คุณศัพท์: คุณกำลังดูกระทู้
ADJECTIVES
adjective ออกเสียง แอ็ดจิกทิฟวฺ
*adjective คือ คำคุณศัพท์ ใช้เพื่อขยายหรือให้รายละเอียดเพิ่มเกี่ยวกับคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ ฯลฯ
หลักการใช้
1. ตำแหน่งของคุณศัพท์
ภายในประโยค คำคุณศัพท์มีตำแหน่งการวางได้ 3 จุดคือ
(1) คุณศัพท์ขยายนาม ในกรณีนี้คำคุณศัพท์วางไว้หน้าคำนาม แสดงว่าเป็นคำขยายคำนามนั่นเอง เช่น
adjective noun
a young reporter
an old professor
the funniest game
this narrow canal
his fierce dog
คุณศัพท์ขยายคำนามอาจจะมีมากกว่า 1 คำก็ได้ เช่น
Adjectives noun
a thin young reporter
a handsome old professor
this very narrow canal
ตัวอย่าง
“What happened to you last night ?”
เกิดอะไรขึ้นกับคุณเมื่อคืน
“I was bitten by a fierce dog.”
นมถูกสุนัขที่ดุร้ายกัด
“Whom did you talk to yesterday ?”
คุณคุยกับใครเมื่อวานนี้
“I talked to a thin young reporter.”
ผมคุยกับนักข่าวหนุ่มร่างผอม
2. คุณศัพท์อยู่หลังกริยา BE .ในกรณีนี้หน้าคุณศัพท์จะมี Verb to be เรียกหน้าที่ของคุณศัพท์แบบนี้ได้ว่า complement ซึ่งเป็นการบรรยายลักษณะของประธานของประโยค
ตัวอย่าง
“What’s your sister like?”
น้องสาวของคุณมีรูปร่างลักษณะอน่างไร
“She’s tall and slim.”
หล่อนรูปร่างสูงและเอวบางร่างน้อย
“Is she beautiful?”
หล่อนสวยหรือเปล่า
“No, but she’s clever.”
ไม่ แต่หล่อนฉลาด
“Is she married?”
หล่อนแต่งงานแล้วยัง
“No, she’s single.”
ยัง หล่อนเป็นโสด
3. คุณศัพท์อยู่หลัง LINKING VERBS ได้แก่ become, look, seem, feel, appear, stay, get (=become), sound, taste, remain
ตัวอย่าง
Our friends seem ready to help.
เพื่อนของเราดูเหมือนว่าพร้อมจะให้การช่วยเหลือ
The weather will stay fine for a few days.
อากาศจะยังคงแจ่มใสต่อไปอีก 2 – 3 วัน
He looks unhappy whenever he has to study.
เขาดูไม่มีความสุขเมื่อใดก็ตามที่เขาต้องเรียน
Bread is becoming expensive in this town.
ขนมปังกำลังมีราคาแพงขึ้นในเมืองนี้
This mango tastes sour.
มะม่วงผลนี้รสชาติเปรี้ยว
He still remains popular.
เขายังคงเป็นที่รู้จักของผู้คน
2. ตำแหน่งอื่นของคำคุณศัพท์
นอกจากตำแหน่งตามปกติของคำคุณศัพท์ตามที่กล่าวมาในข้อ 1 แล้ว ยังมีบางกรณีที่คำคุณศัพท์วางในตำแหน่งที่ต่างไปจากกฎเกณฑ์ข้างบนคือ
1. คุณศัพท์อยู่ท้าย the
ลักษณะนี้พบได้ไนคำคุณศัพท์ที่ใช้เพื่อหมายถืงระดับขึ้นของคน (a class of people) เช่น
the young คนหนุ่มสาว
the rich คนร่ำรวย
the old คนชรา
the employed คนที่ได้รับการว่าจ้าง
the unemployed คนที่ไม่ได้รับการว่าจ้าง, คนว่างงาน
the privileged คนที่ได้สิทธิพิเศษ
the poor คนยากจน
the blind คนตาบอด
the dumb คนใบ้
the Japanese คนญี่ปุ่น
the English คนอังกฤษ
ตัวอย่าง
The rich should help the poor.
คนรวยควรจะช่วยเหลือคนจน
The young should look after the old.
คนหนุ่มสาวควรจะดูแลคนชรา
The employed are happier than the unemployed.
คนที่ได้รับการว่าจ้างมีความสุขกว่าคนที่ไม่ได้รับการว่าจ้าง
The English have a lot to learn from the Japanese.
คนอังกฤษต้องเรียนรู้อีกมากจากคนญี่ปุ่น
2. คุณศัพท์อยู่ท้ายกรรมของประโยค
คุณศัพท์ที่ใช้ในกรณีนี้จะอยู่ท้ายกรรม (object) ของประโยค เรียกว่า object complement คำกริยาที่เกี่ยวข้องกับหลักเกณฑ์ข้อนี้ด้แก่ get, keep, make, find, paint, set, turn, wish, like
ตัวอย่าง
I like my coffee black.
ผมซอบกาแฟดำ
Don’t get your clothes dirty.
อย่าทำให้เสื้อผ้าของคุณสกปรก
My sister keeps her room tidy.
น้องสาวรักษาห้องของเธอเป็นระเบียบเรียบร้อย
They set the prisoners free.
พวกเขาปลดปล่อยนักโทษเป็นอิสระ
The cold weather turned the leaves red.
อากาศหนาวทำให้ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดง
He wished himself dead.
เขาอยากตาย
We painted the door white.
พวกเราทาสีประตูเป็นสีขาว
I found the box empty.
ผมพบกล่องว่างเปล่า
3. คุณศัพท์อยู่ท้ายนามหรือสรรพนามที่มันขยาย
สรรพนาม (pronouns) ที่ใช้ในกรณีนี้ได้จะต้องเป็น indefinite pronouns นั่นคือ สรรพนามที่ลงท้ายด้วย -body, -one, -thing
ตัวอย่าง
The chairman asked the people present at the meeting to express their views.
= The chairman asked the people who were present at the meeting to express their views.
ประธานได้ขอร้องให้ผู้เข้าประชุมแสดงความคิดเห็น
The boys involved in the fight were sent away to another
school.
=The boys who were involved in the fight were sent away to another school.
เด็กนักเรียนชายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตีกันถูกส่งไปเรียนโรงเรียนอื่น Mary hopes to marry someone rich.
=Mary hopes to marry someone who is rich.
แมรี่หวังที่จะแต่งงานกับคนที่ร่ำรวย
Did you buy anything nice at the store?
=Did you buy anything which is nice at the store?
คุณซื้อสิ่งสวยๆ งามๆ ที่ร้านบ้างหรือเปล่า
3. ลำดับของคุณศัพท์
ท่านผู้อ่านอาจจะถามว่า ถ้าหากมีคุณศัพท์ที่ให้ข้อมูลต่างๆ นานาหลายคำ จะเรียงลำดับคุณศัพท์เหล่านี้ไว้หน้าคำนามอย่างไรจึงจะถูกต้อง อาทิ
คุณศัพท์บอก
ทัศนะความเห็น (opinion) เช่น beautiful, ugly
ขนาด (size) เช่น big, large, small
รูปร่าง (shape) เช่น thin, fat, slender
สี (colour) เช่น black, white, red
อายุ (age) เช่น old, new, ancient
จุดกำเนิด (origin) เช่น French, Siamese, English
จุดประสงค์ (purpose) เช่น shopping, running, jogging
วัสดุ (material) เช่น silk, plastic, wooden
คำตอบ คือ ให้เรียงคุณศัพท์เหล่านี้ไว้หน้าคำนามดังนี้
opinion —> size —> age —> shape —> colour—> origin —> material —> purpose —> NOUN
ตัวอย่าง
A tall Thai medical worker went abroad yesterday by Thai Airways.
นักการแพทย์ชาวไทยร่างสูงคนหนึ่งได้เดินทางไปต่างประเทศเมื่อวานนี้ โดยสายการบินไทย
“Do you see my old brown Persian horse ?”
“No, I don’t.”
คุณเห็นม้าพันธุ์เปอร์เซียสีนํ้าตาลตัวแก่ๆ ของผมไหม
ไม่เห็นเลยครับ
Come and see my small brown Japanese car.
มาดูรถยนต์ญี่ปุ่นสีน้ำตาลคันเล็กของผมสิ
4. มีคำคุณศัพท์บางคำ อาทิ asleep, alone, awake, afraid, ill, well คำคุณศัพท์เหล่านี้วางไว้หลังคำกริยา ไม่วางไว้หน้าคำนาม ซึ่งขัดกับการใช้คุณศัพท์ดังกล่าวมาเบื้องต้น คือ Adjective + Noun ฉะนั้นโครงสร้างประโยคที่มีคุณศัพท์ที่เอ่ยมาทั้ง 6 คำนี้ จึงต้องเป็น
VERB + ADJECTIVE
(โครงสร้างนี้บังคับใช้เฉพาะกับคำคุณศัพท์ทั้ง 6 คำในข้อ 4 เท่านั้น)
ตัวอย่าง He is asleep. เขานอนหลับ
X He is an asleep man.
We are alone. เราอยู่กันตามลำพัง
X We are alone people.
These animals are alive. สัตว์เหล่านี้ยังมีชีวิตอยู่
X They are alive animals.
หากจะนำเอาคำเหล่านี้มาวางไว้หน้าคำนาม (Adjective + Noun) จะต้องเปลี่ยนรูปคำเหล่านี้ใหม่กล่าวคือ ใช้
sleeping แทน asleep living แทน alive
frightened แทน afraid sick แทน ill
healthy แทน well
ตัวอย่าง Do you see that sleeping man?
คุณเห็นผู้ชายคนที่กำลังหลับนั่นไหม
Sick children cannot go to school.
เด็กที่ป่วยไม่สามารถไปโรงเรียนได้
Healthy people are happy.
คนที่สุขภาพดีมีความสุข
Easily frightened animals die young.
สัตว์ที่ขี้กลัวง่ายตายเร็ว
Living animals are fighting for survival.
สัตว์ที่มีชีวิตต่อสู้เพื่อความอยู่รอด
5. กรณีของหน่วยวัด
ในกรณีของหน่วยวัด (units of measurement) คำคุณศัพท์ผสม (compound adjectives คอมพาวดฺ แอ็ดเจ็กทิฟสฺ) ที่เป็นหน่วยวัดเหล่านี้ มักวางไว้หน้าคำนาม ได้แก่
อายุ (age) เช่น a three-year-old building (อาคารอายุ 3 ปี)
ปริมาตร (volume) เช่น a two-litre car (รถยนต์จุน้ำมัน 2 ลิตร)
ความยาว (length) เช่น a twelve-inch ruler (ไม้บรรทัดความยาว 12 นิ้ว)
ราคา (price) เช่น a fifty-baht shirt (เสื้อเชิ้ต ราคา 50 บาท)
น้ำหนัก (weight) เช่น a five-kilo bag (ถุงบรรจุ 5 กิโล)
พื้นที่ (area) เช่น a twenty-rai farm (ฟาร์ม เนื้อที่ 20 ไร่)
ระยะเวลา (duration) เช่น a four-hour meeting (การประชุม ที่ใช้เวลา 4 ชั่วโมง)
ความลึก (depth) เช่น a six-foot hole (หลุมลึก 6 ฟุต)
เวลา (time) เช่น a five-hour walk
(การเดินที่ใช้เวลา 5 ชั่วโมง)
ระยะทาง (distance) เช่น a twenty-kilometre run (การวิ่งระยะทาง 20 กิโลเมตร)
ตัวอย่าง
She’s a seventyTyear-old woman. (1)
=The woman is seventy years old. (2)
หญิงคนนี้อายุ 70 ปี
It is a twelve-inch ruler.
=The ruler is twelve inches long.
ไม้บรรทัดยาว 12 นิ้ว
6. รูปของคำคุณศัพท์
การสังเกตว่าคำนั้นๆ จะเป็นคำคุณศัพท์หรือไม่ ให้คำนึงถึงหลักเกณฑ์ดังนี้
1. คำคุณศัพท์จำนวนมากสังเกตได้จากส่วนประกอบท้ายคำ (suffixes)
ได้แก่
Suffixes
Adjectives
-al
actual
physical
แท้จริง
ทางกายภาพ
Final
special
ท้ายสุด
พิเศษ
-ent
ancient
urgent
โบราณ
ด่วน
frequent
excellent
บ่อย
ดีเลิศ
-ous
famous
various
มีชื่อเสียง
หลายหลาย
serious
conscious
เคร่งเครียด
รู้สึกตัว
-ic
basic
electric
พื้นฐาน
ทางไฟฟ้า
atomic
heroic
ด้านอะตอม
เป็นวีรบุรุษ
-y
angry
hungry
โกรธ
หิว
dirty
funny
สกปรก
น่าขัน
-ive
active
attractive
กระฉับกระเฉง
มีเสน่ห์
expensive
sensitive
แพง
รู้สึกไว
-ed
excited
related
ตื่นเต้น
เกี่ยวพัน
limited
confused
จำกัด
สับสน
-ble
possible
sensible
เป็นไปได้
มีเหตุผล
probable
enjoyable
อาจเป็นได้
น่าสนุก
-ful
beautiful
skillful
สวย
ชำนาญการ
careful
faithful
ระมัดระวัง
ซื่อสัตย์
-an
American
Russian
เป็นอเมริกัน
เป็นรัสเซีย
human
German
เป็นมนุษย์
เป็นเยอรมัน
-ing
amusing
surprising
น่าขบขัน
น่าประหลาดใจ
willing
disappointing
เต็มอกเต็มใจ
น่าผิดหวัง
-less
careless
harmless
ประมาท
ไม่มีอันตราย
childless
senseless
ไม่มีบุตร
สมองทึบ
-ar
popular
familiar
เป็นที่นิยมรักใคร่
คุ้นเคย
regular
particular
สม่ำเสมอ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
-like
childlike
ladylike
เหมือนเด็ก
อย่างสุภาพสตรี
womanlike
flowerlike
เหมือนผู้หญิง
เหมือนดอกไม้
-ish
childish
sheepish
ราวกับเด็ก
ขี้อาย
foolish
snobbish
โง่
วางโอ่ยะโส
(2) คำคุณศัพท์บางคำไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ในข้อ (1) โดยมากมักเป็นคำพยางค์เดียว ได้แก่
large ใหญ่
small เล็ก
old ชรา
young หนุ่มสาว
old เก่า
new ใหม่
long ยาว
short สั้น
hard แข็ง
soft อ่อน
rich รวย
poor จน
hot ร้อน
cold หนาว
black สีดำ
white สีขาว
good ดี
bad เลว
(3) คำนามที่เติมส่วนประกอบท้ายคำด้วย -ly ถือว่าเป็นคำคุณศัพท์ ได้แก่
นาม คุณศัพท์
brother brotherly เป็นพี่น้อง
court courtly ประจบประแจงเอาใจ
earth earthly แห่งโลก
coward cowardly อย่างขลาดเขลา
father fatherly อย่างบิดา
friend friendly อย่างมิตร
heaven heavenly จากฟากฟ้า, จากสวรรค์
king kingly อย่างราชา
man manly อย่างลูกผู้ชาย
master masterly อย่างหลักแหลม
mother motherly อย่างมารดา
neighbor neighborly อย่างเพื่อนบ้าน
saint saintly ใจเมตตาแบบนักบุญ
scholar scholarly อย่างรอบรู้
woman womanly เหมือนผู้หญิง
world worldly แห่งโลก
knight knightly แบบขุนนางหรืออัศวิน
leisure leisurely อย่างสบายๆ
prince princely ราวกับเจ้านาย
queen queenly ราวกับราชินี
(4) คำต่อไปนี้ทำหน้าที่ได้ทั้งคำคุณศัพท์และคำวิเศษณ์ ได้แก่
fast เร็ว (adj.) อย่างเร็ว (adv.)
half ครึ่ง (adj., adv.)
hard ยาก, แข็ง, หนัก, ขยัน (adj.) อย่างหนัก (adv.)
late สาย (adj, adv.)
straight ตรง (adj., adv.)
ตัวอย่าง
(คำเน้นตัวหน้าเป็น adjective ส่วนตัวหลังเป็น adverb)
The plane made a fast trip because it went fast.
เครื่องบินเดินทางได้เร็วเพราะมันบินอย่างเร็ว
You get only half credit for a half-finished test.
คุณได้คะแนนเพียงครึ่งหนึ่งสำหรับการสอบที่สำเร็จเพียงครึ่งเดียว
A hard worker works hard.
คนงานที่ขยันทำงานอย่างหนัก
A late student arrives late.
นักเรียนที่มาเรียนสายก็มาถึงสาย
A straight path goes straight to its end.
เส้นทางตรงพุ่งตรงไปยังปลายทาง
หมายเหตุ คำว่า hardly และ lately เป็นคำวิเศษณ์ มีความหมายต่างไปจาก hard และ late ที่ยกมาข้างต้น กล่าวคือ hardly = แทบจะไม่, lately = เมื่อเร็วๆ นี้
ตัวอย่าง
If you study hard, you will learn.
But if you hardly study, you will not learn.
ถ้าคุณขยันเรียน คุณก็จะเรียนรู้
แต่ถ้าคุณไม่ยอมเรียน คุณก็จะไม่เรียนรู้
Laura often comes to class late.
She has moved here lately.
ลอร่ามาเข้าชั้นเรียนสาย
หล่อนได้ย้ายมาอยู่ที่นี่เมื่อเร็วๆ นี้
(5) คำว่า near เป็นได้ทั้งคำคุณศัพท์ และคำวิเศษณ์ และยังเป็นคำบุพบทด้วย แปลว่า “ใกล้” ส่วน nearly เป็นคำวิเศษณ์ แปลว่า “เกือบจะ” (almost)
ตัวอย่าง
John is a near neighbor of mine. He lives near me.
จอห์นเป็นเพื่อนบ้านข้างเคียงของผม เขาพักอาศัยอยู่ใกล้ผม
Mr.Brown nearly died of pneumonia.
นายบราวน์เกือบจะตายด้วยโรคปอดบวม
ที่มา:รองศาสตราจารย์ทณุ เตียวรัตนกุล
(Visited 53,980 times, 1 visits today)
Table of Contents
[NEW] Adjective คืออะไร พร้อมวิธีการใช้งาน A-Z | คุณศัพท์ – NATAVIGUIDES
Adjective คืออะไร – adjective หรือคำคุณศัพท์มีหน้าที่ขยายความหมายคำนาม ให้เราเห็นภาพ เข้าใจละเอียดคำนามนั้นๆ มากขึ้น เป็นคำที่ใช้บ่อยมากในประโยคต่างๆ วันนี้เราจะมาเเนะนำประเภคของ adjective พร้อมวิธีการใช้งานด้วยกันดังต่อไปนี้
คําคุณศัพท์ adjective คืออะไร ??
ในประโยคต่างๆ เราจะเห็นหน้าที่ของ adjective หรือคำคุณศัพท์คือขยายความหมายให้คำนาม
- เช่นในภาษาไทยเราก็มีคำนามเช่น คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ เพื่อบอกให้รูว่ามีลักษณะเป็นเช่นไร เช่น สูง ต่ำ ดำ ขาว เป็นต้น ในภาษาอังกฤษ adjective ก็มีหน้าที่เช่นกัน
- ยกตัวอย่างเช่น เด็กผู้ชาย ตัวเล็ก เราจะพูดภาษาอังกฤษว่า The boy is small ในนั้น small จะเป็นคำคุณศัพท์ ส่วน boy เป็นคำนามในประโยคนี้
- เช่นอยากบอกว่า แมว มีสีดำและขาว เราจะพูดภาษาอังกฤษว่า A cat is black and white ในนั้น black กับ white เป็นคำคุณศัพท์เกี่ยวกับสีเพื่อจะอธิบายเพิ่มเติมให้สำหรับคำนาม cat นั้น
ตำแหน่งของคำคุณศัพท์
ปกติเเล้วคุณจะเห็นว่า adjective บรรจุอยู่สามตำแหน่งหลักๆดังนี้
- วางหน้าคำนาม
- หลัง Verb to be
- หลัง Linking verb
เเล้วในเเต่ละตำแหน่งนั้น adjective ได้ใช้งานอย่างไร รายละเอียดจะมีดังนี้
1. Adjective วางหน้าคำนาม:
เป็นวิธีการพูดเเบบธรรมชาติ ให้ไม่ซ้ำกัน ดูจากประโยคตัวอย่างภาษาอังกฤษนี้จะได้เข้าใจง่ายขึ้น
เช่น
— The black dog is running. เเปลว่า หมา สีดำ กำลังวิ่ง
— The beautiful girl is in the room. เเปลว่า สาว สวย อยู่ ใน ห้อง
— I can’t see the green bird. เเปลว่า ฉัน ไม่สามารถ มองเห็น นก สีเขียว
2. Adjective ตามหลัง Verb to be:
คือ Adjective จะได้วางไว้หลัง verb to be (be, is, am, are, was, were, been)
เช่น
— It will be good for you. เเปลว่า มัน จ ะดี สำหรับ คุณ
— The girl is lovely. เเปลว่า เด็กหญิง น่ารัก
— She was happy yesterday. เเปลว่า เมื่อวาน หล่อน มีความสุข
3. Adjective ตามหลัง Linking verb:
หมายถึง Adjective วางไว้หลัง Linking verb (กริยาเชื่อม)
เช่น
— You look good today. เเปลว่า วันนี้ คุณ ดู ดี
— That sounds nice. เเปลว่า นั่น ฟังดู ดีจัง
— I feel sorry for that boy. เเปลว่า ฉัน รู้สึก สงสาร เด็ก คนนั้น
ไม่ได้ยากใช่ไหมคะกับวิธีการใช้ Adjective เเละการวางตำแหน่งของคำคุณศัพท์ในประโยค มัจะเป็นไวยากรณ์ภาษาอังกฤษส่วนหนึ่งที่เราควรจดไว้ เพราะในคำพูดคุยสื่อสารทั่วไปมักจะใช้กันบ่อยมาก
เมื่อคุณอยากชมใครคนหนึ่งหรืออยากเเสดงความคิดเห็นของตัวเองในเรื่องใดเรื่องหนึ่งการที่เราใช้ Adjective จะช่วยคุณพูดได้ง่าย เเละคำพูดฟังราบรืนมากขึ้น
ระดับของ Adjective
คุณรู้ไหมว่า Adjective แบ่งออกเป็น 3 ระดับด้วยกัน คือ
- A positive adjective หรือคุณศัพท์ขั้นปกติ/ ขั้นเท่ากัน
- Comparative Adjective หรือ คุณศัพท์ขั้นกว่า
- Superlative adjective หรือ คำคุณศัพท์ขั้นที่สุด
เพื่อขยายความหมายเเละลักษณะให้สำหรับคำนามให้อย่างเหมาะสมเพราะบ้างที่เราจะใช้ Adjective เพื่อเทียบระกว่างสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพื่อมีการเน้นย่้ำหรือบ้างที่เราใช้ Adjective เพื่อไม่เปรียบเทียบกับใครที่ไหน เป็นต้น คือขึ้นอยู่กับเป้าหมายในคำพูดของเรา เราจะใช้ ระดับของ Adjective ให้อย่างเหมาะสมนะคะ
ยกตัวอย่างกับ A positive adjective
หรือคุณศัพท์ขั้นปกติ/ ขั้นเท่ากัน ให้คุณเห็นภาพชัดขึ้นเช่น A cat is big. เเปลว่า แมวตัวหนึ่ง ใหญ่, A man is tall. เเปลว่า ชายคนหนึ่ง ตัวสูง ้เราจะเห็นว่าในสองประโยคนั้นเราตั้งใจใช้คำคุณศัพท์บรรยายสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยไม่เปรียบเทียบกับใครที่ไหน
ยกตัวอย่างกับ Comparative Adjective
หรือ คุณศัพท์ขั้นกว่า เช่น A man is taller than a woman. ผู้ชาย สูงกว่า ผู้หญิง เราจะเห็นเลยว่าคนพูดอยากเน้นย่้ำเรื่องผู้ชายคนนั้น สูงกว่าผู้หญิงคนนั้น ในนั้นคำว่า สูง “taller”เป็น การเปรียบเทียบสิ่งสองสิ่ง ว่าสิ่งไหนสูงกว่ากัน
ยกตัวอย่างกับ Superlative adjective
หรือ คำคุณศัพท์ขั้นที่สุด เป็นการใช้ Adjective เพื่อการเปรียบเทียบตั้งแต่สามขึ้นไป แล้วปรากฏว่า มีสิ่งหนึ่งที่ สูง ต่ำ สั้น ยาว เล็ก ใหญ่….กว่าเพื่อนเลย เช่น Somchai is the tallest man in class. สมชายตัวสูงที่สุดให้ห้อง (เฉพาะห้องนี้นะครับ) เราจะเห็นว่าคนพูดอยากเน้นย้ำเรื่องความสูงระกว่างหลายคนในห้องเรียนนั้น เเละนำนามคือ คุณ Somchai เป็นคนที่สูงสุดเเล้ว
คุณสามารถลองตั้งประโยคที่มีใช้ Adjective ในทั้งสาม ระดับขั้นปกติ, ขั้นกว่า, ขั้นที่สุด เพื่อคุ้นกับวิธีการใช้งาน ใช้ได้คล่องมากขึ้นะคะ
ชนิดของ Adjective
คุณสงสัยไหมว่าปกติเเล้ว Adjective ได้เเบ่งเป็นชนิดอะไรบ้าง ??? จริิงๆ เเล้วเรามีถึง 11 ชนิด Adjective ที่เราควรทราบเพื่อเเยกให้ออกเเละเอามาใช้งานได้ถูกต้องดังนี้
Adjective ในภาษาอังกฤษแบ่งออกเป็น 11 ชนิด คือ
- Descriptive Adjective (คุณศัพท์บอกลักษณะ)
- Proper Adjective (คุณศัพท์บอกสัญชาติ)
- Quantitative Adjective (คุณศัพท์บอกปริมาณ)
- Numeral Adjective (คุณศัพท์บอกจำนวนแน่นอน)
- Demonstrative Adjective (คุณศัพท์ชี้เฉพาะ)
- Interrogative Adjective (คุณศัพท์บอกคำถาม)
- Possessive Adjective (คุณศัพท์บอกเจ้าของ)
- Distributive Adjective (คุณศัพท์แบ่งแยก)
- Emphasizing Adjective (คุณศัพท์เน้นความ)
- Exclamatory Adjective (คุณศัพท์บอกอุทาน)
- Relative Adjective (คุณศัพท์สัมพันธ์)
ขอยกตัวอย่างประโยคสั้นๆ ในเเต่ละชนติของ Adjective ให้คุณได้เห็นภาพง่ายขึ้นเช่น
1. Descriptive Adjective
คือ “คำคุณศัพท์บอกลักษณะ” ที่เจอบ่อยประกอบด้วย: good, bad, tall, shot, black, fat, thin, fat, thin, clever, foolish, poor, rich, brave, cowardly, pretty, angry, happy, sorry, etc.
- ตัวอย่างเช่น
A clever pupil can answer the difficult problem. เเปลว่า นักเรียนที่ฉลาดสามารถตอบปัญหายากได้ ในประโยคนี้คำ Adjective ที่บอกลักษณะคือคำว่า “clever” (ฉลาด)
2. Proper Adjective
คือ “คุณศัพท์บอกสัญชาติ” หรือ Proper noun (เป็นนามเฉพาะ)
- นั่นเอง เช่น
Thailand คือ Proper noun เเละ Thai คือ Proper Adjective (เป็นคุณศัพท์บอกสัญชาติ) คำแปล คือ ไทย, คนไทย
- หรืออีกตัวอย่างเช่น The English language is used by every nation. เเปลว่า ภาษาอังกฤษใช้ในทุกประเทศ ในนั้น English เป็นคำคุณศัพท์บอกสัญชาติ
3. Quantitative Adjective
คือ “คำคุณศัพท์บอกปริมาณ” ได้แก่ much, many, little, some, any, enough, half, great, all, whole, sufficient, etc.
- Linda did not give any money to her younger brother. เเปลว่า
ลินดาไม่ได้ให้เงินแก่น้องชายของหล่อน ในนั้นคำว่า any เป็นคำคุณศัพท์บอกปริมาณ
4. Numeral Adjective
คือ “คำคุณศัพท์บอกจำนวนแน่นอน” แบ่งเป็นชื่อย่อยได้ 3 ชนิด คือ
- 4.1 Cardinal Adjectives ได้แก่ one, two, three, four, five, six, seven, etc.
- 4.2 Ordinal Adjectives คือ “คำคุณศัพท์ที่ใช้ขยายนามเพื่อบอกลำดับที่ของนามนั้นๆ ได้แก่ first, second, third, fifth, sixth, seventh, etc.
- 4.3 Multiplicative Adjectives คือ “คุณศัพท์บอกจำนวนทวีของนาม” ได้แก่ double, triple, fourfold
5. Demonstrative adjective
คือ คุณศัพท์ชี้เฉพาะหรือนิยมคุณศัพท์ ได้แก่ this, that (ใช้กับนามเอกพจน์), these, those (ใช้กับนามพหูพจน์) such, same
- เช่น I invited that man to come in. เเปลว่า ฉันได้เชิญผู้ชายคนนั้นให้เข้ามาข้างใน ในนั้นคำว่า that เป็นคุณศัพท์ชี้เฉพาะวางไว้หน้านาม
6. Interrogative adjective
คือ คุณศัพท์บอกคําถามได้แก่ what, which, whose
- เช่น Whose shoes are these? เเปลว่า รองเท้านี้เป็นของใคร ในนั้น whose เป็นคุณศัพท์บอกคําถามอยู่หน้าประโยค
7. Possessive adjective
คือ คุณศัพท์บอกเจ้าของได้แก่ my, our, your, his, her, its และ their
- เช่น: This is my table. เเปลว่า นี่คือโต๊ะของฉัน
ในนั้น my เป็นคุณศัพท์บอกเจ้าของวางไว้หน้านาม
8. Distributive
คือ คุณศัพท์แบ่งแยก ได้แก่ each(แต่ละ), every(ทุกๆ), either(ไม่อันใดก็อันหนึ่ง), neither(ไม่ทั้งสอง)
- เช่น Every soldier is punctually in his place. เเปลว่า ทหารทุกคนเข้าประจําที่ของตัวตรงเวลาดี ในนั้น every เป็นคุณศัพท์แบ่งแยกมาขยายนาม
9. Emphasizing Adjective
คือ คุณศัพท์เน้นความได้แก่ own(เอง),very(ที่แปลว่า นั้น,นั้นเอง,นั้นจริงๆ)
- เช่น He is the very man who stole my wrist watch last night.เเปลว่า เขาคือชายผู้ซึ่งได้ขโมยนาฬิกาข้อมือของฉันไปเมื่อคืนนี้ ในนั้น very เป็นคุณศัพท์เน้นความขยายนามที่ตามหลังให้มีนําหนักขึ้น
10. Exclamatory Adjective
คือ คุณศัพท์บอกอุทานได้แก่ what เช่น
- What an idea it is! เเปลว่า มันเป็นความคิดอะไรกันหนอ!
11. Relative Adjective
คือ คุณศัพท์สัมพันธ์ ได้แก่ what(อะไรก็ได้),whichever(อันไหนก็ได้)
เช่น He will read what book he wishes. เเปลว่า แซมจะอ่านหนังสืออะไรก็ได้ที่เขาปราถนา (จะอ่าน) ในนั้นคำว่า what ป็นคุณศัพท์สัมพันธ์ ไปขยายนามที่ตามหลัง และในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เชื่อมประโยคหน้าและประโยคหลังให้กลมกลืนกันอีกด้วย
ใน 11 ชนิดของ Adjective นั้นมี 7 ชนิดที่ใช้บ่อยมาก ควรจดจำไว้ได้เเก่ Descriptive, Quantitative, Demonstrative, Possessive, Interrogative, Distributive, Articles ต้องไม่พลาดนะคะ
คำคุณศัพท์ที่ใช้บ่อย 70 คำ พร้อมคำอ่าน คำแปล
1absentแอ๊บเซินทขาด (เรียน, งาน)2afraidอะเฟรดกลัว3backแบ๊คหลัง4badแบดเลว5beautifulบิ๊วทิฟุลสวย6betterเบ็ทเทอะดีกว่า7bigบิกใหญ่8blackแบล็คดำ9boringบ๊อริงน่าเบื่อ10brightไบร๊ทสว่าง, ฉลาด11broadบรอดกว้าง12brokenโบร๊เคินแตก13cloudyคล๊าวดิมีเมฆมาก14coldโคลดหนาว15coolคูลเย็น16crazyเคร๊สิบ้าคลั่ง17curlyเค๊อลิหยิก18gentleเจ็นเทิลอ่อนโยน19gladแกลดดีใจ20goodกุดดี21grayเกรสีเทา22greatเกรทเยี่ยม23happyแฮ๊พพิมีความสุข24hardฮาดแข็ง, ยาก25easyอี๊สิง่าย26emptyเอ็มทิว่างเปล่า27excellentเอ็กซะเลินทยอดเยี่ยม28excitedอิกไซ๊เท็ดตื่นเต้น29expensiveอิกซเป็นซิฝแพง30famousเฟ็เมิสมีชื่อเสียง31fastฟาสทเร็ว32fatแฟ็ทอ้วน33faultฟ๊อลทเท็จ34finalไฟ๊เนิลสุดท้าย35fineไฟนดี36firstเฟิสทลำดับแรก37freeฟรีอิสระ, เปล่า38freshเฟร็ชสดชื่น39friendlyเฟร็นลิเป็นมิตร40fullฟุลเต็ม41funnyฟั๊นนิตลก
and more…
42noisyน๊อยสิมีเสียงดัง43oldโอลดแก่44perfectเพ๊อเฟ็คทสมบูรณ์แบบ45poorพอจน46prettyพริททิสวย47quickควิกเร็ว48quietไคว๊เยิทเงียบ49largeลาจกว้าง50lastลาสทสุดท้าย, ..ทีแล้ว51lateเลทสาย52lazyเล๊สิขี้เกียจ53leftเล็ฟทซ้าย54lightไลทสว่าง55littleลิ๊ทเทิลเล็ก56longลองยาว57looseลูสหลวม58loudลาดเสียงดัง59lowโลต่ำ60luckyลัคคิโชคดี61sadแซดเศร้า62safeเซฟปลอดภัย63shortชอทสั้น64slowสโลช้า65smallสมอลเล็ก66tallทอลสูง67thickธิคหนา68thinธินบาง, ผอม69tightไททแน่น70tinyไท๊นิเล็ก
ว่ายังไงบ้างคะคุณ กับบทความ Adjective คืออะไร พร้อมวิธีการใช้งาน A-Z หวังว่าคุณจะได้เห็นประโยชน์ของบทความนี้และอย่าลืมแชร์ให้เพื่อนๆ ได้ทราบด้วยเพื่อเรียนรู้ไปซึ่งกันละกัน ช่วยการเรียนภาษาอังกฤษได้สนุกและมีคุณภาพที่ดีที่สุดนะคะ
คำคุณศัพท์ 100 คำ ( 100 Adjectives )
คำคุณศัพท์ adjective คืออะไร
คำตอบง่ายๆ ก็คือ คำคุณศัพท์ (adj) ขยาย คำนาม …จบ! แต่เพื่อให้เข้าใจลึกซึ้งกว่านี้ เชิญอ่านกันต่อนะครับ
คำคุณศัพท์คือคำที่เติมหน้าคำนาม noun เพื่ออธิบายถึงลักษณะหรือสภาพของคำนามนั้น
คำคุณศัพท์มีหลายประเภท แต่ที่ใช้บ่อยที่สุดจะเป็นเรื่อง คำคุณศัพท์ลักษณะ Descriptive adjective
เช่น big ใหญ่ expensive แพง yellow สีเหลือง tasty อร่อย beautiful สวย
ลองดูรายละเอียดของประเภทคำคุณศัพท์หลักๆ ต่อไปนี้
Descriptive Adjectives คำคุณศัพท์อธิบายลักษณะ
Quantitative Adjectives คำคุณศัพท์บอกปริมาณ
Numeral Adjectives คำคุณศัพท์บอกจำนวน/ลำดับ
Demonstrative Adjectives คำคุณศัพท์ชี้แจงตำแหน่ง
Possessive Adjectives คำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของ
Descriptive Adjectives คำคุณศัพท์อธิบายลักษณะ
He is fat. เขาอ้วน
She is a tall. เธอสูง
It’s a dangerous animal. มันคือสัตว์ที่อันตาย
This is a complex situation. นี่คือสถานการณ์ที่ซับซ้อน
Quantitative Adjectives คำคุณศัพท์บอกปริมาณ
I have much money. ผมมีเงินมาก
I don’t have much free time. ผมมีเวลาว่างไม่มาก
I have eaten enough. ผมกินข้าวเพียงพอแล้ว
You gave me little water. คุณให้น้ำผมน้อย
Numeral Adjectives คำคุณศัพท์บอกจำนวน/ลำดับ
I have two older brothers. ผมมีพี่ชายสองคน
I was the first person to arrive. ผมคือคนแรกที่มาถึง
He was the last person to leave. เขาคือคนสุดท้ายที่จะออก
Several people asked me. มีหลายๆ คนถามผม
Demonstrative Adjectives คำคุณศัพท์ชี้แจงตำแหน่ง
This dog looks hungry. หมาตัวนี้ดูเหมือนจะหิว
That cat is running. แมวตัวนั้นกำลังวิ่ง
These books are mine. หนังสือพวกนี้เป็นของผม
Those children are playing. เด็กๆ พวกนั้นกำลังเล่นอยู่
Possessive Adjectives คำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของ
My house is big. บ้านของผมเป็นหลังใหญ่
Your car is cool. รถของคุณเท่ห์มาก
His books are heavy. หนังสือของเขาหนัก
Their company is rich. บริษัทของพวกเขารวย
สมัครเป็นสมาชิกช่องนี้!!
กดปุ่ม \”สมัคร\” ข้างล่างวีดีโอใน Youtube หรือกดลิงค์นี้ได้เลยนะครับ https://www.youtube.com/channel/UC93A91EZTtZW55WEKCz_jYA/join
สั่งซื้อหนังสือได้จากแอดมินไลน์
@LINE ID = @EnglishbyChris
รับสอนตัวต่อตัว ติดต่อผมได้ที่
LINE ID = TeacherChris
WEBSITE
http://www.englishbychris.com/portfolioitems/100adjectives/
BOOKS
http://www.englishbychris.com/ร้านค้า
FACEBOOK
https://www.facebook.com/EnglishbyChris
110 = 0:02:23
1120 = 0:06:22
2130 = 00:10:32
3140 = 00:14:42
4150 = 00:18:51
5160 = 00:23:20
6170 = 00:27:36
7180 = 00:31:45
8190 = 00:36:11
91100 = 00:40:02
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่
Nét Chữ Nết Người – Mẹ Dạy Con Rèn Luyện Chữ Viết ❤ BIBI TV ❤
★ BIBI TV giới thiệu Video: Nét Chữ Nết Người – Mẹ Dạy Con Rèn Luyện Chữ Viết ❤ BIBI TV ❤
★ Cám ơn các bạn đã xem video ❤
★ Tất cả các cảnh quay và video đều là giả tưởng và phục vụ mục đích nghệ thuật. Vui lòng liên hệ trực tiếp với chúng tôi nếu có vấn đề về an toàn nội dung.
★ All scenes in videos are fictional and for art purpose only. Please contact us for any concern on content safety.
© Bản quyền thuộc về BIBI TV ☞ Không Reup.
วิชาภาษาอังกฤษ ชั้น ม.4 เรื่อง การเรียงคำคุณศัพท์ (Adjective order)
สำหรับนักเรียนชั้น ป.5 ม.6 ทุกคนที่ต้องการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และคณิตศาสตร์
นักเรียนสามารถทำแบบฝึกหัด และทำแบบทดสอบได้จาก เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันของเรา
Web: https://nockacademy.com/learn/
iOS: https://apple.co/2SKdksn
Android: http://bit.ly/2REzb7w
●สำหรับผู้ปกครองท่านใดที่สนใจ●
http://nockacademy.com
●สำหรับโรงเรียนใดที่สนใจ●
https://nockacademy.com/forschool/
Grammar 5 นาที : Adjective (คำคุณศัพท์) Part1
เนื่องในโอกาสวันพ่อในปี 2557 นี้ จึงอยากทำดีเพื่อพ่อโดยจัดทำวีดีโอให้ความรู้เกี่ยวกับภาษาอังกฤษ โดยจัดทำเป็นเนื้อหาสั้นๆ ตอนละประมาณ 5 นาที โดยใช้ชื่อว่า \”Grammar 5 นาที\” หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ชมนะคะ สามารถติดตามได้ที่ Facebook : Miss Noon
On the 5th of December is Father’s day in Thailand, since 2014 I would like to make the goodness for our father of Thailand so I make the videos about grammar for Thais who interested in English which the topic is \”Grammar 5 mins\” contact on Facebook : Miss Noon
การเปรียบเทียบคำคุณศัพท์
comparison การเปรียบเทียบคำคุณศัพท์ ระดับมัธยมต้น
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE
ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ คุณศัพท์