Skip to content
Home » [Update] สรุปภาษาอังกฤษ เรื่อง Article แบบละเอียด เข้าใจครบถ้วน | เป็นคนละเอียด ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

[Update] สรุปภาษาอังกฤษ เรื่อง Article แบบละเอียด เข้าใจครบถ้วน | เป็นคนละเอียด ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

เป็นคนละเอียด ภาษาอังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

สรุปภาษาอังกฤษ เรื่อง Article แบบละเอียด เข้าใจครบถ้วน

Articles คืออะไร?

ในภาษาอังกฤษเวลาเราจะพูดถึงคำนามต่างๆ เช่น cat, dog, boy, girl, school, book, park, pen เป็นต้น บางครั้งเราต้องใส่คำนำหน้าคำนามด้วย คำที่มานำหน้าภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Articles ซึ่งมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ตัว ดังนี้ a, an, the
ถามจริงนะครับเคยสงสัยไหมว่าทำไมต้องใส่? การใส่ Articles หน้าคำนาม เหตุผลก็คือเพื่อเป็นการบ่งบอกว่าคำนามนั้นมีความเฉพาะเจาะจงหรือไม่ ถ้าเป็นคำนามนับได้เอกพจน์คือ มีหนึ่งสิ่ง หนึ่งตัว หรือหนึ่งคน และไม่เฉพาะเจาะจง จะใช้ a หรือ an ส่วน The จะใช้เพื่อให้ความหมายเฉพาะเจาะจงและจะใช้กับคำนามชนิดใดก็ได้ ไม่ว่าจะนับได้ นับไม่ได้ นามเอกพจน์ หรือ นามพหูพจน์ เพื่อให้เข้าใจง่าย ดูวิธีการจำแบบง่ายๆ ดังนี้

A, An + คำนามเอกพจน์ แต่ถ้า The + คำนามนับไม่ได้/คำนามเอกพจน์/คำนามพหูพจน์ นั่นเอง

ดูเทคนิคการใช้แล้วทีนี่มาลองดประโยคภาษาอังกฤษดูเพื่อความเข้าใจเรื่อง Articles จริงๆ

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษที่ 1
I am going to a coffee shop. แปลว่า ฉันกำลังไปร้านกาแฟ
(ในกรณีนี้ใช้ Articles คือ a นำหน้า coffee shop แสดงถึงความไม่เฉพาะเจาะจง แสดงว่ากล่าวเฉยๆ แต่ยังไม่ได้เลือกว่าจะไปร้านไหน แบบประมาณว่า ร้านไหนก็ได้)

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษที่ 2
I am going to the coffee shop. แปลว่า ฉันกำลังไปร้านกาแฟ
(ในกรณีนี้ใช้ Articles คือ the นำหน้า coffee shop แสดงถึงความชี้เฉพาะเจาะจง แสดงว่า ผู้พูดและผู้ฟังต้องรู้ว่าร้านที่จะไปกินร้านไหน)

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษที่ 3
I am going to buy a computer. แปลว่า ฉันกำลังจะไปซื้อคอมพิวเตอร์
(ในกรณีนี้ใช้ Articles คือ a นำหน้า computer แสดงถึงความไม่เฉพาะเจาะจง แสดงว่ากล่าวเฉยๆ แต่ยังไม่ได้เลือกว่าจะซื้อรุ่นไหน ยี่ห้ออะไร ราคาอะไร แค่แบบว่าไปเดินดูก่อนแล้วค่อยซื้อยังไม่มีที่อยากได้ในใจ)

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษที่ 4
I am going to buy the computer. แปลว่า ฉันกำลังจะไปซื้อคอมพิวเตอร์
(ในกรณีนี้ใช้ Articles คือ the แสดงถึงความชี้เฉพาะเจาะจงว่าจะไปซื้อ computer ยี่ห้ออะไร รุ่นอะไร ผู้พูดและพูดฟังต้องรู้)
คราวนี้พอจะเข้าใจการใช้ Articles ของ a, an, the แล้วใช่ไหม ถ้าคำนามเฉพาะเจาะจงเป็นที่รู้กันระหว่างผู้พูดกับผู้ฟัง อันไหน ตัวไหว คนไหน ใช้ the นะครับ แต่ถ้าไม่ชี้เฉพาะเจาะจง และเป็นคำนามนับได้เอกพจน์ ก็ใช้ a หรือ an ซึ่งหลักการใช้ที่แท้จริงจะอยู่ในหัวข้อถัดไป ลองมาดูกันเลย

การใช้ a, an
คือ ถ้าจะพูดถึงคำนามที่ไม่เฉพาะเจาะจงคำนามนั้นนับได้ และมีหนึ่งตัว (เป็นเอกพจน์) ต้องใช้ a หรือ an นำหน้า
หลักการใช้ดีๆ a, an นำหน้าคำนาม + คำนามนับได้/ไม่เฉพาะเจาะจง/มีชิ้นเดียว อันเดียว ตัวเดียว และ คนเดียว เป็นต้น

แต่คำไหนจะใช้ a คำไหนใช้ an หลักการใช้ คือ

หลักการที่ 1 ถ้าคำนามนั้นขึ้นต้นด้วยเสียงสระ (a, e, I, o, u) และออกเสียงเป็นสระใช้ an ตัวอย่างเช่น
an elephant แปลว่า ช้างหนึ่งตัว an hour แปลว่า หนึ่งชั่วโมง
an eagle แปล่า นกอินทรีหนึ่งตัว an apple แปลว่า แอปเปิ้ลหนึ่งผล
an ant แปลว่า มดหนึ่งตัว an egg แปลว่า ไข่หนึ่งฟอง
an ice cream แปลว่า ไอศกรีมหนึ่งแท่ง an orange แปลว่า ส้มหนึ่งผล
an umbrella แปลว่า ร่มหนึ่งคัน an uncle แปลว่า ลุงหนึ่งคน

หลักการที่ 2 ถ้าคำนามนั้นขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ และออกเสียงเป็นพยัญชนะให้ใช้ a ตัวอย่างเช่น
A teacher แปลว่า ครูหนึ่งคน A doctor แปลว่า คุณหมอหนึ่งคน
A dog แปลว่า สุนัขหนึ่งตัว A cat แปลว่า แมวหนึ่งตัว
A friend แปลว่า เพื่อนหนึ่งคน A student แปลว่า นักเรียนหนึ่งคน
A mountain แปลว่า ภูเขาหนึ่งลูก A book แปลว่า หนังสือหนึ่งเล่ม
A fan แปลว่า พัดลมหนึ่งตัว A computer แปลว่า คอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่อง

***ข้อควรระวัง***
เราจะใช้ a university แปลว่า มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง (คำขึ้นต้นเป็นตัว U ก็จริง แต่มันออกเสียงเป็นพยัญชนะ จึงใช้ a )
การใช้ a, an ในการนำหน้าอาชีพ
เวลาเราจะนำตัวหรือจะพูดเกี่ยวกับอาชีพของเรา ในการใช้ articles นั้น ภาษาอังกฤษจะใช้ a, an เท่านั้น จะไม่ใช้ the นะ
วิธีการจำ a, an + occupation นั้นเอง ตัวอย่างประโยคดังนี้

I am a teacher. แปลว่า ฉันเป็นคุณครู
I am an English teacher. แปลว่า ฉันเป็นคุณครูวิชาภาษาอังกฤษ
I am a writer. แปลว่า ฉันเป็นนักเขียน
I am a singer. แปลว่า ฉันเป็นนักร้อง
I am a student. แปลว่า ฉันเป็นนักเรียน
He works as a pilot. แปลว่า เขาทำงานเป็นนักบิน
He is an engineer. แปลว่า เขาเป็นวิศวกร

***ข้อควรระวัง***
They are teachers. แปลว่าพวกเขาเป็นครู (อย่าเผลอใส่ a/an มานะครับ เพราะเขาพูดถึงครูหลายคน)

การใช้ a, an นำหน้าสัญชาติ
a, an ใช้ได้มากกว่าที่คุณคิด สามารถใช้บอกเกี่ยวกับสัญชาตได้อีกด้วย เช่น ว่าคุณเป็นคนสัญชาติอะไร
เทคนิคการจำง่ายๆ คือ a, an + สัญชาติ แค่นี้เอง ทีนี้มาลองดูประโยคกันนะ

I am a Thai. แปลว่า ฉันเป็นคนไทย
She is an American. แปลว่า เธอเป็นคนอเมริกัน
I am a French. แปลว่า ฉันเป็นคนฝรั่งเศส
I am a Japanese. แปลว่า ฉันเป็นคนญี่ปุ่น
She is a Chinese. แปลว่า เธอเป็นคนจีน

หลายคนอาจสงสัยว่า เหมือนจะเห็นการบอกสัญชาติ โดยไม่มี a, an นี่ เช่น t am Thai. แต่ที่จริงแล้วการบอกสัญชาตินั้นทำได้ 2 วิธี วิธีที่เพิ่งอ่านไปเมื่อด้านบนนี้ เช่น She is a Korean. เป้นการใช้คำว่า Korean ใหเป็นคำนามแปลว่า คนเกาหลี ดังนั้นพอพูดถึง She ฉันจะต้องเป็น She is a Korean. เพราะผู้หญิงมีคนเดียวแต่เรายังสามารถใช้คำว่า Korean เป็น Adjective หรือคำคุณศัพท์นั่นเองซึ่งมีไว้บอกลักษณะของคนสัตว์สิ่งของต่างๆจึงไม่มี articles นำหน้าเพราะคำว่า Korean ในกรณีนี้จะไม่ใช่คำนำอีกต่อไป ตัวอย่างเช่น She is Korean.
บางครั้งเราจะไปเจอการใช้ the นำหน้าชื่อสัญชาติได้เหมือนกัน แต่กรณีนั้นจะหมายถึง ประชากรของชาตินั้น หรือคนทั้งชาตินั้น ไม่ใช่การบอกถึงคนเดียวเหมือนในตัวอย่างที่ผ่านมา สิ่งที่ต้องระวังก็คือ บางสัญชาตินั้นจะเติม s แต่บางสัญชาติไม่ต้องเติม s ต้องใช้การสังเกตจากการอ่านภาษาอังกฤษเท่านั้น เพราะมาจำเป็นทฤษฎีก่อนจะทำให้เข้าใจภาษาอังกฤษช้าและไม่สามารถสื่อสารได้อย่างคล่องแคล่วเพราะฉะนั้นจึงอาศัยการอ่านเป็นหลักและทำความเข้าใจด้วยตนเอง ตัวอย่างประโยคเช่น

The Thais are friendly and pacifistic. แปลว่า คนไทยเป็นคนที่เป็นมิตรและรักสงบ
The French are famous for their fine wines. แปลว่า คนฝรั่งเศสมีชื่อเสียงด้านไวน์ชั้นเลิศ
The Irish are known as poets and songwriters. แปลว่า คนไอริชมีชื่อเสียงด้านกวีและการเขียนเพลง
The American highly value freedom of speech. แปลว่า คนอเมริกันให้คุณค่ากับอิสระในการแสดงความเห็นเป็นอย่างมาก

A, An ใช้นำหน้าคำอุทาน
ปกติแล้วเราจะเห็นการใช้ a, an นำหน้าคำนามทั่วไปแต่ก็สามารถใช้นำหน้าคำนามในสำนวนหรือประโยคอุทานก็ได้ เทคนิคการจำ a, an + คำนามในประโยคอุทาน ! ตัวอย่างประโยคเช่น

What a pretty girl she is!
แปลว่า เธอเป็นผู้หญิงที่สวยอะไรอย่างนี้
What a cute dog it is!
แปลว่า ช่างเป็นหมาอะไรที่น่ารักอย่างนี้
What an opportunity he missed!
แปลว่า น่าเสียดายจริงๆที่เขาพลาดโอกาส
What a cold day it is!
แปลว่า มันเป็นวันที่หนาวอะไรอย่างนี้

การใช้ the นำหน้าคำนามที่กล่าวมา
การใช้ a, an, the ในภาษาอังกฤษไม่ได้ยากอย่างที่คิดถ้าสมมุติเรากล่าวอะไรเป็นครั้งแรกก็คือจะใช้ a, an + noun แต่ถ้าเรากล่าวอะไรเป็นครั้งต่อๆไปเราจะใช้ The + noun
เห็นไหมครับเข้าใจเอง a, an, the แล้วง่ายนิดเดียว เพราะ a และ an เป็นอะไรที่ไม่เจาะจงแต่ถ้าเป็น theก็คือเป็นสิ่งที่ชี้เฉพาะหรือเจาะจงไปเลยนะ
The ใช้นำหน้าคำนามที่มีสิ่งเดียวบนโลกได้ด้วยนะ
ถ้าสมมุติว่าเราจะพูดถึงอะไรที่มันเป็นสิ่งเดียวของอย่างเดียวชิ้นเดียวคนเดียวบนโลกต้องใช้ The นำหน้าแล้วแหละ ตัวอย่างคำศัพท์เช่น

The sun แปลว่า ดวงอาทิตย์
The moon แปลว่า ดวงจันทร์
The earth แปลว่า โลก
The sky แปลว่า ท้องฟ้า
The ใช้นำหน้าเครื่องดนตรีได้ด้วย ถ้าสมมุติว่าเราจะพูดถึงเครื่องดนตรีเราเล่นอะไรดีหรือใครเล่นเครื่องดนตรีอะไร จะต้องนำหน้าด้วย The เสมอนะ
เทคนิคการจำ The + Musical instruments เข้าใจเทคนิคแล้วลองมาดูตัวอย่างประโยคกันเลย

Tony can play the piano. แปลว่า โทนี่เล่นเปียโนได้
Sa is playing the guitar. แปลว่า สาเล่นกีต้าร์อยู่

The ใช้นำหน้านามสกุลหรือกลุ่มคนก็ได้
การใช้ The นำหน้ากลุ่มคนหรือนามสกุล จะะหมายถึงคนในตระกูล และเมื่อหมายถึงคนในตระกูล ก็จะกลายเป็นพหูพจน์โดยปริยาย แต่ที่สำคัญอย่าลืมเติม s นะ เทคนิคการจำ the + นามสกุลหรือกลุ่มคน ลองมาดูตัวอย่างประโยคสัก 1 ประโยคนะ

The Tonys live in that castle. แปลว่า ตระกูลโทนี่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังนั้น

นอกจากนี้ถ้าใช้ The นำหน้า Adjective เช่น รวย, จน, สวย, หล่อ, สูง, ต่ำ ก็จะหมายถึงกลุ่มคนที่มีลักษณะอย่างนั้นกลุ่มคนสวย กลุ่มคนรวย กลุ่มคนหล่อ กลุ่มคนจน เป็นต้น ก็จะกลายเป็นคำนามพหูพจน์เช่นกันแต่ไม่ต้องเติม s นะเพราะคำว่า รวย, จน, สวย, หล่อ คำพวกนี้ไม่ได้เป็นคำนามแต่เป็นคำคุณศัพท์นั่นเอง

เทคนิคการจำ The + Adjective ลองดูตัวอย่างประโยคนะ
The rich invest in the stock market. แปลว่า กลุ่มคนรวยชอบเล่นหุ้น
The beautiful often marry the rich. แปลว่า กลุ่มคนสวยก็มักจะแต่งงานกับกลุ่มคนรวย

อะไรที่ไม่ต้องใส่ article

ปกติแล้วกดการใส่ articles มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการใส่ a, an, the ในทางกลับกันก็มีคำนามบางกลุ่มที่มีกฎว่า ไม่ต้องใส่อะไรนำหน้ามัน มาดูตัวอย่างประโยค ที่ไม่ต้องใส่ article กันเถอะ

Snakes are disgusting animals. แปลว่า งูเป็นสัตว์ที่น่าขยะแขยง
Alcohol is bad for everyone. แปลว่า แอลกอฮอล์ไม่ดีต่อทุกคน
Call KFC for dinner. แปลว่า โทรสั่ง KFC เป็นอาหารมื้อเย็น
My family like Hotpot very much.แปลว่า ครอบครัวของฉันชอบร้าน Hotpot มาก
He comes from Thailand. แปลว่า เขามาจากประเทศไทย

***ข้อยกเว้นการใช้เกี่ยวกับประเทศ***
ยกเว้นประเทศที่เกิดจากประเทศเล็กๆ หรือหลายๆรัฐมารวมกัน อย่างนั้นตัองใช้ The เช่น

The United Kingdom แปลว่า ประเทศอังกฤษ
The United States แปลว่า ประเทศอเมริกา
I like playing volleyball. แปลว่า ฉันชอบเล่นวอลเลย์บอล
Football is men’s most favorite sport. แปลว่า ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ผู้ชายชอบมากที่สุด
I don’t like Mathematics. แปลว่า ฉันไม่ชอบวิชาคณิตศาสตร์
She speaks Chinese very well. แปลว่า เธอพูดภาษาจีนได้ดีมาก
I have breakfast at 8 a.m. แปลว่า ฉันกินมื้อเช้าตอน 8 โมง
We’re going to the restaurant for dinner. แปลว่า พวกเรากำลังไปที่ร้านเพื่อรับประทานอาหารค่ำ
Winter is so long this year. แปลว่า ฤดูหนาวปีนี้ยาวนานมาก
It is very hot in summer in Thailand. แปลว่า ฤดูร้อนที่ประเทศไทยมันร้อนมากๆ
I didn’t sleep well last night. I had diarrhea. แปลว่า เมื่อคืนฉันนอนไม่ได้ฉันท้องเสีย

[Update] การใช้ Future simple “be going to”ในภาษาอังกฤษ | เป็นคนละเอียด ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

นอกจากรูปแสดงอนาคตกาลโดยใช้ will หรือ shall ใน future simple แล้ว ยังมีรูป future simple โดยใช้ be going to ด้วยเช่นกัน รูปดังกล่าวนี้มีการใช้บ่อยๆ ในสถานการณ์หรือเหตุการณ่ในอนาคต ฉะนั้นผู้เขียนจะขอกล่าวถึงเรื่องนี้ โดยละเอียดตามลำดับดังนี้
รูปของ be going to
(1) Statement form (สเตทเม้นทฺ ฟอม) หรือในภาษาไทยเรียกว่า “รูปบอกเล่า” ประกอบด้วย
ภาคประธาน + is/am/are + going to + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
อธิบาย
going to เป็นส่วนที่แสดงเหตุการณ์หรือการกระทำในอนาคต กริยาแท้ช่อง 1 หมายความเช่นเดียวกับ infinitive without to หรือกริยาแท้ช่อง 1 ที่ไม่มี to
ตัวอย่าง
Look at the clouds. It is going to rain soon.
ดูเมฆสิ ฝนจะตกในไม่ช้า
Look out! That boy is going to fall down.
ระวัง เด็กชายคนนั้นจะตกลงมาแล้ว
(2) Negative form (เนเกอทิฟวฺ ฟอม) หรือในภาษาไทยเรียกว่า “รูป ปฏิเสธ” ประกอบด้วย
ภาคประธาน + is/am/are not + going to + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
อธิบาย รูปย่อของ is not = isn’t หรือ ’s not
am not = ’m not
are not = aren’t หรือ ’re not
ตัวอย่าง
The machine is quite old. I’m afraid it’s not going to work. เครื่องจักรค่อนข้างเก่า ผมเกรงว่ามันจะไม่ทำงาน
If we hurry, I’m sure we’re not going to miss the train.
ถ้าเรารีบ ผมแน่ใจว่าเราจะไม่พลาดรถไฟ
(3) Yes-No question (เยส โน เควสเชิ่น) หรือในภาษาไทยคือ “คำถาม ที่ผู้ตอบจะตอบว่า Yes/No” ประกอบด้วย
Is/Am/Are + ภาคประธาน + going to + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรม
หรือส่วนขยาย
ตัวอย่าง
A : Is it going to rain?
B : Yes, if there is no wind.
ก – ฝนจะตกหรือ
ข – ใช่ ถ้าไม่มีลม
A : Are we going to tell him when he asks us?
B : No. We won’t let him know.
ก – เราจะบอกเขาไหมหากเขาถามเรา
ข – ไม่เราจะไม่ให้เขารู้
(4) Wh-word question (ดับเบิลยู เอช เวิด เควสเชิ่น) หรือในภาษา ไทยคือ “คำถามที่ขึ้นต้นประโยคด้วย Wh-words ได้แก่ What, When, Where, Why, How long, … ฯลฯ’’ ประกอบด้วย
Wh-word + is/am/are + ภาคประธาน + going to + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
แต่ถ้าหากใช้คำถาม Who โครงสร้างที่ใช้จะประกอบด้วย
Who + is/am/are + going to + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
เมื่อคำตอบอยู่ในภาคประธานของประโยค
Who + is/am/are + ภาคประธาน + going to + กริยาแท้ช่อง 1 +
ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
เมื่อคำตอบอยู่ในภาคกรรมของประโยค
Who + is/am/are + going to + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
เมื่อคำตอบอยู่ในภาคประธานของประโยค
ตัวอย่าง
A : When are you going to return my book?
B : Tomorrow.
ก – เมื่อไรคุณจะคืนหนังสือของดิฉัน
ข – พรุ่งนี้
A : Where are we going to stay tonight?
B : In a temple, perhaps.
ก – คืนนี้เราจะพักกันที่ไหน
ข – บางทีอาจจะพักที่วัด
John is going to tell Mary the truth.
A : Who is going to tell Mary the truth?
B : John.
ก – ใครจะเล่าความจริงให้แมรี่ฟัง
ข – จอห์น
We are going to give Susan a ring.
A : Who are we going to give a ring?
B : Susan.
ก – เราจะให้แหวนแก่ใคร
ข – ซูซาน
การใช้ be going to
1. ใช้ be going to เพื่อกล่าวถึงเหตุการณ์หรือสถานการณ์บางอย่างใน อนาคตที่มีเหตุบ่งบอกให้เห็นชัดเจนในขณะปัจจุบัน ลักษณะดังกล่าวนี้แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกมั่นใจของผู้พูดเกี่ยวกับเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นตามมา จากสาเหตุปัจจุบัน ในอนาคตอันใกล้
ตัวอย่าง
Look at those black clouds in the sky. It’s going to rain. Those people are going to get wet.
ดูเมฆดำทะมึนในท้องฟ้าเหล่านั้นสิ ฝนกำลังจะตก คนเหล่านั้นกำลังจะเปียก
แต่ ถ้าใช้ will จะหมายถึง เราคิดหรือเชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์นั้นในอนาคต ซึ่งภาวะของการเกิดเหตุการณ์ยังห่างไกลกว่าการใช้ be going to
ตัวอย่าง
That boat doesn’t look very safe.
It’ll sink in that heavy sea.
เรือลำนั้นดูไม่ค่อยปลอดภัย
มันอาจจะจมในทะเลที่คลื่นลมแรง
Look at that boat! It’s going to sink.
มองดูเรือลำนั้นสิ มันกำลังจะจม

future
อธิบายในภาพที่ 1 ชายคนนี้ยังไม่ได้เอาเรือลงทะเล เขาอาจจะเปลี่ยนใจไม่เอาเรือลงทะเลก็ได้ เพราะแลเห็นคลื่นลมที่แรงจัด ภาวะของการเกิดอันตรายต่อเรือและชายคนนี้ยังอยู่ไกลตัว

future1
แต่ในภาพที่ 2 เรือและชายคนนี้กำลังเผชิญกับคลื่นลมแรงในทะเลที่บ้าคลั่ง ภาวะของการเกิดอันตรายอยู่ใกล้ตัว โอกาสของการนำเรือเข้าฝั่งเพื่อให้ชีวิตรอด แทบไม่มีเลย
Don’t climb up that tree.
You’ll fall and hurt yourself.
อย่าปีนขึ้นต้นไม้ต้นนั้น
ลูกอาจจะตกลงมาได้รับบาดเจ็บ
Look out! You’re going to fall!
ระวัง ลูกกำลังจะตกลงมา

future2
อธิบาย ในภาพที่ 1 แม่บอกลูกที่กำลังทำท่าจะปีนขึ้นต้นไม้ แต่ยังไม่ได้ ปีนขึ้น เพื่อจะเอาลูกบอลที่ค้างอยู่ลงมา แม่ทำนายในสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นแต่ยังอยู่ไกลตัวเพราะลูกยังไม่ได้ปีน

future3
แต่ในภาพที่ 2 ลูกปีนขึ้นไปแล้ว และกำลังเกาะอยู่บนกิ่งไม้ที่กำลังหัก แม่ร้องเตือน (warning วอนิ่ง) ลูกเพราะภาวะของการเกิดอันตรายอยู่ใกล้ตัว เลี่ยงที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์นั้นได้ยากแล้ว
จะเห็นได้ว่าทั้งสองภาพเป็นการทำนาย (prediction) เหมือนกัน แต่ ต่างกันตรงที่ความมากน้อยของโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์นั้น
2. ใช้ be going to เพื่อกล่าวถึงสิ่งที่เราตั้งใจและตัดสินใจไว้แล้วล่วงหน้า ว่าจะทำ แสดงถึงการกระทำที่ได้มีการวางแผนไว้แล้วว่าจะทำในอนาคตอันใกล้หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือเป็นการวางแผนไว้ก่อนแล้ว (prior plan ไพรเออะ แพลน) นั่นเอง
ตัวอย่าง
I’m going to have a shower.
ผมกำลังจะอาบน้ำ (ชายคนนี้กำลังเปิดประตูเข้ามา มีผ้าเช็ดตัวพร้อมที่จะอาบน้ำ)
แต่ ถ้าใช้ will จะหมายถึง การตัดสินใจว่าจะทำสิ่งหนึ่งๆ ในขณะที่พูด เป็นการตัดสินใจที่เกิดขึ้นฉับพลันโดยไม่ได้มีการเตรียมการมาก่อนล่วงหน้า
ตัวอย่าง
A : I’m sorry. I’ve spilt some wine on my jacket.
B : Don’t worry. I’ll clean it for you.
ก – ผมขอโทษ ผมทำไวน์หกรดเสื้อแจ็กเก็ตของคุณ
ข – ไม่ต้องกังวล ดิฉันจะซักให้
อธิบาย คำพูดของภรรยา (B) เป็นการเอ่ยขึ้นทันที หลังจากที่สามี (A) บอกว่าทำไวน์หกรดเสื้อแจ็กเก็ต จึงเห็นได้ว่าภรรยาตัดสินใจทันทีเมื่อสามีพูดจบ โดยที่ภรรยาไม่ได้เตรียมการที่จะพูดมาล่วงหน้าแต่อย่างใด เป็นการเอ่ยว่าจะซักเสื้อให้เมื่อสามีบอกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
A : Why have you moved all the furniture out of this room?
B : I’m going to clean the carpet.
ก – ทำไมคุณจึงเคลื่อนย้ายเครื่องเรือนทุกชิ้นออกจากห้องนี้
ข – ดิฉันจะทำความสะอาดพรมค่ะ
อธิบาย คำพูดของ A ที่ถามว่า “ทำไมคุณจึงเคลื่อนย้ายเครื่องเรือนทุกชิ้นออกจากห้องนี้’’ แสดงให้เห็นชัดว่า A แลเห็นเครื่องเรือนวางอยู่นอกห้องนั้นมากมาย จึงเกิดความสงสัยและซักถามถึงเหตุผล ซึ่ง B ได้ตอบให้ทราบถึงความตั้งใจว่า “ดิฉัน จะทำความสะอาดพรม’’ คำตอบของ B แสดงถึงการเตรียมการว่าจะทำความสะอาดพรมมาล่วงหน้า จึงได้ทำการเคลื่อนย้ายเครื่องเรือนเหล่านั้นออกมาจากห้อง
3. ในการแสดงความเต็มใจ (willingness วิลลิงเนส) ว่าจะทำสิ่งหนึ่งๆ ให้ จะใช้ will เท่านั้น ไม่ใช้ be going to
ตัวอย่าง
A : The phone’s ringing.
B : I’ll get it.
ก – โทรศัพท์กำลังดัง
ข – ผมจะช่วยรับสายให้
A : I don’t understand this math problem.
B : Ask your teacher about it. She’ll help you.
ก – ผมไม่เข้าใจปัญหาคณิตศาสตร์ข้อนี้
ข – ถามคุณครูของคุณสิ เธอจะช่วยคุณได้
ที่มา:รองศาสตราจารย์ทณุ  เตียวรัตนกุล

(Visited 58,285 times, 1 visits today)


The Wall Song ร้องข้ามกำแพง | EP.62 | พั้นช์ วรกาญจน์,ติ๊ก ชิโร่,ขนมจีน กุลมาศ | 11 พ.ย. 64 FULL EP


พบกับรายการ The Wall Song ร้องข้ามกำแพง
ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 20.05 น.
ทาง ช่องเวิร์คพอยท์ หมายเลข 23
=========================================
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/workpoint
Website: https://www.workpointtv.com
Instagram: https://www.instagram.com/workpoint
TikTok: https://vt.tiktok.com/ZS9GDwTY

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

The Wall Song ร้องข้ามกำแพง | EP.62 | พั้นช์ วรกาญจน์,ติ๊ก ชิโร่,ขนมจีน กุลมาศ | 11 พ.ย. 64 FULL EP

ประหยัด ทะเยอทะยาน มีวินัย ภาษาอังกฤษพูดว่าอะไรนะ?


37 นิสัยภาษาอังกฤษ 🌟
บอกเลยว่ามีคำที่น่าสนใจหลายคำมากค่ะ
ดูคลิปนี่ศัพท์เพิ่มเป็นกองแน่นอน 😊
ใครดูจบส่งหัวใจให้ฝ้ายหน่อยนะคะ ❤️
Facebook Page: https://www.facebook.com/KruFyi.EasyEnglish/
LINE@ : @krufyi.easyenglish

ประหยัด ทะเยอทะยาน มีวินัย ภาษาอังกฤษพูดว่าอะไรนะ?

เก่ง Grammar แกรมม่าภาษาอังกฤษในเพียง 150 นาที!!!


สมัครเป็นสมาชิกช่องนี้!!
กดปุ่ม \”สมัคร\” ข้างล่างวีดีโอใน Youtube หรือกดลิงค์นี้ได้เลยนะครับ https://www.youtube.com/channel/UC93A91EZTtZW55WEKCz_jYA/join
สั่งซื้อหนังสือได้จากแอดมิน
@LINE ID = @EnglishbyChris
รับสอนตัวต่อตัว ติดต่อผมได้ที่
@LINE ID = @TeacherChris
http://www.EnglishbyChris.com/ร้านค้า
WEBSITE
http://www.EnglishbyChris.com
Facebook
ค้นหา = EnglishbyChris
00:00:10 Articles คำนำหน้านาม
00:23:09 Pronouns สรรพนาม
00:37:05 Conjunctions คำเชื่อม
00:58:57 Modal verbs กริยาช่วย
01:17:21 Spelling rules กฎไวยากรณ์
01:37:06 Prefix and Suffix คำเติมหน้า/หลัง
01:45:56 Tenses โครงสร้างเวลา
02:29:01 Do / Are ใช้อย่างไร
02:32:50 Relative Pronouns ประพันธสรรพนาม

เก่ง Grammar แกรมม่าภาษาอังกฤษในเพียง 150 นาที!!!

ทางผ่าน – PURE【Official Audio】| BH BrickHouse


ค่าย: BH BrickHouse
ศิลปิน: PURE (เพียว)
เพลง: ทางผ่าน (Passenger)
\”ถึงจะเป็นแค่เพียงทางผ่าน แต่จะเก็บความทรงจำดีๆเอาไว้ว่าครั้งหนึ่ง…ฉันเคยได้รักเธอ\”
@PURE
https://www.facebook.com/purekanin
https://www.instagram.com/pure_kanin
LISTEN ON
JOOX: https://www.joox.com/th/album/3HZMNrjp0yQ08pABodG+lA==
Apple: https://music.apple.com/th/album/1473549710
Spotify: https://open.spotify.com/track/3zrebnrolRrRWRx9yx7tZs?si=RGo3mE8STjWggUJzqGNWU
Tidal: https://tidal.com/browse/track/113543153
Ringtone เสียงรอสาย: 49155323 (ทุกเครือข่าย)
LYRICS
V1
สุดท้ายเธอก็มาทิ้งฉันไป
มันเหมือนไม่มีความหมาย กับเธออีกต่อไป
เธอทำให้ฉันตายใจ เธอทำให้ฉันไว้ใจ
กับเธอ แค่ไหน
V2
ก็เพราะว่าเธอมีเขาเข้ามา
ที่เข้ามาเปลี่ยนชีวิตของเธอกับฉัน
สุดท้ายคือต้องยอมปล่อย
ปล่อยเธอโดยที่ยังรักเธอ อยู่ทั้งใจ
Pre
มันเจ็บจนต้องร้องไห้ เพราะหัวใจแบกรับไม่ไหว
สิ่งเดียวที่รับรู้ได้ คือฉันกลายเป็นคนที่เธอไม่เอา
Hook
ฉันมันก็เหมือนคนโง่คนนึง ที่ให้เธอหลอก
เธอก็รู้ว่าฉันก็รัก และยอมเธอทุกอย่าง
ไม่เป็นไร ถ้าที่ฉันทำ เธอจะมองข้ามไป
หากหัวใจเธอเปลี่ยนไป ฉันคงไม่ยื้อเธอไว้
ฉันจะยอมปล่อยเธอไป หรือเห็นแค่ฉันเป็นทางผ่าน
Pre
มันเจ็บจนต้องร้องไห้ เพราะหัวใจแบกรับไม่ไหว
สิ่งเดียวที่รับรู้ได้ คือฉันกลายเป็นคนที่เธอไม่เอา
Hook
ฉันมันก็เหมือนคนโง่คนนึง ที่ให้เธอหลอก
เธอก็รู้ว่าฉันก็รัก และยอมเธอทุกอย่าง
ไม่เป็นไร ถ้าที่ฉันทำ เธอจะมองข้ามไป
หากหัวใจเธอเปลี่ยนไป ฉันคงไม่ยื้อเธอไว้
ฉันจะยอมปล่อยเธอไป หรือเห็นแค่ฉันเป็นทางผ่าน
ฉันมันก็เหมือนคนโง่คนนึง ที่ให้เธอหลอก
เธอก็รู้ว่าฉันนั้นรัก และยอมเธอทุกอย่าง
แต่ทำไมสิ่งที่ฉันทำ เธอกลับมองข้ามไป
เขานั้นดีกว่าตรงไหน ฉันทำผิดพลาดตรงไหน
ฉันยังมีค่าอยู่ไหม หรือเห็นแค่ฉันเป็นทางผ่าน
SONG CREDITS
Lyrics ​​by Pure Kanin
Composed by Pure Kanin
Arranged by Geeno S, Pure Kanin , Benz
Vocals by Pure Kanin
Backing Vocals by Pure Kanin, Jeaniich
Electric Guitar by Paisan Tunchot, Benz, Pure Kanin
Acoustic Guitar by Benz
Drums by Geeno S
Bass by Athitat Sornpaisarn
Keyboard by Puttipong Wongchuwan
Synth by Geeno S
Produced by Geeno S
Mixed and Mastered by Suttipong Saikhwa
Executive Producer: ธานี วงศ์นิวัติขจร (Gop Postcard)
VISUAL CREDITS
Director: Thutz Chandakul
Photographer: Sitthiphon Thittitham
Editor: Supatcha Wangmanow (Jeaniich)
BH BRICKHOUSE
http://www.facebook.com/bhbrickhouse/
http://www.youtube.com/bhbrickhouse
http://www.instagram.com/bhbrickhouse
http://twitter.com/bhbrickhouse
http://www.bhbrickhouse.com
ติดต่องาน
โทร: 0819778911 (คุณต่อ) / LINE: @BHWORK / Email: [email protected]
ทางผ่าน Pure BH BrickHouse

ทางผ่าน - PURE【Official Audio】| BH BrickHouse

50+ ประโยคคำถามภาษาอังกฤษ (อัพเดท บทเรียนใหม่ เพิ่มรายละเอียด)


ภาษาอังกฤษกับเคลี่ คอร์สภาษาอังกฤษ เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง
FACEBOOK: ภาษาอังกฤษกับเคลี่ @englishwithkaylee นักเรียนติดตามเพจ 1.2 ล้านคน
INSTAGRAM: KAYLEE WONDER DMD @drkayleewonder

บริจาคที่ www.paypal.me/kayleewonder ขอบคุณมากๆ จากใจค่ะ

ครูชื่อเคลี่ค่ะ เกิดที่เมืองไทย เป็นคนอุดรค่ะ ครอบครัวย้ายไปอยู่ที่อเมริกาตั้งแต่ปี 2001เรียนจบมัธยมปลายที่รัฐฮาวาย ต่อตรีที่รัฐคอนเนคติคัท และจบเอกทันตแพทย์ที่ลาสเวกัสค่ะ ตอนนี้ทำงานเป็นหมอฟันที่รัฐวอชิงตัน เริ่มสอนภาษาอังกฤษในเฟสบุ๊คปี 2016 ตอนที่เรียนทันต ปี 3 ค่ะ ตอนนี้ก็มีคนติดตามในเพจมากกว่า 1.2 ล้านคน ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีนักเรียนมาเรียนด้วยเยอะแบบนี้ อยากให้คนไทยได้พูดภาษาอังกฤษเป็น จะได้เจริญก้าวหน้า และตัวเองก็อยากฝึกภาษาไทยด้วย จะสังเกตุได้ว่าบางทีอาจจะพูดแข็งกระด้างเกินไป หรือว่าสะกดคำไทยผิด เพราะไม่ได้ใช้ภาษาไทยในชีวิตประจำวันเลยค่ะ พูดแต่อังกฤษ และคนที่บ้านก็พูดอิสานด้วย อันนั้นก็เริ่มไม่ถนัดแล้วเหมือนกันค่ะ ก็อย่าถือสากันเลยนะคะ แต่ภาษาอังกฤษเนี่ยครูสำเนียงเป๊ะค่ะ ตอนนี้ก็สอนเป็นงานอดิเรกค่ะ เท่าที่มีเวลาว่าง สอนฟรี และไม่มีคอร์สสอนนะคะ แค่ทำงานเป็นหมอฟันครูก็เหนื่อยมากแล้วค่ะ เรียนฟรีๆก็ดีแล้ว ไม่ต้องเสียเงิน ความรู้หาฟรีได้เยอะแยะไป ถ้ามีโอกาสก็อาจจะเปิดคอร์ส แต่ก็คงอีกนานค่ะ ครูจะพยายามมาลงคลิปบ่อยๆนะคะ ขอบคุณที่มาดูคลิปและติดตามกันนะคะ

เรียนภาษาอังกฤษ, เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง, เทคนิคการเรียนภาษาอังกฤษ, สำนวนภาษาอังกฤษ, ประโยคภาษาอังกฤษ, บทสนทนาภาษาอังกฤษ, เก่งภาษาอังกฤษ, ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน, ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว, วลีภาษาอังกฤษ, เรียนต่อที่เมืองนอก, American English, English lesson for thai people, Learn English, English lesson, ภาษาอังกฤษแบบง่ายๆ, การออกเสียงภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง, สำเนียงอังกฤษแบบอเมริกัน, คำศัพท์อังกฤษ, ศัพท์อังกฤษ, บทเรียนภาษาอังกฤษ, เรียนต่อที่อเมริกา, การฟังภาษาอังกฤษ, ฝึกการฟังภาษาอังกฤษ, เรื่องราวสั้นๆภาษาอังกฤษ, ภาษาอังกฤษพื้นฐาน

50+ ประโยคคำถามภาษาอังกฤษ (อัพเดท บทเรียนใหม่ เพิ่มรายละเอียด)

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่MAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ เป็นคนละเอียด ภาษาอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *