[Update] 10 ประเทศสุดยอดจุดหมายปลายทาง ที่ไม่ควรพลาด 2019 | ประตูบรันเดินบวร์ค – NATAVIGUIDES

          สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศล้วนแต่มีความน่าสนใจและสวยงามแตกต่างกันออกไป ในแต่ละประเทศก็มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายแบบให้ได้ชมกัน บางประเทศก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่จะหาชมได้ที่ประเทศนั้น ๆ เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นเสน่ห์ที่ทำให้นักเดินทางจากทั่วโลกอยากไปสัมผัส และสำหรับใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวต่างประเทศในปี 2019 แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี มาดูทางนี้ค่ะ โลนลี แพลนเน็ต (Lonely Planet) เขาได้เปิดเผยรายชื่อประเทศที่ดีที่สุดต่อการท่องเที่ยวปี 2019 มาให้แล้ว จะมีที่ไหนบ้างนั้น ไปดูกันค่ะ

1. ประเทศศรีลังกา (Sri Lanka)

          ที่เที่ยวทางธรรมชาติอย่างหาดทรายก็ไม่น้อยหน้า ศรีลังกามีหาดทรายสวย ๆ เพียบ หนึ่งในนั้นก็คือ หาด Marakolliya หาดทรายที่ทอดยาวขนานไปกับอ่าวเบงกอลในมหาสมุทรอินเดีย บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การทำกิจกรรมทางน้ำ นอกจากนี้ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ Temple of the Tooth, Pinnawala Elephant Orphanage, Adams Peak, Yala National Park, Galle City, Polonnaruwa, Arugam Bay, Diyaluma Falls เป็นต้น

2. ประเทศเยอรมนี (Germany)

          อันดับ 2 ตกเป็นของประเทศเยอรมนี ประเทศที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และยังคงพัฒนาอย่างไม่หยุดหย่อน ซึ่งเราจะได้เห็นความทันสมัยก่อตัวขึ้นในเยอรมนีอยู่เรื่อย ๆ แต่ในอีกด้านหนึ่งก็ยังคงเต็มไปด้วยเสน่ห์ของเมืองเก่าแก่ มีพระราชวังหลายแห่งที่สวยงามโอ่อ่าหลงเหลือไว้ให้เที่ยวชม สถานที่ท่องเที่ยวเยอรมนีที่โดดเด่น ก็ต้องเริ่มกันที่กรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และเป็นที่ตั้งของประตูบรันเดินบวร์ค (Brandenburg), มหาวิหารเบอร์ลิน (Berlin Cathedral), กำแพงเบอร์ลิน (Berlin Wall), พระราชวังชาร์ล็อทเทินบวร์ค (Charlottenburg Palace) และ Fernsehturm Berlin

          ต่อด้วยสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่างปราสาทนอยชวานชไตน์ (Neuschwanstein Castle) ปราสาทในเทพนิยายที่ถูกกล่าวว่าเป็นต้นแบบของโลโก้ดิสนีย์ นอกจากนี้ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ เมืองมิวนิก (Munich), เมืองโรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ (Rothenburg ob der Tauber), เมืองไฮเดลแบร์ก (Heidelberg), เมืองบัมแบร์ค (Bamberg), อาสนวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral), พระราชวังซวิงเงอร์ (Zwinger Palace) เป็นต้น

3. ประเทศซิมบับเว (Zimbabwe)

          สำหรับประเทศนี้แล้วอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูกันสักเท่าไรนัก เหมือนเป็นประเทศม้ามืดที่หลายคนคาดไม่ถึงด้วยค่ะ แต่ประเทศนี้ก็มีความน่าสนใจซ่อนอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลก็ตาม ก็ยังมีที่เที่ยวธรรมชาติอื่น ๆ ทดแทนได้อย่างดีทีเดียว โดยเฉพาะป่าแบบซาฟารี ที่ยังคงอุดมสมบูรณ์สวยงาม มีสัตว์ป่าหลากหลายชนิด พร้อมทั้งยังมีวัฒนธรรมชนเผ่าดั้งเดิมให้ได้สัมผัสกัน

          สถานที่ท่องเที่ยวอันเลื่องชื่อก็เริ่มตั้งแต่น้ำตกวิกตอเรีย (Victoria Falls) น้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกบริเวณรอยต่อของประเทศแซมเบีย และประเทศซิมบับเว แล้วไปผจญภัยกับป่าซาฟารีอันน่าตื่นตาตื่นใจที่ Hwange National Park หรือชมความงดงามของ Matobo National Park และ Nyanga National Park นอกจากนี้ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ อีกเพียบ อาทิ Harare, Mutare, Vumba Mountains, Masvingo, Chinhoyi Caves, Mutarazi Falls เป็นต้น

4. ประเทศปานามา (Panama)

          ประเทศปานามา ยังคงเป็นประเทศที่น่าเที่ยวทางฝั่งอเมริกา ด้วยความที่เป็นประเทศรอยต่อระหว่างทวีปอเมริกากลางกับทวีปอเมริกาใต้ก็จะมีธรรมชาติที่สวยงามน่าหลงใหล โดยเฉพาะธรรมชาติของท้องทะเลทั้งทางฝั่งอ่าวปานามาและทะเลแคริบเบียน สถานที่ท่องเที่ยวที่ถูกพูดถึงอย่างมากก็คือ คลองปานามา (Panama Canal) ซึ่งเป็นคลองที่ตัดผ่านกลางประเทศปานามาเพื่อเชื่อมต่อระหว่างอ่าวปานามาและทะเลแคริบเบียน มีระยะทางกว่า 77 กิโลเมตรเลยล่ะ

          ต่อด้วยการไปดื่มด่ำกับเมืองเก่า Bocas Town เมืองเล็ก ๆ บนเกาะ Colon ในทะเลแคริบเบียน แล้วอย่าลืมแวะไปทักทายท้องทะเลสวย ๆ ที่เกาะ Coiba และหมู่เกาะ San Blas หรือจะชื่นชมความสวยงามของชายหาด Playa Las Lajas ทางฝั่งอ่าวปานามาก็ได้ และถ้าใครชอบงานสถาปัตยกรรมก็อย่าพลาดไปเที่ยวชม The Biomuseo ที่นอกจากจะเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติธรรมชาติในปานามาแล้ว ก็ยังมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามแปลกตาสุด ๆ

5. ประเทศคีร์กีซสถาน (Kyrgyzstan)

          บางคนอาจจะมีเครื่องหมายคำถามอยู่ในหัวแน่ ๆ ว่าประเทศนี้อยู่ที่ไหนบนโลกใบนี้ คีร์กีซสถานเป็นประเทศทางเอเชียกลางค่ะ อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน และยังมีอาณาเขตติดกับประเทศคาซัคสถาน ประเทศทาจิกิสถาน และประเทศอุซเบกิสถานด้วย ประเทศนี้โดดเด่นมาก ๆ ในเรื่องของภูมิประเทศแบบภูเขาสูง และมีทะเลสาบสวย ๆ ด้วยนะ พร้อมทั้งยังมีวัฒนธรรมแบบชนเผ่ามองโกเลียให้ได้ไปเที่ยวชมกันด้วยค่ะ

          สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ก็ขอเปิดฉากกันด้วยทะเลสาบน้ำเค็มที่มีชื่อว่า Issyk-Kul ซึ่งเป็นทะเลสาบบนภูเขาที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกเลยทีเดียว วิวทิวทัศน์ก็สวยงาม รายล้อมไปด้วยภูเขาสูงใหญ่ ราวกับอยู่ในอีกโลกหนึ่งเลย อีกหนึ่งทะเลสาบที่สวยงามไม่แพ้กัน ก็คือ Song Kol Lake  งดงามด้วยวิวของทะเลสาบกว้างใหญ่ที่มีภูเขามหึมาอยู่ด้านหลัง มีทุ่งหญ้ากว้างอยู่ข้าง ๆ ทะเลสาบ สามารถขี่ม้าชมวิวและนอนในกระโจมแบบชนเผ่าพื้นเมืองได้ด้วย แล้วไปชมความสวยงามของหุบเขาสุดตระการตาที่ Ala Archa National Park  ส่วนถ้าใครชอบเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ก็ต้องไปเช็กอินกันที่ Burana Tower หอคอยเก่าแก่ท่ามกลางหุบเขา นอกจากนี้ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกไม่น้อย อาทิ Jeti Oguz Rocks, Tuz-Kol Lake, Karakol, Talas, Alamedin Gorge, Kyzyl-Oi, Tash Rabat เป็นต้น

6. ประเทศจอร์แดน (Jordan)

          ถ้าพูดถึงประเทศจอร์แดน สถานที่ท่องเที่ยวที่จะผุดขึ้นมาเป็นสถานที่แรก ๆ ก็คงหนีไม่พ้นนครเพตรา เมืองโบราณสีชมพูงดงามท่ามกลางหุบเขาสุดลึกลับ แต่จริง ๆ แล้วจอร์แดนยังมีอะไรดี ๆ ซ่อนอยู่อีกไม่น้อยเลยค่ะ ไปเริ่มตื่นตาตื่นใจกับประเทศนี้กันด้วยวาดิรัม (Wadi Rum) ดินแดนทะเลทรายสีชมพูกว้างใหญ่ ซึ่งได้กลายเป็นโลเคชั่นถ่ายทำภาพยนตร์ดังมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ ทรานส์ฟอร์เมอร์ส อภิมหาสงครามแค้น แล้วไปย้อนเวลากลับไปยังจักรวรรดิโรมันโบราณ กับ Colonnaded Street ในกรุงเลบานอน

          จากนั้นไปสัมผัสความพิศวงของ Dead Sea ทะเลที่ผู้คนสามารถลอยตัวในน้ำได้ แม้ว่าจะว่ายน้ำไม่เป็นก็ตาม สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ Roman Theater, Ma’in Hot Springs, Temple of Artemis, Jordan National Gallery of Fine Arts, Umm Qais, Wadi Mujib, Amman, Gulf of Aqaba เป็นต้น

7. ประเทศอินโดนีเซีย (Indonesia)

          เป็นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เข้าโผในครั้งนี้ค่ะ ซึ่งถ้าพิจารณาดี ๆ อินโดนีเซียก็น่าเที่ยวจริง ๆ นั่นล่ะ เพราะเป็นประเทศที่มีลักษณะเป็นหมู่เกาะ เพราะฉะนั้นจึงมีธรรมชาติหลากหลายรูปแบบให้เที่ยวชม ไม่ว่าจะเป็นท้องทะเล ภูเขา น้ำตก หรือแม้กระทั่งภูเขาไฟ นอกจากนี้ก็ยังมีวัฒนธรรมของชนเผ่าต่าง ๆ มากมายให้ได้ไปเรียนรู้และสัมผัส ที่แรกเริ่มกันด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่คนไทยรู้จักกันดี นั่นก็คือ จังหวัดบาหลี (Bali) งดงามด้วยท้องทะเลสวย และวัดวาอารามแบบพราหมณ์-ฮินดู ไม่ว่าจะเป็นวิหารทานาห์ลอต (Pura Tanah Lot), วัดอูลูวาตู (Uluwatu Temple), นาข้าวขั้นบันไดเตกัลลาลัง (Tegalalang Rice Terraces), นาข้าวขั้นบันไดจาตีลูวีห์ (Jatiluwih Rice Terraces), วัดอูลันดานูบราตัน (Pura Ulun Danu Bratan), วัดปุราเบซากิห์ (Pura Besakih Temple), วัดเทมภักสิริงค์ (Tirta Empul), Kelingking Beach, Pasih Uug Beach, The Gate of Heaven, Bali Swing เป็นต้น

          จากบาหลีก็ไปสัมผัสกับภูเขาไฟสวย ๆ ที่โบรโม (Mt. Bromo) ภูเขาไฟสวยสุดอลังการ ต่อด้วยทะเลสาบโตบา (Lake Toba) ทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟวิวสวยสะกดใจ นอกจากนี้ก็ยังมีที่เที่ยวอินโดนีเซียที่ห้ามพลาดอีกมากมาย อาทิ Banda Islands, Gili Islands, Mount Rinjani, Mount Krakatoa, Komodo National Park, Orangutans of Borneo, Borobudur Temple เป็นต้น

8. ประเทศเบลารุส (Belarus)

          เบลารุส เป็นประเทศที่อยู่ทางฝั่งยุโรปตะวันออก ซึ่งมีอาณาเขตติดกับประเทศรัสเซีย จึงเป็นประเทศหนึ่งที่มีเสน่ห์น่าหลงใหล ด้วยมีการผสมผสานวัฒนธรรมจากทั้งทางฝั่งยุโรปและโซเวียต ไม่ว่าใครได้มาสัมผัสที่นี่ต่างก็ต้องหลงรักในความสวยงามของบ้านเมืองและผู้คน สถานที่แรก ๆ ที่นักท่องเที่ยวมักไปเช็กอินกันก็คือ กรุงมินสก์ (Minsk) เมืองหลวงของเบลารุส ที่อัดแน่นไปด้วยสถาปัตยกรรมสวย ๆ อันน่าตื่นตาตื่นใจ

          สถานที่ต่อมาก็คือ Nesvizh Castle พระราชวังเก่าแก่สไตล์บารอคสวยงาม และยังมี Mir Castle ปราสาทอีกแห่งที่มีสไตล์บารอคเหมือนกันให้ได้เที่ยวชมด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น National Library of Belarus, National Park Pripyatsky, Minsk Sea, Lida Castle, Vitebsk, Gomel, Brest, Grodno เป็นต้น

9. ประเทศเซาตูเมและปรินซีปี (Sao Tome and Principe)

          พอเห็นชื่อประเทศนี้ ก็รีบส่องแผนที่โดยไวเลยใช่ไหมคะ เพราะนอกจากจะไม่รู้ว่าประเทศนี้อยู่ที่ไหนแล้วก็ยังคงสงสัยด้วยใช่ไหมว่ามีประเทศนี้ในโลกใบนี้ด้วยหรือ แต่ถ้าได้รู้จักกับประเทศนี้จะต้องหลงรักอย่างแน่นอน เพราะเซาตูเมและปรินซีปี เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ ใกล้กับชายฝั่งประเทศกาบอง (Gabon) ในภาคตะวันตกตอนกลางของทวีปแอฟริกา ซึ่งรายล้อมไปด้วยท้องทะเลสวย ๆ ชายหาดสุดเงียบสงบ

          สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ เมืองเซาตูเม, เกาะซังตูอังตอนีอู, Obo National park, Rolas Island, Jale Beach, Boca de Inferno, Porto Alegre เป็นต้น

10. ประเทศเบลีซ (Belize)

          สำหรับใครที่หลงรักทะเลสวย ๆ ทางฝั่งแคริบเบียน จะมองข้ามประเทศนี้ไปไม่ได้เลยล่ะ เพราะเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีอาณาเขตติดกับทะเลแคริบเบียน และยังเป็นที่ตั้งของ Great Blue Hole หลุมยักษ์ใต้ท้องทะเลสีน้ำเงินสวยแปลกตา ดูลึกลับ แต่ก็เต็มไปด้วยความงดงามของโลกใต้ท้องทะเล สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่ง ก็คือ เกาะเคย์ คอล์กเกอร์ (Caye Caulker) เกาะเล็ก ๆ ในทะเลแคริบเบียนที่มีหาดทรายขาวงามตา ท้องทะเลเป็นสีฟ้าใสราวกับคริสตัล ส่วน Ambergris Caye ก็เป็นอีกหนึ่งเกาะที่มีความสวยงามไม่แพ้ที่ไหนในเบลีซเช่นกัน

          สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจของเบลีซ อาทิ Xunantunich, Caracol, Placencia, Lamanai, San Pedro Town, Cockscomb Basin Wildlife Sanctuary, Actun Tunichil Muknal, Belize Zoo เป็นต้น

โอ้โห…เห็นความสวยงามของแต่ละประเทศแล้ว ขอปาดน้ำตาให้กับเงินในกระเป๋าสักนิด แต่เรายังมีหวังค่ะ ยังมีเวลาให้เก็บเงิน ฮึบ ๆ ความฝันอยู่ไม่ไกล แล้วไปสัมผัสกับโลกกว้างด้วยกันนะคะ 🙂

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
lonelyplanet.com, srilankatravelandtourism.com, myguidezimbabwe.com, theculturetrip.com, kyrgyz-travel.com, annees-de-pelerinage.com, thecrazytourist.com, bali-indonesia.com, mfa.go.th, visit-belarus.com, saotomeislands.com, ambergriscaye.com

สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศล้วนแต่มีความน่าสนใจและสวยงามแตกต่างกันออกไป ในแต่ละประเทศก็มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายแบบให้ได้ชมกัน บางประเทศก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่จะหาชมได้ที่ประเทศนั้น ๆ เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นเสน่ห์ที่ทำให้นักเดินทางจากทั่วโลกอยากไปสัมผัส และสำหรับใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวต่างประเทศในปี 2019 แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี มาดูทางนี้ค่ะ โลนลี แพลนเน็ต (Lonely Planet) เขาได้เปิดเผยรายชื่อประเทศที่ดีที่สุดต่อการท่องเที่ยวปี 2019 มาให้แล้ว จะมีที่ไหนบ้างนั้น ไปดูกันค่ะเชื่อว่าหลายคนอาจจะกำลังแปลกใจนิด ๆ ว่าเอ๊ะ…ศรีลังกามีดีอะไร ทำไมถึงยกให้เป็นอันดับ 1 ของประเทศที่น่าไปเยี่ยมเยือนในปี 2019 ถ้าเราลองมาทำความรู้จักกับศรีลังกาให้ดีกันสักนิด ก็จะรู้เลยว่าประเทศนี้ได้แอบซ่อนความสวยงามและความมหัศจรรย์ไว้เพียบเลยค่ะ เริ่มกันที่เส้นทางรถไฟอันโด่งดัง จากเมืองกัณฏิ (Kandy) ไปยังเมืองเอลลา (Ella) ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างยกให้เป็นเส้นทางรถไฟที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพราะรถไฟจะวิ่งลัดเลาะภูเขา ผ่านหุบเขาไร่ชาสีเขียวสวยงามตระการตา ตามมาด้วยพระราชวังสุดลึกลับบนยอดเขา กับพระราชวังสิกิริยา เมืองประวัติศาสตร์ที่อยู่บนยอดเขาอันโดดเด่นเพียงแห่งเดียวในอำเภอเมืองมาตเลที่เที่ยวทางธรรมชาติอย่างหาดทรายก็ไม่น้อยหน้า ศรีลังกามีหาดทรายสวย ๆ เพียบ หนึ่งในนั้นก็คือ หาด Marakolliya หาดทรายที่ทอดยาวขนานไปกับอ่าวเบงกอลในมหาสมุทรอินเดีย บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การทำกิจกรรมทางน้ำ นอกจากนี้ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ Temple of the Tooth, Pinnawala Elephant Orphanage, Adams Peak, Yala National Park, Galle City, Polonnaruwa, Arugam Bay, Diyaluma Falls เป็นต้นอันดับ 2 ตกเป็นของประเทศเยอรมนี ประเทศที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และยังคงพัฒนาอย่างไม่หยุดหย่อน ซึ่งเราจะได้เห็นความทันสมัยก่อตัวขึ้นในเยอรมนีอยู่เรื่อย ๆ แต่ในอีกด้านหนึ่งก็ยังคงเต็มไปด้วยเสน่ห์ของเมืองเก่าแก่ มีพระราชวังหลายแห่งที่สวยงามโอ่อ่าหลงเหลือไว้ให้เที่ยวชม สถานที่ท่องเที่ยวเยอรมนีที่โดดเด่น ก็ต้องเริ่มกันที่กรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และเป็นที่ตั้งของประตูบรันเดินบวร์ค (Brandenburg), มหาวิหารเบอร์ลิน (Berlin Cathedral), กำแพงเบอร์ลิน (Berlin Wall), พระราชวังชาร์ล็อทเทินบวร์ค (Charlottenburg Palace) และ Fernsehturm Berlinต่อด้วยสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่างปราสาทนอยชวานชไตน์ (Neuschwanstein Castle) ปราสาทในเทพนิยายที่ถูกกล่าวว่าเป็นต้นแบบของโลโก้ดิสนีย์ นอกจากนี้ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ เมืองมิวนิก (Munich), เมืองโรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ (Rothenburg ob der Tauber), เมืองไฮเดลแบร์ก (Heidelberg), เมืองบัมแบร์ค (Bamberg), อาสนวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral), พระราชวังซวิงเงอร์ (Zwinger Palace) เป็นต้นสำหรับประเทศนี้แล้วอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูกันสักเท่าไรนัก เหมือนเป็นประเทศม้ามืดที่หลายคนคาดไม่ถึงด้วยค่ะ แต่ประเทศนี้ก็มีความน่าสนใจซ่อนอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลก็ตาม ก็ยังมีที่เที่ยวธรรมชาติอื่น ๆ ทดแทนได้อย่างดีทีเดียว โดยเฉพาะป่าแบบซาฟารี ที่ยังคงอุดมสมบูรณ์สวยงาม มีสัตว์ป่าหลากหลายชนิด พร้อมทั้งยังมีวัฒนธรรมชนเผ่าดั้งเดิมให้ได้สัมผัสกันสถานที่ท่องเที่ยวอันเลื่องชื่อก็เริ่มตั้งแต่น้ำตกวิกตอเรีย (Victoria Falls) น้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกบริเวณรอยต่อของประเทศแซมเบีย และประเทศซิมบับเว แล้วไปผจญภัยกับป่าซาฟารีอันน่าตื่นตาตื่นใจที่ Hwange National Park หรือชมความงดงามของ Matobo National Park และ Nyanga National Park นอกจากนี้ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ อีกเพียบ อาทิ Harare, Mutare, Vumba Mountains, Masvingo, Chinhoyi Caves, Mutarazi Falls เป็นต้นประเทศปานามา ยังคงเป็นประเทศที่น่าเที่ยวทางฝั่งอเมริกา ด้วยความที่เป็นประเทศรอยต่อระหว่างทวีปอเมริกากลางกับทวีปอเมริกาใต้ก็จะมีธรรมชาติที่สวยงามน่าหลงใหล โดยเฉพาะธรรมชาติของท้องทะเลทั้งทางฝั่งอ่าวปานามาและทะเลแคริบเบียน สถานที่ท่องเที่ยวที่ถูกพูดถึงอย่างมากก็คือ คลองปานามา (Panama Canal) ซึ่งเป็นคลองที่ตัดผ่านกลางประเทศปานามาเพื่อเชื่อมต่อระหว่างอ่าวปานามาและทะเลแคริบเบียน มีระยะทางกว่า 77 กิโลเมตรเลยล่ะต่อด้วยการไปดื่มด่ำกับเมืองเก่า Bocas Town เมืองเล็ก ๆ บนเกาะ Colon ในทะเลแคริบเบียน แล้วอย่าลืมแวะไปทักทายท้องทะเลสวย ๆ ที่เกาะ Coiba และหมู่เกาะ San Blas หรือจะชื่นชมความสวยงามของชายหาด Playa Las Lajas ทางฝั่งอ่าวปานามาก็ได้ และถ้าใครชอบงานสถาปัตยกรรมก็อย่าพลาดไปเที่ยวชม The Biomuseo ที่นอกจากจะเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติธรรมชาติในปานามาแล้ว ก็ยังมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามแปลกตาสุด ๆบางคนอาจจะมีเครื่องหมายคำถามอยู่ในหัวแน่ ๆ ว่าประเทศนี้อยู่ที่ไหนบนโลกใบนี้ คีร์กีซสถานเป็นประเทศทางเอเชียกลางค่ะ อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน และยังมีอาณาเขตติดกับประเทศคาซัคสถาน ประเทศทาจิกิสถาน และประเทศอุซเบกิสถานด้วย ประเทศนี้โดดเด่นมาก ๆ ในเรื่องของภูมิประเทศแบบภูเขาสูง และมีทะเลสาบสวย ๆ ด้วยนะ พร้อมทั้งยังมีวัฒนธรรมแบบชนเผ่ามองโกเลียให้ได้ไปเที่ยวชมกันด้วยค่ะสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ก็ขอเปิดฉากกันด้วยทะเลสาบน้ำเค็มที่มีชื่อว่า Issyk-Kul ซึ่งเป็นทะเลสาบบนภูเขาที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกเลยทีเดียว วิวทิวทัศน์ก็สวยงาม รายล้อมไปด้วยภูเขาสูงใหญ่ ราวกับอยู่ในอีกโลกหนึ่งเลย อีกหนึ่งทะเลสาบที่สวยงามไม่แพ้กัน ก็คือ Song Kol Lake งดงามด้วยวิวของทะเลสาบกว้างใหญ่ที่มีภูเขามหึมาอยู่ด้านหลัง มีทุ่งหญ้ากว้างอยู่ข้าง ๆ ทะเลสาบ สามารถขี่ม้าชมวิวและนอนในกระโจมแบบชนเผ่าพื้นเมืองได้ด้วย แล้วไปชมความสวยงามของหุบเขาสุดตระการตาที่ Ala Archa National Park ส่วนถ้าใครชอบเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ก็ต้องไปเช็กอินกันที่ Burana Tower หอคอยเก่าแก่ท่ามกลางหุบเขา นอกจากนี้ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกไม่น้อย อาทิ Jeti Oguz Rocks, Tuz-Kol Lake, Karakol, Talas, Alamedin Gorge, Kyzyl-Oi, Tash Rabat เป็นต้นถ้าพูดถึงประเทศจอร์แดน สถานที่ท่องเที่ยวที่จะผุดขึ้นมาเป็นสถานที่แรก ๆ ก็คงหนีไม่พ้นนครเพตรา เมืองโบราณสีชมพูงดงามท่ามกลางหุบเขาสุดลึกลับ แต่จริง ๆ แล้วจอร์แดนยังมีอะไรดี ๆ ซ่อนอยู่อีกไม่น้อยเลยค่ะ ไปเริ่มตื่นตาตื่นใจกับประเทศนี้กันด้วยวาดิรัม (Wadi Rum) ดินแดนทะเลทรายสีชมพูกว้างใหญ่ ซึ่งได้กลายเป็นโลเคชั่นถ่ายทำภาพยนตร์ดังมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ ทรานส์ฟอร์เมอร์ส อภิมหาสงครามแค้น แล้วไปย้อนเวลากลับไปยังจักรวรรดิโรมันโบราณ กับ Colonnaded Street ในกรุงเลบานอนจากนั้นไปสัมผัสความพิศวงของ Dead Sea ทะเลที่ผู้คนสามารถลอยตัวในน้ำได้ แม้ว่าจะว่ายน้ำไม่เป็นก็ตาม สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ Roman Theater, Ma’in Hot Springs, Temple of Artemis, Jordan National Gallery of Fine Arts, Umm Qais, Wadi Mujib, Amman, Gulf of Aqaba เป็นต้นเป็นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เข้าโผในครั้งนี้ค่ะ ซึ่งถ้าพิจารณาดี ๆ อินโดนีเซียก็น่าเที่ยวจริง ๆ นั่นล่ะ เพราะเป็นประเทศที่มีลักษณะเป็นหมู่เกาะ เพราะฉะนั้นจึงมีธรรมชาติหลากหลายรูปแบบให้เที่ยวชม ไม่ว่าจะเป็นท้องทะเล ภูเขา น้ำตก หรือแม้กระทั่งภูเขาไฟ นอกจากนี้ก็ยังมีวัฒนธรรมของชนเผ่าต่าง ๆ มากมายให้ได้ไปเรียนรู้และสัมผัส ที่แรกเริ่มกันด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่คนไทยรู้จักกันดี นั่นก็คือ จังหวัดบาหลี (Bali) งดงามด้วยท้องทะเลสวย และวัดวาอารามแบบพราหมณ์-ฮินดู ไม่ว่าจะเป็นวิหารทานาห์ลอต (Pura Tanah Lot), วัดอูลูวาตู (Uluwatu Temple), นาข้าวขั้นบันไดเตกัลลาลัง (Tegalalang Rice Terraces), นาข้าวขั้นบันไดจาตีลูวีห์ (Jatiluwih Rice Terraces), วัดอูลันดานูบราตัน (Pura Ulun Danu Bratan), วัดปุราเบซากิห์ (Pura Besakih Temple), วัดเทมภักสิริงค์ (Tirta Empul), Kelingking Beach, Pasih Uug Beach, The Gate of Heaven, Bali Swing เป็นต้นจากบาหลีก็ไปสัมผัสกับภูเขาไฟสวย ๆ ที่โบรโม (Mt. Bromo) ภูเขาไฟสวยสุดอลังการ ต่อด้วยทะเลสาบโตบา (Lake Toba) ทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟวิวสวยสะกดใจ นอกจากนี้ก็ยังมีที่เที่ยวอินโดนีเซียที่ห้ามพลาดอีกมากมาย อาทิ Banda Islands, Gili Islands, Mount Rinjani, Mount Krakatoa, Komodo National Park, Orangutans of Borneo, Borobudur Temple เป็นต้นเบลารุส เป็นประเทศที่อยู่ทางฝั่งยุโรปตะวันออก ซึ่งมีอาณาเขตติดกับประเทศรัสเซีย จึงเป็นประเทศหนึ่งที่มีเสน่ห์น่าหลงใหล ด้วยมีการผสมผสานวัฒนธรรมจากทั้งทางฝั่งยุโรปและโซเวียต ไม่ว่าใครได้มาสัมผัสที่นี่ต่างก็ต้องหลงรักในความสวยงามของบ้านเมืองและผู้คน สถานที่แรก ๆ ที่นักท่องเที่ยวมักไปเช็กอินกันก็คือ กรุงมินสก์ (Minsk) เมืองหลวงของเบลารุส ที่อัดแน่นไปด้วยสถาปัตยกรรมสวย ๆ อันน่าตื่นตาตื่นใจสถานที่ต่อมาก็คือ Nesvizh Castle พระราชวังเก่าแก่สไตล์บารอคสวยงาม และยังมี Mir Castle ปราสาทอีกแห่งที่มีสไตล์บารอคเหมือนกันให้ได้เที่ยวชมด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น National Library of Belarus, National Park Pripyatsky, Minsk Sea, Lida Castle, Vitebsk, Gomel, Brest, Grodno เป็นต้นพอเห็นชื่อประเทศนี้ ก็รีบส่องแผนที่โดยไวเลยใช่ไหมคะ เพราะนอกจากจะไม่รู้ว่าประเทศนี้อยู่ที่ไหนแล้วก็ยังคงสงสัยด้วยใช่ไหมว่ามีประเทศนี้ในโลกใบนี้ด้วยหรือ แต่ถ้าได้รู้จักกับประเทศนี้จะต้องหลงรักอย่างแน่นอน เพราะเซาตูเมและปรินซีปี เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ ใกล้กับชายฝั่งประเทศกาบอง (Gabon) ในภาคตะวันตกตอนกลางของทวีปแอฟริกา ซึ่งรายล้อมไปด้วยท้องทะเลสวย ๆ ชายหาดสุดเงียบสงบสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ เมืองเซาตูเม, เกาะซังตูอังตอนีอู, Obo National park, Rolas Island, Jale Beach, Boca de Inferno, Porto Alegre เป็นต้นสำหรับใครที่หลงรักทะเลสวย ๆ ทางฝั่งแคริบเบียน จะมองข้ามประเทศนี้ไปไม่ได้เลยล่ะ เพราะเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีอาณาเขตติดกับทะเลแคริบเบียน และยังเป็นที่ตั้งของ Great Blue Hole หลุมยักษ์ใต้ท้องทะเลสีน้ำเงินสวยแปลกตา ดูลึกลับ แต่ก็เต็มไปด้วยความงดงามของโลกใต้ท้องทะเล สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่ง ก็คือ เกาะเคย์ คอล์กเกอร์ (Caye Caulker) เกาะเล็ก ๆ ในทะเลแคริบเบียนที่มีหาดทรายขาวงามตา ท้องทะเลเป็นสีฟ้าใสราวกับคริสตัล ส่วน Ambergris Caye ก็เป็นอีกหนึ่งเกาะที่มีความสวยงามไม่แพ้ที่ไหนในเบลีซเช่นกันสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจของเบลีซ อาทิ Xunantunich, Caracol, Placencia, Lamanai, San Pedro Town, Cockscomb Basin Wildlife Sanctuary, Actun Tunichil Muknal, Belize Zoo เป็นต้นขอขอบคุณข้อมูลจาก

The Externsteine ([ˈɛkstɐnʃtaɪnə]) is a distinctive sandstone rock formation located in the Teutoburg Forest, near the town of Horn-Bad Meinberg in the Lippe district of the German state of North Rhine-Westphalia. The formation is a tor consisting of several tall, narrow columns of rock which rise abruptly from the surrounding wooded hills.
im very Lucky to be there with Special people❤️

Call me Nina

2