Skip to content
Home » [Update] หลักการใช้ Adverbs ภาษาอังกฤษ | คําวิเศษณ์ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

[Update] หลักการใช้ Adverbs ภาษาอังกฤษ | คําวิเศษณ์ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

คําวิเศษณ์ภาษาอังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

Adverbs หรือ คำวิเศษณ์ คือ คำที่ใช้ในประโยคสำหรับอธิบายความหมายของคำกริยา หรือคำคุณศัพท์(adjectives) รวมถึงคำวิเศษณ์คำอื่นในประโยค ตัวอย่างเช่น

He walked slowly across the crossroad.  เขาเดินข้ามถนนอย่างช้า ๆ

จากประโยคข้างต้น คำว่า slowly ที่แปลว่าช้า ช่วยอธิบายขยายความหมายของคำกริยา walk ที่แปลว่าเดิน

ประเภทของ Adverbs

1. Adverb of Time  คำวิเศษณ์เกี่ยวกับเวลา

ตัวอย่างเช่น She will visit the hospital tomorrow. เธอจะไปโรงพยาบาลวันพรุ่งนี้

คำว่า visit ที่แปลว่า “ไป” เป็น verb (คำกิริยา) ส่วนคำ adverb ที่มาขยาย คือ คำว่า tomorrow ซึ่งแปลว่าพรุ่งนี้

คิดง่าย ประโยคนี้คือคำตอบซึ่งหากใครมาถามว่า When will she visit the hospital? เธอจะไปโรงพยาบาลเมื่อไร

 

ในส่วนของ คำวิเศษณ์เกี่ยวกับเวลา อาจแบ่งย่อยเป็น 3 อย่างคือ

– adverbs ที่ใช้ตอบว่า when (เมื่อไร) ที่มีสิ่งใดเกิดขึ้น เช่น

I saw Mary yesterday.
She was born in 1980.
I will see you later.

– adverbs ที่ใช้ตอบว่า how long (นานแค่ไหน) :

We waited all day.
They have lived here since 2004.
We will be on holiday from July 1st until August 3rd.

– adverbs ที่ใช้ตอบว่า how often (บ่อยแค่ไหน)

They usually watched television in the evening.
We sometimes went to work by car.

 

2. Adverb of Place คำวิเศษณ์เกี่ยวกับสถานที่

ตัวอย่างเช่น They will meet you there.  พวกเขาจะพบคุณที่นั่น

คำว่า there ที่แปลว่า ที่นั่น ช่วยเจาะจงรายละเอียดของสถานที่จากคำกิริยาว่า meet (พบ) และเป็นคำตอบของคำถามว่า Where will they meet you?

เราสามารถแบ่งกลุ่มคำวิเศษณ์เกี่ยวกับสถานที่ได้ดังนี้

– ใช้บอกตำแหน่งสถานที่ว่าที่ไหนที่บางคนหรือบางสิ่งอยู่ เช่น

  • He was standing by the table. เขากำลังยืนอยู่ข้างโต๊ะ
  • You’ll find it in the cupboard. คุณจะพบมันในตู้
  • Sign your name here – at the bottom of the page. เซ็นชื่อของคุณที่นี่ – ที่ท้ายหน้ากระดาษ

– ใช้บอกทิศทางที่บางคนหรือบางสิ่งกำลังเคลื่อนที่ เช่น

  • Walk past the bank and keep going to the end of the street. เดินผ่านธนาคารและไปต่อจนสุดถนน
  • The car door is very small so it’s difficult to get into. ประตูรถมีขนาดเล็กมาก ทำให้ยากที่จะเข้าไปข้างใน

– ใช้ในการแสดงระยะทางว่าสิ่งนั้นไกลเท่าไร เช่น

  • Birmingham is 250 kilometres from London. เบอมิงแฮมอยู่ห่าง 250 กิโลเมตรจากลอนดอน
  • We were in London. Birmingham was 250 kilometres away. เราอยู่ในลอนดอน .เบอมิงแฮมอยู่ห่างออกไป250กิโลเมตร

 

3. Adverb of Manner คำวิเศษณ์เกี่ยวกับอิริยาบท

ตัวอย่างเช่น She works fast. เธอทำงานเร็ว

คำว่า works เป็นกิริยา(verb) ส่วนคำว่า fast ที่แปลว่า เร็ว เป็นคำวิเศษณ์ที่มาขยายความหมายของคำว่า ทำงาน

 

คำวิเศษณ์เกี่ยวกับอิริยาบทที่เกิดขึ้นมักจะมาจากคำคุณศัพท์โดยการเพิ่ม –ly:

เช่น

bad เป็น  badly

quiet เป็น quietly

recent เป็น recently

sudden เป็น suddenly

 

แต่บางคำก็มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในการสะกด เช่น

easy เป็น easily

gentle เป็น gently

 

มีคำวิเศษณ์ไม่กี่คำที่มีรูปแบบเดียวกันเป็นคำคุณศัพท์:

เช่น

They all worked hard.
She usually arrives late.
I hate driving fast.

หมายเหตุ hardly and lately มีความหมายหมายต่างออกไป

He could hardly walk หมายถึง มันเป็นการยากสำหรับเขาในการเดิน

I haven’t seen John lately . หมายถึง ฉันไม่ไเห็นจอห์นเมื่อเร็วๆนี้

 

4. Adverbs of Degree คำวิเศษณ์เกี่ยวกับระดับ

She almost finished the work. เธอเกือบเสร็จงาน

คำว่า เสร็จ (finished) เป็นกริยา ส่วนคำว่า เกือบ (almost) เป็นคุณศัพท์ที่มาขยายความ ประโยคนี้เป็นคำตอบของคำถามว่า

How much of the work did she finish? เธอทำงานเสร็จไปแล้วแค่ไหน

คำวิเศษณ์เกี่ยวกับระดับ จะ แสดงให้เห็นขอบเขต การกระทำหรือสิ่งที่จะทำว่ามากน้อยแค่ไหน

ตัวอย่างคำอื่น ๆ เช่น Fully, Partially, Altogether เป็นต้น

 

5. Adverbs of Confirmation and Negation คำวิเศษณ์เกี่ยวกับการยืนยันหรือปฏิเสธ

ตัวอย่างเช่น They will certainly like this vase. พวกเขาจะชอบแจกันใบนี้อย่างแน่นอน

คำวิเศษญ์ certainly ที่แปลว่าอย่างแน่นอน ช่วยตอกย้ำคำกิริยา like ที่แปลว่าชอบ

ประโยคข้างต้นเป็นคำตอบของคำถาม Will they like this vase? พวกเขาจะชอบแจกันใบนี้หรือไม่

 

He never leaves his house.เขาไม่เคยไปจากบ้านของเขา

คำวิเศษญ์  never ที่แปลว่าไม่เคย ทำหน้าที่ปฏิเสธกิริยา leave.

 

ตัวอย่างคำวิเศษญ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการยืนยัน เช่น  Definitely, Absolutely, Surely เป็นต้น

คำวิเศษญ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิเสธ เช่น No, Don’t, Can’t เป็นต้น

 

6. Adverbs of Comment คำวิเศษณ์เกี่ยวกับความคิดเห็น

คำวิเศษณ์เหล่านี้จะใช้เพื่อให้การแสดงความคิดเห็นในประโยค ให้เห็นมุมมองของผู้พูดหรือความเห็นเกี่ยวกับประโยค

ตัวอย่างเช่น Luckily, the dog did not bite the children. โชคดี ที่หมาไม่กัดเด็ก

they would win the world cup, obviously. พวกเขาคงจะชนะฟุตบอลโลก อย่างแน่นอน

 

7. Adverbs of Conjunction  คำวิเศษณ์เกี่ยวกับการเชื่อมประโยค

คำวิเศษณ์เหล่านี้จะใช้ในการเชื่อมต่อความคิดหรือประโยคที่เป็นเหตุเป็นผลเกี่ยวโยงต่อกัน ในการเชื่อมประโยคด้วยคำวิเศษณ์นี้จะต้องใช้อัตภาค (เซมิโคลอน 😉 มาใช้เชื่อมต่อ

ตัวอย่างเช่น

ข้อความที่ 1: He was going for an important interview. เขากำลังไปงานสัมภาษณ์ที่สำคัญ

ข้อความที่ 2: He made sure he reached on time. เขาทำให้แน่ใจได้ว่าจะไปทันเวลา

 

He was going for an important interview; accordingly, he made sure he reached on time.

เขากำลังไปงานสัมภาษณ์ที่สำคัญ เพราะฉะนั้น เขาทำให้แน่ใจได้ว่าจะไปทันเวลา

จะเห็นได้ว่า accordingly ทำหน้าที่เชื่อมทั้ง 2 ประโยคที่เป็นเหตุผลเกี่ยวโยงกัน

 

ตัวอย่าง คำวิเศษณ์เกี่ยวกับการเชื่อมประโยค เช่น

  • However             –  อย่างไรก็ตาม
  • Consequently   –  ดังนั้น
  • Moreover           – ยิ่งไปกว่านั้น ,นอกเหนือจากนี้
  • Conversely         – โดยตรงกันข้าม

 

และทั้งหมดนี้ก็คือรายละเอียดหลักการใช้ Adverbs ในภาษาอังกฤษ แม้จะมีรายละเอียดที่ซับซ้อนบ้าง แต่เชื่อว่าหากตั้งใจ ท้ายที่สุดการเรียนรู้ของพวกเราทุกคนก็จะประสบความสำเร็จ

[NEW] 30 วิธีพูด beautiful เป็นภาษาอังกฤษด้วยคำอื่นๆ | คําวิเศษณ์ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

30 words to say beautiful

    เวลาเราต้องการชมคน สัตว์ หรือสิ่งของว่า “สวย”  คำแรกๆ ที่จะนึกถึงคงหนีไม่พ้นคำพื้นฐานอย่าง “Beautiful” ใช่มั้ย? แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีคำอีกมายมายที่มีความหมายใกล้เคียงกัน แต่เหมาะกับสถานการณ์อื่นๆ หรืออธิบายอารมณ์ของเราได้ดีกว่า ไปดูกันเลยพ.ศ.นี้ว่ามีคำอะไรบ้าง     

 

1. Cute (adj.) แปลว่า น่ารัก ส่วนใหญ่ใช้กับสัตว์ตัวเล็กๆ เด็กเล็ก หรือคนที่เรารู้สึกว่าน่ารัก  

    She is really cute. (ผู้หญิงคนนั้นน่ารักจัง) 

    How cute! (เป็นคำอุทานชื่นชมว่า น่ารักจังเลย!)

 

2. Adorable (adj.) แปลว่า น่ารักเหมือนกับ Cute แต่มีความชื่นชมชัดกว่า เอาไว้ชมได้ทั้งสัตว์เลี้ยง เด็กเล็ก หรือคนทั่วๆ ไป  

    Your son is so adorable. (ลูกชายเธอน่ารักสุดๆ ไปเลย)

    คำนี้ถ้าเป็นกริยา (Verb) คือ Adore แปลว่ารักและชื่นชม

 

3. Lovely (adj.) แปลว่า น่ารัก น่าเอ็นดู ส่วนใหญ่ใช้พูดถึงคนและสิ่งของ หรืออาจจะใช้อธิบายเหตุการณ์ดีๆ ที่ทำให้มีความสุขก็ได้

    My vacation was lovely. (วันหยุดของฉันผ่านไปด้วยดี) 

    I had a lovely time at the park. (ฉันมีช่วงเวลาดีๆ ที่สวนสาธารณะ) 

 

 

4. Pretty (adj.) แปลว่า สวย น่ารัก น่ามอง แต่จะออกเป็นการชมรูปลักษณ์ภายนอกมากกว่า Beautiful ที่ชมได้ทั้งความงามภายนอกและภายใน 

    She is very pretty but not really smart.

 

    แต่ถ้า Pretty ถูกใช้ขยายคำอื่นจะแปลว่า ค่อนข้าง ซึ่งทำหน้าที่เป็นคำวิเศษณ์ (Adverb) 

    I’m pretty sure she has a boyfriend already. (ฉันค่อนข้างแน่ใจว่าเธอมีแฟนแล้ว)

 

5. Attractive (adj.) เป็นคำกลางๆ ที่ใช้ชมคนที่ดูดี มีเสน่ห์ดึงดูด หรือจะใช้พูดถึงความคิดหรือข้อเสนอก็ได้         The idea is very attractive. (ฉันคิดว่าความคิดนี้ก็น่าสนใจเหมือนกันนะ)

    This is a very attractive proposal. (ข้อเสนอนี้ดูดีจริงๆ)

 

6. Gorgeous (adj.) แปลว่า สวย หรูหรา สง่างาม ใช้พูดถึงคนที่สวยและมีเสน่ห์ดึงดูดมากๆ ใช้ชมได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่ส่วนใหญ่จะใช้ชมผู้หญิงมากกว่า

     You look gorgeous in that dress! (เธอดูดีมากๆ ในชุดนั้น)  

 

 

7. Exquisite (adj.) แปลว่า วิจิตร งดงาม อ่อนช้อย ซึ่งสามารถใช้อธิบายได้ทั้งคน (ผู้หญิงที่สวยมาก) อาหาร ไวน์ ภาพวาด หรือประสบการณ์บางอย่างที่มีความงดงามในรายละเอียด 

    The tourists were fascinated with the exquisite scenery. (นักท่องเที่ยวตะลึงกับทัศนียภาพที่งดงาม) 

 

8. Stunning (adj.) แปลว่า น่าทึ่ง น่าประหลาดใจ แต่ถ้าในความหมายของคำว่าสวย หมายถึงความสวยจนอึ้งไปเลย ใช้อธิบายได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

    Scarlett is so stunning!     

 

9. Radiant (adj.) แปลว่า เปล่งประกาย เปล่งปลั่ง มีเสน่ห์ มีพลัง สามารถใช้ในความหมายว่า คนๆ นี้ดูสดใส สุขภาพดีก็ได้

    She was radiant with love. (เธอเปล่งประกายไปด้วยความรัก) 

 

 10. Breathtaking (adj.) ใช้อธิบายสิ่งที่ทำให้เราลืมหายใจ ส่วนใหญ่ใช้อธิบายความงดงามของธรรมชาติ         The scenery is breathtaking. 

 

11. Captivating (adj.) เป็นความสวยที่จับใจ ใช้อธิบายคนหรือสิ่งของที่ทำให้เราหลงใหลจนควบคุมตัวเองไม่ได้ คำกริยาของคำนี้คือ Captive ซึ่งแปลว่า ถูกครอบงำ ไม่สามารถหนีได้ 

 

12. Striking (adj.) หมายถึงความสวยที่จู่โจมเข้ากลางใจเรา และส่งอิทธิพลต่อเราอย่างมาก

    She is naturally striking. (เธอสวยอย่างธรรมชาติ) 

 

13. Alluring (adj.) ใช้อธิบายสิ่งที่ยั่วยวน ดึงดูดใจอย่างอธิบายไม่ถูก หรือมีเสนห์ สามารถใช้กับคนหรือสิ่งของก็ได้ 

    Her perfume is very alluring.

 

14. Appealing (adj.) สิ่งที่ดึงดูดให้เราสนใจ ใช้อธิบายคน สิ่งของ หรือความคิดก็ได้ 

    My girlfriend doesn’t find rock appealing. (แฟนของผมไม่สนใจเพลงร็อค)

 

15. Seductive (adj.) เป็นความสวยในแบบที่มีเสน่ห์ยั่วยวน และดึงดูดใจ 

    He has a seductive voice. (เขามีน้ำเสียงมีเสน่ห์ยั่วยวน)  

 

    40 คำที่ใช้ชมแทนคำว่า VERY GOOD! ในภาษาอังกฤษ

    10 สำนวนไทย ใช้เหมือนอังกฤษเป๊ะ

 

 

16. Drop-Dead (adj.) เป็นคำที่ใช้เน้นความสวย หล่อ มักใช้ร่วมกับคำว่า Gorgeous พอมาอยู่ด้วยกันแล้วก็แปลว่า สวยหรือหล่อจนหัวใจหยุดเต้น สวยแบบวัวตายควายล้มเลย คำนี้ใช้คำคนเท่านั้นเน้อ

    She is drop-dead gorgeous! (เธอสวยจนหัวใจฉันหยุดเต้นไปเลย) 

 

17. A Head turner (n.) ใช้เรียกคนที่สวยหรือหล่อ จนคนอื่นต้องเหลียวหลังมอง

    

18. A Perfect ten (n.) ใช้เรียกคนที่สวยแบบ 10 เต็ม 10 ส่วนใหญ่เป็นคำที่ผู้ชายใช้เรียกผู้หญิง เหมือนเป็นการให้คะแนนเฉพาะรูปลักษณ์ภายนอก จนบางครั้งอาจตีความไปในเชิงลบได้

 

 

 

19. Charming (adj.) 

20. Enchanting (adj.) 

21. Bewitching / Bewitched (adj.) 

    เป็น 3 คำที่มีความหมายเดียวกัน ใช้อธิบายคนที่ดูดี มีเสน่ห์ เหมือนมีมนต์สะกด สามารถใช้กับคนหรือสิ่งของก็ได้ คำว่า Charming ใช้กับผู้ชายก็ได้ เช่น Prince charming ไง 

 

22. Angelic (adj.) เป็นคำที่ใช้อธิบายความงามเหนือมนุษย์ ประหนึ่งนางฟ้านางสวรรค์ 

    She has an angelic smile. (เธอมีรอยยิ้มงดงามดั่งนางฟ้า) 

 

23. Divine (adj.) ปัจจุบันคำนี้ใช้อธิบายสิ่งที่เกี่ยวกับพระเจ้า และความศักดิ์สิทธิ์ แต่คำนี้ใช้อธิบายบางคน หรือบางสิ่งว่าดีมากๆ หรือเป็นที่น่าพอใจได้เช่นกัน 

    The dinner was simply divine. (อาหารค่ำอร่อยมาก)

    

24. A goddess (n.) เป็นคำนามอธิบายผู้หญิงที่สวยเหมือนเทพเจ้า หากเห็นผู้หญิงคนไหนที่รู้สึกว่าทั้งสวย ทั้งมีพลังอำนาจต่อเราก็ใช้คำนี้อธิบายได้เลยจ้ะ   

 

25. Luscious (adj.) ถ้าใช้อธิบายของหวาน คือของหวานที่อร่อย รสชาติเข้มข้น หวาน บางครั้งถูกนำมาใช้อธิบายคนที่มีเสน่ห์แบบเซ็กซี่ 

 

26. Marvelous (adj.) แปลตรงตัวคือ น่าประหลาดใจ น่ามหัศจรรย์ ถ้านำมาอธิบายคน คือ เป็นคนที่ดึงดูดอย่างน่ามหัศจรรย์ น่าเหลือเชื่อ ใช้อธิบายสิ่งของก็ได้

 

27. Sensuous (adj.) เป็นอีกคำที่ใช้อธิบายความงามภายนอกที่ดึงดูด มีเสน่ห์ ยั่วยวน เป็นเรื่องภายนอกล้วนๆ มีความหมายเชิงชู้สาว 

 

 

ชมแต่ผู้หญิงมากไปเดี๋ยวหนุ่มๆ จะงอน สำหรับผู้ชายที่ดูดี คำพื้นฐานคือ

28. Handsome (adj.) ซึ่งแปลว่า หล่อ ดูดี มีเสน่ห์ แต่ในอเมริกาจะไม่ค่อยใช้คำนี้แล้วนะ จะพูดง่ายๆ ว่า Good-looking มากกว่า 

 

29. A hottie (n.) เป็นคำที่ไม่เป็นทางการ เป็นภาษาพูด ใช้เรียกคนที่หล่อมากๆ ว่า 

    Chris Pine is totally a hottie!!

 

30. smoking hot (adj.) คำนี้ใช้อธิบายได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย และมีความหมายแฝงว่า Sexy ได้อีกด้วย ใช้แทนคำว่า A hottie ได้

    He is smoking hot. (เขาโคตรหล่อเลย) 

 

   ส่งท้าย ขอแถมคำว่า Total package (n.) ซึ่งเป็นคำที่ใช้อธิบายผู้ชายหรือผู้หญิงที่มีคุณสมบัติครบเครื่อง ทั้งหน้าตา ความสามารถ แถมยังจิตใจดี ถ้าเจอใครที่ทำให้เรารู้สึกว่าทั้งสวย ทั้งเก่งแถมยังนิสัยดีอีกก็ใช้คำนี้ได้เลย

    My boyfriend is a total package! (แฟนฉันครบเครื่องสุดๆ!) 

 

    สุดยอดลายแทงรวมบทความ IELTS ที่คนเตรียมสอบห้ามพลาด

 

Updated and Edited content by Pattama K

 


สัตว์ ภาษาอังกฤษ Animals


สัตว์ ภาษาอังกฤษ Animals
ภาษาอังกฤษ คำศัพท์ สัตว์

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

สัตว์ ภาษาอังกฤษ Animals

เพลงภาษาอังกฤษ good morning (เพลงสอนเรื่องคำทักทายภาษาอังกฤษ)


เพลงสอนภาษาอังกฤษ เรื่อง การทักทาย ตอนเช้า กลางวัน เย็น
มาฟังเพลงสนุกๆ ได้รับความรู้กันจร้าาาา
ครูโอ๋ สอนภาษาอังกฤษ เพลงอังกฤษ

เพลงภาษาอังกฤษ good morning (เพลงสอนเรื่องคำทักทายภาษาอังกฤษ)

ติว TOEIC Grammar : ตำแหน่งการใช้ Adjective


✿ ถ้าพื้นฐานน้อย แนะนำหาคอร์สติวดีกว่าค่ะ! ✿
👉 สมัครคอร์ส KruDew ติว New TOEIC 2020 (ทดลองติวฟรี!) ➡️ https://bit.ly/2wR4Gmu

Adjective คืออะไร? ใช้ยังไง? ครูดิวสรุปการใช้ Adjective ทั้ง 3 ตำแหน่งมาให้แล้วค่ะ

✿ คอร์ส KruDew ติว TOEIC มีอะไรให้บ้าง? ✿
✅Grammar ที่ใช้สอบ TOEIC ให้ครบ เริ่มสอนจากพื้นฐาน เรียนได้ทุกคนแน่นอน
✅เทคนิคช่วยจำต่างๆ จำง่าย เอาไปใช้กับข้อสอบได้จริงๆ
✅เก็งศัพท์ TOEIC ออกข้อสอบบ่อยๆ ให้ครบ ไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งรวบรวมเอง
✅ อัพเดทข้อสอบ New TOEIC ล่าสุด ครบ 200 ข้อ
✅สามารถสอบถามข้อหรือจุดที่สงสัยได้ตลอด
✅การันตี 750+ (ถ้าสอบแล้วไม่ถึง สามารถทวนคอร์สได้ฟรี)
📣 ถ้าไม่อยากพลาดคลิปดีๆแบบนี้ อย่าลืมกด ❤️ Subscribe ❤️กันนะคะ

ติว TOEIC Grammar  : ตำแหน่งการใช้ Adjective

Ep.7 Adverb ง่ายกว่าที่คิด


คำอะไรก็ตามที่เอาไปอธิบายกริยาหรือverb เรียกว่า Adverb ส่วนมากจะวางอยู่หลังverb เช่น walk slowly เดินอย่างช้าๆ เดินมาก่อน ช้าๆตามหลัง เหมือนพูดภาษาไทย จะเอา adverb ไปขยายคำไหนก็เอาตามหลังคำนั้นมาเลยง่ายๆ
แต่ ถ้าเอา adverb ไปขาย adjective ให้วาง adverb หน้า adjective ที่ต้องการขยาย เช่น so beautiful = so เป็น adverb มาก่อน ขยาย beautiful กลายเป็นมากขยายสวย= สวยมาก

Ep.7 Adverb ง่ายกว่าที่คิด

Kris Kiattisak – ไปโง่ …. ให้เสร็จก่อน เจ๊ !!!


กลับไปเลี้ยงลูก เลี้ยงผัว เหอะ … เจ๊ … ???\r
พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ไม่ดี … ไม่ใช่ปมด้อย เพราะไม่ใช่ภาษาของเรา … (ถ้าเป็นชาวบ้าน) แต่การเป็นนายกฯ ถ้าไม่พร้อม ก็อย่าคิดว่าจะอ่านโพย ลิปซิ้งค์ได้ตลอด … ความสามารถของผู้นำ เป็นภาพลักษณ์ของประเทศ … กลับไปเลี้ยงลูกเถอะเจ๊ … นะ ???

Kris Kiattisak - ไปโง่ .... ให้เสร็จก่อน เจ๊ !!!

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ คําวิเศษณ์ภาษาอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *