause)

2. ใช้คอมม่าเมื่อขึ้นต้นประโยคด้วย dependent clause

Dependent clause คือประโยคที่มีใจความไม่สมบูรณ์ เวลาใช้จะต้องใช้ร่วมกับประโยคอื่น ในที่นี้เราจะแบ่งออกเป็น 3 กรณี

1. Participial phrase

เมื่อประโยคขึ้นต้นด้วยวลีจำพวก participial phrase ซึ่งก็คือวลีที่ขึ้นต้นด้วย v. + ing หรือ v. ช่อง 3 เราจะต้องใช้คอมม่าคั่นหลังวลีนั้น

โครงสร้างการใช้

participial phrase + , + ประโยคหลัก

ตัวอย่างประโยค

Being the only son in the family, his family have high hopes for him.
ด้วยการที่เขาเป็นลูกชายคนเดียวในครอบครัว ครอบครัวของเขาจึงตั้งความหวังกับเขาไว้สูง

Bitten by my own dog, I was very disappointed.
การโดนกัดโดยหมาของตัวเองทำให้ฉันรู้สึกผิดหวังมาก

2. Adverbial phrase

แต่ถ้าประโยคขึ้นต้นด้วย adverbial phrase ซึ่งก็คือวลีที่ทำหน้าที่เป็น adverb เราอาจใช้คอมม่าหรือไม่ใช้ก็ได้ (ถ้า adverbial phrase ยาว หรือเราต้องการเน้น adverbial phrase นั้น เราจะนิยมใช้คอมม่า)

ตัวอย่าง adverbial phrase เช่น
At 6 o’clock
After the show
In the middle of Bangkok

โครงสร้างการใช้

adverbial phrase + (,) + ประโยคหลัก

ตัวอย่างประโยค

In 2020 there is a pandemic affecting the world.
ในปี 2020 มีโรคระบาดที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก

When I was six, I lived in Chiang Mai with my mom.
ตอนฉันอายุหกขวบ ฉันอาศัยอยู่ที่เชียงใหม่กับแม่ของฉัน

3. Sentence adverb

ถ้าประโยคขึ้นต้นด้วย sentence adverb ซึ่งก็คือคำจำพวก adverb ที่ทำหน้าที่ขยายทั้งประโยค เราจะใช้คอมม่าคั่นหลัง sentence adverb นั้น

โครงสร้างการใช้

sentence adverb + , + ประโยคหลัก

ตัวอย่างประโยค

Honestly, I am not angry.
ตรงๆเลยนะ ฉันไม่ได้โกรธ

Clearly, this plan isn’t working.
เห็นได้ชัดว่าแผนนี้ใช้ไม่ได้ผล

3. ใช้คอมม่าคั่นวลีหรือคำกลางประโยคที่ทำหน้าที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติม

เราจะใช้คอมม่าคั่นวลีหรือคำที่อยู่กลางประโยค ถ้าวลีหรือคำนั้นทำหน้าที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติม แต่ไม่ได้จำเป็นสำหรับประโยค (แม้ตัดออกไป ใจความหลักของประโยคก็ยังเหมือนเดิม)

โครงสร้างการใช้

ประโยคส่วนที่ 1 + , + วลี/คำที่ทำหน้าที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติม + , + ประโยคส่วนที่ 2

ตัวอย่างประโยค

Tim, unlike Joe, is very polite.
ทิมเป็นคนสุภาพมาก ไม่เหมือนกับโจ

King Crab restaurant, which Anne recommended, is fantastic.
ร้านอาหารคิงแครบที่แอนแนะนำนั้นดีมาก

แต่ถ้าวลีหรือคำนั้นจำเป็นสำหรับประโยค ถ้าตัดออกแล้วใจความเปลี่ยน เราก็จะไม่ใช้คอมม่า

People who exercise regularly tend to be more happy.
คนที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอมักจะมีความสุขมากกว่า
(ถ้าตัด who exercise regularly ทิ้ง ความหมายจะเปลี่ยนเป็น “คนจะมีความสุขมากกว่า” ซึ่งมีใจความผิดไปจากเดิม)

The restaurant that Anne recommended is fantastic.
ร้านอาหารที่แอนแนะนำนั้นดีมาก
(ถ้าตัด that Anne recommended ทิ้ง ความหมายจะเปลี่ยนเป็น “ร้านอาหารดีมาก” ซึ่งมีใจความผิดไปจากเดิม คือเราจะไม่รู้ว่าหมายถึงร้านไหน)

วลีที่ขึ้นต้นด้วย that มักจะจำเป็นสำหรับประโยค เรามักจะไม่ใช้คอมม่าครอบส่วนนั้น

4. ใช้คอมม่าแยกรายการคำตั้งแต่ 3 รายการขึ้นไป

ถ้าเรามีรายการคำตั้งแต่ 3 รายการขึ้นไป เราจะต้องคั่นแต่ละรายการด้วยคอมม่า ยกเว้นรายการสุดท้าย เราจะคั่นด้วยคอมม่าหรือไม่ก็ได้

โครงสร้างการใช้

รายการหนึ่ง, รายการสอง(,) and รายการสุดท้าย

ตัวอย่างประโยค

He is tall, dark, and handsome.
หรือ He is tall, dark and handsome.
เขาทั้งสูง เข้ม และหล่อ

She needs salt, pepper, and other seasonings at the grocery store.
หรือ She needs salt, pepper and other seasonings at the grocery store.
เธอต้องการเกลือ พริกไทย และเครื่องปรุงอย่างอื่นที่ร้านขายของ

5. ใช้คอมม่าคั่นระหว่าง coordinate adjectives

Coordinate adjectives คือคำคุณศัพท์ที่ขยายคำนามคำเดียวกันและมีความสำคัญเท่าๆกัน สามารถสลับที่กันได้ ตัวอย่างเช่น

เราสามารถใช้ได้ทั้ง long, narrow path
และ narrow, long path
คำว่า long และ narrow ในที่นี้จะถือเป็น coordinate adjectives

เราสามารถใช้ big black bear
แต่ไม่สามารถใช้ black big bear
คำว่า big และ black ไม่ถือเป็น coordinate adjectives (การใช้ adjective ขนาดจะต้องมาก่อนสี)

โครงสร้างการใช้

coordinate adjective 1 + , + coordinate adjective 2 + คำนาม

ตัวอย่างประโยค

The happy, lively cat is playing with the ball.
แมวที่มีความสุขสดใสกำลังเล่นกับลูกบอล

My roommate is a cheerful, kind girl.
รูมเมทของฉันเป็นเด็กผู้หญิงที่ร่าเริงและใจดี

ทั้งนี้ เราสามารถใช้ and เชื่อมระหว่าง coordinate adjectives แทนคอมม่าก็ได้เช่นกัน อย่างเช่น My roommate is a cheerful and kind girl.

6. ใช้คอมม่าคั่นระหว่างคำพูดกับวลีที่กำกับ

ในภาษาอังกฤษ เวลาเราเขียนประโยคที่เป็นคำพูด เราจะใช้เครื่องหมาย “-” ครอบประโยคคำพูดนั้น อย่างเช่น Anne said, “I feel sick.” ซึ่งแปลว่า แอนพูดว่า “ฉันรู้สึกป่วย”

สังเกตว่า เราจะใช้คอมม่าคั่นระหว่างวลีที่เข้ามากำกับ ซึ่งก็คือ Anne said และประโยคที่เป็นคำพูด ซึ่งก็คือ “I feel sick.”

ทั้งนี้ วลีที่กำกับนั้นอาจจะอยู่หน้า อยู่กึ่งกลาง หรืออยู่หลังประโยคที่เป็นคำพูดก็ได้

โครงสร้างการใช้

  • วลีกำกับ, “ประโยคคำพูด”
  • “ประโยคคำพูด,” วลีกำกับ, “ประโยคคำพูด”
  • “ประโยคคำพูด,” วลีกำกับ

ตัวอย่างประโยค

He answered, “She is not here.”
เขาตอบ “เธอไม่ได้อยู่ที่นี่”

“I think,” she said, “Joe can help.”
“ฉันคิดว่า” เธอพูด “โจสามารถช่วยได้”

“It is raining,” Tim said.
“ฝนกำลังตก” ทิมพูด

ในกรณีที่วลีกำกับอยู่ข้างหลังประโยคคำพูด ถ้าประโยคคำพูดลงท้ายด้วยเครื่องหมายตกใจ (!) หรือเครื่องหมายคำถาม (?) เราจะไม่ต้องใช้คอมม่า

“Stop playing video game!” mom yelled.
“หยุดเล่นเกมได้แล้ว” แม่ตวาด

“Are you alright?” Ben asked.
“คุณโอเคมั้ย” เบ็นถาม

บางคนอาจสงสัยว่า เราต้องใส่คอมม่าไว้ในหรือนอกเครื่องหมาย “-” ทำไมบางทีเห็นแต่ละที่ใช้ไม่เหมือนกัน

คำตอบก็คือถ้าเป็น American English จะนิยมเอาไว้ข้างใน เช่น “It is raining,” Tim said. แต่ถ้าเป็น British English จะนิยมเอาไว้ข้างนอก เช่น “It is raining”, Tim said.

7. ใช้คอมม่าในการแยกวันที่และสถานที่

ใช้คอมม่าคั่นระหว่างวันและปีเมื่อเราเขียนวันที่ในรูปแบบ เดือน-วันที่-ปี แต่ถ้าเราเขียนในรูปแบบ วันที่-เดือน-ปี เราจะไม่ต้องใช้คอมม่า

โครงสร้างการใช้

เดือน วันที่, ปี

ตัวอย่างประโยค

She was born on December 10, 1995.
เธอเกิดเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 1995

She was born on 10 December 1995.
เธอเกิดเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 1995

และใช้คอมม่าคั่นระหว่างคำบอกสถานที่ที่ต่างกัน เช่น เมือง จังหวัด รัฐ ประเทศ

โครงสร้างการใช้

  • ชื่อตำบล, ชื่อเขต, ชื่อจังหวัด, ชื่อประเทศ
  • ชื่อเมือง, ชื่อรัฐ, ชื่อประเทศ

ตัวอย่างประโยค

I live in Bangkok, Thailand.
ฉันอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย

He came from Chicago, Illinois.
เขามาจากเมืองชิคาโก้ รัฐอิลลินอยส์

8. ใช้คอมม่าหน้า question tag

ใช้คอมม่าคั่นระหว่างประโยคหลักกับ question tag

โครงสร้างการใช้

ประโยคหลัก + , + question tag

ตัวอย่างประโยค

These flowers are beautiful, aren’t they?
ดอกไม้เหล่านี้สวยมาก ว่ามั้ย

You didn’t forget the key, did you?
คุณไม่ได้ลืมกุญแจใช่มั้ย

9. ใช้คอมม่าเมื่อเรียกบุคคลโดยตรง

ใช้คอมม่าคั่นระหว่างคำเรียกบุคคลอื่นกับส่วนอื่นของประโยค เมื่อเราเรียกบุคคลนั้นโดยตรง

โครงสร้างการใช้

  • ประโยคหลัก + , + คำเรียกบุคคล
  • คำเรียกบุคคล + , + ประโยคหลัก

ตัวอย่างประโยค

Dad, where are you?
พ่ออยู่ไหน

See you later, John.
ไว้เจอกันใหม่นะจอห์น

10. ใช้คอมม่าหลังคำขึ้นต้นประโยค

ใช้คอมม่าคั่นระหว่างคำขึ้นต้นประโยคกับประโยคหลัก อย่างเช่น คำทักทาย yes/no

โครงสร้างการใช้

  • คำทักทาย + , + ประโยคหลัก
  • yes/no + , + ประโยคหลัก

ตัวอย่างประโยค

Hello, how is it going?
สวัสดี เป็นยังไงบ้าง

Yes, I live by myself.
ใช่ ฉันอยู่คนเดียว

11. ใช้คอมม่าเพื่อป้องกันการสับสน

เราจะใช้คอมม่าในประโยคที่อาจก่อให้เกิดความสับสนหรือความเข้าใจผิดแก่ผู้อ่าน เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจความหมายได้ถูกต้องมากขึ้น

ตัวอย่างประโยค

I waved at my friend who entered the canteen, and smiled.
ฉันโบกมือให้เพื่อนที่เข้ามาในโรงอาหาร และยิ้มให้เค้า
(คอมม่าทำให้เรารู้ว่าฉันเป็นคนยิ้ม ไม่ใช่เพื่อนยิ้ม)

เป็นยังไงบ้างครับกับหลักการใช้เครื่องหมายคอมม่า (comma) ในภาษาอังกฤษ ทีนี้เพื่อนๆก็คงจะเข้าใจและสามารถนำไปใช้ได้ถูกต้องมากขึ้นแล้วนะครับ

อย่าลืมนะครับ ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนรู้ ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next time


สรุป Tense แบบกระจ่าง เข้าใจใน 30 นาที!! โดย ครูพี่แอน


ถ้าไม่อยากพลาดคลิปการสอนเจ๋งๆจากครูพี่แอน อย่าลืม กดsubscribe และดกดกระดิ่งแจ้งเตือนช่อง YOUTUBE ของครูพี่แอนไว้ด้วยน้า (จะเป็นกำลังใจให้ครูพี่แอนได้มากที่สุดในโลกเลยยยย)
สนใจคอร์สเรียน Perfect English ของครูพี่แอน รีบแอดไลน์มารับโปรส่วนลด พร้อมเรียนทวนฟรีได้ตลอดชีพ!
สามารถติดต่อได้ที่ Line : @chula_tutor (มี @ ด้วยนะน้า) หรือคลิกที่ http://line.me/ti/p/@chula_tutor เพื่อติดต่อทางไลน์โดยตรงได้เลยค่ะ

เชื่อว่านักเรียนทุกคนเคยเรียน Tense กันมาตั้งแต่เด็กๆ
เรียนกันมานานหลายปี แต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่เข้าใจจริงๆว่ามันคืออะไร
ใช้ยังไง แบบไหนเรียกว่าอะไร
ครูพี่แอนจะมาแจกสูตรลับเรื่องของ Tense ให้เข้าใจอย่างกระจ่าง!!
เปลี่ยนการเรียน Tense แบบเดิมๆ ที่เคยเรียนมา
หลักสูตรการสอนแบบ Speed up โดย ครูพี่แอน
ที่จะทำให้นักเรียนเข้าใจเรื่อง Tense ใน 30 นาที!!!

ติดตามครูพี่แอนได้ที่ช่องทาง
Perfect English : https://www.facebook.com/englishforfunbyann
IG : https://www.instagram.com/krupann.english/
twitter : https://twitter.com/englishbykruann
Tiktok : https://www.tiktok.com/@krupann.english
ครูพี่แอน KruPAnn ภาษาอังกฤษ OnlineEnglish คอร์สเรียนออนไลน์ เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

สรุป Tense แบบกระจ่าง เข้าใจใน 30 นาที!! โดย ครูพี่แอน

ทำงานที่ออสได้เงินเดือนละแสน?💸🇦🇺 รีวิวการทำงาน,วิธีสมัครงาน Uber (อ่อนภาษา) Ep.3 | Juneissaree


สวัสดีค่ะ เราจะมารีวิวการทำงาน,การหางาน,ค่าแรงที่ได้ เป็นประสบการณ์(ของเรา) หวังว่าคลิปนี้จะมีประโยชน์กับคนที่กำลังหาข้อมูลไปประเทศออสเตรเลียนะค้าา💘
ค่าแรงขั้นต่ำ/ชม.การทำงานวีซ่านักเรียน
ประสบการณ์การทำงานในออส
วิธีหางาน
ขั้นตอนการสมัครงานร้านอาหารไทย,Uber
Link สมัคร UberEat
https://www.uber.com/a/signup/drive/d…
Link ขอ Police check
https://www.nationalcrimecheck.com.au…
Instagram : https://instagram.com/juneniissum?utm…
Facebook : https://www.facebook.com/jissaree/
Contact me
[email protected]
LINE : juneniissum (for work)
Facebook page : June Issaree
ออสเตรเลีย เรียนต่อออสเตรเลีย เรียนต่อต่างประเทศ Melbourne Australia
เรียนภาษา ทำงานในต่างประเทศ ย้ายประเทศกันเถอะ Ubereats

ทำงานที่ออสได้เงินเดือนละแสน?💸🇦🇺 รีวิวการทำงาน,วิธีสมัครงาน Uber (อ่อนภาษา) Ep.3 | Juneissaree

เรียงประโยคภาษาอังกฤษ อย่างไรให้เป๊ะปัง 💖👇🏻👇🏻🎉🧡


เรียงประโยคภาษาอังกฤษ อย่างไรให้เป๊ะปัง 💖👇🏻👇🏻🎉🧡

วิชาภาษาอังกฤษ ม.2 | วิธีเรียงลำดับ adjectives ที่ซ้อนกันหลายตัว (Adjective Order)


AdjectiveOrder ลำดับของคำคุณศัพท์ adjectives วิชาภาษาอังกฤษ
Adjective order คือ การเรียงลำดับของคำคุณศัพท์ให้ถูกต้องนั่นเอง ในภาษาอังกฤษนั้นมีคำคุณศัพท์หรือ Adjective หลายคำด้วยกัน และหลายครั้งในประโยคมี adjectives ซ้อนกันหลายตัว ซึ่งมีหลักการวางก่อนหลังที่แตกต่างกันแล้วแต่ประเภทของ adjective

ถ้าชอบคลิปลองโหลดมาทดลองเรียนกันได้เลย แต่ถ้าอยากดูทุกคลิปกดสมัครได้เลยราคาไม่แพง แถมมีชีทสรุปกับแบบฝึกหัดครบ 7 วิชาด้วยนะ
📲ดาวน์โหลด : https://bit.ly/YTdownloadstartdee

วิชาภาษาอังกฤษ ม.2 | วิธีเรียงลำดับ adjectives ที่ซ้อนกันหลายตัว (Adjective Order)

ยื่น Statement เท่าไหร่? Pocket money💸 การหาที่พัก/การเดินทางในออสเตรเลีย🇦🇺 Ep.2 | Juneissaree


สวัสดีค่ะ เราจะมาอธิบายในเรื่อง Statement ที่เรายื่น , วิธีการหาที่พัก , การเดินทางในออส และ เทคนิคการวางแผนเก็บเงินเพื่อจ่ายค่าเรียนของเรา
ย้ำนะคะว่า ประสบการณ์(ของเรา)ในตอนที่เราไปนะคะ😊
หวังว่าคลิปนี้จะมีประโยชน์กับคนที่กำลังหาข้อมูลไปประเทศออสเตรเลียนะค้าา💘
เราไปเรียนภาษาที่ Australia | Melbourne 🇦🇺
ใครที่ยังไม่ได้ดู Ep.1 จิ้ม https://youtu.be/YPDrV3g7JV0
Instagram : https://instagram.com/juneniissum?utm…
Facebook : https://www.facebook.com/jissaree/
Contact me
[email protected]
LINE : juneniissum (for work)
Facebook page : June Issaree
ออสเตรเลีย เรียนต่อออสเตรเลีย เรียนต่อต่างประเทศ Melbourne Australia
เรียนภาษา

ยื่น Statement เท่าไหร่? Pocket money💸 การหาที่พัก/การเดินทางในออสเตรเลีย🇦🇺 Ep.2 | Juneissaree

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ เรียง ประโยค ภาษา อังกฤษ ให้ ถูก ต้อง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *