Skip to content
Home » [Update] 10 ภาษาน่าเรียน…ที่เก่งแล้วทุกองค์กรอยากคว้าตัว!!! | ภาษา ที่ สาม ที่ ควร เรียน – NATAVIGUIDES

[Update] 10 ภาษาน่าเรียน…ที่เก่งแล้วทุกองค์กรอยากคว้าตัว!!! | ภาษา ที่ สาม ที่ ควร เรียน – NATAVIGUIDES

ภาษา ที่ สาม ที่ ควร เรียน: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

เพราะทิศทางของโลกเปลี่ยนแปลงบ่อย…นอกจากการเรียนภาษาต่างประเทศเป็นภาษาที่สองอาจไม่เพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้ความสามารถในการสื่อสาร “ภาษาอังกฤษ” ที่ปัจจุบันไม่ใช่ความสามารถพิเศษอีกต่อไป ยุคนี้จึงกลายมาเป็นยุคของ “ภาษาที่สาม” สิ่งที่คนรุ่นใหม่ทุกคนควรจะมีและถือเป็นข้อได้เปรียบที่นอกจาก ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ แล้ว เราต้องพัฒนาทักษะทางด้านภาษาของตัวเองให้โดดเด่นขึ้นไม่ให้น้อยหน้าใคร ภาษาที่สามจึงเปรียบเสมือนความสามารถพิเศษ ยิ่งถ้าพูดได้มากกว่าสามภาษาขึ้นไปก็จะยิ่งทำให้ทุกองค์กร และทุกสถาบันการศึกษาต้องรีบคว้าตัวไว้อย่างแน่นอนกับ 10 สุดยอดภาษาที่จำเป็นอย่างยิ่งในอนาคต จะมีภาษาอะไรที่น่าสนใจและควรค่าแก่การเรียนเพิ่มเติมบ้างไปชมกันเลย…

 

1. ภาษาจีนกลาง (Mandarin / 普通话)

 

 

“สวัสดี” ในภาษาจีนกลางพูดว่า “Ni hao” (หนี-ห่าว)

 

ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่และมีประชากรมากที่สุดในโลกประกอบไปด้วยหลากหลายชาติพันธุ์ จึงเป็นเหตุให้มีภาษาจีนกว่า 300 ภาษาในแต่ละพื้นที่ แต่ภาษาที่ใช้เป็นภาษาราชการของประเทศจีนคือ “ภาษาจีนกลาง” หรือ “ภาษาแมนดาริน” จากการรายงานในปี 2014 ภาษาจีนกลางเป็นภาษาที่มีคนพูดมากที่สุดในโลกกว่า 1 พันล้านคน มากเป็นสองเท่าของจำนวนคนที่พูดภาษาอังกฤษ และยังได้บรรจุเป็นภาษาของสหประชาติ (UN) อีกด้วย เป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศจีนเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก และได้รับการคาดการณ์ไว้ว่าในปี ค.ศ.2020 ประเทศจีนจะขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมโลกอย่างแน่นอน การเรียนรู้ภาษาจีนกลางจึงจำเป็นและสำคัญมากในอนาคต รวมไปถึงผลการสำรวจภาษาที่มีการใช้มากที่สุดในอินเตอร์เน็ตภาษาจีนติดอยู่ในอันดับที่ 2 ของโลก รองจากภาษาอังกฤษ แม้จะเป็นภาษาที่ถือได้ว่ายากต่อการเรียนรู้ภาษาหนึ่ง แต่หากคุณสามารถสื่อสารทั้งเขียนและพูดภาษาจีนกลางได้เป็นอย่างดีแล้วหละก็ รับรองว่ามีผลต่ออาชีพหน้าที่การงานในอนาคตอย่างแน่นอน 

 

2. ภาษาสเปน (Spanish / Español)

 

“สวัสดี” ในภาษาสเปนพูดว่า “Hola” (โอ-ลา)

 

ภาษาสเปนถูกใช้เป็นภาษาราชการในสามทวีป รวมแล้วกว่า 20 ประเทศทั่วโลก และยังพบว่ามีคนพูดภาษาสเปนได้ถึง 400 ล้านคน จากการสำรวจในปี 2014 นอกจากนี้ภาษาสเปนยังเป็นภาษาที่สองของประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย ดูได้จากผลการสำรวจสำมะโนประชากรในสหรัฐอเมริกาพบว่า ภาษาสเปน เป็นภาษาเริ่มแรกที่ใช้พูดกันในครอบครัวในช่วงอายุตั้งแต่ 5 ขวบขึ้นไปประมาณ 38.3 ล้านคน และมีแนวโน้มว่าจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นภาษาที่มีความสำคัญในด้านของเศรษฐกิจและธุรกิจระหว่างประเทศ จำเป็นต่อการประกอบอาชีพของประชากร ภาษาสเปนจึงเป็นที่นิยมมากในการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยของประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้มีการคาดการณ์ไว้ว่า คนที่มีสามารถพูดและสื่อสารภาษาสเปนได้ดีจะทำให้มีอัตราค่าจ้างเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 1.7 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ภาษาสเปนยังเป็นภาษาที่ใช้ในอินเตอร์เน็ตมาที่สุดอยู่ในอันดับที่ 3 รองจากภาษาจีน และภาษาอังกฤษ นั่นเอง  

 

3. ภาษาญี่ปุ่น ( Japanese/ 日本語 )

 

“สวัสดี” ในภาษาญี่ปุ่นพูดว่า “Hajimemashite” (ฮะ-จิ-เมะ-มะ-ชิ-เตะ)

 

ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก มีทั้งการลงทุนและขยายธุรกิจไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก จึงทำให้ภาษาญี่ปุ่นยังคงเป็นภาษาที่มีอิทธิพลมาก ผู้คนทั่วโลกต้องการที่จะศึกษาภาษาญี่ปุ่นเพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารในด้านธุรกิจนั่นเอง และนอกเหนือจากด้านของการทำธุรกิจแล้ว ภาษาญี่ปุ่นยังมีความน่าสนใจในด้านของวรรณกรรมต่างๆ การที่เราสามารถเรียนรู้และเข้าใจภาษาญี่ปุ่นได้ก็ทำให้เราอ่านหนังสือดีๆ ของประเทศญี่ปุ่นได้อีกมากเช่นกัน ปัจจุบันบริษัทญี่ปุ่นที่เข้ามาลงทุนในไทยคิดเป็นถึง 40% ของบริษัทต่างชาติทั้งหมด ในหลายองค์กรจึงต้องการบุคลากรที่มีความรู้ด้านภาษาญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก เนื่องจากคนในประเทศญี่ปุ่นยังพูดภาษาอังกฤษได้น้อย จึงต้องการคนที่สื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้เป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้มีค่าตอบแทนที่ค่อนข้างสูง ปัจจุบันมีผู้ใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาทางการกว่า 130 ล้านคนทั่วโลก แม้จะเป็นภาษาที่สำคัญในด้านธุรกิจและเศรษฐกิจระหว่างประเทศมาก แต่ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาที่ค่อนข้างยากถึงขั้นต้องเรียกว่าพิสดารเลยทีเดียว เพราะมีไวยากรณ์ที่ซับซ้อน มีความละเอียดอ่อนมาก เปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ และสถานะของบุคคลอีกด้วย

 

4. ภาษาโปรตุเกส (Portuguese/ Português)

 

 

“สวัสดี” ในภาษาโปรตุเกสพูดว่า “Olá” (โอ-ล๊ะ)

 

แม้ว่าความต้องการของภาษาโปรตุเกสจะไม่ฮอตเท่ากับภาษาสเปน แต่ภาษาโปรตุเกสก็เป็นภาษาราชการในหลายประเทศทั่วโลก อาทิเช่น ประเทศโปรตุเกส บราซิล แองโกลา โมซัมบิก และประเทศติมอร์-เลสเต เป็นต้น รวมแล้วมีคนพูดภาษาโปรตุเกสได้กว่า 200 ล้านคนทั่วโลก จัดอยู่ในอันดับที่ 6 ภาษาที่มีคนพูดได้มากที่สุดในโลก หากพิจารณาในด้านของเศรษฐกิจแล้วจะเห็นได้ว่าประเทศส่วนใหญ่ที่ใช้ภาษาโปรตุเกสจะเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาอยู่ในแถบทวีปอเมริกาใต้ โดยเฉพาะประเทศบราซิลที่มีขนาดใหญ่และมีประชากรจำนวนมาก กำลังต้องการที่จะขยายเศรษฐกิจออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก แต่ยังขาดแคลนคนที่สามารถพูดและใช้ภาษาโปรตุเกสได้เป็นอย่างดี ถือเป็นข้อได้เปรียบและมีประโยชน์มากเพราะคนที่มีความรู้ด้านภาษาโปรตุเกสนี้มีน้อย แต่การเรียนรู้ภาษาโปรตุเกสต้องบอกเลยว่ายากกว่าภาษาสเปน แต่ก็ไม่ยากเท่ากับภาษาอังกฤษ และฝรั่งเศส  

 

5. ภาษาเยอรมัน (German/ Deutsch)

 

“สวัสดี” ในภาษาเยอรมันพูดว่า “Hallo” (ฮา-โล)

 

แม้ภาษาเยอรมันจะไม่ได้เป็นหนึ่งในภาษาของสหประชาชาติ แต่ก็เป็นภาษาราชการของประเทศมหาอำนาจด้านเศรษฐกิจของยุโรปหลายประเทศ นอกจากประเทศเยอรมนีที่ใช้ภาษาเยอรมันเป็นภาษาราชการแล้ว ยังมีประเทศใกล้เคียงที่ใช้ภาษาเยอรมันเป็นภาษาพูดอีก เช่น ออสเตรีย, เบลเยียม, เดนมาร์ก, ฮอลแลนด์, ลิกเตนสไตน์, ลักเซมเบิร์ก และสวิตเซอร์แลนด์ รวมแล้วประมาณ 100 ล้านคน และยังเป็นภาษาที่มีคนพูดมากที่สุดในยุโรปอีกด้วย อย่างประเทศเยอรมนีที่มีความแข็งแกร่ง และมีเสถียรภาพด้านเศรษฐกิจมากที่สุดในสหภาพยุโรป ความสามารถในการพูดภาษาเยอรมันจึงมีประโยชน์และสำคัญมากในด้านการทำธุรกิจระหว่างประเทศกับประเทศในแถบยุโรป หรือแม้แต่ประเทศไทยเองก็มีบริษัทมากมายที่มาจากประเทศเยอรมัน จึงเป็นที่คาดการณ์ว่าผู้ที่สามารถสื่อสารภาษาเยอรมันได้จะทำให้มีอัตราค่าจ้างสูงขึ้นประมาณ 4% และยังเป็นภาษาที่ง่ายต่อการเรียนรู้เพราะมีลักษณะคล้ายภาษาอังกฤษ แต่จะยากในส่วนของไวยากรณ์

 

6. ภาษาอาหรับ (Arabic /العربيةالعربية)

 

“สวัสดี” ในภาษาอาหรับพูดว่า “Al salaam a’alaykum” (อัสสะลามมุอะลัยกุม)

 

ภาษาอาหรับ หรือ ภาษาอารบิค หนึ่งในภาษาของสหประชาชาติ และเป็นภาษาราชการของกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เช่น อิรัก, คูเวต, จอร์แดน, อิสราเอล, แอลจีเรีย, บาห์เรน, ปาเลสไตน์, ซาอุดีอาระเบีย และอื่นๆ อีกมากมาย จะเห็นได้ว่าภาษาอารบิคเป็นภาษาของศาสนาอิสลามที่เติบโตได้อย่างรวดเร็วที่สุด และมีแนวโน้มว่าจะขยายตัวมากขึ้นทุกปี โดยสถิติล่าสุดในปี 2014 มีผู้พูดภาษาอารบิคได้ทั้งหมด 246 ล้านคนจากทั่วโลก มากเป็นอันดับที่ 6 และสาเหตุสำคัญที่ทำให้ภาษาอารบิคเป็นอีกหนึ่งภาษาที่น่าสนใจนั่นก็คือ กลุ่มประเทศในตะวันออกเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นประเทศผู้มีอิทธิพลในเศรษฐกิจน้ำมันโลก ทำให้ในอนาคตข้างหน้าภาษาอารบิคจะเป็นที่ต้องการมากขึ้นอย่างแน่นอน แต่สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะเรียนภาษาอาหรับต้องบอกเลยว่า เป็นภาษาที่มีระดับความยากอยู่ที่อันสามรองจากภาษาจีนและภาษาญี่ปุ่นเลยทีเดียว เนื่องจากว่ามีระบบการเขียนที่ยาก และหลักไวยากรณ์ที่ซับซ้อนนั่นเอง

 

7. ภาษาฝรั่งเศส (French/ Français)

 

 

“สวัสดี” ในภาษาฝรั่งเศสพูดว่า “Bonjour” (บงชูร์)

 

ภาษาฝรั่งเศส เรียกได้ว่าเป็นภาษาที่โรแมนติกและไพเราะมากที่สุดในโลก อีกทั้งยังเป็นภาษาที่มีประวัติศาสตร์โดดเด่นมากในยุโรปก่อนที่ภาษาอังกฤษจะเกิดขึ้นเสียอีก และยังคงเป็นภาษาที่มีบทบาทมาจนถึงปัจจุบันถือเป็น 1 ใน 5 ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารในที่ประชุมองค์การสหประชาชาติ (UN) เนื่องจากที่ฝรั่งเศสเคยเป็นประเทศอาณานิคมของหลายประเทศทั่วโลก จึงทำให้ภาษาฝรั่งเศสเป็นอีกหนึ่งภาษาที่มีการใช้อย่างแพร่หลายสูงถึง 129 ล้านคนทั่วโลก (Top Ten Most Spoken Languages In The World In 2014) กว่า 40 ประเทศ และยังเป็น 1 ใน 10 ของภาษาที่พบมากที่สุดในอินเตอร์เน็ต ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่ง่ายต่อการเรียนรู้เพราะคล้ายกับภาษาอังกฤษมาก ยกตัวอย่างในประเทศแคนาดามีผู้ที่ต้องการเรียนรู้ภาษาฝรั่งเศสเป็นอย่างมาก เพราะตำแหน่งงานส่วนใหญ่จะต้องใช้ภาษาฝรั่งเศสในการสื่อสาร จนถึงขั้นมีการคิดประเมินค่าจ้างไว้ว่าคนที่สามารถพูดภาษาฝรั่งเศสได้จะมีค่าจ้างเพิ่งขึ้นถึง 2.7% เลยทีเดียว 

 

8. ภาษารัสเซีย (Russian/ русский язык)

 

“สวัสดี” ในภาษารัสเซียพูดว่า “Zdravstvuite” (สดร๊าสต-วุย-ถิ)

 

ภาษารัสเซียเป็น 1 ใน 5 ของภาษาที่แพร่หลายมากที่สุดในโลก หนึ่งในลิสต์ภาษาที่เราต้องเรียนรู้เพราะเป็นทั้งภาษาสากล และภาษาทางการของสหประชาชาติ ทั่วโลกมีคนที่ใช้ภาษารัสเซียกว่า 277 ล้านคน จากผลสำรวจในปี 2014 ประเทศรัสเซียเป็นประเทศที่มีความโดดเด่นหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ภาษารัสเซียจึงมีความโดดเด่นมากสำหรับผู้ที่จะทำธุรกิจระหว่างประเทศ เพราะชาวรัสเซียส่วนใหญ่มีความเป็นชาตินิยม และอนุรักษ์นิยมค่อนข้างสูง ชาวรัสเซียโดยทั่วไปสื่อสารด้วยภาษาถิ่นของตนเอง และมีความรู้ภาษาอังกฤษไม่มาก เพื่อที่จะสามารถติดต่อทำธุรกิจกับประเทศรัสเซีย และประเทศอื่นๆ ที่ใช้ภาษารัสเซียเป็นภาษาราชการ จึงมีความต้องการล่ามหรือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านภาษารัสเซียเป็นพิเศษ ทำให้มีผลต่ออัตราเงินเดือนที่จะเพิ่มสูงขึ้นถึง 4% ต่อปี เมื่อพูดถึงในด้านของการเรียนรู้ภาษารัสเซียเป็นภาษาที่ค่อนข้างยากภาษาหนึ่ง เนื่องจากมีไวยากรณ์ที่ซับซ้อน คนไทยอาจมีปัญหาในเรื่องของการออกเสียงเนื่องจากค่อนข้างยากเช่นเดียวกัน แต่ก็เรียกได้ว่าภาษารัสเซียเป็นภาษาที่ง่ายที่สุดในกลุ่มของ “ภาษายาก” นั่นเอง

 

9. ภาษาเกาหลี (Korean/ 한국어)

 

“สวัสดี” ในภาษาเกาหลีพูดว่า “안녕하세요.” (อัน-นยอง-ฮา-เซ-โย)

 

เกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีความมหัศจรรย์ทางด้านเศรษฐกิจเป็นอย่างมากในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะยังคงเป็นหนึ่งประเทศที่เติบโตเร็วที่สุดในเชิงพาณิชย์สำรับอนาคตข้างหน้า โดยจะเห็นได้ว่าในประเทศไทยมีบริษัทที่มาลงทุนจากประเทศเกาหลีเป็นจำนวนมาก และโดยพื้นฐานแล้วคนเกาหลีส่วนใหญ่ก็จะไม่ค่อยมีทักษะทางด้านภาษาอังกฤษเท่าใดนัก จึงมีความต้องการคนที่สามารถพูดและสื่อสารภาษาเกาหลีได้ค่อนข้างสูง เพื่อมาทำงานในบริษัท หรือติดต่อด้านธุรกิจกับประเทศเกาหลีนั่นเอง ในสมัยก่อนคนไทยไม่ได้ให้ความสำคัญกับภาษาเกาหลีมากนัก ทั้งที่จริงแล้วประเทศไทยกับเกาหลีมีความสัมพันธ์กันหลายด้านอย่างเช่น การค้า เศรษฐกิจ ความมั่นคงทางศาสนา และการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันวัฒนธรรมเกาหลีก็ได้เข้ามามีบทบาทกับประเทศไทยมากขึ้นในเรื่องของแฟชั่น ภาพยนตร์ และดนตรี ทำให้มีสถานศึกษาและโรงเรียนกวดวิชาบางแห่งเปิดสอนภาษาเกาหลีขึ้นอย่างมากมาย หากใครจะเลือกภาษาเกาหลีมาเป็นภาษาที่ 3 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย

 

10. ภาษาฮินดี (Hindi / हिन्दी, हिंदी)

 

“สวัสดี” ในภาษาฮินดีพูดว่า “Namaste / Namaskar” (นมัสเต / นมัสการ)

 

ภาษาอันดับที่ 4 ที่มีคนใช้มากที่สุดในโลก “ภาษาฮินดี” เป็นภาษาราชการของสาธารณรัฐอินเดีย และเป็นภาษาที่ใช้สื่อสารกันทั่วไปของประเทศในแถบเอเชียใต้ เช่น ปากีสถาน เนปาล บังคลาเทศ ภูฏาน เป็นต้น โดยเฉพาะประเทศอินเดียที่ในปัจจุบันมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างสูง และยังเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกอยู่ในอันดับ 2 รองจากประเทศจีน ทำให้ภาษาฮินดีมีผู้ใช้ทั้งหมด 497 ล้านคน มีความสำคัญต่อการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น อินเดียก็อยู่ในกลุ่มประเทศ AEC+6 ด้วย ในประเทศไทยมีสมาคมนักธุรกิจชาวอินเดียและชุมชนชาวอินเดียอยู่หลายกลุ่ม ซึ่งเกือบทั้งหมดยังนิยมใช้ภาษาฮินดีเป็นภาษากลางในการสื่อสารกัน แต่ภาษาฮินดีก็ไม่ได้เป็นภาษาสากลในประเทศอินเดียซะทีเดียว เพราะคนที่พูดฮินดีส่วนใหญ่ก็จะใช้ภาษาอังกฤษได้ดีด้วยเช่นเดียวกัน 

 

ขอบคุณภาพประกอบจาก : Internet

รวบรวมข้อมูลและอ้างอิงจาก : 

 

 

Table of Contents

[NEW] ไปเรียนต่อญี่ปุ่น ดีไหม? 10 เหตุผลที่ควร ไปศึกษาต่อที่ญี่ปุ่น | ภาษา ที่ สาม ที่ ควร เรียน – NATAVIGUIDES

เมื่อคิดจะเรียนต่อต่างประเทศ… ไปเรียนต่อญี่ปุ่น กันเถอะ!

 

หลายคนที่กำลังคิดอยากจะไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น
อาจจะมีคำถามอยู่ในใจว่า
การไปเรียนที่ญี่ปุ่นนั้น จะคุ้มค่ากับเงินและเวลาที่เสียไปไหม

ถ้าลองถามคนที่เคยมีประสบการณ์ไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นมาแล้วล่ะก็
ส่วนใหญ่จะบอกว่า การไปเรียนที่ญี่ปุ่นเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดช่วงหนึ่งของชีวิต  เป็นประสบการณ์อันล้ำค่าที่ได้มากกว่าคำว่า “คุ้ม”

10 เหตุผลที่ควร ไปเรียนต่อญี่ปุ่น

 

1. ไม่ไกลเกินไป

นั่งเครื่องบินเพียงแค่ 6 ชั่วโมงจากไทย ก็ไปถึงญี่ปุ่นแล้ว งีบกลางคืน ตื่นเช้ามาก็ซิ่งได้ทันที

มีเที่ยวบินบินตรง ไปญี่ปุ่น  โดยลงที่เมืองต่างๆ หลายแห่ง เช่น ซัปโปโร โตเกียว นาโงย่า โอซาก้า ฟุกุโอกะ
พ่อแม่พี่น้อง อยากไปเยี่ยมก็ไปหาได้ง่ายๆ สบายๆ ตั๋วเครื่องบินโปรโมชั่นราคาไม่แพง ก็มีเยอะมากตลอดทั้งปี

2. มาตรฐานการศึกษาที่ดี  สาขาวิชาที่หลากหลาย

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีมาตรฐานทางด้านการศึกษาในระดับที่สูง ไม่ว่าคุณอยากจะเรียนสาขาใด เจาะลึกด้านไหน
เป็นพิเศษ การศึกษาที่ญี่ปุ่นสามารถตอบสนองความฝันของคุณได้

จากการจัดอันดับ 20 ประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก “20 Best Education Systems In The World” ประจำปี 2015/2016 ญี่ปุ่นอยู่อันดับที่ 2 ของโลก

จากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกของ QS World Ranking 2015-2016 มหาวิทยาลัยญี่ปุ่นติดอันดับ Top 100 จำนวน 5 แห่ง

นักวิทยาศาสตร์ของญี่ปุ่นได้รับรางวัลโนเบลมาแล้วถึง 24 คน นับเป็นอันดับที่ 8 ของประเทศที่ได้รับรางวัล
โนเบลมากที่สุดในโลก

3.ได้ภาษาที่สาม

เด็กสมัยใหม่ไม่ว่าใครก็พูดภาษาอังกฤษกันได้หมดแล้ว
การได้ภาษาที่สามเริ่มกลายเป็นเรื่องปรกติ  การได้ภาษาญี่ปุ่น สามารถใช้ประโยชน์ในการทำงาน  ไม่ว่าจะทำงานบริษัท หรือติดต่อธุรกิจส่วนตัว  ค้นหาข้อมูล ท่องเที่ยว ฯลฯ

โดยเฉพาะคนที่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นในระดับที่ดี ในระดับที่สื่อสารทางธุรกิจ หรือภาษาญี่ปุ่นที่เป็นสาขาเฉพาะทาง ยังเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่อีกมาก พูดได้เต็มปากเลยค่ะว่า ถ้ามีความรู้ภาษาญี่ปุ่นในระดับที่สามารถสื่อสารได้ดีล่ะก็ ไม่มีทางตกงานค่ะ

นักเรียนไทยที่จบปริญญาตรี แล้วไปเรียนภาษาที่ญี่ปุ่นประมาณ 1-2 ปี กลับมาถึงเมืองไทย ส่วนใหญ่ได้งานภายใน 1 เดือน และได้มากกว่า 1 งาน

4. คุณภาพชีวิตที่ดี สะดวก ปลอดภัย

ได้ใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่ดี  ไม่ว่าจะอยู่ในเมืองหรือในต่างจังหวัด

การจัดอันดับ QS Best Student Cities 2016  โตเกียวอยู่อันดับเมืองเหมาะกับนักศึกษามากที่สุดในโลกเป็นอันดับที่ 3 รองจากเมลเบิร์นของออสเตรเลีย และปารีสของฝรั่งเศส

ญี่ปุ่นติดอันดับ 1 ใน 10 ประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลกมาตลอด อัตราการก่ออาชญากรรมต่ำ ถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆ ในโลกแล้วล่ะก็ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ลืมของไว้ แล้วมีโอกาสได้ของคืนกลับมาค่อนข้างสูงมาก

แม้จะมีประเด็นเรื่องภัยธรรมชาติที่หลายคนกังวล แต่การความเตรียมพร้อมในด้านการป้องกันภัยธรรมชาติ การ
ให้ความรู้และฝึกฝนเพื่อให้รู้จักรับมือกับภัยธรรมชาติ รวมถึงระบบการให้ความช่วยเหลือกรณีฉุกเฉินของญี่ปุ่น ถือ
ว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก

5. เปิดโลกทัศน์แห่งความคิดสร้างสรรค์ ไอเดียพุ่งกระฉูด

นอกเหนือจากความไฮเทคอันล้ำสมัยแล้ว ญี่ปุ่นเป็นเจ้าแห่งความครีเอทีฟอันบรรเจิดสุดๆ

ไม่จำเป็นต้องเป็นนักครีเอทีฟตัวยง หรืออาร์ตตัวพ่อ แค่คนธรรมดาๆ กับการใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่นในแต่ละวัน ไม่ว่าจะไปแห่งหนใด คุณจะได้พบไอเดียแปลกๆ มุมมองใหม่ๆ ที่คิดไม่ถึงมาก่อน

คำว่า… “โหย..คิดได้ไงเนี่ย” จะเป็นประโยคปรกติที่ผุดขึ้นมาในสมองได้อยู่บ่อยครั้ง

ไม่ใช่แค่ไอเดียที่เป็นความคิดสร้างสรรค์เท่านั้น แนวความคิดทางธุรกิจ การให้บริการของคนญี่ปุ่นยังมีความใส่ใจ
ที่ลึกซึ้ง มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ทำให้เราได้เรียนรู้อย่างล้ำลึก

6.ได้ท่องเที่ยวสะใจ สัมผัสทุกฤดูกาล

พูดถึงสถานที่ท่องเที่ยว เชื่อว่ายุคนี้ใครๆ ก็อยาก ไปญี่ปุ่น

ไม่ต้องสงสัยเลยค่ะว่าเวลาว่างของนักเรียนไทยที่ญี่ปุ่นทำอะไรกัน ก็ “เที่ยว” สิคะ ไหนๆ ก็อยู่ในญี่ปุ่นทั้งที จะรอ
อยู่ไย ต้องออกไปแชะภาพอวดให้เพื่อนร่วมโลกอิจฉา

ญี่ปุ่นมีครบทั้ง 4 ฤดู จะฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง หรือฤดูหนาว ไม่ว่าจะฤดูไหนก็มีสถานที่ให้ไปท่องเที่ยว
ได้อย่างไม่มีวันหมดสิ้น ไปแล้วไปอีก…ไม่เคยพอ

สถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติของญี่ปุ่นก็คงความอุดมสมบูรณ์สวยงาม สถานที่ทางวัฒนธรรมก็สวยล้ำจับใจ การท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ ที่ไม่เคยไปมาก่อน ทำให้ได้เรียนรู้ ได้ประสบการณ์ใหม่ ที่น่าจดจำไม่มีวันลืม

7. ได้เพื่อนจากนานาชาติทั่วโลก

มีนักเรียนจากนานาชาติมาเรียนต่อที่ญี่ปุ่น ทำให้คุณได้เพื่อนใหม่จากทุกมุมโลก

โดยเฉพาะในโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น นักเรียนแต่ละชาติจะได้แสดงความคิดเห็น บอกเล่าเรื่องราวของประเทศตน ผ่านการสื่อสารด้วยภาษาญี่ปุ่น ซึ่งทำให้คุณได้เรียนรู้วัฒนธรรม วิถีชีวิตและความคิดที่แตกต่างของผู้คนจากนานาชาติทั่วโลก และยังได้รู้จักประเทศไทยของเราเองมากขึ้นอีกด้วย

8. มีระเบียบวินัย พึ่งพาตัวเองได้

การใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศคนเดียว ทำให้คุณต้องปรับตัว ช่วยเหลือตัวเองทุกๆด้าน เพราะไม่มีคอยทำอะไรให้
เหมือนอยู่บ้านที่เมืองไทย ต้องเผชิญกับสารพัดปัญหา ทำให้กล้าตัดสินใจ

และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้ชีวิตในญี่ปุ่น คุณจะถูกสภาพแวดล้อมบังคับให้มีระเบียบวินัย เป็นคนตรงต่อเวลาไปโดยอัตโนมัติ ปรับทัศนคติให้รู้จักความเกรงใจสไตล์ญี่ปุ่นที่เห็นแก่ส่วนรวม ไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น

9.โอกาสในการทำงานทั้งที่ไทยและญี่ปุ่น

การทำงานในประเทศไทยนั้น แทบจะไม่ต้องพูดถึง ตลาดงานในไทยยังต้องการบุคลากรที่จบการศึกษาจากญี่ปุ่น
อยู่ตลอดเวลา

บริษัทญี่ปุ่นที่มาลงทุนในไทยในปัจจุบัน อาจจะไม่ใช่บริษัทยักษ์ใหญ่แนวโรงงาน แต่เป็นบริษัทที่เน้นด้านการค้าขายสินค้าและบริการเพิ่มมากขึ้น ซึ่งบริษัทฯ เหล่านี้ ไม่ได้ต้องการแต่ตำแหน่งล่ามโรงงาน เหมือนยุคก่อน แต่ต้องการบุคลากรที่มีความรู้ด้านใดด้านหนึ่ง พร้อมทั้งสามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้ ไม่ว่าจะงานการตลาด  การขาย กฎหมาย การแพทย์ บัญชี คอมพิวเตอร์ ฯลฯ

สำหรับตลาดงานที่ญี่ปุ่น  ในช่วงปีสองปีที่ผ่านมานี้ บริษัทญี่ปุ่นเปิดรับพนักงานต่างชาติเข้าทำงานเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  นักเรียนที่จบการศึกษาในญี่ปุ่น  จึงมีโอกาสเข้าทำงานในบริษัทที่ญี่ปุ่นเพื่อสั่งสมประสบการณ์การทำงานได้มากขึ้น

10. ฟินกับความเป็นติ่ง

ถ้าคุณเป็นติ่งญี่ปุ่น ไม่ว่าจะติ่งอะไรก็ตาม … บอกได้คำเดียวว่า การใช้ชีวิตอยู่ในญี่ปุ่นคือที่สุดแห่งความฟิน!!!

ติ่งญี่ปุ่น จะใช้ชีวิตอยู่ในญี่ปุ่นได้อย่างมีความสุข แถมความเป็นติ่งจะเป็นแรงบันดาลใจ ทำให้มีความมุ่งมั่น ตั้งใจเรียนได้อย่างไม่น่าเชื่อค่ะ

ถ้าคุณคิดว่า คุณไม่ถึงกับ “ติ่ง” แค่มีบางอย่างที่คุณชอบเกี่ยวกับญี่ปุ่น หรือมี ” ความฝัน” บางอย่างที่หาได้ที่
ญี่ปุ่น เชื่อเถอะค่ะ ว่าคุณจะสนุกและมีความสุขกับการใช้ชีวิตในแดนอาทิตย์อุทัย

แน่นอนว่า ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ต้องเจอะเจอปัญหาเป็นเรื่องปรกติ  แต่ถ้าเรามีความ “ชอบ” อยู่ล่ะก็ เราจะสามารถฝ่าฟันปัญหาต่างๆ ไปได้แน่นอน

 

เหตุผลในการไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น  ยังมีอีกมากมาย

คุณอาจจะมีเหตุผลของตัวเองที่ไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร

 

ถ้าคิดว่าญี่ปุ่น ตอบโจทย์ที่ใช่  ….
วางแผนการศึกษาให้พร้อม  แล้วไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ดีๆ ที่ญี่ปุ่นกันนะคะ

 

ทำไมถึงสมัครไปเรียนต่อญี่ปุ่นกับ Jeducation

ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น

เป็นสำนักงานตัวแทนในประเทศไทยของสถาบันโดยตรง เปิดตั้งแต่ปีค.ศ.1999  ดำเนินการสมัคร เรียนต่อญี่ปุ่น ครบครันทุกขั้นตอน สมัครเรียนกับโรงเรียนที่เจเอ็ดดูเคชั่นเป็นตัวแทน เหมือนการสมัครเรียนกับโรงเรียนที่ญี่ปุ่นโดยตรง  ไม่คิดค่าดำเนินการใดๆ

รับรองโดยสมาคมไทยแนะแนวการศึกษานานาชาติ (TIECA)

ติดต่อสอบถาม-ปรึกษาเรื่องเรียนต่อญี่ปุ่น
โทร. 02-267-7726
email : [email protected]

ขอข้อมูลเพิ่มเติม คุยกับเจ้าหน้าที่ คลิกเลย  >> https://bit.ly/jed-line


TR11 : กัปตันเดวี่แชร์เทคนิคการเลือกเรียนภาษาที่ 3


TCAS Reality เว็บไซต์ DekD.com \r
\r
ติดตามโครงการทั้งหมดได้ที่ https://www.dekd.com/tcas/reality/\r
\r
Subscribe ติดตามข่าวสาร TCAS Reality ไม่ให้พลาด !\r
http://www.youtube.com/subscription_center?add_user=dekdbar4

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

TR11 : กัปตันเดวี่แชร์เทคนิคการเลือกเรียนภาษาที่ 3

5 เหตุผลที่คุณควรเรียนภาษาจีน | DearChineseLanguage


语言就是交际的工具
yǔyán jiùshì jiāojì de gōngjù
ภาษาคือเครื่องมือในการสื่อสาร
ทำไมภาษาจีนจึงสำคัญ ??
ทำไมในยุคปัจจุบันเราถึงไม่ควรมองข้ามภาษาจีน ??
และการที่คนไทยจะเรียนภาษาจีนกลางมันยากขนาดนั้นจริงๆน่ะหรือ ??
มาชมคำตอบในคลิปนี้ได้เลยค่า
\”5 เหตุผลที่คุณควรเรีัยนภาษาจีนกลาง\”

\”โบกมือต้อนรับยุคที่ภาษาจีนเป็นภาษาที่ถูกใช้มากที่สุดในโลก ได้เวลาเสริมศักยภาพตัวเองกันแล้ว เริ่มกันเลยค่ะ\”
\”ภาษาจีนไม่ได้ยาก ไม่ว่าใครก็เรียนได้ ทันที\”
หวังว่าเนื้อหาคลิปจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ ชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์ กดติดตาม (subscribe) เป็นกำลังใจกันให้หน่อยน้ออ
Dear Chinese Language

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทาง Facebook Fanpage
https://www.facebook.com/Dearchineselanguage/

5 เหตุผลที่คุณควรเรียนภาษาจีน | DearChineseLanguage

แชร์ [เทคนิค] เรียนภาษาที่ 3 ของผม


ในคลิปนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์และเทคนิคเรียนภาษาที่3 ของผมนะครับ 🙂 มาดูกันว่าเป็นอย่างไร
เรียนต่อเยอรมัน เรียนต่อต่างประเทศ
Social Media
Instagram:Pasitzhou (https://www.instagram.com/pasitzhou/)
Facebook: Pasitzhou (https://www.facebook.com/Pasitzhou108437654175710)
ติดต่อ
Email: [email protected]

Music :
Life of Riley
Kevin MacLeod
Licensed under Creative Commons: By Attribution 3.0
http://creativecommons.org/licenses/b…

แชร์ [เทคนิค] เรียนภาษาที่ 3 ของผม

เรียนจีนหรือญี่ปุ่นดีนะ? | YUMI see the world


เรียนภาษาจีน hsk เรียนภาษาญี่ปุ่น jlpt
แชร์ไอเดียสำหรับใครที่สนใจในการเรียนภาษาที่สามจ้า
ใครมีไอเดียแนะนำเพื่อนๆ ก็คอมเม้นท์ใต้คลิปได้เลย
มีคำถามหรือ อยากให้ทำคลิปเกี่ยวกับการเรียนภาษาในหัวข้ออื่นๆ
คอมเม้นท์มาได้เลยจ้า ^^
.
แชร์วิธีเตรียมตัวสอบ HSK4 คะแนน200+ แบบฉบับเด็กสายวิทย์และไม่เคยไปจีน https://www.youtube.com/watch?v=tqWB98c_3Nw\u0026t=685s
แชร์วิธีเตรียมตัวสอบ TOEIC จากคะแนน 380 สู่ 700+ https://www.facebook.com/yumiseetheworld/photos/a.105337771510548/107168821327443
สอบ N5 อ่านอะไรบ้าง (เรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเอง) https://www.youtube.com/watch?v=clVNJ5PXk
พูดจีนได้ ใน 10 นาที ฉบับมือใหม่ https://www.youtube.com/watch?v=3YiBhDl7Bb8\u0026t=1s
ebook เรียนอังกฤษจีนง่ายๆสไตล์เด็กสายวิทย์
meb market https://www.mebmarket.com/ebook132282%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%87%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%86%E0%B8%AA%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%8C
ookbee https://www.ookbee.com/shop/book/0f99be8a3ec442f1a85501896495e9b7/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%87%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%86%E0%B8%AA%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%8C
.
Facebook : เรียนอังกฤษจีนง่ายๆสไตล์เด็กสายวิทย์ by YUMI https://www.facebook.com/yumiseetheworld

เรียนจีนหรือญี่ปุ่นดีนะ? | YUMI see the world

เริ่มเรียนภาษาที่ 3 ครั้งแรก Feat. ครูลูกกอล์ฟ | New Year New You: First Time EP.30


การเริ่มเรียนภาษาที่ 3 อาจจะเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่หลายคนอยาก Upskill ให้ตัวเอง อาจเพราะช่วยเพิ่มอรรถรสในการดูหนังและซีรีส์ ในขณะเดียวกันก็ต้องเรียนเพราะความจำเป็นอย่างต้องไปเรียนต่อหรือทำงานในประเทศที่ใช้ภาษานั้นๆ
New Year New You: First Time ชวน ครูลูกกอล์ฟคณาธิป สุนทรรักษ์ อดีตนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศเยอรมนี และปัจจุบันมีรายการใหม่ที่เน้นพูดภาษาเยอรมันในช่อง YouTube แชร์ประสบการณ์การเรียนภาษาที่ 3 ครั้งแรก และสอนภาษาเยอรมันสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นเรียนภาษาเยอร์มัน
Time Index
0:00 Intro
1:38 จุดเริ่มต้นของการเรียนภาษาที่ 3
6:30 ตอนไปเรียนภาษาที่ 3 ที่เยอรมัน
8:58 วิธีผลักดันให้ตัวเองเรียนภาษาที่ 3
11:00 สอนภาษาเยอรมัน 101
14:33 เทคนิคที่ทำให้เรียนภาษาที่ 3 ได้อย่างราบรื่น
———————————————
THE STANDARD PODCAST: EYEOPENING FOR YOUR EARS
พอดแคสต์จากสำนักข่าว THE STANDARD
Apple Podcasts: https://apple.co/3hp6O7K
Spotify: http://spoti.fi/3rOrbA6
SoundCloud: https://soundcloud.com/thestandardpodcast
Twitter: https://twitter.com/TheStandardPod
Facebook: https://www.facebook.com/thestandardth/
Website: https://thestandard.co/podcast/

ภาษาเยอรมัน ครูลูกกอล์ฟ NewYearNewYou จูนจูน TheStandardPodcast TheStandardco TheStandardth

เริ่มเรียนภาษาที่ 3 ครั้งแรก Feat. ครูลูกกอล์ฟ | New Year New You: First Time EP.30

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ภาษา ที่ สาม ที่ ควร เรียน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *