Skip to content
Home » [Update] เทคนิคการใช้ Tense ทั้ง 12 แบบ เข้าใจง่าย ถูกตามหลักการใช้เป๊ะ | present perfect หลักการใช้ – NATAVIGUIDES

[Update] เทคนิคการใช้ Tense ทั้ง 12 แบบ เข้าใจง่าย ถูกตามหลักการใช้เป๊ะ | present perfect หลักการใช้ – NATAVIGUIDES

present perfect หลักการใช้: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

เชื่อเลยว่า เพื่อนๆ หลายคนจะต้องคิดว่าการเรียนภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่ยาก โดยเฉพาะการเรียนเรื่อง Tense ซึ่งมีทั้งหมด 12 แบบด้วยกัน แต่เพื่อนๆ รู้ไหมว่าถ้าเราสามารถจำเรื่อง Tense ได้ก็สบายไปครึ่งทางแล้ว เพราะมันเป็นสิ่งที่เราต้องนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน และการสอบต่างๆ ดังนั้น ในบทความนี้ แคมปัส-สตาร์ ก็มี Tense ทั้ง 12 แบบมาให้เพื่อนๆ ได้เรียนรู้กัน ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย

Table of Contents

เทคนิคการใช้ Tense ทั้ง 12 แบบ

1. Present Simple Tense (ปัจจุบัน)

โครงสร้างประโยค

ประธาน + กริยาช่องที่ 1
ถ้าประธานเป็นบุรุษที่ 3 เอกพจน์ + กริยาช่องที่ 1 เติม s หรือ es

ตัวอย่างการใช้ 

I go… / You go… / He goes… / They go…

She sings a song. แปลว่า หล่อนร้องเพลง
He plays football. แปลว่า เขาเล่นฟุตบอล
She is not here. หรือ She isn’t here. แปลว่า หล่อนไม่อยู่ที่นี่
We are not drivers. หรือ We aren’t drivers. แปลว่า พวกเราไม่ใช่คนขับรถ

สำหรับ ประโยคปฏิเสธและคำถามเราจะใช้ Verb to do มาช่วย เช่น

You do not like apple. หรือ You don’t like apple.
She does not eat meat. หรือ She doesn’t eat meat.
Do you like it?
Does he like it?

หลักการเติม s ที่คำกริยา

เติม s หลังคำกริยานั้นๆ เช่น He eats. She sings. A tiger runs.

ถ้ากริยาลงท้ายด้วย s, sh, ch, x, o, z, ss ให้เติม es เช่น

He teaches English.
She goes away.
She brushes her teeth.

ถ้ากริยาลงท้ายด้วย y และหน้า y เป็นพยัญชนะ ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม es เช่น

He tries to study.
She studies English.

** หมายเหตุ ถ้าหน้า y เป็นสระ ไม่ต้องเปลี่ยน y เป็น i ให้เติม s ได้เลย เช่น

play – plays = เล่น
pay – pay = จ่าย
destroy – destroys = ทำลาย

หลักการใช้ Present Simple Tense สรุปได้ดังนี้

1.1 แสดงลักษณะความจริงอยู่เสมอ ไม่ว่าเหตุการณ์จะผ่านไปเท่าใดก็ตาม เช่น

The earth moves around the sun. แปลว่า โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์
The sun rises in the east and sets in the west. แปลว่า ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกและตกทางทิศตะวันตก
The earth is round. แปลว่า โลกกลม
Water freezes at 0 C. แปลว่า น้ำมีจุดเยือกแข็งที่ 0 องศาเซลเซียส

1.2 การกระทำที่เกิดขึ้นเสมอๆ เกิดขึ้นจนเป็นนิสัย มักจะมี adverb of frequency ประกอบในประโยค เช่น every day, usually, sometimes, frequently, always, naturally, generally, rarely, seldom, never etc. เป็นต้น ตัวอย่างการใช้มีดังนี้

She gets up at six o’clock. แปลว่า หล่อนตื่นนอน 6 โมงเช้า (ตื่นเวลานี้จนเป็นนิสัย)
He runs every morning. แปลว่า เขาวิ่งทุกๆ เช้า
John often drinks beer. แปลว่า จอห์นมักจะดื่มเบียร์
She never sits in front of the church. แปลว่า หล่อนไม่เคยนั่งข้างหน้าของโบสถ์เลย

1.3 แสดงเหตุการณ์หรือกิจกรรมต่างๆ ที่รู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ เช่น

I go to Chiangmai in the afternoon. แปลว่า ฉันจะไปเชียงใหม่ในตอนบ่าย
He starts to study in five minutes. แปลว่า เขาจะเริ่มเรียนภายใน 5 นาที
The concert begins at 1.30. แปลว่า คอนเสิร์ตเริ่มเวลา 1.30 นาฬิกา

1.4 ใช้กับสุภาษิต คำพังเพย เช่น

New brooms sweep clean. แปลว่า ไม้กวาดใหม่ย่อมกวาดสะอาดกว่า
Money makes friend. แปลว่า เงินทองอาจทำให้ท่านมีเพื่อนฝูงมาก
Health is wealth. แปลว่า ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ

2. Present Continuous Tense (ปัจจุบันกำลังจะทำ)

โครงสร้างประโยค 

I + am + กริยาช่องที่ 1 เติม ing
ประธานเอกพจน์ + is + กริยาช่องที่ 1 เติม ing
ประธานพหูพจน์ + are + กริยาช่องที่ 1 เติม ing

ตัวอย่างการใช้ 

She is running.
Is he playing football now?
I am not sleeping.
They are walking.

หลักการเติม ing

คำกริยาที่ลงท้านด้วย e ให้ตัด e ทิ้งเสียก่อนแล้วเติม ing เช่น

bite > biting
come > coming
arise > arising
write > writing
take > taking

กริยาที่ลงท้ายด้วย ee ให้เติม ing เลย เช่น

free > freeing
see > seeing
flee > fleeing
agree > agreeing

กริยาที่ลงท้ายด้วย ie ให้เปลี่ยน ie เป็น y แล้วเติม ing เช่น

lie > lying
die > dying
tie > tying

กริยาพยางค์เดียว มีสระตัวเดียวและมีตัวสะกดเป็นพยัญชนะตัวเดียว ให้เพิ่มตัวสะกดอีก 1 ตัวก่อน แล้วเติม ing เช่น

run > running
sit > sitting
hit > hitting
get > getting
dig > digging
rob > robbing

กริยาหลายพยางค์ลงท้ายด้วยพยัญชนะ 1 ตัว หน้าพยัญชนะ มีสระหนึ่งตัว ให้เพิ่มพยัญชนะเข้าไปอีก 1 ตัว แล้วเติม ing เช่น

forget > forgetting
admit > admitting

กริยามี 2 พยางค์ ซึ่งออกเสียงหนักที่พยางค์หลังมีสระตัวเดียว ตัวสะกดตัวเดียว ให้เพิ่มตัวสะกดเข้ามาอีกหนึ่งตัวก่อน แล้วเติม ing เช่น

offer > offerring
refer > referring
occur > occurring
begin > beginning

คำต่อไปนี้ ใช้ได้ 2 แบบ คือ trevel, quarrel เช่น

travel > traveling (แบบอเมริกัน)
travel > travelling (แบบอังกฤษ)
quarrel > quarreling (แบบอเมริกัน)
quarrel > quarrelling (แบบอังกฤษ)

กริยาตัวอื่นๆ เติม ing ได้เลย เช่น

hear > hearing
burn > burning
bend > bending
read > reading

หลักการใช้ Present Continuous Tense สรุปได้ดังนี้

2.1 แสดงการกระทำที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะพูด และคาดว่าจะสิ้นสุดลงในไม่ช้า มักมีคำเหล่านี้ คือ now, at the present time, at this moment etc. ตัวอย่างการใช้

She is eating.
Tom is running now.
We are walking.

2.2 แสดงการกระทำเริ่มก่อนพูดเป็นเวลานาน ขณะที่พูดนี้เหตุการณ์อาจไม่ได้ กำลังเกิดขึ้นจริงๆ มักมีคำว่า this week, this month etc. ตัวอย่างการใช้

I am working with my teacher this summer. แปลว่า ฉันกำลังทำงานกับครูของฉันในฤดูร้อนนี้ (ขณะที่พูดอาจทำ หรือไม่ทำอาการนี้ก็ได้)

Tom is working for an examination. แปลว่า ทอม กำลังดูหนังสือสำหรับการสอบในครั้งนี้ (ขณะพูดอาจจะไม่ได้ดูหนังสือก็ได้)

2.3 ใช้แทนอนาคตกำลังจะมาถึงในไม่ช้า หรืออนาคตอันใกล้ มักมี adverb of time (tomorrow, next week, next month etc.) ตัวอย่างการใช้

I am asking him tomorrow (= I will ask him tomorrow.) แปลว่า ฉันจะถามเขาพรุ่งนี้

He is leaving on Sunday (= He’ll leave on Sunday.) แปลว่า เขาจะออกเดินทางในวันอาทิตย์

2.4 กริยาที่ไม่นิยมใช้รูป Present Continuous Tense มีดังต่อไปนี้

กริยาแสดงความรู้สึกทางประสาททั้ง 5 ด้าน

see = เห็น/notice = สังเกต
smell = ดมกลิ่น
taste = ชิม
hear = ได้ยิน
recognize = จำได้

กริยาที่แสดงความรู้สึกทางอารมณ์ เช่น

love = รัก
like = ชอบ
dislike = ไม่ชอบ
adore = รักยิ่ง บูชา
forgive = อภัย
wish = ปรารถนา
ต้องการ care = เอาใจใส่
desire = ปรารถนา
hate = เกลียด
want = ต้องการ
refuse = ปฏิเสธ

กริยาแสดงความคิด เช่น

think = คิด
know = รู้
realize = ตระหนัก
recollect = จำได้
suppose = คิด
recall = นึกได้
expect = คาดหวัง
suppose = คิด
understand = เข้าใจ
mean = ตั้งใจ, หมายความ
believe = เชื่อ
forget = ลืม
trust = เชื่อ
remember = จำได้

กริยาอื่นๆ เช่น

seem = ดูราวกับว่า
hold = บรรจุ
belong = เป็นของ
own = เป็นเจ้าของ
contain = บรรจุ
possess = เป็นเจ้าของ
consist = ประกอบด้วย

3. Present Perfect Tense (ปัจจุบันสมบูรณ์)

โครงสร้างประโยค 

ประธาน + has,have + Past Participle

ตัวอย่างการใช้ 

We have eaten American foods.
She has not(hasn’t) eaten Thai foods.
Has he smoked cigarettes?

หลักการใช้ Present Perfect Tense สรุปได้ดังนี้

3.1 แสดงถึงการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีต แล้วเหตุการณ์ยังคงดำเนินต่อมาจนถึงปัจจุบัน (ตอนพูด) และมีแนวโน้มว่าจะดำเนินต่อไปในอนาคต มักจะมีคำว่า since, for ตัวอย่างการใช้

Dr.Helen has lived in Bangkok since 1958. แปลว่า ดร.เฮเลน อยู่ที่กรุงเทพตั้งแต่ ค.ศ.1958
I have studied in America for four years. แปลว่า ฉันเคยเรียนที่อเมริกามาเป็นเวลา 4 ปี

3.2 แสดงการกระทำซึ่งเกิดขึ้นในอดีต และพึ่งเสร็จสมบูรณ์ไปไม่นาน มักมี adverb เช่น just, yet etc. ประกอบด้วย ตัวอย่างการใช้

I have just passed my friend’s house. แปลว่า ฉันพึ่งผ่านบ้านเพื่อนของฉันมา
They have already finished housework. แปลว่า พวกเขาทำงานบ้านเสร็จแล้ว

3.3 แสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต แต่ผลของการกระทำนั้นยังคงมาถึงปัจจุบันขณะที่พูด ตัวอย่างการใช้

I have read this book before. แปลว่า ฉันเคยอ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว
He has opened the door. แปลว่าเขาได้เปิดประตูแล้ว (ผลของการกระทำยังอยู่คือประตูเปิด)

3.4 เหตุการณ์ที่เคยทำซ้ำๆ กันหลายหนแล้วในอดีต อาจจะทำต่อไปในอนาคต แต่ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นเมื่อใด ไม่สามารถบอกเวลาการเกิดขึ้นได้ มักมี adverb of time เช่น many times, several times ในประโยคด้วย ตัวอย่างการใช้

I have been to America many times. แปลว่า ฉันได้ไปอเมริกาหลายครั้งแล้ว
She has read this book three times. แปลว่่า หล่อนเคยอ่านหนังสือเล่มนี้ 3 ครั้งแล้ว
He has eaten Thai food several times. แปลว่า เขาเคยกินอาหารไทยหลายครั้งแล้ว

4. Present Perfect Continuous Tense (ปัจจุบันสมบูรณ์กำลังกระทำ)

โครงสร้างประโยค 

ประธาน + has, have + been + กริยาเติม ing

ตัวอย่างการใช้ 

I have been thinking. แปลว่า ฉันกำลังคิด
They have been talking. แปลว่า พวกเขากำลังพูดกัน
She has been living here for 2 weeks. แปลว่า หล่อนอาศัยอยู่ที่นี่มา 2 สัปดาห์แล้ว
He has been studying hard all year. แปลว่า เขาเรียนหนังสือหนักมาตลอดปี

หลักการใช้ Present Perfect Continuous Tense สรุปได้ดังนี้

4.1 ใช้แสดงการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีต และดำเนินมาโดยไม่ขาดตอน เช่น

John has been living in America since 1984. แปลว่า จอห์นได้มาอยู่อเมริกาตั้งแต่ปี 1984

** หมายเหตุ Present Perfect Continuous Tense นี้ ใช้เหมือน Present Perfect ต่างกัน ตรงที่ว่า Present Perfect Continuous Tense ใช้เพื่อต้องการเน้นย้ำว่าการกระทำติดต่อกันมาตลอด และกริยา ที่ใช้มักเป็นกริยาที่มีลักษณะต่อเนื่องได้ ปัจจุบันไม่ใคร่นิยมใช้มากนัก

5. Past Simple Tense (อดีตธรรมดา)

โครงสร้างประโยค 

ประธาน + กริยาช่อง 2

ตัวอย่างการใช้งาน 

She went home. แปลว่า เธอกลับบ้าน
I came here last night. แปลว่า ฉันมาที่นี่เมื่อคืน

หลักการใช้ Past Simple Tense สรุปได้ดังนี้

5.1 ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต และจบสิ้นลงไปแล้วในอดีตเช่นกัน มักมีคำว่า once, ago, last night, last week, last year etc. ตัวอย่างการใช้

I got sick yesterday. แปลว่า ฉันป่วยเมื่อวานนี้
I lived in Phuket 3 years ago. แปลว่า ฉันอยู่ที่ภูเก็ตเมื่อ 3 ปีที่แล้ว
She went to the university last week. แปลว่า หล่อนไปมหาวิทยาลัยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

5.2 แสดงเหตุการณ์ที่เป็นนิสัย ที่ทำประจำในอดีต (ปัจจุบันไม่ได้กระทำแล้ว) มักมี adverb ความถี่อยู่ด้วย เช่น always, every, frequently etc. ตัวอย่างการใช้

Chris walked every morning. แปลว่า คริสเดินทุกๆ เช้า (เป็นนิสัยในอดีต ปัจจุบันไม่ได้กระทำแล้ว)
He always woke up late last year. แปลว่า เขาตื่นนอนสายเสมอๆเมื่อปีที่แล้ว
When I was young. I listened to the radio every night. แปลว่า เมื่อฉันเป็นเด็ก ฉันฟังวิทยุทุกคืน

5.3 แสดงถึงการกระทำทั้งสองอย่างที่เกิดในเวลาเดียวกัน มักมีคำว่า as, while อยู่ด้วย ตัวอย่างการใช้

While she sang, I danced. แปลว่า ขณะที่หล่องร้องเพลง ฉันเต้นรำ
As she cooked, her son played football. แปลว่า ขณะที่หล่อนทำอาหาร ลูกชายของเธอก็เล่นฟุตบอล

6. Past Continuous Tense (อดีตกำลังกระทำ)

โครงสร้างประโยค 

ประธาน + was, were + กริยาเติม ing

ตัวอย่างการใช้ 

I was drinking a glass of water. แปลว่า ฉันกำลังดื่มน้ำ 1 แก้ว
They were playing football in the field. แปลว่า เขากำลังเล่นฟุตบอลอยู่ในสนาม

หลักการใช้ Past Continuous Tense สรุปได้ดังนี้

6.1 ใช้เมื่อเกิดเหตุการณ์ 2 อย่าง เกิดขึ้นในอดีต เหตุการณ์อย่างหนึ่งเกิดขึ้นและดำเนินอยู่ก่อนแล้ว เราจะใช้ Past Continuous และมีเหตุการณ์ที่ 2 เกิดขึ้น จะใช้ Past Simple ตัวอย่างการใช้

While I was cooking, the telephone rang. แปลว่า ขณะฉันทำอาหารโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
We are walking along the street, it began to rain. แปลว่า พวกเรากำลังเดินไปตามถนนฝนก็เริ่มตก

6.2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในอดีต ตัวอย่างการใช้

He was sleeping in the class. แปลว่า ฉันกำลังหลับในห้องเรียน
He was running in the morning แปลว่า เขากำลังวิ่งในตอนเช้า

6.3 แสดงเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ เกิดขึ้นพร้อมๆ กัน ในเวลาเดียวกัน มักมีคำว่า while ในประโยค ตัวอย่างการใช้

While I was watching T.V, my brother was reading a book. แปลว่า ขณะที่ฉันดูทีวี น้องชายของฉันอ่านหนังสือ
She was sleeping while he was talking with his friends. แปลว่า หล่อนกำลังนอนหลับ ขณะที่เขากำลังพูดคุยกับเพื่อนของหล่อน

7. Past Perfect Tense (อดีตสมบูรณ์)

โครงสร้างประโยค 

ประธาน + had + Past Participle (กริยาช่อง 3)

ตัวอย่างการใช้ 

She had slept. แปลว่า หล่อนได้นอนหลับแล้ว
He had not worked. แปลว่า เขาไม่ได้ทำงาน
I had eaten foods before you came. แปลว่า ฉันได้รับประทานอาหารก่อนที่คุณจะมา

หลักการใช้ Past Perfect Tense สรุปได้ดังนี้

7.1 แสดงเหตุการณ์ 2 อย่าง ที่เกิดขึ้นไม่พร้อมกันในอดีต เหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นก่อน เราจะใช้ Past Perfect Tense อีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดทีหลัง เราจะใช้ Past Simple Tense ตัวอย่างการใช้

When I had finished my housework, I played T.V games. แปลว่า เมื่อฉันทำงานบ้านเสร็จฉันก็เล่น TV เกม (ทำงานบ้านเสร็จก่อนแล้วจึงเล่น)

7.2 ใช้เปลี่ยน Past Simple หรือ Present Perfect ให้เป็น Indirect Speech ตัวอย่างการใช้

Direct Speech : “I have stayed in America for 2 years.” แปลว่า หล่อนพูดว่า “ฉันเคยอยู่อเมริการมา 2 ปีแล้ว”
Indirect Speech : She said that she had stayed in America for 2 years. แปลว่า หล่อนพูดว่าหล่อนเคยอยู่อเมริกามา 2 ปีแล้ว
Direct Speech : He said “I worked in Bangkok many years.” แปลว่า เขาพูดว่า”ฉันเคยทำงานในกรุงเทพหลายปี”
Indirect Speech : He said that he had worked in Bangkok many years. แปลว่า เขาพูดว่าเขาเคยทำงานในกรุงเทพหลายปี

8. Past Perfect Continuous Tense (อดีตสมบูรณ์กำลังกระทำ)

โครงสร้างประโยค 

ประธาน + had been + กริยาเติม ing + กรรมหรือส่วนขยาย

ตัวอย่างการใช้ 

I had been sleeping. แปลว่า ฉันกำลังนอนหลับ
She had been waiting for two hours. แปลว่า หล่อนคอย 2 ช.ม. แล้ว
He had not (hadn’t) been walking before you came. แปลว่า เขาไม่ได้กำลังเดินก่อนคุณมา

หลักการใช้ Past Perfect Continuous Tense สรุปได้ดังนี้

8.1 ใช้คล้ายๆ กับ Past Perfect เราใช้ก็ต่อเมื่อเกิดมีเหตุการณ์ 2 อย่าง เกิดขึ้นในอดีต เพื่อเน้นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่ขาดตอน เราใช้ Past Perfect Continuous Tense แล้วเกิดเหตุการณ์หนึ่งขึ้น เราจะใช้ Past Simple Tense ตัวอย่างการใช้

She had been living in America before she moved to Bangkok. แปลว่า หล่อนอยู่อเมริการก่อนที่ย้านมาอยู่ที่กรุงเทพ
I had been waiting two hour before He arrived. แปลว่า ฉันคอยเป็นเวลา 2 ชั่วโมงก่อนที่เขามาถึง
She had been reading for several hours when I saw her. แปลว่า หล่อนกำลังอ่านหนังสือหลายชั่วโมง เมื่อฉันเห็นหล่อน

9. Future Simple Tense (อนาคต)

โครงสร้างประโยค 

ประธาน + will, shall(I,We), be going to + กริยาเติม ing

ตัวอย่างการใช้

I will go to see you tomorrow. แปลว่า ฉันจะไปพบคุณพรุ่งนี้
I shall go. แปลว่า ฉันจะไป
Mary will run. แปลว่า แมรี่จะวิ่ง

หลักการใช้ Future Simple Tense สรุปได้ดังนี้

9.1 ใช้แสดงเหตุการณ์หรือการกระทำในอนาคต มักมี adverb of time อยู่ด้วย เช่น to night, tomorrow, next week, next month etc. ตัวอย่างการใช้

I will see the movie tomorrow. แปลว่า ฉันจะไปดูหนังพรุ่งนี้
She is going to see the doctor next week. แปลว่า หล่อนจะไปหาหมอสัปดาห์หน้า
The plane will arrive at the airport in a few minutes.แปลว่า เครื่องบินจะมาถึงท่าอากาศยานในอีก 2-3 นาที

การใช้ be going to แทน will, shall

ใช้ be going to + กริยาช่อง 1 เพื่อแสดงถึงความตั้งใจที่ได้คิดไว้ล่วงหน้าแล้วหรือเชื่อว่าเป็นจริง โดยไม่สงสัย ตัวอย่างการใช้

I am studying hard: I am going to try for scholarship. แปลว่า ฉันกำลังเรียนหนังสืออย่างหนัก ฉันพยายามเพื่อสอบชิงทุนการศึกษา
She is going to write to her parents. แปลว่า หล่อนตั้งใจว่าจะเขียนจดหมายถึงพ่อแม่ของเธอ
She has bought flour : She is going to make cake. แปลว่า หล่อนซื้อแป้งมาและจะทำเค้ก

ใช้ be going to + กริยาช่อง 1 เพื่อแสดงการคาดคะเน ตัวอย่างการใช้

I think it is going to rain. แปลว่า ฉันคิดว่าฝนจะตก (อย่างแน่นอน)

10. Future Continuous Tense (อนาคตกำลังกระทำ)

โครงสร้างประโยค 

ประธาน + will, shall(I,We) + be + กริยาเติม ing + กรรมหรือส่วนขยาย

ตัวอย่างการใช้ 

I shall be running. แปลว่า ฉันกำลังวิ่ง
I will be working tomorrow. แปลว่า ฉันกำลังจะทำงานพรุ่งนี้
We shall be drinking. แปลว่า เรากำลังจะดื่ม

หลักการใช้ Future Continuous Tense สรุปได้ดังนี้

10.1 แสดงเหตุการ์หรือการกระทำที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งเหตุการณ์นั้นกำลังดำเนินอยู่ ตัวอย่างการใช้

-At ten o’clock tomorrow morning. I will be waiting my friend. แปลว่า เวลา 10 โมงเช้าพรุ่งนี้ ฉันจะกำลังรอเพื่อน
-I will be cooking at 5 o’clock tomorrow evening. แปลว่า ฉันจะทำอาหารตอน 5 โมงเย็นพรุ่งนี้
-He will be sleeping at 4 o’clock tomorrow morning. แปลว่า เขากำลังหลับตอน 4 โมงเช้าพรุ่งนี้

10.2 ใช้กับเหตุการณ์ 2 อย่างที่เกิดขึ้น เหตุการณ์ที่เกิดก่อนใช้ Future Continuous Tense ส่วนเหตุการณ์หลังใช้ Present Simple Tense ตัวอย่างการใช้

-They will be playing football when you arrive at their house. แปลว่า เขาจะกำลังเล่นฟุตบอลอยู่ เมื่อคุณมาถึงบ้านของเขา (เล่นก่อนที่คุณจะถึงบ้าน)

-When he calls to you, she will be going to the market.แปลว่า เมื่อเขาโทรมาหาคณ หล่อนกำลังจะไปตลาด

11. Future Perfect Tense (อนาคตสมบูรณ์)

โครงสร้างประโยค 

ประธาน + will, shall + have + กริยาช่อง 3

ตัวอย่างการใช้ 

I shall have eaten. แปลว่า ฉันจะกินอยู่แล้ว
Sri will have gone. แปลว่า ศรีจะไปอยู่แล้ว
He will have finished his work. แปลว่า เขาจะเสร็จงานของเขาอยู่แล้ว

หลักการใช้ Future Perfect Tense สรุปได้ดังนี้

11.1 ใช้เมื่อคิดว่า เวลาใดเวลาหนึ่งในอนาคต เหตุการณ์หรือการกระทำจะสิ้นสุดลง มักมีคำเหล่านี้ เช่น by that time, by then, by tomorrow, by next year, by next week, by at ten o’clock in two hours etc. ตัวอย่างการใช้

I will have slept in three hours. แปลว่า ฉันจะนอนเสร็จภายใน 3 ชั่วโมง
They will have finished the new road by next week. แปลว่า พวกเขาจะทำถนนใหม่เสร็จในสัปดาห์หน้า

11.2 ใช้กับเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่พร้อมกัน คาดว่าเมื่อถึงเวลานั้น เหตุการณ์หนึงจะเสร็จสมบูรณ์
เราจะใช้ Future Perfect Tense กับ เหตุการณ์นี้และจะเกิดเหตุการณ์ที่ 2 ตามมา เราจะใช้ Present Simple Tense กับประโยคนี้ ตัวอย่างการใช้

By the time you arrive, I will have finished homework. แปลว่า เมื่อเวลาที่คุณมาฉันก็ทำการบ้านเสร็จพอดี
She will have eaten foods before you came. แปลว่า หล่อนรับประทานอาหารเสร็จก่อนที่คุณจะมา
The movie will have started before we reach the theater. แปลว่า ภาพยนตร์เริ่มฉายก่อนที่พวกเราจะมาถึงโรงภาพยนตร์

12. Future Perfect Continuous Tense (อนาคตสมบูรณ์กำลังกระทำ)

โครงสร้างประโยค 

ประธาน + will, shall (I,We) + have + been + กริยาเติม ing + กรรมหรือส่วนขยาย

ตัวอย่างการใช้ 

I shall have been working. แปลว่า เราคงจะทำงาน (ติดต่อกัน)
He will have been running. แปลว่า เขาคงจะวิ่ง (ติดต่อกัน)

หลักการใช้ Future Perfect Continuous Tense สรุปได้ดังนี้

12.1 สำหรับ Tense นี้ เน้นให้เห็นถึงการต่อเนื่องของการกระทำว่าถึงเวลานั้นในอนาคต การกระทำนั้นยังคงดำเนินอยู่ และจะดำเนินต่อไปอีก (ยังไม่หยุด) ตัวอย่างการใช้

-By ten o’clock I shall have been working without a rest. แปลว่า ถึงเวลา 10 นาฬิกา ฉันได้ทำงาน (ติดต่อกันมา) โดยไม่พัก
-When you arrive, she will have waiting for three hours. แปลว่า เมื่อคุณมาถึง หล่อนคงจะได้รอคุณ (โดยไม่หยุดรอ) เป็นเวลา 3 ชั่วโมง

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.tonamorn.com

บทความแนะนำ

[NEW] Present Perfect Tense: ปัจจุบันกาลสมบูรณ์ (โครงสร้างประโยคและตัวอย่างประกอบ) | present perfect หลักการใช้ – NATAVIGUIDES

แต่งประโยคและแสดงตัวอย่าง

ช่วง “Ezy Quiz?”

ประโยคต่อไปนี้สามารถแต่งเป็นประโยคคำถามได้อย่างไร

ประโยคต่อไปนี้สามารถแต่งเป็นประโยคคำถามได้อย่างไร

Present Perfect Tense หรือ ปัจจุบันกาลสมบูรณ์ เป็น Tense ที่แสดงหรือกล่าวถึงเหตูการณ์ในปัจจุบันอยู่ครับ แต่เป็นเหตุการณ์ที่บอกเป็นลำดับต่างๆได้ 4 ลำดับด้วยกัน


โครงสร้างประโยคหลัก

Structure of Present Perfect: โครงสร้างประโยค ปัจจุบันกาล

สมบูรณ์

S.has/haveV. 3Compliment



โครงสร้างประโยค | Structure of Sentence

• Subject + Auxiliary verb + main verb (past participle) + compliment

• Subject + has/have + 3rd form of verb or past participle + compliment

ประธานประโยค you, we, they, I หรือพหูพจน์ ใช้กริยา have ตามหลังประธาน
แต่ถ้าประธานประโยคคือ he, she, it หรือเอกพจน์ ใช้กริยา has ตามหลังประธาน

หลักการใช้คือ

a. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนถึงปัจจุบันขณะพูด (Actions that happened at an unspecified time before the present time.)

b. ใช้แทนกริยาบางตัวเช่น “to be”,”to have”,”to know” ในประโยคของ Present Perfect Continuous Tense (To use for the verb  “to be”,”to have”,”to know” instead of the Present Perfect Continuous Tense form.)

c. ใช้กับเหตุการณ์ที่เพิ่งกระทำแล้วเสร็จ (Actions that ended recently.)

d. ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดในอดีตและกำลังดำเนินต่อไปโดยไม่เจาะจงเวลาสิ้นสุด ซึ่งจะใช้กับการพูดเสียส่วนใหญ่ (States that started in the past, and are still going on without specific ending timeline. It is usually used with states, not actions.)

a. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนถึงปัจจุบันขณะพูด (Actions that happened at an unspecified time before the present):

ประโยคตัวอย่าง

I have been to Beijing.
ไอ แฮฟว์ บีน ทู เปคกิง
ฉันเคยไปปักกิ่ง

I have read all Harry Potter books.
ไอ แฮฟว์ รีด ออล์ แฮร์รี พ็อตเตอร์ บุคส์
ผมอ่านหนังสือแฮรี พ็อตเตอร์ทุกเล่ม

I have finished booking a hotel online.
ไอ แฮฟว์ ฟินนิช บุคกิ่ง อะ โฮเท็ล ออนไลน์
ฉันจองห้องพักผ่านเน็ตเรียบร้อยแล้ว

You have learned to speak French.
ยู แฮฟว์ เลิร์น ทู สปีค เฟรน์ช
ท่านเคยเรียนพูดภาษาฝรั่งเศส

You have talked with my daddy.
ยู แฮฟว์ ทอล์ค วิท มาย แดดดี้
ท่านคุยกับพ่อของฉัน

We have become very successful.
วี แฮฟว์ บีคัม เวรี่ ซัคเซสฟูล
พวกเราได้รับความสำเร็จอย่างมาก

We have signed a franchise contact with the Water Management Company.
วี แฮฟว์ ไซน์ อะ แฟนไชส์ คอนแทค วิท เดอะ วอเตอร์ แมเนจเม็นท์ คัมพานี
พวกเราเซ็นต์สัญญาแฟนไชส์กับบริษัทบริหารจัดการน้ำ

They have never gone there before.
เดย์ แฮฟว์ เนเวอร์ กอน แดร์ บีฟอร์
พวกเขาไม่เคยไปที่นั่นมาก่อน

They have already watched Pi Mak Phrakhanong film for several times.
เดย์ แฮฟว์ ออลเลดี ว็อท์ช พี่ มาก พระโขนง ฟิล์ม ฟอร์ เซฟเวอร์รัล ไทมส์
พวกเขาดูพี่มากพระโขนงสองสามรอบ

He has changed so much!!!
ฮี แฮส เช้ง โซ มัช
เขาเปลี่ยนไปมาก

He has played the hunger game.
ฮี แฮส เพลย์ เดอะ ฮังเกอร์ เกมส์
เขาเล่นฮังเกอร์ เกมส์

She has moved one bit.
ชี แฮส มูฟว์ วัน บิท
หล่อนย้ายไปเล็กน้อย

She has run an internet café.
ชี แฮส รัน แอน อินเตอร์เนท คาเฟ่
หล่อนเปิดร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่

It has found the body.
อิท แฮส เฟาน์ด เดอะ บอดี้
มันได้พบร่าง(ศพ)แล้ว

The police has found a big bag of money.
เดอะ โปลิส แฮส เฟาน์ด อะ บิก แบก ออฟ มันนี
ตำรวจเจอเงินถุงใหญ่

I have seen a historic Ayutthaya capital city of Thailand many times.
ไอ แฮฟส์ ซีน อะ ฮิสโทริค อยุธยา แคปปิตัล ซิตี ออฟ ไทยแลนด์ แมนี่ ไทม์
ฉันเห็นเมืองประวัติศาสตร์อยุธยาหลายครั้งแล้ว

You have met him before. He is Michael.
ยู แฮฟว์ เม็ท ฮิม บีฟอร์  ฮี อิส ไมเคิล
ท่านเคยพบเขามาก่อนแน่ๆ นี่ไมเคิลไง

They have cleaned the dirty car in the past week.
เดย์ แฮฟว์ คลีน เดอะ เดอร์ตี้ คาร์ อิน เดอะ พาสต์ วีค
เขาทั้งหลายทำความสะอาดรถคันที่เลอะเทอะนั่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

They have played timeline many hours.
เดย์ แฮฟว์ เพลย์ ไทม์ไลน์ แมนี่ เอาเออร์
พวกเขาเล่นไทม์ไลน์เป็นเวลานานๆ

He has never been here, Thailand.
ฮี แฮส เนเวอร์ บีน เฮีย ไทยแลนด์
เขาไม่เคยมาที่เมืองไทยมาก่อน

She has found her boyfriend in Facebook.
ชี แฮส เฟาน์ด เฮอร์ บอยเฟร็นด์ อิน เฟสบุ๊ค
หล่อนพบแฟนในเฟสบุ๊ค

She has studied an English conversation lesson.
ชี แฮส สดัดดี้ แอน อิงลิช คอนเวอร์เซชั่น เลสซั่น
หล่อนได้เข้าเรียนสนทนาภาษาอังกฤษ

It has already drunk warm water.
อิส แฮส ออลเรดี้ ดรั้ง วอร์ม วอเตอร์
มันได้ดื่มน้ำอุ่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

You have gone to school so far.
ยู แฮฟว์ กอน ทู สคูล โซฟา
คุณเข้าโรงเรียนกระทั่งวันนี้

They have recently started a part time job.
เดย์ แฮฟว์ รีเซ็นลี สตาร์ท อะ พาร์ท ไทม์ จ็อบ
พวกเขาเริ่มทำงานอดิเรก

She has never told a lie.
ชี แฮส เนเวอร์ โทลด์ อะ ไล
เธอไม่เคยกล่าวเท็จ

She has already written 13 books.
ชี แฮส ออลเรดี้ ริตเท็น เตอร์ทีน บุ๊ค
หล่อนเขียนหนังสือได้ 13 เล่ม

It has rained heavily recently.
อิท แฮส เรนด์ เฮฟวิลี่ รีเซ็นลี่
(ฝน) ตกหนักมากเมื่อเร็วๆนี้

b. ใช้แทนกริยาบางตัวเช่น “to be”,”to have”,”to know” ในประโยคของ Present Perfect Continuous Tense:




c. ใช้กับเหตุการณ์ที่เพิ่งกระทำแล้วเสร็จ (Actions that ended recently.):

ประโยคตัวอย่าง

I have just bought a new cell phone from Amazon store.
ไอ แฮฟว์ จัส บอท อะ นิว เซล โฟน ฟอร์ม อเมซอน สโตร์
ฉันเพิ่งซื้อมือถือเครื่องใหม่จากอเมซอนเวปไซท์

You have just sold the last condominium.
ยู แฮฟว์ จัส โซลด์ เดอะ ลาสต์ คอนโดมิเนียม
คุณเพิ่งขายห้องคอนโดมิเนียม

He has just left for home.
ฮี แฮส จัส เล็ฟท์ ฟอร์ โฮม
เขาเพิ่งเดินทางกลับบ้าน

She has just done her driving test.
ชี แฮส จัส ดัน เฮอร์ ไดรวิ่ง เทสต์
หล่อนทดสอบขับรถเพิ่งเสร็จ

Sue has just broken the mirror.
ชี แฮส จัส โบรคเก็น เดอะ เมอร์เรอร์
เธอทำกระจกแตก

The airplanes just have arrived at Suvannaphumi airport.
เดอะ แอร์เพลน จัส แฮฟส์ แอไรฟว์ แอท สุวรรณภูม์ แอร์พอร์ท
บรรดาเครื่องบินเพิ่งจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ

Our football team has already won. Let’s go to celebrate.
เอาเออร์ ฟุตบอล ทีม แฮส ออล์เรดี้ วอน เล็ทส์ โก ทู ซีลีเบร็ท
ทีมฟุตบอลเราชนะแล้ว ฉลองกันหน่อย

Police has just found out about the murder.
โปลิส แฮส จัส เฟาน์ด เอ๊า อะเบ้า เดอะ เมอร์เดอร์
ตำรวจเพิ่งพบตัวฆาตกร

The Scientific Crime Detection Division has just finished the Crime Scene Investigation.
เดอะ ไซน์ติฟิค ไคร์ม ดีเท็คชั่น ดิวิชั่น แฮส จัส ฟินนิช เดอะ ไคร์ม ซีน อินเวสติเกชั่น
กองพิสูจน์หลักฐานเพิ่งตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุแล้วเสร็จ

His relative just found something mystery.
ฮิส รีเลทีฟ จัส เฟาน์ด ซัมซิ่ง มิสเทอรี
ญาติของเขาเพิ่งพบความลี้ลับบางอย่าง

My wife has made a special dinner just for them.
มาย ไวฟ์ แฮส เมด อะ สเปเชียล ดินเนอร์ จัส ฟอร์ ฮิม
ภรรยาผมทำอาหารมื้อเย็นเพื่อพวกเขาโดยเฉพาะ

Jim has just finished his homework.
จิม แฮส จัส ฟินนิส ฮิส โฮมเวอร์
จิมเพิ่งทำการบ้านเสร็จ

d. ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดในอดีตและกำลังดำเนินต่อไปโดยไม่เจาะจงเวลาสิ้นสุด ซึ่งจะใช้กับการพูดเสียส่วนใหญ่ ( States that started in the past, and are still going on without specific ending timeline. It is usually used with states, not actions):

ประโยคตัวอย่าง

I have been sick for a week.
ไอ แฮฟว์ บีน ซิค ฟอร์ อะ วีค
ฉันป่วยเป็นสัปดาห์เลย

You have done about this task for three months.
ยู แฮฟว์ ดัน อะเบ้า ดิส ทาสค์ ฟอร์ ทรี มันส์
ท่านทำภาระกิจเป็นเวลา 3 เดือน

We have thought about it for several years.
วี แฮฟว์ ต้อต อะเบ้า อิท ฟอร์ เซเวอรัล เยียร์
พวกเราคิดอยู่เป็นเวลาสองสามปี

They have always loved fishing.
เดย์ แฮฟว์ ออลเวย์ส ลัฟ ฟิสชิ่ง
พวกเขาชอบการตกปลา

He has had a fighting cock.
ฮี แฮส แฮด อะ ไฟท์ติ้ง ค็อค
เขามีไก่ชนตัวหนึ่ง

She has lived in Paris since 2010.
ชี แฮส ลีฟ อิน ปารีส ซิ้น ทูเท้าซั่นแอน์เท็น
หล่อนอยู่ในกรุงปารีสตั้งแต่ปี 2010

John has played guitar since he was very young.
จอห์น แฮส แพลย์ กีตาร์ ซิ้น ฮี วอส เวรี่ ยัง
จอห์นเล่นกีต้าร์เป็นตั้งแต่ยังเล็กๆ

Jim has stumbled on the mid of thick forest.
จิม แฮส สตัมเบิ้ล ออน เดอะ มิด ออฟ ทริค ฟอร์เรสต์
จิมเดินโซเซอยู่กลางป่าทึบ

Travelers have walked on the night walking street Pattaya city.
เทรเวอเลอร์ แฮฟว์ วอล์ค ออน เดอะ ไนท์ วอล์คกิ่ง สทรีต พัทยา ซิตี้
นักท่องเที่ยวเดินบนถนนกลางคืนที่เมืองพัทยา

Google has crawled on my blogs recently.
กูเกิ้ล แฮส คลอวส์ ออน มาย บล็อค รีเซ็นลี
กูเกิ้ลคลานเข้าเวปบล็อกของฉัน (เป็นการทำงานของ Search Engine Robot)

Her website has indexed increasingly.
เฮอร์ เวปไซท์ แฮส อินเด็กซ์ อินครีสซิงค์ลี่
เวปของเธอมีการเยี่ยมชมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ช่วงเฉลย “EZY Answer!”

 a. 

 b. 

 c. 

เช็ค 

เช็ค

ลิ้งค์แนะนำ คลิก 

👉

 : 

ลิ้งค์แนะนำ คลิก 

👉

 : 

ผมหวังเป็นอย่างที่สุดว่าสิ่งที่เราค้นหา เลือกสรรค์ และนำมาเขียนเพื่อ share ให้กับท่านในวันนี้ จะมีประโยชน์ต่อธุรกิจ การงาน หรือว่าต่อตัวท่านเองเป็นอย่างสูงนะครับ

Thanks for reading.

Posted by:

I’ve known, then I’ve grown.

See more articles:

ประธานประโยค you, we, they, I หรือพหูพจน์ ใช้กริยา have ตามหลังประธานแต่ถ้าประธานประโยคคือ he, she, it หรือเอกพจน์ ใช้กริยา has ตามหลังประธานa. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนถึงปัจจุบันขณะพูด (Actions that happened at an unspecified time before the present time.)b. ใช้แทนกริยาบางตัวเช่น “to be”,”to have”,”to know” ในประโยคของ Present Perfect Continuous Tense (To use for the verb “to be”,”to have”,”to know” instead of the Present Perfect Continuous Tense form.)c. ใช้กับเหตุการณ์ที่เพิ่งกระทำแล้วเสร็จ (Actions that ended recently.)d. ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดในอดีตและกำลังดำเนินต่อไปโดยไม่เจาะจงเวลาสิ้นสุด ซึ่งจะใช้กับการพูดเสียส่วนใหญ่ (States that started in the past, and are still going on without specific ending timeline. It is usually used with states, not actions.)I have been to Beijing.ไอ แฮฟว์ บีน ทู เปคกิงฉันเคยไปปักกิ่งI have read all Harry Potter books.ไอ แฮฟว์ รีด ออล์ แฮร์รี พ็อตเตอร์ บุคส์ผมอ่านหนังสือแฮรี พ็อตเตอร์ทุกเล่มI have finished booking a hotel online.ไอ แฮฟว์ ฟินนิช บุคกิ่ง อะ โฮเท็ล ออนไลน์ฉันจองห้องพักผ่านเน็ตเรียบร้อยแล้วYou have learned to speak French.ยู แฮฟว์ เลิร์น ทู สปีค เฟรน์ชท่านเคยเรียนพูดภาษาฝรั่งเศสYou have talked with my daddy.ยู แฮฟว์ ทอล์ค วิท มาย แดดดี้ท่านคุยกับพ่อของฉันWe have become very successful.วี แฮฟว์ บีคัม เวรี่ ซัคเซสฟูลพวกเราได้รับความสำเร็จอย่างมากWe have signed a franchise contact with the Water Management Company.วี แฮฟว์ ไซน์ อะ แฟนไชส์ คอนแทค วิท เดอะ วอเตอร์ แมเนจเม็นท์ คัมพานีพวกเราเซ็นต์สัญญาแฟนไชส์กับบริษัทบริหารจัดการน้ำThey have never gone there before.เดย์ แฮฟว์ เนเวอร์ กอน แดร์ บีฟอร์พวกเขาไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนThey have already watched Pi Mak Phrakhanong film for several times.เดย์ แฮฟว์ ออลเลดี ว็อท์ช พี่ มาก พระโขนง ฟิล์ม ฟอร์ เซฟเวอร์รัล ไทมส์พวกเขาดูพี่มากพระโขนงสองสามรอบHe has changed so much!!!ฮี แฮส เช้ง โซ มัชเขาเปลี่ยนไปมากHe has played the hunger game.ฮี แฮส เพลย์ เดอะ ฮังเกอร์ เกมส์เขาเล่นฮังเกอร์ เกมส์She has moved one bit.ชี แฮส มูฟว์ วัน บิทหล่อนย้ายไปเล็กน้อยShe has run an internet café.ชี แฮส รัน แอน อินเตอร์เนท คาเฟ่หล่อนเปิดร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่It has found the body.อิท แฮส เฟาน์ด เดอะ บอดี้มันได้พบร่าง(ศพ)แล้วThe police has found a big bag of money.เดอะ โปลิส แฮส เฟาน์ด อะ บิก แบก ออฟ มันนีตำรวจเจอเงินถุงใหญ่I have seen a historic Ayutthaya capital city of Thailand many times.ไอ แฮฟส์ ซีน อะ ฮิสโทริค อยุธยา แคปปิตัล ซิตี ออฟ ไทยแลนด์ แมนี่ ไทม์ฉันเห็นเมืองประวัติศาสตร์อยุธยาหลายครั้งแล้วYou have met him before. He is Michael.ยู แฮฟว์ เม็ท ฮิม บีฟอร์ ฮี อิส ไมเคิลท่านเคยพบเขามาก่อนแน่ๆ นี่ไมเคิลไงThey have cleaned the dirty car in the past week.เดย์ แฮฟว์ คลีน เดอะ เดอร์ตี้ คาร์ อิน เดอะ พาสต์ วีคเขาทั้งหลายทำความสะอาดรถคันที่เลอะเทอะนั่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วThey have played timeline many hours.เดย์ แฮฟว์ เพลย์ ไทม์ไลน์ แมนี่ เอาเออร์พวกเขาเล่นไทม์ไลน์เป็นเวลานานๆHe has never been here, Thailand.ฮี แฮส เนเวอร์ บีน เฮีย ไทยแลนด์เขาไม่เคยมาที่เมืองไทยมาก่อนShe has found her boyfriend in Facebook.ชี แฮส เฟาน์ด เฮอร์ บอยเฟร็นด์ อิน เฟสบุ๊คหล่อนพบแฟนในเฟสบุ๊คShe has studied an English conversation lesson.ชี แฮส สดัดดี้ แอน อิงลิช คอนเวอร์เซชั่น เลสซั่นหล่อนได้เข้าเรียนสนทนาภาษาอังกฤษIt has already drunk warm water.อิส แฮส ออลเรดี้ ดรั้ง วอร์ม วอเตอร์มันได้ดื่มน้ำอุ่นเป็นที่เรียบร้อยแล้วYou have gone to school so far.ยู แฮฟว์ กอน ทู สคูล โซฟาคุณเข้าโรงเรียนกระทั่งวันนี้They have recently started a part time job.เดย์ แฮฟว์ รีเซ็นลี สตาร์ท อะ พาร์ท ไทม์ จ็อบพวกเขาเริ่มทำงานอดิเรกShe has never told a lie.ชี แฮส เนเวอร์ โทลด์ อะ ไลเธอไม่เคยกล่าวเท็จShe has already written 13 books.ชี แฮส ออลเรดี้ ริตเท็น เตอร์ทีน บุ๊คหล่อนเขียนหนังสือได้ 13 เล่มIt has rained heavily recently.อิท แฮส เรนด์ เฮฟวิลี่ รีเซ็นลี่(ฝน) ตกหนักมากเมื่อเร็วๆนี้I have just bought a new cell phone from Amazon store.ไอ แฮฟว์ จัส บอท อะ นิว เซล โฟน ฟอร์ม อเมซอน สโตร์ฉันเพิ่งซื้อมือถือเครื่องใหม่จากอเมซอนเวปไซท์You have just sold the last condominium.ยู แฮฟว์ จัส โซลด์ เดอะ ลาสต์ คอนโดมิเนียมคุณเพิ่งขายห้องคอนโดมิเนียมHe has just left for home.ฮี แฮส จัส เล็ฟท์ ฟอร์ โฮมเขาเพิ่งเดินทางกลับบ้านShe has just done her driving test.ชี แฮส จัส ดัน เฮอร์ ไดรวิ่ง เทสต์หล่อนทดสอบขับรถเพิ่งเสร็จSue has just broken the mirror.ชี แฮส จัส โบรคเก็น เดอะ เมอร์เรอร์เธอทำกระจกแตกThe airplanes just have arrived at Suvannaphumi airport.เดอะ แอร์เพลน จัส แฮฟส์ แอไรฟว์ แอท สุวรรณภูม์ แอร์พอร์ทบรรดาเครื่องบินเพิ่งจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิOur football team has already won. Let’s go to celebrate.เอาเออร์ ฟุตบอล ทีม แฮส ออล์เรดี้ วอน เล็ทส์ โก ทู ซีลีเบร็ททีมฟุตบอลเราชนะแล้ว ฉลองกันหน่อยPolice has just found out about the murder.โปลิส แฮส จัส เฟาน์ด เอ๊า อะเบ้า เดอะ เมอร์เดอร์ตำรวจเพิ่งพบตัวฆาตกรThe Scientific Crime Detection Division has just finished the Crime Scene Investigation.เดอะ ไซน์ติฟิค ไคร์ม ดีเท็คชั่น ดิวิชั่น แฮส จัส ฟินนิช เดอะ ไคร์ม ซีน อินเวสติเกชั่นกองพิสูจน์หลักฐานเพิ่งตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุแล้วเสร็จHis relative just found something mystery.ฮิส รีเลทีฟ จัส เฟาน์ด ซัมซิ่ง มิสเทอรีญาติของเขาเพิ่งพบความลี้ลับบางอย่างMy wife has made a special dinner just for them.มาย ไวฟ์ แฮส เมด อะ สเปเชียล ดินเนอร์ จัส ฟอร์ ฮิมภรรยาผมทำอาหารมื้อเย็นเพื่อพวกเขาโดยเฉพาะJim has just finished his homework.จิม แฮส จัส ฟินนิส ฮิส โฮมเวอร์จิมเพิ่งทำการบ้านเสร็จI have been sick for a week.ไอ แฮฟว์ บีน ซิค ฟอร์ อะ วีคฉันป่วยเป็นสัปดาห์เลยYou have done about this task for three months.ยู แฮฟว์ ดัน อะเบ้า ดิส ทาสค์ ฟอร์ ทรี มันส์ท่านทำภาระกิจเป็นเวลา 3 เดือนWe have thought about it for several years.วี แฮฟว์ ต้อต อะเบ้า อิท ฟอร์ เซเวอรัล เยียร์พวกเราคิดอยู่เป็นเวลาสองสามปีThey have always loved fishing.เดย์ แฮฟว์ ออลเวย์ส ลัฟ ฟิสชิ่งพวกเขาชอบการตกปลาHe has had a fighting cock.ฮี แฮส แฮด อะ ไฟท์ติ้ง ค็อคเขามีไก่ชนตัวหนึ่งShe has lived in Paris since 2010.ชี แฮส ลีฟ อิน ปารีส ซิ้น ทูเท้าซั่นแอน์เท็นหล่อนอยู่ในกรุงปารีสตั้งแต่ปี 2010John has played guitar since he was very young.จอห์น แฮส แพลย์ กีตาร์ ซิ้น ฮี วอส เวรี่ ยังจอห์นเล่นกีต้าร์เป็นตั้งแต่ยังเล็กๆJim has stumbled on the mid of thick forest.จิม แฮส สตัมเบิ้ล ออน เดอะ มิด ออฟ ทริค ฟอร์เรสต์จิมเดินโซเซอยู่กลางป่าทึบTravelers have walked on the night walking street Pattaya city.เทรเวอเลอร์ แฮฟว์ วอล์ค ออน เดอะ ไนท์ วอล์คกิ่ง สทรีต พัทยา ซิตี้นักท่องเที่ยวเดินบนถนนกลางคืนที่เมืองพัทยาGoogle has crawled on my blogs recently.กูเกิ้ล แฮส คลอวส์ ออน มาย บล็อค รีเซ็นลีกูเกิ้ลคลานเข้าเวปบล็อกของฉัน (เป็นการทำงานของ Search Engine Robot)Her website has indexed increasingly.เฮอร์ เวปไซท์ แฮส อินเด็กซ์ อินครีสซิงค์ลี่เวปของเธอมีการเยี่ยมชมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆลิ้งค์แนะนำ คลิกลิ้งค์แนะนำ คลิกผมหวังเป็นอย่างที่สุดว่าสิ่งที่เราค้นหา เลือกสรรค์ และนำมาเขียนเพื่อ share ให้กับท่านในวันนี้ จะมีประโยชน์ต่อธุรกิจ การงาน หรือว่าต่อตัวท่านเองเป็นอย่างสูงนะครับThanks for reading.See more articles:


Present Perfect or Past Perfect?


http://www.engvid.com \”I have eaten.\” \”I had eaten.\” What’s the difference, and when do use each form? In this important grammar lesson, learn how to distinguish between past perfect and present perfect. You’ll learn the correct form of each tense, and when each should be used. Then take the quiz at http://www.engvid.com/presentperfectorpastperfect/ .

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

Present Perfect or Past Perfect?

หลักการใช้ Past Perfect Tense ง่ายสุดๆ


ขอบคุณมากค่ะที่ติดตามครูมา สนใจเรียนรู้ภาษาอังกฤษฟรีเพิ่มเติมกับครูพิมได้ทาง:
🍇Instagram : ค้นหาคำว่า pim_pimolwan :เรียนรู้ประโยคสำเร็จรูปจากวิดีโอและรูปภาพ ที่ใช้บ่อยและนำไปใช้พูดได้ทันที พร้อมฝึกออกเสียง ครูพิมเขียนคำอ่านให้ด้วยค่ะ เพื่อง่ายต่อการออกเสียง
🍊Twitter: ค้นหาคำว่า \”ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับครูพิม\” :เรียนรู้ประโยคสำเร็จรูปจากรูปภาพ ที่ใช้บ่อยและนำไปใช้พูดได้ทันที
🍄 Youtube:ช่อง \”ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับครูพิม\” : วิดีโอการสอนที่ละเอียด เน้นให้ผู้เรียนเข้าใจง่ายสุดๆ พร้อมมีคำอ่านและภาพประกอบค่ะ
🌽Facebook: ชื่อว่า \”LearningTree\” : ชมการสอนถ่ายทอดสดกับครูพิมฟรีพร้อมรับข่าวสารและโปรโมชั่นส่วนลดคอร์สเรียน
🍎Line: แอ้ดมาได้ที่เบอร์ 0954855364 : สอบถามรายละเอียดคอร์สเรียนและโปรโมชั่นส่วนลดคอร์สเรียน

หลักการใช้ Past Perfect Tense ง่ายสุดๆ

วิชาภาษาอังกฤษ ชั้น ม.3 เรื่อง การใช้ Present perfect


สำหรับนักเรียนชั้น ป.5 ม.6 ทุกคนที่ต้องการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และคณิตศาสตร์
นักเรียนสามารถทำแบบฝึกหัด และทำแบบทดสอบได้จาก เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันของเรา
Web: https://nockacademy.com/learn/
iOS: https://apple.co/2SKdksn
Android: http://bit.ly/2REzb7w
●สำหรับผู้ปกครองท่านใดที่สนใจ●
http://nockacademy.com
●สำหรับโรงเรียนใดที่สนใจ●
https://nockacademy.com/forschool/

วิชาภาษาอังกฤษ ชั้น ม.3 เรื่อง การใช้ Present perfect

การใช้ Since และ For ใช้ต่างกันอย่างไร เข้าใจง่าย | เรียนภาษาอังกฤษ


Since และ For ใช้ต่างกันอย่างไร ใช้ต่างกันอย่างไร
หลักการใช้ since for
since และ for ใช้กับ present perfect tense และ จะเจอใน Perfect Tense อื่นๆด้วย
ความหมายของ since และ for
since อ่านว่า ซิ๊นส์ แปลว่า ตั้งแต่
for อ่านว่า ฟอ แปลว่า เป็นระยะเวลา , เป็นเวลา

การใช้  Since และ For ใช้ต่างกันอย่างไร เข้าใจง่าย | เรียนภาษาอังกฤษ

วิชาภาษาอังกฤษ ชั้น ม.3 เรื่อง การใช้ Present perfect + การใช้ ever


สำหรับนักเรียนชั้น ป.5 ม.6 ทุกคนที่ต้องการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และคณิตศาสตร์
นักเรียนสามารถทำแบบฝึกหัด และทำแบบทดสอบได้จาก เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันของเรา
Web: https://nockacademy.com/learn/
iOS: https://apple.co/2SKdksn
Android: http://bit.ly/2REzb7w
●สำหรับผู้ปกครองท่านใดที่สนใจ●
http://nockacademy.com
●สำหรับโรงเรียนใดที่สนใจ●
https://nockacademy.com/forschool/

วิชาภาษาอังกฤษ ชั้น ม.3 เรื่อง การใช้ Present perfect + การใช้ ever

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่MAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ present perfect หลักการใช้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *