Skip to content
Home » [Update] สรุปการใช้ tense ทั้ง 12 tenses อย่างละเอียด ครอบคลุม เข้าใจง่าย – NSRU BLOG | ครอบคลุม เขียนอย่างไร – NATAVIGUIDES

[Update] สรุปการใช้ tense ทั้ง 12 tenses อย่างละเอียด ครอบคลุม เข้าใจง่าย – NSRU BLOG | ครอบคลุม เขียนอย่างไร – NATAVIGUIDES

ครอบคลุม เขียนอย่างไร: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

Table of Contents

Table of Content

  • Tense คืออะไร
  • โครงสร้าง tense ทั้ง 12 เป็นอย่างไร แตกต่างกันอย่างไร
  • หลักการใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ใช้ต่างกันอย่างไร
  • ตัวอย่างประโยคของเทนส์ทั้งหมด เพิ่มเติมเสริมความเข้าใจ

Tense คืออะไร

ความหมายของ Tense คือ รูปแบบของประโยคที่มีคำกริยา แสดงระบุเวลากำกับการกระทำในขณะที่พูด

นี่คือความหมายคร่าวๆนะครับ ถ้าย่นย่อกันจริงๆในการเรียนหลักภาษาแล้ว Tense คือ กาล (เวลา)

tense 12

โครงสร้างของ 12 Tense และหลักการใช้

ว่ากันไปแล้ว Tense ใหญ่ๆแค่ 3 เท่านั้นเอง แต่แยกย่อยออกอีก 4 จึงรวมกันได้ 12 tense

  1.  Present Tense (ปัจจุบันกาล) กล่าวถึงเรื่องราวในปัจจุบัน
  2.  Past Tense (อดีตกาล)กล่าวถึงเรื่องราวในอดีต
  3.  Future Tense (อนาคตกาล)กล่าวถึงเรื่องราวในอนาคต

PRESENT TENSE

บอกเล่าเรื่องราวในปัจจุบัน

Present Simple Tense

โครงสร้าง: S. + V.1(s/es)

หลักการใช้:

  • บอกเล่าข้อเท็จจริงทั่วไป ของคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ …

ตัวอย่างประโยค:

  • eat rice everyday. ฉันกินข้าวทุกวัน
  • A dog has four leg. สุนัขมีสี่ขา
  • Bangkok is the capital city of Thailand.  กรุงเทพเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย
  • My class statrs at 9.00 ชั่วโมงเรียนของฉันเริ่มเวลา 9 นาฬิกา

present continuous tense

Present Continuous Tense

Tense นี้อีกชื่อหนึ่งคือ Present Progressive Tense

โครงสร้าง: S. + is, am, are + Ving

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้
  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดในอนาคตแน่ๆ

ตัวอย่างประโยค:

  • am eating rice now.  ฉันกำลังกินข้าวอยู่ตอนนี้
  • A dog is walking. สุนัขกำลังเดิน
  • I’m going to London next week. ฉันกำลังจะไปลอนดอนสัปดาห์หน้า
  • We are visiting our granddad tomorrow. พวกเรากำลังจะไปเยี่ยมปู่พรุ่งนี้

present perfect tense

Present Perfect Tense

โครงสร้าง: S. + has, have + V3

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่ดำเนินเสร็จแล้ว
  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่ดำเนินมาได้ในระยะเวลาหนึ่งจนถึงปัจจุบัน

ตัวอย่างประโยค:

  • have eaten rice. ผมกินข้าวแล้ว (กินเสร็จแล้ว)
  • She has finished her homework. หล่อนทำการบ้านเสร็จแล้ว
  • have eaten rice for 20 minutes. ผมกินข้าวมาแล้ว 20 นาที
  • He has lived here since 2000. เขาอาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่ปี 2000

present-perfect-continuous--tense

Present Perfect Continuous Tense

โครงสร้าง: S. + has, have +been+ Ving

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่ดำเนินมาได้ในระยะเวลาหนึ่งจนถึงปัจจุบันคล้าย present perfect tense แต่เป็นการเน้นย้ำว่าทำอย่างต่อเนื่อง

ตัวอย่างประโยค:

  • I have been playing foootball since 8 o’clock. ฉันเล่นฟุตบอล (อย่างต่อเนื่อง) ตั้งแต่ 8 โมง
  • She has been walking for 30 munites. หล่อนเดิน (อย่างต่อเนื่อง) เป็นเวลา 30 นาที
  • Toon has been running for 4 hours. ตูนวิ่ง (อย่างต่อเนื่อง) เป็นเวลา 4 ชั่วโมง)
  • He has been working here since 1999 . เขาทำงานที่นี่ (อย่างต่อเนื่อง)ตั้งแต่ปี 1999 (ไม่เคยย้ายไปไหน)

PAST TENSE

บอกเล่าเรื่องราวในอดีต

Past Simple Tense

โครงสร้าง: S. + V2

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ในอดีต ที่เกิดขึ้น ณ จุดเวลาใดเวลาหนึ่ง

ตัวอย่างประโยค:

  • went to school yesterday. ฉันไปโรงเรียนเมื่อวานนี้
  • ate bananas last week. ฉันกินกล้วยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
  • My dad washed his car last Sunday. พ่อของผมล้างรถของเขาเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว
  • She watched this movie last year. หล่อนดูหนังเรื่องนี้ปีที่แล้ว
  • Sam visited his parents five years ago. แซมไปเยี่ยมพ่อแม่ของเขาเมื่อห้าปีที่แล้ว

Past Continuous Tense

Past Continuous Tense

โครงสร้าง: S. + was, were + Ving

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีต แล้วมีอีกเหตุการณ์หนึ่งแทรกขึ้นมา

ตัวอย่างประโยค:

  • I saw a big elephant while I was walking to school . ฉันเห็นช้างตัวหนึ่งขณะที่ฉันกำลังเดินไปโรงเรียน
  • We were eating dinner when dad came home. พวกเรากำลังกินข้าวเย็นอยู่ ตอนที่พ่อมาถึงบ้าน
  • The light went out when they were watching TV. ไฟดับตอนที่พวกเขากำลังดูทีวีอยู่
  • She was taking a bath when I called her. หล่อนกำลังอาบน้ำอยู่ ตอนที่ผมโทรหาหล่อน
  • Sam was driving home when it started to rain. แซมกำลังขับรถกลับบ้าน ตอนที่ฝนเริ่มตก

Past Perfect Tense

Past Perfect Tense

โครงสร้าง: S. + had + V3

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่สิ้นสุดแล้วในอดีต ก่อนจะมีอีกเหตุการณ์ตามมา

ตัวอย่างประโยค:

  • I had eaten a pizza before I went to bed.ฉันได้กินพิซซ่า ก่อนที่ฉันเข้านอน (กินก่อน )
  • John called me after I had left. จอห์นโทรหาฉัน หลังจากที่ฉันได้ออกจากบ้านแล้ว
  • All people had gone home when we reached the cinema. คนได้กลับบ้านหมดแล้ว เมือเราไปถึงโรงหนัง
  • They had had dinner before they did homework. พวกเขาได้เขากินข้าว ก่อนพวกเขาทำการบ้าน
  • The train had left when we got to the station. รถไฟออกไปแล้ว ตอนที่เราไปถึงสถานี

Past Perfect Continuous Tense

Past Perfect Tense

โครงสร้าง: S. + had + been + ฺฺ Ving

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต และดำเนินมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง เน้นการบอกเวลามากกว่าการกระทำ

ตัวอย่างประโยค:

  • had been waiting for the train for three hours  before it arrived. ฉันได้รอคอยรถไฟเป็นเวลา(ตั้ง) 3 ชั่วโมง (นะ) ก่อนที่มันจะมาถึง
  • We had been walking for one hour when we saw that bird.
    พวกเราได้เดิน (ตั้ง) 1 ชั่วโมง (แน่ะ) ตอนที่พวกเราเห็นนกตัวนั้น
  • They had been playing football for four hours when it started to rain.
    พวกเขาได้เล่นฟุตบอล (ตั้ง) 4 ชั่วโมง ก่อนที่ฝนเริ่มตก (วันนี้เล่นได้นาน ปกติไม่เกินชั่วโมงก็ตกแล้ว)

FUTURE TENSE

บอกเล่าเรื่องราวในอนาคต

Future simple tense

Future Simple Tense

โครงสร้าง: S. + will + ฺฺ V1

หลักการใช้:

  • บอกเล่า คาดการณ์เหตุการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ตัวอย่างประโยค:

  • will go to school tomorrow. ฉันจะไปโรงเรียนพรุ่งนี้ (คิดว่าต้องไป เดี๋ยวหมดสิทธิ์สอบ)
  • will watch Chin Jang this evening. ฉันจะดูชินจังเย็นนี้ (เพื่อนบอกว่าสนุก จะลองดูหน่อย)
  • You will eat papaya salad tonight. คุณจะกินส้มตำคืนนี้ (คุณเคยบอกไว้ ว่าจะกินคืนนี้)
  • He will clean the car next week. เขาจะล้างรถสัปดาห์หน้า (เขาบอกมา ว่าจะล้าง)
  • She will buy a bike next month. หล่อนจะซื้อจักรยานเดือนหน้า (หล่อนว่าเดินไปเรียนแล้วเหนี่อย)

future continuous tense

Future Continuous Tense

โครงสร้าง: S. + will + ฺฺ be + Ving

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในอนาคต

ตัวอย่างประโยค:

  • will be reading books at 8 o’clock tomorrow. ฉันจะกำลังอ่านหนังสือเวลา 8 นาฬิกา วันพรุ่งนี้
  • At nine o’clock tomorrow, we will be working on farm.พรุ่งนี้เวลา 9 นาฬิกา พวกเราจะกำลังทำงานในฟาร์ม
  • At six oclock, we will be eating dinner with our granddad. เวลา 6 นาฬิกา พวกเราจะกำลังกินข้าวกับปู่ของพวกเรา
  • She will be waiting when you arrive. หล่อนจะกำลังรอคอย เมื่อคุณมาถึง

Future Perfect Tense

Future Perfect Tense

โครงสร้าง: S. + will + ฺฺ have + V3

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่สิ้นสุดแล้วในอนาคต

ตัวอย่างประโยค:

  • will have eaten breakfast at 8 o’clock tomorrow. ฉันจะกินข้าวเช้าเรียบร้อยแล้ว เวลา 8 นาฬิกา วันพรุ่งนี้
  • Tomorrow morning, we will have finished our project. พรุ่งนี้เช้า พวกเราจะดำเนินโครงการของพวกเราเสร็จแล้ว
  • She will have gone when you arrive. หล่อน(คง)จะไปแล้ว เมื่อคุณมาถึง
  • will have cleaned the floor when my mom  gets home. ฉัน(คง)จะทำความสะอาดพื้นเรียบร้อยแล้ว ตอนที่แม่มาถึง

Future Perfect Continuous Tense

โครงสร้าง: S. + will + ฺฺ have + been + Ving

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่ดำเนิมมาได้ระยะเวลาหนึ่งในอนาคต ก่อนมีอีกเหตุการณ์หนึ่งแทรกเข้ามา

ตัวอย่างประโยค

  • will have been eating breakfast for 30 minutes at 8 o’clock tomorrow.
    ฉันจะได้กำลังกินข้าวเช้าเป็นเวลา 30 นาทีแล้ว ณ เวลา 8 นาฬิกา วันพรุ่งนี้
  • At 10 o’clock tomorrow, we will have been working on farm for two hours.
    เวลา 10 นาฬิกาพรุ่งนี้ พวกเราจะได้กำลังทำงานในฟาร์ม เป็นเวลา 2 ชั่วโมงแล้ว
  • You will have been waiting for two  hours when the plane arrives.
    คุณจะได้กำลังรอ เป็นเวลาสองชั่วโมง เมื่อเครื่องบินมาถึ’

ที่มา : https://xn--12cl9ca5a0ai1ad0bea0clb11a0e.com/%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89-12-tense-%E0%B8%89%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%AD/

[Update] สรุปการใช้ tense ทั้ง 12 tenses อย่างละเอียด ครอบคลุม เข้าใจง่าย – NSRU BLOG | ครอบคลุม เขียนอย่างไร – NATAVIGUIDES

Table of Content

  • Tense คืออะไร
  • โครงสร้าง tense ทั้ง 12 เป็นอย่างไร แตกต่างกันอย่างไร
  • หลักการใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ใช้ต่างกันอย่างไร
  • ตัวอย่างประโยคของเทนส์ทั้งหมด เพิ่มเติมเสริมความเข้าใจ

Tense คืออะไร

ความหมายของ Tense คือ รูปแบบของประโยคที่มีคำกริยา แสดงระบุเวลากำกับการกระทำในขณะที่พูด

นี่คือความหมายคร่าวๆนะครับ ถ้าย่นย่อกันจริงๆในการเรียนหลักภาษาแล้ว Tense คือ กาล (เวลา)

tense 12

โครงสร้างของ 12 Tense และหลักการใช้

ว่ากันไปแล้ว Tense ใหญ่ๆแค่ 3 เท่านั้นเอง แต่แยกย่อยออกอีก 4 จึงรวมกันได้ 12 tense

  1.  Present Tense (ปัจจุบันกาล) กล่าวถึงเรื่องราวในปัจจุบัน
  2.  Past Tense (อดีตกาล)กล่าวถึงเรื่องราวในอดีต
  3.  Future Tense (อนาคตกาล)กล่าวถึงเรื่องราวในอนาคต

PRESENT TENSE

บอกเล่าเรื่องราวในปัจจุบัน

Present Simple Tense

โครงสร้าง: S. + V.1(s/es)

หลักการใช้:

  • บอกเล่าข้อเท็จจริงทั่วไป ของคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ …

ตัวอย่างประโยค:

  • eat rice everyday. ฉันกินข้าวทุกวัน
  • A dog has four leg. สุนัขมีสี่ขา
  • Bangkok is the capital city of Thailand.  กรุงเทพเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย
  • My class statrs at 9.00 ชั่วโมงเรียนของฉันเริ่มเวลา 9 นาฬิกา

present continuous tense

Present Continuous Tense

Tense นี้อีกชื่อหนึ่งคือ Present Progressive Tense

โครงสร้าง: S. + is, am, are + Ving

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้
  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดในอนาคตแน่ๆ

ตัวอย่างประโยค:

  • am eating rice now.  ฉันกำลังกินข้าวอยู่ตอนนี้
  • A dog is walking. สุนัขกำลังเดิน
  • I’m going to London next week. ฉันกำลังจะไปลอนดอนสัปดาห์หน้า
  • We are visiting our granddad tomorrow. พวกเรากำลังจะไปเยี่ยมปู่พรุ่งนี้

present perfect tense

Present Perfect Tense

โครงสร้าง: S. + has, have + V3

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่ดำเนินเสร็จแล้ว
  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่ดำเนินมาได้ในระยะเวลาหนึ่งจนถึงปัจจุบัน

ตัวอย่างประโยค:

  • have eaten rice. ผมกินข้าวแล้ว (กินเสร็จแล้ว)
  • She has finished her homework. หล่อนทำการบ้านเสร็จแล้ว
  • have eaten rice for 20 minutes. ผมกินข้าวมาแล้ว 20 นาที
  • He has lived here since 2000. เขาอาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่ปี 2000

present-perfect-continuous--tense

Present Perfect Continuous Tense

โครงสร้าง: S. + has, have +been+ Ving

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่ดำเนินมาได้ในระยะเวลาหนึ่งจนถึงปัจจุบันคล้าย present perfect tense แต่เป็นการเน้นย้ำว่าทำอย่างต่อเนื่อง

ตัวอย่างประโยค:

  • I have been playing foootball since 8 o’clock. ฉันเล่นฟุตบอล (อย่างต่อเนื่อง) ตั้งแต่ 8 โมง
  • She has been walking for 30 munites. หล่อนเดิน (อย่างต่อเนื่อง) เป็นเวลา 30 นาที
  • Toon has been running for 4 hours. ตูนวิ่ง (อย่างต่อเนื่อง) เป็นเวลา 4 ชั่วโมง)
  • He has been working here since 1999 . เขาทำงานที่นี่ (อย่างต่อเนื่อง)ตั้งแต่ปี 1999 (ไม่เคยย้ายไปไหน)

PAST TENSE

บอกเล่าเรื่องราวในอดีต

Past Simple Tense

โครงสร้าง: S. + V2

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ในอดีต ที่เกิดขึ้น ณ จุดเวลาใดเวลาหนึ่ง

ตัวอย่างประโยค:

  • went to school yesterday. ฉันไปโรงเรียนเมื่อวานนี้
  • ate bananas last week. ฉันกินกล้วยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
  • My dad washed his car last Sunday. พ่อของผมล้างรถของเขาเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว
  • She watched this movie last year. หล่อนดูหนังเรื่องนี้ปีที่แล้ว
  • Sam visited his parents five years ago. แซมไปเยี่ยมพ่อแม่ของเขาเมื่อห้าปีที่แล้ว

Past Continuous Tense

Past Continuous Tense

โครงสร้าง: S. + was, were + Ving

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีต แล้วมีอีกเหตุการณ์หนึ่งแทรกขึ้นมา

ตัวอย่างประโยค:

  • I saw a big elephant while I was walking to school . ฉันเห็นช้างตัวหนึ่งขณะที่ฉันกำลังเดินไปโรงเรียน
  • We were eating dinner when dad came home. พวกเรากำลังกินข้าวเย็นอยู่ ตอนที่พ่อมาถึงบ้าน
  • The light went out when they were watching TV. ไฟดับตอนที่พวกเขากำลังดูทีวีอยู่
  • She was taking a bath when I called her. หล่อนกำลังอาบน้ำอยู่ ตอนที่ผมโทรหาหล่อน
  • Sam was driving home when it started to rain. แซมกำลังขับรถกลับบ้าน ตอนที่ฝนเริ่มตก

Past Perfect Tense

Past Perfect Tense

โครงสร้าง: S. + had + V3

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่สิ้นสุดแล้วในอดีต ก่อนจะมีอีกเหตุการณ์ตามมา

ตัวอย่างประโยค:

  • I had eaten a pizza before I went to bed.ฉันได้กินพิซซ่า ก่อนที่ฉันเข้านอน (กินก่อน )
  • John called me after I had left. จอห์นโทรหาฉัน หลังจากที่ฉันได้ออกจากบ้านแล้ว
  • All people had gone home when we reached the cinema. คนได้กลับบ้านหมดแล้ว เมือเราไปถึงโรงหนัง
  • They had had dinner before they did homework. พวกเขาได้เขากินข้าว ก่อนพวกเขาทำการบ้าน
  • The train had left when we got to the station. รถไฟออกไปแล้ว ตอนที่เราไปถึงสถานี

Past Perfect Continuous Tense

Past Perfect Tense

โครงสร้าง: S. + had + been + ฺฺ Ving

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต และดำเนินมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง เน้นการบอกเวลามากกว่าการกระทำ

ตัวอย่างประโยค:

  • had been waiting for the train for three hours  before it arrived. ฉันได้รอคอยรถไฟเป็นเวลา(ตั้ง) 3 ชั่วโมง (นะ) ก่อนที่มันจะมาถึง
  • We had been walking for one hour when we saw that bird.
    พวกเราได้เดิน (ตั้ง) 1 ชั่วโมง (แน่ะ) ตอนที่พวกเราเห็นนกตัวนั้น
  • They had been playing football for four hours when it started to rain.
    พวกเขาได้เล่นฟุตบอล (ตั้ง) 4 ชั่วโมง ก่อนที่ฝนเริ่มตก (วันนี้เล่นได้นาน ปกติไม่เกินชั่วโมงก็ตกแล้ว)

FUTURE TENSE

บอกเล่าเรื่องราวในอนาคต

Future simple tense

Future Simple Tense

โครงสร้าง: S. + will + ฺฺ V1

หลักการใช้:

  • บอกเล่า คาดการณ์เหตุการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ตัวอย่างประโยค:

  • will go to school tomorrow. ฉันจะไปโรงเรียนพรุ่งนี้ (คิดว่าต้องไป เดี๋ยวหมดสิทธิ์สอบ)
  • will watch Chin Jang this evening. ฉันจะดูชินจังเย็นนี้ (เพื่อนบอกว่าสนุก จะลองดูหน่อย)
  • You will eat papaya salad tonight. คุณจะกินส้มตำคืนนี้ (คุณเคยบอกไว้ ว่าจะกินคืนนี้)
  • He will clean the car next week. เขาจะล้างรถสัปดาห์หน้า (เขาบอกมา ว่าจะล้าง)
  • She will buy a bike next month. หล่อนจะซื้อจักรยานเดือนหน้า (หล่อนว่าเดินไปเรียนแล้วเหนี่อย)

future continuous tense

Future Continuous Tense

โครงสร้าง: S. + will + ฺฺ be + Ving

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในอนาคต

ตัวอย่างประโยค:

  • will be reading books at 8 o’clock tomorrow. ฉันจะกำลังอ่านหนังสือเวลา 8 นาฬิกา วันพรุ่งนี้
  • At nine o’clock tomorrow, we will be working on farm.พรุ่งนี้เวลา 9 นาฬิกา พวกเราจะกำลังทำงานในฟาร์ม
  • At six oclock, we will be eating dinner with our granddad. เวลา 6 นาฬิกา พวกเราจะกำลังกินข้าวกับปู่ของพวกเรา
  • She will be waiting when you arrive. หล่อนจะกำลังรอคอย เมื่อคุณมาถึง

Future Perfect Tense

Future Perfect Tense

โครงสร้าง: S. + will + ฺฺ have + V3

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่สิ้นสุดแล้วในอนาคต

ตัวอย่างประโยค:

  • will have eaten breakfast at 8 o’clock tomorrow. ฉันจะกินข้าวเช้าเรียบร้อยแล้ว เวลา 8 นาฬิกา วันพรุ่งนี้
  • Tomorrow morning, we will have finished our project. พรุ่งนี้เช้า พวกเราจะดำเนินโครงการของพวกเราเสร็จแล้ว
  • She will have gone when you arrive. หล่อน(คง)จะไปแล้ว เมื่อคุณมาถึง
  • will have cleaned the floor when my mom  gets home. ฉัน(คง)จะทำความสะอาดพื้นเรียบร้อยแล้ว ตอนที่แม่มาถึง

Future Perfect Continuous Tense

โครงสร้าง: S. + will + ฺฺ have + been + Ving

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่ดำเนิมมาได้ระยะเวลาหนึ่งในอนาคต ก่อนมีอีกเหตุการณ์หนึ่งแทรกเข้ามา

ตัวอย่างประโยค

  • will have been eating breakfast for 30 minutes at 8 o’clock tomorrow.
    ฉันจะได้กำลังกินข้าวเช้าเป็นเวลา 30 นาทีแล้ว ณ เวลา 8 นาฬิกา วันพรุ่งนี้
  • At 10 o’clock tomorrow, we will have been working on farm for two hours.
    เวลา 10 นาฬิกาพรุ่งนี้ พวกเราจะได้กำลังทำงานในฟาร์ม เป็นเวลา 2 ชั่วโมงแล้ว
  • You will have been waiting for two  hours when the plane arrives.
    คุณจะได้กำลังรอ เป็นเวลาสองชั่วโมง เมื่อเครื่องบินมาถึ’

ที่มา : https://xn--12cl9ca5a0ai1ad0bea0clb11a0e.com/%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89-12-tense-%E0%B8%89%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%AD/


เปลี่ยนหน่วย ตารางวา กับ ตารางเมตร ยังไงนะ? 1 ตารางวา เท่ากับ กี่ ตารางเมตร???


เวลาไปดูหน้าที่ เราวัดเป็นเมตร แต่ในโฉนดเป็นหน่วยตารางวา เปลี่ยนหน่วยยังไงล่ะทีนี้ คลิปนี้มีคำตอบค่ะ 😘
https://propertyandlands.com/
https://m.facebook.com/thefirstagent
รับฝากขาย / เช่า อสังหาริมทรัพย์ทุกชนิด
ฟรี!! ประเมินราคาก่อนรับงาน

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

เปลี่ยนหน่วย ตารางวา กับ ตารางเมตร ยังไงนะ? 1 ตารางวา เท่ากับ กี่ ตารางเมตร???

How I spend my Covered Calls PROFITS! Income for retirement and more!


Get your FREE copy of the CPT Dashboard here
http://www.cptdashboard.com
Video topic today How I spend my Covered Calls PROFITS!
I love making money Writing Covered Calls and Selling Cash Secured Puts AND I show you how I do it so you too can learn and do it yourself. I know this investment strategy can seem confusing, but I assure you its really not. Watch this video to begin your education on how easy it is to generate a monthly income writing covered calls on the stocks you own. In my video’s I like to about things like Covered Call writing is like a cash printing machine + dividend money making ideas. Good luck Core Position Trading, LLC
How I spend my Covered Calls PROFITS! I show you how I use Covered Calls to do this… its an IDEA and I think youll like it. … We just have to pick good stocks, set your goals and make good decisions. If you want to see how I buy back options (whether weekly monthly covered calls or cash secured puts options this is the video for you.
CoveredCallIncome WritingCoveredCalls SellingCoveredCalls

How I spend my Covered Calls PROFITS!  Income for retirement and more!

แพนิค (Panic) อาการเป็นอย่างไร แก้ไขอย่างไรให้ยั่งยืน


แพนิก วิตกกังวล อาการเป็นอย่างไร
จะแก้ไขอย่างไรให้ยั่งยืน
สารบัญ
0:00 เกริ่นนำ
0:40 แพนิคกำเริบ (Panic Attack)
6:48 อาการในชีวิตประจำวัน
20:36 4 สาเหตุหลัก และ การแก้ไขแพนิค
43:07 สรุปการแก้ไข แพนิก
51:59 สมุนไพรสำหรับอาการแพนิค
55:09 หายแพนิกแบบยั่งยืน
แพนิกกำเริบ Panic Attack
หายใจไม่ทัน ตื่นเต้น หัวใจเต้นเร็ว เหนื่อย
ฟังเสียงอะไรดัง ๆ ไม่ได้
ท้องไส้ปั่นป่วน
รู้สึกเหมือนตกจากที่สูง
ไม่มีที่ยึดเกาะ

ขณะเป็น หายใจยาว ๆ อยู่ในที่เงียบ ๆ
ดมยาดม หรือ น้ำมันหอมระเหย
เอาน้ำมันเหลืองนวดต้นคอ ขมับ และ ท้อง

อาการในชีวิตประจำวัน
1. นอนไม่ได้ สะดุ้งตื่นกลางคืน
a. หลับไม่ลึก ทำให้อ่อนเพลียในระหว่างวัน
b. บางครั้งต้องเปิดไฟนอน

2. สมองทำงานรวดเร็ว หยุดคิดไม่ได้ คิดฟุ้งซ่าน( ภาพคลื่นสมอง)
a. ทำงานไม่มีสมาธิ
b. ส่งผลต่อความจำ

3. ความคิดแง่ลบ เนื่องจากคลื่นสมองรวดเร็ว
a. ส่งผลต่อความสัมพันธ์ต่าง ๆ
b. ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง

4. กลัวความตาย ความเปลี่ยนแปลง
a. อยู่คนเดียวไม่ค่อยได้
b. กลัวความมืด

5. มีลมในท้อง อาหารไม่ย่อย
a. เลือดไปเลี้ยงสมอง และ กล้ามเนื้อ
b. หลายคนเป็นกรดไหลย้อน โรคลำไส้แปรปรวน
.
.

4 สาเหตุหลัก และ การแก้ไข แพนิค

1. แพนิก เพราะ กระเพาะอาหาร และ ลำไส้ไม่ดีเป็นเวลานาน
สมองจะสั่งการด้วยความเครียดทำให้ต้องเคลื่อนที่
น้ำย่อยออกมา แต่ เมือกในกระเพาะอาหารลดลง
การแก้ไข ทานอาหารเป็นเวลา ไม่เคร่งเครียดกับอาหารมากเกินไป(กินเพื่อยู่)
ทานสมุนไพรช่วยย่อย เช่น ธาตุบรรจบ, เบญจกูล, เติมจุลินทรีย์ที่ดี

2. แพนิก เพราะ ใช้ชีวิตไม่เป็นไปตามธรรมชาติ เช่น นอนดึก เป็นประจำ
ขาดการซ่อมแซมสมอง และ ซ่อมแซมร่างกาย ( ภาพคลื่นสมอง)
ใช้ชีวิตเร่งรีบเกินไป เช่นการทานอาหาร
การแก้ไข นอนไม่ดึกเกินไป ก่อนนอนลดการใช้สมองมากๆ
แบ่งเวลาการทำงาน และ การพักผ่อน

3. แพนิก เพราะ สมองติดต่อกันเป็นเวลานาน
คลื่นสมองถี่มากเป็นเวลานาน จะเกิดอาการค้าง
ฮอร์โมนวิตกกังวลเข้มข้น(Overdrive)
การแก้ไข ทำอะไรทีละอย่าง ลดการใช้อุปรณ์สื่อสาร
การเดินออกกำลังกาย หรือ ปั่นจักรยาน วันละ สองรอบ

4. แพนิก เพราะ มีเหตุต้องเป็น เช่น เพื่อสลายความยึดติด
เกิดความหลง หรือ ยึดติดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
เช่น อาชีพ ทรัพย์สมบัติ คนรัก ความรู้
เมื่อสิ่งนั้นหายไป จึงเกิดความกลัว เพราะสิ่งยึดเกาะหายไป
การแก้ไข ฝึกมองโลกอย่างเข้าใจ
อนาคตไม่แน่นอน ธรรมชาติไม่แน่นอน
หาที่ยึดเกาะชั่วคราว เช่น ธรรมะ, ความเชื่อทางศาสนา

สรุปการแก้ไข
1. ปรับการย่อยอาหารให้ดีขึ้น ไม่เลือกอาหารมากเกินไป
2. นอนพักผ่อนให้เป็นเวลา แบ่งเวลาการทำงานเวลาพัก
3. ลดความถี่ของสมองเช่น ลดการใช้ มือถือ, การเล่มเกมส์ ดูหนังนานๆ
4. ออกกำลังกายแบบมีวินัย(สร้างวินัยไล่ความกลัว) เพื่อปรับสารสื่อประสาท
5. ฝึกสติ เช่น อ่านหนังสือ, มีสติกับปัจจุบัน เช่น ทำงานบ้าน, ฝึกสิ่งใหม่ๆ
6. หาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เพื่อให้ผ่านช่วงเวลาแพนิก

สมุนไพรที่แนะนำ
1. ทาน สาหร่ายเกลียวทอง ตอนตื่นนอน 45 เม็ด
2. ทาน ยาธาตุบรรจบ 34 เม็ด ก่อนอาหารเช้า เย็น 15 นาที
3. ทาน ยาหอม เวลาจุกแน่น หายใจลำบาก
4. ดมยาดมสมุนไพร เวลาตื่นเต้น แพนิคกำเริบ

สำหรับผู้ที่ต้องการหายแบบยั่งยืน
\”เริ่มใหม่ อย่าโทษใคร\”
แพนิกคือ การทลายความยึดมั่นเก่า แล้วเริ่มใหม่
อาจจะเกิดกับ
ผู้ที่มีชื่อเสียง, นักปฏิบัติธรรม, เศรษฐี, คนดี, คนฉลาด, คนเก่ง
• เริ่่มจากการยอมรับ การอยู่กับปัจจุบัน
• สร้างกำลังใหม่ เริ่มจากช่วงล่าง(ธาตุไฟ ความมีวินัย ความอดทน)
• อดทน เฝ้าดู ความเปลี่ยนแปลง
• เมื่อเข้าใจ แล้ว จิตก็จะพัฒนาสู่ขั้นต่อไป
หมอที่ดีที่สุดคือตัวเราเอง
เพาะกายฝึกใจ

ปรึกษาการใช้ยา
กับแพทย์แผนไทย
สั่งซื้อสมุนไพรได้ที่
line@ : @cheewaherb
https://lin.ee/9DLJDgz
หรือ
inbox Facebook cheewaherb
https://m.me/cheewaherbthai
.
รวมสินค้าน่าสนใจ
https://cheewaherb.com/?p=428

แพนิค (Panic) อาการเป็นอย่างไร แก้ไขอย่างไรให้ยั่งยืน

การท้าทาย ร้อน vs เย็น / ชายที่ร้อนแรง vs ชายที่เยือกเย็น


สมัครสมาชิกที่นี่: https://www.youtube.com/channel/UCUTNwjovakBF0FQi7bOB6Bg?sub_confirmation=1
11 วิธีในการแอบขนมจากพ่อแม่ของคุณ https://youtu.be/bP7LW_Cmvc8?list=PLevrtQqezoX1WjCAldrvzLt9zYp9UBVPz\u0026playnext=1
ชายที่ร้อนแรง vs ชายที่เยือกเย็น ชายที่ร้อนแรงจุดไฟด้วยมือเดียว และชายที่เยือกเย็นแค่หายใจทีเดียวของรอบตัวก็แข็ง คุณจะเลือกใคร? นี่มันกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
Musiс:
Fluffing a Duck by Kevin MacLeod is licensed under Creative Commons:
By Attribution 4.0 License (http://creativecommons.org/licenses/by/4.0/).
Source: http://incompetech.com/music/royaltyfree/index.html?isrc=USUAN1100768.
Artist: http://incompetech.com/
ดูเพิ่มเติม WooHoo:
สมัครสมาชิก: https://www.youtube.com/channel/UCUTNwjovakBF0FQi7bOB6Bg?sub_confirmation=1
Instagram: https://www.instagram.com/woohooyt/
Facebook: https://www.facebook.com/WooHooYT/
TikTok: https://www.tiktok.com/@the_woohoo
LIKEE: https://likee.com/@413158370
WooHoo English: https://www.youtube.com/channel/UC41GHsiF40DiDT2DFAWW0w?sub_confirmation=1
WooHoo Español: https://www.youtube.com/channel/UCwmVvCvbNdhlnPQ4SyWzkg?sub_confirmation=1
WooHoo Française: https://www.youtube.com/channel/UC4EitvksL3NFbAOmra3Uifw?sub_confirmation=1
WooHoo Deutsch: https://www.youtube.com/channel/UCnb3bx6to_3eGa3vLdkMTw?sub_confirmation=1
WooHooRussian: https://www.youtube.com/channel/UCKQTOGKzcSPuQgflweqce_Q?sub_confirmation=1
WooHoo Arabic: https://www.youtube.com/channel/UCFIVmDqbK_jnb6kq7I5hluA?sub_confirmation=1
WooHoo Português: https://www.youtube.com/channel/UCDr1rkNvzPCEfh5ZCJeqpdg?sub_confirmation=1
WooHoo Korean: https://www.youtube.com/channel/UCdlIhXi58dS5iSNnWZztjw?sub_confirmation=1
WooHoo Japanese: https://www.youtube.com/channel/UCnRpUDeigShZRCoNuDQSZWg?sub_confirmation=1
WooHoo Hindi: https://www.youtube.com/channel/UCx5g_aFCltyGS1_GmhKx4g?sub_confirmation=1
WooHoo Turkish: https://www.youtube.com/channel/UCxvB8XF9y6_wkbjkq_fzC0g?sub_confirmation=1
WooHoo Italian: https://www.youtube.com/channel/UCat4J1qEHCdzKS32xXNbbaw?sub_confirmation=1
WooHoo Chinese: https://www.youtube.com/channel/UCjJalG3Xg5RMCG104fIT7w?sub_confirmation=1
WooHoo Polish: https://www.youtube.com/channel/UC0av3qQ2ppndBLFOdBu45Fw?sub_confirmation=1
WooHoo Indonesia: https://www.youtube.com/channel/UCmEme21vzohLlZ5ha6xytw?sub_confirmation=1
WooHoo Vietnam: https://www.youtube.com/channel/UCacVq26JQfpJxnUQkuk4qdw?sub_confirmation=1
อย่าลืมเปิดการแจ้งเตือนเช่น กดไลนน์ และ กดสมัคร!

การท้าทาย ร้อน vs เย็น / ชายที่ร้อนแรง vs ชายที่เยือกเย็น

วิธีเทียบอักษรภาษาอังกฤษเป็นไทยง่ายๆ | เขียนชื่อภาษาอังกฤษ


เรียนปูพื้นฐานภาษาอังกฤษ แบบง่ายๆ ด้วย Alphabets ซึ่ง alphabet (แอล’ ฟาเบท) หมายถึง อักษรพยัญชนะ, อักขระ, ระบบตัวอักษร นั่นเองครับ โดยตัวอักษรในภาษาอังกฤษมี 26 ตัว ครับ สระมี 5 และถ้าไปผสมตัวอื่นๆ ที่ได้บอกไว้ใน VDO ก็จะมีเสียงสระเยอะขึ้นนะครับ ก็หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์
การเทียบเสียงอักษร ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย สระ พยัญชนะ ประสมคำ สะกด ชื่อ นามสกุล
ค. ควาย นะครับอ่านผิดไป
เรียนออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษฟรี
📌 ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ถามตอบ ประโยคพื้นฐานใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน
👉 https://www.youtube.com/watch?v=IHuKZYgki4\u0026t=5s
📌 ฝึกอ่านแปลภาษาอังกฤษ เข้าใจง่าย เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน
👉 https://www.youtube.com/watch?v=URCUv47gnc8
📌 ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ตั้งปณิธานเรื่องที่จะทำในปีใหม่ New Year’s Resolutions
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AWo2r51ZLFA\u0026t=10s
📌 เรียนภาษาอังกฤษฟรี ดูโครงสร้างภาษาอังกฤษ ฝึกพูดพร้อมตัวอย่างประโยค
👉 https://www.youtube.com/watch?v=UgGf1QS7O6s
📌 5 โครงสร้างประโยคพื้นฐานในภาษาอังกฤษ (English sentence structures)
👉 https://www.youtube.com/watch?v=iGS5sPRefdA\u0026t=82s
📌 ประโยคอวยพรปีใหม่ ภาษาอังกฤษ พร้อมคำอ่านและแปลภาษาไทย
👉 https://www.youtube.com/watch?v=BYqot65xu6k
📌วิธีใช้ Used to, Be used to และ Get used to (เคย และ เคยชิน)
👉https://www.youtube.com/watch?v=in1gK2AAi9Q\u0026t=3s
📌 Whenever, Whatever, Whoever, However, Whichever | ใช้ยังไง
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AnATbRFCE
📌 How far/How much/How many/How long/ ใช้อย่างไร และแปลว่าอย่างไร ภาษาอังกฤษ
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AnATbRFCE
📌 เรียนภาษาอังกฤษ Do, Does, Did, Done | แปลว่าอย่างไร เข้าใจง่ายพร้อมตัวอย่าง
👉 https://www.youtube.com/watch?v=JrNKYd2YFzg\u0026t=2s

วิธีเทียบอักษรภาษาอังกฤษเป็นไทยง่ายๆ | เขียนชื่อภาษาอังกฤษ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่MAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ครอบคลุม เขียนอย่างไร

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *