Skip to content
Home » [Update] สรุป ! ทั้ง 12 Tense อย่างละเอียด มาดูกัน | perfect tense คือ อะไร – NATAVIGUIDES

[Update] สรุป ! ทั้ง 12 Tense อย่างละเอียด มาดูกัน | perfect tense คือ อะไร – NATAVIGUIDES

perfect tense คือ อะไร: คุณกำลังดูกระทู้

Table of Contents

สรุป 12 Tenses

ก่อนที่จะเข้าสู่บทเรียน สรุป Tenses ทั้ง 12 Tenses น้อง ๆควรได้รู้ภาพรวมคร่าว ๆ ของเนื้อหาตัวนี้ก่อน ซึ่งคำถามยอดฮิตคือ

Q: Tenses คืออะไร?

A: คือไวยกรณ์เหมือนภาษาไทยนี่แหละจ้า เรียนเพื่อให้เราใช้ประโยคได้ถูกต้อง รู้เรื่อง

Q: แล้ว Tenses มีอะไรบ้าง

A: มีทั้งหมด 12 ชนิด แบ่งตามเวลา 3 ช่วง (อดีต ปัจจุบัน และอนาคต) กับ ลักษณะของการกระทำอีก 4 แบบ

 

สรุป เทคนิคเข้าใจ Tenses ง่าย ๆ ไม่ต้องท่องก็จำได้ ! 

ให้เราจินตนาการว่า tenses คือ โรงเรียนที่มี 3 ช่วงชั้น คือ อดีต ปัจจุบัน อนาคต แล้วในโรงเรียนก็มีกีฬาสีแบ่งออกเป็น 4 สี คือ simple, continuous, perfect และสีสุดท้าย perfect continuous โดยแต่ละสีจะมีนิสัยพิเศษ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของสีนั้น ๆ

 

ช่วงเวลา

x

การกระทำ

Past

Present

Future

Simple

S + V.2
S + V.1
S + will + V.inf

Continuous

S + was/were + V.ing
S + is/am/are + V.ing
S + will + be + V.ing

Perfect

S + had + V.3
S + has/have + V.3
S + will + have + V.3

Perfect Continuous

S + had + been + V.ing
S + has/have + been + V.ing
S + will + have + been + V.ing

 

S = ประธาน, V = กริยา, V.inf = กริยาต้นฉบับ (ไม่ผันหรือเปลี่ยนรูปใด ๆ ส่วนใหญ่หน้าตาเหมือน V.1)

 

 

มาเริ่มที่สีแรก simple : สีนี้จะมีนิสัยเรียบง่าย ไม่เรื่องเยอะตามชื่อ simple

  1. Past simple: S + V.2

  • ใช้กับเรื่องที่จบไปแล้วในอดีต เอาไว้บอกว่าการกระทำนั้น ๆ เสร็จสิ้นไปแล้ว

ตัวอย่างประโยค

  • I

    loved

    you. แปลว่า ฉันเคยรักเธอ (ในอดีตเคยรัก และหมดรักไปแล้ว)

  • You

    gave

    him your heart. แปลว่า คุณให้ใจกับเขาไปแล้ว (ให้ไปตั้งแต่ในอดีตแล้ว ให้ไปนานแล้ว)

  • She

    was

    my best friend. แปลว่า เธอเคยเป็นเพื่อนรักของฉัน (เคยเป็นเพื่อนกันในอดีต แต่ความเป็นเพื่อนมันจบไปแล้ว)

อ่านเนื้อหานี้เพิ่มเติมแบบละเอียด คลิ๊กตรงนี้

 

  1. Present simple: S + V.1

  • ใช้กับข้อเท็จจริงต่าง ๆ เช่น น้ำเดือดที่ 100 องศาเซลเซียส, ฉันเป็นผู้หญิง, ชื่อของเขาคือต้น

  • ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ เป็นประจำ เช่น เทศกาลปีใหม่ (เกิดขึ้นเป็นประจำในวันที่ 1 มกราคม)

  • ใช้กับนิสัยหรือรสนิยมส่วนตัว เช่น ฉันเป็นคนรักเด็ก เธอเป็นคนนอนตื่นสาย

ตัวอย่างประโยค

  • I

    love

    you.  แปลว่า ฉันรักคุณ (รักจริง ๆ นะ ไม่ได้โม้ ถือเป็นข้อเท็จจริง)

  • We

    celebrate

    Christmas on December 25. แปลว่า เราเฉลิมฉลองคริสต์มาสกันวันที่ 25 ธันวาคม (เป็นเทศกาลที่เกิดขึ้นเป็นประจำ)

  • I

    like

    dogs. แปลว่า ฉันชอบสุนัข (เป็นรสนิยมส่วนตัว)

อ่านเนื้อหานี้เพิ่มเติมแบบละเอียด คลิ๊กตรงนี้

 

  1. Future simple: S + will/be going to + V.inf

*** บางโรงเรียนสอนให้ใช้ V.1 เป็นความรู้ที่ผิดนะคะ ต้องเป็น V.inf เพราะกริยาทุกตัวที่ตามหลังกริยาช่วย (ในที่นี้คือตามหลัง will นั่นเอง) ต้องเป็นกริยาดั้งเดิมซึ่งก็คือ V.inf เพียงแต่ V.inf ส่วนใหญ่จะมีหน้าตาเหมือนกันกับ V.1 แต่จำไว้เสมอว่า ไม่ได้เหมือนกันทุกตัว ***

  • ใช้กับเรื่องที่คาดว่า/วางแผนว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น

ตัวอย่างประโยค

  • I

    will make

    you happy. แปลว่า ฉันจะทำให้คุณมีความสุข (คาดว่าจะทำ)

  • He

    is going to be

    a better person. แปลว่า เขาจะเป็นคนที่ดีขึ้น (วางแผนว่าจะปรับปรุงตัว)

อ่านเนื้อหานี้เพิ่มเติมแบบละเอียด คลิ๊กตรงนี้

 

ต่อกันที่สีที่ 2 continuous: สีนี้จะมีนิสัยกระตือรือร้น กำลังทำอะไรอยู่ตลอด ทำอะไรอย่างต่อเนื่อง

  1. Past continuous: S + was/were + V.ing

* Tense นี้สามารถใช้คู่กับ Past simple ได้ ในกรณีเกิดเหตุการณ์สองเหตุการณ์แทรกกัน เรียนเพิ่มเติมอีกบท *

  • ใช้กับเรื่องที่จบไปแล้วในอดีต เอาไว้เล่าถึงการกระทำที่กำลังดำเนินอยู่ ณ ตอนนั้น

ตัวอย่างประโยค

  • I

    was eating

    rice. แปลว่า ตอนนั้นฉันกำลังทานข้าวอยู่ (ตอนนี้ทานเสร็จไปแล้ว แต่เล่าถึงว่าในอดีตกำลังทำอะไรอยู่)

  • You

    were having

    fun. แปลว่า ตอนนั้นคุณกำลังสนุกเลย (ตอนนี้ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นแล้ว แต่ตอนนั้นกำลังสนุก)

  • He

    was running

    . แปลว่า ตอนนั้นเขากำลังวิ่งอยู่  (ตอนนี้ไม่ได้วิ่งแล้ว แต่ตอนนั้นกำลังวิ่งอยู่)

อ่านเนื้อหานี้เพิ่มเติมแบบละเอียด คลิ๊กตรงนี้

 

  1. Present continuous: S + is/am/are + V.ing

  • ใช้กับเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น หรือกำลังทำอยู่ในขณะที่พูด 

ตัวอย่างประโยค

  • I

    am studying

    .  แปลว่า ฉันกำลังเรียนหนังสืออยู่ (ตอนนี้กำลังเรียนอยู่อย่างต่อเนื่อง)

  • They

    are sleeping

    . แปลว่า พวกเขากำลังหลับอยู่ (กำลังกลับอยู่ในขณะที่คนพูดพูดอยู่)

  • The cat

    is sitting

    on my computer. แปลว่า แมวกำลังนั่งอยู่บนคอมของฉัน (กำลังนั่งอยู่ในขณะที่ฉันพูด)

อ่านเนื้อหานี้เพิ่มเติมแบบละเอียด คลิ๊กตรงนี้

 

  1. Future continuous: S + will + be + V.ing

  • ใช้กับเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต เอาไว้เล่าว่าในอนาคตตอนนั้นจะกำลังทำอะไรอยู่

ตัวอย่างประโยค

  • I

    will be celebrating

    on my birthday. แปลว่า ในวันเกิดฉันน่าจะกำลังฉลองอยู่ (ยังไม่ถึงวันเกิด แต่เดาว่าในวันเกิดต้องกำลังฉลองอยู่แน่)

  • He

    will be crying

    after the announcement of exam results. แปลว่า หลังจากการประกาศผลสอบเขาต้องร้องไห้แน่ๆ (ผลสอบยังไม่ประกาศ แต่เดาว่าในอนาคตเมื่อประกาศแล้วเขาจะร้องไห้)

อ่านเนื้อหานี้เพิ่มเติมแบบละเอียด คลิ๊กตรงนี้

 

สีที่ 3 perfect: สีนี้จะมีนิสัยครองทุกยุค อยู่ในทุกช่วงเวลา มักทำอะไรนาน ๆ ขี้โม้ ชอบเล่าประสบการณ์

  1. Past perfect: S + had + V.3

* Tense นี้สามารถใช้คู่กับ Past simple ได้ ในกรณีเกิดเหตุการณ์สองเหตุการณ์ต่อกัน เรียนเพิ่มเติมอีกบท *

  • ใช้กับเรื่องที่จบไปแล้วในอดีต แล้วมีอีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดตามมา

ตัวอย่างประโยค

  • When Janny arrived, the exam

    had

    already

    started

    . แปลว่า ตอนเจนนี่มาถึง การสอบก็ได้เริ่มไปแล้ว (การสอบเริ่มไปก่อน เจนนี่มาถึงทีหลัง)

  • Kai was depleted. He

    had studied

    hard all day. แปลว่า ไคเหนื่อยล้ามาก เขาเรียนหนักมาทั้งวัน  (เรียนหนักมาทั้งวันก่อน แล้วจึงเหนื่อย)

อ่านเนื้อหานี้เพิ่มเติมแบบละเอียด คลิ๊กตรงนี้

 

  1. Present perfect: S + has/have + V.3

  • ใช้กับเรื่องที่เริ่มต้นในอดีตและยังคงดำเนินต่อมาจนถึงปัจจุบัน (และน่าจะดำเนินต่อไปอีกในอนาคต)

ตัวอย่างประโยค

– We have studied in the same school for four years. (เรียนโรงเรียนเดิมมาสี่ปีแล้ว ตอนนี้ยังเรียนอยู่ และในอนาคตน่าจะเรียนต่อ)

  • ใช้กับเรื่องที่เริ่มต้นในช่วงเวลาหนึ่ง และช่วงเวลานั้นยังไม่หมด

ตัวอย่างประโยค

– Coronavirus has spread around the world this year. (เริ่มต้นในปีนี้และปีนี้ยังไม่หมด)

  • ใช้กับเรื่องที่เพิ่งจะเสร็จไป

ตัวอย่างประโยค

– I have just finished my homework. (เพิ่งจะทำการบ้านเสร็จ)

  • ใช้กับเรื่องที่ไม่ระบุเวลา และต้องการแค่เล่าว่าเคยทำ ไม่เคยทำ ประสบการณ์ หรือ ผลลัพธ์

ตัวอย่างประโยค

– I have learned Japanese, Korean, Italian, and English.

– Have you ever been to France?

– Someone has stolen my eraser!

อ่านเนื้อหานี้เพิ่มเติมแบบละเอียด คลิ๊กตรงนี้

  1. Future perfect: S + will + have + V.3

  • ใช้กับเรื่องที่คาดว่าจะจบลงในอนาคต

ตัวอย่างประโยค

–  He will have studied English for a year next week. (เขาจะเรียนภาษาอังกฤษครบหนึ่งปีในอาทิตย์หน้า)

– They will have seen the doctor Tuesday morning. (พวกเขาจะไปพบแพทย์วันอังคารตอนเช้า)

  • ใช้คู่กับ Present Simple เมื่อเรื่องที่คาดว่าจะจบในอนาคตจบแล้ว มีอีกเรื่องหนึ่งเกิดขึ้นต่อกันพอดี

– She will have cleaned the dishes when I get home. (เธอคงจะล้างจานเสร็จแล้วตอนฉันมาถึงบ้าน)

– By the time you arrive, I will have gone to bed. (กว่าคุณจะมาถึง ฉันคงจะเข้านอนแล้ว)

อ่านเนื้อหานี้เพิ่มเติมแบบละเอียด คลิ๊กตรงนี้

สีสุดท้าย perfect continuous: สีนี้จะมีนิสัยคล้ายกันกับ perfect แต่จะเน้นความต่อเนื่องของการกระทำ

  1. Past perfect continuous: S + had + been + V.ing

* Tense นี้สามารถใช้คู่กับ Past simple ได้ ในกรณีเกิดเหตุการณ์สองเหตุการณ์แทรกกัน เรียนเพิ่มเติมอีกบท *

  • ใช้กับเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น กำลังทำอยู่ในอดีต แล้วมีอีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดแทรกกลางคัน 

ตัวอย่างประโยค

– We had been walking for 30 minutes when it started to rain. (ตอนนั้นเรากำลังเดินเล่นกันอยู่ประมาณ 30 นาที ก่อนที่ฝนจะตกลงมากลางคัน)

– When the phone rang, I had been watching TV. (โทรศัพท์ดังขึ้นมากลางคั่นในขณะที่ฉันกำลังดูทีวีอยู่)

อ่านเนื้อหานี้เพิ่มเติมแบบละเอียด คลิ๊กตรงนี้

 

  1. Present perfect continuous: S + has/have + been + V.ing

  • ใช้กับเรื่องที่เริ่มต้นในอดีตและยังคงดำเนินต่อมาจนถึงปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง โดยจะเสร็จแล้วหรือไม่เสร็จก็ได้

ตัวอย่างประโยค

– It has been raining for four hours. (ฝนตกอย่างต่อเนื่องมาสี่ชั่วโมงแล้ว)

– They have been running for 20 minutes. (พวกเขาวิ่งอย่างต่อเนื่องมา 20 นาทีแล้ว)

อ่านเนื้อหานี้เพิ่มเติมแบบละเอียด คลิ๊กตรงนี้

 

3. Future perfect continuous: S + will + have + been + V.ing

  • ใช้คู่กับ Present Simple เมื่อเรื่องที่หนึ่งกำลังดำเนินอยู่ แล้วมีเรื่องที่สองเกิดขึ้นต่อกันพอดี โดยที่เรื่องที่หนึ่งอาจจะเสร็จแล้วหรือไม่เสร็จก็ได้

ตัวอย่างประโยค

– I will have been exercising when you arrive. (ฉันคงจะออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องอยู่ตอนที่คุณมาถึง)

– When he wakes up, she will have been watering flowers. (ตอนที่เขาตื่นนอน เธอคงจะกำลังรดน้ำดอกไม้อย่างต่อเนื่องอยู่)

อ่านเนื้อหานี้เพิ่มเติมแบบละเอียด คลิ๊กตรงนี้

 

การทำประโยคบอกเล่าให้เป็นประโยคปฏิเสธ และประโยคคำถาม

กรณีที่ 1 : เป็นคำถาม yes/no

ถ้าในประโยคมี Verb to be ( is,  am,  are หรือ was, were)

  • ทำให้เป็น

    ปฏิเสธ

    โดยการเติม not หลัง verb to be ได้เลย เช่น

– I am a good cook. 🡪 I am not a good cook.

  • ทำให้เป็น

    คำถาม

    โดยการเอา verb to be มาไว้หน้าสุด เช่น

– I am a good cook. 🡪 Am I a good cook? **อย่าลืมใส่ ? ท้ายคำถามนะคะทุกคน

เวลาตอบคำถามประเภทนี้ก็ตอบทวนคำถาม เช่น Yes, you are. / No, you are not.

ถ้าในประโยคมี Verb to have (have, has, had)

  • ให้เอา Do กับ Does มาช่วยโดยการเอามาวางไว้หน้า verb to have (จะใช้ do หรือ does ก็ขึ้นอยู่กับประธาน)

    • Do + ประธานพหูพจน์

    • Does + ประธานเอกพจน์

** ยกเว้นในกรณีถามประสบการณ์ใน Perfect tense จะใช้

 

S + verb to have + never… ในปฏิเสธ

verb to have + S + ever + …? ในคำถาม

  • ทำให้เป็น

    ปฏิเสธ

    โดยการเติม not หลัง do/does ได้เลย เช่น

– He has a big house. 🡪 He does not have a big house.

  • ทำให้เป็น

    คำถาม

    โดยการเอา do/does มาไว้หน้าสุด เช่น

– He has a big house. 🡪 Does he have a big house?

เวลาตอบคำถามประเภทนี้ก็ตอบทวนคำถาม เช่น Yes, he does. / No, he doesn’t.

ถ้าในประโยคมี Modal verb (can, should, must)

  • ทำให้เป็น

    ปฏิเสธ

    โดยการเติม not หลัง Modal verb ได้เลย เช่น

– This bird can fly. 🡪 This bird cannot fly.  **ไม่ต้องเว้นวรรคระหว่าง can กับ not

– I should go outside. 🡪 I should not go outside.

  • ทำให้เป็น

    คำถาม

    โดยการเอา Modal verb มาไว้หน้าสุด เช่น

– This bird can fly. 🡪 Can this bird fly?

– I should go outside. 🡪 Should I go outside?

เวลาตอบคำถามประเภทนี้ก็ตอบทวนคำถาม เช่น Yes, it can. / No, it can’t.

 

ถ้าในประโยคมีกริยาอื่น ๆ นอกเหนือจากข้างบน

ให้เอา Do กับ Does มาช่วยโดยการเอามาวางไว้หน้าคำกริยา (จะใช้ do หรือ does ก็ขึ้นอยู่กับประธาน)

  • ทำให้เป็น

    ปฏิเสธ

    โดยการเติม not หลัง do/does ได้เลย เช่น

– We go to school together. 🡪 We do not go to school together.

  • ทำให้เป็น

    คำถาม

    โดยการเอา do/does มาไว้หน้าสุด เช่น

– I love you. 🡪 Do you love me?

เวลาตอบคำถามประเภทนี้ก็ตอบทวนคำถาม เช่น Yes, I do. / No, I don’t.

 

กรณีที่ 2 : เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบเป็นข้อมูลไม่ใช่ yes/no

ให้นำคำถามขึ้นต้นประโยค (Wh- question) มาไว้ด้านหน้าประโยคคำถามแบบ yes/no ได้เลย

 

  • What = อะไร มักใช้ถามเกี่ยวกับสิ่งของ เวลาวันที่ เช่น

What is your favorite animal?

What time is it?

  • Where = ที่ไหน มักใช้ถามเกี่ยวกับสถานที่ เช่น

Where do we meet?

Where are you?

  • When = เมื่อไร มักใช้ถามเกี่ยวกับวันเวลา เช่น

When is Christmas?

When will they sleep?

  • Why = ทำไม มักใช้ถามเกี่ยวกับเหตุผล เช่น

Why are you so cute?

Why did you do that?

  • Who = ใคร มักใช้ถามเกี่ยวกับคน เช่น

Who does he like?

Who is she?

  • Whose = ของใคร มักใช้ถามเกี่ยวกับความเป็นเจ้าของ (ถามว่าเป็นของใคร) เช่น

Whose pen is it?

Whose are these?

  • Whom = ใคร มักใช้ถามเกี่ยวกับคนเหมือน who แต่คนที่ถูกพูดถึงจะต้องเป็นกรรม เช่น

Whom are you waiting for?

Whom do you serve?

  • Which = อันไหน/สิ่งไหน มักใช้ถามเวลาให้เลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น

Which dress do you like?

Which is nicer?

  • How = อย่างไร/เท่าไร มักใช้ถามเรื่องราคา จำนวน สุขภาพ อายุ ความถี่ วิธีการทำ เช่น

How much is this?

How many pets do you have?

How do you do? หรือ How are you?

How old are you?

How often do you exercise?

How do you go to work?

 

[Update] สรุปการใช้ tense ทั้ง 12 tenses อย่างละเอียด ครอบคลุม เข้าใจง่าย – NSRU BLOG | perfect tense คือ อะไร – NATAVIGUIDES

Table of Content

  • Tense คืออะไร
  • โครงสร้าง tense ทั้ง 12 เป็นอย่างไร แตกต่างกันอย่างไร
  • หลักการใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ใช้ต่างกันอย่างไร
  • ตัวอย่างประโยคของเทนส์ทั้งหมด เพิ่มเติมเสริมความเข้าใจ

Tense คืออะไร

ความหมายของ Tense คือ รูปแบบของประโยคที่มีคำกริยา แสดงระบุเวลากำกับการกระทำในขณะที่พูด

นี่คือความหมายคร่าวๆนะครับ ถ้าย่นย่อกันจริงๆในการเรียนหลักภาษาแล้ว Tense คือ กาล (เวลา)

tense 12

โครงสร้างของ 12 Tense และหลักการใช้

ว่ากันไปแล้ว Tense ใหญ่ๆแค่ 3 เท่านั้นเอง แต่แยกย่อยออกอีก 4 จึงรวมกันได้ 12 tense

  1.  Present Tense (ปัจจุบันกาล) กล่าวถึงเรื่องราวในปัจจุบัน
  2.  Past Tense (อดีตกาล)กล่าวถึงเรื่องราวในอดีต
  3.  Future Tense (อนาคตกาล)กล่าวถึงเรื่องราวในอนาคต

PRESENT TENSE

บอกเล่าเรื่องราวในปัจจุบัน

Present Simple Tense

โครงสร้าง: S. + V.1(s/es)

หลักการใช้:

  • บอกเล่าข้อเท็จจริงทั่วไป ของคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ …

ตัวอย่างประโยค:

  • eat rice everyday. ฉันกินข้าวทุกวัน
  • A dog has four leg. สุนัขมีสี่ขา
  • Bangkok is the capital city of Thailand.  กรุงเทพเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย
  • My class statrs at 9.00 ชั่วโมงเรียนของฉันเริ่มเวลา 9 นาฬิกา

present continuous tense

Present Continuous Tense

Tense นี้อีกชื่อหนึ่งคือ Present Progressive Tense

โครงสร้าง: S. + is, am, are + Ving

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้
  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดในอนาคตแน่ๆ

ตัวอย่างประโยค:

  • am eating rice now.  ฉันกำลังกินข้าวอยู่ตอนนี้
  • A dog is walking. สุนัขกำลังเดิน
  • I’m going to London next week. ฉันกำลังจะไปลอนดอนสัปดาห์หน้า
  • We are visiting our granddad tomorrow. พวกเรากำลังจะไปเยี่ยมปู่พรุ่งนี้

present perfect tense

Present Perfect Tense

โครงสร้าง: S. + has, have + V3

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่ดำเนินเสร็จแล้ว
  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่ดำเนินมาได้ในระยะเวลาหนึ่งจนถึงปัจจุบัน

ตัวอย่างประโยค:

  • have eaten rice. ผมกินข้าวแล้ว (กินเสร็จแล้ว)
  • She has finished her homework. หล่อนทำการบ้านเสร็จแล้ว
  • have eaten rice for 20 minutes. ผมกินข้าวมาแล้ว 20 นาที
  • He has lived here since 2000. เขาอาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่ปี 2000

present-perfect-continuous--tense

Present Perfect Continuous Tense

โครงสร้าง: S. + has, have +been+ Ving

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่ดำเนินมาได้ในระยะเวลาหนึ่งจนถึงปัจจุบันคล้าย present perfect tense แต่เป็นการเน้นย้ำว่าทำอย่างต่อเนื่อง

ตัวอย่างประโยค:

  • I have been playing foootball since 8 o’clock. ฉันเล่นฟุตบอล (อย่างต่อเนื่อง) ตั้งแต่ 8 โมง
  • She has been walking for 30 munites. หล่อนเดิน (อย่างต่อเนื่อง) เป็นเวลา 30 นาที
  • Toon has been running for 4 hours. ตูนวิ่ง (อย่างต่อเนื่อง) เป็นเวลา 4 ชั่วโมง)
  • He has been working here since 1999 . เขาทำงานที่นี่ (อย่างต่อเนื่อง)ตั้งแต่ปี 1999 (ไม่เคยย้ายไปไหน)

PAST TENSE

บอกเล่าเรื่องราวในอดีต

Past Simple Tense

โครงสร้าง: S. + V2

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ในอดีต ที่เกิดขึ้น ณ จุดเวลาใดเวลาหนึ่ง

ตัวอย่างประโยค:

  • went to school yesterday. ฉันไปโรงเรียนเมื่อวานนี้
  • ate bananas last week. ฉันกินกล้วยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
  • My dad washed his car last Sunday. พ่อของผมล้างรถของเขาเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว
  • She watched this movie last year. หล่อนดูหนังเรื่องนี้ปีที่แล้ว
  • Sam visited his parents five years ago. แซมไปเยี่ยมพ่อแม่ของเขาเมื่อห้าปีที่แล้ว

Past Continuous Tense

Past Continuous Tense

โครงสร้าง: S. + was, were + Ving

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีต แล้วมีอีกเหตุการณ์หนึ่งแทรกขึ้นมา

ตัวอย่างประโยค:

  • I saw a big elephant while I was walking to school . ฉันเห็นช้างตัวหนึ่งขณะที่ฉันกำลังเดินไปโรงเรียน
  • We were eating dinner when dad came home. พวกเรากำลังกินข้าวเย็นอยู่ ตอนที่พ่อมาถึงบ้าน
  • The light went out when they were watching TV. ไฟดับตอนที่พวกเขากำลังดูทีวีอยู่
  • She was taking a bath when I called her. หล่อนกำลังอาบน้ำอยู่ ตอนที่ผมโทรหาหล่อน
  • Sam was driving home when it started to rain. แซมกำลังขับรถกลับบ้าน ตอนที่ฝนเริ่มตก

Past Perfect Tense

Past Perfect Tense

โครงสร้าง: S. + had + V3

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่สิ้นสุดแล้วในอดีต ก่อนจะมีอีกเหตุการณ์ตามมา

ตัวอย่างประโยค:

  • I had eaten a pizza before I went to bed.ฉันได้กินพิซซ่า ก่อนที่ฉันเข้านอน (กินก่อน )
  • John called me after I had left. จอห์นโทรหาฉัน หลังจากที่ฉันได้ออกจากบ้านแล้ว
  • All people had gone home when we reached the cinema. คนได้กลับบ้านหมดแล้ว เมือเราไปถึงโรงหนัง
  • They had had dinner before they did homework. พวกเขาได้เขากินข้าว ก่อนพวกเขาทำการบ้าน
  • The train had left when we got to the station. รถไฟออกไปแล้ว ตอนที่เราไปถึงสถานี

Past Perfect Continuous Tense

Past Perfect Tense

โครงสร้าง: S. + had + been + ฺฺ Ving

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต และดำเนินมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง เน้นการบอกเวลามากกว่าการกระทำ

ตัวอย่างประโยค:

  • had been waiting for the train for three hours  before it arrived. ฉันได้รอคอยรถไฟเป็นเวลา(ตั้ง) 3 ชั่วโมง (นะ) ก่อนที่มันจะมาถึง
  • We had been walking for one hour when we saw that bird.
    พวกเราได้เดิน (ตั้ง) 1 ชั่วโมง (แน่ะ) ตอนที่พวกเราเห็นนกตัวนั้น
  • They had been playing football for four hours when it started to rain.
    พวกเขาได้เล่นฟุตบอล (ตั้ง) 4 ชั่วโมง ก่อนที่ฝนเริ่มตก (วันนี้เล่นได้นาน ปกติไม่เกินชั่วโมงก็ตกแล้ว)

FUTURE TENSE

บอกเล่าเรื่องราวในอนาคต

Future simple tense

Future Simple Tense

โครงสร้าง: S. + will + ฺฺ V1

หลักการใช้:

  • บอกเล่า คาดการณ์เหตุการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ตัวอย่างประโยค:

  • will go to school tomorrow. ฉันจะไปโรงเรียนพรุ่งนี้ (คิดว่าต้องไป เดี๋ยวหมดสิทธิ์สอบ)
  • will watch Chin Jang this evening. ฉันจะดูชินจังเย็นนี้ (เพื่อนบอกว่าสนุก จะลองดูหน่อย)
  • You will eat papaya salad tonight. คุณจะกินส้มตำคืนนี้ (คุณเคยบอกไว้ ว่าจะกินคืนนี้)
  • He will clean the car next week. เขาจะล้างรถสัปดาห์หน้า (เขาบอกมา ว่าจะล้าง)
  • She will buy a bike next month. หล่อนจะซื้อจักรยานเดือนหน้า (หล่อนว่าเดินไปเรียนแล้วเหนี่อย)

future continuous tense

Future Continuous Tense

โครงสร้าง: S. + will + ฺฺ be + Ving

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในอนาคต

ตัวอย่างประโยค:

  • will be reading books at 8 o’clock tomorrow. ฉันจะกำลังอ่านหนังสือเวลา 8 นาฬิกา วันพรุ่งนี้
  • At nine o’clock tomorrow, we will be working on farm.พรุ่งนี้เวลา 9 นาฬิกา พวกเราจะกำลังทำงานในฟาร์ม
  • At six oclock, we will be eating dinner with our granddad. เวลา 6 นาฬิกา พวกเราจะกำลังกินข้าวกับปู่ของพวกเรา
  • She will be waiting when you arrive. หล่อนจะกำลังรอคอย เมื่อคุณมาถึง

Future Perfect Tense

Future Perfect Tense

โครงสร้าง: S. + will + ฺฺ have + V3

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่สิ้นสุดแล้วในอนาคต

ตัวอย่างประโยค:

  • will have eaten breakfast at 8 o’clock tomorrow. ฉันจะกินข้าวเช้าเรียบร้อยแล้ว เวลา 8 นาฬิกา วันพรุ่งนี้
  • Tomorrow morning, we will have finished our project. พรุ่งนี้เช้า พวกเราจะดำเนินโครงการของพวกเราเสร็จแล้ว
  • She will have gone when you arrive. หล่อน(คง)จะไปแล้ว เมื่อคุณมาถึง
  • will have cleaned the floor when my mom  gets home. ฉัน(คง)จะทำความสะอาดพื้นเรียบร้อยแล้ว ตอนที่แม่มาถึง

Future Perfect Continuous Tense

โครงสร้าง: S. + will + ฺฺ have + been + Ving

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่ดำเนิมมาได้ระยะเวลาหนึ่งในอนาคต ก่อนมีอีกเหตุการณ์หนึ่งแทรกเข้ามา

ตัวอย่างประโยค

  • will have been eating breakfast for 30 minutes at 8 o’clock tomorrow.
    ฉันจะได้กำลังกินข้าวเช้าเป็นเวลา 30 นาทีแล้ว ณ เวลา 8 นาฬิกา วันพรุ่งนี้
  • At 10 o’clock tomorrow, we will have been working on farm for two hours.
    เวลา 10 นาฬิกาพรุ่งนี้ พวกเราจะได้กำลังทำงานในฟาร์ม เป็นเวลา 2 ชั่วโมงแล้ว
  • You will have been waiting for two  hours when the plane arrives.
    คุณจะได้กำลังรอ เป็นเวลาสองชั่วโมง เมื่อเครื่องบินมาถึ’

ที่มา : https://xn--12cl9ca5a0ai1ad0bea0clb11a0e.com/%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89-12-tense-%E0%B8%89%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%AD/


หลักการใช้ past perfect continuous tense เข้าใจง่ายสุดๆ


ขอบคุณมากค่ะที่ติดตามครูมา สนใจเรียนรู้ภาษาอังกฤษฟรีเพิ่มเติมกับครูพิมได้ทาง:
🍇Instagram : ค้นหาคำว่า pim_pimolwan :เรียนรู้ประโยคสำเร็จรูปจากวิดีโอและรูปภาพ ที่ใช้บ่อยและนำไปใช้พูดได้ทันที พร้อมฝึกออกเสียง ครูพิมเขียนคำอ่านให้ด้วยค่ะ เพื่อง่ายต่อการออกเสียง
🍊Twitter: ค้นหาคำว่า \”ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับครูพิม\” :เรียนรู้ประโยคสำเร็จรูปจากรูปภาพ ที่ใช้บ่อยและนำไปใช้พูดได้ทันที
🍄 Youtube:ช่อง \”ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับครูพิม\” : วิดีโอการสอนที่ละเอียด เน้นให้ผู้เรียนเข้าใจง่ายสุดๆ พร้อมมีคำอ่านและภาพประกอบค่ะ
🌽Facebook: ชื่อว่า \”LearningTree\” : ชมการสอนถ่ายทอดสดกับครูพิมฟรีพร้อมรับข่าวสารและโปรโมชั่นส่วนลดคอร์สเรียน
🍎Line: แอ้ดมาได้ที่เบอร์ 0954855364 : สอบถามรายละเอียดคอร์สเรียนและโปรโมชั่นส่วนลดคอร์สเรียน

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

หลักการใช้ past perfect continuous tense เข้าใจง่ายสุดๆ

หลักการใช้ Past Perfect Tense ง่ายสุดๆ


ขอบคุณมากค่ะที่ติดตามครูมา สนใจเรียนรู้ภาษาอังกฤษฟรีเพิ่มเติมกับครูพิมได้ทาง:
🍇Instagram : ค้นหาคำว่า pim_pimolwan :เรียนรู้ประโยคสำเร็จรูปจากวิดีโอและรูปภาพ ที่ใช้บ่อยและนำไปใช้พูดได้ทันที พร้อมฝึกออกเสียง ครูพิมเขียนคำอ่านให้ด้วยค่ะ เพื่อง่ายต่อการออกเสียง
🍊Twitter: ค้นหาคำว่า \”ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับครูพิม\” :เรียนรู้ประโยคสำเร็จรูปจากรูปภาพ ที่ใช้บ่อยและนำไปใช้พูดได้ทันที
🍄 Youtube:ช่อง \”ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับครูพิม\” : วิดีโอการสอนที่ละเอียด เน้นให้ผู้เรียนเข้าใจง่ายสุดๆ พร้อมมีคำอ่านและภาพประกอบค่ะ
🌽Facebook: ชื่อว่า \”LearningTree\” : ชมการสอนถ่ายทอดสดกับครูพิมฟรีพร้อมรับข่าวสารและโปรโมชั่นส่วนลดคอร์สเรียน
🍎Line: แอ้ดมาได้ที่เบอร์ 0954855364 : สอบถามรายละเอียดคอร์สเรียนและโปรโมชั่นส่วนลดคอร์สเรียน

หลักการใช้ Past Perfect Tense ง่ายสุดๆ

ติว TOEIC : Present Perfect สอบบ่อยสุด! ทำยังไงให้รอด⁉


จำไม่เคยได้ ❌ โครงสร้าง Present Perfect 🔥
ออกสอบบ่อยสุด!! ทำยังไงให้รอด⁉ คลิปนี้มีคำตอบ
.
แจกกลอน ไปท่องจำ แต่งอย่างดี!‼
จำโคตรง่าย ท่องครั้งเดียวก็จำได้ ใช้ได้จริงในห้องสอบ
ไม่อยากตกม้าตาย รีบกดแชร์ ⚠ ครูดิวเตือนแล้วนะคะ
‍‍ ‍‍‍‍‍‍‍‍ ‍‍ ‍‍ ‍‍ ‍‍
อ่อนแกรมม่า!🚫 ถ้ายังไม่มั่นใจว่า TOEIC จะรอด
ต้องเริ่มติวได้แล้ว!!
‍‍‍‍‍‍‍‍ ‍‍ ‍‍ ‍‍ ‍‍
อยากได้คะแนนสูงๆ✨ให้ครูดิวติวให้ชัวร์ ตั้งแต่ตอนนี้!!
การันตีผล 750+ ไปสอบแล้วไม่ถึง ยินดีให้เรียนซ้ำฟรี!
‍‍ ‍‍‍‍‍‍‍‍ ‍‍ ‍‍ ‍‍ ‍‍
📍สนใจสมัครคอร์ส 💬
📍สอบถามรายละเอียดคอร์สกับแอดมิน ได้ทาง
📍Inbox : m.me/TOEICKruDew
📍ทดลองเรียนฟรี : www.opendurian.com/toeic_krudew
📍Add Line : https://lin.ee/nrn6h06
📍IG\u0026TikTok : @krudewtoeic
‍‍ ‍‍ ‍‍
toeic krudewtoeic ติวtoeic grammar english

ติว TOEIC : Present Perfect สอบบ่อยสุด! ทำยังไงให้รอด⁉

Tips for using PRESENT PERFECT Tense in IELTS Speaking | Keith’s Grammar Guides


😃 My new online course FLUENCY for IELTS SPEAKING DISCOUNTED!
https://keithspeakingacademy.teachable.com/p/fluencyinenglish/
👍 Claim your discount on my original online course IELTS SPEAKING SUCCESS Get a Band 7+ https://keithspeakingacademy.teachable.com/p/ieltsspeakingsuccessgetaband7?src=YTREC

Hi guys, it’s Keith from the Keith Speaking Academy and welcome to part 2 of this video on the present tenses.
Last time in part 1, we looked at the Present Simple and the Present Continuous, and today it’s the Present Perfect Simple and the Present Perfect Continuous.
Also I will be showing you how all 4 present tenses are connected and how you can use them in IELTS Speaking.

Topics covered in this video:
00:00:00 Welcome
00:01:21 PRESENT PERFECT SIMPLE
00:01:59 1. How Long
00:03:28 Format of Present Perfect
00:05:38 For / Since
00:06:50 2. Present Result
00:08:51 3. Life Experiences
00:10:36 4. Unfinished Time
00:13:27 PRESENT PERFECT CONTINUOUS
00:14:25 1. How Long
00:16:24 Format of Present Perfect Continuous
00:17:36 2. Temporary Activity
00:20:48 3. Present Result
00:23:03 A word or warning

👍 Get get a complete Mock IELTS Test:
https://takeielts.net/thepathtosuccessintheieltstest/
Get a 10% discount with the CODE: keith10
Practice speaking on italki:
https://bit.ly/IELTSSpeakingitalki

My 2 recommended grammar books
English Grammar in Use (Intermediate) https://amzn.to/2G8d9Wt
Advanced Grammar in Use https://amzn.to/31E29IQ

Follow me on social media
Facebook Group: https://www.facebook.com/groups/KeithIELTSMastermind/
Instagram: https://www.instagram.com/keith_speaking_academy/
Website: https://keithspeakingacademy.com/

IELTSSPEAKING2020 IELTSSpeaking IELTSpreparation

If you have your test soon,
Enjoy it and
Good luck!
Keith

Note: As an Amazon Associate I earn a commission from qualifying purchases, at no extra cost to you.

Tips for using PRESENT PERFECT Tense in IELTS Speaking | Keith's Grammar Guides

Have You Ever …? Present Perfect Tense – Practice Learn English Conversation


There are so many interesting experiences and activities in life when we recount our experiences, we often use the Present perfect tense to describe. Watch the video below to learn more about the Present perfect tense. EnglishJessica
Learn English and improve grammar, vocabulary and reading skills ➡️ https://www.youtube.com/playlist?list=PLtBFFyhEIC7lFhONPSYAryiaG4BpoyhbD\r
▶ Please subscribe to update new videos.\r
➡️ https://www.youtube.com/channel/UCXtMjo8xJqjEhS4A9KUY8GA?sub_confirmation=1\r
───────────────────\r
☞ Thanks for watching!\r
☞ Please share and like if you enjoyed the video 🙂 thanks so much ♥

Have You Ever ...? Present Perfect Tense - Practice Learn English Conversation

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ perfect tense คือ อะไร

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *