[Update] 10 อันดับมหาวิทยาลัยในประเทศจีนปี 2021 | เซี่ยงไฮ้ ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

แม้ว่าด้วยสถานการณ์โควิด-19 การเดินทางระหว่างประเทศยังเป็นไปได้ยาก แต่มหาวิทยาลัยในเมืองจีนหลายแห่งได้เปิดทำการเรียนการสอนแบบออนไลน์ และที่สำคัญน้องๆสามารถพัฒนาทักษะภาษาจีนกลางเพื่อเตรียมความพร้อมเรียนต่อเมืองจีนได้ตลอดเวลา ในบทความนี้เลิร์นนิ่งอีสท์ได้รวบรวมมหาวิทยาลัย TOP 10 ของประเทศจีนประจำปี ค.ศ. 2021 พร้อมจุดเด่นของแต่ละมหาวิทยาลัยมาฝาก…จะมีมหาวิทยาลัยในฝันของใครบ้างเรามาดูกันเลยค่ะ

 

 

อันดับ 1

Tsinghua University (清华大学) ตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจีน ก่อตั้งปี ค.ศ. 1911 ในชื่อ Tsing Hua Imperial College และเพิ่มการสอนระดับมหาวิทยาลัยในปี ค.ศ. 1925 ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น National Tsing Hua University ในปี ค.ศ. 1928 มีศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีนถึง 2 คน ได้แก่ ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน Xi Jinping และอดีตประธานาธิบดี Hu Jintao Tsinghua University เป็น 1 ในมหาวิทยาลัยชั้นนำ 9 แห่งของจีนที่ได้รับการคัดเลือกและได้รับทุนสนับสนุนด้านการวิจัยจากรัฐบาลจีน โดยจัดอยู่ในกลุ่ม C9 League ซึ่งเทียบได้กับ Ivy League ปัจจุบันเป็นมหาวิทยาลัยที่สอบเข้ายากที่สุดแห่งหนึ่งและมีชื่อเสียงโดดเด่นระดับโลกด้านวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ จนได้รับฉายาว่า “MIT แห่งเมืองจีน”

เว็บไซต์: https://www.tsinghua.edu.cn/en/

 

  

อันดับ 2  

Peking University (北京大学) หรือ PKU หรือที่นิยมเรียกว่า “เป่ยต้า” (北大) ตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่งและเป็นสมาชิก C9 League เช่นเดียวกับ Tsinghua University ก่อตั้งปี ค.ศ. 1898 และมีชื่อเสียงจากการเป็นแหล่งรวมนักศึกษาหัวก้าวหน้าในขบวนการปฏิวัติจีนในช่วงต้นทศวรรษ 1920 ปัจจุบันนอกจาก “เป่ยต้า” จะมีชื่อเสียงด้านการวิจัยและวิชาการจนเป็นมหาวิทยาลัยสายศิลป์อันดับ 1 ของจีนแล้ว ตัวมหาวิทยาลัยเองยังมีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรมแบบจีนที่สวยงามและมีมนต์ขลังอีกด้วย 

เว็บไซต์: http://english.pku.edu.cn/

 

 

อันดับ 3 

Fudan University (复旦大学) หรือ FDU ตั้งอยู่ในเมืองท่องเที่ยวสุดฮิตและเมืองที่มีค่าครองชีพสูงสุดของจีนอย่างมหานครเซี่ยงไฮ้ ก่อตั้งปี ค.ศ. 1905 ในฐานะ Fudan Public School ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น Fudan University ในปี ค.ศ. 1917 และต่อมาได้ควบรวมกับ Shanghai Medical University ในปี ค.ศ. 2000 Fudan University จัดเป็นสมาชิก C9 League และมีชื่อเสียงด้านศึกษาศาสตร์ สังคมศาสตร์ และแพทยศาสตร์ และถือเป็น 1 ใน 30 มหาวิทยาลัยในจีนที่กระทรวงศึกษาธิการจีนอนุมัติให้เปิดการเรียนการสอนหลักสูตรแพทยศาสตร์ภาคภาษาอังกฤษแก่ชาวต่างชาติได้ 

เว็บไซต์: https://www.fudan.edu.cn/en/ 

 

 

 

อันดับ 4 

Shanghai Jiao Tong University (上海交通大学) หรือ SJTU มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งมหานครเซี่ยงไฮ้ จัดเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของจีน ก่อตั้งปลายสมัยราชวงศ์ชิงในปี ค.ศ. 1896 โดยกระทรวงไปรษณีย์และการสื่อสารภายใต้ชื่อ Nanyang Public School มีศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียง ได้แก่ อดีตประธานาธิบดี Jiang Zemin และ Qian Xuesen บิดาแห่งวิทยาศาสตร์อวกาศของจีน ปัจจุบันนอกจากเป็นสมาชิก C9 League ซึ่งเทียบได้กับ Ivy League ของจีนแล้ว ยังได้รับการยอมว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงด้านธุรกิจในระดับโลก

เว็บไซต์: https://en.sjtu.edu.cn

 

 

 

อันดับ 5 

Zhejiang University (浙江大学) หรือ ZJU ตั้งอยู่ในเมืองหังโจว เมืองหลวงของมณฑลเจ้อเจียงที่มีทัศนียภาพสวยงามและเป็น 1 ใน 7 เมืองหลวงเก่าของจีน และยังเป็นเมืองที่มีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงและเป็นที่ตั้งของ Alibaba Group เครือข่ายธุรกิจอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ที่ทุกคนรู้จักกันดีอย่าง Alibaba และ Taobao Zhejiang University ก่อตั้งปี ค.ศ. 1897 ในชื่อ Qiushi Academy ด้วยวัตถุประสงค์ที่ต้องการเป็นสถาบันการศึกษาระดับสูงสมัยใหม่ของจีน ปัจจุบัน ZJU เป็นสมาชิก C9 League และมีชื่อเสียงด้านสตาร์ทอัพ ด้วยจำนวนศิษย์เก่าที่เป็นเจ้าของบริษัทสตาร์ทอัพมากกว่า 100 แห่งในประเทศจีน 

เว็บไซต์: http://www.zju.edu.cn/english/ 

 

 

 

อันดับ 6 

University of Science and Technology of China (中国科学技术大学) หรือ USTC ก่อตั้งโดยสถาบันวิทยาศาสตร์จีน (CAS) ในปี ค.ศ. 1958 เดิมตั้งอยู่ที่กรุงปักกิ่ง ก่อนจะย้ายมายังเหอเฝย เมืองหลวงของมณฑลอันฮุยซึ่งเป็นที่ตั้งปัจจุบันในปี ค.ศ. 1970 การก่อตั้ง University of Science and Technology of China ซึ่งได้รับการขนานนามว่า “เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ด้านการศึกษาและวิทยาศาสตร์ของประเทศจีน” นั้น เป็นผลมาจากนโยบายของรัฐบาลจีนที่ต้องการยกระดับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของจีนในระดับนานาชาติ ปัจจุบัน USTC มีชื่อเสียงด้านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และจัดเป็นสมาชิกกลุ่ม C9 League เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัย TOP 5 ประจำปี 2021 ทั้ง 5 อันดับ  

เว็บไซต์: https://en.ustc.edu.cn/ 

 

 

 

อันดับ 7

Nanjing University (南京大学) หรือ NJU ตั้งอยู่ที่เมืองหนานจิง เมืองหลวงของมณฑลเจียงซู เมืองโบราณที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเป็นเมืองหลวงเก่าของจีน Nanjing University ก่อตั้งปี ค.ศ. 1902 ภายใต้ชื่อ National Central University ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น Nanjing University ในปี ค.ศ. 1950 เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของจีน ปัจจุบันมีชื่อเสียงด้านการวิจัยโดยจัดเป็นสมาชิก C9 League ซึ่งเทียบได้กับ Ivy League ของจีน 

เว็บไซต์: https://www.nju.edu.cn/EN/

 

 

 

อันดับ 8 

Wuhan University (武汉大学) หรือ WHU ก่อตั้งปี ค.ศ. 1893 ในชื่อ Ziqiang Institute โดย Zhang Zhidong ผู้ว่าการมณฑลหูเป่ยและมณฑลหูหนานสมัยปลายราชวงศ์ชิง และเปลี่ยนชื่ออีกหลายครั้งก่อนจะมาเป็น Wuhan University แบบในปัจจุบันในปี ค.ศ. 1949 Wuhan University ได้รับการยกย่องว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของจีน ด้วยความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมที่เกิดจากการผสมผสานโลกตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกัน ด้วยสถานที่ตั้งที่ติดกับภูเขาและล้อมรอบด้วยทะเลสาบ ทำให้พื้นที่ในมหาวิทยาลัยอบอวลด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาพันธุ์ โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนซึ่งเป็นช่วงดอกซากุระบานนั้นสวยงามจนติดอันดับแหล่งชมซากุระอันดับต้นๆของประเทศจีนเลยทีเดียว 

เว็บไซต์: https://en.whu.edu.cn/

 

 

อันดับ 9  

Tongji University (同济大学) มหาวิทยาลัยชื่อดังอีกแห่งหนึ่งในกรุงเซี่ยงไฮ้ ก่อตั้งโดยแพทย์ชาวเยอรมันนาม Erich Paulun ในปี ค.ศ. 1907 โดยเป็นโรงเรียนแพทย์เยอรมันก่อนจะได้รับการสถาปนาเป็นมหาวิทยาลัยเต็มตัวในปี ค.ศ. 1923 ปัจจุบัน Tongji University อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงศึกษาธิการจีนและได้รับการสนับสนุนจากการปกครองท้องถิ่นเซี่ยงไฮ้ มีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรม วิศวกรรมโยธา และมหาสมุทรศาสตร์ โดยสำหรับด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมโยธานั้นถือได้ว่าเป็นอันดับ 1 ของประเทศจีน 

เว็บไซต์: https://en.tongji.edu.cn/ 

 

 

 

อันดับ 10  

Harbin Institute of Technology (哈尔滨工业大学) หรือ HIT ก่อตั้งปี ค.ศ. 1920 ตั้งอยู่ในฮาร์บิน เมืองเอกของมณฑลเฮย์หลงเจียง ซึ่งมีอากาศหนาวเย็นและมีเทศกาลแกะสลักน้ำแข็งที่โด่งดังไปทั่วโลก Harbin Institute of Technology เป็นสมาชิก C9 League และเป็นสถาบันแรกที่เปิดสอนด้าน astronautics และมีชื่อเสียงด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมจนได้รับการขนานว่าเป็นแหล่งกำเนิดวิศวกรของจีน 

เว็บไซต์: http://en.hit.edu.cn/

 

 

ติดตามสาระความรู้ภาษาจีนกลางเข้าใจง่ายและการเรียนต่อเมืองจีนได้ทาง

 

 

∞ ติว HSK, เตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย, ปูพื้นฐานภาษาจีนกลางเพื่อเรียนต่อเมืองจีนกับเลิร์นนิ่งอีสท์ มีทั้งคอร์สเรียนที่สถาบันและคอร์สเรียนออนไลน์ พื้นฐานแน่น เข้าใจง่าย เห็นผลจริง เหล่าซือชาวจีนและไทยทุกท่านมีประสบการณ์สอนโดยตรง ∞ 

ฉันชื่อเจียเจีย，ฉันสมัครเข้ามหาวิทยาลัยในจีนในปี 2021 และได้รับข้อเสนอจากมหาวิทยาลัยจีนสองแห่งในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เนื่องจากนักเรียนไทยหลายคนมีความตั้งใจที่จะไปเรียนที่ประเทศจีน และเพื่อนๆ มักถามฉันว่าสมัครอย่างไร เลยเขียนบทความนี้มาแบ่งปันกับคุณ

ฉันตัดสินใจไปประเทศจีนตั้งแต่ม.4 มีเหตุผลดังนี้ ประการแรก ด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจของจีน ประเทศจีนจึงมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในระบบเศรษฐกิจโลก อยากตามกระแสและเรียนรู้จากจีน เพิ่มเติมคือ วรรณกรรมจีนดีๆ แล้วไปทำธุรกิจกับคนจีน

ฉันตัดสินใจไปประเทศจีนตั้งแต่ม.4 มีเหตุผลดังนี้ ประการแรก ด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจของจีน ประเทศจีนจึงมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในระบบเศรษฐกิจโลก อยากตามกระแสและเรียนรู้จากจีน เพิ่มเติมคือ วรรณกรรมจีนดีๆ แล้วไปทำธุรกิจกับคนจีน

เกรดเฉลี่ยของฉันคือ 3.4 และ HSK อยู่ที่ระดับ 5 ตอนแรกฉันมั่นใจมากและรู้สึกว่าระดับภาษาจีนของฉันค่อนข้างสูง ดังนั้นฉันจึงสมัครเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง 5 แห่งในประเทศจีน:Peking University, Renmin University of China, Shanghai Normal University, Shanghai International Studies University, East China University of Science and Technology

หลังจากที่ส่งข้อมูลไปไม่นาน Peking University และ Renmin University of China ก็ปฏิเสธและไม่มีโอกาสได้สัมภาษณ์ อาจเป็นเพราะข้อกำหนดของสองมหาวิทยาลัยนี้สูงเกินไป (มหาวิทยาลัย TOP2 ของจีน และ TOP6) นั่นเองค่ะ ข้อกำหนด ของมหาวิทยาลัยปักกิ่งนั้นสูงมาก เมืองเป้าหมายที่สองคือ เซี่ยงไฮ้ ดังนั้นฉันจึงสมัครทุน CSC จากสามมหาวิทยาลัยในเซี่ยงไฮ้อย่างรวดเร็ว。

ในเดือนพฤษภาคมของปีนั้น ฉันได้เข้าร่วมในการสัมภาษณ์ที่มหาวิทยาลัย East China University of Science and Technology และฉันรู้สึกโอเค แต่หลังสัมภาษณ์ก็รอค่ะ อาจารย์ที่มหาวิทยาลัย East China University of Science and Technology ถามฉันว่า ถ้าฉันไม่ได้รับทุนการศึกษา คุณอยากมาเรียนที่นี่ไหม ฉันคิดเกี่ยวกับมันและต้องการที่จะตอบว่าใช่ เมื่อฉันได้ยินคำถามนี้ ฉันสงสัยว่าฉันอาจจะไม่ได้รับทุนการศึกษา ฉันก็เลยหงุดหงิดเล็กน้อย ฉันปรึกษาครูที่ LIFP และครูบอกฉันว่าเนื่องจากมีนักเรียนต่างชาติจำนวนมากเกินไปที่สมัครเข้าเรียนที่เซี่ยงไฮ้ มหาวิทยาลัยหลายแห่งจึงไม่เปิด CSC สำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี และสมัครเฉพาะระดับปริญญาโทและปริญญาเอกเท่านั้น

ในเดือนมิถุนายน ฉันได้รับหนังสือแจ้งสอบข้อเขียนจาก Shanghai International Studies University มีคำถามทั้งหมด 10 ข้อ ซึ่งต้องเขียนด้วยลายมือเป็นภาษาจีน ฉันคิดว่าฉันตอบได้ดี แต่สุดท้ายฉันก็ไม่ผ่านการทดสอบข้อเขียน ฉันปรึกษาอาจารย์ของ LIFP พวกเขาบอกว่าคำตอบของคำถามสองข้อนั้นง่ายเกินไป ในเวลานี้ ฉันรู้สึกท้อแท้เล็กน้อย

ภายใต้การแนะนำของครู ฉันเปลี่ยนไปสมัครทุนรัฐบาลเทศบาลเซี่ยงไฮ้。ในเดือนมิถุนายน ฉันได้รับหนังสือแจ้งสอบข้อเขียนจาก Shanghai International Studies University มีคำถามทั้งหมด 10 ข้อ ซึ่งต้องเขียนด้วยลายมือเป็นภาษาจีน ฉันคิดว่าฉันตอบได้ดี แต่สุดท้ายฉันก็ไม่ผ่านการทดสอบข้อเขียน ฉันปรึกษาอาจารย์ของ LIFP พวกเขาบอกว่าคำตอบของคำถามสองข้อนั้นง่ายเกินไป ในเวลานี้ ฉันรู้สึกท้อแท้เล็กน้อย

โชคดีที่ฉันได้รับหนังสือแจ้งสัมภาษณ์จาก Shanghai Normal University ในเวลานี้ ฉันขอให้อาจารย์ที่ LIFP ช่วยฉันในการสัมภาษณ์ ฉันขอคำแนะนำจากครูในการสัมภาษณ์ทุกวัน และการสัมภาษณ์จำลองถามคำถาม จากนั้นฉันก็วิเคราะห์ วิธีการตอบ สัมภาษณ์อาจารย์สามคนจาก Shanghai Normal University พวกเขาถามฉันว่าทำไมฉันถึงอยากเรียนที่ประเทศจีน สิ่งที่ฉันได้เรียนรู้ในโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย สิ่งที่ฉันรู้เกี่ยวกับวิชาเอกที่ฉันสมัคร และขอให้ฉันวิเคราะห์ข้อดีและข้อเสียของตัวเองในการศึกษาครั้งนี้ 

เนื่องจากฉันได้เตรียมการเพียงพอแล้ว คำตอบของฉันจึงเป็นไปอย่างราบรื่น สุดท้าย คุณครูถามฉันว่า ฉันอ่านหนังสือภาษาจีนเล่มไหนนอกจากหนังสือเรียน โชคดีที่ฉันรีบอ่านหนังสือภาษาจีนเรื่อง “Shu Wen Jie Zi” ไม่กี่วันก่อน ไม่อย่างนั้นฉันก็ตอบไม่ได้。

จากนั้นก็รออีกนาน ได้รับการตอบรับจาก East China University of Science and Technology และ Shanghai Normal University ฉันเลือก Shanghai Normal University ทุนนี้ไม่มีค่าเล่าเรียน + ประกันเป็นเวลาสี่ปี หลังจากคำนวณแล้ว ได้เรียนฟรีสี่ปี เทียบเท่ากับประหยัดเงินไปได้ถึง 103,200 หยวน (ประมาณ 510,000 บาท) ในเมืองเซี่ยงไฮ้ เมืองที่มีการแข่งขันสูง ฉันค่อนข้างพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้。

ขั้นตอนต่อไปคือรอการยื่นวีซ่าหลังจากที่ฉันมาถึงประเทศจีนแล้วฉันจะแบ่งปันประสบการณ์การเรียนที่ประเทศจีนกับน้องๆต่อไป

ประสบการณ์ของฉันในการสมัครเข้ามหาวิทยาลัยในจีนคือ

1. เป็นการดีที่สุดที่จะเริ่มต้นการเตรียมตัวตั้งแต่มัธยม4-5.

2. ต้องได้คะแนน HSK ยิ่งระดับสูงยิ่งดี HSK ขั้นต่ำระดับ 4 ขึ้นไป ถ้ามีระดับ 5-6 ก็ปลอดภัยกว่า หากมีเพียงคะแนน IELTS ภาษาอังกฤษหรือ TOEFL ของอังกฤษ จะมีมหาวิทยาลัยให้เลือกน้อยลง เนื่องจากมีมหาวิทยาลัยที่สอนเป็นภาษาอังกฤษไม่มากนักในประเทศจีน และทุนการศึกษาสาขาวิชาที่สอนเป็นภาษาจีนมากกว่า

3. เมื่อครูชาวจีนทบทวนสื่อการสอน พวกเขาคิดมากเกี่ยวกับคะแนน GPA ดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะสมัครโรงเรียนที่มีชื่อเสียงที่มีเกรดเฉลี่ยต่ำกว่า 3.0 หากคุณต้องการสมัครโรงเรียนที่มีชื่อเสียง TOP10 ของจีน ทางที่ดีควร มีเกรดเฉลี่ยของ 3.7 หรือสูงกว่า

4. มหาวิทยาลัยชั้นนำในปักกิ่งนั้นยากมาก หากคุณไม่ได้เกรดดีเป็นพิเศษ ขอแนะนำว่าอย่าพิจารณามหาวิทยาลัย Tsinghua และมหาวิทยาลัยปักกิ่ง มันเป็นไปไม่ได้จริงๆ

5. สิ่งที่ฉันเรียนรู้คือเซี่ยงไฮ้ กวางโจว ซีอาน เทียนจิน และชิงเต่าก็มีมหาวิทยาลัยที่ดีมากเช่นกัน และความกดดันจากการแข่งขันก็น้อยกว่าปักกิ่ง

6. ต้องทบทวนเอกสารการสมัครซ้ำ ๆ ทางที่ดีควรขอให้ครูที่มีประสบการณ์ในการสมัครช่วยตรวจสอบและแก้ไข 

7. การสัมภาษณ์ต้องมีการเตรียมคำถามและคำตอบทั่วไปมากขึ้น และเป็นการดีที่สุดที่จะฝึกฝนซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อให้คุณสามารถจัดการกับมันได้ง่ายในระหว่างการสัมภาษณ์