Skip to content
Home » [Update] รวม Wh- ประโยคคำถามภาษาอังกฤษใช้บ่อย มีคำแปล และวิธีใช้ | แต่งประโยคคำถาม – NATAVIGUIDES

[Update] รวม Wh- ประโยคคำถามภาษาอังกฤษใช้บ่อย มีคำแปล และวิธีใช้ | แต่งประโยคคำถาม – NATAVIGUIDES

แต่งประโยคคำถาม: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

ประโยคคำถามภาษาอังกฤษ ที่ขึ้นต้นด้วย What, Where, Why, Why, Who และ How เป็นประโยคที่เราจะได้เจอบ่อยมาก ๆ ในชีวิตประจำวัน

รวมถึงถ้าคุณอยากฝึกพูดสนทนาภาษาอังกฤษเก่ง ๆ เหมือนกับเจ้าของภาษา ก็ต้องรู้จักกับประโยคคำถามภาษาอังกฤษพวกนี้ไว้เลยค่ะ

เบญขอบอกไว้เลยว่า ประโยคคำถามภาษาอังกฤษมีเยอะมาก ๆ และที่เบญเอามาให้เรียนกับวันนี้อาจจะเป็นแค่เสี้ยวดีของประโยคที่เราควรรู้เท่านั้นค่ะ

แต่ถ้าคุณไม่อยากนั่งจำประโยคคำถามภาษาอังกฤษข้างล่างนี้ด้วยตัวเอง ก็สามารถเข้าไปโหลดตัวช่วยที่เบญเองก็ใช้สำหรับฝึกประโยคภาษาอังกฤษของตัวเองที่บ้านเหมือนกัน

เป็นคอร์สเรียนภาษาอังกฤษเน้นประโยคภาษาอังกฤษที่มีชื่อว่า Glossika.com ค่ะ

จะเป็นผู้ช่วยให้คุณได้ฝึกฟัง-พูดตาม ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้จริงในชีวิตประจำวัน พร้อมกับคำแปลภาษาไทย ไม่ว่าคุณจะทำอะไร แค่มีหูฟัง ก็ฝึกฟังภาษาอังกฤษง่าย ๆ แค่วันละไม่กี่นาทีได้เลยค่ะ

ถ้าสนใจคอร์สนี้ก็เข้าไปลงทะเบียนทดลองเรียนฟรีกับ Glossika ง่าย ๆ แค่คลิกเดียว >

หรือว่าเข้าไปอ่านรีวิวเรียนภาษาอังกฤษกับ Glossika เต็ม ๆ ที่เบญได้รวบรวมไว้ให้ได้เลยค่ะ

วันนี้เบญได้รวบรวมมามากกว่า 100 ประโยคเลยนะคะ และเป็นประโยคที่เชื่อว่าคุณเคยได้ยิน ได้ฟังมาก่อนแน่นอนค่ะ พร้อมคำอธิบายและคำแปลไทยด้วย

ถ้าพร้อมแล้วไปดูด้วยกันเลยค่ะ

Table of Contents

ประโยคคำถาม What

1. What is your name?

คุณชื่ออะไรหรอ

2. What is his name?

เค้าชื่ออะไรหรอ (ผู้ชาย)

ในข้อ 1 และ 2 คุณสามารถเปลี่ยนคำว่า your และ his เป็นอย่างอื่นได้เลยค่ะ แต่ต้องใช้ในรูปแบบของเจ้าของนะคะ เช่น

What is her name? เค้าชื่ออะไรหรอ (ผู้หญิง) หรือ What are their names? พวกเค้าชื่ออะไหรอ

3. What are you doing?

คุณทำอะไรอยู่หรอ

เช่นเดียวกันค่ะ คุณสามารถเปลี่ยน you เป็นอย่างอื่นได้ เช่น he, she, ชื่อคน เช่น What is James doing? เจมส์ทำอะไรอยู่หรอ

4. What is he doing here?

เค้ามาทำอะไรที่นี่หรอ

5. What time is it?

ตอนนี้กี่โมงแล้ว

6. What time is it there?

ตอนนี้ที่นั่นกี่โมงแล้ว

เป็นคำถามไว้ถามคนที่เราคุยด้วยแต่เค้าอาจจะอยู่คนละช่วงเวลากับเราค่ะ เช่นอยู่ต่างประเทศ

7. What time are we going to school?

พวกเราไปโรงเรียนกันตอนกี่โมงหรอ

8. What time are you coming back?

คุณกลับมากี่โมงหรอ

เราสามารถใส่คำเพิ่มด้วยได้ว่า กลับมาจากที่ไหน โดยใส่คำว่า from และใส่ชื่อสถานที่ภาษาอังกฤษเข้าไปค่ะ

เช่น What time are you coming back from work? คุณกลับมาจากที่ทำงานกี่โมงหรอ

9. What is her favourite colour?

สีโปรดของคุณคืออะไรหรอ

10. What is your favourite food?

าหารจานของคุณคืออะไรหรอ

11. What is his favourite drink?

เครื่องดื่มแก้วโปรดของคุณคืออะไรหรอ

12. What are their favourite movies?

หนังเรื่องโปรดของคุณคืออะไรหรอ

จากข้อ 9-12 นั้น คุณสามารถเปลี่ยนคำสุดท้าย เป็นหมวดหมู่อย่างอื่นได้เลยค่ะ เช่น ผลไม้ ผัก สิ่งที่ชอบทำ และอื่น ๆ

13. What do you think about the movie?

คุณคิดว่าหนังเรื่องนี้เป็นยังไงบ้าง

14. What is she going to do about this?

เค้าจะทำยังไงกับเรื่องนี้

อาจจะใช้ในสถานการณ์ที่มีปัญหา และเราอยากรู้ว่าคนนั้นจะรับผิดชอบ หรือตอบสนองกับเรื่องนี้ยังไงค่ะ เปลี่ยน this เป็น that ได้ด้วยจ้า

15. What is your problem?

คุณมีปัญหาอะไร

16. What’s wrong?

มีอะไรหรอ

17. What’s happening?

เกิดอะไรขึ้นเนี่ย

18. What’s your suggestion?

คุณมีคำแนะนำอะไรบ้างหรอ

เป็นการถามหาความคิดเห็น หรืออีกหนึ่งความหมายก็คือ คุณคิดว่ายังไง

19. What do you want for lunch?

มื้อกลางวันนี้คุณอยากกินอะไรหรอ

20. What is that?

นั่นคืออะไรหรอ

ประโยคคำถาม Where

21. Where is he going?

เค้ากำลังไปไหนหรอ

22. Where is my daughter?

ลูกสาวของฉันอยู่ไหน

23. Where do you want to go this weekend?

คุณอยากไปไหนหรอสุดสัปดาห์นี้

เปลี่ยนจากสุดสัปดาห์เป็นอย่างอื่นได้ค่ะ เช่น this Friday, on your birthday

24. Where did they go?

พวกเค้าไปไหนหรอ

ประโยคนี้จะเป็นอดีตนะคะ ใช้เวลาที่ไปแล้ว

25. Where should I put your bag?

ฉันควรวางกระเป๋าไว้ตรงไหนดี

26. Where is the best place to go shopping?

ที่ไหนคือที่ที่ดีที่สุดสำหรับการช็อปปิ้ง

27. Where would you be next year?

ปีหน้าคุณจะอยู่ที่ไหนหรอ

ใช้ในสถานการณ์ที่อาจจะได้ยินมาว่าคนนี้ชอบเปลี่ยนที่อยู่บ่อย ๆ หรือว่าเค้าวางแผนว่าจะไปอยู่ที่อื่น เราเลยถามเค้าค่ะ

28. Where did I put my phone?

ฉันวางกระเป๋าไว้ที่ไหนนะ

29. Where are you?

คุณอยู่ไหน

30. Where does she live?

เค้าอยู่ที่ไหนหรอ

พูดถึงที่อยู่นะคะ เช่นบ้านอยู่ที่ไหน หรือพักอยู่ที่ไหน เป็นต้น

31. Where are my shoes?

รองเท้าของฉันอยู่ไหนหรอ

32. Where is the bank?

ธนาคารอยู่ที่ไหน

33. Where should we stop for dinner?

เราจะจอดกินข้าวเย็นที่ไหนกันดี

ใช้ได้ในตอนที่เราอาจจะกำลังอยู่บนรถ และถึงช่วงกินข้าวตอนเย็นเลยถามว่าเราจะไปร้านไหนเพื่อกินอาหารเย็นค่ะ

34. Where can I find almond milk, please?

ฉันจะไปหานมอัลมอนด์ได้จากที่ไหน

อาจจะเอาไปใช้เวลาที่เราไปซื้อของที่ร้าน และหาของไม่เจอเลยถามพนักงงานที่นั่นค่ะ และที่ให้ใช้ please เพราะว่าทำให้สุภาพ และคนน่าจะอยากช่วยเรามากขึ้นจ้า

35. Where can I get the best meal in England?

ฉันจะซื้ออาหารที่ดีที่สุดในอังกฤษได้ที่ไหน

เป็นเหมือนการถามว่าร้านอาหารที่ไหนอร่อยที่สุดในอังกฤษเลยค่ะ เอาไว้ขอความคิดเห็นหรือคำแนะนำจากคนที่อยู่แถวนั้น ไว้ใช้ตอนเราไปเที่ยวต่างประเทศนะคะ

36. Where do you study?

คุณเรียนที่ไหนหรอ

37. Where do you work?

คุณทำงานที่ไหนหรอ

38. Where do people normally go for a run?

ปกติแล้วคนเค้าไปวิ่งที่ไหนกันหรอ

39. Where should we travel to?

เราไปเที่ยวที่ไหนกันดี

40. Whereabouts are you from?

คุณมาจากแถวไหนหรอ

ประโยคคำถาม When

แม้ว่าเราจะรู้ว่า when เมื่อไหร่ก็จริง แต่บางประโยคใช้ when ก็พูดถึงกี่โมงได้เหมือนกันนะคะ โดยที่ไม่ต้องใช้คำว่า what time เลย

41. When is your birthday?

คุณเกิดเมื่อไหร่หรอ / วันเกิดของคุณคือวันไหน

42. When is he coming back?

เค้าจะกลับมาเมื่อไหร่หรอ

43. When should we get going?

เราจะไปเมื่อไหร่กันดี

ใช้ในสถานการณ์ที่เราอาจจะกำลังต้องไปบางที่ หรือต้องออกจากบ้านค่ะ

44. When are you going to work?

เมื่อไหร่คุณจะไปทำงาน / เมื่อไหร่คุณจะทำงาน

45. When will the meeting start?

การประชุมจะเริ่มเมื่อไหร่หรอ

46. When are you going to eat?

คุณจะกินเมื่อไหร่หรอ

47. When did he leave?

เค้าออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่

48. When will he pick up the phone?

เค้าจะรับสายเมื่อไหร่

49. When will you arrive?

คุณจะมาถึงเมื่อไหร่หรอ

50. When do you normally eat breakfast?

ปกติแล้ว คุณกินอาหารเช้าเมื่อไหร่ / กี่โมง

51. When are you going to stop teasing me?

เมื่อไหร่คุณจะหยุดแกล้งฉันสักที

52. When are they gonna stop gossiping?

เมื่อไหร่พวกเค้าจะหยุดนินทาสักที

อย่างที่เห็นนะคะ gonna เป็นคำย่อจากคำว่า going to และหลังจาก stop กริยาต้องเติม ing ด้วยค่ะ และเปลี่ยนเป็น start ได้ด้วยนะคะ เช่น When are you gonna start eating? เมื่อไหร่เราจะเริ่มกินสักที

53. When does the resturant open?

ร้านอาหารนี้เปิดเมื่อไหร่หรอ

54. When can I go?

ฉันไปได้ตอนไหนหรอ

55. When will you finish cooking?

คุณจะทำอาหารเสร็จตอนไหนหรอ

หลังจากคำว่า finish คำกริยาอย่าลืมเติม ing ด้วยนะคะ

56. When does the next bus arrive?

รถทัวร์คันต่อไปจะมาถึงเมื่อไหร่หรอ

57. When did you by that bike?

คุณซื้อจักรยานคันนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่

58. When do you go to bed?

คุณเข้านอนกี่โมง

ใช้พูดถึงแบบโดยทั่วไป เป็นปกติ หรือสิ่งที่ทำประจำค่ะ

59. When can I call you back?

ฉันจะโทรกลับหาคุณได้ตอนไหนหรอ

ประโยคคำถาม Why

60. Why are you here?

ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่

62. Why don’t you do something?

ทำไมคุณไม่ทำอะไรหน่อยล่ะ

ใช้ในสถานการณ์ที่อาจจะมีอะไรเกิดขึ้น แต่เราเห็นว่าคนนั้นอยู่นิ่งไม่ช่วยอะไร หรือไม่ทำอะไรเลยค่ะ

63. Why do you want to go there?

ทำไมคุณถึงอยากไปที่นั่น / ตรงนั้น

64. Why is he being so crazy today?

ทำไมวันนี้เค้าทำตัวบ้า ๆ บอ ๆ เป็นพิเศษเลยล่ะ

เปลี่ยนจากคำว่า crazy เป็นคำแสดงอารมณ์ความรู้สึกภาษาอังกฤษอย่างอื่นได้นะคะ เช่น happy, sad, nice

65. Why did they come so late?

ทำไมพวกเค้ามาสายจังเลย

66. Why weren’t you here last night?

ทำไมคุณถึงไม่ได้มาเมื่อคืนนี้

คำว่า weren’t (เวิรฺนทฺ) ย่อมาจาก were not เป็นช่องสองของ are not นะคะ

67. Why not?

ทำไมล่ะ

ใช้เป็นคำถามเวลาที่มีคนปฏิเสธอะไรบางอย่าง และเราอยากรู้ว่าทำไม เช่น I don’t want to go to shcool. ฉันไม่อยากไปโรงเรียนเลย Why not? ทำไมล่ะ

68. Why is it always my fault?

ทำไมมันถึงเป็นความผิดของฉันตลอดเลยล่ะ

69. Why should I talk to him?

ทำไมฉันถึงต้องคุยกับเค้า

70. Why do they say that?

ทำไมพวกเค้าถึงพูดแบบนั้น

71. Why do we need to eat out?

ทำไมพวกเราต้องกินข้าวนอกบ้านด้วยล่ะ

ประโยคคำถาม How

ถึง How จะไม่ได้ขึ้นต้นด้วย Wh- แต่ก็ถือว่าอยู่ในหมวดหมู่เดียวกัน และมีประโยคคำถามภาษาอังกฤษเยอะมากเลยที่ขึ้นต้นด้วยคำนี้

72. How are you?

คุณสบายดีมั้ย

มีอีกหลายคำถามเลยที่ถามว่า คุณสบายดีมั้ยภาษาอังกฤษ เบญได้เขียนไว้ให้อีกโพสต์นึงค่ะ ลองเข้าไปอ่านเพิ่มได้นะคะ

73. How old are you?

คุณอายุเท่าไหร่

74. How much is it?

อันนี้เท่าไหร่หรอ

เราเปลี่ยนคำว่า it เป็นอย่างอื่นได้เลยนะคะ เช่น this, that, หรือใส่ชื่อสิ่งของเข้าไป เช่น how much is the bag? หรือ how much is that car?

75. How much do you weight?

คุณน้ำหนักเท่าไหร่หรอ

เป็นคำถามที่ค่อนข้างหยาบคายนะคะ ยกวเน้แต่ว่าเราคุยกับคนที่สนิทกัน หรือจำเป็นต้องรู้เรื่องนั้นจริง ๆ ก็ถามได้ค่ะ

76. How was the movie?

หนังเป็นยังไงบ้าง

ใช้คำว่า was แทน is พูดถึงสิ่งที่เป็นดีตนะคะ และเราก็เปลี่ยนคำว่า movie เป็นอย่างอื่นได้เลย เช่น How was the weekend? สุดสัปดาห์เป็นไงบ้าง How was the meal? อาหารเป็นยังไงบ้าง

77. How come?

เป็นไปได้ยังไง

ส่วนใหญ่จะใช้ประโยคนี้ก่อนที่จะเติมประโยคข้างหลังว่าเกิดอะไรขึ้นนะคะ เช่น How come, I didnt’ see you at school yesterday? เป็นไปได้ยังไงที่ฉันไม่เห็นคุณที่โรงเรียนเมื่อวาน

และจริง ๆ ก็สามารถเป็นประโยคคำถามประมาณว่า ทำไม ด้วยค่ะ อย่างเช่น เวลาที่เราฟังคนที่เราคุยด้วย พูดถึงสิ่งที่เค้าพลาด หรือไม่ได้ทำ และเราก็ใช้ประโยคนี้ถามค่ะ

Ann: I didn’t go to the party last week. ฉันไม่ได้ไปงานปาร์ตี้อาทิตย์ที่แล้ว
Brighton: How come? ทำไมหรอ เป็นไปได้ยังไง
Ann: I was not feeling well. ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย

78. How will you get there?

คุณจะไปที่นั่นยังไงหรอ

ถามถึงเรื่องรถ หรือการเดินทางค่ะ และเปลี่ยนจาก there เป็นสถานที่ภาษาอังกฤษคำอื่นได้

79. How far is it from your house to the hospital?

จากบ้านของคุณไปถึงโรงพยาบาลไกลกันแค่ไหนหรอ

80. How do you say hello in Thai?

คุณจะพูด hello เป็นภาษาไทยได้ยังไง

อันนี้เป็นอีกหนึ่งประโยคคำถามภาษาอังกฤษ ที่จะช่วยให้คุณเรียนภาษาได้มากขึ้นค่ะ โดยที่คุณอาจจะเปลี่ยนจากคำว่า hello เป็นคำว่า this และชี้ไปที่สิ่งที่คุณอยากรู้ ก็จะได้คำศัพท์เพิ่มแล้วจ้า

81. How long does it take you to clean your house?

คุณใช้เวลาทำความสะอาดบ้านเท่าไหร่

82. How much money do you need?

คุณต้องการเงินเท่าไหร่

83. How many car does he have?

เค้ามีรถกี่คัน

ประโยคคำถาม Who

84. Who is she?

เค้าเป็นใครหรอ

85. Who is coming with you tonight?

ใครจะมากับคุณคืนนี้บ้าง

86. Who do you want to speak to?

คุณอยากคุยกับใครหรอ

ถ้าอยากให้สุภาพกว่านี้ ก็เปลี่ยนจาก do เป็นคำว่า would ก็ได้ค่ะ เอาไว้ไปใช้สำหรับเวลารับโทรศัพท์คุยกับลูกค้าเป็นภาษาอังกฤษที่ทำงานก็ได้ค่ะ

87. Who are you looking for?

คุณกำลังมองหาใครอยู่หรอ / คุณกำลังตามหาใครอยู่หรอ

88. Who opened the window?

ใครเปิดหน้าต่างนะ

89. Who told you about that?

ใครบอกคุณเรื่องนั้นหรอ

90. Who are you seeing?

คุณกำลังคบกับใครอยู่หรอ

ในที่นี่หมายถึงคนที่คนนั้นกำลังคุยด้วย หรือกำลังคบเป็นแฟนค่ะ เปลี่ยนคำว่า seeing เป็นคำอื่นได้ เช่น dating with หรือ talking to

91. Who is your best friend?

เพื่อนสนิทของคุณคือใครหรอ

92. Who are those people over there?

คนพวกนั้นที่อยู่ตรงไหน คือใครหรอ

93. Who wants some orange juice?

ใครอยากได้น้ำส้มบ้าง

94. Who made this delicious cake?

ใครเป็นคนทำเค้กที่อร่อยมากเลยก้อนนี้นะ

95. Who is richer, James or Biton?

ใครรวยกว่าหรอ เจมส์ หรือว่าไบทัน

ในประโยคนี้คุณสามารถเปลี่ยนคำว่า richer เป็นคำเปรียบเทียบอย่างอื่นได้ค่ะ เช่น more beautiful, older, taller, heavier และแน่นอนค่ะ เปลี่ยนจากชื่อคนเป็นชื่อสิ่งของได้

ประโยคคำถาม Whose

ประโยคคำถามภาษาอังกฤษที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า Whose จะพูดถึงของใครค่ะ ซึ่งการแต่งประโยคนั้นก็ไม่ยากเลย เบญก็เลยไม่ได้เอามาให้ดูหลายประโยคค่ะ แต่อยากให้คุณเข้าใจการใช้คำนี้

95. Whose shoes are these?

รองเท้าพวกนี้เป็นของใครหรอ

96. Whose house is it?

บ้านนี้เป็นบ้านของใครหรอ

97. Whose birthday is it tomorrow?

พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของใครหรอ

ประโยคคำถาม Which

Which เป็นคำขึ้นต้นคำถาม สำหรับการเปรียบเทียบอะไรบางอย่าง หรือถามว่าอันไหนค่ะ เช่น

98. Which ice cream shop did you go to?

ร้านไอศกรีมร้านไหนที่คุณไปมาหรอ

99. Which one do you like better?

คุณชอบอันไหนมากกว่ากัน

เปลี่ยนจากคำว่า one เป็นสิ่งของได้ด้วยค่ะ เช่น Which lipstick do you like better? คุณชอบลิปอันไหนมากกว่ากัน

100. Which pair of trousers should I wear to work?

กางเกงขายาวตัวไหนที่ฉันควรจะใส่ไปทำงานดี

101. Which book are we going to pick?

เราจะเลือกหนังสือเล่มไหนดี

เราเปลี่ยนคำกริยาในประโยคนี้ได้นะคะ จาก pick อาจจะเป็น read หรือ buy ก็ได้ค่ะ

ประโยคคำถามอื่น ๆ

ประโยคำคถามภาษาอังกฤษข้างล่างนี้ อาจจะเป็นประโยคที่ไม่ได้ถูกหลักแกรมม่าขนาดนั้น เแต่เป็นสิ่งที่เราจะได้ยิน หรือจะได้ใช้บ่อย

ในการสนทนาภาษาอังกฤษทั่วไป กับเพื่อน กับคนรู้จัก ไม่ใช่ประโยคแบบเป็นทางการนะคะ

เป็นประโยคที่ตามมาหลังจากที่เราได้ยินบางอย่าง และเราอาจจะไม่แน่ใจ หรืออาจจะอยากย้ำว่าเราพูดถูกมั้ย อย่าลืมขึ้นเสียงสูงคำสุดท้ายด้วยนะคะ

102. Say again?

พูดอีกครั้งสิ

103. Say what?

พูดอะไรนะ

104. Go where?

ไปไหนนะ

เราสามารถเปลี่ยนจากคำว่า go เป็นคำกริยาคำอื่นได้ด้วยค่ะ หรือเปลี่ยนคำว่า what หรือ where เป็น when, how, who ก็ได้เลยค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าประโยคก่อนหน้านั้นพูดถึงเรื่องอะไร เช่น

Q: Jammy said she wants to come with us. เจมมี่บอกว่าอยากมากับพวกเรา
A: Jammy who? ใครหรอ เจมมี่

105. Pardon?

อะไรนะ

106. Excuse me?

ขอโทษนะ / อะไรนะ

ข้อที่ 105-106 ค่อนข้างสุภาพนะคะ สามารถใช้ได้ในสถานการณ์ที่ต้องใช้คำแบบเป็นทางการ หรือกับคนที่เราไม่รู้จักได้ค่ะ

จบไปแล้วนะคะ สำหรับ 100+ ประโยคคำถามภาษาอังกฟษที่เบญเอามาฝากกันวันนี้

หวังว่าจะช่วยให้คุณเข้าใจการแต่งประโยคคำถามภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้น และรู้วิธีเอาไปใช้ค่ะ

อย่าลืมโหลดคอร์สเรียน Glossika เอาไว้ช่วยฝึกประโยคภาษาอังกฤษเพิ่มเติมในเวลาว่างนะคะ รับรองได้เลยว่า คุณจะเรียนไเรียนประโยคเพิ่ม และฝึกฟังสำเนียงเจ้าของภาษาไปด้วยอย่างแน่นอนค่ะ

หรือถ้าสนใจคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์คอร์สอื่น ๆ ก็คลิกที่ปุ่มสีฟ้าข้างล่างนี้ เพื่อไปเลือกคอร์สที่เหมาะกับคุณเลยค่ะ

[Update] | แต่งประโยคคำถาม – NATAVIGUIDES

 

 
Unit I:  Words, Sentences, Phrases, Clauses
 

 
Unit II:  Subject, Verb, Object
 

 
Unit III:  Subjective Complements, Objective Complements
 

 
Unit IV:  Passive
 

 
Unit V:  Affirmation, Negation, Interrogation, Exclamations, Commands, Requests, Suggestions
 

 
 
 

 

การใช้ประโยคในการสื่อสาร

เราใช้ประโยคเพื่อสื่อสาร ให้ข้อมูล หรือเพื่อแสดงความคิดเห็น แสดงความปรารถนา ให้ผู้อื่นได้รับรู้ และบางทีก็ใช้ประโยคในการตั้งคำถาม ใช้ขอร้อง หรือใช้เพื่อแสดงอารมณ์ ความรู้สึก เช่น ตกใจ ประหลาดใจ โดยสามารถแบ่งประโยคตามลักษณะของการใช้ได้เป็นประเภทย่อยๆ คือ ประโยคที่มีใจความตอบรับ (affirmation), ประโยคที่มีใจความปฏิเสธ (negation), ประโยคคำถาม (interrogation), ประโยคอุทาน (exclamations) และประโยคคำสั่ง ขอร้อง คำแนะนำ (commands, requests, suggestions)

Interrogation

General Questions:
คำถามหรือประโยคคำถาม อาจแบ่งออกได้เป็น general questions กับ special questions

คำถาม general questions ก็คือคำถามที่สามารถตอบแบบ yes หรือ no ได้ เช่น
Do you understand?—Yes, (I think so.)
Can you do it?—No, (I’m afraid not.)

แต่ในการตอบแบบ yes/no นั้น ขึ้นอยู่กับคำตอบของเราว่าเป็น affirmative หรือ negative ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำถามเป็น affirmative หรือ negative เช่น

Is this your hat?
Yes, it is.
No, it isn’t.

Isn’t this your hat?
No, it isn’t. (not Yes)
Yes, it is. (not No)

คำถาม general questions นี้ เวลาพูดให้ทำเสียงสูงขึ้น (rising tone) ที่ท้ายประโยค หรือบางทีเราก็สามารถใส่ intonation เข้าไปในประโยคบอกเล่า เพื่อสื่อความหมายว่ามันเป็นคำถาม เช่น
    You speak English?
    He said so?
    Your friend is here?
    You have another copy?

แต่โดยมากแล้ว เราจะเปลี่ยนการเรียงลำดับคำไปพร้อมกับการใช้โทนเสียง เช่น

  1. กรณีที่เป็น compound verb ให้สลับตำแหน่งบางส่วน (สลับที่ verb กับ modal)

    Is baby still crying?
    Have you seen him lately?

    Shall you be away long?
    May I have a word with you?

  2. เมื่อไม่ใช่ compound verb ให้เติม do, does หรือ did และเปลี่ยน verb ให้เป็นช่องธรรมดา (simple) แล้วจึงสลับตำแหน่งแค่บางส่วน

    Do you speak English?

    Does he speak English?

    Did he say so?

  3. ในกรณีที่เป็น simple verb “be” และ verb “have” ที่มีความหมายในเชิงpossessing นั้น ให้สลับตำแหน่งได้เลย ไม่ต้องเติม do, does, did

    Is your friend here?

    Was he here yesterday?

    Have you another copy?

หมายเหตุ: Have you got… และ Have you… เป็นการใช้แบบ British ส่วนชาว American นิยมใช้ Do you have…

Disjunctive Questions:
Disjuctive หรือ alternative questions เป็นประเภทย่อยของ general questions คำถามแบบนี้เราจะไม่ตอบแบบ yes หรือ no เพราะผู้ถามต้องการให้ผู้ตอบเลือกระหว่างสิ่งหนึ่งกับอีกสิ่งหนึ่ง
    Now tell me, do you speak English  or do you not ?
    Is it white  or black ?
    Would you like the tea strong  or weak ?

Confirmative Questions:
คำถามประเภทนี้ก็เป็นประเภทย่อยของ general questions โครงสร้างประโยคของ confirmative questions ประกอบด้วย (a) ประโยคบอกเล่า + คำถามปฏิเสธแบบสั้น หรือ (b) ประโยคปฏิเสธ + คำถามบอกเล่าแบบสั้น

(a)
He’s ready, isn’t he?
You like it, don’t you?
I can come, can’t I?

(b)
He isn’t ready, is he?
You don’t like it, do you?
I can’t come, can I?

ประโยค confirmative questions เป็นได้ทั้งคำถามที่ต้องการคำตอบ และเป็น statement ธรรมดาๆ โดยแตกต่างกันที่โทนเสียงที่ใช้ ถ้าผู้พูดใช้เสียงสูงในส่วนที่เป็นคำถามท้ายประโยค ประโยคนั้นจะเป็นคำถาม แต่เมื่อใดที่ผู้พูดลดเสียงลงต่ำที่ส่วนคำถามท้ายประโยค ประโยคนั้นจะเป็นเพียงประโยคธรรมดา ดังตัวอย่าง “He’s ready, isn’t he?” เขาพร้อมแล้ว ไม่ใช่หรือ? ถ้าผู้พูดไม่ได้ขึ้นเสียงสูง แสดงว่าผู้พูดกล่าวขึ้นเพราะเชื่อว่าเขาพร้อมแล้ว ไม่ได้ตั้งใจจะถามว่าเขาพร้อมแล้วหรือยัง

Special Questions:
ในประโยคคำถามชนิดนี้จะมี interrogative words วางไว้ที่ด้านหน้าของประโยค ส่วนประธานจะถูกสลับไปอยู่หลัง auxiliary หรือ verb “be” และ “have” ยกเว้นในกรณีที่ interrogative words ทำหน้าที่เป็นประธานเอง เช่น Who said that?
Special questions แตกต่างจาก general questions ตรงที่โทนเสียงจะเป็น falling tone แทนที่จะเป็น rising tone และเราจะเน้น (stress) ที่ตัว interrogative word และคำตอบที่ผู้ถูกถามจะตอบก็จะเกี่ยวข้องกับตัว interrogative word เป็นสำคัญ

Q:
When  did he take your book?

A:
He took my book yesterday .

 
 

Q:
What  did he take  yesterday?

A:
He took my book  yesterday.

 
 

Q:
What  did he do  yesterday?

A:
He took  my book yesterday.

 
 

Q:
Who  took your book yesterday?

A:
He  took my book yesterday.

 

 

Interrogative Words:
Who, Whom, Whose
Who ใช้กับบุคคลเท่านั้น ซึ่งอาจจะเป็นประธานของประโยค หรือส่วนขยายประธาน (subjective complement) ก็ได้

Q:
Who said that?

A:
My friend did.

 
 

Q:
Who is that?

A:
It is my friend.


Who
อาจใช้เป็นกรรมในภาษาพูด (colloquial speech) แต่เราจะใช้ whom เป็นกรรมแทนในภาษาวรรณกรรม (literary language) หรือในภาษาทางการ (formal speech)

Literary

Colloquial

Whom did you see?
Whom did you give it to?
To whom did you give it?

Who did you see?
Who did you give it to?
Who did you give it to?


Whose
ใช้เหมือนกับ genitive noun ใช้สำหรับบุคคลเท่านั้น

ใช้ whose เป็น modificative ขยายคำนาม

Q:
Whose book is that?

A:
It is mine.

 
 

Q:
Whose child did you see?

A:
I saw my friend’s.

ใช้ whose เป็น pronominal แทนคำนามที่เป็นที่เข้าใจอยู่แล้ว โดยไม่ต้องกล่าวคำนาม

Q:
Whose is that?

A:
It is mine.

 
 

Q:
Whose did you take?

A:
I took my friend’s.


What, Which

เมื่อใช้เป็น pronominal (เสมือนนาม) what จะหมายถึงสิ่งของ

Q:
What’s that?

A:
It’s a machine.

 
 

Q:
What’s your name?

A:
My name is John Brown.

 
 

Q:
What happened?

A:
Nothing happened.

 
 

Q:
What do you want?

A:
I want a book.

น้อยมากที่จะหมายถึงคน เช่น “What is he?” ใช้เพื่อถามลักษณะนิสัยของบุคคล แต่เมื่อใช้ what ในฐานะ modification เพื่อขยายคำนาม what จะใช้กับคนหรือสิ่งของก็ได้

Q:
What book is that?

A:
It’s a book about England.

 
 

Q:
What people live in Greenland?

A:
The Eskimoes live there.

 
 

Q:
What woman would dare to say that?

A:
(คำถามแบบนี้ผู้ถามไม่ได้ต้องการคำตอบจริงๆ)

Which สามารถใช้ได้กับทั้งคนและสิ่งของ เราใช้ what และ who ในการถามแบบไม่เจาะจงเท่าใดนัก ส่วน which นั้นจะใช้ถามเวลาต้องการให้ผู้ตอบเลือกตอบอย่างใดอย่างหนึ่ง
ใช้ which เป็น modificative ขยายคำนาม

Q:
Which way shall we turn?

A:
We shall turn to the right.

 
 

Q:
Which one do you want?

A:
I want this one.

 
 

Q:
Which Mr. Brown do you mean?

A:
It’s Mr. John Brown.

หรือ which อาจใช้เป็น pronominal แทนคำนาม

Q:
Which do you want, the pen or the pencil?

A:
I want the pencil.

 
 

Q:
Which do you want?

A:
I want this (one).

 
 

Q:
Which is your name?

A:
this (one) is my name.

 

 

Where, When, How, Why
Where

Q:
Where is it?

A:
It is there.

 
 

Q:
Where are you going?

A:
I am going to my office.

When

Q:
When did you see him?

A:
I saw him last Sunday.

How (manner)

Q:
How do you do it?

A:
I do it like this.

 
 

Q:
How are you?

A:
I am quite well, thank you.

 
 

Q:
How is your brother?

A:
He isn’t feeling very well today.


How (degree and measure)

Q:
How much did you take?

A:
I took half of it.

 
 

Q:
How many did you take?

A:
I took half of them.

 
 

Q:
How far did you walk?

A:
I walked five miles.

 
 

Q:
How long did you stay?

A:
I stayed five days.

 
 

Q:
How often do you go there?

A:
I go there once a week.

 
 

Q:
How high is it?

A:
It is five feet high.

 
 

Q:
How long is it?

A:
It is six feet long.


Why

Q:
Why didn’t you write me?

A:
Because I hadn’t got the time.

Interrogative Words with Prepositions:
เมื่อเราใช้ interrogative words กับ prepositions เราจะวาง preposition ไว้ข้างหลัง
    What is it made of ?
    What is it used for ?
    What’s that all about ?
    What are you looking at ?
    Who(m) is the letter from ?
    Who(m) did you give it to ?
    Where does he come from ?

แต่เมื่อรู้สึกว่า preposition มีความเกี่ยวข้องกับ object มากกว่า verb ให้วาง preposition ไว้ใกล้กับ interrogative word
At  what time did you go?
On  what day did he come?
In  what year was that?
By  what means did he get hold of it?
Under  what circumstances would he do that?

Interrogative Words Intensified:
Interrogative words ทุกตัวยกเว้น whose เมื่อนำมารวมกับ –ever จะให้ความรู้สึกว่าผู้พูดเริ่มหมดความอดทนหรือรำคาญใจ
    Whoever told you that nonsense?
    Whatever do you want?
    Wherever are you going?
    Whenever was that?

แต่เวลาใช้ต้องระมัดระวังอยู่บ้าง เพราะการเติม –ever หลัง who ใน relative clause เช่น “Whoever says so is a liar.” นั้นไม่ได้สื่อความรู้สึกอย่างเดียวกัน

และบางครั้งเราสามารถเติม on earth เข้าไปหลัง interrogative words ก็ได้ เพื่อเพิ่มการเน้น
    Whoever on earth told you that?
    Whatever on earth do you want?

 

 
Unit I:  Words, Sentences, Phrases, Clauses
 

 
Unit II:  Subject, Verb, Object
 

 
Unit III:  Subjective Complements, Objective Complements
 

 
Unit IV:  Passive
 

 
Unit V:  Affirmation, Negation, Interrogation, Exclamations, Commands, Requests, Suggestions
 

 
 
 

 


คนตอบบ่อยู่ – เอิ้นขวัญ วรัญญา 【LYRIC VIDEO】


เอิ้นขวัญ วรัญญา : คนตอบบ่อยู่
คำร้อง/ทำนอง : ชวัลวิทย์ ยิ่งยศเสนี
เรียบเรียง : จิระวัฒน์ ปานพุ่ม
Download : 123 7025
พูดบ่ออกย่อนว่าลำบากใจ ที่ใครเขาอยากให้ตอบคำถาม
เรื่องมันเกิดมาจากอะไรใครทำ ที่ความฮักเอาต้องจบไป
บ่อยากสิเจอประโยคคำถาม ที่ตอบตัวเองสักคำยังทำบ่ได้
เมื่อถูกเธอทิ้งทั้งที่บ่เข้าใจ สิฆ่าให้ตาย กะตอบบ่ได้เพิ่นถามผิดคน
คนตอบบ่อยู่ คนอยู่บ่ฮู้สิตอบจังได๋ ก็มีแต่เธอผู้เดียวที่ตอบได้
สิให้ถามไผ เจ็บใจกะได้แต่ทน
คนตอบบ่อยู่คนอยู่ก็ยังต้องฟังวน ๆ เป็นหยังคือเลิกกันทั้งที่ฮักกันมาตั้งดน
อิหยังคือเหตุผลก็อยากสิฮู้คือกันนั่นหละ
ก็เมื่อเธอคนที่ฮักสุดใจ จากไปด้วยการบ่เว้าบ่จา
มื้อนี่อยากสิหลบให้สุดขอบฟ้า บ่มาพ้อหน้าเลยกับไผ
บ่อยากสิเจอประโยคคำถาม ที่ตอบตัวเองสักคำยังทำบ่ได้
เมื่อถูกเธอทิ้งทั้งที่บ่เข้าใจ สิฆ่าให้ตาย กะตอบบ่ได้เพิ่นถามผิดคน
คนตอบบ่อยู่ คนอยู่บ่ฮู้สิตอบจังได๋ ก็มีแต่เธอผู้เดียวที่ตอบได้
สิให้ถามไผ เจ็บใจกะได้แต่ทน
คนตอบบ่อยู่คนอยู่ก็ยังต้องฟังวน ๆ เป็นหยังคือเลิกกันทั้งที่ฮักกันมาตั้งดน
อิหยังคือเหตุผลก็อยากสิฮู้คือกันนั่นหละ
บ่อยากสิเจอประโยคคำถาม ที่ตอบตัวเองสักคำยังทำบ่ได้
เมื่อถูกเธอทิ้งทั้งที่บ่เข้าใจ สิฆ่าให้ตาย กะตอบบ่ได้เพิ่นถามผิดคน
คนตอบบ่อยู่ คนอยู่บ่ฮู้สิตอบจังได๋ ก็มีแต่เธอผู้เดียวที่ตอบได้
สิให้ถามไผ เจ็บใจกะได้แต่ทน
คนตอบบ่อยู่คนอยู่ก็ยังต้องฟังวน ๆ เป็นหยังคือเลิกกันทั้งที่ฮักกันมาตั้งดน
อิหยังคือเหตุผลก็อยากสิฮู้คือกันนั่นหละ
คนตอบบ่อยู่ คนอยู่บ่ฮู้สิตอบจังได๋ ก็มีแต่เธอผู้เดียวที่ตอบได้
สิให้ถามไผ เจ็บใจกะได้แต่ทน
คนตอบบ่อยู่คนอยู่ก็ยังต้องฟังวน ๆ เป็นหยังคือเลิกกันทั้งที่ฮักกันมาตั้งดน
อิหยังคือเหตุผลก็อยากสิฮู้คือกันนั่นหละ

คนตอบบ่อยู่ เอิ้นขวัญวรัญญา แกรมมี่โกลด์ grammygold grammygoldofficial grammygoldofficialช่องเดียวของคนลูกทุ่ง

❤︎ ติดตามอัพเดทผลงานศิลปิน Grammy Gold ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/GrammyGoldpage
Instagram : https://www.instagram.com/grammygold_official
Youtube : https://goo.gl/6ysF5I
☎ ติดต่องานจ้างศิลปิน แกรมมี่โกลด์ โทร.0854847345

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

คนตอบบ่อยู่ - เอิ้นขวัญ วรัญญา 【LYRIC VIDEO】

เบิดแล้วบ้อ..ฮัก – ข้าวทิพย์ ธิดาดิน 【LYRIC VIDEO】


เพลง : เบิดแล้วบ้อ..ฮัก
ศิลปิน : ข้าวทิพย์ ธิดาดิน
Digital Download : 123 7029
คำร้อง/ทำนอง : ภานุวัฒน์ วิเศษวงษา
เรียบเรียง : อานนท์ เชื้อบุญมา
เคยโพสต์ เคยแท็ก ถึงน้องอยู่ประจำ
ไปไสมาไส กะเอิ้นกะถาม ปานอยู่นำกัน
เทียวไลน์ว่าคิดฮอด มาจอดหน้าจอทุกวัน
คำคมอมยิ้ม แคปชันหวาน ๆ อ้ายกะส่งมาให้อ่าน อยู่บ่เซา

แต่ตอนนี้บ่ฮู้เป็นหยัง
หลาย ๆ อย่างเบิ่งทรงเงียบเหงา
อ้ายบ่โทร บ่แท็ก บ่ไลน์หาคือเก่า
คือเฮาฮักกันใหม่ ๆ

เบิดแล้วบ้อฮัก เว้าสู่น้องฟังแน
ยังฮักกันอยู่ หรือว่าบ่แคร์ บอกแนอ้ายคิดจั่งใด๋
เบิดแล้วบ้อฮัก หรืออ้ายกำลังมีไผ
อ้ายจั่งบ่ค่อยสนใจคนที่อ้ายเคย..
บอกว่าฮักคักฮักแน

เว้าสู่ฟังแน เป็นหยังคือบ่คือเก่า
ใจน้องมันอุกอั่งเอ้า ย้อนคิดนำหลาย

ซ้ำ (,)

เว้าสู่น้องฟังแน เบิดฮักกันแล้วบ้อ
ติดตามข้าวทิพย์ ธิดาดิน ได้ที่ www.fb.com/Kaothip89
เบิดแล้วบ้อฮัก ข้าวทิพย์ แกรมมี่โกลด์ grammygold

❤︎ ติดตามอัพเดทผลงานศิลปิน Grammy Gold ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/GrammyGoldpage
Instagram : https://www.instagram.com/grammygold_official
Youtube : https://goo.gl/6ysF5I
☎ ติดต่องานจ้างศิลปิน แกรมมี่โกลด์ โทร.0854847345

เบิดแล้วบ้อ..ฮัก - ข้าวทิพย์ ธิดาดิน 【LYRIC VIDEO】

ฝึกแต่งประโยค | คำถาม-คำตอบ | Yes-No questions | สำหรับผู้เริ่มเรียน | @เรียนง่ายภาษาอังกฤษ


ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ฝึกแต่งประโยค ภาษาอังกฤษ
คลิปวีดีโอฝึกสอนการแต่งประโยคคำถามคำตอบ Yes No questions สำหรับผู้เริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษแบบมีตัวอย่างประกอบอธิบายละเอียดชัดๆ

ฝึกแต่งประโยค | คำถาม-คำตอบ | Yes-No questions | สำหรับผู้เริ่มเรียน | @เรียนง่ายภาษาอังกฤษ

วิธีแต่งประโยคคำถามภาษาอังกฤษ(เริ่มจาก 0) 10 คำถามใน 10 นาที


วิธีแต่งประโยคคำถาม ภาษาอังกฤษ , YesNo questions, Whquestions, ปรับพื้นฐาน, เริ่มจาก 0, แต่งประโยคภาษาอังกฤษ, ประโยคภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
เรียนภาษาอังกฤษฟรี แต่งประโยคภาษาอังกฤษ โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษ เรียนภาษาอังกฤษฟรี

เรียนภาษาอังกฤษกับครูฟาง, ฝึกภาษาอังกฤษ, อยากเก่งภาษาอังกฤษ, ติวสอบภาษาอังกฤษ, ติวภาษาอังกฤษ, ภาษาอังกฤษพื้นฐาน, ประโยคภาษาอังกฤษ, ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน, อยากเก่งภาษาอังกฤษ, คำศัพท์อังกฤษ, English lesson, แกรมม่าภาษาอังกฤษ, บทเรียนภาษาอังกฤษ

วิธีแต่งประโยคคำถามภาษาอังกฤษ(เริ่มจาก 0) 10 คำถามใน 10 นาที

ภาษาไทย ป.2 ประโยคคำถาม ประโยคปฏิเสธ ครูสุธีรา ไชยปัญญา


ภาษาไทย
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
สาระที่ 4 หลักการใช้ภาษาไทย
ท 4.1 ตัวชี้วัดที่ 3
เรื่อง ประโยคคำถาม ประโยคปฏิเสธ
ครูสุธีรา ไชยปัญญา
โรงเรียนอนุบาลยโสธร จ.ยโสธร
มีใบความรู้ และใบกิจกรรมสามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่ https://drive.google.com/folderview?id=0BydHLJgPtYsXQ1I4NDBibTRDXzg\u0026usp=sharing
โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ DLIT (Distance Learning Information Technology)
http://www.dlit.ac.th

ภาษาไทย ป.2 ประโยคคำถาม ประโยคปฏิเสธ ครูสุธีรา ไชยปัญญา

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ แต่งประโยคคำถาม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *