Skip to content
Home » [Update] มาดู 10 คำด่าภาษาอังกฤษ ถึงไม่ได้ใช้ก็ควรรู้เอาไว้ | ท่าทาง ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

[Update] มาดู 10 คำด่าภาษาอังกฤษ ถึงไม่ได้ใช้ก็ควรรู้เอาไว้ | ท่าทาง ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

ท่าทาง ภาษาอังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้

ออกตัวก่อนเลยว่าหัวข้อที่เราจะนำเสนอในวันนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนให้เอาไปด่าฝรั่ง หรือพูดจาดูถูกใครๆเค้านะคะ แต่อย่างว่า การเรียนรู้ภาษาอังกฤษให้ได้ดี มันไม่ใช่แค่เรื่องไวยากรณ์ถูกต้องแล้วจบ แต่เราต้องเรียนรู้เรื่องวัฒนธรรม และบริบททั่วไปด้วยเพื่อเข้าใจภาษาอังกฤษและใกล้ชิดกันมากขึ้น ซึ่ง “คำด่าภาษาอังกฤษ” ก็เป็นหนึ่งในนั้น

Table of Contents

หลายคนอาจจะถามว่า ทำไมคำด่าถึงมีส่วนช่วยในการเรียนและเข้าใจวัฒนธรรมของฝรั่งล่ะ?

ลองนึกถึงตอนเราดูหนังหรือซีรี่ย์ฝรั่งดูนะคะ ลองนึกตามว่าในหนังเรื่องนั้นตัวละครทุกตัวเค้าพูดจาไพเราะเพราะพริ้งกันตลอดเวลาเลยหรือเปล่า แล้วลองนึกถึงตัวเราเองว่าโดยปกติเราพูดใช้คำสุภาพตลอดเลยหรือเปล่าแม้แต่ตอนอยู่กับเพื่อน พอจะเข้าใจกันแล้วใช่มั้ยคะ บางครั้งในการพูดปกติของคนเราก็ต้องมีการด่า การสบถบ้างเป็นครั้งคราว เพื่อเพิ่มอรรถรสในบทสนทนา

งั้นไม่ต้องรอช้า มาเริ่มจากคำเนื้อหาเบาๆใสๆ ไม่มีอะไรมาก แล้วค่อยเพิ่มระดับกันขึ้นไปเรื่อยๆกันดีกว่านะคะ

swear words

คำด่าภาษาอังกฤษ

Damn (แดม) 

คำนี้ได้ยินบ่อยกันเลยใช่มั้ยคะ เอะอะก็ damn เอะอะก็ damn กันอยู่นั่นแหละ เจอหลายที่ด้วย ในพจนานุกรมจะบอกว่าคำนี้เทียบเท่าคำว่า “ให้ตายเถอะ” แต่ในหลายบริบทคำนี้ก็ให้ความหมายที่ต่างออกไป สรุปมันแปลว่าอะไรกันแน่นะ

1) คำสบถที่แสดงความเจ็บปวด ความเศร้า หรือความโกรธ

เช่น God dammit / damn / dammit  (ประมาณว่า โอ้ย! โธ่เว้ย! ให้ตายสิ! อันนี้พอพูดแล้วจะเหมือนเจ้าของภาษาเพิ่มขึ้นอีกนิด)

2) แสดงความผิดหวัง หรือหัวเสียกับการกระทำของคนอื่น

เช่น A: Hey man, I lost your phone. ( แกชั้นทำมือถือแกหายอ่ะ)
B: Damn you!  (โธ่ไอ้บ้าเอ๊ย! หรือ ให้ตายสิ)

3) ใช้แสดงความรู้สึกว่าบางสิ่งสุดยอด ตื่นตาตื่นใจ

เช่น A: Whoa, check out the sunrise! (ว้าว ดูพระอาทิตย์ขึ้นนั่นสิ)
B: Damn! (ถ้าเทียบกับภาษาไทยคงเหมือนคำว่า โอ้วจอร์ช มันยอดมากกก)

4) ใช้แสดงความผิดหวังหรือท้อใจ

เช่น A: I can’t find my key ( ฉันหากุญแจฉันไม่เจออ่ะแก)
B: Damn… (ความหมายในบริบทนี้จะประมาณว่า โธ่เอ้ย แล้วตามด้วยเสียงถอนหายใจพรืดอย่างหนักใจ เอาอีกแล้วแกทำหายอีกแล้ว!)

5) ใช้แสดงความรู้สึกว่าไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้นเท่าไหร่

เช่น A: Hey, what do you want for dinner? (นี่ เย็นนี้แกอยากกินอะไรอ่ะ)
B: I don’t give a damn. (ความหมายในที่นี้จะเหมือนคำว่า อะไรก็ได้ หามาเหอะ กินหมด)

6) ใช้เพื่อให้ความรู้สึกเชิงลบกับบางสิ่ง

เช่น That damn teacher gave us a ton of homework. (ไอ้ครูคนนั้นนี่สั่งการบ้านเยอะเกินไปแล้วนะ!)

Hell (เฮล)

ถ้าเปิดพจนานุกรมความหมายตรงตัวคำนี้คือ นรก แดนอเวจีที่ร้อนระอุ มีต้นงิ้ว มีคนทำผิดโดนลงโทษอยู่ แหม คำอะไรช่างเหมาะแก่การนำมาสาปแช่งซะเหลือเกิน ลองมาดูกันนะคะว่าคำนี้เค้าสามารถมีความหมายในเชิงไหนได้บ้า

1) ใช้สื่อความหมายว่าเหตุการณ์บางอย่างไม่น่าจะเกิดขึ้นได้

เช่น A: Hey man, do you think Yaya will go out with me?
(เฮ้ย แกว่าน้องญาญ่าเค้าจะยอมไปเที่ยวกับฉันป่ะวะ)
B: Yeah, when hell freezes over.
(แปลตรงตัวคือ น้องเค้าไปแน่ ตอนนรกจะกลายเป็นน้ำแข็งอะนะ หรือพูดง่ายๆคือ ฝันไปเหอะเอ็ง โอกาสเป็นศูนย์ถึงติดลบ)

2) ใช้แสดงความโกรธ

เช่น A: I want to break up with you. (ฉันเลิกกับเธอ)
B: Go to hell. (ค่ะ ตรงตัวเลยก็คือ ไปลงนรกซะ หรือไปตายซะนั่นเอง )

3) ใช้บอกว่าไม่ใช่สิ่งสำคัญ

เช่น A: I can’t find a condom. (ฉันหาถุงยางไม่เจอ)
B: To hell with it! (จากบริบทนี้ก็เหมือนกับคำว่า ช่างแ-่งเถอะน่า ในภาษาไทย เหตุการณ์คับขันแบบนี้ก็ช่างมันเหอะ)

4) ใช้ในการตอบคำถามพวก Yes/No question

เช่น A: Do you want to come to Yoga class on Sunday? (เธอๆ มาเรียนโยคะวันอาทิตย์ด้วยกันปะ)
B: Hell yeah! (จัดไป!) / Hell no! (ไม่อ๊าววว!)

Ass (แอสฺ)

ความหมายตรงตัวคือ ก้น พบเห็นบ่อยๆก็ asshole มักจะใช้อธิบายคนๆหนึ่งในทางไม่ดีเท่าไหร่ (แหงล่ะ)

1) ใช้ด่าคนว่าโง่

เช่น A: Did you see Johnny pick his nose on TV? (นายเห็นที่จอนนี่แคะขี้มูกตอนออกทีวีมั้ย)
B: Yeah, he made an ass out of himself. (เออสิ เขาทำให้ตัวเองให้ดูโง่ไปเลย)

2) ใช้บอกว่าคนๆหนึ่งมีนิสัยแย่ หรือเลวร้ายมาก

เช่น A: That dude just knocked my paper out of my hands and didn’t stop to help or even apologize. (ไอ้หมอนั่นชนฉันจนงานหล่นหมด และไม่ช่วยเก็บหรือขอโทษด้วยซ้ำ)
B: What an ass(hole).  (ประมาณว่า ไอ้บ้านี่! / โคตรเลว! หรืออาจหยาบกว่านั้นอีกหนึ่งสเต็ป)

3) ใช้บอกจำนวนที่มาก หรือเยอะ มีค่าเท่ากับคำว่า โคตรเยอะ

เช่น There was an ass load of parent there last night. (เมื่อคืนมีผู้ปกครองมาที่นั่นโคตรเยอะ)

4) อีกวิธีในการชมว่าเจ๋ง

เช่น That movie was bad ass. (หนังเรื่องนั้นโคตรเจ๋งเลย)

5) ใช้ตอบโต้คนที่อยากได้บางสิ่งจากเราแต่เราไม่อยากให้

เช่น A: Hey you! Get back here. (เฮ้ยแก! กลับมานี่นะ)
B: Kiss my ass (ไม่ได้แปลว่าให้ “มาจูบก้นฉันสิ” นะคะ แต่เป็นลักษณะของการท้าทายมากกว่า อารมณ์เหมือน “ไม่เว้ย” หรือ “ไม่มีวันซะหรอก”)

6) ใช้เพื่อขยายคำวิเศษณ์ (Adjective) ต่างๆ ให้ดูรุนแรงหรือให้ความรู้สึกมากขึ้น

เช่น Dude, check out those hot ass bitches!” (เฮ้พวก ดูสาวๆสุดฮอตพวกนั้นสิ)
Damn, look at those ugly ass teeth! (ให้ตายเถอะ ดูฟันมันสิ โคตรน่าเกลียดเลย)
Get ready for this hard ass test! (เตรียมพร้อมทำข้อสอบบรมโคตรยากนี้ซะ)

Piss (พิซฺ)

เป็นคำหยาบของคำว่า ฉี่ (Pee / Urine)

1) ใช้แสดงความโกรธ

เช่น I’m pissed off! (ฉันโกรธแล้วนะเว้ยยย)

2) ใช้แทนคำว่าเมา (drunk) แต่นิยมใช้กันในอังกฤษ อเมริกาไม่ใช้คำนี้

เช่น He was pissed last night. (เมื่อคืนเขาโคตรเมาเลย)

3) ใช้สำหรับการขับไล่ไสส่งเมื่ออยากอยู่คนเดียวอย่างหยาบ

เช่น A: Hey, you want some help? (เฮ้ยแก มีอะไรให้ช่วยมั้ย)
B: Piss off. (ไปไกลๆเลยปะ หรืออย่างหยาบก็คือไสหัวไปเลย)

4) เป็นอีกวิธีหนึ่งเพื่อบอกว่าฝนตกขนาดไหน

เช่น It’s pissing down rain. (ฝนตกหนักมาก)

Bitch (บิทชฺ)

คำนี้มักเป็นคำด่าที่ใช้กับเพศหญิงเป็นส่วนใหญ่ อาจบอกว่าเทียบเท่าคำว่า อี แบบ อีนั่น อีนี่ ความหยาบระดับสูงพอสมควรเลยค่ะ

1) ไว้ด่า

เช่น A: These pants are too big, mosquitoes keep biting me. I don’t like this place. (กางเกงตัวนี้ใหญ่ไป ยุงก็คอยแต่จะกัดฉัน ฉันไม่ชอบที่นี่เลย)
B: Hey, stop your bitching  (นี่ หยุดบ่นได้แล้วดีออก!)

2) อาจหมายถึงการบ่น

เช่น My wife just bitched me out over the phone. (เมียฉัยเพิ่งจะบ่นฉันผ่านโทรศัพท์เมื่อกี้นี้เอง)

3) ใช้บอกว่าเจ๋ง หรือ สนุก

เช่น Dude, the party was bitching last night! (งานปาร์ตี้เมื่อคืนโคตรมันส์เลย!)

4) เอาไว้ใช้ตอบกลับความเห็นโง่ๆ

เช่น A: Give me $20. (เอาเงินมาให้ฉัน 20 ดอลลาร์หน่อย)
B: Bitch please. (บริบทนี้ก็จะเป็นเชิงบอกว่า จะบ้าเหรอ ฝันไปเถอะแก)

5) หมายถึงที่นั่งตรงกลางของเบาะรถ

เช่น Hey Jim, you’ve got to ride bitch because you’re the smallest.  (จิม แกต้องนั่งตรงกลางนะเพราะแกตัวเล็กสุด)

6) หมายถึงการตบด้วยหลังมือ

เช่น Did you see that? She just got bitch slapped! (แกเห็นมั้ย ยัยนั่นเพิ่งโดนตบด้วยหลังมือไปน่ะ)

Cock (ค็อก) / Dick (ดิ้กคฺ) 

คำว่า cock มีอีกความหมายคือไก่ตัวผู้ แต่ที่แน่ๆส่วนใหญ่คนทั่วไปเค้าไม่ได้เข้าใจกันอย่างนั้นหรอกค่ะ เมื่อได้ยินสองคำนี้ ความหมายตรงๆคืออวัยวะเพศชายค่ะ คือถ้าโดนด่าคำนี้ก็คงไม่น่าอภิรมย์แน่ๆ แต่ที่เอามาใช้ก็มีในหลายบริบทเหมือนกัน

1) ใช้ในกรณีที่ผู้ชายถูกฝ่ายหญิงปฏิเสธหรือตัดโอกาสในการที่จะไปเที่ยวด้วยกัน

เช่น A: Dude, that girl just grabbed her friend and took her away. (เฮ้ยเพื่อน ผู้หญิงคนนั้นเพิ่งจะมาดึงมือเพื่อนเธอแล้วพาออกเอง)
B: What a cock block. (ในบริบทนี้จะหมายถึงว่า อดแอ้มแล้วล่ะแก)

2) ใช้อธิบายคนนิสัยเสีย หรือเห็นแก่ตัว

เช่น That dick took up two parking spots. (ไอ้บ้านั่นเอาที่จอดรถไปสองที่เลย ดูมันสิ อันนี้คือระดับความหยาบแบบน่ารัก ของจริงมันหยาบมากกว่านี้อีกนะคะ)

Moron (โมรอน)

คำนี้ถ้าแปลตรงตัวคือคนโง่หรือ stupid นั่นแหละ แต่เราจะเอาไว้ใช้ด่าพวกไม่รู้จักกาลเทศะ ชอบทำอะไรงี่เง่าในเวลาที่ไม่เหมาะสมก็ได้ค่ะ

เช่น A: Did you see that guy talking on the phone? This is a funeral for God’s sake! (เห็นไอ้หมอนั่นคุยโทรศัพท์เปล่า กลางงานศพนะเนี่ยให้ตายเถอะ)
B: Yeah…he’s a moron! (เออจริง โคตรงี่เง่าเลยว่ะ)

Shit (ชิทฺ)

ความหมายตรงตัวเลยก็คือ อุจจาระ หรือมูลเสียต่างๆ เป็นอีกหนึ่งคำที่ใช้กันบ่อยและมีความหมายที่หลากหลาย ประกอบกับคำหลายๆคำให้อารมณ์ได้ดี

1) อาจใช้อธิบายได้ทั้งแย่มาก และเยี่ยมมาก

เช่น That movie was shit. (หนังเรื่องนั้นโคตรห่วยเลย)
That movie was the shit (หนังเรื่องนั้นโคตรดี)

เพียงแค่เติม the ความหมายก็กลายเป็นคนละเรื่อง ชีวิตเปลี่ยนเลย

2) เป็นคำอุทานในสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง หรือ ไม่อยากให้เกิดขึ้น

เช่น Holy shit! (เฮ้ยยย!)

3) หมายถึงการเมาหัวราน้ำ

เช่น A: You seemed pretty drunk last night… (แกดูเมามากเลยนะเมื่อคืนนี้)
B: Yeah, I was totally shit-faced. (ก็ใช่ เมื่อคืนฉันโคตรเมาเลย)

4) ใช้แทนคำว่า ไม่ ในแบบที่ค่อนข้างหยาบคาย

เช่น A: Excuse me sir, would you mind filling out a quick survey? (ขอโทษทีครับ คุณช่วยกรุณาตอบแบบสอบถามของเราหน่อยได้ไหมครับ)
B: Eat shit!  (อันนี้ไม่ได้ไล่ให้ไปทานอุจจาระใคร แต่เป็นลักษณะของการบอกว่าไม่เว้ย แบบหยาบสุดๆ)

5) ใช้พูดถึงความซวย

เช่น A: Oh no, my cell phone died! (โอไม่นะ มือถือฉันพัง)
B: Damn, you’re shit out of luck!  (ให้ตายสิ แกนี่โคตรซวยจริงๆ)

6) ใช้ด่าคนที่โง่

เช่น Hey dumb shit / Shit brains! (โดยรวมคือหมายถึงด่าว่าไอ้โง่ หรือไอ้หน้าโง่)

7) อาจหมายถึงการใจเย็นและพยายามมองข้ามปัญหาให้ได้

เช่น Stop crying, man. Get your shit together. (หยุดร้องไห้ได้แล้วเพื่อน ปล่อยๆมันไปเถอะ)

8) ใช้พูดแทนบางสิ่งบางอย่าง

เช่น I ain’t got time for this shit! (ฉันไม่มีเวลากับอะไรพวกนี้หรอกนะ)

9) ใช้แสดงออกว่าไม่น่าเชื่อถือ หรือไร้สาระ

เช่น A: I have three girlfriends. (ฉันมีแฟนสามคนเชียวนะ)
B:Bullshit! (ไร้สาระน่า อย่ามาโกหก)

10) ใช้แทนเรื่องทั่วๆไป หรือสิ่งที่ไม่ได้สำคัญอะไร

เช่น A: What were you guys talking about? (เมื่อกี้พวกนายพูดเรื่องอะไรกันน่ะ)
B: Oh, we were just shooting the shit. (อ๋อ เราก็พูดอะไรกันเรื่อยเปื่อยน่ะ)

11) หมายถึง ปัญหาใหญ่

เช่น A: The cops are coming! (เฮ้ย ตำรวจมา)
B: Damn, we’re in deep shit. (ให้ตายเหอะ เรากำลังจะเจอปัญหาใหญ่แล้ว ซวยแล้วอย่านี้ก็สามารถแปลได้)

12) มีความหมายว่าเลวร้ายมาก

เช่น A: Have you tried my cake? (เธอลองกินเค้กของฉันหรือยัง)
B: Yeah, it tastes like shit. (ลองแล้ว รสชาติแย่มากก)

13) ใช้เน้นคำว่า มากมาย

เช่น I got a shit ton of work done today. (วันนี้ฉันทำงานเสร็จไปเยอะมาก คำว่า ton นี่ก็มีความหมายว่าเยอะอยู่แล้ว พอเติมคำว่า shit เข้าไปก็จะดูมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าเลยค่ะ)

Cunt (คันทฺ) / Pussy (พุซซี่)

สองคำนี้เป็นคำหยาบ มีความหมายเกี่ยวกับอวัยวะเพศหญิง และนอกจากนี้แล้วคำว่า pussy ยังแปลว่า คนปอดแหก หรือ คนขี้กลัวได้อีกด้วยนะ

เช่น He screamed like a girl when he saw that snake. What a pussy. (พอเห็นงูปุ๊บไอ้นี่ร้องเสียงหลงเลย โคตรขี้ป๊อดอะ)

แต่ใน Australia จะเป็นคนละเรื่องกัน เพราะคำนี้ก็สามารถเอามาอธิบายสิ่งที่มีขนฟูและอ่อนนุ่มได้
เช่น pussy cat ก็จะแปลว่าเจ้าแมวขนฟู

และแล้วก็มาถึงคำสุดท้าย…

Fuck (ฟัคฺ)

คำนี้ความหมายตามพจนานุกรมคือการมีเพศสัมพันธ์ แต่มักนำมาใช้ในคำอุทานทั่วไป  หรือเอามาขยาย หรืออธิบายแทบจะทุกสิ่ง มักจะเจอคำนี้เป็นทั้งคำขยาย หรือทำตัวมันเองให้เป็น adjective, adverb, adverb ที่ขยาย adjective, คำนาม, เป็นส่วนหนึ่งของคำๆหนึ่ง พูดง่ายๆคือเป็นได้ทุกอย่างที่เราต้องการในประโยค โห คำบ้าอะไรสารพัดนึกจริงๆ

เพียงเติมคำว่า fuck เข้าไปทุกอย่างจะดูมีอารมณ์ ความรู้สึกรุนแรง ทั้งในทางดีและเลวขึ้นมาทันที

เช่น I fucking hate you. (ฉันโคตรจะเกลียดเธอเลย)
I fucking love you. (ฉันโคตรจะรักเธอเลย)
I don’t give a fuck about your problem (ฉันไม่แยแสเกี่ยวกับปัญหาของแกทั้งสิ้น เรื่องของแกป่ะวะ)
What the fuck? (อะไรวะเนี่ย)
I guess I’m totally fucked now. (ฉันคิดว่าฉันเจอปัญหาใหญ่แล้วว่ะ)

ประโยคพวกนี้ความหมายต่างกันสุดขั้ว แต่ล้วนแล้วแต่เอาคำว่า fuck เข้ามาเป็นส่วนประกอบให้รูสึกถึงความรู้สึกสุดโต่งทั้งชอบ เกลียด เป็นปัญหา ห่วงใย กังวล หรืออะไรก็ตาม

การเรียน “คำด่าภาษาอังกฤษ” ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องว่าเรียนเพื่อนำไปใช้ด่าใคร แต่เพื่อทำให้การพูดของเราดูธรรมชาติหรือเหมือนเจ้าของภาษามากขึ้น เหมือนที่เราเห็นในซีรีย์ฝรั่งที่เค้ามักจะใช้คำเหล่านี้เสมอในการพูดคุยกัน และเรียนเพื่อรู้ไว้ว่าไอ้ที่เราได้ยินเนี่ย เค้าด่าเราจริงๆ หรือมันมีความหมายบางอย่างที่เราไม่รู้แฝงอยู่ อย่างที่บอก ทุกอย่างต้องดูบริบทโดยรวมด้วยนะคะ

การเรียนรู้คำเหล่า จะช่วยให้เราสามารถเข้าใจและพูดภาษาอังกฤษให้เป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่คำพวกนี้ไม่ใช่ว่าเอาไว้ใช้ได้ทั่วไป คงไม่มีใครพูดคำหยาบกับคนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก หรือเวลานำเสนองานในที่ประชุมหรอก รู้ไว้เอาไปใช้ได้บ้างแต่ไม่แนะนำให้ใช้บ่อย เพราะใช้ไปนานๆก็จะพูดกันติดปาก สร้างบุคลิกที่ไม่ดีต่อสายตาคนอื่นที่มองเรานะคะ ทางที่ดีเก็บไว้พูดกับเพื่อนสนิทจริงๆก็พอเนาะ ^ ^

[Update] Verb (คำกริยา) คืออะไร มีกี่ประเภท ตัวอย่าง | ท่าทาง ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

Verb (คำกริยา) คืออะไร มีกี่ประเภท ตัวอย่าง

ในบทเรียนนี้ เราจะพูดถึงคำกริยา (verb) ในภาษาอังกฤษ โดยผู้เรียนภาษาอังกฤษจะต้องเข้าใจสิ่งต่อไปนี้

Verb คือ อะไร?

Verb (กริยา) เป็นคำ หรือ กลุ่มคำที่เป็นการแสดงออก การเคลื่อนไหวของประธาน หรือแสดงสภาวะของประธาน เช่น eat กิน, run วิ่ง, walk เดิน, see เห็น, go ไป

คำกริยาภาษาอังกฤษ มีอะไรบ้าง

คำกริยาภาษาอังกฤษประกอบด้วย Finite Verb และ Non-finite Verb

Finite Verb คือ

กริยาแท้ ซึ่งถือเป็นกริยาที่สำคัญของประโยค

Non-finite Verb คือ

กริยาไม่แท้ และจะไม่มีการผันตาม Tense หรือ ประธานที่อยู่ข้างหน้า

คำกริยา ถือว่าเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดส่วนหนึ่งของประโยคภาษาอังกฤษ เพราะถ้าไม่มีคำกริยาก็จะไม่สามารถสร้างประโยคได้

ประเภทของ Verb
Finite > Action, Linking, Auxiliary
Non-finite > Infinite, Gerund, Participle

Finite Verb
คือกริยาแท้ ถือเป็นกริยาที่สำคัญของประโยค (กริยาแท้หรือกริยาหลัก Main Verb) เป็นกริยาที่แสดงถึงกาลเวลา (Tense) หรือกริยาที่ถูกกำหนดโดยส่วนประธาน (Subject-Verb Agreement) ซึ่งอาจจะเป็นพจน์ (Number) ของนาม คือเอกพจน์หรือพหูพจน์, สรรพนามบุรุษที่ 1, 2, หรือ 3 (Person) หรือประธานอื่นๆ โดย Finite Verb แบ่งออกเป็นสามประเภท ได้แก่ Action Verb, Linking Verb และ Auxiliary Verb

Action Verb
เป็นคำกริยาที่แสดงอาการ การกระทำ มีการขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว (Movement) เช่น run, eat, read, jump, walk, swim, sing เป็นต้น

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
John eats snack. (eats เป็น Action Verb ทำหน้าที่เป็น Main Verb ของประโยค)
The girl cried at morning. (cried เป็น Action Verb ซึ่งทำหน้าที่เป็น Main Verb ของประโยค)

Linking Verb
เป็นกริยาที่ใช้เชื่อม Subject กับคำอื่นเพื่อขยายประธานของประโยคให้ได้ใจความสมบูรณ์ Linking Verb ที่ผู้เรียนภาษาอังกฤษเจอบ่อยๆ ได้แก่ Verb to be (be, is, am, are, was, were, being, been) นอกจากนี้ยังรวมถึงคำกริยาบางตัว เช่น feel, small, taste, sound, become เป็นต้น ทั้งนี้คำที่อยู่หลัง Linking Verb จะถูกเรียกว่า Subjective Complement คือ ส่วนขยายประธาน ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้ง Adjective (คำคุณศัพท์) หรือ Noun (คำนาม) โดยมีหน้าที่เสริมความให้ประธานชัดเจนยิ่งขึ้น

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

The sky looked grey. (The sky – subject, looked – linking verb, grey – subjective complement)
ประโยคนี้ looked ไม่ได้เป็น Action Verb ที่แปลว่า มองดู ไม่ได้แปลว่า ท้องฟ้ามองดูเป็นสีเทา แต่เป็น Linking Verb ที่บอกสภาพของท้องฟ้า The sky ว่า ดูเป็นสีเทา หรือมีลักษณะสีเทา

Tukky is a comedian. (Tukky – subject, is – linking verb, comedian – subjective complement)
ประโยคนี้ comedian วางอยู่หลัง is ทำหน้าที่ขยายประธาน ทำให้รู้ว่า Tukky นั้นเป็นนักแสดงตลก

หลัง Linking Verb ต่อไปนี้ จะต้องตามด้วย Adjective เสมอ

คำกริยากลุ่มที่หมายความว่า กลายเป็น ได้แก่ get, go, grow, become ,fall, turn
คำกริยากลุ่มที่แปลว่า ดูเหมือนว่า ได้แก่ look, appear, seem
คำกริยากลุ่มที่บอกความรู้สึก กลิ่น รส และ ความไพเราะของเสียง ได้แก่ feel, smell, taste, sound
คำกริยากลุ่มที่หมายความว่า เป็นอยู่ในสภาพนั้นๆ ได้แก่ keep, remain, stay

ตัวอย่างประโยค The steak doesn’t taste nice. (taste – linking verb, nice – subjective complement/ adjective)

Auxiliary Verb
หมายถึง กริยาช่วย กลุ่ม be (am, are is, was, were, being, been), do (does, did) และ have (has, had, having) ซึ่งจะตามด้วยกริยาแท้ (Main Verb) เพื่อสร้างประโยคคำถามคำถาม (Question) ประโยคปฏิเสธ (Negative Sentence) กาล (Tense) หรือประโยคที่ประธานถูกกระทำ (Passive Voice) สามารถเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Helping Verb

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

I gave the matter a great deal of thought. (gave – main verb)
I have given the matter a great deal of thought. (have – auxiliary verb, given – main verb)
I have been giving the matter a great deal of thought. (have been – auxiliary verb, giving – main verb)
Do they drive safely? (Do – auxiliary verb, drive – main verb)
We don’t want anything. (don’t – auxiliary verb, want – main verb)

นอกจากนี้ ตำราไวยากรณ์ภาษาอังกฤษบางเล่ม ก็ยังจัดให้ Modal Verb (กริยาช่วยชนิดพิเศษ) อยู่ในกลุ่มของกริยาช่วยประเภทหนึ่งเรียกว่า Modal Auxiliary Verb มีหน้าที่ทำให้กริยาแท้มีความหมายแตกต่างกันไป เช่น can, could, shall, should, will, would, may, might, must, ought to, need, needn’t โดย Modal Auxiliary Verb เหล่านี้จะใช้นำหน้าคำกริยาแท้หรือกริยาหลัก (Main Verb) ซึ่งอยู่ในรูป Verb Base Form (กริยาพื้นฐาน คือรูปลักษณะที่ยังไม่ได้ฝัน ไม่มีการเติม -s, -es, -ed, – ing) หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า verb 1 นั่นเอง
ตัวอย่างเช่น People should choose friends wisely. (should – modal verb, choose – main verb)

หน้าที่ของ Modal Verb

ไม่จำเป็นต้อง = don’t have to
แนะนำ = should, ought to, had better
บังคับหรือห้าม = must, have to, mustn’t
แสดงความสามารถ = can, could, be able to
ขออนุญาต = can, could, may
ขอร้อง = can, could, will
แสดงความเป็นไปได้ = may, might
แสดงการคาดการณ์ล่วงหน้า = must, can’t
เสนอแนะ = shall
เสนอหรือแนะนำ = can, could, shall

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

May can ride a horse (แสดงความสามารถ)
You should eat more fruit. (แนะนำ)
You don’t have to call taxi. (ไม่จำเป็นต้อง)

หากในประโยคภาษาอังกฤษนั้นมีทั้งคำกริยาแบบ Auxiliary Verb และคำกริยาแบบ Modal Auxiliary Verb อยู่ด้วยกัน ผู้เรียนภาษาอังกฤษจะต้องวาง Modal Auxiliary Verb ไว้หน้า Auxiliary Verb เท่านั้น แล้วจึงตามด้วยกริยาแท้ หรือ Main Verb ของประโยค

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

The computer could have made an error. (could – modal auxiliary, have – have auxiliary, made – main verb)
หากมี Adverb of Frequency ได้แก่ always, usually, frequency, often, sometimes, occasionally, hardly, barely, rarely, scarcely, seldom และ never มาอยู่ในประโยคด้วย จะต้องวางอยู่ตรงกลางระหว่าง Modal Auxiliary Verb และ Main Verb

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

I will always love you. (will – modal verb, always – adverb of frequency, love – main verb)
Finite Verb นี้ถือว่าเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดของประโยค เพราะถ้าประโยคใดก็ตามขาดกริยาแท้ไป ก็จะทำให้ความหมายของประโยคนั้นไม่สมบูรณ์ พูดง่ายๆ ก็คือ Finite Verb คือ กริยาแท้ที่มีประธานเป็นของตัวเองและเปลี่ยนรูป (ผันได้ 3 ช่อง) ตาม Tense ในประโยค

John and Jim sing a song.
They sing a song.
Jack will sing a song.
He sings a song.
You are singing a song.
May is singing a song.
She was singing a song.

จากตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษข้างบนจะสังเกตเกี่ยวกับกริยาแท้ (Finite Verb) ได้ดังนี้

กริยาแต่ละตัวจะมีประธานของมันเอง รูปของกริยาจะผันตามประธานที่อยู่ข้างหน้า กริยาแต่ละตัวเวลานำมาใช้ถูกกำหนดโดยพจน์ (Number) ของนาม คือเอกพจน์ หรือ พหูพจน์, สรรพนามบุรุษที่ 1,2,3 (Peron) และ กาล (Tense)

การใช้ Finite Verb ให้ถูกต้อง
อันดับแรก ดูที่ Tense ในประโยคนั้นว่าเป็น ปัจจุบัน(Present) อดีต(Past) หรือ อนาคต(Future) โดยสังเกตจากคำบอกเวลา (Adverb of time) และต่อมา ให้ดูที่ Subject-Verb Agreement คือ ความสัมพันธ์ระหว่างประธานกับกริยา ถ้าประธานเอกพจน์ต้องใช้กริยาเอกพจน์ ถ้าประธานพหูพจน์ก็ต้องใช้กริยาในรูปพหูพจน์ และสุดท้าย Active/ Passive โดยปกติแล้วประธานของประโยคจะอยู่ในรูป Active คือประธานจะเป็นคนกระทำกริยานั้นเอง แต่ถ้าอยู่ในรูป Passive ประธานนั้นจะเป็นฝ่ายถูกกระทำ

Non-finite Verb
เป็นกริยาไม่แท้ และจะไม่มีการผันตาม Tense หรือ ประธานที่อยู่ข้างหน้า (รูปเอกพจน์ / พหูพจน์) มีเพียงรูปเดียว ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนก็ตามของประโยค กริยากลุ่มนี้ ได้แก่ Gerund, Infinitive และ Participle และกริยากลุ่มนี้ จะไม่ถูกนำมาใช้เป็นกริยาแท้ของประโยค แต่จะถูกนำมาใช้ทำหน้าที่อื่นๆ โดยเป็นคำนามบ้าง เป็นคำคุณศัพท์บ้าง

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

I certainly do enjoy cooking (cooking – gerund)
I tell them to build the house at Bangkok. (to build the house – to infinitive)
The boiling water on the stove is hot. (boiling – present participle)

อ่านต่อที่เนื้อหา เรียนภาษาอังกฤษ คลิก >> Verb


เพลงลอยกระทง ภาษาอังกฤษ เนื้อร้อง แบบอังกฤษ เพลง วันลอยกระทง


เพลงลอยกระทง ภาษาอังกฤษ เนื้อร้อง แบบอังกฤษ เพลง วันลอยกระทง สำหรับ ต่างชาติ ฝรั่ง ฝึกร้อง เพลงลอยกระทง เนื้อหาเพลง โดยแปลความหมาย จากเพลง ลอยกระทง ต้นฉบับ เพลงลอยกระทง
\” November full moon shine
Loy Krathong Loy Krathong
And the water high
In the gold river and the Klong
Loy Loy Krathong
Loy loy Krathong
Loy Krathong is here
And everybody full of cheer
We’re together at the Klong
Each one with his Krathong
As we push away we pray
We can see a better day
November full moon shine
Loy Krathong Loy Krathong
And thw water high
In the gold river and the Klong
Loy Loy Krathong
Loy Loy Krathong
Loy Krathong is here
And everybody full of cheer
We’re together at the Klong
Each one with his Krathong
As we push away we pray
We can see a better day
November full moon shine
Loy Krathong Loy Krathong
And thw water high
In the gold river and the Klong
Loy Loy Krathong
Loy Loy Krathong
Loy Krathong is here
And everybody full of cheer
We’re together at the Klong
Each one with his Krathong
As we push away we pray
We can see a better day \”
เพลงลอยกระทง ภาษาอังกฤษ จาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
แหล่งท่องเที่ยว ดินเนอร์ วันลอยกระทง ;
https://www.thairivercruise.com/loykrathongdinnercruisebangkokthailand
https://www.thairivercruise.com/ดินเนอร์ลอยกระทงล่องเรือ
เว็บไซต์ : https://www.thairivercruise.com/
Subscribe ติดตามชมวิดีโอเราได้ที่ https://www.youtube.com/channel/UCujwCRMoPMXKTeCCOZVFfAA?sub_confirmation=1
Follows us on
► Facebook: https://www.facebook.com/thairivercruise
► Twitter: https://twitter.com/thairivercruise
► Instagram: https://www.instagram.com/thairivercruise/
เพลงลอยกระทง โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

เพลงลอยกระทง ภาษาอังกฤษ เนื้อร้อง แบบอังกฤษ เพลง วันลอยกระทง

Bath Song + More Nursery Rhymes \u0026 Kids Songs – CoComelon


A new compilation video, including one of our most recent songs, \”Bath Song\”!
https://www.youtube.com/c/Cocomelon?sub_confirmation=1
Watch your favorite song by clicking a title below:
0:05 Bath Song
2:40 Hot Cross Buns
5:16 Laughing Baby with Family
7:23 PeekABoo
9:11 Johny Johny Yes Papa
11:02 Clean Up Song
13:47 Head Shoulders Knees and Toes
16:37 The Musical Instruments Song
19:55 “No No” Playground Song
23:42 PataCake
25:34 ABC Song with Balloons
28:47 Apples and Bananas
About Cocomelon:
Where kids can be happy and smart!
At Cocomelon, our goal is to help make learning a fun and enjoyable experience for kids by creating beautiful 3D animation, educational lyrics, and toetapping music.
Kids will laugh, dance, sing, and play along with our videos, learning letters, numbers, animal sounds, colors, and much, much more while simply enjoying our friendly characters and fun stories.
We also make life easier for parents who want to keep their kids happily entertained, giving you the peace of mind that your children are receiving quality educational content. Our videos also give you an opportunity to teach and play with your children as you both watch!
WEBSITE: http://www.Cocomelon.com
FACEBOOK: https://www.facebook.com/Cocomelonkids
INSTAGRAM: https://www.instagram.com/cocomelon_official/
TWITTER: https://www.twitter.com/Cocomelonkids

Copyright © Treasure Studio, Inc. All rights reserved.

Bath Song + More Nursery Rhymes \u0026 Kids Songs - CoComelon

เพลง การแนะนำตนเองและผู้อื่น (Introduction)


เพลงภาษาอังกฤษ ระดับประถมศึกษา

เพลง การแนะนำตนเองและผู้อื่น (Introduction)

คำศัพท์ ร่างกาย ภาษาอังกฤษ Body parts


คำศัพท์ ร่างกาย ภาษาอังกฤษ Body parts
คำศัพท์ร่างกาย ภาษาอังกฤษ ศัพท์อังกฤษ

คำศัพท์ ร่างกาย ภาษาอังกฤษ Body parts

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ กริยาท่าทาง เดิน วิ่ง


พบกับคำศัพท์ภาษาอังกฤษ พร้อมคำแปล
ภาพประกอบ และการออกเสียงที่ถูกต้อง

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ   กริยาท่าทาง เดิน วิ่ง

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ท่าทาง ภาษาอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *