Skip to content
Home » [Update] สำนวนภาษาอังกฤษ (Idioms) ประโยค คำศัพท์ต่างๆ พร้อมคำแปล | แปล เป็น ประโยค ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

[Update] สำนวนภาษาอังกฤษ (Idioms) ประโยค คำศัพท์ต่างๆ พร้อมคำแปล | แปล เป็น ประโยค ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

แปล เป็น ประโยค ภาษา อังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

Idioms หมายถึง สำนวนภาษาอังกฤษ ที่มีคำศัพท์ หรือประโยค ที่มีความหมายไม่ตรงตัว พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ เปรียบเหมือนสำนวนไทย หรือคำสุภาษิต ในบ้านเรานั่นเองค่ะ อาทิเช่น ไก่ได้พลอย ก็ไม่ได้หมายถึงไก่ได้พลอยจริงๆ แต่เป็นการเปรียบเทียบ คนที่ไม่รู้จักคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่ ในภาษาอังกฤษเองก็เช่นกัน เขาจะมีสำนวนที่ใช้เปรียบเทียบซึ่งเรียกว่า idiom นั่นเองค่ะ

สำนวนภาษาอังกฤษ (Idioms)

วันนี้เรามีสำนวน idiom พร้อมภาพประกอบเป็นการ์ตูนน่ารักๆ มาฝากเพื่อนๆ อ่านสนุกๆ ไปด้วยกันนะคะ

head in the clouds

1. head in the clouds

หมายถึง เพ้อฝัน,ไม่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง, อยู่ในโลกแห่งความฝัน (ตื่นค่ะซิสสสส)

heart in your mouth

2. heart in your mouth

หมายถึง  อาการประหม่า ตื่นเต้น ทำตัวไม่ถูก (ประมาณว่าตื่นเต้นตอนพูดบนเวที หรือตอนออกไปพูดหน้าห้องเรียน)

hold your horses

3. hold your horses

ไม่ได้หมายถึง จับม้าเอาไว้นะคะ ในสำนวนภาษาอังกฤษนี้ หมายถึงว่า  เดี๋ยวก่อน แปบนึงก่อน (ประมาณว่า เดี๋ยวแปบนึง ขอทำสิ่งนี้ก่อนนะ)
เพราะม้าคือตัวแทนของความเร็วค่ะ เค้าเลยเปรียบเปรยว่า จับม้าของคุณไว้ก่อน

kick the bucket

4. kick the bucket

แปลตรงๆ คือ เตะถัง แต่เมื่อกลายเป็นสำนวน Kick the bucket แปลว่า ตาย

**สำนวนนี้มันมาจากในอดีตที่มีการลงโทษด้วยการแขวนคอ ซึ่งผู้ที่จะถูกแขวนคอ มักจะต้องยืนบนถังใบเล็กที่วางคว่ำอยู่ ทันทีที่เท้าเตะถังออก นั่นก็หมายถึง ผู้ถูกลงโทษก็จะถูกแขวนคอค่ะ

dead as a doornail

5. dead as a doornail

หมายถึง ลาโลกไปแล้วไม่ต้องสงสัย (ถ้าจะบอกว่าตายแหงแก๋ ฝรั่งเขาเปรียบไว้กับคำว่า ตะปูที่ตอกตรึงประตู ที่เรียกว่า door nail )

112 สำนวนภาษาอังกฤษ idiom น่าสนใจ

6. Bob’s your uncle.

หมายถึง ง่ายๆ แค่นั้นเอง, เท่านั้นแหละ, เรียบร้อย (สำนวนนี้จะไว้ใช้ ตอนนี้เราต้องการบอกว่า สิ่งที่เราจะทำนั้นมันง่ายมากๆ ทำได้แน่นอน ไม่มีทางพลาดอยู่แล้ว)

blue in the face

7.  blue in the face

ไม่ได้หมายถึงว่าหน้าสีนำ้เงินตามภาพนะคะ ในสำนวนภาษาอังกฤษ blue in the face จะหมายถึง ไม่รู้จะพูดอะไรต่อแล้ว (เหมือนเวลาที่พูดอะไรซ้ำๆ เดิมๆ หรือเจอสถานการณ์ที่พูด อธิบายอะไรไป แต่ฝ่ายตรงข้ามไม่ฟัง หรืออาจจะฟังแต่ไม่เกิดปฏิกิริยาตอบกลับ จนทำให้เราเพลียที่จะพูดอะไรซ้ำๆ เดิมๆ )

112 สำนวนภาษาอังกฤษ idiom น่าสนใจ

8. a storm in a teacup

หมายถึง เรื่องขี้ปะติ๋ว, เรื่องเล็กน้อย ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ (คนที่ชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ก็ทำให้บานปลาย)
(สำนวนนี้ใช้กันในหมู่คนอังกฤษ คนออสเตรเลีย)

"as cool as a cucumber"

9.”as cool as a cucumber”

หมายถึง คนที่ใจเย็นมากๆ (ยิ่งเอาไปแช่เย็นแล้วล่ะก็… อูยยย เย็นมากฝุดๆ ฮ่าๆ)

a piece of cake

10. a piece of cake

หมายความว่า เรื่องหมูๆ ง่ายเหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก

ˇ﹏ˇ ˇ△ˇ ˇ▽ˇ ˙▂˙ ˙0˙ ˙︿˙ ˙ω˙ ˙﹏˙ ˙△˙

สำนวนภาษาอังกฤษอื่นๆ

นอกจากนี้ยังมีสำนวนภาษาอังกฤษมาให้เพื่อนๆ อีกมากมายเลยค่ะ แต่ว่าไม่มีภาพประกอบแล้วนะคะ ไปอ่านแล้วจำไว้ใช้กันได้ตามสถานการณ์ต่างๆ ได้เลย

11. A great deal – จำนวนมาก มากมาย

12. After all – อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม

13. After one’s own heart – ได้ดังใจ สมใจคิด ถูกใจจริงๆ

14. Aim at – เล็ง(ปืน)ไปที่ มุ่งหมายเพื่อ มุ่งไปยัง มุ่งมั่นเพื่อ ตั้งเป้า เล็ง เพ่งมอง

15. All over the place – ทั่วทุกที่ ทุกหนทุกแห่ง กระจัดกระจาย เกลื่อน

16. Around the corner – อยู่ใกล้ๆ อยู่ไม่ไกล ใกล้เข้ามาแล้ว

17. As a matter of fact – อันที่จริง ตามที่จริง จริงๆ แล้ว

18. As far as I am concerned – ตามความเห็นของฉัน ตามความคิดฉัน เท่าที่ทราบ

19. Ask after –  ถามถึง ถามสารทุกข์สุกดิบ ไปเยี่ยมเยียนถามอาการ ทักทายปราศรัย

20. A dead end – หมดหวัง, ภาวะที่ไร้ความหวัง

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

21. Ask for trouble – หาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัว แส่หาเรื่อง

22. Back and forth – ไปๆ มาๆ เดินกลับไปกลับมา

23. Be concerned about – เป็นห่วง กังวลเกี่ยวกับ

24. Be fond of – ชอบ ชื่นชอบ โปรดปราน

25. Be in charge of – ดูแล รับผิดชอบ

26. Be in the same boat – ลงเรือลำเดียวกัน ประสบปัญหาหรือความยุ่งยากเหมือนกัน

27. Be mad at – โกรธ

28.  Be my guest – ตามสบายเลย เชิญตามสบาย ไม่ต้องเกรงใจ

29. Be on a diet  / go on a diet – กำลังลดน้ำหนัก (ด้วยการคุมอาหาร)

30. Be out of order – เสีย ใช้การไม่ได้ ไม่เข้าท่า ไม่เป็นระเบียบ

31. Be supposed to – น่าจะ ควรจะ

32. Bear in mind – จำใส่ใจไว้ จำไว้ว่า จดจำ รำลึก สังวรไว้

33. Better than nothing – ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

34. Bottom line – ท้ายที่สุด ส่วนที่สำคัญที่สุด จุดสำคัญที่สุด ผลที่ปรากฏออกมาในที่สุด

35. Break a promise – ผิดสัญญา ไม่รักษาคำพูด ไม่ทำตามสัญญา

36. Break one’s heart – ทำให้หัวใจสลาย ทำร้ายความรู้สึก ทำให้อกหัก หักอก

37. Break up – เลิกคบ ตัดขาดจากกัน แตกหัก แยกทางกัน ทำให้แหลกละเอียด

38. By all means – แน่นอน ใช่เลย ได้เลย เชิญเลย

39. By no means – ไม่ด้วยประการใดเลย ไม่ใช่ใดๆ เลย ไม่อย่างแน่นอน ไม่มีทาง

40. Calm down – สงบสติอารมณ์ สงบใจ ทำใจให้สงบ ทำให้สงบ

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

41. Carry out – ทำให้สำเร็จ ทำให้ลุล่วง ทำให้บรรลุ ปฎิบัติ ดำเนินการ

42. Catch up with – ตามทัน ไล่ทัน พบ

43. Cheer up – ให้กำลังใจ ปลอบใจ ทำให้รู้สึกดีขึ้น ทำให้ร่าเริงขึ้น

44. Come out of the closet – เปิดเผยตัวตน หรือประกาศตัวออกมาว่าเป็นคนรักเพศเดียวกัน

45. Come over – แวะเยี่ยม ไปมาหาสู่

46.Cope with – จัดการกับ รับมือกับ

47.Count on – ไว้วางใจ เชื่อใจ เชื่อถือ พึ่งพาอาศัย

48.Cross the line – ล้ำเส้น ข้ามเส้น ข้ามแดน

49.Day in and day out – ตลอดเวลา อย่างต่อเนื่อง ไม่มีหยุด

50.Deal with – ติดต่อกับ จัดการกับ เกี่ยวข้องกับ รับมือกับ

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

51.Don’t get me wrong – อย่าเข้าใจฉันผิด

52.Dress up – แต่งกาย แต่งตัวเป็น ปรุงแต่ง

53.Drive someone crazy – ทำให้บ้าคลั่ง ทำให้เสียสติ

54.Drive someone nuts – ทำให้หงุดหงิดมาก ทำให้โมโหมาก

55.End up – สิ้นสุดด้วย ลงท้ายด้วย ลงเอยด้วย จบลง ในที่สุด

56.Every now and again – เป็นครั้งคราว

57.Every now and then – เป็นครั้งคราว

58.Face to face – ซึ่งๆ หน้า จะๆ ต่อหน้า ประจันหน้า

59.Fade away – ค่อยๆ จางหายไป ค่อยๆ เลือนหายไป ทำให้หายไปอย่างลับๆ เลือนหายไป เสื่อม

60.Figure out – คิดออก คิดให้ออก คิดได้

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

61.Finish up – ทำให้เสร็จสิ้น จบลง ยุติ

62.Focus on – เพ่งเล็งไปที่ มีสมาธิจดจ่อกับ มุ่งเป้าไปที่ พุ่งความสนใจไปที่

63.Fool oneself – หลอกตัวเอง

64.For the sake of – เพื่อ เพื่อเห็นแก่ เพื่อเป็นเกียรติกับ

65.From now on – จากนี้ไป จากนี้เป็นต้นไป ต่อแต่นี้ไป นับจากนี้ไป

66.From time to time – บางครั้ง

67.Get along – เข้ากันได้ เป็นมิตร เป็นเพื่อนกัน มุ่งไปข้างหน้าพร้อมกัน

68.Get lost – หลงทาง แต่ถ้าเป็นคำสั่งจะเป็นในเชิงการไล่ แปลว่า ไปให้พ้น ไปให้ห่างๆ ไสหัวไป

69.Get out of – ออกไปจาก ได้มาจาก เอาออกจาก ทำให้ออกไปจาก นำออก คัดลอกจาก ลงจากรถ ยกเลิก ยุติ

70.Get out of hand – ควบคุมไม่ได้ เกินกว่าจะควบคุมได้

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

72.Get rid of – ขจัด กำจัดออกไป จำหน่ายออกไป ขจัดปัญหา กวาดล้าง โค่น ฆ่า

73.Get the most out of – ใช้ประโยชน์สูงสุดจากบางสิ่งบางอย่าง

74.Get together – พบปะ รวมตัวกัน รวมกลุ่มกัน พบปะสังสรรค์กัน

75.Get used to – เคยชิน รู้สึกเคยชิน

76.Give someone a hard time – นำความยุ่งยากมาให้ ทำให้ยุ่งยาก สร้างความลำบากให้

77.Give up on someone/something – ตัดหางปล่อยวัด เลิกคาดหวังในคนๆ นั้นอีกต่อไป หมดหวังต่อบุคคลนั้นแล้ว

78.Give way to – ยอมตาม เออออห่อหมก ตามใจ

79.Go for a walk – เดินเล่น ไปเดินเล่น ไปกินลมชมวิว

80.Good-for-nothing – เปล่าประโยชน์ ซึ่งไร้ประโยชน์ ไม่เอาถ่าน บุคคลไร้ประโยชน์ คนไม่เอาไหน คนไม่มีค่า

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

คลิปอื่นๆ https://seeme.me/ch/adambradshaw

81.Hand in (something) – ส่ง (รายงาน การบ้าน) ยื่นเสนอ มอบให้(ด้วยมือ) ส่งให้เมื่อถึงกำหนด

82.Hang out – ออกไปข้างนอก ออกไปสังสรรค์

83.Have a crush on someone – หลงรักหรือคลั่งไคล้ใครคนใดคนหนึ่ง แอบรักหรือปิ้ง

84.Have a date (with) – มีนัด ติดนัด ไปเที่ยว (กับ)

85.Have a good time – สนุกสนาน เพลิดเพลิน ขอให้สนุกนะ

86.Have a word with – ต้องการคุยด้วยเป็นส่วนตัว

87.Hit the books – อ่านหนังสืออย่างหนัก ติววิชา ติวเข้ม ตั้งใจเรียน

88.Hold one’s ground – ยึดมั่นอยู่ที่เดิม ไม่ถอย ตั้งรับ ตั้งมั่น รักษาสถานะไว้

89.In advance – ล่วงหน้า ก่อนหน้า ก่อนเวลา

90.In any case – ไม่ว่ากรณีใดๆ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม อย่างไรก็ดี อย่างไรก็ตาม

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

91.In case of – ในกรณีที่เป็น ในแง่ของ

92.In no time – รวดเร็ว ในเวลาไม่นาน

93.In vain – เปล่าประโยชน์ ไม่มีประโยชน์ สูญเปล่า

94. It/that goes without saying – ชัดเจนโดยไม่ต้องอธิบาย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า

95.Jot down – จดอย่างเร็ว บันทึกอย่างเร็ว รีบจด

96.Jump the gun – ทำอะไรก่อนเวลาอันควร

97.Jump to conclusions – ด่วนตัดสินใจ รีบสรุป รีบตัดสินใจเร็วเกินไป

98.Jump up – กระโดดขึ้น กระโจนขึ้น รีบลุกขึ้นจากที่นั่งทันที ลุกขึ้นทันที

99.Keep a promise – รักษาสัญญา ทำตามสัญญา

100.Keep an eye on  – เฝ้าดู เฝ้ามอง จับตาดู

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

101.Keep away from – อยู่ห่างจาก หลีกหนีจาก หลีกเลี่ยงจาก

102.Keep calm – ตั้งสติ ทำใจให้สงบ

103. Keep on – ทำต่อไป ดำเนินต่อไป กระทำ…อย่างต่อเนื่อง

104.Keep one’s eye on – เฝ้าดู เฝ้ามอง จัดตาดู

105. Keep one’s word – รักษาคำพูด รักษาสัจจะ ทำตามที่พูดไว้

106. Keep your shirt on! – คอยเดี๋ยว คอยก่อน อารมณ์เสีย

107.Lay a finger on – แตะต้อง หรือ ทำร้าย

108.Leave someone in peace – หยุดรบกวน

109.Let go of – ปล่อย ปล่อยตัว ปล่อยไป

110.Let someone down – ทำให้ผิดหวัง

111.Once in a blue moon – ไม่บ่อย นานๆ ครั้ง แทบจะไม่เคยเกิดขึ้นเลย

112.Out of the blue – ทันทีทันใด ไม่ได้บอกล่วงหน้า จู่ๆ ก็เกิดขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก englishidiomsaday , ภาพประกอบน่ารักๆ www.rosha.ie

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

บทความแนะนำ

[Update] ประโยคสำหรับขอร้อง (Request) คำพูดสำคัญในภาษาอังกฤษ | แปล เป็น ประโยค ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

การขอร้องให้คนอื่นทำอะไรหรือช่วยอะไรนั้น ควรพูดให้สุภาพเข้าไว้ มิฉะนั้นแล้วอาจจะได้รับการปฏิเสธได้โดยง่าย อย่างไรก็ตามการขอร้องมีหลายระดับ คือ ระดับธรรมดา สุภาพและสุภาพที่สุด หรือในเรื่องที่ยากง่ายต่างกัน ฉะนั้น จะขอร้องให้ทำหรือช่วยอะไรนั้น ควรใช้คำให้เหมาะสมกับระดับเหตุการณ์นั้นๆ ในการขอร้องใช้คำได้หลายวิธี หลายประโยค ในที่นี่อาจจำแนกประโยคต่างๆ ที่ใช้ในการขอร้องได้ดังต่อไปนี้
1. ประโยคคำสั่ง (Command) ประโยคคำสั่งเป็นประโยคที่ขึ้นต้น ด้วยคำกริยาไม่มีประธาน เช่น Sit down. นั่งลง Open the window. เปิดหน้าต่างด้วย Don’t disturb her. อย่ารบกวนเธอ ประโยคชนิดนี้สร้างเป็นการขอร้องโดยการเติม Please (โปรด กรุณา) เข้าไป อาจจะวางต้นประโยค หรือท้ายประโยคก็ได้ การขอร้องด้วยประโยคชนิดนี้ ถือเป็นการขอร้องโดยตรง นิยมใช้โดยทั่วไป โดยมีรูปประโยคดังนี้
Please…………..         กรุณา / โปรด……………..
…………………….please.
ตัวอย่าง
Please sit down.
กรุณานั่งลง
Open the window, please.
กรุณาเปิดหน้าต่างด้วย
Please don’t disturb her.
กรุณาอย่ารบกวนเธอ
Please give me your name.
กรุณาบอกชื่อคุณด้วย
Don’t park in front of the office, please.
กรุณาอย่าจอดรถหน้าสำนักงาน
Please get me a chair.
กรุณาหาเก้าอี้ให้ฉันสักตัวด้วย
2. ประโยคบอกเล่า (Statement) การขอร้องอาจจะใช้เป็นรูปประโยคบอกเล่าธรรมดาก็ได้ แม้จะถือว่าเป็นการแสดงความต้องการของผู้พูดเองขึ้นมาลอยๆ โดยใช้กริยาที่แสดงออกถึงความต้องการ คือ want หรือ would like โดยการเติม Please เข้าท้ายประโยค ใช้ would like เป็นการสุภาพกว่า มีรูปประโยคดังนี้
I want …………, please.
ฉันต้องการ………………..
I would like …………….., please.
ฉันต้องการ……………………………
ตัวอย่าง
I want some water, please.
ฉันต้องการนํ้าบ้าง
I want a pen, please.
ฉันต้องการปากกาด้ามหนึ่ง
I want some drinks, please.
ฉันต้องการเครื่องดื่มสักอย่าง
I would like a cup of coffee, please.
ฉันต้องการกาแฟสักถ้วย
I would like the red one, please.
ฉันต้องการอันสีแดง
เพื่อให้มีความหมายเป็นการขอร้องโดยตรง ในรูปประโยคบอกเล่า ใช้กริยา ask หรือ request (ขอร้อง) ได้เลย หรือแสดงความต้องการจะขอร้อง โดยนำด้วย want หรือ would like และตามด้วย infinitive ดังโครงสร้างต่อไปนี้
I ask you to
ฉันขอร้องคุณให้ช่วย
I request you to
ฉันขอร้องคุณให้ช่วย
I want to ask you to
ฉันต้องการขอร้องคุณช่วย
I want to request you to
ฉันต้องการที่จะขอร้องคุณให้ช่วย
ตัวอย่าง
I ask you to open the window.
ฉันขอร้องให้คุณช่วยเปิดหน้าต่าง
I ask you to help me with this.
ฉันขอร้องคุณช่วยทำสิ่งนี้ด้วย
I request you to post these letters for me.
ฉันขอร้องคุณช่วยส่ง จ.ม.เหล่านี้ให้ด้วย
I would like to ask you to call him for me.
ฉันอยากขอร้องคุณช่วยโทรศัพท์ไปหาเขาให้ด้วย
I want to ask you to find his address.
ฉันต้องการให้คุณหาที่อยู่ของเขาให้ด้วย
I want you to sit down.
ฉันอยากจะให้คุณนั่งลง
I would like you to get me a pen.
ฉันอยากขอร้องให้คุณหาปากกาให้สักด้ามด้วย
3. ประโยคคำถาม (Question) การใช้รูปประโยคคำถามในการ ขอร้องนั้น ถือเป็นการขอร้องโดยอ้อมเป็นการถามกลายๆ ว่า จะทำอย่างนั้น ได้ไหม เป็นการแสดงความเกรงใจในการขอร้องนั้นๆ ซึ่งนิยมใช้กันมาก รูปคำถามที่ใช้มากคือ Yes/No Question แต่อย่างไรก็ตาม คำถามประเภทอื่นก็ใช้ในการขอร้องได้เช่นกัน ประโยคคำถามต่างๆ ที่ใช้ในการขอร้องมีโครงสร้างดังนี้
Yes/No Question :     Can / Will you…….., please?
Could / Would you please……., (please)?
Could / Would you kindly………..?
Would you be so kind as to……..?
Do / Would you mind………?
Tag Question :         ………,will you?
………,won’t you?
Wh- Question :         What……., please?
Who………, please?
(ect.)
Indirect Question :     I wonder if you……
I wonder if you’d mind…….
การใช้ประโยคคำถามชนิดต่างๆ ในการขอร้องนั้น มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
-ประโยค Yes/No Question ใช้มากที่สุด เป็นทั้งการถามและ ขอร้องในตัวเสร็จว่าจะทำได้หรือไม่ จากโครงสร้างข้างบนนั้น มีตัวอย่าง ดังต่อไปนี้
Can you sit down, please?
กรุณานั่งลงได้ไหม
Will you make me a cup of coffee, please?
ชงกาแฟให้ฉันสักถ้วยได้ไหม
Could you please tell me the way to the airport?
คุณจะกรุณาบอกหนทางไปสนามบินให้ฉันหน่อยได้ไหม
Would you kindly lend me the book for two days?
คุณจะกรุณาให้ฉันยืมหนังสือเล่มนี้สักสองวันจะได้ไหม
Would you be so kind as to post these letters for me?
คุณจะกรุณาส่งจดหมายเหล่านี้ให้ฉันด้วยได้ไหม
Do you mind washing this glass?
คุณล้างแก้วนี้ด้วยได้ไหม
Would you mind closing the door?
คุณจะกรุณาปิดประตูหน่อยได้ไหม
Would you please translate this sentence for them?
คุณจะกรุณาแปลประโยคนี้ให้พวกเขาหน่อยได้ไหม
Can you help me with this exercise?
คุณช่วยฉันทำแบบฝึกหัดนี้ได้ไหม
Will you find the meaning of the word for me?
คุณจะหาความหมายคำนี้ให้ฉันหน่อยได้ไหม
Would you mind giving me her name?
คุณจะบอกชื่อเธอให้ฉันหน่อยได้ไหม
-ประโยค Tag Question ตามปกติใช้เฉพาะชนิดที่ท่อนแรกเป็นรูปคำสั่งเท่านั้น บางครั้งอาจจะถือว่ายังเป็นคำสั่งอยู่นั้นเอง แต่ในที่นี่จัดเป็นการขอร้องอีกระดับหนึ่งไม่ค่อยนิยมใช้กันมากนัก จากโครงสร้างข้างบนนั้น มีตัวอย่างดังต่อไปนี้
Come in, will you?
เข้ามาข้างใน ได้ไหม
Close the window, won’t you?
ปิดหน้าต่างด้วย ได้ไหม
Sit down, won’t you?
นั่งลงได้ไหม
Speak slowly, will you?
พูดช้าๆ ได้ไหม
ประโยคเช่นนี้ถือว่าเป็นคำสั่งโดยอ้อม ซึ่งมีความหมายสุภาพกว่า คำสั่งโดยตรง
-ประโยค Wh-Question เป็นรูปคำถามธรรมดา แล้วเติม please เข้าท้ายประโยค ถือว่าเป็นการขอร้องโดยอ้อมอีกแบบหนึ่ง เป็นการขอร้องระดับธรรมดา ดังตัวอย่างต่อไปนี้
What’s your name, please?
คุณชื่ออะไรครับ
Where are you from, please?
คุณมาจากไหนครับ
When were you born, please?
คุณเกิดเมื่อไรครับ
How old are you, please?
คุณอายุเท่าไรครับ
การขอร้องวิธีนี นิยมใช้กับเหตุการณ์หรือสถานการณไม่มากนัก
-ประโยค Indirect Question นิยมใช้ในการขอร้องเช่นกัน เป็น การขอร้องโดยอ้อมเช่นเดียวกับ Yes/No Question ที่จริงแล้วประโยคชนิดนี้ก็คือประโยคบอกเล่านั้นเอง กริยาที่นิยมใช้สำหรับประโยคชนิดนี้ ก็คือกริยาที่แสดงถึงความสงสัย ไม่แน่ใจ ได้แก่ wonder (สงสัย) ดังตัวอย่างประโยคต่อไปนี้
I wonder if you’d lend me the typewriter.
ไม่ทราบว่า คุณจะให้ฉันยืมเครื่องพิมพ์ดีดได้ไหม
I wonder if you could help me with this?
ไม่ทราบว่า คุณจะช่วยฉันทำสิ่งนี้ได้ไหม
I wonder if you would mind checking this work.
ไม่ทราบว่า คุณจะกรุณาตรวจงานนี้หน่อยได้ไหม
I wonder if you would mind explaining this sentence.
ไม่ทราบว่า คุณจะกรุณาอธิบายประโยคนี้หน่อยได้ไหม
ตอบรับ (Accepting) การตอบรับการขอร้อง คือสามารถกระทำได้ตามที่ขอร้องนั้น ใช้คำพูดได้หลายอย่างหลายระดับเช่นเดียวกับการขอร้องดังนี้
Yes, of course
ตกลง, ได้เลย, แน่นอน
Certainly
ตกลง, ได้เลย, แน่นอน
All right ตกลง
Not at all
ได้เลย, ไม่เป็นไร
O.K.
ตกลง, ได้เลย
Sure ได้เลย
With pleasure
ยินดี, ด้วยความยินดี
I’d be glad to
ด้วยความยินดี
No, of course not
ไม่เป็นไร, ไม่รังเกียจ
Certainly not
ไม่เป็นไร ไม่รังเกียจ
ตอบปฏิเสธ (Refusing) อาจใช้ได้หลายคำเช่นกัน ควรปฏิเสธอย่างสุภาพ และให้เหตุผลที่ไม่อาจสนองความต้องการตามที่ขอร้องได้ ดังนี้
I’m sorry…..
ขอโทษ……..
I’m afraid….
ฉันเกรงว่า……
I wish I could but……
ฉันอยากจะทำให้ แต่ว่า….
ตัวอย่าง
I’m sorry I don’t know.
ขอโทษด้วย, ฉันไม่ทราบ
I’m afraid I am not free at that time.
ฉันเข้าใจว่า ฉันคงไม่ว่างในเวลานั้น
I wish I could but I have to hurry back home.
อยากจะทำให้เหมือนกัน แต่ว่าฉันต้องรีบกลับบ้าน
ข้อสังเกต
-การใช้กริยารูปอดีต (past) คือ could, would ไม่มีความหมาย เป็นอดีต แต่แสดงถึงความสุภาพหรือเกรงใจว่า can และ will และใช้ would like สุภาพกว่า want
-การขอร้องรูปคำถาม Yes/No นั้นแตกต่างจากคำถามธรรมดา โดยเติม Please เข้าไปเพื่อแสดงการขอร้อง และตอบแตกต่างกัน โดยคำถามธรรมดาตอบ Yes/No แต่การขอร้องตอบ Yes, of course หรือ I’m sorry … ดังตัวอย่างต่อไปนี้

คำถาม

ขอร้อง

Can you open the window?

Yes, I can. / No, I can’t.

คุณสามารถเปิดหน้าต่างได้ไหม

เปิดได้ / เปิดไม่ได้

Can you open the window, please?

Yes, of course. / I’m sorry …

คุณจะกรุณาเปิดหน้าต่างหน่อยได้ไหม      

ได้เลย / ขอโทษ เพราะว่า …

Can you speak Thai?

Yes, I can. / No, I can’t

คุณพูดภาษาไทยได้ไหม

ได้ พูดได้ / เปล่า พูดไม่ได้

Can you speak Thai, please?

All right. / Sorry, I don’t knowThai.

คุณกรุณาพูดภาษาไทยได้ไหม

ตกลง / ขอโทษ ฉันไม่รู้ภาษาไทย

Will you come tomorrow?

Yes, I will. / No, I won’t.

พรุ่งนี้ คุณจะมาใช่ไหม

ใช่, ฉันจะมา / เปล่า, ฉันจะไม่มา

Will you come tomorrow, please?

Sure. / I’m afraid I can’t.

พรุ่งนี้คุณมาได้ไหม

มาได้ / ฉันเกรงว่า คงมาไม่ได้

-การขอร้องที่ใช้ Do / Would you mind + v-ing เมื่อตอบรับ ใช้รูปเป็นปฏิเสธ คือ Of course not / Certainly not ซึ่งความหมายจริงๆ
ของการขอร้องชนิดนี้ ก็คือ คุณจะรังเกียจไหมที่จะ….คำตอบ ก็คือ เปล่า, ไม่รังเกียจ
ตัวอย่าง
Do you mind opening the window?    No, of courses not.
คุณจะรังเกียจไหมที่จะเปิดหน้าต่าง    ไม่เลย ไม่รังเกียจ
Would you mind helping me with this?    Certainly not.
คุณจะรังเกียจไหมที่จะกรุณาช่วยฉันทำสิ่งนี้   ไม่, ไม่รังเกียจ
แบบฝึกหัด
จงสร้างข้อความต่อไปนี้ให้เป็นประโยคขอร้อง
1. Take a seat
2. Turn off the fan
3. Show how to use it
4. Clean the room
5. Tell the way to somewhere
6. Type the letter
7. Not to be late
8. Pronounce this word
9. Send the letter by post
10. Not smoke in the room
ตัวอย่าง
Take a seat, please.
I want you to take a seat.
I would like you to take a seat.
Can you take a seat, please?
Could you please take a seat?
Do you mind taking a seat?
Take a seat, won’t you?
I wonder if you would take a seat.
โครงสร้างประโยคสำหรับขอร้อง มีดังนี้
Please…………….
………………., please.
I want …………., please.
I would like ……………, please.
Can/Could you ………….., please?
Will/Would
Could/Would you kindly ……………?
Would you be so kind as to …………?
Do/Would you mind ……………?
…………, will you?
…………, won’t you?
What/Who/etc…………, please?
I wonder if you…………….
I wonder if you would mind……………..
ที่มา:ดร.สวาสดิ์  พรรณา    

(Visited 257,876 times, 74 visits today)


คำศัพท์ ผลไม้ ภาษาอังกฤษ Fruit


คำศัพท์ ผลไม้ ภาษาอังกฤษ Fruit
คำศัพท์อังกฤษ ภาษาอังกฤษ กีฬาอังกฤษ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

คำศัพท์ ผลไม้ ภาษาอังกฤษ Fruit

TEST คุณเรียงประโยคภาษาอังกฤษได้ไหม


ติดตามครูเชอรี่ https://www.facebook.com/cherry.englishbright/
background music :
Guiton Sketch by Kevin MacLeod is licensed under a Creative Commons Attribution licence (https://creativecommons.org/licenses/by/4.0/)
Source: http://incompetech.com/music/royaltyfree/index.html?isrc=USUAN1100473
Artist: http://incompetech.com/

TEST คุณเรียงประโยคภาษาอังกฤษได้ไหม

20 ประโยคขอโทษ ภาษาอังกฤษ เพื่อผู้เริ่มหัดสนทนา


💖 ถ้าอยากให้กำลังใจ มาสมัครสมาชิกกันนะครับ 💖
กดตรงนี้ 👉 https://www.youtube.com/channel/UCaiwEWHCdfCi23EYN1bWXBQ/join
ฝึกพูดภาษาอังกฤษ 20 ประโยค สำหรับขอโทษ ขออภัย บทนี้ประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ
Apologies Expression การกล่าวขอโทษ
To Accept an apology การตอบรับคำขอโทษ
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ฟรี! คลิก: https://www.tonamorn.com/
แจกศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐาน 1,000 คลิก: https://www.tonamorn.com/vocabulary
สอน การแต่งประโยคภาษาอังกฤษ
https://www.tonamorn.com/learnenglish/writesentences/
เรียนภาษาอังกฤษ จากภาพสวยๆ บนอินสตาแกรม
https://instagram.com/ajtonamorn
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ, บทสนทนาภาษาอังกฤษ, ไวยากรณ์ แบบฝึกหัดพร้อมเฉลย และบทเรียนภาษาอังกฤษอีกมากมาย เรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่พื้นฐาน จนถึงระดับสูง ฟรี 100%

20 ประโยคขอโทษ ภาษาอังกฤษ เพื่อผู้เริ่มหัดสนทนา

600 วลีสำคัญในภาษาอังกฤษ


มาเรียนรู้วลีพื้นฐานที่เป็นประโยชน์ซึ่งใช้กันทั่วไปในการพูดภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน!
ติดตามเสียงภาษาไทยและเสียงภาษาอังกฤษจะเล่มตามมา
โดยการฟังเสียงที่ได้ยินซ้ำ ๆ หลายครั้ง วลีที่คุณได้เรียนรู้จะยังคงอยู่ในหัวของคุณต่อไป
คุณต้องการที่จะพูดภาษาอังกฤษได้คล่องหรือไม่ หากต้องการแบบนั้นให้ลองอ่านออกเสียงไปพร้อม ๆ กับวิดีโอและเสียงที่ได้ยิน! หากคุณฝึกฝนซ้ำ ๆ วลีและคำศัพท์ต่าง ๆ ที่คุณจำได้จะเริ่มออกมาจากปากของคุณเองโดยธรรมชาติ
———————————————
บ่งบอกตัวตนของคุณเป็นภาษาอังกฤษ
https://youtu.be/nAVk_KU_1Mw แบบฝึกพูดภาษาอังกฤษแบบช้าและง่าย

600 วลีสำคัญในภาษาอังกฤษ

100 ประโยคสนทนา I คำถามและคำตอบ | ภาษาอังกฤษพื้นฐาน | เรียนง่ายภาษาอังกฤษ


วิดีโอนี้เกี่ยวกับ ภาพยนตร์ของฉัน
คลิปนี้จะเป็น 100 ประโยคสนทนามีทั้งคำถามและคำตอบเป็นประโยคพื้นฐานไม่ยากสามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวัน

100 ประโยคสนทนา I  คำถามและคำตอบ | ภาษาอังกฤษพื้นฐาน | เรียนง่ายภาษาอังกฤษ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ แปล เป็น ประโยค ภาษา อังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *