Skip to content
Home » [Update] มาบอกเล่าการเดินทางด้วยรถไฟ Metro ในกรุงปารีสด้วยตัวเองครั้งแรกแบบงงสุดๆ แต่ก็ถึงที่หมายปลอดภัย ให้เพื่อนๆได้ดูกันจ้า | กรุงปารีส – NATAVIGUIDES

[Update] มาบอกเล่าการเดินทางด้วยรถไฟ Metro ในกรุงปารีสด้วยตัวเองครั้งแรกแบบงงสุดๆ แต่ก็ถึงที่หมายปลอดภัย ให้เพื่อนๆได้ดูกันจ้า | กรุงปารีส – NATAVIGUIDES

กรุงปารีส: คุณกำลังดูกระทู้



มาแบ่งปันประสบการณ์การเดินทางในด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน Metro ครั้งแรกมาฝากค่ะ อยากบอกว่างงสุด แต่ก็ถึงที่หมายโดยปลอดภัย

ก็ขอกราบสวัสดี๊ดี สวีดั๊ดดัดเพื่อนๆพี่ๆน้องๆผองชาวไทยและชาวโลกออนไลน์ที่น่ารักสดใส งามไฉไลสุดเก๋ เทห์ระเบิดเทิดเทิง เปิดเปิงหัวใจกันอยู่ ณ ขณะนี้นะค่ะ ดิฉันคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน ขอมาเว้าวอน ออนซอนต้อนรับคุณผู้อ่านเข้าสู่บล็อกของคนบ้าเที่ยว บ้าเขียนไปเรื่อยเปื่อย แนวกากๆ โกโรโกโส สับปะรังเค ให้ท่านได้เปิดอ่านกันจนปวดเศียร เวียนเกล้ากันอีกเหมือนเดิมนะค่ะ

สำหรับเพื่อนๆท่านใดที่กำลังจะวางแผนแบกเป้ลุยเดี่ยวมาเที่ยวกรุงปารีสด้วยตัวเองครั้งแรกแบบตัวดิฉัน ต้องขอบอกเลยว่า ยังไงทำการบ้านเรื่องการเดินทางด้วยรถไฟมาก่อนนะค่ะ เพราะว่าเดี๊ยนเองมาเที่ยวที่เมืองนี้เป็นครั้งครั้งแรก ปวดเศียรเวียนเกล้า และสับสน งุนงงกับเส้นทางในเมืองนี้มากๆ เพราะรถไฟมีหลายสาย และหลายเส้นทาง และมีการแบ่งเขต แบ่งโซน โน้นนี้นั้น ปวดหัวเหลือเกิน เรียกว่าหากใครที่จะลุยเดี่ยว หรือไม่ได้มีคนรู้จักมักค้นพาเที่ยวปารีสแล้ว ยังไงต้องทำความรู้จักกับการเดินทางด้วยรถไฟในเมืองนี้มาก่อนเลยค่ะ

เพื่อไม่ให้เว็ปบล็อกร้างไป วันนี้เดี๊ยนเลยขอมาแบ่งปันการเดินทางเกี่ยวกับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า Metro และรถไฟ RER มาฝากค่ะ

ก่อนอื่นมารู้จักการเดินทางด้วยรถไฟ Metro กับ รถไฟ RER 
1. รถไฟ Metro อ่านว่า เมโทร เป็นรถไฟใต้ดินทีี่วิ่งเฉพาะย่านใจกลางเมืองโซน 1-2 เท่านั้นค่ะ มีทั้งหมด 16 สาย 
2. รถไฟ RER อ่านว่า แอ-เออ-แอ เป็นภาษาฝรั่งเศสนะค่ะ หากไปบ้านเค้าแล้ว จะถามคนในพื้นที่ถึงรถไฟสายนี้ อย่าเผลอพูดว่า อีอาร์อีล่ะ เดี่ยวเค้าจะงงเอาจ้า สำหรับรถไฟแอร์เออแอร์นี้ เป็นรถไฟที่วิ่งทั้งเข้าทั้งในเมืองและออกย่านชานเมืองค่ะ โดยจะวิ่งตั้งแต่โซน 1-5 เลยค่ะ และเป็นรถไฟขบวนต่างกันรถไฟ Metro

1.รถไฟ Metro 

รถไฟ Metro ถือเป็นระบบขนส่งมวลสาธารณะหรือรถไฟใต้ดินท่ี่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีเส้นทางทั้งหมด 14 สายครอบคลุมเฉพาะการเดินทางโซน 1 กับ โซน 2 เท่านั้นค่ะ

– ราคาตั๋วโดยสารเที่ยวเดียว เริ่มต้นที่ 1.9 ยูโรตลอดสายต่อ 1 เที่ยวค่ะ ซึ่งตั๋วรถไฟเมโทรนั้นเป็นบัตร Ticket T+นั้นจะสามารถใช้งานได้เพียงครั้งเดียวแต่ครบคลุมทั้งรถไฟ RER รถบัสประจำทาง และรถรางอีกด้วย แต่ใช้ได้เฉพาะโซนที่กำหนดเท่านั้นนะค่ะ

– ถ้าจะให้ประหยัดแนะนำ  ให้เพื่อนๆซื้อแบบ 10 ใบไปเลยค่ะ สามารถซื้อได้ที่ตู้ขายบัตรอัตโนมัติ หรือถ้าเกรงจะงงกับเครื่องขายบัตร ก็ซื้อกับเจ้าหน้าที่ได้เลยค่ะ โดยราคาตั๋ว 10 ใบจะถูกและประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะเลยค่ะ หากไปหลายคนก็แบ่งกันใช้ได้ค่ะ

– เวลาให้บริการของรถไฟใต้ดิน Metro วัน ศุกร์-เสาร์ 5:30-01:40 และวันอาทิตย์-พฤหัสบดีเริ่ม 5:30-12:40 น.

– ขบวนรถไฟ Metro บางขบวนไม่มีการประกาศบอกสถานีนะค่ะ ดังนั้นเพื่อนต้องสังเกตุป้ายนอกกระจกรถไฟตลอดว่าถึงสถานีใหนแล้ว แต่บางขบวนก็มีบอกค่ะ สรุปคือต้องวัดดวงเอาค่ะว่าจะได้ขบวนรถไฟคันใหนที่มีเสียงประกาศบอกสถานี สนุกตรงนี้แหละค่ะ

– เก็บตั๋วโดยสารไว้ตลอดนะค่ะ เผื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจเช็ค

2.รถไฟ RER (แอร์-เออ-แอร์)

สำหรับรถไฟสายนี้นะค่ะ เป็นรถไฟที่เน้นการเดินทางจากใจกลางเมืองตั้งแต่โซน 1 – 5 ไปยังบริเวณชานเมืองหรือออกไปนอกเมือง ยกตัวอย่างเช่นจะเดินทางจากสถานีใกล้ๆ หอไอเฟลซึ่งอยู่ใจกลางเมือง ไปยังพระราชวังแวร์ซาย ซึ่งอยู่ย่านชานเมือง ก็ต้องเลือกนั่งรถไฟ ERE

หรือว่าจะนั่งจากสนามบิน CDG เข้ามาในย่านใจกลางเมืองที่สถานี Chatelet ก็ต้องนั่งรถไฟ RER เข้ามาค่ะ แล้วค่อยมาเดินทางเชื่อมต่อไปยังสถานีต่างๆด้วยรถไฟ Metro หรือ รถบัสและขนส่งแบบอื่นๆค่ะ

– จุดสังเกตที่เห็นเด่นชัดถึงความแตกต่างจากรถไฟใต้ดินนั่นคือสายที่ใช้ตัวอักษรแบ่งเป็น 5 สายหลัก ได้แก่  A, B, C, D และ E  ราคาของตั๋วโดยสารนั้นก็จะขึ้นอยู่กับระยะทางต้นทางถึงปลายทางค่ะ ซึ่งแตกต่างกันกับรถไฟ Metro นะค่ะ

ความแตกต่างระหว่าง Metro กับ รถไฟ RER ต่างกันอย่างไรบ้างล่ะ

1.รถไฟ Metro วิ่งเฉพาะโซน 1-2 เท่านั้น ส่วนรถไฟ RER วิ่งตั้งแต่ในเมืองไปย่านชานเมือง1-5 เลยค่ะ
2.รถไฟ Metro มี 16 สาย และเส้นทางในแผนที่จะบอกเป็นตัวเลขค่ะ 1,2,3,4 ไปจนถึง 16  ส่วนรถไฟ RER จะบอกเป็นตัวอักษร A,B,C,D,E  สังเกตุได้ที่แผนทีี่จะเป็นวงกลมไว้ของสถานีต้นทางและปลายทางจะบอกชัดเจนค่ะ
3.ราคาตั๋วรถไฟ metro เป็นราคาเดียวกันหมด ไม่ว่าจะเดินทางใกล้ไกลเพราะวิ่งเฉพาะโซน1-2เท่านั้น แต่ถ้ารถไฟ RER ราคาจะขึ้นอยู่กับระยะทางของแต่ละสถานี ราคาไม่เหมือนกัน

เพื่อให้มองเห็นภาพและเข้าใจง่ายขึ้น ขออธิบายตามรูปนะค่ะ (ไม่รู้เพื่อนๆจะเข้าใจหรือเปล่านะ แต่เดีี๊ยนพยายามให้อธิบายให้เพื่อนงงๆที่สุดจะได้เปาไปศึกษาค่ะ)

เส้นทางรถไฟ RER แบ่งโซน1-5 เครดิตภาพจากเว็ปไซต์ Paris by train คลิ๊กที่นี้เพื่อดูภาพขนาดใหญ่ขึ้นค่ะ>>>

ภาพนี้เป็นแผนที่บอกเส้นรถไฟ RER ค่ะ แบ่งทั้งหมด 5 โซน สังเกตุตัวเลขสีส้มนะค่ะ และเส้นทางรถไฟแต่ละสายจะบอกเป็นตัวอักษร A,B,C,D,E  เครดิตภาพจากเว็ปไซต์ Paris by train


คลิ๊กดูภาพแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้นค่ะ>>>

เครดิตภาพจากเว็ป Paris by train

ส่วนภาพนี้คือแผนที่รถไฟ Metro+RER+ เฉพาะโซน 1 กับโซน 2 นะค่ะ โดยรถไฟ Metro นั้นมีทั้งหมด 16 สาย ใช้ตัวเลขบอกและสีบอกเส้นทางของแต่ละสายค่ะ จะเห็นได้ว่าเส้นทางรถไฟจะชุกชุมมากๆ ดูครั้งแรกก็งงแบบสุดจนหลุดโลกไปเลยล่ะค่ะ ยังไงเพื่อนๆคนใหนที่จะแบกเป้ลุยเดี่ยวไปเที่ยวปารีสครั้งแรกคนเดียว ศึกษาแผนที่เดินทางให้ดีนะค่ะ จะได้ไม่ปวดเศียร เวียนเกล้า

เครดิตภาพจากเว็ป Paris by train

ป้า่ยสัญลักษณ์ของสายรถไฟ Metro มี 16 สาย และ RER อีก 5 สายเพื่อประกอบในการดูในแผนที่ค่ะ

ซึ่งสัญลักษณ์นี้มีประโยชน์เพื่อสะดวกในการดูแผนที่และเป็นป้ายสัญลักษณ์ของรถไฟแต่ละสายด้วยค่ะ
ตามภาพจะเห็นรถไฟ Metro Line มีทั้งหมด 14 สายหลัก และสายลูกอีก 2 หลัก รวมเป็น 16 หลัก

ส่วนรถไฟ RER line นั้นจะมีเฉพาะ 5 สายแบ่งตามโซนไปเลยค่ะ

ราคาบัตร Ticket+T
ราคาตั๋วเที่ยวเดียว เริ่มต้น 1.9 ยูโร
แต่ถ้าให้คุ้มแบบเดินทางบ่อยก็ซื้อแบบ 10 ใบไปเลย

เพื่อให้เพื่อนๆและคุณผู้อ่านทุกคนเห็นภาพการเดินทาง ดิฉันขอมารีวิวการเดินทางด้วยรถไฟ Metro จากเริ่มต้นสถานี Opera ไปยังโรงแรมที่พัก ซึ่งอยู่ใกล้สถานี Ledru-Rollin มาเป็นตัวอย่างให้เพื่อนได้ดูกัน


ต่อจากบล็อกก่อนหน้า เริ่มต้นเดินทางรถไฟ Metro ที่สถานี opera

หลังจากที่นั่งรถบัสโดยสารจากสนามบินฝรั่งเศส เข้ามาจอดสุดสายที่สถานีโอเปร่าแล้วนะค่ะ จากนั้นเดี๊ยนก็แบกเป้ใบใหญ่เดินลงมาที่สถานีรถไฟใต้ดิน สถานี Opera เดินลงมาครั้งแรกก็จะงงๆหน่อยค่ะ

ป้ายบอกเส้นทางรถไฟแต่ละสายในสถานี Opera มีรถไฟ Metro ผ่านสถานีนี้คือ รถไฟหมายเลข 3,7,8

เดินลงมาจะมีป้ายบอกเส้นทางของรถไฟ Metro แต่ละสายค่ะ จะเห็นว่ารถไฟ Metro ใช้ตัวเลขเป็นสัญลักษณ์ของเส้นทางแต่ละสายค่ะ อย่างในป้ายบอก รถไฟRER สาย A ผ่านสถานีนี้ และรถไฟ Metro สาย 3,7,8 ผ่านสถานีนี้ค่ะ

โดยจุดมุ่งหมายของเดี๊ยนคือ เดินทางจาก Opera ไปสถานี Ledru-Rollin ซึ่งเป็นรถไฟ Metro สาย 8 หากดูในแผนที่จะเป็นสายสีม่วงค่ะ

มีข้อมูลแผนที่บอกเส้นทางให้ดูด้วยค่ะ ว่าตอนนี้เราอยู่ที่ใหนจะได้ไม่เกิดอาการอิสสะงงๆ

ขยายภาพอีกครั้งนะค่ะ เผื่อตัวหนังสือในแผนที่เล็กไป นั่งรถไฟ Metro สาย 8 สีม่วงจากสถานี Opera ไปลงที่สถานี Ledru-Rollin

ซื้อตั๋วรถไฟ Metro กับเจ้าหน้าที่ได้เลยค่ะ

สำหรับการซื้อตั๋วรถไฟโดยสาร สามารถซื้อกับเจ้าหน้าที่ได้เลยค่ะ หรือจะซื้อผ่านเครื่องก็ได้ แต่ถ้ากลัวงงๆก็ซื้อผ่านเจ้าหน้าที่ก็จะสะดวกกว่าเพราะสามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ได้ด้วย

เมื่อเดินผ่านประตูมาแล้วก็มาดูแผนที่ว่าจะผ่านสถานีอะไรบ้าง
การเดินทางครั้งนี้ เริ่มต้นที่สถานี Opera ไปที่สถานี Ledru-Rollin โดยต้องไปขึ้นรถไฟที่ชานชลาป้าย Creteil ค่ะ ตามภาพเลยนะค่ะ

อุโมงชานชลารอรถไฟใต้ดิน Metro ไปสถานีปลายทางค่ะ

เดินเข้ามาก็จะเป็นอุโมงค์รอรถไฟแบบนี้เลยค่ะ ดูน่ากลัวอิสสะนึดนึงนะค่ะ เนื่องจากดึกมากๆแล้ว บางครั้งเดี๊ยนก็กลัวจะมีเจ้าปีศาจ เอเลี่ยนหลุดออกมาจากช่องมุมมืดเหมือนกันนะค่ะ

ป้ายที่เห็นเป็นป้ายบอกทางไปยังรถไฟสายอื่น ส่วนป้ายที่เขียนว่า Sortie แปลว่าทางออกค่ะ เดี๊ยนเรียกว่า ป้ายอาซ้อ  มาที่ฝรั่งเศสไม่มีป้ายเขียนว่า Exit เลยนะค่ะ ดังนั้นหากเพื่อนเห็นป้ายอาซ้อ แสดงว่าทางออกแน่นอนค่ะ

รอไม่นานนัก รถไฟก็มาโดยทันทีเลยนะค่ะ พอขึ้นรถไฟมาแล้ว เนื่องจากขบวนที่เดี๊ยนขึ้นมานี้ ไม่มีการประกาศแจ้งว่าถึงสถานีใหนแล้วบ้าง และก็ไม่มีเสียงประกาศว่า พลีสมันเด้อเกต บีทวีนเทรนแอนด์พลักฟอม (Please mind the gap between the train and platform)เหมือนรถไฟ BTS และ mrt ในบ้านเรา


พักค้างแรมคืนนี้ที่ืโรงแรม โอแบร์ฌ แองแตร์นาชิโอนาล เด เฌิน (Auberge Internationale des Jeunes)

จากสถานีรถไฟ Metro Ledru Rollin เดินมาไม่ไกลนัก ก็ถึงที่พักคืนนี้แล้วค่ะ
พักที่ โอแบร์ฌ แองแตร์นาชิโอนาล เด เฌิน (Auberge Internationale des Jeunes) ชื่อโรงแรมเรียกยากมากๆ เป็นที่พักแนวโฮสเทล ห้องนอนรวม ราคาหลักร้อย ห้องน้ำรวม มีอาหารเช้าให้ทานฟรีนะ เน้นแค่นอน อย่าไปคิดอะไรมาก แต่ก็กระชากใจเว่อร์เหมือนกันนะ

แล้วเป็นบันใดแคบๆ เดินวนขึ้นไปเรื่อยๆ เวียนหัวเหมือนกันนะค่ะ มันเป็นบันใดวน เหมือนขนมเกลียวอะไรแบบนั้นเลย โอ้ย…เดี๊ยนจะเป็นลมค่ะ


ห้องพักคืนละ 800 บาท รวมอาหารเช้า

ห้องพักคืนนี้ เตียงเดียว มี 3 เตียงใน 1 ห้อง ตอนนอนก็มีแขกพักอยู่อีกเตียง แต่นางนอนไปก่อนล่ะ เพราะดึกมากๆแล้วค่ะ
สภาพห้องพักพอใช้ ไม่ดี ไม่แย่ พอถูไถๆ ถือว่าราคาถูกมากนะค่ะ เพราะปกติโฮสเทลในปารีส ราคาก็ปาไปเป็นพันกว่าแล้วค่ะ แต่ที่นี้ราคาแค่หลักร้อย สงสัยที่ราคาถูก เพราะไม่ได้อยู่ในย่านท่องเที่ยวด้วยกระมัง หากเพื่อนๆคนใหนที่มองหาที่พักหลักร้อยอยู่ ก็มาพักที่นี้ได้นะค่ะ คือแบบพอพักได้ แต่เดินบันใดขาลากเลยค่ะ  และห้องอาบน้ำในชั้นก็มีอยู่ 2 ห้อง ห้องส้วมอีก 2 ห้อง
เวลาปวดอึ ก็ต้องอั้นไว้เหมือนกัน เพราะต้องต่อคิว หากจะเดินไปอึ ด้านล่าง ก็เกรงจะไม่ทัน ขี้แตกเสียก่อน โอ้ยเดี๊ยนจะเป็นลม
—————————————————
อ้อเกือบลืม สำหรับเพื่อนๆที่ถามกันไว้ว่า มีวิธีการซื้อตั๋วรถไฟ Metro ผ่านตู้ขายเครื่องอัตโนมัติใหม๊
ในบล็อกนี้เดี๊ยนก็เลยนำภาพมาลงไว้ในบล็อกด้วย แต่ทำไม่สุดขั้นตอน เนื่องจากธนบัตรที่เดี๊ยนถืออยู่นั้นเป็นแบงค์ 50 กับ แบงค์ 100 ยูโร ก็เลยนำแต่วิธีเบื้องต้นมาให้ดูค่ะ น่าจะเป็นแนวทางได้นะค่ะ

เริ่มแรกไปที่เมนูภาษาอังกฤษก่อนเลยค่ะ

อันนี้เราจะซื้อบัตรโดยสารรถไฟก็เลือก Ticket T ค่ะ

Full Fare คือตั๋วราคาเต็ม
Reduced fare -10 year old คือตั๋วสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี
ให้เราเลือก Full fare

ทีนี้พอกดเลือก Full fare แล้วก็จะมาให้เลือกจำนวนตั๋วค่ะ ซึ่งให้เลอกตั้งแต่ 1-20 ใบเลยค่ะ
ถ้าไปเที่ยวเดียวก็เลือก 1.90 ยูโร
แต่ถ้าซื้อจำนวน 10 ใบก็ 14.9 ยูโร
พอถึงหน้านี้แล้ว เดี๊ยนก็ต้องหยุดสต๊อป เพราะมีแต่แบงค์ใหญ่อยู่ดี
ก็เลยตัดสินใจไปซื้อกับเจ้าหน้าที่ สะดวกกว่าค่ะ

ตั๋วรถไฟโดยสารซื้อแบบ 10 ใบ ราคาจะถูกและประหยัดกว่าค่ะ

 ซื้อกับเจ้าหน้าที่จ่ายกับบัตรเครดิตไปเลย ได้ทั้งหมด 10 ใบตามภาพ เอาไว้เดินทางในตัวเมืองย่านโซน1-2ค่ะ

 แผนที่การเดินทางในกรุงปารีส และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆยังไงเพื่อนลองไปศึกษากันดูนะค่ะ
เข้าไปดูข้อมูลการเดินทางได้ที่เว็ปไซต์
และเว็ปไซต์ :

เอาเป็นรีวิวทริปการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า Metro ในกรุงปารีส จากสถานี Opera
มายังสถานี Ledru-Rollin ก็ขอจบเพียงเท่านี้นะค่ะ
เดี่ยวมารีวิวต่อในบล็อกถัดไป จะพาเที่ยวกรุงปารีสแล้วค่ะ
ยังไงต้องขอขอบพระคุณเพื่อนทุกๆท่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่านและปวดหัวไปด้วยกัน
หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไปนะค่ะ
————————————————————————————

รวมบทความรีวิวบล็อกท่องเที่ยวเดือนละ 1 ครั้ง มีดังนี้ค่ะ

(จะทยอยเขียนเพิ่มเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้เว็ปบล็อกร้างไปคะ)

จะไปเที่ยวกรุงปารีส พักโซนใหนดี

ขอแนะนำ 8 เขตโซนที่พักพร้อมแผนที่มาให้เพื่อนๆได้เลือกกันจ้า

หรือดูข้อมูลโซนในปารีสที่เว็ปไซต์ :

http://bit.ly/2z6cOxa

หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ :

https://goo.gl/dLDKAX

หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ :

https://goo.gl/e6o4UL

หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ :

https://goo.gl/Bxaq9X

หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ :

https://goo.gl/XCFzYC

 

หรือดูบทความรีวิวที่เว็ปไซต์ :

หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ :

https://goo.gl/7ZB3pt

หรือดูรายละเอียดที่เว็ปไซต์ :

https://goo.gl/YHUCtA

หรือดูรายละเอียดที่เว็ปไซต์ :


รีวิวเที่ยวกาฬสินธุ์ เดือน ก.พ.61 เยือนถิ่นไดโนเสาร์ นอนคลอเคล้าที่เขื่อนลำปาว สวยสกาวคั๊กอีหลีเด้อ

คลิ๊กดูภาพและรายละเอียดรีวิวค่ะ>> 


หรือดูบทความรีวิวที่เว็ปไซต์ :


รีวิวเที่ยวมาเก๊า-ฮ่องกง ม.ค.61 ตอนที่ 1 เที่ยวมาเก๊านั่งเรือเมาไปถึงเกาะฮ่องกง แถมติดด่าน ตม. เข้าห้องเย็นเจี๊ยบ

คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวค่ะ>>


รีวิวเที่ยวเกาะกูด 4 วัน

นอนสุขสันต์ริมชายหาด สวยสะอาดน้ำทะเลใส งามวิไลเลิศสะแมนแตน


รีวิวเที่ยวเมืองปาย สไตล์ชิคๆ

แวะกุ๊กกิ๊กถนนคนเดิน เช่ามอเตอร์ไซต์ขับเพลินๆ ดีเลิศสะแมนแตน

รีวิวเที่ยวแม่ฮ่องสอนตอนที่ 2

ขับมอเตอร์ไซต์ไปออนซอนที่บ้านรักไทย งามวิไลปางอุ๋ง สวยจูงเบย

ก็ขอกราบสวัสดี๊ดี สวีดั๊ดดัดเพื่อนๆพี่ๆน้องๆผองชาวไทยและชาวโลกออนไลน์ที่น่ารักสดใส งามไฉไลสุดเก๋ เทห์ระเบิดเทิดเทิง เปิดเปิงหัวใจกันอยู่ ณ ขณะนี้นะค่ะ ดิฉันคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน ขอมาเว้าวอน ออนซอนต้อนรับคุณผู้อ่านเข้าสู่บล็อกของคนบ้าเที่ยว บ้าเขียนไปเรื่อยเปื่อย แนวกากๆ โกโรโกโส สับปะรังเค ให้ท่านได้เปิดอ่านกันจนปวดเศียร เวียนเกล้ากันอีกเหมือนเดิมนะค่ะสำหรับเพื่อนๆท่านใดที่กำลังจะวางแผนแบกเป้ลุยเดี่ยวมาเที่ยวกรุงปารีสด้วยตัวเองครั้งแรกแบบตัวดิฉัน ต้องขอบอกเลยว่า ยังไงทำการบ้านเรื่องการเดินทางด้วยรถไฟมาก่อนนะค่ะ เพราะว่าเดี๊ยนเองมาเที่ยวที่เมืองนี้เป็นครั้งครั้งแรก ปวดเศียรเวียนเกล้า และสับสน งุนงงกับเส้นทางในเมืองนี้มากๆ เพราะรถไฟมีหลายสาย และหลายเส้นทาง และมีการแบ่งเขต แบ่งโซน โน้นนี้นั้น ปวดหัวเหลือเกิน เรียกว่าหากใครที่จะลุยเดี่ยว หรือไม่ได้มีคนรู้จักมักค้นพาเที่ยวปารีสแล้ว ยังไงต้องทำความรู้จักกับการเดินทางด้วยรถไฟในเมืองนี้มาก่อนเลยค่ะเพื่อไม่ให้เว็ปบล็อกร้างไป วันนี้เดี๊ยนเลยขอมาแบ่งปันการเดินทางเกี่ยวกับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า Metro และรถไฟ RER มาฝากค่ะ1. รถไฟ Metro อ่านว่า เมโทร เป็นรถไฟใต้ดินทีี่วิ่งเฉพาะย่านใจกลางเมืองโซน 1-2 เท่านั้นค่ะ มีทั้งหมด 16 สาย2. รถไฟ RER อ่านว่า แอ-เออ-แอ เป็นภาษาฝรั่งเศสนะค่ะ หากไปบ้านเค้าแล้ว จะถามคนในพื้นที่ถึงรถไฟสายนี้ อย่าเผลอพูดว่า อีอาร์อีล่ะ เดี่ยวเค้าจะงงเอาจ้า สำหรับรถไฟแอร์เออแอร์นี้ เป็นรถไฟที่วิ่งทั้งเข้าทั้งในเมืองและออกย่านชานเมืองค่ะ โดยจะวิ่งตั้งแต่โซน 1-5 เลยค่ะ และเป็นรถไฟขบวนต่างกันรถไฟ Metroรถไฟ Metro ถือเป็นระบบขนส่งมวลสาธารณะหรือรถไฟใต้ดินท่ี่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีเส้นทางทั้งหมด 14 สายครอบคลุมเฉพาะการเดินทางโซน 1 กับ โซน 2 เท่านั้นค่ะ- ราคาตั๋วโดยสารเที่ยวเดียว เริ่มต้นที่ 1.9 ยูโรตลอดสายต่อ 1 เที่ยวค่ะ ซึ่งตั๋วรถไฟเมโทรนั้นเป็นบัตร Ticket T+นั้นจะสามารถใช้งานได้เพียงครั้งเดียวแต่ครบคลุมทั้งรถไฟ RER รถบัสประจำทาง และรถรางอีกด้วย แต่ใช้ได้เฉพาะโซนที่กำหนดเท่านั้นนะค่ะ- ถ้าจะให้ประหยัดแนะนำ ให้เพื่อนๆซื้อแบบ 10 ใบไปเลยค่ะ สามารถซื้อได้ที่ตู้ขายบัตรอัตโนมัติ หรือถ้าเกรงจะงงกับเครื่องขายบัตร ก็ซื้อกับเจ้าหน้าที่ได้เลยค่ะ โดยราคาตั๋ว 10 ใบจะถูกและประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะเลยค่ะ หากไปหลายคนก็แบ่งกันใช้ได้ค่ะ- เวลาให้บริการของรถไฟใต้ดิน Metro วัน ศุกร์-เสาร์ 5:30-01:40 และวันอาทิตย์-พฤหัสบดีเริ่ม 5:30-12:40 น.- ขบวนรถไฟ Metro บางขบวนไม่มีการประกาศบอกสถานีนะค่ะ ดังนั้นเพื่อนต้องสังเกตุป้ายนอกกระจกรถไฟตลอดว่าถึงสถานีใหนแล้ว แต่บางขบวนก็มีบอกค่ะ สรุปคือต้องวัดดวงเอาค่ะว่าจะได้ขบวนรถไฟคันใหนที่มีเสียงประกาศบอกสถานี สนุกตรงนี้แหละค่ะ- เก็บตั๋วโดยสารไว้ตลอดนะค่ะ เผื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจเช็คสำหรับรถไฟสายนี้นะค่ะ เป็นรถไฟที่เน้นการเดินทางจากใจกลางเมืองตั้งแต่โซน 1 – 5 ไปยังบริเวณชานเมืองหรือออกไปนอกเมือง ยกตัวอย่างเช่นจะเดินทางจากสถานีใกล้ๆ หอไอเฟลซึ่งอยู่ใจกลางเมือง ไปยังพระราชวังแวร์ซาย ซึ่งอยู่ย่านชานเมือง ก็ต้องเลือกนั่งรถไฟ EREหรือว่าจะนั่งจากสนามบิน CDG เข้ามาในย่านใจกลางเมืองที่สถานี Chatelet ก็ต้องนั่งรถไฟ RER เข้ามาค่ะ แล้วค่อยมาเดินทางเชื่อมต่อไปยังสถานีต่างๆด้วยรถไฟ Metro หรือ รถบัสและขนส่งแบบอื่นๆค่ะ- จุดสังเกตที่เห็นเด่นชัดถึงความแตกต่างจากรถไฟใต้ดินนั่นคือสายที่ใช้ตัวอักษรแบ่งเป็น 5 สายหลัก ได้แก่ A, B, C, D และ E ราคาของตั๋วโดยสารนั้นก็จะขึ้นอยู่กับระยะทางต้นทางถึงปลายทางค่ะ ซึ่งแตกต่างกันกับรถไฟ Metro นะค่ะความแตกต่างระหว่าง Metro กับ รถไฟ RER ต่างกันอย่างไรบ้างล่ะ1.รถไฟ Metro วิ่งเฉพาะโซน 1-2 เท่านั้น ส่วนรถไฟ RER วิ่งตั้งแต่ในเมืองไปย่านชานเมือง1-5 เลยค่ะ2.ส่วนรถไฟสังเกตุได้ที่แผนทีี่จะเป็นวงกลมไว้ของสถานีต้นทางและปลายทางจะบอกชัดเจนค่ะ3.ราคาตั๋วรถไฟ metro เป็นราคาเดียวกันหมด ไม่ว่าจะเดินทางใกล้ไกลเพราะวิ่งเฉพาะโซน1-2เท่านั้น แต่ถ้ารถไฟ RER ราคาจะขึ้นอยู่กับระยะทางของแต่ละสถานี ราคาไม่เหมือนกันเพื่อให้มองเห็นภาพและเข้าใจง่ายขึ้น ขออธิบายตามรูปนะค่ะ (ไม่รู้เพื่อนๆจะเข้าใจหรือเปล่านะ แต่เดีี๊ยนพยายามให้อธิบายให้เพื่อนงงๆที่สุดจะได้เปาไปศึกษาค่ะ)ภาพนี้เป็นแผนที่บอกเส้นรถไฟ RER ค่ะ แบ่งทั้งหมด 5 โซน สังเกตุตัวเลขสีส้มนะค่ะ และเส้นทางรถไฟแต่ละสายจะบอกเป็นตัวอักษรเครดิตภาพจากเว็ปไซต์ Paris by trainส่วนภาพนี้คือแผนที่รถไฟ Metro+RER+ เฉพาะโซน 1 กับโซน 2 นะค่ะ โดยรถไฟ Metro นั้นมีทั้งหมด 16 สาย ใช้ตัวเลขบอกและสีบอกเส้นทางของแต่ละสายค่ะ จะเห็นได้ว่าเส้นทางรถไฟจะชุกชุมมากๆ ดูครั้งแรกก็งงแบบสุดจนหลุดโลกไปเลยล่ะค่ะ ยังไงเพื่อนๆคนใหนที่จะแบกเป้ลุยเดี่ยวไปเที่ยวปารีสครั้งแรกคนเดียว ศึกษาแผนที่เดินทางให้ดีนะค่ะ จะได้ไม่ปวดเศียร เวียนเกล้าเครดิตภาพจากเว็ป Paris by trainซึ่งสัญลักษณ์นี้มีประโยชน์เพื่อสะดวกในการดูแผนที่และเป็นป้ายสัญลักษณ์ของรถไฟแต่ละสายด้วยค่ะตามภาพจะเห็นรถไฟ Metro Line มีทั้งหมด 14 สายหลัก และสายลูกอีก 2 หลัก รวมเป็น 16 หลักส่วนรถไฟ RER line นั้นจะมีเฉพาะ 5 สายแบ่งตามโซนไปเลยค่ะราคาบัตร Ticket+Tราคาตั๋วเที่ยวเดียว เริ่มต้น 1.9 ยูโรแต่ถ้าให้คุ้มแบบเดินทางบ่อยก็ซื้อแบบ 10 ใบไปเลยเพื่อให้เพื่อนๆและคุณผู้อ่านทุกคนเห็นภาพการเดินทาง ดิฉันขอมารีวิวการเดินทางด้วยรถไฟ Metro จากเริ่มต้นสถานี Opera ไปยังโรงแรมที่พัก ซึ่งอยู่ใกล้สถานี Ledru-Rollin มาเป็นตัวอย่างให้เพื่อนได้ดูกันหลังจากที่นั่งรถบัสโดยสารจากสนามบินฝรั่งเศส เข้ามาจอดสุดสายที่สถานีโอเปร่าแล้วนะค่ะ จากนั้นเดี๊ยนก็แบกเป้ใบใหญ่เดินลงมาที่สถานีรถไฟใต้ดิน สถานี Opera เดินลงมาครั้งแรกก็จะงงๆหน่อยค่ะเดินลงมาจะมีป้ายบอกเส้นทางของรถไฟ Metro แต่ละสายค่ะ จะเห็นว่ารถไฟ Metro ใช้ตัวเลขเป็นสัญลักษณ์ของเส้นทางแต่ละสายค่ะ อย่างในป้ายบอก รถไฟRER สาย A ผ่านสถานีนี้ และรถไฟ Metro สาย 3,7,8 ผ่านสถานีนี้ค่ะโดยจุดมุ่งหมายของเดี๊ยนคือ เดินทางจาก Opera ไปสถานี Ledru-Rollin ซึ่งเป็นรถไฟ Metro สาย 8 หากดูในแผนที่จะเป็นสายสีม่วงค่ะมีข้อมูลแผนที่บอกเส้นทางให้ดูด้วยค่ะ ว่าตอนนี้เราอยู่ที่ใหนจะได้ไม่เกิดอาการอิสสะงงๆขอยกตัวอย่างการเดินทางด้วยรถไฟ Metro สาย 8 สีม่วงตามภาพเลยนะค่ะ โดยเดี๊ยนจะเริ่มเดินทางจากสถานี Opera ไปยังที่พักซึ่งอยู่ใกล้ๆกับสถานี Ledru-Rollin ตามที่วงกลมสีแดงไว้ค่ะ ซึ่งต้องไปขึั้นชานชลาที่ป้ายสถานี Creteil เนื่องจากว่ารถไฟวิ่งมาจากสถานี Balard ตามวงกลมสีขาวค่ะ โดยที่สถานีจะมีป้ายบอกทางให้ค่ะ ยังไงเพื่อนๆ เรียนรู้การดูแผนที่มาก่อน ก็จะเข้าใจง่ายขึ้นค่ะขยายภาพอีกครั้งนะค่ะ เผื่อตัวหนังสือในแผนที่เล็กไป นั่งรถไฟ Metro สาย 8 สีม่วงจากสถานี Opera ไปลงที่สถานี Ledru-Rollinสำหรับการซื้อตั๋วรถไฟโดยสาร สามารถซื้อกับเจ้าหน้าที่ได้เลยค่ะ หรือจะซื้อผ่านเครื่องก็ได้ แต่ถ้ากลัวงงๆก็ซื้อผ่านเจ้าหน้าที่ก็จะสะดวกกว่าเพราะสามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ได้ด้วยเนื่องจากพึ่งมาครั้งแรก ก็เลยซื้อแบบเที่ยวเดียวก่อนค่ะ ราคาบัตรโดยสาร 1.9 ยูโรพอได้บัตรมาแล้วก็เดินผ่านประตูแบบนี้นะค่ะ มองไปเหมือนเครื่องออกกำลังแขนในฟิตเนสเลยนะค่ะเมื่อเดินผ่านประตูมาแล้วก็มาดูแผนที่ว่าจะผ่านสถานีอะไรบ้างการเดินทางครั้งนี้ เริ่มต้นที่สถานี Opera ไปที่สถานี Ledru-Rollin โดยต้องไปขึ้นรถไฟที่ชานชลาป้าย Creteil ค่ะ ตามภาพเลยนะค่ะเดินเข้ามาก็จะเป็นอุโมงค์รอรถไฟแบบนี้เลยค่ะ ดูน่ากลัวอิสสะนึดนึงนะค่ะ เนื่องจากดึกมากๆแล้ว บางครั้งเดี๊ยนก็กลัวจะมีเจ้าปีศาจ เอเลี่ยนหลุดออกมาจากช่องมุมมืดเหมือนกันนะค่ะป้ายที่เห็นเป็นป้ายบอกทางไปยังรถไฟสายอื่น ส่วนป้ายที่เขียนว่า Sortie แปลว่าทางออกค่ะ เดี๊ยนเรียกว่า ป้ายอาซ้อ มาที่ฝรั่งเศสไม่มีป้ายเขียนว่า Exit เลยนะค่ะ ดังนั้นหากเพื่อนเห็นป้ายอาซ้อ แสดงว่าทางออกแน่นอนค่ะรอไม่นานนัก รถไฟก็มาโดยทันทีเลยนะค่ะ พอขึ้นรถไฟมาแล้ว เนื่องจากขบวนที่เดี๊ยนขึ้นมานี้ ไม่มีการประกาศแจ้งว่าถึงสถานีใหนแล้วบ้าง และก็ไม่มีเสียงประกาศว่า พลีสมันเด้อเกต บีทวีนเทรนแอนด์พลักฟอม (Please mind the gap between the train and platform)เหมือนรถไฟ BTS และ mrt ในบ้านเราดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือการสังเกตุป้ายสถานีที่ผ่านแต่ละสถานีผ่านทางกระจกเอาค่ะ ถ้าไม่ดู รับรองว่านั่งสุดสาย ร้องให้ขี้มูกโป่งแน่นอนจ้า หากเกิดสมมุตินั่งผิดสาย ก็มาเริ่มต้นใหม่ หรือดูป้ายแผนที่และชานลาให้ถูกต้องค่ะและแล้วก็ถึงสถานีรถไฟ Ledru Rollin แล้วค่ะ ตอนนั่งรถไฟมาก็เมื่อยคอตลอดค่ะ เพราะต้องชะเงอดูเงียบทุกสถานีนะค่ะ ว่าถึงสถานีหรือยัง เกรงจะนั่งเลยเถิดไปไกล ทำให้เสียเวลาค่ะพอถึงสถานีปลายทางแล้ว เดี๊ยนก็เดินแบกเป้ ท่ามกลางความมืดและความหนาวเย็นของอากาศ เปิดมือถือให้ GPS นำทางไปยังที่พักค้างแรมค่ะจากสถานีรถไฟ Metro Ledru Rollin เดินมาไม่ไกลนัก ก็ถึงที่พักคืนนี้แล้วค่ะพักที่ โอแบร์ฌ แองแตร์นาชิโอนาล เด เฌิน (Auberge Internationale des Jeunes) ชื่อโรงแรมเรียกยากมากๆ เป็นที่พักแนวโฮสเทล ห้องนอนรวม ราคาหลักร้อย ห้องน้ำรวม มีอาหารเช้าให้ทานฟรีนะ เน้นแค่นอน อย่าไปคิดอะไรมาก แต่ก็กระชากใจเว่อร์เหมือนกันนะทำการ check in เข้าพักมีกุญแจแบบคีย์การ์ดให้ค่ะได้ห้องพักชั้น 4 โรงแรมไม่มีลิฟท์นะค่ะ เดินขึ้นบันใด ขาแทบลากเลยค่ะแล้วเป็นบันใดแคบๆ เดินวนขึ้นไปเรื่อยๆ เวียนหัวเหมือนกันนะค่ะ มันเป็นบันใดวน เหมือนขนมเกลียวอะไรแบบนั้นเลย โอ้ย…เดี๊ยนจะเป็นลมค่ะห้องพักคืนนี้ เตียงเดียว มี 3 เตียงใน 1 ห้อง ตอนนอนก็มีแขกพักอยู่อีกเตียง แต่นางนอนไปก่อนล่ะ เพราะดึกมากๆแล้วค่ะสภาพห้องพักพอใช้ ไม่ดี ไม่แย่ พอถูไถๆ ถือว่าราคาถูกมากนะค่ะ เพราะปกติโฮสเทลในปารีส ราคาก็ปาไปเป็นพันกว่าแล้วค่ะ แต่ที่นี้ราคาแค่หลักร้อย สงสัยที่ราคาถูก เพราะไม่ได้อยู่ในย่านท่องเที่ยวด้วยกระมัง หากเพื่อนๆคนใหนที่มองหาที่พักหลักร้อยอยู่ ก็มาพักที่นี้ได้นะค่ะ คือแบบพอพักได้ แต่เดินบันใดขาลากเลยค่ะ และห้องอาบน้ำในชั้นก็มีอยู่ 2 ห้อง ห้องส้วมอีก 2 ห้องเวลาปวดอึ ก็ต้องอั้นไว้เหมือนกัน เพราะต้องต่อคิว หากจะเดินไปอึ ด้านล่าง ก็เกรงจะไม่ทัน ขี้แตกเสียก่อน โอ้ยเดี๊ยนจะเป็นลม—————————————————อ้อเกือบลืม สำหรับเพื่อนๆที่ถามกันไว้ว่า มีวิธีการซื้อตั๋วรถไฟ Metro ผ่านตู้ขายเครื่องอัตโนมัติใหม๊ในบล็อกนี้เดี๊ยนก็เลยนำภาพมาลงไว้ในบล็อกด้วย แต่ทำไม่สุดขั้นตอน เนื่องจากธนบัตรที่เดี๊ยนถืออยู่นั้นเป็นแบงค์ 50 กับ แบงค์ 100 ยูโร ก็เลยนำแต่วิธีเบื้องต้นมาให้ดูค่ะ น่าจะเป็นแนวทางได้นะค่ะการซื้อตั๋วผ่านเครื่องขายบัตรโดยสารอัตโมนัติแบบทำเองได้ ตู้ขายบัตรเป็นปุ่มกดเอา และมีตัวเลือกเมนูอยู่ตรงกลางใ มีปุ่มสีแดงด้านซ้ายน่าจะหมายถึงไม่เอา ยกเลิก ส่วนปุ่มสีเงินหมายถึงตอบตกลงเริ่มแรกไปที่เมนูภาษาอังกฤษก่อนเลยค่ะจากนั้นก็ใช้มือเลื่อนแท่งยาวๆตรงกลางเพื่อมาเลือกเมนู Ture the roller press validerจากนั้นก็เลื่อนเมนูมาเลือกที่ Buy ticketsพอเลือก buy ticket แล้วจะขึ้นเมนูมาให้เราเลือกบัตรโดยสารหลายแบบค่ะอันนี้เราจะซื้อบัตรโดยสารรถไฟก็เลือก Ticket T ค่ะพอกดเลือก Ticket+T มาแล้วก็จะมาให้เลือกFull Fare คือตั๋วราคาเต็มReduced fare -10 year old คือตั๋วสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปีให้เราเลือก Full fareทีนี้พอกดเลือก Full fare แล้วก็จะมาให้เลือกจำนวนตั๋วค่ะ ซึ่งให้เลอกตั้งแต่ 1-20 ใบเลยค่ะถ้าไปเที่ยวเดียวก็เลือก 1.90 ยูโรแต่ถ้าซื้อจำนวน 10 ใบก็ 14.9 ยูโรพอถึงหน้านี้แล้ว เดี๊ยนก็ต้องหยุดสต๊อป เพราะมีแต่แบงค์ใหญ่อยู่ดีก็เลยตัดสินใจไปซื้อกับเจ้าหน้าที่ สะดวกกว่าค่ะซื้อกับเจ้าหน้าที่จ่ายกับบัตรเครดิตไปเลย ได้ทั้งหมด 10 ใบตามภาพ เอาไว้เดินทางในตัวเมืองย่านโซน1-2ค่ะแผนที่การเดินทางในกรุงปารีส และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆยังไงเพื่อนลองไปศึกษากันดูนะค่ะเข้าไปดูข้อมูลการเดินทางได้ที่เว็ปไซต์ https://parisbytrain.com/ และเว็ปไซต์ : https://www.ratp.fr/en เอาเป็นรีวิวทริปการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า Metro ในกรุงปารีส จากสถานี Opera มายังสถานี Ledru-Rollin ก็ขอจบเพียงเท่านี้นะค่ะ เดี่ยวมารีวิวต่อในบล็อกถัดไป จะพาเที่ยวกรุงปารีสแล้วค่ะ ยังไงต้องขอขอบพระคุณเพื่อนทุกๆท่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่านและปวดหัวไปด้วยกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไปนะค่ะ————————————————————————————

[NEW] กรมองค์การระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ Department of International Organizations Ministry of Foreign Affairs | กรุงปารีส – NATAVIGUIDES

     ปัญหาโลกร้อนและภัยพิบัติทางธรรมชาติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันซึ่งดูจะทวีความรุนแรง และปรากฏให้เห็นบ่อยครั้งขึ้นในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก เป็นปัญหาที่น่ากังวลและถือเป็นความท้าทายอันยิ่งใหญ่ของโลกขณะนี้ ซึ่งมีสาเหตุสำคัญมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประชาคมโลกจึงให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากอดีต และได้ร่วมกันพิจารณาหาแนวทางแก้ไข โดยเฉพาะนับตั้งแต่ทศวรรษ 1990 เป็นต้นมาที่มีการจัดตั้งกลไกหลักภายใต้กรอบสหประชาชาติขึ้น 2 กลไก คือ กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change – UNFCCC) ค.ศ. 1992 และพิธีสารเกียวโต (Kyoto Protocol – KP) ค.ศ. 1997 ซึ่งประเทศไทยเป็นรัฐภาคี ของทั้งสองกลไกนี้ด้วย

     แม้ว่าจะมีการจัดตั้งกลไกดังกล่าวขึ้นเป็นเวลาเกือบ 2 ทศวรรษแล้ว แต่ด้วยสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รัฐภาคีกรอบอนุสัญญาฯ จำเป็นต้องเจรจาความตกลงด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศฉบับใหม่ จนในที่สุดสามารถตกลงกันได้ระหว่างการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาฯ สมัยที่ 21 (COP21) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2558 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จนเกิดเป็น ความตกลงปารีส (Paris Agreement) ซึ่งมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้

      (1) ประเทศต่าง ๆ ตั้งเป้าหมายร่วมกันขั้นพื้นฐานที่จะรักษาการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ย ของโลกให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส และในขณะเดียวกัน กำหนดเป้าหมายที่สูงขึ้นไว้ควบคู่กันว่าจะพยายามรักษาการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกให้น้อยลงไปอีกจนถึงต่ำกว่า 1.5 องศาเซลเซียส หากสามารถกระทำได้ โดยการดำเนินการดังกล่าวจะยึดหลักความเป็นธรรม (equity) และหลักความรับผิดชอบร่วมกันในระดับที่แตกต่างของประเทศพัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนาด้วย โดยคำนึงถึงศักยภาพของแต่ละประเทศตามสภาวการณ์ของประเทศที่แตกต่างกัน (common but differentiated responsibilities and respective capabilities, in the light of different national circumstances)

      (2) ความตกลงฯ ครอบคลุมการดำเนินการในประเด็นต่าง ๆ อาทิ (1) การลดก๊าซเรือนกระจก (2) การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (3) การเพิ่มความสามารถในการฟื้นตัวจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (4) ความโปร่งใสของการดำเนินการ และ (5) การให้การสนับสนุนในด้านต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงทางการเงิน โดยรัฐภาคีต้องมีข้อเสนอการดำเนินการที่เรียกว่า nationally determined contribution (NDC) ของประเทศทุก ๆ 5 ปี

     ความตกลงปารีสถือเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่งของการดำเนินการด้านการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศของประชาคมโลก ซึ่งภายหลังจากการประชุมกันที่กรุงปารีสข้างต้น ประเทศต่าง ๆ ได้มารวมตัวกันอีกครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2559 ในพิธีลงนามความตกลงอย่างเป็นทางการ ซึ่งไทยได้ร่วมลงนามกับประเทศต่าง ๆ จำนวนมากกว่า 180 ประเทศด้วย และต่อมา เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2559 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ ครั้งที่ 71 ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ได้มอบสัตยาบันสารเข้าเป็นภาคีความตกลงปารีสของไทยให้กับนายบัน คีมูน เลขาธิการสหประชาชาติแล้วระหว่างการเข้าร่วมกิจกรรม High-level Event on the Ratification of the Paris Agreement ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2559 ได้มีประเทศต่าง ๆ เข้าร่วมเป็นภาคีความตกลงปารีสแล้วมากกว่า 55 ประเทศ และคิดเป็นระดับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมกันเกินกว่าร้อยละ 55 ของโลก อันเป็นเงื่อนไขสองประการที่ความตกลงกำหนด ส่งผลให้ความตกลงปารีสมีผลใช้บังคับภายในสามสิบวัน คือ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2559 (สามารถตรวจสอบสถานะปัจจุบันของประเทศที่เข้าร่วมเป็นภาคีความตกลงปารีสได้ที่ http://unfccc.int/paris_agreement/items/9485.php ) นับจากนี้ ประเทศต่าง ๆ จึงต้องเร่งดำเนินการเพื่อให้สามารถปฏิบัติตามความตกลงได้ ในส่วนของไทย รัฐบาลไทยได้กำหนดเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 20 – 25 ภายในปี ค.ศ. 2030 ผ่านการดำเนินการในสาขาต่าง ๆ อาทิ พลังงาน ขนส่ง และป่าไม้ ซึ่งหากผู้ที่เกี่ยวข้องในแต่ละสาขาและคนไทยทุกคนร่วมมือกัน ก็เชื่อว่าการดำเนินการให้เป็นไปตามเป้าหมายคงไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม


สุสานใต้ดินกรุงปารีส ‘Paris Catacombs’ ไทม์ไลน์และประวัติ


เมื่อคนนึกถึงกรุงปารีส เขาจะนึกถึงเมืองสวย โรแมนติก
แต่รู้ไม่ครับว่าภายใต้กรุงปารีส มีสุสานยักษ์ที่มีศพมากกว่า 1 ล้านศพ
สุสานนี้ถูกสร้างทำไม มาดูกันครับ
[หัวข้อ]
0:00 Intro
0:42 1400 เหมืองหินปูน
2:23 1774 ถึง 1777 ปัญหาแรก
4:11 1778 ถึง 1782 ปัญหาที่สอง
6:57 1785 ถึง 1800 สุสานใต้ดินกรุงปารีส
8:16 1900 ถึง 1999 สงครามโลก
9:06 2000 ถึง ประจุบัน ภาพยนตร์
========== Donate ==========
https://www.paypal.me/empiristcom
เพื่อเราจะได้สร้างคอนเทนต์ไปเรื่อยๆ
empirist เป็นชื่อของเราครับ
========== Contact ==========
[email protected]
ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ Facebook
Facebook: https://www.facebook.com/reanruchannel
YouTube: https://bit.ly/3iHlWxy

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

สุสานใต้ดินกรุงปารีส 'Paris Catacombs' ไทม์ไลน์และประวัติ

หนุ่มไทยโพสต์เตือนภัย หลังไปเที่ยวกรุงปารีส | 10-11-61 | ไทยรัฐนิวส์โชว์


หนุ่มไทยโพสต์เตือนภัย หลังไปเที่ยวกรุงปารีส แล้วถูกแท็กซี่รีดค่าโดยสาร ร่วม 10,000 บาท แถมล็อคประตูไม่ยอมให้ลง ตำรวจตามล่าตัวคันขับแล้ว

ติดตามเราได้ที่
Website : http://www.thairath.tv
Facebook : https://www.facebook.com/thairathtv
Twitter : https://twitter.com/Thairath_TV
Instagram : https://instagram.com/thairathtv
Youtube Channel : https://www.youtube.com/channel/UCrFDdDEE05N7gjwZho2wqw

หนุ่มไทยโพสต์เตือนภัย หลังไปเที่ยวกรุงปารีส | 10-11-61 | ไทยรัฐนิวส์โชว์

Bird’s Eye View – สัมผัสความงดงาม..แห่งกรุงปารีส (2/3)


ชมความสวยงามยิ่งใหญ่ ณ มหาวิหารนอเทรอดาม ความงามของสิ่งก่อสร้างที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ณ หอไอเฟล ความยิ่งใหญ่งดงามอลังการของมรดกโลกทางวัฒนธรรม ณ พระราชวังแวร์ซาย ปราสาทเทพนิยายแสนสวยแห่งเมืองอูรส์ซวีลเย ณ ปราสาทโอต์เกอนิกส์บูร์ก\r
Countdown เฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ณ ประตูชัยฝรั่งเศส ร่วมออกเดินทางไปสัมผัสความงดงามแห่งกรุงปารีส กับรายการมองมุมใหม่ Bird’s Eye View\r
\r
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com \r
และช่องทาง social media \r
facebook : https://www.facebook.com/PPTVHD36 \r
twitter : https://twitter.com/PPTVHD36 \r
instagram : https://www.instagram.com/pptvhd36/ \r
google+ : https://plus.google.com/+PPTVHD36

Bird’s Eye View - สัมผัสความงดงาม..แห่งกรุงปารีส (2/3)

ไกลบ้าน EP47 เมือกคางคก เทคนิควางยาพิษในราชสำนักฝรั่งเศส


อย่าเพิ่งเบื่อปารีสกันนะคะ เทปนี้เจ๊ป้องกลับมาพร้อมเรื่องเล่าล้านแปดแห่งกรุงปารีส มีพี่หน่องมาเดินเขินๆด้วยยย ขอบคุณทุกคนที่ชวนเพื่อนมาดูค่ะ ดีใจๆๆ

ไกลบ้าน EP47 เมือกคางคก เทคนิควางยาพิษในราชสำนักฝรั่งเศส

ไกลบ้าน EP37 ตัวละครลับหมายเลขหนึ่ง (Stanford University, California)


งานหมักดองข้ามปี เทปนี้พี่เต้ขับรถพาพี่ฟาเที่ยว ฤกษ์ดีเปิดตัวพี่หน่อง ตัวละครลับที่โผล่มาแค่เสียง พี่หน่องจะพาเที่ยวมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดที่นางร่ำเรียนมา เทปนี้ใช้ไม้กันสั่นอันใหม่ค่ะ ด้วยความโง่ของพี่ฟา กดผิดโหมด หน้าใหญ่เต็มจอเลย ขออภัยด้วยนะคะ ดูแล้วแท็กสตอรี่ไอจีมาบอกกันที่ @ladyfarose นะคะ ขอบคุณที่รอ จุ๊บบบ

ไกลบ้าน EP37 ตัวละครลับหมายเลขหนึ่ง (Stanford University, California)

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่MAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ กรุงปารีส

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *