Skip to content
Home » [Update] หลักการใช้ Present Simple Tense [ 2 ข้อ จำให้แม่น] ปัจจุบันธรรมดา ใช้บ่อยสุดเลยอันนี้ | simple present คือ – NATAVIGUIDES

[Update] หลักการใช้ Present Simple Tense [ 2 ข้อ จำให้แม่น] ปัจจุบันธรรมดา ใช้บ่อยสุดเลยอันนี้ | simple present คือ – NATAVIGUIDES

simple present คือ: คุณกำลังดูกระทู้

Posted on

166

SHARES

Facebook

Twitter

หลักการใช้ Present Simple Tense เป็น Tense แรกๆที่นักเรียนจะได้เรียนรู้กัน ในเทนส์นี้ให้จำขึ้นใจว่า หากประธานมีคนเดียว (เอกพจน์) กริยาเติม s หากประธานมีหลายคน (พหูพจน์) ไม่ต้องเติม s

Present Simple Tense

Present Simple Tense (Tense ปัจจุบันธรรมดา)

Present  เพร๊เซินท= ปัจจุบัน

Simple ซิ๊มเพิล = ธรรมดา

Table of Contents

◊ โครงสร้าง Present Simple Tense

S+V1 (s,es)

Subject
Verb (s, es)

I, You, We,They
eat, go

He, She, It
eats, goes

♦ S + V1 (ประธานเอกพจน์ กริยาเติม s, es)
ประธาน + กริยาช่องที่ 1 (ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ กริยาต้องเติม s หรือ es แล้วแต่กรณี)
♦ S + กริยาช่วย + V1
ประธาน + กริยาช่วย + กริยาช่องที่ 1 (ไม่ต้องเติม s ทุกกรณี)
กริยาช่วยที่ใช้บ่อยคือ can, should, must

Present Tense อันนี้ค่อนข้างจะยุ่งยากนิดหน่อยตรงที่ประธานเอกพจน์ต้องเติม s ส่วนประธานพหูพจน์ไม่ต้องเติม สิ่งที่จะสร้างความยุ่งยากนิดหนึ่งคือการเติม s เพราะกริยาบางตัวต้องเติม es ไม่ใช่แค่ s เฉยๆ แต่ไม่ใช่เรื่องยากถ้าได้ศึกษาการเติม s ที่้ท้ายคำนามเพื่อให้นามนั้นเป็นพหูพจน์

  ศึกษาหลักการเติม s หรือ es ที่ท้ายคำกริยา ⇒ การเติม s ,es  

◊ หลักการใช้ Present Simple Tense

ในหนังสืออาจจะบอกไว้หลายข้อ แต่ให้ผู้เรียนจำไว้แค่ 2 ข้อ คือ จริงและวัตร

1. จริง คือ ข้อเท็จจริงทั่วไป

ซึ่งเป็นการบอกกล่าว เล่า ถามเรื่องราว เหตุการที่เป็นข้อเท็จริงทั่วๆไป (facts) และข้อมูลข่าวสาร (information)

  • ถ้าเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคนจะเป็นข้อมูลบอกให้รู้ว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน มีอาชีพอะไร ชอบอะไร เป็นต้น

His name is Somchai. ชื่อ ของเขา คือ สมชาย

He comes from Thailand. เขา มา จาก ประเทศไทย

He is a doctor. เขา เป็น หมอ

He can play football. เขา สามารถ เล่น ฟุตบอล

  • ถ้าเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์ก็จะเป็นการบอกให้รู้ว่ามันคืออะไร รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ลักษณะนิสัยใจคอ แหล่งที่อยู่ เป็นต้น

Elephants are the largest  land animals. ช้าง เป็น สัตว์ บก ที่ใหญ่ที่สุด

They have 28 teeth. พวกมัน มี ฟัน 28 ซี่

They eat grass. พวกมัน กิน หญ้า (เป็นอาหาร)

They can swim. พวกมัน สามารถ ว่ายน้ำ

  • ถ้าเป็นสิ่งของก็จะบอกให้รู้ว่ามันคืออะไร ทำมาจากอะไร ใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง

This is a Japanese car. นี่ คือ รถยนต์ ญี่ปุ่น

It is very expensive. มัน มีราคาแพง มาก

The company is in Japan. บริษัท อยู่ ใน ญี่ปุ่น

  • ถ้าเป็นสถานที่ก็จะเป็นข้อมูลข่าวสารของสถานที่นั้น เช่น ถ้าเป็นกรุงเทพ ก็จะเป็นข้อมูลของประชากร พื้นที่ สถานที่สำคัญๆต่างๆเป็นต้น

Bangkok is the capital city of Thailand. กรุงเทพ เป็น เมืองหลวง ของ ประเทศไทย

It has 50 districts. มัน มี 50 อำเภอ (เขต)

2. วัตร คือ กิจวัตร

เป็นสิ่งที่ทำบ่อยๆ อาจทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกเดือน ทุกปี ก็ได้ ซึ่งจะมีคำเหล่านี้กำกับอยู่ด้วย

always อ๊อลเวส เสมอ

usually ยู๊ชวลลิ โดยปกติ

generally เจ็๊นนะเริลลิ โดยปกติ

often อ๊อฟฟึน บ่อยๆ

frequently ฟรี๊เคว็นลิ บ่อยๆ

sometimes ซั๊มไทมส  บางครั้ง

occasionally อะเค๊เชินนัลลิ บางครั้ง

seldom เซ็๊ลดัม ไม่ค่อยจะ

rarely แร๊ลิ ไม่ค่อยจะ

hardly  (ever) ฮ๊าดลิ แทบจะไม่ (เคย)

never เน็๊ฝเฝอะ ไม่เคย

every day เอ็ฝริเด ทุกวัน

every+ Sunday/ Monday….. เอ็ฝริ ซันเด / มันเด…   ทุกวันอาทิตย์/ จันทร์….

every + / week/ month/ year…. เอ็ฝริ วีค / มันธ/ เยีย … ทุกสัปดาห์ / เดือน/ ปี

ตัวอย่างประโยค

♦ S + V1 (ประธานเอกพจน์ กริยาเติม s,es)
  • I always go  to bed at 10 o’clock. โดยปกติ ผม เข้านอน เวลา 4 ทุ่ม
  • I always get up at 6 o’clock. ผม ตื่นนอน เวลา 6 โมง เสมอ
  • You usually buy fruit at 7-11. โดยปกติ คุณ ซื้อ ผลไม้ ที่ 7-11
  • He often comes to my house. เขา มา บ้าน ของฉัน บ่อยๆ
  • She sometimes does homework at school. บ้างครั้ง หล่อน ทำ การบ้าน ที่ โรงเรียน
  • It seldom rains in the morning. ฝน ไม่ค่อยจะ ตก ใน ตอนเช้า
  • We hardly ever drink coffee in the evening. เรา แทบจะไม่ เคย ดื่ม กาแฟ ใน ตอนเย็น
  • They never drive to work. พวกเขา ไม่เคย ขับรถ ไป ทำงาน
  • Somchai plays football everyday. สมชาย เล่น ฟุตบอล ทุกวัน
  • We watch a movie every Monday. เรา ดู หนัง ทุก วันจันทร์
  • She goes to England every year. หล่อน ไป ประเทศอังกฤษ ทุก ปี

ตัวอย่างประโยค

♦ S + กริยาช่วย + V1
ประธาน + กริยาช่วย + กริยาช่องที่ 1 (ไม่ต้องเติม s ทุกกรณี)
กริยาช่วยที่ใช้บ่อยคือ can, should, must

ถ้ามีกริยาช่วยนำหน้าแล้ว กริยาไม่ต้องเติม s หรือ es ทุกกรณี

  • I can run very fast. ผม สามารถ วิ่งได้เร็ว
  • She can swim very fast. หล่อนสามารถว่ายน้ำได้เร็ว
  • You should go now. คุณ ควรจะ ไป เดี๋ยวนี้
  • He should go now. เขา ควรจะ ไป เดี๋ยวนี้
  • We must eat to live. เรา ต้อง กิน เพื่อ อยู่
  • She must drink milk every morning. หล่อน ต้อง ดื่ม นม ทุกเช้า

  กริยาช่วย 24 ตัวมีอะไรบ้าง ⇒ กริยาช่วย 24 ตัว ⇐

◊ Time Line เส้นเวลา

หลังจากที่ได้อ่านหลักการใช้แล้ว ทีนี้มาดูไทม์ไลน์กันว่าจะเป็นจริงอย่างที่บอกไว้หรือไหม่ ทีบอกว่า tense นี้ใช้บอกข้อเท็จจริงทั่วไป

  • สีดำคือ อดีตที่หมองหม่น
  • สีส้มคือปัจจุบันที่สดใส
  • สีชมพู คือ อนาคตที่เรืองรองผ่องอำไพ
  • ลูกศรสีขาวไซร้คือเหตุการณ์

ให้สังเกตุที่ลูกศรนะครับ มันคือเหตุการณ์ จะเห็นว่ามันมีอยู่ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต นั่นหมายความว่าข้อความที่เราพูดหรือเขียนมันเป็นจริงอย่างนั้น ไม่ว่าจะเป็นในอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคตก็ได้ ตามที่ลูกศรชี้บอก เช่น

His name is Somchai. ชื่อ ของเขา คือ สมชาย (สองปีก่อนก็ใช่ เมื่อวานก็ใช่ วันนี้ก็ใช่ ในอนาคตก็น่าจะใช่ ถ้าไม่เปลี่ยนชือเสียก่อน)

He comes from Thailand. เขา มา จาก ประเทศไทย (ก็เขาเป็นคนไทย ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตด้วย ก็มันเป็นความจริงอย่างนั้น)

He is a doctor. เขา เป็น หมอ (สิบปีก่อนก็เห็นเป็นหมอ ตอนนีก็เป็น อนาคตก็คงไม่พ้นอาชีพหมอ)

ถ้านักเรียนต้องการสื่อเรื่องราวอะไรสักอย่าง ที่มันเป็นข้อเท็จจริงอย่างนี้ ก็อย่าลืมว่าต้องใช้

ประธาน + กริยาช่องที่ 1 (หากประธานเป็นเอกพจน์กริยาเติม s) นี่คือหลักภาษาที่ต้องจดจำ

♦ สรุปประเด็นที่ต้องจดจำให้ได้

1. Present Simple Tense ใช้เพื่อกล่าวถึงข้อเท็จจริงทั่วไป และการกระทำที่เป็นกิจวัตร
2. โครงสร้าง คือ S+V1 (s,es)
– ประธาน + กริยาช่องที่ 1 ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ กริยาต้องเติม s (เรียนรู้การเติม s ได้จากหัวข้อ “การเติม s ที่ท้ายกริยา present simple tense”)
– ประธาน + กริยาช่วย + กริยาช่องที่ 1 (กริยาไม่เติม s ทุกกรณี)

 หลักการเติม s, es ที่ท้ายกริยา

♦ Tense นี้ พบเจอได้ที่ไหน

√  บทสนทนาทั่วไป ที่เกี่ยวกับข้อเท็จจริงต่างๆ
√  ในหนังสือเรียน สารานุกรม สารคดี และอื่นๆที่นำเสนอข้อเท็จจริง

“ถ้าคิดว่าเข้าใจแล้ว ลองไปอ่านสรุปหลักการใช้ดูนะครับ”

  ⇒ สรุปหลักการใช้ Tense 12

กริยา 3 ช่องที่ใช้ในหน้านี้

ช่อง 1

ช่อง 2

ช่อง 3

คำแปล

buy
bought
bought
ซื้อ

come
came
come
มา

do
did
done
ทำ

drive
drove
driven
ขับรถ

eat
ate
eaten
กิน

go
went
gone
ไป

get
got
got
ได้รับ

have, has
had
had
มี

is, am ,are
was, were
been
เป็น อยู่ คือ

play
played
played
เล่น

rain
rained
rained
ฝนตก

watch
watched
watched
ดู

ขอ 5 ดาวให้บทเรียนด้วยครับผม…

คลิกดาวดวงที่ขวามือสุดเลยครับครับ…

Average rating 4.7 / 5. Vote count: 893

ยังไม่มีใครให้ดาว คุณคือคนแรก….

[Update] การใช้ Present simple vs Present continuous | simple present คือ – NATAVIGUIDES

Present continuous หรือบางคนเรียก Present progressive เป็นรูปที่ แสดงกิจกรรมหรือการกระทำที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ขณะที่กำลังพูด (an activity that is in progress right now) ซึ่งก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะจบสิ้นการกระทำนั้นเมื่อใด แต่ที่แน่ๆ คือจะจบในอนาคต ตอนไหนไม่รู้ โดยมากมักมีคำ หรือวลี ชี้แสดงว่ากำลังเกิดขึ้นในขณะที่พูดถึงการกระทำนั้นๆ เช่น right now, at the moment, now
ตัวอย่าง
John is repairing a car at the moment.
จอห์นกำลังซ่อมรถยนต์อยู่ตอนนี้
It’s noon. I am eating lunch at the cafeteria right now.
มันเป็นเวลาเที่ยงวัน ฉันกำลังทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารอยู่ขณะนี้ Ann can’t come to the phone now because she is taking a shower.
แอนไม่สามารถมารับโทรศัพท์ตอนนี้ได้ เพราะเธอกำลังอาบนํ้า

ส่วน Present simple ใช้เพื่อแสดงทั้งอุปนิสัยหรือการกระทำตามปกติในชีวิตประจำวัน (daily habits or usual activities) หรือเพื่อแสดงถึงความเป็นจริงเสมอ (general statements of fact) มักจะเป็นหลักความจริงทางวิทยาศาสตร์
ตัวอย่าง
Mark is a mechanic. He repairs cars.
มาร์คเป็นช่างเครื่องยนต์ เขาซ่อมรถยนต์
Ann takes a shower every day.
แอนอาบน้ำทุกวัน
The earth revolves around the sun.
โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์
A square has four equal sides.
สี่เหลี่ยมจัตุรัสมีด้านเท่ากัน 4 ด้าน

ลองดูตัวอย่างที่มีทั้ง Present continuous และ Present simple ใน ข้อความต่อไปนี้แล้วลองหาเหตุผลดูว่าทำไมบางข้อความจึงใช้ Present continuous บางข้อความใช้ Present simple
John is a journalist. He writes for a newspaper. He isn’t at work at the moment. He’s at home. He’s repairing his car.
จอห์นเป็นนักข่าว เขาทำงานเขียนให้กับหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ขณะนี้เขาไม่ทำงาน เขาอยู่บ้าน เขากำลังซ่อมรถยนต์ของเขา

อธิบาย ในข้อความ He writes for a newspaper. ใช้กริยา writes ใน รูป Present simple ก็เพราะเป็นกิจกรรมปกติที่เขากระทำประจำเสมอ นั่นคือการเป็นนักข่าว ส่วนในข้อความ He’s repairing his car. ใช้กริยา ’s repairing (= is repairing) ในรูป Present continuous ก็เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเดี๋ยวนี้คือเขาไม่ได้ไปทำงาน อยู่บ้าน จึงใช้เวลาซ่อมรถของตนเอง
Michael is a mechanic. He repairs cars. He isn’t at work now. He’s at home. He’s writing a letter.
ไมเคิลเป็นช่างเครื่องยนต์ เขาซ่อมรถยนต์ ตอนนี้เขาไม่ทำงาน เขาอยู่บ้าน เขากำลังเขียนจดหมาย

อธิบาย ในข้อความ He repairs cars. ใช้กริยา repairs ในรูป Present simple ก็เพราะเป็นงานอาชีพที่เขากระทำอยู่เป็นประจำ นั่นคือ การเป็นช่างเครื่องยนต์ ส่วนในข้อความ He’s writing a letter. ใช้กริยา ’s writing (= is writing) ใน รูป Present continuous ก็เพราะเป็นเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ คือเขาไมได้ไปทำงาน อยู่บ้าน เขียนจดหมาย
Present
อธิบาย จากการสนทนาของบุคคล 2 คนในภาพซ้ายมือหญิงคนหนึ่งถามว่า “เคนอยู่ที่ไหน’’ หญิงอีกคนตอบว่า “เขากำลังชมโทรทัศน์’’ การที่หญิงคนนี้ตอบเช่นนี้ก็เพราะเธอรู้ว่าขณะนี้นายเคนกำลังชมโทรทัศน์อยู่ และภาพที่แลเห็นเมื่อมองผ่านประตูห้องเข้าไปก็พบว่า “นายเคนกำลังชมโทรทัศน์’’ อยู่ ในขณะที่หญิงคนแรกถาม จึงพอจะกล่าวได้ว่า เราใช้ Present continuous เพื่อบ่งบอกว่าเหตุการณ์หรือกิจกรรมนั้นๆ กำลังดำเนินอยู่ในขณะที่พูดถึงในขณะปัจจุบัน เป็นการกระทำชั่วคราว มิได้ทำเป็นนิจสิน

สำหรับภาพทางขวามือ หญิงคนที่หนึ่งรู้ว่านายเคนชมข่าวทางโทรทัศน์ทุกเย็นจนเป็นนิสัยที่ทำมาโดยตลอดไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในอุปนิสัยของนายเคนซึ่งเป็นสามีของเธอ จึงพอจะกล่าวได้ว่าเราใช้ Present simple เพื่อบ่งบอกถึงการกระทำที่ทำซ้ำๆ หรือทำเป็นนิสัย เป็นการถาวร ทำเป็นนิจสิน

ต่อไปนี้จะขอเปรียบเทียบการใช้ Present simple และ Present continuous โดยละเอียดทีละเรื่องๆ ดังนี้
1. การกระทำเป็นกิจวัตร (routine) กับการกระทำที่เกิดขึ้นขณะที่กำลังพูด (moment of speaking)
ตัวอย่าง
1. James works for an investment magazine. Every month he writes articles about investment opportunities.
เจมส์ทำงานกับนิตยสารการลงทุนทุกเดือนเขาเขียนบทความเกี่ยวกับ โอกาสการลงทุน
2. Take these figures to James. He needs them fot”an article he is writing.
จงเอาตัวเลขเหล่านี้ไปให้เจมส์ เขาต้องใช้มันเพราะเขากำลังเขียน บทความเรื่องหนึ่ง

อธิบาย ในตัวอย่างที่ 1 เป็นการกล่าวถึงสิ่งที่เจมส์ทำอยู่ประจำเป็นนิจสิน ถือเป็น routine จึงใช้รูป Present simple ส่วนในตัวอย่างที่ 2 เป็นการกล่าวถึงสิ่งที่นายเจมส์กำลังกระทำอยู่ในขณะที่กำลังกล่าวถึง จึงใช้รูป Present continuous
2. กิจกรรมทั่วไป (general activities) กับกิจกรรมที่เกิดขึ้นในขณะ ปัจจุบัน (current activities)
ตัวอย่าง
1. I work for ‘Teletraining’ We make training video.
ผมทำงานกับเทเลเทรนิ่ง เราทำวิดีโอเพื่อการฝึก

2. At the moment we’re making a training video for British Telecom.
ขณะนี้พวกเรากำลังทำวิดีโอเพื่อการฝึกให้กับบริษัทบริติชเทเลคอม
อธิบาย ในตัวอย่างที่ 1 เป็นการกล่าวถึงกิจกรรมปกติทั่วไปที่คนงานใน บริษัทเทเลเทรนิ่งทำ จึงใช้รูป Present simple ส่วนในตัวอย่างที่ 2 เป็นการกล่าวถึงกิจกรรมที่เกิดขึ้นในขณะปัจจุบันกำลังพูดถึง จึงใช้รูป Present continuous

3. สถานการณ์ถาวร (permanent situations) กับสถานการณ์ชั่วคราว (temporary situations)
ตัวอย่าง
1. Peter lives in London.
ปีเตอร์อาศัยอยู่ในลอนดอน
2. Peter is staying in a hotel.
ปีเตอร์พักอยู่ใน โรงแรม
อธิบาย ในตัวอย่างที่ 1 เป็นการกล่าวถึงสภาพการณ์ที่ถาวร นั่นคือปีเตอร์มีที่อยู่อาศัยในลอนดอน จึงใช้รูป Present simple ส่วนตัวอย่างที่ 2 เป็นการกล่าวถึงสถานการณ์ชั่วคราว ปีเตอร์มาพักที่โรงแรม จึงใช้รูป Present continuous

4. ความจริงตลอดกาล (facts) กับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างช้าๆ (slow changes) .
ตัวอย่าง
1. As a rule, cheap imports lead to greater competition.
ตามหลักเกณฑ์แล้ว สินค้านำเข้าราคาถูกทำให้เกิดการแข่งขันกันเพิ่มขึ้น
2. Cheap imports are leading to the closure of many factories.
สินค้านำเข้าราคาถูกกำลังทำให้โรงงานหลายแห่งปิดกิจการ
อธิบาย ในตัวอย่างที่ 1 เป็นการกล่าวถึงความเป็นจริงแน่นอน เพราะเมื่อสินค้านำเข้าราคาถูกก็จะเกิดการแข่งขันกันสูง จึงใช้รูป Present simple ส่วนตัวอย่างที่ 2 เป็นการกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นอย่างช้าๆ ในขณะนี้ จึงใช้รูป Present continuous

5. ตารางเวลาหรือโปรแกรมที่กำหนดไว้แน่นอน (fixed timetable or program) กับแผนการที่ตระเตรียมไว้ว่าจะทำในอนาคต (arranged plans for the future)
ตัวอย่าง
1. The film starts at 7.30 and finishes at 9.00.
ภาพยนตร์เริ่มฉายเวลา 7.30 น. และสิ้นสุดเวลา 9.00 น.
2. I’m meeting Sarah at 9.00 p.m. on Saturday.
ผมจะพบปะกับซาร่า 9 โมงวันเสาร์
อธิบาย ในตัวอย่างที่ 1 เป็นการกล่าวถึงโปรแกรมที่กำหนดไว้ตายตัวแล้ว จึงใช้รูปคำกริยาเป็น Present simple ส่วนในตัวอย่างที่ 2 เป็นการกล่าวถึงแผนการที่ได้ตระเตรียมไว้ว่าจะทำในอนาคต จึงใช้รูปคำกริยาเป็น Present continuous

6. คำกริยาไร้การเคลื่อนไหว (stative verbs) เป็นคำกริยาที่บ่งบอก สภาพการณ์ (states) ไม่บ่งบอกการเคลื่อนไหว (actions) ดังนั้นคำกริยาประเภทนี้จึงมักจะไม่ใช้ในรูป continuous ได้แก่
6.1 คำกริยาที่เกี่ยวกับความคิด (verbs of thinking) ได้แก่ believe, doubt, imagine, know, realize, suppose, understand, think*
6.2 คำกริยาเกี่ยวกับประสาทสัมผัส (verbs of senses) ได้แก่ hear, smell, sound, taste
6.3 คำกริยาเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของ (verbs of possession) ได้แก่ belong to, have* (= possess), own, possess
6.4 คำกริยาเกี่ยวกับอารมณ์ (vebs of emotion) ได้แก่ dislike, hate, like, love, prefer, regret, want, wish
6.5 คำกริยาเกี่ยวกับรูปร่าง (verbs of appearance ) ได้แก่ appear, seem
6.6 คำกริยาอื่นๆ (other verbs) ได้แก่ contain, depend on, include, involve, mean
(คำที่มีเครื่องหมาย * ได้แก่ think และ have สามารถเป็นได้ทั้งรูป Simple และ Continuous)
ตัวอย่าง
ผิด     I’m sorry, I’m not understanding what you mean.
ถูก     I’m sorry, I don’t understand what you mean.
ผมเสียใจ ผมไม่เข้าใจว่าคุณหมายถึงอะไร
ผิด     I am hearing a bird.
ถูก     I hear a bird.
ดิฉันได้ยินเสียงนก
ผิด     Are you believing in flying saucers ?
ถูก     Do you believe in flying saucers ?
คุณเชื่อในเรื่องจานบินหรือเปล่า
ผิด     I’m thinking that grammar is difficult.
ถูก     I think that grammar is difficult.
ผมคิดว่าไวยากรณ์เป็นเรื่องยาก
ผิด     I think about grammar right now.
ถูก     I am thinking about grammar right now.
ผมกำลังคิดถึงเรื่องไวยากรณ์อยู่ตอนนี้

ที่มา:รองศาสตราจารย์ทณุ  เตียวรัตนกุล

(Visited 57,801 times, 3 visits today)


ENG│미적미적 주말출근.바삭한 옛날돈까스와 예쁜 레몬젤리. 부대떡볶이 만들기


안녕하세요 여러분
이번 영상은 안나가고 주말 출근하는 일상을 담았어요🪡
선물용 더스트백도 만들고 부대떡볶이도 만들었는데 색다르고 맛있었습니다.
간단하고 예쁜 레몬젤리도 만족스러웠어요 🍋
냉장고에 들어가고싶은 날씨인데 건강 유의하시길 바랍니다 🌝

🥪영상에 나온것들🍲
초당옥수수 │ 초당옥수수토스트 │ 라이크어클레이 │
공드린 티│ 부대떡볶이│ 새우볼 │
필리밀리브러쉬│ 경양식돈까스 │초당옥수수스프│
레몬젤리만들기 │ 토오베레몬젤리

🌷 인스타그램 @_plan_d
https://www.instagram.com/_plan_d/
💌 비지니스
[email protected]
📱Editing program VLLO
📸Camera RX100m3

잠옷│ULLALA PAJAMAS, 김양리빙
네이비티│정보없음
원피스│스프링크로커스_button slit dressivory
진주팔찌,목걸이│직접 만들었어요
(만드는 영상 https://youtu.be/GqMrilcFLcU 19분53초)
레터링,코듀로이에코백│직접 만들었어요
(만드는 영상https://youtu.be/iV6EX39xl2U​ 4분17초)
후라이팬│포시즌 올리브그린 후라이팬
(사용후기 https://youtu.be/neC2W_Nxpng​ 6분17초)
파니니팬│ Norpro 파니니팬
(무쇠팬관리영상 https://youtu.be/BQy2iAvtV60​ 19분48초)
랩│글래드매직랩
조개인퓨저│블랜버니( 조개인퓨저로 검색하면 비슷한게많이 나와요)
꿀디스펜서│오늘의집_유리 허니 디스펜서 꿀통
채칼│이케아 VARDEFULL
뚜껑있는유리볼│파이렉스 믹싱볼
스프볼│이케아 그라탕그릇
올리브색접시,노란볼, 들깨 오벌접시│폴라앳홈
우드식기│이마트, 이케아
유리컵│에이프릴 인 메이
핑크색냄비│티리난지
나무쟁반│이케아
페스츄리생지│큐원_페이스트리용 사각시트
에어프라이어│필립스
커피머신│네스프레소 픽시
체크행주│클리네트_ 빨아쓰는 롤행주
서랍편의점│리센트_랩소디 틈새수납장
침대옆 테이블│이레나 소파테이블
꽃병│리베르떼_ 빈티지 오브제 저그화병

자취브이로그​ 집밥​ 자취일상​ 일상브이로그​ 집순이브이로그

컨텐츠 제작의 마무리는 컨텐츠플라이! 글로벌 진출을 위한 최고의 파트너,
CONTENTSFLY에서 제작되었습니다.
https://www.contentsfly.com​
중국어 자막 : FIX字幕侠

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

ENG│미적미적 주말출근.바삭한 옛날돈까스와 예쁜 레몬젤리. 부대떡볶이 만들기

สอนไวยากรณ์ Present Simple Tense


ติดตาม Facebook Fanpage ครูเชอรี่ English Bright
https://www.facebook.com/cherry.englishbright

สอนไวยากรณ์ Present Simple Tense

สรุปวิธีใช้ Past Simple Tense แบบเข้าใจง่ายๆ


สรุปวิธีใช้ Past Simple Tense แบบเข้าใจง่ายๆ
คลิปนี้แยกมาจากคลิป \”Past Simple Tense ใช้ตอนไหน \u0026 แบบฝึกหัดท้ายบท\” เพื่อให้สะดวกแก่ผู้ชมที่ต้องการแยกศึกษาเฉพาะหลักการใช้ในคลิปเดียวค่ะ

สรุปวิธีใช้ Past Simple Tense แบบเข้าใจง่ายๆ

หลักการใช้ present simple tense ฉบับเข้าใจง่ายสุดๆ


เรียนคอร์สออนไลน์: http://www.learningtreeuk.com
ติดตามทางเฟสบุ๊ค: http://www.facebook.com/learninguk
ติดต่อสอบถาม: https://line.me/R/ti/p/%40ttw7272u
และไลน์ของครูพิม pimolwan1984

หลักการใช้ present simple tense ฉบับเข้าใจง่ายสุดๆ

ติว TOEIC: Present Tenses มีโครงสร้างยังไง? จำง่ายๆ กับครูดิว


✿ ถ้าพื้นฐานน้อย แนะนำหาคอร์สติวดีกว่าค่ะ! ✿
👉 สมัครคอร์ส KruDew ติว New TOEIC 2020 (ทดลองติวฟรี!) ➡️ https://bit.ly/2wR4Gmu
✿ คอร์ส KruDew ติว TOEIC มีอะไรให้บ้าง? ✿
✅Grammar ที่ใช้สอบ TOEIC ให้ครบ เริ่มสอนจากพื้นฐาน เรียนได้ทุกคนแน่นอน
✅เทคนิคช่วยจำต่างๆ จำง่าย เอาไปใช้กับข้อสอบได้จริงๆ
✅เก็งศัพท์ TOEIC ออกข้อสอบบ่อยๆ ให้ครบ ไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งรวบรวมเอง
✅ อัพเดทข้อสอบ New TOEIC ล่าสุด ครบ 200 ข้อ
✅สามารถสอบถามข้อหรือจุดที่สงสัยได้ตลอด
✅การันตี 750+ (ถ้าสอบแล้วไม่ถึง สามารถทวนคอร์สได้ฟรี)
👉 สมัครคอร์ส KruDew ติว TOEIC (ทดลองติวฟรี!) ➡️ https://bit.ly/2wR4Gmu
👉 สอบถามรายละเอียดคอร์ส ➡️ http://m.me/TOEICKruDew
📣 ถ้าไม่อยากพลาดคลิปดีๆแบบนี้ อย่าลืมกด ❤️ Subscribe ❤️กันนะคะ
💻FB : https://www.facebook.com/TOEICKruDew/
📲Line ID : @krudewtoeic

ติว TOEIC: Present Tenses มีโครงสร้างยังไง? จำง่ายๆ กับครูดิว

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ simple present คือ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *