การ อ่าน จํา น วน ภาษา อังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
เพื่อน ๆ คงเคยมีปัญหาเวลาที่เราพูดภาษาอังกฤษแล้วฝรั่งฟังไม่รู้เรื่อง ไม่ใช่เพราะว่าเราพูดไม่ถูกนะคะ อาจจะเป็นเพราะเราออกเสียงไม่ถูกต้อง ทำให้ชาวต่างประเทศงง วันนี้เราจึงขอเสนอเทคนิคการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ เพื่อเป็นแนวทางเบื้องต้นในพูดภาษาอังกฤษอย่างชัดเจนถูกต้องกันค่ะ
Table of Contents
การอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ
1. การออกเสียง ภาษาอังกฤษไม่มีวรรณยุกต์บังคับเสียงเหมือนภาษาไทย แต่มีลักษณะการออกเสียงเฉพาะ เมื่อเป็นคำ กลุ่มคำ และประโยค ตามปกติเมื่ออยู่เป็นคำโดดหรือพยางค์เดียว มักจะออกเสียงสูงเทียบกับเสียงตรีในภาษาไทย เช่นคำต่อไปนี้
name เน้ม ชื่อ
have แฮ้ฟว์ มี
my ม้าย ของฉัน
car ค้าร์ รถยนต์
book บุ๊ค หนังสือ
come คั้ม มา
your ยั้วร์ ของคุณ
pen เพ้น ปากกา
desk เด๊ซต์ โต๊ะทำงาน
go โก๊ ไป
2. การเน้นเสียงหนักในคำ คำที่มีมากกว่าหนึ่งพยางค์ จะต้องมีการเน้นเสียงหนักในคำ โดยเน้นพยางค์หนึ่งมากกว่าอีกพยางค์หนึ่งหรือ พยางค์อื่นๆ ตามปกติในคำหนึ่งจะมีเน้นหนักที่เดียวเท่านั้น ถ้าเป็นคำ นามสองพยางค์ ส่วนใหญ่จะเน้นพยางค์หน้า แต่ไม่แน่เสมอไป ฉะนั้นถ้าจะพูดอังกฤษให้เก่ง รู้คำศัพท์อย่างเดียวยังไม่พออีก จะต้องเน้นเสียงในคำให้ถูกต้อง โดยการดูวิธีอ่านในพจนานุกรมทั่วไป เช่นในคำต่อไปนี้
Robert ร้อบเบิร์ท โรเบิร์ต
Peter พี้ทเทอร์ ปีเตอร์
Bangkok แบ๊งขอค กรุงเทพฯ
Phuket พู้เขท ภูเก็ต
Monday มั้นเดย์ วันจันทร์
April เอ๊พริล เมษายน
3. การเน้นเสียงหนักเบาในประโยค เมื่อคำมารวมกันเป็น
กลุ่มคำในประโยค จะมีการเน้นเสียงหนักและเบาต่างกัน ทุกคำจะไม่อ่าน
เสียงหนักเบาเท่ากัน มีหลักจำง่ายๆ ว่าตามปกติจะเน้นคำนาม กริยา
คุณศัพท์ และวิเศษณ์ ส่วนคำอื่น เช่น สรรพนาม บุรพบท สันธาน
คำนำหน้านาม และกริยาช่วย จะไม่เน้น หรืออ่านเพียงครึ่งเสียง ซึ่ง
เทียบได้กับ เสียงกลาง หรือ เสียงเอก เท่านั้น นอกจากเพื่อต้องการ
เน้นหรืออุทาน เสียงจึงจะเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่น นอกจากนี้ยังมีการรวบ
คำ ถ้าคำหน้าลงท้ายด้วยพยัญชนะและคำถัดไปขึ้นต้นด้วยสระ ดังต่อไปนี้
a book อะ บุ๊ค
a teacher อะ ที้ชเชอร์
the pen เดอะ เพ้น
the student เดอะ สติ๊วเดนท์
an orange
แอน-อ๊อเรนจ์
ส้มหนึ่งผล
the elephant
ดิ เอ๊ลเลฟแฟนท์
ช้าง
pen and pencil
เพ้น-แอ่นด์ เพ้นซิล
ปากกากับดินสอ
pencil or pen
เพ้นซิล-ออร์ เพ้น
ดินสอหรือปากกา
chair or table
แช้ร์-ออร์ เท้เบิล
เก้าอี้หรือโต๊ะ
a glass of water
อะ กล๊าส-ออฟ ว้อเทอร์
น้ำหนึ่ง แก้ว
two glasses of milk
ทุ กล๊าสเซซ-ออฟ มิ้ลค์
นมสองแก้ว
with a friend
วิธ-อะ เฟ้รนด์
กับเพื่อนคนหนึ่ง
in the room
อิน เดอะ รู้ม
ในห้อง
of Bangkok
ออฟ แบ๊งขอค
แห่งกรุงเทพฯ ของกรุงเทพฯ
You can speak English.
ยู แคน สปี๊ค-อิ๊งลิช
คุณพูดอังกฤษได้
How do you spell it?
ฮ้าว ดุ หยุ สเป๊ล-อิท?
คุณสะกดมันอย่างไร?
Who’s standing there?
ฮู้ซ์ สแต๊นดิง แด๊ร์?
ใครกำลังยื่นอยู่ที่นั่น?
Can you see him?
แคน ยู ซี้ หิม?
คุณเห็นเขาไหม?
He stays with a friend.
ฮี สเต๊ย์ วิธ-อะ เฟร้นด์
เขาพักอยู่กับเพื่อน
Do you want a cup of tea?
ดุ หยุ ว้อนท์ อะ คั้พ อ่อฟ ถี?
คุณต้องการชาสักถ้วยไหม?
No, I don’t want it.
โน้, ไอ โด๊นท์ ว้อนท์-อิท
ไม่ ผมไม่ชอบมัน
But I want a cup of coffee.
บัท ไอ ว้อนท์ อะ คั้พ อ่อฟ ค้อฟฟี
แต่ผมต้องการกาแฟหนึ่งถ้วย
หมายเหตุ : พยัญชนะทุกตัวในภาษาอังกฤษต้องออกเสียง ไม่ว่าอยู่ต้น หรือท้ายคำ แม้เมื่อเขียนเป็นคำภาษาไทย และใส่เครื่องหมายการันต์ไว้ แล้วก็ต้องออกเสียงตัวนั้นด้วย โปรดสังเกตและอ่านคำต่อไปนี้
but บั๊ท แต่
bus บั๊ซ รถประจำทาง
bud บั๊ด ดอกตูม
rote โร้ท ท่องจำ
rose โร้ซ กุหลาบ
road โร้ด ถนน
รถ (อ่าน รด )
รส (อ่าน รด )
รด (อ่าน รด )
จะเห็นว่าภาษาไทยอ่านเหมือนกันหมด ไม่ว่า ถ ด หรือ ส เป็น ตัวสะกด
EXERCISES (แบบฝึกหัด)
1. จงอ่านตัวอักษรต่อไปนี้
a b c d
เอ๊ บี๊ ซี้ ดี๊
e f g h
อี๊ เอ๊ฟ จี๊ เอ๊ช
I j k l
ไอ๊ เจ๊ เค้ แอ๊ล
m n o p
เอ๊ม เอ๊น โอ๊ พี้
q r s t
คิ้ว อ๊าร์ เอ๊ซ ที้
u v w x
ยู้ ฟ์วี้ ดั๊บเบิลยู เอ๊กซ์
y z
ว้าย แซ้ด
2. จงอ่านจำนวนเลขต่อไปนี้
one วั้น 1
two ทู้ 2
three ธรี้ 3
four โฟ้ร์ 4
five ไฟ้ฟ้ 5
six ซิ้กซ์ 6
seven เซ้ฟเวน 7
eight เอ๊ท 8
nine ไน้น์ 9
ten เท้น 10
eleven อิเล้ฟเวน 11
twelve ทเว้ลฟ์ว์ 12
thirteen เธ้อร์ทีน 13
fourteen โฟ้ร์ทีน 14
fifteen ฟิ้ฟทีน 15
sixteen ซิ้กซ์ทีน 16
seventeen เซ้ฟเวนทีน 17
eighteen เอ๊ททีน 18
nineteen ไน้น์ทีน 19
twenty ทเว้นที 20
forty ฟ้อร์ที 40
fifty ฟิ้ฟที 50
sixty ซิ้กที 60
seventy เซ้ฟเวนที 70
eighty เอ๊ทที 80
ninety ไน้น์ที 90
hundred ฮั้นด์เรด 100
one hundred วั้น ฮั้นด์เรด 100
two hundred ทู้ ฮั้นด์เรด 200
three hundred ธรี้ ฮั้นด์เรด 300
four hundred โฟ้ร์ ฮั้นด์เรด 400
five hundred ไฟ้ฟ์ ฮั้นด์เรด 500
3. อ่านเลขบ้านต่อไปนี้
135 วั้นธรี้ไฟ้ฟ์
313 ธรี้วั้นธรี้
422 โฟ้ร์ทู้ทู
16 ซิ้กซ์ทีน
24 ทเว้นทีโฟร์
35/2 เธ้อร์ทีไฟฟ์ว์ ซแล้ช ทู้
239/14 ทู้ธรี้ไน้น์ ซแล้ช โฟ้ร์ทีน
4. อ่านบ้านเลขที่เเละถนนต่อไปนี้
34 Sukhumvit Road
เธ้อร์ทีโฟร์ ซู้คุมวิท โร้ด
เลขที่ 34 ถนนสุขุมวิท
63 Phyathai Road
ซิ้กทีธรี พย้าไท โร้ด
เลขที่ 63 ถนนพญาไท
34/2 Ladprao Road
เธ้อร์ทีโฟ้ร์ ซแล้ช ทู้ ล้าดพราว โร้ด
เลขที่ 34/2 ถนนลาดพร้าว
352/1 Ratchavithi Road
ธรีไฟ้ฟ์ทู ซแล้ช วั้น ร้าชชะวิที โร้ด
เลขที่ 352/1 ถนนราชวิถี
78/5 Ratchadamnoen Avenue
เซ้ฟเวนทีเอ๊ท ซแล้ช ไฟ้ฟ์ ร้าชชะดำเนิน แอ๊ฟเวนนิว
เลขที่ 78/5 ถนนราชดำเนิน
5. จงอ่านชื่อเฉพาะต่อไปนี้
Peter พี้ทเทอร์ ปีเตอร์
Robert ร้อบเบร์ท โรเบิร์ต
Edward เอ๊ดเวิร์ด เอ็ดเวิร์ด
Henry เฮ้นรี เฮนรี่
Mary แม้รี แมรี่
Judy จู๊ดี จูดี้
Elizabeth อิลิ้ซซาเบธ เอลิซาเบธ
Michael ไม้เคิล ไมเคิล
Johnson จ๊อนซัน จอห์นสัน
Macmillan แมกมิ้ลแลน แมกมิลแลน
Darunee ด๊ารุนี ดรุณี
Somsak ซ้มสัก สมศักดิ์
Sunthom ซุ้นทอน สุนทร
Preecha พรี้ชา ปรีชา
Patana พั้ททะนา พัฒนา
Sumalee ซู้มาลี สุมาลี
Kohtbantau โค้ทบันเทา โคตรบรรเทา
Siripom ซี้ริพอน ศิริพร
6. จงอ่านชื่อถนนต่อไปนี้
Sukhumvit ซู้คุมวิท สุขุมวิท
Phyathai พย้าไท พญาไท
Phetchaburi เพ้ชชะบุรี เพชรบุรี
Sukhothai ซู้โคทัย ถนนสุโขทัย
Ladprao ล้าดพราว ลาดพร้าว
Ploenchit เพลิ้นชิท เพลินจิต
Ekamai เอ๊กคะไม เอกมัย
Ramkhamhaeng ร้ามคำแฮง รามคำแหง
Ratchada รั้ชชะดา รัชดา
Ratchavithi ร้าชชะวิที ราชวิถี
7. จงอ่านชื่อ วัน เดือน ปี ต่อไปนี้
Sunday ซันเดย์ วันอาทิตย์
Monday มั้นเดย์ วันจันทร์
Tuesday ทิ้วซ์เดย์ วันอังคาร
Wednesday เว้นซ์เดย์ วันพุธ
Thursday เธิ้ร์ซเดย์ วันพฤหัสบดี
Friday ไฟร้เดย์ วันศุกร์
Saturday แซ้ทเทอร์เดย์ วันเสาร์
January แจ๊นหยุเอรี มกราคม
February เฟ้บบรุเอรี กุมภาพันธ์
March ม้าร์ช มีนาคม
April เอ๊พริล เมษายน
May เม้ย์ พฤษภาคม
June จู๊น มิถุนายน
July จูลล้าย กรกฎาคม
August อ๊อกัซท์ สิงหาคม
September เสพเท้มเบอร์ กันยายน
October ออคโท้เบอร์ ตุลาคม
November โนฟ์เว้มเบอร์ พฤศจิกายน
December ดีเซ้มเบอร์ ธันวาคม
1988 ไน้น์ทีน-เอ๊ททีเอ๊ท
1987 ไน้น์ทีน-เอ๊ททีเซ้ฟเวน
1901 ไน้นทีน-โอวั้น
1932 ไน้นทีน-เธ้อร์ทีทู้
1955 ไน้น์ทีน-ฟิ้ฟทีไฟ้ฟ์
1900 ไน้น์ทีนฮั้นด์เรด
2000 ทู้เธาด์ซันด์
1600 ซิกซ์ทีนฮั้นด์เรด
1960 ไน้น์ทีน-ซิ้กซ์ที
2001 ทู้เธาด์ซันด์ แอ่นด์ วั้น
8. จงอ่านชื่อจังหวัดต่อไปนี้
Bangkok แบ๊งขอค กรุงเทพฯ
Chiang Mai เชี้ยงไม เชียงใหม่
Phuket พู้เขท ภูเก็ต
Surat Tham ซู้ราท ธ้านี สุราษฎร์ธานี
Phitsanulok พี้ทซานุลค พิษณุโลก
Udon Thani อู๊ดอน ธ้านี อุดรธานี
Ubon Ratchathani
อู๊บนร้าชชะธ้านี อุบลราชธานี
Hat Yai ฮ้าทไย หาดใหญ่
Buriram บุ๊รีรัม บุรีรัมย์
Rayong ร้ายอง ระยอง
Kanchanaburi ค้านชะนะบุรี กาญจนบุรี
Narathiwat นร้าธิวาท นราธิวาส
9. ฝึกพูดบทสนทนาต่อไปนี้
1. A: What’s your name?
ว้อทส์ ยัวร์ เน้ม?
คุณชื่ออะไร?
B: It’s Wirat.
อิทส์ วิรัท
ชื่อวิรัช
A: How do you spell it?
ฮ้าว ดุ หยุ สเป๊ล-อิท?
คุณสะกดมันอย่างไร?
B: It’s W-i r-a-t.
อิทส์ ดั๊บเบิลยู-ไอ๋ อาร์-เอ๊-ที
สะกดว่า…
A: What’s your last name?
ว้อทส์ ยัวร์ ล้าซท์ เน้ม?
นามสกุลของคุณว่าอย่างไร?
B: It’s Siriwan.
อิทส์ ซี้ริวัน
ศิริวรรณ
A: How do you spell it?
ฮ้าว ดุ หยุ สเป๊ล-อิท?
คุณสะกดมันว่าอย่างไร?
B: It’s S-i r-i w-a-n.
อิทส์ เอซ-ไอ๋ อาร์-ไอ๋ ดั๊บเบิลยู-เอ๊-เอ็น
สะกดว่า…
2. A: What’s your address?
ว้อทส์ ยัวร์ แอ๊ดเดรส?
ที่อยู่ของคุณคืออะไร?
B: It’s 942 Ladprao Road.
อิทส์ ไน้น์ โฟ้ร์ ทู้ ล้าดพราว โร้ด
คือเลขที่ 942 ถนนลาดพร้าว
A: How do you spell it?
ฮ้าว ดุ หยุ สเป๊ล-อิท?
คุณสะกดว่าอย่างไร?
B: It’s L-a-d p-r-a-o.
อิทส์ แอล-เอ-ดี๋ พี้-อาร์-เอ๊-โอ
สะกดว่า…
A: What’s your zip code?
ว้อทส์ ยัวร์ ซิพ โค้ด?
รหัสไปรษณีย์ของคุณเท่าไร?
B: It’s 10230.
อิทส์ วั้นโอ ทู้ธรี้โอ
คือ 10230
3. A: Where do you come from?
แว้ร์ ดุ หยุ คั้ม ฟรัม?
คุณมาจากไหน?
B: I come from Kanchanaburi.
ไอ คั้ม ฟรัม ค้านชะนะบุรี
ผมมาจากกาญจนบุรี
A: How do you spell the name of your province?
ฮ้าว ดุ หยุ สเป๊ล เดอะ เน้ม อ่อฟ ยัวร์ พร้อฟวินซ์?
คุณสะกดชื่อจังหวัดของคุณว่าอย่างไร?
B: It’s K-a-n c-h-a n-a b-u r-i.
อิทส์ เค้เอเอ๋น ซี้เอชเอ๋ เอ๊นเอ๋ บีหยู อ๊ารไอ
สะกดว่า…
A: When were you born?
เว้น เวอร์ หยุ บ๊อร์น?
คุณเกิดเมื่อไร?
B: In 1955.
สิน ไน้น์ทีน ฟิ๊ฟทีไฟ้ฟ์
เมื่อปี ค.ศ.1955
10. ฝึกอ่านประโยคต่อไปนี้โดยให้เสียงสูงต่ำที่ถูกต้อง
1. We can speak English.
วี แคน สปี๊ค-อิ๊งลิช
พวกเราพูดอังกฤษได้
2. She said that she would come tomorrow.
ชี เซ้ด แดท ชี วูล์ด คั้ม ทูม้อร์โรว์
เธอได้พูดว่าเธอจะมาพรุ่งนี้
3. I like both coffee and cake.
ไอ ไล้ค์ โบ๊ธ ค้อฟฟี แอ่นด์ เค้ค
ผมชอบทั้งกาแฟและเค้ก
4. Somsak is a movie star.
ซัมสัค อิซ-อะ มู้ฟวี สต๊าร์
สมศักดิ์เป็นดาราภาพยนตร์
5. The teacher and students go to the party.
เดอะ ที้ชเชอร์ แอ่นด์ สติ๊วเดนท์ส์ โก๊ ถุ เดอะ พ้าร์ที
ครูและนักเรียนไปงานเลี้ยง
6. He said he could come early next time.
ฮี เซ้ด ฮี คูล์ด คั้ม เอ๊อร์ลี เน้กซ ไท้ม์
เขาได้พูดว่าเขามาได้แต่เช้าคราวหน้า
7. This is the book you talked about yesterday.
ดิซ-อิซ เดอะ บุ๊ค หยุ ท้อล์คท์ อะเบ๊าท์ เย้ซเทอร์เดย
นี้เป็นหนังสือที่คุณพูดถึงเมื่อวาน
8. He’s a friend of mine.
ฮีซ์-อะ เฟร้นด์-ออฟ ไม้น์
เขาเป็นเพื่อนของผม
9. You can have tea or coffee.
ยู แคน แฮ้ฟว์ ที้ ออร์ ค้อฟฟี
คุณรับประทานชาหรือกาแฟก็ได้
10. Neither you nor she is happy about it.
ไน้เธอร์ ยู้ นอร์ ชี้ อิซ แฮ้พพี อะเบ๊าท์-อิท
ทั้งคุณและเขาผู้หญิงไม่มีความสุขเกี่ยวกับมัน
11. They’re sleeping.
เดย์เออร์ สลี้พพิง
เขากำลังนอนหลับ
12. We enjoyed the party very much.
วี เอนจ๊อยด์ เดอะ พ้าร์ที ฟ์เว้รี มั้ช
พวกเราสนุกกับงานเลี้ยงมาก
13. Her mother brought an umbrella.
เฮอร์ มั้ธเธอร์ บร๊อท-แอน อัมเบร๊ลลา
คุณแม่ของเธอได้นำร่มมา
14. We’ll come again on Wednesday.
วีล์ คั้ม อะเก็น อ่อน เว้นซ์เดย์
พวกเราจะมาอีกวันพุธ
15. There’re too many students in this small room.
แดร์เออร์ ทู้ แม้นนี สติ๊วเดนท์ส์ อิน ดิ๊ซ สม้อล รู้ม
มีนักศึกษามากเกินไปในห้องเล็กนี้
16. Where’s your house?
แว้ร์ส์ ยัวร์ เฮ้าซ์?
บ้านของคุณอยู่ไหน?
17. When did you arrive in Bangkok?
เว้น ดิด ยู อะร์ไรฟ้ว์ อิน แบ๊งขอค?
คุณมาถึงกรุงเทพฯ เมื่อไร?
18. How much did you pay for it?
ฮ้าว มั้ช ดิด หยุ เพ้ย์ ฟอร์-อิท?
คุณซื้อมันมาเท่าไร?
19. Why do you want to go there?
ว้าย ดุ หยุ ว้อนท์ ถุ โก๊ แด๊ร์?
ทำไมคุณต้องการไปที่นั่น?
20. What’s her address?
ว้อทส์ เฮอร์ แอ๊ดเดรส?
ที่อยู่ของเธอคืออะไร?
21. Does she walk to school?
ดาซ ชี ว้อล์ค ถุ สขูล?
เธอเดินไปโรงเรียนใช่ไหม?
22. Are they sleeping?
อาร์ เดย์ สลี้พพิง?
เขากำลังนอนหลับหรือ?
23. Is Malee a student in this university?
อิซ ม้าลี อะ สติ๊วเดนท์ อิน ดิซ ยูนิฟเวิ้ร์ซซิถี?
มาลีเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยนี้ใช่ไหม?
24. Is this car yours?
อิซ ดิซ ค้าร์ หยัวร์ซ์?
รถคันนี้เป็นของคุณใช่ไหม?
25. Does this coffee taste bitter?
ดาซ ดิซ ค้อฟฟี เท้สท์ บิทเถอร์?
กาแฟนี้มีรสขมไหม?
26. Does he look handsome?
ดาซ ฮี ลุ้ค แฮ้นด์สัม?
เขาดูหล่อไหม?
27. Did they buy a new house?
ดิด เดย์ บ๊าย อะ นิ้ว เหซ์?
เขาได้ซื้อบ้านใหม่หรือ?
28. Do they feel happy?
ดุ เดย์ ฟี้ล แฮ้พผี?
เขารู้สึกมีความสุขไหม?
29. Will there be a concert on Friday?
วิล แดร์ บี อะ ค้อนเซิร์ท-อ่อน ไฟร์เด๋ย์?
จะมีการเล่นดนตรีวันศุกร์ใช่ไหม?
30. Can you speak Thai?
แคน ยู สปี๊ค ไถ?คุณพูดไทยได้ไหม?
ที่มา:ดร.สุนทร โคตรบรรเทา
(Visited 6,800 times, 1 visits today)
[NEW] 1-100 ภาษาอังกฤษ พร้อมคำอ่านและแปล | การ อ่าน จํา น วน ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES
ตัวเลขมีบทบาทสำคัญมากในการดำรงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกิจ การคำนวน การบอกเวลา ฯลฯ ดังนั้นในวันนี้เพื่อเป็นการเรียนรู้เรื่องราวของตัวเลข เรามาเริ่มต้นกันที่ 1-100 ภาษาอังกฤษ กันดีกว่า
ตัวเลข 1-100 ในภาษาอังกฤษ
one อ่านว่า วัน แปลว่า หนึ่ง
two อ่านว่า ทู แปลว่า สอง
three อ่านว่า ธรี แปลว่า สาม
four อ่านว่า โฟร์ แปลว่า สี่
five อ่านว่า ไฟว์ แปลว่า ห้า
six อ่านว่า ซิกซฺ แปลว่า หก
seven อ่านว่า เซฟวฺ เวิน แปลว่า เจ็ด
eight อ่านว่า เอท แปลว่า แปด
nine อ่านว่า ไนน แปลว่า เก้า
ten อ่านว่า เท็น แปลว่า สิบ
eleven อ่านว่า อิเล็ฟเวิน แปลว่า สิบเอ็ด
twelve อ่านว่า ทเวลฟฺ แปลว่า สิบสอง
thirteen อ่านว่า เธอร์ทีน แปลว่า สิบสาม
fourteen อ่านว่า โฟร์ทีน แปลว่า สิบสี่
fifteen อ่านว่า ฟิฟทีน แปลว่า สิบห้า
sixteen อ่านว่า ซิคซฺทีน แปลว่า สิบหก
seventeen อ่านว่า เซฟวฺเวินทีน แปลว่า สิบเจ็ด
eighteen อ่านว่า เอททีน แปลว่า สิบแปด
nineteen อ่านว่า ไนนทีน แปลว่า สิบเก้า
twenty อ่านว่า ทเวนที แปลว่า ยี่สิบ
twenty-one อ่านว่า ทเวนที วัน แปลว่า ยี่สิบเอ็ด
twenty-two อ่านว่า ทเวนที ทู แปลว่า ยี่สิบสอง
twenty-three อ่านว่า ทเวนที ธรี แปลว่า ยี่สิบสาม
twenty-four อ่านว่า ทเวนที โฟร์ แปลว่า ยี่สิบสี่
twenty-five อ่านว่า ทเวนที ไฟว แปลว่า ยี่สิบห้า
twenty-six อ่านว่า ทเวนที ซิคซฺ แปลว่า ยี่สิบหก
twenty-seven อ่านว่า ทเวนที เซฟวฺเวิน แปลว่า ยี่สิบเจ็ด
twenty-eight อ่านว่า ทเวนที เอท แปลว่า ยี่สิบแปด
twenty-nine อ่านว่า ทเวนที ไนน แปลว่า ยี่สิบเก้า
thirty อ่านว่า เธอร์ที แปลว่า สามสิบ
thirty-one อ่านว่า เธอร์ที วัน แปลว่า สามสิบเอ็ด
thirty-two อ่านว่า เธอร์ที ทู แปลว่า สามสิบสอง
thirty-three อ่านว่า เธอร์ที ธรี แปลว่า สามสิบสาม
thirty-four อ่านว่า เธอร์ที โฟร์ แปลว่า สามสิบสี่
thirty-five อ่านว่า เธอร์ที ไฟว แปลว่า สามสิบห้า
thirty-six อ่านว่า เธอร์ที ซิคซฺ แปลว่า สามสิบหก
thirty-seven อ่านว่า เธอร์ที เซฟวฺเวิน แปลว่า สามสิบเจ็ด
thirty-eight อ่านว่า เธอร์ที เอท แปลว่า สามสิบแปด
thirty-nine อ่านว่า เธอร์ที ไนน แปลว่า สามสิบเก้า
forty อ่านว่า โฟว์ที แปลว่า สี่สิบ
forty-one อ่านว่า โฟว์ที วัน แปลว่า สี่สิบเอ็ด
forty-two อ่านว่า โฟว์ที ทู แปลว่า สี่สิบสอง
forty-three อ่านว่า โฟว์ที ธรี แปลว่า สี่สิบสาม
forty-four อ่านว่า โฟว์ที โฟร์ แปลว่า สี่สิบสี่
forty-five อ่านว่า โฟว์ที ไฟว แปลว่า สี่สิบห้า
forty-six อ่านว่า โฟว์ที ซิคซฺ แปลว่า สี่สิบหก
forty-seven อ่านว่า โฟว์ที เซฟวฺเวิน แปลว่า สี่สิบเจ็ด
forty-eight อ่านว่า โฟว์ที เอท แปลว่า สี่สิบแปด
forty-nine อ่านว่า โฟว์ที ไนน แปลว่า สี่สิบเก้า
fifty อ่านว่า ฟิฟที แปลว่า ห้าสิบ
fifty-one อ่านว่า ฟิฟที วัน แปลว่า ห้าสิบเอ็ด
fifty-two อ่านว่า ฟิฟที ทู แปลว่า ห้าสิบสอง
fifty-three อ่านว่า ฟิฟที ธรี แปลว่า ห้าสิบสาม
fifty-four อ่านว่า ฟิฟที โฟร์ แปลว่า ห้าสิบสี่
fifty-five อ่านว่า ฟิฟที ไฟว แปลว่า ห้าสิบห้า
fifty-six อ่านว่า ฟิฟที ซิคซฺ แปลว่า ห้าสิบหก
fifty-seven อ่านว่า ฟิฟที เซฟวฺเวิน แปลว่า ห้าสิบเจ็ด
fifty-eight อ่านว่า ฟิฟที เอท แปลว่า ห้าสิบแปด
fifty-nine อ่านว่า ฟิฟที ไนน แปลว่า ห้าสิบเก้า
sixty อ่านว่า ซิกซฺที แปลว่า หกสิบ
sixty-one อ่านว่า ซิกซฺที วัน แปลว่า หกสิบเอ็ด
sixty-two อ่านว่า ซิกซฺที ทู แปลว่า หกสิบสอง
sixty-three อ่านว่า ซิกซฺที ธรี แปลว่า หกสิบสาม
sixty-four อ่านว่า ซิกซฺที โฟร์ แปลว่า หกสิบสี่
sixty-five อ่านว่า ซิกซฺทีไฟว แปลว่า หกสิบห้า
sixty-six อ่านว่า ซิกซฺที ซิคซฺ แปลว่า หกสิบหก
sixty-seven อ่านว่า ซิกซฺที เซฟวฺเวิน แปลว่า หกสิบเจ็ด
sixty-eight อ่านว่า ซิกซฺที เอท แปลว่า หกสิบแปด
sixty-nine อ่านว่า ซิกซฺที ไนน แปลว่า หกสิบเก้า
seventy อ่านว่า เซฟวฺเวินที แปลว่า เจ็ดสิบ
seventy-one อ่านว่า เซฟวฺเวินที วัน แปลว่า เจ็ดสิบเอ็ด
seventy-two อ่านว่า เซฟวฺเวินที ทู แปลว่า เจ็ดสิบสอง
seventy-three อ่านว่า เซฟวฺเวินที ธรี แปลว่า เจ็ดสิบสาม
seventy-four อ่านว่า เซฟวฺเวินที โฟร์ แปลว่า เจ็ดสิบสี่
seventy-five อ่านว่า เซฟวฺเวินที ไฟว แปลว่า เจ็ดสิบห้า
seventy-six อ่านว่า เซฟวฺเวินที ซิคซฺ แปลว่า เจ็ดสิบหก
seventy-seven อ่านว่า เซฟวฺเวินที เซฟวฺเวิน แปลว่า เจ็ดสิบเจ็ด
seventy-eight อ่านว่า เซฟวฺเวินที เอท แปลว่า เจ็ดสิบแปด
seventy-nine อ่านว่า เซฟวฺเวินที ไนน แปลว่า เจ็ดสิบเก้า
eighty อ่านว่า เอททีแปลว่า แปดสิบ
eighty-one อ่านว่า เอทที วัน แปลว่า แปดสิบเอ็ด
eighty-two อ่านว่า เอทที ทู แปลว่า แปดสิบสอง
eighty-three อ่านว่า เอทที ธรี แปลว่า แปดสิบสาม
eighty-four อ่านว่า เอทที โฟร์ แปลว่า แปดสิบสี่
eighty-five อ่านว่า เอทที ไฟว แปลว่า แปดสิบห้า
eighty-six อ่านว่า เอทที ซิคซฺ แปลว่า แปดสิบหก
eighty-seven อ่านว่า เอทที เซฟวฺเวิน แปลว่า แปดสิบเจ็ด
eighty-eight อ่านว่า เอทที เอท แปลว่า แปดสิบแปด
eighty-nine อ่านว่า เอทที ไนน แปลว่า แปดสิบเก้า
ninety อ่านว่า ไนนที แปลว่า เก้าสิบ
ninert-one อ่านว่า ไนนที วัน แปลว่า เก้าสิบเอ็ด
ninert-two อ่านว่า ไนนที ทู แปลว่า เก้าสิบสอง
ninert-three อ่านว่า ไนนที ธรี แปลว่า เก้าสิบสาม
ninert-four อ่านว่า ไนนที โฟร์ แปลว่า เก้าสิบสี่
ninert-five อ่านว่า ไนนที ไฟว แปลว่า เก้าสิบห้า
ninert-six อ่านว่า ไนนที ซิคซฺ แปลว่า เก้าสิบหก
ninert-seven อ่านว่า ไนนที เซฟวฺเวิน แปลว่า เก้าสิบเจ็ด
ninert-eight อ่านว่า ไนนที เอท แปลว่า เก้าสิบแปด
ninert-nine อ่านว่า ไนนที ไนน แปลว่า เก้าสิบเก้า
one hundred อ่านว่า วัน ฮันเดร็ด แปลว่า หนึ่งร้อย
สำหรับเด็ก ๆ ที่ต้องการฝึกท่องตัวเลข 1-100 ในภาษาอังกฤษ ลองชมคลิปวีดีโอข้างล่างแล้วท่องตามจะช่วยให้จำง่ายขึ้นมา
นับ เลข 1 to 1000
นับจำนวน 11000 ภาษาอังกฤษ
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม
วิธีอ่านตัวเลขหลักล้าน ภาษาอังกฤษ l Million Billion Trillion ต่างกันอย่างไร l สอนนับเลขภาษาอังกฤษ
สอนน้องๆ วิธีอ่านตัวเลขหลักล้าน ภาษาอังกฤษ
Million Billion Trillion แตกต่างกันอย่างไร
นับเลขภาษาอังกฤษ หลักล้าน
นับเลข 1-20 ภาษาอังกฤษ พร้อมคำอ่าน | numbers 1-20 | Counting Numbers
นับเลข 120 ภาษาอังกฤษ พร้อมคำอ่าน numbers 120 | Counting Numbers
นับเลขภาษาอังกฤษสำหรับเด็กอนุบาล สะกดคำทีละตัว พร้อมคำอ่าน การออกเสียง
มาเรียนรู้การนับเลข ตัวเลข ภาษาอังกฤษกันค่ะ
Number l นับเลข 1-100
คลิปนี้เป็นคลิปที่นำมาปรับปรุงเสียงใหม่ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมาตลอดนะคะ
หวังว่าจะชอบคลิปนี้กันนะคะ ❤️
สัญญาว่าจะทำคลิปนับเลขที่ 101200 ค่ะ
นับเลข 1-20 ภาษาอังกฤษ | Number 1-20 | Learn and song
มาฝึก นับเลข เรียนรู้ คณิตศาสตร์ กันค่ะ
นับเลข 110 อังกฤษ
https://youtu.be/ytxQIGiszoA
นับเลข 120 ไทยอังกฤษ
https://youtu.be/vF2w3ru0M78
นับเลข 150 อังกฤษ
https://youtu.be/yW_31qeFQQ
นับเลข 1100 ไทย
https://youtu.be/sIb2ufW4o04
นับเลข 1100 ไทยอังกฤษ
https://youtu.be/grJ6N2xMcG0
นับเลข 1100 อังกฤษ
https://youtu.be/F_SDkWc_smg
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE
ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ การ อ่าน จํา น วน ภาษา อังกฤษ