Skip to content
Home » [Update] 10 แหล่งพลังงานทดแทน เพื่อการผลิตไฟฟ้าแห่งอนาคต | ใน อนาคต – NATAVIGUIDES

[Update] 10 แหล่งพลังงานทดแทน เพื่อการผลิตไฟฟ้าแห่งอนาคต | ใน อนาคต – NATAVIGUIDES

ใน อนาคต: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

เราทราบกันดีว่าเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด และคาดว่าในไม่ช้า เชื้อเพลิงชนิดนี้จะหมดไป เมื่อถึงตอนนั้นเราจะใช้เชื้อเพลิงจากที่ไหนเพื่อเป็นแหล่งพลังงาน…. คำตอบก็คือ “พลังงานทดแทน” ซึ่งจะกลายเป็นแหล่งพลังงานหลักต่อไป แต่เมื่อกล่าวถึง “พลังงานทดแทน” คนส่วนใหญ่อาจจะนึกไปถึงพลังงานอย่าง พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานน้ำ ซึ่งเป็นพลังงานทางเลือกที่เป็นพลังงานทดแทนที่ใช้กันมานานแล้ว แต่นอกจากพลังงานเหล่านี้ ยังมีคนอีกจำนวนหนึ่งที่พยายามค้นคว้า วิจัย และศึกษาหาความเป็นไปได้ที่จะนำพลังงานทางเลือกรูปแบบอื่น ๆ ที่เป็นพลังงานสะอาดและมีประสิทธิภาพสูงกว่าที่มีใช้อยู่ในปัจจุบันมาเป็นพลังงานทดแทนของเรา ซึ่ง 10 แหล่งพลังงานทดแทน ที่คาดว่าในอีก 50 ปีข้างหน้า อาจกลายเป็นหนึ่งในแหล่งพลังงานทางเลือกที่มนุษย์จะสามารถนำมาใช้ได้ ประกอบด้วย

Table of Contents

1. พลังงานเซลล์แสงอาทิตย์จากห้วงอวกาศ (Space-Based Solar Power)

จากข้อเท็จจริงที่ว่า พลังงานแสงอาทิตย์กว่า 55-60% นั้น ไม่สามารถผ่านชั้นบรรยากาศของโลกมาได้ ดังนั้น การผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ที่อยู่บนพื้นโลกจึงใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ได้ไม่เต็มที่ นอกจากนี้ การผลิตไฟฟ้าบนพื้นโลกยังมีข้อจำกัด เพราะผลิตได้เฉพาะในช่วงกลางวัน พื้นที่ตั้งก็ต้องเป็นพื้นที่เปิดโล่ง สภาพภูมิอากาศก็ต้องเหมาะสม ทำให้บางประเทศไม่สามารถผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ได้ ด้วยข้อจำกัดนี้ จึงมีผู้คิดค้นว่าหากสามารถติดตั้งโซลาร์เซลล์นอกโลก เช่นเดียวกับการติดตั้งเซลล์แสงอาทิตย์ของดาวเทียมแล้ว ข้อจำกัดเหล่านี้จะหมดไป อีกทั้งยังสามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างมหาศาลอีกด้วย

ปัจจุบันนักวิจัยจึงมีความพยายามที่จะทดลอง วิจัยหาความเป็นไปได้ ที่จะติดตั้งโซลาร์เซลล์ในอวกาศ เพื่อผลิตไฟฟ้าและส่งพลังงานที่ผลิตได้กลับมายังสถานีพลังงานบนพื้นโลกในรูปแบบของคลื่นไมโครเวฟ โดยให้แน่ใจว่าการส่งพลังงานดังกล่าวจะไม่เกิดการสูญเสียพลังงาน และไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อโลก

ซึ่งก็มีความคืบหน้าเกี่ยวกับการทดลองวิจัยในเรื่องนี้ โดยเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2015 สำนักงานสำรวจอวกาศญี่ปุ่น (JAXA) เปิดเผยว่าพวกเขาประสบความสำเร็จในการแปลงกระแสไฟฟ้าขนาด 1.8 กิโลวัตต์ให้เป็นไมโครเวฟ หลังจากที่พวกเขาส่งพลังงานแบบไร้สายเป็นระยะทาง 50 เมตรได้แล้ว

นอกจากนี้ ในปีนี้ (2019) จีนก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีความพยายามที่จะทำการทดลองผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์จากห้วงอวกาศ โดยล่าสุดได้เริ่มทดลองตามแนวคิดนี้แล้วที่เมืองฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน บนพื้นที่กว่า 33 เอเคอร์ ด้วยทุนสนับสนุนเริ่มต้นที่ 15 ล้านเหรียญฯ เพื่อทำการทดสอบหาวิธีการที่ดีที่สุดในการส่งพลังงานจากวงโคจรในห้วงอวกาศรอบโลกมายังพื้นโลก

2. พลังงานจากร่างกายมนุษย์ (Human Power)

ผู้เชียวชาญหลายคนเชื่อว่าวิธีการที่ง่ายที่สุดในการสร้างพลังงานหมุนเวียน คือ ผ่านร่างกายของมนุษย์เอง โดยแนวคิดนี้มาจากแนวคิดที่ว่า ในปัจจุบันอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ใช้ไฟฟ้าที่น้อยกว่าในอดีตมาก ดังนั้น การผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กก็เพียงพอที่จะจ่ายเป็นพลังงานให้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กจำนวนมากได้ โดยผลิตพลังงานผ่านการเคลื่อนไหวของร่างกายเราเอง เพียงแค่ใช้ระบบที่จะสามารถรวบรวมและแปลงพลังงานได้

ซึ่งนักวิจัยจากสหราชอาณาจักรได้พัฒนาอุปกรณ์พยุงหัวเข่า ที่สามารถรวบรวมอิเล็กตรอนในขณะเดินไว้ โดยทุกครั้งที่เดิน หัวเข่าโค้ง โลหะแบบใบพัดจากอุปกรณ์จะมีการสั้นสะเทือนเหมือนสายกีตาร์ และเกิดการผลิตกระแสไฟฟ้าขึ้น สามารถนำไปใช้กับอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานไม่มาก

3. พลังงานคลื่น (Wave Power)

ความคิดที่จะนำพลังงานคลื่นมาใช้นั้นมีแนวคิดมานานแล้ว ซึ่งทางเทคนิคนั้นคลื่น คือรูปแบบที่เกิดขึ้นจากพลังงานลมที่พัดผ่านทะเล พลังงานคลื่นถูกวัดเป็นกิโลวัตต์ (KW) ต่อหนึ่งเมตรของแนวชายฝั่ง โดยชายฝังทะเลของสหรัฐฯ นั้น มีศักยภาพพลังงานคลื่นประมาณ 252 พันล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี

ปัจจุบันมีกว่า 5 ประเทศ ที่พยายามดำเนินการสร้างฟาร์มผลิตไฟฟ้าจากพลังงานคลื่น หนึ่งในนั้นที่นำไปปฏิบัติ คือประเทศโปรตุเกส ที่ได้ตั้งฟาร์มผลิตไฟฟ้าจากพลังงานคลื่นในเชิงพาณิชย์เป็นแห่งแรกในโลก ตั้งแต่ปี 2008 มีกำลังผลิตติดตั้งรวม 2.25 เมกะวัตต์

4. พลังงานไฮโดรเจน (Hydrogen Power)

ไฮโดรเจนเป็นก๊าซไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และมีมากถึง 74% จากทั้งหมดในจักรวาล ในขณะที่บนโลกพบได้เฉพาะเมื่อรวมกับออกซิเจน คาร์บอน และไนโตรเจน โดยหากต้องการใช้ไฮโดรเจนจะต้องแยกออกมาจากองค์ประกอบอื่น ๆ ซึ่งก๊าซที่ได้จะให้พลังงานสูง แต่เป็นก๊าซที่ไม่มีมลพิษ

ดังนั้นจึงมีความพยายามที่จะพัฒนาเซลล์เชื้อเพลิงที่แปลงไฮโดรเจนให้เป็นพลังงานไฟฟ้า เพื่อนำมาใช้เป็นแหล่งพลังงานสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า เครื่องบิน ยานพาหนะอื่น ๆ รวมถึงเป็นพลังงานที่ใช้ในบ้านและอาคาร ปัจจุบันนี้ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ ค่ายญี่ปุ่นอย่าง โตโยต้า ฮอนด้า และฮุนได ได้มีการลงทุนวิจัยในเทคโนโลยีที่ใช้ไฮโดรเจนเป็นพลังงานอย่างต่อเนื่อง

5. พลังงานความร้อนใต้พิภพ (Magma Power)

พลังงานจากความร้อนที่อยู่ลึกใต้พื้นพิภพ สามารถผลิตไอน้ำเพื่อใช้หมุนกังหันและผลิตกระแสไฟฟ้าได้ โดยพลังงานความร้อนใต้พิภพ 10,700 เมกะวัตต์ ถูกสร้างขึ้นทั่วโลกในปี 2010 โดยมีไอซ์แลนด์ ฟิลิปปินส์และเอลซัลวาดอร์ได้นำแนวคิดนี้ไปปฏิบัติแล้ว
แนวคิดพลังงานความร้อนใต้พิภพเริ่มได้รับความสนใจในปี 2008 จากการค้นพบด้วยความบังเอิญจากโครงการขุดเจาะ IDDP1 ของไอซ์แลนด์ และภายหลังได้รับการปรับปรุงเป็นระบบแรกที่ให้ความร้อนโดยตรงจากแมกมาหลอมเหลว สามารถสร้างพลังงานไฟฟ้าได้ 36 เมกะวัตต์

6. พลังงานจากกากนิวเคลียร์ (Nuclear Waste Power)

อะตอมยูเรเนียมเพียงห้าเปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ถูกนำไปใช้ในปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิชชัน ส่วนที่เหลือจะถูกเก็บเพิ่มเข้าไปยังคลังขยะนิวเคลียร์ มีกากของเสียจากกัมมันตรังสีกว่า 77,000 ตัน ที่ถูกเก็บสะสมจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของอเมริกา ในขณะที่เครื่องปฏิกรณ์เร็ว ซึ่งเป็นเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขั้นสูงที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นกว่าเครื่องปฏิกรณ์แบบเดิม และสามารถแก้ปัญหานี้ได้ในอนาคตข้างหน้า ซึ่งจะทำให้การใช้ยูเรเนียมที่มีอยู่เดิมมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถใช้พลังงานจากแร่ยูเรเนียมได้ถึง 95% ของเชื้อเพลิงพลังงานนิวเคลียร์ที่ผลิตได้

จากแนวคิดที่ต้องการนำกากนิวเคลียร์ที่มีเก็บไว้ปริมาณมหาศาลมาใช้ผลิตพลังงานทางเลือก ทำให้ทาง ฮิตาชิ ได้ออกแบบเครื่องปฏิกรณ์เร็ว Gen-IV ที่เรียกว่า PRISM ซึ่งเป็นโมดูลเครื่องปฏิกรณ์นวัตกรรมพลังงานขนาดเล็ก ที่สามารถเปลี่ยนกากนิวเคลียร์ให้กลายเป็นพลังงานได้ และยังช่วยทำให้ Half Life ของกัมมันตภาพรังสี (ระยะเวลาที่สารสลายตัวไปจนเหลือเพียงครึ่งหนึ่งของปริมาณเดิม) เหลือเพียง 30 ปีแทนที่จะเป็นพันปีด้วย

7. พลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งได้ในทุกพื้นผิว (Embeddable Solar Power)

เทคโนโลยีที่สามารถฝังหรือเคลือบเซลล์แสงอาทิตย์ลงบนพื้นผิวของวัตถุต่างๆ ในลักษณะที่โปร่งแสงไม่สามารถมองเห็นได้ แต่สามารถรับแสงอาทิตย์และแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าได้ แนวคิดนี้ ปัจจุบันถูกพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าจะสามารถนำมาเคลือบบนพื้นผิวของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น หน้าจอคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรือพัฒนาเพิ่มเติมสำหรับการใช้งานในรูปแบบอื่น ๆ อาทิ เคลือบบนหน้าต่าง หรือกระจกของอาคาร เพื่อเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าให้แก่อาคาร เป็นต้น

8. พลังงานชีวภาพจากสาหร่าย (Algae Power)

สาหร่ายถือเป็นแหล่งพลังงานที่น่าประหลาดใจมาก เพราะมันอุดมไปน้ำมัน ที่สามารถดัดแปลงพันธุกรรมเพื่อผลิตเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพได้โดยตรง แม้น้ำเสียจะเป็นอุปสรรคต่อการเจริญเติบโตของพืช แต่มันกลับมีประสิทธิภาพสูงในการปลูกพืชชนิดนี้ โดยในพื้นที่ขนาดหนึ่งเอเคอร์ สามารถให้ผลผลิตได้สูงถึง 9,000 แกลลอน ดังนั้น เชื้อเพลิงจากสาหร่ายจึงถือเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพที่สามารถปลูกและสร้างขึ้นได้

Alabama สามารถสร้างระบบเชื้อเพลิงชีวภาพจากสาหร่ายได้เป็นแห่งแรกของโลก โดยใช้เครื่องปฏิกรณ์ชีวภาพแบบลอยตัว โดยการปลูกสาหร่ายยังช่วยบำบัดน้ำเสียจากเทศบาล และหลังจากการเก็บเกี่ยวแล้ว น้ำสะอาดที่ได้จากการบำบัดจะถูกปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติต่อไป

9. กังหันลมแบบลอยบนอากาศ (Flying Wind Power)

Alabama สามารถสร้างระบบเชื้อเพลิงชีวภาพจากสาหร่ายได้เป็นแห่งแรกของโลก โดยใช้เครื่องปฏิกรณ์ชีวภาพแบบลอยตัว โดยการปลูกสาหร่ายยังช่วยบำบัดน้ำเสียจากเทศบาล และหลังจากการเก็บเกี่ยวแล้ว น้ำสะอาดที่ได้จากการบำบัดจะถูกปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติต่อไป

ฟาร์มกังหันลมตามแนวคิดนี้จะเป็นกังหันลมที่ติดตั้งลอยตัวอยู่สูงในระดับเดียวกับตึกระฟ้า หรืออยู่สูงเหนือระดับพื้นดินที่ 1,000 – 2,000 ฟุต เพื่อรับความแรงลมที่แรงกว่าห้าถึงแปดเท่าของระดับความแรงลมแบบติดตั้งแบบทาวเวอร์ และกังหันเหล่านี้จะผลิตพลังงานได้สองเท่าเมื่อเทียบกับกังหันลมขนาดใกล้เคียงกันที่ตั้งแบบทาวเวอร์

โดย Altaeros Energie ได้พัฒนากังหันลมแบบลอยบนอากาศในเชิงพาณิชย์เครื่องแรก ที่เรียกว่า Buoyant Air Turbine หรือ BAT ซึ่งเป็นเซลล์พองลมแบบกลมยาว 35 ฟุต ที่ทำจากผ้าที่มีความแข็งแรงสูง โดย BAT มีกำลังการผลิต 30 กิโลวัตต์

10. พลังงานฟิวชั่น (Fusion Power)

โดย Altaeros Energie ได้พัฒนากังหันลมแบบลอยบนอากาศในเชิงพาณิชย์เครื่องแรก ที่เรียกว่า Buoyant Air Turbine หรือ BAT ซึ่งเป็นเซลล์พองลมแบบกลมยาว 35 ฟุต ที่ทำจากผ้าที่มีความแข็งแรงสูง โดย BAT มีกำลังการผลิต 30 กิโลวัตต์

ฟิวชั่น เป็นกระบวนการเดียวกันกับการเกิดขึ้นของดวงอาทิตย์ และมีศักยภาพที่สามารถผลิตพลังงานได้แบบไม่มีที่สิ้นสุด อีกทั้งไม่ปล่อยมลพิษ หรือก๊าซเรือนกระจก และไม่มีการคุกคามจากการหลอมละลายแบบนิวเคลียร์ ซึ่งแตกต่างจากเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิชชั่นในปัจจุบัน ฟิวชั่นทำงานโดยการหลอมรวมไอโซโทปไฮโดรเจนสองอัน คือ ดิวทีเรียมและทริเทียมซึ่งมีอยู่มากมาย

ในปัจจุบัน ITER เครื่องปฏิกรณ์ทดลองความร้อนระหว่างประเทศ ได้ถูกสร้างขึ้นในประเทศฝรั่งเศสโดยได้รับทุนจาก7 ประเทศ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2027 และหวังว่าจะเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานฟิวชั่นแห่งแรกของโลกในเชิงพาณิชย์

Source: เรียบเรียงจากงานเสวนา เรื่อง โรงไฟฟ้าชุมชนนวัตกรรมพลังงานทดแทน และการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
โดย ดร.นุวงศ์ ชลคุป ในหัวข้อ นวัตกรรมพลังงานทดแทนแห่งอนาคต ภายในงานวิศวกรรมแห่งชาติ 2562
Reference: The Top Alternative Energy Sources of the Future (Infographic)
https://futurism.com/images/renewable-energy-sources-of-the-future-infographic

[Update] อีก 10 ปีข้างหน้าอยากเป็นแบบไหน? : ชวนออกแบบตัวเองในอนาคตผ่านหลักจิตวิทยา Future Self | ใน อนาคต – NATAVIGUIDES

ยังจำตัวเองเมื่อ 10 ปีที่แล้วได้ไหม? ตัวเราในวันนี้ เปลี่ยนไปจากในวันนั้นมากหรือเปล่า? แล้วในอีก 10 ปีข้างหน้า คิดว่าตัวเองจะเปลี่ยนแปลงมากไปกว่านี้ไหม?

 

หลายๆ ครั้งที่เรามักได้ยินคำพูดที่ว่า “ตัวเราในวันนี้ จะเป็นคนกำหนดตัวเราในวันหน้า” ซึ่งนั่นอาจจะไม่จริงเสมอไป ลองคิดย้อนเทียบตัวเราวันนี้กับในอดีตดูสิ เราอาจจะพบว่ามีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นจนแทบไม่เหลือบางอย่างที่เคยมีเมื่อ 10 ปีก่อนเลยด้วยซ้ำ

เช่นกัน.. ตัวเราในอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้า อาจไม่ได้ถูกกำหนดจากตัวเราในวันนี้ทั้งหมด ถึงวันนี้ เราอาจจะรู้สึกว่าตัวเราในอนาคตอาจจะไม่ได้เปลี่ยนไปจากวันนี้มากนัก แต่จริงๆ เรากำหนดอนาคตได้ โดยไม่ต้องอ้างอิงจากประสบการณ์ในปัจจุบันเสมอไป และนั่นคือ ‘Psychology of Future Self’ วิธีออกแบบตัวเราอนาคตที่นักจิตวิทยาเสนอไว้

 

ทำไมต้อง Psychology of Future Self?

นั่นก็เพราะงานศึกษาในสาขาจิตวิทยาที่ผ่านมาและการคาดการณ์ถึงอนาคตของคนส่วนใหญ่ มักติดอยู่ในกรงขังของประสบการณ์ในอดีตและปัจจุบัน (อาจเพราะได้รับอิทธิพลแบบฟรอยด์) นั่นทำให้ “มนุษย์มักคิดว่าตัวเราในปัจจุบันคือเวอร์ชั่นที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว แม้ว่ามันจะไม่จริงก็ตาม” (Human beings are works in progress that mistakenly think they are finished.) ตามที่ Daniel Gilbert หนึ่งในนักจิตวิทยาที่ตีพิมพ์งานวิจัยเรื่อง ‘The End of History Illusion’ อธิบายไว้

งานวิจัยชิ้นนี้ ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของชาวอเมริกันเกือบสองหมื่นคน ในช่วงอายุตั้งแต่ 18-68 ปี แล้วพบว่า คนส่วนใหญ่มักคิดว่าความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นกับพวกเขาไปแล้วในอดีต ส่วนอนาคตนั้นคงจะไม่ค่อยเกิดการเปลี่ยนแปลงเท่าไรนัก รวมถึงยังคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงในอนาคตต่ำกว่าความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจริงทั้งนั้น

ตัวอย่างเช่น คนอายุ 30 ส่วนใหญ่ บอกว่าพวกเขาไม่ได้ชอบอาหารที่พวกเขาเคยชอบตอนอายุ 20 แต่คนอายุ 20 คิดว่าตัวเองจะยังชอบอาหารที่ชอบอยู่ในอีกสิบปีข้างหน้า หรือคนอายุ 50 บอกว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาไม่ได้เชื่อเหมือนตอนที่เขาเคยเชื่อตอนอายุ 40 ส่วนคนอายุ 40 กลับคิดว่าพวกเขาจะยังมีความเชื่อหลายอย่างเหมือนเดิมอยู่ในตอนอายุ 50

แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราต่างมีศักยภาพในการจินตนาการและจำลองเหตุการณ์ในอนาคตมากกว่านั้น ซึ่งอธิบายได้ด้วยจิตวิทยาสาขา Prospective Psychology ที่บอกว่า มนุษย์เราสามารถเห็นโอกาสและจินตนาการได้ถึงสิ่งที่ยังไม่มี ยังไม่เกิดขึ้น ผ่านบุคลิกภาพแบบเปิดใจรับประสบการณ์ใหม่ๆ (Openness to experience) แถมยังสามารถใช้มันช่วยขับเคลื่อนปัจจุบัน ไปสู่อนาคตแบบที่เราอยากเป็นได้อีกด้วย

นอกจากนี้ Hal Hershfield นักจิตวิทยาจาก UCLA ยังเคยลองศึกษาผลของการสร้าง Future Self กับการตัดสินใจเรื่องต่างๆ ของคน แล้วพบว่าการมองหาสิ่งที่เราอยากเปลี่ยนแปลง แล้วสร้าง Future Self ให้เป็นคนละคนกับตัวเราในปัจจุบัน ช่วยสร้างเป้าหมายให้การตัดสินใจง่ายขึ้น แตกต่างออกไป และได้ผลลัพธ์ที่ต้องการมากขึ้น

 

ทำอย่างไรให้ Future Self เกิดขึ้นได้จริง?

Benjamin Hardy เสนอวิธีในการทำ Future Self ใน Harvard Business Review ไว้ 3 ขั้นตอนเบื้องต้นง่ายๆ คือ

1.แยกอดีต ปัจจุบัน และอนาคตออกจากกันให้ได้ : เป็นปกติที่เราจะมองปัจจุบันเป็นภาพใหญ่ และยึดมั่นกับสิ่งที่เราเป็นในวันนี้ แต่ Dr. Ellen Langer นักจิตวิทยาจาก Harvard บอกว่าการแปะป้ายหรือแม้แต่ใช้คำบอกว่า “ฉันเป็น..” ก็มีส่วนทำให้เราปิดประตูใส่ความเป็นไปได้อื่นๆ ที่จะเข้ามา ดังนั้น ดีกว่าการที่บอกว่าตัวเองเป็นอะไรในวันนี้ คือการบอกว่าฉันเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวานมายังไงบ้าง

ทางหนึ่งที่ช่วยให้สังเกตและใส่ใจความเปลี่ยนแปลงได้ คือการติดตามและบันทึกความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตัวเอง อาจจะเป็นรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน หรือรายปี เมื่อไหร่ที่เราเริ่มแยกแยะความเปลี่ยนแปลงตัวเองจากอดีตมาปัจจุบันได้ การมองการเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตได้ก็จะง่ายขึ้นเช่นกัน

 

2.คิดถึงตัวเองที่อยากให้เป็นในอนาคตให้ออก : การจินตนาการถึงอนาคตนั้นเป็นเรื่องยากสำหรับหลายคน ถามว่าให้คิดถึงตัวเองใน 3 ปี 5 ปี 10 ปี อาจจะนึกไม่ออกทันที (แค่ปีหน้า บางทียังเป็นเรื่องยากเลย) แต่หากเราไม่ลองทำ ชีวิตเราก็จะไหลไปแบบเลยตามเลย จนรู้ตัวก็เสียดายที่พลาดอะไรไปหลายอย่าง

หนึ่งในตัวช่วยที่จะก่อร่างสร้างภาพตัวเองในอนาคตได้คือ ‘Deliberate Practice’ ที่มีหลักการ 5 อย่างคือ 1) ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนและเป็นไปได้ 2) ตัดสิ่งรบกวนออกไปให้หมด 3) ทำให้สำเร็จไปทีละอย่างและวัดผลอยู่เสมอ 4) ปรับวิธีการอยู่เสมอ และ 5) จินตนาการภาพตัวเองทำสำเร็จซ้ำๆ โดยอาจจะทำให้เป็นบันทึก (Journaling) อย่างเป็นรูปธรรมเพื่อให้ชัดเจนมากขึ้น

แรงจูงใจและความหวังในการทำอะไรสักอย่าง ไม่ได้มาจากการฟังหรือเห็นอะไรบันดาลใจเพียงอย่างเดียว แต่มักจะมาจากผลลัพธ์ที่วัดผลและจับต้องได้ บวกกับการมองเห็นวิธีการไปถึงเป้าหมายและความเป็นไปได้ที่จะทำสำเร็จต่างหาก

3.เปลี่ยนวิธีอธิบายตัวตนของคุณ (Identity) : ก่อนอื่นต้องแยกให้ออกก่อนระหว่างอัตลักษณ์ (Identity) และบุคลิกภาพ (Personality) อัตลักษณ์นั้นทรงพลังกว่า มันสามารถขับเคลื่อนทัศนคติและพฤติกรรมต่างๆ จนกลายมาเป็นบุคลิกภาพ

สังเกตว่าเวลาคนให้เราแนะนำตัว วิธีอธิบายตัวตนของเรานั้น มักจะยึดโยงอยู่กับอดีตและปัจจุบัน จนถ้ามันถูกจำกัดไว้แค่นั้น มันอาจจะส่งผลต่อทัศนคติและพฤติกรรมต่างๆ จนกลายเป็นบุคลิกภาพในอนาคตของเราได้ แต่ถ้าเรามีตัวตนในอนาคตที่คิดภาพไว้ชัดเจน เราอาจเปลี่ยนวิธีอธิบายตัวตนของเรา จนทำให้บุคลิกภาพเราเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตที่เราอยากเป็นได้ (State of Becoming)

 

อย่างที่บอก แม้การจินตนาการถึงอนาคตนั้นเป็นเรื่องยาก แต่ลองท้าทายตัวเองด้วยการคิดถึง Future Self สิ่งที่เราอยากในอีก 10 ปีข้างหน้า นี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นให้เราได้หลุดจากวิธีคิดและชีวิตแบบเดิมๆ กล้าหวังกับอนาคตแบบใหม่ๆ และเปลี่ยนอนาคตให้เป็นแบบที่เราอยากเป็นได้ ไม่ว่าเมื่อวานและวันนี้ของเราจะเป็นแบบไหนก็ตาม

 

 

อ้างอิงข้อมูลจาก

www.fastcompany.com

hbr.org

www.nytimes.com

 

อ่านเพิ่มเติม

– The End of History Illusion:  https://wjh-www.harvard.edu/~dtg/Quoidbach%20et%20al%202013.pdf

– Shaping One’s Future Self – The Development of Deliberate Practice:  https://www.researchgate.net/publication/281428331_Shaping_One%27s_Future_Self_-_The_Development_of_Deliberate_Practice

– Pragmatic Prospection: How and Why People Think about the Future: https://journals.sagepub.com/doi/10.1037/gpr0000060

– Future self-continuity: how conceptions of the future self transform intertemporal choice: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3764505/

Share this article



แฟนในอนาคต (Tie Me Up) – RedSpin【Official Dance Video】| BH BrickHouse


ค่าย: BH BrickHouse
ศิลปิน: RedSpin (เรดสปิน)
เพลง: แฟนในอนาคต (Tie Me Up)
\”หนูเป็นคนวางแพลน พี่คือแฟนในอนาคต\”
FOLLOW RedSpin
https://facebook.com/RedSpin.brickhouse
https://instagram.com/redspin_brickhouse
https://www.youtube.com/channel/UCgflQ7q5HPx_mrGMAAy2A
https://twitter.com/RedSpin_bh
LYRICS
[All]
หนูเป็นคนวางแพลน พี่คือแฟนในอนาคต
[DIARY]
หนูยังอยู่ในโหมด เป็นเจ้าของพี่ไม่ได้
[All]
แค่ต้องรอวันหนึ่ง งั้นคิดถึงก่อนได้ไหม
[DIARY]
ก็ไม่รู้เมื่อไร ที่จะรักได้สักที
[FahProud]
พี่คือคู่แท้ ที่ได้แค่แอบมอง
ก็ได้แต่จอง ก็ได้แต่จอง ตัวพี่นะเอาไว้
ไม่ชอบบางครั้งที่พี่มาใกล้ไป
ไม่อยากให้รู้หนูไหวหวั่น
[PePe]
หน้าร้อนๆ มือเย็นๆ ใจมันเริ่มชา
ไม่ต้องมามองตา กลัวเก็บเอาไปฝัน
พี่รู้ไหม พี่รู้ไหม พี่ไม่รู้หรอก
ก็หนูไม่เคยบอก รอก่อนก็แล้วกัน
[PearPunch]
พี่ต้องมัดหนูไว้ พี่ต้องมัดหนูไว้ เข้าใจมะ
พี่ต้องมัดหนูไว้ พี่ต้องมัดหนูไว้ ด้วยหัวใจ
[All]
หนูเป็นคนวางแพลน พี่คือแฟนในอนาคต
[PearPunch]
หนูยังอยู่ในโหมด เป็นเจ้าของพี่ไม่ได้
[All]
แค่ต้องรอวันหนึ่ง งั้นคิดถึงก่อนได้ไหม
[PorSche]
ก็ไม่รู้เมื่อไร ที่จะรักได้สักที
[PorSche]
อะ พี่ก็เป็นคนเดียว นะ นะ ในหัวใจ
อะ พี่ก็เป็นคนแรกเลยนะพี่รู้ไหม
[PearPunch]
ทุกครั้งที่ตาเราจ้องตา ทุกครั้งมันทำให้เขินอาย
ทุกครั้งที่อ่านนิยาย ก็จินตนาการเป็นหน้าพี่
[PIMMy]
เอ้า แล้วหนูจะรู้ได้ยังไง
โตขึ้นต้องเป็นอะไร ก็อีกตั้งหลายปี
ถ้าพี่จะถามเรื่องหัวใจ
โตขึ้นต้องเป็นอะไร ก็เป็นแฟนพี่ไง
[PorSche]
พี่ต้องมัดหนูไว้ พี่ต้องมัดหนูไว้ เข้าใจมะ
พี่ต้องมัดหนูไว้ พี่ต้องมัดหนูไว้ ด้วยหัวใจ
[All]
หนูเป็นคนวางแพลน พี่คือแฟนในอนาคต
[PePe]
หนูยังอยู่ในโหมด เป็นเจ้าของพี่ไม่ได้
[All]
แค่ต้องรอวันหนึ่ง งั้นคิดถึงก่อนได้ไหม
[PIMMy]
ก็ไม่รู้เมื่อไร ที่จะรักได้สักที
[All]
รักแล้วได้อะไร ดีแค่ไหนไม่เคยรู้
[DIARY]
รู้แค่มีพี่อยู่ ใจก็ อู้ว ทุกนาที
[All]
Like ให้กันไปก่อน ค่อยกด Love วันพรุ่งนี้
[FahProud]
เก็บไว้เป็นเรื่องดีดี ให้เขินๆ ก็แล้วกัน
SONG CREDITS
Lyrics by Gop PostCard
Composed : Gop PostCard , Jeaniich , Thanks Intouch
Arranged \u0026 Produced by AFU Narongsak Sribandasakwatcharakorn
Music Production: DemoLab
Choreography : RedSpin , MilkMild
Executive Producer: Thanee Wongniwatkajorn
VISUAL CREDITS
Production Team : Beaverrproduction
Director \u0026 Director Of Photography : Tae Nattalovski
Camera assistance : Guide Ronnakorn ,Bas Nattawat
Gaffer : Gaffer Keng Lighting
Lighting Crews : DP Movie Light
Editor : Supatcha Wangmanow (Jeaniich) / Tae Nattalovski
Color Grading : Tae Nattalovski
Creative : Supatcha Wangmanow (Jeaniich)
Photography: Sitthiphon Thittitham
Stylish: Sahawat Laiwattanachai
Make Up \u0026 Hair Stylist: Piyanut Rasi
BH BRICKHOUSE
http://www.facebook.com/bhbrickhouse/
http://www.youtube.com/bhbrickhouse
http://www.instagram.com/bhbrickhouse
http://twitter.com/bhbrickhouse
http://www.bhbrickhouse.com
RedSpin BH BrickHouse แฟนในอนาคต TieMeUp

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

แฟนในอนาคต (Tie Me Up) - RedSpin【Official Dance Video】| BH BrickHouse

อนาคตของโลกในปี 2099 จากการคาดการณ์ของนักวิทยาศาสตร์ (ไม่ใช่คำทำนาย)


เรื่องของโชคชะตา ปาฏิหาริย์ หรือ พรหมลิขิต เธอเป็นหนึ่งในความเชื่อเก่าแก่ที่เกิดขึ้นมาพร้อมๆกับอารยธรรมมนุษยชาติ
แม้แต่ในปัจจุบันก็ยังมีกลุ่มคนจำนวนไม่น้อยที่ให้ความสำคัญกับเรื่องดวงชะตา
และยึดถือเป็นแนวทางการใช้ชีวิต โดยมักจะได้รับคำทำนายหรือคำแนะนำต่างๆ จากบรรดาผู้ที่เรียกตัวเองว่ามีอาชีพเป็น \”หมอดู\” ซึ่งก็ถือว่าเป็นหนึ่งในอาชีพที่เก่าแก่ที่สุดของโลก
ที่อยู่คู่กับอารยธรรมมนุษย์ตั้งแต่อดีตมาจวบจนปัจจุบัน
โดยวิธีหรือรูปแบบคำทำนายนั้น มีอยู่หลากหลายรูปแบบ
ไม่ว่าจะเป็นการทำนายทายทักดวงชะตาของแต่ละบุคคล
หรือแม้กระทั่งการทำนายถึงชะตากรรมของโลกใบนี้
ยกตัวอย่างเช่นในกรณีของคำทำนายที่สร้างความตื่นตระหนกให้กับคนทั้งโลกมาแล้วในปี คศ.2012
ของชาวเผ่ามายาโบราณ โดยการตีความจากนักโบราณคดีที่อ้างอิงจาก
ปฏิทินโบราณที่เขียนโดยชาวมายา ตั้งแต่ในช่วง 2300 ปีก่อนคริสกาล
ที่ในปฏิทินดังกล่าวนั้นได้สุดสุดลงในปี 2012
จึงมีการตีความกันไปว่าชาวมายาโบราณ ได้ทำนายว่าโลกของเราจะต้องพบกับจุดจบในปีดังกล่าว
แต่ก็อย่างที่ทราบกันดีว่าในที่สุดเมื่อปี 2012 มาถึง โลกของเราก็ยังคงปลอดภัยมาได้ถึงปัจจุบัน
แต่ทั้งนี้ นอกเหนือไปจากกรณีของชาวมายาแล้ว ก็ยังมีอีกหลายคำทำนายจากอีกหลายที่มา
ที่ได้เคยทำนายชะตากรรมของโลกไว้อีกหลากหลายรูปแบบ
แล้วปรากฏว่าเหตุการณ์ตามคำทำนายนั้นได้เกิดขึ้นมาจริงๆ
และไม่ว่าคำทำนายเหล่านั้นจะเกิดจากการหยั่งรู้อนาคตของผู้ทำนาย
หรือเป็นเพียงเรื่องบังเอิญที่ไปตรงกับคำพูดของคนที่อยากจะดัง
ก็สุดแท้แต่มุมของแต่ละคนที่มีความเชื่อแตกต่างกันไป . . .

อนาคต การคาดการณ์ คำทำนาย
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
Donate สนับสนุนเราได้ที่ : 0918063766
True Wallet \u0026 True money
หรือ : https://tipme.in.th/khonfairu2019
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
Facebook fanpage : http://wow.in.th/f8qL
Discord : https://discord.gg/C8yyw3y
เข้ากลุ่มไลน์ : https://line.me/ti/g2/RNGSM7A3H6
YOUTUBE : https://bit.ly/2wmnMMQ
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
❤ Thank for watching \u0026 support ❤
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

อนาคตของโลกในปี 2099 จากการคาดการณ์ของนักวิทยาศาสตร์ (ไม่ใช่คำทำนาย)

รู้หรือยัง! อาชีพที่จะหายไปในอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้า มีอะไรบ้าง? เตรียมหางานใหม่ไว้จะดีที่สุด I EP.19


สาระstory สิ่งที่จะหายไปในอนาคตอีก5ปีข้างหน้า ทำอาชีพอะไรดี

ขอบคุณความรักความเมตตา ขอบคุณทุกคอมเมนต์ ทุกกำลังใจจากทุกท่านนะคร้า
ช่องนี้เราจะพาทุกท่านที่มารู้จักกับความรู้ต่างๆ ทั่วทุกมุมโลก มาให้ชมกันนะคะ
ฝากติดตามช่อง เพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะคะ ขอบคุณคร้า

รู้หรือยัง! อาชีพที่จะหายไปในอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้า มีอะไรบ้าง? เตรียมหางานใหม่ไว้จะดีที่สุด I EP.19

GAVIN.D – รักได้ป่าว Ft. PUI,VARINZ,NONNY9,Z TRIP,MITEENNN (PROD.NINO)


GavinD Nino เพลงกามิ
โปรดิวเซอร์: NINO
Mix Master: NINO
เนื้อร้อง/ทำนอง:GAVIN.D , AMP CUBAND, VARINZ,NONNY9,Z TRIP
Guitar : Puttipong Lerswanuswong
Directed by GAVIN.D
Filmed by FDB PRODUCTIONS
Edited by Somdui_filmeditor
Choreography Takayuki Issarangkul Na Ayuthaya
ALL RIGHTS \u0026 LEGISLATION RESERVED BY GAVINDALREADYDEADD . Co

GAVIN.D - รักได้ป่าว Ft. PUI,VARINZ,NONNY9,Z TRIP,MITEENNN (PROD.NINO)

แค่อยากจะย้อนเวลา แต่ดันมาโผล่ในอนาคต l สปอยหนัง l – โถแค่มาเยี่ยม


สปอยหนัง GMF

แฟนเพจ http://fb.me/GamingFollow

TikTok https://www.tiktok.com/@gmf_gaming_follow

แค่อยากจะย้อนเวลา แต่ดันมาโผล่ในอนาคต l สปอยหนัง l - โถแค่มาเยี่ยม

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ใน อนาคต

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *