Skip to content
Home » [Update] วิธีการใช้ FOR, FROM, SINCE, & AGO ในภาษาอังกฤษ | การใช้ since for – NATAVIGUIDES

[Update] วิธีการใช้ FOR, FROM, SINCE, & AGO ในภาษาอังกฤษ | การใช้ since for – NATAVIGUIDES

การใช้ since for: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

FOR
for (ฟอร์) มีวิธีใช้มากมาย ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของผู้ใช้เป็นสำคัญ ดังคำอธิบายต่อไปนี้
1. ใช้ FOR + NOUN เพื่อแสดงจุดประสงค์ (purpose) ของบุคคล
ตัวอย่าง
We went to the pub for a drink.
พวกเราไปที่โรงเหล้าเพื่อดื่มเหล้า
I went to the college for an interview with Professor Kay.
ผมไปที่วิทยาลัยเพื่อสอบสัมภาษณ์กับศาสตราจารย์เคย์
2. ใช้ For + V.ing (gerund) เพื่อแสดงจุดประสงค์ของ object นั่นคือ ต้องการจะบอกว่าใช้ทำอะไรนั่นเอง
ตัวอย่าง
Is that cake for eating or just for looking at?
เค้กชิ้นนั้นไว้สำหรับกินหรือไว้ดู
An altimeter is used for measuring height above sea-level.
เครื่อง altimeter มีไว้สำหรับใช้วัดความสูงเหนือระดับน้ำทะเล
3. ใช้ to + Verb เพื่อแสดงจุดประสงค์แทน for
ตัวอย่าง
We went to the pub to have a drink.
เราไปที่โรงเหล้าเพื่อดื่มสุรา
I went to the college to see Professor Kay.
ผมไปที่วิทยาลัยเพื่อพบกับศาสตราจารย์เคย์
4. ใช้ For หลังคำ too คือ enough ดังโครงสร้าง “too + adj./adv. + for + someone + to do something”
“adj./adv. + enough + for + someone + to do something”
ตัวอย่าง
It’s too heavy for you to lift.
มันหนักเกินไปสำหรับคุณที่จะยก
I think it’s late enough for us to put Susie to bed.
ดิฉันคิดว่ามันดึกพอแล้วที่เราจะต้องพาซูซี่ไปนอน
5. ใช้ For กับคำนาม plan, idea และ suggestion
ตัวอย่าง
Have you heard about the plan for Jack to be a Prime Minister?
คุณได้ยินข่าวถึงแผนการของแจ็คที่ต้องการจะเป็นนายกรัฐมนตรีบ้างหรือเปล่า
His idea is for us to travel in two different cars.
ความคิดของเขาก็คือให้เราเดินทางโดยรถยนต์ 2 คัน
6. ใช้ for เพื่อแสดช่วงเวลาของการกระทำหรือเหตุการณ์ ใช้ได้กับเหตุการณ์ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
ตัวอย่าง
I once studied the guitar for three years.
ผมเคยเรียนกีตาร์มา 3 ปี
That house has been empty for six weeks.
บ้านหลังนั้นว่างมาได้ 6 สัปดาห์แล้ว .
My boss will be away for the next ten days.
เจ้านายของผมจะไม่อยู่ที่นี่ 10 วันถัดไป
แต่ถ้าหากกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ดำเนินเรื่อยมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันเราจะใช้ for กับ present perfect tense
ตัวอย่าง
I’ve known her for a long time.
ผมรู้จักเธอมานานแล้ว
We’ve lived in this street for fifteen years.
เราอาศัยอยู่ที่ถนนสายนี้มา 15 ปีแล้ว
ถ้าหากกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาอดีตที่ดำเนินเรื่อยมาและสิ้นสุดลงในอดีต ใช้ for กับ past perfect tense
ตัวอย่าง
When she arrived, I had been waiting for two hours.
เมื่อเธอมาถึง ผมก็รอเธอมาได้ 2 ชั่วโมงแล้ว
I met her last Christmas, but I’d known her by sight for years.
ผมพบเธอครั้งสุดท้ายในวันคริสต์มาส แต่ผมรู้จักเธอมานานหลายปีแล้ว
FROM
อีกวิธีหนึ่งในการกล่าวถึงช่วงเวลาของการกระทำหรือเหตุการณ์ก็คือ เราอาจจะบอกจุดเริ่มต้น (start) และจุดจบ (finish) โดยใช้ from… to… หรือ from… till/until…
ตัวอย่าง
I was asleep from three to six. (=for three hours)
ผมหลับตั้งแต่ 3 โมงถึง 6 โมงเย็น
Mother will be away from Tuesday till Sunday.
(= for 6 days)
แม่จะไม่อยู่ตั้งแต่วันอังคารจนถึงวันอาทิตย์
นอกจากนี้เรายังอาจใช้ for กับเหตุการณ์ที่เราไม่ได้กล่าวถึงจุดสิ้นสุด
ตัวอย่าง
He studied the piano from the age of three.
เขาเรียนเปียโนตั้งแต่อายุ 3 ขวบ
I’ll be here from two o’clock.
ดิฉันจะอยู่ที่นี่ตั้งแต่บ่าย 2 โมง
SINCE
ใช้ since เพื่อแสดงจุดเริ่มต้นของการกระทำหรือเหตุการณ์ที่ดำเนินเรื่อยมา จนถึงขณะที่พูด
ตัวอย่าง
I’ve been here since three o’clock, but nobody’s come yet,
ผมมารออยู่ที่นี่ตั้งแต่ 3 โมง แต่ก็ยังไม่มีใครมาเลย
It’s been raining since two o’clock.
ฝนตกมาตั้งแต่บ่าย 2 โมง
ในกรณีที่เรากล่าวถึงช่วงเวลาที่เกิดขึ้นในอดีต เราจะใช้ sinceใน past perfect เพื่อบอกจุดเริ่มต้นของการกระทำหรือเหตุการณ์ที่สืบเนื่องมาจนถึงช่วงเวลานั้น
ตัวอย่าง
When she arrived, I was pretty fed up, because I’d been waiting since eight o’clock.
เมื่อเธอมาถึง ผมก็เบื่อมากแล้ว เพราะผมรอมาตั้งแต่ 8 โมงเช้า
หมายเหตุ : ใช้ for เพื่อแสดงช่วงระยะเวลายาวนานของเหตุการณ์หรือการกระทำ แต่ใช้ since เพื่อบอกจุดเริ่มต้น เช่น for four years (เป็นเวลา 4 ปีแล้ว) since last year (ตั้งแต่ปีที่แล้ว)
AGO
คำว่า ago ไม่ใช้กล่าวถึงความยาวของเหตุการณ์หรือการกระทำหรือจุดเริ่มต้น แต่ใช้ ago เพื่อแสดงว่าเราต้องการจะกล่าวถึงเหตุการณ์ในอดีตว่าเกิดขึ้นเมื่อไร ในอดีตนั้นคือ ใช้ ago ใน past tense
ตัวอย่าง
I saw him three days ago.
ผมพบเขา 3 วันล่วงมาแล้ว
This hotel was closed many years ago.
โรงแรมนี้ถูกปิดมาหลายปีแล้ว
ที่มา:รองศาสตราจารย์ทณุ  เตียวรัตนกุล

(Visited 53,014 times, 6 visits today)

[Update] หลักการใช้ Conjunction ฉบับเข้าใจง่าย | การใช้ since for – NATAVIGUIDES

เคยสงสัยไหมครับว่าเวลาเราใช้ภาษาในการสื่อสาร ไม่ว่าจะพูดหรือจะเขียน เราทำให้ประโยคแต่ละประโยคเหล่านั้นมีความสัมพันธ์สอดคล้องและเป็นใจความเดียวกันได้อย่างไร หากใครสงสัย ขอให้ยกมือขึ้นและตามผมมาเลยครับ (หรือหากไม่สงสัยก็ขอให้ตามมานะครับ แฮ่ๆ)

ไม่ว่าจะภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษเองก็ตาม ล้วนแล้วแต่ต้องนำเอาคำ วลี หรือประโยคตามๆมาเรียงร้อยให้มีความสัมพันธ์กัน โดยมีคำประเภทหนึ่งทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อม ซึ่งเราเรียกว่า คำสันธาน หรือ Conjunction นั่นเองครับ

conjunction

Conjunction สามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มๆ ได้ 3 กลุ่มด้วยกัน

1. Coordinating Conjunction

คือคำสันธานที่ใช้เชื่อมคำหรือประโยคสองอันเข้าด้วยกัน โดยสองข้อความที่ถูกเชื่อมนั้นจะต้องมีน้ำหนักหรือความสำคัญเท่ากันครับ เช่น and, yet, but, for, so, nor, neither, or

  • and ใช้เชื่อมประโยคที่เป็นไปในทางเดียวกัน (แปลว่า และ)

เช่น  I love you and you love me too. (ฉันรักเธอ และ เธอก็รักฉัน)

  • yet และ but ใช้เชื่อมประโยคที่ขัดแย้งกัน (แปลว่า แต่)

เช่น  My brother worked hard but he did not succeed. (พี่ชายของฉันทำงานหนัก แต่ เขาก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ)

  • for ใช้เชื่อมประโยคที่เป็นเหตุเป็นผลกัน (โดย for จะแสดงเหตุ ส่วนตัวผมจะแปลว่าเพราะ)

เช่น  He went in, for the door was open. เขาเข้าไป เพราะ ประตูเปิดอยู่ (สังเกต for จะนำหน้าประโยคที่เป็นเหตุ)

  • so ใช้เชื่อมประโยคที่เป็นเหตุเป็นผลกัน (โดย so จะแสดงผล แปลว่า ดังนั้น)

เช่น  The door was open so he went in. ประตูเปิดอยู่ ดังนั้น เข้าจึงเข้าไป (สังเกต so จะนำหน้าประโยคที่เป็นผล)

  • nor และ neither ใช้เชื่อมประโยคที่เป็นไปในเชิงปฏิเสธทั้งคู่ (อาจแปลได้ว่า ไม่ทั้งสองอย่าง)

เช่น  He nor I was there. เขาและฉัน ไม่ ได้อยู่ที่นี่ (มาจาก He wasn’t there and I weren’t there.)

  • or ใช้เชื่อมประโยคที่แสดงทางเลือก (แปลว่า หรือ)

เช่น  She wants to watch TV or (to) listen to some music. เธอไปดูทีวี หรือ ไปฟังเพลง ( to หน้า listen อาจละไว้ได้)

2. Subordinating Conjunction

คือคำสันธานที่ใช้เชื่อมประโยคใจความรองเข้ากับประโยคใจความหลัก เช่น after, because, if, although, before, since, that, unless, until, when, as soon as

  • after (หลังจาก)

เช่น  The girl cried after the boy left. เด็กหญิงร้องไห้ หลังจาก เด็กชายจากไป

  • because (เพราะว่า)

เช่น  The boy was absent because he was ill. เด็กชายขาดเรียน เพราะว่า เขาป่วย

  • if (ถ้าหาก)

เช่น  Stay indoors if it rains. อยู่ในร่ม ถ้าหาก ฝนตก

  • although (ถึงแม้ว่า)

เช่น  Although it was cold, I went swimming. ถึงแม้ว่า จะหนาวแต่ฉันก็จะไปว่ายน้ำ

  • before (ก่อน)

เช่น  Clean the room before I go. ทำความสะอาดห้อง ก่อน ที่ฉันจะไป

  • since (ตั้งแต่)

เช่น  He has been busy since he came. เขายุ่ง ตั้งแต่ เขามา

  • that (เพราะนั่น)

เช่น  Hold it up so that everyone can see it. ชูมันขึ้น เพราะนั่น จะทำให้ทุกคนมองเห็นมัน

  • unless (เว้นแต่)

เช่น  I’ll be there at nine, unless the train is late. ฉันจะอยู่ที่นั้นตอนเก้าโมง เว้นแต่ รถไฟจะมาสาย

  • until (จนกระทั่ง)

เช่น  They did not come until the meeting was half over. พวกเค้าไม่มา จนกระทั่ง การประชุมผ่านไปเกินกว่าครึ่ง

  • when (ในขณะที่)

เช่น  He is impatient when he is kept waiting. เขาจะหงุดหงิด ในขณะที่ เขาต้องรอ

  • as soon as (ทันทีที่)

เช่น  I’ll leave for the funeral as soon as the meeting ends. ฉันจะออกจากที่นี่เพื่อไปงานศพ ทันทีที่ ประชุมเสร็จ

3. Correlative Conjunction

คือคำสันธานที่ต้องใช้คู่กันเสมอ(มาคู่กันเหมือนแฝด) โดยจะทำหน้าที่คล้ายๆกับ Coordinating Conjunction คือเชื่อมประโยคที่มีความสำคัญเท่ากันครับ เช่น not only…..but also, either…..or,  as…..as,  so as to,  both…..and

  • not only…..but also (ไม่เท่านั้น…แต่อีกด้วย)

เช่น  Man needs not only food but also shelter. มนุษย์ไม่เพียงแต่ต้องการอาหารเท่านั้นยังต้องการที่พักอาศัยอีกด้วย

  • either…..or (ไม่….หรือ/ก็)

เช่น  You can either sleep or eat. คุณไม่ นอนหลับก็ กิน (ประมาณว่าเลือกได้ว่าจะนอนหรือจะกิน อะไรจะสบายขนาดนั้นว่าไหมครับ)

  • as…..as (เป็นการใช้เชื่อมประโยคที่แสดงอะไรที่เท่ากัน)

เช่น  She runs as fast as I do. เธอวิ่งเร็วเท่าฉัน (นำคำที่เราต้องการเปรียบเทียบใส่ไปในระหว่าง as กับ as จากตัวอย่างใส่คำว่า fast เป็นการเปรียบเทียบความเร็ว)

  • so as to (เพื่อที่จะ)

เช่น  I study hard so as to pass the exam. ฉันเรียนหนัก เพื่อที่จะ ได้สอบผ่าน (to ตามด้วยกริยาช่องที่ 1 ไม่เติม s)

  • both … and (ทั้ง…และ) 

เช่น  I enjoy both singing and dancing. ฉันมีความสุขกับการร้องเพลงและการเต้น

หากจะมานั่นไล่เรียงถึง Conjunction ทีละตัวละก็ ผมว่าเราคงต้องพูดกันจนอายุสามสิบแน่ๆครับ (แฮ่ๆ อาจจะเกินจริงไปนิด เพียงแค่ผมอยากจะบอกว่าความจริง Conjunction มีเยอะมากครับ)

เอาเป็นว่าถ้าเรารู้ว่า Conjunction คืออะไร มีกี่กลุ่ม แต่ละกลุ่มใช้อย่างไร ก็น่าจะเพียงพอแล้วนะครับ ส่วนคำอื่นที่ผมไม่ได้พูดถึงถ้าเรามีโอกาสไปพบเจอก็ค่อยๆทำความรู้จักและลองนำมาใช้งานดูนะครับ

อ่านเกี่ยวกับ Grammar เพิ่มเติมได้ที่นี่


Make Sense ใช้อย่างไร มั่ว ภาษาอังกฤษว่าอย่างไร


สอบถามเรื่องคอร์ส Line: Aj.Adam, Info.Hollywood, KhunBaiTuey
โทร 02 612 9300, 081 353 7810, 089 422 4546
สนใน sponsor คลิปอาจารย์อดัมติดต่ออีเมล [email protected] หรือโทร 02 612 9300
เรียนกับอดัม: http://www.facebook.com/hollywoodlearning
สาขาเชียงใหม : http://www.facebook.com/hollywoodlearningcm
เรียนออนไลน์กับอดัม: http://www.ajarnadam.tv
FBของอดัม: http://www.facebook.com/AjarnAdamBradshaw
Twitter: http://twitter.com/AjarnAdam
FBของซู่ชิง: http://www.facebook.com/jitsupachin
YouTube ของซู่ชิง: http://www.youtube.com/user/jitsupachin
Twitter ซูชิง: http://twitter.com/Sue_Ching

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

Make Sense ใช้อย่างไร มั่ว ภาษาอังกฤษว่าอย่างไร

Những từ dễ nhẫm lẫn trong tiếng Anh – For / Since [Học tiếng Anh cho người mới bắt đầu]


Học tiếng Anh giao tiếp hiệu quả cho người mới bắt đầu, tự tin hơn với các bài tiếng Anh giao tiếp thông dụng giúp bạn nhanh chóng cải thiện trình độ giao tiếp tiếng Anh của mình
Những từ dễ nhẫm lẫn trong học tiếng Anh giao tiếp For / Since [Học tiếng Anh cho người mới bắt đầu]
Nguồn tham khảo: Woodward English
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
http://langmaster.edu.vn/lls
HỆ THỐNG HỌC TIẾNG ANH GIAO TIẾP HIỆU QUẢ DÀNH CHO NGƯỜI MẤT GỐC.
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
➡️ Danh sách video bài học tiếng Anh giao tiếp bổ ích và thú vị:
1⃣ Phương pháp học tiếng Anh hiệu quả cho người bắt đầu/ mất gốc: https://goo.gl/668kzB
2⃣ Lộ trình học tiếng Anh dành cho người mất gốc: https://goo.gl/jvsCrU
3⃣ Phát âm tiếng Anh chuẩn như người bản xứ: https://goo.gl/8m6JrT
4⃣ Tiếng Anh giao tiếp cơ bản: https://goo.gl/M5BnHv
5⃣ Học tiếng Anh giao tiếp hàng ngày: https://goo.gl/WgfaCW
6⃣ Từ vựng tiếng Anh theo chủ đề thông dụng: https://goo.gl/fcYtFk
7⃣ Luyện nghe tiếng Anh giao tiếp:https://goo.gl/upibE5
8⃣ Thông tin về sách của Langmaster: https://goo.gl/vpFGpU
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
➤ Thấu hiểu chính mình để tìm ra lộ trình, phương pháp học tiếng Anh phù hợp nhất bằng giải pháp TƯ VẤN CHUYÊN SÂU duy nhất tại LANGMASTER
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
➤ Khám phá ngay tại: http://langmaster.edu.vn/langmasterlearningsystem
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
➤ Đừng quên nhấn Subscribe để theo dõi những bài học tiếp theo của Langmaster nhé
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
☎ Comment số điện thoại để được tư vấn trực tiếp
Share để ghi nhớ và học tập!
HoctiengAnh TiengAnhGiaoTiep

Những từ dễ nhẫm lẫn trong tiếng Anh - For / Since [Học tiếng Anh cho người mới bắt đầu]

Grammar animation U3: Present perfect with \”how long\”, \”for\” and \”since\”


Grammar animation U3: Present perfect with \

Present Perfect(already, just, yet, ever, never, since, for)G.5 : Easy Grammar by KruLee (EP. 28-50)


Easy Grammar by Kru Lee
เรียนรู้การใช้ภาษาอังกฤษแบบง่ายกับKru Lee

Present Perfect(already, just, yet, ever, never, since, for)G.5 : Easy Grammar by KruLee (EP. 28-50)

การใช้ already, yet, just, since, for ใน present perfect


การใช้ already, yet, just, since, for ใน present perfect

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่MAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ การใช้ since for

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *