Skip to content
Home » [Update] | สิงคโปร์ เวลา – NATAVIGUIDES

[Update] | สิงคโปร์ เวลา – NATAVIGUIDES

สิงคโปร์ เวลา: คุณกำลังดูกระทู้

เกี่ยวกับประเทศสิงคโปร์

ข้อมูลทั่วไป
ชื่อทางการ สาธารณรัฐสิงคโปร์

เมืองหลวง สิงคโปร์

พื้นที่ 697.1 ตารางกิโลเมตร ยอดเขาสูงที่สุดคือ Bukit Timah แม่น้ำสายหลักคือ Singapore และ Rochor สิงคโปร์มีถนน และรถไฟเชื่อมกับมาเลเซีย ณ Singapore/Johor Causeway ระยะทางประมาณ 6 กม.

ประชากร 4.2 ล้านคน (ชาวจีน 76% ชาวมาเลย์ 13.7% ชาวอินเดีย 8.4% และอื่นๆ 1.9% ) ซึ่งอยู่กันโดยไม่มีปัญหา ความขัดแย้งด้านเชื้อชาติ นอกจากนี้สิงคโปร์ยังเป็นประเทศในเอเชียที่มีการวางแผนครอบครัวได้ดีมาก จนทำให้จำนวนประชากรลดลง และก่อให้เกิดปัญหาการขาดแคลนแรงงานในอนาคต

ภาษา ภาษาทางราชการ คือ ภาษามาเลย์ จีนกลาง ทมิฬ และอังกฤษ สิงคโปร์ส่งเสริมให้ประชาชนพูด 2 ภาษา โดยเฉพาะจีนกลาง ในขณะที่ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ใช้ในการติดต่องานและในชีวิตประจำวัน

ศาสนา 51% นับถือศาสนาพุทธ ลัทธิเต๋าและขงจื๊อ 15% นับถือศาสนาอิสลาม 4% นับถือศาสนาฮินดู 15% นับถือศาสนาคริสต์ และร้อยละที่เหลือคือลัทธิอื่นๆ

การปกครอง ระบบสาธารณรัฐ มีประธานาธิบดีเป็นประมุข และมีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล รัฐสภามีวาระคราวละ 5 ปี นโยบายต่างประเทศสิงคโปร์เน้นด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยีและการลงทุนจากต่างประเทศ

อากาศ ร้อนชื้น มีฝนตกตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ย 26.8 องศาเซลเซียส

สภาพภูมิอากาศ
ลักษณะภูมิอากาศของสิงคโปร์ คล้ายกับประเทศไทย คือ เป็นแบบร้อนชื้น ฝนตกชุกตลอดปีเนื่องจากอิทธิพลทางทะเลและที่ตั้งของประเทศ

เศรษฐกิจ
สิงคโปร์จัดอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่เช่นเดียวกับ ฮ่องกง ไต้หวัน และเกาหลีใต้ ผลิตภัณฑ์ส่งออกหลัก คือ ผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียม เครื่องจักร ผลิตภัณฑ์นำเข้าส่วนใหญ่ ได้แก่ พลังงาน ( 40% ของการนำเข้าทั้งหมด) และอาหาร นอกจากนั้น การท่องเที่ยวก็นำรายได้เข้าประเทศมากเช่นกัน

สังคม
ชาวสิงคโปร์ถือว่ามาตรฐานการครองชีพของตนดีกว่าประเทศอื่น แต่ขณะเดียวกันความกลัวในจิตใจ คือ กลัวความล้มเหลวกับกลัวการเสียเปรียบ

-หน่วยราชการของสิงคโปร์มีประสิทธิภาพและรวดเร็วในการทำงาน โดยมีเวลาทำงาน จันทร์-ศุกร์ 08.30-13.00 และ 14.00-16.30 น. และเสาร์ 08.00-13.00 น.
-การบริการทางการแพทย์ในสิงคโปร์แพงกว่าประเทศไทยมาก และการซื้อยารักษาโรคประเภทยาปฏิชีวนะและยาอันตราย จะต้องมีใบสั่งแพทย์ แต่ยารักษาโรคพื้นฐานสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป

ลักษณะภูมิอากาศของสิงคโปร์ คล้ายกับประเทศไทย คือ เป็นแบบร้อนชื้น ฝนตกชุกตลอดปีเนื่องจากอิทธิพลทางทะเลและที่ตั้งของประเทศสิงคโปร์จัดอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่เช่นเดียวกับ ฮ่องกง ไต้หวัน และเกาหลีใต้ ผลิตภัณฑ์ส่งออกหลัก คือ ผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียม เครื่องจักร ผลิตภัณฑ์นำเข้าส่วนใหญ่ ได้แก่ พลังงาน ( 40% ของการนำเข้าทั้งหมด) และอาหาร นอกจากนั้น การท่องเที่ยวก็นำรายได้เข้าประเทศมากเช่นกันชาวสิงคโปร์ถือว่ามาตรฐานการครองชีพของตนดีกว่าประเทศอื่น แต่ขณะเดียวกันความกลัวในจิตใจ คือ กลัวความล้มเหลวกับกลัวการเสียเปรียบโดยมีเวลาทำงาน จันทร์-ศุกร์ 08.30-13.00 และ 14.00-16.30 น. และเสาร์ 08.00-13.00 น.และการซื้อยารักษาโรคประเภทยาปฏิชีวนะและยาอันตราย จะต้องมีใบสั่งแพทย์ แต่ยารักษาโรคพื้นฐานสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป

การศึกษาต่อในประเทศสิงคโปร์

ระบบการศึกษาในประเทศสิงคโปร์
การศึกษา
สิงคโปร์มีระบบการศึกษาที่เป็นเลิศประเทศหนึ่งของโลก ทุกโรงเรียนควบคุมโดยกระทรวงศึกษาธิการโดยตรง ระบบการศึกษาของสิงคโปร์แบ่งเป็นชั้นประถมศึกษาใช้ระยะเวลา 6 ปี และมัธยมศึกษาใช้ระยะเวลา 4 ปี จากนั้น ต่อด้วยการเรียนในระดับสูงขึ้น เช่น โปลีเทคนิค จูเนียร์คอลเลจ และมหาวิทยาลัย และการที่จะได้คัดเลือกเข้าเรียนที่โรงเรียนสิงคโปร์นั้น นักเรียนจำเป็นจะต้องทำการสอบเพื่อประเมินผลโดยการสอบเข้าโรงเรียนนั้น นักเรียนจำเป็นต้องสอบภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ เป็นวิชาหลัก และอาจมีการทดสอบภาษาจีน ขึ้นอยู่กับโรงเรียนที่นักเรียนต้องการสอบเข้า และสำหรับนักเรียนต่างชาติที่มีความประสงค์จะเข้าศึกษาต่อในประเทศสิงคโปร์จำเป็นต้องเสียค่าบำรุงการศึกษา (Donations) ให้กับกระทรงศึกษาธิการของสิงคโปร์ เป็นจำนวนเงิน S$1,000 ทุก ๆ 2 ปี สำหรับเงินบริจาคนี้ไม่สามารถขอคืนได้

ทำไมถึงเลือกเรียนที่ประเทศสิงคโปร์
ประเทศสิงคโปร์มีค่าใช้จ่ายถูกกว่าประเทศอื่น เช่น ออสเตรเลีย อเมริกา อังกฤษทั้งด้านการเรียน และ ค่าที่อยู่อาศัย ค่าตั๋วเครื่องบิน และยังสะดวกในการเดินทาง เนื่องจาก ประเทศสิงคโปร์อยู่ใกล้กับประเทศไทย โดยใช้ระยะเวลาการบินเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น และนอกจากนี้ การที่ได้ไปศึกษาที่ประเทศสิงคโปร์ นักเรียนยังได้เรียนรู้ถึง 2 ภาษา ซึ้งมีภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก และสามารถเลือก ภาษาจีน,ภาษามาเลย์และทมิฬภาษาใดภาษานึ่งเป็นภาษารอง

การศึกษาในระดับประถมศึกษา (Primary Schools)
ระบบการศึกษาในระดับประถมศึกษาที่สิงคโปร์นั้นจะแบ่งการสอนออกเป็น 2 ช่วง คือ เช้า และบ่าย การรับสมัครนักเรียนใหม่จะขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละโรงเรียน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 4 (fouryear foundation stage) จะเน้นการเรียนในวิชาภาษาอังกฤษ, ภาษาจีน (แมนดาริน) หรือภาษาทมิฬ, คณิตศาสตร์ และวิชาอื่น ๆ เช่น ศิลปะ ดนตรี พลศึกษา ในการเรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 -6 (Two-year orientation stage) นักเรียนจะถูกแบ่งออกเป็น 3ระดับ จากผลการสอบของ ประถมศึกษาปีที่ 4 คือ EM1 EM2 EM3 โดยลักษณะการเรียนของวิชาภาษาอังกฤษ และภาษาแม่นั้นจะต่างกันนักเรียนจะต้องสอบวัดระดับเมื่อจบ ประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียกกันว่า Primary School Leaving Examination (PSLE).เพื่อวัดระดับว่านักเรียนจะต้องเรียนในชั้นมัธยมเป็นระยะเวลา 4 ปี หรือ 5 ปี

การศึกษาในระดับมัธยมศึกษา(Secondary School)
โรงเรียนมัธยมศึกษาในสิงคโปร์จะแบ่งออกเป็น 2 ระบบและจะมีหลักสูตรแตกต่างกันไปทั้งนี้ นักเรียนจะถูกเลือกให้อยู่ระบบใดระบบหนึ่งนั้นขึ้นอยู่กับผลการสอบ PSLE ของนักเรียนแต่ละคน ระบบที่ใช้ระยะเวลา 4 ปี จะเรียกว่า Special and Express Courses ซึ้งการเรียนการสอนนั้นจะเน้นการเตรียมตัวให้นักเรียนสอบ The Singapore-Cambridge General Certificate of Education Ordinary (GCE O) ตอนจบมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ ระบบที่ใช้ระยะเวลา 5 ปี คือ Normal Course แบ่งการเรียนการสอนเป็น Academic และ Technical และเมื่อนักเรียนจบมัธยมศึกษาปีที่ 4 นักเรียนจะต้องสอบ Singapore-Cambridge General Certificate of Education Normal(GCE N)

สำหรับนักเรียนที่สอบได้คะแนนดี สามารถเรียนต่อ ปีที่ 5 เพื่อสอบ GCE O ต่อไป แต่สำหรับนักเรียนที่สอบได้คะแนน GCE N ไม่ดี ก็สามารถเรียนต่อในทางด้านเทคนิค ITE. หลังจากนักเรียน จบการศึกษาในระดับมัธยมนักเรียนสามารถที่จะเลือกเรียนในขั้นอุดมศึกษาต่อไป
เตรียมเข้ามหาวิทยาลัย (Junior College หรือ Pre University)สำหรับนักเรียนที่ได้ผ่านการทดสอบ GCE O Level เรียบร้อยแล้วและมีความประสงค์ที่จะเลือกเรียนต่อที่ Junior College ใช้ระยะเวลา 2 ปี หรือ หลักสูตรเตรียมเข้ามหาวิทยาลัย (Pre-university) ใช้ระยะเวลา 3 ปี เพื่อการเตรียมพร้อมสอบ GCE A Level เมื่อสอบผ่านนักเรียนถึงจะสามารถเข้าเรียนต่อในระดับชั้นมหาวิทยาลัย หรือสามารถสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัยต่างๆ ได้ทั่วโลก สำหรับนักเรียนที่สอบไม่ผ่าน GCE A Level ก็สามารถที่จะเลือกเรียนต่อโปลีเทคนิค

โปลีเทคนิค (Polytechnics)
เป็นโรงเรียนเปิดสอนหลักสูตรวิชาชีพโดยมีสาขาให้เลือกมากมายอาทิเช่น วิศวกรรม, ธุรกิจ, สื่อสารมวลชน ฯลฯ สำหรับนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาแล้วสามารถจบออกมาทำงานได้เลย โดยหลักสูตรนี้จะใช้เวลาเรียน 3 ปี

การศึกษาสำหรับสาขาวิชาช่าง Institutes of Technical Education (ITE)
เป็นโรงเรียนเปิดสอนหลักสูตรสาขาวิชาช่าง โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการเพิ่มทักษะทางด้านการปฏิบัติและวิชาการ และสำหรับนักเรียนที่มีเกณฑ์คะแนนดี สามารถเลือกที่จะเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนโปลีเทคนิค หรือมหาวิทยาลัยแล้วแต่ความประสงค์

ค่าใช้จ่าย

ค่าครองชีพ
มาตรฐานคุณภาพชีวิตของสิงคโปร์อยู่ในระดับต้นๆของเอเชีย เทียบกับประเทศอื่นๆในตะวันตกแล้วค่าครองชีพที่สิงคโปร์นับว่าไม่สูงมากนัก ราคาสินค้าพื้นฐานอย่างอาหาร หรือเสื้อผ้าก็นับว่าสมเหตุสมผล

นักเรียนต่างชาติในสิงคโปร์มีค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ย 750 ถึง 2,000 เหรียญสิงคโปร์ ต่อเดือน ซึ่งอาจต่างกันไปตามไลฟ์สไตล์และหลักสูตรวิชาที่เลือกเรียนของแต่ละคน

ข้อมูลจำเพาะ

เวลา
เวลาของสิงคโปร์เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง (GMT +8.00)

ไฟฟ้า
สำหรับกระแสไฟทางสิงคโปร์ใช้เหมือนบ้านเราคือ 220 โวลต์ แต่ความแตกต่างนั้นคือ สิงคโปร์ใช้เต้าเสียบแบบ 3 ขา (บ้านเราใช้ 2 ขา) ฉะนั้นอย่าลืมว่า ต้องนำปลั๊กต่อไปด้วย

สกุลเงินตรา
หน่วยเงินตราของสิงคโปร์คือ ดอลลาร์ (Singapore Dollar) โดยแบ่งค่าเงินต่าง ๆ ออกเป็นดังนี้ ธนบัตรมูลค่า S$2, S$5, S$10, S$20, S$50, S$100, S$500, S$1,000 และ S$10,000 เงินเหรียญมีตั้งแต่ 1, 5, 10, 20 และ 50 เซนต์ รวมถึง S$ 1

กฎหมาย
สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงเป็นที่กล่าวขานในเรื่องความปลอดภัย ความสะอาด ประชากรมีมาตรฐานความเป็นอยู่ที่สูง เนื่องจากสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีกฎหมายลงโทษร้ายแรง คือ การประหารชีวิต หรือโทษจำคุกระยะยาว เช่น ที่สิงคโปร์นั้น ห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะอย่างเด็ดขาด หากฝ่าฝืนปรับถึง S$1,000 การทิ้งเศษขยะลงพื้น ฝ่าฝืนครั้งแรกถูกปรับ S$1,000 ครั้งต่อไป S$2,000 และต้องทำความสะอาดในที่สาธารณะด้วย กฎหมายนี้รวมถึงการห้ามถ่มน้ำลายในที่สาธารณะ และห้ามเคี้ยวหมากฝรั่งด้วยดังนั้น ไม่ควรนำหมากฝรั่งไปที่สิงคโปร์ การเสพหรือจำหน่ายยาเสพติดในประเทศสิงคโปร์นั้นมีความผิดขั้นร้ายแรงถึงประหารชีวิต

แหล่งท่องเที่ยว
สิงคโปร์มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายเช่น การ Shopping ทีเป็นความฝันของใครหลายๆ คน ที่มาเยือน สิงคโปร์ ย่าน ศูนย์กลาง การชอปปิ้งของ ประเทศสิงคโปร์ คือ ถนน ออชาร์ด Orchard Road มีแหล่ง Shopping ที่น่าตื่นตาตื่นใจ มีสินค้าให้คุณจับจ่ายสินค้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้สิงคโปร์เป็นสถานที่ที่น่าประทับใจ และจะไม่มีวันลืม และนอกจากนั้นยังมีสถานที่ต่างๆที่น่าสนใจ อาทิเช่น Singapore Zoological Gardens เป็นสวนสัตว์มาตรฐานระดับโลก ซิ้งถูกสร้างและปรับปรุง ให้กลมกลืนใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด Night Safari เป็นสวนสัตว์เปิดที่บริการทุกวัน

ตั้งแต่เวลา ทุ่มครึ่งไปจนถึงเที่ยงคืน คุณจะเพลิดเพลิน กับชีวิตสัตว์ป่าอย่างใกล้ชิดกับการนั่งรถราง ชมสัตว์ ที่ออกหากินยามค่ำคืน มากกว่า 100 ชนิดSentosa Island เกาะเซนโตซ่า เป็นสถานท่องเที่ยวที่สร้างความสนุกสนานและความประทับใจ ให้กับทุกเพศทุกวัย โดยการเดินทางไปเกาะเซนโตซ่านั้นมีด้วยกัน 3 วิธี คือทางเรือเฟอร์รี่ รถยนต์ และกระเช้าลอยฟ้า Singapore Botanic Garden เป็นสวนพฤกษชาติที่มีพันธุ์พืชหลากหลายชนิดและ พืชที่หาดูได้ยาก โดยเฉพาะสวนเพาะกล้วยไม้ ที่มีกล้วยไม้ถึง 20,000 ต้นและเหตุนี้เองจึงเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์
(Royal Thai Embassy)
370 ถนนออร์ชาร์ด (Royal Thai Embassy,370 Orchard Road, Singapore 238870)
โทรศัพท์ (65) 6737-2644, 6737-2158
โทรสาร (65) 6732-0778, 6835-4991
เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์
แผนกวีซ่า

เปิดทำการเพื่อรับยื่นเรื่องขอประทับตราวีซ่า เวลา 9.15-12.15 น.
เปิดทำการเพื่อขอรับเอกสารเดินทางพร้อมตราประทับวีซ่าคืน เวลา 14.00-16.30 น.
แผนกหนังสือเดินทาง
เปิดทำการเพื่อรับยื่นเรื่องเกี่ยวกับหนังสือเดินทางไทย เวลา 9.15-12.15 น.
เปิดทำการเพื่อขอรับหนังสือเดินทางคืน เวลา 14.00-16.30 น.

การขอวีซ่าสิงคโปร์(Singapore Visa)

เอกสารที่ใช้ประกอบการขอ VISA นักเรียนของประเทศสิงคโปร์ มีดังนี้

1. สำเนาบัตรประชาชน
2. สำเนาทะเบียนบ้าน
3. กรอกแบบฟอร์ม (Form16, V36, และ V39S) อย่างละ 2 ชุด
4. รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว จำนวน 6 ใบ
5. กรอกแบบฟอร์ม (V36A) ให้ครบถ้วน และ ลายเซ็นรับรองจากทางโรงเรียน หรือ มหาวิทยาลัย
6. สำเนาหน้าพาสปอร์ตที่ยังไม่หมดอายุ
7. สำเนาสูติบัตร แปลเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมประทับตรากระทรวงต่างประเทศ
8. Transcript จาก โรงเรียน หรือ มหาวิทยาลัย (ภาษาอังกฤษ)
9. ใบจบการศึกษาที่ออกโดยมหาวิทยาลัย หรือหนังสือรับรองการศึกษาจากโรงเรียน (ภาษาอังกฤษ)
10. หนังสือรับรองการทำงาน
11. สำเนาเอกสารหลักฐานทางการเงินที่ออกโดยทางธนาคาร/ สมุดบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน
12. รายชื่อทั้งหมดของทุกคนในครอบครัว และ พี่น้อง พร้อมที่อยู่ และวันเดือนปีเกิด
13. กรณีที่ท่านมีญาติอาศัยอยู่ในประเทศสิงคโปร์ ต้องเตรียมเอกสารดังนี้
– สำเนาเอกสารหลักฐานการลำดับขั้นญาติ พี่น้อง เช่น ใบทะเบียนสมรส ใบหย่า และใบสมัครขอเป็นผู้ดูแล
– สำเนาเอกสารใบรับรองการศึกษาระดับสูงสุดของญาติ
– จดหมายรับรองการทำงานจากนายจ้างของญาติ โดยระบุ ถึงการเริ่มเข้าทำงาน, ตำแหน่งงาน และ เงินเดือน หรือ กรณีที่ญาติของท่านเป็นเจ้าของกิจการในประเทศสิงคโปร์ เอกสารหลักฐานที่ต้องแสดง คือ ใบจดทะเบียนการค้า โดยเอกสารเหล่านี้ต้องออกมาไม่น้อยกว่า 1 เดือน
– หลักฐานทางการเงิน Statement ย้อนหลัง 1 ปี
– สำเนาเอกสารแสดงรายได้ / การเสียภาษี ของญาติ ย้อนหลัง 3 ปี

กรณีที่ท่านมีคู่สมรสอาศัยอยู่ในประเทศสิงคโปร์ ต้องเตรียมเอกสารดังนี้
– สำเนาใบทะเบียนสมรส/ใบหย่า
– สำเนาเอกสารใบรับรองการศึกษาระดับสูงสุดคู่สมรส
– จดหมายรับรองการทำงานจากนายจ้างของญาติ โดยระบุ ถึงการเริ่มเข้าทำงาน, ตำแหน่งงาน และ เงินเดือน หรือ กรณีที่ญาติของท่านเป็นเจ้าของกิจการในประเทศสิงคโปร์ เอกสารหลักฐานที่ต้องแสดง คือ ใบจดทะเบียนการค้า โดยเอกสารเหล่านี้ต้องออกไม่น้อยกว่า 1 เดือน
– หลักฐานทางการเงิน Statement ย้อนหลัง 1 ปี
– สำเนาเอกสารแสดงรายได้ / การเสียภาษี ของคู่สมรส ย้อนหลัง 3 ปี
การขอวีซ่า
คนไทยที่ต้องการเดินทางเข้าสิงคโปร์ในฐานะนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องขอวีซ่าสามารถอยู่ได้ 14 วัน แต่สำหรับผู้ที่มีความประสงค์ที่จะอยู่มากกว่า 14 วัน หรือ เข้าศึกษาต่อที่ประเทศสิงคโปร์การดำเนินการเรื่องวีซ่าจะต้องเตรียมเอกสารดังนี้ (เอกสารทุกอย่างต้องเป็นตัวจริง พร้อมสำเนาที่แปลเป็นภาษาอังกฤษ)

เอกสารสำคัญในการยื่นคำร้องขอวีซ่า
1. สูติบัตร ของนักเรียน
2. สำเนาทะเบียนบ้าน ของนักเรียน ผู้ปกครองทั้งบิดาและมารดา
3. ใบเปลี่ยนชื่อนามสกุลของนักเรียน (ถ้ามี)
4. ใบสำคัญทะเบียนสมรส หรือใบหย่า หรือใบรับรองบุตร ของบิดา มารดา (สำหรับนักเรียนที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี)
5. หลักฐานการศึกษา
6. รูปถ่ายขนาดพาสปอร์ตจำนวน 4 ใบ *** การขอวีซ่านักเรียนจะใช้เวลาประมาณ 6-8 สัปดาห์

วีซ่า สิงคโปร์
แนะแนว ศึกษาต่อประเทศสิงคโปร์ บริการ การขอวีซ่าประเทศสิงคโปร์ สมัครเรียนได้ที่ 02 641-4748

[Update] | สิงคโปร์ เวลา – NATAVIGUIDES

เกี่ยวกับประเทศสิงคโปร์

ข้อมูลทั่วไป
ชื่อทางการ สาธารณรัฐสิงคโปร์

เมืองหลวง สิงคโปร์

พื้นที่ 697.1 ตารางกิโลเมตร ยอดเขาสูงที่สุดคือ Bukit Timah แม่น้ำสายหลักคือ Singapore และ Rochor สิงคโปร์มีถนน และรถไฟเชื่อมกับมาเลเซีย ณ Singapore/Johor Causeway ระยะทางประมาณ 6 กม.

ประชากร 4.2 ล้านคน (ชาวจีน 76% ชาวมาเลย์ 13.7% ชาวอินเดีย 8.4% และอื่นๆ 1.9% ) ซึ่งอยู่กันโดยไม่มีปัญหา ความขัดแย้งด้านเชื้อชาติ นอกจากนี้สิงคโปร์ยังเป็นประเทศในเอเชียที่มีการวางแผนครอบครัวได้ดีมาก จนทำให้จำนวนประชากรลดลง และก่อให้เกิดปัญหาการขาดแคลนแรงงานในอนาคต

ภาษา ภาษาทางราชการ คือ ภาษามาเลย์ จีนกลาง ทมิฬ และอังกฤษ สิงคโปร์ส่งเสริมให้ประชาชนพูด 2 ภาษา โดยเฉพาะจีนกลาง ในขณะที่ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ใช้ในการติดต่องานและในชีวิตประจำวัน

ศาสนา 51% นับถือศาสนาพุทธ ลัทธิเต๋าและขงจื๊อ 15% นับถือศาสนาอิสลาม 4% นับถือศาสนาฮินดู 15% นับถือศาสนาคริสต์ และร้อยละที่เหลือคือลัทธิอื่นๆ

การปกครอง ระบบสาธารณรัฐ มีประธานาธิบดีเป็นประมุข และมีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล รัฐสภามีวาระคราวละ 5 ปี นโยบายต่างประเทศสิงคโปร์เน้นด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยีและการลงทุนจากต่างประเทศ

อากาศ ร้อนชื้น มีฝนตกตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ย 26.8 องศาเซลเซียส

สภาพภูมิอากาศ
ลักษณะภูมิอากาศของสิงคโปร์ คล้ายกับประเทศไทย คือ เป็นแบบร้อนชื้น ฝนตกชุกตลอดปีเนื่องจากอิทธิพลทางทะเลและที่ตั้งของประเทศ

เศรษฐกิจ
สิงคโปร์จัดอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่เช่นเดียวกับ ฮ่องกง ไต้หวัน และเกาหลีใต้ ผลิตภัณฑ์ส่งออกหลัก คือ ผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียม เครื่องจักร ผลิตภัณฑ์นำเข้าส่วนใหญ่ ได้แก่ พลังงาน ( 40% ของการนำเข้าทั้งหมด) และอาหาร นอกจากนั้น การท่องเที่ยวก็นำรายได้เข้าประเทศมากเช่นกัน

สังคม
ชาวสิงคโปร์ถือว่ามาตรฐานการครองชีพของตนดีกว่าประเทศอื่น แต่ขณะเดียวกันความกลัวในจิตใจ คือ กลัวความล้มเหลวกับกลัวการเสียเปรียบ

-หน่วยราชการของสิงคโปร์มีประสิทธิภาพและรวดเร็วในการทำงาน โดยมีเวลาทำงาน จันทร์-ศุกร์ 08.30-13.00 และ 14.00-16.30 น. และเสาร์ 08.00-13.00 น.
-การบริการทางการแพทย์ในสิงคโปร์แพงกว่าประเทศไทยมาก และการซื้อยารักษาโรคประเภทยาปฏิชีวนะและยาอันตราย จะต้องมีใบสั่งแพทย์ แต่ยารักษาโรคพื้นฐานสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป

ลักษณะภูมิอากาศของสิงคโปร์ คล้ายกับประเทศไทย คือ เป็นแบบร้อนชื้น ฝนตกชุกตลอดปีเนื่องจากอิทธิพลทางทะเลและที่ตั้งของประเทศสิงคโปร์จัดอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่เช่นเดียวกับ ฮ่องกง ไต้หวัน และเกาหลีใต้ ผลิตภัณฑ์ส่งออกหลัก คือ ผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียม เครื่องจักร ผลิตภัณฑ์นำเข้าส่วนใหญ่ ได้แก่ พลังงาน ( 40% ของการนำเข้าทั้งหมด) และอาหาร นอกจากนั้น การท่องเที่ยวก็นำรายได้เข้าประเทศมากเช่นกันชาวสิงคโปร์ถือว่ามาตรฐานการครองชีพของตนดีกว่าประเทศอื่น แต่ขณะเดียวกันความกลัวในจิตใจ คือ กลัวความล้มเหลวกับกลัวการเสียเปรียบโดยมีเวลาทำงาน จันทร์-ศุกร์ 08.30-13.00 และ 14.00-16.30 น. และเสาร์ 08.00-13.00 น.และการซื้อยารักษาโรคประเภทยาปฏิชีวนะและยาอันตราย จะต้องมีใบสั่งแพทย์ แต่ยารักษาโรคพื้นฐานสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป

การศึกษาต่อในประเทศสิงคโปร์

ระบบการศึกษาในประเทศสิงคโปร์
การศึกษา
สิงคโปร์มีระบบการศึกษาที่เป็นเลิศประเทศหนึ่งของโลก ทุกโรงเรียนควบคุมโดยกระทรวงศึกษาธิการโดยตรง ระบบการศึกษาของสิงคโปร์แบ่งเป็นชั้นประถมศึกษาใช้ระยะเวลา 6 ปี และมัธยมศึกษาใช้ระยะเวลา 4 ปี จากนั้น ต่อด้วยการเรียนในระดับสูงขึ้น เช่น โปลีเทคนิค จูเนียร์คอลเลจ และมหาวิทยาลัย และการที่จะได้คัดเลือกเข้าเรียนที่โรงเรียนสิงคโปร์นั้น นักเรียนจำเป็นจะต้องทำการสอบเพื่อประเมินผลโดยการสอบเข้าโรงเรียนนั้น นักเรียนจำเป็นต้องสอบภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ เป็นวิชาหลัก และอาจมีการทดสอบภาษาจีน ขึ้นอยู่กับโรงเรียนที่นักเรียนต้องการสอบเข้า และสำหรับนักเรียนต่างชาติที่มีความประสงค์จะเข้าศึกษาต่อในประเทศสิงคโปร์จำเป็นต้องเสียค่าบำรุงการศึกษา (Donations) ให้กับกระทรงศึกษาธิการของสิงคโปร์ เป็นจำนวนเงิน S$1,000 ทุก ๆ 2 ปี สำหรับเงินบริจาคนี้ไม่สามารถขอคืนได้

ทำไมถึงเลือกเรียนที่ประเทศสิงคโปร์
ประเทศสิงคโปร์มีค่าใช้จ่ายถูกกว่าประเทศอื่น เช่น ออสเตรเลีย อเมริกา อังกฤษทั้งด้านการเรียน และ ค่าที่อยู่อาศัย ค่าตั๋วเครื่องบิน และยังสะดวกในการเดินทาง เนื่องจาก ประเทศสิงคโปร์อยู่ใกล้กับประเทศไทย โดยใช้ระยะเวลาการบินเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น และนอกจากนี้ การที่ได้ไปศึกษาที่ประเทศสิงคโปร์ นักเรียนยังได้เรียนรู้ถึง 2 ภาษา ซึ้งมีภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก และสามารถเลือก ภาษาจีน,ภาษามาเลย์และทมิฬภาษาใดภาษานึ่งเป็นภาษารอง

การศึกษาในระดับประถมศึกษา (Primary Schools)
ระบบการศึกษาในระดับประถมศึกษาที่สิงคโปร์นั้นจะแบ่งการสอนออกเป็น 2 ช่วง คือ เช้า และบ่าย การรับสมัครนักเรียนใหม่จะขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละโรงเรียน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 4 (fouryear foundation stage) จะเน้นการเรียนในวิชาภาษาอังกฤษ, ภาษาจีน (แมนดาริน) หรือภาษาทมิฬ, คณิตศาสตร์ และวิชาอื่น ๆ เช่น ศิลปะ ดนตรี พลศึกษา ในการเรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 -6 (Two-year orientation stage) นักเรียนจะถูกแบ่งออกเป็น 3ระดับ จากผลการสอบของ ประถมศึกษาปีที่ 4 คือ EM1 EM2 EM3 โดยลักษณะการเรียนของวิชาภาษาอังกฤษ และภาษาแม่นั้นจะต่างกันนักเรียนจะต้องสอบวัดระดับเมื่อจบ ประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียกกันว่า Primary School Leaving Examination (PSLE).เพื่อวัดระดับว่านักเรียนจะต้องเรียนในชั้นมัธยมเป็นระยะเวลา 4 ปี หรือ 5 ปี

การศึกษาในระดับมัธยมศึกษา(Secondary School)
โรงเรียนมัธยมศึกษาในสิงคโปร์จะแบ่งออกเป็น 2 ระบบและจะมีหลักสูตรแตกต่างกันไปทั้งนี้ นักเรียนจะถูกเลือกให้อยู่ระบบใดระบบหนึ่งนั้นขึ้นอยู่กับผลการสอบ PSLE ของนักเรียนแต่ละคน ระบบที่ใช้ระยะเวลา 4 ปี จะเรียกว่า Special and Express Courses ซึ้งการเรียนการสอนนั้นจะเน้นการเตรียมตัวให้นักเรียนสอบ The Singapore-Cambridge General Certificate of Education Ordinary (GCE O) ตอนจบมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ ระบบที่ใช้ระยะเวลา 5 ปี คือ Normal Course แบ่งการเรียนการสอนเป็น Academic และ Technical และเมื่อนักเรียนจบมัธยมศึกษาปีที่ 4 นักเรียนจะต้องสอบ Singapore-Cambridge General Certificate of Education Normal(GCE N)

สำหรับนักเรียนที่สอบได้คะแนนดี สามารถเรียนต่อ ปีที่ 5 เพื่อสอบ GCE O ต่อไป แต่สำหรับนักเรียนที่สอบได้คะแนน GCE N ไม่ดี ก็สามารถเรียนต่อในทางด้านเทคนิค ITE. หลังจากนักเรียน จบการศึกษาในระดับมัธยมนักเรียนสามารถที่จะเลือกเรียนในขั้นอุดมศึกษาต่อไป
เตรียมเข้ามหาวิทยาลัย (Junior College หรือ Pre University)สำหรับนักเรียนที่ได้ผ่านการทดสอบ GCE O Level เรียบร้อยแล้วและมีความประสงค์ที่จะเลือกเรียนต่อที่ Junior College ใช้ระยะเวลา 2 ปี หรือ หลักสูตรเตรียมเข้ามหาวิทยาลัย (Pre-university) ใช้ระยะเวลา 3 ปี เพื่อการเตรียมพร้อมสอบ GCE A Level เมื่อสอบผ่านนักเรียนถึงจะสามารถเข้าเรียนต่อในระดับชั้นมหาวิทยาลัย หรือสามารถสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัยต่างๆ ได้ทั่วโลก สำหรับนักเรียนที่สอบไม่ผ่าน GCE A Level ก็สามารถที่จะเลือกเรียนต่อโปลีเทคนิค

โปลีเทคนิค (Polytechnics)
เป็นโรงเรียนเปิดสอนหลักสูตรวิชาชีพโดยมีสาขาให้เลือกมากมายอาทิเช่น วิศวกรรม, ธุรกิจ, สื่อสารมวลชน ฯลฯ สำหรับนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาแล้วสามารถจบออกมาทำงานได้เลย โดยหลักสูตรนี้จะใช้เวลาเรียน 3 ปี

การศึกษาสำหรับสาขาวิชาช่าง Institutes of Technical Education (ITE)
เป็นโรงเรียนเปิดสอนหลักสูตรสาขาวิชาช่าง โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการเพิ่มทักษะทางด้านการปฏิบัติและวิชาการ และสำหรับนักเรียนที่มีเกณฑ์คะแนนดี สามารถเลือกที่จะเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนโปลีเทคนิค หรือมหาวิทยาลัยแล้วแต่ความประสงค์

ค่าใช้จ่าย

ค่าครองชีพ
มาตรฐานคุณภาพชีวิตของสิงคโปร์อยู่ในระดับต้นๆของเอเชีย เทียบกับประเทศอื่นๆในตะวันตกแล้วค่าครองชีพที่สิงคโปร์นับว่าไม่สูงมากนัก ราคาสินค้าพื้นฐานอย่างอาหาร หรือเสื้อผ้าก็นับว่าสมเหตุสมผล

นักเรียนต่างชาติในสิงคโปร์มีค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ย 750 ถึง 2,000 เหรียญสิงคโปร์ ต่อเดือน ซึ่งอาจต่างกันไปตามไลฟ์สไตล์และหลักสูตรวิชาที่เลือกเรียนของแต่ละคน

ข้อมูลจำเพาะ

เวลา
เวลาของสิงคโปร์เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง (GMT +8.00)

ไฟฟ้า
สำหรับกระแสไฟทางสิงคโปร์ใช้เหมือนบ้านเราคือ 220 โวลต์ แต่ความแตกต่างนั้นคือ สิงคโปร์ใช้เต้าเสียบแบบ 3 ขา (บ้านเราใช้ 2 ขา) ฉะนั้นอย่าลืมว่า ต้องนำปลั๊กต่อไปด้วย

สกุลเงินตรา
หน่วยเงินตราของสิงคโปร์คือ ดอลลาร์ (Singapore Dollar) โดยแบ่งค่าเงินต่าง ๆ ออกเป็นดังนี้ ธนบัตรมูลค่า S$2, S$5, S$10, S$20, S$50, S$100, S$500, S$1,000 และ S$10,000 เงินเหรียญมีตั้งแต่ 1, 5, 10, 20 และ 50 เซนต์ รวมถึง S$ 1

กฎหมาย
สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงเป็นที่กล่าวขานในเรื่องความปลอดภัย ความสะอาด ประชากรมีมาตรฐานความเป็นอยู่ที่สูง เนื่องจากสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีกฎหมายลงโทษร้ายแรง คือ การประหารชีวิต หรือโทษจำคุกระยะยาว เช่น ที่สิงคโปร์นั้น ห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะอย่างเด็ดขาด หากฝ่าฝืนปรับถึง S$1,000 การทิ้งเศษขยะลงพื้น ฝ่าฝืนครั้งแรกถูกปรับ S$1,000 ครั้งต่อไป S$2,000 และต้องทำความสะอาดในที่สาธารณะด้วย กฎหมายนี้รวมถึงการห้ามถ่มน้ำลายในที่สาธารณะ และห้ามเคี้ยวหมากฝรั่งด้วยดังนั้น ไม่ควรนำหมากฝรั่งไปที่สิงคโปร์ การเสพหรือจำหน่ายยาเสพติดในประเทศสิงคโปร์นั้นมีความผิดขั้นร้ายแรงถึงประหารชีวิต

แหล่งท่องเที่ยว
สิงคโปร์มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายเช่น การ Shopping ทีเป็นความฝันของใครหลายๆ คน ที่มาเยือน สิงคโปร์ ย่าน ศูนย์กลาง การชอปปิ้งของ ประเทศสิงคโปร์ คือ ถนน ออชาร์ด Orchard Road มีแหล่ง Shopping ที่น่าตื่นตาตื่นใจ มีสินค้าให้คุณจับจ่ายสินค้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้สิงคโปร์เป็นสถานที่ที่น่าประทับใจ และจะไม่มีวันลืม และนอกจากนั้นยังมีสถานที่ต่างๆที่น่าสนใจ อาทิเช่น Singapore Zoological Gardens เป็นสวนสัตว์มาตรฐานระดับโลก ซิ้งถูกสร้างและปรับปรุง ให้กลมกลืนใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด Night Safari เป็นสวนสัตว์เปิดที่บริการทุกวัน

ตั้งแต่เวลา ทุ่มครึ่งไปจนถึงเที่ยงคืน คุณจะเพลิดเพลิน กับชีวิตสัตว์ป่าอย่างใกล้ชิดกับการนั่งรถราง ชมสัตว์ ที่ออกหากินยามค่ำคืน มากกว่า 100 ชนิดSentosa Island เกาะเซนโตซ่า เป็นสถานท่องเที่ยวที่สร้างความสนุกสนานและความประทับใจ ให้กับทุกเพศทุกวัย โดยการเดินทางไปเกาะเซนโตซ่านั้นมีด้วยกัน 3 วิธี คือทางเรือเฟอร์รี่ รถยนต์ และกระเช้าลอยฟ้า Singapore Botanic Garden เป็นสวนพฤกษชาติที่มีพันธุ์พืชหลากหลายชนิดและ พืชที่หาดูได้ยาก โดยเฉพาะสวนเพาะกล้วยไม้ ที่มีกล้วยไม้ถึง 20,000 ต้นและเหตุนี้เองจึงเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์
(Royal Thai Embassy)
370 ถนนออร์ชาร์ด (Royal Thai Embassy,370 Orchard Road, Singapore 238870)
โทรศัพท์ (65) 6737-2644, 6737-2158
โทรสาร (65) 6732-0778, 6835-4991
เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์
แผนกวีซ่า

เปิดทำการเพื่อรับยื่นเรื่องขอประทับตราวีซ่า เวลา 9.15-12.15 น.
เปิดทำการเพื่อขอรับเอกสารเดินทางพร้อมตราประทับวีซ่าคืน เวลา 14.00-16.30 น.
แผนกหนังสือเดินทาง
เปิดทำการเพื่อรับยื่นเรื่องเกี่ยวกับหนังสือเดินทางไทย เวลา 9.15-12.15 น.
เปิดทำการเพื่อขอรับหนังสือเดินทางคืน เวลา 14.00-16.30 น.

การขอวีซ่าสิงคโปร์(Singapore Visa)

เอกสารที่ใช้ประกอบการขอ VISA นักเรียนของประเทศสิงคโปร์ มีดังนี้

1. สำเนาบัตรประชาชน
2. สำเนาทะเบียนบ้าน
3. กรอกแบบฟอร์ม (Form16, V36, และ V39S) อย่างละ 2 ชุด
4. รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว จำนวน 6 ใบ
5. กรอกแบบฟอร์ม (V36A) ให้ครบถ้วน และ ลายเซ็นรับรองจากทางโรงเรียน หรือ มหาวิทยาลัย
6. สำเนาหน้าพาสปอร์ตที่ยังไม่หมดอายุ
7. สำเนาสูติบัตร แปลเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมประทับตรากระทรวงต่างประเทศ
8. Transcript จาก โรงเรียน หรือ มหาวิทยาลัย (ภาษาอังกฤษ)
9. ใบจบการศึกษาที่ออกโดยมหาวิทยาลัย หรือหนังสือรับรองการศึกษาจากโรงเรียน (ภาษาอังกฤษ)
10. หนังสือรับรองการทำงาน
11. สำเนาเอกสารหลักฐานทางการเงินที่ออกโดยทางธนาคาร/ สมุดบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน
12. รายชื่อทั้งหมดของทุกคนในครอบครัว และ พี่น้อง พร้อมที่อยู่ และวันเดือนปีเกิด
13. กรณีที่ท่านมีญาติอาศัยอยู่ในประเทศสิงคโปร์ ต้องเตรียมเอกสารดังนี้
– สำเนาเอกสารหลักฐานการลำดับขั้นญาติ พี่น้อง เช่น ใบทะเบียนสมรส ใบหย่า และใบสมัครขอเป็นผู้ดูแล
– สำเนาเอกสารใบรับรองการศึกษาระดับสูงสุดของญาติ
– จดหมายรับรองการทำงานจากนายจ้างของญาติ โดยระบุ ถึงการเริ่มเข้าทำงาน, ตำแหน่งงาน และ เงินเดือน หรือ กรณีที่ญาติของท่านเป็นเจ้าของกิจการในประเทศสิงคโปร์ เอกสารหลักฐานที่ต้องแสดง คือ ใบจดทะเบียนการค้า โดยเอกสารเหล่านี้ต้องออกมาไม่น้อยกว่า 1 เดือน
– หลักฐานทางการเงิน Statement ย้อนหลัง 1 ปี
– สำเนาเอกสารแสดงรายได้ / การเสียภาษี ของญาติ ย้อนหลัง 3 ปี

กรณีที่ท่านมีคู่สมรสอาศัยอยู่ในประเทศสิงคโปร์ ต้องเตรียมเอกสารดังนี้
– สำเนาใบทะเบียนสมรส/ใบหย่า
– สำเนาเอกสารใบรับรองการศึกษาระดับสูงสุดคู่สมรส
– จดหมายรับรองการทำงานจากนายจ้างของญาติ โดยระบุ ถึงการเริ่มเข้าทำงาน, ตำแหน่งงาน และ เงินเดือน หรือ กรณีที่ญาติของท่านเป็นเจ้าของกิจการในประเทศสิงคโปร์ เอกสารหลักฐานที่ต้องแสดง คือ ใบจดทะเบียนการค้า โดยเอกสารเหล่านี้ต้องออกไม่น้อยกว่า 1 เดือน
– หลักฐานทางการเงิน Statement ย้อนหลัง 1 ปี
– สำเนาเอกสารแสดงรายได้ / การเสียภาษี ของคู่สมรส ย้อนหลัง 3 ปี
การขอวีซ่า
คนไทยที่ต้องการเดินทางเข้าสิงคโปร์ในฐานะนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องขอวีซ่าสามารถอยู่ได้ 14 วัน แต่สำหรับผู้ที่มีความประสงค์ที่จะอยู่มากกว่า 14 วัน หรือ เข้าศึกษาต่อที่ประเทศสิงคโปร์การดำเนินการเรื่องวีซ่าจะต้องเตรียมเอกสารดังนี้ (เอกสารทุกอย่างต้องเป็นตัวจริง พร้อมสำเนาที่แปลเป็นภาษาอังกฤษ)

เอกสารสำคัญในการยื่นคำร้องขอวีซ่า
1. สูติบัตร ของนักเรียน
2. สำเนาทะเบียนบ้าน ของนักเรียน ผู้ปกครองทั้งบิดาและมารดา
3. ใบเปลี่ยนชื่อนามสกุลของนักเรียน (ถ้ามี)
4. ใบสำคัญทะเบียนสมรส หรือใบหย่า หรือใบรับรองบุตร ของบิดา มารดา (สำหรับนักเรียนที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี)
5. หลักฐานการศึกษา
6. รูปถ่ายขนาดพาสปอร์ตจำนวน 4 ใบ *** การขอวีซ่านักเรียนจะใช้เวลาประมาณ 6-8 สัปดาห์

วีซ่า สิงคโปร์
แนะแนว ศึกษาต่อประเทศสิงคโปร์ บริการ การขอวีซ่าประเทศสิงคโปร์ สมัครเรียนได้ที่ 02 641-4748


“นั่ง นอน เมา” หนึ่งวันในสลัมญี่ปุ่น | ร้อยเรื่องรอบโลก EP61


“กามางาซากิ” หรือ “นิชินาริ” คือชื่อของย่านเสื่อมโทรมในโอซากา สถานที่ซึ่งพิสูจน์ว่า แม้ญี่ปุ่นจะเจริญและมีระเบียบวินัย แต่ก็มีสลัมเช่นกัน
ผู้อยู่อาศัยที่นี่เป็นผู้สูงวัยที่เคยมีส่วนร่วมสร้างประเทศในสมัยทศวรรษ 1980 ยุคที่เศรษฐกิจของญี่ปุ่นรุ่งเรืองถึงขีดสุด
แต่มาวันนี้เมื่อเศรษฐกิจถดถอย ค่าครองชีพพุ่งทะยาน อดีตแรงงานเหล่านี้ไม่มีทางเลือกมากนักนอกจากเข้ามาอยู่อาศัยในสลัม เนื่องจากค่าที่พักและอาหารถูกกว่าย่านอื่นๆ
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
ติดตามชมวิดีโอใหม่ๆ ได้ใน “เล่าเรื่องรอบโลก by กรุณา บัวคำศรี“
แล้วอย่าลืมกด Subscribe!
หรือแวะมาทักทายพูดคุยกันได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/KarunaBuakamsri
Email: [email protected]

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

“นั่ง นอน เมา” หนึ่งวันในสลัมญี่ปุ่น | ร้อยเรื่องรอบโลก EP61

5 ข้อต้องรู้…!!!! ก่อนเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ | Nava DIY


ชอบคลิปนี้ก็อย่าลืม ★กด Like ★กด Share ★กด ติดตาม ให้ด้วยนะครับ
✿ลงคลิปใหม่ ให้ชมทุกวันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ครับ ✿
……………………………………………………………
กดติดตามช่องเพื่อดูคลิปใหม่ของ NAVA DIY
► ที่นี่ : https://goo.gl/FuxQR4
ติดตามข่าวสารต่างๆ
► ที่นี่ : facebook : https://www.facebook.com/NavaDIYchannel

5 ข้อต้องรู้...!!!!  ก่อนเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ | Nava DIY

Burmese (Myanmar) – Thai Language Lesson: 30 useful words เรียนภาษาเมียนมา (ภาษาพม่า) คำศัพท์ใช้บ่อย


500 Words 31 Topics: English Burmese ► shorturl.at/amyGZ
500 phrases+short sentences ► shorturl.at/deCG1
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
Please Subscribe ► shorturl.at/lrzMV
More Videos/Languages ► shorturl.at/arvKX
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
♥ ♥ ♥ Thank you! ♥ ♥ ♥
พม่า, ภาษาพม่า, ภาษาเมียนมา, ไทย พม่า, ภาษาพม่าเบื้องต้น, ภาษาพม่าในชีวิตประจำวัน, คำศัพท์ภาษาเมียนมา, ไวยกรณ์ภาษาพม่า, เรียนพูดพม่า,ထိုင်း, ထိုင်းဘာသာ, ထိုင်းစာလေ့လာရန်, ထိုင်းသင်ခန်းစာ, အခြေခံထိုင်း, စကားပြော, ထိုင်းစကားပြော,
ထိုင်းသင်ယူ
500 words: Burmese (Myanmar) Thai
https://www.youtube.com/watch?v=JMJ3zNoLao
500 words: Burmese (Myanmar) English
https://www.youtube.com/watch?v=PW89U6kUVyc
CHECK OUT SOME OTHER LANGUAGES HERE:
https://www.youtube.com/watch?v=DuIGsyCaK28\u0026t=223s Burmese (Myanmar) Thai
https://www.youtube.com/watch?v=soL26W4oJWI Korean Thai
https://www.youtube.com/watch?v=n6e1Hizzo\u0026t=15s Chinese Thai
https://www.youtube.com/watch?v=IwmPuyTmDAk\u0026t=50s Laos Thai
https://www.youtube.com/watch?v=BxO5O5QheBM\u0026t=2s Swedish Thai
https://www.youtube.com/watch?v=XIUp4OH4oU\u0026t=11s German Thai
https://www.youtube.com/watch?v=IUbXpl7FwU\u0026t=35s Hindi Thai
https://www.youtube.com/watch?v=QJYpdlnRbug\u0026t=36s French Thai
https://www.youtube.com/watch?v=p2KE5HWErac\u0026t=16s Spanish Thai
https://www.youtube.com/watch?v=ndcEM__IUv0\u0026t=60s Japanese Thai
Thank you for watching. (✿ヘᴥヘ) /

Burmese (Myanmar) - Thai Language Lesson: 30 useful words เรียนภาษาเมียนมา (ภาษาพม่า) คำศัพท์ใช้บ่อย

ลอดช่องใบเตยโบราณที่หาดูยากพร้อมวิธีทำ(Lord-Chorng,Thai Dessert🙏)​


สูตร​ทำลอดช่อง​ใบ​เตย​โบราณ
​แป้ง​ข้าวจ้าว​ 450​ กรัม​
แป้งมัน​ 50​ กรัม​
น้ำปูน​ใส​ 2,500 มิลลิลิตร​
ใบเตย1กำหรือประมาณ30ใบ
สูตร​น้ำหวานน้ำกะทิ
กะทิกล่อง​เล็ก​250​มิล.
น้ำเปล่า​250มิล.
น้ำ​ตาล​ทราย​250กรัม
เกลือ7.5กรัม
ใบเตย3ใบ
(สูตร​นี้​ถ้า​ใช้​กะทิ​คั้น​สด​จาก​ตลาด​แทน​กะทิ​กล่อง​ให้ใช้กะทิล้วนๆครึ่ง​กิโล​ไม่ต้อง​เติมน้ำ)​
……………………
กะทิ​กล่อง​กลางๆ500มิล.
น้ำเปล่า​500มิล.
น้ำตาล​ทราย​500กรัม
เกลือ​15กรัม
ใบเตย4ใบ
(สูตร​นี้​ถ้าใช้กะทิ​คั้นสดจากตลาดแทนกะทิ​กล่อง​ให้ใช้กะทิล้วน1กิโล​ไม่ต้องเติมน้ำ)​
……………………
กะทิ​กล่อง​ใหญ่​1,000​มิล.
น้ำเปล่า​1,000​มิล.
น้ำตาล​ทราย​1​กิโล​กรัม
เกลือ​30กรัม
ใบเตย5ใบ
(สูตรนี้​หากใช้กะทิสดซื้อจากตลาดแทนกะทิกล่อง​ให้ใช้กะทิล้วนๆ2กิโลห้ามเติมน้ำ)​
+++เหตุ​ที่กะทิกล่อง​เติมน้ำเพราะมีความเข้มข้นกว่าสามารถเติมน้ำได้อีกเท่าตัวส่วนกัทิคั้นจาดตลาดเค้าเติมน้ำมาแล้วหากเติมน้ำเข้าไปอีกจะเจือจางปริมาณ​ความเข้มข้นไม่เท่ากะทิ​กล่อง+++
+++หากต้องการ​เพิ่มความมันก็โรยหน้าด้วยกะทิสดจากกล่องได้เลยจร้า+++
วิธี​ท​ำ​น้ำปูน​ใส
https://youtu.be/xF9jMfHlUKE
สนับสนุนช่องได้ที่
8082654857
ธนาคารไทยพาณิชย์
มนพร ปุราชะคึง
ขอบคุณ​ที่​ติดตา​มรับ​ช​มนะค่ะ​😊
ฝาก​กด​ติดตาม​กดไลค์​กด​แชร์​ให้​ด้วย​นะ​คะ​😊​🙏❤️🙏

ลอดช่องใบเตยโบราณที่หาดูยากพร้อมวิธีทำ(Lord-Chorng,Thai Dessert🙏)​

[ สิงคโปร์ ] ประเทศเล็กๆที่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของไทย กลับกลายเป็นประเทศที่พัฒนาเป็นอันดับต้นๆของโลก!


สวัสดีครับ คุณจะเคยเชื่อหรือไม่ครับว่าประเทศสิงคโปร์นั้น เคยเป็นประเทศ ซึ่งมีสยามหรือประเทศไทยเป็นเมืองขึ้น ผมเชื่อว่าหลายคนไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน และยังมีอีกหลายคนเชื่อว่าจริงแล้วสิงคโปร์นั้น เคยเป็นเมืองของประเทศมาเลเซียมาก่อน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วหากเราพูดถึงในเรื่องของประวัติศาสตร์อาจจะบอกได้ว่าสิงคโปร์นั้นยังไม่เคยเป็นประเทศมาเลเซียมาก่อน เพียงแค่อาจจะเป็นอารมณ์แบบพาร์ทเนอร์ ต้องการเข้าไปอยู่ด้วยเฉย แต่เพราะอะไรล่ะทำไมพวกเขาถึงต้องทำแบบนั้น วันนี้เดี๋ยวเราจะมาพูดถึงเรื่องราวของประเทศสิงคโปร์กัน มาดูกันนะครับว่าเรื่องราววันนี้จะมีอะไรบ้าง น่าตื่นเต้นแค่ไหน บอกเลยว่ามีเรื่องราวซับซ้อน และเรื่องราวอีกมากมายที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน มาดูกันนะครับว่าทำไมสิงคโปร์ถึงกลายเป็นประเทศที่โด่งดังเป็นต้นๆของโลก ถ้าพร้อมกันแล้วก็ฝากกดไลค์กดแชร์แล้วก็ไปติดตามรับฟังรับชมกันได้เลย

[ สิงคโปร์ ] ประเทศเล็กๆที่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของไทย กลับกลายเป็นประเทศที่พัฒนาเป็นอันดับต้นๆของโลก!

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ สิงคโปร์ เวลา

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *