Skip to content
Home » [Update] ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ตอนที่ 8 เรื่อง Nominalization(คำนามที่สร้างจากคำชนิดอื่น) | ignorant แปล ว่า – NATAVIGUIDES

[Update] ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ตอนที่ 8 เรื่อง Nominalization(คำนามที่สร้างจากคำชนิดอื่น) | ignorant แปล ว่า – NATAVIGUIDES

ignorant แปล ว่า: คุณกำลังดูกระทู้

ดยการเติม suffixes “-or,”  “-er,”  หรือ “-r”  

“-tion,” “-sion,” “-ance,” “-ment,”  และ “-ence”

ทั้งหมดที่ยกมา เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้นครับ นักศึกษาสามารถหาข้อมูลศึกษาเพิ่มเติมได้

นักศึกษาสามารถเปลี่ยนคำคุณศัพท์ให้เป็นคำนามได้ โดยการ เติม suffix ต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับการสะกด

ตัวอย่างการเติมท้าย ด้วย 

“-ness”

• “The hard

ness

of diamond makes it a great cutting tool.” 

(คุณศัพท์ hard (แข็ง) กลายเป็น hardness (ความแข็ง)

• “The child’s meek

ness

is quite sweet.” 

(คุณศัพท์ meek (นอบน้อม) กลายเป็น meekness (ความนอบน้ออม))

• “His gruff

ness

is not appreciated.” 

(คุณศัพท์ gruff (หยาบคาย) กลาย gruffness (ความหยาบคาย)

•  “I don’t  care for  the  rough

ness

  of  my  hands.” 

(คุณศัพท์  rough (กระด้าง) กลายเป็น roughness (ความกระด้าง)

• “The teacher puts her students’ happi

ness

above all else.” 

(คุณศัพท์ happy (สุข) กลายเป็น happiness (ความสุข))

ตัวอย่างการเติมท้าย ด้วย

“-y”

การเปลี่ยนคำคุณศัพท์เป็นคำนาม โดยเฉพาะคำคุณศัพท์ที่ลงท้าย ด้วย “-t”

•  “This  project  will be fraught  with  difficult

y

.”  

(คุณศัพท์ difficult (ลำบาก) กลายเป็น difficulty (ความลำบาก)

• “That’s enough of your modest

y

.”  

(คุณศัพท์ modest(สุภาพ) กลายเป็น modesty (ความสุภาพ)

• “Honest

y

is a very important virtue.” 

(คุณศัพท์ honest (ซื่อสัตย์) กลายเป็น honesty(ความซื่อสัตย์)

ตัวอย่างการเติมท้าย ด้วย

“-ity”

การเปลี่ยนคำคุณศัพท์เป็นคำนาม โดยเฉพาะคำคุณศัพท์ที่ลงท้าย ด้วย “-e”

• “There is a scarc

ity

of food in the city.” 

(scarce (ขาดแคลน) กลายเป็น scarcity (ความขาดแคลน))

• “Kindness is a rar

ity

in this world.” 

(rare (หายาก) rarity (ความหายาก)

• “This project is your responsibil

ity

.” 

(responsible (รับผิดชอบ) responsibility(ความรับผิดชอบ) 

• “I have no question of your abil

ity

.” 

(able (สามารถ)  ability(ความสามารถ)

ตัวอย่างการเติมท้าย ด้วย 

“-ance” และ “-ence”

การเปลี่ยนคำคุณศัพท์เป็นคำนาม โดยเฉพาะคำคุณศัพท์ที่ลงท้าย ด้วย “-ant, -ent”

• “This is of the utmost import

ance

.” 

(important (สำคัญ)  importance (ความสำคัญ))

•  “Your  ignor

ance

  is  astounding.”  

(ignorant (ไม่รู้)  ignorance (ความไม่รู้))

• “We demand greater independ

ence

.” 

(independent (อิสรภาพ) independence (ความมีอิสรภาพ)

• “Sil

ence

is expected during tests.” 

(silent (เงียบ)  silence (ความเงียบ))

การเปลี่ยนคำกริยาเป็นคำนามโดยไม่เปลี่ยนรูป(conversion หรือ zero derivation)

พิจารณาตัวอย่างประโยค

• “Please answer the phone, Tom.” 

(กรณีนี้ answer (ตอบ) เป็นคำกริยา)

• “We’ll need an

answer

by tomorrow.” 

(กรณีนี้ answer (คำตอบ) เป็นคำนาม)

• “I run each morning before breakfast.” 

(กรณีนี้ run (วิ่ง) เป็นคำกริยา)

• “I’m going for a

run

later today.” 

(กรณีนี้ run (การวิ่ง) เป็นคำนาม)

• “Meteorologists are forecasting a snowstorm overnight.” 

(กรณีนี้ forecasting (พยากรณ์) เป็นคำกริยา )

• “The

forecast

said there would be rain in the afternoon.”

(กรณีนี้ forecast (การพยากรณ์) เป็นคำนาม)

การเปลี่ยนคำกริยาเป็นคำนาม โดยเปลี่ยนวิธีการออกเสียงเน้นพยางค์ หรือเรียกว่า

Suprafix

พิจารณาตัวอย่างประโยค

• “You need to conv

ert

pounds into kilograms.” 

คำว่า convert(แปลง) เมื่อออกเสียงเน้นพยางค์หลัง จะเป็นคำกริยา

• “The church always welcomes recent

con

verts to its meetings.” 

คำว่า convert เมื่อออกเสียงเน้นพยางค์แรก จะเป็นคำนาม แปลว่า การแปลง

• “Make sure you re

cord

the meeting so we can review it later.”

คำว่า record เมื่อออกเสียงเน้นที่พยางค์หลัง จะเป็นคำกริยา แปลว่า บันทึก

• “I love listening to old

re

cords.” 

คำว่า record เมื่อออกเสียงเน้นที่พยางค์แรก จะเป็นคำนาม แปลว่า การบันทึก

• “Please don’t in

sult

my intelligence.” 

คำว่า insult เมื่อออกเสียงเน้นที่พยางค์หลัง จะเป็นคำกริยา แปลว่า ดูถูก 

• “We will not forget this

in

sult to our company.” 

คำว่า insult เมื่อออกเสียงเน้นที่พยางค์แรก จะเป็นคำนาม แปลว่า การดูถูก 

นอกจากนี้แล้ว อาจมีบางคำที่เปลี่ยนวิธีการออกเสียงทั้งคำ เพื่อเปลี่ยนจากกริยาเป็นคำนาม ครับ

การเปลี่ยนคำคุณศัพท์เป็นคำนามโดยไม่เปลี่ยนรูป (Nominal adjectives)

เราสามารถเปลี่ยนคำคุณศัพท์ไปเป็นคำนามโดย

การใช้ Article “the” นำหน้า

พิจารณาตัวอย่างประโยค

• “The wealthy have an obligation to help the poor.”

คำว่า wealthy แปลว่า รวย ส่วน The wealthy แปลว่า บรรดาคนรวย

คำว่า poor แปลว่า จน ส่วน the poor แปลว่า บรรดาคนจน

***จะสังเกตพบว่า จะกลายเป็นคำนามรูปพหูพจน์ นะครับ

• “We all want the best for her.”

คำว่า best แปลว่า ดีที่สุด ส่วน the best แปลว่า สิ่งที่ดีที่สุด

• “This law protects the innocent.”

คำว่า innocent แปลว่า บริสุทธิ์  ส่วน the innocent แปลว่า ผู้บริสุทธิ์

การสร้างคำนามจากคำกริยาโดยการเปลี่ยนเป็นรูป Infinitive

รูป Infinitive หมายถึง การนำ “to” นำหน้ากริยา เพื่อต้องการเปลี่ยนให้เป็นคำนาม

ข้อควรทราบ

รูป Infinitive นั้น ไม่ได้เป็นแค่คำนามได้อย่างเดียว อาจกลายเป็นคำคุณศัพท์หรือกริยาวิเศษณ์ก็ได้ ซึ่งรายละเอียดนั้น ผมจะขอยกไปกล่าวไว้ในอีกบทครับ

พิจารณาตัวอย่างประโยค 

• “To err is human; to forgive is divine.”

To err แปลว่า ความผิดพลาด  to forgive แปลว่า การให้อภัย

• “

To study

mathematics at Harvard was her ultimate dream.”

To study แปลว่า การศึกษา

• “

To live

in the city means adjusting to a completely different lifestyle.”

To live แปลว่า การอยู่อาศัย

*** จากตัวอย่างข้างต้น รูป Infinitive เป็นคำนาม และทำหน้าที่เป็น Subject ของประโยค

พิจารณาตัวอย่างประโยค 

• “I’m not going unless you agree to go with me.”

กรณีนี้ to go เป็นคำนาม แต่ทำหน้าที่เป็น Object ของกริยา agree

• “You appear to be correct.”

กรณีนี้ to be เป็นคำนาม แต่ทำหน้าที่เป็น Object ของกริยา appear

• “Please be quiet; I’m trying to study.”

กรณีนี้ to study เป็นคำนาม แต่ทำหน้าที่เป็น Object ของกริยา trying

พิจารณาตัวอย่างประโยค 

• “I don’t expect

you

to approve of my decision.”

(ฉันไม่คาดวังความเห็นด้วยจากคุณเกี่ยวกับการตัดสินใจของฉัน)

กรณีนี้ to approve เป็นคำนาม แต่ทำหน้าที่เป็น ส่วนเติมเต็มของกรรม (Object Complement)

• “She’s forcing

me

to work through the weekend.”

(หล่อนบังคับให้ฉันทำงานตลอดทั้งสัปดาห์)

กรณีนี้ to work เป็นคำนาม แต่ทำหน้าที่เป็น ส่วนเติมเต็มของกรรม (Object Complement)

• “We need

you

to make a few more copies.”

กรณีนี้ to make เป็นคำนาม แต่ทำหน้าที่เป็น ส่วนเติมเต็มของกรรม (Object Complement)

(เราต้องการให้คุณทำสำเนามากขึ้นอีก)

หลังจากที่นักศึกษาได้อ่านหัวข้อนี้ ก็พอที่จะเข้าใจว่า เราสารมารถเปลี่ยนคำชนิดอื่นให้เป็นคำนามนั้น สามารถทำได้อย่างไร และสามารถแบ่งออกเป็นกี่รูปแบบ และมีความหมายอย่างไร  สำหรับหัวข้อต่อไปนั้น

ผมก็จะขึ้นหัวข้อใหม่ เรื่อง คำสรรพนาม (Pronoun) เป็น ลำดับต่อไปครับ

  สวัสดีครับ

[NEW] ทำไมบางคนไม่เป็นเดือดเป็นร้อนกับสถานการณ์บ้านเมือง: ว่าด้วยที่มาคำศัพท์เกี่ยวกับความสุข | ignorant แปล ว่า – NATAVIGUIDES

ในภาวะที่บ้านเมืองมีผู้ติดเชื้อโควิดวันละเหยียบหมื่น มีคนเสียชีวิตคาบ้านและข้างถนน ผู้คนตกงานและยากจนเฉียบพลันมากมาย ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย ถ้าหลายคนที่ยังสุขภาพแข็งแรงและรักษาคุณภาพชีวิตของตัวเองไว้ได้ในระดับหนึ่งจะรู้สึกตะขิดตะขวงใจหรือรู้สึกผิดที่จะมีความสุขเล็กๆ น้อยๆ บ้างในชีวิต แค่จะกินอาหารดีๆ สักมื้อเพื่อชุบชูจิตใจหรือสั่งซื้อของสวยๆ งามๆ มาใช้ยังคิดแล้วคิดอีกว่า ตัวเองควรทำหรือโพสต์ลงในโลกออกไลน์ไหม ทั้งที่จริงๆ แล้ว การมีความสุขไม่ใช่เรื่องผิดแม้แต่น้อย

แต่ขณะเดียวกัน ดูเหมือนว่ายังมีคนอีกกลุ่มที่แลดูไม่เป็นเดือดเป็นร้อนกับความเป็นไปของบ้านเมืองสักเท่าไร แม้ในภาวะที่มีผู้คนเจ็บป่วยล้มตายสิ้นเนื้อประดาตัวเช่นนี้ ก็ยังรู้สึกว่าประเทศไทยเป็น ‘แดนสุขี’ บางคนพูดถึงขั้นว่าจะล็อกดาวน์อีกครึ่งปีก็ไม่กระทบอะไรทั้งนั้น ทั้งยังออกมาตำหนิผู้ที่ออกมาชี้ถึงความผิดพลาดของการบริหารบ้านเมืองราวกับว่าเป็นผู้ที่คุกคาม ‘ฟองสบู่แห่งความสุข’ ของตน

สัปดาห์นี้ คอลัมน์ Word Odyssey จะพาไปเจาะลึกคำภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับความสุขและพึงพอใจในชีวิต เผื่อเราจะเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมบางคนยังใช้ชีวิตแสนอภิรมย์แบบตัดขาดจากความทุกข์ร้อนที่รายรอบได้ ในยามที่ประเทศส่อแววมุ่งสู่ปากเหว

Happy คุณต้องโชคดี 

คำว่า happy ที่หมายถึง มีความสุข ในทุกวันนี้ มาจากคำว่า hap ที่แปลว่า โชค แล้วเติมส่วนเติมท้าย -y เข้าไปเพื่อทำให้กลายเป็นคำคุณศัพท์ แรกเริ่มเดิมทีคำนี้ไม่ได้แปลว่า มีความสุข แต่หมายถึง โชคดี, โชคเข้าข้าง (ในปัจจุบันความหมายที่เกี่ยวกับความโชคดีเจอได้ไม่เยอะ อาจจะพบเจอได้บ้างในวลีอย่าง happy accident หรือ happy coincidence ที่หมายถึง เหตุบังเอิญที่กลายเป็นเรื่องดี

แต่เนื่องจากเราก็คงจินตนาการออกว่า คนที่เกิดมาโชคดี เช่น บังเอิญถูกแจ็กพ็อตด้านพันธุกรรมเกิดมาหน้าตาสวยหล่อ หรือเกิดมาในบ้านรวยล้นฟ้าหรือตระกูลทรงอำนาจ มีบ้านช่องกว้างขวางและทรัพยากรมากพอจะให้กักตัวได้อย่างปลอดภัย และใช้ชีวิตได้อย่างแสนอภิรมย์ในช่วงที่มีโรคระบาด น่าจะมีความสุขได้ง่ายกว่าคนทั่วไป ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่ความหมายหลักของคำว่า happy จะเปลี่ยนจาก โชคดี มาเป็น มีความสุข, ยินดี, เบิกบาน อย่างที่เราคุ้นเคยอยู่ในทุกวันนี้ เช่น I’m genuinely happy that the government is finally making efforts to join COVAX. (ดีใจจริงๆ ที่รัฐบาลพยายามเข้าร่วมโครงการโคแวกซ์)

ทั้งนี้ คำว่า hap ที่แปลว่า โชค ที่อยู่ใน happy ยังพบได้ในอีกหลายคำในภาษาอังกฤษ เช่น hapless ที่แปลว่า อับโชค หรือ mishap ที่หมายถึง เคราะห์ร้าย คำดาษดื่นอย่าง happen ที่แปลว่า เกิดขึ้น หรือ บังเอิญ ก็ได้ด้วย และคำว่า happenstance ที่หมายถึง เรื่องบังเอิญ

Blissful & Blithe คุณต้องไม่แยแสโลก 

อีกสองคำที่เกี่ยวข้องกับการมีความสุข ก็คือ blissful และ blithe ซึ่งเป็นญาติกันเพราะคำว่า bliss ใน blissful นั้นมาจาก blithe ซึ่งเป็นคำที่มีมาตั้งแต่สมัยภาษาอังกฤษเก่านั่นเอง

ถึงแม้ทั้งสองคำที่จะเป็นญาติกัน แต่วิวัฒนาการทางความหมายของทั้งสองคำนี้ไม่เหมือนกัน เรามาเริ่มต้นที่คำว่า blithe กันก่อน คำนี้แรกเริ่มเดิมทีเคยหมายถึง ใจดี, เป็นมิตร อยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนที่ค่อยๆ พัฒนามาหมายถึง มีความสุข, ร่าเริง เป็นหลัก 

แต่ย่างเข้าศตวรรษที่ 20 ความหมายของคำนี้ก็แปรผันไปอีก จากที่หมายถึงมีความสุขเฉยๆ กลายไปเป็น มีความสุขเพราะไม่สนใจใยดี ไม่เดือดเนื้อร้อนใจ (ซึ่งอาจจะสะท้อนให้เห็นว่า ที่หลายคนมีความสุขได้ก็เพราะเมินความเป็นไปต่างๆ ในโลก) ด้วยเหตุนี้ เราจึงมักเห็นคำนี้ปรากฏร่วมกับคำว่า disregard และ indifference ที่หมายถึง ความไม่สนใจใยดี เช่น His speech and mannerism reflect a blithe disregard for the plight of the people in his country. (คำพูดและท่าทางสะท้อนให้เห็นว่าเขาไม่ได้แยแสต่อความเดือดร้อนของคนในประเทศ)

ส่วนคำว่า blissful หรือ bliss แม้จะต่างจาก blithe ตรงที่มักใช้กับความสุขล้นปรี่ (a blissful weekend สุดสัปดาห์ที่แสนสุข) หรือความปีติอิ่มเอมในอุดมคติ (marital bliss ความสุขสมบูรณ์ในชีวิตสมรส) แต่อย่างหนึ่งที่คล้ายกับ blithe ก็คือมักใช้ในกรณีที่มีความสุขเพราะไม่รับรู้เรื่องชาวบ้านชาวช่อง ด้วยเหตุนี้ เราจึงมีสำนวนอย่าง Ignorance is bliss. (ความไม่รู้คือความสุขสบายใจ) หรือ blissful ignorance (ความเขลาอันแสนสุข) แม้แต่รูปกริยาวิเศษณ์ก็มักปรากฏเกี่ยวกับคำที่แปลว่า ไม่รู้ ไม่ทราบ อย่าง unaware และ ignorant เช่น Many are blissfully unaware of the lies that they are being fed. (หลายคนไม่รู้เลยว่ากำลังโดนป้อนคำโกหกแต่ก็ยังมีความสุขดี)

Ecstatic คุณต้องหลุดออกจากร่าง 

คำว่า ecstatic ซึ่งเป็นรูปคุณศัพท์ของ ecstasy เป็นอีกคำที่ใช้บรรยายความสุขได้ โดยมีความหมายเฉพาะเจาะจงหมายถึง ความสุขแบบล้นปรี่, ความปลื้มปีติเป็นล้นพ้น

คำนี้สืบสาวกลับไปได้ถึงคำว่า ekstasis ในภาษากรีกซึ่งใช้ในพระคัมภีร์ไบเบิล หมายถึง ภวังค์ ประสบการณ์ทางจิตวิญญาณคล้ายจิตหลุดออกจากร่าง มาจากคำว่า existanai อีกทอดหนึ่ง ซึ่งประกอบจาก ek- ที่แปลว่า ออก รวมกับ histanai ที่แปลว่า จัดวาง, ยืน มีความหมายรวมว่า การนำสิ่งๆ หนึ่งออกไปจากที่ตั้ง

พอคำนี้เข้ามาในภาษาอังกฤษ นอกจากจะใช้เรียกภวังค์และประสบการณ์ทางจิตที่ข้ามพ้นประสบการณ์ทางกาย (ซึ่งอาจเกิดจากพิธีกรรมทางศาสนา การใช้สารเสพติด หรือแม้แต่เซ็กซ์) แล้ว ในอดีตยังนำมาใช้เรียกภาวะที่อารมณ์ต่างๆ ท่วมท้นได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ โกรธ ตกใจ หรือสิ้นหวัง แต่ในปัจจุบันแทบจะใช้กับภาวะสุขล้นเพียงอย่างเดียว ตัวอย่างเช่น She was ecstatic to learn that her father did not have COVID. (เธอดีใจเป็นบ้าเป็นหลังที่รู้ว่าพ่อไม่ได้ติดโควิด) พัฒนาการทางความหมายนี้แสดงให้เห็นว่าในภาษาอังกฤษมองภาวะที่จิตหรือการรับรู้ของเขาถูกพาข้ามขอบเขตประสบการณ์ทางร่างกายนั้นเป็นภาวะเปี่ยมสุขนั่นเอง

ทั้งนี้ คำว่า ecstasy นี้ยังถูกนำมาใช้เรียกยาเสพติดที่คนไทยเรียกกันว่า ‘ยาอี’ ด้วย เพราะเมื่อเสพแล้วให้ความรู้สึกล่องลอยเหมือนตัวเราหลุดออกจากร่าง

Content คุณต้องไม่หวังเกินกว่าที่มี 

คำว่า content ใช้พูดถึงความสุขและพึงพอใจ สืบสาวที่มากลับไปได้ถึงคำว่า contentus ในภาษาละติน หมายถึง จำกัด หรืออยู่ในขอบเขต ประกอบขึ้นจากส่วนเติมหน้า con- ที่แปลว่า ด้วยกัน และกริยา tenere ที่แปลว่า ถือ, มี (เป็นญาติกับคำว่า contain และ continent ด้วย)

คำว่า content นี้ เข้ามาในภาษาอังกฤษตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 15 และใช้ในความหมายว่า มีความสุขและพึงพอใจกับสิ่งที่มี ตั้งแต่สมัยนั้น เช่น I’m content with the fact that I’m still alive and haven’t gone insane. (ฉันพอใจที่ยังมีชีวิตอยู่และยังไม่เสียสติไปเสียก่อน)

มาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะงงว่าความสุขและพึงพอใจเกี่ยวกับอะไรกับการจำกัดหรือขอบเขต ที่สองสิ่งนี้มาเกี่ยวกันได้ ก็เพราะความพึงพอใจคือภาวะที่เราไม่มีความต้องการสิ่งอื่นใดเกินจากขอบเขตของสิ่งที่มีอยู่ พูดง่ายๆ ก็คือไม่ต้องการสิ่งอื่นใดเพิ่มเติม เช่น ถ้ารัฐมีวัคซีนให้เลือกแค่สองชนิด และเราไม่คาดหวังมากกว่านั้น เราก็จะมีความสุขและพึงพอใจกับสิ่งที่มี หรือถ้ารัฐบริหารจัดการโรคระบาดได้เท่านี้แต่เราไม่คาดหวังมาตรฐานที่สูงกว่านี้ เราก็จะมีความสุขและพึงพอใจ

คุณต้องมีเพียงพอ Satisfied

คำว่า satisfied ที่แปลว่า พอใจ และเป็นรูปหนึ่งของกริยา satisfy นั้น มาจากกริยา satisfacere ในภาษาละติน ประกอบขึ้นจาก คำว่า satis แปลว่า เพียงพอ และกริยา facere แปลว่า ทำ รวมกันได้ความหมายว่า ทำให้เพียงพอ หรือ ชดใช้ให้ครบ

คำนี้ในภาษาอังกฤษใช้ในความหมายว่า พอใจ เป็นหลัก เช่น He’s very satisfied with his life because he has more money than he could ever spend in this lifetime. (เขาพอใจกับชีวิตมาก เพราะมีเงินมากเกินกว่าจะใช้ให้หมดได้ในชาตินี้)

เมื่อดูจากที่มาของคำแล้ว จะเห็นได้ว่าความพึงพอใจในความหมายของคำว่า satisfied นี้ หมายถึงความพึงพอใจที่มาจากการที่มีสิ่งที่ต้องการเพียงพอ ได้รับสิ่งที่คาดหวังเพียงพอ ไม่ได้มีอะไรที่ต้องการขาดพร่อง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าคนเราจะมีความสุขหรือพอใจได้ก็ต้องมีสิ่งที่ต้องการพอเพียงก่อน ดังนั้น เราก็พอจะอนุมานได้ว่า คนที่ใช้ชีวิตแสนสุขได้โดยไม่เดือดเนื้อร้อนใจเลยแม้แต่น้อย ก็คือคนที่มีชีวิต

 

บรรณานุกรม

http://oed.com/

Ayto, John. . 2nd ed. A&C Black: London, 2008.

Barnhart, Robert K. . H. W. Wilson: New York, 1995. 

Cresswell, Julia. . OUP: New York, 2009.

Hayes, Justin Cord. . F+W Media: Avon, 2012.

Hoad. T. F. (Ed.). . OUP: Oxford, 2003.

Skeat, Walter. . Forgotten Book: NY, 2012.

Tags:

Tags:


Ignorant | Meaning of ignorant


See here, the meanings of the word ignorant, as video and text.
(Click show more below.)

ignorant (adjective)
Unknowledgeable or uneducated; characterized by ignorance.
ignorant (adjective)
Not knowing (a fact or facts), unaware (of something).
ignorant (adjective)
Resulting from ignorance; foolish; silly.
ignorant (noun)
One who is ignorant.
Reference:
ignorant
January 24, 2019
Please support us with your SUBSCRIPTION!

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

Ignorant | Meaning of ignorant

Is Ignorance Bliss?


Ignorance is defined as the state of lacking knowledge or lacking information. With the internet today, we are flooded with so much information that we can’t possibly follow it all. There’s simply too much for our senses to handle. So the short answer is YES, ignorance is bliss.
Now, there is a focus for your life and if you want a sense of purpose, you will have to develop a skill or an expertise in something. This is where being ignorant will not serve you. Imagine if Steph Curry stayed ignorant to basketball? Or Conor McGregor refused to learn every single aspect of MMA? (Do you think Conor is a good example here? Tell us your thoughts in the comments)
When developing a skill there are 4 stages. Unconscious incompetence, conscious incompetence, conscious competence and unconscious competence. These are the 4 steps to becoming a master at something.
For more interesting animations, please subscribe!
Animation by KramGallery.com
Video clip about \”practice\” was Allen Iverson at an NBA Press Conference in 2015. Hopefully some of you are old enough to get the reference.

Is Ignorance Bliss?

Call Out , Elite , Ignorant แปลว่าอะไร เกี่ยวข้องกับกลุ่มศิลปิน นักร้อง นักดนตรี อย่างไรบ้าง


กระแส Call Out , Elite , Ignorant แปลว่าอะไร ศัพท์เหล่านี้มีความหมายเกี่ยวข้องกับกลุ่มศิลปิน นักร้อง นักดนตรี อย่างไรบ้าง Ignorantแปลว่าอะไร นักร้องCallOut นักดนตรียื่นหนังสือเยียวยา

Call Out , Elite , Ignorant แปลว่าอะไร เกี่ยวข้องกับกลุ่มศิลปิน นักร้อง นักดนตรี อย่างไรบ้าง

Sadhguru | The Most Hated Debate With Non Spiritual Person | The Sadhguru


I Said Good Things About You. Suhel Seth: I Know, I Know, It’s A Very Nice Way Of Starting, You Almost Muzzled The Anchor Before. No But Interestingly, Let’s Start With That, Why Do I Have To Be Publicly Spiritual? Or Believe In Someone, Or A Foundation, Or A Philosophy? Isn’t Spiritually Something That Doesn’t Need Definition,If Privately I’m A Good Human Being? Sadhguru: See First Of All, People’s Idea Of Spirituality Comes From The Common Calendars That Hang On Their Walls. They Think… Generally In This Country, This Image Has Spread – If You Say I Am Spiritual, First Question They Ask Is,“What Are The Things You Cannot Do?” So Their Idea Of Spirituality Is It’s Some Sort Of A Disability. Spirituality Is Not A Disability,
It Is A Tremendous Empowerment. You Must Be Able To Do More Things Than Normal People Do, If You’re Spiritual. But Generally, They Think Spiritual Means You Will Not Be Able To Do Anything. I Mean Something As Simple As Because You Mentioned The Car I’m Saying People Will… Initially They Used To Say,
“Oh He Drives His Own Car, How Is He A Guru?” I Said, “Well If I Have A Chauffeur, Will I Become A Better Guru? I Drive My Own Car, I Cook My Own Food, I Do My Own Things. Is That A Wrong Thing To Do?”
So, This Idea Of What Is Spiritual And Not Spiritual Is Something That I Have Been Trying To Bring Proper Perspective To. There Is No Human Being On The Plant Who Is Not Spiritual In Some Way,
It Is Just That Some People Claim The Mantle.
•Footage licensed through:
Videoblocks
•Speakers:
Sadhguru
•Background Audio
Youtube Audio Library
•Copyright disclaimer:
We own a commercial license for all the content used in this video.
Our Social Media Links
Subscribe Us on Youtube :
https://www.youtube.com/channel/UCpvazh9yKTUhBFqJbGZn41Q/
Follow us on Facebook :
https://www.facebook.com/sadhguru.isha.568
Follow us on Instagram :
https://www.instagram.com/thegreatsadhguru/
Follow Us on Twitter:
https://twitter.com/TheSadhguru
FAIRUSE COPYRIGHT DISCLAIMER
Copyright Disclaimer Under Section 107 of the Copyright Act 1976, allowance is made for \”fair use\” for purposes such as criticism, commenting, news reporting, teaching, scholarship, and research. Fair use is a use permitted by copyright statute that might otherwise be infringing. Educational or personal use tips the balance in favor of fair use.
1)This video has no negative impact on the original works (It would actually be positive for them).
2)This video is also for teaching purposes.
3)It is not transformative in nature.
4)I only used bits and pieces of videos to get the point across where necessary.
We take clips from various sources to help create an atmospheric feeling that will help and inspire people in their life.
Thank You
Team The Great Sadhguru
sadhguru spiritual debate

Sadhguru | The Most Hated Debate With Non Spiritual Person | The Sadhguru

Ignorant ไม่ได้แปลว่า ผู้ที่เพิกเฉย หรือ ผู้ที่เมินเฉย ❌


Ignorant ไม่ได้แปลว่า  ผู้ที่เพิกเฉย หรือ ผู้ที่เมินเฉย ❌

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ ignorant แปล ว่า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *