Skip to content
Home » [Update] รูปแบบการใช้ Past Simple ในภาษาอังกฤษ | หลักการใช้ past simple – NATAVIGUIDES

[Update] รูปแบบการใช้ Past Simple ในภาษาอังกฤษ | หลักการใช้ past simple – NATAVIGUIDES

หลักการใช้ past simple: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

Past simple (พาสทฺ ซิมเพิล) หมายถึง “อดีตกาล” ใช้เพื่อกล่าวถึง เหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่จำเพาะเจาะจง (definite time) เช่น เมื่อวานนี้ (yesterday เยสเทอะเดย์), ปีที่แล้ว (last year ลาสทฺ เยียร์), เมื่อคืนที่แล้ว (last night ลาสทฺ ไน้ทฺ), ในปี 1990 (in 1990) เป็นต้น

ในเรื่อง Past simple นี้เกี่ยวข้องกับคำกริยาช่องที่ 2 กล่าวคือถ้าเป็น คำกริยาปกติ (regular verbs เรกิวเลอะ เวิบสฺ) สามารถเปลี่ยนเป็นช่อง 2 ด้วยการเติม -ed ข้างท้าย แต่ถ้าเป็นกริยาอปกติ (irregular verbs เออเรกิวเลอะเวิบสฺ) ก็จำเป็นต้องท่องจำหรือใช้ให้บ่อยครั้ง เช่น
กริยาปกติ                                 กริยาอปกติ
work worked (เวคทฺ)                     go went (เว้นทฺ)
live lived (ลิฟดฺ)                              build built (บิ้ลทฺ)
play played (เพลดฺ)                        see saw (ซอ)
ตัวอย่าง
Tony lives in London now. He lived in Manchester last year. ตอนนี้โทนี่อาศัยอยู่ในกรุงลอนดอน ปีที่แล้วเขาอาศัยอยู่ใน-
แมนเซสเตอร์
Tony stayed at home last night. He didn’t go out with his friend. เมื่อคืนที่แล้วโทนี่อยู่บ้าน เขาไม่ได้ออกไปข้างนอกกับเพื่อนของเขา

สังเกตได้ว่า รูปของคำกริยาในตัวอย่างที่เป็นการกระทำในอดีต จะเป็นช่อง 2 ฉะนั้นจึงควรจะทราบถึงรูปแบบ (forms) ของ Past simple ดังนี้

รูปของ Past simple
(1) Statement form (สเตทเม้นทฺฟอม) หรือในภาษาไทยเรียกว่า “รูป บอกเล่า” ประกอบด้วย
ภาคประธาน + กริยาแท้ช่อง 2 +ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
กับ
ภาคประธาน + was/were + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
อธิบาย กริยาแท้ช่อง 2 มีอยู่สองแบบที่นักเรียนต้องเรียนรู้ นั่นคือ
ก. กริยาแท้ปกติ หรือภาษาอังกฤษเรียก regular verbs (เรทิวเลอะ เวิบสฺ) คำกริยาแท้ประเภทนี้เมื่อเปลี่ยนให้เป็นช่องที่ 2 กระทำได้โดย

1. เติม -ed ข้างท้าย เช่น
work – worked            walk – walked
wash – washed             watch – watched

2. หากคำกริยาแท้ปกติใดลงท้ายด้วย e อยู่แล้ว ให้เติม d ต่อไปข้าง
ท้าย เช่น
type – typed                   operate – operated
change – changed         smoke – smoked

3. ส่วนคำกริยาแท้ใดลงท้ายด้วย y และมีอักษรพยัญชนะอยู่หน้าอักษร y ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วจึงเติม -ed เช่น
play – played            spray – sprayed
employ – employed        delay – delayed

ข. กริยาแท้อปกติ หรือภาษาอังกฤษเรียก irregulat verbs (อิเรกิวเลอะ เวิบสฺ) คำกริยาแท้ประเภทนี้ต้องอาศัยการจดจำ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงแตกต่างไปจากคำกริยาแท้ปกติเมื่อเป็นช่อง 2 เช่น
go – went        set – set
ring – rang    break – broke

หมายเหตุ สามารกหาซื้อหนังสือ กริยา 3 ช่อง ซึ่งได้รวบรวมคำกริยาแท้ปกติทั้ง 3 ช่องได้ตามร้านจำหน่ายหนังสือ หนังสือเล่มดังกล่าวจัดพิมพ์ โดยสำนักพิมพ์พัฒนาศึกษา กรุงเททมหานคร
ตัวอย่าง
I bought a new car three days ago.
ผมซื้อรถยนต์คันใหม่มาเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา
When I dropped my cup, the coffee spilled on my lap.
เมื่อผมทำถ้วยหล่น กาแฟได้หกราดบนหน้าตักของผม
Last night I went to the cinema.
เมื่อคืนดิฉัน ได้ไปชมภาพยนตร์

(2) Negative form (เนเกอทิฟวฺ ฟอม) หรือในภาษาไทยเรียกว่า “รูป ปฏิเสธ” ประกอบด้วย
ภาคประธาน + did not + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
กับ
ภาคประธาน + was/were not + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
กับ
ภาคประธาน + กริยาช่วยช่อง 2 + not + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรม หรือส่วนขยาย
อธิบาย รูปย่อของ     did not = didn’t
was not = wasn’t
were not = weren’t
กริยาแท้ช่อง 1 หมายถึง กริยาแท้ที่ไม่มีการเติม -s, -es, -ed, -ing
ไม่ใช่กริยาแท้ช่อง 1     ใช่กริยาแท้ช่อง 1
works                work
broke                break
cleaning           clean
watches           watch

กริยาช่วยช่อง 2 หมายถึง กริยาช่วยอื่น นอกเหนือจาก did, was, were ได้แก่ could, might
รูปย่อของ could not = couldn’t ; might not = mightn’t
ตัวอย่าง
He wasn’t busy yesterday.
เขาไม่ได้มีธุระยุ่งเมื่อวานนี้
I didn’t sleep for eight hours last night.
ผมไม่ได้นอนหลับเป็นเวลาถึง 8 ชั่วโมงเมื่อคืนที่แล้ว
This year John can play badminton, but last year he couldn’t
(play it).
ปีนี้จอห์นเล่นแบดมินตันได้ แต่ปีที่แล้วเขาเล่นไม่ได้

(3) Yes-No question (เยส โน เควสเชิ่น) หรือในภาษาไทยคือ “คำถาม ที่ผู้ตอบจะตอบว่า Yes/No” ประกอบด้วย
กรณีที่ไม่มีกริยาช่วยอยู่ภายในประโยค
Did + ภาคประธาน + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
กรณีมีกริยาช่วยที่ไม่ใช่ was/were อยู่ภายในประโยค
กริยาช่วยช่อง 2 + ภาคประธาน + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
กรณีมีกริยาช่วยที่เป็น was/were
Was/Were + ภาคประธาน + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
ตัวอย่าง
Did you go to Bangkok yesterday?
เมื่อวานนี้คุณไปกรุงเทพฯ ใช่ไหม
Were you a student two years ago?
คุณเป็นนักเรียนใช่ไหมเมื่อสองปีที่แล้ว
Could you swim when you were five years old?
คุณว่ายน้ำได้ใช่ไหม เมื่อตอนที่คุณอายุห้าขวบ

(4) Wh-word question (ดับเบิลยู เอช เวิด เควสเชิ่น) หรือในภาษา ไทยคือ “คำถามที่ขึ้นต้นประโยคด้วย Wh-words ได้แก่ What, When, Where, Why, How long, … ฯลฯ” ประกอบด้วย
กรณีที่ต้องใช้กริยาช่วย did เพราะไม่มีกริยาช่วยอื่นใด
Wh-word + did + ภาคประธาน + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
กรณีมีกริยาช่วยช่อง 2 อยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ was/were
Wh-word + กริยาช่วยช่อง 2 + ภาคประธาน + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรม/ส่วนขยาย
กรณีมีกริยาช่วย was/were

Wh-word + was/were + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
ตัวอย่าง
How long was the film?
ภาพยนตร์มีความยาวเท่าไร
What did you do last night ?
เมื่อคืนที่แล้วคุณทำอะไร?
Where were you yesterday?
เมื่อวานนี้คุณอยู่ที่ไหน

การใช้ Past simple
1. ใช้แสดงเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นและจบสิ้นสมบูรณ์ในอดีต โดยปกติมักมีข้อความที่บ่งบอกเวลาที่เหตุการณ์นั้นๆ ได้เกิดขึ้นมาในอดีต อาทิ yesterday, last night, two days ago, in 1990, … ฯลฯ
ตัวอย่าง
I walked to school yesterday.
เมื่อวานนี้ผมเดินไปโรงเรียน
He bought a new car three days ago.
เขาซื้อรถยนต์คันใหม่เมื่อสามวันที่ผ่านมา

2. ใช้แสดงเหตการณ์หรือสถานการณ์ที่ยาวนาน หรือเหตุการณ์ซ้ำๆ ที่เกิดขึ้นและจบไปเรียบร้อยตั้งนานแล้วในอดีต
ตัวอย่าง
I spent all my childhood in Scotland.
ดิฉันใช้ชีวิตตลอดวัยเด็กในประเทศสกอตแลนด์
Regularly every summer, Jenny fell in love.
ทุกๆ ฤดูร้อน เจนนีตกอยู่ในความรัก

3. ถ้าในประโยคมีคำว่า when และมีรูปกริยาเป็นอดิต (past simple form) ทั้งสอง clauses จะถือว่าการกระทำใน when clause เกิดขึ้นก่อน
ตัวอย่าง
I Stood under a tree when it began to rain.
ผมยืนอยู่ใต้ต้นไม้เมื่อตอนฝนตก
When she heard a strange noise, she got up to investigate.
เมื่อเธอได้ยินเสียงแปลกๆ เธอได้ลุกขึ้นจากที่นอนไปตรวจดู
When I dropped my cup, the coffee spilled on my lap.
เมื่อผมทำแก้วหล่น กาแฟได้ราดลงบนหน้าตักของผม

4. ใช้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต เช่น เล่าเรื่องในอดีต
ตัวอย่าง
Once upon a time there was a beautiful princess who lived
with her father. One day the king decided
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเจ้าหญิงผู้เลอโฉมองค์หนึ่งอาศัยอยู่กับพระ ราชบิดา วันหนึ่งกษัตริย์ได้ตัดสินใจ…

ที่มา:รองศาสตราจารย์ทณุ  เตียวรัตนกุล

(Visited 35,742 times, 3 visits today)

[Update] [Grammar Tips] การใช้ Past Simple และ Past Continuous | หลักการใช้ past simple – NATAVIGUIDES

IELTS Tip

การใช้ Past Simple และ Past Continuous

ขึ้นหัวเรื่องมาอย่างนี้ เพื่อนๆ อาจจะคิดว่าเป็นเรื่องที่ยากและน่าสับสนอีกแล้วใช่มั้ยคะ แต่อย่าเพิ่งตกอกตกใจไปค่ะ เพราะจริงๆ แล้ว เรื่องของทั้งสอง tense นี้ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงแต่เพื่อนๆ ต้องมีความระมัดระวังและช่างสังเกตนิดหน่อยเท่านั้นเองค่ะ

Past Simple Timeline

มาทบทวนกันเล็กน้อยดีกว่า… เมื่อหลายวันก่อน เราคุยกันเกี่ยวกับเรื่อง Past Simple และ Past Perfect Simple ก็ได้เห็นความแตกต่างของทั้งสอง tense นี้ไปแล้วว่า Past Simple จะใช้กับการบรรยายเหตุการณ์ในอดีตทั่วๆ ไป แต่ Past Perfect Simple ใช้กับการพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดก่อนอีกเหตุการณ์หนึ่งในอดีต และโดยปกติ Past Perfect Simple มักจะใช้ร่วมกันกับ Past Simple นะคะ

คราวนี้มาเข้าเรื่องของเราในตอนนี้กันบ้าง เพื่อนๆ คงรู้กันแล้วว่า Past Continuous มีรูปลักษณะอย่างไรใช่ไหม?

Verb to Be + V.ing

นี่คือรูปร่างของ Past Continuous จ้ะ ประกอบด้วย Verb to Be ที่ทำหน้าที่เป็นกริยาช่วยในประโยคและกริยาแท้ที่ต้องผันด้วยการเติม –ing ต่อท้ายเข้าไปไงล่ะจ๊ะ เช่น were going, was farming, were tutoring หรือ was showering เป็นต้น

Past Continuous Timeline

แล้วเจ้า Past Continuous นี้ใช้ยังไง? แน่นอนว่ามันต้องใช้บอกเหตุการณ์หรือการกระทำในอดีต แต่ต้องเป็นเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ณ จุดหนึ่งจุดใดหรือช่วงหนึ่งช่วงใดในอดีตเท่านั้นและมีความต่อเนื่องของการกระทำ นั่นหมายความว่า การกระทำดังกล่าวยังไม่จบสิ้นสมบูรณ์จ้ะ เช่น

ถ้าเราพูดว่า Last night, at 9 p.m., I was finishing homework. นั่นไม่ได้หมายความว่าเราทำการบ้านเสร็จตอนสามทุ่มของเมื่อวานนี้นะ แต่เรากำลังทำการบ้านให้เสร็จอยู่ ณ ช่วงเวลานั้น ซึ่งต่างจาก Last night, at 9 p.m., I finished homework. ที่ใช้รูป Past Simple เพราะแสดงให้เห็นว่าเราทำการบ้านนั้นเสร็จลงทันทีเมื่อเวลาสามทุ่มของเมื่อวาน

สรุปค่ะ สรุป จากตัวอย่างข้างต้น เราใช้ past continuous เมื่อเราต้องการบอกการกระทำที่ใช้ระยะเวลาและดำเนินไปเรื่อยๆ ในขณะที่ past simple จะใช้เมื่อเราต้องการบอกผลของการกระทำที่จบลง โดยทั้งสอง tense นี้จะต้องเกิดในอดีตเสมอและไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ อีกแล้วกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน จากตัวอย่างข้างต้น เราจะเห็นได้ว่า การทำการบ้านให้เสร็จนั้น ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ อีกแล้วในขณะที่เราพูดตอนนี้ เป็นเพียงการกระทำในอดีตที่เราต้องการเล่าหรือแจ้งให้ผู้ฟังทราบเท่านั้นเอง

เพื่อนๆ บางคน อาจจะมีคำถามขึ้นมาอีกว่า ถ้าเราใช้ Past Perfect Simple คู่กับ Past simple ได้ แล้วเราจะใช้ Past Continuous คู่กับ Past Simple ได้ไหม? คำตอบคือ ได้ค่ะ แต่ข้อสำคัญก็คือ ในการสอบไวยากรณ์หรือสอบเขียนเรียงความ เพื่อนๆ จะต้องแม่นยำในวิธีการใช้ tense เหล่านี้ให้มาก เพราะหมายถึงคะแนนที่เพื่อนๆ จะได้หรือเสียไป นั่นเอง

เราจะใช้ Past Simple ควบคู่กับ Past Continuous ในกรณีที่เราต้องการชี้ให้เห็นว่า เกิดการกระทำ 2 อย่าง โดยการกระทำที่ใช้ Past Simple เป็นการกระทำที่มาขัดจังหวะหรือเกิดในระหว่างการกระทำอีกอย่างหนึ่งที่ดำเนินเรื่อยมาอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาเดียวกันในอดีต ซึ่งก็คือการกระทำที่ใช้ Past Continuous นั่นเอง ตัวอย่างเช่น

เราต้องการจะพูดว่า เมื่อวานนี้ มีโทรศัพท์ดังในขณะที่กำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว โดยจะเห็นว่า เหตุการณ์ที่โทรศัพท์ดังขึ้น เป็นการกระทำที่ขัดจังหวะการทำกับข้าว ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์เกิดขึ้นในอดีตทั้งคู่ แต่เหตุการณ์แรกใช้ Past Simple ส่วน เหตุการณ์ที่สองใช้ Past Continuous แน่นอนค่ะ

Yesterday, the phone rang when we were cooking in the kitchen.

ในกรณีที่เราต้องการจะบรรยายการกระทำหลายๆ อย่างในอดีตล่ะ จะใช้ tense อะไร? คำตอบคือ ตามปกติ ถ้าเราบรรยายเหตุการณ์ในอดีตหลายๆ เหตุการณ์ เรามักจะใช้ Past Simple นี้เป็นหลักเสมอ เช่น

Last year, I traveled to Europe, met my friends in Rome, did some shopping in Paris and tasted wine in o Porto.

(เมื่อปีที่แล้ว ฉันเดินทางท่องเที่ยวในยุโรป ได้ไปเยี่ยมเพื่อนๆ ที่กรุงโรม แวะซื้อของที่ปารีส และลิ้มรสไวน์ที่เมืองโอ ปอร์โต้)

                ซึ่งเราจะเห็นว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องเล่าโดยทั่วๆ ไปในอดีตที่ผ่านมาและเกิดขึ้นเป็นลำดับๆ แต่จบสิ้นลงไปแล้ว ไม่มีความเกี่ยวเนื่องกันอีกกับเหตุการณ์ปัจจุบันเลยค่ะ

คราวนี้ เรามาดูตัวอย่างข้อสอบไวยากรณ์ของ IELTS ในส่วนนี้กันบ้าง

When I ………. (meet) my friends Tom and Dan at the airport two weeks ago, they …………. (go) for a conference in York while I ………… (leave) for Norway.

ก่อนอื่น เราต้องดูว่าเหตุการณ์ในวงเล็บทั้งสามนั้นเกิดในอดีตหรือปัจจุบัน เราจะเห็นว่า ในโจทย์มีคำว่า two weeks ago (สองอาทิตย์ก่อน) ซึ่งบอกว่าเป็นเหตุการณ์ในอดีตทั้งหมด คราวนี้ เราก็มาดูว่าเหตุการณ์ทั้งสามนั้นเกิดขึ้นเป็นลำดับๆ หรือไม่ แน่นอนว่าไม่ใช่ เพราะการพบเพื่อนทั้งสองเกิดขึ้นขัดจังหวะการไปเข้าร่วมการประชุมของเพื่อนกับการไปนอร์เวย์ของผู้พูด ดังนั้น เราจึงใช้ past simple กับกริยาตัวแรกและ past continuous กับกริยาสองตัวที่เหลือค่ะ ก็จะเป็น

When I met my friends Tom and Dan at the airport two weeks ago, they were going for a conference in York while I was leaving for Norway. (เมื่อผมพบเพื่อนๆ ของผมคือ ทอมและแดน ที่สนามบินเมื่อสองอาทิตย์ก่อน พวกเขากำลังเดินทางไปร่วมงานประชุมที่เมืองยอร์ค ส่วนผมกำลังจะไปประเทศนอร์เวย์)

ลองทำอีกข้อหนึ่งนะคะ

Before the advent of money, people ……………. (exchange) goods or food with others or ……….. (use) shells or pebbles to buy things instead of coins and banknotes.

เหตุการณ์ในประโยคนี้ แตกต่างจากประโยคก่อนหน้า เพราะเป็นเหตุการณ์ที่บรรยายสภาพความเป็นไปในอดีต ไม่มีการขัดจังหวะของเหตุการณ์ใดๆ เลย ดังนั้น กริยาทั้งสองคือ exchange และ use จึงอยู่ในรูป past simple ค่ะ

Before the advent of money, people exchanged goods or food with others or used shells or pebbles to buy things instead of coins and banknotes. (ก่อนการถือกำเนิดของเงินตรา ผู้คนแลกเปลี่ยนสินค้าหรืออาหารกับคนอื่น บ้างก็ใช้เปลือกหอยหรือก้อนกรวดแทนเหรียญและธนบัตร)

เห็นไหม เรื่องนี้ง่ายมากๆ เลย

ในครั้งหน้า เคล็ดลับ IELTS ของเราจะเป็นเรื่องอะไร ติดตามได้ที่นี่เลยนะคะ

Oxbridge Institute


Learn English Tenses: PAST SIMPLE


We use the PAST SIMPLE TENSE every day in English! Can you use it correctly? Can you understand it clearly? Can you say “I worked” and “I went” confidently? In this relaxed English grammar class, you can master this very important tense. You’ll learn when to use it, how to use it, and what common mistakes to avoid. I’ll explain everything you need: usage, structure, pronunciation, spelling, questions, contractions, short answers, regular verbs, and irregular verbs. We’ll go step by step and practice together the past simple in a fun way, so you understand fully. Then, to continue your progress, make a plan and watch the complete engVid series on ALL the English verb tenses, from beginner to advanced levels. You can do it!
In this class:
Past simple overview 0:00
When to use past simple 02:31
How to use past simple: regular verbs 05:13
Past simple regular verbs: spelling 11:32
Past simple regular verbs: pronunciation 14:12
Past simple regular verbs: practice 18:07
How to use past simple: irregular verbs 22:06
Past simple irregular verbs: practice 26:13
Past simple short answers 31:56
Past simple common errors 33:46
Past simple conclusion 37:54
Watch the next lesson: https://youtu.be/bTWa5M4UMO8
Take the quiz: https://www.engvid.com/pastsimpletense/

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

Learn English Tenses: PAST SIMPLE

Learn English Tenses: FUTURE SIMPLE with “WILL”


In this easy English class, you will learn to use “will’ and “won’t” to talk about the future. This is called the FUTURE SIMPLE TENSE in English. I’ll show you exactly how to use it, when to use it, and what mistakes to avoid. This one English grammar class covers everything you need: structure, usage, spelling, pronunciation, questions, short answers, and contractions. We’ll go step by step and practice it all together, so you feel relaxed and confident. This video is part of my complete engVid series on all the English verb tenses, to help you take your English from beginner to advanced levels. The next class in the program is on using “going to” and present continuous to talk about the future: https://www.youtube.com/watch?v=VZH0le_xkHw\u0026list=PLxSz4mPLHWDZ95iyxBNdjxLNI1k8HnVcd\u0026index=8\u0026t=0s
In this video:
Overview of Future Simple with \”will\” 00:00
When to use the future with \”will\” 04:04
How to use the future tense with \”will\” 08:27
Contractions, spelling, and pronunciation of the future tenses with \”will\” 15:14
Short answers using the future with \”will\” 18:43
Future with \”will\”: Practice 21:01
Future with \”will\”: Common Errors 25:28
Future with \”will\”: Conclusion 31:07
Take the quiz: https://www.engvid.com/futuresimple/

Learn English Tenses: FUTURE SIMPLE with “WILL”

Simple Past


In this video, students learn when to use the simple past verb tense. They also learn the difference between regular and irregular past verbs. For more videos and lessons, visit us at https://esllibrary.com.
Link to lesson: https://esllibrary.com/courses/88/lessons/1594
Subscribe to ESL Library’s YouTube channel: https://www.youtube.com/c/Esllibrary
Follow us for more great content!
Instagram: https://www.instagram.com/esllibrary/
Facebook: https://www.facebook.com/ESLlibrary/
LinkedIn: https://www.linkedin.com/company/esllibrary/
Twitter: https://twitter.com/ESLlibrary/
Pinterest: https://ar.pinterest.com/esllibrary/

Simple Past

Family Life- English Conversations


Contents: 1. Family Morning Routine 2. House Cleaning Day 3. What’s for Dinner? 4. Grocery Shopping 5. I’ll Fix It Myself 6. Decorating the House 7. Family’s Expenses 8. Electricity Bill

Family Life- English Conversations

หลักการใช้ Past Simple Tense


หลักการใช้ Past Simple Tense

หลักการใช้ Past Simple Tense

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่MAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ หลักการใช้ past simple

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *