Skip to content
Home » [Update] | ร้อน ไหม ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

[Update] | ร้อน ไหม ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

ร้อน ไหม ภาษา อังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

วันนี้ Eng Breaking มาพร้อมกับคู่มือประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน ที่มีทั้งหมด 12 หัวข้อที่น่าสนใจรับรองว่าถ้าคุณใช้ประโยคเหล่านี้เป็นคุณสามารถโต้ตอบเป็นภาษาอังกฤษ สร้างการสื่อสารที่ดีได้อย่างแน่นอน

Table of Contents

1. ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย Greetings- การแนะนำและคำทักทาย

Hello/ HiสวัสดีHow’s your day going?เป็นอย่างไรบ้าง?Hello, my name is….สวัสดีฉันชื่อ…  How are you?เป็นอย่างไรบ้าง?Hey man, Nice to meet you. เฮ้ เพื่อนยินดีที่ได้รู้จัก  Good to see you!ดีใจที่ได้เจอHi, how’s tricks?เป็นอย่างไรบ้าง?What’s your name?คุณชื่ออะไร?How do you do? สวัสดี (ไม่ได้แปลตรงตัวตามตัวอักษรว่า คุณทำอย่างไร)  Whazzup?ทำอะไรอยู่How’s life?ชีวิตเป็นไงบ้าง?What’s up? What’s new?, or What’s going on? มีอะไร? มีอะไรใหม่? หรือเกิดอะไรขึ้น?How’s it going?เป็นไงบ้าง?Where are you from?คุณมาจากไหนHow long will you stay here?คุณจะอยู่ที่นี่อีกนานแค่ไหน?Where do you live now?ตอนนี้คุณอาศัยอยู่ที่ไหนHave a nice day for you!ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีของคุณนะAre you here on vacation?คุณมาที่นี่เพื่อพักร้อนใช่ไหม?Haven’t seen you for ages.นานมาแล้วไม่เห็นคุณ(สำนวน “in ages” หรือ “for ages” แปลว่า เป็นเวลานาน)  This is my name cardนี่คือนามบัตรของฉันHave a good one ขอให้มีวันที่ดีSee you soon!แล้วพบกันเร็ว ๆ นี้

2. ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย  Sentences about Family – ประโยคเกี่ยวกับครอบครัว

Do you want to see pictures of my family?คุณอยากดูรูปภาพครอบครัวของฉันไหม?How’s the family? How’s everybody doing?         ครอบครัวเป็นอย่างไรบ้าง ทุกคนเป็นอย่างไรบ้างHave you got a big family?คุณมีครอบครัวใหญ่ใช่ไหม?Have you got any brothers or sisters?คุณมีพี่ชายหรือพี่สาว?How many people are there in your family?ครอบครัวคุณมีสมาชิกกี่คน?There are six people in my familyครอบครัวของฉันมีหกคน

3. ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย  Sentences about Jobs – ประโยคเกี่ยวกับงาน

Are you available for the meeting on …?คุณว่างสำหรับการประชุมวันศุกร์ เวลา…มั้ยI wish I could help, but I’m busy right now.ฉันก็อยากจะช่วยนะ แต่ตอนนี้ยุ่งอยู่น่ะCan / Could I remind you to…?ขอฉันเตือนเธอสักนิดนะว่า…Hope you don’t forget to do it.ฉันหวังว่าเธอจะไม่ลืมทำมันนะCould I have your advice on this?ฉันขอคำแนะนำจากคุณได้ไหม?That sounds like a great plan!ฟังดูแผนนี้ยอดเยี่ยมจังCan you join the meeting on..?คุณสามารถเข้าร่วมประชุมวันศุกร์ เวลา…ได้มั้ยWhat time does the meeting start?  ประชุมเริ่มกี่โมงCan I take a day off? ฉันขอลาซักวันได้มั้ย  Which room is the meeting in?ห้องที่กำลังมีประชุมอยู่ไหน?Don’t forget to do it.อย่าลืมทำเรื่องนี้Would you mind photocopying this bill for me?จะเป็นไรไหมถ้าฉันจะรบกวนคุณถ่ายเอกสารบิลนี้ให้ที  Do you have a minute?ว่างคุยซักนิดมั้ย/มีเวลาซักเดี๋ยวมั้ย                 Would you mind sending the presentation to me?  รังเกียจมั้ยที่จะส่งสื่อนำเสนองานให้ฉันหน่อยI want to remind you about …ฉันอยากจะเตือนเธอเรื่อง…  Please don’t forget to do this.อย่าลืมทำมันนะI’d like to remind you about…ฉันต้องการเตือนคุณเกี่ยวกับ …You will remember to finish it, won’t you?เธอจำได้ว่าต้องทำมันให้เสร็จใช่ไหมI’m looking forward to working together.ฉันรอคอยที่จะทำงานร่วมกันกับคุณStick on the plan that…ตามแผนที่วางไว้คือ…                                     

Eng Breaking แนะนำประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน

4. ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย  Things Are Good – ชื่นชม

Good job!ทำได้ดีมาก!You’re a genius.คุณเป็นอัจฉริยะGood for you!ดีสำหรับคุณ!You’re doing fine.คุณทำได้ดีGreat!ดีมากYou are really pretty.คุณน่ารักจริงๆGood thinking.เป็นความคิดที่ดีYou look great today.วันนี้คุณดูดีมากThat’s it!นั่นแหล่ะ! (ต้องเป็นอย่างนั้น)You’re on the right track now!คุณอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้องแล้ว!That’s the best ever.นั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดYou’re looking so beautiful today.วันนี้คุณดูสวยงามมากThat’s not bad! นั่นไม่เลวเลย!I love your new dress.ฉันชอบชุดใหม่ของคุณThat’s really nice มันดีจริงๆHow thoughtful ช่างคิด,ครุ่นคิด,รอบคอบ

5. ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย  Ways To Say Sorry – วิธีการพูดคำขอโทษ

Whoops. Sorryอ๊ะ ขอโทษSorry to butt in ….ขอโทษที่พูดขัดจังหวะ….I’m (so / very / terribly) sorry หรือ I’m terribly sorryฉันขอโทษจริงๆSorry to interrupt, but…..ขออภัยที่จะขัดจังหวะ แต่…I’m sorry I’m lateฉันขอโทษที่มาสายPardon (me).ยกโทษให้ฉันSorry to bother youขอโทษที่รบกวนคุณThat’s my fault.นั่นเป็นความผิดของฉันSorry. I didn’t mean to do that ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำอย่างนั้นMy bad/My fault.ฉันไม่ดี / ความผิดของฉันSorry for keeping you waitingขออภัยที่ทำให้คุณต้องรอPlease excuse my (ignorance).กรุณาให้อภัยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของฉัน

คุณสามารถใช้ประโยคต่อไปนี้เพื่อตอบกลับเมื่อคนอื่นพูดคำขอโทษกับคุณ เป็นประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยเช่น
Don’t worry about it. – อย่าไปกังวล, อย่าไปคิดมาก
Please don’t blame yourself. –อย่าโทษตัวเอง
It’s not your fault. – ไม่ใช่ความผิดของคุณ
That’s all right – ไม่เป็นไร หรือ ทุกอย่างยังโอเค
Think nothing of it. – ไม่ต้องคิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้นอีกนะ
No problem – ไม่เป็นไร
Never mind. It doesn’t really matter. – ไม่ต้องคิดมากไม่เป็นไร

6. Ways To Say Thank You for someone – การพูดขอบคุณใครสักคน

Thank you very much.ขอบคุณมากๆThanks a million for…!ขอบคุณล้านครั้งสำหรับ … !How thoughtful.คุณรอบคอบจังThere are no words to show my appreciation!ไม่มีคำพูดใดที่แสดงความขอบคุณของฉัน!That’s so kind of you.คุณดีกับฉันจังI am most grateful ฉันรู้สึกขอบคุณมากที่สุดThank you, without your supportขอบคุณที่ช่วยเหลือฉันI really appreciate itฉันซาบซึ้งกับเรื่องนี้จริงๆ

อย่าพลาดวิดีโอนี้นะ >> จะอธิบายบางอย่างในการสนทนาภาษาอังกฤษได้อย่างไร

7. Giving An Opinion – ให้ความคิดเห็น

As far as I’m concerned…ตามความเห็นของฉัน / เท่าที่ฉันรู้…..What I’m trying to say is….สิ่งที่ฉันพยายามจะพูดคือWhat are your views on…?คุณมีความคิดเห็นยังไงบ้างกับเรื่องนี้What is your opinion about that?เรื่องนั้นคุณมีความเห็นว่าอย่างไรWhat are your ideas ?คุณรู้สึกยังไงกับสิ่งนั้นTo my mind…ฉันคิดว่า….What’s your opinion?คุณมีความคิดเห็นอย่างไรI think we should…ฉันคิดว่า เราควร…

8. ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย  Sentences about Hobby – ประโยคเกี่ยวกับงานอดิเรก

What is your hobby? งานอดิเรกของคุณคืออะไรI’m really into it.ฉันหลงใหลในสิ่งนั้นมากๆI relax by…ฉันผ่อนคลายด้วยI’m addicted to itฉันติดสิ่งนั้นมากๆIf I’m not working, I…ถ้าฉันไม่ทำงานฉัน …Why did you start your hobby?ทำไมคุณถึงเริ่มงานอดิเรกของคุณMy hobbies are…งานอดิเรกของฉันคือ…How many hours a week do you spend on your hobby?คุณใช้เวลากับงานอดิเรกของคุณกี่ชั่วโมงต่อสัปดาห์?I wouldn’t mind a…ฉันจะไม่รังเกียจ …I’m crazy about it. ฉันคลั่งไคล้มันI could use a…ฉันต้องการI’d really like / I’d love a day off.ฉันชอบมาก / ฉันชอบวันหยุด

ผู้เรียนภาษาอังกฤษจะไม่ควรพลาดกับประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย

9. Asking For Help and Suggest Giving Help – การขอความช่วยเหลือและแนะนำการให้ความช่วยเหลือ

Can I help you?ฉันช่วยอะไรคุณได้บ้างGive me a hand with this, will you?คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม?Could you help me for a second? คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม

Help! / Help me!ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วยI need some help, please.ฉันต้องการความช่วยเหลือโปรด ช่วยฉันหน่อยThanks for your help. ขอบคุณที่ช่วยเหลือฉันI can’t manage. Can you help?ฉันจัดการไม่ได้ คุณช่วยได้ไหมIt’s my pleasure.ด้วยความยินดี

10. Sentences about Shopping – ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย
เกี่ยวกับการช็อปปิ้ง

Are you open on…?
ร้านเปิดตอน…ใช่ไหม?What is the total?
ทั้งหมดเท่าไหร่?Buy one get one free
ซื้อหนึ่งแถมหนึ่งWhat is the price after the discount?
ราคาหลังลดแล้วคือเท่าไห่รCan you give me any off?
คุณลงราคาหน่อยได้ไหม?Would you like anything else?
คุณต้องการอย่างอื่นอีกไหมDo you sell any…? or Do you have any…?
คุณมีขาย….ไหม?That’s cheap!
ถูกมากเลย!That’s good value
นั่นมีมูลค่าที่ดีThat’s too expensive!
มันแพงเกินไป!

11. ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย On The Phone

Can I speak to + ชื่อคน/ชื่อตำแหน่ง? ขอสายคุณ…หน่อยได้มั้ยคะ/ครับ?
Can I speak to … please?ขอสายคุณ…หน่อยได้มั้ย
Could I ask who’s calling, please? ฉันขอถามได้ไหมว่าใครโทรมา
Can I leave a message for him/her? – ฉันสามารถฝากข้อความถึงเขา ได้หรือไม่?
Could you please take a message? Please tell her/him that…คุณช่วยส่งข้อความได้ไหม กรุณาบอกเธอว่า…

Sure, one moment please. –แน่นอนอยู่แล้ว รอฉันสักครู่
Thanks for getting back to me. ขอบคุณที่ติดต่อกลับ
Leave a message after the beep. ฝากข้อความหลังจากเสียงสัญญาณ
Leave a message.ฝากข้อความไว้
I’ll call you later. ฉันจะโทรกลับทีหลัง
I’ll call you back when I’m free. ฉันจะโทรกลับหาคุณเองเมื่อฉันว่าง

I’m sorry, she/he’s not here today. Can I take a message? ขอโทษนะคะ เขาไม่อยู่ที่นี่วันนี้ กรุณาฝากข้อความเอาไว้ได้ไหม
I’m sorry, we have a bad connection.  Could you speak a little louder, please? ขอโทษนะคะ เหมือนสัญญาณจะไม่ดี กรุณาพูดให้ดังหน่อยได้ไหม
Good morning/afternoon/evening.  This is (your name) at/ calling from (company name).  Could I speak to ….? – สวัสดี.ฉันชื่อ … โทรจาก… ฉันสามารถคุยกับ…. ได้ไหม?
Is there anything else I can help you with?……Okay, thanks for calling.  –มีอะไรให้ฉันช่วยอีกไหม? … ขอบคุณมากที่โทรหา

ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยช่วยคุณมั่นใจมากขึ่้นในการสื่อสาร

ยกตัวอย่างบทสนทนามีใช้ประโยคที่ใช้บ่อย

บทสนมนาในการเจอกันครั้งแรกกับ การใช้ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยบทสนมนาถามตอบเกี่ยวกับงานอดิเรก กับประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยMike: Good morning, nice to see you, I’m Mike What’s yours?
สวัสดีตอนเช้า ยินดีที่ได้รู้จัก ผมชื่อ Mike แล้วคุณละครับ
Ning: You can call me Ning. — เรียกผมว่า Ning ได้นะครับ
Mike: You speak English very well. — คุณพูดภาษาอังกฤษดีมากเลยนะครับ
Ning: Oh, a little — อ่ะ ได้นิดหน่อยครับ
Mike: Where are you from Ning? — คุณมากจากไหนครับ Ning?
Ning: I’m from Japan — ผมมาจากญี่ปุ่นครับ 
Mike:  Are you here on vacation? — คุณมาเที่ยวหรอครับ
Ning: No, I’m not. I’m here working — ไม่ครับ ผมมาทำงานที่นี่ครับ
Mike: what are you doing? — คุณทำงานอะไรครับ
Ning: I’m a journalist — ผมเป็นนักข่าวครับ
Mike: How long will you stay here? — คุณจะอยู่ที่นี่นานไหมครับ
Ning: A week, nice to meet you Mike — หนึ่งสัปดาห์ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับไมค็
Mike:  Me too , This is my name card — เช่นกันครับ นี่คือนามบัตรของผม
Ning: Thank you — ขอบคุณครับNing: Tell me, what do you enjoy doing in your spare time Mike? 
บอกผมได้ไหมครับว่าคุณชอบทำอะไรในเวลาว่างครับไมค์? 
Mike: Well, I like painting and I also collected a lot of other things. What
about you? — อ่ะ ผมชอบวาดรูป และสะสมบางอย่างครับ แล้วคุณละครับ ?
Ning: I like painting too and playing piano. — ผมชอบวาดรูปและเล่นเปียโน
Mike: You know how to playing piano? — คุณเล่นเปียโนเป็นด้วยหรอ
Ning: Yes, I do. — ครับ ผมเล่นได้
Mike: How interesting! When did you learn how to do that?
ดีจังเลย คุณเรียนเปียโนเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ
Ning:  I learned by myself when I was 15 years old
ผมเรียนเองนะครับ ตั้งแต่ตอนอายุ 15 ปี
Mike: It’s so amazing. –มันช่างยอดเยี่ยมมาก

เยี่ยมเลยครับ 

ทั้งหมดดังกล่าวคือประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยที่ Eng Breaking ฝากไว้ให้ผู้เรียนทุกท่าน หวังว่าคุณจะใช้ได้มีประโยชต์ต่อการทำงาน การเรียน อย่าลืมติดตามเว็บไซน์การเรียนการสอนภาษาอังกฤษของ EngBreaking.co.th เพื่อได้รับข้อมูล และสารดีๆ ทางภาษาอังกฤษทุกวัน

ความคิดเห็น 635 รายการ

 

[NEW] ซักผ้า ตากผ้า อบผ้า รีดผ้า ภาษาอังกฤษ Doing The Laundry ~ เกร็ดความรู้ภาษาอังกฤษ | ร้อน ไหม ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

ซักผ้า ตากผ้า อบผ้า รีดผ้า ภาษาอังกฤษ
ซักผ้า ตากผ้า อบผ้า รีดผ้า laundry
source: dontforgettofeedthebaby.com

เกร็ดความรู้ภาษาอังกฤษ วันนี้อยากพูดถึงเรื่องของ การ ซักผ้า ตากผ้า อบผ้า รีดผ้า ในภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทำกันเป็นกิจวัตร หรือที่เรียกว่า routine ซึ่งเป็นงานบ้าน หรือ household chores (noun – เฮาซฺ’โฮลดฺ คอร์ซ) ประเภทหนึ่ง มาดูกันครับว่าคำศัพท์ที่เกี่ยวกับการซักผ้า ตากผ้า อบผ้า รีดผ้า มีอะไรบ้าง

คำว่าเสื้อผ้า ในภาษาอังกฤษ ใช้คำว่า clothes (noun – โคลซ) คือสิ่งที่เราสวมใส่ แต่ ถ้าเป็น cloth (noun – คลอธ) จะหมายถึง ผ้า  เช่น

  • cotton cloth/cotton (noun – คอท’เทิน คลอธคอท’เทิน) ผ้าฝ่าย หรือบางทีก็เรียก cotton คำเดียวโดดๆ
  • silk cloth (noun – ซิลค คลอธ)  ผ้าไหม
  • woollen cloth (noun – วูล’เลิน คลอธ) ผ้าที่ทำด้วยขนสัตว์
  • linen cloth/linen (noun – ลิน’เนิน คลอธ/ ลิน’เนิน) ผ้าลินิน หรือบางทีก็เรียก linen คำเดียวโดดๆ

wash – ซักผ้า

เริ่มจากการซักผ้าก่อน เราจะใช้คำว่า wash (verb -วอช ) ที่แปลว่าซัก คำๆนี้นอกจากจะแปลว่าซักแล้วยังแปลว่าล้างได้เช่นกัน  เช่น wash the dishes 
นอกจากนั้นคำว่า wash อาจจะหมายถึงสระได้ด้วย ในกรณีที่ใช้กับผม เช่น wash your hair

แต่ถ้าท่านไปเจอคำว่า washing-up (noun – วอชชิงอัพ) คำๆนี้ไม่ได้แปลว่าซักผ้าแต่อย่างใด แต่จะหมายถึงการ ล้างถ้วย ล้างจาน รวมทั้งช้อนซ้อม หรือหม้อใหก็น่าจะได้ รวมๆก็น่าจะหมายถึงล้างถ้วยโถโอชามน่าจะไม่ผิด

เรากลับมาดู  wash ในความหมายที่แปลว่าซัก คือการซักผ้า ซึ่งเรียกแบบเต็มยศว่า cloth washing (noun-โคลซ วิชชิง) แต่ถ้าท่านนิยมใช้แรงชอบซักมือก็ไม่ว่ากัน การซักด้วยมือก็จะใช้คำว่า hand wash (verb – แฮน วอช) ถ้าเป็นคำนามก็ใช้คำว่า hand-washing (noun – แฮน วอชชิง) ถ้าเป็น คำคุณศัพท์ก็จะใช้คำว่า hand-washed (noun – แฮน วอชดฺ)

เมื่อทำการซักด้วยมือ สิ่งที่ช่วยทุ่นแรงท่านได้ก็เห็นจะเป็น washboard (noun – วอช’บอร์ด) หรือที่เรารู้จักกันดีว่าในชื่อ กระดานซักเสื้อผ้า ส่วนแปรงซักผ้า ก็ง่ายๆเลยใช้คำว่า clothes brush (noun -โคลซ บรัซ) เอาคำว่า brush ไปต่อท้ายคำว่า clothes น่าจะช่วยให้จำได้ง่าย (ไหม ??)
อีกคำหนึ่งก็คือ scrubbing brush (noun -สกรับบิง บรัซ) คือแปรงซักผ้าที่มีขนแปรงแข็งๆ


washing machine – เครื่องซักผ้า
source: dienlanhtamduc.com

ที่นี้ถ้าเป็นการใช้เครื่องทุ่นแรง โดยการซักด้วยเครื่อง ก็จะใช้คำว่า machine wash (verb – มะชีน วอช) หรือ จะพูดว่า wash in the washing machine ก็ได้

คำว่า washing machine (noun – วอชชิง มะชีน) คือเครื่องซักผ้านั้นเอง อีกคำหนึ่งที่ใช้ก็คือ  laundry machine  (noun – ลอนดริ มะชีน) หรือบางที่ก็เรียกสั้นๆว่า washer (noun – วอชเชอร์) แทนก็ได้ แต่ว่า washer อาจจะหมายถึงคนที่ซักผ้าก็ได้ แต่ในความหมายที่ว่า เป็นคนซักผ้าชิ้นนั้นๆ

วกกลับมาที่เครื่องซักผ้าอีกนิดหนึ่ง เครื่องซักผ้าที่เห็นตามท้องตลาด จะมีอยู่สองชนิด (to the best of my knowledge – เท่าที่ผมทราบนะครับ) คือ

  1. front-loading washer/washing machine ซึ่งก็คือเครื่องซักผ้าที่เป็นแบบเปิดฝาจากด้านหน้า หรือที่เราเรียกว่าฝาหน้า
  2. top-loading washer/washing machine คือเครื่องซักผ้าที่เป็นแบบเปิดฝากจากด้านบน บางที่ก็เรียกว่า traditional top-loading washer/washing machine เพราะเป็นรุ่นแบบดั้งเดิม



ทีนี้ในกรณีที่ผ้าที่ซักไม่ได้ ต้องใช้ซักแห้งแทน คำว่าซักแห้ง ภาษาอังกฤษใช้คำว่า dry wash (verb – ดราย วอช) หรืออาจจะเรียกว่า dry cleaning (verb – ดราย คลีนนิง) ก็ได้ ร้านที่รับซักแห้งจะเรียกว่า dry cleaner’s


detergent/softener – ผงซักฟอก/น้ำยาปรับผ้านุ่ม

เมื่อมีการซักผ้าก็ต้องใช้ผงซักฟอก คำว่าผงซักฟอกภาษาอังกฤษก็คือ detergent (noun – ดิเทอร์’เจินทฺ – ผงซักฟอก) หรือเรียกอีกอย่างว่า detergent powder (noun – ดิเทอร์’เจินทฺ พาวเดอร์ – ผงซักฟอก) หรือ washing powder (noun – วอชชิง พาวเดอร์ – ผงซักฟอก)

ถ้าเปลี่ยนเป็นสูตรน้ำแทนผง หรือที่เราเรียกว่า น้ำยาซักผ้า ก็มีให้ใช้หลายคำ คำแรกก็คือ liquid detergent (noun – ลิคควิด ดิเทอร์’เจินทฺ ) หรือจะเรียกว่า washing liquid (noun – วอชชิง ลิคควิด) ก็ได้หรือจะใช้คำว่า laundry liquid (noun – ลอนดริ ลิคควิด) ก็ไม่ผิด
อาจจะมีบางท่านเห็น คำว่า washing liquid แล้วสงสัยว่า แล้วน้ำยาล้างจ้านละใช้คำว่าอะไร จัดไปอย่าให้เสีย น้ำยาล้างจาน ในภาษาอังกฤษ เราจะเรียกว่า dishwashing liquid (noun – ดิชวอชชิง ลิคควิด) หรือ washing-up liquid (noun – วอชชิง อัพ ลิคควิด)

ส่วนน้ำยาปรับผ้านุ่มจะเรียกว่า softener (noun – ซอเฟินเนอร์) หรือเรียกให้ชัดๆแบบเจาะจงไปเลย ก็เรียกว่า fabric softener (แฟ’บริค ซอเฟินเนอร์) ซึ่ง fabric ก็คือผ้านั่นเอง อีกคำหนึ่งที่เห็นใช้กันในความหมายว่าน้ำยาปรับผ้านุ่ม คือ fabric conditioner (แฟ’บริค คันดิช’เชินเนอร์)

แล้วน้ำยาซักผ้าขาวละจะเรียกว่าอะไร คำตอบก็คือ เรียกว่า bleach (noun – บลีชฺ) ครับ คำนี้เป็นกริยาก็ได้ครับแปลว่าซักด้วยน้ำยาซักผ้าขาวนั่นเอง

ตัวอย่าง
I wash my clothes every Saturday.
ฉันซักผ้าทุกวันเสาร์

These clothes need to be hand-washed. They cannot be washed in the washing machine.
ผ้าพวกนี้ต้องซักมือนะ ซักในเครื่องซักผ้าไม่ได้

Who will help me with the washing up?
ใครจะช่วยผมล้างจาน

When it’s a time to do the hand-washing, we will need washboard and clothes brush for jeans.
เมื่อถึงเวลาซักผ้าด้วยมือ เราก็ต้องใช้กระดานซักผ้าและแปรงซักผ้าสำหรับกางเกงยีนส์  (แปลกไหมครับ เราใช้กระดานและแปรงซักผ้า แต่เราต้องซักเอง)

Here is a quick tutorial on how to use bleach in your wash.  (
นี่คือวิธีคร่าวๆในการใช้น้ำยาซักผ้าขาวเวลาซักผ้า

Separate your clothes before washing your clothes.
แยกผ้าก่อนที่จะซัก

rinse – ล้างผ้า

ขั้นตอนในการซักผ้าอย่างที่รู้กันไม่ว่าจะใช้ เครื่องซักหรือซักด้วยมือ  ก็ต้องมีการล้างผ้า คำว่าล้างผ้า จะไม่ใช้คำว่า wash แต่จะใช้คำว่า rinse (verb – รินซ) คือ(ชะ)ล้างด้วยน้ำเปล่า

Rinse your clothes 3 times after washing with detergent.
ล้างผ้าสามรอบหลังจากซักด้วยผงซักฟอก

If adding fabric softener by hand, be sure to do it during the rinse cycle.
ถ้าต้องใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มเอง ต้องเพิ่มน้ำยาปรับผ้านุ่มในช่วงที่ทำการล้างผ้า

คำว่า rinse นี้ยังแปลว่าบ้วนปากหรือล้างปากก็ได้ด้วยเช่นใช้ในกรณี่ที่เราแปรงฟัน คือหลังจากที่แปรงฟันด้วยยาสีฟัน ก็จะบ้วนปาก ก็คือ rinse your mouth with water บ้วนปากด้วยน้ำ

ตัวอย่าง


Don’t rinse your mouth right after using mouthwash
อย่าบ้วนปากด้วยน้ำทันที หลังจากใช้น้ำยาบ้วนปาก

คำว่าน้ำยาบ้วนปากคือ mouthwash (noun – เมาธฺ’วอช)

นอกจากนั้นคำว่า rinseใช้ได้กับการล้างผมเวลาที่เราสระผม หรือที่เรียกว่า shampoo (verb – แชมพู) ได้อีกด้วย คำว่า shampoo (noun – แชมพู) ถ้าเป็นคำนามก็คือยาสระผมนั่นเองที่เราชอบใช้ทับศัพท์กัน

Don’t forget to rinse your hair with water after shampooing.
อย่าลืมล้างผมด้วยน้ำหลังสระด้วยยาสระผม

dry/air – ตากผ้า อบผ้า

ทีนี้มาถึงขั้นตอนทำให้ผ้าแห้ง ซึ่งอาจจะทำโดยวิธีการผึ่งลมก็ได้ที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า air (verb – แอร์) ครับคำเดียวกับที่แปลว่าอากาศนั่นแหละครับ หรืออาจจะเรียกว่า air dry (verb – แอร์ ดราย) ก็ได้ในความหมายเดียวกัน

อีกวิธีที่จะทำให้ผ้าแห้งก็คือโดยวิธีการตากผ้าคือ ซึ่งพูดได้หลายแบบ ไม่ว่าจะ

  • dry clothes in the sun (verb – ดราย โคลซ อันเดอร์ เดอะ ซัน)
  • หรือ hang clothes under the sun (verb – แฮง โคลซ อันเดอร์ เดอะ ซัน)
  • หรือ hand out the clothes  (verb – แฮง เอ๊า เดอะ โคลซ )
  • หรือ hang the clothes out (verb – แฮง เดอะ โคลซ เอ๊า)
  • หรือ line dry clothes  (verb – ไลน์ ดราย โคลซ)
  • หรือ hang dry the clothes (verb – แฮง  ดราย  เธอะ โคลซ)

เมื่อพูดถึงการตากผ้าก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่พูดถึงราวตากผ้า (ไม่ใช่ ลาวตากผ้า นะครับ อันนั้นหมายถึงผมละ ฮะๆๆ) คำว่าราวตากผ้า ในภาษาอังกฤษ ใช้คำว่า washing line (noun – วอชชิง ไลน์) ในภาษาอังกฤษแบบ British  หรือเรียกว่า clothesline (noun – โคลซไลน์) ในภาษาอังกฤษแบบ American ซึ่งสองคำนี้คือเป็น ราวตากผ้าแบบ ที่มีเสาสองเสาและมีสายโยงจากเสาหนึ่งไปอีกเสาหนึ่ง

ส่วนราวตากผ้าที่มีขาตั้ง บางรุ่นสามารถเก็บพับได้ เห็นมีใช้อยู่หลายคำคือ

  • clothes horse/drying horse (noun – โคลซ ฮอร์ส/ดรายอิง ฮอร์ส)
  • clothes rack/drying rack (noun – โคลซ แรค/ดรายอิง แรค)
  • drying stand (noun – ดรายอิง สแตน)
  • clothes maiden  (noun – โคลซ เม’เดิน)
  • airer (noun – แอร์เออร์) อันนี้น่าจะมาจากคำว่า air ซึ่งหมายถึงราวที่เอาผ้ามาผึ่งลมให้แห้ง

และเมื่อตากผ้าบนราว ส่ิงที่เราต้องใช้กันไม่ให้ผ้าปลิวเวลาลมแรงก็คือ ที่หนีบผ้า หรือไม้หนีบผ้า ซึ่งในภาษาอังกฤษแบบลุงแซมเรียกว่า clothespin (noun – โคลซ พิน)  หรือถ้าเป็นแบบ  UK ก็จะใช้คำว่า clothes peg  (noun – โคลซ เพก) หรือ peg  (noun – เพก)  ในความหมายนี้

ส่วนไม้แขวนเสื้อ จะเรียกว่า hanger/coat hanger/clothes hanger  (noun – แฮงเกอะ/โคท แฮงเกอะ/โคลซ แฮงเกอะ) และที่เป็นที่แขวนแบบเป็นวงกลมแล้วมีที่หนีบห้อยลงมา จะเรียกว่า round clothes hanger (noun – ราว โคลซ แฮงเกอะ)

ตัวอย่าง


When it rains, I need to put my washing on the drying rack inside my house.
ตอนฝนตกผมต้องตากผ้าบนราวตากผ้าในบ้าน

My daughters helped hang wet clothes outside on the washing line.
ลูกสาวผมช่วยตากผ้าบนราวตากผ้าข้างนอก

After doing the washing, take out the clothes and hang them under the sun on the clothesline.
หลังจากซักผ้าแล้ว เอ้าผ้าออกไปตากบนราวตากผ้าข้างนอกด้วย

Could you help hang out the washing?
เอาผ้าไปตากข้างนอกให้หน่อย

dryer/drier/spin dryer – ปั่นผ้า อบผ้า


dryer/drier/spin dryer เครื่องอบผ้า
source: www.lg.com

อีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้ผ้าแห้งก็คือใช้เครื่องอบผ้า ช่วยได้มากเวลาฝนตก แต่ก็แลกมากับค่าไฟที่เพิ่มขึ้น เครื่องอบผ้านี้เรียกกันว่า dryer/drier (noun – ดรายเออร์) หรือจะเรียกเต็มๆว่า clothes dryer/drier (noun – โคลซ ดรายเออร์) หรือ drying machine (noun – ดรายอิง มะชีน)  คำอื่นๆที่เห็นใช้เรียกเครื่องอบผ้าคือ tumble dryer/drier (noun – ทัม’เบิล ดรายเออร์) เครื่องอบผ้าที่ไม่ปั่นผ้า (rotate verb – โรเทท = ปั่น หรือหมุน) จะเรียกว่า drying cabinet  (noun – ดรายอิง แคบบินิท)

เครื่องซักผ้าบางรุ่นอาจจะมีเครื่องอบผ้าในตัวด้วยซึ่งจะเรียกว่า washer-dryer/washer-drier  (noun -วอชเชอร์ ดรายเออร์)

ส่วนเครื่องปั่นแห้ง น่าจะใช้คำว่า spin dryer/drier (noun – สปิน ดรายเออร์) ซึ่งที่เคยเห็นเครื่องซักผ้าบางรุ่นที่เป็นแบบสองถังบน จะมีถังซักถังหนึ่ง และอีกถังใช้ปั่นแห่งซึ่งก็คือ spin dryer/drier นี่เอง

ในกรณีที่ซักผ้าด้วยมือ หรือ hand wash your clothes เมื่อไม่มี spin dryer มาช่วยทำให้ผ้าหมาด ก็ต้องใช้แรงในการ บิดให้แห้งหรือให้หมาด ซึ่งในภาษาอังกฤษ ใช้คำว่า wring/wring out (verb – ริง/ริง เอาร์) ซึ่งก็คือการ บิดให้แห้ง ต้องขอบคุณความ creative ของคนเรานะครับ สมัยนี้มีคนสร้างตัวบิดแห้งหรือเครื่องบิดแห้ง มาให้ใช้ด้วย ซึ่งเขาใช้คำว่า clothes wringer (noun – โคลซ ริงเกอร์)

Many housewives must have been very happy the day when washing machines and dryers were first made.
แม่บ้านหลายๆคนต้องรู้สึกมีความสุขมากแน่เลยในวันที่มีการสร้างเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าครั้งแรก

You need to put your clothes in the spin dryer to remove the water after washing them and then put them on the drying horse.
คุณต้องเอาผ้าใส่เครื่อง(ถัง)ปั่นแห้งเพื่อไล่น้ำออกให้หมดหลังจากซัก แล้วหลังจากนั้นเอาไปตากบนราวตากผ้า

Tumble dryer is not good for some kind of clothes as the heat will shrink them.
เครื่องอบผ้าไม่เหมาะกับผ้าบางประเภทเพราะความร้อนจะทำให้ผ้าหดเล็กลง

Some type of clothes cannot be washed in the washing machine and you need to hand wash them. After hand-washing them, you will also need to wring them out before line drying them.
ผ้าบางประเภทไม่สามารถซักด้วยเครื่องซักผ้าเราต้องซักด้วยมือ หลังจากซักด้วยมือแล้วเราต้องบิดให้ผ้าหมาดก่อนที่จะเอาไปตากที่ราว

iron/press – รีดผ้า

เมื่อมีการซักผ้า ตากผ้า อบผ้าแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการรีดผ้า รีดผ้า ในภาษาอังกฤษ ใช้อยู่สองคำคือคำว่า iron (verb – ไอเอิน) หรือ press (verb – เพลส) ความแตกต่างของสองคำนี้น่าจะเป็นวิธีการในการรีดผ้า iron ต้องขยับเตารีดไปมาบนผ้าเพื่อให้เรียบ ส่วน press คือการ วางเตารีดลงที่ผ้าและก็รอซักแป๊บหนึ่งและก็ยกเตารีดออก

เมื่อเป็นคำนาม  iron (noun – ไอเอิน) ใช้ในความหมาย ที่แปลว่า เตารีด หรืออาจจะเรียกว่า clothes iron  (noun – โคลซ ไอเอิน) หรือ flatiron  (noun – แฟลทไอเอิน)  ส่วนเตารีดไอน้ำที่เห็นใช้กันก็คือ stream iron  (noun –  สตรีม ไอเอิน) เตารีดสมัยก่อน ที่ใส่ถ่านไฟเข้าไปเรียกว่า charcoal iron (noun –  ชาร์’โคล ไอเอิน)

คำนามของ iron ที่แปลว่า การรีดผ้า ก็คือ ironing (verb – ไอเอินนิง)  ส่วนคำคุณศัพท์ ก็คือ ironed (adj – ไอเอินดฺ) เช่นผ้าที่รีดแล้วจะเรียกว่า ironed clothing ส่วนผ้าที่ยับ เรียก wrinkled clothing

ส่วนที่รองรีดผ้าหรือโต๊ะรีดผ้าจะเรียกว่า ironing board/ironing table (noun – ไอเอินนิง บอร์ด/เทเบิล) ในการรีดผ้าคุณแม่บ้านหรือพ่อบ้านก็ต้องใช้น้ำยารีดผ้า ซึ่งเรียกว่า ironing starch/fabric starch  (noun – ไอเอินนิง สทาร์ช/แฟบริค สทาร์ช)  หรือใช้ สเปรย์รีดผ้าเรียบ ที่เรียกว่า spray starch  (noun – สเพรย์ สทาร์ช)

ตัวอย่าง

I’ll need to press my laundry.
ผมต้องรีดผ้า

Ironing is a very time consuming activity for me.
การรีดผ้าเป็นงานที่กินเวลามากสำหรับผม

Could you bring me an ironing board? I need to do the ironing for the kids.
เอาที่รองรีดผ้าให้หน่อย ฉันต้องรีดผ้าให้กับเด็กๆ

Apply iron starch first before doing the ironing
ใช้น้ำยารีดผ้าก่อนที่จะรีดผ้า

Please put away the ironed clothing for me.
เอาผ้าที่รีดแล้วไปเก็บให้หน่อย

laundry/washing

คำว่าเสื้อผ้าที่กำลังจะซักหรือเสื้อผ้าที่ซักแล้วเราอาจจะเรียกว่า washing (noun – วอชชิง) ก็ได้ หรือจะเรียกว่า laundry (noun – ลอนดริ) ก็ได้ในความหมายเดียวกัน
ถ้าเป็นเสื้อผ้าสกปรกเราก็เรียกว่า dirty clothes/washing/laundry (adj+noun – เดอร์ทิ โคลซ/วอชชิง/ลอนดริ)

ตัวอย่าง

I really need to

do the washing
ฉันต้องซักผ้าจริงๆแล้วละ

All of this dirty washing needed to be laundered.

Could you put the washing out for me?
เอาผ้าไปตากข้างนอกให้ฉันได้ไหม

คำว่าพับผ้า เราจะใช้คำว่า fold (verb – โฟลด) ผ้าที่ซักแล้วแต่ยังไม่ได้พับจะเรียกว่า unfolded washing/laundry

คำว่า laundry นอกจากจะหมายถึง ผ้าที่จะเอาไปซัก หรือผ้าที่กำลังซัก หรือผ้าที่ซักแล้ว ยังหมายถึง ร้านซักรีดได้ด้วย ส่วนคนที่รับซักรีดก็คือ laundryman/laundrywoman

คำกริยาของ laundry ก็คือคำว่า launder (verb – ลอนเดอร์) ซึ่งก็แปลว่า ซักผ้าและรีดผ้า คือรวมการ wash และ iron ไว้ในคำเดียวกัน คำคำนี้ใช้ค่อนข้างเป็นแบบทางการ

มาดูคำศัพท์อื่นๆที่ใช้กับคำว่า laundry หรือมาจากคำว่า laundry

  • laundry basket  (noun – ลอนดริ แบสคิท) ตะกร้าใส่ผ้าที่สกปรกหรือผ้าที่ซักแล้ว หรือที่เรียกว่า hamper  (noun – แฮม’เพอะ)ในอเมริกา
  • laundry bag  (noun – ลอนดริ แบก) ถุงซักผ้า
  • laundry and ironing services บริการซัก-รีด
  • launderette (noun – ลอนเดอริท)  ร้านซักผ้าที่ต้องซักด้วยตัวเอง  (UK)
  • laundromat (noun – ลอนโดรแมท)  ร้านซักผ้าที่ต้องซักด้วยตัวเอง (US, Australia, Canada, NZ)
  • coin-op laundromat (noun – คอยน์ ออพ ลอนโดรแมท), coin-operated laundromat (noun – คอยน์ อัพเพรททิด ลอนโดรแมท), self-service laundry 

    (noun – เซลฟ เซอร์วิช 

    ลอนดริ)

     coin laundry 

    (noun – คอยน์ 

    ลอนดริ

    )

    , coin wash 

    (noun – คอยน์ 

    วอช

    ร้านซักผ้าที่ต้องซักด้วยตัวเอง โดยการหยอดเหรียญ

คำกริยาที่เกี่ยวกับการซักผ้า

  • sort the laundry (verb – ซอร์ท เธอะ ลอนดริ) แยกผ้าก่อนซัก
  • hand wash  (verb – แฮนด์ วอช) ซักผ้าด้วยมือ
  • machine wash  (verb – มะชีน วอช) ซักผ้าด้วยเครื่อง
  • scrub the laundry (verb – สกรับ เธอะ ลอนดริ) แปรงผ้า
  • rinse the laundry  (verb – รินซ เธอะ ลอนดริ) ล้างผ้าด้วยน้ำ
  • wring out the laundry  (verb – ริง เอาท์ เธอะ ลอนดริ) บิดผ้าให้หมาด
  • load the washer  (verb – โลด เธอะ วอชเชอร์) เอาผ้าเข้าเครื่องเครื่องซักผ้า
  • unload the washer  (verb – อันโลด เธอะ วอชเชอร์) เอาผ้าออกจากเครื่องซักผ้า
  • load the dryer  (verb – โลด เธอะ ดรายเออะ) เอาผ้าเข้าเครื่องเครื่องอบผ้า
  • hang clothes on the clothes line  (verb – แฮง โคลซ ออน เธอะ โคลซ ไลน์)ตากผ้าบนราวตากผ้า
  • iron (verb – ไอเอิน) รีดผ้า 
  • fold the laundry (verb – โฟล์ด เธอะ ลอนดริ) พับผ้า
  • hang up clothing (verb – แฮง อัพ คลอธธิง) ตากผ้า
  • get the clothes off the clothes line (verb – เกท เธอะ โคลซ ออฟ เธอะ โคลซ ไลน์) เก็บผ้าจากราว

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ หวังว่าคงจะจุใจกับคำศัพท์เกี่ยวกับการซักผ้ากันนะครับ อย่าลืมเอาไปใช้กันนะครับ สำหรับวันนี้คงต้องบอกว่า good night and goodbye and see you again next time, please stay turned.



Read more at:

เกร็ดความรู้ภาษาอังกฤษ วันนี้อยากพูดถึงเรื่องของ การ ซักผ้า ตากผ้า อบผ้า รีดผ้า ในภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทำกันเป็นกิจวัตร หรือที่เรียกว่า routine ซึ่งเป็นงานบ้าน หรือ household chores (noun – เฮาซฺ’โฮลดฺ คอร์ซ) ประเภทหนึ่ง มาดูกันครับว่าคำศัพท์ที่เกี่ยวกับการซักผ้า ตากผ้า อบผ้า รีดผ้า มีอะไรบ้างคำว่าเสื้อผ้า ในภาษาอังกฤษ ใช้คำว่า(noun – โคลซ) คือสิ่งที่เราสวมใส่ แต่ ถ้าเป็น(noun – คลอธ) จะหมายถึงเช่นเริ่มจากการซักผ้าก่อน เราจะใช้คำว่า(verb -วอช ) ที่แปลว่าซัก คำๆนี้นอกจากจะแปลว่าซักแล้วยังแปลว่าล้างได้เช่นกัน เช่นนอกจากนั้นคำว่า wash อาจจะหมายถึงสระได้ด้วย ในกรณีที่ใช้กับผม เช่นแต่ถ้าท่านไปเจอคำว่าnoun – วอชชิงอัพคำๆนี้ไม่ได้แปลว่าซักผ้าแต่อย่างใด แต่จะหมายถึงการ ล้างถ้วย ล้างจาน รวมทั้งช้อนซ้อม หรือหม้อใหก็น่าจะได้ รวมๆก็น่าจะหมายถึงล้างถ้วยโถโอชามน่าจะไม่ผิดเรากลับมาดู wash ในความหมายที่แปลว่าซัก คือการซักผ้า ซึ่งเรียกแบบเต็มยศว่า(noun-โคลซ วิชชิง) แต่ถ้าท่านนิยมใช้แรงชอบซักมือก็ไม่ว่ากัน การซักด้วยมือก็จะใช้คำว่า(verb – แฮน วอช) ถ้าเป็นคำนามก็ใช้คำว่า(noun – แฮน วอชชิง) ถ้าเป็น คำคุณศัพท์ก็จะใช้คำว่า(noun – แฮน วอชดฺ)เมื่อทำการซักด้วยมือ สิ่งที่ช่วยทุ่นแรงท่านได้ก็เห็นจะเป็น(noun – วอช’บอร์ด) หรือที่เรารู้จักกันดีว่าในชื่อส่วนก็ง่ายๆเลยใช้คำว่า(noun -โคลซ บรัซ) เอาคำว่า brush ไปต่อท้ายคำว่า clothes น่าจะช่วยให้จำได้ง่าย (ไหม ??)อีกคำหนึ่งก็คือ scrubbing brush (noun -สกรับบิง บรัซ) คือแปรงซักผ้าที่มีขนแปรงแข็งๆที่นี้ถ้าเป็นการใช้เครื่องทุ่นแรง โดยการซักด้วยเครื่อง ก็จะใช้คำว่า(verb – มะชีน วอช)หรือ จะพูดว่าก็ได้คำว่า(noun – วอชชิง มะชีน) คือเครื่องซักผ้านั้นเอง อีกคำหนึ่งที่ใช้ก็คือ(noun – ลอนดริ มะชีน) หรือบางที่ก็เรียกสั้นๆว่า(noun – วอชเชอร์) แทนก็ได้ แต่ว่าอาจจะหมายถึงคนที่ซักผ้าก็ได้ แต่ในความหมายที่ว่า เป็นคนซักผ้าชิ้นนั้นๆวกกลับมาที่เครื่องซักผ้าอีกนิดหนึ่ง เครื่องซักผ้าที่เห็นตามท้องตลาด จะมีอยู่สองชนิด (to the best of my knowledge – เท่าที่ผมทราบนะครับ) คือทีนี้ในกรณีที่ผ้าที่ซักไม่ได้ ต้องใช้ซักแห้งแทน คำว่าภาษาอังกฤษใช้คำว่า(verb – ดราย วอช) หรืออาจจะเรียกว่า(verb – ดราย คลีนนิง) ก็ได้ ร้านที่รับซักแห้งจะเรียกว่าเมื่อมีการซักผ้าก็ต้องใช้ผงซักฟอก คำว่าผงซักฟอกภาษาอังกฤษก็คือ(noun – ดิเทอร์’เจินทฺ – ผงซักฟอก) หรือเรียกอีกอย่างว่า(noun – ดิเทอร์’เจินทฺ พาวเดอร์ – ผงซักฟอก) หรือ(noun – วอชชิง พาวเดอร์ – ผงซักฟอก)ถ้าเปลี่ยนเป็นสูตรน้ำแทนผง หรือที่เราเรียกว่าก็มีให้ใช้หลายคำ คำแรกก็คือ(noun – ลิคควิด ดิเทอร์’เจินทฺ ) หรือจะเรียกว่า(noun – วอชชิง ลิคควิด) ก็ได้หรือจะใช้คำว่า(noun – ลอนดริ ลิคควิด) ก็ไม่ผิดอาจจะมีบางท่านเห็น คำว่าแล้วสงสัยว่า แล้วน้ำยาล้างจ้านละใช้คำว่าอะไร จัดไปอย่าให้เสียในภาษาอังกฤษ เราจะเรียกว่า(noun – ดิชวอชชิง ลิคควิด) หรือ(noun – วอชชิง อัพ ลิคควิด)ส่วนจะเรียกว่า(noun – ซอเฟินเนอร์) หรือเรียกให้ชัดๆแบบเจาะจงไปเลย ก็เรียกว่า(แฟ’บริค ซอเฟินเนอร์) ซึ่งก็คือผ้านั่นเอง อีกคำหนึ่งที่เห็นใช้กันในความหมายว่าน้ำยาปรับผ้านุ่ม คือ(แฟ’บริค คันดิช’เชินเนอร์)แล้วน้ำยาซักผ้าขาวละจะเรียกว่าอะไร คำตอบก็คือ เรียกว่า(noun – บลีชฺ) ครับ คำนี้เป็นกริยาก็ได้ครับแปลว่าซักด้วยน้ำยาซักผ้าขาวนั่นเองI wash my clothes every Saturday.ฉันซักผ้าทุกวันเสาร์These clothes need to be hand-washed. They cannot be washed in the washing machine.ผ้าพวกนี้ต้องซักมือนะ ซักในเครื่องซักผ้าไม่ได้Who will help me with the washing up?ใครจะช่วยผมล้างจานWhen it’s a time to do the, we will needandfor jeans.เมื่อถึงเวลาซักผ้าด้วยมือ เราก็ต้องใช้กระดานซักผ้าและแปรงซักผ้าสำหรับกางเกงยีนส์ (แปลกไหมครับ เราใช้กระดานและแปรงซักผ้า แต่เราต้องซักเอง)Here is a quick tutorial on how to usein your wash. ( Bleach Your Clothing นี่คือวิธีคร่าวๆในการใช้น้ำยาซักผ้าขาวเวลาซักผ้าSeparate your clothes beforeyour clothes.แยกผ้าก่อนที่จะซักขั้นตอนในการซักผ้าอย่างที่รู้กันไม่ว่าจะใช้ เครื่องซักหรือซักด้วยมือ ก็ต้องมีการล้างผ้า คำว่าล้างผ้า จะไม่ใช้คำว่า wash แต่จะใช้คำว่า(verb – รินซ) คือ(ชะ)ล้างด้วยน้ำเปล่าRinse your clothes 3 times after washing withล้างผ้าสามรอบหลังจากซักด้วยผงซักฟอกIf addingby hand, be sure to do it during the rinse cycle.ถ้าต้องใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มเอง ต้องเพิ่มน้ำยาปรับผ้านุ่มในช่วงที่ทำการล้างผ้าคำว่า rinse นี้ยังแปลว่าบ้วนปากหรือล้างปากก็ได้ด้วยเช่นใช้ในกรณี่ที่เราแปรงฟัน คือหลังจากที่แปรงฟันด้วยยาสีฟัน ก็จะบ้วนปาก ก็คือบ้วนปากด้วยน้ำDon’tyour mouth right after using mouthwashอย่าบ้วนปากด้วยน้ำทันที หลังจากใช้น้ำยาบ้วนปากคำว่าน้ำยาบ้วนปากคือ(noun – เมาธฺ’วอช)นอกจากนั้นคำว่า rinseใช้ได้กับการล้างผมเวลาที่เราสระผม หรือที่เรียกว่า(verb – แชมพู) ได้อีกด้วย คำว่า(noun – แชมพู) ถ้าเป็นคำนามก็คือนั่นเองที่เราชอบใช้ทับศัพท์กันDon’t forget towith water afterอย่าลืมล้างผมด้วยน้ำหลังสระด้วยยาสระผมทีนี้มาถึงขั้นตอนทำให้ผ้าแห้ง ซึ่งอาจจะทำโดยวิธีการก็ได้ที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า(verb – แอร์) ครับคำเดียวกับที่แปลว่าอากาศนั่นแหละครับ หรืออาจจะเรียกว่า(verb – แอร์ ดราย) ก็ได้ในความหมายเดียวกันอีกวิธีที่จะทำให้ผ้าแห้งก็คือโดยวิธีการตากผ้าคือ ซึ่งพูดได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเมื่อพูดถึงการตากผ้าก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่พูดถึง(ไม่ใช่ ลาวตากผ้า นะครับ อันนั้นหมายถึงผมละ ฮะๆๆ) คำว่าในภาษาอังกฤษ ใช้คำว่า(noun – วอชชิง ไลน์) ในภาษาอังกฤษแบบ British หรือเรียกว่า(noun – โคลซไลน์) ในภาษาอังกฤษแบบ American ซึ่งสองคำนี้คือเป็น ราวตากผ้าแบบ ที่มีเสาสองเสาและมีสายโยงจากเสาหนึ่งไปอีกเสาหนึ่งส่วนราวตากผ้าที่มีขาตั้ง บางรุ่นสามารถเก็บพับได้ เห็นมีใช้อยู่หลายคำคือและเมื่อตากผ้าบนราว ส่ิงที่เราต้องใช้กันไม่ให้ผ้าปลิวเวลาลมแรงก็คือหรือซึ่งในภาษาอังกฤษแบบลุงแซมเรียกว่า(noun – โคลซ พิน) หรือถ้าเป็นแบบ UK ก็จะใช้คำว่า(noun – โคลซ เพก) หรือ(noun – เพก) ในความหมายนี้ส่วนจะเรียกว่า(noun – แฮงเกอะ/โคท แฮงเกอะ/โคลซ แฮงเกอะ) และที่เป็นที่แขวนแบบเป็นวงกลมแล้วมีที่หนีบห้อยลงมา จะเรียกว่า(noun – ราว โคลซ แฮงเกอะ)When it rains, I need to put my washing on theinside my house.ตอนฝนตกผมต้องตากผ้าบนราวตากผ้าในบ้านMy daughters helped hang wet clothes outside on theลูกสาวผมช่วยตากผ้าบนราวตากผ้าข้างนอกAfter doing the washing, take out the clothes andหลังจากซักผ้าแล้ว เอ้าผ้าออกไปตากบนราวตากผ้าข้างนอกด้วยCould you helpthe washing?เอาผ้าไปตากข้างนอกให้หน่อยอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้ผ้าแห้งก็คือใช้เครื่องอบผ้า ช่วยได้มากเวลาฝนตก แต่ก็แลกมากับค่าไฟที่เพิ่มขึ้น เครื่องอบผ้านี้เรียกกันว่า(noun – ดรายเออร์) หรือจะเรียกเต็มๆว่า(noun – โคลซ ดรายเออร์) หรือ(noun – ดรายอิง มะชีน) คำอื่นๆที่เห็นใช้เรียกเครื่องอบผ้าคือ(noun – ทัม’เบิล ดรายเออร์) เครื่องอบผ้าที่ไม่ปั่นผ้า (verb – โรเทท = ปั่น หรือหมุน) จะเรียกว่า(noun – ดรายอิง แคบบินิท)เครื่องซักผ้าบางรุ่นอาจจะมีเครื่องอบผ้าในตัวด้วยซึ่งจะเรียกว่า(noun -วอชเชอร์ ดรายเออร์)ส่วนน่าจะใช้คำว่า(noun – สปิน ดรายเออร์) ซึ่งที่เคยเห็นเครื่องซักผ้าบางรุ่นที่เป็นแบบสองถังบน จะมีถังซักถังหนึ่ง และอีกถังใช้ปั่นแห่งซึ่งก็คือนี่เองในกรณีที่ซักผ้าด้วยมือ หรือ hand wash your clothes เมื่อไม่มี spin dryer มาช่วยทำให้ผ้าหมาด ก็ต้องใช้แรงในการ บิดให้แห้งหรือให้หมาด ซึ่งในภาษาอังกฤษ ใช้คำว่า(verb – ริง/ริง เอาร์) ซึ่งก็คือการ บิดให้แห้ง ต้องขอบคุณความ creative ของคนเรานะครับ สมัยนี้มีคนสร้างหรือมาให้ใช้ด้วย ซึ่งเขาใช้คำว่า(noun – โคลซ ริงเกอร์)Many housewives must have been very happy the day whenandwere first made.แม่บ้านหลายๆคนต้องรู้สึกมีความสุขมากแน่เลยในวันที่มีการสร้างเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าครั้งแรกYou need to put your clothes in theto remove the water after washing them and then put them on theคุณต้องเอาผ้าใส่เครื่อง(ถัง)ปั่นแห้งเพื่อไล่น้ำออกให้หมดหลังจากซัก แล้วหลังจากนั้นเอาไปตากบนราวตากผ้าis not good for some kind of clothes as the heat will shrink them.เครื่องอบผ้าไม่เหมาะกับผ้าบางประเภทเพราะความร้อนจะทำให้ผ้าหดเล็กลงSome type of clothes cannot be washed in the washing machine and you need tothem. Afterthem, you will also need tothembeforethem.ผ้าบางประเภทไม่สามารถซักด้วยเครื่องซักผ้าเราต้องซักด้วยมือ หลังจากซักด้วยมือแล้วเราต้องบิดให้ผ้าหมาดก่อนที่จะเอาไปตากที่ราวเมื่อมีการซักผ้า ตากผ้า อบผ้าแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการรีดผ้าในภาษาอังกฤษ ใช้อยู่สองคำคือคำว่า(verb – ไอเอิน) หรือ(verb – เพลส) ความแตกต่างของสองคำนี้น่าจะเป็นวิธีการในการรีดผ้า iron ต้องขยับเตารีดไปมาบนผ้าเพื่อให้เรียบ ส่วน press คือการ วางเตารีดลงที่ผ้าและก็รอซักแป๊บหนึ่งและก็ยกเตารีดออกเมื่อเป็นคำนาม(noun – ไอเอิน) ใช้ในความหมาย ที่แปลว่าหรืออาจจะเรียกว่า(noun – โคลซ ไอเอิน) หรือ flatiron (noun – แฟลทไอเอิน) ส่วนเตารีดไอน้ำที่เห็นใช้กันก็คือ(noun – สตรีม ไอเอิน) เตารีดสมัยก่อน ที่ใส่ถ่านไฟเข้าไปเรียกว่า(noun – ชาร์’โคล ไอเอิน)คำนามของ iron ที่แปลว่าก็คือ(verb – ไอเอินนิง) ส่วนคำคุณศัพท์ ก็คือ ironed (adj – ไอเอินดฺ) เช่นผ้าที่รีดแล้วจะเรียกว่าส่วนผ้าที่ยับ เรียกส่วนหรือจะเรียกว่า(noun – ไอเอินนิง บอร์ด/เทเบิล) ในการรีดผ้าคุณแม่บ้านหรือพ่อบ้านก็ต้องใช้น้ำยารีดผ้า ซึ่งเรียกว่า(noun – ไอเอินนิง สทาร์ช/แฟบริค สทาร์ช) หรือใช้ สเปรย์รีดผ้าเรียบ ที่เรียกว่า(noun – สเพรย์ สทาร์ช)I’ll need tomyผมต้องรีดผ้าis a very time consuming activity for me.การรีดผ้าเป็นงานที่กินเวลามากสำหรับผมCould you bring me an? I need to do thefor the kids.เอาที่รองรีดผ้าให้หน่อย ฉันต้องรีดผ้าให้กับเด็กๆApplyfirst before doing the ironingใช้น้ำยารีดผ้าก่อนที่จะรีดผ้าPlease put away thefor me.เอาผ้าที่รีดแล้วไปเก็บให้หน่อยคำว่าเสื้อผ้าที่กำลังจะซักหรือเสื้อผ้าที่ซักแล้วเราอาจจะเรียกว่า(noun – วอชชิง) ก็ได้ หรือจะเรียกว่า(noun – ลอนดริ) ก็ได้ในความหมายเดียวกันถ้าเป็นเสื้อผ้าสกปรกเราก็เรียกว่า(adj+noun – เดอร์ทิ โคลซ/วอชชิง/ลอนดริ)I really need todo theฉันต้องซักผ้าจริงๆแล้วละAll of this dirty washing needed to beCould you put theout for me?เอาผ้าไปตากข้างนอกให้ฉันได้ไหมคำว่าพับผ้า เราจะใช้คำว่า fold (verb – โฟลด) ผ้าที่ซักแล้วแต่ยังไม่ได้พับจะเรียกว่าคำว่านอกจากจะหมายถึง ผ้าที่จะเอาไปซัก หรือผ้าที่กำลังซัก หรือผ้าที่ซักแล้ว ยังหมายถึง ร้านซักรีดได้ด้วย ส่วนคนที่รับซักรีดก็คือคำกริยาของ laundry ก็คือคำว่า(verb – ลอนเดอร์) ซึ่งก็แปลว่า ซักผ้าและรีดผ้า คือรวมการ wash และ iron ไว้ในคำเดียวกัน คำคำนี้ใช้ค่อนข้างเป็นแบบทางการมาดูคำศัพท์อื่นๆที่ใช้กับคำว่า laundry หรือมาจากคำว่า laundryคำกริยาที่เกี่ยวกับการซักผ้าเป็นอย่างไรกันบ้างครับ หวังว่าคงจะจุใจกับคำศัพท์เกี่ยวกับการซักผ้ากันนะครับ อย่าลืมเอาไปใช้กันนะครับ สำหรับวันนี้คงต้องบอกว่า good night and goodbye and see you again next time, please stay turned.


Click [by Mahidol] ภาษาอังกฤษ – Weather (1/2)


Autumn, Winter, Spring, Summer สี่ฤดูกาลที่ฝรั่งใช้กันแต่ใช้กับฤดูกาลของประเทศไทยไม่ได้ ครูคริสรายการ Click โดยมหาวิทยาลัยมหิดล จึงอธิบายคำศัพท์ฤดูกาลของไทย และภาษาอังกฤษเกี่ยวลมฟ้าอากาศอย่างครบเซ็ตทั้งเมฆ หมอก ลม หิมะ ฝนตก น้ำท่วม หน้าแล้ง พร้อมภาพประกอบและเรื่องเล่าสนุก ๆ สไตล์ครูคริส
เคล็ดลับวิชา 10 หัวข้อในตำราเรียนที่ต้องรู้แต่เข้าใจยาก มาทำเป็นรายการสั้น ดูสนุก เข้าใจง่าย ในรายการ Click : ภาษาอังกฤษ ออกอากาศทาง Mahidol Channel
Facebook : https://www.facebook.com/mahidolchannel
Website : https://channel.mahidol.ac.th/

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

Click [by Mahidol] ภาษาอังกฤษ - Weather (1/2)

Lenka – Trouble Is A Friend (YouTube Version)


Lenka’s official music video for ‘Trouble Is A Friend’. Click to listen to Lenka on Spotify: http://smarturl.it/LenkaSpotify?IQid=LenkaTIAF
As featured on Lenka. Click to buy the track or album via iTunes: http://smarturl.it/LenkaAlbum?IQid=LenkaTIAF
Google Play: http://smarturl.it/TIAFGPlay?IQid=LenkaTIAF
Amazon: http://smarturl.it/LenkaAmazon?IQid=LenkaTIAF
More From Lenka
Heart Skips A Beat: https://youtu.be/DW8rg6XeP3U
The Show: https://youtu.be/elsh3J5lJ6g
Everything At Once: https://youtu.be/eE9tV1WGTgE
More great 00s videos here: http://smarturl.it/Ultimate00?IQid=LenkaTIAF
Follow Lenka
Website: http://lenkamusic.com/
Facebook: https://www.facebook.com/lenka
Twitter: https://twitter.com/lenkamusic
Instagram: https://instagram.com/lenkamusic/

Subscribe to Lenka on YouTube: http://smarturl.it/LenkaSub?IQid=LenkaTIAF

Lyrics:
Trouble – it will find you
No matter where you go
Oh, oh
No matter if you’re fast
No matter if you’re slow
Oh, oh
The eye of the storm
Or the cry in the morn
Oh, oh
You’re fine for a while
But you start to lose control
He’s there in the dark
He’s there in my heart
He waits in the wings
He’s gotta play a part
Trouble is a friend
Yeah
Trouble is a friend of mine
Ahh

Lenka - Trouble Is A Friend (YouTube Version)

คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับสภาพอากาศและฤดูกาล l ศัพท์ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันที่ใช้บ่อยๆ


เรียนรู้วิธีตั้งคำถามว่า \”สภาพอากาศเป็นอย่างไร\” What’s the weather like? หรือ How’s the weather? คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับสภาพดิน ฟ้า อากาศ ฤดูกาล

คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับสภาพอากาศและฤดูกาล l ศัพท์ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันที่ใช้บ่อยๆ

รวมสุดยอด วิธีคลายร้อน ภาษาอังกฤษ ท้าสู้อากาศร้อนปรอทแตก EP49


สู้แดด Summer รับอากาศร้อนปรอทแตก กับ 12 วิธีคลายร้อน ภาษาอังกฤษ ไปกับพ่อลูกตระกูลไรท์ จะมีเทคนิคคลายร้อน พร้อมคำศัพท์และประโยคภาษาอังกฤษอะไรน่าสนใจบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ

รวมสุดยอด วิธีคลายร้อน ภาษาอังกฤษ ท้าสู้อากาศร้อนปรอทแตก  EP49

อาการป่วยในภาษาอังกฤษ | Eng ลั่น [by We Mahidol]


“โอ้ย! วันนี้ท้องเสียและมีน้ำมูกไหล รู้สึกไม่ค่อยสบายเลย…” เคยไหม เวลาเราป่วยแล้วอยากจะอธิบายอาการออกมาเป็นภาษาอังกฤษให้คนอื่นได้เข้าใจ แต่ไม่รู้จะใช้คำไหนดี
เชื่อว่าปัญหานี้คงเกิดขึ้นกับใครหลาย ๆ คน ที่ไม่รู้จะหาคำไหนมาอธิบายอาการป่วยในภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็น อาการท้องเสีย อาการเจ็บคอ คันคอ ไอ มีเสมหะ ฯลฯ
ไม่ต้องกลัวอีกต่อไป วันนี้พี่คะน้า รุ่นพี่ ม.มหิดล ได้รวบรวมคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับอาการป่วยมาให้พวกเราใช้อธิบายไว้แล้ว มาดูกันเลยดีกว่า!
WeMahidol Mahidol Engลั่น
YouTube : We Mahidol
Facebook : http://www.facebook.com/wemahidol
Instagram : https://www.instagram.com/wemahidol/
Twitter : https://twitter.com/wemahidol
TikTok : https://www.tiktok.com/@wemahidol
มหาวิทยาลัย มหิดล Mahidol University : https://www.mahidol.ac.th/th/
Website : https://channel.mahidol.ac.th/

อาการป่วยในภาษาอังกฤษ | Eng ลั่น [by We Mahidol]

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆMAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ร้อน ไหม ภาษา อังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *