[Update] เทียบกันชัดๆ 2 เมืองใหญ่แห่งอเมริกา NYC vs LA | โรงเรียน ชื่อ ดัง ใน อเมริกา – NATAVIGUIDES

    รู้ๆ กันอยู่ว่าถ้าพูดถึงสหรัฐอเมริกาแล้ว ชื่อเมืองที่หลายๆ คนต้องนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ คงหนีไม่พ้น New York City ที่มีเทพีเสรีภาพซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง อีกเมืองคงหนีไม่พ้น Los Angeles นครแห่งทูตสวรรค์ สัญลักษณ์ที่จำขึ้นใจคงเป็น Hollywood Sign ด้วยความเป็นเมืองใหญ่และเมืองเจริญทั้งคู่ และด้วยความที่ vibe มันต่างกันอยู่ แถมยังอยู่คนละฝั่งของประเทศอีก ทำให้ 2 เมืองนี้กลายเป็นคู่แข่งกันในหลายๆ เรื่องไม่เว้นแม้แต่เรื่องการศึกษา! Hotcourses Thailand เลยจะมาทำซีรี่ส์เทียบช็อตต่อช็อตกันอีกครั้งระหว่าง 2 เมืองใหญ่แห่ง USA! 

 

    ทำไมควรเรียนต่อที่อเมริกา

 

    มาดูลักษณะทางภูมิศาสตร์ก่อน New York City อยู่ในรัฐ New York เนอะ ทางฝั่งตะวันออกของอเมริกา ติดมหาสมุทรแอนตแลนติก ส่วน Los Angeles อยู่ในแคลิฟอเนียร์ รัฐทางฝั่งตะวันตกติดมหาสมุทรแปซิฟิก 

 

Weather 

 

    มาเริ่มกันที่ NYC ก่อน อากาศที่นี่เรียกได้ว่ามีครบทุกฤดู ทั้งฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว บางทีในหน้าร้อนอากาศก็อาจจะร้อนๆ ชื้นๆ ประมาณบ้านเรานี่แหละ ใครอยากสัมผัสอากาศครบ 4 ฤดูก็ต้องที่ New York 

 

    ส่วนที่ LA นั้น อากาศจะค่อนข้างสดใสตลอดทั้งปี เหมือนที่เราเห็นในหนังส่วนใหญ่นั่นแหละ ชายหาด ต้นปาล์ม แสงแดด อากาศจะแห้งๆ ไม่ชื้น ฝนตกบ้างเล็กน้อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นกับที่ที่เราอยู่ด้วยเพราะอากาศก็แปรเปลี่ยนไปตามพื้นที่นั่นเอง (ภาษาอังกฤษเรียก Micro-Climates) 

 

Cost of Living

 

    เอารวมๆ ก่อน พูดตรงๆ ก็คือทั้งสองแห่งแพงงง! 

    ไม่อยากหลอกตัวเองเพราะขึ้นชื่อว่าอเมริกาก็คือทุกอย่างมีค่า มีราคาหมด โดยรวมแล้วค่าใช้จ่ายใน New York City จะแพงกว่าที่ Los Angeles ประมาณ 8%  

 

    ค่าเช่าห้องใน New York City มีหลายราคา ขึ้นอยู่กับย่านนั้นๆ ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ $2000 ต่อเดือน ไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ แน่นอนว่าราคาจะถูกลงถ้าหากมีรูมเมต

 

    New York คือหนึ่งในเมืองที่มีระบบขนส่งสาธารณะดีที่สุดในประเทศ ถ้าใครไปเรียนและอาศัยในตัวเองเมืองและต้องใช้ Subway ก็ควรจะมีบัตร unlimited rides ไว้เพราะใช้ได้ไม่จำกัดรอบและคุ้มกว่าตั๋วเที่ยวเดียวแน่นอน 

 

    ที่ LA ค่าเช่าห้องในตัวเมืองอาจสูงถึง $2,100 ต่อเดือน ถ้าออกไปนอกเมืองหน่อยอาจได้ราคาที่ $1,700 ต่อเดือน อย่างไรก็ตามถ้าหากหาราคาเช่าใกล้ๆ กับมหาลัยที่ไปเรียนได้ และหากโชคดีหารูมเมตได้ราคาต่อเดือนก็อาจจะลดลงไปเหลือคนละ $1000 หรือน้อยกว่า ส่วนค่าอาหารก็คิดประมาณเผื่อไว้สัก $500 ต่อเดือน 

 

    ใน LA การเดินทางจะไม่สะดวกเหมือนใน New York City ที่มีเครือข่ายรถไฟและรถไฟใต้ดินไปเกือบทุกที่ ดังนั้นถ้าอยู่ในตัวเมือง LA ก็จะสะดวกหน่อยเพราะมี Subway และขนส่งสาธารณะอื่นๆ แต่ถ้าหากออกไปนอกเมืองแล้วล่ะก็ การเดินทางจะกลายเป็นเรื่องลำบากทันทีเพราะต้องมีรถเท่านั้นจ้ะ

 

    INFOGRAPHIC รวมค่าใช้จ่ายต่างๆที่นักเรียนไทยในอเมริกาควรรู้!

    

Lifestyle & Activities

 

    ถ้านึกถึง NYC เราก็จะนึกถึงตึกสูงๆ เป็นเมืองที่ให้ความรู้สึกตื่นเต้น รวดเร็ว เร่งรีบ เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่ถึงดูดคนจากทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น Liberty Statue, Central Park, Wall Street, Brooklyn Brigde นอกจากนี้ใครเป็นสายพิพิธภัณฑ์ก็ห้ามพลาดเพราะมีมิวเซียมอยู่ทุกมุมเมือง ที่ดังๆ ก็มี The MET (Metropolitan Museum of Art), MoMA (Museum of Modern Art), American Museum of Natural History, The National 9/11 Memorial & Museum และอีกมากมาย ไหนจะอีเวนต์ฟรีๆ ที่มีไปให้ทุกอาทิตย์ 

 

    อีกหนึ่งสิ่งที่มีชื่อเสียงสำหรับ NYC ก็คือละครบอร์ดเวย์ ใครเป็นสายละครเวทีก็ต้องมาเยือนที่นี่ให้ได้สักครั้ง 

 

    ส่วนอาหารก็มีหลากหลายมาก ถ้าลองไปดูตามย่านต่างๆ แล้วก็จะมีชุมชนจากทั่วโลกเลย ไม่ว่าจะเป็น China Town, Little India, Little Italy ถ้าใครคิดถึงบ้านก็มีร้านอาหารไทยไม่น้อยให้ไปกินให้หายคิดถึง NYC ถือเป็นเมืองหนึ่งที่มีความหลากหลายที่สุดในอเมริกาเลย

    

    ส่วนที่ LA บรรยากาศก็จะ slow กว่าที่ NYC หน่อย และเป็นสวรรค์ของสายช็อปที่แท้ทรู เพราะเต็มไปด้วยแหล่งช็อปปิ้ง Night Life ใครเป็นคนรักหนังก็น่าจะชอบ LA เพราะถือเป็นแหล่งเอนเทอร์เทนเมนต์ที่ใหญ่ที่สุด (Hollywood นั่นแหละจ้ะ) ส่วนใครที่อยากสัมผัสทะเลที่นี่ก็มี Santa Monica Beach ให้ไปแวะเที่ยว นอกจากนี้ยังมี Santa Monica Pier ด้วย 

 

    สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจของ LA ก็คือ คนไทยเยอะมากก! LA อาจเป็นเมืองที่ในอเมริกาที่ Community คนไทยใหญ่ที่สุดเลยก็ว่าได้ มีคนพูดกันขำๆ ว่า LA คือประเทศไทยอีกแห่งหนึ่ง เพราะฉะนั้นใครไป LA ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะคิดถึงบ้านเพราะเราค่อนข้างมั่นใจทีเดียวว่าต้องเจอคนไทยแน่นอน! 

 

    สาระน่ารู้ก่อนไปนิวยอร์ก

    อาหารแบบ “คนไทย” ใน NEW YORK

    8 กิจกรรมน่าสนใจในนิวยอร์กที่เจ๋งและฟรี

    มารู้จักเทศกาลสำคัญใน LA

 

The Universities and courses

 

    ทั้ง New York City และ Los Angeles เป็นเมืองที่นักเรียนนิยมไปศึกษาต่อทั้งคู่ 

  

    New York City ถือเป็นอีกเมืองในอเมริกาที่มีโรงเรียนและมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุด 1 มหาลัยในเครือ Ivy league ก็อยู่ในเมืองนี้ นั่นก็คือ Columbia University ซึ่งเปิดสอนหลายสาขาและแต่ละสาขาก็มีชื่อเสียงทั้งนั้น ศิษย์เก่านี่ที่มีดังแต่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่าง Barak Obama , นักแสดงอย่าง Maggie Gyllenhaal, Julia Stiles และ Joseph Gordon-Levitt มหาเศรษฐีอย่าง Warren Buffett  

 

    อีกหนึ่งมหาลัยที่มีชื่อเสียงก็คือ New York University (NYU) ที่มีศิษย์เก่าอย่าง Lady Gaga, Woody Allen, Anne Hathaway, Dakota Fanning, ผู้กำกับชื่อดัง Martin Scorsese เป็นต้น 

 

    นอกจากนี้ยังมี Pace University ที่เปิดสอนทั้งระดับปริญญาตรี-โท มีการสอนผ่านระบบออนไลน์ด้วย Pace มี 2 แคมปัสในตัวเมือง NYC และ Westchester County, The New School ที่เปิดสอนหลายวิชาตั้งแต่ศิลปศาสตร์ สังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ สอนตั้งแต่ระดับป.ตรี-โท นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมประกาศนียบัตรวิชาชีพด้วยนะ หรือถ้าออกนอกเมืองไปเลย แต่ยังอยู่ในรัฐ New York ก็ยังมี University of Buffalo ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการวิจัยในอเมริกามากๆ ใครเป็นสายฟิล์มก็ต้องไปที่ New York Film Academy เลยจ้า

 

    มาถึงที่ LA กันบ้าง ถ้าพูดถึง LA ก็ต้อง UCLA หรือ University of California, Los Angeles เลยจ้า เป็นมหาวิทยาลัยรัฐที่เน้นการวิจัย เปิดสอนทั้งป.ตรี-โท มีคณะให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ทันตแพทยศาสตร์ อักษร นิติฯ นิเทศฯ นอกจากนี้ยังมี California State University, Los Angeles, University of Southern California, California Institute of The Arts ซึ่งมีศิษย์เก่าอย่างผู้กำกับ Sofia Coppola และ Tim Burton นักแสดงอย่าง Ed Harris  ใครเป็นสายฟิล์มไม่ควรพลาด 3 มหาลัยที่บอกไปข้าง เพราะถือเป็นโรงเรียนด้านฟิล์มที่เริดใน LA ทีเดียว

 

    ใครที่มีแพสชันด้านละคร หนัง หรืออยากเป็นนักแสดง LA คือจุดมุ่งหมายที่ดีในการเริ่มต้นเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะมีมหาลัยให้ความรู้แล้ว ยังมีตลาดแรงงานที่ใหญ่ที่สุดอย่าง Hollywood รองรับด้วย!

 

    เรียนฟิล์ม เรียนทำหนังในอเมริกา

    ถูกกว่าใคร ไปอเมริกา! รวมมหาลัยค่าเทอมไม่แพงใน US

    จบปุ๊บ ได้งานปั๊บ – 12 มหาลัยในอเมริกาที่นายจ้างอ้าแขนรับคนเรียนจบ

    เรียนอะไร ได้งานแน่ในอเมริกา

        

    ใครที่อยากไปเรียนต่ออเมริกา ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน ตอนนี้ Hotcourses Thailand มีไลน์แล้วนะ ให้คำปรึกษาแบบ exclusive สุดๆ ยินดีตอบทุกคำถามเกี่ยวกับการเรียนต่อเลยจ้ะ แอดมาคุยกันชิลๆ ได้ที่

 

 

 

16 ดาราดังฮอลลีวูดที่ไม่ได้เกิดในอเมริกาเหล่านี้ พวกเขาเคยเป็นคนนอกสำหรับฮอลลีวูดมาก่อน แต่สามารถสะกดทุกสิ่งได้ด้วยสำเนียง รูปลักษณ์ และความสามารถทางศิลปะ 

เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนจำนวนมาก ที่จะคิดว่าเหล่าคนดังเหล่านี้มีเป็นชาวอเมริกา แต่นักแสดงและนักร้องเหล่านี้ เกิดและเติบโตมาจากประเทศอื่นๆ  และต้นกำเนิดของพวกเขาเพิ่มความมีชีวิตชีวา และสีสันที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับฮอลลีวูดที่พวกเราหลายคนชื่นชอบ

16 ดาราดังฮอลลีวูดที่ไม่ได้เกิดในอเมริกามีใครบ้างมาดูกัน!

1. กัล กาด็อท – อิสราเอล

กัล กาด็อท (Gal Gadot) เกิดในปี 1985 ที่เมือง Rosh Ha’ayin และได้รับตำแหน่ง Miss Israel ปี 2004

เมื่ออายุ 18 ปี หลังจากอาชีพนางแบบในช่วงแรก เธอรับหน้าที่เป็นครูสอนการต่อสู้ที่กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล ซึ่งต่อมาเธอได้รับตำแหน่งสูงขึ้น ในขณะที่รับบท Wonder Woman บทบาทที่ทำให้เธอมีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ

2.มิล่า คูนิส – ยูเครน

มิล่า คูนิส Mila Kunis เกิดเมื่อปีพ. ศ. 2526 ใน Chernivtsi อดีตสหภาพโซเวียต  

7 ปีต่อมาครอบครัวของเธอย้ายไปสหรัฐอเมริกา เธอเริ่มเข้าชั้นเรียนการแสดงหลังเลิกเรียน และถูกค้นพบโดยตัวแทนที่นั่น สัญญาสำหรับโฆษณาและการแสดงเล็ก ๆ ในรายการทีวีทำให้ช่วงเวลาของเธอเต็มไปด้วยสปอตไลท์ของฮอลลีวูด กับการแสดง แจ็กกี้เบิร์กฮาร์ตใน  That ’70s Show

3.ริฮานน่า – บาร์เบโดส

ริฮานน่า Rihanna เกิดเมื่อปี 1988 ที่เซนต์ไมเคิล และชนะการประกวดความงามหลายครั้งในช่วงวัยรุ่น เธอยังอยู่ในช่วงปีการศึกษาเมื่อเพื่อนคนหนึ่งแนะนำเธอให้รู้จักกับชาวนิวยอร์ก Evan Rodgers ซึ่งเป็นเพื่อนในครอบครัวของเธอ ร็อดเจอร์สฟังเธอร้องเพลงและบินไปนิวยอร์ก ซึ่ง Def Jam Records ได้เซ็นสัญญากับนักร้องคนนี้ หลังจากได้ฟังเสียงของเธอทำให้พวกเขาเชื่อว่าเธอจะประสบความสำเร็จอย่างอย่างแน่นอน

4.เอมมิเลีย คลาร์ก – อังกฤษ

เอมมิเลีย คลาร์ก Emilia Clarke เป็นชาวอังกฤษ เกิดที่ลอนดอน แต่เติบโตในเบิร์กเชียร์ เธอรู้ดีว่าการแสดงคืออนาคตของเธอเมื่ออายุ 3 ขวบ หลังจากได้ดูละครเพลงเรื่อง Show Boat 

คลาร์ก เริ่มต้นเข้าร่วมละครศูนย์ลอนดอนและเริ่มต้นการแสดงบทเล็กๆ ในรายการทีวี แต่เธอได้รับชื่อเสียงสู่ระดับสากล ในบทบาทของเธอในฐานะ Daenerys Targaryen ใน  Game of Thrones ตอนนี้เธอมีชื่อเสียงโด่งดังและได้รับการโหวตให้เป็น “ผู้หญิงที่น่าปรารถนาที่สุด”

5.ปริยังกา โจปรา – อินเดีย

ปริยังกา โจปรา Priyanka Chopra เกิดที่เมือง Jamshedpur ประเทศอินเดีย ในปี 1982 เธอกลายเป็น Miss India และต่อมาได้ครองตำแหน่ง Mis World 2000 แม้ว่านักแสดงหญิงจะปรารถนาที่จะเป็นวิศวกรการบิน แต่เธอก็ได้รับการเสนอบทบาทในภาพยนตร์อินเดียหลายเรื่องและเข้าร่วมงานบอลลีวูด . เธอปรากฏตัวบนหน้าจอของฮอลลีวู้ดหลังจากแสดงในซีรีส์ วอน และได้ปรากฏตัวตั้งแต่ในคอเมดี้ เช่น  Baywatch

6.คีอานู รีฟส์ – เลบานอน

คีอานู รีฟส์ Keanu Reeves เกิดในเบรุต ในปีพ. ศ. 2507 กับแม่ชาวอังกฤษและพ่อชาวฮาวาย รีฟส์มีเชื้อสายจีน ไอริช โปรตุเกสและอังกฤษ หลังจากการปรากฏตัวของเขาในภาพยนตร์แคนาดาYoungblood เขาก็ย้ายไปฮอลลีวู้ดและพัฒนาบทบาทของเขาใน  Dangerous Liaisons ที่จุดประกายอาชีพของเขา และเขาได้บทนำในภาพยนตร์ เช่น  The Matrix และ Constantine.

7.นาตาลี พอร์ตแมน – อิสราเอล

Natalie Hershlag เป็นชื่อจริงของเธอ นาตาลีเกิดในปี 1981 ในเยรูซาเล็ม มีเชื้อสายยิว Ashkenazi เมื่อเธออายุ 3 ขวบ ครอบครัวของเธอย้ายไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกาซึ่งได้มีตัวแทนบริษัทการแสดงพบนักแสดงสาวตอนอายุ 11 ปีที่ร้านพิซซ่า บทบาทของเธอในฐานะเจ้าหญิงอมิดาลาใน Star Wars: Episode I – The Phantom Menace ได้จุดประกายชื่อเสียงของเธอ พอร์ตแมนติดตามการแสดงขณะเรียนจิตวิทยาที่ฮาร์วาร์ดและได้เริ่มถ่ายทำภาพยนตร์สตาร์วอร์สไปพร้อมๆกัน

8.ชาร์ลิซ เธอรอน – แอฟริกาใต้

ชาร์ลิซ เธอรอน เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2518 ที่เมืองเบโนนี ตอนที่เธอยังเป็นเด็ก เธอเคยเรียนบัลเล่ต์และคิดที่จะเป็นนักบัลเล่ต์มืออาชีพ แต่เข่าที่เสียหายทำให้ความฝันของเธอสิ้นสุดลง เธอจึงบินไปฮอลลีวูดเพื่อเป็นนักแสดงแทน

ในตอนแรก Theron ไม่มีโชค แต่หลังจากมีเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นในธนาคาร เธอก็ได้รับนามบัตรจากตัวแทนพร้อมเงื่อนไขในการเรียนภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน จากนั้นเธอก็เข้าสู่วงการฮอลลีวูดด้วยบทบาทนำของเธอใน The Devil’s Advocate และได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากบทบาทของเธอใน Monster

9.ลูพีตา ญองอ – เม็กซิโก

ลูพีตา ญองอ (Lupita Nyong’o) เกิดในเม็กซิโก ขณะที่พ่อของเธอทำงานอยู่ที่นั่น แต่จากนั้นก็กลับไปที่ไนโรบี ในอีกหนึ่งปีต่อมา เธอเคยแสดงละครของโรงเรียน และเดินทางไปกับครอบครัวเพื่อเข้าชมละครเวที เมื่อเธอโตขึ้น เธอย้ายไปสหรัฐอเมริกาและเข้าเรียนที่โรงเรียนการละครเยล หลังจากนั้นไม่นานเธอทำให้ฮอลลีวูดประหลาดใจกับผลงานของเธอใน 12 Years a Slave

10.นิกกี้ มินาจ – ตรินิแดดและโตเบโก

นิกกี้ มินาจ หรือ Onika Tanya Maraj มีพื้นเพมาจากเซนต์เจมส์ ซึ่งเธอเกิดเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2525 ครอบครัวของเธอย้ายไปนิวยอร์กเมื่อเธออายุ 5 ขวบ ซึ่งเธอเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมที่เน้นศิลปะ หลังจากเรียนจบ เธอถูก CEO ของ Young Money ค้นพบและเริ่มปรากฏตัวในซีรีส์ The Come Up แต่หลังจากปล่อยมิกซ์เทป Playtime Is Over เธอก็มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติในฐานะนักร้อง

11.นีน่า โดเบรฟ – บัลแกเรีย

ชื่อจริงของเธอคือ Nikolina Konstantinova Dobreva และเธอเกิดที่โซเฟียในปี 1989 ตอนอายุ 2 ขวบพ่อแม่ของเธออพยพไปแคนาดา ในโตรอนโต เธอเริ่มเป็นนางแบบและปรากฏตัวในโฆษณาตอนเป็นวัยรุ่น หลังจากนั้นไม่นานการออดิชั่นภาพยนตร์ก็เข้ามาแทนที่สิ่งเหล่านั้น และเธอก็ได้รับบทบาทที่ก้าวหน้าของเธอในฐานะ Mia Jones ใน Degrassi: The Next Generation ตอนนี้เธอเป็นที่รู้จักจากบทบาทนำใน The Vampire Diaries

12.แว็กเนอร์ มูรา – บราซิล

แว็กเนอร์ มูรา เกิดที่เอลซัลวาดอร์ในปี 2519 ในช่วงแรกเขาแสดงความสนใจในการแสดง และเมื่อยังเป็นวัยรุ่น เขาเข้าร่วมชุมชนของนักเรียนศิลปะการแสดงที่โรงเรียนของเขา และเริ่มเรียนวารสารศาสตร์ แต่หลังจากทำงานทางทีวีได้ไม่นาน เขาก็ตัดสินใจที่จะทำตามความฝันที่จะเป็นนักแสดง

ในไม่ช้าเขาก็ได้เซ็นสัญญาเพื่อแสดงในภาพยนตร์บราซิลหลายเรื่อง แต่เป็นบทบาทของเขาในฐานะ Pablo Escobar ในการผลิตของ Netflix Narcos ที่ผลักดันให้เขามีชื่อเสียงเพิ่มขึ้น

13.โซเฟีย เวอร์การ่า – โคลอมเบีย

Sofía Margarita Vergara เกิดที่ Barranquilla ในปี 1972 เธอพยายามจะเป็นหมอฟัน แต่ถูกช่างภาพค้นพบในวันหนึ่งที่ชายหาด ทำให้เธอมีงานมากมายในฐานะนางแบบรันเวย์ และเป็นพิธีกรรายการทอล์คโชว์ทางทีวี ในปี 2009 เธอได้รับบทเป็น Gloria Delgado-Pritchett ในรายการ Modern Family ซึ่งเธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง 4 รางวัล Emmy nominations.

14.ดิจิมอน ฮาวน์ซู – เบนิน

ดิจิมอน ฮาวน์ซู Djimon Hounsou มีพื้นเพมาจาก Cotonou ซึ่งเขาอาศัยอยู่จนถึงอายุ 13 ปี ก่อนที่จะย้ายไปฝรั่งเศส โดยบังเอิญเขาได้พบกับ Thierry Mugler ดีไซเนอร์ชาวฝรั่งเศสซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้เขาเป็นนายแบบ เขาจึงเริ่มเดินบนรันเวย์ของปารีสเป็นเวลาหลายปี จนกระทั่งย้ายไปสหรัฐอเมริกาเพื่อค้นหาการผจญภัยครั้งใหม่

บทบาทที่ก้าวล้ำของเขาคือการรับบท โจเซฟชินเคว ในภาพยนตร์เรื่อง Amistad ของ สตีเวน สปีลเบิร์ก และต่อมาก็ได้ปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่องดังที่ได้รับรางวัลเช่น Gladiator, Blood Diamond และ Aquaman

15.เจมส์ แม็คอะวอย – สกอตแลนด์

เจมส์ แม็คอะวอย (James McAvoy) เกิดที่กลาสโกว์ในปี 1976 แรกๆเค้าไม่สนใจการแสดง แต่มุ่งเน้นไปที่การเป็นนักบวชแทนจนกระทั่งเขาได้พบกับนักแสดงเดวิด เฮย์แมนที่มาเยี่ยมโรงเรียนของเขาและเสนอบทบาทให้แม็คอะวอยในภาพยนตร์เรื่อง The Near Room หลังจากผ่านประสบการณ์ McAvoy ตัดสินใจเรียนที่ Royal Scottish Academy of Music and Drama (RSAMD) เขามีชื่อเสียงในอังกฤษหลังจากรับบทในรายการ Shameless แต่เป็นการเปิดตัวครั้งแรกในฐานะมิสเตอร์ทัมนัสใน The Chronicles of Narnia ที่ฮอลลีวูดตกหลุมรักเขาเข้าอย่างจัง !

อ้างอิง : Brightside